เรียงร้อยด้วยรักฯ : ทฤษฎี บทที่ 16 l 2018.06.16 หน้าที่ 93
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรียงร้อยด้วยรักฯ : ทฤษฎี บทที่ 16 l 2018.06.16 หน้าที่ 93  (อ่าน 946138 ครั้ง)

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
ดีกันเร็วจริงวุ้ย
เอาคืนตรัสให้สำนึกกว่านี้หน่อยๆสิ

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
อ่าาาา ค่อยยังชั่วหน่อย

+1 ขอบคุณค่ะ

 :กอด1:

ออฟไลน์ lomekung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
มาต่อเรื่อยๆๆๆ ..

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
สนุกมากเลยครับ

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ narunarutoboyz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
ที่แท้ก็เป็นฉะนี้แล....แหมๆๆๆๆ ดีกันเเล้วอ่าาาา ดีใจจุงเบยยยยยยยย  :man1:
แถมยังมีหวานเบาๆอีกนะ แต่มันยังดีแบบหน่วงๆอยู่นะ อาจเพราะเรื่องดูตัวของเท็ตก็เป็นได้
แล้วไหนจะเรื่องที่ตรัสจะไปอยู่อังกฤษอีก จะเอาไง? รีบเคลียร์เร็วๆล่ะ  o13

แต่ว่าเรื่องที่หายหน้าไป ก็...นะ โทรมาหน่อยก็ไม่ได้ อะไรจะปานนั้น

เอาเป็นว่าจากนี้ก็ประคับประคองเท็ตและความรักดีๆแล้วกัน เป็นกำลังใจตลอดแหละ  :กอด1: :L2:

CB_luv

  • บุคคลทั่วไป
อ้าว..ดีกันแบบงงๆ
สรุปเหตุผลที่หายไป ไม่บอกกล่าวคือ แค่กลัวเท็ดโกรธที่รู้ว่าหมั้น??? อธิบายไปตรงๆมันง่ายกว่ามั้ย
กลัวเค้าโกรธตัวเอง แต่อีกฝ่ายจะเจ็บยังไงไม่แคร์เลยเนอะ
แหม..ส่งคนมาดูแล แต่ตัวเองหนีปัญหาซะงั้น  ก็ขี้ขลาดและเห็นแก่ตัวจริงอ่ะ อิคุณชายตรัส
แต่ก็เอาเหอะ เพื่อความสุขของเท็ด ให้อภัยมันไปซะ แล้วเริ่มต้นใหม่
รักเค้าไปแล้วนี่ ทำตัวน่าสงสารอีกต่างหาก เป็นเท็ดก็คงตัดใจลำบาก
กอดเท็ด  :กอด1:


ออฟไลน์ ValentineDay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อั๊ยยะ  ในที่สุดตรัสกับเท็ตก็คืนดีกันแล้ว :impress2:  บอกตรงๆว่าก่อนหน้านี้สงสานเท็ตมากเลย :sad4: 

แต่เราก็สงสานตรัสนะ :o12:

(อีนี่ จะเอาไงกันแน่= =*) (งะ-3- ก็เค้าสงสานทั้งคู่อะ)

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
บทที่ 9 แล้ว

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
ง่ายไปป่าว เหอะๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JingJing

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-2
คนอ่านเองก็ "ยังปรับตัวกลับมาสู่สถานะเดิมไม่ได้จริง ๆ" ขอเวลาอีกหน่อยนะ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ตอนที่ 16 แล้ว

ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3
มาลงชื่อตามอ่านค้าาาา
พึ่งอ่านถึงตอนที่ 10 เอง
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค้าา สู้ๆ

ออฟไลน์ GintoniC

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-0
ตามมาจนทัน  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
บทที่ 19 แล้ว

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ตอนที่ 22 แล้ว

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ได้อีกนิด ..

ออฟไลน์ Lipstick_Murder

  • มฤคระเริง
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-3
ทะลึ่ง : กามที่ 29

          ผมกำลังเคี้ยวเสี่ยวหลงเปาจนเต็มแก้มตอนที่แซนมันยื่นหน้าเข้ามาแล้วถามว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น ลืมไปว่าตี๋สองมันชอบเซ้าซี้ ถ้าไม่ได้ดั่งใจก็จะคะยั้นคะยอจนกว่าจะสมหวัง ปากหนักให้ตายก็ไม่มีวันชนะลูกตื้อของมันแน่นอน

          แค่นิดเดียวก็ได้ สัญญาว่าจะไม่ล้อ” นั่นไง ทำไมมันถึงมั่นใจว่าเป็นเรื่องน่าอาย แต่ต่อให้ผมไม่ได้เสียหน้าก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องรายงานมันทุกความเป็นไป เพราะเรื่องที่มันสมควรบอกผม ยกตัวอย่างเช่นเรื่องของตรัส มันยังไม่คิดจะแง้มปากบอกกันสักนิด เพราะฉะนั้นอยากรู้อะไรก็ถามกับไอ้คุณชายเองแล้วกัน

          “เลิกรบเร้าเถอะแซน เท็ตไม่บอกหรอก” ขอบคุณอ้นเหลือใจที่ช่วยห้ามทัพ ไม่อย่างนั้นขนมจีบกุ้งร้อนจัดที่ปลายตะเกียบของผมคงได้พุ่งหลาวไปลวกปากคนในอีกสองวินาทีต่อจากนี้แน่

          “ก็ได้ ๆ ไม่บอกก็ไม่บอก แต่ถ้ามีปัญหาอะไรแล้วคิดจะโทรมาปรึกษา ก็อย่ามาหาว่าใจร้าย”

          “คุณฮันนาห์กลับไปแล้วเหรอวะตรัส” ผมเห็นคนถูกถามชะงักมือไปนิดขณะที่กำลังแกว่งช้อนคนข้าวต้มเห็ดหอมของตัวเองช้า ๆ เพื่อไล่ไอร้อน ผมรู้จุดประสงค์ที่ซันโพล่งถามออกไปแบบนั้น คงเป็นความหวังดีที่อยากให้ผมสบายใจ หลังจากที่ได้ยินเสียงครางต่ำของตรัสเป็นคำตอบ “เห็นว่ามากันตั้งหลายคน นึกว่าจะอยู่นานกว่านี้”

          “แค่มาเที่ยว คงไปประเทศอื่นกันต่อ”

          “อย่างนั้นก็ดี จะได้ไม่มีใครเป็นลมล้มพับจนโกลาหลไปทั้งร้าน” โดนแขวะแผลฉกรรจ์ ถ้าไม่หันไปเห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มของคนพูดก็กะว่าจะส่งต่อขนมจีบลูกนี้ไปให้ “ฉันไม่โทษเท็ตหรอกนะที่เข้าใจผิด เพราะทุกอย่างมันไม่โปร่งใสมาตั้งแต่ต้น เป็นใครก็ต้องคิดมากกันทั้งนั้น ฉันพูดถูกไหม” ผมยิ้มบาง อย่างน้อยก็มีซันเป็นพวกแหละวะ ไม่ต้องกังวลว่าไอ้แซนมันจะเล่นแผนสูง ทำทีเป็นพ่อพระแต่มีจุดประสงค์จะล้วงความลับ

          “แล้วตอนนี้ยังคิดจะกลับไปใช่ไหม”

          “ต้องไป”

          “เอกสารก็อยู่ที่นั่นหมดแล้ว ทำไมต้องไปด้วยตัวเอง” บรรยากาศรอบโต๊ะตอนนี้มีแค่เสียงตรัสกับซัน พาลให้คิดว่ากำลังสอบปากคำกันอยู่โดยที่คนอื่นไม่รู้เลยว่าหัวข้อสนทนาคืออะไร ซึ่งหลังจากคำถามนั้นตรัสก็ไม่ยอมพูดอะไรอีกเลย

          ทุกคนแยกย้ายกันบริเวณหน้าคอนโดฯ ของตรัส ซันกับอ้นที่ติดรถแซนมาก็พากันหอบสัมภาระที่ขนมาจากสนามบินกลับบ้านไป เข้าใจว่าคงไม่มีเวลาตัดสินใจอะไรนานนัก ผมเองก็ผิดที่ปล่อยให้โทรศัพท์แบตฯ หมดจนไม่มีใครสามารถติดต่อได้...บรรลัยแล้ว!

          ลืมสนิทเลยว่าวันนี้หนีพิธีดูตัวกลางคัน เพราะไอ้พวกนั้นแหละที่เอาแต่บ่นว่าหิวจนลืมหน้าลืมหลัง ผมตบกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางรนราน จนตรัสที่ยืนอยู่ข้างรถต้องโพล่งถาม

          “หาอะไร”

          “โทรศัพท์”

          “เท็ตวางไว้ในห้องครัว” เวรแท้ ๆ ว่าจะรีบกลับไปอธิบายทุกอย่างกับแม่ แต่ต้องเสียเวลาเพราะเรื่องไร้สาระจนได้ ฝ่ายหญิงเขาอุตส่าห์ออกโรงปกป้องแต่ฝ่ายชายกลับไม่ทำอะไรเลย หายหัวไปเฉย ๆ แบบนี้...คำว่าขี้ขลาดยังน้อยไป

          ซวยจริง ๆ ที่ไม่ได้บอกแม่ทันทีที่กลับออกมา ซวยมากที่เป็นเจ้าความคิดและออกปากเองว่าอยากให้แม่เป็นสื่อกลางเพื่อสานสัมพันธ์กับใครสักคน และซวยที่สุดเมื่อแม่เจาะจงเลือกคนใกล้ตัวอย่างลูกสาวเพื่อนสนิทของท่าน ซวยทั้งขึ้นทั้งร่องเลยไอ้เท็ต

          “จะกลับบ้านหรือ” ตรัสถามไล่หลังตอนที่ผมก้าวพรวดพราดเข้ามาเพื่อมุ่งหน้าไปยังห้องครัว น้ำเสียงปกติดีไม่ใช่ว่าติดจะเซ้าซี้หรือน้อยใจอะไร ผมตอบอืออาในขณะที่กำลังเล่นซ่อนหากับโทรศัพท์ก่อนจะเห็นว่ามันนอนแน่นิ่งอยู่ข้างอ่างล้างจาน

          “เท็ต...” ผมถอนใจเบา ๆ ตอนที่ตรัสใช้เสียงรั้งไว้ก่อนที่ผมจะก้าวถึงประตู ตัวผมยังยืนอยู่ตรงนี้ก็จริง แต่ใจผมกลับถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว ไม่อยากเสียเวลากับสิ่งอื่นไปมากกว่านี้ เพราะความรู้สึกผิดที่กัดกินใจอาจทำให้ผมไม่กล้าสู้หน้าแม่

          “รู้อะไรไหมตรัส ก่อนมาที่นี่ฉันกำลังอยู่ในร้านอาหารกับผู้หญิงที่เพียบพร้อมทุกอย่าง และมันสำคัญตรงที่ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนรู้จักที่สนิทสนมกับแม่มาก ซึ่งถ้าไม่รีบกลับไปอธิบายทุกอย่างกับแม่ ท่านต้องโกรธมากแน่ ๆ” ผมพูดออกไปโดยไม่หันมองหน้าตรัสสักนิด ก่อนจะกัดฟันกลั้นใจเดินออกมาแล้วทิ้งมันไว้เบื้องหลังโดยไม่พูดแม้แต่คำลา คิดเพียงแค่ว่าผมทำถูกแล้ว เว้นระยะห่างอย่างที่ควรจะเป็น ใจเย็นไว้เท็ต...แล้วทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี

          แต่ไม่รู้ทำไมคนที่ประกาศกร้าวว่าตัวเองไม่ใช่ของตายถึงเดินย้อนกลับมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องเดิม เมื่อลิฟต์เคลื่อนตัวถึงชั้นหนึ่งนิ้วมือมันก็กดอัตโนมัติให้ขึ้นมายังชั้นห้า สาบานได้เลยว่าผมไม่รู้ตัวสักนิด รู้แค่ว่าน้ำเสียงสั่น ๆ ที่ตรัสใช้เรียกชื่อผมมันออกฤทธิ์กัดกร่อนยิ่งกว่าน้ำกรดเสียอีก ใจมันอ่อนยวบยาบไร้แรงต้านทานอย่างห้ามไม่อยู่

          ผมมีมารยาทพอที่จะกดออดแต่ไม่รอให้ตรัสเปิดประตู ใช้คีย์การ์ดที่ยังไม่ได้คืนพนักงานปลดสลักก่อนเดินกลับเข้าไปโดยไม่ไตร่ตรองอะไรทั้งสิ้น ตรัสกำลังนั่งอยู่ที่โซฟา...ด้วยแววตาที่มองปราดเดียวก็รู้ว่ามันกำลังเจ็บหนักด้วยบาดแผลที่มองไม่เห็น ขวดเหล้าเบียร์ที่ล้มระเนระนาดอยู่บนพื้นพรมทำให้ผมอดหนักใจแทนแม่บ้านไม่ได้ ผ่อนลมหายใจก่อนจะพูดแกมสั่งด้วยสุ้มเสียงไม่ต่างกระซิบ

          “ไปอาบน้ำซะ เดี๋ยวเก็บห้องให้” ตรัสมองอย่างไม่เชื่อสายตาเมื่อเห็นว่าผมก้าวกลับเข้ามาพร้อมกับปลดกระดุมแขนเสื้อแล้วพับขึ้น ผมไม่ย้ำคำเพราะคิดว่ามันได้ยินทุกพยางค์อย่างชัดเจน กำชับด้วยสายตาว่านี่ไม่ใช่แค่คำแนะนำแต่เป็นคำสั่งที่มันต้องทำตามทันที ก่อนที่ผมจะเปลี่ยนใจแล้วทิ้งมันไว้ตามลำพังอีกครั้ง ซึ่งสาบานได้เลยว่าคราวนี้ผมจะไม่เยี่ยมหน้ากลับเข้ามาเป็นหนที่สองแน่

          ตรัสยอมลุกขึ้นแต่โดยดี ถึงแม้ว่ายังกะพริบตาถี่ ๆ ด้วยความไม่เข้าใจ ผมลอบยิ้มกับขวดบลูเลเบิ้ลที่กำลังก้มเก็บ พลางส่ายหน้าให้กล่องแนทเชอร์แมนที่ยังเหลืออยู่ไม่กี่มวน รวบหยิบกระป๋องเบียร์ไปได้สักพักก่อนจะหยัดตัวยืนตรง ปั้นหน้าตึงแล้วหันไปหาคนที่กำลังก้าวช้า ๆ ไปยังตู้เสื้อผ้า “ขอยืมสายชาร์จโทรศัพท์ด้วย”

          “อยู่ที่เดิม” เป็นอันว่ารู้กัน หันมองก็เห็นว่ามันขดม้วนอยู่ข้างเต้ารับใกล้โทรทัศน์

          “อ้อ แล้วก็...โกนหนวดซะด้วยนะ ปล่อยตัวแบบนี้แล้วโทรมชะมัด” ไม่รู้ว่าผมยังมีสิทธิ์วิจารณ์หรือเปล่า แต่คิดเสียว่าเป็นคำแนะนำด้วยความหวังดีก็แล้วกัน ซึ่งตรัสก็คงเข้าใจถึงได้จุดยิ้มบางก่อนจะเดินเข้าห้องไป

          ผมใช้เวลาไม่นานกับเศษซากอารยธรรมด้านมืดของตรัส ดูนาฬิกาก็เห็นว่ายังไม่ดึกเท่าไหร่ หลังจากกู้ชีพโทรศัพท์จนใช้งานได้ตามปกติแล้วก็ตัดสินใจติดต่อหาแม่เป็นคนแรก เรียบเรียงคำแก้ตัวไว้ในหัวก่อนจะผิดแผนเมื่อพ่อเป็นฝ่ายรับโทรศัพท์

          (( ว่ายังไงไอ้ลูกชาย วันนี้ไปสร้างเรื่องอะไรไว้ ))

          “พ่อ...ผมอธิบายได้นะครับ มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริง ๆ แม่ล่ะครับ”

          (( แม่เราหลับไปสักพักแล้ว คืนนี้จะกลับบ้านหรือเปล่า ))

          “เปล่าครับ ผมจะค้าง...ที่คอนโดฯ ของตรัส ผมขอโทษนะครับ”

          (( ไม่เป็นไรพ่อเข้าใจ เอาไว้คุยกันพรุ่งนี้เถอะ พ่อรู้ดีว่าลูกของพ่อมีเหตุผลมากพอ ไม่ต้องกังวล )) ในเมื่อท่านพูดถึงขนาดนี้แล้วผมยิ่งรู้สึกผิดจับใจ ไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลย ทั้งที่ยังไม่พร้อมจะมีใคร ผู้หญิงคนนั้นเขาก็สมบูรณ์แบบทุกอย่าง หวังก็แต่เพียงผมจะไม่เข้าตา อยากให้เขามองว่าผมเป็นเพื่อนคนหนึ่งก็พอ

          ผมไม่อยากบ่อนทำลายความสุขของใคร โดยเฉพาะพ่อกับแม่ที่สำคัญยิ่งชีวิต ผมยอมหายไปจากโลกนี้เสียยังดีกว่าที่จะทำให้พวกท่านเสียใจ กับแม่เองท่านตั้งความหวังกับผมไว้มาก ตามใจผมทุกอย่าง ปูทางชีวิตด้วยกลีบกุหลาบจนผมเคยตัว อดคิดไม่ได้ว่าผมจะสู้หน้าท่านได้อย่างไรในวันพรุ่งนี้

          ผมระบายความหนักใจด้วยการทิ้งตัวนอนลงบนเตียง เหลือบมองกระเป๋าเดินทางของตรัสแล้วนึกขัดใจขึ้นมาติดหมัด อยากลุกขึ้นไปต่อยแทนกระสอบทรายให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ก่อนที่ผมจะทำอะไรไร้สาระก็รู้สึกถึงวัตถุบางอย่างที่นอนทับไว้อยู่กลางหลัง เบี่ยงตัวเพื่อคว้ามาก่อนจะเห็นว่าเป็นโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดของคุณชาย ซึ่งไม่รู้ว่ามีอะไรดลใจให้ผมกลายเป็นคนช่างสอด ปลดล็อกเข้าเครื่องโดยไม่ต้องใส่รหัส ประมาทเกินไปหน่อยแล้ว

          ทุกอย่างภายในดูปกติดี ไม่มีข้อมูลที่เป็นรูปหรือเอกสารสำคัญใด ๆ อยู่เลย หมดข้อสงสัยว่าทำไมตรัสถึงไม่ตั้งรหัสรักษาความปลอดภัย แต่ก่อนที่จะวางโทรศัพท์ไว้บนเตียงเหมือนเดิม ผมเอะใจเรื่องข้อความ ตอนที่ตรัสยังอยู่ที่อังกฤษใช่ว่าผมจะรอให้มันโทรมาหาฝ่ายเดียว โทรไม่ติดก็ส่งข้อความมือเป็นระวิง จึงอยากรู้ว่าความรู้สึกในรูปแบบตัวอักษรที่ผมเสียเวลานั่งพิมพ์ส่งไปให้ มันได้รับบ้างไหมก็เท่านั้นเอง...

          ตรัสเดินกลับออกมาจากห้องน้ำพอดีตอนที่ผมวางโทรศัพท์ลงข้างตัว ผมเม้มปากแน่นเพื่อซ่อนอาการพิรุธก่อนจะโพล่งออกไปด้วยประโยคกันตาย “โกนหนวดแล้วค่อยยังชั่วหน่อย”

          “มีใครโทรมาหรือเปล่า” โชคร้ายเกินไปไหม นึกว่ามันไม่ทันเห็นเถอะ แต่เผอิญว่าผมมีไหวพริบปฏิภาณดีเกินกว่าจะยอมให้ตัวเองถูกจับได้

          “ไม่มี เมื่อกี้เผลอนั่งทับก็เลยหยิบออก” แถหน้าตาย ตรัสเองก็ซื่อเหลือเกินที่หลงเชื่อง่าย ๆ ก่อนจะเดินมานั่งเช็ดผมข้างกัน “ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม” ตรัสไม่ตอบแค่เลิกคิ้วเชิงอนุญาต “จะไปอังกฤษอีกทำไม”

          “มีปัญหาเกี่ยวกับเอกสารของทางมหา’ลัย อยากไปด้วยกันไหม” ผมส่ายหน้าพัลวัน “ถ้าอย่างนั้นฉันขอถามบ้าง เท็ตย้อนกลับมาที่นี่ทำไม”

          “เพราะอยากรู้เรื่องที่ถามไปแล้ว ถ้ากลับไปทั้งที่ยังคาใจก็คงนอนไม่หลับ” สมเหตุสมผลออกจะตายไป แต่ไม่รู้ทำไมตรัสต้องยิ้มล้อผม

          “เท็ตน่าจะกลับบ้านไปคุยกับคุณแม่เรื่องวันนี้ จู่ ๆ ก็หลบหน้าจะไม่โดนท่านโกรธเอาหรือ”

          “เปล่าสักหน่อย เพิ่งวางสายจากพ่อเมื่อสักพักนี่เอง ท่านให้กำลังใจแล้วบอกว่าให้กลับไปอธิบายทุกอย่างกับแม่พรุ่งนี้เช้า แต่ถ้าตรัสลำบากใจ อยากให้ฉันกลับตอนนี้ล่ะก็...”

          “เท็ตรู้คำตอบดีอยู่แล้ว” ตรัสส่งมือมาจับไรผมทัดหูก่อนจะพูดเบา ๆ “ผมยาวขึ้นเยอะเลย ทำไมไม่ตัด”

          “จะเอาเวลาที่ไหนไปตัด ไม่ว่างขนาดนั้นหรอก”

          “ไม่เป็นไร แบบนี้ก็น่ารักดี”

          “ตรัสเองก็โทรม ยังมีหน้ามาทักคนอื่น” ผมแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินคำชมที่ฟังแล้วใจเต้นแปลก ๆ ด้วยการย้อนถามถึงความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้า ตรัสผอมมากจนแก้มตอบดูซูบซีด แต่ถึงจะอย่างนั้นมันก็ไม่ได้บั่นทอนรัศมีความดูดีที่สั่งสมมา “ทำไมไม่ดูแลตัวเองบ้าง เรียนหนักก็ควรแบ่งเวลามาพักผ่อนด้วย”

          “ฉันมีเรื่องต้องคิดเยอะ ไม่ใช่แค่เรื่องเรียนหรือเรื่องงาน เรื่องอื่นก็หนักหนาไม่แพ้กัน” บ้าว่ะ นี่มันคำถามฆ่าตัวตายชัด ๆ ผมถูจมูกไปมาก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบผ้าขนหนูโดยไม่ลืมหันไปพูดทิ้งท้าย

          “ถ้าง่วงก็นอนก่อนเลยนะ ฉันจะนอนอีกห้อง”

          ตรัสหลับไปแล้วตอนที่ผมก้าวกลับออกมาจากห้องน้ำ ความเย็นยะเยือกจากเครื่องปรับอากาศทำให้ผมต้องห่อไหล่ก่อนจะเดินไปปิดไฟทุกดวง เหลือไว้เพียงโคมตั้งพื้นข้างโทรทัศน์ ก่อนจะก้าวเข้าห้องที่คุ้นเคย

          ผมไม่ได้รู้สึกรังเกียจรังชัง แต่เพราะช่องว่างที่ตรัสเว้นไว้มันถูกเติมเต็มด้วยความเหงาจนชาชิน ความตะขิดตะขวงและคลางแคลงใจจึงตามหลอกหลอนผมอยู่ร่ำไป ทำได้แค่เพียงนอนนิ่ง ๆ จมจ่อมความคิดกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่านานแค่ไหนกว่า ‘เรา’ จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

          เช้าวันรุ่งขึ้นผมสะดุ้งตื่นเพราะแสงแรกของวันฉายผ่านแนวม่านเข้ามารบกวนสายตา ก่อนจะพบว่าผมอยู่ที่นี่คนเดียว ตรัสหายตัวไปแล้วพร้อมกระเป๋าเดินทางทั้งสองใบ ทิ้งไว้แค่เพียงโน้ตใบเล็กที่หน้าประตูห้อง

          ‘โชคดีนะ’ คืออะไร เป็นผมไม่ใช่หรือที่ควรอวยพรให้มันโชคดีและเดินทางปลอดภัย แล้วไหงมาทิ้งข้อความสั้น ๆ ชวนสงสัยแบบนี้ หรือถ้าคิดในแง่ดีตรัสอาจจะหมายถึงการเอาตัวรอดจากคุณนายมนรยา ผมเองก็หวังว่าแม่จะเข้าใจถึงเหตุและผลที่ทำให้ผมต้องบากหน้าหนีงานสำคัญออกมาแบบนั้น

          ผมกลับถึงบ้านก่อนที่พ่อจะออกไปทำงานอย่างฉิวเฉียด รั้งตัวท่านไว้เป็นกำลังใจก่อนเดินไปพบแม่ในห้องครัว คุณมนเงยหน้ามองผมตอนที่กำลังวางแก้วกาแฟของพ่อลงอ่างน้ำ ป้าวิที่ยืนอยู่ไม่ไกลพอจะเข้าใจสถานการณ์ก็เลยเดินเลี่ยงไปทางสวนหลังบ้าน หลังจากนั้นผมสาวเท้าเข้าไปใกล้แม่ด้วยหวังว่าท่านจะใจอ่อนกับสายตาสำนึกผิดของผม

          “แม่ครับ...”

          “เท็ตทำให้แม่ผิดหวังมาก แม่ถามย้ำเราแล้วแท้ ๆ ว่าจริงจังกับเรื่องนี้แค่ไหน แล้วทำไมถึงเปลี่ยนใจในเวลาจวนตัว เท็ตไม่คิดถึงใจแม่เลย” แม่พูดโดยไม่มองหน้าผมด้วยซ้ำ ความรู้สึกผิดเกาะกินใจจนเจ็บแปลบ และผมเกือบจะหลั่งน้ำตาอยู่แล้วถ้าพ่อไม่ยื่นมือมาโอบไหล่ไว้

          “คุณฟังลูกก่อนได้ไหม อย่าเพิ่งแกล้งดุแก เดี๋ยวก็พาลพูดอะไรไม่รู้เรื่องกันพอดี” สงสัยจะเสียใจจนหูเฝื่อนถึงได้ยินว่าคำตัดพ้อของแม่คือการกลั่นแกล้ง ผมหันมองหน้าพ่อก่อนจะเห็นว่าท่านยิ้มกว้าง และเมื่อย้อนกลับมามองแม่...ผมแทบจะทรุดนั่งลงตรงนั้น คุณนายมนรยาหัวเราะออกมาโดยไม่เกรงใจสีหน้าตื่นโลกของผมสักนิด

          “ก็ใครใช้ให้เท็ตหลอกแม่ คิดว่าแม่อายุปานนี้จะดูไม่ออกเชียวหรือว่าเท็ตรู้สึกแบบไหนกับใคร ปากก็บอกว่าไม่รู้สึกอะไรกับน้องตรัส และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงทำไมลูกของแม่ที่ห่วงความรู้สึกของคนในครอบครัวยิ่งกว่าใครถึงได้ยอมหักหน้าพ่อกับแม่แล้วไปหาเขา”

          “มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันครับ ตรัสส่งข้อความมาหาแล้วผมคิดไปเองว่าตรัสจะคิดสั้น ทุกอย่างมันสอดคล้องกันหมดตั้งแต่ซันติดต่อตรัสไม่ได้มาเป็นอาทิตย์ ผมโทรกลับไปหลังจากได้รับข้อความแต่ดูเหมือนว่าตรัสจะปิดโทรศัพท์ไว้ พนักงานที่คอนโดฯ ยังบอกอีกว่าตรัสไม่ได้ออกจากห้องไปไหนมาหลายวันแล้ว ผมก็เลย...”

          “แม่ไม่ได้โกรธเรื่องที่เท็ตไปหาตรัสเมื่อวานนี้ แต่แม่โกรธที่เท็ตหลอกตัวเองว่าลืมตรัสได้ ทั้งที่แท้จริงแล้วเท็ตไม่สามารถรักใครคนอื่นได้อีก ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย แม่พูดถูกไหม” ผมให้คำตอบแม่ไม่ได้ แค่ยืนนิ่งไปพร้อม ๆ กับพ่อที่เดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร “ทำไมเท็ตไม่นึกถึงผลที่ตามมาถ้าหากว่าผู้หญิงที่เป็นคู่ดูตัวของลูกเขาคิดจริงจัง โดยไม่มองว่าอีกฝ่ายเป็นแค่เครื่องมือเพื่อใช้ลืมใครอีกคน”

          “แม่ครับ...ผมตั้งใจที่จะเปิดโอกาสให้กับตัวเองจริง ๆ ผมแค่อยากลองมองหาคนอื่นบ้าง อยากเปิดใจเพื่อรับเรื่องราวใหม่ ๆ ไม่ใช่ทุ่มเทความรู้สึกให้กับคนที่ไม่เห็นความสำคัญ”

          “แม่เข้าใจแต่ลูกยังไม่พร้อม ปัญหาที่จะตามมาอีกมากมายเท็ตก็คงรับมือไม่ไหว ถ้าหากตกลงปลงใจแต่งงานกัน มีหลานให้แม่อย่างที่หวัง แต่เมื่อวันหนึ่งข้างหน้าเท็ตเกิดเปลี่ยนใจล่ะ ครอบครัวของเท็ตที่ไม่ได้เกิดจากความรักตั้งแต่ต้นคงไม่พ้นเป็นภาระที่หนักอึ้ง”

          “ผม...เข้าใจแล้วครับ ผมขอโทษครับแม่” ส่งอ้อมแขนตระกองกอดคนที่ให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับผม ไม่เว้นแม้แต่สติ ถ้าคำเตือนของแม่ครั้งนี้ไม่เป็นผล ถ้ายังดื้อแพ่งสร้างเรื่องไม่รู้จบ ผมก็คงเป็นผู้ชายที่โง่งมที่สุดในโลก คิดในใจว่าการนัดพบคู่ดูตัวครั้งหน้าจะอธิบายทุกอย่างให้เธอฟังว่าผมยังไม่พร้อมจะสร้างรังรักกับใครด้วยประการทั้งปวง

          “เอาเถอะ ๆ แม่เองก็ผิดที่ตลบหลังเท็ตด้วยการวางแผนกับเพื่อนของแม่ ลูกสาวของเขาเองก็รู้เห็นเป็นใจ ยังไงก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นทางการอะไร ไม่ต้องคิดมากนะเรา” หา!

          “แม่ช่วยพูดอีกครั้งได้ไหมครับ” ผมอาจฟังผิด

          “แม่บอกว่าอย่าคิดมาก ทุกอย่างเป็นการซ้อนแผนไม่จริงจังอะไร เพราะต่อให้เท็ตไม่ตะลีตะลานออกจากร้านอาหารไปแบบนั้น แม่ก็ไม่คิดให้เราคบกับน้องเขาจริง ๆ หรอก อ้อ น้องฝากแม่มาบอกเราด้วยนะว่า...ปากนิดจมูกหน่อยจนผู้หญิงอายแบบนี้จะปกป้องใครได้ อย่าพยายามทำอะไรที่ไม่เข้าท่าเลย”

          “แม่!”

          “น้องเขาพูดเองนะ แม่ไม่เกี่ยว” หลังจากนั้นก็มีเสียงหัวเราะของพ่อดังคลอเป็นดนตรีประกอบฉาก

          ผมขาดการติดต่อกับตรัสสามวันแล้วตั้งแต่มันไปอังกฤษครั้งหลังสุด สำนึกในความกรุณาที่อุตส่าห์อวยพรให้ผมโชคดี ซึ่งมันก็สมพรปากตามนั้น ความจริงผมเองยังไม่คิดเรื่องกลับไปคืนดีเพราะผมไม่มีหวังถึงขั้นนั้น ถ้าวิเคราะห์ตามเนื้อผ้าทุกอย่างไม่ผิดไปจากที่แม่พูดเลยสักนิด ผมลืมตรัสไม่ได้ และต่อให้พยายามแค่ไหนก็ทำไม่ได้แน่ ๆ อย่างดีก็แค่ห่างกันไป ซึ่งสุดท้ายแล้วผมก็คงกระวนกระวายใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่ดี

          ผมปิดแฟ้มเล่มหนาก่อนจะวางรวมไว้กับเล่มอื่น ๆ บนโต๊ะ ถอนหายใจพร้อมกับมองนาฬิกาที่ฝาผนังเพื่อเห็นว่าเป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว ล่วงเลยเวลางานมานานโขแต่ยังคงกระปรี้กระเปร่ากับกองเอกสารที่คั่งค้าง เสียงเพลงบัลลาดจากคอมพิวเตอร์ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเฝ้าคลังสินค้า ลุงยามด้านหน้าทำให้ผมรู้ว่าไม่ได้อยู่คนเดียว แต่จู่ ๆ ก็รู้สึกเย็นสันหลังวาบ ก่อนจะหันไปเห็น...

          “ทำไมไม่กลับบ้าน” ผีไอ้ตรัสตัวเบ้อเริ่ม!

          “ตรัส มาได้ยังไง (วะ)” สาบานได้ว่าผมไม่ได้ยินเสียงลากเท้าหรือบานประตูเลื่อนเลยสักนิด ตีนแมวชัด ๆ “กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

          “สักพัก ทำงานเสร็จหรือยัง” สักพักแปลว่าอะไร ไม่ใช่ว่าลงเครื่องปุ๊บก็ตรงดิ่งมาหาผมปั๊บหรอกนะ บ้าดีเดือดเกินไปหรือเปล่า ขอเดา คนให้ข่าวว่าผมยังอยู่ที่โกดังคงไม่พ้นคุณนายมนรยาที่เป็นฝ่ายสนับสนุนจนออกนอกหน้า

          “ยังเหลือเอกสารที่ต้องตรวจสอบอีกเยอะ กลับคอนโดฯ ไปพักผ่อนเถอะ ฉันคงกลับเช้าเพราะพรุ่งนี้วันหยุด”

          “ไม่ได้ เรามีเรื่องต้องคุยกันเท็ต” อุบร๊ะ กล้าดียังไงมาทำกร่างแถวนี้ ช่วยสังเกตสังกาหน่อยว่าที่นี่มันถิ่นใคร เห็นลุงยามแก่ ๆ แบบนั้นแต่ฝีมือฟาดตะบองของแกก็หนักไม่แพ้ใครนะโว้ย

          “เดี๋ยวค่อยโทรคุยกันก็ได้”

          “ไม่ได้”

          “ถ้าอย่างนั้นก็คุยมันที่นี่แหละ”

          “ไม่ได้” วะ!

          “ตรัส ฉันไม่ว่างมาต่อล้อต่อเถียง” สำนึกหน่อยเถอะว่ากำลังรบกวนการทำงานของคนอื่น ทำมาเป็นยืนซ้อนหลังเท้าแขนกับโต๊ะ คิดหรือว่าจะทำให้คนอื่นไขว้เขว...แต่ก็เสียสมาธิไม่น้อยว่ะ

          “ขอแค่คืนนี้ ขอแค่คุยกันแล้วฉันจะยอมจบแต่โดยดี จะไม่มากวนใจเท็ตอีก ฉันสาบาน”

          ผมจนปัญญาจะปฏิเสธ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ก้าวเข้ามาในห้องของตรัสเรียบร้อยแล้ว เจ้าของห้องส่งโทรศัพท์ของตัวเองมาให้แล้วจ้องหน้า ผมพอจะรู้แล้วว่าตรัสต้องการจะคุยเรื่องอะไร

          “คืนก่อนฉันเห็นเท็ตหยิบโทรศัพท์เครื่องนี้” ผมรับมาถือไว้ก่อนจะตีหน้านิ่งทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าอะไรเป็นอะไร “แล้วหลังจากนั้นก็มีบางอย่างสูญหายไป บอกฉันหน่อยได้ไหมว่ามันหายไปไหน”

          “อะไร ฉันไม่ได้ยุ่งกับโทรศัพท์ตรัสสักหน่อย”

          “จะให้ฉันเชื่อแบบนั้นหรือ ลบใช่ไหม เท็ตลบไปหมดแล้วใช่ไหม”

          “ลบอะไร”

          “เท็ต...”

          “บอกมาก่อนสิว่าลบอะไร ถ้าไม่บอกฉันจะรู้ได้ยังไงว่าเรากำลังคุยเรื่องอะไรกัน”

          “ข้อความร่างที่ฉันบันทึกไว้”

          “อ๋อ” ผมยียวน ยังคงปั้นหน้าบึ้งตึงโดยไม่สนใจสีหน้าเจ็บปวดจวนจะร้องไห้ของตรัสสักนิด

          “อ๋อแล้วยังไง ฉันขอเหตุผลที่ลบหน่อยได้ไหม ฉันติดใจแค่เรื่องนี้ เท็ต...เกลียดฉันมากเลยหรือ”

          “ไร้สาระ”

          “ฉันรู้ว่าข้อความพวกนั้นมันไร้สาระ แต่ไม่คิดว่าเท็ตจะลบมันไปโดยไม่ใยดี ฉันแค่เสียใจ”

          “ตรัสนั่นแหละที่ไร้สาระ...”

          “เอาเป็นว่าค่าโทรศัพท์เดือนนี้ ฉันจะช่วยจ่ายก็แล้วกัน”

▩▩▩

ใกล้จบแล้วจ้า ฮิ้วววว~ ถ้าไม่ผิดพลาด น่าจะจบตอนที่สามสิบพอดิบพอดีค่ะ
ก็ไม่รู้จะทิ้งท้ายอะไรแล้วแหละ ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านช่วงเวลาอันยาวนานมาด้วยกัน
คนที่ยังอ่านจนถึงตอนนี้ลิปเอ็มขอบคุณมากนะคะ หวังว่าภาคต่อ ๆ ไปก็จะติดตามกันอีกน้า
อย่าเพิ่งทิ้งกันนะคะ พีแซน ซันอ้น ยังรออยู่น้า~ ♥

 :hao5: :hao5: :hao5:

(เอโมจิใหม่น่ารักจุงเบย)


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-04-2013 17:51:11 โดย Lipstick_Murder »

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
แปะไว้ก่อนนะครับ.

ข้อความอะไร? ยังงัย? ทำไม? งงอ่ะ
อีกตอนเดียวก็จะจบแล้ว.........แต่ตอนนี้ยังไม่มีไรชัดเจนเลย   เฮ้อออออออออ

 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
 :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-03-2013 15:05:04 โดย day9day »

ออฟไลน์ hobazaki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ฮือออออออออออออออออออออ กรีดร้องงงงงงงงงงงงง อยากร้จังเท็ตลบข้อความอะไรของท่านตรัสไป
จะจบแล้วเหรออออออ อยากอ่านต่อจังเลยค่ะ >w<

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ห่ะ!ค่าโทรศัพท์อะไรอ่ะ

ลบข้อความ?ข้อความที่เท็ตส่งไป?

เรื่งนี้จะจบแล้ว?ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :katai1:

PAAPAENG~

  • บุคคลทั่วไป
บทสนทนาก่อนจบนั่นมันคืออะไร???
รีบมาต่อโดยไว
คิดถึงตรัสจนจะขาดใจอยู่แล้ววววว

ออฟไลน์ zazoi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 970
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-1
ลุ้นคู่นี้มากค่ะ ขอให้ทุกอย่างกระจ่างปละกลับมาเหมือนเดิมไวๆนะ :กอด1: :กอด1:


ปล. แต่ก่อนเหมือนเดิม ขอให้เท็ตเอาคืนตรัสก่อนนะ แ่ค่นี้ยังไม่พออ่ะ สงสารเท็ต :m16: :m16:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ข้อความไรอ่ะ

ออฟไลน์ imissyou

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
งงเนะ  :hao3:

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
เท็ตลบข้อความอะไรไปเนี้ย แล้วค่าโทรศัพท์อะไรอะ

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
เอาข้อความร่างมาดูหน่อยจิ >.<

+1 ขอบคุณค่ะ

 :กอด1:

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
ค้างอะธะธะธะธะธะธะธะธะธะ
เท็ตลบขคอะไร ขคที่ตัวเองส่งรึเปล่า
ตอนแรกนึกว่าตรัสจะเป็นคนลบ
โธะธธธธ

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:


งง ตกลงข้อความอะไร ถ้าเดาคือข้อความที่ตรัสจะส่งถึงเท็ตแล้วไม่ได้ส่ง


ใช่ไหมมม หึหึ รวมทั้งประโยคสุดท้าย ที่บอกว่าจะช่วยจ่ายค่าโทรคือ เท็ตกดส่งไปแล้วใช่ไหม ข้อความมันถึงหายไปไม่ได้ถูกลบ


อยากรู้ว่าเขียนว่าอะไร


อ่านตอนแรกหน่วงนะ เหมือนแบบ ตรัสท้อแล้วไม่เอาแล้ว ไม่เหมือนตรัสคนเดิมที่บูชาเท็ตหายไปเลย ถึงจะยังโกรธตรัสไม่อยากให้ดีง่ายๆแต่รู้สึก ตรัส ยอมแพ้ง่ายๆจัง

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
 :z3: แงะ 
ค้างง่ะ อะไรยังไง ข้อความอะไรกัน สงสัยม๊ากกกกกกก :katai4:
ตอนต่อไปขอเร็วหน่อยได้มั๊ยคะ งุงิ งุงิ สงสัยอะ ต่อมอยากรู้พุ่งปรี๊ดดดดด :katai1:
รอตอนต่อไป (ตอนจบแล้วสินะ)อย่างใจจดจ่อ เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :L2:  :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด