หัวใจหลังเลนส์ #ตอนจบ และ บทส่งท้าย หน้า 133
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หัวใจหลังเลนส์ #ตอนจบ และ บทส่งท้าย หน้า 133  (อ่าน 1378038 ครั้ง)

ออฟไลน์ My_NT

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มารอออค่าา  :z2:

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
มาปูเสื่อรอ  -o-

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
มาเถิดดดดด

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้  ตอนนี้ทันแล้ว และอยากจะบอกว่าน่ารักมากกกกกกกกกกกกเลยค่ะ!!!

น้องปอมน่ารักเวอร์ ชอบสุด ๆ พี่วินก็ดูเป็นคนดีที่ฟอร์มจัด(แต่ก็หลุดฟอร์มอยู่เรื่อย << ซึ่งทำให้ยิ่งน่ารัก) โอยยยย อ่านแล้วอมยิ้มแก้มปริเลยค่ะ >w<

แถมตอนล่าสุดนี้แมนมากมาย ยอมรับกับตัวเองแล้วสินะ โฮยยย
ชอบตัวละครทุกตัวเลย ชอบลูกน้องพี่วินด้วยล่ะ แต่ละคนเป็นลูกคู่ส่งเสริมกันใหญ่ อ่านแล้วกิ๊บกิ้วกิ๊วก๊าวอยากแฝงตัวไปโฮกในที่ทำงานด้วยเลยค่ะ 555

คุณเมษถ้าไม่ติดเรื่องมาชอบน้องปอมแล้วทำตัวมีพิรุธด้วยการเข้ามาดูแลเรื่องเงินพระเอกก็จัดว่าเป็นพระรอง(มั้ย?)ที่ดูอบอุ่นน่ารักทีเดียวนะคะ แต่คุณน้องเขามีพระเอกแล้วเป็นตัวเป็นตนนี่สิ =w=

สรุปว่าชอบจังเลย
รอติดตามตอนต่อไปนะคะ :D

chaaom

  • บุคคลทั่วไป
ไม่รู้ว่าตัวเองไปอยู่ไหนมา ถึงเพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ o13 o13
น้องปอมกับพี่วินทำเราอมยิ้มตลอดทั้งเรื่องเลย แอบจิ้นสองคนนี้เป็นคู่พี่น้องในเดอะดาว
เพียงแต่ว่าคู่นั้นเค้าสูงเท่าๆกัน นอกนั้นก็เหมือนกันหมด ทั้งเรื่องอายุ ทั้งเรื่องที่คนน้องเรียนถาปัตอยู่
หลังๆ นี่พี่วินออกอาการมากกกกกกกกก5555 แต่น้องปอมยังคงซึนนสินะ

ออฟไลน์ apple

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

greentea2598

  • บุคคลทั่วไป
ในทีุ่สุดดด..... :z3: :z3:  กว่าจะรู้ตัวได้นะ
เหลือแค่ตัวคุณน้องของเรา
พี่เมษคือตัวกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาสินะ 5555 ตอนนนี้กระตุ้นเสร็จแล้ว รีบๆ หายไปซะทีเถอะ รุ้สึกอบหมั่นไส้  :angry2:
มาต่อน๊าค๊าาาาา คิดถึงพี่วินแล้ว คิคิ

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
แล้วพี่วินจะทำยังไงให้น้องปอมรู้ใจตัวเองล่ะนั่น
รอตอนต่อไปจ้า  :o8:

ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
พี่วินแน่มากอ่ะ

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ยังไม่มาเหรอ รอทั้งวันแระน้า  :call:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ McKnight

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0


มารอด้วยคนคร๊าบบบ....


LoveFoolJoao

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ: กว่าจะรู้ใจตัวเองน้อ คุณวิน

ออฟไลน์ pizza2011

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
อ่านรวดเดียว ตึงตอนนี้เราอยากบอกว่า เราหลงเสน่ห์เรื่องนี้เข้าให้เเล้วล่ะ
โอ๊ยยยย  ถ้าจะสนุกขนาดนี้นะ ปลื้มคุณกวินมากๆเลยค่ะ

bosley093

  • บุคคลทั่วไป
(ขอใช้ภาษาสก๊อยหน่อยนะคะ)
เพ่วินนนนนนนนนนนนน
นายแน่มากกกก กร้ากกกกก
สุดอ่ะนายยยย เรารักนายมากเลยยย คริคริ

ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
พี่วิน น่ารักอะ  :impress2:

ออฟไลน์ wa-i_onne

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เราไปอยู่ขุมไหนมานะ ทำไมไม่เห็นฟิคเรื่องนี้  :impress2:
ชอบจังเลย ไม่รู้จะบรรยายยังไงแต่ว่าชอบมาก
ตอนแรก ชื่อเรื่องก็ทำให้อยากอ่าน คือ เราอยากถ่ายรูปมากเลยค่ะ ชอบเรื่องแนวช่างภาพนี้ จริงๆอ่านพวกศัพท์เทคนิคนี่ไม่รู้เรื่องหรอกเพราะเรียนสาขาที่ห่างไกลกันอยู่โข แต่ก็ชอบอาชีพพวกนี้จริงๆ
ชอบการค่อยเป็นค่อยไปของพี่วิน กับน้องปอม 555 มันดูแบบ เฮ้ยมีเหตุผลนะ
พี่วินค่อยๆรู้สึกตัว คาดว่าปอมเองก็เหมือนกันแหละ
ตอนที่ไม่เข้าใจกันที่บีบอกมากเลย เรารู้สึกทรมาณไปด้วย


เอาล่ะ พูดถึงตอนนี้ อิ่มเอมมาก หลังจาก  :o8: ตอนที่แล้ว 5555
โอเค อีพี่วินเข้าใจอาหารแปลกๆจนต้องไปถามคุณหมอเต้ก็แล้ว นี่บุกไปขอ(?)น้องจากอาจารย์เขาเลย
เป็นผู้ชายที่กล้าได้กล้าเสียจริงๆ ให้ตายเถอะ
ปกติเราเป็นพวกชอบน้องเคะห้าวๆแมนๆอยู่แล้ว น้องปอมนี่เป็นอีกคนที่ชอบ
แต่ก็นั่นแหละ เพราะน้องแมน การจะให้ยอมรับว่ารู้สึกดีกับพี่วินนี่มันอาจจะยากนิดหน่อย
เรื่องพี่วินเคลียร์ คงได้ลุ้นเรื่องน้องต่อแหละค่ะ ><

รอต่อไปหนา ขอบคุณมากค่ะ :D

ออฟไลน์ nooklepper

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
มารอๆๆ ><  พี่วิน แมนมาก

arunoki

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกกกกกกกกกก  มีคนมารอด้วยอ่ะ   :sad4:
ต้องกราบขอประทานอภัยจริงๆนะคะที่เมื่อวานไม่ได้เอามาลง  เริ่มเข้าสู่ช่วงยุ่งจริงๆแล้ว

หลังจากนี้ไปคงเริ่มไม่ได้มาสม่ำเสมอแล้วล่ะ  ยังไงถ้าวันไหนมารอแล้วเลยหกโมงเย็นไปยังไม่มาลง  ค่อยเข้ามาดูใหม่วันถัดไปเลยนะคะ   แต่สัญญาว่าจะไม่ให้รอนานเกินสามวันต่อหนึ่งตอนค่ะ

อีกเรื่องคือ  มันมาอีกแล้วจ้า  ศัพท์เทคนิค
สำหรับบางท่านที่อ่านแล้วมึนๆก็ข้ามๆไปเลยก็ได้ค่ะ  แต่มันอาจจะเกี่ยวเนื่องกับเนื้อเรื่องในภายภาคหน้าเล็กน้อย

ขอบคุณค่ะ



------------




หัวใจหลังเลนส์
#17





   “อรุณสวัสดิ์ครับพี่วิน” เสียงใสที่ดังขึ้นจากทางหน้าประตูห้องทำงานเรียกชายหนุ่มที่กำลังนั่งจมอยู่กับความคิดบางอย่างของตัวเองต้องเงยหน้าขึ้นมองด้วยรอยยิ้มที่ดูจะสดใสกว่าเก่า

   “อรุณสวัสดิ์ปอม”

   ทันทีที่เห็นใบหน้าของช่างภาพหนุ่มที่โผล่มาจากหลังจอคอมพิวเตอร์ชัดเจน   ดวงตาเรียวสวยก็ต้องเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ

   “โหพี่   ทำไมวันนี้หล่อเป็นพิเศษ   ไปทำอะไรมาน่ะครับ”

   ทรงผมกระเซอะกระเซิงที่เคยดูรุงรังอยู่ทุกวี่ทุกวัน   สำหรับวันนี้มันถูกเซ็ตขึ้นอย่างดีเผยให้เห็นหน้าผากได้รูป  ไรหนวดไรเคราจางๆที่เคยเขียวครึ้มถูกโกนออกจนไม่เหลือดูสะอาดเกลี้ยงเกลาขึ้นทันตา     

   คนถูกทักกระแอมไอในลำคอน้อยๆ ก่อนตอบออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เอาฤกษ์เอาชัยน่ะ”

   “หืม? พูดอย่างกับจะไปออกรบ” เด็กหนุ่มกล่าวล้อเลียนขณะหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ประจำของตน   

   “ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง” ชายหนุ่มตอบเบาๆพลางกลั้วหัวเราะ   ก่อนจะเอ่ยถามถึงลูกชายนายแบงค์ที่รับหน้าที่เป็นสารถีรับส่งเด็กหนุ่มทุกเย็นขึ้น “เอ้อปอม   ช่วงนี้นายต้องกลับกับคุณเมษาทุกวันเลยเหรอ”

   คนถูกถามพยักหน้าขึ้นลงสองสามที “ครับ  เมื่อวันก่อนพี่เมษบอกว่าเป็นทางผ่านบ้านเขาอยู่แล้ว   ก็เลยจะมารับกลับด้วยกัน”

   “งั้นเหรอ...”

   “พี่วินมีอะไรหรือเปล่าครับ”

   “อืม...ก็นิดหน่อย” ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบคางสีหน้าครุ่นคิด “คือฉันกำลังคิดว่า   เดี๋ยวฉันไปส่งให้เองก็ได้นะ   เพราะหอพักนายก็อยู่ใกล้ๆคอนโดฉันเหมือนกัน”

   “แต่จากที่นี่มันถึงคอนโดพี่ก่อนถึงหอผมนี่ครับ   พี่ต้องวนไปวนกลับเสียเวลาเปล่าๆ”

   “ไม่เสียเวลาหรอกน่า   ฉันว่ามันน่าจะสะดวกกว่ากลับกับคุณเมษานะ   นายก็รู้   งานแบบนี้บางทีก็ต้องอยู่ล่วงเวลาจนดึก   ยังไงนายกับฉันก็เลิกพร้อมกันทุกวันอยู่แล้ว   กลับกับฉันดีกว่า”

   คนถูกชักชวนมีสีหน้าลังเล   ก็จริงอย่างที่กวินว่า  หลังจากเข้าทำงานที่นี่มาเป็นเวลาเกือบจะสองสัปดาห์แล้ว   ก่อนหน้านี้ก็มีบางวันที่ต้องอยู่เร่งงานให้เสร็จถึงดึกดื่น   แย่กว่านั้นคือบางทีก็กระทันหันเกินไป   หากโทรบอกไม่ทันก็อาจทำให้เมษาต้องเสียเวลาแวะมาเก้อเปล่าๆ

   “ว่าไง?...”

   เด็กหนุ่มยกมือขึ้นเกาหัวก่อนตอบออกมาอย่างไม่แน่ใจ “อืม...ผมขอถามพี่เมษก่อนแล้วกันนะครับ”

   ฝ่ายคนถามชะงักไป   ได้ยินอย่างนี้มันปวดหนึบๆชอบกล...

   “...ต้องถามด้วยเหรอ...” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นเสียงเบา “สำคัญขนาดนั้นเชียว...”

   ดวงตาเรียวคู่สวยจับจ้องมาที่ช่างภาพหนุ่มอย่างไม่เข้าใจในประโยคสุดท้ายที่แม้จะเป็นคำถาม  แต่ก็ฟังดูคล้ายๆพูดขึ้นมาลอยๆกับตัวเองเท่านั้น

   “วันก่อนพี่วินก็ถามคล้ายๆแบบนี้ไป   วันนี้เอาอีกแล้ว  มีอะไรหรือเปล่า...”

   โดนถามกลับแบบนั้นเข้าไปชายหนุ่มก็ถอนหายใจดังเฮือก   อย่างน้อยก่อนที่จะเริ่มทำอะไรเขาเองก็อยากจะแน่ใจก่อนว่าในหัวใจของอีกฝ่ายยังไม่ได้มีใครอยู่    นายเมษานั่นเขาพอจะดูออกแหละว่าคงคิดอะไรกับเจ้าหนูนี่ไม่มากก็น้อยแน่ๆ   แต่อีกฝ่ายนี่สิ   ภายใต้ตาใสๆแบบนั้นคิดอะไรอยู่   ผู้ใหญ่อย่างเขาก็เดาไม่ถูกเหมือนกัน

   เมื่อเห็นชายหนุ่มเงียบไปจักรวาลก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อ   รู้เพียงแต่ว่าคงต้องพูดอะไรสักอย่างเพื่อลบบรรยากาศน่าอึดอัดนี้ออกไป

   “ผมต้องถามพี่เมษก่อนก็ไม่เห็นจะแปลกเลยนี่ครับ   ก็เขาอุตส่าห์ตั้งใจจะมารับผม    แล้วอีกอย่างพี่เมษก็เป็นรุ่นพี่ที่ผมเคารพมากด้วย”

   

   “...แค่รุ่นพี่จริงเหรอ?” เสียงทุ้มต่ำที่เอ่ยออกมาทำเอาจักรวาลต้องเลิกคิ้วขึ้น

   

   “ก็จริงน่ะสิครับ   ไม่งั้นจะให้เป็นอะไร”

   รอยยิ้มถูกจุดขึ้นบนริมฝีปากของชายหนุ่มอีกครั้ง   ร่างสูงลุกขึ้นจากที่นั่งก่อนตรงมาที่โต๊ะของอีกคน   ท่อนแขนแกร่งทั้งสองข้างค้ำลงไปที่ขอบโต๊ะก่อนที่ใบหน้าหล่อคมคายนั้นจะยื่นลงไปหาเด็กหนุ่มใกล้ๆ

   

   “เป็นแค่รุ่นพี่ก็ดีแล้ว...ฉันจะได้สบายใจ...”





๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



   “เฮีย  ข้าวมันไก่พิเศษสองจาน” เสียงทุ้มต่ำตะโกนสั่งอาหารกับอาแปะที่ยืนสับไก่อยู่หลังเขียงบริเวณหน้าร้าน   ก่อนจะหันมาบอกกับคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม “ฉันกะจะพานายมาลองร้านนี้หลายทีแล้ว  น้ำซุปเขาอร่อยเหาะเลยนะ”

   ต่อให้หวีผมโกนหนวด   กวินก็ยังคงเป็นกวินที่กินง่ายอยู่ง่ายตามแบบฉบับของช่างภาพผู้ติดดินอยู่วันยังค่ำ   ขนาดคิดจะจีบใครกับเขาสักทีก็ยังคงรักษาจุดยืนไว้อย่างสม่ำเสมอ...

   “ขนาดนั้นเลยเหรอพี่” เด็กหนุ่มหันไปมองรอบร้านพลางผงกหัวขึ้นลงเบาๆ “แต่ลูกค้าเขาก็เยอะจริงๆแหละ”

   “ใช่  ถ้ามาช้ากว่านี้อีกนิดเดียวนะไก่หมด” คนร่างสูงยังคงพูดอวดสรรพคุณร้านไปเรื่อย   โดยไม่ลืมที่จะกล่าวปูทางไว้สำหรับมื้อเที่ยงในวันต่อๆไปอีกด้วย “นอกจากร้านนี้นะ   ละแวกนี้ยังมีร้านแนะนำอีกเยอะ   เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปกินหมี่เกี๊ยวหมูแดงตรงซอยเจ็ด   นั่นก็อร่อยเหาะเหมือนกัน”

   คนฟังยิ้มรับในขณะที่ข้าวที่เพิ่งสั่งไปเมื่อครู่ถูกนำมาเสิร์ฟลงบนโต๊ะ...

   กวินพยักพเยิดให้อีกฝ่ายลองชิมน้ำซุปที่ตนโฆษณาไว้เมื่อครู่  ก่อนจะเริ่มลงมือกินของตัวเองบ้าง

   คนทั้งคู่ต่างเพลิดเพลินไปกับอาหารโอชะตรงหน้าจนลืมพูดคุยอะไรกันไปพักใหญ่   และในที่สุดก็เป็นคนเป็นผู้ใหญ่กว่าที่เปิดบทสนทนาขึ้นมาอีกครั้งหลังจากนั่งเงียบกันอยู่นาน   แต่หัวข้อที่ถูกหยิบยกมาพูดคุยในรอบนี้ไม่ใช่เรื่องสัพเพเหระอย่างตอนแรกอีกต่อไป   สิ่งที่ชายหนุ่มกำลังจะถามเป็นสิ่งที่เขาอยากรู้จากคนตรงหน้า...

   

   รู้เขารู้เรา   รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง



   โบราณว่าไว้อย่างนั้น...

   “นอกจากเรื่องถ่ายรูปแล้วปอมชอบทำอะไรอีกบ้างเหรอ” ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการถ่ายภาพของเด็กหนุ่มกวินรู้ดีอยู่แล้ว   ไม่ว่าจะศิลปินคนโปรด  สไตล์ที่ชอบ  หรืออะไรก็แล้วแต่   แต่นอกจากนั้น   เรื่องชีวิตส่วนตัวเขาแทบไม่รู้อะไรเลย

   คนถูกถามเงยหน้าขึ้นจากจานพลาสติกตรงหน้าพลางทำหน้านึกเล็กน้อย “เอ...ที่จริงวันๆนึงผมก็หมกมุ่นอยู่กับแต่เรื่องกล้องนี่แหละครับ   ถ้านอกจากนั้นเหรอ....ก็คงเป็นดูหนังฟังเพลงมั้ง  ไม่งั้นก็เตะบอลเล่นรักบี้กับเพื่อนนิดๆหน่อยๆน่ะครับ   พี่วินล่ะ?”

   “ฉันก็ชอบดูหนังฟังเพลงเหมือนกัน   บอลก็เตะนะ   แต่รักบี้นี่เล่นไม่เป็น   จริงๆแล้วเรื่องที่ชอบอีกอย่างของฉันคือท่องเที่ยว   แต่ไม่ค่อยได้ทำเพราะไม่ค่อยมีเวลา”

   “ผมเห็นคนชอบถ่ายรูปส่วนมากชอบไปเที่ยวกันทั้งนั้นเลย” เสียงใสที่แสดงความเห็นออกมาทำเอาชายหนุ่มยิ้มบางๆ  ก่อนถามกลับไป

   “แล้วปอมล่ะ  ไม่ชอบเที่ยวบ้างเหรอ”

   หัวกลมๆนั่นสบัดไปมาทำเอาเส้นผมเส้นผมกระจายตัวออกเล็กน้อย “ผมไม่รู้หรอกว่าคนชอบเที่ยวเขารู้สึกยังไงกัน   เกิดมาก็มีแค่กรุงเทพฯนี่แหละไกลบ้านที่สุดที่เคยมาแล้ว”

   ได้ยินดังนั้นช่างภาพหนุ่มก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ



   ไม่เคยไปเที่ยวเหรอ...



๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



   “ปัญหาตอนนี้คือคอนเซ็ปที่เราคิดค้างกันเอาไว้รอบที่แล้วมันไม่เวิร์คน่ะครับ   พวกผมลองเอาไปทำดูแล้วออกมาไม่เหมือนที่คิดเท่าไหร่   ก็เลยคิดว่าอาจจะต้องเปลี่ยนใหม่หมดเลย” เสียงอธิบายอย่างกังวลใจของช่างภาพเบอร์สองในบริษัทอย่างก้อดังขึ้นเปิดการประชุม

   ด้วยบริบทของสังคมและอะไรอีกหลายๆอย่างทำให้คอนเซ็ปที่ทุกคนในทีมระดมสมองกันคิดขึ้นเมื่อหลายวันก่อนมีอันต้องโดนพับไป   ยังดีที่เพิ่งเริ่มโปรเจ็คไปได้เพียงไม่กี่สัปดาห์   ถือว่ายังกลับตัวทัน   แต่ถ้าขืนไม่รีบคิดของใหม่ให้ได้เร็วๆนี้งานที่จะต้องส่งให้นิวยอร์กมีหวังเสร็จไม่ทันการแน่ๆ

   กวินนั่งกุมขมับฟังลูกน้องถกเถียงปัญหากันอย่างเคร่งเครียด   ก็มีแอบคิดไว้ตั้งแต่ตอนประชุมคราวที่แล้วว่าอาจจะเจอปัญหา   แต่ไม่คิดว่ามันจะต้องถึงขั้นโละใหม่ทั้งหมด   แต่พอได้เห็นภาพที่ลองให้ลูกน้องไปลองถ่ายมาดูแล้วเขาเองก็เห็นด้วยว่ามันไม่เวิร์คเลยแม้แต่นิดเดียว

   ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นสำหรับคนทำงานสายนี้   ยิ่งหากเป็นผู้ผลิตผลงานสู่สาธารณะชนแล้วล่ะก็   การคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมเป็นเรื่องสำคัญที่หลายครั้งมันก็มาจำกัดขอบเขตของงาน

   คีย์เวิร์ดหรือโจทย์ของงานในครั้งนี้ที่ได้รับมาจากทางนิวยอร์กคือคำว่า 'Culture Shock' ที่แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า   'ความรู้สึกสับสนต่อวัฒนธรรมที่ไม่คุ้นเคย'   และสาเหตุที่บริษัทโฟโต้แฟคตอรี่สตูดิโอแห่งนี้ถูกรับเลือกเป็นตัวแทนแสดงผลงานจากประเทศไทยเนื่องจากทางผู้จัดที่นิวยอร์กต้องการเชิญสตูดิโอชั้นนำจากประเทศต่างๆให้ถ่ายทอดผลงานในแนวทางของถิ่นที่ตัวเองอยู่นั่นเอง

   และคอนเซ็ปที่พวกเขาคิดกันไปเมื่อคราวที่แล้ว   ฟังดูค่อนข้างดีตอนอยู่ในห้องประชุม  แต่เมื่อตัวอย่างรูปจริงออกมา   มันกลับสะท้อนด้านลบของสังคมไทยมากเกินไป   ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายและละเอียดอ่อนมากๆสำหรับผู้เสพผลงานบางส่วนและอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลังได้

   ชายหนุ่มหลับตาลงพยายามเค้นสมองคิดอะไรสักอย่างออกมาท่ามกลางเสียงโต้เถียงแสดงความคิดเห็นของลูกน้องในทีมต่างๆนาๆ   แม้กระนั้นสุดท้ายก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าคอนเซ็ปคราวที่แล้วหากตัดเรื่องที่มันจะเป็นผลกระทบต่อภาพพจน์ประเทศออกไปเลย

   

   ฉับพลัน...ห้วงความคิดของช่างภาพคนดังก็หยุดลงเมื่อเสียงใสจากเด็กหนุ่มที่นั่งข้างกายค่อยๆพูดขึ้นมาอย่างลังเล...



   “เอ่อ...คือว่า” น้ำเสียงขาดความมั่นใจเล็กๆของปอมกล่าวขึ้นเบาๆเมื่อได้จังหวะ “ผมมีไอเดียนึงอยากเสนอครับ   แต่ไม่รู้ว่าจะใช้ได้หรือเปล่านะ”

   เมื่อได้ยินคำพูดที่ท้ายประโยค  กวินก็ต้องกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงดุๆ  ผิดกับเวลาปกติที่หลังๆมานี้เขามักจะทำเสียงอ่อนกับเจ้าหนูนี่อยู่เรื่อย   แต่สำหรับตอนนี้เขาถือว่าเขาพูดในฐานะหัวหน้า “อย่าออกตัวก่อน   ถ้าอยากเสนออะไรก็เสนอมาเลย   ให้มันมั่นใจหน่อย”

   “อ๊ะ...ขอโทษครับ” ได้ฟังดังนั้นเด็กหนุ่มก็รีบยืดตัวที่นั่งห่อไหล่ขึ้นก่อนจะกระแอมไอเบาๆเตรียมพร้อมถ่ายทอดสิ่งที่อยู่ในหัวออกไป “คือว่าผมกำลังนึกไปถึงงานประเภทไทโพโลจี้น่ะครับ   อย่างคราวที่แล้วเราพยายามจะนำเสนออาการคัลเจอร์ช็อคที่คนไทยมีต่อวัฒนธรรมต่างชาติใช่ไหมครับ   มันเลยมีปัญหา   แต่ถ้าสมมุติเรานำเสนอในลักษณะของอาการคัลเจอร์ช็อคที่มีต่อคนในชาติเดียวกันนี่แหละ  แต่เป็นคนที่มาจากต่างสังคมย่อย   ถ้าอย่างนี้เราอาจจะเลี่ยงพวกจุดเซนซิทีฟของคราวที่แล้วได้นะครับ”

   ทุกคนในห้องประชุมตั้งใจฟังและคิดตามสิ่งที่เด็กหนุ่มกล่าว...

   “แล้วมันเกี่ยวกับไทโพโลจี้ยังไงครับ” พี่ในทีมคนหนึ่งถามต่อเป็นสัญญาณว่าเข้าใจในสิ่งที่จักรวาลพูดเมื่อครู่แล้ว   ให้อธิบายต่อได้

   “ครับ   คือผมคิดเล่นๆว่าถ้าเราจับคนจากต่างๆสังคมในเมืองไทยมารวมกันไว้ในที่ๆนึง   ปฏิกิริยาของแต่ละคนมันน่าจะต่างกันออกไป   เช่นเปรียบเทียบแบบหยาบๆว่า  ถ้าเราเอากลุ่มคนที่มาจากสังคมในชนบทมาปล่อยรวมไว้กับคนอีกกลุ่มที่เป็นตัวแทนของสังคมคนเมืองในห้องเล็กๆโดยไม่ให้ออกไปไหนพักนึง   ถึงจะเป็นคนไทยเหมือนกัน   แต่เราก็จะเห็นปฏิกิริยาที่ต่างกันของคนสองประเภทนี้   อย่างถ้าเป็นคนที่มาจากชนบท   ก็อาจจะไปนั่งเงียบๆอยู่ตามมุมตามขอบ  ในขณะที่พวกคนเมืองก็อาจจะจับกลุ่มนั่งร้องรำทำเพลงแก้เซ็งกันกลางห้อง   อันนี้ผมแค่ยกตัวอย่างนะครับ  คือผมก็ไม่รู้ว่าจริงๆมันจะเป็นยังไง   แต่ที่แน่ๆมันจะต้องเกิดความแตกต่างที่เห็นได้ชัดขึ้นในห้องนั้นแน่ๆ”

   จักรวาลหยุดมองหน้าผู้ฟังทั้งหมดครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวต่อ

   “แล้วที่ว่าจะให้มันออกมาเป็นแบบไทโพโลจี้ก็คือ   เราจะเก็บภาพอารมณ์จริงๆปฏิกิริยาจริงๆของคนในห้องนั้นจากมุมเดียวกันทั้งหมด  เช่นอาจจะตั้งกล้องไว้ในมุมที่เห็นได้ทั้งห้อง   แล้วก็ถ่ายสิ่งที่เกิดขึ้นจริงโดยไม่ต้องคิดถึงองค์ประกอบภาพอะไรเลย   แล้วแต่ละภาพเราก็จะแบ่งออกเป็นหมวดๆ เช่นหมวดคนจากแต่ละภูมิภาค  หมวดคนที่มาจากครอบครัวแต่ละประเภท   หมวดคนที่มีระดับการศึกษาในระดับต่างๆกันอะไรแบบนี้   นึกออกไหมครับ   คือทุกภาพในเซ็ทที่เราจะส่งไป   ก็จะถูกถ่ายจากมุมเดียวกันสถานที่เดียวกันทั้งหมด  แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในภาพจะแตกต่างกันเพราะคนที่อยู่ในแต่ละภาพจะถูกเลือกมาจากซับกรุ๊ปที่ต่างกัน”

   ไทโพโลจี้คือแขนงหนึ่งของการถ่ายภาพที่เน้นการศึกษาวัตถุชนิดเดียวกันที่มีรูปลักษณ์ต่างๆกัน   โดยมีจุดประสงค์หลักคือเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน   ดังนั้นคุณค่าของงานประเภทนี้ไม่ได้อยู่ที่ความสวยงามหรือองค์ประกอบที่เพอร์เฟ็ค   แต่อยู่ที่การได้ศึกษาอัตลักษณ์ของสิ่งต่างๆ   ซึ่งสำหรับกรณีโปรเจ็ค 'คัลเจอร์ช็อค' นี้เป็นการศึกษาปฏิกิริยาของคนแต่ละประเภทในแต่ละหมวดหมู่นั่นเอง

   


   ทีมงานทุกคนในที่ประชุมดูจะเห็นชอบกับสิ่งที่เด็กหนุ่มเสนอกันมาก   โดยเฉพาะ 'ป๋าดัน' ที่นั่งอมยิ้มพยักหน้าอย่างพึงพอใจอยู่ข้างๆ...



๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



   “ไอเดียไม่เลวเลยนี่” เสียงทุ้มต่ำที่ดังขึ้นจากคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถเรียกให้เด็กหนุ่มยิ้มแก้มปริ

   กว่าจะจบการประชุมเมื่อครู่เวลาก็ปาเข้าไปสามทุ่มกว่าเสียแล้ว   แต่จักรวาลก็ไม่ต้องกังวลอะไรในเมื่อสี่ห้าวันที่ผ่านมานี้กวินอาสาไปส่งเขาที่บ้านอย่างที่ชวนไว้เมื่อวันก่อนแทนเมษาตลอด   

   “ได้เทรนเนอร์ดีครับ” เด็กหนุ่มตอบกลับด้วยน้ำเสียงสดใส   ดีใจที่ความคิดของตนเป็นที่ยอมรับของพี่ๆในทีม

   ได้ยินดังนั้นกวินก็หัวเราะออกมาเบาๆ “เมืื่อกี้เทรนเนอร์ยังคิดไม่ออกเลย   นายนั่นแหละเก่งด้วยตัวเอง   ไม่ต้องมายอคนแก่”
.
.

.


.

   จักรวาลนั่งขำเอิ๊กอ๊ากไปเรื่อยเปื่อยกับบทสนทนาที่ดำเนินไปเรื่อยๆตลอดการเดินทาง   ไม่รู้ว่าเขารู้สึกไปเองหรือเปล่าว่าพักหลังๆมานี้ช่วงนอกเวลางานดูช่างภาพคนดังจะขี้เล่นขึ้นเป็นกอง   มาดขรึมก็มีเหลือให้เห็นเฉพาะตอนทำงานเท่านั้น

   แต่เมื่อหัวข้อการพูดคุยล่าสุดจบสิ้นลง   ก็เกิดความเงียบขึ้นระหว่างคนทั้งสองเมื่อคนที่โตกว่าผู้มักเป็นฝ่ายชวนคุยไม่ได้กล่าวอะไรต่อ

   เห็นดังนั้นเด็กหนุ่มก็หันหน้าออกนอกหน้าต่างเพื่อชมวิวแทน

   


   “เอ้อปอม...”

   

   “ครับผม?” ใบหน้าเรียวได้รูปหันกลับมาเมื่อถูกอีกฝ่ายเรียกขึ้นอีกครั้งก่อนจะต้องฉงนงงงวยกับสิ่งที่ชายหนุ่มกล่าวในวินาทีถัดไป

   

   “นาย...แบบว่า....ยังไม่มีแฟนใช่ไหม?”



   คนถูกถามทำหน้าเหวอไปทันทีที่ได้ยินประโยคที่ถูกถามขึ้นมาดื้อๆแบบนั้น    แต่แม้จะไม่เข้าใจจุดประสงค์ของชายหนุ่มนักก็ยอมตอบออกมาโดยไม่ได้ถามอะไรกลับไป

   “ยังครับ”

   “อืม...เหรอ” เสียงทุ้มต่ำตอบรับเบาๆ   แล้วเพียงไม่นานคำถามต่อไปก็ตามมา



   “แล้วคิดจะมีบ้างไหม?”



   “อ่า...” จักรวาลยกมือขึ้นเกาหัวอย่างงุนงง “ตอนนี้ยังไม่คิดครับ   พี่วินมีอะไรหรือเปล่า”

   หากแต่อีกคนไม่ได้สนใจในคำถามที่ถูกส่งกลับ   ชายหนุ่มยังคงเดินหน้าถามสิ่งที่ตัวเองอยากรู้ต่อ

   “แล้วทำไมถึงยังไม่คิดล่ะ”

   เด็กหนุ่มขมวดคิ้วกับประโยคที่ได้ฟัง   ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง



   “ตอนนี้ผมยังไม่มีปัญญาไปเลี้ยงใครหรอกครับ   ก่อนผมจะคบหากับใครผมอยากแน่ใจก่อนว่าสามารถเลี้ยงดูแม่กับน้าที่ต่างจังหวัดให้อยู่ได้สบายๆ   พูดอีกอย่างคือตราบใดที่ผมยังไม่มีที่ยืนในวงการถ่ายภาพ   ผมก็ไม่มีทางแน่ใจว่าผมจะสร้างฐานะที่มั่นคงให้ครอบครัวได้”



   ได้ฟังคำตอบสุดแสนจะมุ่งมั่นจากเด็กหนุ่ม   ก็เป็นฝ่ายกวินบ้างที่ต้องขมวดคิ้วขึ้นมา

   “แล้วถ้าเกิดว่าคนที่คบกับนายเขาพร้อมจะเลี้ยงทั้งตัวนายทั้งครอบครัวนายล่ะ?”



   ใบหน้าเรียวสวยหันมามองคนถามด้วยสายตาตกใจ “พี่วิน! ผมไม่ใช่แมงดานะ  จะให้ผู้หญิงมาเลี้ยงได้ไงเล่า”

   


   “อ้าว  แล้วถ้าคนนั้นไม่ใช่ผู้หญิงล่ะ?”




   และคราวนี้คนฟังดูจะตกใจยิ่งกว่าเก่าเสียอีก...




   “พี่วิน! ผมไม่ได้เป็นเกย์   ผมไม่ชอบผู้ชาย   แล้วก็ไม่มีวันชอบด้วย”




   อื้อหือ...




   ชัดเจนเต็มสองรูหู!






TBC.   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-07-2012 17:29:59 โดย arunoki »

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
เอาแล้วงัย  อย่าเพิ่งท้อนะ  ไม่งั้นเสร็จเมษแน่

ออฟไลน์ ChigoRita

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
แบบนี้หรือเปล่า culture shock

คอนเซปที่น้องปอมเสนอ.....โดนเข้าแล้วไงล่ะ พี่วิน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
คุณพี่วินพัฒนาดีขึ้นคะ ใจเย็นๆค่อยๆหยอดคะ เดี๋ยวน้องปอมก็กลับใจเองจ๊ะ แต่โล่งแล้วนะที่ปอมยังไม่มีใคร
เน๊าป๋าดัน หุหุ :-[

ปล.ต้องยอมรับว่าไม่รู้ศัพท์จริงๆ แต่ไม่ได้ทำให้เรื่องสนุกน้อยลงเลย สู้ๆๆคะ

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
แห้วแน่

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9
คุณกวินรุกแล้วค่ะ :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
พี่วินนนนนนน อย่าพึ่งถอดใจนะ
อย่างน้อยๆปอมก็ยังไม่มีแฟน
ส่วนไอ่เรื่องชอบไม่ชอบ นี่มันเปลี่ยนกันได้  อย่าพึ่งท้อไปซะก่อนหละ สู้นะ !

ออฟไลน์ McKnight

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0

"ผมไม่ได้เป็นเกย์   ผมไม่ชอบผู้ชาย   แล้วก็ไม่มีวันชอบด้วย”

ถ้าน้องปอมจะพูดชัดเจนขนาดนี้นะ!!!  เอามีดเสียบ...อกพี่วินเหอะคร๊าบบบ...

สู้ๆนะครับพี่วิน เทพแห่งความเนียน...ไอดอลของผม


ขอบคุณคนแต่งด้วยครับ  o13





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-07-2012 20:20:04 โดย McKnight »

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
โอ้ว พี่วินเดินหน้าเต็มกำลัง  o13

เรื่องที่ปอมพูดอย่าคิดมากนะพี่ สู้ๆ

ALittleN

  • บุคคลทั่วไป
น้องปอมยังไม่มีแฟน พี่วินก็อย่าเพิ่งท้อ ถึงแม้จะชัดเจนเต็มสองรูหู ก็เหอะ  :laugh:


ออฟไลน์ evilheart

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-3
ชัดเจนจริงๆ พี่วินเดินหน้า่รุกเต็มกำลัง

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
พี่วินเอ้ย เด็กมันตอบชัดๆ เน้นๆ ขนาดนั้นจะทำยังไงต่อไปเนี่ย รอลุ้นอยู่น๊ะจ๊ะ  :L2:

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
ปอมชัดเจนสุดๆ

แต่ แต่พี่วินอย่าเพิ่งท้อนะ น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อนเลย  สู้ๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด