หัวใจหลังเลนส์ #ตอนจบ และ บทส่งท้าย หน้า 133
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หัวใจหลังเลนส์ #ตอนจบ และ บทส่งท้าย หน้า 133  (อ่าน 1378036 ครั้ง)

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
เด็กน้อยเริ่มคล้อยตามแล้ว หุหุ   :o9:

chaaom

  • บุคคลทั่วไป
แอร๊กกกกกก อ่านตอนนี้แล้วเขินมากค่าาาาาา
พี่วินกับน้องปอมจะน่ารักไปไหนเนี่ยย
โดยเฉพาะฉากในโรงหนัง จิ้นไปไกลโพ้นนนนนนน :impress2:

ออฟไลน์ anchoviiz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
เนียนจนได้เรื่อง(?)สินะพี่วิน
๕๕๕๕ น้องปอมสมยอม(ห๊ะ!)ลุงแกไปเห๊อออออ  :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ fullmoonny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
อ่านทันแล้ว ดีใจจัง ชอบนิยายเรื่องนี้จัง
เพราะตัวเองชอบถ่ายรูปด้วยเลยชอบเข้าไปอีก ชอบจัง ชอบจัง~

พูดถึงตอนล่าสุด
พี่วินเนียนไปแล้วเนอะ 555555 น้องปอมก็ไม่สงสยสงสัยเลย

sunshadow

  • บุคคลทั่วไป



    เหมือนแผนนี้จะได้ผลเกินคาดนะ อิอิ
    แต่เล่นบทคู่รักไปปะทะสาววายนี่. . . ฮาสุดๆ 5555+





ออฟไลน์ FiZZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
พี่วินสุดยอด งานนี้ถึงยังไม่ได้เป็นแฟน แต่ก็กำไรเหนาะๆแล้ว  o18
พูดถึงคัลเจอร์ช็อคละนึกถึงที่เรียนเลย เพิ่งจะเรียนเรื่องนี้ไปเอง น่าเวียนหัวแท้  :o12:
น้องปอมเริ่มหวั่นไหวนิดๆแล้ว อ๊า พี่วินสู้ๆ พี่วินสู้ตายยยย

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
555 เรี่ยม!
จะฮาก็ตรงสาววายกับ ตัวเล็กนี่ล่ะ
จัดอักได้ป่ะ ตัวเล็กๆๆๆๆ :impress2:
เทคมือหน่อยวิน โย่ววววว!
gim me five, man!!!

ออฟไลน์ naamsomm

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
พี่วินพัฒนาการเรียกชื่อของพี่มันน่ารักขึ้นทุกวัน. จาก
ไอ้น้อง--->เจ้าหนู---->ตัวเล็ก
แบบว่าแทบกรี๊ดดดดดดดดดด
พี่วินมีความรักแล้วเป็นหวานขนาดนี้เลยเหรอ
ความเนียนของพี่เก็บได้ทุกเม็ดทุกอย่างจริงๆ
ทำไปเถอะจ้า
น่าจะเห็นผลแล้ว
น้องปอมเริ่มหวั่นไหวมั่งแล้วหล่ะ

ออฟไลน์ nooklepper

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
พี่กวิน   !!!  น่ารักได้ใจ 5555+

น้องปอมคะ  ถ้าไม่หวั่นไหว เราหวั่นไหวแทนนะ .///.

ออฟไลน์ thunchanok1

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
พี่วินนี่น่ารักเนอะ..
ปอมเริ่มเปิดใจแล้วด้วย ดีจัง♥

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ poompoo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
พี่วิน  สู้  สู้

 :pig4:

ออฟไลน์ icecreammaniac

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :sad11:ทำไมตอนนี้ อ่านแล้วมันรู้สึกดีปนเศร้าแปลกๆอ่ะ

โดยเฉพาะประโยค

ที่บอกว่า ให้ดูแลพี่หน่อย.....ช้างล้มมันลุกยากนะ.....

อ่านแล้วเศร้าชะมัด. ฮรือออออออออออออออ

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
คนแก่แผนสูง ห้าๆ

ออฟไลน์ pizza2011

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
ดูท่างานนี้คนแก่คงจะหลอกเด็กน้อยได้สำเร็จ 55+

HyaSiness

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักฮร่อกกกกก!!!  :-[

พี่วินค้ากำไรเกินควรไปนะคะ
แต่ว่าเราชอบ กร๊ากกกกกกกกก
เป็นแฟนกันหนึ่งวันนี่มันคุ้มดีจริงๆ >,<
นี่ขนาดวันเดียวพี่วินยังรุกน้องขนาดนี้
ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเป็นแฟนกันจริงๆ ขึ้นมา
น้องจะรอดมือพี่วินมั๊ย แอร๊ยยยยยยยยยย

 :o8: :o8: :o8:


เป็นแฟนผู้ชายก็ไม่ได้เสียหายอะไร ลองคบกันดูดีมั๊ยคะ? ฮี่ๆๆๆ

Nnsicc

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าพี่วินจะเนียนขนาดนี้ 5555
แผนการรุกของงพี่สุดยอดอ่ะ เห็นได้ชัดว่า น้องปอมเริ่มเอนเอียง และอีกไม่นานต้องค้นพบตัวเองแน่ๆ  555555
โอยย น่ารักกกกก

zeazaiz

  • บุคคลทั่วไป
มารอจ้า  วันนี้จะมามั้ยน้อ

ออฟไลน์ ☥ŹeMî☠kändä☥

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เพิ่เจ้ามาอ่านจบครับ สนุกมากๆ เลย
เป็นอีกเรื่องที่อ่านแล้วยิ้มไปตลอดทั้งเรื่องเลยครับ
ทั้งปอมทั้งกวินน่ารักมากกกก
ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยสนเรื่องกล้องเท่าไหร่ แต่ได้มาอ่านเรื่องนี้ผมว่ากล้องมันน่าเล่นเยอะเลยแหะ
ถึงผมจะไม่ค่อยมีความรู้เรื่องกล้อง แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่งงเลยนะครับ ผมอ่านเข้าใจเลยเพราะคน้ขียนอธิบายไว้อยู่แล้ว
ถึงไม่ได้อธิบายอะไรมากก็เถอะ ^^
โดยรวมผมชอบเรื่องนี้มากๆ เป็นนิยายที่ดีจริงๆ สู้ๆ นะครับจะติดตามตอนต่อไปเสมอ ^^
ปล.รอวันที่ปอมโดนกวินกินครับ 555

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
โรคที่น้องปอมรักษาได้คนเดียว อิอิอิ

gonna.be

  • บุคคลทั่วไป
สนุกจังค่ะ  o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






arunoki

  • บุคคลทั่วไป
ช่วงนี้ถ้ามีเวลาจะพยายามกลับไปปรับแก้ศัพท์บางคำหรือเนื้อหาบางส่วนเล็กๆน้อยๆในตอนก่อนๆที่อาจจะดูสะดุดตาสะดุดหูเท่าที่โครงเรื่องที่วางไว้จะเอื้ออำนวยนะคะ





---------------




หัวใจหลังเลนส์
#20





   “พี่ครับ   ผมว่าเอารีเฟล็กซ์ไปไว้ตรงนั้นอีกตัวดีกว่า   ตอนนี้ถ่ายออกมาแล้วมันยังดูแข็งๆอยู่เลยครับ” จักรวาลที่วันนี้รับหน้าที่ตากล้องโซโล่อยู่เพียงผู้เดียวเอ่ยบอกพี่ทีมงานด้วยน้ำเสียงที่เมื่อใครในสตูดิโอนี้ได้ฟังก็คงต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเด็กหนุ่มมั่นใจขึ้นมากหากเทียบกับเมื่อเดือนสองเดือนก่อน

   งานแทรกที่ต้องถ่ายส่งนิตยสารในวันนี้   กวินตัดสินใจให้จักรวาลลงมือเองทั้งหมดเป็นครั้งแรกโดยที่ตนหรือตากล้องคนอื่นๆในบริษัทไม่ได้ยื่นมือเข้าไปช่วยเหมือนครั้งก่อนๆอีกต่อไปเนื่องจากฝีมือที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วของเด็กหนุ่มเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าเขาสามารถไว้ใจให้ช่างภาพมือใหม่คนนี้ให้เริ่มออกบินเองได้แล้ว   

   หลังจากวัน 'พิเศษ' วันนั้นจบลงไปก็ผ่านมาเป็นเวลากว่าสัปดาห์   ทุกอย่างดูเหมือนจะดำเนินไปได้ด้วยดี   กวินยังคงเดินหน้าใส่เกียร์พุ่งเข้าหาเด็กหนุ่มอย่างต่อเนื่อง   โดยที่อีกฝ่ายเองก็ไม่ได้มีท่าทีผลักไสไล่ส่งช่างภาพคนดังแต่อย่างใด...



   ไม่รู้ว่าไม่รังเกียจ  หรือยังไม่รู้ตัวกันแน่...



   แต่ดูจากทรงแล้ว   อาจจะเป็นข้อหลัง...



   “ยื่นไหล่ออกมาข้างหน้าอีกนิดครับ” คนเป็นตากล้องกล่าวบอกกับนางแบบตรงหน้าด้วยความสุภาพ   นิ้วเรียวขยับปรับรายละเอียดบนกล้องอย่างคล่องแคล่ว “ดีมากครับ   มองต่ำอีกนิดครับ...ดีครับๆ”

   รูปถ่ายคุณภาพดีหลายร้อยภาพไหลเข้าคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ข้างๆฉากเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว

   จนในที่สุดการถ่ายภาพเซ็ทแรกก็สิ้นสุดลง “เดี๋ยวพักกันก่อนยี่สิบนาทีให้นางแบบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมถ่ายเซ็ทต่อไปนะครับ” จักรวาลตะโกนบอกทีมงานทั้งสตูดิโอ   ก่อนจะก้มลงจัดการกับกล้องในมือตัวเอง

   ขณะที่กำลังขมักเขม้นกับการปรับกล้องเตรียมไว้สำหรับการถ่ายเซ็ทต่อไป   สัมผัสเย็นเฉียบที่ข้างแก้มก็ทำเอาเด็กหนุ่มสะดุ้งขึ้นสุดตัวด้วยความตกใจ   และเมื่อหันไปพบกับตัวต้นเหตุริมฝีปากได้รูปก็คลี่ยิ้มออกมาบางๆ

   “เหนื่อยไหม?” เจ้าของเสียงทุ้มต่ำที่โผล่มาตอนไหนก็ไม่ทราบ  ยื่นกระป๋องโค้กที่เอามานาบแก้มเขาไว้เมื่อครู่มาตรงหน้า

   เด็กหนุ่มรับมันมาเปิดออกดื่มโดยไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณ

   “ไม่เหนื่อยครับ   สนุกมากกว่า...แล้วนี่งานพี่วินเสร็จแล้วเหรอ?”

   สำหรับวันนี้  กวินเองก็มีงานอีกชิ้นที่ต้องเคลียร์อยู่ในสตูดิโออีกห้องข้างๆกันนี้ “ยังหรอก   พักอยู่น่ะ   เลยอยากมาดูซะหน่อยว่านายเป็นยังไงบ้าง” ชายหนุ่มกล่าวพลางยื่นทิชชู่ให้อีกฝ่ายใช้ซับเหงื่อเม็ดโตที่เกาะพราวอยู่ตามไรหน้าผากออกไป




   “แหมพี่!  งานพี่อยู่สตูสามไม่ใช่เหรอ   มาทำอะไรสตูนี้” เสียงตะโกนแซวดังมาจากไอ้เจ้าพวกลูกน้องตัวดีที่พอเห็นว่ามีใครมาเยือนตากล้องมือใหม่ของพวกเขาก็รีบเสนอหน้าวิ่งเข้ามาร่วมวงทันที

   “นั่นสิ   แล้วนี่ไม่มีโค้กให้พวกผมบ้างเหรอ...ผมก็เหนื่อยนะ”



   “หุบปากไปซะพวกมึง” กวินชี้หน้าคาดโทษคนพูดมากที่พอเดินมาถึงตัวเขาและเด็กหนุ่มก็ปากเสียขึ้นมาโดยไม่รอช้า



   จักรวาลเงยหน้ามองคนทั้งหมดคุยกันพลางจิบเครื่องดื่มในมือเงียบๆ   พักหลังๆมานี้รู้สึกเหมือนกับว่าพี่คนอื่นๆในบริษัทจะชอบพูดอะไรทำนองนี้กันอยู่เรื่อย...



   “ปล่อยน้องไว้คนเดียวไม่ได้เลยเหรอครับ   สตูอยู่ห่างกันแค่นี้น้องไม่หายไปไหนหรอก” อาร์ทยังคงทำหน้าที่ลูกน้องปากเปราะต่อไปโดยไม่สนสายตาขุ่นเคืองจากคนเป็นเจ้านายเลยแม้แต่น้อย

   “แล้วกูมาดูไม่ได้หรือไง   นี่มันบริษัทกูนะไอ้เวร”

   “จะดูทำไม๊..น้องก็สบายดี   ใช่ไหมปอม?” ท้ายประโยคถูกส่งมาให้เด็กหนุ่มที่ได้แต่ส่งยิ้มเจื่อนๆให้เป็นการตอบกลับ   

   กวินก้มลงมองคนข้างๆก่อนรีบออกปากดักคอไว้ทันที “ปอม  อย่าไปฟัง  ไอ้พวกนี้มันบ้า”

   “โอ๊ย   บ้าตรงไหน   พวกพี่ตัวติดกันเป็นตังเมตลอดเวลาขนาดนี้ใครก็เห็น   พวกผมไม่ได้พูดเกินความจริงซะหน่อย”

   และเพียงเท่านั้นคนเป็นหัวหน้าก็ทนไม่ได้อีกต่อไป   ชายหนุ่มไล่ตบกะโหลกไอ้เจ้าพวกผีเจาะปากมาพูดไปคนละทีสองที   ทิ้งให้อีกคนยืนนิ่งคิดอะไรเงียบๆกับตัวเองอยู่ที่เดิม...




   คิ้วเรียวขมวดมุ่นน้อยๆ..



๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



   “ไอ้แอมมาเล่าให้กูฟังว่าวันก่อนมันเจอมึงที่พารากอนเหรอ” อ้นกล่าวถามขึ้นขณะชโลมน้ำมันมวยลงบนท่อนขาของตัวเองอยู่บนพื้นหญ้าเทียม   คืนนี้พวกเขานัดกันมาเตะฟุตบอลที่สนามไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านของก๊อบแก๊บ

   คนถูกถามพยักหน้าขึ้นลง “ใช่   เจอน้องเบลล์ด้วยเว่ย   ตัวจริงน่ารักกว่าที่น้องมึงเล่าสิบเท่าได้”

   “เออ  มันบอกกูละ   แล้วเห็นมันบอกว่ามึงไปกับผู้ชายคนนึงเหรอ   ใครวะ?  ร้อยวันพันปีไม่เห็นมึงเข้าห้าง   พวกกูชวนก็ไม่ค่อยไป”

   จักรวาลยักไหล่เบาๆพลางยืดเส้นยืดสายเตรียมลงสนาม   ก่อนตอบออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “พี่วินพาไป”

   “หืม...” เม้งที่นั่งฟังอยู่เลิกคิ้วขึ้น “ท่านกวินอีกแล้วเหรอ...?”

   “อือ  ทำไมอ่ะ?”

   “ช่วงนี้เหมือนมึงอยู่กับเขาบ่อยจังวะ?”

   “เอ้า...ก็ตอนนี้เขาเป็นเจ้านายกู”

   ได้ฟังดังนั้นอ้นก็หรี่ตามองเพื่อนรักอย่างกรุ้มกริ่ม... “...เจ้านายอย่างเดียวจริงๆเหรอจ๊ะน้องปอม?”

   “อ้าวไอ้ห่า   พูดอย่างนี้หมายความว่าไง” คนตัวเล็กที่สุดในกลุ่มถลกแขนเสื้อขึ้นอย่างเอาเรื่อง   เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนๆในวงได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

   “ครั้งก่อนก็ยืนให้เขากอดที่งานแต่ง'จารย์วิทย์   ตอนวันเกิดก็พาเขามานอนที่ห้อง   แล้วนี่ยังโดนลากไปเดินเที่ยวอีก...มึงรู้ไหมว่าแบบนี้มันเหมือนอะไร...?”

   คำถามที่ถูกส่งมาจากอ้นทำให้จักรวาลต้องนิ่งคิดไปก่อนส่ายหน้าออกมาเบาๆ

   หากแต่สิ่งที่เพื่อนตัวดีกำลังจะเอ่ยต่อไปก็ทำเอาเด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนโดนหมัดฮุกเข้าที่หน้าเต็มๆ...




   “เหมือนมึงเป็น....เด็กเสี่ย...”




   “เหี้ย!” ร่างเล็กกระโจนเข้าใส่คนที่ยังมีน้ำมันมวยเลอะอยู่เต็มฝ่ามือ    คนทั้งสองฟัดกันเหมือนลูกหมาแย่งนมแม่อยู่บนพื้นสนามเป็นน้ำจิ้มก่อนลงเตะให้เพื่อนๆที่เหลือได้นั่งขำเอิ๊กอ๊ากกันใหญ่ 

   จนในที่สุด  เมื่อหนำใจกันทั้งสองฝ่ายแล้ว   อ้นและจักรวาลก็ลุกขึ้นจัดสภาพตัวเองอีกครั้ง   โดยที่ในหัวเด็กหนุ่มยังคงมีคำพูดล้อเลียนของเพื่อนรักลอยไปลอยมา



   เด็กเสี่ยเลยเหรอ...




   ฟังดูแย่ไปหรือเปล่า...



   ...พี่วินไม่ใช่ตาแก่หัวงู 



   แล้วเขาก็ไม่ใช่สาวๆเสียหน่อย...



๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



   “โอย   เหนื่อยชิบหาย” จักรวาลตะโกนขึ้นก่อนกระดกขวดเครื่องดื่มเกลือแร่ลงคอดังอึกๆ

   นัดนี้ต้องขอบคุณขายาวๆของไอ้เจ  และความปราดเปรียวของตัวเขาที่พาทีมชนะไปได้ด้วยแต้มสองต่อหนึ่ง

   “เออ  ปิดเทอมแล้วกูเอาแต่นอนอืดอยู่บ้านไม่ค่อยได้ขยับตัว   พอแม่งต้องมาวิ่งแบบนี้  ใจแทบขาด” เม้งก้มลงนวดหน้าขาตัวเองด้วยฝ่ามือชื้นเหงื่อ   ก่อนจะเอ่ยถามถึงเพื่อนอีกคนที่หายไปจากวงขึ้นมา “แล้วนี่ไอ้แก๊บไปไหนวะ”

   “ได้ยินมันบอกจะไปกดน้ำที่ตู้ในห้องล็อคเกอร์”

   และเพียงเจพูดจบไปไม่ถึงวินาที   เสียงตะโกนโหวกเหวกที่ดังขึ้นจากอีกฟากของสนามก็เรียกความสนใจจากคนทั้งหมดไปทันที

    เจ้าของเสียงที่จักรวาลจำได้ว่าเป็นหนึ่งในทีมที่เพิ่งแข่งกันไปเมื่อครู่วิ่งเข้ามาหาพวกเขาพลางทำท่าชี้โบ้ชี้เบ้ไปทางอาคารหลังเล็กปลายสนาม “เห้ย เพื่อนน้องโดนซ้อมอยู่อยู่ในห้องล็อคเกอร์   รีบไปดูเร็ว!”

   เพียงเท่านั้น   คนฟังทั้งสี่ก็รีบทิ้งกิจกรรมที่ตนทำอยู่แล้วออกตัวพุ่งไปยังห้องที่ว่าทันที   'เพื่อน' คนที่พี่เขาว่าก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากก๊อบแก๊บแน่นอน...
.
.

.


.
   -ตุ๊บ-

   -พลั่ก-

   เสียงเตะต่อยที่ดังลอดออกมาจากหลังประตู   เร่งให้จักรวาลที่วิ่งนำหน้ามาเป็นคนแรกรีบผลักมันออก   ก่อนจะต้องผงะไปกับสภาพเพื่อนรักที่ยืนปัดป้องฝ่ามือฝ่าเท้าจากผู้ชายหกเจ็ดคนอย่างสุดกำลังพร้อมด้วยเสียงตะโกนด่าทอดังผสมปนเปกันจนฟังไม่ได้ศัพท์

   เห็นดังนั้นคนทั้งหมดที่เพิ่งวิ่งตามมาก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง   ผู้ชายสี่ชีวิตรีบกรูกันเข้าไปช่วยเพื่อนโดยไม่ทันได้ถามได้คิดอะไรกันเลย   และจากตอนแรกที่ตั้งใจจะแค่เข้าไปป้องกันไม่ให้ก๊อบแก๊บบาดเจ็บไปกว่านี้   แต่สุดท้ายเมื่อโดนอีกฝ่ายถีบบ้างทุบบ้างพวกเขาก็ทนไม่ไหว   จนเกิดเป็นวงตะลุมบอนไปในที่สุด...

   

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



   นาฬิกาข้างฝาผนังสถานีตำรวจตีบอกเวลาสี่ทุ่มตรง...

   และพวกเขาได้แต่นั่งมองกลุ่มคู่กรณีเดินส่งสายตาเยาะเย้ยออกจากโรงพักไปด้วยความเจ็บใจ

   เรื่องมันมีอยู่ว่า...เมื่อสามวันก่อน   ไอ้เจ้าเพื่อนตัวดีผู้เป็นตัวต้นเรื่องอย่างก๊อบแก๊บเกิดขับรถไปเสยตูดเบนซ์ของหนึ่งในกลุ่มคนพวกนั้นในระหว่างการขับรถกลับจากร้านเหล้า   เปล่า...ตอนนั้นมันไม่ได้เมา   เพียงแค่กึ่มๆนิดหน่อยตามประสา   แต่เมื่อลงมาคุยกันแล้วเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมความเพราะรถยุบไปเป็นแถบ   ด้วยความกลัวว่าถ้าให้ตำรวจเข้ามาเคลียร์ให้   เรื่องอาจจะไม่หยุดอยู่แค่กระทงเดียว   เพราะหากต้องเป่าตรวจแอลกอฮอล์มีหวังมันจะได้โดนยึดใบขับขี่ไปด้วย   เมื่อคิดได้ดังนั้นไอ้เพื่อนสมองหอยหลอดก็เลยบึ่งรถหนีโดยไม่ทันคิดว่าคู่กรณีเขาจะเห็นทะเบียนรถมันไปเรียบร้อยแล้ว

   เป็นผลให้คืนนี้อีกฝ่ายตามตัวจนเจอมันเข้าในที่สุด   และก่อนเอามาคุยที่โรงพักก็ทำการชำระแค้นกันไปเล็กน้อยพอให้หน้าบวมเจ่อกันไปคนละจ้ำสองจ้ำ   ยอมจ่ายค่าปรับเรื่องทะเลาะวิวาทไม่กี่ตังค์แลกกับความสะใจและค่าซ่อมรถที่ถูกเรียกไปเสียจนเกลี้ยงบัตรทุกใบที่ไอ้ก๊อบแก๊บมีอยู่มันคุ้มกว่ากันเยอะ...

   “ตกลงพวกคุณจะเอายังไง?” เจ้าหน้าที่ตำรวจรุ่นราวคราวพ่อถามด้วยซุุ่มเสียงระอาใจ  สายตาที่จ้องมองมาทางพวกเขาแสดงออกชัดเจนถึงความตำหนิ   จักรวาลได้แย่ส่งยิ้มแหะๆกลับไปให้อย่างไม่รู้จะทำยังไง

   ก๊อบแก๊บยกมือขึ้นเกาหัวด้วยความลำบากใจ  ก่อนกล่าวต่อกล้าๆกลัวๆ “ผมก็จ่ายค่าเสียหายให้พวกพี่ๆเขาไปแล้ว   เรื่องยังไม่จบอีกเหรอครับ...?”

   ชายวัยกลางคนตรงหน้าพ่นลมหายใจออกทางจมูกแรงๆ “คุณเห็นผมโง่เหรอ   ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น  ผมพูดถึงเรื่องที่คุณเมาแล้วขับต่างหาก   นี่แหละน้า...เพิ่งได้ใบขับขี่มาไม่กี่ปีก็ทำซ่า   จับไปนอนในคุกดีไหมเนี่ย”

   “เห้ย...คุกเลยเหรอครับน้า” ก๊อบแก๊บร้องเสียงหลง   คนอื่นๆที่เหลือเองก็หน้าซีดลงไม่แพ้กัน...

   ตำรวจเขาก็ไม่ได้มีหลักฐานอะไรบอกได้ว่าคืนนั้นไอ้เพื่อนตัวดีนี่มันดื่มมาจริงหรือเปล่าหรอก   แต่มันนั่นแหละ...ดั๊นไปเผลอหลุดปากยอมรับเองตอนที่ฝ่ายคู่กรณีเขาเล่าเรื่องในคืนวันก่อนให้ตำรวจฟัง

   ...ซื่อแท้...

   “เพื่อนๆคุณก็เหมือนกัน   ผู้สมรู้ร่วมคิดสิเนี่ย   เอาเข้าไปนอนด้วยกันหมดนี่เลยดีไหม   จะได้ไม่เหงา” ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่วัยเก๋าคนนี้จะถนัดในการใช้สายตาและน้ำเสียงกดดันคู่สนทนาเหลือเกิน “เรียนก็ยังไม่จบ   เงินก็ยังต้องแบมือขอพ่อแม่   เด็กสมัยนี้มันเป็นอะไรกันไปหมด...”

   ก๊อบแก๊บทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อจนเจที่นั่งข้างๆต้องเอื้อมมือมาตบที่หน้าตักอย่างให้กำลังใจ “เพื่อนๆผมไม่รู้เรื่องเลยนะครับ   วันก่อนผมก็ขับไปคนเดียว....”

   “แต่วันนี้เขามาช่วยคุณทำต่อยกับฝ่ายนู้น   แค่นี้ก็บอกได้แล้วมั้งว่าเขาสนับสนุนให้คุณทำผิด...”

   จักรวาลสาบานได้ว่าหากที่นี่ไม่ใช่โรงพัก   และคนที่พูดอยู่นี่ไม่ใช่ตำรวจอายุแก่จนเป็นพ่อเขาได้   เขาแม่งจะตะโกนด่าใส่หน้าดังๆไปแล้วว่า 'กวนตีนจริงโว้ย'
   แต่ความจริงจะโทษใครก็ไม่ได้หรอก   ในเมื่อตอนนั้นพวกเขาก็เมามันกับการตะลุมบอนไปหน่อยเองนั่นแหละ...

   และขณะที่กำลังคิดหาทางออกอยู่นั้น   มือถือรุ่นเก่าในกระเป๋ากางเกงของเด็กหนุ่มก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน   

   

   เมื่อดึงขึ้นมาดูก็พบว่าไม่ใช่ใครที่ไหน....ก็คนที่ช่วงหลังมานี่โทรมาเวลานี้เพื่อคุยเรื่อง 'งาน' แทบจะทุกคืนนั่นแหละ

   

   เจ้าหน้าที่รุ่นลุงส่งสายตารำคาญมาให้  แต่ก็พยักพเยิดอนุญาตให้รับสายได้

   เรียวนิ้วกดปุ่มตอบรับ   ก่อนรีบกระซิบบอกทางปลายสายอย่างเกรงอกเกรงใจชายวัยกลางคนตรงหน้า “เดี๋ยวผมโทรกลับครับพี่...ตอนนี้ไม่สะดวก”

   “อยู่ที่ไหนน่ะ   ทำไมต้องพูดเสียงอย่างนั้นด้วย”

   ไม่รู้ว่าพ่อช่างภาพคนดังเขาฟังไม่รู้เรื่องหรืออย่างไรว่าตอนนี้ไม่สะดวกคุย   แต่กระนั้นจักรวาลก็ยังคงตอบกลับแบบสั้นๆ  พอให้ได้ใจความ “ผมอยู่สน.บางXX  มีเรื่องนิดหน่อยครับ   แค่นี้ก่อนนะพี่ต้องคุยธุระต่อ” จบประโยคเด็กหนุ่มก็กดตัดสายไปเพื่อหันกลับมาช่วยเพื่อนๆฟังท่านเจ้าหน้าที่ตำรวจเทศนาต่อ   

   โดยไม่ได้สนใจเลยว่าคนอยู่ปลายสายเมื่อได้ฟังอย่างนั้นจะตกใจกับสิ่งที่ได้ยินมากเพียงใด...
.
.

.


.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-08-2012 10:10:09 โดย arunoki »

arunoki

  • บุคคลทั่วไป
(ต่อ)

        “โถ่...อย่าเอาพวกผมลงบันทึกเลยนะครับ  ขอร้องล่ะ   หรือถ้าไม่ได้จริงๆก็เอาผมลงแค่คนเดียวพอ   ไอ้พวกนี้มันไม่รู้เรื่องจริงๆครับ” ก๊อบแก๊บกล่าวอ้อนวอนกับชายวัยกลางคนตรงหน้าอย่างเริ่มจนปัญญา

   สุดท้ายหลังจากนั่งให้โดนบ่นโดนด่าอยู่นานสองนาน   ท่านเจ้าหน้าที่ก็สรุปว่าจะให้ก๊อบแก๊บลงบันทึกในข้อหาเมาแล้วขับ  และคนอื่นๆในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิด   เรียกว่าสุดท้ายก็ซวยกันถ้วนหน้า...

   ถ้าขืนมีชื่อติดอยู่ในที่แบบนี้ตั้งแต่อายุเท่านี้มีหวังอนาคตไม่สวยแน่

   จักรวาลได้แต่นั่งคอตกฟังเพื่อนๆขอร้องโอดครวญ   ดูท่าทางแล้วถึงยืดเยื้อต่อไป   แต่ยังไงคืนนี้ก็คงจบลงตรงที่ชื่อพวกเขาจะลงไปอยู่ในบัญชีนั่นอย่างแน่นอน





   “ปอม!”




   เสียงทุ้มต่ำที่ดังแทรกคำอ้อนวอนของอ้นและก๊อบแก๊บขึ้นมาเรียกให้คนทั้งหมดตรงโต๊ะนั้นต้องหันไปมองหาที่มา   โดยเฉพาะคนเป็นเจ้าของชื่อ   หัวใจที่ห่อเหี่ยวเมื่อครู่กลับเต้นแรงขึ้นทันทีที่ได้ยิน   แม้ไม่ต้องเห็นหน้าก็รู้ได้ว่าเสียงนั้นเป็นของใคร...แม้ไม่คิดว่าจะโผล่มาในเวลาแบบนี้ก็เถอะ



   
   “พี่วิน!”




   ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ปรากฏกายอยู่ตรงนั้นอยู่ในชุดลำลองที่แม้ดูผ่านๆก็บอกได้ว่าคงรีบใส่มาก   เพราะกระดุมเสื้อเชิ๊ตลายสก็อตบนตัวยังติดไม่ครบด้วยซ้ำ

   “เกิดอะไรขึ้นปอม   ทำไมหน้าเป็นอย่างนั้น” จากที่ใจไม่ดีอยู่แล้ว   เมื่อเห็นรอยเขียวๆม่วงๆบนใบหน้าเด็กหนุ่มที่คุ้นเคยเขาก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติ   สองมือหนาจับร่างเล็กพลิกสำรวจรอยช้ำไปมา

   หากแต่ยังไม่ทันจะได้เล่าอะไร   เจ้าหน้าที่วัยกลางคนก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน “คุณเป็นผู้ปกครองของเด็กคนนี้เหรอครับ...”

   “เอ่อ...ก็ทำนองนั้นครับ   มีเรื่องอะไรกันหรือครับ” กวินควบคุมสติให้กลับมาสุขุมอย่างที่ควรจะเป็นในเวลาแบบนี้ได้ในที่สุด

   “ผมกำลังจะให้เขาลงบันทึกประจำวันเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดคดีเมาแล้วขับน่ะครับ  อ้อ...แล้วก็มีเรื่องทะเลาะวิวาทด้วย”

   ช่างภาพหนุ่มก้มลงมองหน้าจักรวาลสลับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจครู่หนึ่ง   ในหัวพยายามคิดหาทางออก   จนในที่สุดเขาก็เอ่ยปากขออนุญาตคุยกับชายวัยกลางคนตรงหน้าเพียงลำพัง   
.
.

.


.
   นักศึกษามหาวิทยาลัยทั้งห้าคนพากันออกมานั่งรอบริเวณส่วนต้อนรับที่ห่างออกมาเล็กน้อยพอให้ไม่ได้ยินสิ่งที่กวินพูดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอารมณ์ขุ่นมัวกันถ้วนหน้า...

   เมื่อได้โอกาสก๊อบแก๊บก็รีบกล่าวขอโทษขอโพยเพื่อนทั้งหมดที่ทำให้ต้องมาติดร่างแหเรื่องโง่ๆอย่างนี้ไปด้วย   ซึ่งคนอื่นๆเองก็ได้แต่ปลอบใจกลับไป

   “ช่างมันเหอะไอ้แก๊บ   บทเรียนเว้ยบทเรียน” อ้นกล่าวพลางลูบหัวลูบหลังไอ้เจ้าตัวต้นเรื่องอย่างไม่ถือสาหาความ   ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปเรื่องผู้ใหญ่ที่เพิ่งมาใหม่ด้วยความสนใจ   สายตากังวลมองเลยไปทางช่างภาพคนดังที่นั่งเจรจาอยู่ที่โต๊ะตัวที่พวกเขาเพิ่งลุกจากมา “ท่านกวินของมึงมาได้ยังไงวะ”

   จักรวาลขมวดคิ้วส่ายหน้า “กูก็ไม่รู้เหมือนกัน   ตะกี้เขาโทรมากูแค่บอกไปว่าอยู่ที่โรงพัก   แล้วก็อย่างที่มึงเห็นเนี่ยแหละ”

   “เขาแม่งดีกับมึงจังวะ” เม้งกล่าวขึ้นพลางมองไปทางกวินเช่นเดียวกัน

   ได้ยินอย่างนั้นจักรวาลก็พูดขึ้นเบาๆ “อืม...เขาแม่งดีกับกูทุกอย่างเลยว่ะ...”

   แล้วคำถามที่ได้จากอ้นในวินาทีต่อมาก็ทำเอาเด็กหนุ่มต้องรีบเงยหน้าขึ้นมาตั้งท่าจะปฏิเสธแทนคนถูกกล่าวหาทันที

   

   “กูว่าเขาคิดอะไรกับมึงชัวร์เลย”



   หากแต่ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะทันแย้งอะไรออกไป    กวินที่ลุกขึ้นจากที่นั่งและเดินตรงมาทางพวกเขาก็ทำให้ต้องหยุดพูดลงไปโดยปริยาย

   ใบหน้าหล่อเหลาบัดนี้ดูเรียบขรึมไม่บ่งบอกความรู้สึกใดๆ

   “กลับบ้านกันได้แล้วล่ะ  ฉันเคลียร์ให้แล้ว” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นขณะที่สายตากวาดมองบรรดาลูกศิษย์ของพี่ชายที่เขาพอจะจำหน้าได้ทั้งสี่คน   ก่อนจะหยุดสายตาลงที่คนที่คุ้นเคยที่สุด “ส่วนนาย..กลับกันฉัน”

   ได้ยินดังนั้นผู้ฟังทั้งหมดก็ยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ  แล้วก็พากันยกมือไหว้ชายหนุ่มตรงหน้าประหลกๆอย่างรู้สึกติดหนี้บุญคุณ

   กวินกล่าวเตือนว่าให้จำไว้เป็นบทเรียนตามประสาคนเป็นผู้ใหญ่กว่าอีกนิดหน่อยก่อนจะขอตัวพา 'เด็กในความดูแล' กลับไป

   และก่อนจากกัน   อ้นก็ไม่วายแอบยื่นหน้ามากระซิบกับจักรวาลให้ได้ยินกันเพียงสองคน...



   “เสี่ยมึงแม่งเจ๋งสุดๆเลยว่ะ”



๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



   ตลอดเส้นทางที่ผ่านมามีเพียงความเงียบเกิดขึ้นภายในรถ   ช่างภาพหนุ่มที่นั่งบังคับพวงมาลัยอยู่ดูนิ่งขรึมไปเหมือนครั้งที่เพิ่งเจอกันแรกๆจนจักรวาลไม่แน่ใจว่าตนควรจะทำตัวอย่างไรกับสถานการณ์แบบนี้ดี

   แต่ในที่สุดเมื่อเห็นว่าอีกคนไม่คิดจะพูดอะไรขึ้นมาจริงๆ   เขาในฐานะคนได้รับความช่วยเหลือจึงตัดสินใจกล่าวขึ้นก่อนด้วยความรู้สึกผิดที่ทำให้ชายหนุ่มต้องขับรถออกจากบ้านมากลางดึกกลางดื่นแบบนี้โดยไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำ

   “ขอบคุณมากๆเลยนะครับพี่...” ประโยคที่ส่งออกไป  ราวกับเป็นการหยั่งเชิงอารมณ์ของอีกฝ่าย “...แล้วก็...เอ่อ...ขอโทษครับที่ทำให้ต้องลำบากแบบนี้”

   กวินปรายตามองคนพูดเพียงแวบเดียวก่อนตอบกลับไปเรียบๆ “ไม่เป็นไร”

   ได้ยินน้ำเสียงอย่างนั้นก็ทำเอาคนฟังเหงื่อตก...โหมดเย็นชาของคนข้างๆนี่มันน่ากลัวดีจริงๆ

   “เอ่อ...พี่โกรธผมเหรอครับ” จักรวาลกล่าวถามต่อเสียงเจื่อน

   เจื่อนซะจนคนที่กำลังหงุดหงิดก็หงุดหงิดต่อได้อีกไม่นาน...

   

   ช่างภาพคนดังถอนหายใจออกมาเบาๆ “เปล่า...ฉันแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมนายต้องเอาตัวเข้าไปทำอะไรอันตรายแบบนั้นต่างหาก”



   ใบหน้าเรียวได้รูปก้มลงต่ำพลางตอบเสียงงึมงำด้วยรู้ตัวว่าผิดแต่ก็ยังอยากแก้ตัว “เพื่อนโดนรุม   เป็นใครก็ต้องช่วย...”

   “ด้วยการเอาตัวเข้าไปเจ็บด้วย?”

   “ก็....” แล้วจักรวาลก็หยุดไว้แค่นั้นเนื่องจากคิดได้ว่ามันยังมีวิธีช่วยที่ดีกว่านี้อีกหลายวิธีหากได้ใช้สติคิดจริงๆ

   “คราวหลังจะทำอะไรคิดหน้าคิดหลังให้มันดีๆ   ไม่ใช่วู่วามแบบนี้   นี่ดีที่ไม่เป็นอะไรมาก   แต่ถ้าเกิดซวยเจ็บหนักขึ้นมาคิดบ้างหรือเปล่าว่าแม่ที่อยู่ต่างจังหวัดจะรู้สึกยังไง” ได้ทีชายหนุ่มก็ถือโอกาสสอนคนที่อายุน้อยกว่าทันที    อยากจะพูดเหลือเกินว่า...ไม่ใช่แค่แม่ที่อยู่ต่างจังหวัดหรอก   ตัวเขาด้วยเหมือนกันนั่นแหละ

   คนถูกสอนได้แต่ทำคอตกรับคำเบาๆอย่างสิ้นฤทธิ์   ในหัวนึกภาพตอนที่ตนอยู่ในวงตะลุมบอนเมื่อครู่แล้วก็รู้สึกสมเพชตัวเองเบาๆ   

   “เอาเถอะ   เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป   จำไว้แล้วอย่าทำอีกแล้วกัน” กวินกล่าวจบเรื่องนี้พลางหักพวงมาลัยไปทางแยกที่ไม่ใช่ทางไปหอพักของเด็กหนุ่ม “ฉันขี้เกียจวกไปส่งนายที่หอแล้ว   คืนนี้นอนห้องฉันแล้วกัน” เสียงทุ้มต่ำกล่าวเพียงแค่นั้นก่อนเลี้ยวรถเข้าในบริเวณที่จอดรถของคอนโด

   เห็นดังนั้น   คนที่ไม่ควรจะมีปากมีเสียงในสถานการณ์แบบนี้อยู่แล้วก็ยิ่งทำได้แต่นั่งเงียบๆเท่านั้น


๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



   ร่างเล็กในชุดนอนตัวโคร่งของเจ้าของห้องตัวเดิมกับที่เคยใส่เมื่อครั้งที่แล้วเดินถือผ้าขนหนูออกมาจากห้องน้ำ

   เมื่อครู่ตอนได้สำรวจใบหน้าของตนเองชัดๆในกระจกเป็นครั้งแรก   เด็กหนุ่มก็แทบจะสบถออกมาดังๆด้วยความเจ็บใจพลางนึกไปถึงหน้าแม่ที่ต่างจังหวัดถ้าหากได้เห็นร่องรอยเหล่านี้   

   

   ตาขวาเขียว  หน้าผากปูด   แก้มซ้ายถลอก  ปากเจ่อ

   

   สภาพทุเรศสุดๆ....



   เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดออก   คนที่นั่งดูข่าวรอบดึกรออยู่ที่โซฟาอยู่แล้วก็กวักมือเรียกเด็กหนุ่มให้เข้ามาหา

   “มานั่งนี่สิ”

   จักรวาลทิ้งตัวลงนั่งข้างๆอย่างว่าง่าย   แต่เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นกล่องยาที่วางอยู่บนโต๊ะตัวเตี้ยตรงหน้า   เด็กหนุ่มก็กระถดร่างหนีตามสัญชาตญาณทันที

   คนเป็นผู้ใหญ่กว่าที่วันนี้ดูจะขรึมดุเป็นพิเศษเห็นปฏิกิริยาอย่างนั้นก็รู้ทัน   ท่อนแขนยาวจึงเอื้อมมายึดไหล่บางไว้ไม่ให้ถอยไปไกลกว่านี้

   “ทีตอนต่อยกันล่ะไม่กลัว   แค่ทายาจะไปกลัวอะไร” ชายหนุ่มกล่าวด้วยสีหน้าที่พักหลังมานี้จักรวาลแทบจะไม่ได้เห็นมันเลย “เขยิบมานี่   จะเอาแผลไหนก่อนฉันให้เลือก”

   หัวกลมๆสั่นดิกจนผมที่ยังเปียกอยู่กระจายจนน้ำกระเด็น “ไม่ต้องๆ  เดี๋ยวผมทาเองดีกว่า   วันนี้รบกวนพี่มาเยอะแล้ว  พี่ไปนอนเถอะ” และยิ่งนึกไปถึงสภาพแผลที่เห็นในกระจกเมื่อครู่   เด็กหนุ่มก็ยิ่งต้องขืนตัวออก

   
   ก็นะ...แต่ละแผลมันแผลเปิดทั้งนั้น...


   เจอไอ้ขวดฟ้าๆนั่นเข้าไปมีหวังได้ชักดิ้นชักงอไปทั้งคืนแน่ๆ


   “ปอม!” กวินเอ่ยเสียงเข้ม “อย่าดื้อได้ไหม!”

   พูดจบชายหนุ่มก็เป็นฝ่ายขยับตัวเข้าไปใกล้คนที่ตั้งท่าจะลุกหนีเสียเอง   แขนข้างหนึ่งเอื้อมไปล็อกคอเจ้าหนูนั่นไว้ในขณะที่อีกข้างที่ว่างก็เปิดฝากล่องยาออกอย่างรวดเร็ว

   “เห้ยพี่  ไม่เอาดิ...ยาแดงพอๆ   ไม่เอาขวดนั้น” สองมือพยายามปัดป้องฝ่ามือใหญ่ที่กำลังชุบสำลีกับขวดแอลกอฮอล์    ที่ผ่านมาทำตัวว่านอนสอนง่ายมานาน   แต่วันนี้ขอหน่อยเหอะ...ความเจ็บมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ

   

   หากแต่สุดท้ายคนแรงเยอะกว่าก็ต้องเป็นฝ่ายชนะไปตามสัจธรรม...



   สำลีที่แตะลงมาบนแก้มเป็นที่แรกทำเอาเด็กหนุ่มสะดุ้งสุดตัว   เมื่อรู้ว่าดิ้นไปก็สู้แรงคนตรงหน้าไม่ได้ถึงได้ยอมนั่งนิ่งๆในที่สุด   แต่พอเจอของแสบก็ไม่วายต้องท้วงออกมาเป็นคำพูดอีกครั้ง

   “เจ็บ!  ผมขอทำเองๆ  นะๆ”

   กวินยังคงขยับมืออย่างคล่องแคล่วโดยไม่สนใจเสียงที่ดังประท้วงเป็นระยะๆเลย   เรื่องอื่นเขายอมให้ได้   แต่เรื่องเลือดตกยางออกแบบนี้คงต้องทำใจแข็ง

   ชายหนุ่มทำแผลอย่างเบามือที่สุด...


   จากแก้ม...เลื่อนมาที่ตา

   จากตา...เลื่อนมาที่หน้าผาก

   และจากหน้าผาก...




   ...เลื่อนมาที่ริมฝีปาก




   แม้ที่มุมปากของเด็กหนุ่มจะบวมเจ่อน้อยๆ   แต่กระนั้นสีสันสดใสของมันก็ล่อตาล่อใจกวินเหลือเกิน   ยิ่งได้ใช้นิ้วสัมผัสในระยะที่หน้าประชิดเสียขนาดนี้ก็ยิ่งทำเอาตาลายได้ง่ายๆ

   นิ้วเรียวยาวขยับแต้มยาลงบนกลีบปากบางอย่างแผ่วเบา...



   จักรวาลหยุดประท้วงลงเมื่อเห็นแววตาประหลาดจากคนตรงหน้า   เด็กหนุ่มขมวดคิ้วมองอาการเหม่อลอยของกวินในขณะที่นิ้วยังคงขยับทาแผลให้เขาไม่หยุดอย่างแปลกใจ

   ฉับพลัน  โดยไม่ทันตั้งตัว   ดวงตาคู่คมที่จับจ้องที่ริมฝีปากของเขาอยู่เมื่อครู่ก็เปลี่ยนทิศทางขึ้นมาสบกับตาของเขาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

   นิ้วที่ยังคงค้างอยู่ที่ริมฝีปากหยุดลงไปแล้ว

   เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่มองนิ่งๆไม่พูดอะไร   ตัวเขาเองก็ทำอะไรไม่ถูกเลยได้แต่มองกลับเช่นกัน   และเหตุการณ์ก็ดำเนินไปอย่างนั้นอยู่นานเกือบเป็นนาที


   
   จักรวาลกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ



   ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้ขึ้นเป็นลำดับ   ในขณะที่ดวงตายังคงสบนิ่งอยู่ที่เดิม...



   ไม่แน่ใจ...ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ากวินมีจุดประสงค์อะไร...แต่เขาก็....







   'กูว่าเขาคิดอะไรกับมึงชัวร์เลย'






   จู่ๆเสียงแหบห้าวของอ้นที่พูดทิ้งเอาไว้เมื่อตอนอยู่ที่โรงพักก็ดังก้องขึ้นในหัวอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย   
   
   เด็กหนุ่มสะดุ้งขึ้นสุดตัวก่อนจะปัดมือที่วางค้างอยู่ที่ปากเขาออกแล้วจึงโวยวายขึ้นมาเรียกให้อีกฝ่ายผงะออกไปเช่นกัน “เจ็บๆๆๆ   อย่ากดแรงสิพี่!”

   “อ๊ะ!  ขอโทษทีๆ” ทันทีที่สติสตังบินกลับสู่ร่าง   กวินก็แทบจะกำหมัดต่อยหน้าตัวเอง...



   ….เกือบไปแล้วไหมล่ะ....
.
.

.


.
   ในที่สุด  แผลบนใบหน้าเด็กหนุ่มก็ถูกจัดการจนเรียบร้อยทั้งหมด   ทั้งพลาสเตอร์ยา  ทั้งผ้าก็อซแปะอยู่ไปทั่วจนดูแทบไม่ได้

   กวินหัวเราะกับสภาพของคนตรงหน้า “ฉันถ่ายรูปเก็บไว้ให้พี่วิทย์ดูดีไหมเนี่ย   จะได้รู้ว่าลูกศิษย์คนโปรดจริงๆแล้วเป็นนักเลงหัวไม้”

   “ผมรักเพื่อนต่างหาก  ไม่ใช่นักเลง”

   “ไม่ต้องเถียงแล้วๆ   คืนนี้เป็นอะไร...ดื้อจริงๆ” ฝ่ามือใหญ่เอื้อมมาขยี้ผมเด็กหนุ่มด้วยความหมั่นเขี้ยว “เอาเถอะ   นี่ดึกแล้ว  เราไปนอนกันดีกว่า”

   ชายหนุ่มดันหลังจักรวาลให้ออกเดิน

   สองสามก้าวแรกเด็กหนุ่มก็ขยับเท้าไปอย่างปกติดี



   แต่...




   เสียงแทรกของอ้นมันมักมาถูกที่ถูกเวลาเสมอในเวลาแบบนี้






   'เหมือนมึงเป็น....เด็กเสี่ย...'






   “เอ่อพี่วิน...ผมว่าคืนนี้ผมนอนโซฟาดีกว่าครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยออกมาเสียงเจื่อน    ก็นะ...ไม่ได้คิดจริงจังหรอก   แต่ยังไงคำว่า 'เด็กเสี่ย' มันก็ฟังดูน่าขนลุกชอบกล

   คนฟังเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ

   “ทำไมอีก?  วันก่อนก็เคยเข้าไปนอนด้วยกันทีนึงแล้วไม่ใช่เหรอ”

   “พี่นอนดิ้น...เดี๋ยวฟาดมาโดนหน้าผมแล้วตื่นมาก็ได้แผลเพิ่มกันพอดี” ไม่พูดเปล่า   เด็กหนุ่มเดินไปจับจองโซฟาตัวที่ว่าไว้เสียแล้ว

   กวินขมวดคิ้วมองอากัปกิริยานั่นอย่างขัดใจ

   



   แต่สุดท้ายเมื่อเถียงกันต่อพอหอมปากหอมคอแล้ว   ชายหนุ่มก็จำต้องเดินคอตกกลับเข้าห้องของตนไปเพียงลำพัง....





TBC.

zaabbo

  • บุคคลทั่วไป
 :z13: :z13: :z13:

จิ้มจึ๊กๆไว้ก่อน เดี๋ยวมาเม้น อิอิ

................................

เมื่อไหร่ปอมจะเปิดใจให้พี่วินละเนี่ย ลุ้นๆ ฮ่าๆๆ

เกือบจะได้จุ๊บๆกันด้วย  :-[

+1 ให้แล้วนะฮะ :)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-08-2012 02:04:48 โดย zaabbo »

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
มาดึกจัง

ดีนะที่อ่านหนังสือสอบเพิ่งเสร็จ แวะส่องเล้าก่อนนอน

กรี๊ด ด พี่วันน้องปอม มาเสริฟยามดึก

*แปะก่อนอ่าน*
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-08-2012 01:55:29 โดย aloney »

chaaom

  • บุคคลทั่วไป
แรกๆพี่วินมาซะเข้มเลย ทำไมตอนหลังหงอซะขนาดนี้ล่ะคะ :m20:
ปอมไม่เปิดใจเลยเนาะะ ใจแข็งมากๆ
ทำไงดี เหมือนจะคาราคาซังกันทั้งสองฝ่าย
ต่างฝ่ายต่างเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของกันและกันไปแล้ว แต่ปอมก็ยังไม่รู้ตัว
ลุ้นนๆ แต่คิดว่าคนแต่งคงไม่ใจร้ายยย :o12:

ขอบคุณนะคะ มาอัพสม่ำเสมอมากๆ อยากอ่านตอนต่อไปแล้ววว55

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
โหยยยยยยยยยยยย เริ่มจับได้แระ พี่วินเลยอดเนียนอ่ะ โหยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
หมั่นไส้คุณตำหนวด เมาแล้วขับนี่มันสมรู้ร่วมคิดได้ด้วยเหรอเนี่ย หาเรื่องกันชัดๆ
ดีนะที่พี่วินเคลียร์ให้น้องๆเรียบร้อยแล้ว
อ๊ากกก เพื่อนอ้นทำน้องปอมเริ่มถอยห่างไปทีละนิดๆแล้ว
แหม เด็กเสี่ย... เรียกซะน่าเกลียดเชียว -_-
พวกลูกน้องนี่ก็ล้อกันจัง ฮ่วย เดี๋ยวเด็กน้อยรู้ตัวก็หนีไปหรอก
น้องปอมมม พี่วินแกออกจะดีแสนดี ทั้งเอาใจใส่ ทั้งเนียนใส่ขนาดนี้แล้ว
น้องก็เปิดใจให้พี่เขาหน่อยเถอะนะ

ออฟไลน์ whipcream

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
>w< ไก่ตื่นแย้ววววววววววว

bozang

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อแล้ว กรี๊ดดดดดดดดด
ปอมเริ่มรุ้แล้วอ้ะ โอ๊ย ก็นะ พี่วินชัดขนาดนี้
แต่ปอมขา อย่าคิดมากเลย
ถ้าพี่วินเป็นเสี่ย ก็เป็นเสี่ยที่หล่อและหนุ่มมากใช่ปะล่ะ อิอิ
อย่าได้แคร์สายตาคนอื่น แต่จงแคร์หัวใจตนเอง นะจ๊ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด