หัวใจหลังเลนส์ #ตอนจบ และ บทส่งท้าย หน้า 133
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หัวใจหลังเลนส์ #ตอนจบ และ บทส่งท้าย หน้า 133  (อ่าน 1377681 ครั้ง)

panendless

  • บุคคลทั่วไป
 :o12: พี่วินจะเป็นอะไรมากไหมอ่ะ สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกเพราะเรื่องนี้เลยนะคะ ชอบมาก ๆ จะรอน้าาาาา

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
่มาม่าต่อเนื่อง เหอะๆ

arunoki

  • บุคคลทั่วไป
หัวใจหลังเลนส์
#24





   นัยน์ตาดำขลับจับจ้องไปยังร่างสูงใหญ่ที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงอย่างเหม่อลอย    เมื่อสักสามสี่ชั่วโมงก่อน   หลังจากเข้าห้องฉุกเฉินไปพักใหญ่   ชายหนุ่มก็ถูกเข็นออกมาในสภาพหลับไปแล้ว   โดยหมอบอกพวกเขาว่านอกจากอาการกระดูกร้าวที่แขนขวา   และแผลที่ได้จากตะปูบนแผ่นหลัง   ก็ไม่มีอะไรอันตรายร้ายแรง   เพียงแต่คงต้องให้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสักสองสามวัน

   พี่ๆที่บริษัทคนอื่นพากันกลับไปตั้งนานแล้ว   แต่เขายังไม่อยากไปไหน...

   ความรู้สึกเจ็บในอกยังคงชัดเจน   เขาโกรธตัวเอง...ที่มองกวินในแง่ร้าย   

   แม้หมอจะบอกว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง   แต่สีหน้ายามหลับของคนป่วยในยามนี้ก็ดูซีดเซียวไม่มีชีวิตชีวาเอาเสียเลย   ยิ่งได้นั่งมองก็ยิ่งรู้สึกใจเสีย



   จักรวาลหลุดออกจากภวังค์เมื่อเห็นคนบนเตียงเริ่มขยับตัวเล็กน้อย   ก่อนที่ดวงตาคมดุที่คุ้นเคยคู่นั้นจะค่อยๆเปิดออก...



   ชายหนุ่มนอนนิ่งกวาดตามองสภาพรอบด้านอย่างมึนงงครู่หนึ่ง   ภาพเหตุการณ์ในสตูดิโอเริ่มไหลกลับเข้ามาในสมอง   จำได้ดีถึงความตกใจแทบสิ้นสติตอนที่เห็นร่างเล็กๆนั่นกำลังจะถูกฉากชิ้นโตล้มทับ   แล้วเพียงไม่นานความรู้สึกเจ็บปวดบนแผ่นหลังและแขนขาก็ตามมา

   เมื่อเห็นคนบนเตียงนิ่วหน้า   เด็กหนุ่มก็รีบลุกเข้าไปดูใกล้ๆ

   “พี่วิน! เป็นอะไรหรือเปล่าครับ   ผมตามหมอให้นะ” นิ้วเรียวทำท่าจะกดปุ่มเรียกพยาบาล   แต่ก็ถูกหยุดไว้ด้วยเสียงแหบพร่าของอีกคน

   “ไม่ต้องๆ...ฉันไม่เป็นไร” กวินจ้องมองใบหน้าของเด็กหนุ่มไปด้วยในขณะที่พูด  นึกดีใจที่เขาเข้าไปช่วยไว้ทัน   ไม่อย่างนั้นคนที่มานอนอยู่บนเตียงนี้คงเป็นเจ้าหนูเขาของแน่นอน   และที่สำคัญ   คงจะได้รับบาดเจ็บมากกว่าที่เขาเป็นอยู่...

   แต่กระนั้น   ความอัดอั้นตันใจที่มีตลอดสามสี่วันที่ผ่านมาก็ยังคงกัดกินทุกอณุของความรู้สึก...

   “หิวน้ำหรือเปล่าครับ? ผมเอาให้นะ” จักรวาลรินน้ำในขวดใส่แก้วแล้วยื่นให้คนที่นอนอยู่    ก่อนจะต้องหันไปวางมันลงที่เดิมเมื่อกวินยกแขนข้างที่ไม่ได้ใส่เฝือกขึ้นเป็นเชิงปฏิเสธ   ริมฝีปากได้รูปเอ่ยถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา...





   “โกรธอะไรเหรอปอม?”






   “ครับ?” คนฟังเลิกคิ้วขึ้นด้วยความงุนงง 

   สีหน้าที่ดูจะแย่อยู่แล้วยิ่งดูเคร่งเครียดเข้าไปอีกเมื่อตัดสินใจพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา “ที่นายย้ายโต๊ะออกไปนี่เพราะโกรธฉันใช่ไหม...บอกหน่อยได้หรือเปล่าว่าเรื่องอะไร...”

   ได้ยินดังนั้นเด็กหนุ่มก็หัวใจกระตุกวูบ   จะให้ตอบว่าอะไรดีล่ะทีนี้...ถูกถามเข้าจังๆเขาก็ตั้งตัวไม่ถูก

   คนถูกถามส่ายหน้าเบาๆ “ไม่ได้โกรธหรอกครับ   ผมแค่...”

   “อย่าตอบว่าแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศนะ   เพราะฉันรู้ว่ามันไม่ใช่...มีอะไรไม่พอใจก็บอกตรงๆเถอะ   ขอร้อง...” เสียงทุ้มต่ำที่ส่งออกมาฟังดูเว้าวอนเสียจนจักรวาลต้องเผลอตัวกัดริมฝีปากระบายความอึดอัด   ดวงตาคู่เรียวปิดลงอย่างใช้ความคิด   ควรจะพูดออกไปจริงๆหรือ...สิ่งที่เขาคิดน่ะ



   แล้วในที่สุดเด็กหนุ่มก็ตัดสินใจส่งคำถามถามกลับไปแทนคำตอบ...



   “ผมได้เข้ามาทำงานที่บริษัทนี้เพราะอะไรเหรอครับ...?”



   กวินขมวดคิ้วกับสิ่งที่ถูกส่งมา   แต่ก็ยอมตอบออกไปแม้จะยังไม่เข้าใจเจตนาของอีกฝ่ายดีนัก “ก็นายมีแวว   ฉันคิดว่าถ้าได้พัฒนาฝีมืออีกนิด   นายจะไปได้ดีในอาชีพนี้....ถามทำไมเหรอ?”

   “...แล้วที่พี่ให้ผมเข้าไปนั่งในห้องทำงานส่วนตัวด้วยนี่...ทำไมเหรอครับ?”

   คราวนี้...กวินก็เริ่มจะเข้าใจอะไรมากขึ้น....

   “ก็...นายจะได้เรียนรู้เร็วๆ...” ชายหนุ่มตอบออกไปไม่เต็มเสียง   รู้ดีอยู่แก่ใจว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น

   และดูเหมือนคนถามเองก็คิดเหมือนกัน...

   ความอยากรู้ไม่ได้ถูกส่งออกมา   จักรวาลไม่มีความกล้าพอที่จะเปิดประเด็น...แค่เป็นต้นเหตุทำให้กวินต้องเจ็บตัวก็แย่พออยู่แล้ว   บทสนทนาจึงค้างเติ่งอย่างนั้นไปดื้อๆ

   เมื่อเงียบกันไปนานสองนาน   สุดท้ายก็ต้องเป็นคนบนเตียงที่ตัดสินใจสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วถามกลับไป...



   “แล้วนาย...คิดว่าฉันให้นายมาทำงานในห้องด้วย...เพราะอะไร?”



   ใบหน้าเรียวได้รูปเงยขึ้นสบสายตากับชายหนุ่มอย่างชั่งใจ   ความลังเลที่มีอยู่เต็มหัวใจทำให้เขาเผลอกัดริมฝีปากตัวเองแรงๆจนเจ็บไปหมด

   “อย่ากัดปากสิ   รู้ตัวไหมว่าเวลาเครียดนายชอบกัดปาก...”

   แนวฟันละออกจากริมฝีปากทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น...

   “ตอบมาสิปอม...”

   เมื่อถูกเร่งเร้าจากคนตรงหน้าเด็กหนุ่มก็ผ่อนลมหายใจออกมาแรงๆด้วยความหนักใจ   จะดีจริงๆหรือถ้าให้ตอบออกไปตามตรง   ในเมื่อสิ่งที่เขาคิดมันไม่ใช่เรื่องน่าฟังเลยสักนิดเดียว...แต่ความจริงเขาเองก็อยากจะรู้ว่าเรื่องจริงคืออะไร...

   ความเงียบที่เกิดขึ้นจากการที่จักรวาลนิ่งคิดไปนั้น   ทำให้กวินทนไม่ได้ในที่สุด   ชายหนุ่มไม่รอให้อีกฝ่ายเป็นคนตอบออกมาอีกแล้ว...



   “นายเคยคิดว่าฉันชอบ...เอ่อ...แบบว่า...ฉวยโอกาสหรือแต๊ะอั๋งอะไรแบบนั้นบ้างหรือเปล่า...?”



   ได้ฟังดังนั้นดวงตาคู่เรียวก็เบิกกว้างขึ้นน้อยๆ   สรุปว่ากวินรู้...ว่าเขาคิดอะไร....

   สุดท้ายเด็กหนุ่มก็ตัดสินใจพยักหน้าเบาๆอย่างรู้สึกผิดส่งไปแทนคำพูด



   กวินผ่อนลมหายใจออกระบายความอึดอัด “เรื่องนี้จริงๆด้วยสินะ...” นับเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของเขาเองที่คอยแต่จะบุ่มบ่ามเข้าหา    ไม่แปลกเลยที่จักรวาลจะคิดหนีเขาไป   โง่จริง...ไอ้วิน



   แต่กระนั้น   เขารู้สึกว่านี่ไม่ใช่ประเด็นเดียวที่ทำให้เด็กหนุ่มตีตัวออกห่าง



   “ยังมีเรื่องอื่นด้วยใช่ไหม?  บอกมาให้หมดเลยได้หรือเปล่า   ฉันจะได้อธิบายทีละเรื่อง”

   จักรวาลนิ่งสบตากับคนตรงหน้าอย่างลังเล...

   แต่ไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้ว   พูดออกไปตรงๆอาจจะดีกว่า

   

   “พี่วิน...ชอบให้ของแพงๆกับผม...”



   ฟังจบประโยค...กวินก็ต้องหลับตาลงอย่างเจ็บปวด   เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี่มันมาจากพฤติกรรมไม่น่าไว้ใจของเขาทั้งนั้นเลย   เขาคงพลาดไปแล้ว...

   หวังว่าจักรวาลคงยังไม่หมดความเชื่อถือในตัวเขาจนกลายเป็นเกลียดกันไปแล้วหรอกนะ...

   ถึงเวลานี้   คงต้องทำทุกอย่างให้มันชัดเจน...



   “จริงอยู่ที่ฉันอาจจะชอบอยู่ใกล้ๆนาย  ชอบให้นู่นให้นี่...แต่ที่ทำไปทั้งหมดมันมีเหตุผลนะ...ไม่ใช่แค่เรื่องฉาบฉวยแน่นอน”

   จักรวาลจ้องกลับไปยังคนพูดด้วยนัยน์ตาสั่นระริก

   “นายอาจจะคิดว่าฉันเป็นผู้ใหญ่แบบที่คอยจ้องจะหลอกเด็ก...หรือเป็นผู้ใหญ่ที่เอาแต่คิดเรื่องลามกอะไรแบบนั้น...” พูดไปชายหนุ่มก็รู้สึกกระดากปาก   เกิดมาไม่เคยคิดว่าต้องมาพูดอะไรแบบนี้กับใครทั้งนั้น...โดยเฉพาะกับเด็กผู้ชาย “แต่ฉันสาบานได้นะว่าไม่เคยคิดอกุศลกับนาย   ฉันไม่เคยคิดอยากหิ้วนายขึ้นห้อง  หรือเอาไปเลี้ยงดู  หรือ...อะไรก็ตามที่นายคิดอยู่...”

   ถึงตรงนี้คนฟังก็รู้สึกจุกในอก   ดวงตาคู่เรียวกวาดมองไปทั่วใบหน้าของชายหนุ่ม   สีหน้าแบบนั้น...แววตาแบบนั้น   เขาคิดไปได้ยังไงกันว่ากวินจะคิดเรื่องไม่ดี... “ขอโทษครับพี่วิน....” เด็กหนุ่มกล่าวออกมาเสียงแผ่ว   น้ำตาเริ่มเอ่อขึ้นมาบังลูกตาไว้อีกครั้ง...วันนี้เป็นวันอะไรนะ   เขาถึงต้องมาร้องไห้สองสามรอบติดๆกันแบบนี้

   คนมองรีบสั่นศีรษะปฏิเสธ “จะขอโทษทำไม   ฉันผิดเองที่แสดงออกไปแบบนั้น...ไม่ต้องขอโทษ” แค่เห็นคนตรงหน้าเริ่มตาแดงๆเขาก็ใจอ่อนยวบลงไปแล้ว   ชายหนุ่มรีบระล่ำระลักกล่าวต่อ

   “ทุกอย่างที่ฉันแสดงออก...อย่างที่บอกว่ามันมีเหตุผล...”

   เด็กหนุ่มมองร่างบนเตียงผ่านม่านน้ำตา

   “อาจจะฟังดูไม่เข้าหู...แต่มันคือสิ่งที่ฉันรู้สึกจริงๆ...ไม่ใช่แค่อารมณ์ชั่ววูบแน่นอน...”

   

   เสียงทุ้มต่ำที่บัดนี้แหบพร่าเว้นวรรคไปพักใหญ่  กวินสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเรียกกำลังใจให้ตัวเอง  ในขณะที่เด็กหนุ่มได้แต่ยืนกลั้นหายใจเพื่อรอฟัง...






   “ทุกอย่างที่ทำไป....เป็นเพราะ....






   ….ฉันชอบนาย....”







   หยดน้ำตาเม็ดโตร่วงหล่นลงจากดวงตาคู่เรียว...ในใจรู้สึกเหมือนลูกโป่งที่ถูกสูบลมเข้าไปแต่ติดที่ว่ามันอยู่ในกล่องแคบๆที่ทำให้ไม่สามารถพองโตได้อย่างใจอยาก

   ประหลาดหรือเปล่า...ที่เขารู้สึกทั้งดีและร้ายในเวลาเดียวกันแบบนี้





   กวินยังคงเดินหน้ากล่าวต่ออย่างใจไม่ดีเมื่อเห็นปฏิกิริยาจากคนตรงหน้า   อย่าบอกว่าครั้งนี้เขาทำพลาดอีกแล้วนะ...

   “ฉันชอบนายแบบที่ผู้ชายคนนึงจะคิดกับคนที่เขาอยากใช้ชีวิตด้วย...ไม่ใช่แค่อยากนอนด้วย...เข้าใจที่ฉันพูดหรือเปล่า...นายไม่ต้องตอบรับตอนนี้ก็ได้...ฉันอยากขอแค่โอกาสให้ฉันได้ลองพิสูจน์ตัวเองก็ยังดี...ได้หรือเปล่าปอม...?”




   ได้ยินอย่างนั้นน้ำตาก็พากันพรั่งพรูออกมามากกว่าเก่า   รู้สึกเหมือนถูกใครเอามีดมาแทงเข้าที่อก   เสียงปฏิเสธดังตีกันไปมาในสมองทั้งที่หัวใจกลับรู้สึกอยากเดินเข้าไปซุกกอดคนตรงหน้าเหลือเกิน



   ทำไมทุกอย่างถึงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้...

   ทำไมกลไกบางอย่างในตัวเขามันถึงทำงานสวนทางกันได้ขนาดนี้...




   “ปอม...” ชายหนุ่มเอ่ยเรียกขึ้นด้วยความรู้สึกร้าวในใจ   ตอนนี้คนที่เขาเพิ่งบอกรักไปกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น   น้ำตานองเปรอะไปทั่วใบหน้า...

   

   หากแต่แทนที่จะพูดอะไรกลับมา   เด็กหนุ่มกลับส่ายหน้าแรงๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า...



   โดยไม่ต้องมีคำพูดใดๆ   อาการของคนตรงหน้าก็อธิบายทุกอย่างได้เป็นอย่างดี...

   รู้หรือยัง...ว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไรกับเขา   ชัดเจนดีหรือยังกวิน...

   ชายหนุ่มละสายตาออกจากร่างเล็กที่ยืนตัวสั่นด้วยแรงสะอื้น   มองไปก็มีแต่จะทำให้หัวใจถูกบีบมากขึ้นไปอีก   ดันทุรังอยู่แบบนี้ทุกอย่างคงยิ่งแย่ลง   และแค่เห็นจักรวาลร้องไห้เพราะเขาก็แทบจะเกลียดตัวเองเสียแล้ว..



   “อย่าร้อง...ช่างมันเถอะปอม...ลืมที่ฉันพูดไปนะ...แล้วหยุดร้องไห้เถอะ” ชายหนุ่มกล่าวออกไปทั้งที่สายตาเอาแต่จ้องมองที่พื้น

   เคยได้ยินไหมว่า...ยิ่งปลอบยิ่งร้อง...

   แทนที่จะหยุดร้อง   จักรวาลกลับยิ่งสะอื้นหนักกว่าเก่า

   “พี่วิน...ฮึก...ผมขอโทษ...”

   สุ้มเสียงที่ได้ยินจากเด็กหนุ่มเสียดแทงเข้าไปในใจคนฟัง...ไม่ว่าจะคิดในมุมไหน   ก็เจ็บปวดทั้งนั้น

   “อย่าร้อง...ไม่เอาไม่ร้องนะเด็กดี...”

   ชายหนุ่มได้แต่พร่ำบอกอย่างนั้นซ้ำไปซ้ำมา   ทั้งที่ในใจเขาเองก็อยากร้องไห้ไม่แพ้กัน...

   

   สุดท้ายเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีขึ้น   และเขา...ก็เริ่มจะทนไม่ไหวอีกต่อไป   เสียงทุ้มต่ำจึงเอ่ยปากออกมาเบาๆ...



   “วันนี้...นายกลับไปก่อนได้ไหม   ฉันขออยู่คนเดียวหน่อยนะ...อย่าเครียดล่ะ   ฉันบอกแล้วให้ลืมมันไป   พอเจอกันที่ทำงานอีกทีก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วกัน...โอเคไหม..”

   เด็กหนุ่มมองคนที่ไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาตั้งแต่เมื่อครู่อย่างเจ็บปวด

   และเมื่อไม่เห็นว่ามีอะไรที่เขาพูดไปแล้วจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น   ร่างเล็กจึงจำต้องหมุนตัวเดินออกจากห้องไปทั้งน้ำตา   โดยไม่ลืมที่จะกล่าวย้ำคำขอโทษด้วยเสียงสั่นเครือ...
.
.

.


.
   



   

arunoki

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อก้าวพ้นกรอบประตูจักรวาลก็ต้องสะดุ้งเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ตรงนั้น



   
   “อาจารย์...สวัสดีครับ...” สองมือยกขึ้นประนมไหว้ผู้เป็นอาจารย์อย่างตกใจ

   กรวิทย์กวาดตามองสภาพของลูกศิษย์คนโปรดตรงหน้าก่อนจะต้องถอนหายใจหนักๆ   จากที่ตั้งใจจะมาเยี่ยมน้องชายตามที่ได้รับข่าวมา   แต่เมื่อมาได้ยินบทสนทนาแสนเครียดเมื่อครู่แล้ว...ท่าทางสุขภาพใจจะน่าเป็นห่วงกว่าสุขภาพกายเยอะ

   “รีบกลับหรือเปล่าจักรวาล   ไปหาที่นั่งคุยกับผมสักแป๊บได้ไหม   ผมอยากจะพูดอะไรหน่อย...”
.
.

.


.
   ร้านกาแฟไม่ใกล้ไม่ไกลจากโรงพยาบาลเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับกรณีนี้

   คนทั้งสองสั่งเพียงเครื่องดื่มมาประดับโต๊ะกันคนละแก้ว..

   “ผมได้ยินที่คุณคุยกับเจ้าวินหมดแล้วล่ะ   ขอโทษนะ...ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง..” เป็นกรวิทย์ที่เปิดประเด็นขึ้นมาก่อน   ในขณะที่อีกฝ่ายทำได้แค่ส่ายหน้าเบาๆ
      
   นับตั้งแต่วันที่น้องชายมาประกาศตัวกับเขาที่หน้าบ้านในคืนนั้น   กรวิทย์ก็พยายามโทรมากันท่าทุกวิถีทางเพราะเข้าใจว่ากวินคงจะแค่เห็นเป็นเรื่องเล่นสนุกๆ    แต่กลับกลายเป็นว่าทุกครั้งที่คุยกันผ่านโทรศัพท์   เจ้าน้องชายตัวดีจะคอยถามเรื่องของลูกศิษย์เขาอย่างสนอกสนใจตลอด   แล้วเขาเองก็เริ่มจะไม่แน่ใจแล้วว่าหรือตกลงน้องชายเขาจะตกหลุมรักจักรวาลเข้าจริงๆ



   จนกระทั่งเมื่อครู่นี้...ทุกอย่างที่ได้ฟังผ่านบานประตูห้องผู้ป่วย   แม้ไม่เห็นสีหน้า   แต่แค่เนื้อความในบทสนทนาก็ทำให้เขามั่นใจในความรู้สึกของกวินแล้ว



   และสำหรับฝ่ายลูกศิษย์เขาเอง...ท่าทางจะรู้สึกไม่ต่างกันเท่าไหร่...เพียงแต่ยังสับสนมากเท่านั้น...

   “อาจจะดูไม่เหมาะนะที่คนเป็นอาจารย์จะมาพูดอะไรแบบนี้   เอาเป็นว่าผมขอพูดในฐานะพี่ชายของเจ้าวินมันแล้วกัน...”​อาจารย์หนุ่มเกริ่นขึ้น “ตั้งแต่เล็กจนโต   ผมไม่เคยเห็นมันซีเรียสกับอะไรเลยนอกจากเรื่องถ่ายภาพ   ปกติวินเป็นคนง่ายๆสบายๆ”

   เด็กหนุ่มฟังนิ่งๆ   ในมือถือช้อนคนกาแฟในถ้วยไปมาอย่างเหม่อลอย...

   “ก็เพิ่งจะมีเมื่อกี้   ที่ผมได้ยินมันพูดอะไรแบบนั้นกับใครสักคน   ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลังจากมันค้นพบว่ามันรู้สึกกับคุณแบบไหน   มันก็คอยมาถามผมตลอดว่าคุณชอบอะไร  ไม่ชอบอะไร   ทำยังไงคุณถึงจะมีความสุข...”       

   เอาอีกแล้วสิ...น้ำตาเอ่อขึ้นมาอีกแล้ว...

   “ผมไม่รู้นะว่าคุณคิดกับมันเหมือนที่มันคิดกับคุณหรือเปล่า   แต่ที่ผมอยากจะบอกไว้อย่างคือ   ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม   ความรู้สึกของเราควรจะถูกให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกถ้ามันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน   ไม่ใช่ค่านิยมทางสังคม   จริงๆแล้วคุณทำงานด้านศิลปะน่าจะเข้าใจดีไม่ใช่เหรอ   ปัจจัยอื่นๆสำคัญก็จริง   แต่ทุกอย่างมันแก้ไขได้ไม่ยากถ้าคุณทำมันด้วยความสุข    แต่ถ้าฝืนใจ...ไม่มีอะไรช่วยคุณได้นะ”

   อาจารย์หนุ่มกล่าวสอนลูกศิษย์ตรงหน้าด้วยน้ำเสียงน่าฟัง   

   “ความจริงผมไม่ได้อยากพูดเรื่องแบบนี้   ไม่ได้อยากทำให้ลูกชายใครมาชอบผู้ชายด้วยกัน...เพราะตอนแรกผมเองก็รู้สึกแปลกๆที่รู้ว่าเจ้าวินมันชอบคุณ   ก่อนหน้านี้ก็เห็นมาควงผู้หญิงมาตลอด   แต่ถ้้ามันเกิดขึ้นแล้ว   ในเมื่อห้ามไม่ได้ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปปิดกั้น...เพราะมันมีแต่จะทำให้จิตใจย่ำแย่ลงไปกันใหญ่    อีกอย่าง...ทั้งคุณทั้งเจ้าวินเป็นช่างภาพ...ไม่ใช่นักการเมือง    ไม่มีใครมาโจมตีหรอก...ยิ่งยุคนี้แล้วด้วย...เข้าใจที่พูดหรือเปล่า?”

   คนฟังนั่งสะอื้นเงียบๆไม่ตอบอะไร

   เห็นดังนั้นกรวิทย์ก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง   ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยประโยคสุดท้ายปิดการสนทนาแสนสั้นนี้ลงไป  โดยหวังว่ามันจะช่วยอะไรน้องชายเขาได้บ้าง...

   แต่ถ้ายังไม่ได้ผลอีก...อันนี้เขาคงต้องเสียใจด้วยจริงๆ



   
   “เปิดใจตัวเองบ้างนะจักรวาล...”



๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



   ร่างเล็กนั่งคู้เข่าอยู่ข้างเตียงภายในห้องมืดมิดที่มีเพียงแสงจันทร์ลอดเข้ามาทางหน้าต่างเท่านั้น   เด็กหนุ่มหอบสะอื้นจนตัวโยน   เสียงร้องไห้ดังก้องไปทั่วห้อง...

   เขาไม่รู้ด้วยซำ้ว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับกวิน...

   ก็เพิ่งรู้วันนี้ว่ากวินคิดกับเขาแบบไหน   จะให้ไปตัดสินใจเลยมันจะกะทันหันไปหรือเปล่า

   ไม่ได้รังเกียจ...ไม่เคยคิดรังเกียจผู้ชายคนนั้นเลย   กลับกัน   เขารู้สึกดี  รู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่อยู่ใกล้กวิน

   แต่...

   ไม่ใช่เรื่องง่ายๆหากต้องยอมรับให้เรื่องความรักระหว่างผู้ชายกับผู้ชายเกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อเขาเป็นผู้ชายแท้ๆมาตลอดชีวิต...มันทำใจยากเกินไป...

   ฝ่ามือบางยกขึ้นทาบกับอกด้านซ้ายที่บัดนี้มันปวดเหลือเกิน   น้ำตายังคงไหลออกมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะแห้งลงทั้งที่เขานั่งร้องไห้อย่างนี้มาเป็นชั่วโมงแล้ว   สะอื้นจนเหนื่อยไปหมด



   ความสับสนกัดกินอยู่เต็มหัวใจ...

   

   
   ความใจดีแบบนั้น   สัมผัสอบอุ่นแบบนั้น...เขายอมได้จริงๆเหรอที่จะให้มันหายไป...



๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



   ประตูห้องพักผู้ป่วยถูกผลักเข้าไปอย่างเบามือ

   ภาพที่เห็นตรงหน้าคือร่างสูงใหญ่บนเตียงบัดนี้ไม่ได้หลับอยู่อย่างที่เขาคิด   หากแต่กลับนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างนิ่งๆโดยไม่มีทีท่าจะรู้ตัวถึงการมาของเขาเลย

   จักรวาลค่อยๆเดินเข้าไปยืนที่ข้างเตียงอย่างกล้าๆกลัวๆ   ก่อนจะเอ่ยเรียกเบาๆขึ้นมาเพื่อให้อีกคนออกจากภวังค์

   “...พี่วินครับ...”

   ชายหนุ่มสะดุ้งขึ้นสุดตัว   และเมื่อหันกลับมาพบว่าคนที่อยู่ในความคิดตอนนี้ได้มายืนอยู่ข้างๆก็ทำหน้าไม่ถูก



   อยากจะยิ้มให้เหมือนที่เคยทำเป็นปกติ   แต่แผลใจจากเหตุการณ์เมื่อวานมันยังสดอยู่มากจนฝืนเหยียดริมฝีปากออกไปไม่ได้จริงๆ



   กวินเพียงมองเด็กหนุ่มนิ่งๆด้วยแววตาหม่น

   เห็นอย่างนั้นใจที่ฝ่ออยู่แล้วก็ยิ่งฝ่อลงไปอีก..

   “เอ่อ...พี่วินเป็นไงบ้างครับ   อาการดีขึ้นบ้างหรือยัง?” จักรวาลทำใจดีสู้เสือเอ่ยถามออกไป

   แม้ช่างภาพหนุ่มจะไม่อยู่ในสภาพที่มีสติสตังสมบูรณ์ครบถ้วน   แต่กระนั้นเขาก็ยังสังเกตเห็นรอยบวมใต้ตาของคนตรงหน้าได้อย่างชัดเจน

   เสียงทุ้มต่ำถูกเค้นออกมาให้ฟังดูปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้

   “...ยังเจ็บอยู่เลย...”

   ได้ยินอย่างนั้นเด็กหนุ่มก็สะอึกไป   ไม่ว่าจะเจ็บที่แขน   เจ็บที่หลัง   หรือเจ็บที่อื่น   ทั้งหมดก็คงมีเขาเป็นต้นเหตุทั้งนั้น...

   ร่างเล็กยืนนิ่งอย่างไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดี   วันนี้เขามีเรื่องจะมาบอกกับกวิน...แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มยังไง

   ชายหนุ่มที่นั่งบนเตียงจับจ้องอากัปกิริยาของคนตรงหน้าครู่หนึ่ง   ก่อนจะถามออกมาเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มดูกระสับกระส่ายชอบกล “ที่มานี่มีอะไรหรือเปล่า...?”

   ดวงตาคู่เรียวเงยขึ้นสบกับคนถาม

   จักรวาลสูดหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อรวบรวมความกล้า



   เอาน่า...คิดมาทั้งคืนแล้ว   มาล้มเลิกตอนนี้ก็เห็นจะสายไปหน่อย



   “...คือ...เรื่องเมื่อวาน....”

   หากแต่ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะพูดจบประโยค   กวินก็กล่าวขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดอย่างลืมตัว

   

   “...บอกแล้วไงว่าให้ลืมมันไปซะ!”

   

   จักรวาลทอดสายตามองคนบนเตียงด้วยใจเปราะบาง   ฝ่ามือชื้นเหงื่อกำแน่นอยู่ข้างลำตัว   ปากที่เพิ่งจะถูกเตือนว่าไม่ให้กัดก็ถูกขบลงไปอีกครั้ง

   ...แล้วน้ำตาที่ควรจะหมดลงไปแล้วก็เอ่อขึ้นมาอีกอย่างช่วยไม่ได้...



   “ผม...แค่จะมาบอกว่า...ที่พี่วินพูดเมื่อคืนผมอยากจะลองดูสักครั้ง....” เด็กหนุ่มกล่าวเจือน้ำเสียงตัดพ้อ




   และเพียงเท่านั้น   ใบหน้าหล่อคมคายที่หันหนีออกไปมองนอกหน้าต่างก็ต้องหันขวับกลับมาอย่างไม่เชื่อหู   และยิ่งได้เห็นว่าเจ้าหนูของเขาเริ่มจะขี้แยอีกแล้วความขุ่นข้องหมองใจที่มีอยู่พลันมลายหายไปสิ้น

   ชายหนุ่มระล่ำระลักถามย้ำกับอีกฝ่าย

   “...เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ   พูดใหม่ได้ไหม?”

   จักรวาลหลุบตาลงต่ำ “ผมบอกว่า...ผมอยากจะลองเหมือนกัน   อาจจะยังตอบรับไม่ได้ตอนนี้...แต่ก็อยากลองเปิดใจดู...”

   คนฟังนั่งกระพริบตาปริบๆ   และเพียงไม่นานเมื่อเรียบเรียงความหมายในประโยคที่ถูกส่งมาได้ริมฝีปากได้รูปก็เผยรอยยิ้มแรกของวันขึ้นเต็มใบหน้า

   “...หมายความว่า....นายจะให้โอกาสฉัน...?”

   จักรวาลพยักหน้าเบาๆด้วยความประหม่า   รู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรงอยู่ในอก   แรงเสียจนขาแทบจะอ่อนลงไปตรงนั้น   ในที่สุดเด็กหนุ่มจึงทรุดนั่งลงที่ขอบเตียงของคนป่วยก่อนจะยืนไม่ไหวไปเสียก่อน

   “เมื่อวานผมขอโทษนะครับ...” เด็กหนุ่มพูดเสียงแผ่ว

   “อืม...ไม่เป็นไรหรอก...” กวินตอบกลับทั้งที่ใบหน้ายังประดับไปด้วยรอยยิ้ม “...ดีใจจัง...”

   ดวงตาคู่เรียวเหลือบขึ้นมองคนข้างๆ   ยิ้มหล่อเหลาที่ถูกส่งมาทำเอารู้สึกร้อนผ่าวที่แก้มขึ้นมาดื้อๆ   ได้แต่หวังในใจว่า...การตัดสินใจครั้งนี้คงถูกต้อง...

   ฝ่ายกวินเองก็ได้รับบทเรียนไปไม่น้อย   บางทีการเข้าหาเกินพอดีก็อาจจะทำให้อีกฝ่ายเตลิดเปิดเปิงไปได้...หลังจากนี้...ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น   เขาจะทำไปโดยธรรมชาติ   จะไม่พยายามยัดเยียดอีกแล้ว...





   และดูเหมือนว่าการที่ใบหน้าของพวกเขาทั้งคู่กำลังค่อยๆเคลื่อนเข้าหากันในตอนนี้...






   ...จะเป็นไปตามธรรมชาตินะ...







   จักรวาลหลับตาลงรับสัมผัสแผ่วเบาบนริมฝีปาก   

   ไม่มีการลุกร้ำเข้ามามากกว่าการแตะเพียงเบาๆ   แต่เพียงแค่นั้นก็ทำให้รู้สึกวาบหวามในใจได้ไม่ยากเลย...







   เพิ่งรู้ว่าเวลาคนจูบกันเขารู้สึกอย่างนี้นี่เอง...



๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



   กรวิทย์ยืนถูจมูกอย่างเก้อๆอยู่บริเวณหน้าห้องพักผู้ป่วย

   ไม่รู้ทำไมชอบมาผิดจังหวะทุกทีสิน่า...เมื่อวานก็ครั้งนึง   วันนี้ก็อีกครั้งนึง

   แต่เอาเถอะ   ถ้ามาผิดจังหวะแล้วได้มารับรู้อะไรดีๆแบบนี้ก็ค่อยรู้สึกว่าไม่เสียเที่ยวหน่อย...





   ว่าแต่...เห็นทีงานนี้เจ้าวินคงต้องมาขอบคุณเขาคำโตแล้วล่ะ...







TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-08-2012 18:39:25 โดย arunoki »

ออฟไลน์ jaijaY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เย่ๆมาแล้ววว
ขอบคุณนะคะ

edit: กรี๊ดดดดดด น่ารักมาก น้องปอมเปิดใจให้กับพี่วินแล้ว อย่างงี้ต้องฉลอง  :mc4: :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-08-2012 12:46:56 โดย jaijaY »

ออฟไลน์ tartar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ดีใจจัง ที่นายเอกของเราเลิกคิดมากและทำตามหัวใจสักที

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
ฮ่าๆๆ
แล้วมาม่าก็จากไป
งื้อ ดีใจจริงๆ น้องปอมยอมเปิดใจแล้ว
พี่วินก็สู้ๆนะ
ทุกคนเป็นกำลังใจให้ ขอบคุณคนเขียนนะคะ

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
กริ้ดดดดดด โอ้ย ดีใจเวอร์ ๆ น้องปอมจ๋า  :o8:

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
 :m3:
ยังกับได้ถูกหวยรางวัลที่ 1
ดีใจกับพี่วินจริงๆในที่สุดน้องปอมก็เริ่มเปิดใจ
ทุกอย่างที่พี่วินทำมาไม่มีคำว่าเสียเปล่าเลย
 :m4: :impress:

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
โอ๊ยยยยยยยยยยย จุดประทัดฉลองงงงง  :mc4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ McKnight

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ในที่สุด ปอมก็ยอมเปิดใจแล้ว แถมยังจูบกันแบบมีสติครบถ้วน
พี่วินทำสำเร็จแล้วนะครับ ต่อไปก็ไม่ต้องเป็นเทพเนียนๆๆๆ...อีกแล้ว

ต้องขอบคุณสุดยอดผู้ช่วยพระเอกอย่างอาจารย์วิทย์ของน้องปอม
ที่ขี่ม้าขาวมาช่วยในยามคับขัน มาถูกที่ถูกเวลา....มากๆ ชวนปอมไปนั่งคุยจนปอมได้คิดทบทวนอีกครั้ง
ปมที่อยู่ในใจปอมกำลังคลายตัวออกช้าๆแล้ว


ขอบคุณคนแต่งมากครับ
อ่านตอนนี้แล้วมีความสุขมากจริงๆ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-08-2012 13:41:11 โดย McKnight »

ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
กรี๊ดดดดดดดดด :monkeysad:  ดีใจ น้องปอมยอมเปิดใจให้พี่วินแล้ว  :-[ เปิดปุ๊ปจูบปั๊ปเลย ดีใจอะดีใจ (>__________<)~

อาจารย์วิทย์ขา กราบขอบพระคุณค่ะ อาจารย์อยู่ถูกที่ถูกเวลาที่สุดแล้ว :กอด1:

อ๊อยยยยยยย พี่วิน Fighting~ สู้ต่อไปคะ

ออฟไลน์ saintangel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ดีใจ ได้อ่านตลอดหลังตื่นนอนวันหยุด เพราะตื่นสาย 5555 เริ่มหวานกันแล้ววววว เย้ๆ  :o8:

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
น่ารักมากน้องปอมของเจ้ o13

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
พี่วิทย์ฟินมากกกกกก 5555555555

ปอมเปิดใจแล้ว ดีใจแทนพี่กวิน ฮึกๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-08-2012 13:16:18 โดย Millet »

ออฟไลน์ papa_paolo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ฮิ้ววววววววววววววววววววววววววววววววววว  :mc4:

A_ay

  • บุคคลทั่วไป
ยอมเถอะน้องปอม  ถ้าคิดว่าตัวเองทนไม่ได้ :man1:

น่ารักจัง :D

ออฟไลน์ nokkie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-0
ในที่สุด.... :impress2:

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
 :L1:ดีใจด้วยที่ปอมยอมเปิดใจ พี่วินก็ค่อยๆรุกนะ เดี๋ยวปอมหนีอีก อีกอย่างอีพี่เมษเนี่ยะสิถ้ารู้ต้องขัดขวางแน่เลย ไม่เป็นไรสู้ๆๆ :3123:

ออฟไลน์ 8X

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 541
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
งานนี้ถ้าไม่มีตัวช่วยอย่างพี่ชาย เห็นทีกวินจะช้ำใจตายไปซะแล้ว
เมื่อน้องปอมกับพี่วินต่างเปิดใจให้ตรงกันแล้ว ต่อไปโลกจะมีแต่สีชมพูสินะ :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pp_song

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
อ่านตอนนี้แรกๆเศร้ามากๆๆ  :sad11:

แต่พอรู้ว่าปอมยอมที่จะเปิดใจก็มีความสุข :กอด1:

ออฟไลน์ piggie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ดีใจกับพี่วินด้วยค่า ที่มีพี่ชายน่ารักขนาดนี้ 555

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
จูบนี้แสนสะท้านจริงๆ

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
...............….………(กรีดร้องออกมาเเบบไม่มีเสียง)
.
…….…… ปากเเตะปาก?? กันแล้วว้อยยยยย !!!!

shockoBB

  • บุคคลทั่วไป

m_pop91

  • บุคคลทั่วไป
มาม่าชามแรกหมดแล้ว
อย่ามีชามต่อไปเลย กลัวววววววววววววว

ออฟไลน์ Usukushii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 o13 ลุ้นมากกกกกก  หายใจเกือบไม่ออก

ในที่สุดน้องปอมก็ยอมเปิดใจ  ดีใจกับพี่วินด้วย

 :pig4:

ออฟไลน์ special

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-3
ต้องขอขอบคุณอาจารย์น้องปอมและพื่ชายพี่วินจริงๆ
แต่อานตอนนี้แล้วอย่กจะบอกว่ากรี๊ดมากๆดีใจแทนพี่วินจังเลยยยยยยย :-[ :o8:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
ต้อนรับคู่รักแห่งปี :mc4:

ออฟไลน์ ryoushena

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-2
เขินแทน อย่างนี้ต้องฉลองงง :mc4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด