หัวใจหลังเลนส์ #ตอนจบ และ บทส่งท้าย หน้า 133
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หัวใจหลังเลนส์ #ตอนจบ และ บทส่งท้าย หน้า 133  (อ่าน 1377956 ครั้ง)

ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4

zeazaiz

  • บุคคลทั่วไป
 :z2: :z2: :z2:จะขาดใจแล้ว  อยากอ่าน

ออฟไลน์ spoilt

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1

ออฟไลน์ yaoigirl

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รออออออ  คนแต่งจ้า  คิดถึงงงง

ออฟไลน์ isBelle__

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
น้องปอมเปิดใจแล้ว พี่วินก็ดีใจเลย ต้องกลายเป็นคู่รักตากล้องแบบหวานฉ่ำแน่
พี่วินออกจะหลงน้องขนาดนั้น อาจารย์ก็ดีจริงติดตามสถานการณ์ตลอดเลย

ออฟไลน์ maew189870

  • รักทุกคนนะคับ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 736
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
เปิดใจแล้วฮะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ

arunoki

  • บุคคลทั่วไป
หัวใจหลังเลนส์
#25





   ฝ่ามือทั้งสองข้างยกขึ้นปิดหน้าปิดตาไว้อย่างนั้นแม้ในห้องจะไม่มีใครอื่นนอกจากตัวเองนานนับสิบนาทีได้แล้วตั้งแต่กลับจากโรงพยาบาลมา

   ภาพเหตุการณ์เมื่อชั่วโมงก่อนยังคงวนเวียนอยู่ในหัวอย่างชัดเจนประหนึ่งถูกบันทึกไว้ด้วยระบบเอชดี

   หลังจากที่ริมฝีปากของพวกเขาทั้งคู่ถอนออกจากกัน   ภายในห้องผู้ป่วยก็ถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบอยู่นานสองนาน   มีเพียงเสียงหัวใจสองดวงเต้นแข่งกันไปมาแว่วให้ได้ยินเท่านั้น   ยังจำได้ดีว่าตอนนั้นทั้งเขาทั้งกวินต่างก็เสมองไปทางอื่น   พื้นบ้าง   เพดานบ้าง  นอกหน้าต่างบ้าง   ผ้าห่มบ้าง   ราวกับเล่นหนังตลกก็ไม่ปาน



   คิดแล้วก็ได้แต่กดมือลงกับใบหน้าแน่นเข้าไปอีก...



   ไม่รู้ว่าตอนนั้นคิดอะไรอยู่...ถึงได้เลื่อนหน้าเข้าไปหาอีกฝ่าย...


   
   สติสตังมันเหมือนจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัว...



   เหมือนทุกอย่างมันลอยๆฟุ้งๆไปทั่ว...



   แต่ที่รำพึงรำพันมาทั้งหมดนี่...





   ...ไม่ใช่ไม่ชอบนะ...





   ...คือมันก็...รู้สึกดีอยู่เหมือนกัน...



   เมื่อคืน   กว่าจะได้ข้อสรุปกับตัวเองก็ปาไปเกือบเช้า   เรียกว่าเสียน้ำตาไปเป็นลิตร   โดยที่สุดท้ายแล้วเขาก็เลือกที่จะไม่ละทิ้งต่อความรู้สึกอุ่นซ่านในหัวใจที่เกิดขึ้นทุกครั้งเวลาอยู่ใกล้คนๆนั้น...แม้จะยังไม่รู้แน่ชัดว่ามันคือความรู้สึกแบบไหนกันแน่

   และหลังจากที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์เครียดสุดชีวิตมาสดๆร้อนๆ    ตัวเขาเองก็ไม่นึกว่าจะสามารถรู้สึกเบาสบายหัวใจพองโตแปลกๆแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้



   สุขหรือทุกข์...ทั้งหมดคงขึ้นอยู่กับตัวเขาจริงๆ



   ...ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย...



๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



   “ยกดีๆหน่อย   เดี๋ยวของบนโต๊ะร่วงหมด...” เสียงทุ้มต่ำที่ดูจะสดใสขึ้นกว่าหลายวันก่อนเอ่ยขึ้นกับลูกน้องสองสามคนที่เขาเรียกมาช่วยยกโต๊ะตัวพิเศษกลับเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัวในขณะที่ตนเองยืนคลำเฝือกที่แขนขวาดูด้วยท่าทีสบายๆอยู่บริเวณด้านหน้า

   โต๊ะตัวที่ว่าค่อยๆถูกขนพ้นกรอบประตูเข้าไป...

   “แหมพี่   หน้าตาสดชื่นเชียวนะ” เสียงทักทายที่ดังมาก่อนตัวของเต้ดังขึ้นเรียกให้กวินหันไปมอง “ไม่ทำหน้าเป็นตูดลิงเหมือนอาทิตย์ก่อนแล้วเหรอ”

   “เดี๋ยวกูตัดเงินเดือนมึงดีไหมเนี่ย” ชายหนุ่มยกมือข้างที่ไม่บาดเจ็บขึ้นชี้หน้าคาดโทษคนเป็นลูกน้องอย่างไม่จริงจังนัก

   เขาพักฟื้นในโรงพยาบาลเพียงสามวัน   หมอก็อนุญาตให้กลับบ้านได้...และการย้ายโต๊ะเจ้าหนูของเขากลับเข้าห้องก็เป็นสิ่งแรกที่ชายหนุ่มหมายมั่นปั้นมือว่าจะทำหลังจากกลับมาทำงาน

   เต้หัวเราะเอิ๊กอ๊ากกับท่าทีของเจ้านายรูปหล่ออย่างอารมณ์ดี   ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นด้วยแววตาเป็นประกายระริก “ดีกับน้องแล้วเหรอพี่...”

   เพียงได้ฟังคำถามจบ   รอยยิ้มบนริมฝีปากก็ค่อยๆเผยขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่    นึกไปถึงคำพูดในวันนั้นของจักรวาลก็ยิ่งทำให้หัวใจพองโต...





   'ผมอยากจะลองดูสักครั้ง....'






   คิดแล้วมันก็ตื้นตัน...



   เมื่อเห็นคนเป็นเจ้านายไม่ยอมตอบอะไรกลับมา   เอาแต่ยิ้มเหมือนคนบ้า   เต้จึงถามต่ออย่างสนุกสนาน “...อย่าบอกนะว่าเป็นแฟนกันแล้ว?”

   กวินหัวเราะออกมาเบาๆ “ยังโว้ย...ถ้าเป็นแล้วตอนนี้กูปิดบริษัทพาพวกมึงไปเลี้ยงแล้วล่ะ...” ดวงตาคู่คมหลุบลงมองปลายเท้าตนเองอย่างต้องการระบายความกระดากอายที่ต้องมาพูดจาอะไรไม่สมตัวแบบนี้ “...แต่กูบอกเขาไปแล้วว่ากูรู้สึกยังไง...แล้วเขาก็อนุญาตให้กูจีบเขาได้ด้วย...”



   พูดแล้วก็...เขินชิบหายเลย...



   คนฟังส่งเสียงโห่แซวอย่างไม่เกรงใจ   แค่ฟังก็เนื้อเต้น   อยากจะขอเสนอหน้าเข้าไปสังเกตการณ์ในห้องทำงานด้วยเสียเหลือเกิน...

   “พี่พูดแล้วนะว่าถ้าได้เป็นแฟนกับน้องเมื่อไหร่จะพาพวกผมไปเลี้ยง   แล้วเดี๋ยวจะมาทวง”

   เจ้านายลูกน้องยืนกวนประสาทต่อปากต่อคำกับอีกครู่หนึ่ง   ร่างของเด็กหนุ่มที่คุ้นตาก็ปรากฏขึ้นที่บริเวณหน้าบริษัท



   และจากที่พ่นคำหยาบใส่ลูกน้องตัวดีปาวๆๆเมื่อครู่   ชายหนุ่มก็กลับกลายสภาพเป็นหมาเซื่องๆที่เอาแต่ยืนยิ้มพลางเสตามองนู่นนี่ไปเรื่อย



   หลังจากจุ๊บๆกันวันนั้น   นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เจออีกที...




   ...รู้สึกเขินเป็นสาวน้อยไปเลยเว้ย...



   คนเป็นลูกน้องหันมองเจ้านายอย่างงุนงง   วันนี้มาลุคใหม่...สดใส  แอ๊บแบ๊ว...





   มหัศจรรย์จริงหนอ...ความรัก...





   และเมื่อเห็นว่าตัวเองกำลังจะได้เป็นก้างขวางคอในอีกไม่ช้า   เต้จึงรีบขอตัวหลบฉากไปอย่างรู้หน้าที่  โดยไม่ลืมที่จะส่งยิ้มกรุ้มกริ่มให้กำลังใจเจ้านายไปเบาๆหนึ่งที

   ฝ่ายเด็กหนุ่มเอง   พอเห็นมาตั้งแต่ระยะไกลว่ากวินยืนอยู่หน้าห้องทำงาน   แข้งขาก็พากันขวิดไปขวิดมาราวกับคนเดินไม่ตรงทาง   ยังไม่ทันที่จะเข้าไปถึงรัศมีสองเมตรด้วยซ้ำ   แก้มสองข้างก็ร้อนขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้เสียแล้ว


   บัดซบจริง...


   “อรุณสวัสดิ์/อรุณสวัสดิ์ครับ” เสียงของคนทั้งคู่กล่าวทักขึ้นพร้อมกันทันทีที่เด็กหนุ่มเดินเข้ามาถึงตัวช่างภาพคนดัง   เพิ่มระดับความประดักประเดิดให้มากขึ้นไปอีก

   เด็กหนุ่มยกมือขึ้นเกาท้ายทอย   ในขณะที่อีกคนก็ยิ้มออกมาบางๆพลางก้มหน้าลงมองพื้นด้วยความขัดเขินกันทั้งคู่    ก่อนจะเป็นกวินที่เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน

   “ฉัน...เอ่อ...ย้ายโต๊ะนายกลับเข้ามาวางในห้องแล้วนะ...ได้ใช่ไหม?”

   คนถูกถามพยักหน้าลงเบาๆ “ได้สิบครับ...ก็พี่วินเป็นเจ้านาย...”

   ได้ยินอย่างนั้นกวินก็ได้แต่คิดดังๆในสมองด้วยอย่างหมั่นเขี้ยว...ก็แล้วเด็กคนไหนล่ะวะที่มันกล้าขัดคำสั่งเจ้านายขอย้ายโต๊ะออกไปเมื่อสัปดาห์ก่อนน่ะ...น่าจับมาตีซะให้เข็ด...



   แต่ก็ทำได้แค่คิดเมื่อตอนนี้เขาเองก็ยังควบคุมน้ำเสียง   สีหน้า   ท่าทางของตัวเองให้เข้าที่ไม่ได้เลย   ทุกอย่างมันพันกันมั่วไปหมด

   “แล้ว...แขนพี่เป็นยังไงบ้างครับ...?” เด็กหนุ่มเอ่ยถามออกมาทำลายความเงียบ   ทั้งที่ในใจตัวเองก็ยังเต้นหนักอยู่ไม่น้อย

   คนถูกถามก้มลงมองเฝือกที่แขนตัวเองก่อนจะสั่นศีรษะเบาๆ “ที่แขนนี่ไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่แล้วล่ะ   แค่ลำบากเวลาจะทำนู่นทำนี่นิดหน่อย   แต่แผลที่หลังนี่สิยังแสบอยู่เลย”

   

   คนฟังนิ่งไปเมื่อได้ยินอย่างนั้น...



   ...ก็เขาเป็นต้นเหตุ...


   

   และเมื่อเห็นคนตรงหน้าเริ่มมีสีหน้ารู้สึกผิด   กวินจึงตัดบทขึ้นด้วยการยกมือขึ้นลูบหัวเด็กหนุ่มก่อนดันหลังเล็กๆนั่นให้นำเข้าห้องทำงานไป...




   แต่เมื่อเข้ามาแล้ว   ชายภาพคนดังก็ต้องตกใจจนเข่าแทบทรุด...ในหัวนึกคาดโทษไอ้เจ้าพวกลูกน้องที่เขาใช้ให้มาขนโต๊ะให้...



   ก็จะอะไรเสียอีกนอกจากตำแหน่งที่เปลี่ยนไปของโต๊ะตัวนั้น...



   จากที่เคยอยู่คนละมุม...



   บัดนี้มันถูกยกมาติดกับโต๊ะเขาแบบประจันหน้าเข้าหากันด้วยน่ะสิ...



   ชิบหายล่ะ...เจ้าหนูนี่จะหาว่าเขาฉวยโอกาสอีกไหมเนี่ย


   เสียงทุ้มต่ำรีบระล่ำระลักกล่าวออกมาอย่างลนลาน “ไม่ใช่นะ...ฉันไม่ได้สั่งให้คนยกมาวางตรงนี้นะปอม...ฝีมือไอ้อาร์ทแน่ๆ...เดี๋ยวฉันจะไปเรียกคนมายกไปวางที่เดิมนะ...”

   ฝ่ายจักรวาลเอง   ในทีแรกที่เห็นตำแหน่งที่เปลี่ยนไปของโต๊ะก็ทำเอาเขาอึ้งไปไม่น้อย    แต่เมื่อดูจากอาการของคนตรงหน้าเขาก็ต้องรีบยกมือปฏิเสธคนที่ทำท่าจะหุนหันออกจากห้องไป...

   “ไม่ต้องก็ได้ครับพี่...ถ้าพี่โอเค...นั่งแบบนี้ผมก็...เอ่อ...ไม่มีปัญหาอะไร...” เด็กหนุ่มกล่าวออกมาด้วยเสียงแผ่วเบาในตอนท้ายประโยค   ไม่ได้คิดอะไรหรอกนะ...ไม่ได้คิดเลย...แค่ไม่อยากให้กวินต้องลำบากไปมากกว่านี้ก็เท่านั้นเอง...จริงๆนะ
.
.

.


.
   แล้วสุดท้ายจักรวาลก็ต้องมานึกเสียใจที่พูดออกไปแบบนั้น...

   ระยะห่างเพียงเมตรกว่าๆที่มีเพียงโต๊ะทำงานสองตัวคั่นทำเอาเด็กหนุ่มรู้สึกวูบๆวาบๆตลอดเวลา   ได้แต่นั่งก้มหน้าก้มตาลงจดจ่อกับบรรดาภาพถ่ายตรงหน้า

   ฝ่ายกวินก็ใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆไม่แพ้กันเมื่อเหลือบตาขึ้นมองเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม   บ่อยครั้งที่เขาเผลอเลื่อนสายตาลงไปมองที่บริเวณริมฝีปากซึ่งเคยสัมผัสมาแล้วสองครั้งอย่างลืมตัว



   และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันที่เขาเผลอไปจ้องมันเข้าอีกแล้ว...



   อยากจะเอาปากตัวเองแนบลงไปอีกสักครั้ง...






   เหมือนรู้ตัว   เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากภาพถ่ายตรงหน้า  และสบสายตาเข้ากับกวินเข้าอย่างจังโดยไม่ทันตั้งตัว

   คนทั้งคู่สะดุ้งขึ้นพร้อมกัน

   เมื่อถูกจับได้ว่าแอบมองกะทันหันช่างภาพคนดังก็รีบซ่อนหน้าซ่อนตาลงกับหลังจอคอมพิวเตอร์ด้วยสัญชาตญาณ   แล้วก็ต้องแอบลอบยิ้มกับตัวเองอยู่นานสองนาน

   เห็นดังนั้นเด็กหนุ่มก็ได้แต่ยกมือขึ้นถูต้นคอตัวเองอย่างไม่มีเหตุผล   แก้มมันเมื่อยๆเพราะเอาแต่เกร็งไว้   อยากจะยิ้มแต่ก็ไม่กล้า
.
.

.


.
   บรรยากาศการทำงานแปลกใหม่เป็นไปแบบนั้นตลอดช่วงเช้า   จนกระทั่งนาฬิกาข้างฝาเดินมาถึงเลขสิบสอง   กวินจึงวางมือลงจากงานที่ทำอยู่

   ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นกล่าวกับคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามด้วยน้ำเสียงประหม่าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน



   ...ให้ตายสิ...นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาชวนจักรวาลกินข้าวเสียหน่อย...


   ...ทำไมถึงเพิ่งมาเขินเอาวันนี้วะ...



   “คือ...วันนี้ฉันไม่ได้เอารถมาเพราะจับพวงมาลัยไม่ได้   เลยตั้งใจว่าจะสั่งอะไรเข้ามากินในห้อง...” จักรวาลเงยหน้าขึ้นมองคนพูด “...นายนั่งกินเป็นเพื่อนกันหน่อยได้ไหม?...ไม่ได้นัดใครไว้ใช่หรือเปล่า...?”

   ที่ต้องถามแบบนี้ก็ไม่ใช่อะไร   ช่วงหลายวันที่พวกเขาไม่ได้พูดคุยกัน   เด็กหนุ่มไม่ยอมออกไปทานข้าวกับเขาเลยแม้แต่มื้อเดียว    ถ้าไม่ออกไปกับพวกลูกน้องของเขา  ก็นั่งกินข้าวกล่องเงียบๆอยู่ที่โต๊ะตัวเองนั่นแหละ   

   คนถูกถามคลี่ยิ้มบางๆส่งกลับไปก่อนจะรับคำเบาๆ “...ได้ครับ...”

   เพียงเท่านั้นกวินก็ยิ้มกว้างออกมาแล้วจึงลงมือต่อสายโทรสั่งอาหารทันที
.
.

.


.
   -เคร้ง-


   ช้อนแสตนเลสในฝ่ามือใหญ่เป๋ไปโดนขอบจานอย่างควบคุมไม่อยู่   เนื่องจากแขนขวาที่ถูกเข้าเฝือกไว้...ช่วงนี้กวินจึงต้องทำทุกอย่างด้วยมือซ้ายเพียงข้างเดียว

   ...ก็ไม่ใช่ถึงกับใช้ชีวิตไม่ได้...แต่ถ้าให้พูดจริงๆก็ลำบากไปไม่น้อยเลย...


   
   เด็กหนุ่มเงยขึ้นมองอากัปกิริยาของคนตรงหน้าเงียบๆอยู่ครู่ใหญ่

   ท่าทางการหยิบจับสิ่งของอย่างเงอะงะนั้นทำเอาเขารู้สึกผิดขึ้นมาอีกครั้ง...และเมื่อครุ่นคิดอยู่เพียงไม่นานก็ตัดสินใจเอ่ยปากขึ้นเบาๆ

   

   “ผมช่วยไหมครับ?”



   กวินวางช้อนในมือลงช้าๆ “จะดีเหรอ...?” แม้ปากจะพูดไปแบบนั้น   หากแต่นัยน์ตากลับดูเป็นประกายอย่างบอกไม่ถูก

   คนถูกถามพยักหน้าลงยืนยันข้อเสนอของตัวเอง

   

   เห็นดังนั้นคนป่วยจึงยิ้มออกมาบางๆ “อืม...ถ้าได้ก็ดีนะ...”



   ร่างเล็กลุกขึ้นลากเก้าอี้อ้อมไปที่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ   จานข้าวถูกย้ายฝั่งมาเช่นกัน   มือเรียวเอื้อมหยิบช้อนของคนข้างกายขึ้นตักอาหารก่อนจะยื่นมันจ่อปากชายหนุ่ม





   น่าแปลก...จะไปป้อนเขาแท้ๆ  แต่ไม่เห็นจะมองหน้าคนกินเลย...





   นัยน์ตาดำขลับของจักรวาลหลุบมองที่หน้าตักตัวเอง



   กวินอ้าปากรับอาหารที่ถูกส่งมาพลางกลั้นยิ้มจนเมื่อยแก้มไปหมด


   ไม่นึกเลยว่าเวลาได้มาทำอะไรกุ๊กกิ๊กแบบนี้โดยที่รู้ตัวกันทั้งสองฝ่าย   มันจะออกอาการเคอะเขินเก้ๆกังๆกันได้ขนาดนี้    ตอนที่เนียนจีบอยู่เพียงฝ่ายเดียวก็ไม่เห็นจะอายอะไร   ยังแอบคิดอยู่เลยว่านี่เขาหน้าหนาไปหรือเปล่า


   แต่มาเจอแบบวันนี้   ตอนนี้   คงต้องเปลี่ยนความคิดแล้วล่ะ



   ...ว่าจริงๆแล้วเขาหน้าบางกว่าที่คิดไว้มาก...



   ...แถมอีกฝ่ายก็ดูจะบางกว่าเขาอีกนี่สิ...


   การป้อนข้าวป้อนน้ำเป็นไปอย่างทุลักทุเลเมื่อเด็กหนุ่มเอาแต่หลบตาไปมา   ในขณะที่คนถูกป้อนก็เคี้ยวเชื่องช้าเสียเหลือเกิน    เนื่องจากต้องคอยบังคับกล้ามเนื้อใบหน้าไม่ให้มันยิ้มกว้างออกมาจนเกินงาม   แต่จนแล้วจนรอดอาหารทั้งสองจานก็พร่องลงไปเรื่อยๆ จนหมดลงในที่สุด

   กวินชะโงกหน้ามองจานของเขาที่อยู่ในมือเด็กหนุ่ม   รู้สึกว่ามันหมดเร็วเหลือเกิน   แต่จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ช่วงเวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปไวกว่าที่เราคาดหวังเสมอ “อ้าว...หมดแล้วเหรอ   ยังไม่อิ่มเลย...” เสียงทุ้มต่ำกล่าวออกมาเบาๆ

   “จะกินอะไรอีกไหมล่ะครับ   เดี๋ยวผมออกไปซื้อให้” เด็กหนุ่มเสนอขึ้นพลางรวบช้อนรวบจานเตรียมนำออกไปให้แม่บ้าน

   ได้ยินดังนั้นคนเป็นผู้ใหญ่กว่าก็ส่ายหัว   รอยยิ้มถูกจุดขึ้นบนริมฝีปาก



   “...กินคนป้อนแทนได้ไหม...”



   และนี่คืออาการของคนที่เรียกว่า...ปากไว...



   พูดจบคนพูดก็ได้แต่นึกอยากเอาหัวโขกโต๊ะมันเดี๋ยวนั้น   หยอดตอนไหนไม่หยอด   ดันมาหยอดตอนกำลังอยู่ในระยะเขินม้วนกันทั้งคู่   หยอดไม่ดูตาม้าตาเรือเลยกวินเอ๊ย...

   ส่วนจักรวาล  ทันทีที่กวินพูดจบก็เผลอตัวเอื้อมมือทั้งสองข้างไปอุดปากคนพูดตรงหน้าจนสุดแขน “พี่วิน!” ใบหน้าเรียวได้รูปขึ้นสีจัด    ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ   ก็...ใครจะไปนึกว่าจู่ๆพี่ชายใจดีของเขาจะพูดอะไรแบบนั้นออกมา...ไม่อายบ้างหรือไงวะ...

   กวินหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเด็กหนุ่ม   ก่อนจะต้องยกมือข้างที่ไม่ติดเฝือกขึ้นเป็นสัญญาณว่าเขายอมจำนน “ขอโทษที   ไม่พูดแล้วๆ”

   เด็กหนุ่มลดแขนทั้งสองข้างลง   กระแอมไอเบาๆในลำคอ   แล้วจึงก้มหน้าก้มตาคว้าจานที่ใช้เสร็จแล้วออกจากห้องไปด้วยความเขินอาย   ปล่อยให้อีกคนได้แต่นั่งยิ้มกับตัวเองเป็นบ้าเป็นหลังอยู่คนเดียว
.
.

.


.




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-08-2012 18:38:33 โดย arunoki »

arunoki

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อจักรวาลเดินกลับเข้าห้องมาหลังจากนำจานไปให้แม่บ้านก็พบว่าช่างภาพคนดังลงมือทำงานต่อเรียบร้อยแล้ว   เขาจึงเดินมาลากเก้าอี้ของตนที่ถูกย้ายมาที่ฝั่งกวินเมื่อครู่กลับไปบ้าง

   หากแต่ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะลากเก้าอี้ตัวที่ว่าพ้นขอบโต๊ะไปก็มีฝ่ามือใหญ่เอื้อมมาจับข้อมือไว้เสียก่อน

   เด็กหนุ่มหันกลับไปมองก่อนจะพบกับรอยยิ้มขบขันบนใบหน้าของอีกฝ่าย

   “นี่เมื่อกี้นายเดินออกไปทั้งอย่างนี้เหรอเนี่ย...ระหว่างทางไม่มีใครทักอะไรเลยเหรอ...”

   คนฟังขมวดคิ้วลง “ทำไมเหรอครับ...”

   เสียงทุ้มหัวเราะเบาๆ “ก็นายมีซอสติดที่แก้มน่ะสิ...”

   ได้ยินดังนั้นเด็กหนุ่มก็รีบยกมือขึ้นป่ายปะไปตามใบหน้าของตนเอง   พลางนึกย้อนไปถึงตอนเดินออกจากห้องไปเมื่อครู่    จำได้ว่าขาเดินกลับมาเขายกมือขึ้นเกาแก้ม   สงสัยซอสคงจะติดอยู่ที่นิ้วมาตั้งแต่ตอนถือจาน

   กวินยิ้มเอ็นดูเด็กหนุ่มตรงหน้าที่เช็ดไม่ถูกจุดเสียที   ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบทิชชู่บนโต๊ะมาปาดคราบสีแดงนั่นออกให้อย่างเบามือ

   



   สัมผัสอ่อนโยนที่บริเวณแก้ม  และสายตาอบอุ่นที่ลอยไปมาอยู่ตรงหน้าทำเอาจักรวาลรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาอีกแล้ว   ดวงตาคู่เรียวหลุบลงมองพื้นด้วยหัวใจเต้นตึกตัก   วันนี้ไม่รู้ว่ารู้สึกอย่างนี้เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้ว...



   กวินเองเมื่อเห็นอาการของเด็กหนุ่มที่เขารู้สึกว่ามันดูน่ารักเสียเหลือเกินก็พาลหน้าแดงไปด้วยอีกคน    ริมฝีปากได้รูปเม้มแน่นพยายามกลั้นรอยยิ้ม   มือที่คลอเคลียอยู่ที่แก้มขาวๆของอีกคนเริ่มสั่นขึ้นมาเบาๆอย่างควบคุมไม่ได้

   ชายหนุ่มรีบชักมือกลับเหมือนโดนของร้อน   ดวงตาคมดุจับจ้องไปยังเด็กหนุ่มที่ตอนนี้เหลือบตาขึ้นมองเขาเช่นเดียวกัน



   เกิดเป็นความเงียบขึ้นชั่วอึดใจ   เมื่อสายตาสองคู่สอดประสานเข้าด้วยกัน



   ยิ่งเงียบแบบนี้   เสียงหัวใจยิ่งดังชัดเจน....





   และในที่สุดก็เป็นจักรวาลที่ทนไม่ไหวต้องเป็นฝ่ายหลบตาไปเสียก่อน

   

   กวินยกมือขึ้นกระพือเสื้อระบายความร้อน   เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นมาแผ่วเบา...





   “เขินเป็นบ้าเลย......เป็นเหมือนกันไหม...?”





   คนถูกถามเผลอตัวขบริมฝีปากลงไป   ใบหน้าเรียวได้รูปที่บัดนี้แดงก่ำพยักขึ้นลงเบาๆแทนคำพูดด้วยหัวใจที่เต้นแรงยิ่งกว่าเก่าเสียอีก





   “หัวใจฉันจะหลุดออกมานอกอกอยู่แล้วเนี่ย...”





   บ้าจริง...ทำไม่ถึงพูดตรงอย่างนี้วะพี่วิน!





   -ป้าบ!-



   -เฮือก!-



   เด็กหนุ่มสะดุ้งขึ้นสุดตัวเมื่อฝ่ามือใหญ่ข้างที่เหลืออยู่ของกวินเอื้อมมาวางลงบนบ่าเขาอย่างแรง

   “อ...อะไรครับ?” จักรวาลถามขึ้นทั้งหน้าแดงๆอย่างนั้นด้วยความงงงวย

   ช่างภาพคนดังปั้นสีหน้าจริงจังส่งไปให้คู่สนทนาก่อนกล่าวต่อเสียงเข้ม “เรามาเลิกเขินกันเถอะ...หัวใจเต้นแรงจนฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว...”



   เอ่อ...ของแบบนี้มันห้ามกันได้ด้วยเหรอวะ....




   แต่กระนั้นเด็กหนุ่มก็บ้าจี้พยักหน้ารับคำไปอย่างแข็งขัน   ไม่ใช่อะไร...เขาเองก็เหนื่อยเหมือนกันแหละ...


   


   “โอเค...ฉันจะนับหนึ่งถึงสามนะ...หนึ่ง...สอง...สาม....ฮึบ!”





   เมื่อจบการนับให้สัญญาณคนทั้งคู่ก็เผลอกลั้นหายใจและตีสีหน้าเคร่งขรึม...





   หากแต่ค้างกันอยู่ท่านั้นได้เพียงไม่นาน   ทั้งกวินทั้งจักรวาลก็ต้องระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่ได้




   คนเป็นผู้ใหญ่กว่ายกมือขึ้นชี้หน้าเด็กหนุ่มทั้งที่ยังไม่หยุดหัวเราะ “นายยังหน้าแดงอยู่เลย....บอกให้เลิกเขินไง...”

   ฝ่ายที่ถูกกล่าวหาเองก็ตอบกลับตัวงอ “พี่ก็แดงเหมือนกันแหละน่า...”

   ภายในห้องทำงานเล็กๆแห่งนั้นตลบอบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะอยู่อย่างนั้นอีกนานสองนานจนคนที่เดินผ่านไปผ่านมาข้างนอกรู้สึกอยากจะเข้ามามีส่วนร่วมด้วยเสียเหลือเกิน

   

   กระทั่งเวลาผ่านไปเป็นนาทีที่เสียงถึงค่อยๆเงียบลง...



   “สงสัยวิธีนี้จะไม่เวิร์คแฮะ...” ชายหนุ่มกล่าวออกมาโดยที่บนใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

   จักรวาลพยักหน้ารับ “นั่นสิครับ...หนักกว่าเก่าอีก...”



   “งั้นเราก็เขินกันแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะเลิกเขินเองแล้วกันเนอะ”



   “คงต้องเป็นอย่างนั้นมั้งครับ   หวังว่าอีกไม่นานคงชิน   ไม่งั้นแย่แน่ๆ”



   “อืม...ถือว่าบริหารหัวใจให้ร่างกายแข็งแรงแล้วกัน...”



   เด็กหนุ่มหัวเราะเบาๆเมื่อได้ฟัง   สองมือยกขึ้นลูบหน้าไปมาหมายจะให้มันหายร้อนลงบ้าง    ไม่รู้ว่าจักรวาลคนที่นั่งเครียดร้องไห้อยู่เมื่อวันก่อนมันหายไปไหนแล้ว   เหลือไว้แต่คนเอะอะก็หน้าแดงคนนี้แทน

   “แล้วก็อีกเรื่องครับพี่วิน...ผมเปลี่ยนใจแล้ว....ผมว่าย้ายโต๊ะกลับมาไว้ที่เดิมดีกว่า   นั่งติดกันแบบนี้ผมไม่มีสมาธิทำงานเลย...” เด็กหนุ่มถือโอกาสพูดออกไปตามจริง   บอกตามตรงเลยว่าเขาคงยังไม่มืออาชีพพอที่จะทำจิตแข็งนั่งอยู่อย่างนั้นได้ทั้งวันแน่นอน

   



   “อืม...นั่นสิ   ฉันก็ไม่มีสมาธิเหมือนกัน   เผลอเมื่อไหร่ต้องแอบมองนายทุกที...”





   เด็กหนุ่มยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเอง  ก่อนจะอ้อมแอ้มกล่าวออกมาเบาๆ





   “จะไม่ให้เขินได้ไงล่ะ   ก็พี่เอาแต่พูดแบบนี้อยู่นั่นแหละ...”
.
.

.


.
   เสียงพูดคุยที่ดังแว่วออกมาจากในห้องทำเอาเต้ที่เดินป้วนไปเปี้ยนมาบริเวณนั้นต้องหัวเราะคิกคักกับตัวเอง

   ตอนแรกตั้งใจว่าจะเอาตัวอย่างภาพมาให้ดู   แต่ได้ยินอย่างนั้นเข้าไป...รออีกสักห้านาทีสิบนาทีคงไม่สาย   ปล่อยให้เจ้านายเขาได้ทำคะแนนเสียหน่อยท่าจะดีกว่า...



   และจากเท่าที่ฟังเมื่อครู่แล้ว...


   อีกไม่นานคู่นี้คงสมหวังในเร็ววันเป็นแน่แท้...








TBC

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
ตอนนี้ มีแต่  :o8: :-[ :o8: :-[ :o8: :-[


ขอบคุณครับ :pig4:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
 :impress2:อายมากเหรอพี่วิน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
โอ่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


พีวินกับปอมเลิกเขินกันเมื่อไหร่บอกด้วย

จะได้เลิกบ้าง แต่ตอนนี้ เขินมวากกกกกกกกกกกก O<-<
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-08-2012 17:35:36 โดย Millet »

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
อิอิ ต่างคนต่างเขิน จนแอบเขินไปด้วยแล้วเนี้ย

sunshadow

  • บุคคลทั่วไป


    ทำม้ายทำไมบรรยากาศมันถึงได้หวานแหววซะขนาดนี้ล่ะ
    นั่นมันท่านกวินกะน้องปอมจริงเหรอเนี่ย!!





shockoBB

  • บุคคลทั่วไป
เขินนนนน>/////<

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
โอ๊ยยย
ไม่ใช่แค่พี่วินกับน้องปอมแล้วมั้งที่เขิน
คนอ่านนี่ นี่ นี่ นี่ ก็เขินแทนจนไม่เป็นอันทำอะไรแล้ววววว
งื้อออ อิจฉาาาาา

 :-[

ออฟไลน์ papa_paolo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
พูดได้คำเดียว เขิลลลว๊อยยยยยยย  :o8: :-[ :impress2:

 :pig4:

yozz

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักจังเลย เขินแทน :o8: :confuse:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
อ่านไปเขินไป
บทจะหวานก็ใส่กันไม่ยั้งเลยนะเฮียวิน

snooppy

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดด!!
เชียร์ขาดใจเลยคู่นี้

ออฟไลน์ yaoigirl

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Packy_Pocky

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :z1:
แอร๊ยยยย อ่านแล้วปวดแก้มเลยง่าา เขิลๆๆ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
คนอ่านก็เขินเหมือนกัน   :o8:

ออฟไลน์ urmein

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 871
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
อร๊ายยยยยยย
เขินนนนนนนนน
อ่านไป ยิ้มไป เหมือนคนบ้าเรยยยย >.<

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
คนอ่านจะเป็นบ้า
กับตอนนี้มันเขินอ่ะ :-[

ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4
 :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:   ฮิ้ววววว  จุดพลุฉลอง จะเร็วไปไหม จะมีอุปสรรคอะไรอีกหรือเปล่า

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
เขินโคตรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร  :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
น่ารักมากอะ ต่างคนต่างเขิน อยากให้เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆจัง

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
เค้าก็เขินล่ะ  :o8:

แอร๊ยยยยยยย  :-[

ออฟไลน์ nooklepper

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
จิกหมอน ./////.

ออฟไลน์ eahratik

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เขินกันจนคนอ่านเขินตามแล้วค่ะ งือออออออ -///////////-

ออฟไลน์ pp_song

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
ตอนนี้มัน  :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด