หัวใจหลังเลนส์ #ตอนจบ และ บทส่งท้าย หน้า 133
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หัวใจหลังเลนส์ #ตอนจบ และ บทส่งท้าย หน้า 133  (อ่าน 1377848 ครั้ง)

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
คนเขียนหายไปไหนหว่า  :m28:

ออฟไลน์ YMP

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-2

ออฟไลน์ ✿PIERRE

  • ดองนิยายข้ามปี
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-6
คนเขียนไปหนายยยยยยยยยยยยยย


กลับมาได้แล้ว ทุกคนให้อภัยแล้ว

5555+

Nnsicc

  • บุคคลทั่วไป
รอนะะะ  :กอด1:

polla

  • บุคคลทั่วไป

hades

  • บุคคลทั่วไป
รอรอรอ
มาเฝ้าวันละหลายรอบเลยเนี่ย 555555555

YAYANORITZ

  • บุคคลทั่วไป
อั่ยยะ เขินแทน  :-[
ปล. พึ่งเข้ามาอ่านครั้งแรก อ่านรวดเดียวเลย 5555555 มาอัพต้อเถอะน้า รออยู่  :z1:

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
รอคนเขียนนะจ๊ะ

ออฟไลน์ akashita

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ยังรออยู่นะคะ.. **ส่งสายตาปิ๊งๆ**

สงสัยคนเขียนจะหยิบกระเป๋าสะพายกล้องไปหาแรงบันดาลใจ.. ^^ คึคึ

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
 :catrun: 

อาจจะรอพาสปอร์ตน้องปอมอยู่ก็ได้ อิ๊ อิ๊

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Lucky~*

  • บุคคลทั่วไป
ชอบมากๆเลย >o< พี่วิน กับ ปอม อร๊างงงงงงงงง น่ารักๆ มาต่อเร็วๆนะคะ ^^

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
 :undecided: :undecided: :undecided:

คนเขียนหายไปหน๊ายยยยยย  o9

ออฟไลน์ Benesmee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
คนเขียนหายไปนานแล้วน่ะค่ะ กลับมาได้แล้ว...
คนอ่านคิดถึงน้องปอมกับพี่วินจะแย่แล้วคร้า  :monkeysad:

ออฟไลน์ lykar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-0
อั๊ยยยยยยยยยยยยย

อ่านรวดเดียวจบเมื่อคืน วันนี้มาทำงานสายเลย ฮ่าๆๆๆ

รอคนเขียนอยู่นะคะ

นั่งยิ้มเป็นบ้าอยู่คนเดียวแล้วตอนนี้!!

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
เมื่อไหร่จะมาต่อสักทีจ๊ะ
คิดถึงน้องปอมกับพี่วินมากๆๆๆๆๆ

.mager

  • บุคคลทั่วไป
ง่า :call:
รออยู่นะค่ะ เป็นนิยายที่น่ารักมากๆเลย

arunoki

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีค่ะทุกคน   หายไปนานเลยคราวนี้   ลืมพี่วินกับน้องปอมกันไปหรือยัง

รู้สึกไม่ดีเลยที่ทิ้งช่วงไปนานแบบนี้  เพราะนอกจากจะทำให้คนอ่านจะอารมณ์ไม่ต่อเนื่องแล้ว  ยังรู้สึกเหมือนกับว่าจำนวนคอมเม้นท์จะลดน้อยลงไปด้วย  T___T  คนอ่านขาประจำบางคนก็หายหน้าไป  เราคิดถึงนะ  :กอด1:   ยังไงก็ยังอยากให้ติดตามเรื่องราวต่อไปจนจบเน้อ   สัญญาว่าจะเขียนมาลงให้เร็วที่สุดเท่าที่ทุกอย่างจะเอื้ออำนวย

เหตุผลที่มาช้าก็ตามที่เคยบอกไปในตอนที่แล้วเลยค่ะ  คือช่วงนี้งานเยอะมาก  ใครที่เรียนสถาปัตย์หรือมีพี่มีน้องมีเพื่อนเรียนสถาปัตย์ก็คงรู้ดีว่าเวลาทำโปรเจ็คมันกินเวลาชีวิตไปแค่ไหน  ส่วนหนังสั้นที่เคยบอกไปก็เพิ่งจะทำเสร็จเมื่อวานสดๆร้อนๆ  เสร็จปุ๊บก็รีบมาเขียนต่อปั๊บเลย

สำหรับวันนี้  ทำโพลมาให้โหวตกันเล่นๆค่ะ  ลองไปโหวตกันดูนะ  ผลโหวตไม่ได้จะเอาไปทำอะไร  แค่อยากรู้เฉยๆ 



ขอบคุณทุกท่านจากใจจริงที่ยังคงติดตามมาถึงตอนนี้ค่ะ




หัวใจหลังเลนส์
#28



   เกิดความเงียบขึ้นมาพักใหญ่   คนที่เพิ่งจะยอมรับความรู้สึกกลายๆได้แต่ก้มหน้าก้มตามองพื้นด้วยไม่รู้ว่าสถานการณ์แบบนี้ควรทำตัวแบบไหน   ในขณะที่คนที่เหลือก็ยืนนึกทบทวนคำตอบที่ได้ฟังเมื่อครู่พลางอมยิ้มเต็มแก้ม   

   แล้วในที่สุดก็เป็นอ้นที่ทำลายความเงียบขึ้นมาเมื่อหันไปสังเกตเห็นสีหน้าของคนที่นั่งอยู่ตรงขั้นบันได

   “เห้ย   มึงหน้าแดงอ่ะไอ้ปอม” พูดจบฝ่ามือหยาบกร้านของอ้นก็เอื้อมมาจับคางเพื่อนรักตัวเล็กของตนหมุนไปหมุนมาเพื่อสำรวจให้ทั่วใบหน้าอีกฝ่ายชัดๆ   

   สีเลือดฝาดจางๆบนแก้มขาวทั้งสองข้างนั้นปรากฏเด่นชัด   เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่าเพื่อนของเขากำลัง...เขิน

   จักรวาลปัดมือคนตรงหน้าออกจากเรียวคางของตนพร้อมโวยวายขึ้นมาเพื่อกลบเกลื่อน   คือจริงๆก็พอจะรู้ตัวล่ะนะว่าหน้ามันร้อนๆ “ห่าอะไรเนี่ย  ไม่แดงเว้ย!”

   “โถ  น่ารักจริงพ่อคุณ” อ้นโยกหัวโยกตัวเพื่อนรักไปมาด้วยท่าทีกวนประสาท   แต่ลึกๆแล้วก็รู้สึกเอ็นดูไอ้เตี้ยนี่จริงๆนั่นแหละ   สมาชิกในกลุ่มคนที่เหลือเองก็พากันช่วยผสมโรงแกล้งจักรวาลไปด้วย

   ลูบหน้าลูบหัวกันอยู่อย่างนั้นสักพัก   คนที่นั่งอยู่กลางวงก็ถามออกมาเสียงแผ่ว   เรียกให้เพื่อนๆทั้งหมดต้องเงี่ยหูฟัง

   

   “พวกมึงไม่รังเกียจเหรอวะ...”

   

   ได้ยินดังนั้นคนฟังก็ต้องขมวดคิ้วลง   ก่อนจะเป็นเจที่ถามขึ้นมา “รังเกียจเหี้ยไรวะ?”

   

   “ก็ที่กู...กับพี่วิน   เอ่อ...แบบ...ผู้ชายกับ...ผู้ชาย”



   -ป๊าบ-



   ฝ่ามือของอ้นเอื้อมมาตบกะโหลกเพื่อนรักไปไม่เบาหนึ่งที   ก่อนที่เสียงแหบห้าวจะพูดขึ้น “โถ่! ไอ้หอยหลอด   มึงบ้าเหรอวะ   เห็นพวกกูเป็นคนยังไงเนี่ย”

   “ก็กู...กลัวพวกมึงจะรับไม่ได้นี่...” เด็กหนุ่มก้มลงมองปลายเท้าตัวเองนิ่งๆ   กว่าจะยอมรับกับตัวเองได้ก็ลำบากแทบแย่   เขาเลยไม่แน่ใจน่ะสิว่าคนอื่นจะทำใจยอมรับเรื่องแบบนี้ยากอย่างเขาหรือเปล่า

   “ถามกลับกันนะ...” ก๊อบแก๊บเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “ถ้าเกิดวันนึง   สมมุติว่ากูมีแฟนเป็นผู้ชายขึ้นมา   มึงจะรังเกียจกูเหรอ?”

   คนถูกถามสั่นศีรษะปฏิเสธแรงๆ “ไม่มีทาง...มึงเป็นเพื่อนกู...”

   “ก็เออไง   พวกกูก็เหมือนกันนั่นแหละ   แล้วต่อให้มึงไม่ใช่เพื่อนกู   ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องไปรังเกียจเหมือนกัน   เข้าใจไหม”

   จักรวาลเงยหน้ามองก๊อบแก๊บที่เอื้อมมาทั้งสองข้างมาจับบ่าเขาไว้ด้วยแววตาซาบซึ้ง   ใบหน้าเรียวได้รูปพยักขึ้นลงเบาๆ    ได้ยินแค่นี้ก็โล่งใจแล้ว “ขอบคุณว่ะมึง...”

   “เออ   แล้วทีนี้ก็เลิกคิดเรื่องนี้ซะนะไอ้เตี้ย   มึงกับท่านไอดอลของมึงออกจากเหมาะสมกัน   รีบๆรักกันเร็วๆ   พวกกูรอเสพซีรีย์เกาหลีอยู่” อ้นกล่าวขึ้นพาให้บรรยากาศเปลี่ยนกลับเป็นปกติ

   ได้ยินดังนั้นเด็กหนุ่มก็เพียงแค่หัวเราะเบาๆในลำคอ   ก่อนจะยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาแล้วจึงลุกขึ้นจากบันไดที่นั่งอยู่ “ใกล้ได้เวลาทำงานต่อแล้วว่ะ   กูขอเข้าไปเตรียมตัวก่อนนะ”

   “เออรีบไปเหอะ   กูขอดูมึงทำงานต่อสักพัก   อยากเห็นเหลือเกินว่าคุณจักรวาลโปรแค่ไหนแล้ว”

   “ถ้างั้นมึงคอยดูไว้ดีๆแล้วกันไอ้อ้น   กูเท่นะจะบอกให้  ฮ่าๆๆ” พูดจบเด็กหนุ่มก็เอื้อมมือไปขยี้หัวเพื่อนแต่ละคนเรียงตัวเป็นการบอกลา   ก่อนจะเดินนำกลับเข้าสตูดิโอไป

   ร่างเล็กวิ่งเข้าไปประจำการที่กล้องตัวเดิม   พลางเหลือบสายตาไปช่างภาพคนดังที่หันมามองเขาเช่นกัน

   คนทั้งคู่ส่งยิ้มให้กันเงียบๆท่ามกลางความวุ่นวายของทีมงานรอบตัว

   และเมื่อเลื่อนสายตาหมายจะกลับมามองที่กล้องตรงหน้า   จักรวาลก็ต้องสะดุดกับสายตาอีกคู่ของคนเป็นอาจารย์ที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเสียก่อน

   กรวิทย์หรี่ตามองเด็กหนุ่มอย่างล้อเลียน   นึกไปถึงวันที่เขาต้องลากไปคุยที่ร้านกาแฟข้างโรงพยาบาลในวันนั้นกับปฏิกิริยาที่ลูกศิษย์คนนี้มีกับน้องชายเขาในวันนี้   มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง...

   ถือว่ามีพัฒนาการที่ดีกว่าที่คิดไว้เสียอีก

   เห็นดังนั้นจักรวาลก็ได้แต่ทำหน้าเหวอ  ยกมือขึ้นเกาหัวเกาหูเก้อๆ   ก่อนจะยกมือไหว้อาจารย์หนุ่มอย่างทำอะไรไม่ถูก  แล้วจึงรีบหันกลับมาจัดการกับกล้องของตนต่อทันที



๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



   วันนี้ก็เป็นเช่นหลายวันที่ผ่านๆมาที่กวินและจักรวาลช่วยกันสร้างโลกส่วนตัวใบเล็กๆกันอยู่สองคนบนโต๊ะอาหาร

   บทสนทนาของคนทั้งคู่กำลังดำเนินไปอย่างออกรสออกชาติขณะที่เสียงเรียกเข้าจากเครื่องมือสื่อสารรุ่นเก่าในกระเป๋ากางเกงของเด็กหนุ่มดังขัดจังหวะขึ้น

   “แป๊บนึงนะครับพี่วิน” มือเรียวล้วงลงหยิบมันขึ้นมาดู   ก่อนจะกดรับในเวลาต่อมาเมื่อเห็นชื่อของคนคุ้นเคยที่โชว์หราอยู่บนหน้าจอ “สวัสดีครับพี่เมษ...”

   เสียงกล่าวทักทายคนที่อยู่ปลายสายของเด็กหนุ่มข้างกายทำให้กวินอดหันไปมองด้วยความรู้สึกจุกเสียดไม่ได้   ดวงตาคู่คมจับจ้องเด็กหนุ่มอยู่อย่างนั้น

   “ครับๆ...โอเคครับ   เดี๋ยวผมจะลงไปหาเดี๋ยวนี้แหละ” แม้ปากจะพูดใส่โทรศัพท์   หากแต่สายตากลับจ้องมองไปยังคนที่จ้องเขาอยู่เช่นกัน

   เมษาวางสายไปแล้ว   และร่างเล็กก็กำลังลุกขึ้นจากเก้าอี้   โดยไม่ลืมที่จะหันมาบอกกวินที่ดูจากสีหน้าแล้ว   คงจะรู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่อยู่แน่ๆ

   “พี่เมษซื้อขนมมาฝากครับ   ตอนนี้รออยู่ข้างล่าง   เดี๋ยวผมจะลงไปเอา...” ระหว่างที่พูดจักรวาลก็คอยสังเกตปฏิกิริยาคนฟังไปด้วย   และเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มจะฉายแววเคลือบแคลงออกมาทางสายตา   เด็กหนุ่มจึงพูดต่อขึ้นมาเบาๆ “เห็นพี่เมษบอกว่าซื้อมาแบ่งให้พี่ๆทีมงานด้วย...ท่าทางจะหลายถุง   คือ...พี่วินไปช่วยผมขนขึ้นมาหน่อยได้ไหมครับ”

   เดาได้ไม่ยากว่าชายหนุ่มจะตอบว่าอะไร

   ร่างสูงใหญ่ของช่างภาพคนดังลุกขึ้นเดินตามเด็กหนุ่มออกมาจากสตูดิโอไปโดยไม่ต้องให้เซ้าซี้นาน   คนทั้งคู่เดินลงมาจนถึงบริเวณต้อนรับที่ทางเข้า    ชายหนุ่มผิวพรรณหน้าตาดีดูสะอาดสะอ้านในชุดสูทหรูเนี๊ยบกริบปรากฏขึ้นในระยะการมองเห็นทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาหานาน

   “พี่เมษ...”

   เสียงร้องเรียกที่ดังมาจากด้านหลังเรียกให้คนที่มารออยู่หันกลับมามองด้วยรอยยิ้ม

   หากแต่เมื่อเลื่อนสายตาเลยไปที่ใครบางคนที่ยืนอยู่ข้างกายของเด็กหนุ่ม   เมษาก็ต้องรู้สึกสะดุดใจขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

   “สวัสดีปอม   สวัสดีครับคุณกวิน...” ใบหน้าหล่อเหลายังคงประดับไปด้วยรอยยิ้มการทูตอยู่อย่างนั้น   น้ำเสียงที่เอ่ยทักทายออกมาฟังดูสุภาพปกติดี

   “สวัสดีครับ...” ช่างภาพคนดังกล่าวทักทายกลับไปตามมารยาท   ไม่ได้แสดงท่าทีหวงข้าวหวงของอะไรออกมาให้เกินงาม   หากแต่เมษามองออกว่าในแววตาคมคู่นั้นก็แอบแสดงอาการกันท่าอยู่ในที

   ลูกชายนายแบงค์ละสายตาออกจากกวินกลับลงมามองที่รุ่นน้องคนสนิทตรงหน้า   ก่อนถุงขนมเต็มมือจะถูกยื่นออกไป “เอ้านี่   พี่เพิ่งพาลูกค้าไปเลี้ยงที่โรงแรมมา  เลยซื้อขนมมาฝาก   เอาไว้เติมพลังนะ” เมษากล่าวสีหน้ายิ้มแย้มพลางกวาดสายตาสำรวจไปทั่วใบหน้าและร่างกายของเด็กหนุ่ม “นี่ผอมลงหรือเปล่า   ทำงานหนักมากเลยเหรอ   หน้าซูบลงนะเรา   คุณกวินใช้งานน้องผมหนักหรือเปล่าครับเนี่ย” คำพูดติดตลกที่มาพร้อมเสียงกลั้วหัวเราะเบาๆท้ายประโยคไม่ได้ทำให้คนถูกแซวรู้สึกขำไปด้วยเลยสักนิด 

   กวินยิ้มมุมปากนิดๆกลบเกลื่อนความไม่พอใจลึกๆไว้ข้างใน “งั้นเหรอครับ   ไว้เดี๋ยวหลังจากนี้ผมจะขุนให้อ้วนๆเลยแล้วกันนะ”

   เมษาหัวเราะน้อยๆไปกับคำพูดของช่างภาพหนุ่ม   ในขณะที่คนที่ตกเป็นประเด็นได้แต่เหลือบมองหน้าคนข้างกายเป็นระยะ   กลัวเหลือเกินว่าจะกลายเป็นตาแก่ขี้น้อยใจพาลให้หัวล้านก่อนวัยอันควรไปเสียก่อน   

   “น้ำหนักผมเท่าเดิมเลยนะพี่เมษ   ไม่ได้ผอมลงหรอก   พูดอย่างนี้เดี๋ยวผมก็ตกงานกันพอดี  ฮะๆๆ” จักรวาลส่งมุขกลับไปเป็นการตัดบท   มือเรียวทั้งสองข้างชูถุงขนมขึ้นโบกไปโบกมาตรงหน้า “ขอบคุณมากนะครับสำหรับขนมพวกนี้   วันหลังพี่ไม่ต้องลำบากซื้อมาก็ได้   ผมเกรงใจ”

   “เกรงใจทำไม   คนกันเอง” เมษาเอื้อมมือมาขยี้เส้นผมนุ่มบนหัวทุยๆนั่นอย่างเบามือ   การกระทำทั้งหมดอยู่ในสายตาของบุคคลที่สามที่ยืนเป็นหัวหลักหัวตอเงียบๆอยู่ตรงนั้น



   ...ท่องไว้กวินเอ๋ย...



   …พุทโธ ธัมโม สังโฆ...



   …ใจเย็นหนอ  ไม่หึงหนอ  บีคูลหนอ...



   “เออใช่ปอม” เมษาเอ่ยขึ้นเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ “เปิดเทอมที่จะถึงนี้ปอมยังจะกลับไปทำงานที่ร้านแม่พี่อยู่ใช่ไหม?” ปกติแล้วช่วงปิดเทอมเด็กหนุ่มจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด  ส่วนปิดเทอมนี้ก็มาทำงานเต็มชั่วโมงที่บริษัทของกวิน   ทำให้งานพาร์ทไทม์ที่ร้านหรูย่านทองหล่อหยุดพักไปสองสามเดือน

   “ใช่ครับ   ทำกะเดิมเลย”

   ได้ฟังดังนั้นเมษาก็พยักหน้ารับอย่างพออกพอใจ  ในขณะที่อีกคนได้แต่ยืนตั้งสมาธิอยู่กับตัวเองเงียบๆ   บทสนทนาของคนทั้งสามดำเนินต่อไปอีกเพียงไม่กี่นาที   ก่อนแขกผู้มาเยือนจะเป็นฝ่ายขอตัวกลับไปทำงานเมื่อเห็นว่าได้เวลาอันสมควรแล้ว

   การทำงานในตลอดบ่ายวันนั้นเป็นไปอย่างปกติ   กวินไม่ได้เก็บเรื่องเมษามาใส่ใจมากนัก   ที่จริงแล้วควรจะเรียกว่า 'พยายาม' จะไม่เก็บมาใส่ใจมากกว่า   ก็คงต้องยอมรับล่ะว่ามีแอบคิดบ้างแวบๆเป็นธรรมดา  แต่ชายหนุ่มก็ไม่อยากจะทำตัวคิดเล็กคิดน้อยให้เสียจริต   ก็ในเมื่อจักรวาลเคยพูดชัดเจนแล้วว่าไม่มีอะไร   ก็คงไม่มีเหตุผลต้องไปฟึดฟัดเป็นนิสัยผู้หญิง   อีกทั้ง...สถานะของเขาและเด็กหนุ่มในตอนนี้ก็ยังไม่ได้คืบหน้าไปเกินกว่าเดิมเสียหน่อย

   และหลังจากง่วนกับงานกันต่ออีกหลายชั่วโมง   เวลาก็หมุนเดินมาถึงช่วงพักทานอาหารเย็นอีกรอบ...
.
.

.


.
   “เห้ย   ที่ร้านข้าวกล่องที่สั่งไปแม่งมาส่งไม่ได้แล้วอ่ะ” เต้กล่าวขึ้นทันทีเมื่อวางสายลงจากร้านที่สั่งข้าวกล่องมาประทังชีวิตคนทั้งสตูดิโอกันทุกวัน   เนื่องจากทางร้านมีปัญหาบางอย่างทำให้ข้าวหลายสิบกล่องที่สั่งไว้ไม่สามารถมาส่งได้

   “อ้าวเหี้ย   กูหิวจะตายอยู่แล้ว” กวินสบถออกมาเบาๆขณะวางกล้องคู่ใจลงบนโต๊ะ

   “เอาไงดีวะพี่?”

   ชายหนุ่มนิ่งคิดอยู่ครู่   ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมองหน้าปัดนาฬิกาบนข้อมือของตนพลางครุ่นคิด   ก่อนเสียงทุ้มต่ำจะเอ่ยออกมา “งั้นออกไปกินข้างนอกก็แล้วกัน   วันนี้กูให้เวลาชั่วโมงนึง   แล้วเดี๋ยวค่อยกลับมาทำงานต่อ” การกินข้าวกล่องในสตู   เป็นการช่วยประหยัดเวลาไปได้ถึงครึ่ง   แต่วันนี้   เนื่องจากเป็นเหตุสุดวิสัย   ก็คงต้องยอมยืดเวลาออกมาอีกนิด 
.
.

.


.
   สุดท้าย  มื้อเย็นวันนั้นของคนทั้งสตูดิโอก็จบลงที่ร้านข้าวต้มในซอยถัดจากบริษัทไปไม่กี่ซอย   ตลอดมื้ออาหาร   ท้องฟ้ามืดครึ้มที่ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆก้อนโตก็พาให้ใจทุกคนเต้นตุ๊มๆต่อมๆ   ไม่รู้ว่าฝนจะเทลงมาเมื่อไหร่   จากที่กวินบอกให้พักได้หนึ่งชั่วโมงเป็นพิเศษ   กลับกลายเป็นว่าพวกเขาใช้เวลากินกันเร็วกว่าเก่าเสียอีกเนื่องด้วยกลัวว่าหากฝนตกลงมาก่อน  ตอนขากลับจะลำบาก

   พนักงานบางส่วนค่อยๆทยอยกันเรียกแท็กซี่กลับบริษัทหลังทานอาหารเสร็จ   โดยที่คนเป็นเจ้ามืออย่างกวินยังคงต้องรอจ่ายเงินเป็นคนสุดท้ายโดยมีจักรวาลนั่งรอเป็นเพื่อน

   รถบีเอ็มสีดำคันเดิมที่ขับออกมาจากบริษัท   ไม่มีลูกน้องคนไหนกล้าเสนอตัวขอติดรถมาและกลับด้วยเลย   เพราะถึงตอนนี้  ไม่ว่าใครก็รู้ดีว่าเจ้านายของพวกเขาต้องการเวลาเป็นส่วนตัวกับ 'ว่าที่คนรัก' มากแค่ไหน    สุดท้าย   เมื่อจัดการจ่ายเงินกับเด็กเสิร์ฟไปเรียบร้อยแล้ว   คนทั้งคู่จึงลุกออกจากร้านมาเป็นสองคนสุดท้าย

   รถถูกจอดอยู่ค่อนข้างห่างจากตัวร้านพอสมควร

   ชายหนุ่มยกข้อมือขึ้นมองหน้าปัดนาฬิกา   เวลาพักที่เขาเป็นคนกำหนดมันขึ้นมาเองเพิ่งจะถูกใช้ไปเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น   ดังนั้นไม่มีอะไรต้องรีบร้อนแล้วสำหรับตอนนี้   จังหวะการเดินที่เขาก้าวนำคนตัวเล็กข้างกายจึงเป็นไปอย่างสบายๆ

   หากแต่สภาพอากาศกลับไม่เป็นใจสำหรับการก้าวย่างเอื่อยๆแบบนั้นนัก   เนื่องจากหลังคนทั้งคู่เดินพ้นร้านข้าวต้มมาเพียงไม่กี่ช่วงห้องแถว   หยาดน้ำเม็ดใหญ่ที่ดูเหมือนจะถูกก้อนเมฆอุ้มเอาไว้อยู่นานแล้วก็ถูกปล่อยลงมาราวกับเทกระจาด   

   ฝนที่ตกลงมาอย่างแรงเรียกให้สัญชาตญาณของกวินต้องรีบคว้าข้อมือของเด็กหนุ่มวิ่งหาที่กำบัง   เขารู้ดีว่างานแบบที่พวกเขากำลังทำกันอยู่   หากร่างกายไม่เอื้ออำนวยจะทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากแค่ไหน   แม้โปรเจ็คใหญ่ชิ้นนี้กำลังจะจบลงในอีกไม่กี่วัน   แต่อย่างไรก็ไม่ควรปล่อยให้ตัวเองป่วยอยู่ดี

   กันสาดที่ยื่นออกมาจากตามตึกแถวที่เรียงรายกันอยู่นี้สั้นเกินไปสำหรับเม็ดฝนที่มาพร้อมกับลมแรงๆ    ละอองน้ำสาดเข้ามาโดนเนื้อโดนตัวคนทั้งสองให้ชื้นไปหมด   ขาทั้งสองคู่รีบออกแรงวิ่งมาจนกระทั่งถึงบริเวณซากตึกร้างห้องหนึ่งที่พอจะมีพื้นที่แคบๆหลุบเข้าไปพอให้คนทั้งคู่แทรกตัวหลบฝนกันได้

   หยาดฝนถูกสาดเข้ามาถึงตัวได้น้อยลงหากเทียบกับบริเวณหน้าห้องแถวห้องอื่นๆ   แต่ก็ยังคงมีละอองปลิวตามลมเข้ามาบ้างประปราย

   กวินดันตัวเด็กหนุ่มให้เบียดตัวทาบผนังลึกเข้าไปอีก   ก่อนจะค่อยๆถอดเสื้อคลุมลายสก็อตของตนออกแล้วขึงมันด้วยสองแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อเพื่อช่วยบังทั้งตัวเขาและคนตรงหน้าไว้จากละอองฝน    ท่าทางของคนทั้งสองในตอนนี้  หากมีใครในบริษัทผ่านมาเห็น   คงไม่วายถูกล้ออย่างเสียไม่ได้   ก็ไอ้การยืนแนบชิดประจันหน้ากัน   พร้อมสองแขนของคนตัวสูงกว่าที่กางเสื้อท้าวกับผนังด้านหลังของอีกฝ่ายไว้แบบนี้....   




   มันดูยังไงก็...ละค๊อน ละคร




   “หนาวไหมปอม?” กวินเปล่งเสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามเด็กหนุ่มเบาๆ   พลางใช้สายตากวาดสำรวจไปตามเนื้อตัวชื้นๆนั่น   

   คนถูกถามส่ายหน้า “ผมว่าผมน่าจะถามพี่มากกว่านะ”

   ได้ยินอย่างนั้นกวินก็ก้มลงมองตัวเองบ้าง   แล้วก็เข้าใจว่าทำไมเด็กหนุ่มจึงพูดอย่างนั้น   ก็ในเมื่อเขาน่ะ...ชุ่มยิ่งกว่าคนตรงหน้าเสียอีก   

   หยดน้ำที่เกาะพราวอยู่บนใบหน้าทำให้ชายหนุ่มรู้สึกรำคาญความเปียกชื้นนี้อยู่ไม่น้อย  แต่เนื่องจากสองแขนที่ทำหน้าที่กางเสื้อปกป้องลูกนกไว้ใต้ปีกทำให้ไม่สามารถยกขึ้นปาดพวกมันออกไปได้   สิ่งที่ทำตอนนี้จึงมีเพียงการพยายามไถหน้ากับหัวไหล่ของตนอย่างทุลักทุเล

   เด็กหนุ่มเงยหน้ามองอากัปกิริยาของกวินพลางเม้มปากแน่นอย่างครุ่นคิด    หากแต่เพียงไม่นานก็ตัดสินใจสอดมือเรียวลงไปหยิบผ้าเช็ดหน้าสีเข้มในกระเป๋ากางเกงยีนส์ของตนขึ้นมา

   สัมผัสนุ่มๆของเนื้อผ้าที่ทาบลงมากับแก้มของเขา   ทำให้ชายหนุ่มต้องหยุดการกระทำทุกอย่างลง   แรงซับน้ำจากมือของคนใต้อ้อมแขนของเขาขยับไปตามใบหน้าแผ่วเบา   รู้สึกได้ถึงหยาดน้ำที่ค่อยๆถูกทำให้แห้งลงไปที่ละส่วน

   รอยยิ้มถูกจุดขึ้นบนริมฝีปากด้วยความรู้สึกพองโตในอก   ดวงตาคู่เรียวได้รูปที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้าดูตั้งใจกับการเช็ดหน้าให้เขามาก   เห็นแบบนี้มันก็อยากจะร้องตะโกนออกมาด้วยความสุขจริงๆ



   ฝ่ายจักรวาลเองที่บรรจงลูบผ้าไปตามไรหน้าผากของคนร่างสูงตรงหน้าก็อดใจเต้นไม่ได้เมื่อเริ่มรู้สึกตัวว่าตนกำลังถูกคนตรงหน้าจ้องด้วยสายตาแบบไหนอยู่   มือที่เคยเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติเมื่อครู่ก็กลับขยับเก้ๆกังๆขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่   

   เด็กหนุ่มค่อยๆลดมือลงมาอย่างทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นว่าใบหน้าหล่อเหลาแห้งสนิทแล้ว  ดวงตาทั้งคู่หลุบลงมองต่ำอย่างเก้อเขิน

   “ขอบคุณนะ” เสียงทุ้มต่ำที่แม้จะเอ่ยออกมาแผ่วเบา   แต่ด้วยระยะห่างเพียงคืบก็ทำให้คนฟังได้ยินมันชัดเจนดี

   จักรวาลอมยิ้มบางๆ   รู้สึกได้ว่าแก้มทั้งสองข้างของตนร้อนขึ้นมาอีกแล้ว “ไม่เป็นไรครับ..”

   เห็นกิริยาท่าทางน่าเอ็นดูอย่างนั้นแล้วกวินก็อดยกยิ้มกว้างขึ้นไม่ได้   ดวงตาคู่คมจับจ้องไปทั่วใบหน้าขึ้นสีระเรื่อของเด็กหนุ่มอย่างมีความสุข   



   ความสุข...ที่ห่างหายไปหลายวัน



   ความจริงแล้วเขาคงต้องขอบคุณฝนที่ตกลงมาอย่างหนักที่หยิบยื่นช่วงเวลาที่โหยหาแบบนี้มาให้...



   

   ชายหนุ่มโน้มลงแตะริมฝีปากลงบนหน้าผากเนียนของอีกฝ่ายเนิ่นนาน   ทั้งคู่หลับตาลงดื่มด่ำสัมผัสโดยอัตโนมัติ   หัวใจสองดวงแข่งกันเต้นดังๆฝ่าเสียงฝนตกด้วยความอิ่มเอม





   สองร่างยืนค้างกันอยู่ท่านั้นเป็นนาที   ก่อนที่เจ้าของริมฝีปากจะเป็นฝ่ายผละออกช้าๆ   

   ดวงตาคู่คมสบเข้ากับอีกคน   ส่งผ่านความรู้สึกมากมายที่เก็บสะสมมาหลายต่อหลายวันไปตรงหน้า



   

   “...คิดถึงจัง...”





   คิดถึง...กวินหมายความอย่างที่พูด

   เจอกันทุกวัน   ไม่ได้แปลว่าจะคิดถึงกันไม่ได้   

   สิ่งที่เขาคิดถึง   คือช่วงเวลาแบบนี้...ช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันสองคน



   คนฟังที่เงยหน้ามองเจ้าของคำสารภาพก็กระพริบตาปริบๆสองสามที   ก่อนที่แก้มทั้งสองข้างจะขึ้นสีมากกว่าเก่า   ดวงตาที่สบอยู่กับคนตรงหน้าเมื่อครู่เริ่มเสมองไปทางอื่น   และจนในที่สุด   เด็กหนุ่มก็อดทนต่อความเขินอายของตนเองไม่ไหว   จนต้องฟุบหัวลงกับไหล่ของกวินเพื่อซ่อนใบหน้าของตนจากสายตาคมกริบของคนพูดตรงไว้อย่างไม่รู้จะทำอย่างไร

   “ฮื่อ...” เสียงอู้อี้ที่ดังอยู่ในลำคอของเด็กหนุ่ม   เป็นเหมือนคำตอบรับที่ตั้งใจจะส่งออกไปให้คนฟังได้รับรู้เช่นเดียวกัน



   'ฮื่อ' ที่ว่านี่แปลว่าอะไรไม่แน่ใจ   แต่จะผิดไหม  หากกวินจะคิดเออออไปเองว่ามันหมายถึง



   ….'คิดถึงเหมือนกัน' น่ะ



   ใบหน้าที่ถูกซ่อนอยู่กับไหล่แข็งแรงของช่างภาพหนุ่ม   ลอบยิ้มออกมากับตัวเองอย่างควบคุมไม่ได้   ในหัวนึกย้อนไปถึงคำที่เคยตอบอ้นไปเมื่อไม่กี่วันก่อน


   

   ...'ไม่แน่ใจ'...






   ...แล้ววันนี้เขาจะแน่ใจได้หรือยัง...







   “ปอม...” เสียงเรียกเบาๆที่ข้างหูพาให้เด็กหนุ่มผละขึ้นมาฟังคนตรงหน้าอีกครั้ง

   กวินทิ้งระยะการพูดไปครู่...เด็กหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามถึงเหตุผลการเรียกครั้งนี้   กระตุ้นให้ช่วงภาพคนดังเอ่ยถามต่อออกมา




   “ไปนิวยอร์กกันนะ...”




   ดวงตาคู่เรียวของคนฟังเบิกขึ้นน้อยๆด้วยความฉงน “นิวยอร์กหรือครับ?”

   

   “อืม...ฉันอยากพานายไปดูผลงานตัวเอง...ไปนะ...”



   เด็กหนุ่มมองคนตรงหน้าอย่างลังเล   ไปเมืองนอกใช้เงินเยอะไม่ใช่เล่น   ถึงไม่เคยไป  แต่เขาก็รู้ดี “คือ...”

   แต่กวินเองก็ดูเหมือนจะรู้ทันไปเสียหมดว่าจักรวาลคิดอะไร   เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นดักคอทันทีเมื่อเห็นแววไม่แน่ใจในสายตาของเด็กหนุ่ม

   “เมื่อก่อน   ตอนงานใหญ่ชิ้นแรกของไอ้ก้อกับไอ้จอม   ฉันก็พามันไปอย่างนี้แหละ   นายไม่ต้องคิดมากหรอก   ทำงานมาเหนื่อยๆก็ควรได้ไปดูผลงานของตัวเอง   อีกอย่าง...นายเคยบอกฉันว่าไม่เคยไปเที่ยว...ถือโอกาสไปมันซะตอนนี้แหละ”

   จักรวาลหลุบตามองพื้นครุ่นคิดอยู่ครู่   ก่อนจะเอ่ยถึงข้อเท็จจริงบางประการขึ้นมา “แต่ว่า...วันจัดแสดงมันเป็นช่วงที่ผมเปิดเทอมแล้วไม่ใช่เหรอครับ...”

   ถึงตรงนี้  คนฟังก็ยกยิ้มขึ้น “ไม่ต้องห่วง   ฉันขอพี่วิทย์ไว้ให้เรียบร้อยแล้วล่ะ”

   

   เด็กหนุ่มนิ่งคิดไปเมื่อได้ฟังดังนั้น...



   “...นะ...”



   ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดพยางค์เดียวจากกวินที่มาพร้อมสายตาน่ามองจะทำให้เขาลืมความรู้สึกเกรงอกเกรงใจมากเกินความจำเป็นหายไปหมด...

   ใบหน้าเรียวผงกขึ้นลงเบาๆเป็นการตอบรับไปในที่สุด



   ได้รับคำตอบมาแบบนั้นคนที่ลุ้นอยู่ในใจเมื่อครู่ก็รู้สึกเหมือนได้ก้าวข้ามภูเขาไปอีกหนึ่งลูก

   



   ...และแน่นอนว่ายังมีภูเขาอีกหลายลูกที่เขาเตรียมไว้ให้ตัวเองที่นิวยอร์กแล้วด้วย...





TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-09-2012 21:33:54 โดย arunoki »

ออฟไลน์ pollapat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Thanks กำลังรออยู่เลย

pahpai

  • บุคคลทั่วไป
แปะก่อนอ่าน
กดโหวตไปแระ เป็นคนแรกที่โหวตผองเพื่อนเลยนะเนี่ย 55555

RGB.__

  • บุคคลทั่วไป
มาแล้วววววววววววววววววว   :mc4: :mc4:

ไม่หึงหนอ.. บีคูลหนอ >>  :laugh: :laugh: :laugh:
ฉากฝนตกนี่กลายเป็นฉากโรแมนติกเลยอ่ะ 5555555555 ช่วงนี้ฟ้าฝนเป็นอะไรไม่รู้ตกอยู่นั่น   :angry2:
ไปนิวยอร์คแล้ว ก็ฮันนีมูนแล้ว!!!!? #ผิด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
ดีใจจัง กลับมาแล้ว
 
แถมยังพาความโรแมนติกสุดๆ มาฝากด้วยง่อ อ

หายงอนคนเขียนแล้ว ที่หายไปหลายวัน เค้าลืมหมดแล้วนะ
ต้องยกความดีให้กับพี่วินน้องปอมเลยน้า า

Giniz

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ยยยยยย คิดสภาพตอนที่น้องปอมซบไหล่พี่วินท่ามกลางสายฝนแล้วเขินมาก!!! #บีคูลหนอ 555+  :-[

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณที่กลับมา คิดถึงปอมกับพี่วินมาก

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
กรี๊ดดดดด...มาแล้ว
==================
ภูเขาอีกลูกของพี่กวินคืออะไรหนอ
ขอน้องปอมเป็นแฟนรึป่าวน๊า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-09-2012 19:48:23 โดย nolirin »

DH_bua_KH

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงเหมือนกัน ><

ออฟไลน์ dimth

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
ภูเขาที่ว่าคืออะไ่รหน๊ออออ....มีลูกขอเป็นแฟนด้วยไหมเอ่ย ^^
 :3123:

ออฟไลน์ beery25

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-0

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
นิยายเรื่องนี้ชอบทำให้เขินโดยไม่ออกเสียงนะ 5555
. ตื่นเต้นที่นิว ยอร์ก

ออฟไลน์ special

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-3
คิดถึงด้วยยยยยยยยยยยยยยย

ถ้าเราเป็นพี่วินจะไม่ยอมให้ปอมไปทำงานพิเศษกะพี่เมษแล้วล่ะ 555

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
ไปรอรับที่นิวยอร์กก่อนดีกว่า  :impress3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด