หัวใจหลังเลนส์ #ตอนจบ และ บทส่งท้าย หน้า 133
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หัวใจหลังเลนส์ #ตอนจบ และ บทส่งท้าย หน้า 133  (อ่าน 1377861 ครั้ง)

ออฟไลน์ praseat

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-4
 :กอด1:"รู้สึกดีจังครับ" :กอด1:

ออฟไลน์ Gaem

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
เขิ๊นเขินนน  :o8:   ทำไมต้องทำให้เขินทั้งเรื่องเลย อิจฉาอ่ะ 5555555  :z3:

พอเขินๆแบบนี้ ก็นึกอยากจะจับพี่เมษผูกกับยานอวกาศแล้วส่งออกนอกโลกจัง   o18

ออฟไลน์ Nae_Nae

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
 อ๊ากกกกกกกก  เขินนนน  ไม่ไหวแล้วววว :-[

มาต่อไวไวนะคะ   :กอด1:

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
กะรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
มาทีหลังดังกว่า
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
 :-[ :-[
ถึงพี่วินจะมาทีหลัง
แต่น้องปอมรักพี่วินแล้วว้อย
รู้ไว้ซะมั่งไอ้เมฆ ไอ้เวร
เกลียดจริงๆเลยคนแบบนี้
 :angry2:

วันนี้หวานแบบไม่ลืมหูลืมตาเลยง่ะ
เขินแทนน้องปอมจริงจริ๊งงงงงงงงง
 :m3: :m3:

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

RGB.__

  • บุคคลทั่วไป
ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เขาเป็นแฟนกันแล้วววววววว *น้ำตาไหลด้วยความปลื้มปริ่ม*

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
กริ้ดดดดดดดดดดดดดดดดด เรื่องนี้ที่รอคอย แถมตอนนี้ัยังโฮกได้ใจอีก

เค้าเป็นแฟนกันแล้วนะเอย ฮิ้วววววววว :-[

ออฟไลน์ Cupcake

  • @--##-หนูน้ำตาล-##--@
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
หายไปนานเลย ดีใจจังที่มาต่อแล้ว
กลับมาคราวนี้พาตอนหวานๆมาซะด้วย เขินแทยปอมเลยอ่าา

ออฟไลน์ chisarachi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1019
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-1
เป็นแฟนกันแล้ววววววว โอ๊ยยยยยยยย
หยิกแขนหยิกขา เขินอ่าาาาาาาาาาาาาาา><
เป็นแฟนแล้ววว
เป็นแฟนแล้ววววววววววววว
เป็นแฟนแล้ววววววววววววว

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yoyo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
โอ้วว คิดออกเลย
แสดงว่าคราวหน้าถ้าไปหอศิลป์จะลองเดินจากชั้นบนมาชั้นล่างนะคะ ><

แสดงความยินดีกับพี่กวินด้วย คึคึ

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
พี่วินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน แผนสูงมาแต่น้องยังไม่บอกว่ารักนี่นา

ออฟไลน์ sthattrt

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :-[ :-[
อ่านแล้ว อ่านอีก อ่านอีก อ่านแล้ว
อ่านตอนนี้มาหลายรอบแล้ว ก็ไม่เบื่อ
 :-[ :-[
เป็นแฟนกันแล้ว
 :o8: :o8:
ก็ยังอยากอ่านอีก รออยู่นะ 
:call: :call:

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
แอบไปเดทกันไกลเชียวนะคะ
แถมพี่วินยังสมหวังแล้วด้วย 
เป็นแฟนกันแล้วววว
ฮิ้ววววววววว  >/////<

ออฟไลน์ shoky_9

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
 "เป็นแฟนกันแล้วนะปอม..."

>//< กรี๊ดดดด  จ้า เป็นจ้าาาาา     

เขินเหมือนตัวเองคือปอม  :-[

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
น่ารัีกอ่ะ กรี๊ด!!!!!!!!!!

ออฟไลน์ Hope2TheEnd

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
โอ๊ยยย น่ารักมาก เป็นแฟนกันสักที ><

ออฟไลน์ aft22423

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
อ๊ากส์~! เขินแทนอ่ะ น่ารักที่สุดเลย ขอให้รักกันตลอดไปนะ จุ๊บๆ

ออฟไลน์ ช็อคโกแลตสีม่วง

  • I'm Hiddlestoner.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
 :o8: :-[ :impress2:
เขิน เขิน เขิน เขิน เขิน เขิน
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกก
คุ้มค่ากับที่รอคอยจริงๆเล๊ยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ akichan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เป็นจูบ ที่ดูเปียกจริงๆ 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ JingJing

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-2
พี่วินน่ารักอ่ะตื่นเต้นเหงื่อท่วม  แอร๊ยยยยยเขินแทนน้องปอม :o8:

:pig4: คนแต่งจ้า
ปล.เพลงน้องขาชาเพราะมาก ฟังทุกวันเลย o13

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
กว่าปอมจะกลับ
สายไปแล้วค่ะพี่เมษ เค้ามีเจ้าของแล้ว

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
พี่วินรุกฆาตแล้วจ้า

ออฟไลน์ Ciin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
เปนแหนกันแล้ววว
ว่าแต่เม่ษาดูน่ากลัวๆนะ
ไม่รุ้ว่าจะทำอะไร

ออฟไลน์ SugaR_II

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
กรี๊ดดดดดดดดดด~ พี่วินน่ารักอ่ะ
เป็นการขอเป็นแฟนได้โรมินติกสุดๆ  :m3: :m3:

ออฟไลน์ sulsul

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
กรี๊ดดดดด น่ารักมากกกกก
ดป็นแฟนกันแล้ว เย้ๆ
ตอนนี้แสดงให้เห็นว่าปอมก็ชอบพี่วินแหละ ชอบมาก
แต่ติดอะไรหลายอย่างที่ไทย
สายตาคนมอง ทัศนคติ วัฒนธรรม ฯลฯ

ออฟไลน์ NannY

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +125/-1
เขินมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :กอด1:

arunoki

  • บุคคลทั่วไป


หัวใจหลังเลนส์
#30


   เสียงผิวปากเพลงการ์ตูนญี่ปุ่นแว่วดังให้นักศึกษาที่เดินกันขวักไขว่มหาวิทยาลัยในยามเช้าแบบนี้ได้ยินมาตลอดทาง   เด็กหนุ่มเจ้าของเสียงดนตรีที่ว่าหันมองนกชมไม้ไปเรื่อยเปื่อยขณะตรงไปยังอาคารเรียนที่คุ้นเคย

   เพียงไม่นาน  สองเรียวขาก็พาร่างเล็กมาถึงบริเวณใต้ถุนตึกคณะ 

   โดยไม่ต้องเสียเวลากวาดตามองหากลุ่มเพื่อนซี้   เสียงตะโกนแซวโหวกเหวกก็ดังแหวกอากาศมากระทบหูเข้าเสียก่อน...



   “ผิวปากอารมณ์ดีมาเลยนะจ๊ะน้องปอม" เสียงแหบห้าวที่ไม่ได้ยินมาพักใหญ่ดังมาเป็นเสียงแรก   ไม่ต้องบอกจักรวาลก็รู้ว่าใครเป็นเจ้าของของมัน "ที่นิวยอร์กมีเรื่องอะไรดีๆหรือไง  เล่าให้พวกกูฟังบ้างดิ!"

   “หุบปากไปเลย เหี้ยอ้น" จักรวาลเดินตรงเข้าไปหาโต๊ะตัวที่เต็มไปด้วยบุคคลอันคุ้นเคยพร้อมด้วยคำทักทายสุภาพรื่นหู   ฝ่ามือเรียวโบกเข้าไปที่ท้ายทอยเพื่อนรักทันทีที่เดินถึงตัว

   “แหม   เขินแล้วทำร้ายร่างกายกูทุกทีเลยนะไอ้หอยหลอด   มาๆ  นั่งเลยนั่ง   หน้าตาสดชื่นขนาดนี้แสดงว่าต้องมีข่าวดีอะไรให้พวกกูกรี๊ดแน่ๆ"

   คนถูกเค้นถามหรี่ตามองท่าทางระริกระรี้ของเพื่อนรอบวง   เมื่อคืนนี้เขาเพิ่งเดินทางกลับมาถึงกรุงเทพฯสดๆร้อนๆ    ตื่นเช้ามาก็ต้องรีบกลับมาเรียนโดยไม่ได้หยุดพัก   ยังไม่มีโอกาสเล่าเรื่องอะไรให้ใครฟังทั้งสิ้น  แล้วไอ้เจ้าเพื่อนตัวดีพวกนี้มันไปเซ้นส์ดีมาจากไหน   ถึงได้มองออกเขาทะลุปรุโปร่งขนาดนี้




   นี่เขาเป็นคนอ่านง่ายหรืออย่างไรกัน...




   แต่สงสัยจะเป็นอย่างนั้น...   




   เพราะตั้งแต่ตื่นมา   แม้จะมีอาการเจ็ทแล็ค  ปรับเวลาชีวิตไม่ทัน  แต่ไม่รู้ทำไม   เขายังหยุดฮัมเพลงผิวปากไม่ได้เลย




   “ข่าวดีของมึงนี่มันเรื่องอะไรล่ะ" ก็ถามไปอย่างนั้นแหละ   จริงๆก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าเพื่อนๆพูดถึงเรื่องอะไรกัน

   “ไม่ต้องมาทำไขสือเลยหอกหัก   ไปฮันนีมูนมา  กลับมาต้องมีอะไรดีๆบ้างล่ะ" ชายร่างใหญ่หนวดครึ้มอย่างเจล็อกคอเพื่อนตัวเล็กไปถาม  เป็นลูกคู่ให้กับอ้นได้อย่างดีชนิดที่เรียกว่าเป็นปี่เป็นขลุ่ย

   ความจริง...หลังจากวันนั้น   ที่เคยสารภาพกลายๆกับเพื่อนไปที่สตูดิโอว่าอาจจะชอบกวิน   เด็กหนุ่มก็ล้มเลิกความคิดที่จะปิดบังเรื่องราวของพวกเขากับเพื่อนกลุ่มนี้แล้ว    จะให้เล่ามันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก...




   แต่ว่ามันติดอยู่นิดนึง  ตรงที่มัน...เขินน่ะสิ




   หากแต่...เหมือนพระเจ้าจะได้ยินเสียงในหัว   ตัวช่วยตีแผ่ความจริงจึงถูกส่งมาให้อย่างทันท่วงที...





   “สวัสดีจักรวาล   กลับมาจากนิวยอร์กเป็นยังไงบ้าง   สนุกไหม?” เสียงทุ้มนุ่มของอาจารย์หนุ่มที่ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆเรียกคนทั้งโต๊ะให้หันไปมอง "นี่เจ้าวินเพิ่งโทรมาเล่าให้ผมฟังเนี่ย   เห็นว่าตกลงคบกันแล้วใช่ไหม   ดีใจด้วยนะ"





   อ่า...





   ขอบคุณครับอาจารย์...





   คำตอบของเขาได้ถูกตอบแทนเรียบร้อยแล้ว...



   “เห้ย! จริงเหรอมึง" อ้นร้องเสียงดัง   ตาโตเท่าไข่ห่าน   ไม่ต่างจากคนที่เหลือ "โห  เพื่อนกูขายออกแล้ว   ดีใจด้วยนะไอ้เตี้ย" ฝ่ามือสากเอื้อมข้ามโต๊ะมาลูบหน้าลูบตาเด็กหนุ่มที่ตกเป็นประเด็นอยู่ ณ ขณะนี้

   จักรวาลปัดป้องทุกสัมผัสน่าขนลุกที่ได้รับของคนรอบข้าง   รู้สึกได้ชัดเจนว่าหน้าชักจะร้อนๆขึ้นมาอีกแล้ว "อะไรเล่า   เวอร์ไปแล้วไอ้พวกเวร"

   กรวิทย์ยืนขำกับพฤติกรรมประหนึ่งฝูงลิงของบรรดาลูกศิษย์   พลางนึกย้อนไปถึงน้ำเสียงมีความสุขของน้องชายที่โทรมาเล่าข่าวดีให้ฟังเมื่อเช้าก่อนออกมาทำงาน   

   ทั้งที่เป็นเวลาเช้าตรู่   ซำ้คนพูดยังควรจะมีอาการปรับเวลาไม่ทัน   แต่เสียงที่ได้ฟังนั้นกลับฟังดูมีชีวิตชีวาราวกับเด็กๆ




   ครั้งล่าสุดที่ได้ฟังเสียงแบบนี้ก็เมื่อสมัยที่พ่อซื้อกล้องตัวแรกให้มันนั่นแหละ...




   นี่ลูกศิษย์เขาคงมีอิทธิพลต่อชีวิตมันมากจริงๆ...ในฐานะพี่ชายและอาจารย์ก็ได้แต่หวังว่าคนทั้งคู่จะอยู่อย่างมีความสุขอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆล่ะนะ




   ยืนยิ้มอยู่แบบนั้นอีกครู่หนึ่ง   อาจารย์หนุ่มก็ต้องขอตัวไปเตรียมการสอน   ทิ้งหน้าที่ไว้ให้เด็กๆเขาไปคาดคั้นกันเอง...



   “เล่าให้ฟังหน่อยดิมึง   อยากรู้อ่ะ"

   จักรวาลมองอาการออดอ้อนของเพื่อนรักที่เอาศีรษะที่ไม่แน่ใจว่าได้ผ่านน้ำมาบางหรือเปล่ามาถูไถไปมาที่ต้นแขนของเขา   สายตาอยากรู้อยากเห็นจากเพื่อนรอบข้างทำให้สุดท้ายแล้วคนถูกอ้อนก็ต้องใจอ่อน

   เด็กหนุ่มถอนหายใจระบายความกระดากอายแผ่วเบา "อยากรู้เรื่องอะไรล่ะ"

   อ้นยิ้มกริ่มเมื่อเห็นท่าทีของเพื่อนรัก "ก็แบบ    ท่านกวินเขาทำยังไงเหรอ    พวกมึงถึงได้เป็นแฟนกัน"

   คนถูกถามยู่ปากลังเลใจนิดๆ   ก่อนจะคลายมันออกแล้วกลั้นใจหลับหูหลับตาตอบออกไป "เขาก็...ถามตรงๆ"

   “เขาพูดว่าอะไร?”

   “โห  นี่ต้องละเอียดขนาดนั้นเลยเหรอวะ...?” จักรวาลประท้วงเสียงแห้ง   แต่เมื่อได้รับการยืนยันจากอ้นก็ยอมเล่าต่อ "เขาก็บอกว่า...ศึกษากันมานานแล้ว...จะเป็นแฟนกันได้หรือยัง   อะไรทำนองเนี้ย...” เล่าไปแก้มก็ร้อนผ่าวไป   ระดับความดังที่ใช้ก็ถูกลดลงให้เหลือเพียงเบาๆ

   “กรี๊ดๆ"

   “กรี๊ดเหี้ยอะไรไอ้เม้ง   เป็นตุ๊ดเหรอ" อ้นยกมือขึ้นแพ่นหัวกลมๆของเพื่อนหน้าเจ๊กไปหนึ่งทีพอสนุกสนาน   ก่อนจะหันกลับมาถามต่ออย่างสนอกสนใจ "เขาขอที่ไหน  ยอดตึกเอ็มไพร์สเตท?”

   “ยอดตึกแป๊ะอะไรล่ะ" คนถูกคาดคั้นพึมพำเบาๆ "ในสวน...”

   “อื้อหือ...รักธรรมชาติ...โรแมนติกเหี้ยๆ” อ้นพยักหน้าขึ้นลงไปมากับคำตอบที่ได้รับ




   "เสร็จแล้วมีจุ๊บๆกันป่ะ?”




   เพียงเท่านั้นคนถูกถามก็ต้องรีบยกมือขึ้นเบรกทันที “สัด!...ลึกไปละไอ้อ้น   พอแค่นี้   หน้ากูจะระเบิดอยู่แล้วเนี่ย"




   “ฮ่าๆๆๆ  พูดอย่างนี้แสดงว่ามีชัวร์" แต่เมื่อเห็นสายตาขุ่นเคืองจากคนโดนล้อ   อ้นก็ต้องหุบปากฉับแล้วเปลี่ยนโหมดเป็นสีหน้าจริงจัง "โอเค..ไม่แซวแล้วก็ได้   แต่อยากรู้อีกอย่างนึงว่ะ...ตอนนี้มึงรู้สึกยังไงบ้างวะ?...   




   มีความสุขไหม?”




   พอได้ฟังคำถาม   กล้ามเนื้อบนใบหน้าก็ทำงานขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ   เด็กหนุ่มยกยิ้มขึ้นเต็มแก้มอย่างห้ามไม่ได้   ศีรษะได้รูปขยับขึ้นลงเบาๆสองสามที   






   ...มีความสุขสิ   ก็ตั้งแต่ใต้ต้นโอ๊ควันนั้นจนถึงตอนนี้   หัวใจของเขาก็ยังเต้นเร็วแรงดีไม่มีตกเลย...

.
.

.


.
   
   และแล้วตลอดคาบเรียนในวันนี้เด็กหนุ่มก็ต้องเผชิญกับคำถามชวนมุดดินจากบรรดาเพื่อนตัวดีทั้งหลายสารพัดสารเพชนิดที่ว่าไม่เป็นอันเรียนหนังสือกันเลย   คำถามไหนกรองแล้วว่าพอจะตอบได้   เด็กหนุ่มก็อ้อมแอ้มตอบออกไป   แต่กระนั้นก็ยังมีอีกหลายคำถามที่บางทีก็เด็กหนุ่มแอบอยากเก็บไว้เป็นความลับให้รู้กันเพียงสองคน   


   
   แค่เขากับกวิน...



   เกิดมาก็เพิ่งจะเคยรู้สึกพิเศษอย่างนี้นี่แหละ   ความรู้สึกที่อยากจะสร้างโลกส่วนตัวกับคนอื่น...ครั้งนี้เป็นครั้งแรก   



   และก็คงจะเป็นครั้งเดียวล่ะมั้ง...



   เสียงริงโทนที่ดังมาจากบริเวณกระเป๋ากางเกงเรียกให้จิตใจของเด็กหนุ่มกลับมาอยู่กับโลกตรงหน้า   พวกเขาทั้งห้าคนกำลังเดินลงบันไดมาจากคลาสเรียนที่เพิ่งเลิกไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน   ฝ่ามือเรียวหยิบเครื่องมือสื่อสารขนาดเล็กขึ้นมาดูชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ   รู้อยู่แล้วล่ะว่าใครจะโทรมา...และโทรมาทำไม...

   โดยไม่รู้ตัว...รอยยิ้มถูกวาดขึ้นบนริมฝีปากอีกครั้งหนึ่ง

   “สวัสดีครับพี่วิน" เด็กหนุ่มกดรับสายก่อนจะกรอกเสียงทักทายลงไปด้วยน้ำเสียงสดชื่น

   ชื่อที่เพิ่งจะหลุดออกมาจากเพื่อนตัวเล็กเรียกให้คนที่เหลือหันมามองด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่ม

   จักรวาลเพียงถลึงตาเงียบๆในขณะที่กล่าวตอบกับปลายสายไปด้วย "เลิกแล้วครับ   พี่วินอยู่ไหน...อ๋อ  โอเค   ผมกำลังลงไปพอดี...เจอกันครับ  บาย...”

   ทันทีที่กดวางสายลงไป   เด็กหนุ่มก็ยกมือขึ้นห้ามกลุ่มเพื่อนทะโมนพร้อมรอยยิ้มเย็นๆมุมปากอย่างรู้ทัน   ก่อนจะชิงบอกออกไปเสียเอง "นัดกันไว้จะไปกินข้าว...อยากรู้อะไรอีกไหมไอ้พวกบ้า?"

   เพียงเท่านั้นคนที่เหลือก็พากันขำคิกคัก  บ้างก็ส่งเสียงร้องกิ๊วก๊าวออกมาเป็นเด็กมัธยมกันยกใหญ่...



   เอาเถอะ...ถ้าพวกมันมีความสุข   เขายอมให้แซวก็ได้...



   เขินวันละหลายๆรอบก็สนุกดีเหมือนกันวะ...



   “ปอม!”

   เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยดังเรียกชื่อเขามาจากทางปลายบันได   เมื่อมองไปยังเจ้าของเสียงก็พบกับใบหน้าหล่อเหลาที่ยืนฉีกยิ้มรอรับเขาอยู่แล้ว

   เด็กหนุ่มรีบวิ่งลงไปหาด้วยใบหน้าสดใสไม่แพ้กัน

   “รอนานไหมครับพี่วิน?”

   คนถูกถามส่ายหน้าเบาๆ "ฉันก็เพิ่งมาเมื่อกี้นี้แหละ   เพิ่งเคลียร์งานที่สตูดิโอเสร็จน่ะ   เรียนวันแรกเป็นยังไงบ้าง   เจ็ทแล็คบ้างไหมเนี่ย"

   “ไม่ค่อยเลยครับ  สบายมาก"

   เพื่อนๆอีกสี่คนที่ค่อยๆเดินลงมาถึงชั้นล่างพากันยกมือขึ้นไหว้ 'แฟนเพื่อน' กันอย่างมีมารยาทราวกับเป็นคนละคนกับไอ้พวกขี้แซวเมื่อครู่   ก่อนจะขอตัวหลบฉากไปอย่างรู้หน้าที่   ทิ้งให้บริเวณนั้นเหลือไว้แค่จักรวาลและกวินเพียงสองคน

   “ไปกันเลยไหม   ต้องทำอะไรที่นี่อีกหรือเปล่า" กวินถามเด็กหนุ่มด้วยน้ำเสียงอบอุ่นที่หากกรวิทย์ผ่านมาได้ยินคงมีขนลุกกันบ้างแน่ๆ

   

   เพียงไม่นานคนทั้งคู่ก็เดินพ้นประตูคณะไป   ก่อนจะขึ้นรถบีเอ็มสีดำคันเดิมของกวินออกไปด้วยกัน   

   ชายหนุ่มพาตุ๊กตาหน้ารถคนสำคัญมายังห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวมหาวิทยาลัยนัก



   มื้ออาหารในวันนี้ถูกสรุปในเป็นที่ร้านอาหารไทยโดยได้รับความเห็นชอบจากทั้งสองฝ่าย   

   หากว่ากันจริงๆแล้ว   นี่คงนับได้ว่าเป็นเดทแรกของความสัมพันธ์แบบคนรักที่เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นได้เพียงสองสามวัน   และดูเหมือนคนทั้งคู่จะรับรู้ถึงข้อเท็จจริงข้อนี้ดี   จึงออกอาการเขินไปเขินมามากกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด

   ความจริงแล้วมันก็ดูพิลึกไม่น้อยที่คนเป็นแฟนกันเขาจะมานั่งสบตากันหวานเยิ้มอยู่หน้าหม้อต้มยำกุ้ง   แต่สำหรับวันนี้ยกให้เป็นกรณีพิเศษก็แล้วกัน

   “งานที่สตูเยอะไหมครับพี่วิน..” เด็กหนุ่มถามออกมาระหว่างมื้ออาหาร    นึกย้อนไปถึงเมื่อสักอาทิตย์ก่อนที่เขายังทำงานอยู่ที่บริษัทกวินก็รู้สึกว่าจะมีงานหลายชิ้นที่ดูเหมือนต้องรอให้กวินกลับมาเคลียร์

   “ก็ประมาณนึง   แต่ไม่เยอะขนาดนั้นหรอก   พวกไอ้ก้อมันจัดการกันไปส่วนนึงแล้วล่ะ" ชายหนุ่มตอบพลางส่งรอยยิ้มให้คนตรงหน้า "เราเถอะ...เหนื่อยหรือเปล่า   กลับมาถึงปุ๊บก็ต้องรีบมาเรียนเลย"

   คนถูกถามส่ายหน้าเบาๆ "เฉยๆครับ   ปกติผมก็ไม่ใช่คนนอนหรือตื่นเป็นเวลาอยู่แล้ว   ไม่มีปัญหาเท่าไหร่"

   “ได้ยังไง   สุขภาพเสียหมด   ต้องหัดใช้ชีวิตให้เป็นระบบรู้ไหม   แก่ไปจะได้ไม่ลำบาก"

   “ครับพ่อ"

   “เดี๋ยวเถอะ   ใครพ่อ   เดี๋ยวฉันจับจูบกลางห้างเลยดีไหม"

   จักรวาลหัวเราะให้กับคำขู่ที่ได้ยิน  พลางก้มหน้าหลบตางุดๆ

   

   บทสนทนาแสนสบายดำเนินไปอย่างเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความอิ่มเอิบในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก   เรื่องราวต่างๆที่ถูกยกขึ้นมาคุยก็ไหลไปเรื่อยๆสัพเพเหระ    นี่คงนับเป็นเดทแรกที่แสนธรรมดาแต่ก็สร้างความสุขให้คนทั้งคู่ได้มากเหลือเกิน



   ขณะที่ทั้งสองต่างก็ยิ้มและหัวเราะให้กันอย่างสนุกสนานอยู่นั้นเอง   เสียงเพลงเรียกเข้าเพลงเดิมก็ดังขัดจังหวะขึ้น



   จักรวาลก้มลงมองชื่อผู้โทรเข้าที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ   ก่อนจะต้องรู้สึกประหลาดขึ้นมาในใจอย่างช่วยไม่ได้   ก็คนที่โทรมาถูกเวลาเหลือเกินคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเมษาน่ะสิ   ไม่ได้ขัดใจที่โทรมาตอนนี้   แต่เด็กหนุ่มจำได้ดีว่าครั้งล่าสุดที่เมษามาหาเขาที่บริษัท   กวินก็มีท่าทีไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่นัก

   

   คงต้องสารภาพตามตรงว่าเขาชอบบรรยากาศในตอนนี้มาก  และไม่อยากเปลี่ยนให้อารมณ์ของชางภาพหนุ่มต้องกลายเป็นขุ่นมัวไป...



   “เอ่อ...ผมขอตัวออกไปคุยธุระแป็ปนึงนะครับพี่วิน   ตรงนี้มันเสียงดัง...” จักรวาลบอกไปแบบนั้นโดยที่ได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้าอย่างไม่ติดใจอะไรของคนเป็นผู้ใหญ่กว่า   เห็นดังนั้นเด็กหนุ่มก็ลุกเดินออกไปคุยอยู่บริเวณหน้าร้านที่มีเพียงกระจกใสๆกั้น



   นิ้วเรียวกดรับสายที่เรียกร้องให้เขาตอบมาสักระยะหนึ่งแล้ว  ก่อนจะกรอกเสียงลงไปอย่างสุภาพ "สวัสดีครับพี่เมษ"

   “สวัสดีปอม   ทำอะไรอยู่   คุยได้ไหม"

   “ได้ครับ   พี่เมษมีธุระอะไรเหรอ"

   แว่วเสียงหัวเราะมาเบาๆจากทางปลายสาย "เดี๋ยวนี้ถ้าไม่มีธุระพี่โทรหาปอมไม่ได้แล้วใช่ไหมเนี่ย  หืม?”

   “เปล่าครับๆ  ไม่ใช่อย่างนั้น   คือผมหมายถึงว่าพี่มีเรื่องอะไรจะคุยกับผมต่างหาก" เด็กหนุ่มรีบระล่ำระลักตอบออกไปอย่างเกรงใจ   ที่ทำให้รุ่นพี่ที่แสนดีคนนี้ของเขาต้องเข้าใจผิด

   “ตอนนี้ทำอะไรอยู่"

   ได้ฟังคำถามแบบนั้นจักรวาลก็อดเหลือบตามองเข้าไปในร้านไม่ได้   และดูเหมือนว่าสายตาคู่คมดุจากคนในนั้นเองก็มองเขาอยู่เช่นเดียวกัน

   “อ่า...ทานข้าวกับพี่วินอยู่ครับ..”

   ลูกชายนายแบงค์นิ่งเงียบไปครู่เมื่อได้รับคำตอบที่แม้จะเดาได้และเตรียมใจไว้ลางๆอยู่แล้ว   แต่ก็ยังกระแทกหัวใจอยู่ดี   ก่อนจะฝืนใจกล่าวต่อ "งั้นเหรอ   นี่พี่ก็ว่าจะโทรมาชวนปอมไปกินข้าวพอดีเลย"

   “อ้าวเหรอครับ   วันนี้คงไม่ได้แล้วล่ะพี่"

   “นั่นสินะ...ถ้าอย่างนั้นเป็นวันอื่นได้ไหม   ไม่ได้เจอกันตั้งนาน   มีเรื่องอยากคุยด้วยเยอะแยะเลย   ปอมพอจะว่างไปกินกับพี่วันไหนบ้าง" เมษาถามออกไปด้วยน้ำเสียงอบอุ่น   ซึ่งตรงข้ามกับความรู้สึกคุกรุ่นในใจเหลือเกิน

   คนถูกถามยืนนึกอยู่ครู่   ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ในวินาทีนั้นเอง "อ๊ะ  อีกสองวันก็วันเกิดพี่แล้วนี่   ผมเคยบอกไปว่าปีนี้จะเลี้ยงข้าวพี่   พี่จำได้หรือเปล่าครับ   ไปวันนั้นกันเถอะ...”

   
   “ยังจำได้อยู่เหรอ   นึกว่าจะลืมซะแล้วนะเนี่ย"

   

   
   ...จริงๆก็เกือบลืมแล้วล่ะ...




   “วันเกิดพี่ก็ได้   ปอมว่างวันนั้นใช่ไหมล่ะ"

   “ครับ   วันนั้นไม่มีแพลนจะทำอะไร"

   “อืม...ดี  งั้นเจอกัน"

   “ครับผม  ไว้เจอกันพี่   งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ”

   “อ่า...อืม  ไปเถอะ  กินข้าวให้อร่อยนะ"

   บทสนทนาทางโทรศัพท์จบลงเพียงเท่านั้นก่อนที่เด็กหนุ่มจะรีบเดินกลับเข้าร้านไปหาคนที่นั่งรอเขาอยู่พักใหญ่แล้ว

   “ขอโทษที่ปล่อยให้นั่งคนเดียวครับพี่วิน" เด็กหนุ่มกล่าวด้วยความเกรงใจพลางฉีกยิ้มกว้างๆให้ไปหนึ่งที

   กวินส่ายหน้าเบาๆ "ไม่เป็นไร   ว่าแต่ใครโทรมาล่ะ"

   เด็กหนุ่มนิ่งเงียบคิดหาคำตอบไปครู่ก่อนจะอึกอักตอบออกมา "...ก็รุ่นพี่น่ะครับ...อ๊ะ!...เห็ดผัดเนยมาเสิร์ฟตั้งแต่เมื่อไหร่   รออยู่ตั้งนานนึกว่าเขาลืมไปแล้วซะอีก"

   ที่พาเปลี่ยนเรื่องไม่ใช่อะไร   ไม่ได้มีเจตนาจะปิดบัง   เพียงแต่...ก็อย่างที่บอกไป   เขาไม่อยากทำลายบรรยากาศดีๆในตอนนี้ก็เท่านั้น   รู้ว่ากวินไม่ใช่เด็กไม่มีวุฒิภาวะที่จะมาหึงหวงหัวฟัดหัวเหวี่ยงอะไรแบบนั้น   แต่อย่างไรหากรู้ว่าเขาจะไปกินข้าวกับเมษาก็คงมีผลกับความรู้สึกบ้างอยู่ดี   



   ไม่อยากให้มีปัญหากัน...


   เมษาก็รุ่นพี่ที่เคารพ...





   ส่วนกวินก็...อืม...แ...ฟ..น...แถมเพิ่งจะคบกันหมาดๆด้วยสิ...



๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

arunoki

  • บุคคลทั่วไป
“พี่เมษ!   รอนานไหม   ขอโทษจริงๆครับที่มาช้า" เด็กหนุ่มจับสายสะพายเป้วิ่งเข้ามาหารุ่นพี่สมัยมัธยมที่มานั่งรอเขาก่อนอยู่สักพักแล้ว   ปกติจักรวาลไม่ใช่คนไม่ตรงเวลา   แต่...



   เมื่อคืนเขามัวแต่นอนคุยโทรศัพท์กับกวินเป็นสาวน้อยวัยใสอยู่ค่อนคืนน่ะสิ....   



   เช้านี้ก็เลยตื่นสาย...



   แหะๆ...



   “ไม่เป็นไร   พี่ก็ไม่ได้รีบไปไหนอยู่แล้ว" เมษาส่งยิ้มใจดีมาให้เด็กหนุ่มที่ยกมือไหว้ปะหลกๆขอโทษขอโพยเขาเป็นการใหญ่   ก่อนลุกขึ้นยืนจากม้านั่งเต็มความสูง "ไปกันเลยไหม   ปอมอยากกินอะไร"

   “พี่เลือกสิ  เป็นเจ้าของวันเกิดทั้งที   จริงสิ...แฮปปี้เบิร์ดเดย์ครับพี่" เด็กหนุ่มดึงกล่องคุ้กกี้หน้าตาน่าทานขึ้นจากกระเป๋าเป้ยื่นให้เมษา   นี่นับเป็นของขวัญที่ดีที่สุดเท่าที่เขาหาได้และสตุ้งสตางค์พอจะเอื้ออำนวย   เพราะเงินที่ตั้งใจว่าจะเอามาเลี้ยงข้าวชายหนุ่มวันนี้ก็คงจะหายจากกระเป๋าไปหลายบาท   เนื่องจากแม้เคยบอกไว้ว่าจะพาไปเลี้ยงก๊วยเตี๋ยวข้างทาง   แต่เอาเข้าจริงๆเขาก็เกรงใจเกินกว่าจะทำแบบนั้น   จึงได้นัดมากินที่สยามสแควร์แทน   ไหนๆปิดเทอมที่แล้วเขาก็เก็บเงินได้มากกว่าที่เคยทำมา   เลี้ยงข้าวเมษามื้อเดียวคงไม่ถึงกับกินแกลบ...

   สุดท้ายคนทั้งคู่ก็มานั่งอยู่ในร้านอาหารหน้าตาดีแต่ราคาประหยัดกันสองคน

   หลังสั่งอาหารกับบริกรเรียบร้อย   ก็เป็นเวลาที่เมษารอคอย...

   “ช่วงนี้่เป็นไงบ้างล่ะเรา   สบายดีนะ?" ชายหนุ่มเปิดบทสนทนาขึ้นด้วยน้ำเสียงน่าฟัง

   จักรวาลพยักหน้ารับ "ครับ   สบายดี   พี่ล่ะ?”

   “ก็...เรื่อยๆ" เรื่อยๆที่ว่าของเขาก็ไม่ได้เรื่อยๆจริงหรอก...โดยไม่เกริ่นอะไรให้เสียเวลาอีก   เมษาก็พาเข้าเรื่องแบบเนียนๆโดยที่จักรวาลไม่รู้สึกตัว "ว่าแต่...วันก่อนได้ข่าวจากคุณเต้ว่าปอมไปนิวยอร์กกับคุณกวินมาเหรอ"

   “ครับ...พี่วินพาไปดูงานที่เอาไปแสดง   แต่ผมไม่มีของฝากอะไรติดไม้ติดมือกลับมาหรอกนะครับ   ของที่นู่นมันแพงมากเลย   ซื้อได้แค่แม่เหล็กติดตู้เย็นมาฝากแม่อันเดียวเอง   แหะๆ...” เด็กหนุ่มตอบกลับไปซื่อๆ   

   ได้ยินดังนั้นเมษาก็รีบส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มขี้เล่น "เปล่านะ   พี่ไม่ได้ทวงของฝากสักหน่อย...แค่อยากรู้ว่าเป็นยังไงบ้าง   สนุกไหม?"

   คราวนี้จักรวาลพยักหน้าแรงๆ "สนุกมากครับ  เกิดมายังไม่เคยไปที่ไกลๆแบบนั้นมาก่อน   เจ๋งสุดๆ"

   ดูแล้วก็ท่าทางคงจะสนุกอย่างที่เจ้าตัวว่าจริงๆ   เพราะหน้าตาดูสดใสขึ้นมาทันทีเชียว

   “คุณกวินนี่เขาดูแลเราดีเนอะ...” ประโยคที่เป็นเหมือนหมัดแย็บถูกส่งออกไปลองเชิง   ชายหนุ่มทายาทเจ้าของธนาคารชื่อดังจับตามองปฏิกิริยาของคนตรงหน้าอย่างตั้งใจ   และยิ่งได้เห็นอาการหลบตาทำแก้มแดงแบบนั้นแล้ว  เขาก็ยิ่งต้องกัดฟันกรอดๆ

   “ครับ...” เด็กหนุ่มเพียงตอบรับเบาๆ   พยายามอย่างสุดความสามารถไม่ให้ตัวเองอมยิ้มให้ต้องอายเมษาเปล่าๆ

   

   ท่าทีของจักรวาลทำให้เมษาหงุดหงิด   



   ทั้งหงุดหงิด...ทั้งร้อนใจ...






   “แต่ว่านะ...” น้ำเสียงจริงจังจากคนเป็นรุ่นพี่เรียกให้คนฟังต้องเงยหน้ามองอีกครั้งก่อนจะพบกับสีหน้าที่ดูเคร่งขรึมขึ้นเช่นเดียวกัน "...พี่ว่า...”

   ช่วงจังหวะที่ถูกเว้นไปอึดใจกระตุ้นให้จักรวาลรู้สึกอยากรู้มากขึ้นจนต้องถามเร่งออกมา "...ว่า?”

   


   

   “พี่ว่า...เราอยู่ห่างๆคุณกวินเขาไว้จะดีกว่า...”







   “...ครับ?”







   ได้ยินแบบนั้นเข้าไป   คนฟังก็ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก   ยังไม่รู้ว่าเหตุผลของการที่รุ่นพี่ของเขาพูดออกมาแบบนั้นคืออะไร   แต่กระนั้นเขาก็รู้สึกไม่ดีเสียแล้ว...และเมื่อนึกย้อนไปถึงเมื่อสักสองเดือนก่อน   จำได้ว่าเมษาก็เคยพูดอะไรทำนองนี้มาครั้งนึง

   “...พี่หมายความว่ายังไง?   พี่วินเป็นคนดี   ทำไมผมถึงอยู่ใกล้เขาไม่ได้?”

   

   เมษาไม่ใช่คนโง่   เขารู้ดีว่าแววตาที่ดูจะแข็งขึ้นมาของรุ่นน้องที่รักมันแปลได้ว่าเด็กหนุ่มกำลังรู้สึกเคลือบแคลงกับเจตนาของเขาอยู่ไม่น้อย   หน้ากากการทูตถูกหยิบขึ้นมาใช้อีกครั้งหนึ่ง "ไม่ใช่นะปอม   อย่าเพิ่งเข้าใจพี่ผิด...อยากให้ลองฟังที่พี่จะพูดก่อน   แล้วจะโกรธจะเคืองกันทีหลังค่อยว่ากัน...แต่อยากให้รู้ว่าสิ่งที่พี่จะพูดต่อไปนี้   เป็นเพราะเป็นห่วงปอมจริงๆนะ"

   เด็กหนุ่มได้แต่นิ่งเงียบ   สายตาแน่วแน่จ้องมองไปยังคนเป็นรุ่นพี่อย่างตั้งใจรอที่จะฟังเหตุผลที่ว่า...



   แต่ไม่ว่าจะเหตุผลอะไร   เขาก็มั่นใจว่ามันคงไม่มีอะไรมาทำให้เขาต้องอยู่ห่างกวินอย่างที่เมษาบอกแน่นอน...



   

   ก็กว่าจะฝ่าฟันกับความรู้สึกทั้งของตัวเองและของกวินมาได้จนถึงขั้นนี้   มันยากลำบากแค่ไหน   คนอื่นคงไม่มีทางเข้าใจได้นอกจากตัวเขาเอง...





   “พี่ก็ไม่ได้จะบอกว่าคุณกวินเป็นคนไม่ดีนะ...ปอมก็รู้   พี่เองก็ชื่นชมผลงานเขามากพอๆกับปอมนั่นแหละ   เพียงแต่...” ชายหนุ่มถอนหายใจระบายความหนักหน่วงในอกก่อนกล่าวต่อ "เพียงแต่...ทุกสิ่งในโลกมันมีสองด้าน   ปอมเข้าใจใช่ไหม...และอีกด้านนึงของคุณกวินที่พี่มั่นใจว่าปอมยังไม่รู้   มันก็เป็นเรื่องที่พี่ว่าเสี่ยงต่อคนที่อยู่ใกล้เขาด้วย...”




   จักรวาลกระตุกหัวคิ้วลงกับคำบอกเล่าจากชายหนุ่มตรงหน้า...




   “...ตอนนี้ธนาคารของพ่อพี่รับดูแลเรื่องการเงินให้บริษัทคุณกวินอยู่...ปอมรู้ไหม...ว่าพี่วินของปอมน่ะกำลังโกงภาษีก้อนโตเลยนะ...”




   “หา?!?!  พี่พูดอะไรของพี่น่ะ...ทำไมเขาต้องทำอะไรแบบนั้นด้วย   พี่วินไม่ใช่คนเห็นแก่เงิน   เขามีเยอะพออยู่แล้วครับ...เยอะพอๆกับที่พี่มีนั่นแหละ" ดูเหมือนว่าตอนนี้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในสติจะเลือนหายไปทีละน้อย   เด็กหนุ่มลืมตัวจนเผลอพูดเสียงแข็งใส่รุ่นพี่ที่ตนเคารพนักหนาไป   ซึ่งก็ไม่ได้เหนือจากที่เมษาคาดการณ์ไว้หรอก   เขาเตรียมใจไว้แล้วว่าเด็กหนุ่มจะต้องมีปฏิกิริยาอย่างนี้
   


   “ใจเย็นๆก่อนนะปอม...” ชายหนุ่มกล่าวเสียงนุ่ม   หวังจะเกลาให้ความรู้สึกแข็งกระด้างที่รุ่นน้องตรงหน้ามีอยู่ให้ดีขึ้นสักนิด "พี่ไม่ได้อยากให้เป็นอย่างนี้เหมือนกัน   พี่ก็ไม่รู้ว่าคุณกวินมีเหตุผลอะไร   แต่ที่แน่ๆ...เขาทำนะปอม"

   “ไม่จริงครับ   ผมไม่เชื่อ...อีกอย่างเรื่องเงินๆทองๆของพี่วินเกี่ยวอะไรกับผมด้วย   พี่มาบอกผมทำไม?...”

   “ถึงไม่เกี่ยวทางตรงก็เกี่ยวทางอ้อมอยู่ดีนั่นแหละปอม   ลองคิดดูสิ   เกิดวันนึงคุณกวินโดนจับได้ขึ้นมา   คนที่เคยทำงานกับเขาก็ต้องโดนสอบกันหมด   รวมถึงปอมด้วย   หลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้   เผลอๆปอมจะติดร่างแหไปด้วยอีกคนนะ   แล้วพี่ก็จะไม่ยอมน้องชายพี่ต้องเจออะไรแบบนั้นแน่..."

   “ผมบอกแล้วว่าผมไม่เชื่อ...เราจบเรื่องนี้เถอะครับพี่เมษ   บรรยากาศจะเสียเปล่าๆ   วันนี้วันเกิดพี่นะ" เด็กหนุ่มกล่าวปัดอย่างไม่สบอารมณ์    จากที่อารมณ์ดีๆอยู่เมื่อครู่   ตอนนี้ใจเขากลับขุ่มมัวไปด้วยคำพูดของเมษาเสียแล้ว

   จักรวาลรู้ดีว่าพี่ชายคนนี้ดีกับเขาและเป็นห่วงเขาแค่ไหน    เมษาคงไม่ได้มีเจตนาร้าย   แต่อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ได้รับการบอกเล่ามาคงต้องมีอะไรผิดพลาด   คนอย่างกวินไม่มีเหตุผลให้ต้องทำอะไรแบบนั้นแน่นอน





   “ผมขอบคุณพี่มากนะครับที่หวังดี   แต่ผมขอยืนยันตรงนี้เลยว่าพี่วินไม่ใช่คนที่จะทำอะไรแบบนั้น   ขอร้องว่าอย่าพูดถึงพี่วินแบบนั้นอีก   ใครมาได้ยินเข้าพี่วินจะเดือดร้อน...ผมเข้าใจพี่เมษดีครับ   ผมรู้ว่าพี่เป็นห่วงผม   พี่ดีกับผมมาตลอด   วันนี้ผมไม่โกรธที่พี่พูดแบบนี้หรอกครับ   แต่ขอว่าอย่าพูดอีก...ผมรู้สึกไม่ดีเลยที่ได้ฟังอะไรแบบนี้"





   เมษาจับจ้องสีหน้าบิดเบี้ยวของเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างครุ่นคิด   เห็นทีวันนี้คงจะไม่ได้เรื่อง...จักรวาลหัวแข็งจริงๆ 








   งานนี้สงสัยเขาคงต้องงัดไม้ตายสุดท้ายที่อุตส่าห์เก็บไว้ออกมาใช้เสียแล้ว...



๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



   กวินรู้สึกเซอร์ไพรซ์กับภาพที่ได้เห็นอยู่ตรงหน้า   หลังกลับจากไปถ่ายงานนอกสถานที่มาเหนื่อยๆ  ก็ไม่นึกว่าจะได้มาเจอเด็กหนุ่มคนรักป้ายแดงของเขามานั่งจ๋องอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่บริเวณล็อบบี้ที่คอนโดแบบนี้   เมื่อคืนถามทางโทรศัพท์ก็เห็นว่าวันนี้มีธุระไม่ใช่หรือไงกัน...

   สองขายาวๆสาวเข้าไปใกล้ร่างที่คุ้นเคย   ก่อนที่ช่างภาพคนดังจะค่อยๆย่อตัวลงนั่งยองๆอยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่มที่ไม่ทันสังเกตเห็นเขา



   “อ๊ะ!...” จักรวาลสะดุ้งตกใจเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่โผล่ซ้อนอยู่เบื้องหลังการ์ตูนในมือ



   “ไปไงมาไงเนี่ยปอม   ทำไมมานั่งอยู่นี่ได้   แล้วมารอนานหรือยัง   ทำไมไม่โทรมาล่ะ?” ได้ทีชายหนุ่มก็ถามออกมาเป็นชุด   แต่แม้จะประหลาดใจก็ไม่ใช่ไม่ดีใจนะ   รู้สึกระริกระรี้เลยล่ะที่ได้เห็นคนที่อยากเจอมารออยู่ถึงที่แบบนี้

   “ผมไม่อยากโทรไปกวนตอนทำงานครับ  เลยมานั่งรอดีกว่า...” เด็กหนุ่มตอบขณะพับปิดหนังสือลง  ก่อนจะลุกขึ้นยืนเดินตามกวินไปยังลิฟท์

   ช่างภาพคนดังก้มลงมองคนข้างกายด้วยสีหน้ามีความสุข   ความเหน็ดเหนื่อยที่ได้รับจากการทำงานหายเป็นปลิดทิ้ง “แล้วมาหาฉันถึงนี่   มีอะไรหรือเปล่า?”

   

   คำถามที่ได้รับถูกตอบด้วยอาการส่ายหน้าสองสามทีพร้อมกับเสียงที่อ้อมแอ้มตอบออกมา






   “...ก็อยากเจอ...”






   คิ้วคมเข้มเลิกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้เมื่อได้ยินแบบนั้นก่อนจะต้องยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม   มีไม่กี่ครั้งหรอกที่เขาจะได้ยินอะไรแบบนี้จากคนปากหนักข้างๆ

   “ดีใจจังแฮะ...” ชายหนุ่มกล่าวเบาๆพลางยกมือใหญ่ขึ้นลูบหัวเจ้าหนูของเขาเบาๆด้วยความเอ็นดู



   เพียงไม่นานลิฟท์ก็พาคนทั้งสองขึ้นมาถึงชั้นที่ต้องการ   เด็กหนุ่มเดินเข้าห้องที่ไม่ได้มาเหยียบระยะนึงแล้วไปด้วยความรู้สึกหน่วงๆในใจ   คำพูดของเมษาวันนี้มันทำลายความสุขที่มีอยู่ไปไม่น้อยเลย

   ทันทีที่คนเป็นเจ้าของห้องจัดการวางของ  ถอดเสื้อนอกแล้วทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟา   แขกผู้มาเยือนก็นั่งลงตาม   ก่อนจะค่อยๆกระเถิบตัวเข้าไปชิดร่างกายสูงใหญ่ของอีกฝ่าย   แล้วหันไปซุกหน้าลงกับบ่ากว้างๆนั่นโดยที่กวินไม่ทันได้ตั้งตัว

   ช่างภาพหนุ่มเบิกตากว้างด้วยความงุนงง   แต่ก็ไม่ปฏิเสธที่จะวาดวงแขนโอบรัดรอบร่างเล็กกว่าของเด็กหนุ่มอย่างเต็มใจ   เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามเบาๆที่ข้างหู "เป็นอะไรหรือเปล่า   ทำไมวันนี้ถึงอ้อนจัง...”

   ศีรษะทุยๆขยับยุกยิกซ้ายขวาเป็นการปฏิเสธ   และแม้เสียงที่ตอบกลับมาจะฟังดูอู้อี้อยู่กับอกเขา   แต่กวินก็ได้ยินมันอย่างชัดเจนเนื่องด้วยด้วยระยะห่างที่แนบชิดกันขนาดนี้







   “...คิดถึง...”







   เพียงเท่านั้นช่างภาพหนุ่มก็ต้องคลี่ยิ้มออกมาสุดแก้ม   อะไรไม่รู้ล่ะ   รู้แค่ว่าถ้าไม่ได้เจอกันแค่วันเดียวแล้วเจ้าตัวเล็กนี่จะบอกว่าคิดถึงเขาแบบนี้...   





   เขาก็คงจัดได้ว่าเป็นผู้ชายที่มีความสุขที่สุดในโลกแล้วตอนนี้...





   แขนแกร่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นเข้าไปอีกก่อนจะซุกหัวลงกับไหล่บางๆของเด็กหนุ่มบ้าง





   การได้กอดได้สัมผัสกับคนที่รักในวันแบบนี้   มันเป็นอะไรที่สุขสุดๆไปเลย...






   มีความสุขจนอยากจะวิ่งออกไปที่ระเบียงแล้วตะโกนให้โลกรู้กันไปข้าง...







   ว่าแต่ว่า...










   มีคนเคยพูดไว้...ว่าความสุขมักอยู่กับเราไม่นาน...









TBC.




   

ออฟไลน์ My_NT

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
กรีสสสสสสสสสสส
อิพี่เมษชั่วววววว  :m16: :z6: ไม่แมนเลยอ่ะ ไปเอากระโปรงมาคลุมหัวไป๊
แกคิดจริงๆหรอว่าต่อให้แกทำให้เค้าเลิกกัน ปอมจะหันมารักแก
ถึงยังไงน้องก็ไม่เอาแกเหมือนกันโว้ยยยย ไปไกลๆเลยไป๊!
หนูปอมเข้มแข็งน้าา มีอะไรคุยกับพี่วินตรงๆเลย
อย่าเก็บไปคิดคนเดียวนะ เฮ้อออ เพิ่งจะหวานกันได้ 2 วัน มีมารมาผจญอีกละ
พี่ิวินมีความสุขมากก น้องอ้อนน  :impress2:

ปล. เป็นแฟนกันแล้วแต่พี่วินยังแทนตัวเองว่า ฉัน แล้วปอมยังเรียกตัวเองว่า ผม อยู่เลย
แอบรู้สึกว่าดูห่างเหินจังค่าา

รักคนแต่งค่าา  :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-10-2012 20:17:53 โดย My_NT »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด