หัวใจหลังเลนส์ #ตอนจบ และ บทส่งท้าย หน้า 133
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หัวใจหลังเลนส์ #ตอนจบ และ บทส่งท้าย หน้า 133  (อ่าน 1378044 ครั้ง)

ออฟไลน์ plaiphukan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :z13:จิ้มๆๆมาลงชื่อ้ข้าอ่าน......อ่านแล้วจะมาเม้นอีกทีนะคะ ^^

snooppy

  • บุคคลทั่วไป
กลัวพี่วินโดนวางยาจัง!  ระวังตัวนะค่ะ...น้องเป็นห่วง (ถุย)
** บักเมษาอย่าเชียวนะมรึง

แต่น้องปอมอ้อนน่ารักอ่ะ (กรี๊ด)

arunoki

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน

วันนี้ก่อนจะไปติดตามตอนที่ 31 ต่อกัน  มีเรื่องอยากให้หยุดอ่านตรงนี้ก่อนสักเล็กน้อย

เนื่องจากคนเีขียนได้อ่านคอมเม้นท์ของตอนที่แล้ว เห็นผู้อ่านบางท่านดูเหมือนจะสับสนกับตอนที่เอามาลงหลังจากที่หายไปนานเกือบเดือนค่ะ  มีความรู้สึกว่าบางท่านอาจจะไม่รู้ว่าหลังจากกลับมา  เราเอามาลงไปแล้วสองบท  คือบทที่ 29 และ 30 ค่ะ

ดูเหมือนว่าผู้อ่านบางท่านจะอ่านข้ามตอนใดตอนหนึ่งไป  เลยเกิดความสับสนในเนื้อเรื่องอยู่บ้าง
วันนี้เลยอยากจะบอกว่าให้ลองกลับไปเช็คดูในตอนที่ 29 และ 30 ก่อนนะคะว่าอ่านครบหรือยัง

ตอนที่ 29 : ตอนที่อยู่นิวยอร์ก
ตอนที่ 30 : ตอนที่กลับมาแล้ว

ต้องขอโทษด้วยในการมาอัพที่ไม่สม่ำเสมอ  ทำให้ผู้อ่านงงกัน  แหะๆ
*น้อมรับความผิดแต่โดยดี

เอาล่ะ  ถ้ามั่นใจแล้วว่าอ่านครบถ้วนเรียบร้อย ตอนนี้ก็เชิญไปอ่านตอนที่ 31 กันเลยค่ะ =)


ปล.ในบทที่แล้วมีท่านผู้อ่านพูดถึงเรื่องรรพนามที่ใช้เรียกแทนตัวเองของพี่วินและน้องปอม  คนเขียนเองรู้สึกว่ามันตรงใจมาก  เพราะคิดมาสักพักนึงแล้วว่าจะเอายังไงดีกับการเรียกกันและกันของคู่นี้  เพราะรู้สึกเหมือนกันว่ามันดูห่างเหิ๊นห่างเหิน 5555 สำหรับในตอนนี้เลยตัดสินใจเขียนเกี่ยวกับประเด็นนี้แทรกลงไปแบบเนียนๆ(เนียนหรือเปล่าหว่า?)  ต้องขอขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นั้นเป็นพิเศษเลยค่ะ



*มีการแก้ไขเนื้อหาบางส่วนนะคะ  สงสัยจะยังมือไม่ถึงกับเรื่องหนักๆอย่างนี้จริงๆ  เลยคิดว่าเอาส่วนที่เป็นรายละเอียดออกไปดีกว่า  หลังจากนี้จะพยายามกลับไปพัฒนาฝีมือค่ะ* ขอขอบคุณทุกคำติชม
:pig4:
----------


หัวใจหลังเลนส์
#31


   แสงแดดยามเช้าที่ส่องลอดรอยแง้มของผ้าม่านเข้ามากระทบใบหน้าปลุกให้เด็กหนุ่มตื่นขึ้นจากนิทรา   สัมผัสแรกที่รู้สึกได้บริเวณช่วงเอวคือน้ำหนักของแขนยาวๆที่พาดทับลงมาค้างไว้อย่างนั้นตั้งแต่ก่อนเข้านอน

   เมื่อคืนเขานั่งเล่นอยู่ที่ห้องของกวินโดยไม่ได้สนใจเวลา   รู้สึกตัวอีกทีก็ปาเข้าไปดึกดื่นเสียแล้ว   เรื่องจึงจบลงด้วยการที่เขาต้องขอค้างที่นี่   ซึ่งแน่นอนว่ากวินไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว

   คำพูดของเมษายังคงวนไปเวียนมาอยู่ในใจ   เชื่อว่าคนที่นอนกอดเขาอยู่ตอนนี้ไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นแน่ๆ   แต่อย่างไรก็ตาม   มีคนพูดเรื่องอย่างนี้ขึ้นมา   ต่อให้ไม่ใช่เรื่องจริง   เขาก็อดรู้สึกไม่สบายใจไม่ได้อยู่ดี

   คิดถึงตรงนี้เด็กหนุ่มก็เบียดตัวเข้าหาร่างใหญ่หนาของคนที่ยังคงนอนหลับอยู่ข้างกาย   ก่อนจะวาดแขนกอดตอบแน่นๆไปหนึ่งทีระบายความอึดอัดในใจที่ไม่สามารถกล่าวออกมาเป็นคำพูดได้

   หากแต่ค้างอยู่ท่านั้นได้ไม่นาน   จักรวาลก็ผละตัวออกแล้วลุกขึ้นจากเตียงด้วยกลัวว่าหากกวินตื่นขึ้นมาพอดี   เดี๋ยวเขาจะต้องมานอนเขินเสียเชิงชายรับตะวันอีกจนได้ 

.
.

.


.

   “โอ้โห   น่ากินมาก   ไปซื้อมาเหรอปอม?" แทนที่จะเป็นการกล่าวอรุณสวัสดิ์   กวินกลับเอ่ยประโยคที่ว่านี้ออกมาแทนเมื่อเดินออกจากห้องนอนมาเห็นอาหารเช้าหน้าตาน่าทานสองที่วางรอเขาอยู่แล้ว   ก็ว่าอยู่ว่ากลิ่นหอมฉุยที่โชยเข้ามาปลุกเขาถึงห้องนอนนี้มันมาจากไหน   

   คนถูกถามเดินออกมาจากบริเวณห้องครัวพร้อมผ้ากันเปื้อนและรอยยิ้มรับอรุณ   เด็กหนุ่มสั่นศีรษะแรงๆอย่างภาคภูมิใจ "ซื้อมาที่ไหน   ดูถูกกันเกินไปแล้วพี่วิน   นี่ทำเองทั้งนั้น...”

   ได้ยินดังนั้นคนฟังก็ต้องอมยิ้มทำสีหน้าล้อเลียน "อ๋อ...จะบอกว่าตัวเองมีเสน่ห์ปลายจวักว่างั้น?”

   “โห  พูดอย่างนี้ไม่ต้องมากินเลย" เด็กหนุ่มพูดขู่พลางทำท่าจะดึงจานมาไว้ฟากเดียวกันทั้งสองจานโดยที่มีมือของกวินมาดึงไว้ก่อน   

   “กินสิกิน   ใจร้ายจริงนะพ่อคุณ" ฝ่ามือหนาตีลงไปกลางหน้าผากมนเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว "งั้นเดี๋ยวขอไปล้างหน้าแปรงฟันก่อน"

   จักรวาลมองตามแผ่นหลังที่เดินหายเข้าห้องน้ำไปสลับกับอาหารฝีมือตัวเองบนโต๊ะ   ปกติไม่ได้มีโอกาสทำอาหารให้ใครกินบ่อยนักหรอก   เรื่องรสชาตินี่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอร่อยไหม   แต่ความตั้งใจ  วันนี้ต้องบอกว่าสุดฝีมือ...

   เพียงไม่นานช่างภาพคนดังในชุดนอนตัวเดิม   แต่หน้าตาสดใสเกลี้ยงเกลาขึ้นกว่าเมื่อครู่ก็เดินออกมาในสภาพพร้อมรับประทาน

   ทันทีที่ตักคำแรกเข้าปากชายหนุ่มก็อุทานเป็นกำลังใจให้คนทำเสียโอเวอร์ "อร่อยมาก   ทำเก่งอย่างนี้ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก   จะได้เอามาทำให้กินทุกวัน"

   “เกินไปครับพี่วิน   ไม่ได้อร่อยขนาดนั้นซะหน่อย"

   “ปอมทำอะไรฉันก็ว่าอร่อยหมดแหละ  เอายางมาให้กินยังอร่อยได้เลยเชื่อไหม"

   “อ้าว...ตกลงมันดีหรือไม่ดีเนี่ย"

   “ฮ่าๆๆ  อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ   อร่อยจริงๆ  ไม่ได้ยอเล่น   จะมาอยู่ด้วยกันเลยไหม   ฉันจะได้กินอาหารฝีมือนายทุกวัน"





   นั่น...



   เนียนหรือเปล่าไม่รู้   รู้แต่ว่าคนอย่างกวินหาจังหวะหยอดได้ทุกสิบนาทีสิน่า...





   “พี่วินครับ  ส่งซอสแม็กกี้ให้ผมหน่อยได้ไหมครับ" จักรวาลกล่าวขอพลางพยักเพยิดไปยังขวดน้ำจิ้มที่อยู่ใกล้มือชายหนุุ่มที่นั่งฝั่งตรงข้ามมากกว่า



   ว่าแต่...



   ประโยคข้างต้นออกจะฟังดูปะแล่มไปสักหน่อยไหมนะสำหรับคนเป็นแฟนกัน?...



   ขวดที่ว่าถูกหยิบยื่นส่งถึงมือผู้ร้องขอเรียบร้อย   ในขณะที่คนส่งให้ก็เปิดประเด็นใหม่ของการสนทนาขึ้นมา "นี่...ทำไมนายถึงพูดจาสุภาพกับฉันจัง...คือมัน...ฟังดูห่างเหินนะ  ว่าไหม?”

   เด็กหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ "สุภาพยังไงเหรอครับ?”

   “ก็แบบนี้แหละ   ลง 'ครับ' ทุกคำ   เรียกแทนตัวเองว่า 'ผม' อีกต่างหาก   คำพวกนั้นเขาเอาไว้ใช้กับ 'คนอื่น' นะรู้หรือเปล่า" กวินพูดน้ำเสียงทีเล่นทีจริง   ก่อนจะลดระดับความดังลงบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ   แต่ถึงกระนั้นคนตรงหน้ากลับได้ยินมันชัดเจนทุกถ้อยทุกคำ "...จูบกันไปก็ตั้งหลายที  ยังจะมา 'ผม' มา 'ครับ' อยู่อีก...”

   ได้ยินแบบนั้นเข้าไปเด็กหนุ่มก็ทำตาโต "พี่ิวิน!..” พูดมาได้ยังไงไม่อายปาก   จูบเจิบอะไรกัน   อย่ามาพูดต่อหน้าสิฟะ...คนฟังมันทำหน้าไม่ถูก "...แต่...เวลาเด็กพูดกับผู้ใหญ่   ก็ต้องพูดสุภาพสิ...”

   “เฮ้ๆๆ  น้อยๆหน่อยเจ้าหนู   อย่ามาพูดให้ฉันดูแก่ไปมากกว่านี้นะ   ห่างกันแค่ห้าปีเอง   ไม่ใช่รุ่นพ่อรุ่นลูกซะหน่อย"

   “จริงๆพี่ก็พูดจาห่างเหินกับผมเหมือนกันแหละ" คราวนี้เด็กหนุ่มต่อปากต่อคำอย่างท้าทาย "เดี๋ยวก็ 'ฉัน' เดี๋ยวก็ 'นาย'   ผมเป็นลูกไล่พี่เหรอครับ" 

   กวินเดาะลิ้นอย่างขัดใจ "ใครว่า...ถ้านายเป็นลูกไล่ฉันนะ  มันจะต้องไม่ใช่ 'ฉัน' กับ 'นาย' หรอก   มันต้องเป็น 'กู' กับ 'มึง' แล้ว" ถึงตรงนี้ชายหนุ่มก็เหยียดกรุ้มกริ่มออกอย่างเจ้าเล่ห์   ก่อนเติมต่อท้ายประโยคกระเซ้าคนตรงหน้าเล่นไปอีกหนึ่งดอก "อีกอย่าง...ใครที่ไหนเขาจะมาจูบลูกไล่ตัวเองกัน...นายน่ะ...สเปเชียลกว่านั้นเยอะ...”

   

   “พี่วินนนนนนนนนนนนนนน!” เด็กหนุ่มร้องตะโกนลั่นห้องกับคำต้องห้ามที่ได้ยิน "หยุดพูดถึงเรื่องพวกนั้นสักทีสิ!  พี่ไม่อายแต่ผมอายนะเว้ยยยยยยยยย"



   “นั่นไงๆ  ไหนบอกเองว่าพูดกับผู้ใหญ่ต้องสุภาพ   มาวะมาเว้ยอะไรกัน   เดี๋ยวจับตีปากเลยดีไหม"



   “ก็พี่อ่ะ...”

   “อะไรล่ะ"

   “พูดอยู่ได้  จูบๆๆๆๆเนี่ย  พูดทำไมเล่า"

   “ก็จะพูด  ทำไมล่ะ  จูบๆๆๆๆ  ไม่พูดอย่างเดียวนะ  จะทำด้วย  เอาเลยไหม   จะได้จูบเลย"

   “เห้ย! พอได้แล้ว   ไม่จูบ  ไม่รู้   จะกินข้าว"

   “จะจูบ"

   “อ้าว   เรื่องมันพลิกมาเป็นแแบบนี้ได้ไงวะเนี่ย"

   “พูดวะอีกแล้ว  มาเลยๆ"


   บทต่อปากต่อคำทีเล่นทีจริงของคนทั้งคู่ดังก้องไปทั่วห้องอย่างนั้นอยู่นานสองนาน   ไม่รู้ทำไม...แต่จักรวาลดันรู้สึกว่ามันเป็นการเถียงที่สนุกที่สุดตั้งแต่เคยเถียงอะไรกับใครสักคนมา

   สุดท้ายเรื่องก็มาจบอยู่ที่กวินต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้เจ้าหนูขี้อายไปอย่างประนีประนอม



   ย้อนกลับมาที่เรื่องสรรพนามแทนกันและกันของคู่รักข้าวใหม่ปลามัน...



   “ถ้าไม่อยากให้ผมเรียกแทนตัวเองว่า 'ผม'   ถ้างั้นพี่อยากให้ผมเรียกยังไง...” เด็กหนุ่มถามออกมาเมื่อพายุลูกเล็กๆเมื่อครู่สงบลง

   คนถูกถามหลุบตามองพื้นโต๊ะอย่างครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ "ความจริงถ้านายพอใจจะเรียกแบบนี้ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก   แต่ถ้าถามฉัน...เรียกชื่อตัวเองแทนได้ฉันก็จะกระชุ่มกระชวยมาก...”

   ได้ยินอย่างนั้นคนฟังก็ทำหน้าแหย "กระชุ่มกระชวยอะไรของพี่   ศัพท์แบบนั้นมันเอาไว้เวลาลุงแก่ๆหื่นๆเขาพูดถึงสาวเอ๊าะๆไม่ใช่หรือไงครับ?” แต่ความจริงเรียกแทนตัวเองว่า 'ปอม' ก็ฟังดูโอเคสำหรับเขานะ   เพราะอยู่กับแม่เขาก็เรียกแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นนี่แหละ
   
   “อ้าว...ก็มันฟังดูน่ารักดีนี่นา   ฉันชอบ...ไม่สิ...พี่ชอบ...” ชายหนุ่มพูดเสียงอ่อน    ไม่ได้โอตาคุนะ  แต่รู้สึกว่ามันน่ารักจริงๆเวลาเรียกแทนตัวเองด้วยชื่อ   แต่อย่างเขานี่คงไม่ผ่าน   ให้มาเรียกแทนตัวเองว่าวินอย่างนู้นวินอย่างนี้   เดี๋ยวคนรอบข้างจะได้อ้วกเอา   สรรพนามแบบนี้เหมาะกับคนแบบเด็กหนุ่มตรงหน้าเขานี่แหละ

   “ก็ได้ครับ   เดี๋ยว 'ปอม' จะเรียกแทนตัวเองว่า 'ปอม' ทุกวันเลย   กระชุ่มกระชวยให้พอเลยนะพี่" พูดจบเด็กหนุ่มก็หัวเราะร่วนกับคำแซวของตัวเอง

   “ดีครับน้องปอม  'พี่วิน' ก็จะไม่ให้น้องปอมรู้สึกว่าตัวเองเป็นลูกไล่อีกแล้วครับ"



   เสียงหัวเราะที่ดังไปทั่วบริเวณสร้างบรรยากาศดีๆให้เช้าวันนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ   อารมณ์ขุ่นมัวจากคำพูดของเมษาเองก็ดูเหมือนว่ากำลังจะถูกจักรวาลลืมไปแล้ว   



   ถ้าไม่ใช่เพราะประเด็นต่อไปที่กวินดันเปิดขึ้นมาผิดจังหวะไปกวนมันกลับขึ้นมาเสียก่อน...



   “เอ้อปอม   ฉัน...เอ้ย...พี่มีเรื่องจะถามหน่อย" ชายหนุ่มกล่าวขึ้น   น้ำเสียงฟังดูเป็นงานเป็นการขึ้นเล็กน้อย "คือปอมยังอยากทำงานที่บริษัทพี่อยู่ไหม  ถึงเปิดเทอมแล้วแต่จะมาทำพาร์ทไทม์ก็ได้นะ   มันมียังบางงานที่อยากให้ปอมลองทำน่ะ"

   คนถูกถามทำตาโตขึ้นด้วยความดีอกดีใจ   หากแต่เมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ความรู้สึกก็ต้องหดกลับลงเท่าเดิม "ผม..เอ่อ...ปอม...ต้องทำที่ร้านพี่เมษน่ะครับ   สงสัยจะไม่ได้...”

   ชื่อที่ไม่อยากได้ยินที่สุดจากคนตรงหน้าทำให้กวินแอบหน้าตึงขึ้นมาดื้อๆ   ช่างภาพหนุ่มจึงลองแย็บถามออกมา "ร้านเขาขาดคนขนาดนั้นเลยเหรอ?"   

   จักรวาลส่ายหน้าเบาๆ "ก็ไม่หรอกครับ   แต่ว่า...ปอม...เกรงใจพี่เมษน่ะสิ" ชื่อ 'ปอม' ยังคงไม่ชินปากเท่าไหร่สำหรับตอนนี้   แต่เดี๋ยวเรียกไปเรื่อยๆคาดว่าคงจะคุ้นไปเอง

   “ทำไมล่ะ?”

   “ก็ตอนที่หางานทำใหม่ๆ  หาไม่ได้เลย   ตอนนั้นเกือบไม่มีเงินใช้ไปพักนึง   แต่ก็ได้พี่เมษนี่แหละช่วยไว้...ตอนนี้   ถ้าจะทิ้งไปทำงานอื่นมันก็รู้สึกยังไงไม่รู้น่ะครับ...” เด็กหนุ่มกล่าวพลางหลุบตาลงต่ำ

   “ไม่มั้ง...คิดมากไปหรือเปล่า   คุณเมษาเขาคงไม่คิดอะไรหรอก"

   จักรวาลไม่อยากจะบอก   ว่าจริงๆมันใช่แค่เรื่องที่ว่าเรื่องเดียวเสียเมื่อไหร่   บทสนทนาที่ร้านอาหารในวันเกิดของเมษาครั้งนั้นวกกลับเข้ามาทันทีที่นึกได้ว่าหากเขามาทำที่บริษัทกวิน  เขาคงต้องลาออกจากร้านของรุ่นพี่ที่เคารพ   และหากเป็นอย่างนั้น...เมษาคงได้คิดว่าสาเหตุเป็นเพราะเรื่องวันนั้นแน่ๆ    ถึงอย่างไรเขาก็ยังไม่อยากทำลายสัมพันธภาพอันดีนี้ลง

   “ไม่รู้สิ   ถ้ายังไงเรื่องนี้ผม...ฮื้อออออ...ปอมขอลองเอาไปคิดดูก่อนได้หรือเปล่า"



   ช่างภาพหนุ่มถอนหายใจเบาๆ   ไม่ว่าอย่างไรเมษาก็คงเป็นรุ่นพี่ที่เด็กหนุ่มแคร์จริงๆนั่นแหละ   



   แต่ไม่เป็นไร...



   เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว...เขาจะต้องไม่เก็บเรื่องแค่นี้มาใส่ใจ...



   “เอาเถอะ   ปอมก็ลองไปคิดดูดีๆแล้วกัน...”





   “ครับ...แล้วจะลองคิดดูอีกที...”



๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2012 15:20:00 โดย arunoki »

arunoki

  • บุคคลทั่วไป
นิ้วมือทั้งห้าถูกเคาะพรมลงบนพื้นโต๊ะตัวหรูภายในร้านอาหารกึ่งผับชื่อดังย่านทองหล่อ   รู้สึกได้ชัดเจนว่าบริกรหลายคนลอบมองเขาด้วยสายตาแตกต่างจากทุกที



   ...และเมษารู้ดีว่าสาเหตุเป็นเพราะอะไร...



   วันนี้เขาอารมณ์ไม่อยู่กับร่องกับรอยเกินกว่าจะปั้นหน้าใจดีแจกยิ้มให้กับทุกคนอย่างที่เคยทำเป็นปกติ...อย่างน้อยก็จะไม่ฝืนตัวเองจนกว่ารุ่นน้องคนพิเศษที่นัดกันไว้จะมาถึง...



   ...เมื่อคืนตอนดึกๆเมษาได้รับโทรศัพท์จากจักรวาลขณะเตรียมตัวเข้านอน   เด็กหนุ่มขอนัดเจอเขาวันนี้โดยที่ยังไม่ได้บอกว่ามีธุระอะไร   แต่ถ้าให้เดา...คงไม่พ้นเรื่องที่เขาพูดถึงกวินเมื่อวันก่อน

   

   ...แน่นอนว่าเขาตอบตกลงออกไปโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดนาน...



   ...ไหนๆก็ตั้งใจจะเอาของบางอย่างให้จักรวาลดูอยู่ไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว   เลื่อนเวลามาเร็วขึ้นวันสองวันคงไม่เป็นปัญหา...
.
.

.


.
   “พี่เมษ   สวัสดีครับ" เสียงน่าฟังที่คุ้นเคยเรียกให้ชายหนุ่มดึงตัวเองออกจากห้วงความคิดแล้วเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของคำทักทายที่เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มแห้งๆ

   “อ้าวปอม   กำลังรออยู่เลย   นั่งสิ" ใบหน้าขาวเนียนสะอาดสะอ้านตามแบบฉบับลูกคนรวยพยักพเยิดไปยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามด้วยรอยยิ้มที่ถูกจุดขึ้นโดยอัตโนมัติ "เป็นยังไงบ้าง   กินอะไรมาหรือยัง   สั่งอะไรก่อนไหม?”

   “ไม่เป็นไรครับ   ผมกินข้าวมาจากที่คณะแล้ว..” เด็กหนุ่มตอบเสียงค่อย   พลางมองไปรอบร้านแล้วพยักหน้าทักทายเพื่อนๆบริกรตามมารยาท    คงจะแปลกพิลึก   หากเด็กเสิร์ฟของร้านอย่างเขาจะมานั่งสั่งอาหารในร้านทานกับลูกชายเจ้าของ   แม้จะเป็นเวลานอกกะทำงานก็เถอะ



   ...อีกอย่าง   หัวข้อที่เขาจะเอามาพูดกับเมษาในวันนี้   ก็ดูจะกระอักกระอ่วนเกินกว่าที่เขาจะมานั่งกินไปคุยไปสบายใจเฉิบเสียด้วย...



   หลังจากเอาคำชักชวนของกวินกลับไปนั่งคิดนอนคิดหลายตลบ   จนแล้วจนรอด   เด็กหนุ่มก็ปฏิเสธตัวเองไม่ได้ว่า   ยังไงเขาก็อยากทำงานถ่ายภาพมากกว่างานเสิร์ฟเป็นไหนๆ   และก็คิดมาดีแล้วเช่นกันว่าคนมีเหตุผลและใจดีอย่างเมษา   หากได้อธิบายตรงๆแล้วจะต้องเข้าใจเขาแน่ๆ



   

   หวังว่าการมาขอลาออกในวันนี้  จะไม่ทำให้รุุ่นพี่ของเขาเข้าใจผิดหรอกนะ...





   “ว่าไง   แล้วมีเรื่องอะไรล่ะ   ถึงได้อยากเจอพี่วันนี้?" เป็นเมษาที่เปิดประเด็นขึ้นมาเสียเอง   เห็นแค่หน้าเจื่อนๆของเด็กหนุ่มแล้วก็เข้าใจได้ไม่ยากเย็นเลยว่าเจ้าตัวคงลำบากใจกับเรื่องที่จะพูดอยู่ไม่น้อย

   จักรวาลนั่งนิ่งเพื่อเรียบเรียงคำพูดในหัวอยู่ครู่ก่อนจะค่อยๆเอ่ยความตั้งใจของตนออกมา



   “เรื่องที่ผมจะบอกในวันนี้เกี่ยวกับเรื่องงานที่นี่น่ะครับ" น้ำเสียงที่ใช้ฟังดูเจียมเนื้อเจียมตัวเป็นพิเศษ "คือผม...จำได้แม่นว่าตอนที่ผมเพิ่งเข้ามหา'ลัยใหม่ๆแล้วไม่มีเงินใช้   พี่เมษช่วยให้ผมได้มาทำงานที่ร้านของแม่พี่   ตอนนั้นผมดีใจแล้วก็รู้สึกขอบคุณมาก   มาถึงตอนนี้ผมก็ยังรู้สึกว่าติดหนี้บุญคุณพี่อยู่   แต่...เอ่อ...คือ...ก่อนอื่นผมอยากให้พี่เข้าใจก่อนนะครับว่าผมรู้สึกขอบคุณพี่มากจริงๆ...ทุกอย่างยัง....”

   






   “ตรงๆเลยปอม   อย่าอ้อมนาน...”







   เด็กหนุ่มสะอึกไปกับประโยคจากคนตรงหน้าที่ดังขึ้นขัดจังหวะการพูดของเขาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย   และเมื่อมองสำรวจสีหน้าของอีกฝ่ายดูดีๆแล้ว   เด็กหนุ่มก็เริ่มหน้าเสียขึ้นมา   วันนี้...เมษาดูเคร่งเครียดกว่าปกติ...แม้บนริมฝีปากจะยังมีรอยยิ้มประดับอยู่...หากแต่ดวงตากลับดูไม่น่ามองเอาเสียเลย...

   

   โดนขัดขึ้นมาอย่างนั้น   คำพูดทั้งหมดที่เตรียมไว้ก็ถูกกลืนหายลงคอไปอย่างช่วยไม่ได้...   



   จากที่กังวลอยู่แล้ว   เด็กหนุ่มก็ยิ่งฝ่อลงไปอีก...



   

   เห็นปฏิกิริยาห่อเหี่ยวจากคนตรงหน้า   เมษาก็เหมือนเพิ่งรู้สึกตัวว่าตนเพิ่งจะพูดอะไรออกไป    วันนี้เขาคงจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจริงๆ   ลักษณะที่ดีทางการทูตที่ถูกสั่งสอนมาตั้งแต่เด็กจึงทำท่าจะเสื่อมประสิทธิภาพลงไปชั่วคราว

   “ปอมก็รู้...พี่ไม่มีทางมองปอมในแง่ร้าย   มีอะไรในใจก็อยากให้พูดมาตรงๆ   เราคนกันเอง...ไม่ต้องเกริ่นยาวนักหรอก   พี่ไม่ใช่คนพาลสักหน่อย" น้ำเสียงที่ส่งออกไปแก้เกมฟังดูละมุนลงกว่าเมื่อครู่มาก   ความจริงแล้ว...ต่อให้เด็กหนุ่มไม่พูดต่อ   แค่เท่าที่ได้ฟังเขาก็พอจะบอกได้แล้วล่ะว่าเรื่องอะไรที่ทำให้พวกเขาต้องมานั่งคุยกันอยู่ตรงนี้...




   “ขอโทษครับ" จักรวาลกล่าวเสียงเจื่อน "คือ...”





   “จะมาลาออกใช่ไหม...?”





   ในที่สุดเมษาก็ไม่รอให้รุ่นน้องกล่าวต่อจนจบประโยค   หากแต่กลับชิงพูดขึ้นมาเสียเองด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน   ราวกับจะปลอบประโลมเด็กหนุ่มว่าอย่าได้กังวลไป...







   ...ทั้งที่ในใจมันรู้สึกอยากจะทุบโต๊ะทุบกำแพงระบายอารมณ์เสียเดี๋ยวนี้...







   ได้ยินแบบนั้นเด็กหนุ่มก็ต้องพยักหน้าขึ้นลงเบาๆเป็นการยืนยันว่าสิ่งที่รุ่นพี่ตรงหน้าเดาไว้นั้นถูกต้องแล้ว “ครับ...แต่พี่เมษครับ   อย่าเข้าใจผมผิดนะ   ที่มาลาออกนี่ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเรื่องวันก่อนจริงๆ"

   เมษาส่งยิ้มตอบกลับมา "เหรอ...ถ้าอย่างนั้นพี่ขอถามเหตุผลได้หรือเปล่า"

   “ครับ" จักรวาลกล่าวตอบ   รู้สึกโล่งอกขึ้นมาบ้างเล็กน้อยที่ดูเหมือนว่าเมษาจะไม่โกรธเคืองอะไรเขา "ที่ผมจะลาออกเพราะว่าพี่วินชวนไปทำงานที่บริษัทต่อครับ   ผมอยากเก็บประสบการณ์ด้านการถ่ายรูปไว้เยอะๆ   ก็เลย...”




   ชายหนุ่มทายาทแบงค์ทอดถอนหายใจยาวนาน...






   ...พี่วิน...






   ชื่อนี้อีกแล้วสินะ...






   “เอาล่ะ...ถึงตาพี่พูดบ้าง" ชายหนุ่มยืดตัวขึ้นเตรียมพร้อมเปิดประเด็นใหม่ที่คาดว่าคนฟังคงไม่ได้เตรียมตัวมาตั้งรับแน่ๆ "พี่เองก็อยากให้ปอมทำความเข้าใจก่อนเหมือนกัน   ว่าพี่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการที่ปอมจะลาออกจากงานพาร์ทไทม์เล็กๆแบบนี้ไปทำตามความฝันตัวเอง   มันเป็นเรื่องปกติและเข้าใจได้   แต่...เรื่องที่พี่มีปัญหาคือ...เรื่องเดิม...”




   ได้ยินดังนั้นจักรวาลก็ขมวดคิ้วฉับ

   'เรื่องเดิม' ที่ว่า   หวังว่าคงจะไม่ใช่...




   “เรื่องคุณกวิน" คำกล่าวหนักแน่นจากปากรุ่นพี่ที่เคารพตอบคำถามในใจเด็กหนุ่มได้ในวินาทีถัดมา




   ครั้งนี้จักรวาลเองก็เปิดปากขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปจากเมื่อครู่เช่นกัน "แต่พี่เมษครับ...ผมนึกว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วซะอีก"

   ชายหนุ่มรุ่นพี่สั่นศีรษะเบาๆ "ปอมยังไม่เข้าใจ...เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องที่พี่คิดไปเอง  หรือไปฟังจากใครมา...และมันไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิด...”

   ถึงตรงนี้   แม้แต่คนอย่างเมษาก็ยังต้องหยุดพักเพื่อถือโอกาสกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอไป   



   สิ่งที่เขากำลังจะทำต่อไปนี้...หากเปรียบเทียบกับในหนังในละคร...


   คงไม่ต่างอะไรจากพฤติกรรมของ




   ...ผู้ร้าย...






   แต่เขาสามารถพูดได้เต็มปากว่า   ถึงเป็นผู้ร้าย...แต่เขาก็เป็นผู้ร้ายที่มีเจตนาดี...

   สิ่งเดียวที่ต้องการจากการกระทำครั้งนี้คือ   ดึงให้รุ่นน้องที่รักหลุดออกจากความเสี่ยงที่จะโดนพิพากษาจากสังคมเพียงเท่านั้น   


   เพราะกวินไม่มีความสามารถพอที่จะปกป้องจักรวาลจากเรื่องแบบนั้นได้   เขามั่นใจ...



   
   “พี่เมษมีหลักฐานเหรอครับ   พูดลอยๆอย่างนี้มันปรักปรำกันเกินไปหรือเปล่า?" เด็กหนุ่มถามขึ้นเสียงนิ่ง




   คนถูกถามหลุบตาลงต่ำ   ก่อนจะเอ่ยขึ้นเบาๆ "ในเมื่อปอมพูดเรื่องนี้ขึ้นมา...พี่ก็จะเอาให้ดู...หลักฐานที่ว่าน่ะ" พูดจบชายหนุ่มก็คว้ากระเป๋าเอกสารข้างกายขึ้นมาเปิดออกช้าๆ   ซึ่งการกระทำที่ได้เห็นนั้นทำเอาคนเป็นรุ่นน้องต้องรู้สึกบีบแน่นขึ้นมาที่หัวใจด้วยความตระหนก...


   “พร้อมหรือยัง...เตรียมใจไว้ก่อนไหม?” คำถามที่ส่งออกไปไม่ใช่การประชดประชันแต่อย่างใด   ชายหนุ่มหมายความอย่างที่พูดจริงๆ




   จักรวาลจับจ้องที่ปึกเอกสารไม่หนานักในมือคนตรงหน้าสลับกับดวงตาติดกังวลทว่าก็ดูแน่วแน่ของอีกฝ่าย




   กลัว...




   เขารู้สึกกลัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน   

   กลัวเสียจนบังคับมือให้หยุดสั่นไม่ได้เลย




   เมื่อเห็นเด็กหนุ่มไม่ตอบอะไร   เมษาจึงเลื่อนเอกสารทั้งหมดมาตรงหน้า   ก่อนเริ่มเปิดปากอธิบายสิ่งที่คิดมาเป็นอย่างดี...   



   ข้อมูลเบื้องลึกเบื้องหลังมากมายถูกถ่ายทอดออกมาผ่านน้ำเสียงจริงจังประกอบกับตัวเลขน่าสงสัยที่เรียงกันเป็นแถวบนแผ่นกระดาษหลายหน้า

   กับเด็กอ่อนประสบการณ์อย่างจักรวาลแล้ว  เมษารู้ดีว่าข้อมูลเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่อยู่ในขอบข่ายความคุ้นชินของเด็กหนุ่มเลยแม้แต่น้อย   และคิ้วเรียวที่ขมวดติดกันจนแทบจะเป็นเส้นตรงบวกกับแววตากังวลสับสนระหว่างการตั้งใจฟังนั่นก็ดูจะเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดี

.
.

.


.

   เมษาลอบสังเกตปฏิกิริยาเหล่านั้นด้วยหัวใจเต้นถี่รัวหลังจากสาธยายความทุจริตของกวินที่เขายัดเยียดให้จนจบ   กล้ามเนื้อหลายส่วนเกร็งแน่นด้วยความเครียด


   ปกติเขาไม่ใช่คนขี้โกหก...การโกหกคำโตในครั้งนี้จึงทำให้ชายหนุ่มจิตใจผิดแปลกไป...




   อย่างที่บอกไปว่าเจตนาเพียงหนึ่งเดียวของเขาคือแค่ต้องการให้จักรวาลหลุดพ้นออกมาจากกวิน   เขาแทบจะไม่ได้ต้องการให้เด็กหนุ่มหันมาสนใจเขาเลยด้วยซ้ำ   และถ้าหากว่ามันบังเอิญได้อย่างนั้นก็ถือว่าเป็นปาฏิหารย์...

   ที่สำคัญ...ที่ทำไปทั้งหมด   เขาไม่เคยคิดให้กวินต้องเดือดร้อนจริงๆ   เพราะสิ่งที่เขาไม่ชอบเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นเพียงอย่างเดียวคือการมาวอแวกับรุ่นน้องของเขา   ในฐานะอื่น...โดยเฉพาะช่างภาพที่เคยชื่นชมแล้ว   เขาไม่ได้ต้องการทำลาย

   เขารู้ดีว่าเอกสารปลอมแปลงเหล่านี้   หากได้ตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญกันจริงๆ   คงโดนจับเท็จได้ไม่ยาก






   แต่จักรวาลไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ...






   คนๆเดียวที่เขาต้องหลอกให้สำเร็จไม่ใช่โลกทั้งใบ  ไม่ใช่สรรพากร  ไม่ใช่ตำรวจ...


   แต่เป็นจักรวาลเพียงคนเดียว...




   ถ้าเพียงจักรวาลเชื่อ...ทุกอย่างก็จะสำเร็จ...





   เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากอย่างแรงเสียจนเลือดซึมออกมาซิบๆ   กรามบนและกรามล่างสบกันแน่นอย่างตึงเครียด   และหลังจากที่นั่งคิดไตร่ตรองอยู่นานสองนาน   ใบหน้าเรียวได้รูปที่บัดนี้ซีดเผือดก็เงยขึ้นจากเอกสารตรงหน้าอีกครั้ง

   “ไม่ใช่หรอกครับพี่เมษ   พี่เมษคิดไปเองมากกว่า" เสียงที่เคยฟังดูสดใสเหลือเกินในความรู้สึกของเมษา   บัดนี้กลับแหบพร่าและสั่นเครือ "จำนวนตัวเลขอาจจะบังเอิญตรงกันก็ได้ครับ   พี่อย่าคิดมากสิ...ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก   ไม่ใช่อย่างนั้นแน่ๆ...ไม่อย่างนั้นก็ต้องมีอะไรผิดพลาด"

   “ถึงขั้นนี้แล้วยังจะพูดอย่างนั้นอีกเหรอปอม...” ชายหนุ่มพูดด้วยเสียงอ่อนใจ "...ปอมคิดอย่างนั้นจริงๆหรือโกหกตัวเองอยู่กันแน่?”

   “ผมไม่ได้โกหกตัวเอง...ผมเชื่อพี่วิน   ผมรู้ว่าพี่วินไม่ทำอย่างนั้นแน่ๆ   ไม่รู้ล่ะ...พี่เมษจะพูดอะไรผมก็จะไม่สนแล้ว  ผมเชื่อใจพี่วิน...” คำพูดที่เด็กหนุ่มกล่าวออกมาฟังดูระรัวราวกับคนลิ้นพันกัน

   “ปอม...ถ้าใครได้เห็นเอกสารพวกนี้คงมีแค่ปอมคนเดียวเท่านั้นล่ะที่เชื่อคุณกวิน   พี่รับรองได้ว่าถ้ากรมสรรพากรได้เห็นบัญชีของคุณน้อย   พี่วินของปอมเดือดร้อนแน่..."

   



   “ก็อย่าให้เห็นสิ!” โดยไม่รู้สึกตัว   เด็กหนุ่มเผลอตวาดออกไปเสียงดังลั่น





   คนทั้งร้าน  รวมทั้งบริกรทุกคนต่างหันมามองเป็นตาเดียว...



   เมษาหันซ้ายมองขวาเห็นท่าไม่ดีจึงจัดการรวบเอาเอกสารบนโต๊ะทั้งหมดเก็บลงกระเป๋า  ก่อนจะลุกขึ้นแล้วดึงข้อมือเด็กหนุ่มให้เดินตามออกไปนอกร้าน

   คนทั้งคู่ขึ้นมานั่งอยู่บนรถเบ็นซ์คันหรูของเมษา...รถยังคงจอดอยู่อย่างนั้นเพื่อรอให้การเจรจาแสนโหดร้ายนี้สิ้นสุดลง...




   เกิดความเงียบเข้าครอบงำในตัวรถอยู่พักใหญ่   ต่างฝ่ายต่างนั่งทำใจให้กับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น   ก่อนจะเป็นจักรวาลที่เปิดปากขึ้นมาก่อน  ด้วยประโยคขอร้องแผ่วเบา

   

   “พี่เมษ...อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเลยได้ไหมครับ...?”



   ได้ยินอย่างนั้นคนฟังก็ถอนหายใจเฮือกโตออกมา


   “ได้สิ...” ชายหนุ่มกล่าวกลับไปอย่างนั้น   เรียกรอยยิ้มขึ้นแวบหนึ่งจากคนข้างๆ   แต่เป็นเพียงแวบเดียวจริงๆเนื่องจากทุกอย่างต้องพังทลายลงในประโยคต่อมาของเขา

   


   “....แต่ปอมต้องสัญญากับพี่ก่อนว่าจะเลิกยุ่งกับคุณกวิน....”







   “พี่เมษ!”

   เหมือนใครเอามีดคมๆมากรีดลงไปที่หัวใจอย่างแรง   คำพูดของเมษาทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนมีเลือดมากมายไหลทะลักออกมาจากบาดแผล





   “อย่างที่พี่เคยบอกไปว่าพี่จะไม่ยอมให้ปอมต้องเดือดร้อนเพราะเรื่องแบบนี้    พี่ไม่ใช่พลเมืองดีถึงขนาดต้องคอยมานั่งจับว่าใครหนีภาษีบ้าง   พี่ไม่สนว่าคุณกวินทำอะไรเอาไว้...แต่ที่พี่สนคือปอม...เพียงแค่ปอมเอาตัวออกมาห่างๆจากเรื่องพวกนั้น   แค่นั้นพี่ก็พอใจแล้ว...ทำได้ไหม?”

   
   “ไม่ได้ครับ!” เสียงสั่นเครือตอบกลับมาดังลั่นโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด   หยาดน้ำใสๆเริ่มไหลออกมาเป็นทางจากดวงตาทั้งสองข้าง


   “ปอม!   เชื่อที่พี่พูดสิ...เป็นห่วงอนาคตตัวเองหน่อยได้ไหม!”


   “ทำไมต้องห่วง!  ไม่มีอะไรต้องห่วง  เพราะไม่มีใครทำอะไรไม่ดี!  พี่คิดไปเองทั้งนั้น" เด็กหนุ่มพูดทั้งน้ำตา   สองมือกำแน่นอยู่ที่หน้าตัก


   “เอาสิ! พี่ก็อยากรู้ว่าพี่คิดไปเองคนเดียวหรือเปล่า   พี่ก็อยากรู้เหมือนกันว่าตำรวจจะคิดแบบพี่ไหม!" นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่รู้จักกันมาหลายปีที่เมษาตวาดใส่เด็กหนุ่มคนเดียวที่ตนหลงรักมานาน

   
   “พี่เมษ!”

   
   เสียงสะอื้นดังระงมไปทั่วรถ   สร้างความสะเทือนใจกับชายหนุ่มที่ต้องนั่งทนฟังมันอยู่ไม่น้อย   

   ไม่ใช่เรื่องสนุกเลยที่ต้องมานั่งฟังคนที่ตัวเองรักร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่แบบนี้



   เป็นเวลานานเกือบสิบนาทีที่เมษาได้แต่นั่งนิ่งอยู่แบบนั้น   จนกระทั่งในที่สุดเด็กหนุ่มข้างกายก็ค่อยๆสงบลงและยื่นข้อเสนอใหม่มาให้



   “พี่เมษครับ...ถ้าอย่างนั้นเราไปถามพี่วินกันให้รู้เรื่องเลยเอาไหม   ไปด้วยกันนี่แหละ...ผมมั่นใจว่ามันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่นอน   นะ...พี่ลองไปฟังคำอธิบายจากพี่วินดูนะ...”

   เมษาส่ายหน้าแรงๆ "ยังมีอะไรต้องถาม   หลักฐานทนโท่ออกอย่างนั้น   ปอมคิดว่าถ้าไปถามแล้วเขาจะบอกเราตรงๆเหรอว่าเขาโกงค่าภาษีเป็นล้านๆ"

   “แต่พี่วินไม่มีเหตุผลอะไรต้องโกง   เงินแค่นั้นสำหรับเขามันแทบไม่มีความหมายในเมื่อบ้านเขาก็รวยพอๆกับบ้านพี่นั่นแหละ"

   


   “ปอม!  พี่ว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ    พี่บอกแล้วว่าพี่ไม่รู้ว่าคุณกวินมีเหตุผลอะไร    แต่ที่แน่ๆ   เขา-ทำ!”





   น้ำตาและก้อนสะอื้นที่เหมือนจะถูกปิดสวิตช์ลงไปแล้วก็กลับมาทำงานอีกจนได้...



   “พี่เมษอย่าทำ...ฮึก....อย่างนี้...” เมื่อไม่ว่าจะทำทางไหนก็ดูจะไม่เกิดผล   สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ให้พอจะทำได้คือการอ้อนวอน "ผมขอร้อง...อย่าทำอย่างนี้...ฮึก...อย่าทำพี่วิน...”

   เมษาทอดสายตาฝ่าความมืดมองออกไปนอกรถอย่างเจ็บปวด...เขาส่ายศีรษะเบาๆเป็นการปฏิเสธโดยไม่ได้หันกลับไปมองสภาพน่าเวทนาของจักรวาล


   ยิ่งเห็นอย่างนั้นเด็กหนุ่มก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้น...


   “พี่เมษ...ฮึก..” เสียงที่แหบพร่าอยู่แล้วยิ่งแตกเครือเข้าไปอีกในนาทีนี้ "...ถ้าไม่เห็นแก่พี่วิน  ก็คิดซะว่าช่วย..ฮึก..ผมเถอะนะครับ...”

   เมษายังคงนั่งนิ่งทำตัวเหมือนคนไร้หัวใจอยู่ท่าเดิม...





   “...ผมกับพี่วิน...ฮึก...เรา...รักกัน....”





   คำสารภาพแผ่วเบาที่ดังออกมาจากปากคนที่ตนคอยเฝ้ามามานานเป็นเหมือนแรงบีบมหาศาลที่กำลังทำลายหัวใจของเขาไปในคราวเดียว


   เมษาหลับตาลงด้วยความปวดร้าวในใจ...





   ไม่อยากฟังมันเลยจริงๆ....ไม่ต้องการรู้มันเลย...




   
   “พี่เมษ....” เสียงเรียกสั่นเครือในครั้งนี้ทำเอาเส้นความอดทนของเขาขาดผึงลงตรงนั้น..

   



   “ฟังนะ!” เมษากล่าวขึ้นมาน้ำเสียงหนักแน่น "พี่จะพูดเป็นครั้งสุดท้าย!   ถ้าปอมกลับไปยุ่งกับคุณกวินอีก   ไม่ว่าจะในทางไหนก็ตาม   เอกสารพวกนี้ถึงกรมสรรพากรแน่   ถ้าอยากเห็นพี่วินของปอมเดือดร้อนก็เอาเลย!”



   “พี่เมษ!”



   





   “ไปเลิกกับเขาซะ!”

.
.

.



.


   รถสีบรอนซ์คันหรูจอดสนิทลงหน้าหอพักที่คุ้นเคย...

   คนทำหน้าที่เป็นสารถีนั่งเหม่อลอยอยู่อย่างนั้นนานหลายนาที   นึกถึงเสียงร้องไห้คร่ำครวญของคนข้างกายเมื่อครู่แล้วก็ต้องรู้สึกเจ็บลึกที่หัวใจ

   จักรวาลทั้งแผดเสียงใส่เขา  ทั้งร้องไห้ไม่หยุดอย่างน่าสงสาร   จนกระทั่งทนต่อความเหนื่อยล้าของหัวใจตัวเองไม่ไหว  เด็กหนุ่มจึงผล็อยหลับไปทั้งคราบน้ำตาเปรอะเต็มแก้มทั้งสองข้าง


   คิดได้อย่างนั้นฝ่ามือใหญ่ก็ล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้าสีเข้มของตนขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อ   ก่อนค่อยๆหันตัวไปซับความเปียกชื้นหมาดๆตามใบหน้าขาวนวลนั้นออกให้อย่างเบามือ



   ดวงตาที่สาวๆหลายคนคิดว่ามันช่างดูน่าหลงไหล  บัดนี้กลับดูเลื่อนลอยไร้ความรู้สึกทั้งที่ความรู้สึกมากมายถูกอัดแน่นอยู่ภายใน



   รู้ดีว่าผิด...รู้ดีว่าชั่ว...


   แต่ถ้ามันจะเป็นทางเดียวที่ทำให้คนที่เขารักไม่ต้องพบกับความโหดร้ายที่สังคมมอบให้ในภายภาคหน้า   เขาก็ยอม...



   สุดท้ายนี้  ก่อนที่จะต้องปลุกเด็กหนุ่มผู้เป็นเหมือนหัวใจของเขาให้ต้องตื่นขึ้นมาพบกับความจริงอันโหดร้ายที่เขาเป็นคนหยิบยื่นให้กับมือ   เขาขอลองทำอะไรที่ไม่เคย...และไม่คิดว่าหลังจากนี้จะมีโอกาสได้ทำสักครั้ง...



   ชายหนุ่มเอี้ยวตัวยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าที่เขาเช็ดคราบน้ำตาออกให้จนสะอาดแล้ว...







   ริมฝีปากได้รูปบรรจงจรดลงบนหน้าผากมนแผ่วเบา...



   ก่อนจะกล่าวคำที่ทรมาณหัวใจเขามานานด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุนที่ฟังดูเจ็บปวดที่สุดเท่าที่คนๆหนึ่งจะรู้สึกได้







   “รักครับ...คนดีของพี่"





   หยาดน้ำใสๆไหลออกจากดวงตาข้างซ้าย   ร่วงหล่นลงมาตามแก้ม   ก่อนจะแห้งเหือดหายไปอย่างรวดเร็ว



   เขาขอสัญญากับตัวเองว่า...
   
   น้ำตาหยดนี้จะเป็นเพียงหยดเดียวที่เขาจะยอมเสียมันให้กับความรัก






TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2012 15:14:45 โดย arunoki »

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2

..รักในทางที่ผิดนะเมษ..
ถ้าเมษรักน้องจริงๆ การที่เมษทำแบบนี้ไม่ถูกเลย
คิดเอาเอง ตัดสินเอาเองว่าน้องทำไม่ได้
น้องจะไม่มีความสุขถ้าอยู่กับกวิน
น้องขะมีความสุขมากกว่าถ้าคนคนนั้นเป็นเมษ
ทบทวนทีไร  ก็รู้สึกได้ทุกทีว่าที่เมษทำน่ะ มันเห็นแก่ตัวเอง
อย่าเอาคำว่ารักว่าหวังดีมาบังหน้า!

เซ็งง รออ่านตอนต่อไปจ้า
+1 ให้ค้าบบบบ

ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 951
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
ไอ้พี่เมษนิสัยไม่ดี..พี่วินกับน้องปอมกำลังไปกันได้ด้วยดีแท้ๆ

ออฟไลน์ NOO~KUNG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 718
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-3
พี่เมษร้ายลึกกว่าที่คิด...
มีเอาสรรพากรมาข่มขู่น้อง....

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8

ออฟไลน์ dradareal

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อิพี่เมษษษษษษษษษษษษษษ!!!   o18

ออฟไลน์ minchy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-0
เป็นเรื่องราวที่ไร้สาระมาก  คงจะหลอกได้แค่ปอมคนเดียวหล่ะนะ

ไม่แน่ใจว่า ที่ปอมเชื่อเพราะพี่เมษมาพูดหรือเพราะยังเด็กไม่รู้เรื่องภาษี แบบเกิดมายังไม่เคยจ่ายอะไรอย่างนี้ เลยเค้าพูดมาก็เชื่อหมด  โถ่ลูกถ้าพี่เค้าจะโกงภาษี จะเอาเงินเข้าแล้วถอนออกทำมั้ยหล่ะคะ 

เดินไปถามพี่วินซะก็หมดเรื่อง ถ้าจะต้องเลิกกันเพราะโดนพี่เมษแบล็คเมย์ สู้ไปหาพี่วินให้เตรียมตัวแก้ไขเรื่องนี้ดีกว่า นี่ปี 2012 แล้วนะลูกอย่าทำตัวเหมือนนางเอกเมื่อ 50 ปีก่อนเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Ball

  • He exists now only in my memory.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +239/-0
โอ๊ยยยยยยยย เกลียดไอ้พี่เมษ เกลียดดดด  :z6:
เห็นแก่ตัวที่สุด คำพูดสวยหรูที่พูดมามันเห็นแก่ตัวทั้งนั้น
ห่วงอะไรปอม ตอแหลสิ้นดี
อยากจะพุ่งไปถีบยอดหน้าแม่งจริงๆ

น้องปอมไปถามพี่วินเดี๋ยวนี้เลยนะคะ
หนูต้องเอาไปถามเลย อย่าเลิกยุ่งกับพี่วินเด็ดขาด
อ่านตอนนี้แล้วเครียดทั้งเครียดทั้งโมโห
สงสารปอมแต่ถ้าปอมไม่ถามพี่วิน
แล้วตีตัวออกห่างนะ พี่จะเคืองน้องปอมนะคะ
ไม่ว่ายังไงน้องปอมต้องไปถามพี่วินก่อนนะ

โอ๊ยยยยยยย สักทีเหอะ ไอ้เมษ :beat:

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
ไม่นะ อย่าเลิกนะปอม ไปถามพี่วินสิ อย่าเชื่อคนอื่น :serius2:

อิพี่เมษอย่างนี้เค้าไม่เรียกว่ารักหรอก หึ่ย :z6:

ออฟไลน์ มะมะมะหมิว

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
เฮ้อ พี่เมษนะพี่เมษ
สงสารปอมกับพี่วิน พึ่งจะหวานๆกันไปเอง
 :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4
เลวมากกก   อย่างแกไม่มีวันที่ปอมจะรักหรอก

 :z6: :z6: :z6:

Lipoil

  • บุคคลทั่วไป
ไล่อ่านเม้นแล้วเห็นแววมาม่า ขอแปะไว้ก่อนนะคะ
ยังทำใจอ่านไม่ได้อ่ะ เรื่องมันเศร้า TT.

PAAPAENG~

  • บุคคลทั่วไป
แมนมากกกกกกกก
อิพี่เมษ...แมนเหลือหลาย!!

ก็ปอมน่ะไม่ผิดหรอกนะ
ไม่ว่าอะไรด้วย
แต่ใช้วิธีแบบนี้มันสกปรกเกินไป
เกลียดที่สุด!!

ตอนนี้รักน้องปอมเป็นพิเศษ
ดูน้องปอมเชื่อพี่วินและปกป้องเต็มที่
คนที่ประกาศว่าตัวเองแมนปาวๆมานั่งร้องไห้เพราะเรื่องของคนรัก
มันน่ารักซะจริงๆ

อยากให้พี่วินรู้เรื่องนี้แล้วอ่ะ
แล้วไปชกหน้าอิพี่เมษเลย!

ออฟไลน์ bangkeaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 566
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-4
พี่เมษ อย่าทำแบบนี้เลย  :z3:

ทำไมปอมไม่ไปถามพี่วินล่ะ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ขออนุญาติใช้คำหยาบแบบว่าอินจัด

123 พี่เมษทำไม่พ่ีแม่งเชี่ยงี้วะ แบบนี้คือรักเหรอ

คิดไปเองป่ะวะพี่ ได้ข่าวว่าเป็นลูกนายธนาคาร

อยากถามพี่ว่าตอนเรียนมาเค้าไม่สอนจรรยาบรณรึไงวะ

กลับไปอ่านดูนะพี่ ฟู่ จบละ

ปอมจ๋าตัวเทอเดินเข้าไปถามพี่เค้าตรง ๆ จะดีมากก

อย่าทำตัวเหมือนนางเอกสมัยเก่ามันกลิ่นไม่ดีค่ะลูก

อย่าคิดเองเออเองค่ะ หนักแน่นหน่อย เชื่อใจและอย่าปิดบังกัน

หวังว่าจะดราม่าเล็กน้อยนะค่ะ ต้องขออภัยด้วยหากวาจานั้นไม่สุภาพ อินค่ะ

ออฟไลน์ moon

  • We write our own destiny. We become what we do.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-1
อ่านจากเม้นแล้วดราม่าหนักแน่ๆขอยังไม่อ่านเนอะทำใจไม่ได้จริงๆไม่อยากจิตตกไปจนถึงตอนหน้าเอาไว้ท่านกวินกับน้องปอมฝ่าและหาใครมาฟันพี่เมษาได้ก่อน เราค่อยมารวบอ่านทีเดียวแล้วกัน 55555

หัวใจเราอ่อนแอขอผ่านนะเหอ เหอ แต่ยังคิดเหมือนเดิมว่าหาใครมาจัดการพี่เมษเหอะทนไม่ไหวแล้ววววว


snooppy

  • บุคคลทั่วไป
น้องปอมสงสัยอะไรก็ถามพี่วินนะลูก
คิดอะไรอยู่ก็บอกพี่เขาด้วย (อย่าเก็บไว้คนเดียว คิดคนเดียว)

ชีวิตคู่มันเพิ่งเริ่มต้นเอง  ยังมีอะไรอีกเย๊อะ (แหม..ยังกะจะเข้าหอเนาะ)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
รักแบบเห็นแก่ตัวว่ะ กูไม่ได้ใครก็อย่าได้งั้นสินะ  :angry2:

สงสารปอม สงสารพี่วิน  :m15:

สุดท้ายความจริงเปิดเผย เมษจะเป็นคนที่เสียหายที่สุด เสียปอมแล้วยังจะต้องเสียใจอีก คอยดู   :call:

ออฟไลน์ AllRiseApril

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
น้องปอมมมมมม ไปถามพี่วินก่อนน
อย่าเพิ่งเชื่อสิ  น้องปอมต้องเชื่อใจพี่วินมากกว่าสิ
พี่เมษแม่งงง ไปไกลเลยไป๊  หงุดหงิด

ออฟไลน์ mellowshroom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 976
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1

เอาแล้วววว พี่วินช่วยกันพี่เมษออกจากน้องปอมหน่อย  :serius2:

หาคู่มาให้พี่เมษด้วยจะดีมากเลย จะได้ไม่ต้องไปยุ่งกับน้องปอมอีก

ทำแบบนี้เสียใจอ่ะ ถ้าปอมรู้พี่เมษโดนปอมตัดขาดแน่ .. :angry2:

ออฟไลน์ isBelle__

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ที่พี่เมษทำมันไม่ถูกต้องเลย ทำไมถึงคิดว่าการเอาเรื่องร้ายๆของคนอื่นมาเปิดเผยจะทำให้ตัวเองชนะ กลับกันพี่เมษตอนนี้คงดูแย่ลงในสายตาปอมแน่นอน คนที่รักกันพอเห็นคนที่เรารักยืนอยู่บนจุดที่ๆม่แน่นอน เค้าก็ยิ่งอยากปกป้อง พี่เมษไปกระตุ้นปอมตรงจุดนั้น รู้ว่ารักมาก แต่น่าจะปล่อยให้น้องลองดูซักตั้ง พี่เมษใช้เกณฑ์ของตัวเองตัดสินคนทั้งโลกไม่ได้ ปอมอาจจะมีความสุขกับพี่วินก็ได้ เค้าสองคนอาจจะช่วยประคองกันและกันไปก็ได้ อย่างน้อยเค้าก็พึ่งเริ่มรักกัน

การกระทำของพี่เมษเรียกว่าทำเพื่อความรักไม่ได้เลย

 
น้องปอมพี่วินน่ารักมากเลยอ้ะ น้องปอมขี้อ้อน พี่วินก็ขี้แซว คู่รักนักถ่ายภาพ ไม่ดราม่านานหรอกเนอะ เกี่ยวมั้ยนี่  o18

ออฟไลน์ sulsul

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
อ่าาา่
รักแต่ทำชั่ว ก็ไม่ต่างอะไรกับคนเห็นแก่ตัวนะค่ะ
ปอมช่วยถามเหอะ
ทุกเรื่องมันจะมีเรื่องเพราะไม่ถามให้รุ้เรื่องนี่แหละ
คือถึงขนาดเอาเอกสารมาปลอมแปลง
คิดบ้างว่าใครแน่ที่จะซวย

ออฟไลน์ Hikaru23

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
พี่เมษขอ :z6: สักทีเถอะ มารผจญจริงๆ ถามหน่อยว่าแกเป็นอะไรกับปอมถึงไปสั่งให้เขาเลิกกัน!!!  :serius2:
โอ๊ยยย ปวดใจแทนปอม  ปอมไปถามพี่วินตรงๆเลยดีกว่า มีอะไรเคลียร์ให้จบๆเลย
ปอมอุส่าไว้ใจ รักเคารพ แต่เพราะว่ารักคำเดียวที่ทำให้พี่เมษที่แสนดีเป็นคนอย่างนี้ไปได้ :beat:

ออฟไลน์ i-love-you

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 716
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-3
สงสารปอม สงสาร  พี่วิน  TT   ไปตายซะอีเมษ

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
เมษสมควรจะถอยได้ตั้งแต่ได้ยิน
ว่าเค้ารักกันแล้วนะ
ทำแบบนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นผลดีกับใครเลย
ไม่มีใครได้ มีแต่เสีย แย่ชะมัด
สุดท้ายแล้ว นอกจากจะไม่ได้รักแล้ว ยังจะได้คำว่าเกลียดเพิ่มขึ้นมาอีกนะ
ไม่คุ้มเลยจริงๆ

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
เล่นสกปรกว่ะเมษ ไม่เป็นสุภาพบุรุษ ไม่มีใจนักเลง ไม่แฟร์ สรุป แกเลวว่ะ
.......ความลับไม่มีในโลก..... 
วันที่ปอมรู้ความจริง แกจะไม่เหลืออะไรเลยระหว่างปอมกับแก
แม้แต่ความเป็นพี่น้อง/คนที่เคยมีความปรารถนาดีต่อกัน

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
ร้องไห้ไปกับปอม ;______;

เมษ (เรียกพี่ไม่ลง)  นายใจร้ายมาก เห็นแก่ตัวแบบไม่เคยใครเทียบ
คนที่รู้ตัวว่าทำผิด ทำชั่ว แล้วยังทำต่อ ไม่สมควรได้รับการให้อภัย

นายแพ้แล้วเมษ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด