หัวใจหลังเลนส์ #ตอนจบ และ บทส่งท้าย หน้า 133
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หัวใจหลังเลนส์ #ตอนจบ และ บทส่งท้าย หน้า 133  (อ่าน 1377881 ครั้ง)

ออฟไลน์ มือซ้าย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
เข้ามารอแบบ เบาๆ ไม่กล้ากรนดัง :m20:

ออฟไลน์ gasia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-5
เย้ๆๆๆ รอนะค๊าาาา ><

Augusm

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาลงชื่อรอ  คิดถึงมว้ากกกกกกก :กอด1:

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
รออ่านอยู่น้าาาาา

Blue label

  • บุคคลทั่วไป
รอจร้า เค้าอยากอ่านมากเลยอ่า น้องปอม พี่วิน  :z3:

Angel.JS~

  • บุคคลทั่วไป
อ่านยาวรัวๆตั้งแต่เที่ยงคืนถึงเวลานี้

ยิ้มแก้มแตกไปหลายรอบ  :-[
ปาดน้ำตา คัดจมูกหายใจไม่ออกไปก็หลายรอบ  :sad2:

ดีใจจริงๆที่ได้อ่านเรื่องนี้ค่ะ  o13 o13

เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ  :L2:

กลิ้งๆรอตอนต่อไป

ปล. ดีใจที่ตอน ๓๓ ไม่ค้างแบบว่ายังไม่เคียร์กัน ไม่งั้นนอนไม่หลับแน่ค่ะ ๕๕๕๕๕

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
คิดถึงด้วยคนค่ะ :]

 :L2:

vevi

  • บุคคลทั่วไป
ย่องเข้ามาดูคร๊าบบ  :m18:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






hades

  • บุคคลทั่วไป
ยังรอเหมือนเดิมนะคะ

เฝ้าาาาาาา

ออฟไลน์ eyeaptchy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
มายังน้อ  :3129:
ยังรอน้า เฝ้าเฝ้า
คิดถึงค่ะ :D

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2544
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2

ออฟไลน์ Saantos

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

ออฟไลน์ ์ำNeFuji

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เย้ๆ คิดถึวคนเขียน พี่วินน้องปอมจะแย่

snice_cz

  • บุคคลทั่วไป

arunoki

  • บุคคลทั่วไป
เป็นตอนที่ใช้เวลาเขียนนานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก (ก.ไก่ล้านตัว)
ไม่ได้เขียนนาน  สปีดตกฮวบฮาบเลย  5555
ส่วนหนึ่งเพราะต้องกลับไปย้อนอ่านของเก่าๆด้วยนี่แหละ  เลยกินเวลาเสียเยอะเชียว


----------


หัวใจหลังเลนส์ # 34




   แสงแดดอ่อนๆที่ส่องลอดบานหน้าต่างห้องนั่งเล่นในคอนโดหรูแห่งนี้ตกกระทบอาบร่างชายหนุ่มเจ้าของห้องบนโซฟา   เปลือกตาบนทั้งสองข้างค่อยๆเผยอขึ้นน้อยๆเนื่องจากเสียงกุกกักที่ดังเข้าหู   อาการปวดจี๊ดๆแล่นริ้วขึ้นมาตามสันคอจนถึงศีรษะดังเช่นทุกครั้งที่เขาเมาค้าง

   สติค่อยๆไหลกลับคืนเข้าสมองทีละน้อย   ดวงตาคู่คมดุยังคงเปิดไม่เต็มที่ขณะชายหนุ่มหันมองไปรอบๆ   รู้สึกงุนงงกับสภาพของตัวเองไม่น้อยที่ยังคงอยู่ในชุดเดียวกันกับตอนที่ออกไปทำงานเมื่อวาน   จะมีที่เปลี่ยนไปก็เห็นจะเป็นความยับยู่ยี่บนเสื้อผ้าและกลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งไปทั่วตัวนี่แหละ   ที่สำคัญคือ  แทนที่จะตื่นมาบนเตียงนอน   แต่ทำไมมันถึงกลายเป็นโซฟากลางห้องนั่งเล่นไปได้

   และทันทีที่ภาพใบหน้าเปื้อนน้ำตาของใครบางคนแวบเข้ามาในสมอง...ไม่เพียงแต่ศีรษะที่ปวดจี๊ด  หากแต่ก้อนเนื้อภายในอกเองก็เช่นกัน

   ความทรงจำสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานค่อยๆเรียงตัวเข้ามาให้เขาระลึกได้   ตั้งแต่ตอนที่เขาไปขอคำยืนยันที่คณะของเจ้าตัว   ซึ่งสุดท้ายคำตอบที่ได้รับก็มีเพียงอาการนิ่งเฉยของผู้ถูกถาม   ความรู้สึกในตอนนั้นยังคงสดใหม่อยู่ในใจ   การโดนปฏิเสธด้วยท่าทีก็ทำให้เจ็บปวดได้ไม่น้อยไปกว่าคำพูด   จำได้ว่าหลังจากนั้นเขาแทบจะหาทางกลับบ้านไม่ถูก   แต่สุดท้ายหลังจากที่ขับรถออกมาในสภาพร่อแร่   ในที่สุดเขาก็พาตัวเองมาจนถึงห้องพักจนได้   เบียร์กระป๋องแล้วกระป๋องเล่าถูกเปิดออกและลำเลียงตัวสู่กระเพาะของเขาแบบไม่มีที่สิ้นสุด   และก็คงเป็นเพราะสาเหตุนี้นี่แหละที่ทำให้เขารู้สึกปวดหัวตุบๆ



   แต่...หลังจากนั้นล่ะ...



   เรื่องมันเป็นยังไงต่อแล้วนะ...






   จำไม่ได้...






   เสียงกุกกักที่ดังมาจากบริเวณห้องครัวเรียกให้เขาต้องลุกขึ้นด้วยความสงสัย  ก่อนจะไปสะดุดตาเข้ากับถุงนอนเข้าค่ายที่เขาซื้อเก็บไว้ใช้ในยามที่ต้องไปถ่ายภาพในที่สมบุกสมบันซึ่งตอนนี้มันวางแผ่อยู่บริเวณริมผนังห้องในจุดที่อยู่ห่างจากโซฟาไปเป็นกิโล   

   หืม?...


   และไม่ทันที่ชายหนุ่มจะหาคำตอบเจอด้วยตัวเอง   ร่างๆหนึ่งที่เขาคอยเฝ้าคิดถึงและตามหามาอยู่หลายวันก่อนหน้านี้ก็กำลังเดินออกมาจากห้องครัวด้วยหน้าตาเหรอหรา

   “อ่ะ...เอ่อ...อรุณสวัสดิ์ครับพี่วิน...” จักรวาลกล่าวทักทายคำแรกขึ้นเสียงเบา   ไม่ทันตั้งตัวว่าจะเดินออกมาเจอคนที่เมาคอพับคออ่อนอยู่เมื่อคืนตื่นจากนิทราเร็วขนาดนี้

   


   “...ปอม....”




   กวินกระพริบตาปริบๆด้วยความมึนงง   จับต้นชนปลายไม่ถูก   ไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มคนที่เพิ่งจะทำร้ายจิตใจเขาไปเมื่อวานมาโผล่ที่นี่ได้อย่างไร   






   รังเกียจกันไม่ใช่หรือไงนะ...






   จักรวาลเอง   เมื่อเห็นท่าทีของคนตรงหน้าก็ต้องเจื่อนลงสนิท   ท่าทางกวินจะไม่หายโกรธเขาง่ายๆแน่




   ต่างฝ่ายต่างยืนเงียบด้วยไม่รู้ว่าควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรกันอยู่อย่างนั้นพักใหญ่   จะพูดอะไรออกมาก็ดูจะอึกๆอักๆไม่เป็นธรรมชาติกันทั้งคู่   ฝ่ายหนึ่งก็กลัวจะโดนโกรธ  ส่วนอีกฝ่ายก็ยังงงๆกับสถานการณ์ที่ตัวเองดันจำอะไรไม่ได้สักกะผีก   

   


   หากแต่ก็เป็นคนความจำเสื่อมที่ดันตาดีผิดจังหวะขึ้นมาเสียก่อน...





   “ปอม!” เสียงทุ้มต่ำที่ตะโกนขึ้นด้วยความตกใจอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทำเอาเด็กหนุ่มต้องสะดุ้งขึ้นสุดตัว   และยิ่งเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงแล้วก็ยิ่งต้องแทบหดหัวเข้ากระดองเข้าไปใหญ่   เมื่อตอนนี้ดวงตาคมดุคู่นั้นฉายแววโกรธขึงถมึงทึงขึ้นมาจริงๆเสียแล้ว

   “...อ...อะไรครับ...”

   “ใครทำ?...” กวินเอ่ยถามเสียงห้วนในขณะที่สายตาก็จับจ้องไปยังจุดสนใจของตัวเองด้วยแรงเต้นรัวเร็วในอก  ไม่ได้เจอกันไม่กี่วัน   เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าหนูของเขาบ้าง...ไปโดนใครหน้าไหนทำอะไรมา...

   ไม่เพียงแค่คิด  หากแต่ชายหนุ่มยังตรงเข้าไปจับตัวคนตรงหน้าพลิกซ้ายพลิกขวาดูอย่างลืมตัว




   จักรวาลได้แต่ยืนงง   ปล่อยให้กวินหมุนตนไปมาด้วยความไม่เข้าใจ




   “ปอม...ตอบพี่มา   ใครทำ?” ชายหนุ่มระล่ำระลักถามออกมาเสียงเข้มอีกครั้ง   มือสั่นปากสั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่   ความรู้สึกอื่นๆในใจกระเจิดกระเจิงไปหมด "ปอม!...บอกมาสิ   พี่จะไปกระทืบมันเดี๋ยวนี้"

   “หา?...ใครทำอะไร?...พี่วินพูดถึงอะไรน่ะ?" เด็กหนุ่มจ้องไปยังอากัปกิริยาของคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก   จะว่ายังไงดีล่ะ...มันทั้งงง ทั้งกลัว แต่ก็ขำด้วย...ก็ไม่รู้ว่าพี่วินของเขากำลังพูดถึงอะไรหรอก   แต่ตอนนี้...หน้าหล่อๆนั่นดูตลกชะมัดเลย...

   หากแต่  ภายในชั่วเวลาไม่กี่วินาทีต่อมาเด็กหนุ่มก็ต้องหลุบสายตาลงทันทีเมื่อคำตอบที่ถามไปถูกเฉลยออกมา

   “จะอะไรล่ะ   ก็รอยพวกนี้ไง...มันมาจากไหน?   ปอมไปโดนใครรังแกมา?...ที่หลบหน้าพี่ไปเป็นเพราะเรื่องนี้ใช่ไหม?...บอกพี่มาว่าใครเป็นคนทำ   พี่จะไปจัดการมันให้...” นิ้วมือลูบไปตามจ้ำแดงๆบริเวณคอและแผ่นอกที่โผล่พ้นคอเสื้อนอนย้วยๆออกมา "..หรือว่า...ไอ้เมษใช่ไหม?  ไอ้เมษเป็นคนทำหรือเปล่า?”

   “เห้ย  ไม่ใช่นะ...พี่เมษเขาจะมาทำอะไรแบบนี้กับปอมได้ยังไงล่ะ...โธ่...” เด็กหนุ่มร้องออกมาอย่างตกใจ   ก่อนจะค่อยๆดึงฝ่ามือใหญ่หนานั่นออกไปด้วยใบหน้าขึ้นสี...จะตอบยังไงดีล่ะหว่า...




   ประดักประเดิดชิบเป๋ง...




   “อุบัติเหตุนิดหน่อย...ไม่มีอะไรหรอกครับ...” จักรวาลอ้อมแอ้มตอบออกมาทั้งที่ก็พอจะรู้ว่ามันฟังดูงี่เง่าไม่น้อย...




   อุบัติเหตุเครื่องดูดฝุ่นจู่โจมหรือไงวะ...ไอ้เบื๊อกปอมเอ๊ย!...




   “พี่ไม่ได้โง่นะปอม   นี่มันรอยจูบชัดๆ...เกิดอะไรขึ้น...เล่ามาสิ" กวินจ้องมองเด็กหนุ่มที่กำลังก้มหน้าหลบตาตนด้วยหัวใจสั่นระรัว   กลัวจริงๆ...




   คนถูกถามอ้าปากพะงาบๆ   คิดหาคำตอบที่ฟังดูฉลาดกว่านี้อย่างสุดความสามารถ   แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ทันใจคนตรงหน้าเมื่อคำถามเร่งเร้าถูกส่งมาอีกครั้งแล้วครั้งเล่า   ซ้ำเขาเองยังสัมผัสได้ว่ากวินกำลังมือสั่น

   ใบหน้าเรียวได้รูปก้มต่ำลงอย่างจนใจ   ก่อนจะตัดสินใจหลับตาปี๋แล้วยกนิ้วขึ้นชี้ไปตรงหน้า



   “หือ?...” กวินมองตามนิ้วของเด็กหนุ่มด้วยความไม่เข้าใจ "หมายความว่าอะไรปอม?”



   คราวนี้ไม่เพียงแค่หลับตาหนีความกระดากเท่านั้น  แต่มือทั้งสองข้างกลับถูกยกขึ้นปิดไปทั้งหน้า   มีเพียงเสียงอู้อี้ฟังไม่ถนัดที่เล็ดลอดออกมาให้คนถามต้องตั้งใจเงี่ยหูฟัง








   “พี่วินทำ...”





   “เห้ย!  พี่วินไหน!” คนถูกพาดพิงร้องออกมาเสียงหลง   ตกใจแทบกระโดด...พี่วิน...กวิน  จารุกิตติ์...เขาน่ะเหรอ...



   “อ้าว!...” จักรวาลลดมือที่ปิดหน้าลงอย่างลืมตัว   หัวคิ้วขมวดมุ่น "...ก็พี่วินนี้นี่แหละ   จะมีสักกี่พี่วินล่ะที่จะมาทำอะไรแบบนี้กับปอมได้...”

   ฝ่ามือแข็งแรงที่จับบ่าเด็กหนุ่มอยู่ค่อยๆลดลงไปอยู่ข้างลำตัว  ก่อนที่เจ้าของมันจะถามออกมาเสียงเบา






   "พี่ทำเหรอ...?”



   


   “อืม...”





   กวินยืนนิ่งไป   จากที่หัวใจเต้นแรงอยู่แล้วเมื่อครู่   บัดนี้มันกลับยิ่งแรงเข้าไปอีก   ภายในหัวสมองพยายามนึกย้อนเหตุการณ์เมื่อวานอีกครั้ง...

   เขาเมา...มากๆ

   

   แล้วไงต่อวะ...



   "...อื้อ...พี่วิน...พอเถอะครับ..."
   
   "...พี่วิน...ขอร้องล่ะ..."

   "...พี่วิน...อื้อ...ฮึก...."



   ภาพที่แวบเข้าหัวแบบมาๆหายๆทำเอาชายหนุ่มหัวใจกระตุกวูบ   สิ่งที่จำได้มีไม่มากพอให้ประติดประต่อเป็นเรื่อง  แต่เสียงร้องห้ามและใบหน้าเปื้อนน้ำตาที่อยู่ใต้ร่างก็เพียงพอสำหรับการทำให้เขาหน้าชาได้แล้ว

   กวินกวาดสายตามองไปตามเนื้อตัวคนที่ยืนก้มหน้าแสดงความลำบากใจอยู่อีกครั้ง   



   ความรู้สึกผิดแล่นริ้วขึ้นมาที่หัวใจ   เขาทำอะไรลงไป...




   หวังว่าเขาคงจะยังไม่ได้....



   สองแขนแกร่งค่อยๆรวบดึงร่างตรงหน้าเข้ามาหาตัว   พยายามควบคุมให้สัมผัสแผ่วเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ราวกับกลัวว่าจะทำให้ช้ำ   ใบหน้าหล่อเหลาก้มซบลงกับกลุ่มผมหอมกลิ่นแชมพูของเด็กหนุ่ม   ก่อนที่เจ้าตัวจะพูดขึ้นด้วยเสียงที่คนฟังฟังแล้วต้องยกมือขึ้นกอดตอบ




   “ขอโทษ....ขอโทษจริงๆ....” กวินขยับมือลูบหลังปลอบประโลมคนในอ้อมกอดเบาๆ   หากแต่...แท้จริงแล้ว   ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่...การกระทำนั้นกลับเหมือนเป็นการปลอบตัวเองเสียมากกว่า "...ขอโทษ...”

   จักรวาลส่ายศีรษะน้อยๆกับไหล่กว้างของคนตรงหน้า "ไม่เป็นไรครับ"

   “ไม่เป็นไรได้ยังไง" ชายหนุ่มผละตัวออกมามองหน้าคู่สนทนาอีกครั้ง   ไม่เพียงแต่สีหน้าเท่านั้นที่ฉายแววเคร่งเครียดและรู้สึกผิด...น้ำเสียงเองก็เช่นกัน   ซึ่งจักรวาลรับรู้มันได้เป็นอย่างดี "พี่ทำอะไรบ้าง...เมื่อคืนพี่ทำอะไรปอมบ้าง...”




   “เอ่อ...”



   
   เด็กหนุ่มไม่ได้เงยหน้ามองคนที่มองเขาอยู่   คำถามที่ถูกถามเช้านี้ทำไมมันตอบยากเสียจริง

   “ว่าไง...?...พี่ทำอะไรที่...แย่มากๆกับปอมใช่ไหม?”

   “อย่ากังวลเลยครับ" เด็กหนุ่มตอบเสียงเบา "ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก   มีแค่รอยพวกนี้แหละ...” แล้วก็รอยพวกนี้แหละที่ทำให้เขาต้องแอบไปนอนหลบมุมห่างๆจากโซฟาที่กวินนอนอยู่เมื่อคืน   จะเข้าไปนอนในห้องนอนแล้วปล่อยเจ้าของบ้านนอนโซฟาก็ใช่ที่

   “จริงนะ...?”

   เด็กหนุ่มพยักหน้าตอบรับให้ความมั่นใจกับคนถาม

   ได้ยินดังนั้นกวินก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ...



   “เกือบไปแล้ว...” ใช่...เขาเกือบทำร้ายเด็กหนุ่มไปแล้ว... “ขอโทษ...พี่ขอโทษ..."



   “อืม...ช่างมันเถอะครับ   ยังไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นสักหน่อย" จักรวาลยกมือขึ้นตบบ่าชายหนุ่ม  ก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมาอย่างจงใจเปลี่ยนเรื่อง "ตอนนี้พี่วินไปอาบน้ำก่อนเถอะ   กลิ่นละมุดหึ่งเลยเนี่ย   เสร็จแล้วจะได้ออกมากินข้าว   ปอมทำข้าวต้มกุ้งไว้  ไม่รู้จะกินได้หรือเปล่า"

   กวินมองคนพูดด้วยอารมณ์หลากหลาย "แล้วตกลงมันเกิดอะไรขึ้นเหรอปอม?...หลายวันที่ปอมหลบหน้าพี่ไปน่ะ...?”

   เด็กหนุ่มก้มมองพื้น "...ไว้อาบน้ำเสร็จค่อยคุยกันนะครับ...ผมจะเล่าให้ฟังทั้งหมดเลย...”

   “โอเค...”

.
.

.


.

   น่าแปลกที่เมื่อศีรษะได้สัมผัสน้ำอุ่นๆจากฝักบัวแล้วก็ดูเหมือนว่าความจำจะเริ่มดีขึ้นมาไม่น้อย   แม้จะยังรู้สึกเหมือนเหตุการณ์บางช่วงที่สำคัญมากมันขาดตอนไป   แต่ภาพที่ค่อยๆผุดขึ้นมาตามลำดับและประกอบกับคำบอกเล่าจากจักรวาลแล้วก็ทำเอาเขาต้องยืนตบหน้าผากตัวเองอยู่ในห้องน้ำด้วยความหงุดหงิด   มันเป็นอะไรถึงต้องมาเมาแล้วกลายเป็นหมาเอาเมื่อคืนด้วย   ปกติเมาให้ตายยังไงเขาก็ไม่เคยทำอะไรบัดซบขนาดนี้มาก่อน...

   แต่ถ้าจะให้แก้ตัว...ก็คงเป็นเพราะเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจที่ได้รับมาก่อนหน้านั้นนั่นแหละ

   

   คิดแล้วก็อดรู้สึกเสียใจขึ้นมาอีกไม่ได้...

.
.

.


.

   “แล้วปอมเชื่อว่าพี่ทำอย่างนั้นจริงๆเหรอ?” ช่างภาพหนุ่มเอ่ยถามขึ้นทั้งที่ช้อนยังคาอยู่ในมือทันทีที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมดจากคนตรงหน้า   ใบหน้าถือไพ่เหนือกว่าของลูกชายนายแบงค์ที่พาตัวเองมาพูดจาไม่น่าฟังกับเขาถึงห้องทำงานเมื่อวันก่อนลอยขึ้นมาโดยอัตโนมัติ   รู้สึกเหมือนเส้นเลือดแถวๆขมับมันเต้นตุบๆด้วยความคับแค้น   ฟันกรามล่างและบนขบกันกรอดๆ

   คนถูกถามคนข้าวต้มในชามตรงหน้าไปมา   สีหน้าเจื่อนสนิท "เปล่าครับ...ไม่ได้เชื่อ...” และเมื่อเหลือบตาขึ้นมองแล้วพบกับแววตาผิดหวังของกวิน  เด็กหนุ่มก็ต้องรู้สึกโหวงๆในใจ   ความจริงก็พอจะเดาไว้อยู่แล้วว่าต้องโดนโกรธแน่ๆ  ก็จะให้ทำยังไงได้ในเมื่อเขามันโง่ซะขนาดนี้

   


   “ไม่เชื่อ...แล้วทำไมไม่มาคุยกับพี่ดีๆ"




   “ก็...กลัว...”



   
   "กลัวอะไร?" กวินจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่เรียวที่กำลังทอดมองลายไม้บนโต๊ะ   ไม่รู้ว่าจักรวาลคิดอะไรอยู่   รู้อย่างเดียวว่าพอได้ฟังเรื่องบ้าบอทั้งหมดที่เกิดขึ้น   แทนที่จะโกรธเกลียดเมษาเพียงคนเดียว   แต่เขากลับรู้สึกน้อยใจคนเล่าขึ้นมาเสียดื้อๆด้วย

   ไม่มีคำตอบหลุดออกมาจากปาก   มีเพียงการส่ายศีรษะเบาๆส่งกลับมาเท่านั้น

   เห็นอย่างนั้นกวินก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

   


   “ขอโทษครับ...” จักรวาลกล่าวเสียงอ่อย

   “แล้วตอนแรก...ปอมตั้งใจจะทำยังไง   จะปล่อยให้เราเลิกกันไปทั้งอย่างนั้นจริงๆเหรอ?” ถามออกมาทั้งที่แปลบๆอยู่ในใจ

   “ไม่ใช่อย่างนั้นครับ...” เด็กหนุ่มไม่รู้จะทำหน้ายังไงในสถานการณ์อย่างนี้   จึงได้แต่เสตามองนู่นมองนี่ไปเรื่อย  ยกเว้นอยู่อย่างเดียวที่ไม่ยอมมองคือใบหน้าคู่สนทนา "...ก็ไม่รู้จะทำยังไง"

   "อืม..." กวินหลุบตาลงต่ำ "...ช่างเถอะ"




   “...พี่วินโกรธหรือเปล่า?...”




   ใบหน้าหล่อเหลาส่ายเบาๆ  หัวคิ้วคมเข้มยังคงขมวดมุ่นแทบติดกัน

   ไม่ได้โกรธ...ก็ตอบตามตรง



   แต่ที่ไม่ได้พูดออกไปคือ...เขาน้อยใจน่ะสิ



   จะว่าเขาเป็นตาแก่หัวล้านก็ได้...แต่เจอแบบนี้   เป็นใครก็ต้องรู้สึกเหมือนกันนั่นแหละ

   


   “พี่วิน...”


   “หือ?”


   “โกรธใช่ไหมเนี่ย?"


   “ก็เปล่าไง...พี่ไม่โกรธหรอก...”


   “แล้วทำไมเงียบไป...”

   
   คนถูกถามส่ายศีรษะอีกครั้ง   ก่อนจะลุกขึ้นคว้าทั้งชามของตนและของอีกฝ่ายที่ทานหมดกันแล้วทั้งคู่ลุกจากโต๊ะไปล้างในห้องครัว    มีเพียงคำพูดน้ำเสียงเรียบส่งมาก่อนจะเดินพ้นบริเวณไป "พี่ไม่เป็นอะไรหรอก   อย่าคิดมาก"

   ทันทีที่ร่างสูงใหญ่นั่นเดินลับประตูห้องครัวไป   เด็กหนุ่มที่โต๊ะก็ได้แต่ยกมือขึ้นจิกทึ้งหัวสองสามที   เสร็จแล้วยังไม่วายก้มหัวลงโขกพื้นโต๊ะเบาๆเป็นการลงโทษตัวเองที่ดันตัดสินใจช้าจนทำให้กวินโกรธจนได้

.
.

.


.

   รอยยิ้มจางๆแต้มอยู่บนริมฝีปาก   อาการประทุษร้ายตัวเองของเจ้าหนูที่โต๊ะอาหารนั่นมองจากตรงนี้ก็น่ารักไม่หยอก...

   

   เอาน่า...อย่างน้อยๆจักรวาลก็คงไม่ได้มีเจตนาจะปล่อยให้เรื่องเลยเถิดจนออกมาเป็นแบบนี้

   ช่วงอายุและประสบการณ์ชีวิตของพวกเขาอาจจะต่างกัน   เขาเองในฐานะคนเป็นผู้ใหญ่กว่าก็ไม่ควรที่จะเอาอารมณ์มาตัดสิน   ต่อให้น้อยใจ...แต่ท่าทีของจักรวาลในตอนนี้ก็ใช่ว่าจะปล่อยปละละเลยเขาเสียเมื่อไหร่




   แต่ว่า...




   ไหนๆก็ไหนๆ...




   ขอลงโทษเจ้าเด็กคนนี้เสียหน่อยเถอะ...โทษฐานมาทำให้เขาหัวหมุนไปเป็นสัปดาห์...อย่างน้อยๆเหตุการณ์นี้จะได้พอมีประโยชน์อยู่บ้าง...ตรงที่มันจะกลายเป็นบทเรียนให้คนอ่อนประสบการณ์อย่างจักรวาลได้เรียนรู้...   



   แล้วอีกอย่างก็...ให้มันรู้กันซะบ้าง   ว่าไอ้กวินตัวใหญ่นิสัยห่ามคนนี้มันก็ขี้งอนเป็นเหมือนกัน...




   คิดถึงยังไม่ทันจบ   เจ้าตัวก็เดินคอตกเข้ามาหาในเขาที่หน้าซิงค์ล้างจานเสียแล้ว

   “ปอมล้างให้ครับ...พี่วินไปนั่งดูทีวีเถอะ...”

   “ไม่เป็นไรหรอก   พี่ทำเองได้" ชายหนุ่มจงใจกล่าวเสียงเรียบ "ไปนั่งรอเถอะ   ล้างเสร็จเดี๋ยวพี่พากลับไปส่งที่หอ"

   ได้ยินอย่างนั้นคนฟังก็ทำหูลู่หางตก "...ครับ...”




   อ้าว...เห้ย!




   ครับเสร็จแล้วเดินออกไปเฉยเลย...นึกว่าจะแบบ 'ปอมยังไม่อยากกลับ' หรือ 'ไม่เอาครับ   ถ้าพี่วินยังไม่หายโกรธ  ปอมก็ไม่ไป' อะไรอย่างนี้เสียอีก

   โธ่! ไม่ง้อกันเลย...

.
.

.


.

arunoki

  • บุคคลทั่วไป
เสร็จจากภารกิจในห้องครัว   กวินก็จำต้องเดินหน้านิ่งออกมาคว้ากุญแจรถ

   “ไปกันเถอะ...” พูดจบ   ชายหนุ่มก็ได้แต่ลอบมองปฏิกิริยาอีกฝ่ายที่คว้ารีโมทปิดโทรทัศน์แล้วลุกขึ้นจากโซฟาเงียบๆ

   และขณะที่เขาซึ่งใส่รองเท้ารอเรียบร้อยแล้วกำลังจะคว้าลูกบิดประตูห้องนั้น   ฝ่ามือเย็นๆของใครอีกคนก็มาคว้าต้นแขนเขาไว้เสียก่อน

   กวินก้มลงมองคนที่ส่งยิ้มแห้งๆมาให้เขา...



   “เอ่อ...เย็นๆค่อยกลับได้หรือเปล่า?...”

   “ทำไมล่ะ?”

   "ก็..." เด็กหนุ่มยกมือขึ้นเกาหัวทำหน้ายุ่ง "พี่วินยังไม่หายโกรธ...”

   “อ้าว...บอกแล้วนี่ว่าไม่ได้โกรธสักหน่อย...”

   “โกรธชัดๆเลยครับ   ทำหน้าอย่างนี้แถวบ้านผมเรียกว่าโกรธ"

   ช่างภาพหนุ่มจ้องตานิ่งสบกับอีกฝ่ายอยู่อย่างนั้นก่อนจะสั่นศีรษะเบาๆ "ไม่ได้โกรธคือไม่ได้โกรธ   ยืนยันได้ว่าไม่ได้โกรธจริงๆ...ทีนี้กลับได้หรือยัง   ยังข้องใจอะไรอีกหรือเปล่า?”

   “พี่วิน...” เด็กหนุ่มครางแผ่วเบา “ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน  จะรีบไล่กันไปไหน"

   


   “แล้วใครล่ะ   ไม่ยอมให้พี่เจอตั้งหลายวัน...”




   แทงใจดำ...




   “ไม่ได้เจอกันหลายวัน   แต่ปอมก็อยู่ได้แบบสบายๆไม่ใช่เหรอ?”




   “สบายที่ไหน...”




   “ก็ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นคงไม่หลบหน้าพี่ไปได้ตั้งนานหรอก" กวินกล่าวด้วยโทนเสียงที่ทำเอาคนฟังใจสั่นด้วยความหวั่นใจ



   “แต่ถ้าปอมมาหาพี่วิน   แล้วเกิดพี่เมษทำอย่างที่พูดจริงๆ...”




   ฟังถึงแค่ตรงนั้นกวินก็พูดแทรกขึ้นมา "ไม่ไว้ใจพี่เลยใช่ไหม?”




   จักรวาลที่กำลังคิดหาคำอธิบายกลับนิ่งชะงักไปเมื่อได้ยินประโยคที่ถูกส่งออกมา




   “เชื่อใจพี่บ้างหรือเปล่า?” ช่างภาพหนุ่มอาศัยจังหวะนี้กล่าวออกไปตามใจคิด "คงไม่หรอก...ใช่ไหม?   เพราะถ้าปอมเชื่อใจพี่จริง   เรื่องที่เราต้องห่างกันหลายวันคงไม่เกิดขึ้น...”




   “พี่วิน...”



   
   “ไม่รู้ว่าปอมรู้หรือเปล่า   ว่าตลอดระยะเวลาที่ปอมหลบหน้าพี่...สภาพพี่เป็นยังไงบ้าง" ฝ่ามือใหญ่คว้าจูงข้อมือคนตรงหน้าให้เดินตามกลับเข้าห้องนั่งเล่นมาขณะที่ปากก็พูดไปด้วย "ไม่เป็นอันกิน  ไม่เป็นอันนอน...มันอยู่แทบไม่ได้   ต้องคอยออกมาตามหาว่าปอมอยู่ไหน...”


   เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากเงยหน้ามองคนพูด


   “...เป็นเพราะอย่างนั้น   พี่ถึงรู้ดีว่าเวลาคนรักกันต้องอยู่ห่างกันมันยากขนาดไหน...แต่ดูเหมือนจะมีแค่พี่คนเดียวที่ตกอยู่ในสภาพนั้น   เพราะปอมยอมทิ้งพี่ไปง่ายๆแค่เพราะคำพูดของคนอื่น...ปอมไม่ได้ดิ้นรนอะไรเพื่อหาทางออกให้มัน...แค่นี้ก็พอบอกได้แล้วว่าความรู้สึกที่พี่มีให้ปอมกับที่ปอมมีให้พี่...มันต่างกันแค่ไหน..." แววตาตัดพ้อที่ถูกส่งออกไปขณะกำลังพูดระบายความรู้สึกเป็นของจริงที่ออกมาจากส่วนลึกของชายหนุ่ม   เขาหวังจริงๆ...ว่าคำพูดในครั้งนี้จะให้แง่คิดอะไรกับคนตรงหน้าได้บ้าง...แม้สักนิดก็ยังดี


   “ไม่ต่างกันหรอกครับ!” ครั้งนี้เด็กหนุ่มกล่าวออกมาชัดถ้อยชัดคำขณะกำข้อมือกวินไว้แน่น "ขอโทษจริงๆที่คิดช้า  ตัดสินใจช้า  แต่พี่วินอย่าเข้าใจผิดนะครับ...ปอมไม่เคยไม่ไว้ใจพี่วิน"


   “ถ้าไว้ใจกันจริงๆก็หนักแน่นหน่อยสิ" ช่างภาพหนุ่มดึงร่างคนข้างกายที่ดูจะหน้าเสียขึ้นเรื่อยๆเข้ามาหาตัว   อุ้งมือใหญ่ค่อยๆลูบผมปลอบแผ่วเบา   น้ำเสียงที่ส่งไปฟังดูมั่นคงและน่าเชื่อถือราวกับผู้ใหญ่สอนเด็กอยู่ในที "นี่เราเพิ่งจะคบกันได้ไม่นานเอง   ก็เจอปัญหาใหญ่แล้ว   ถ้าต่อไปมันมีเรื่องเลวร้ายกว่านี้ล่ะ   ถ้าเราไม่เชื่อใจกัน...ไม่คุยกันตรงๆ...พี่ไม่ต้องอกเดาะตายไปเลยหรือไง...หืม?..”


   “ขอโทษครับ...” เด็กหนุ่มเพิ่มแรงโอบรัดรอบลำตัวใหญ่หนาของอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกผิด "...ไม่มีแล้ว...จะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก...ปอมก็อยู่แทบไม่ได้เหมือนกัน...ไม่ได้สบายดีแบบที่พี่วินบอกเลย”


   ได้ยินดังนั้นคนฟังก็คลี่ยิ้มจางๆออกมาพลางหลับตาซึมซับความอุ่นซ่านจากคนในอ้อมกอดอย่างโล่งใจ






   คนทั้งคู่ยืนกอดกันอยู่อย่างนั้นนานเป็นนาทีโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา






   แต่...ยังเหมือนจะมีบางอย่าง...

   บางอย่างที่ติดอยู่ในใจช่างภาพหนุ่ม   

   ไม่ใช่เรื่องไม่ดี...

   ตรงกันข้าม...เป็นเรื่องที่พอนึกถึงแล้วก็ทำให้รู้สึกดีใจมากๆต่างหาก...

   เพียงแต่...เขานึกไม่ออกว่ามันคืออะไร...

   รู้อยู่อย่างเดียวว่า...มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนเขาจะหมดสติเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ไปเมื่อคืน...




   “นี่...”

   “ครับ?”

   “เมื่อคืน...” กวินเอ่ยถามออกมาแผ่วเบา "...ก่อนพี่หลับไป...มีอะไรดีๆเกิดขึ้นเหรอ?”

   คนถูกถามขมวดคิ้วลงน้อยๆด้วยความงุนงง "...อะไรดีๆ?”

   “อืม...มีใช่ไหม   เรื่องดีๆที่ทำให้พี่ดีใจ" พูดไปกวินก็พยายามจะนึกย้อนไปถึงความรู้สึกตอนนั้น "...จำได้แค่ว่าก่อนหลับ   พี่รู้สึกดีมากๆกับอะไรสักอย่าง   แต่นึกไม่ออกเลยว่าคืออะไร"

   ถึงตรงนี้   เด็กหนุ่มก็ร้องอ๋อในใจ




   แต่จะเข้าข้างตัวเองเกินไปไหม   ถ้าหากจะคิดว่า 'คำพูด' คำนั้นของเขาคือเรื่องดีมากๆสำหรับกวินน่ะ




   “ทำหน้าอย่างนี้แปลว่ามีจริงๆล่ะสิ...อะไรเหรอ?   บอกพี่หน่อย"

   




   “เอ่อ...ไม่แน่ใจว่าใช่เรื่องนี้ไหมนะครับ...” เป็นธรรมดาของคนไม่มั่นใจที่จะต้องออกตัวก่อนเสมอ "...แต่ถ้าเป็นตอนก่อนพี่จะหลับไป...ก็มีแค่เรื่องนี้"

   “อะไรล่ะ?”





   “ก็...เมื่อคืน   ปอมบอกพี่ว่า...”





   ไม่รู้ว่าจงใจแกล้งกัน   หรือเจ้าตัวเขินจนไม่กล้าพูดจริงๆ   แต่ระยะห่างของประโยคที่เว้นไว้ก็ทำเอาคนรอฟังต้องเร่งขึ้นมา



   “ว่าอะไร?...”




   “เอ่อ...ว่า...” เด็กหนุ่มไม่วายทิ้งเวลาเปล่าๆไปกับขบกัดลิ้นตัวเองเล่นแก้เขินไปอีกหลายวินาที   ก่อนในที่สุดจะสามารถรวบรวมความกล้ากล่าวออกมาจนได้








   “...รักพี่ิวิน...”







   และเพียงเท่านั้นช่างภาพคนดังก็ยิ้มกว้างออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

   ใช่แล้ว...เรื่องนี้นี่แหละที่เขาพูดถึง...




   “ฟังแล้วดีใจสุดๆจริงๆด้วย" บทสนทนาจบลงพร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาที่เคลื่อนเข้าไปใกล้เพื่อประทับตราลงไปยังริมฝีปากที่เอ่ยประโยคน่าฟังเมื่อครู่ออกมาอย่างอ่อนโยน




   เป็นสัญญาณว่าเรื่องดราม่ารบกวนหัวใจพวกเขาทั้งคู่ครั้งนี้มาถึงจุดสิ้นสุดเสียที....



๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



   แต่สำหรับคู่กรณีคนนี้...กวินยังยอมให้สิ้นสุดไม่ได้หรอก...

.
.

.


.

   เมษาเดินลูบหน้าลูบตาด้วยความเหนื่อยล้าจากการประชุมยาวนานหลายชั่วโมงกลับมายังห้องทำงานส่วนตัวของตน  หากแต่ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะไปถึงประตูห้อง   เลขาหน้ามนก็มายืนดักไว้ด้วยสีหน้าฉายแววลังเลเสียก่อน

   “มีอะไรหรือครับคุณดา" ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นน้ำเสียงสุภาพ

   หญิงสาวเหลือบมองไปทางประตูห้องอย่างลำบากใจ "คือ...เมื่อครู่มีแขกมาขอพบคุณเมษาน่ะค่ะ   แต่เขาบอกว่าไม่ได้นัดไว้   ดาก็เลยบอกให้เขาไปนั่งรอที่ห้องรับรอง...แต่เขาไม่ยอมไป...”

   “อ้าว...แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนล่ะ?”

   “เขาขอรอในห้องคุณเมษาค่ะ    ดาก็เลยให้เขาเข้าไปนั่งรอที่โซฟารับแขก   แต่ตอนที่ดาจะเอากาแฟเข้าไปเสิร์ฟอีกทีเขาก็ไม่ได้นั่งอยู่ที่เดิมแล้ว...แต่...”

   “แต่อะไรครับ?”

   “...เขาไปนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของคุณเมษาแทน...ดาพยายามห้ามแล้วนะคะ...แต่เขาไม่สนใจเลย"

   ได้ยินอย่างนั้นชายหนุ่มมาดเนี๊ยบก็ขมวดคิ้วลงน้อยๆ "แล้วเรียกยามหรือยัง"

   หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ "ดาไม่กล้าเรียกยาม  เพราะเขาบอกว่าเขาชื่อกวิน  จารุกิตติ์   ดาจำได้ว่าเป็นช่างภาพคนที่คุณเมษาเคยให้....”

   หากแต่ยังไม่ทันที่เลขาคนสวยจะทันกล่าวแก้ตัวจบ   ทันทีที่ได้ยินชื่อผู้มาเยือน   ชายหนุ่มเจ้าของห้องก็พุ่งตัวเข้าหาประตูบานที่ว่านั่นอย่างตื่นตระหนกเสียแล้ว





   แล้วก็เป็นดังที่ได้รับการรายงานมา



   กวิน  จารุกิตติ์...ช่างภาพคนดัง...กำลังนั่งกอดอกปั้นหน้ายิ้มอยู่บนเก้าอี้ประจำตำแหน่งของเขาจริงๆ



   “ประชุมเสร็จสักทีนะครับ...” นี่คือคำกล่าวทักทายที่ถูกส่งมาเป็นประโยคแรกจากคนๆนั้น

   “นี่คุณ!  นั่นมันโต๊ะทำงานส่วนตัวของผม   กรุณาลุกออกไปด้วยครับ" เมษาตรงปรี่เข้าไปยังโต๊ะตัวหรูของตนอย่างไม่พอใจ   ยังดีที่ได้รับการฝึกมาตั้งแต่เด็ก   ตบะจึงไม่แตกง่ายๆ

   ช่างภาพคนดังหัวเราะขึ้นจมูกเบาๆ   แต่ก็ยอมลุกขึ้นจากที่นั่งแต่โดยดี   โดยที่ในมือนั่นถือกระดาษเอสี่ปึกบางๆติดมือขึ้นมาด้วย

   เมษาเองที่สังเกตเห็นกระดาษเหล่านั้นก็รู้สึกชาวาบขึ้นมาตามลำตัวทันที "...นั่นคุณถือกระดาษอะไรอยู่ครับ   หวังว่าจะไม่ใช่เอกสารงานของผม..”

   ได้ยินอย่างนั้นคนถูกถามก็แย้มรอยยิ้มที่ไม่น่ามองที่สุดในสายตาเมษาออกมา   เอกสารในอุ้งมือใหญ่ถูกโบกไปมาอย่างท้าทาย   มองดูจากระยะที่เมษายืนอยู่แล้ว   ตัวเลขยุบยิบมากมายที่ปรากฏอยู่บนพื้นกระดาษขาวนั่นทำเอาเขาต้องยืนกัดฟันอย่างหวั่นใจ

   “กระดาษพวกนี้น่ะเหรอครับ...” กวินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงยียวนอย่างที่เมษาไม่เคยได้ยินมาก่อน "...ไม่แน่ใจว่าคืออะไร   แต่มันมีชื่อผม ชื่อบริษัทผม  แล้วก็ตัวเลขมั่วๆเขียนอยู่เต็มไปหมด...ผมดูแล้วก็งงๆครับ..."

   เมษาสาวเท้าเข้าไปใกล้หมายจะดึงเอกสารเหล่านั้นมาดู   หัวใจใต้แผ่นอกเต้นถี่ระรัว   เขามั่นใจว่าเขาทำลายเอกสารปลอมพวกนั้นทิ้งไปหมดแล้วนะ   คงไม่ใช่หรอกใช่ไหม...

   แต่กวินก็ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายเข้ามาถึงตัวได้ง่ายๆ  เพราะเขาเองก็ขยับตัวหนีเช่นกัน

   “ไม่รู้จะใช่เอกสารที่ปอมบอกว่าคุณเอาให้เขาดูหรือเปล่า...” ยิ่งเห็นท่าทีร้อนรนอย่างนั้นกวินก็ยิ่งพูดจายั่วโมโห

   “คุณกวิน!” เมษาตวาดเสียงดังลั่นอย่างลืมตัว

   “ปลอมแปลงเอกสารนี่โทษคืออะไรแล้วนะ   ผมไม่แน่ใจ...คุณพอจะรู้หรือเปล่า?"

   ร่างกายสะอาดสะอ้านภายใต้ชุดสูทเรียบหรูสั่นเทิ้มด้วยความโกรธเจือความกลัว "พูดอะไรของคุณ   เอาคืนมาเดี๋ยวนี้...ไม่อย่างนั้นผมจะเรียกตำรวจ"

   “หึ...กล้าเหรอครับ   จะเรียกมาจับตัวเองหรือไง?”

   



   “คุณกวิน!” เมษาตวาดขึ้นอย่างกราดเกรี้ยวด้วยเสียงดังกว่าเก่า   ได้ยินลอดประตูไปถึงเลขาสาวที่นั่งเฝ้าอยู่หน้าห้อง   หากแต่เจ้าหล่อนก็กลัวเกินกว่าจะเข้ามาห้ามทัพ




   
   “อย่ามาตะโกนใส่หน้ากู!" สรรพนามที่เปลี่ยนไปในประโยคมาพร้อมกับสีหน้าที่เปลี่ยนไปเช่นกัน "คิดว่ากูไม่รู้เหรอว่ามึงทำอะไรเหี้ยๆเอาไว้บ้างไอ้เมษา!"

   เอกสารในมือชุดเดิมถูกโบกไปมาอีกครั้ง "เอกสารพวกนี้กูเอาให้ตำรวจไปแล้ว   มึงเตรียมคำแก้ตัวเอาไว้ให้ดีเถอะว่าตัวเลขมั่วๆในบัญชีนี่มันมาได้ยังไง"

   “มึง...” เมษาหน้าซีดเผือดกับคำบอกเล่าที่ได้รับฟัง   เขาไปทำผิดพลาดที่ตรงไหน   เอกสารที่ทำไว้เพียงฉบับเดียวถึงไปตกอยู่ในมือคนตรงหน้าได้

   “ทำไม?  กูทำไม?” กวินกล่าวอย่างท้าทาย "ปลอมเอกสาร  ยัดเยียดข้อหาหนีภาษีให้กูแค่เพื่อจะให้กูกับปอมเลิกกัน   มึงมีศักดิ์ศรีหรือเปล่าวะ! หา!”

   “หุบปาก!”

   “มึงนั่นแหละหุบปาก!  มึงมันเห็นแก่ได้  ไอ้หน้าตัวเมีย   ทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งหลอกคนที่มึงแสดงออกว่ารักนักรักหนา   เลวจริงๆ   รักตัวเองสิไม่ว่า!”

   “เงียบนะ! เงียบ!” เมษาที่น็อตหลุดไปแล้วหลายตัวตะโกนขึ้นอย่างเดือดดาล "มึงจะไปรู้อะไร  ไอ้กวิน!  หน้าอย่างมึงจะไปรู้อะไร...มึงนั่นแหละที่รักตัวเอง   กูรักปอมมากี่ปี   กูเฝ้าดูแลเขามานานขนาดไหน   หน้าอย่างมึงเทียบไม่ติดหรอก...คนอย่างมึงมันก็แค่คิดจะเอาเขามาเป็นของตัวเองเท่านั้นแหละ"

   “หลอกเขา  ให้เขาต้องร้องไห้รอบแล้วรอบเล่านี่เหรอไม่เห็นแก่ตัว   การกระทำของมึงมันบัดซบยิ่งกว่าหมา!” กวินเองก็ตอบกลับไปด้วยเสียงที่ดังไม่แพ้กัน

   “เออ! จะให้กูทำยิ่งกว่านี้กูก็ยอมถ้ามันทำให้ชีวิตปอมดีขึ้น   ปลอมเอกสารแค่นี้เรื่องเล็กมาก   ให้กูทำอะไรที่มันเลวกว่านี้กูยังทำได้   เพื่อปอม!”






   -ติ๊ด-






   "ขอบคุณมากครับคุณเมษา" เสียงทุ้มต่ำลดดีกรีความรุนแรงลงชนิดที่เรียกว่าฮวบฮาบอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทำเอาคนที่กำลังเต้นเร่าๆอยู่ต้องชะงักไปด้วยความงงงวย

   สมาร์ทโฟนเครื่องบางถูกดึงขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อเชิ๊ตลายสก็อตของช่างภาพหนุ่มด้วยมือที่เหลืออีกข้างหนึ่ง   ก่อนที่เจ้าของเครื่องจะง่วนจัดการกดๆจิ้มๆมันอยู่สักพัก   ทิ้งให้เมษายืนค้างเติ่งอยู่อย่างนั้นโดยไม่ใส่ใจ



   “ทำอะไรของมึง...” ทายาทนายแบงค์ที่บัดนี้ฟิวส์ขาดเต็มขั้นเอ่ยถามขึ้นด้วยความหวาดระแวง



   “สักครู่ครับ   ขอผมส่งอีเมล์ก่อน"



   เมษาจับต้นชนปลายไม่ถูก   ได้แต่ยืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ตรงนั้นจนกระทั่งอีกฝ่ายทำธุระประหลาดกับมือถือเสร็จเรียบร้อย



   “เสร็จแล้วครับ   เหนื่อยไหมครับคุณเมษา" โทรศัพท์เคลื่อนที่ถูกหย่อนลงเก็บใส่ลงไปที่เดิม



   “อ..อะไร?”



   กวินไม่ใส่ใจกับท่าทีไม่เข้าใจของคนตรงหน้า   แต่กลับเดินตรงเข้ามาใกล้พร้อมกับเอกสารปึกเดิมภายในมือ "นี่ครับ   ผมคืนให้...กระดาษรีไซเคิลของคุณ"


   ได้ยินดังนั้นคนฟังก็ขมวดคิ้วฉับก่อนจะรีบคว้ากระดาษเหล่านั้นมาพลิกดูทันที


   จริงอยู่ว่ามีตัวเลขมากมายถูกพิมพ์อยู่บนกระดาษทุกแผ่น   หากแต่เพียงเขามาปราดเดียวก็รู้ได้ทันทีว่ามันคือเอกสารเหลือใช้จากปีก่อนๆที่ถูกเอามาทำเป็นกระดาษรีไซเคิลสำหรับใช้หน้าหลังที่ยังคงว่างเปล่าอยู่   และบัดนี้ด้านหลังของกระดาษในมือเขาแต่ละแผ่นนั้นก็เต็มไปด้วยรูปการ์ตูนปัญญาอ่อนที่ถูกวาดขึ้นด้วยลายเส้นปากกาลูกลื่นง่ายๆ

   “มานั่งรอคุณเป็นชั่วโมง   ไม่รู้จะทำอะไร   เลยยืมกระดาษมาวาดรูปเล่น   หวังว่าคงไม่ว่ากัน" กวินกล่าวอธิบายพร้อมรอยยิ้มเป็นต่อ

   “หึ้ย!” ทันทีที่รู้ตัวว่าเสียรู้คนตรงหน้าเข้าแล้ว   เมษาก็ปากระดาษเหล่านั้นทิ้งลงบนพื้นด้วยความโมโห   แผ่นกระดาษกระจัดกระจายกันไปคนละทิศละทาง   กวินหลอกให้เขาสารภาพออกมาจากปากตัวเองว่าปลอมเอกสาร   แล้วก็คงจะแอบใช้ไอ้โทรศัพท์เครื่องนั้นอัดเสียงเขาแน่ๆ

   “เป็นไง...เจ็บใจเหรอครับ?”

   “ไอ้...”

   


   “ไฟล์เสียงเมื่อกี้ผมแค่ส่งแบ็คอัพเข้าอีเมล์สำรองของตัวเอง   ยังไม่ได้ส่งให้ใคร" กวินเกริ่นขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สงบลง   ไร้แววยียวนกวนประสาทเมื่อครู่ "ความจริงแล้วผมกับคุณ  เราไม่มีอะไรต้องรักษาน้ำใจกัน   ถ้าเป็นปกติ   ผมคงจะส่งให้ตำรวจฟังแบบไม่ต้องลังเล...แต่ว่า...”

   เมษาตวัดสายตามองช่างภาพคนดังอย่างขุ่นเคือง

   “เพราะปอมเห็นคุณเป็นพี่ชายที่แสนดี   ผมเลยไม่อยากทำร้ายจิตใจเขาด้วยเรื่องนี้"




   จำได้ดีว่าตอนที่จักรวาลเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง   เด็กหนุ่มย้ำนักย้ำหนาว่าเมษาคงต้องเข้าใจอะไรสักอย่างผิด   ไม่ว่าจะในประโยคไหนกวินก็จับแววความรู้สึกปกป้องเจืออยู่ได้   อ่านออกไม่ยากว่าเจ้าหนูของเขายังคงปักใจเชื่อในความใจดีที่ได้รับจากไอ้พี่ชายที่แสนจะน่าเคารพคนนี้อยู่ตลอดเวลา   แม้จะมีเรื่องขุ่นข้องหมองใจเพียงใดก็ตาม



   ถ้าหากวันนึงต้องมารับรู้ว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันบัดซบยิ่งกว่าการเข้าใจผิดหลายเท่านัก...เด็กหนุ่มคงช้ำใจน่าดู...





   ...และเขาก็ทำอย่างนั้นไม่ลง...





   “แต่ผมอยากจะขอให้คุณเลิกคิดที่จะมายุ่งกับเรื่องระหว่างผมกับเขาซะ   ในฐานะที่ผมก็รักเขา   ผมดูออกว่าคุณเองก็รักเขามากเช่นเดียวกัน" กวินเอ่ยพลางจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่สนทนาอย่างแน่วแน่ "ถึงผมจะรู้จักกับเขามาไม่นานเท่าคุณ   แต่ผมมั่นใจว่าผมรักเขามากไม่แพ้คุณหรอก   จากนี้ไปผมสัญญาว่าจะดูแลเขาให้ดีที่สุด   คนที่คุณรักจะถูกปกป้องและดูแลได้ดีเท่าที่คุณต้องการแน่นอน   ผมรับประกันได้"


   เมษายืนนิ่งฟังด้วยแรงเต้นหนึบๆในอก


   “...แต่ถ้าคุณไม่ยอมเลิก   คุณคงรู้ดีว่าผมจะทำยังไงกับคลิปเสียงเมื่อกี้...” ช่างภาพหนุ่มยกมือขึ้นแตะบริเวณกระเป๋าเสื้อที่มีโทรศัพท์เครื่องเมื่อครู่ใส่อยู่ด้านใน "ซึ่งถ้าคุณรักปอมจริงๆ   และยังมีความเป็นมนุษย์อยู่   คุณคงทำไม่ลงถ้าได้ฟังว่าปอมเขาพูดถึงคุณให้ผมฟังว่ายังไงบ้าง"





   'ปอมรู้จักพี่เมษมานาน  พี่เมษไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอกครับพี่วิน   มันคงเป็นเรื่องเข้าใจผิดร้ายแรงอะไรสักอย่าง   คนที่เอาแต่ช่วยคนอื่นตลอดเวลาแบบนั้นไม่มีทางทำเรื่องเลวๆหรอก   พี่เมษเคยบอกว่าเขาเอ็นดูปอมเหมือนน้องแท้ๆมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม   มีอะไรก็คอยช่วย   ชีวิตปอมดีขึ้นได้ส่วนหนึ่งก็เพราะพี่เมษ  เป็นคนที่มีบุญคุณอันดับต้นๆ   พี่ชายปอมไม่มีทางทำร้ายจิตใจกันแบบนี้แน่นอน'




   “เขาเรียกคุณว่าพี่ชายได้แบบสนิทใจ   จนผมเองยังแอบอิจฉาความสนิทสนมและความเคารพที่เขามีให้คุณ   ดังนั้นขอร้องล่ะครับ   อย่าไปทำลายมันทิ้งเลย"



   เมษาทอดสายตามองพื้นอย่างเหม่อลอย   คำพูดของเด็กหนุ่มที่ถูกถ่ายทอดโดยช่างภาพคนดังเมื่อครู่ยังคงวนเวียนอยู่ในสมอง   เขาได้ทรยศความไว้เนื้อเชื่อใจที่สั่งสมมานานไปแล้ว    ไม่ได้แปลกใจอะไรที่ได้ยินแบบนั้น...เขารู้ดีอยู่แก่ใจตลอดมาว่าจักรวาลเคารพและไว้ใจเขามากแค่ไหน   แต่หลายวันที่ผ่านมา...ทำไมเขาถึงลืมมันไปจนหมด   

   จริงอย่างที่กวินว่า...หากจักรวาลรู้ความจริงเบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้   สถานะที่เขาจะได้คงเหลือแค่ตำแหน่งศิษย์เก่าโรงเรียนเดียวกันเท่านั้น...



   “เอาล่ะครับ   ก่อนผมจะกลับ   ผมขอทำอะไรสักอย่าง...คือไหนๆผมก็ไม่เอาเรื่องคุณแล้ว...” กวินกล่าวขึ้นเปลี่ยนเรื่อง "...ผมขอทำอะไรเอาคืนคุณสักหน่อยแล้วกันนะ..."





   -ผัวะ!-



   “นี่สำหรับที่คุณทำกับผมแล้วก็บริษัท"





   -ผัวะ!-





   “นี่สำหรับที่คุณทำให้ผมไม่ได้เจอปอมไปหลายวัน"





   -ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!-





   “แล้วนี่ก็สำหรับที่คุณทรยศปอม" หลายหมัดที่ถูกส่งไป   ไม่ถูกหลบเลี่ยงเลยแม้แต่ครั้งเดียว   ราวกับคนผิดยอมโดนลงโทษแต่โดยดี "เสร็จธุระของผมแล้ว...ลาก่อนครับ"




   พูดจบกวินก็หันหลังก้าวฉับๆออกจากห้องไปโดยไม่มีการหันกลับมาสนใจอีกเลย





   เลขาสาวเมื่อเห็นแขกผู้มาเยือนเดินออกมาด้วยสีหน้าถมึงทึง   เจ้าหล่อนก็รีบปราดเข้าไปดูในห้องก่อนจะต้องหวีดร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อเห็นสภาพยับเยินของเจ้านายตัวเอง


   “ตายแล้วคุณเมษา   ไปโรงพยาบาลกันนะคะ   เดี๋ยวดาให้คนขับรถเอารถออกเดี๋ยวนี้แหละ" และก่อนที่หญิงสาวจะวิ่งออกไปคว้าโทรศัพท์   เธอก็หันกลับมาถามอีกครั้งหนึ่ง "ให้ดาเรียกตำรวจด้วยไหมคะ?”

   ชายหนุ่มส่ายใบหน้าเบาๆ...





   ถ้าเรียกมา...คนที่ถูกจับคงไม่ใช่เจ้าช่างภาพนั่นหรอก...




   น่าจะเป็นเขาเองมากกว่า...





TBC.

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
ว๊ายยยยย  มาแว้ววว  ขอจิ้มก่อนอ่านแล้วกัน  :z13:

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
พี่เมษ อย่ายอมแพ้ง่าย ๆ สิ !!!!
>งงตัวเอง เชียร์ ใครหว่า
ต่อไปโหมดหวีดหวาน :)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ piggie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
กรี๊ด!!!!!! คิดถึงมากค่า และแล้วก็เข้าใจกันได้ซะที อิอิอิ

ตอนหน้าขอเซอร์วิสตอนหวานๆหน่อยนะคะ ^^

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
ว้า...............ตายน้ำตื้นอ่ะพี่เมษ

ออฟไลน์ naneku

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
รอเรื่องนี้มานานมากกก

ในที่สุดดดดดด พี่วินนนนนนน :กอด1:

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
อิอร๊าง ง ง  โมเม้นพี่วินหลังจากเมาตื่นมาจำอะไรไม่ได้ โมเอ้มากกก

จำไม่ได้หรา~~ ว่าเป็นคนทำน้องปอม

แถมมีน้อยอกน้อยใจ ทำเป็นเล่นตัว ให้น้องเค้าง้อหรา~~

หมดสักที มาม่าชามโต ยังไงก็เอาของหวานมาเสริฟด่วนเลยนะคะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
มาต่อแล้ว โหดเกินนะวิน
รอจ้ารอ

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4
มาแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


รักปอมที่สุดดดดดดดดดดดดด

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
คนเขียนกลับมาแล้ววววววว
พี่วินน้องปอมเข้าใจกันแล้ว
รออ่านตอนหวานๆ
สมน้ำหน้าไอ้เมษจริงๆ
+1 นะคะ

ออฟไลน์ ToeyTato

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ รอกันยาาวนานแต่คุ้มค่าที่รอนะค่ะ คลี่คลาายแว้วววว ต่อไปขอหวานๆเลยนะจ๊ะ

ออฟไลน์ lomekung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1


กว่าจะคลี่คลายได้

 :L2: :L2:

doramon

  • บุคคลทั่วไป
 มาต่อแล้วววววววววววว
:z13:

น่ารักอ่าาาาาาา พี่วิน น้องปอม
แกไอ้เมษา :z6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด