หัวใจหลังเลนส์ #ตอนจบ และ บทส่งท้าย หน้า 133
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หัวใจหลังเลนส์ #ตอนจบ และ บทส่งท้าย หน้า 133  (อ่าน 1378001 ครั้ง)

ออฟไลน์ littlesmall

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
.. เจ๋งอีกแล้วพี่วิน  o13
ในที่สุดก็ได้ใจท่านแม่มาแล้ว
เหลือเรื่องระยะทางอย่างเดียว
แต่พี่วินหนักแน่นดั่งหินผา
ไม่วอกแวกชัวร์ น้องปอมสบายใจได้ :m1:


ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
เยสสสสส  ผ่านด่านคุณแม่แล้ว  :mc4:
แถมยังได้สวีทกันเล็กๆน้อยๆเปลี่ยนบรรยากาศด้วย
ต่อไปก็คงรักกันได้แบบอุ่นใจไร้กังวลแล้วเนอะ

ออฟไลน์ McKnight

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
คุณแม่ปอม เริ่มเปิดใจและยอมรับพี่วินแล้ว ดีจังเลยครับ
ยินดีกับพี่วินน้องปอมนะครับ ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายรับรู้แล้ว รักกันนานๆนะ

เดี๋ยวปอมต้องไปอยู่ไกลแสนไกลตั้งหนึ่งปี นึกว่าพี่วินจะตามไปดูแลน้องที่นู่นซะอีก
แต่เอาน่า ส่งความคิดถึงไปบ่อยๆตลอดทั้งปี ก็ OK ล่ะนะ




ขอบคุณนะครับน้องแป้ง
เห็นลงตอนนี้ตั้งแต่วันเสาร์แล้ว แต่ต้องตัดใจรีบเคลียร์งานให้เสร็จก่อน
ตอนนี้หยุดยาวจนปีใหม่เลย ได้มาอ่านตอนสมองว่างๆนี่มีความสุขมากกก..
ปีใหม่น้องแป้งไปเที่ยวไหนรึเปล่าครับ ยังไงก็ขอให้สนุกกับทุกๆวันนะครับ

Merry Chrismas & happy new year 2013 ครับผม


[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ polla_x

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ตอนหน้าก็จบแล้วเหรออออออออออออออออออ ม่ายน๊า

เค้าอยากอ่านชีวิตหลังจากน้องปอมเรียนจบ ตอนที่น้องปอมทำงาน และใช้ชีวิิตอยู่ด้วยกันอ่ะว่าจะเป็นไง

ขอเป็นตอนพิเศษก็ได้ค่า

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
 :-[คนอ่านมีความสุขมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

snice_cz

  • บุคคลทั่วไป
โอ่ย ไม่ไหวแล้วอ่า อ่านแล้วยิ้มเลย

ส่วนตอนพิเศษ กรี๊ดดดมากเลย อยากอ่านอีกอ่า เมษ อาร์ท !!!

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

kapukluk

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนนี้แล้วดีใจกับเมษอ่ะ
ต้องแบบนี้แหละ ต้องเป็นคนที่จับต้องได้
ได้พาเมษกระเทาะเปลือกออกสู่โลกภายนอก
ได้แสดงตัวตนและความรู้สึกจริงๆ ที่ไม่ใช่หน้ากาก
อยากให้ได้สานต่อกันแบบจริงจังไปเลย ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว
คนอย่างอาร์ทนี่แหละเหมาะกับเมษที่สุดแล้ว  :กอด1:

sheep.tk

  • บุคคลทั่วไป
มาปูเสื่อนอนรอตอนต่อไปค่ะ
 :impress2:

อากาศใต้ผ้าห่ม

  • บุคคลทั่วไป
อร๊ายยยยยย  :-[ แม่ไฟเขียวทั้งสองฝ่ายแล้ว

ดีใจปานกับว่าเป็นตัวเอง :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






K3n0

  • บุคคลทั่วไป
มันซึ้ง มันตื้นตันไปหมดเลยยยยยย

น่ารักจุงเบย -3-

ออฟไลน์ yakkaru

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เรื่องนี้มีเพื่อนแนะนำให้อ่านค่ะ ขอแปะเม้นท์ไว้ก่อนแล้วจะมาอ่านนะคะ

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
ตามทันแล้วววว :z3: ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกก!! อ่านๆไปเดี๋ยวยิ้ม
เดี๋ยวหัวเราะเดี๋ยวร้องไห้! ครบรสจริงเรื่องนี้ :laugh: :laugh:
อยากได้ตอนพิเศษเมษากันอาทิตย์อีกก :z2:

ออฟไลน์ มือซ้าย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ดีปีใหม่ น้องปอมคับ มาเถอะ  :z3:

arunoki

  • บุคคลทั่วไป
จบแล้ว!
ตอนแรกกะเอาไว้ว่าอีกประมาณสองตอนคงจบ   แต่พอลงมือเขียนจริงๆปริมาณมันรวบมาอยู่ในตอนเดียวได้เลย  ก็เลยจบเลย 555

มาถึงตอนสุดท้ายแล้ว  แป้งอยากจะขอขอบคุณทุกท่านจากใจจริงที่ตามอ่านกันมาจนถึงตอนนี้
จริงๆแล้วเมื่อก่อนแป้งเคยเขียนนิยายมาบ้างประปราย   แต่ก็ห่างหายไปนานพอสมควร  จะมีก็เขียนเล่นๆสองตอนเลิกอะไรแบบนี้
ดังนั้นเรื่องหัวใจหลังเลนส์นี้เป็นเหมือนผลงานชิ้นแรกที่เขียนตอนโตแล้ว  ซึ่งจากการเขียนเรื่องนี้แป้งได้เรียนรู้อะไรไปเยอะมากๆ
ได้ทั้งเคาะสนิมปากกาที่ร้างรามานาน  ได้ทั้งพัฒนาในแง่ของภาษา เนื้อเรื่อง แนวคิด ทุกๆอย่าง  เทียบกับนักเขียนท่านอื่นๆแล้ว  ผลงานชิ้นนี้ก็ยังคงด้อยกว่าในแทบทุกด้าน  แต่ถ้าหากเทียบกับตัวเอง   แป้งรู้สึกได้ว่ามันเปลี่ยนไป
ข้อบ่งพร่อง  สิ่งที่ต้องแก้ไขทุกประการล้วนเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับตัวแป้งเองที่จะเอาไปปรับใช้ในอนาคต
ทั้งหมดนี้ส่วนหลักก็เป็นเพราะคำวิจารณ์จากท่านผู้อ่านทุกๆท่าน  แป้งต้องขอขอบคุณจากใจจริงค่ะ
สิ่งที่ได้เรียนรู้ไปในครั้งนี้  แป้งจะเอาไปปรับใช้กับนิยายเรื่องต่อๆไปที่จะเขียน  ไม่ว่าจะเป็นนิยายแนวไหนก็ตาม 
และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคงจะได้รับโอกาสดีๆจากท่านผู้อ่านอีกสักครั้งหากมีเรื่องใหม่ 

ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้เกียรติติดตาม 'หัวใจหลังเลนส์' จากใจจริงค่ะ
Arunoki


เอาล่ะ  ทีนี้มาถึงเรื่องรวมเล่ม
ขออนุญาตแจ้งไว้ก่อนว่าแป้งมีแพลนจะรวมเล่มกับสำนักพิมพ์ Oskar ค่ะ
ตอนต่อของ 'เดือนเมษา วันอาทิตย์' ก็รอติดตามได้ในรวมเล่มได้เลย (ส่วนนี้ขออนุญาตลงเฉพาะในรวมเล่มนะคะ)

รายละเอียดต่างๆเช่นเรื่องการจอง ราคา และอื่นๆอีกมากมายจะแจ้งให้ทราบที่เพจของสำนักพิมพ์ 
นี่เลยค่ะ http://www.facebook.com/Oskarpublishing?fref=ts
หรือ twitter ส่วนตัวของแป้ง https://twitter.com/Arunoki1990

ยังไงฝากท่านที่สนใจติดตามกันด้วยนะคะ

ขอบพระคุณอีกครั้ง


ปล.ขอฝากนิยายเรื่องใหม่ที่ตั้งใจจะเอามาลงไว้ก่อนล่วงหน้าเลยนะคะ  เรื่องนี้มีชื่อว่า 'วงแหวนดาวเสาร์'


รักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ




หัวใจหลังเลนส์
#38


   “ไปอยู่นู่นก็อย่าใจแตกนะไอ้หอยหลอด" อ้นกล่าวด้วยน้ำเสียงยียวนขณะที่ฝ่ามือหยาบกร้านของตนก็ยกขึ้นขยี้หัวเพื่อนรักด้วยความหมั่นเขี้ยว "พวกกูคิดถึงมึงตายเลย...”

   “กลับมากูก็เป็นรุ่นพี่มึงแล้ว   มึงต้องเรียกกูว่าพี่เม้งแล้วล่ะไอ้เตี้ย"

   “โชคดีนะไอ้ปอม...หาสาวฝรั่งมาให้กูสักคนด้วยล่ะ"

   จักรวาลที่ยืนทำคอตกอยู่กลางสนามบินสุวรรณภูมิยิ้มรับคำร่ำลาจากบรรดาเพื่อนสนิทด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยวลงไปกว่าเดิม   บอร์ดดิ้งพาสที่อยู่ในมือถูกกำด้วยแรงที่มากขึ้นเล็กน้อย   เด็กหนุ่มกวาดตามองคนรอบข้างตาละห้อย "พวกมึงเก็บเลคเชอร์ไว้ให้กูด้วยนะเว่ย   ปีหน้ากลับมากูจะได้ไม่ต้องจดเอง...”

   “เอออออออออ...ไอ้ขี้เกียจ" อ้นตอบกลับพลางลูบหลังลูบหัวไอ้คนที่ทำท่าจะงอแงขึ้นมาอีกแล้ว "อย่าทำหน้าเหี่ยวอย่างนั้นสิ   กลัวอะไร๊..ถ้ามึงฟังฝรั่งพูดไม่รู้เรื่องก็นึกถึงหน้ากูไว้..เดี๋ยวฟังออกเอง   ศักดิ์สิทธิ์นะจะบอกให้"

   แทนที่จะขำตามคนอื่นๆจักรวาลกลับทำเพียงถอนหายใจออกมาเบาๆ...

   ไอ้เรื่องกลัวคุยกับฝรั่งไม่รู้เรื่องมันก็เรื่องนึง   แต่จริงๆแล้วมันยังมีอีกประเด็นที่ทำให้เขายิ่่งใจฝ่อเมื่อวันที่จะต้องจากกรุงเทพฯไปมันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ...

   “ตั้งใจทำงานนะปอม...” เสียงทุ้มต่ำที่กล่าวขึ้นบ้างหลังจากบรรดาเด็กหนุ่มนักศึกษาค่อยๆหลีกทางให้อย่างรู้งานเรียกให้คนที่กำลังจะบินเดี่ยวต้องเงยหน้ามองด้วยอาการหางลู่หูตูบ "ไปถึงพอสนุกกับการทำงานเมื่อไหร่เดี๋ยวก็หายเหงาเองแหละ...แค่ปีเดียว...ไม่นานหรอก"

   เออ...รู้ว่าไม่นาน

   แต่ก็ไม่ใช่วันสองวันนะเห้ย!

   นี่พี่วินของเขาจะดูชิลล์เกินไปไหมเนี่ย!

   “อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ   ยิ้มหน่อยเร็วๆ" ช่างภาพคนดังยกมือสองข้างขึ้นยืดแก้มคนรักของตนด้วยแรงไม่มากนัก   ก่อนจะต้องหัวเราะออกมาเสียงดังเมื่อเด็กหนุ่มแลบลิ้นออกมาใส่เขา

   “ร่าเริงจังเลยนะพี่วิน" เด็กหนุ่มขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพลางกล่าวออกมาเสียงเข้ม   

   ประโยคที่ได้ฟังเรียกเสียงหัวเราะได้จากกวินได้อีกระลอก "อะไรเนี่ย...เหวี่ยงจังนะวันนี้...ตั้งแต่บนรถแล้ว...งอนพี่เรื่องอะไร?"

   เด็กหนุ่มส่ายศีรษะก่อนจะปรับโหมดตัวเองกลับสู่เด็กไหล่ห่ออีกครั้ง

   “เอาน่า...อย่าคิดมากเลย   ทำใจให้สบาย...แล้วถ้าไปถึง  มีอะไรค่อยโทรหาพี่...” กวินกล่าวน้ำเสียงอ่อนโยนพลางยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู "ใกล้จะได้เวลาแล้ว...ปอมรีบเข้าไปเถอะ   เดี๋ยวไม่ทัน"
   
   อะไรว้า...

   จักรวาลได้แต่เงยหน้าขึ้นมองคนพูดตาละห้อย "ต้องเข้าไปแล้วจริงๆเหรอ...?”

   “ก็ใช่น่ะสิ   ตกเครื่องพี่ไม่รู้ด้วยนะ"

   “เฮ้อ...” เด็กหนุ่มถอนหายใจแผ่วเบา   ก่อนจำต้องกระชับสายสะพายกระเป๋าให้เข้าที่เข้าทางแล้วหันไปโบกมือลาเพื่อนๆที่ยืนรออยู่ห่างออกไปเล็กน้อย "กูไปก่อนนะพวกมึง..."

   พูดเพียงเท่านั้นคนที่เหลือก็วิ่งเข้ามากอดเด็กหนุ่มกันอีกหนึ่งทีด้วยสีหน้าห่อเหี่ยวไม่แพ้กัน

   จบคิวของเพื่อน...ก็เหลือแค่แฟน...

   “พี่วิน...” จักรวาลเอ่ยเรียกชื่ออีกฝ่ายขึ้นเสียงเบา   นี่ถ้าไม่ติดว่าคนเยอะนะ...แม่งน้ำตาแตกไปแล้ว...

   คนเป็นเจ้าของชื่อยิ้มออกมาจางๆ ก่อนจะดึงตัวคนตรงหน้าเข้ามากอดเสียแน่นจนหัวกลมๆนั่นจมลงไปในอก "...รักปอมนะ...” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยแผ่วเบาที่ข้างหูพอให้ได้ยินกันสองคน

   เด็กหนุ่มกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก   ก่อนจะตอบกลับไปเสียงอู้อี้ "...รักพี่วิน...”

   ความจริงแล้ว...ลึกๆก็อยากจะทำมากกว่าแค่กอด...

   แต่อยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ คงจะไม่งามสักเท่าไหร่...

   สุดท้ายจักรวาลจึงได้แต่ต้องผละตัวเองออกเมื่อสมควรแก่เวลาแล้วเท่านั้น

   เมื่อร่ำลากันเสร็จในที่สุด...เด็กหนุ่มก็ยกมือขึ้นโบกให้คนทั้งหมดเป็นครั้งสุดท้าย...หากแต่เดินไปยังไม่ถึงครึ่งทางก็ต้องเดินวกกลับมาเสียก่อน...

   วกกลับมาเพื่อพูดประโยคๆเดียวที่เพิ่งคิดขึ้นมาได้...

   กวินเลิกคิ้วใส่คนที่เดินเข้ามาเขย่งตัวทำท่าจะกระซิบอะไรใส่หูเขางงๆ   ก่อนจะต้องเผยรอยยิ้มกว้างพร้อมเสียงหัวเราะดังลั่นสนามบินขึ้นในวินาทีถัดมา

   ก็เจ้าหนูของเขาน่ะสิ...เดินกลับมาเพื่อบอกกับเขาว่า...

   'อย่าไปมีคนอื่นนะ!'




๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



   “อืม...เยี่ยมมากๆที่สามารถถ่ายช็อตนี้มาได้" เสียงแหบแห้งของชายชราพูดขึ้นขณะจ้องอยู่ที่รูปถ่ายหลายใบในมือ  ซึ่งผู้ที่เป็นคนถ่ายพวกมันก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยสีหน้าดีใจ

   “ขอบคุณครับ   จริงๆช็อตนี้ผมก็เกือบพลาดแล้ว   ดีที่กดชัตเตอร์ไว้ทัน" ภาษาอังกฤษสำเนียงกระท่อนกระแท่นถูกสื่อสารออกไปด้วยเสียงที่ดูจะมั่นใจขึ้นกว่าวันแรกๆที่มาถึงอยู่ไม่น้อย "นอกจากรูปพวกนี้   ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ผมเพิ่งถ่ายไปเมื่อเช้าครับ   เดี๋ยววันนี้จะรีบเอากลับไปทำรายละเอียดต่อในคอมฯ  คิดว่าพรุ่งนี้เย็นๆน่าจะเสร็จ"

   ชายชราพยักหน้าน้อยๆพร้อมรอยยิ้ม "โอเค  พรุ่งนี้ตอนเย็นผมจะอยู่ที่สตูดิโอสอง   คุณเอามาให้ผมดูที่นั่นก็แล้วกัน"

   “ครับผม...ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับไปทำรูปก่อนนะครับ"

   “เชิญเลยๆ  สำหรับวันนี้ขอบคุณมาก" ศจ.เทย์เลอร์กล่าวอย่างใจดี "อ้อ...พรุ่งนี้รบกวนคุณเอาฟิล์มของมิสเอลเลนติดมาด้วยได้ไหม   อยากจะเอาไปสอนพวกเด็กๆในคลาสสักหน่อยน่ะ"

   “ได้เลยครับโปรเฟสเซอร์" เด็กหนุ่มตอบกลับก่อนจะกล่าวคำลาอีกครั้งหนึ่งแล้วหมุนตัวเดินออกมา

   สองขาขยับเดินโต๋เต๋ไปตามริมฟุตบาทยามโพล้เพล้ที่ยังคงเต็มไปด้วยผู้คน   นิวยอร์กเป็นเมืองที่มีประชากรหลากหลายเชื้อชาติอยู่รวมกัน   ชาวเอเชียก็มีอยู่มากมาย   ดังนั้นเขาเองก็เริ่มจะกลมกลืนกับที่นี่ได้ไม่ยากเหมือนที่คิดไว้ก่อนหน้านี้

   ระยะเวลาสามสี่อาทิตย์ที่เด็กหนุ่มจากกรุงเทพฯมาจัดเป็นช่วงเวลาที่เขาได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะมากมาย   สิ่งแรกที่เห็นชัดๆเลยคือเรื่องการสื่อสาร   แน่นอนว่าสำนงสำเนียงอะไรมันก็ยังไม่ได้ดีขึ้นเท่าไหร่หรอก   แต่ว่าเขารู้สึกมั่นใจที่จะพูดมากขึ้น...

   ส่วนเรื่องที่สองคือการทำงาน...ซึ่งสนุกมาก   สนุกอย่างที่กวินเคยบอกไว้จริงๆ    เหมือนได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ให้ตัวเอง   เด็กหนุ่มได้เห็นการทำงานในแบบที่ไม่เคยเห็นมากมาย   ความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติน่าสนใจหลายแขนงถูกถ่ายทอดจากศจ.เทย์เลอร์มาเรื่อยๆ ซึ่งเขาเชื่อว่ายังมีอีกเยอะให้เขาได้เก็บเกี่ยวในช่วงต่อจากนี้

   แต่หากจะมีอะไรสักเรื่องที่กวินพูดผิดล่ะก็...เขาคงตอบได้ทันทีว่า...เขาไม่เห็นจะลืมเหงาตรงไหนเลย

   ทุกเย็นที่กลับมาถึงห้องพัก   เขาก็ต้องมานั่งคิดถึงบ้านทุกทีนั่นแหละ

   ต่อให้งานจะยุ่ง  จะสนุกอย่างไร...แต่สุดท้ายเมื่อกลับมานั่งอยู่เพียงลำพังเขาก็ต้องเผลอตัวคิดฟุ้งซ่านถึงใครคันนั้นทุกครั้งไป

   บางที...อาจเป็นเพราะท่าทีไม่เป็นเดือดเป็นร้อนของพี่วินของเขาในช่วงก่อนจากมาก็ได้ที่ทำให้รู้สึกอย่างนี้อยู่เรื่อยๆ

   ไม่รู้จะคิดถึงเขาบ้างไหม...




๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐




   “ขอไฟเพิ่มตรงนี้ตัวนึงสิ!" เสียงทุ้มต่ำตะโกนสั่งลูกน้องในสตูดิโออย่างคล่องแคล่วก่อนจะก้มหน้าก้มตาลงปรับตั้งค่าบนจอแอลซีดีหลังกล้อง 

   บรรยากาศรอบตัวช่างภาพคนดังเป็นไปอย่างมีชีวิตชีวาเหมือนเช่นทุกครั้ง...ไร้วี่แว่วผิดปกติใดๆที่ลูกน้องหลายๆคนคาดว่าจะได้เห็นเลยแม้แต่น้อย

.
.

.

   “เห้ย...ไอ้เต้...” อาร์ทยกมือขึ้นสะกิดเพื่อนร่วมงานที่ยืนแทะมะม่วงอยู่ข้างกันยิกๆ   สายตาจับจ้องไปยังคนเป็นเจ้านายที่ยืนง่วนอยู่กับการทำงานในจุดที่ห่างออกไป "ทำไมพี่วินแม่งดูไม่เหี่ยวไม่เฉาเลยวะ?”

   คนถูกถามหันมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ "เหี่ยวเฉาเหี้ยอะไรของมึง   พี่วินมึงเป็นผักชีหรือไง?”

   “มึงสิผักชี!...ไม่ใช่อย่างนั้นเว้ย   กูหมายถึงว่า...เฮียแกดูแฮปปี้เกินไปไหมอ่ะ? น้องปอมแม่งไปเป็นปีเลยไม่ใช่เหรอวะ    เป็นกูแม่งต้องมีแซดกันบ้างแหละ"

   ได้ยินดังนั้น   คนที่เพิ่งจะเข้าใจประเด็นของเพื่อนก็ยกนิ้วชี้ขึ้นโบกเบาๆตรงหน้าพลางทำสีหน้ากรุ้มกริ่ม "หึๆ   ไอ้อาร์ท...มึงมันไม่รู้อะไร...”

   “เหี้ย...อย่ามาทำอมพะนำ   บอกกูมาเลย   อย่ารู้อยู่คนเดียว!”

   เต้ยังคงส่งเสียงขำเจ้าเล่ห์ในลำคอ   จนในที่สุดเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทำท่าจะยกตีนขึ้นถีบตนนั่นแหละ   ถึงได้เอ่ยต่อ

   “พี่วินแกมีเป้าหมายลับๆอยู่ในใจเว้ย...รู้จักกันดีขนาดนี้มึงยังดูไม่ออกอีกเหรอ?   ไอ้ง่าว!” ท่อนแขนอวบๆป้อมๆของคนพูดยกขึ้นตบกะโหลกไอ้เพื่อนช่างสอดรู้สอดเห็นที่ยืนอยู่ข้างๆไปหนึ่งที "แฟนแม่งไปอยู่ไกลหูไกลตา...เป็นมึง  มึงจะทำอะไรล่ะ"

   กราฟฟิคดีไซเนอร์รูปงามนิ่งคิดตามที่เต้พูดไปครู่   ก่อนจะต้องทำตาเหลือกขึ้นในวินาทีถัดมา "เห้ย! อย่าบอกนะเว่ยว่า...เชี่ย...ไม่จริงน่า" ภาพสาวสวยหลายคนที่เคยตามตื๊อเสนอตัวให้เจ้านายเขาเมื่อก่อนพากันดาหน้าเข้ามาในความคิด    จินตนาการลามกอันกว้างไกลพาให้ชายหนุ่มนึกภาพออกมาได้เป็นฉากๆ

   ก็สิ่งที่ผู้ชายจะทำเวลาแฟนเผลอ...มันจะไปมีเรื่องอะไรได้อีกวะ...นอกจากเรื่องแบบนี้

   หากแต่คำตอบไม่ได้ถูกให้ความกระจ่างออกมาตรงๆ  มีเพียงรอยยิ้มกรุ้มกริ่มจากเต้  และคำแนะนำสั้นๆประโยคเดียวเพียงเท่านั้น

   “ถ้าอยากรู้...มึงก็ลองไปดูตารางงานปีนี้ของเฮียแกแล้วกัน..."



๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



   ใบหน้าหล่อเหลาซุกไซร้ลงบนซอกคอขาวเนียนของหญิงสาวตรงหน้าด้วยความมัวเมา   นานแล้วที่เขาไม่มีโอกาสได้ทำอย่างนี้เพราะมีเด็กหนุ่มอยู่ข้างกาย

   ...เป็นเพราะจักรวาลยังเด็กเกินไปสำหรับเรื่องแบบนี้...

   ...และเขาเองก็ไม่มีความอดทนมากพอที่จะมานั่งอดอยากปากแห้งเพื่อรอให้วันนั้นมาถึง...

   “วินคะ...” ซุ่มเสียงหวานเอ่ยอย่างเย้ายวนที่ข้างหูช่างภาพคนดัง   กลีบปากอวบอิ่มสีสดแย้มรอยยิ้มน่ามอง "ทำแบบนี้แฟนวินจะไม่ว่าเอาเหรอ? เจนนี่ไม่อยากรังแกเด็ก" แม้จะพูดออกมาอย่างนั้น   แต่ทว่าทั้งสีหน้าและท่าทางของเจ้าหล่อนกลับตรงกันข้าม

   “ไม่หรอก...คุณอย่าคิดมาก   ผมไม่ถือว่านอกใจ...ผมแค่นอกกายเท่านั้นเอง" คนถูกถามผละหน้าออกมาจากซอกคอหอมกรุ่นนั่นเพื่อตอบคำถาม   น้ำเสียงทุ้มต่ำฟังดูไม่ยี่หระ

   หญิงสาวหัวเราะคิกคักกับคำตอบที่ได้ฟัง "โอเคค่ะ   งั้นอยากจะนอกกายอีกเมื่อไหร่ก็โทรหาเจนนี่ได้ตลอดนะ   ยินดีรับใช้เสมอ...”

   กวินไม่ได้สนใจกับคำพูดของหญิงสาวตรงหน้ามากนัก   สัมผัสจากฝ่ามือของเขาที่ลูบไล้ไปตามผิวกายนุ่มหยุ่นตรงหน้าอย่างหื่นกระหายต่างหากที่เป็นจุดโฟกัส ณ ขณะนี้   

   “โชคดีจริงๆที่ปอมไม่อยู่ตั้งปีนึง   ไม่งั้นผมคงได้แห้งตาย" ช่างภาพหนุ่มกล่าวเบาๆด้วยความไร้สติ    สายตาคู่คมยังคงไม่ละออกจากส่วนเว้าส่วนโค้งบนเรือนร่างหญิงสาว

   “...คิดไม่ผิดเลยที่ผมส่งเขาไป...”

.
.

.

   “พี่วิน!  ไม่เอา...อย่าทำ!” น้ำเสียงตื่นตระหนกดังขึ้นท่ามกลางความเงียบแผ่วเบา   เหงื่อกาฬไหลอาบทั่วใบหน้า "...หยุดสิ!”

   เด็กหนุ่มพลิกตัวกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงทั้งที่ยังคงหลับตาแน่น   คิ้วทั้งสองข้างขมวดตัวเข้าหากันจนแทบจะเป็นปม

   ภาพที่เห็นอยู่ในหัวดำเนินไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงฉากที่หากเป็นละครแล้วล่ะก็   กล้องก็คงต้องแพนไปที่โคมไฟตามระเบียบแน่ๆ...   

   ในที่สุดเด็กหนุ่มก็สะดุ้งขึ้นสุดตัว   แล้วลืมตาตื่นขึ้นจากฝัน...

   “เชี่ย...” จักรวาลสบถขึ้นเบากับตัวเองทันทีที่ได้สติ   

   ก้อนเนื้อในอกเต้นแรงเสียจนรู้สึกได้...

   สิ่งที่เห็นในฝันเมื่อสักครู่ชัดเจนมากเกินไป   ทั้งภาพทั้งเสียง...สมจริงยิ่งกว่าหนังสี่มิติ...

   เด็กหนุ่มยังคงนอนตะแคงหายใจหอบขณะพยายามเรียกสติให้กลับเข้าหัว   นึกปลอบตัวเองอยู่ในใจว่าช่วงนี้เขาคงจะทำงานเยอะแล้วเหนื่อยมากไปจนฝันเพ้อเจ้อเท่านั้นเอง...

   หากแต่...เมื่อกำลังจะข่มตานอนอีกครั้งนั้นเอง...

   จักรวาลก็เพิ่งรู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่พาดอยู่บริเวณเอวเขาไว้   ตามมาด้วยการรับรู้ถึงวัตถุชิ้นใหญ่ที่ทาบทับอยู่ทางด้านหลัง   และเมื่อขยับมือลงไปคลำดูแถวๆเอวนั้นก็พบว่ามันคือแขนคน...

   เพียงเท่านั้นเด็กหนุ่มก็ต้องรีบหันกลับไปมองตาเหลือกด้วยความตกใจแทบสิ้นสติ

   ก่อนจะพบกับใบหน้าหล่อเหลาที่คุ้นเคยนอนลืมตายิ้มแฉ่งส่งมาให้เขาในความมืด

   อะไรวะ?...ฝันซ้อนฝัน?...

   “ตกลงนี่กูยังไม่ตื่นเหรอเนี่ย...” เด็กหนุ่มพึมพำกับตัวเองด้วยความมึนงง   สองมือป่ายปะไปตามร่างที่กอดเขาไว้...

   ...เออ...มันเหมือนของจริงนะ...

   “ห...ห...เห้ย!”

   เด็กหนุ่มร้องเสียงดังลั่นห้องที่เงียบสงัดแห่งนี้ทันทีที่ตระหนักได้ว่าเขาตื่นแล้วจริงๆ...ไม่ใช่ฝันซ้อนฝันอย่างที่คิดเมื่อครู่   ก่อนจะรีบผุดลุกผุดนั่งกระเถิบไปด้านหลังเพื่อมองใครอีกคนที่อยู่บนเตียงด้วยกันชัดๆจนต้องตกเตียงไปด้วยความซุ่มซ่าม

   เพียงเท่านั้นคนที่นอนยิ้มอยู่ก็จะต้องรีบยันตัวขึ้นบ้าง "ระวังหน่อยสิ!  เดี๋ยวก็ได้เลือดตกยางออกเอาตอนกลางดึกกันพอดี" แขนแกร่งเอื้อมมาฉุดคนรักที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบหนึ่งเดือนเต็มๆให้กลับขึ้นมานั่งบนเตียง

   “...พ...พี่วิน...” เด็กหนุ่มอุทานเสียงเบาหวิว   ในหัวยังคงมึนงงและสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนที่ยังไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ "...ม...มาได้ไงอ่ะ?”

   คนเพิ่งตื่นหันซ้ายหันขวาสำรวจไปทั่วห้องเพื่อเป็นการย้ำกับตัวเองอีกครั้งว่านี่เขายังอยู่ที่ห้องในนิวยอร์ก...ไม่ใช่กรุงเทพฯ

   ...โผล่มาจากไหนล่ะเนี่ย...พี่วิน?...

.
.

.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-01-2013 19:22:43 โดย arunoki »

arunoki

  • บุคคลทั่วไป
-ย้อนกลับไปเมื่อสองชั่วโมงก่อน-

   ประตูห้องพักห้องที่คุ้นเคยซึ่งเขาใช้มันเป็นที่อยู่อาศัยเมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษาถูกไขกุญแจเปิดออกอย่างเบามือ...

   โชคไม่ดีที่เขาหาเทีี่ยวบินเหมาะๆไม่ได้   กว่าจะมาถึงที่นี่ก็ปาเข้าไปตีหนึ่งกว่า...ไม่ต้องสงสัยว่าเด็กหนุ่มที่ทำงานมาเหนื่อยๆคงจะหลับไปแล้ว

   ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา   กวินตั้งหน้าตั้งตานับวันรอที่จะให้วันนี้มาถึง...

   ...แน่นอนว่าเขาวางแผนแกล้งเด็กมาด้วย...คิดมาตั้งนานแล้วล่ะ...

   ทุกครั้งที่โทรมาหา   กวินไม่เคยพูดอะไรถึงตารางงานที่เปลี่ยนไปของตัวเองให้เด็กหนุ่มฟังเลยสักครั้ง   เวลาได้ฟังอีกฝ่ายบ่นอ้อมแอ้มว่าคิดถึงมันรู้สึกดี... 

   หลังจากได้อ่านเมล์ฉบับแรกที่ศจ.เทย์เลอร์ส่งมาเมื่อหลายเดือนก่อนและรู้ตัวว่าอย่างไรก็จะส่งเด็กหนุ่มมาอยู่ที่นี่   เขาก็เริ่มประกาศเปิดรับงานจากอเมริกาทันที    ปกติแล้วหากไม่ใช่งานใหญ่อย่างนิทรรศการที่คอนเทมป์ฯอาร์ทแกลเลอรี่แบบเมื่อคราวก่อน   เขาก็มักจะปฏิเสธงานที่ได้รับการติดต่อมาอยู่เสมอ   ดังนั้นทันทีที่เขาประกาศออกไปแบบนั้น...งานมากมายจากที่นี่ก็หลั่งไหลเข้ามาแบบไม่ขาดสาย   

   ตอนนี้...หากเปิดดูตารางงาน   ก็จะพบว่าในทุกเดือนเขามีคิวงานที่จะต้องมาถ่ายที่นี่อย่างน้อยหนึ่งงาน   แน่นอนว่าอย่างไรเขาก็คงเหลวไหลทิิ้งบริษัทมาตลอดไม่ได้   แต่หากบินมาชั่วครั้งชั่วคราว...ถึงจะเหนื่อยอยู่บ้าง   แต่ถ้าได้เจอกับจักรวาลก็ถือว่าคุ้มค่าที่สุด

   ด้วยชื่อเสียงในวงการ...และโอกาสไม่มากที่เขาจะยอมรับงานนอกประเทศแบบนี้   ทำให้เอเจนซี่แต่ละเจ้าที่จ้างเขามา   เสนอให้ทั้งที่พักระดับเจ็ดดาว   ตั๋วเครื่องบินเฟิร์สคลาส   และอาหารเลิศรสในภัตตาคาร   แต่สิ่งเดียวที่เขาขอรับมาก็คือตั๋วเครื่องบินเท่านั้น

   ...เนื่องจากเขามีที่พักที่น่าอยู่กว่าโรงแรมหรูๆ   และอาหารที่อร่อยกว่าฝีมือเชฟชื่อดังรออยู่ในห้องนี้แล้ว...

   ซึ่งคนที่ทำให้มันเป็นแบบนั้น   บัดนี้กำลังนอนหลับอุตุอยู่บนเตียงตรงหน้านี้เอง

   กวินค่อยๆย่องเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มที่เขาคิดถึงสุดใจ   ก่อนจะย่อตัวลงยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มซ้ายแก้มขวานั่นให้หายคิดถึง   โชคทีที่ก่อนมาเขาเพิ่งโกนหนวด   ไม่อย่างนั้นหอมลงไปแบบนี้มีหวังคนหลับอยู่ได้ตื่นขึ้นมาเพราะโดนตอหนวดเขาจิ้มแน่ๆ  ฝ่ามือใหญ่เอื้อมมาปาดน้ำลายให้คนนอนน้ำลายยืดตรงหน้าด้วยเสียงหัวเราะแผ่วเบา

   ช่างภาพคนดังนิ่งมองภาพใบหน้ายามหลับที่น่ามองนั่นอยู่พักใหญ่ให้สมกับที่ทนคิดถึงมาเกือบเดือน    จนในที่สุดเมื่อเห็นว่าเขาชักจะค้างอยู่ท่านั้นนานเกินไปแล้วจึงลุกขึ้นไปเปิดกระเป๋าเดินทาง   คว้าชุดนอนและผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไป

   ใช้เวลาเพียงไม่นาน   กวินก็ออกจากห้องน้ำมาในสภาพอยู่ในชุดนอนเรี่ยมเร้

   ชายหนุ่มขำน้อยๆกับตัวเองขณะที่ค่อยๆสอดตัวลงไปใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับคนที่หลับสนิทไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง   ก่อนจะวางหัวลงบนหมอนที่อีกฝ่ายหนุนอยู่พลางพาดท่อนแขนของตนไปที่เอวตรงหน้า...

   รับรอง...พรุ่งนี้เช้าถ้าตื่นมาในสภาพนี้   จักรวาลมีหวังตกใจหาทางไปทำงานไม่ถูกแน่...


.
.

.

   เด็กหนุ่มยังคงมีแววตื่นตระหนกหลงเหลือให้เห็นอยู่บนใบหน้า   การปรากฏกายแบบพิลึกพิลั่นของคนรักทำให้เขาทำอะไรไม่ถูก

   กวินหัวเราะออกมาเสียงดังกับท่าทีน่าขำของเด็กหนุ่ม   นี่แหละ...สิ่งที่เขาคาดหวังไว้   แม้จะผิดเวลาไปหน่อย...แต่ก็สำเร็จ!

   “เห้ย! ใช่เวลามาขำไหมพี่วิน...อธิบายมาเลย   งงจะตายแล้วเนี่ย" จักรวาลขยับตัวเขาไปบีบๆจับๆตามเนื้อตัวของอีกฝ่ายอีกครั้งราวกับยังแอบคิดอยู่ว่าหรือตัวเองจะยังไม่ตื่นจริงๆ "ทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะครับ?...”

   “คิดถึงเด็กแถวนี้” คำตอบสั้นๆง่ายที่ถูกกล่าวออกมาตามที่ใจคิด   ก่อนที่แขนทั้งสองข้างจะเอื้อมมาดึงตัวคนที่นั่งงงอยู่ตรงหน้าให้เข้ามาชิดอกตนเอง "แต่ไม่รู้เขาจะคิดถึงพี่หรือเปล่า...”

   แม้จะยังมึนๆอยู่แต่เมื่อได้ยินอย่างนั้นจักรวาลก็พยักหน้าขึ้นลง "คิดถึงสิ...ทุกวันเลย...”

   คนฟังโฉบหน้าลงไปประทับจูบที่แก้มเด็กหนุ่มอีกครั้ง

   “แต่เดี๋ยวสิ...แล้วตกลงพี่มาได้ยังไง?”

   ช่างภาพคนดังยิ้มน้อยๆออกมาท่ามกลางความมืด "ก็มาทำงาน   อีกสามวันก็กลับแล้ว...”

   คำตอบที่ได้รับทำให้เด็กหนุ่มจำต้องผงกหัวรับด้วยสีหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย   แต่ในอีกไม่กี่วินาทีถัดมา   รอยยิ้มกว้างก็ต้องปรากฏขึ้นบนใบหน้าอีกครั้งเมื่อคนที่กอดเขาอยู่กล่าวต่อ

   “แต่เดี๋ยวเดือนหน้าก็มาอีก   รับงานฝรั่งไว้เรียบร้อยจนถึงวันที่ปอมจะกลับนั่นแหละ   หลังจากนี้พี่จะมาหาทุกเดือนเลยนะ...” กวินกล่าวยิ้มๆพลางสังเกตปฏิกิริยาดีอกดีใจของเด็กหนุ่มผ่านความมืด "...ดีไหม?”

   “ดี!” จักรวาลตอบเสียงดังฟังชัดแบบไม่ต้องคิด   ก้อนเนื้อในอกพองตัวขึ้นเหมือนมีใครมาเป่าลมใส่

   ปล่อยให้เขาคิดมากมาเป็นเดือน...ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง...

   “แล้วเมื่อกี้ฝันอะไรอยู่..หืม?   ละเมอเรียกชื่อพี่ซะเสียงดัง" ความจริงกวินหลับไปได้สักพักแล้ว   แต่เมื่อครู่...อาการกระสับกระส่ายของเด็กหนุ่มปลุกเขาให้ต้องตื่นขึ้นมาดูด้วยความตกอกตกใจ   นึกว่าไม่สบายเป็นอะไร   แต่เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มเพียงแค่ละเมอเขาจึงค่อยเบาใจลง

   เมื่อถูกถามถึงความฝันสยิวกิ้ว...เด็กหนุ่มก็ต้องทำหน้าเหยเกขึ้นมา    แล้วเงยขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่กวินก็ไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่

   “ฝันว่าพี่วินมีกิ๊ก...”

   และเพียงเท่านั้นคนฟังก็ต้องขำออกมาอีกระลอก  ก่อนจะถามขึ้นด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ "แล้วกิ๊กพี่สวยไหมล่ะ?”

   “อ้าวเห้ย...ถามอย่างนี้หมายความว่าไง?”

   “ล้อเล่นน่า  ล้อเล่น" ช่างภาพคนดังตอบอย่างร่าเริงพลางกระชับอ้อมกอดให้แน่นเข้าไปอีก   ก่อนจะไปทิ้งศีรษะให้คางเกยอยู่กับไหล่คนตรงหน้าแล้วเอ่ยคำหวานใส่หูให้อีกฝ่ายได้ฟังให้แน่ใจ

   “รักมากขนาดนี้...พี่จะไปหาคนอื่นอีกทำไมเล่า...”



๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



   “กลับมาแล้ว!” เสียงทุ้มต่ำที่ดังขึ้นจากบริเวณหน้าประตูเรียกให้คนที่เพิ่งจะกลับมานอนพาดตัวอยู่บนโซฟากลางห้องต้องหันไปมองด้วยรอยยิ้มจางๆบนใบหน้า "กลับมานานหรือยังปอม?”

   เด็กหนุ่มยังคงนอนทิ้งร่างอยู่ท่าเดิมพลางส่ายหน้าน้อยๆ "เพิ่งกลับมาตะกี้นี้เอง" และระหว่างที่เอ่ยปากตอบออกไปนั้น   สายตาก็พลันเหลือบไปเห็นถุงใส่ของสดถุงโตที่อยู่ในมือของอีกฝ่าย "โห...ซื้ออะไรมาเยอะแยะเลยพี่วิน?”

   หากแต่คำตอบที่ได้รับมีเพียงการยักคิ้วใส่และน้ำเสียงน่าสงสัยที่กล่าวกลับมาเท่านั้น

   “นอนรอตรงนั้นไปก่อน...เดี๋ยวรู้เอง..."

   พูดจบกวินก็พาตัวเองหายเข้าไปในห้องครัวทันที...

.
.

.

   เสียงโครมครามที่ดังขึ้นเป็นระยะเริ่มทำเอาคนที่นอนพักเหนื่อยอยู่บนโซฟาเริ่มจะนอนไม่ติดที่   ต้องคอยผงกหัวขึ้นมามองทุกครั้ง...

   จนในที่สุดเด็กหนุ่มก็ทนไม่ไหวต้องขอขัดคำสั่งโดยการลุกเข้าไปดูในครัว   ก่อนจะต้องอุทานขึ้นเบาๆ

   “เห้ย!”

   สภาพที่เห็นตรงหน้าบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ากิจกรรมที่เกิดขึ้นในห้องนี้ดูท่าทางจะไม่ราบรื่นเท่าไหร่...

   “อ้าวปอม! เข้ามาทำไม...บอกให้นอนรออยู่ตรงนั้นไง" ช่างภาพคนดังที่ดูจะง่วนอยู่หน้าเตาฝรั่งรีบพูดขึ้นเมื่อเห็นเด็กหนุ่มโผล่เข้ามาในบริเวณ

   เสียแผนหมด...

   “ได้ยินเสียงโครมคราม   ก็กลัวจะเป็นอะไรนี่นา" เด็กหนุ่มกล่าวขึ้นขณะขยับตัวเข้าไปมองในหม้อตรงหน้าคนรัก   น้ำสีแดงๆส้มๆที่คล้ายว่าจะเป็นแกงอะไรสักอย่างนอนนิ่งอยู่ในนั้น   เนื้อไก่ที่ลอยอยู่ในหม้อยังแดงเจ๋ไม่มีวี่แววว่าจะสุกเลยสักนิด   และเมื่อหันไปมองที่ข้างๆเตาก็พบปลาตัวหนึ่งนอนอยู่บนเขียงในสภาพไม่สวยงามสักเท่าไหร่ 

   จักรวาลหันหน้ากลับมามองคนข้างกายด้วยสายตาสงสัย

   เมื่อถูกมองอย่างนั้น   กวินก็ได้แต่เสตาไปมองอย่างอื่นด้วยความรู้สึกเสียฟอร์ม

   กล่องเครื่องแกงสำเร็จรูปที่พกติดตัวมาจากกรุงเทพฯถูกวางแอ้งแม้งอยู่หลายกล่องแถวๆนั้น   กวินตั้งใจมาจากบ้านว่าจะมาทำอาหารไทยเซอร์ไพรซ์คนที่จะต้องอยู่ที่นี่ไปอีกยาวเสียหน่อย   แต่วิธีทำที่อุตส่าห์ไปขอมาจากแม่ก็ดันไม่สัมฤทธิ์ผลเท่าที่ควร

   “พี่วินจะทำอาหารไทยเหรอ?” เด็กหนุ่มเอ่ยถามขึ้นยิ้มๆเมื่อเห็นสีหน้าเจื่อนๆจากคนรัก   ไม่บ่อยนักที่เขาจะได้เห็นมุมแบบนี้จากกวิน

   เมื่อถูกถามออกมาแบบนั้น   ในที่สุดกวินก็ต้องพยักหน้าแต่โดยดี   ทีแรกกะจะแต่งจานสวยๆ   แล้วเอาอาหารหอมกรุ่นน่าตาน่าทานออกไปเซอร์ไพรซ์ที่โต๊ะอาหารทีเดียวเลย   แต่สภาพเละตุ้มเป๊ะแบบนี้คงไม่ได้ทำแล้วล่ะ "อืม...ก็คิดว่าปอมคงคิดถึงอาหารไทย...แต่พี่ทำไม่เป็น...ขอโทษนะ...”

   เพียงเท่านั้นคนฟังก็ยิ้มออกมากว้างๆ "ไม่เห็นต้องขอโทษเลย   ขอบคุณนะพี่วิน...”

   “อืม...” ชายหนุ่มทอดสายตาลงมองแกงที่ดูจะกินไม่ได้ในหม้อด้วยความรู้สึกเสียดาย

   เห็นดังนั้นเด็กหนุ่มก็ออกแรงดันคนข้างกายให้ตรงไปยังห้องนั่งเล่นแทน

   “ปอมช่วยดีกว่า   พี่วินอุตส่าห์มาหาถึงนี่   ปอมควรจะเป็นคนทำต้อนรับมากกว่าสิ" จักรวาลเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าเจื่อนๆจากอีกฝ่าย "พี่วินไปนั่งดูทีวีรอเถอะ   เดี๋ยวมือนี้ปอมจัดการให้เอง"

   สุดท้ายกวินจึงต้องจำสลับตำแหน่งกับเด็กหนุ่มโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ...

.
.

.

   กลิ่นหอมฉุยที่โชยออกมาทำเอาคนที่ถูกบอกให้ออกมานั่งดูทีวีต้องโผล่หน้าเข้าไปในห้องครัวอีกครั้ง

   อาหารมากมายที่เขาทำทิ้งไว้ในสภาพน่าเกลียดเมื่อครู่ถูกกอบกู้กลับคืนมาจนดูหน้าตาน่าทานราวกับเป็นคนละหม้อ   เมนูอื่นๆที่ทำเสร็จแล้ววางพักไว้ไม่ใกล้ไม่ไกลให้เขาได้เดินเข้าไปเชยชม

   “โอ้โห  เห็นแล้วพี่อายจนอยากจะมุดดินกลับไทยเลย" ชายหนุ่มกล่าวขึ้นขณะก้มลงมองปลาทอดในจานตรงหน้า   ก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปสวมกอดคนที่ยืนจัดการกับอาหารอยู่หน้าเตาจากทางด้านหลัง "เก่งจังนะที่รัก...”

   ได้ยินคำสรรพนามแบบนั้นก็ทำเอาเด็กหนุ่มเผลอตัวหยิบจับเครื่องปรุงมั่วซั่วไปพักหนึ่งเลยทีเดียว

   “กลับไปเมืองไทยเมื่อไหร่   ย้ายไปอยู่คอนโดพี่ด้วยกันเลยได้ไหม...พี่จะได้มีอาหารอร่อยๆกินอย่างนี้ทุกวัน" ช่างภาพคนดังกล่าวเสียงอ่อน "เดี๋ยวจะไปขอแม่ปอมที่ภูเก็ตเอาไว้ก่อนเลย"

   “โธ่...เอาไปเป็นคนใช้นี่หว่า"

   ได้ยินดังนั้นคนฟังก็ต้องหัวเราะออกมา "ไม่ใช่คนใช้หรอก...แต่อยากให้พี่พูดออกมาจริงๆเหรอว่าจะเอาไปเป็นอะไร?” ช่างภาพคนดังกล่าวน้ำเสียงเจ้าเล่ห์   

   จักรวาลหันมองคนพูดแวบหนึ่ง   ด้วยความไม่ทันคิดจึงโพล่งถามออกไปด้วยความสงสัย "แล้วเอาไปเป็นอะไรล่ะ?”

   เข้าทางกวิน...เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นที่ข้างหูพร้อมด้วยลมแผ่วๆที่เป่าออกมาพาให้เด็กหนุ่มขนลุกไปไม่น้อย

   “ก็เป็นเมี...”

   “เห้ยๆๆๆ!  ไม่ๆๆๆ  ห้ามพูดๆๆๆ" ทันทีที่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยคำว่าอะไรออกมาเด็กหนุ่มก็รีบวางเครื่องครัวลงแล้วหันมายกมือเบรกทันที   ที่สองข้างแก้มขึ้นสีแดงฉ่า "เราอยู่ด้วยกันแบบไม่ต้องมีตำแหน่งไม่ได้หรือไง   อย่ามากำหนดสิ...ไม่ใช่ผู้หญิงกับผู้ชายสักหน่อย   โธ่...."

   กวินยกมือขึ้นขยี้หัวเด็กในอ้อมแขนพลางขำออกมาอย่างร่าเริง

   เด็กหนุ่มไม่วายบ่นออกมาอีกระลอก "ขืนแม่มาได้ยินมีหวังเสียใจตาย   มีลูกชายแต่โดนเอามาทำเมีย"

   จบประโยคช่างภาพคนดังก็สวนขึ้นมาทันที "อ้าวๆๆ   ไหนบอกห้ามพูดคำนั้นไง   แล้วพูดออกมาเองทำไม  ฮ่าๆๆๆ"

   และเมื่อรู้ตัวว่าตนได้พลั้งปากออกไปเสียแล้วจักรวาลจึงได้แต่อมลมอมอากาศหันกลับไปสนใจกับอาหารในหม้อต่อ   ฟันบนฟันล่างเสียดสีกันดังกรอดๆด้วยความเจ็บใจให้กวินได้ยินแว่วๆ

   “เอาน่าพ่อหนุ่มน้อย   จะเรียกว่าเป็นอะไรก็ช่างเถอะ...นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ" กวินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง   ก่อนจะกระชับกอดคนที่กำลังฟึดฟัดอยู่ให้แน่นขึ้นเข้าไปอีก "แต่...กลับมาเมื่อไหร่ย้ายมาอยู่ด้วยกันเถอะนะ...”

   คำชวนอ่อนโยนที่ได้รับ...ทำให้คนฟังรู้สึกอุ่นวาบขึ้นมาในหัวใจ

   สีหน้ามู่ทู่ค่อยๆถูกลบเลือนไป   เพื่อแทนที่ด้วยรอยยิ้มมีความสุขที่มาจากข้างใน

   “มาอยู่กับพี่ตลอดไปเลยได้ไหม?...นะ?...” 

   “พี่วิน...” เด็กหนุ่มเรียกชื่อคนรักแผ่วเบาด้วยหัวใจที่เต้นระรัวขึ้นมาอีกครั้ง   

   คำว่า 'ตลอดไป' ฟังดูมีความหมายมากเหลือเกิน   มันเป็นเหมือนเครื่องยืนยันที่กวินมอบให้กับเขาว่า

   ...เขาจะเป็นคนสุดท้าย...

   ...คนที่กวินตัดสินใจเลือกแล้ว...

   “ว่าไง?...แต่ถ้าไม่แน่ใจ   ยังไม่ต้องตอบตอนนี้ก็ได้...ไปลองคิดดูดีๆ   พี่ให้เวลา...”

   “ตกลงครับ...อยู่ด้วยกันนะ...”

   คำตอบที่เด็กหนุ่มโพล่งออกมาเรียกให้คนฟังต้องยิ้มรับกว้างๆก่อนจะฝังหน้าลงไปกับซอกคอขาวเนียน

   แว่วเสียงอู้อี้ดังเข้าหูคนที่ยืนทำอาหารอยู่...

   “เดี๋ยวระหว่างนี้   พี่จะแวะมาซ้อมใช้ชีวิตคู่ที่นี่ทุกเดือนนะ สุดที่รัก"




TBC.

arunoki

  • บุคคลทั่วไป
หัวใจหลังเลนส์
# Epilogue



   นิทรรศการแสดงภาพถ่ายเชิงศิลป์ของช่างภาพหน้าใหม่ที่กำลังเป็นที่จับตามองในวงการถูกจัดขึ้นอย่างเป็นทางการที่หอศิลป์ชื่อดังใจกลางเมืองกรุงฯเป็นวันแรก   ศิลปินผู้ผลิตผลงานในแขนงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่ง  ภาพยนตร์  หรือภาพเขียนซึ่งถูกเชิญให้มาร่วมงานเปิดในวันนี้ต่างก็เดินดื่มด่ำกับผลงานที่ถูกจัดแสดงไว้ทั่วงานกันอย่างเพลิดเพลิน

   จักรวาล   ธีทัต...

   ชื่อซึ่งเริ่มจะเป็นที่กล่าวถึงพักหลังมานี้...เป็นราวกับแม่เหล็กดึงดูดให้ใครต่อใครในวงการพากันสนอกสนใจ   ได้ยินกันมาหนาหูว่าด้วยฝีมือที่ไม่ธรรมดาและจุดยืนในคอนเซ็ปที่แข็งแกร่งทำให้ภาพถ่ายของเขาดูโดดเด่นยิ่งกว่าช่างภาพรุ่นจูเนียร์คนไหนๆ   เรียกได้เต็มปากว่าเป็นคลื่นลูกใหม่ที่มาเร็วและแรงที่สุด...

.
.

.

   รายการที่นำเสนอข่าวเกี่ยวกับวงการศิลปะในโทรทัศน์กำลังนำภาพบรรยากาศภายในงานที่ถูกจัดขึ้นเมื่อวานมาให้ผู้ชมได้เห็นพร้อมกับคำบรรยายประกอบ   ผลงานหลากหลายชิ้นอันเป็นความภาคภูมิใจของคนที่บรรจงถ่ายและปรับแต่งมันอย่างประณีตเองกับมือถูกฉายขึ้นบนหน้าจอ

   โดยที่เจ้าตัวเองก็กำลังนั่งดูอยู่พวกมันอยู่ด้วยใบหน้าที่เรียกว่ายิ้มเสียจนแก้มแทบแตก...

   สัมผัสอบอุ่นจากฝ่ามือใหญ่ที่วางแปะลงบนศีรษะของเขาเรียกให้จักรวาลต้องหันไปมองพร้อมรอยยิ้มที่ยังคงค้างอยู่อย่างนั้น   ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่าคงยังตื่นเต้นไม่หาย "จับไว้ที   ปอมจะลอยแล้วพี่วิน!”

   กวินหัวเราะเบาๆกับสิ่งที่ได้ฟังพลางดึงตัวคนรักเข้ามาชิดกายเป็นการ 'จับไว้' ตามที่เจ้าตัวร้องขอ

   “รู้สึกยังไงบ้าง...ภูมิใจไหม?” ชายหนุ่มเอ่ยถามร่างในอ้อมแขนน้ำเสียงอ่อนโยน   ไม่ว่าจะกี่เดือนกี่ปีที่ผ่านไป...ความรักและความเอ็นดูที่เขามีให้คนๆนี้ก็ไม่เคยลดน้อยลง...กลับกัน...มันยิ่งมากขึ้นทุกวันเสียด้วยซ้ำ

   คนถูกถามพยักหน้าอย่างมีความสุข "มากเลยล่ะ...”

   “พี่ดีใจด้วยจริงๆนะ" กวินเอ่ยก่อนจะก้มลงจุมพิตลงบนหน้าผากมนตรงหน้าแผ่วเบา "ปอมเก่งมากๆ"

   จักรวาลยิ้มรับสัมผัสจากอีกฝ่าย   สองแขนสอดเข้าโอบรอบลำตัวหนานั่นไว้แน่นๆด้วยความรู้สึกเต็มตื้น

   ถ้อยคำที่อยู่ในใจถูกเอ่ยออกมาด้วยเสียงเบาที่พอให้คนที่แนบชิดกันอยู่นี้ได้ยิน

   “ขอบคุณนะครับ..." คนพูดกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีก "ถ้าไม่ได้เจอกับพี่   ปอมคงไม่ได้มาถึงตรงนี้   ขอบคุณจริงๆนะพี่วิน...”

   ระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา   กวินคือคนที่คอยอยู่เคียงข้างและหยิบยื่นโอกาสในการแสดงศักยภาพมาให้เขาโดยตลอด   วิชาความรู้   แนวคิด  ความมั่นใจ   อุปกรณ์ทันสมัย...ทุกอย่าง   หากไม่ได้คนๆนี้...ก็ไม่รู้ว่าเด็กธรรมดาๆอย่างเขาจะได้มีที่ยืนอย่างนี้เมื่อไหร่...
   
   คนฟังเองก็ยิ้มออกมาเช่นเดียวกัน   ชายหนุ่มไม่วายฝังจมูกลงบนหน้าผากอีกฝ่ายอีกครั้งหนึ่ง   ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงชวนฟัง "ไม่หรอก...เพราะตัวปอมเองนั่นแหละ   ที่ทำให้ปอมมาถึงตรงนี้...ถ้าไม่มีฝีมือ  ไม่มีความมุ่งมั่น...ต่อให้เทวดามาช่วย   ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี...ดังนั้นไม่ต้องขอบคุณพี่หรอก...”

   จักรวาลส่ายหน้าลงเบาๆกับแผ่นอกกว้าง...ยังคงดื้อดึงอยู่กับความต้องการของตนเอง “ขอบคุณ...ยังไงก็ต้องขอบคุณ...”

   ได้ยินดังนั้น...รอยยิ้มมุมปากก็ปรากฏขึ้นจางๆบนใบหน้าหล่อเหลาของคนฟัง   น้ำเสียงที่ใช้ในประโยคถัดมาฟังดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย...

   “งั้น...ถ้าอยากขอบคุณจริงๆ   พี่ขอแลกเป็นรางวัลแทนได้ไหม?”สายตากรุ้มกริ่มเจ้าเล่ห์ถูกส่งลงมาให้คนที่เงยหน้ามองเขาอยู่งงๆ

   “รางวัลอะไรเหรอ?”
   
   ถึงตรงนี้   กวินเม้มปากครุ่นคิดน้อย...ในหัวพยายามเรียบเรียงคำพูด...

   “อืม...” เสียงทุ้มต่ำฟังดูลังเลกับประโยคถัดมาที่ตนกำลังจะพูดเล็กน้อย...ไม่รู้ว่าหากพูดไปแล้วคนในอ้อมแขนเขาจะลุกหนีไปหลบในห้องน้ำเลยไหม... “ไหนๆปอมก็เรียนจบแล้ว...หน้าที่การก็ดูจะไปได้ดี...แล้วอีกอย่างเราก็อยู่ด้วยกันมาเป็นปีๆ   ถึงเวลาที่ปอมจะเริ่มคิดเรื่อง...เอ่อ...เรื่องแบบนั้นได้หรือยัง?...พีี่รอมานานแล้วนะ...”

   ในวินาทีแรกคนฟังที่ยังคนจับต้นชนปลายไม่ถูกก็ได้แต่ทำหน้ามึน   

   หากแต่เมื่อเหลือบขึ้นมองสายตาของคนรักอีกครั้ง...คำถามที่ว่ารางวัลปริศนาคืออะไรก็กระจ่างขึ้นมาทันที...

   ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆเคลื่อนเข้าหาอีกฝ่ายเรื่อยๆ

   คำพูดหวานหูถูกเอ่ยขึ้นก่อนที่ริมฝีปากของคนทั้งคู่จะชนกันแค่นิดเดียว

   “พี่รักปอมนะ...”

   “...ปอมก็รักพี่วิน"

   หลังจากนั้นริมฝีปากของคนทั้งคู่ก็ค่อยๆแนบเข้าด้วยกันอย่างแผ่วเบา

   จุมพิตอ่อนหวานดำเนินไปอย่างไม่เร่งเร้า...คนนำไม่ได้ทำให้มันรู้สึกร้อนแรงจนเกินเหตุ   และคนตามเองก็ไม่ได้หวาดกลัวเสียจนไม่ยอมตอบโต้

   ...ทั้งหมดเกิดขึ้นตามความพึงพอใจของทั้งสองฝ่ายอย่างเป็นธรรมชาติ...

   ฝ่ามือหนาที่เอื้อมมาลูบไล้ป่ายปะอยู่บริเวณแผ่นหลังทำเอาจักรวาลเห็นภาพสีขาวโพลนอยู่ในหัวขึ้นมาดื้อๆ...รู้ดีว่ากวินจะทำอะไร...รู้ว่าหลังจากนี้จะมีอะไรเกิดขึ้น...

   ...แต่ ณ ตอนนี้...เขาเองก็ไม่มีความรู้สึกอยากปฏิเสธใดๆอีกแล้ว...

   ...ก็หากมันจะเกิดขึ้นเพราะความรัก...ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาต้องบอกปัด...

   ร่างสองร่างค่อยๆเอนกายลงบนโซฟาตัวนุ่ม   ริมฝีปากยังคงเกี่ยวกระหวัดกันอยู่อย่างนั้นโดยไม่มีทีท่าว่าจะมีฝ่ายไหนถอนออก   สัมผัสอุ่นวาบจากฝ่ามือใหญ่...ขยับไล่ไปตามลำตัวที่อยู่ใต้ร่างอย่างคล่องแคล่ว...

   เอาล่ะ....

   ทีนี้ก็คงถึงเวลาแล้ว....

   ที่เขาจะต้องแพนกล้องไปที่โคมไฟเสียที...




FIN.

ออฟไลน์ Starry[Blue]

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

thari

  • บุคคลทั่วไป
จบซะแล้วววว  :-[

ก็ว่าแล้ววววววว่าทำไมพี่วินถึงดูจะนิ่งๆ ไม่อะไรยังไงเหมือนน้องปอม
ที่แท้ก็มีแผนไปเซอร์ไพรส์น้องถึงที่(นอน)เลยทีเดียว
เล่นแบบนี้ถ้าน้องตกใจแล้วฟาดเอาๆทำไงล่ะคะ  :laugh:

ว้า...กล้องแพนไปที่โคมไฟซะแล้ว  แอบไปปรับให้แพนกลับมาได้มั้ยคะ (ฮาา)

ขอบคุณนะคะที่เขียนเรื่องสนุกๆแบบนี้มาให้ได้อ่าน
ติดตามเรื่องต่อไปนะคะ ^____^

ออฟไลน์ nirun4

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
ขอตอนพิเศษด้วยนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
พี่วินก็ยังคงเป็นพี่วิน
ที่ทั้งรักทั้งห่วงปอมอยู่เสมอ
จบได้น่ารักจริงๆๆ :L1:
+1และเป็ดจ้า

doramon

  • บุคคลทั่วไป
จบแล้วหรือนี่..........
 :pig4:

ขอบคุณสำหรับผลงานดีนะครับ

ออฟไลน์ Tnapat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ อยากให้มีตอนพิเศษ ยังติดใจพี่เมษกัับอาทิตย์อยู่เลย ๕๕๕๕

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
โอ๊ะโอ
ว่าแล้วเชียวว่าพี่วินจะต้องมีแผนตามปอมไป ฮ่าๆ
แต่ก็นะ จบซะแล้ว ต้องคิดถึงพี่วินกับน้องปอมมากแน่ๆ
ขอบคุณคนเขียนที่แต่งนิยายน่ารักๆแบบนี้มาให้อ่านนะคะ
ยังไงก็จะรอติดตามผลงานเรื่องต่อไปน้า

ขอบคุณมากค่า

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
น่ารักสุดสุด

mujika_keita

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ได้ตามอ่านแค่ไม่กี่เดือน จบแล้วเหรอ  :monkeysad:
ไปตามอ่านก่อนเน้อ  :กอด1:

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
ฮี้วววว จบแล้ววว สวีทเวอร์

คนละฟิวกับตอนแรกที่เจอกันเลย

คิดถึงจัง


ขอตอนพิเศษบ้างนะคะ

พี่เมษด้วย เป็นไงบ้าง แฮปปี้เอนดิ้ง ยัง

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
น่ารักอะ พี่วินรอได้นานมากเลยนะ อิอิ

NaGichan

  • บุคคลทั่วไป
โหย พี่วินคะ อ่อนมากที่ปล่อยน้องปอมไว้ถึงสามปี 5555555
เป็นนิยายที่ไม่มีเอ็นซี จุ๊บกันทีก็นับครั้งได้ นี่มันอะไรรรร (ฮา)
สนุกมากเลยค่ะ (โกรธอย่างเดียวที่แพนกล้องไปที่โคมไฟนี่แหละค่ะ 55555)

ขอบคุณมากนะคะ
รอรวมเล่มจ้า รออ่านเดือนเมษากับวันอาทิตย์ 55555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด