[...Miracle Café...] คาเฟ่อลวน-คนอลเวง / +ตอนพิเศษให้อ่านแถม P.22
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [...Miracle Café...] คาเฟ่อลวน-คนอลเวง / +ตอนพิเศษให้อ่านแถม P.22  (อ่าน 223555 ครั้ง)

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
โอ๋ยโย๋  บอกรักกันไปแล้ว  ตกลงกันไปแล้ว มาแรงแซงนำไปเลยทีเดียว
หนูวาโยอยากเห็นซีนหวาน ๆ ของหนูบ้างอ่ะ  ทำไงดี

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
คู่ภูริ-วาโย  คนนึงก็ซึนตัวพ่อ   อีกคนก็ขี้อายตัวแม่      :laugh:
คงอีกนานกว่าจะคืบหน้าแหละมั๊งนี่   :m20:

alekung103

  • บุคคลทั่วไป
โห คู่นี้ หวานซะ

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
รินเขินวินจนหน้าจะไหม้แล้ว 5555
รออ่านความหวานของโยกับภูริ

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
ในที่สุดคู่นี้ก็ลงตัวแล้ว น่ารักมากกกกก ชอบตอนรินอายอ่ะ

วินก็ร้ายชอบแกล้งให้รินอาย อยากอ่านฉากหวานคู่โย และความคืบหน้าคู่รุจมากเลยค่ะ

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :-[ :-[ :-[ :-[รออ่านอิอิ :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ถึงเวลาเปลี่ยนรูมเมทกันได้แล้วมั้ง กวินน่าจะได้นอนห้องเดียวกับการินแล้วแหละ อิอิ :z1:
หนูโยก็อย่าน้อยหน้าเพื่อน รีบหวานแข่งกับเขาเร็วๆ แต่ว่าหนูไร้เดียงสาขนาดนี้ จะรู้ไหมว่ามีใครเขาอยากนอนห้องเดียวกับหนู
อันนี้คิดเองคนเดียว ภูริไม่เกี่ยว ยกเว้นว่าจะคิด(หื่น)เหมือนกัน :laugh:
แต่เรื่องนี้เขาน่ารัก ใสๆ แค่นี้ก็เขิน อายม้วนบิดไปมาแล้ว :-[

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
รู้สึกเหมือนคู่วิน รินแซงหน้าภูริ วาโยไปแล้ว

แต่เรื่อยๆแบบคู่ของโยก็น่ารักดีล่ะนะ

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
รินเขินแรงนะ วินระบบหมดแล้ว
เฮ้อ คุ๋นี้ก็ลงตัวไปอีก1คุ่ ^^

อย่าลืมให้ภูริกับโยขนน้ำตาลมาแจกจ่ายด้วยนะ

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4

*** ยังคงคอมโบความหวานต่อเนื่อง ให้สำลักน้ำตาลกันไปข้างเลยทีเดียว --+



Miracle Café / 36





     วาโยที่กำลังเดินเข้ามาด้านหลังเคาท์เตอร์เพื่อไปพักหยุดชะงักเล็กน้อย เมื่อเห็นใบหน้าขัดเขินของการินที่เดินมาด้วยกันพร้อมกับกวิน

    “เอ่อ...ริน...คือ...”

    วาโยอยากจะถามแต่ก็ไม่กล้า พอการินสบตากับเขา อีกฝ่ายก็หน้าแดงด้วยความอาย ส่วนกวินนั้นยักคิ้วนิด ๆ  แล้วแอบยกนิ้วโป้งชูให้วาโยเห็น ทำให้วาโยพอจะคาดเดาว่าทั้งคู่คงพูดคุยเรื่องความรู้สึกระหว่างกันเรียบร้อย

    “ง่า...ดีใจด้วยนะริน”

    วาโยอ้อมแอ้มบอก ทำให้คนฟังหน้าแดงก่ำ แล้วยืนนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก ทำเอาราเมศที่อยู่ด้านหลังต้องกระแอมเบา ๆ เตือน

     การินกับกวินสะดุ้งโหยง แล้วหลีกทางเบี่ยงหลบให้คนที่อยู่ด้านหลังเดินผ่านทันที ราเมศสั่นศีรษะเบา ๆ อย่างเอือมระอา แต่ระหว่างเดินกลับไปประจำที่บาร์เขาก็เหลือบมองการินนิด ๆ ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ เพราะไม่แน่ใจว่าปวีร์จะคิดยังไงบ้างหากรู้เรื่องนี้เข้า

    “ฝากร้านด้วยนะริน วิน”

    วาโยที่เดินสวนเข้าไปเอ่ยทักพร้อมรอยยิ้ม กวินยิ้มน้อย ๆ ตอบรับ ส่วนการินก็พยักหน้านิด ๆ ด้วยใบหน้าที่ยังคงแดงระเรื่อ

    “จะว่าไปหลังจากนี้ ถ้าจัดเวรพักแบบนี้ทุกวันก็คงดีล่ะนะ ว่าไหม”

    รุจที่เดินตามวาโยมาเอ่ยแซว ซึ่งพอได้ฟังวาโยก็หน้าแดงเพราะเข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายอยากบอกดี ทางด้านภูริพอเห็นรูมเมทแกล้งคนที่ตนชอบเข้าให้อีกครั้ง เขาก็ต้องกระแอมเสียงดังถี่ ๆ เป็นการเตือน เห็นดังนั้นรุจจึงยักไหล่นิด ๆ แล้วเดินนำเข้าไปในครัวก่อน ภูริที่ตามมาจึงเหลือบมองวาโยที่ยืนรอเขาอยู่ อีกฝ่ายหน้าแดงระเรื่อ แต่ก็ยังคงยิ้มให้เขา ภูริจึงยิ้มน้อย ๆ ตอบ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินเข้าไปในครัวพร้อมกัน



    บรรยากาศบนห้องพักผ่อนนั้นเต็มไปด้วยความอึดอัดเล็กน้อย เมื่อคนหนึ่งก็เขินจนทำอะไรไม่ถูก ส่วนอีกคนก็กำลังคิดหนักว่าจะรุกให้ชัดเจนแบบคู่ของกวินไปเลยดีไหม 

    “เอ่อ ...คือว่า...”

    วาโยพยายามจะหาเรื่องคุยเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศแต่ก็นึกไม่ออกเสียดื้อ ๆ ขณะที่ชายหนุ่มกำลังนิ่งคิด ภูริก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่จนคนที่อยู่ด้วยชะงัก

    “เฮ้อ! ไม่ได้จริง ๆ ด้วยแฮะ...”

    ภูริพึมพำ แล้วจึงเหลือบมองวาโยที่มองเขาอย่างแปลกใจ

    “ฉันทำแบบที่รุจบอกไม่ได้จริง ๆ ด้วยล่ะนะ เรื่องที่จะให้พูดหวาน ๆ หรือหาเรื่องหวาน ๆ มาคุยกันน่ะ...”

    ภูริเปรยบอกเรียบ ๆ ทำให้คนฟังเงียบกริบ แล้วพึมพำตอบเบา ๆ

    “ก็ไม่เป็นไรนี่ครับ...พวกเราก็ยังไม่ได้คบหากันแบบนั้นสักหน่อย”

    ภูริเลิกคิ้ว พลางหรี่ตามองคนพูด แล้วจึงตอบกลับสั้น ๆ

    “นั่นสินะ”

    วาโยนิ่งอึ้งนิด ๆ เมื่อได้ฟังคำตอบของอีกฝ่าย แม้จะเป็นเรื่องจริง แต่เขาก็อดคิดไม่ได้ว่าภูริน่าจะแย้งกลับมาบ้างก็ยังดี ทว่าระหว่างที่กำลังคิดน้อยใจอยู่นั้น ชายหนุ่มก็ต้องชะงัก เพราะร่างสูงขยับมาใกล้แล้วกอดเขาหมับจนวาโยตกใจ

    “ฉันไม่รู้จะพูดยังไง ทำยังไงให้นายชอบ ... นิสัยฉันมันก็แบบนี้  บางทีก็ปากไม่ค่อยตรงกับใจ พูดก็ไม่ค่อยเก่ง...แต่อย่างเดียวที่อยากให้นายรู้ไว้ก็คือ ...นายเป็นคนสำคัญสำหรับฉัน ไม่ว่าจะวันนี้ หรือวันข้างหน้า หรือจนกว่านายจะเบื่อฉันเสียก่อนล่ะนะ”

    วาโยนิ่งอึ้งอยู่สักพัก ก่อนที่อ้อมแขนเรียวบางของเขาจะกอดตอบฝั่งตรงกันข้ามกลับไป และบอกสิ่งที่อยู่ในใจให้อีกฝ่ายรับรู้

    “ผมเองบางทีก็อาจจะซื่อบื้อไปนิด ...งี่เง่าไปหน่อย...ถ้าทำให้คุณไม่พอใจ หรือเข้าใจผิดอะไรไป ก็อยากให้คุณบอกผม มีอะไรก็หันหน้าพูดคุยกัน ...ผมจะได้ปรับตัวและพยายามแก้ไข ...เพราะผมเองก็อยากใช้ชีวิตในอนาคตข้างหน้า ร่วมกันกับคุณเหมือนกัน”

    ภูริถอนหายใจค่อย ๆ หลังจากได้ฟังคำพูดของอีกฝ่าย ก่อนจะดันร่างของวาโยออกห่างจากเขา ซึ่งคนถูกดันออกก็มองชายหนุ่มตอบอย่างงุนงง

    “ขอโทษที พอดีได้ยินแบบนั้นแล้วมันทำให้ห้ามใจตัวเองไม่ค่อยไหว...และถ้ายังกอดกันแบบนั้น มันจะทำได้ไม่ถนัดน่ะ”

    ภูริบอกกับอีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้มน้อย ๆ  ซึ่งวาโยก็ยิ่งงุนงงหนักเข้าไปใหญ่

    “ก็ถ้ากอดกันแบบนั้น ก็ทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้ยังไงล่ะ”

    ภูริอธิบายเพิ่มเติม พร้อมกับชะโงกหน้าเข้าไปจูบปากคนที่กำลังทำหน้าสงสัย ทำเอาวาโยสะดุ้ง แล้วหน้าแดงวาบ ก่อนจะยิ่งแดงหนัก เมื่อได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยตามมา

    “ฉันมันพวกพูดไม่เก่งเท่าไรนัก เลยคิดว่าถ่ายทอดผ่านภาษากายให้นายรับรู้โดยตรง คงจะดีกว่า”

    วาโยก้มหน้างุด ๆ ด้วยความเขินอาย พยายามหลบสายตาคมกริบของอีกฝ่ายที่จ้องเขาราวกับจะกลืนกินนั่นเต็มที่ ภูริเห็นดังนั้นจึงยิ้มน้อย ๆ อย่างพึงพอใจ แล้วชะโงกหน้าเข้าไปใกล้อีกครั้ง

    “ยังไม่บอกเลยว่าถูกใจไหม สำหรับจูบเมื่อครู่น่ะ”

    วาโยเงียบกริบไม่พูดไม่จา แต่ใบหน้าและใบหูรวมไปถึงลำคอของเจ้าตัวแดงแป๊ดจนคนมองสังเกตเห็นได้อย่างง่ายดาย

    “เฮ้อ...เงียบแบบนี้ชักจะหมดความมั่นใจแล้ว...งั้นต้องขอลองแก้มืออีกทีแล้วกันนะ”

    “มะ ไม่ต้องแล้วครับ! เมื่อครู่ก็รู้สึกดีมากพอแล้ว!”

    วาโยรีบแย้งเพราะกลัวจะโดนอีกฝ่ายจูบเอาอีกครั้ง และกลัวตัวเองจะเผลอเคลิ้มลืมตัวลืมตน ปล่อยให้อีกฝ่ายทำมากกว่าจูบเข้าให้จนได้ เพราะดูจากสายตาของภูริยามนี้แล้ว ไม่ค่อยน่าไว้วางใจเลยสักนิดเดียว

    “จริงหรือ...รู้สึกดีจริง ๆ น่ะ”

    ภูริแสร้งย้ำถาม ซึ่งวาโยก็รีบพยักหน้าหงึก ๆ ตอบรับ แล้วรีบเปลี่ยนเรื่องคุย

    “จริง ๆ ครับ ...เพราะงั้นผมว่าเราลงไปนั่งเล่นด้านล่างคุยกับพวกคุณชานนแทนดีกว่านะครับ”

    “ไม่ล่ะ...ฉันอยากคุยกับนายสองต่อสองแบบนี้มากกว่า”

    ภูริส่ายหน้าปฏิเสธแล้วยิ้มนิด ๆ ติดเจ้าเล่ห์ที่ทำให้คนมองเหงื่อตก

    “...ไหนว่าพูดไม่เก่งไงครับ”

    “ก็คุยแบบถึงเนื้อถึงตัว แบบที่ฉันถนัดแทนไงล่ะ”

    คนพูดบอกหน้าตาเฉย ทำเอาวาโยสะดุ้ง

    “มะ...ไม่เอาดีกว่าครับ ผมชอบคุยแบบธรรมดามากกว่า”

    ภูริซ่อนยิ้มในสีหน้า ก่อนจะแสร้งทำเป็นตีหน้าขรึมกึ่งเศร้า

    “แล้วเมื่อครู่ใครบอกล่ะว่ารู้สึกดีกับจูบของฉัน ...โกหกกันสินะ”

    “มะ ...ไม่ได้โกหกนะครับ แต่ก็ไม่อยากให้ทำมากกว่านี้ ...”

    วาโยรีบแย้ง แล้วก็ชะงักก่อนจะหน้าแดงก่ำตามมา เมื่อหวนคิดถึงเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างเขาและภูริในอนาคตข้างหน้านี้

    “แล้วเมื่อไหร่ถึงจะยอมให้ทำมาก ๆ กว่านี้ได้ล่ะ”

    คนฟังถามเสียงอ้อนนิด ๆ จนวาโยต้องเบือนหน้าหนีไปอีกทางเพราะเกรงว่าจะเผลอใจอ่อนเข้าเสียก่อน

    “ก็แบบ...รอผมพร้อมกว่านี้อีกนิด...ไม่นานหรอกครับ...คิดว่าอย่างนั้นนะครับ”

    ภูริหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ เลิกคิดแกล้งอีกฝ่ายที่กำลังมีสีหน้าลำบากใจขึ้นทุกที

    “โอเค...งั้นมากกว่าจูบจะเก็บไว้ก่อนแล้วกัน”

    วาโยมองคนที่ตัดใจง่าย ๆ แล้วขมวดคิ้วยุ่งเล็กน้อย พลางนึกในใจว่าเห็นทีตนจะโดนอีกฝ่ายแกล้งแหย่เข้าให้เสียแล้ว แต่ก็นั่นล่ะ ใครจะไปรู้ว่าภูรินั้นเวลาไหนจะแหย่ เวลาไหนเอาจริง เพราะขนาดคุยด้วยกันอยู่ดี ๆ ตอนกำลังซักผ้าอยู่เมื่อเช้าเขายังถูกจับจูบเข้าให้เลยด้วยซ้ำ ดีนะที่รุจเข้ามาในห้องซักผ้าด้วยอีกคน ภูริจึงทำเป็นยืนออกห่าง แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรแทนเสียอย่างนั้น

    “งั้นลงไปคุยกับพวกคุณนนข้างล่างดีกว่า... ขืนอยู่บนนี้ อาจจะไม่ต้องรอใครบางคนพร้อมก่อนก็ได้นะ”

    ภูริแสร้งเปรยเบา ๆ แต่กับทำให้คนที่อยู่ด้วยรีบยันกายลุกขึ้นยืนแล้วเดินเร่งฝีเท้าไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว

    “ไปกันเถอะครับ เดี๋ยวช้า เวลาจะหมดเสียก่อน แล้วไม่ได้คุยนะครับ!”

    ภูริอมยิ้มน้อย ๆ เมื่อเห็นปฏิกิริยานั้น สำหรับเขาค่อนข้างพอใจกับความสัมพันธ์ที่ค่อย ๆ คืบหน้าแบบนี้มากกว่า เขาอยากจะเรียนรู้ในตัววาโย และอยากให้วาโยรู้จักในตัวตนของเขาให้มากกว่านี้  แต่ยังไงเขาก็ยังคงมั่นใจว่า แม้จะได้เห็นทั้งด้านดีและแย่ของแต่ละฝ่าย  ทว่าความรู้สึกที่ยังอยากอยู่เคียงข้าง และอยากใช้ชีวิตร่วมกันไปเรื่อย ๆ ในวันข้างหน้าของพวกเขา ก็จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากนี้เป็นแน่ และมันจะกลับมั่นคงมากยิ่งขึ้นกว่านี้แน่นอน



    เหตุการณ์ภายในวันนั้นก็ยังคงผ่านพ้นไปด้วยดีดังเช่นปกติทุกวัน  ทางด้านราเมศพอกลับถึงบ้านเขาก็เห็นคนป่วยกำลังเดินมาเปิดตู้เย็นเพื่อหาอะไรบางอย่างกิน เห็นดังนั้นชายหนุ่มจึงกระแอมเบา ๆ จนปวีร์สะดุ้งโหยง

    “ไข้ยังไม่ลด มาหาอะไรเย็น ๆ กินทำไมน่ะ”

    “ใครบอกว่าไข้ยังไม่ลดล่ะ ลดแล้วต่างหาก ถ้าไม่ลดจะมาเดินแบบนี้ได้ไง...อ้อ พรุ่งนี้ฉันจะไปทำงานแล้วนะ”

    ราเมศมองคนที่เถียงเขา แถมยังหยิบเยลลี่ที่แช่ไว้ออกมาหมายจะเปิดกิน แต่ก็ถูกมือใหญ่ของอีกคนจับแย่งไปเปิดกินแทนเสียก่อน

    “ราเมศ! ของฉันนะ นั่นถ้วยสุดท้ายแล้วด้วย!”

    “ไว้ไข้ลดจะไปซื้อให้กินใหม่”

    คนที่แย่งของกินไปพูดหน้าตาเฉย ก่อนจะโอบเอวคนที่กำลังงอนและเตรียมจะเดินหนีให้ไปนั่งที่โซฟาด้วยกัน

    “ฉันบอกพวกนั้นแล้วว่านายจะไปทำงานมะรืนนี้ เพราะงั้นพรุ่งนี้ก็ช่วยนอนพักอีกวันให้หายดี ฉันจะได้ไม่ต้องผิดคำพูด”

    “ฉันหายแล้ว!”  ปวีร์เถียงทันควัน แต่ก็ต้องชะงักเมื่อคนข้างกายวางถ้วยเยลลี่ที่กินหมดแล้วบนโต๊ะรับแขก และหันมาวัดไข้เขาด้วยวิธีที่ชวนให้ใจเต้น

    “ตัวยังรุม ๆ อยู่เลยนี่นะ ที่บอกว่าหายแล้ว ...นายคิดจะให้ฉันไม่มีสมาธิทำงานหรือไง ถ้านายไปด้วยพรุ่งนี้ ฉันก็ต้องทำงานไป ห่วงนายไป  เผลอ ๆ ชงกาแฟ ผิด ๆ ถูก ๆ จนโดนลูกค้าด่าพอดี”

    ราเมศที่นำหน้าผากของตนไปแตะกับหน้าผากอีกฝ่ายเพื่อวัดไข้ บ่นใส่ยาวยืด ทำให้คนฟังต้องค้อนนิด ๆ แล้วจึงแกล้งซบลงบนอกอีกฝ่ายอย่างประจบ

    “แต่ฉันเหงานี่...อยู่บ้านคนเดียวแบบนี้ อยากเห็นหน้านาย อยากได้ยินเสียงนาย ก็ทำไม่ได้...”

    ราเมศถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก็รู้อยู่หรอกว่าอีกฝ่ายแกล้งอ้อน แต่ก็อดสงสารไม่ได้อยู่ดี

    “อีกวันเดียวเองนะปวีร์...ถ้านายเหงา พรุ่งนี้ตอนพักฉันจะแวะมาหานะ”

    ปวีร์มองหน้าอีกฝ่ายก่อนจะลอบถอนหายใจ เพราะรู้ดีว่าคนรักคงไม่ยอมให้เขาไปทำงานในวันพรุ่งนี้แน่นอน

    “รู้งี้คืนนั้นไม่ยอมให้ทำก็ดี...เพราะนายนั่นล่ะ ฉันเลยต้องป่วยยาวแบบนี้”

    ปวีร์บอกอย่างนึกงอน ทำให้คนฟังชะงัก แล้วเงียบไป จนคนพูดต้องหันไปมอง

    “ราเมศ...เป็นอะไรไปน่ะ”

    “ก็แค่รู้สึกแย่นิดหน่อยน่ะ... ที่ฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้นายต้องมานอนซมแบบนี้”

    ราเมศพึมพำด้วยใบหน้ารู้สึกผิด ทำให้ปวีร์ต้องรีบปลอบอย่างตกใจ

    “เฮ้! ฉันแค่ล้อเล่นน่ะ ...ไม่ใช่ความผิดของนายคนเดียวสักหน่อย...ก็มันเป็นครั้งแรกของเรานี่...จริงไหม”

    ปวีร์บอกแล้วก็หน้าแดงนิด ๆ อย่างนึกเขิน เมื่อหวนคิดถึงเหตุการณ์ในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

    “แต่มันก็ทำให้นายต้องป่วย และหงุดหงิดที่ไม่ได้ไปทำงานแบบนี้ไม่ใช่หรือ”

    ราเมศยังคงพึมพำตามมา แล้วเบือนหน้าหนี  ทำให้คนฟังขมวดคิ้วยุ่ง ก่อนจะถอนหายใจยาว แล้วซบลงกับอกของอีกฝ่าย

    “โอเค ๆ พรุ่งนี้ฉันนอนพักอีกวันก็ได้ เลิกทำหน้าสลดแบบคนรู้สึกผิดเสียเต็มประดาแบบนี้ได้แล้ว”

    ราเมศชะงักเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ ตามมา แล้วโอบกอดอีกฝ่ายแน่นอย่างรักใคร่

    “สมกับเป็นนายจริง ๆ หลอกไม่เคยสำเร็จเลยแฮะ”

    “ฮึ! ก็เกือบสำเร็จเหมือนกันนั่นล่ะ  แต่ถ้าเป็นนายตามปกติ พอฉันง้อปุ๊บก็ต้องโอเคแล้ว  นี่ทำเล่นตัวแถมยังอ้างเรื่องงานอีก ก็พอจะเดาได้น่ะสิ!”

    ปวีร์เปรยใส่อย่างหมั่นไส้ แต่ก็ยังคงปล่อยให้ราเมศกอดตนอยู่เช่นนั้น

    “แต่ฉันรู้สึกผิดที่ทำให้นายต้องเจ็บตัวและป่วยจริง ๆ นะ ...คราวหน้าฉันจะแก้มือใหม่ จะทำให้ดีกว่าเดิมแน่ ฉันสัญญา”

    ราเมศกระซิบบอกคนรักพร้อมกับจูบเบา ๆ ที่ติ่งหูเนียนนั่น ทำให้ปวีร์หน้าแดง แล้วอุบอิบบอกอีกฝ่ายเสียงแผ่วด้วยความเขินระคนหมั่นไส้

    “ไม่ต้องพยายามแก้ตัวอะไรมากนักหรอก  แค่นายห้ามตัวเองไม่ให้ติดลม จนทำหลายรอบแบบคืนที่ผ่านมานั่นก็พอแล้ว... ฉันจะไม่โทรมหนักขนาดนี้เลย ถ้านายหยุดตั้งแต่รอบที่สามนั่นแล้วน่ะ!”

    ราเมศหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ พลางชะโงกหน้าไปหอมแก้มของคนรักอย่างประจบ 

    “โอเค ๆ ฉันสัญญา ถ้านายไม่อนุญาต ฉันจะไม่เผลอทำหลายรอบแน่นอน”

    ปวีร์ขมวดคิ้วยุ่ง เพราะเอาเข้าจริง ๆ พอถึงเวลานั้น เขาพอจะมั่นใจว่าอีกฝ่ายต้องเผลอทำเอาเขาเคลิบเคลิ้มจนตกปากรับคำอีกจนได้อย่างแน่นอน

    “คนเจ้าเล่ห์...”

    “มีคนรักเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ ถ้าไม่พัฒนาตัวเองให้ทัน มีหวังก็เสียเปรียบพอดีน่ะสิ”

    ราเมศแย้งกลับ ทำให้ปวีร์ต้องทุบไหล่อีกฝ่ายอย่างนึกหมั่นไส้ ก่อนจะเผลอหลุดครางออกมาเบา ๆ เมื่อมือใหญ่ของคนรักลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของตนอีกครั้ง

    “อา...เมื่อไหร่นายจะหายดีนะปวีร์...แย่จัง”

    “ฉันว่า...ฉันป่วยต่ออีกสักอาทิตย์ท่าทางจะดีนะ....จะได้มีบางคนลงแดงให้ได้เห็นกับเขาบ้าง...”

    ปวีร์เอ่ยตอบเสียงกระเส่า ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อร่างของเขาถูกช้อนให้ลอยขึ้นจากพื้น โดยคนอุ้มนั้นเหยียดยิ้มน้อย ๆ อย่างเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก

    “ฉันว่าฉันคงไม่รอให้ถึงอาทิตย์หรอก...อย่าลืมสิ กิจกรรมระหว่างคู่รักน่ะ มันไม่ได้มีแค่ทำแบบนั้นอย่างเดียวหรอกนะ”

    ปวีร์แค่นยิ้มนิด ๆ พอจะรู้จุดประสงค์ของคนรักได้เป็นอย่างดี เขาถอนหายใจเบา ๆ แล้วใช้สองแขนโอบคออีกฝ่าย ก่อนจะชายตามองพร้อมเปรยค่อย ๆ

    “เอางั้นก็ได้...แต่ถ้านายทำให้ฉันต้องยืดเวลาไปทำงานออกไปอีกล่ะก็...ฉันจะทำให้นายลงแดงของจริงแน่คราวนี้”

    ราเมศเบิกตากว้าง ก่อนจะสั่นศีรษะเบา ๆ อย่างระอา แล้วจึงชะโงกหน้าไปจูบหน้าผากของคนในอ้อมแขนอย่างอ่อนโยน

    “รับทราบครับ คุณภรรยาที่รัก...”

    ปวีร์หัวเราะเบา ๆ แล้วจึงกระซิบตอบกลับไปบ้าง

    “งั้นก็รีบขึ้นห้องเสียทีสิ คุณสามีจอมหื่น...”

    ราเมศหัวเราะในลำคออย่างถูกใจ แล้วจึงอุ้มร่างของคนรักขึ้นไปบนห้องนอนของพวกเขา และใช้เวลากระทำกิจกรรมระหว่างคู่รักภายในห้องนั้นจนเกือบเที่ยงคืน ทั้งเขาและปวีร์จึงนอนหลับพักผ่อนเคียงข้างกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งยามเช้าของวันใหม่มาถึง

   

… TBC …



ใครรอหนุ่มรุจกับคุณไกร รอก่อนนะคะ คุณไกรเขาโดนกักบริเวณสามวัน ก็เลยมาแจมไม่ได้ พ้นโทษ(?) แล้วก็คงเสนอหน้ามากวนหนุ่มรุจเหมือนเดิมล่ะค่ะ  ส่วนนายธีรัช ปัดก็คิดคู่ไว้แล้ว หุ ๆ อาจจะตรงใจกับหลายคนที่เดาไว้ก็ได้นะเอ้อ!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
คู่แรกหวานแบบเด็ก ๆ ไปเลย  พอมีเทียบกับคู่หลัง 
แหม  ครั้งแรก หลายรอบ ขึ้นห้อง ภรรยาที่รัก แว๊กกก  คนอ่านคิดนะเฟ้ย

ออฟไลน์ seraty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
น่ารักน่าเลิฟน่ะนั่น......

ออฟไลน์ kasarus

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
มากกว่าสามรอบ!!!!! มันจะจบที่กี่รอบกันนะ
น่าอิจฉาคุณปวีร์จริงๆ ที่มีคุณสามีขยันขันแข็ง??? แบบนี้

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
อ่านบรรทัดไหนก็ชื่นใจ เจอสามรอบเข้าไป

พี่เมข๋าร้อนแรงจังงิ

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
คู่ราเมศ ปวีร์ขโมยซีนตลอดดดดด

(แต่ยอม เพราะน่ารักมาก)

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
วาโยกับภูรินี่ชิดซ้ายไปเลย เจอคู่แบบปวีร์กับราเมศ
แต่คุณสามีจอมหื่นช่วยเห็นใจภรรยาหน่อยนะ 5555

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
เราคิดว่า พี่ราเมศเป็นคนขี้อาย เงียบๆ  ขรึม ๆ ไม่คิดว่าจะหื่นขนาดนี้

อั๊ยยะ พี่วีร์ชอบเลยละสิ 5555

คุณภูรินี่ก็เจ้าเล่ห์เหมือนกันแหะ รอคู่คุณรุจกับ พี่ไกร อิอิ ยังสนุกน่าดู

พี่ธีรัชกับคุณนนท์ได้ไหมๆๆๆ *0* รออ่านตอนต่อไปค้าบ

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
หนุ่มๆหวานกันใหญ่

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
ทำอะไรกันเกือบเที่ยงคืน

ส่วนคุณภูริ
นายรุกแบบหวานไม่ได้
แต่รุกแบบหื่นก็สปีดเลยใช่ม่ะ^^

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
หวานแซงหน้าคู่อื่นเลยอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
ชอบคุณภูโหมดถึงเนื้อถึงตัวมากค่ะ

ถึงมาหวานทีหลัง แต่ระดับน้ำตาลนำหน้าเลย ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
อื่มอ่านตอนนี้แล้วมดจะขึ้นคอมเอา :z1: :z1:


 :L2: :L2: :L2:รออ่านจ้า :bye2: :bye2:

zetsubo

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ย ตามอ่านรวดเดียวทันแล้ว  >< คู่ผู้ใหญ่ทำเอา :jul1: 555

คู่เด็ก ๆ มีคู่กันแล้ว 555 หวาน >< พอหนุ่มธี คู่กับเจไปเลยจิ 555555 ชอบ จะรอตอนต่อไปนะงับ ^^

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
เจอคู่บอสเข้าไป   คู่น้องโยเลยดูเหมือนเด็กน้อยจีบกันไปเลยทีเดียว  555   :m20: :m20: :m20:

alekung103

  • บุคคลทั่วไป
อยากรู้คู่ของธีรัชอ่ะ

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
** หายไปหลายวัน ไม่ได้ดองนะ แค่แอบอู้เท่านั้นเองจ้ะ ^^"  หลัง ๆ นี้ถ้าช่วงไหนไม่มีงานเข้า ก็จะพยายามปั่นเรื่อย ๆ ลงแบบไม่ทิ้งระยะห่างนะคะ  ^^




Miracle Café / 37






     เมื่อขวัญแก้วและขวัญตากลับเข้ามาถึงบ้านพักของพวกเธอ พี่ชายคนรองก็ออกมาดักรอแล้วยิ้มแย้มทักทายทั้งคู่

    “ไงสองสาว ทำงานเหนื่อยไหมวันนี้”

    “นิดหน่อยค่ะ แต่ตอนนี้บรรยากาศในร้านกำลังเป็นสีชมพูหวานแหวว ชวนให้สดชื่นจนลืมเหนื่อยเลยทีเดียว”

    ขวัญแก้วบอกยิ้ม ๆ ทำให้ไกรสรชะงัก ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ ตาม

    “พวกเด็ก ๆ พวกนั้นสินะ จับคู่กันได้เรียบร้อยแล้วหรือ  ไวกันจริงแฮะ ไอ้เราไม่อยู่แค่สามวันเอง”

    ไกรสรพึมพำ ในขณะที่สองสาวนั้นหัวเราะคิกคักอย่างถูกใจ

    “จริงสิ ว่าแต่ดอกไม้วันนี้เป็นไง ส่งถึงมือเจ้าตัวเขาหรือเปล่า”

    ชายหนุ่มหันไปถามขวัญแก้ว ซึ่งเจ้าตัวก็ยักไหล่นิด ๆ อย่างเบื่อหน่าย

    “ถึงสิเจ้าคะ เอาให้กับมือเหมือนกับเมื่อสองวันที่แล้วนั่นล่ะค่ะ”

    ไกรสรอมยิ้มนิด ๆ ก่อนจะย้อนถามน้องสาวต่อ

    “แล้วเขาว่าไง แก้วบอกเขาหรือเปล่าว่าดอกไม้ที่ให้น่ะชื่ออะไร”

    ขวัญแก้วมองพี่ชายที่ลงทุนจัดช่อดอกไม้ราคาแพงไปให้อีกฝ่ายทุกวันอย่างนึกขำ แล้วจึงบอกไปตามตรง

    “ระดับรุจไม่ต้องบอกหรอกค่ะ พอยื่นให้ปุ๊บ เขาก็ย้อนถามแก้วเลยว่า พี่ไกรน่ะจะกลับเมืองนอกแล้วใช่ไหม ถึงเอาช่อฟอร์เก็ตมีน็อต มาให้เขาน่ะ”

     ไกรสรชะงักก่อนจะถอนหายใจแรง ๆ ตามมา

    “ตั้งใจจะให้คิดถึงในความหมายที่ว่า ฉันหายไปหลายวันแบบนี้ อย่าลืมฉันล่ะต่างหาก ไม่ใช่จะลากลับเมืองนอก ...เด็กคนนี้นี่แสบนัก”

    “นี่พี่ไกร แก้วถามหน่อยเถอะ จะจีบน้องเขาจริง ๆ หรือคะ”

    ขวัญแก้วเอ่ยถามพี่ชายของเธอด้วยสีหน้าจริงจัง จนไกรสรต้องมองตอบ แล้วถอนหายใจเบา ๆ

    “วีบอกให้พี่ห่างเขาสักสามวัน คงจะให้พี่สำรวจใจตัวเอง... แต่ยิ่งห่างและยิ่งได้ฟังที่แก้วเล่าเรื่องเขาในแต่ละวัน พี่ก็ยิ่งอยากเจอ อยากเห็นหน้า ...ไม่รู้สิ พี่ว่าพี่คงเริ่มสนใจเขาแบบจริงจังขึ้นมาจริง ๆ แล้วก็ได้นะ”

    “แต่รุจเป็นผู้ชายนี่คะ พี่ไกรไม่เคยชอบผู้ชายมาก่อนไม่ใช่หรือไงคะ”

    ขวัญตาเอ่ยขัดขึ้นมาบ้าง ผู้เป็นพี่ชายพอได้ฟังก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วจึงพยักหน้าตอบรับ

    “นั่นก็ใช่ ...แต่กับเขามันต่างกันออกไป ...หน้าตา รูปร่าง ก็ไม่ใช่สเป็คพี่เลยแท้ ๆ ...แต่ก็สนใจไปแล้วนี่นะ”

    สองสาวมองพี่ชายของพวกเธอ ที่แม้จะดูสับสน แต่นัยน์ตาก็ฉายแววเอาจริงเรื่องรุจอย่างเปิดเผย จนพวกเธอคร้านจะเอ่ยเตือน

    “เอาเถอะค่ะ ถ้าพี่ไกรรู้สึกจริงจังกับน้องเขา แก้วก็ไม่อยากว่าอะไร...ก็สุดแล้วแต่เรื่องของพรหมลิขิตแล้วกันค่ะ”    ไกรสรลูบหัวน้องสาวของเขาอย่างเอ็นดู จากนั้นจึงสอบถามสารทุกข์สุกดิบทั่วไปในการทำงานของทั้งสองสาว ซึ่งพวกเธอก็เล่าทุกอย่างโดยไม่คิดจะปิดบังพี่ชายของตน

    “พรุ่งนี้ก็ครบกำหนดสามวันตามสัญญาแล้ว งั้นพรุ่งนี้แก้วกับตาไม่ต้องขับรถไปเองหรอก เดี๋ยวพี่จะขับไปส่งให้”

    ทั้งสองสาวพอได้ยินพี่ชายบอกเช่นนั้นต่างก็สบตากัน แล้วจึงหันไปทางพี่ชาย ก่อนที่ขวัญตาจะเป็นฝ่ายถามขึ้น

    “ตกลงพรุ่งนี้พี่ไกรจะอยู่เฝ้าที่ร้านทั้งวันเลยหรือคะ”

    “ก็งั้นสิ....น่าเสียดายนะที่วีไม่ทำที่นั่งตรงเคาท์เตอร์บาร์ ไม่งั้นพี่จะไปจองที่นั่งแถวนั้น เพื่อเฝ้าแคชเชียร์ของร้านทั้งวันเลยทีเดียว”

    ไกรสรบอกอย่างขำ ๆ สองสาวต่างถอนหายใจไล่เลี่ยกัน ก่อนจะอดนึกสงสารรุจไม่ได้ ที่ต้องถูกพี่ชายของตนไล่ตามตื๊อเอาแบบนี้ แต่สำหรับพวกเธอ ถ้าไกรสรเกิดจริงจังเรื่องรุจขึ้นมาจริง ๆ และตัดสินใจคบหากับอีกฝ่าย ทั้งคู่ก็ยินดีต้อนรับรุจในฐานะพี่สะใภ้ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เพราะพวกเธอเองก็ถูกใจนิสัยของหนุ่มน้อยผู้นั้นอยู่มากทีเดียว

    แต่นั่นคงต้องหมายถึงว่ารุจยอมเล่นด้วยกับไกรสรล่ะนะ ถ้าอีกฝ่ายยืนกรานปฏิเสธ ต่อให้เป็นพี่ชายแท้ ๆ พวกเธอก็คงไม่เข้าข้างแล้วบังคับฝืนใจหนุ่มน้อยคนนั้นแน่ แต่ถ้ารุจเกิดมีใจตอบพี่ชายเธอเมื่อใด ถึงคราวนั้นพวกเธอจะอาสาเป็นกามเทพคอยจับคู่ให้ทั้งสองคนนี้ได้สมหวังกันอย่างแน่นอน

   

    เมื่อเช้าวันใหม่เวียนมาถึง ทางด้านบ้านพักของพนักงานประจำร้านมิราเคิลคาเฟ่ ก็ยังดูเหมือนจะสงบสุขดังเช่นทุกวัน ถ้าไม่มีใครบางคนคอยเปรยยุแยงเติมเชื้อไฟ ให้ใครอีกหลายคนเกิดความลังเลและกลัดกลุ้มดังเช่นที่กำลังเป็นอยู่ขณะนี้

    “ถ่านไฟเก่าน่ะนะริน มันคุขึ้นง่ายมากเลยรู้ไหม ...มีเชื้อฟืนนิดหน่อยก็ติดไฟได้ง่ายแล้วล่ะ”

    การินชะงักแล้วเหลือบไปมองวาโยกับกวินที่กำลังพูดคุยกันขณะซักผ้าอย่างสนิทสนม ก่อนจะนิ่วหน้านิด ๆ และพยายามไม่คิดอะไรเลยเถิดไปมากกว่านั้น

    “พอ ๆ เลย เลิกแหย่ได้แล้ว...บอกแล้วไงว่าพวกฉันไม่เปลี่ยนห้องเพราะเรื่องไร้สาระของนายหรอกน่ารุจ”

    ภูริที่อยู่แถวนั้นเปรยเสียงดัง ทำเอาการินสะดุ้ง และกวินกับวาโยหันมามอง ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ

    “คุณรุจ...เอาอีกแล้วหรือครับ พวกผมก็บอกแล้วไงครับว่า ถ้าจะให้เปลี่ยนห้องแบบที่คุณว่า...มันก็ไม่ค่อยเหมาะ เอ่อ เท่าไหร่”

    กวินเอ่ยขึ้นอย่างเขิน ๆ เมื่อมองไปทางคนรักของตน การินเองก็หน้าแดงน้อย ๆ แล้วรีบหลบสายตาอีกฝ่าย

    “งั้นหรือ...ตามใจนะ  นี่เตือนด้วยความหวังดีรู้ไหม... ถ้าพนักงานฟูลไทม์เข้ามาอยู่อีกคนล่ะก็ เขาก็ต้องอยู่ห้องเดียวกับรินใช่ไหมล่ะ...แล้วคนนั้นก็ค่อนข้างจะชอบรินอยู่ไม่น้อยทีเดียวล่ะนะ”

    คนอื่น ๆ พากันชะงักกึก แล้วต่างหันมองคนพูดเป็นตาเดียว

    “หมายความว่าไง? จะมีพนักงานฟูลไทม์คนใหม่ย้ายมางั้นหรือ ...ไม่สิ ลองนายพูดแบบนั้น แสดงว่าธีรัชจะมาเป็นพนักงานฟูลไทม์เต็มตัวแทนอย่างนั้นสินะ!”

    ภูริเอ่ยถามขึ้นเป็นชุด ทำให้รุจหันมายิ้มน้อย ๆ ให้รูมเมท แล้วจึงเปรยตอบ

    “เรื่องยังไม่ชัวร์ ฉันยังไม่อยากฟันธงตอบน่ะ”

    ทางด้านกวินยืนนิ่งคิดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แม้จะรู้ว่าธีรัชไม่ได้คิดอะไรกับการินแล้วก็ตาม แต่ด้วยนิสัยกะล่อนและเข้ากับคนง่ายแบบนั้น แถมหลัง ๆ การินยังเริ่มดีด้วยกับอีกฝ่าย ถ้าขืนทั้งคู่ได้เป็นรูมเมทและพักอยู่ห้องเดียวกัน  มันก็ชวนให้หวาดระแวงอยู่ใช่ย่อยเมื่อไหร่

    “ยังไงคนเป็นแฟนกัน พักอยู่ห้องเดียวกันก็ไม่เหมาะอยู่ดี!”

    ภูริเอ่ยขัดเมื่อเห็นสีหน้าลังเลของแต่ละคน ทำเอาทุกคนต่างหันมามองเขานิ่ง โดยเฉพาะวาโยที่มองเขาด้วยสายตาตั้งคำถามระคนสงสัย

    “ก็...ขนาดอยู่กันคนละห้อง ยังห้ามใจไม่ค่อยอยู่ ...ถ้าให้อยู่ห้องเดียวกันมันก็...”

    ภูริบอกได้แค่นั้นแล้วก็รีบตีหน้าบึ้ง เมื่อเห็นรุจหลุดหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ ส่วนกวินกับการิน พอนึกตามที่ชายหนุ่มพูดทั้งคู่ก็หน้าแดงระเรื่อ ทางด้านวาโยพอเรียบเรียงคำพูดของชายหนุ่มและเริ่มคิดตามได้ เขาก็หน้าแดงก่ำด้วยความอายยิ่งกว่าใครแถวนั้น

    “หึ ๆ ให้ตายเหอะ...นายนี่มัน...”

    รุจเปรยกลั้วเสียงหัวเราะ ก่อนจะโบกมือขอโทษเมื่ออีกฝ่ายหันมาจ้องเขาเขม็งด้วยแววตาวาววับด้วยความฉุนปนเขิน

    “เอาเถอะ ...ที่ให้เปลี่ยนห้องฉันก็แค่อยากแหย่เล่นนั่นล่ะ... แต่ถ้าธีรัชได้มาทำงานฟูลไทม์จริง ๆ ล่ะก็ ฉันอยากให้จัดห้องแบบนี้แทน พวกนายจะว่ายังไงล่ะ...”

    รุจหันไปอธิบายให้กับเพื่อน ๆ ของเขาฟัง ซึ่งพอแต่ละคนได้ฟัง ก็มองหน้ากัน แล้วถอนหายใจเบา ๆ แต่ก็ยังคงเห็นด้วยในเรื่องที่อีกฝ่ายเสนอ

    “จริง ๆ ฉันเสียดายที่จะไม่ได้เป็นรูมเมทกับนายนะภูริ ...แต่กับธีรัชก็คิดว่าคงมีเรื่องให้ได้สนุกกันอีกไม่แพ้ตอนอยู่กับนายทีเดียวนั่นล่ะ”

    รุจหันไปเปรยบอกกับรูมเมทของเขา เล่นเอาภูริรู้สึกสงสารเพื่อนสนิทขึ้นมาเสียอย่างนั้น เพราะเขารู้ดีว่าธีรัชค่อนข้างแพ้ทางคนอย่างรุจอยู่มากทีเดียว

    “ถ้าจะย้ายห้องก็คงกลับมาจากทำงานแล้วค่อยเตรียมย้าย เพราะวันนี้คุณปวีร์จะมาทำงาน แล้วธีรัชก็คงมาบอกเขาเรื่องขอทำงานฟูลไทม์ที่นี่ล่ะนะ”

    รุจเปรยสรุป แต่ก็หันไปเห็นบางคนที่มีสายตาสงสัยมองเขา

    “หึงหรือไง ที่เขามาปรึกษาฉันแทนนายน่ะภูริ”

    ภูริสะดุ้งโหยงเมื่อถูกพาดพิง และก็ยิ่งเครียดหนักเมื่อวาโยจ้องมองเขาอย่างกังวลนิด ๆ

    “บ้ารึ! ใครจะหึงหมอนั่นกัน ...ฉันก็แค่แปลกใจว่าเรื่องสำคัญขนาดนั้น ทำไมถึงมาคุยกับนายแทนได้ก็แค่นั้น...”

    รุจหัวเราะเบา ๆ แล้วจึงเฉลยให้กับภูริ รวมไปถึงเพื่อนร่วมงานคนอื่นฟัง

    “ก็เมื่อวานนี้ตอนพักรอบหลังของฉัน  ฉันเจอเขาอยู่ในครัวกำลังนั่งคุยกับพวกคุณนนแล้วก็คุณตาอยู่ยังไม่กลับสักที ฉันก็เลยถามเขา เลยได้ความว่าเมื่อวานนี้ลุงของเขาบอกว่าจะเลิกกิจการแล้วไปอยู่กับลูกสาวที่ต่างจังหวัดแทน เพราะทางนั้นตอนนี้ก็เริ่มมีฐานะมั่นคง จึงไม่อยากให้พ่อต้องทำงานเหนื่อยอีก ...ลุงเขาก็ตกลงแล้วเตรียมขายร้านให้เพื่อนที่สนิทกันทำต่อ แล้วก็มาถามธีรัชว่าจะทำงานที่นี่ต่อหรือกลับต่างจังหวัดด้วยกัน  ธีรัชก็เลยบอกลุงว่า อยากมาทำงานฟูลไทม์ที่ร้านคุณปวีร์แทน ลุงของเขาก็เลยไม่ว่าอะไร เพราะรู้ดีว่าที่หลานของตัวเองยังทำงานด้วยกัน เพราะอยากตอบแทนพระคุณเรื่องที่ลุงส่งเขาเรียนแทนพ่อแม่ที่เสียไปเพราะอุบัติเหตุ เมื่อเจ็ดแปดปีก่อนนั้น”

    ทุกคนเงียบกริบรับฟัง และเป็นภูริที่ถอนหายใจเบา ๆ เพราะเขาเองก็รู้สึกว่าเช้าเมื่อวานนี้ ธีรัชดูแปลก ๆ ไปเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้คิดซักถามอะไรอีกฝ่าย เพราะมัวแต่ทำงานยุ่ง ๆ อยู่

    “ดีเหมือนกันนะครับ ที่คุณธีรัชจะมาทำประจำ ร้านคงจะครึกครื้นขึ้นอีกเยอะเลยทีเดียว”

    วาโยเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มหลังจากฟังจบ เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของชายหนุ่มร่างเล็ก คนอื่น ๆ ก็ยิ้มน้อย ๆ ตาม และเมื่อชานนเข้ามาบอกพวกเขาว่าอาหารเช้าเตรียมพร้อมแล้ว ทั้งหมดจึงตามเชฟหนุ่มไปที่ห้องอาหารกันอย่างพร้อมเพรียง  และพูดคุยถึงเรื่องสมาชิกใหม่กันตลอดจนจบมื้อเช้านั้น

   

    ปวีร์ที่กลับมาทำงานอีกครั้ง ดูสดชื่นแจ่มใสราวกับว่าเจ้าตัวไม่เคยป่วยหนักมาก่อนหน้านั้น และเมื่อได้พบกับธีรัชที่มาก่อนเวลาเข้างานแต่เช้า เพื่อคุยเรื่องขอทำงานแบบฟูลไทม์ ชายหนุ่มก็ยอมตกลงอย่างง่ายดาย โดยไม่มีข้อแม้อะไรผูกมัดมากมาย เพราะหมายตาอีกฝ่ายไว้ก่อนหน้านั้นอยู่นานแล้ว

    “ขอบคุณมากนะครับ คุณปวีร์”

    ธีรัชไหว้ขอบคุณอีกฝ่ายอย่างจริงใจ เพราะเขาเองนั้นเริ่มชอบร้านและเพื่อนร่วมงานของที่นี่ขึ้นมาแล้ว ถ้าจะให้ทำงานพาร์ทไทม์อย่างเดียว เขาก็คงต้องไปหาบ้านเช่า และรับงานร้องเพลงกลางคืนอีก ซึ่งจะทำให้มีรายจ่ายเพิ่มมากขึ้น และที่สำคัญกับคนอื่นก็คงไม่ผ่อนปรนเรื่องเวลางานกับเขาเหมือนอย่างลุงเขาเคยทำแน่

    “ไม่เป็นไร ...อีกอย่างฉันคิดว่าเธอคงไม่ทำให้ฉันผิดหวังแน่ จริงไหม”

    ปวีร์ถามยิ้ม ๆ ลองเชิง ซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มน้อย ๆ แล้วพยักหน้าตอบรับ

    “ผมจะทำงานอย่างเต็มที่และเต็มความสามารถของตัวเองครับ”

    ปวีร์หัวเราะเบา ๆ แล้วตบบ่าอีกฝ่าย

    “ฉันเชื่อ ...ราเมศยังชมเธอให้ฉันฟังเลยว่า ขยันและตั้งใจทำงานดีในช่วงที่ฉันหยุดไปน่ะ”

    ธีรัชยิ้มรับ จากนั้นปวีร์จึงให้อีกฝ่ายไปติดต่อกับชานนเรื่องห้องพัก และหากธีรัชต้องการก็สามารถย้ายเข้ามาอยู่ได้ตั้งแต่วันนี้เลย ส่วนเรื่องตารางงาน เขาจะเริ่มเปลี่ยนตารางพักของชายหนุ่มให้ใหม่ และเริ่มใช้จริงตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป

   

    ธีรัชตรงไปหาชานนที่ห้องครัว ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเปิดร้าน แต่เชฟหนุ่มนั้นเตรียมอุปกรณ์และปัดกวาดเช็ดถูภายในครัวเรียบร้อย และกำลังนั่งพักรอเวลาทำงานอยู่

    “อ้าว คุณธีรัช สวัสดีครับ วันนี้มาแต่เช้าเชียวนะครับ”

    “สวัสดีครับคุณนน พอดีรีบมาติดต่อเรื่องทำงานฟูลไทม์กับคุณปวีร์น่ะครับ กะว่าถ้าถูกปฏิเสธจะได้มีเวลาตั้งหลักหางานเสริมสักหน่อย”

    ชานนหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้วบอกกับอีกฝ่าย

    “แต่คุณปวีร์ไม่ได้ปฏิเสธใช่ไหมล่ะครับ”

    “แหะ ๆ ใช่ครับ แถมยังบอกว่าถ้าจะย้ายก็มาวันนี้ได้เลยด้วยซ้ำ แล้วก็ให้ผมมาหาคุณนนนี่ล่ะครับ”

    ชานนยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงเดินไปที่กระเป๋าสะพายส่วนตัวของเขาที่แขวนอยู่มุมห้อง ก่อนจะหยิบกุญแจที่มีหมายเลขหนึ่งห้อยติดไว้ ยื่นส่งให้อีกฝ่าย

    “งั้นก็นี่ครับ ห้องของคุณ ส่วนรูมเมทของคุณก็คือคุณรุจนะครับ”

    ธีรัชแทบจะทำกุญแจที่ถือไว้ตกหลุดมือเมื่อได้ยินอีกฝ่ายบอก

    “เอ๋! ทำไมเป็นคุณรุจล่ะครับ เท่าที่รู้มาห้องที่ว่างเป็นห้องของคุณหนูนั่นไม่ใช่หรือครับ”

    “เป็นฉันแล้วมันแย่ตรงไหนหรือธีรัช...”

    เสียงที่แทรกขัดขึ้นมาทำให้คนได้ยินสะดุ้งโหยง แล้วจึงหันไปมองต้นเสียงก่อนจะยิ้มเจื่อน ๆ

    “ผมจัดโต๊ะข้างนอกเรียบร้อย เลยว่าจะแวะมาดื่มน้ำในครัวสักหน่อย...ไม่คิดเลยว่าจะมีคนรังเกียจจะร่วมห้องกับผมถึงขนาดนี้เลยนะ เสียความมั่นใจไปเลยนะครับเนี่ย”

    รุจหันไปบอกกับชานนพร้อมรอยยิ้ม ส่วนชานนหัวเราะเบา ๆ ตอบ เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายพูดไปก็เพื่อจะแหย่ว่าที่รูมเมทคนใหม่ก็เท่านั้น

    “ง่า...ไม่ได้รังเกียจเลยครับ แค่แปลกใจเท่านั้นเอง”

    “หึ ๆ ล้อเล่นน่า... ส่วนเรื่องห้องเพิ่งจะเปลี่ยนกันเมื่อเช้านี่ล่ะ พอดีคนอื่นเขามีความกังวลอะไรหลาย ๆ อย่าง ฉันก็เลยเสนอให้จัดห้องใหม่  โยไปอยู่ห้องเดียวกับริน ส่วนภูริก็ไปอยู่คู่กับวิน  แล้วที่เหลือก็คือนาย ที่จะต้องมาอยู่กับฉันยังไงล่ะ”

    คำอธิบายของรุจทำให้ธีรัชร้องอ๋ออย่างเข้าใจ แล้วจึงยิ้มน้อย ๆ ติดเจ้าเล่ห์ตามมา

    “ไอ้ผมก็นึกว่าแต่ละคู่เขาอยากจะจับคู่กันเองเสียอีก กลายเป็นว่าจัดห้องตามสถานภาพรุกรับกันนี่เองล่ะนะ”

    รุจหัวเราะในลำคอกับคำพูดของชายหนุ่มรุ่นน้อง พลางคิดในใจว่า นี่ถ้าพวกวาโยหรือภูริเข้ามาได้ยิน คงได้ทั้งอายทั้งโกรธกันทีเดียวล่ะนะ

    “ทีแรกฉันก็ยุให้จับคู่กันอยู่หรอก แต่เพื่อนนายเขากลัวห้ามใจไม่ได้ ก็เลยจับแยกแบบนั้นแทน”

    พอรุจบอกตามมา ธีรัชก็ชะงักกึก ก่อนจะหัวเราะเสียงดังตามมา จนคนอื่น ๆ ที่อยู่ด้านนอกทยอยโผล่เข้ามาดู

    “ไม่รู้มาก่อนว่านายจะหื่นแบบนี้เลยว่ะเพื่อน!”

    ธีรัชหันไปบอกกับภูริที่เข้ามามุงอย่างสงสัย ชายหนุ่มขมวดคิ้วนิ่วหน้าแล้วย้อนถามกลับ

    “หมายความว่าไง”

    “ก็...ไม่กล้าอยู่ห้องเดียวกับหนูโย เพราะกลัวห้ามตัวห้ามใจไม่ไหว เผลอจับเขากดเอาใช่ไหมล่ะ ฉันรู้นะ!”

    ธีรัชแกล้งหยอก ทำเอาวาโยที่เข้ามาด้วยหน้าแดงก่ำ ส่วนภูริสะดุ้งโหยง แล้วหันขวับไปมองรุจตาเขม็ง

    “ฉันก็แค่เล่าสาเหตุที่ทำให้เขากลายมาเป็นรูมเมทของฉันให้เขาฟังก็เท่านั้น ...หรือว่าเป็นเรื่องห้ามเล่าล่ะ  อ๊ะ! ถ้าอย่างนั้นก็ขอโทษด้วยแล้วกันนะ”

    รุจบอกแล้วยิ้มน้อย ๆ อย่างไม่สะทกสะท้าน ภูริกัดฟันกรอด ส่วนวาโยนั้นอายจนไม่อยากยืนอยู่ต่อ เขารีบเลี่ยงออกไปจากครัว ทิ้งให้ภูริมองตามตาปริบ ๆ แล้วหันกลับมาเขม่นเพื่อนสนิทแทน

    “โอ๋! อย่าจ้องอย่างนั้นสิ น่ากลัวชะมัด เอาเป็นว่าเพื่อนขอโทษแล้วกัน  แต่พวกนายนี่ไร้เดียงสากันจังว่ะ คบกันแล้วแท้ ๆ อายอะไรกับอีแค่เรื่องบนเตียงแบบนี้”

    “ใครจะหน้าด้านได้เหมือนนายล่ะ!”

    ภูริกระแทกเสียง ซึ่งการินที่มองอยู่ห่าง ๆ นั้นแอบพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แม้จะเริ่มสนิทใจกับธีรัชบ้างแล้ว แต่เขาก็ไม่ค่อยชินและไม่ชอบเรื่องปากเสีย ขวานผ่าซากของอีกฝ่ายเอาเสียเลย เขาว่ากวินนั้นชอบพูดตรง ๆ ให้เขาโมโหอยู่บ่อย ๆ แล้วนะ แต่ถ้าเทียบเรื่องปากเสียแล้ว ธีรัชนั้นกินขาดกวินอยู่มากทีเดียว

    “แล้วตกลงคุณธีรัชจะย้ายมาวันนี้เลยหรือเปล่าครับ”

    กวินถามขัดขึ้นมาเพราะเกรงว่าต่างคนต่างจะแหย่กันเกินเลย จนกลายเป็นทะเลาะกันไปแทนเสียเปล่า

    “อือ! ก็ว่างั้น วันนี้ทำพาร์ทไทม์วันสุดท้าย ก็เลยกะว่าพอทำเสร็จจะไปขนของมาเตรียมไว้ก่อนเลยน่ะ”

    “ห้องที่นายจะเข้าไปอยู่ เป็นห้องด้านขวา ห้องเดิมของภูริ พวกเรายังไม่ได้เก็บของ แต่นายเอาของไปกองไว้รอจัดข้างในนั่นก่อนก็ได้”

    รุจเอ่ยเสริม ซึ่งธีรัชก็หันไปพยักหน้ารับรู้ จากนั้นพวกเขาก็คุยกันอีกสักพัก ก่อนจะแยกย้ายกันไปเตรียมทำงาน เมื่อมองนาฬิกาดูแล้ว ใกล้ถึงเวลาเปิดร้านเต็มที




... TBC ...

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6
จิ้มเลยคนแรก
ธีรัชย้ายมาแล้วคงเกิดเรื่องวุ้นๆอีกแน่เลย

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 :m3: :m3: น้องโยน่ารักเสมอ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
โว้ ๆ ๆ คงมีเรื่องสนุก ๆ อีกแน่ ๆ เลย

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
ธีรัชอยุ่ห้องเดียวกับรุจ
คุณไกรสร จะมีศัตรูหัวใจมั้ยนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด