[...Miracle Café...] คาเฟ่อลวน-คนอลเวง / +ตอนพิเศษให้อ่านแถม P.22
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [...Miracle Café...] คาเฟ่อลวน-คนอลเวง / +ตอนพิเศษให้อ่านแถม P.22  (อ่าน 223585 ครั้ง)

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
เข้ามาเต็มตัวแบบนี้แล้ว ที่ร้านคงมีเรื่องสนุกๆรออยู่อีกเยอะสินะ

โฮะๆๆๆ

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
หรือว่า รุจชอบธีรัช แต่ไม่น่าใช่เนอะ

5555 คู่คุณชานนดีไหม

เขาชอบอะ 555

ออฟไลน์ kasarus

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
หวังว่าธีรัชจะไม่ได้เข้ามาป่วนอะไรหนุ่มๆ เค้านะ
ว่าแต่คุณไกรศรจะมาทำอะไรมั่งนะวันนี้

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
คนเยอะๆ อบอุ่นดี แต่เราก็ไม่ได้นึกเลยนะว่าจะเปลี่ยนห้องกันแบบนี้
แสดงว่าเด็กๆไม่ค่อยหื่นเหมือนเรา  :laugh:

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
อยากให้รุจคู่กะธีรัชจัง คงมีอะไรให้ลุ้นน่าดู

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
เค้ายังรักกันแบบใสๆอยู่

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
โยนี่ก็หน้าแดงอย่างเดียวเลยนะหนู    :o8:
ไม่มีปากมีเสียงอะไรเลย  น่ารักน่ากดจริงๆเด็กคนนี้   :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
แล้วธีรัชจะคู่กับใครละเนี่ย คุณชานนออกจะแมน หน้าจะเป็นรุกอะคับ

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
แล้วธีรัชจะคู่กับใครละเนี่ย คุณชานนออกจะแมน หน้าจะเป็นรุกอะคับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
แล้วธีรัชจะคู่กับใครละเนี่ย คุณชานนออกจะแมน หน้าจะเป็นรุกอะคับ

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
แล้วธีรัชจะคู่กับใครละเนี่ย คุณชานนออกจะแมน หน้าจะเป็นรุกอะคับ

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
แล้วธีรัชจะคู่กับใครละเนี่ย คุณชานนออกจะแมน หน้าจะเป็นรุกอะคับ

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
**คุณไกรพ้นโทษแล้วค่ะ (หุ ๆ ) เลยขอมาเสนอหน้าให้นักอ่านหมั่นไส้กับเขาบ้าง  ส่วนใครรอคู่ของหนุ่มธีรัช รอไปก่อนนะคะ มีคู่แน่นอน แต่ยังไม่เขียนถึงตอนนี้จ้ะ  รอลุ้นอ่านเองนะคะ ^^



Miracle Café / 38




     สองสาวเดินจ้ำพรวด ๆ เข้ามาในร้าน และรีบเข้าไปในครัวเพื่อหยิบผ้ากันเปื้อนมาใส่ ปากก็บ่นว่าพี่ชายที่ดันมัวแต่ไปแวะร้านดอกไม้จนทำให้มาช้า ทั้งที่เป็นคนอาสามาส่งพวกเธอแท้ ๆ

    “ไงรุจ ไม่เจอหน้าฉันสามวัน คิดถึงกันบ้างไหม”

    ไกรสรที่ไม่ได้ใส่ใจคำบ่นของน้องสาวทั้งสอง แต่กลับเอ่ยทักทายพนักงานแคชเชียร์ที่เขาสนใจ พลางเดินตรงนำช่อดอกกุหลาบสีม่วงช่อใหญ่มาให้อีกฝ่ายแทน

    “ฉันสั่งทางร้านไปเมื่อสองวันก่อนให้หามาให้ สวยไหม”

    รุจถอนหายใจเบา ๆ พลางรับช่อดอกไม้ที่อีกฝ่ายมอบให้ ก่อนจะตอบออกไปเรียบ ๆ

    “คราวหลังไม่ต้องเอาดอกไม้มาให้ทุกวันก็ได้ครับ สิ้นเปลืองเปล่า ๆ”

    ไกรสรยิ้มน้อย ๆ อย่างไม่ถือสา แล้วมองอีกฝ่ายวางช่อดอกไม้ไว้ข้าง ๆ แคชเชียร์ จากนั้นเขาจึงชวนรุจคุยต่อ

    “แล้วเธอชอบอะไรล่ะ ฉันจะได้เปลี่ยนจากดอกไม้เป็นของที่เธอชอบแทน”

    รุจเหลือบมองคนพูดแล้วจึงเปรยตอบค่อย ๆ

    “งั้นถ้าผมบอกว่าชอบรถ หรือบ้าน คุณจะซื้อมาให้ผมหรือไง”

    ไกรสรทำท่านิ่งคิด ก่อนจะแย้มยิ้มส่งให้อีกฝ่าย

    “ชอบของแพงไปนิด แต่ถ้าอยากได้จริง ๆ ก็โอเคล่ะนะ”

    คนฟังถอนหายใจเบา ๆ แล้วจึงยักไหล่น้อย ๆ พลางเอ่ยตัดบทการสนทนา

    “ผมเองก็ลืมไปว่าพูดกับเศรษฐีอยู่ ...เอาเป็นว่าถ้าอยากจะมาหา ไม่จำเป็นต้องเอาของมาหลอกล่อหรอกครับ สิ้นเปลืองเปล่า ๆ ผมพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีดีอยู่แล้ว”

    “หึ ๆ ไร้เยื่อใยจริงนะ ...แต่เย็นชาแบบนี้ก็ดูเร้าใจไปอีกแบบดี”   

    ไกรสรเอ่ยต่อ ยังคงยืนจีบชายหนุ่มอย่างไม่เกรงสายตาของใครในร้าน จนปวีร์ที่ลงมาจากชั้นบนเพื่อดูแลความเรียบร้อยของร้าน ต้องกระแอมเบา ๆ เตือน

    “พี่ไกร...ร้านจะเปิดอยู่แล้ว ผมว่าถ้าพี่อยากจะนั่งเฝ้าคน ก็ไปหาที่นั่งให้เป็นที่เป็นทางดีกว่านะครับ ยืนแถวนี้มันเกะกะพนักงานของผม”

    “เออ ๆ รู้แล้วน่า ทำเป็นคุณแม่หวงลูกชายไปได้!”

    ไกรสรหันไปตอบอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นักที่ถูกขัดจังหวะ แต่ก็ยังคงเดินไปเลือกที่นั่งซึ่งอยู่ใกล้และเห็นรุจทำงานได้อยู่ตลอดเวลา ก่อนจะส่งยิ้มให้กับรุจที่เบือนหน้าไปลอบถอนหายใจกับการตื๊อชนิดไม่สนใจใครของอีกฝ่าย

   

    “น่ากลัวชะมัด ...โชคดีที่ผมไม่ใช่สเป็คของเขานะนั่น ขืนโดนคนแบบนั้นตื๊อ มีหวังไม่รอดแน่”

    ธีรัชที่เฝ้ามองอยู่เอ่ยกระซิบกระซาบบอกกับรุจ ซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มน้อย ๆ แล้วเปรยถาม

    “สนใจสมัครเป็นกันชนให้ฉันไหมล่ะ”

    “ไม่ดีกว่าครับ ไม่อยากถูกดักตีหัวเวลาไปไหนคนเดียว”

    ธีรัชบอกแล้วทำเป็นเบ้หน้าจนรุจหลุดหัวเราะอย่างนึกขำ ทำเอาคนที่มองอยู่ชะงักแล้วเหลือบมองธีรัชด้วยสายตาแปลก ๆ จนคนถูกจ้องรู้สึกตัวแล้วรีบเลี่ยงไปยืนคุมด้านนอกแทน

    “สนิทกันดีจังนะ...เจอกันไม่กี่วันเองไม่ใช่หรือ”

    คนที่นั่งอยู่บนโต๊ะลุกขึ้นแล้วเดินมาถาม รุจมองอีกฝ่ายนิ่งก่อนจะซ่อนยิ้มไว้ในสีหน้า แล้วเปรยตอบเรียบ ๆ

    “ก็เป็นว่าที่รูมเมทคนใหม่นี่ครับ ก็ต้องทำความสนิทสนมกันไว้ก่อน อีกอย่างเขาก็ถูกสเป็คผมดี...ในหลาย ๆ เรื่องล่ะนะ”

    ไกรสรเม้มปากน้อย ๆ กับสิ่งที่ได้ยิน เขานิ่งไปสักพัก แล้วจึงกระซิบเบา ๆ ตอบ

        “ถ้าเธอถูกใจเขาฝ่ายเดียวฉันไม่ว่าหรอก... เพราะฉันน่ะสู้เด็กนั่นได้สบายอยู่แล้ว”

    “มั่นใจจังนะครับ” รุจเปรยแหย่ ซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มน้อย ๆ แล้วตอบออกไปเบา ๆ

    “ถ้าไม่เป็นแบบนี้ คงจับไม่ได้ไล่ไม่ทันเธอแน่ ...ว่างั้นไหมล่ะ”

    ไกรสรแย้ง แล้วเอ่ยตอบแฝงความนัยเป็นเชิงว่า เขารู้ดีที่อีกฝ่ายต้องการยั่วให้เขาหึง และเบนเป้าหมายไปวุ่นวายกับธีรัชแทนตนเอง

    “หึ ๆ แบบนี้ค่อยน่าสนใจหน่อย... แต่ถ้าระหว่างงานไม่มายุ่งวุ่นวายกันมากไป ก็จะให้คะแนนเพิ่มยิ่งกว่านี้ล่ะนะครับ”

    รุจเปรยตอบยิ้ม ๆ และเมื่อได้ยินเสียงกระดิ่งดังขึ้นและมีลูกค้าคนแรกเข้ามาในร้าน ไกรสรจึงหันไปมอง และหันกลับมาหาคนตรงหน้าอีกที

    “โอเค...ได้ยินเธอพูดแบบนี้ค่อยมีกำลังใจจีบหน่อย งั้นฉันไปทำหน้าที่ลูกค้าที่ดีของร้านแล้วกัน ...อะ จริงสิ”

    ไกรสรถือวิสาสะหยิบป้ายจองที่วางแถวเคาท์เตอร์ ไปวางที่โต๊ะเดิมซึ่งตัวเองนั่นก่อนหน้านั้น แล้วจึงเดินออกไปนอกร้านไปที่รถ ก่อนจะหยิบสมุดสเก็ตภาพติดตัวเข้ามาด้วย

    “ให้นั่งเฉย ๆ ทั้งวันมันก็ได้หรอก แต่อยู่ว่าง ๆ แบบนี้ช่วยวีดีไซน์ชุดให้พวกเธอไว้ใส่ตอนมีอีเวนท์พิเศษ ก็น่าจะดีกว่า”

    ปวีร์ที่อยู่แถวนั้นอมยิ้มน้อย ๆ ส่วนคนอื่น ๆ ต่างเหลือบมองดูไกรสรอย่างกังวล แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นดีไซเนอร์มืออาชีพ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะดีไซน์ชุดแบบไหนมาให้พวกเขาใส่กันแน่

   

    พักเที่ยงพอถึงชั่วโมงพักของรุจ ไกรสรก็เดินตามเข้าไปด้านในครัว โดยมีสายตาแปลกใจของลูกค้าบางคนมองตามไป พวกพนักงานที่อยู่แถวนั้นจึงได้แต่บอกกับลูกค้าของพวกเขาว่า อีกฝ่ายนั้นเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าของร้าน ลูกค้าแต่ละคนจึงได้คลายสงสัยลง

    “เวลาพักของนายนี่น้อยจังนะ แค่กินข้าวเฉย ๆ ก็หมดเวลาแล้ว สงสัยต้องให้วีจ้างแคชเชียร์มาเพิ่มอีกคนแล้วคอยเปลี่ยนเวรกัน พวกที่บาร์จะได้มีเวลาพักมากกว่านี้สักหน่อย”

    ไกรสรที่นั่งมองคนกินข้าวกลางวันเสนอพร้อมแย้มยิ้มน้อย ๆ ทำให้กวินกับวาโยที่พักรอบเดียวกับรุจถึงกับยิ้มเจื่อน ๆ ส่วนขวัญตานั้นถอนหายใจเบา ๆ แล้วเอ่ยกับพี่ชายของเธอ

    “ขืนเป็นแบบนั้นพี่วีก็กำไรไม่เหลือพอดีสิคะ แต่ถ้าพี่ไกรจะลาออกจากงาน มาทำแคชเชียร์ให้พี่วีฟรี ๆ ตาว่าพี่วีก็คงโอเคนะคะ”

    ท้ายประโยคหญิงสาวหยอกพี่ชายของเธอเล่น ซึ่งไกรสรก็หัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ก่อนจะเปรยตอบน้องสาว

    “ทำงานไม่เอาเงินเดือนหรือ...ก็ได้อยู่หรอกนะ แต่ต้องให้พี่พักห้องเดียวกับแคชเชียร์ของร้านอีกคนนะ พี่ถึงจะยอมน่ะ”

    รุจเหลือบมองคนพูดแล้วสั่นศีรษะเบา ๆ อย่างเอือมระอา ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินอาหารของตนต่อโดยไม่คิดต่อล้อต่อเถียงกับอีกฝ่ายแต่อย่างใด

     “รู้สึกพี่จะแพ้กับข้าวของคุณนนเสียแล้วสิตา ...ดูสิกินเอากินเอา ไม่ยอมมองหน้าพี่เลยสักนิด”

    ไกรสรแกล้งเปรยตัดพ้อ ทำให้ชานนอมยิ้มน้อย ๆ ส่วนขวัญตานั้นหัวเราะเสียงใส อย่างไม่คิดปิดบัง

    “ถ้าเทียบพี่ไกรกับอาหารของคุณนนแล้วล่ะก็ พี่ไกรแพ้หลุดลุ่ยแน่ค่ะ เป็นตา ตาก็เลือกอาหารของคุณนนแทนอยู่แล้ว”

    คำตอบของน้องสาวทำให้ไกรสรถอนหายใจเฮือกใหญ่ ส่วนรุจยิ้มนิด ๆ ที่มุมปาก และกวินกับวาโยหันไปมองหญิงสาวตาปริบ ๆ

    “แย่จัง แม้แต่น้องสาวยังไม่ยอมเข้าข้างฉันเลยแฮะ... น่าสงสารใช่ไหมล่ะรุจ”

    “ครับ...น่าสงสาร” รุจตอบรับด้วยใบหน้าที่แสร้งทำเป็นเรียบเฉย ขณะยกน้ำดื่มขึ้นจิบน้อย ๆ

    “งั้นไม่คิดจะรับอาสาช่วยปลอบหน่อยหรือ” ไกรสรยังคงตื๊อต่อ ก่อนจะชะงักและใจเต้นนิด ๆ เมื่ออีกฝ่ายยิ้มหวานให้เขา

    “ไม่หรอกครับ ให้เป็นพี่เลี้ยงเด็กยังพอไหว แต่ถ้าพ่วงดูแลผู้สูงวัยไปด้วย เห็นทีคงจะลำบาก”

    บอกแล้วรุจก็เดินเอาจานของตนไปล้าง โดยมีไกรสรมองตามไปพร้อมกับขมวดคิ้วยุ่งเล็กน้อย

    “ไม่ชอบผู้ชายอายุมากกว่าอย่างนั้นหรือ”

    รุจเหลือบมามองแล้วยิ้มน้อย ๆ ให้

    “ก็ไม่เชิงหรอกครับ ...จริง ๆ แล้วถ้าจะให้พูดก็คือ ผมค่อนข้างชอบผู้หญิงมากกว่า”

    ไกรสรเลิกคิ้วนิด ๆ แล้วจึงเอ่ยต่อพร้อมรอยยิ้ม

    “ฉันก็ชอบผู้หญิงเหมือนกัน ...แต่ตอนนี้ชอบเธอมากกว่าแล้วล่ะนะ”

    คำพูดจีบตรง ๆ ซึ่งหน้าของชายหนุ่ม ทำให้วาโยนั่งก้มหน้าก้มตากินด้วยความอาย แม้แต่กวินยังกลืนน้ำลายลงคอ อย่างนับถือที่อีกฝ่ายกล้าพูดต่อหน้าเจ้าตัวโดยไม่สนใจว่าจะมีใครอยู่ด้วยหรือเปล่าเช่นนี้

    “รู้สึกเป็นเกียรติจังเลยครับ แต่ตอนนี้ผมยังไม่พร้อมจะมีใคร”

    รุจหันมาบอกยิ้ม ๆ เขาล้างจานเสร็จ ก็เก็บจานคว่ำไว้แถวนั้น ดูเวลาก็ยังเหลืออีกหลายนาที จึงมานั่งที่ฝั่งตรงข้ามกับไกรสร

    “ถ้าไม่ลองดูจะรู้หรือว่าดีไม่ดีน่ะ  และถ้าไม่ดีจริง รุ่นน้องเธอแต่ละคนคงไม่แฮปปี้กันแบบนี้หรอก จริงไหม”

    ไกรสรหันมาทางวาโยและกวินให้ช่วยเขาพูดอีกแรง แต่วาโยนั้นสะดุ้งโหยงยิ่งหน้าแดงหนัก และกวินอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ พูดอะไรไม่ออก

    ทางด้านรุจพอเจอรุกแบบนี้เข้าเจ้าตัวก็อดขำไม่ได้ เขาไม่แปลกใจเลยที่ขวัญแก้วและขวัญตาจะบอกว่าพี่ชายของเธอนั้นเจ้าชู้ เป็นเสือผู้หญิง และเปลี่ยนสาวควงเล่นบ่อย ๆ  ก็เล่นหน้าหนาหน้าด้านหน้าทนแบบนี้ไงเล่า ผู้หญิงต่อให้ใจแข็งแค่ไหน เจอลูกตื๊อมาก ๆ เข้า ก็อดใจอ่อนไม่ได้อยู่ดีล่ะนะ

    “แล้วถ้ายอมคบด้วย แต่ไม่อนุญาตให้ล่วงเกินล่ะครับ”

    รุจเสนอขึ้นบ้างทำให้ไกรสรชะงัก และไม่เพียงแต่ชายหนุ่มเท่านั้น คนอื่น ๆ ในห้องครัวก็เงียบกริบ แม้จะทำไม่สนใจแต่ทุกคนต่างก็เงี่ยหูฟังกันถ้วนหน้าอยู่ดี

    “ไม่ให้ล่วงเกินนี่หมายถึงขนาดไหนล่ะ” ไกรสรถามอย่างสนใจ ซึ่งรุจก็ยิ้มน้อย ๆ แล้วตอบออกไปสั้น ๆ

    “ทุกอย่างเลยครับ”

    “ทุกอย่าง...อย่าบอกนะว่ากระทั่งจับมือถือแขนก็ไม่ได้”

    ไกรสรถามด้วยสีหน้ายุ่ง ๆ ซึ่งรุจก็ยิ้มน้อย ๆ ก่อนพยักหน้า

    “ครับ...แบบนั้นเลยล่ะ”

    “แล้วจะเรียกคบกันเป็นแฟนได้ยังไงล่ะแบบนั้นน่ะ!”

     ไกรสรโวยอย่างไม่สบอารมณ์ ซึ่งรุจก็ยักไหล่นิด ๆ

    “ก็ไม่ได้บังคับให้มาคบด้วยนี่ครับ”

    คนฟังขมวดคิ้วยุ่งอย่างหงุดหงิด อีกฝ่ายแกล้งยื่นเงื่อนไขแบบนี้ ก็เท่ากับว่าไม่ยอมตกลงรับเขาเป็นแฟนทางอ้อมนั่นล่ะ

    “มีกำหนดเวลาด้วยไหม ...คนนะไม่ใช่ปลากัด จะได้ให้แค่จ้องตากันได้ทั้งวัน  เป็นแฟนกัน มันก็อยากทำอะไรกุ๊กกิ๊กกันบ้าง อย่างน้อยก็จูบนั่นล่ะ”

    ไกรสรเอ่ยถามตรง ๆ เสียจนขวัญตารู้สึกอายแทนพี่ชาย ส่วนชานนทำเป็นไม่สนใจฟัง และวาโยสะกิดกวินยิก ๆ ด้วยความเขิน เป็นเชิงว่าให้รูมเมทเลี่ยงขึ้นชั้นสองกันดีกว่า ทว่ากวินกลับส่งสายตาให้อีกฝ่ายรอสักนิด เพราะเขาเองก็สนใจเหมือนกันว่ารุจจะตอบกลับไปว่าอย่างไร

    “ผมก็ว่าอย่างคุณคงทำไม่ได้อยู่แล้ว...เอาเถอะ คุณบอกว่าจะพักร้อนอยู่ในไทยนี่สักเดือนสินะ ...งั้นผมจะให้เวลาคุณสักสองอาทิตย์ ระหว่างนั้น คุณจะมาเฝ้าหรือจะชวนเดทในวันหยุด ผมก็จะไปกับคุณเหมือนคนเป็นแฟนกันตามปกติ แต่ห้ามคุณเกาะแกะผมในเชิงชู้สาวเด็ดขาด แต่ถ้าอุบัติเหตุโดนตัวนิด ๆ หน่อย ๆ อันนั้นผมไม่ถือ แต่ถ้าพิสูจน์ได้ว่าตั้งใจ ก็ถือว่าผิดสัญญา เรื่องของเราก็โมฆะทันที โอเคไหมครับ”

    ไกรสรนิ่งรับฟัง แล้วสบตากับแววตาท้าทายของอีกฝ่าย เขาเหยียดยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก แล้วจึงเอ่ยตอบ

    “ก็แฟร์ดี...งั้นเรามาพนันกัน ถ้าฉันอดทนได้ถึงสองอาทิตย์ เธอต้องลองเปิดโอกาสให้ฉันจีบเธอจริงจัง โอเคไหม”

    รุจเลิกคิ้วนิด ๆ แล้วจึงยิ้มตอบ

    “ผมคิดว่าคุณจะเรียกร้องว่าถ้าทนได้ แล้วจะให้ผมมาเป็นแฟนคุณจริง ๆ เสียอีก”

    “อยากพนันแบบนั้นเหมือนกัน แต่ขืนเสนอแบบนั้นจริง สองอาทิตย์นี้ฉันว่าคงจะเจอด่านอรหันต์ให้ตบะแตกเข้าให้แน่...สู้ให้เธอเห็นว่าฉันจริงใจ ไม่ได้คิดหลอกฟันเธอแล้วทิ้งไม่ดีกว่าหรือ แบบนี้น่าจะได้ใจเธอมากกว่าจริงไหม”

    รุจฟังแล้วก็หัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้วจึงยิ้มอ่อนโยนส่งให้อีกฝ่าย ที่ถึงกับชะงักเมื่อได้เห็นรอยยิ้มแบบนั้นของชายหนุ่มเป็นครั้งแรก

    “มาบอกแผนการแบบนี้คงจะได้ใจผมหรอกนะครับ ...แต่เอาเถอะ ผมรับข้อเสนอเรื่องพนันนั่นแล้วกัน”

    “อืม...งั้นจากวันนี้เธอกับฉันก็ถือว่าเป็นแฟนกันแล้ว ก่อนอื่นเอาเบอร์มือถือมาแลกกันก่อนเลย”

    ไกรสรรับคำแล้วหยิบโทรศัพท์ของตนออกมา รุจถอนหายใจเบา ๆ แต่ก็ยังคงยอมแลกเปลี่ยนเบอร์กับอีกฝ่าย กวินมองทั้งคู่ตาปริบ ๆ ไม่คิดว่าเรื่องราวมันจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ส่วนวาโยนั้นหน้าแดงนิด ๆ ด้วยความเขิน ก่อนจะขอตัวขึ้นไปบนชั้นสองเพราะไม่กล้าอยู่ฟังไกรสรจีบรุจต่ออีก

    “ห้ามจับโน่นนี่เชิงชู้สาวของเธอมีขอบเขตแค่ไหน  จับมือ โอบไหล่ นี่นับไหม  เกิดบางทีถ้าไปเที่ยวกันสองคน แล้วใครมาเหล่แฟนฉัน ฉันจะได้แสดงตัวกันท่าได้  ถ้าบอกแค่ปาก เดี๋ยวคนอื่นเขาเกิดไม่เชื่อกันพอดี”

    รุจมองคนเจ้าเล่ห์ได้คืบจะเอาศอกอย่างนึกขำ ส่วนขวัญตาเธอขี้เกียจยุ่งกับพี่ชายของเธอและหันมาให้ความสนใจกับการเตรียมอาหารให้ลูกค้าแทน ทางด้านกวินแม้จะอยากอยู่ฟังต่อ แต่พอเห็นไกรสรเหลือบส่งสายตาคมกริบมาไล่ทางอ้อม เขาจึงเลี่ยงเดินขึ้นไปชั้นสองตามวาโยไปอย่างจำใจ

    “ถ้าเกิดกรณีแบบนั้น ก็คงไม่มีปัญหา เพราะผมดูที่เจตนา... และผมก็เชื่อมั่นในสายตาและการตัดสินใจของตัวเองอยู่มากเหมือนกัน”

    รุจบอกยิ้ม ๆ ซึ่งก็ทำให้ไกรสรกลืนน้ำลายลงคอนิด ๆ เพราะรู้ซึ้งดีว่าอีกฝ่ายนั้นค่อนข้างทันคน และช่างสังเกตดีขนาดไหน

    “โอเค ...ฉันจะพยายาม ถ้าไม่แน่ใจก็จะถามเธอก่อนแล้วกัน”

    ไกรสรสรุปตัดบท ทำให้คนฟังอมยิ้ม เขาเหลือบดูเวลา และมองพวกขวัญตากับชานนที่หันหลังทำอาหารอยู่ ก่อนจะชะโงกหน้าไปหอมแก้มของไกรสรเบา ๆ จนเจ้าตัวถึงกับตกตะลึงนิ่งอึ้งอยู่กับที่

    “อ้อ...จริงสิ ผมลืมบอกไป กรณีที่ห้ามแตะต้องน่ะ เป็นแค่ฝ่ายคุณฝ่ายเดียวนะ ...แต่สำหรับผมไม่นับ”

    รุจกระซิบบอก ก่อนจะเดินฮัมเพลงออกจากห้องครัวไป  ขวัญตาหันกลับมาก็เห็นแต่พี่ชายของเธอนั่งนิ่งอึ้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดตามมาเมื่อตั้งสติได้

    “เด็กบ้า...เล่นใช้วิธีนี้หรือ...คอยดูเถอะ ฉันจะทนให้ได้แน่ ก็แค่สองอาทิตย์เท่านั้น... แล้วถ้าจีบได้เมื่อไหร่ จะเอาคืนทั้งต้นทั้งดอกให้น่าดูชมเลยทีเดียว!”

    ไกรสรพึมพำกับตัวเองอย่างมุ่งมั่น เขาเชื่อว่าเขาจะอดทนจนชนะเกมรักเกมนี้และคว้าหัวใจของอีกฝ่ายมาครองจนได้ จากนั้นเจ้าตัวจึงครุ่นคิดพยายามหาวิธีพิชิตใจของรุจให้ได้ในระหว่างสองอาทิตย์นี้เป็นการเร่งด่วน จนขวัญตาที่เหลือบมองมาถึงกับต้องส่ายหน้าอย่างเอือมระอา และหันกลับไปสนใจงานรับผิดชอบในส่วนของเธอต่อแทน



… TBC …

ฝากแจ้งข่าวนิดหนึ่งค่ะ  สำหรับแฟนนิยายหนังสือทำมือของปัทม์ที่เคยพลาดหนังสือเรื่องไหน แล้วยังหาเก็บไม่ได้  เดือนตุลาคม นี้ ปัดมีแพลนว่าจะรีปริ้นท์ทุกเรื่องที่เคยพิมพ์มา พร้อมกับรวมเล่มทำมือเรื่องมิราเคิลคาเฟ่นี้(ถ้าเขียนจบ) ค่ะ  ยังไงก็สามารถติดตามรายละเอียดจากทั้งหน้านิยาย และในแฟนเพจของปัดนะคะ  :L1:

 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2012 16:01:30 โดย Xenon »

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
รุจ ได้ใจสุดๆอ่ะ อยากรู้แล้วสิใครจะรุกใคร คู่นี้โดนอย่างแรง

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
รุจ ได้ใจสุดๆอ่ะ อยากรู้แล้วสิใครจะรุกใคร คู่นี้โดนอย่างแรง

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ถ้าไกรโดนยั่วแบบนี้เรื่อยๆจะทนไหวหรอเนี่ย?

ฮาาาา

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
รุจร้ายอ่ะ  ไกรสรตะบะแตกแน่ ๆ ไม่ทันครบ 2 สัปดาห์หรอก

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ไกรสรเทียบไม่ติดเลยเรื่องความเจ้าเล่ห์ รุจกินขาด  :laugh:
คู่นีทันกันดี อยากรู้จังเลยน้าว่าใครจะแพ้พนัน  :z1:
ส่วนหนูโยจะขี้เขินไปไหน อายม้วนต้วน น่าหยิกแก้มที่สุด :o8:

alekung103

  • บุคคลทั่วไป
อะนะ จะทนไหวหรือเปล่าเนี่ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
รุจยั่วไกรสรอย่างนี้ ถ้าเป็นแฟนต้องโดนเรียกเก็บหนัก
ยังคิดว่าภูริจะอยู่กับวาโย กวินอยู่กับการินซะอีก

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
ชอบคู่นี้สุดๆ รุจยั่วให้ตบะแตกไปเลย ฮ่าๆๆๆ

พี่ไกรสร สู้ๆนะคะ เชียร์อยู่ๆ

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
รุจร้ายมากกกอ่ะ 555  :laugh: :laugh:
ดีแล้ว  เจ้าชู้ตัวพ่ออย่างพี่ไกร  ต้องเจอแบบรุจนี่แหละ ถึงจะเอาอยู่   o18

ออฟไลน์ kasarus

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ตั้งโต๊ะรับแทงเลยดีกว่า ว่าคุณไกรศรจะอดและทนได้จนครบกำหนดรึเปล่า

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
กำลังสนุกเลย ตอนแรกคิดว่าแต่ละคู่อยู่แต่ห้อง ปรากฏว่าเป็นรับอยู่กับรับ รุกอยู่กับรุก
ไอ้ที่ว่าเดวอดใจไม่อยู่เนี่ยน่าจะเป็นภูริกับกวินมั้ง 555+  :m20:
คุณไกรจะทนได้ไหมเนี่ย รุจยั่วซะ :-[
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
พ่อไกรจะทนไหวเรอะ
รุจคงหาทางทำให้ไกรสรตบะแตกแน่^^

ออฟไลน์ entirom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-2
คู่นี้ถ้าจะมันส์

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
พี่ไกรจะทนได้ไหม สองอาทิตย์เนี้ย

อาจจะตบะแตกเพราะรุจก็เป็นได้ 5555

รออ่านตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4


Miracle Café / 39




    หลังจากตกลงเล่นเกมความรักกับรุจแล้ว ไกรสรก็ออกมานั่งที่เดิมข้างนอก และขีดเขียนดีไซน์ชุดของเขาไปตามปกติ จนคนอื่น ๆ ที่ทำงานอยู่ด้านนอกนึกแปลกใจ จนกระทั่งหมดเวลาพัก กวินกับวาโยก็ลงมาทำงานต่อ แต่พอวาโยเห็นรุจซึ่งหันมายิ้มให้เขา ชายหนุ่มก็หน้าแดงระเรื่อ แล้วเดินโค้งน้อย ๆ ผ่านด้านหลังอีกฝ่ายไป พอภูริหันไปเห็นวาโยหน้าแดง ๆ เขาก็นิ่วหน้า แล้วเหลือบมองกวินที่เดินตามมาด้วยแววตาคมกริบ

   “เฮ้ย! ไม่เกี่ยวกับผมนะ อย่ามองตาหาเรื่องกันแบบนั้นสิครับ”

   กวินรีบแก้ตัว ทำให้รุจที่ได้ยินแอบขำ ส่วนธีรัชที่หมดเวลาทำงาน และยืนอยู่แถวนั้นหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ชายหนุ่มเดินผ่านเพื่อนสนิทก่อนจะกระซิบแหย่

   “ขี้หวงจังนะเพื่อนเรา”

   “หนวกหูน่า!” ภูริกระแทกเสียงดุตอบอย่างไม่ดังนัก

   “อูย...กลัวชะมัด หึ ๆ งั้นฉันไปหาอะไรกินในครัวก่อนดีกว่า ...วันนี้คุณนนจะทำอะไรให้กินน้า อยากรู้จัง”

   ธีรัชเอ่ยตัดบทแล้วเดินเข้าครัวไปด้วยความหิว ทั้งที่เมื่อก่อนหน้าจะมาทำงานที่นี่ ชายหนุ่มนั้นกินข้าวแทบจะไม่เป็นเวลาด้วยซ้ำ แต่พอเจอฝีมือชานนเข้าไป กลายเป็นว่าพอถึงเวลากิน น้ำย่อยในท้องก็รีบออกมาประท้วงกันอยู่เป็นประจำเลยทีเดียว

   “เป็นอะไรไป ...ทำไมหน้าแดงแบบนี้”

   ภูริดึงตัววาโยไปคุยกันด้านนอก เนื่องจากเวลานี้ลูกค้ามีไม่มากนัก  เขาจึงปล่อยให้กวินกับการินคอยดูแลข้างในร้านแทน

   “เอ่อ...คือ ไม่มีอะไรหรอกครับ...ก็แค่นึกถึงเรื่องตอนพัก...แล้ว...”

   วาโยอ้ำอึ้งไม่กล้าบอก เพราะยังไงเรื่องที่ได้ยินก็เป็นเรื่องส่วนตัวของไกรสรและรุจ ซึ่งเขาไม่ควรนำมาบอกต่อกับคนอื่น

   “ตอนพัก ...ทำไม...”

   ภูริถามต่อด้วยน้ำเสียงและสีหน้าบึ้งตึงนิด ๆ จนวาโยต้องเหลือบมองอย่างแปลกใจ

   “โกรธอะไรหรือครับ...”

   คำถามที่ได้ยินทำให้คนฟังชะงัก แล้วจึงถอนหายใจหนัก ๆ พลางบอกไปตามตรง

   “ไม่ได้โกรธ ...แต่หึง... เห็นหน้าแดงแบบนั้นก็กลัวว่าจะมีใครจีบมาน่ะสิ”

   พอได้ฟังวาโยก็ยิ่งหน้าแดงหนัก แล้วก้มหน้างุด ๆ แทบจะทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะอุบอิบบอกความจริง เพราะไม่อยากให้ภูริเข้าใจผิด

   “ไม่ได้มีใครจีบหรอกครับ...แต่ฟังคนอื่นจีบกัน...แล้วก็เลยรู้สึกเขิน...ก็เท่านั้นเอง”

   ภูริขมวดคิ้วยุ่งนิ่งคิด ก่อนจะร้องอ๋อตามมาอย่างเข้าใจ

   “คุณไกรสรกับรุจสินะ”

   วาโยที่หน้าแดงก่ำพยักหน้าหงึก ๆ แทนคำตอบ พอเห็นดังนั้นภูริก็ถอนหายใจตามมาอย่างโล่งอก

   “ค่อยยังชั่ว... แต่ยังไงก็อย่าลืมล่ะ...อย่ามองใครนอกจากฉัน แล้วก็ชอบฉันให้มาก ๆ รู้ไหม ...ฉันจะได้หายกังวลสักที”

   ภูริกระซิบบอกพร้อมยิ้มน้อย ๆ และยังขโมยจูบแก้มเนียนนั่นเข้าให้ ทำเอาอีกฝ่ายแทบจะแดงไปทั้งตัวด้วยความเขิน จากนั้นชายหนุ่มจึงปลีกตัวออกไปต้อนรับลูกค้าที่กำลังเดินมาที่ร้าน แต่ก็ยังไม่วายหันมาบอกคนที่ยืนอยู่

   “ให้เวลาปรับตัวปรับใจให้หายอายก่อน แล้วค่อยมาทำงานต่อ  ...แล้วอย่าไปทำหน้าเขิน ๆ แบบนี้ให้ใครเห็นนอกจากฉันล่ะ...”

   พอบอกจบชายหนุ่มก็เข้าไปต้อนรับแขกและเชื้อเชิญให้อีกฝ่ายเข้าไปนั่งด้านใน ส่วนวาโยพอเริ่มสงบสติอารมณ์ได้ เขาจึงเดินเข้าไปช่วยงานเพื่อนคนอื่นข้างในร้านหลังจากนั้นด้วยเช่นกัน

   

 อีกด้านหนึ่ง ธีรัชนั้นเข้ามานั่งกินอาหารด้านในครัวตามปกติ ทว่าเมื่ออิ่มแล้วเจ้าตัวก็ยังไม่รีบกลับที่พักเพื่อเก็บของย้ายมา แต่ยังคงนั่งเรื่อย ๆ มองชานนและขวัญตาทำอาหารอย่างสนอกสนใจ

   “ดีจังนะครับ คนทำอาหารเป็นนี่ ...ผมเองก็อยากลองหัดเรียนทำอาหารให้เป็นเรื่องเป็นราวกับเขาเหมือนกัน เผื่ออนาคตจะได้มีร้านอาหารเป็นของตัวเองบ้างสักร้าน”

   ขวัญตาหัวเราะเบา ๆ เมื่อได้ยิน ก่อนจะหันมาบอกกับอีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้ม

   “ก็ดีนี่จ๊ะ วงการอาหารจะได้มีเชฟหล่อ ๆ ไว้ประดับวงการกับเขาบ้าง”

   ธีรัชหัวเราะตอบเมื่อถูกอีกฝ่ายชม ส่วนชานนนั้น หลังจากเตรียมจัดอาหารไว้สำหรับลูกค้าเสร็จแล้ว เขาก็เดินไปที่ตู้เย็น แล้วหยิบของข้างในนั้นออกมาให้กับธีรัชที่นั่งอยู่

   “อ๊ะ! พุดดิ้งสตอเบอร์รี่... ฝีมือคุณนนหรือครับ!”

   ธีรัชอุทานด้วยความประหลาดใจปนดีใจเมื่อได้เห็นของหวานสุดโปรดของตน

   “ครับ...ผมจำได้ว่าคุณเคยบอกว่าชอบของหวานทุกอย่างที่มีสตอเบอร์รี่เป็นส่วนผสม  และวันนี้คุณก็เตรียมจะมาเป็นสมาชิกอย่างเต็มตัวที่ร้านของเรา ผมจึงทำไว้ให้ ...จริง ๆ ผมอยากทำเค้กสตอเบอร์รี่ต้อนรับคุณอยู่หรอกครับ แต่ลูกสตอเบอร์รี่ที่มีมันมีน้อยเต็มที และงานในครัวก็ยุ่ง ๆ จนไม่มีเวลาปลีกตัวไปซื้อ ก็เลยได้แต่พุดดิ้งถ้วยเล็ก ๆ แค่นี้ล่ะครับ”

   ชานนอธิบายและมีสีหน้ากังวลเล็กน้อย แต่นั่นกลับทำให้ธีรัชรู้สึกซาบซึ้งตื้นตันยิ่งนัก เพราะนอกจากพ่อแม่ที่เสียไปและลุงของเขา ก็ยังไม่เคยมีใครเอาใจใส่และดีต่อเขาแบบนี้มาก่อน

   “ขอบคุณจริง ๆ ครับ ...เค้กไม่ต้องหรอกครับ แค่นี้ก็พอแล้วครับ”

   เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายชอบอาหารหวานที่ตนเตรียมไว้ เชฟหนุ่มจึงถอนหายใจเบา ๆ อย่างโล่งอก

   “ค่อยยังชั่ว ผมเองก็กลัวจะโดนหาว่าลำเอียง เพราะตอนคนอื่นเข้ามาบ้านพักใหม่ ๆ ผมก็ทำอาหารเลี้ยงรับเสียเต็มที่ ...เอาเป็นว่าผมขอแก้ตัวในมื้อเช้าพรุ่งนี้แทนแล้วกันนะครับ”

   ธีรัชยิ้มกว้าง แล้วกล่าวขอบคุณอีกฝ่าย ก่อนจะเริ่มตักพุดดิ้งในถ้วยนั้นกินคำแรก แล้วจึงเบิกตากว้าง จากนั้นจึงตักกินที่เหลือตามมาอย่างรวดเร็วจนหมดถ้วย

   “แหม...น่าอิจฉาจังนะคะ ตาก็อยากกินแบบนั้นบ้างเหมือนกัน”

   ขวัญตาหันไปบอกกับชานน ซึ่งเชฟหนุ่มก็หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยตอบ

   “ผมไม่กล้าทำขนมให้เชฟขนมหวานมือหนึ่งอย่างคุณตาทานหรอกครับ ผมต่างหากที่อยากให้คุณตาทำให้ทานบ้างแทน”

   ขวัญตาถอนหายใจ แล้วจึงยิ้มน้อย ๆ ให้อีกฝ่าย เพราะรู้ดีว่าคนพูดไม่ได้ถ่อมตัวเกินงาม แต่พูดออกมาจากใจจริงของตน

   “คุณนนน่ะระดับโปรแล้วนะคะ มั่นใจตัวเองเถอะค่ะ ฝีมือขนาดนี้ส่งไปแข่งขันรายการอาหารระดับโลก ยังมีลุ้นชนะเลิศได้สบาย ๆ เลยค่ะ”

   ชานนยิ้มน้อย ๆ แล้วโค้งขอบคุณ เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะพูดจริงจังอะไร ทำให้ขวัญตาลอบถอนหายใจ สำหรับเธอรู้สึกโชคดีที่ได้มาทำงานร่วมกับชานน เพราะทำให้เธอสามารถเรียนรู้การทำอาหารของอีกฝ่าย และพัฒนาฝีมือของเธอให้เพิ่มมากขึ้น เสียยิ่งกว่าตอนเป็นเชฟขนมอยู่ตามโรงแรมชื่อดังเสียอีก

   “คุณนนครับ ไอ้นี่อร่อยจริง ๆ นะครับ ลองทำแล้วเสนอคุณปวีร์ดูเถอะครับ ผมว่ามีคนชอบกินสตอเบอร์รี่มากอยู่นะครับ”

   ธีรัชขัดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง ทำให้ชานนนิ่งคิด ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ ตอบอีกฝ่าย

   “ครับ...แล้วผมจะลองเสนอคุณปวีร์ดู ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ”

   ธีรัชยิ้มตอบ ก่อนจะชะงักเล็กน้อย เมื่ออีกฝ่ายที่กำลังเดินไปเตรียมอาหารต่อ หันกลับมาบอกเขา

   “แล้วค่ำนี้อย่าลืมแวะมาทานอาหารที่ร้านพร้อมกันนะครับ ผมจะเตรียมส่วนของคุณเอาไว้ด้วย”

   คนฟังยิ้มกว้างแล้วพยักหน้าหงึก ๆ อย่างยินดี เขานั่งมองชานนที่ทำงานอย่างชื่นชม และคิดในใจว่าสักวันหนึ่ง เขาจะเป็นคนที่ทำให้คนอื่นยิ้มแย้มและมีความสุข ด้วยฝีมืออาหารของตนเองอย่างที่ชานนเป็นอยู่ให้ได้บ้าง

   

   เวลาบ่ายแก่ ๆ ล่วงเข้าสู่ช่วงเย็น ไกรสรก็ยังคงนั่งขีด ๆ เขียน ๆ อยู่กับโต๊ะ จากนั้นสักพักเขาก็ลุกขึ้น โดยไม่วายหยิบป้ายจองโต๊ะมาวางจองที่เอาไว้ สร้างความหมั่นไส้ให้ขวัญแก้วที่จ้องมองพี่ชายของเธออยู่ จนอดเปรยบ่นกับรุจเบา ๆ ไม่ได้

   “ดูเขาสิ ...แบบนี้ร้านเสียโต๊ะไปเปล่า ๆ โต๊ะหนึ่งเลยนะนั่น รุจเองก็ช่วยพูดให้หน่อยสิ หรือจะไล่ไม่ให้มาเลยก็ได้นะ”

   “มากไป ๆ น้องสาว แฟนพี่เขายังไม่ว่าสักคำ เธอจะมาเป็นเดือดเป็นร้อนแทนทำไมกันฮึ”

   ไกรสรที่เดินจะเข้ามาในเคาท์เตอร์และได้ยินที่น้องสาวของเขาบ่นเปรยตอบยิ้ม ๆ ทำเอาขวัญแก้วถอนหายใจ ส่วนรุจสั่นศีรษะนิด ๆ อย่างเอือมระอา

   “เรียกแฟนเต็มปากเต็มคำเชียวนะคะ ...จะทนได้ถึงสองอาทิตย์หรือเปล่าก็ไม่รู้ เผลอ ๆ จะเรียกเป็นแฟนได้แค่วันนี้พรุ่งนี้เสียล่ะมั้ง”

   ขวัญแก้วที่ทราบเรื่องดีจากขวัญตาหลังจากที่เธอเข้าไปพักในรอบสองเปรยบ่น ส่วนรุจนั้นไม่ได้เขินอายอะไรเมื่อได้ยินว่าหญิงสาวรู้เรื่องที่เขากับพี่ชายเธอพนันไว้ ตรงกันข้ามกลับยิ้มน้อย ๆ แทนเสียอย่างนั้น แถมยังหันไปยิ้มหวานกับไกรสรแทนเสียอีก

   “พรุ่งนี้ถ้าจะแวะมาอีก เดี๋ยวผมจะให้มานั่งใกล้ ๆ กว่าเดิมดีไหมครับ”

   ไกรสรชะงัก แล้วจ้องมองคนพูดอย่างหวาดระแวง

   “ถ้าได้ก็ดีสิ แต่จะให้นั่งตรงไหนล่ะ”

   “ก็ให้เฝ้าตู้ขนมหวานนี่ไงครับ แล้วก็ให้ขายให้ด้วยเลย ...งานไม่ยุ่งเท่าไหร่หรอกครับ ดีกว่าไปนั่งแช่เปลืองพื้นที่ร้านเฉย ๆ ตั้งเยอะ”

   พอได้ยินคำตอบ ขวัญแก้วก็แทบจะหลุดหัวเราะคิก แม้แต่ราเมศที่ทำเป็นยืนหูทวนลมแถวนั้นยังอดอมยิ้มไม่ได้

   “เหอะ...ฉันก็ว่าแล้ว ไอ้เรื่องจะหวังอะไรหวาน ๆ จากเธอคงลืมไปได้เลย... แต่ก็โอเคนะ นั่งใกล้ ๆ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน แถมจะคุยจะมอง ก็ไม่ต้องกลัวสายตาใคร เพราะตู้มันบังให้หมด จริงไหม”

   รุจยิ้มน้อย ๆ ตอบ เพราะแม้แต่สถานการณ์แบบนี้ อีกฝ่ายก็ยังคงจะหยอดคำหวานทำคะแนนกับเขาเข้าให้อีกจนได้

   “แต่ตอนนี้ต้องขอตัวห่างสายตาแป๊บก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะเอาชุดไปให้วีดูว่าจะสนไหม ให้ตัดเสาร์นี้อาจจะไม่ทัน แต่ถ้าเสาร์หน้าคงพอไหว”

   ไกรสรบอกแล้วยกสมุดขึ้นโบกเบา ๆ เป็นการยั่วให้อีกฝ่ายอยากรู้ รุจจ้องมองสมุดเล่มนั้นอย่างนึกสงสัย แต่สุดท้ายก็ต้องถอนหายใจเบา ๆ

   “เอาเถอะครับ ...ยังไงแคชเชียร์อย่างผม ก็ไม่ได้ออกไปพรีเซนต์ตัวเองเท่าไหร่ ...และที่สำคัญ ผมมั่นใจว่าคุณคงไม่ให้ผมแต่งตัวแล้วออกมาประหลาด ๆ แน่ ...จริงไหมครับ”

   ท้ายประโยคเจ้าตัวยิ้มหวานอ้อนจนคนฟังต้องกลืนน้ำลายลงคอ พลางคิดถึงคำพูดของน้องสาว และเผลอนึกตามว่าตนอาจจะทนได้รอดถึงสองอาทิตย์ไม่ไหวเสียจริง ๆ ก็เป็นได้

   “ง่า...งั้นฉันขอตัวก่อนนะ ไว้จะลงมาเฝ้าใหม่”

   ไกรสรบอกแล้วก็เดินจากไป ทางด้านขวัญแก้วนั้นถอนหายใจเฮือกใหญ่ตามมา แล้วจึงหันมามองหนุ่มน้อยข้างกายเธอ

   “ร้ายจริงนะรุจ ...นี่ไม่อยากเป็นแฟนกับพี่ชายของฉันขนาดนั้นเลยหรือไง”

   รุจหัวเราะเบา ๆ กับคำถามนั้น เขายิ้มน้อย ๆ ให้หญิงสาวก่อนตอบออกไป

   “ไม่รู้สิครับ...ถึงตอนนี้ผมก็ไม่ได้เกลียดเขานะ และถ้าเขาทำได้ตามที่พนันกันไว้ บางทีผมอาจจะเริ่มชอบเขาขึ้นมาบ้างก็ได้...แต่ก็นั่นล่ะครับ อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะอย่างนั้นผมก็ยังไม่อยากจะรับปากอะไรมากนัก”

   ขวัญแก้วถอนหายใจ ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ ส่งให้ชายหนุ่ม

   “จ้า ๆ แต่ถ้ารู้สึกฝืนใจเมื่อไหร่ก็บอกกันได้นะ ถึงจะเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของฉันก็จริง แต่ฉันก็ไม่ปล่อยให้มารังแกน้องชายที่น่ารักอย่างรุจได้หรอก”

   รุจยิ้มตอบแล้วกล่าวขอบคุณอีกฝ่ายจากใจจริง เขาเองก็ชอบทั้งขวัญแก้วและขวัญตา รวมไปถึงพนักงานทุกคนในร้านแห่งนี้ และคิดกับทุกคนไม่ต่างไปจากเพื่อนสนิทหรือญาติพี่น้องเช่นเดียวกัน

   

   ทางด้านไกรสรนั้นหลังจากผละมาจากรุจแล้ว เขาก็เดินเข้ามาหาปวีร์ที่ห้องพักบนชั้นสอง แล้วยื่นสมุดภาพที่ตัวเองดีไซน์ชุดไว้ส่งให้  ปวีร์รับมาดูคร่าว ๆ  ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ

   “ดีไซน์แอบแฝงความต้องการส่วนตัวนี่นาพี่ แบบนี้ไม่ผ่านหรอก”

   ไกรสรเบิกตากว้าง แล้วก่อนที่จะโต้แย้งกลับไป ปวีร์ก็ยิ้มน้อย ๆ แล้วเอ่ยตามมา

   “ล้อเล่น ๆ ผมก็แค่แซวน่า ระดับพี่ถ้าไม่ผ่านก็แสดงว่าผมต้องไปเช็คสายตาใหม่แล้วล่ะ”

   “ทำเอาฉันตกใจหมด...แต่เสาร์นี้คงไม่ทันสินะ...”

   ไกรสรเปรยบ่นอย่างโล่งอกพร้อมกับถามต่อ  ปวีร์จึงพยักหน้านิด ๆ พลางตอบกลับไป

   “อืม...ถ้ามีเวลาอีกสักสองสามวันก็เร่งตัดได้ทันอยู่ แต่ไม่เป็นไร ผมจะเอาไว้สำหรับเสาร์หน้า ดีเหมือนกัน เพราะหยุดยาวก็เอาแต่นอนซม เลยยังไม่ได้คิดเผื่อเอาไว้เลย”

   “หึ ๆ น้องชายฉันหนักมือไปหน่อยล่ะสิ”

   ไกรสรกระเซ้า ทำเอาปวีร์ชะงักแล้วนึกบ่นตัวเองที่ไม่น่าพูดให้เข้าทางชายหนุ่มเข้าให้เลย สำหรับไกรสรเมื่อเห็นหน้ายุ่ง ๆ ของอีกฝ่าย เขาถึงกับอมยิ้มน้อย ๆ นึกอยากจะแหย่ให้มากกว่านี้ แต่ก็กลัวปวีร์งอนและไม่ยอมเอาชุดที่เขาดีไซน์ไปใช้ แถมเผลอ ๆ จะช่วยร่วมมือกับรุจแกล้งเขาเข้าให้ด้วยล่ะนะ คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มจึงเปลี่ยนเรื่องคุยเป็นเรื่องอื่นแทน

   “ว่าแต่เสาร์นี้ล่ะ เป็นธีมอะไร บอกฉันหน่อยได้ไหม จะได้เตรียมตัวเก็บภาพเอาไว้หลาย ๆ มุมหน่อย”

   “ห้ามถ่ายรูปในร้านนะครับพี่”

   ปวีร์แย้งขัด ทำเอาไกรสรต้องตีหน้ายุ่งเมื่อได้ฟัง

   “คนกันเองไม่ใช่ลูกค้าสักหน่อย”

   “ไม่ได้ ๆ ขืนทำผิดกฎร้าน จะไล่ไม่ให้เข้าร้านสักอาทิตย์เลยนะครับ”

   ปวีร์ได้ทีก็แหย่กลับ ทำให้อีกฝ่ายต้องยักไหล่อย่างนึกเซ็ง

   “เชอะ...งั้นรอซื้ออัลบั้มแทนก็ได้”

   ไกรสรเปรยบอกอย่างติดหมั่นไส้ เพราะรู้จากน้องสาวมาอีกทีว่า ปวีร์นั้นมีโครงการขายอัลบั้มของหนุ่ม ๆ ในร้าน โดยจะจัดเป็นโปรโมชันแลกซื้อครั้งใหม่ ต่อจากโปรโมชันถ่ายรูปร่วมกับพนักงานที่มีอยู่ในปัจจุบัน

   “ถ้าอย่างนั้นค่อยพูดกันได้หน่อย”

    ปวีร์ยิ้มรับน้อย ๆ จากนั้นเขาก็ให้ไกรสรดูเว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ตที่เขาทำขึ้น  มีลูกค้ามากมายที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น และเสนอไอเดียสำหรับอีเวนท์พิเศษในแต่ละเสาร์  นอกจากนั้นปวีร์ก็ยังมีการบอกใบ้ถึงอีเวนท์ประจำสัปดาห์ล่วงหน้า 1 – 2 วัน เพื่อให้ลูกค้าที่สนใจได้รับทราบก่อนอีกด้วย ...ทางด้านไกรสรนั้นอ่านผ่านตาคร่าว ๆ แล้วจึงหันไปถามอีกฝ่าย

   “พวกนั้นรู้หรือเปล่าว่านายทำเว็บไซต์แบบนี้น่ะ”

   ไกรสรถาม ซึ่งปวีร์ก็ยักไหล่นิด ๆ แทนคำตอบ ชายหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะหันกลับมาคลิกเปิดอัลบั้มรูปในเว็บไซต์ ที่มีลงรูปทั้งแอบถ่ายและรูปที่ถ่ายกับลูกค้าที่ได้ขออนุญาตแล้ว  โดยภาพอัพเดทล่าสุดในเว็บ ก็คือภาพหนุ่ม ๆ แต่ละคนในสระว่ายน้ำของอนุชิตเมื่อเสาร์ที่ผ่านมานั่นเอง

   “ให้ตายเถอะ! แอบถ่ายอย่างนั้นหรือ...ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมถึงไม่เห็นตากล้องเลยสักนิดน่ะ!”

   ไกรสรโพล่งอย่างตกตะลึง ซึ่งปวีร์ก็ยักไหล่แล้วสวนกลับ

   “จะสนทำไม ไม่ได้เอารูปพี่ลงเว็บด้วยสักหน่อย ...และนี่ก็คัดแค่ส่วนน้อยมาเท่านั้น รูปอื่นชวนวาบหวิว เรียกเลือด ยังมีอีกเป็นร้อย ๆ รูป ...ที่ลงไว้นี่ก็แค่จะช่วยโปรโมทสระของคุณอนุชิตเขาเท่านั้น... ของดีของเด็ดจริง ๆ มันไม่มีให้ดูฟรี ๆ กันหรอกนะ”

   ไกรสรมองอีกฝ่ายตาปริบ ๆ เขาเลื่อนหน้าเว็บลงมาดู แล้วก็เห็นภาพบางภาพที่ติดโมเสกบาง ๆ แต่ก็พอจะเดาออกว่าเป็นรูปใครบ้าง นอกจากนี้ก็ยังมีคำโปรยใต้ภาพ เกี่ยวกับโปรโมชั่นอัลบั้มรวมภาพหนุ่ม ๆ ในชุดว่ายน้ำของทางร้านโฆษณาเอาไว้ล่วงหน้าอีกด้วย

   “นายนี่มัน...ถ้าพวกนั้นรู้เข้าล่ะก็ มีหวังโกรธตาย”

   ไกรสรเปรยบ่น แต่ปวีร์กลับหัวเราะในลำคออย่างไม่ใส่ใจ

   “ไม่หรอก พวกนั้นเขาเซ็นสัญญารับทราบเรื่องนี้กันดีตั้งแต่ตอนก่อนทำงานแล้ว พวกเขาก็น่าจะต้องเฉลียวใจ ว่าจะต้องเจออะไรทำนองนี้กันบ้างล่ะนะ”

   คนฟังถอนหายใจเบา ๆ เขาเลื่อนไปดูภาพรุจในชุดว่ายน้ำด้านบนอีกรอบ แล้วจึงหันมาบอกกับปวีร์

   “งั้นฉันจองอัลบั้มชุดว่ายน้ำนี่ด้วย ...อ้อ! ถ้านายจะขายไฟล์ภาพด้วยฉันก็ยินดีซื้อ  ฉันจะเอาไปอัดภาพเซ็กซี่ของรุจสักภาพ แล้วขยายใหญ่ ๆ ใส่กรอบไว้ติดที่ห้องนอนน่ะ”

   ปวีร์จ้องมองคนพูดนิ่ง ก่อนจะสั่นศีรษะไปมาอย่างเอือมระอา เพราะเท่าที่เขาสังเกต ไกรสรนั้นมาไกลเกินการจีบเพื่อเอาชนะอีกฝ่ายพอสมควรแล้ว และพอจะสรุปได้ว่า ชายหนุ่มนั้นกำลังอยู่ในช่วงคลั่งไคล้พนักงานของเขาเอามาก ๆ เลยทีเดียว

   “สำหรับไฟล์ภาพผมแถมให้ฟรีก็ได้พี่... แต่ใจคอจะอัดใส่กรอบแล้วติดไว้ในห้องนอนจริง ๆ น่ะหรือ”

   “ก็งั้นสิ...รูปแฟนทั้งคนนี่นะ”

   ปวีร์มองคนพูดที่เหมาเอาเองตาปริบ ๆ เขาก็พอได้ยินเรื่องเกมที่ไกรสรกับรุจพนันกันไว้บ้างอยู่หรอก แต่เท่าที่ฟังจากเงื่อนไขที่ชายหนุ่มและพนักงานของเขาพนันกัน งานนี้เห็นทีไกรสรคงจะชนะลำบากเสียแล้ว

   “งั้นก็ตามใจพี่แล้วกัน...ส่วนแบบชุดนี่ผมเก็บไว้นะ เดี๋ยววันจันทร์จะส่งให้ร้านประจำจัดการทีหลัง”

   ไกรสรพยักหน้ารับรู้ จากนั้นเจ้าตัวจึงขอตัวกลับลงไปชั้นล่างเพื่อไปเฝ้ารุจต่อ ทำเอาปวีร์ต้องถอนหายใจไล่หลังตามไปอย่างเอือมระอา ก่อนจะหยิบแบบชุดที่อีกฝ่ายดีไซน์เอาไว้มาดูอีกครั้ง พลางอมยิ้มน้อย ๆ ติดเจ้าเล่ห์ แล้วจึงพึมพำกับตัวเองแผ่วเบา

   “ไม่รู้พวกนั้นจะยอมใส่หรือเปล่านะ ...แต่ที่แน่ ๆ ถ้าลูกค้ารู้ล่ะก็ เสาร์หน้าคนคงเต็มร้านอีกแหง ๆ”



… TBC …



** เหตุการณ์ก็ยังคงดำเนินไปแบบเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ เหมือนเคย ...หวังว่านักอ่านคงยังไม่เบื่อกันก่อนนะคะ ^^"  สำหรับนิยายเรื่องนี้มีกำหนดจบในเดือนนี้ค่ะ ก็คงเป็นเคลียร์ครบทุกคู่ แถมตอนพิเศษนิดหน่อย ก็คงจบสำหรับเรื่่องนี้ค่ะ  :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด