** ตอนใหม่มาแล้วค่ะ ใครที่เคยลุ้นให้นายธีมีคู่ ขอบอกว่า เนื้อคู่ของเจ้าตัวใกล้เกิดแล้วจ้า(เอ๊ะ หรือจะเกิดนานแล้ว หุ ๆ) ติดตามอ่านได้เลยค่ะ ส่วนคนที่รอลุ้นคู่พี่ไกรกับรุจ รอก่อนนะคะ สลับกันกับคู่อื่นบ้างเน้อ ^^ Miracle Café / 40
หลังจากร้านปิดในวันนั้น ธีรัชก็แวะมาทานอาหารค่ำที่ร้านตามคำชวนของชานน ซึ่งก็มีเซอร์ไพรส์เป็นเค้กสตอเบอรี่ก้อนโตที่ชานนลงมือทำเอง ทั้งนี้ที่ทำได้ก็เพราะขวัญตาใช้พี่ชายของเธอที่อยู่ว่าง ๆ ไปซื้อวัตถุดิบมาให้ แม้ไกรสรจะไม่ค่อยสบอารมณ์นักที่ต้องห่างรุจก็ตาม แต่ชายหนุ่มก็ขัดคำสั่งของน้องสาวคนเล็กไม่ได้อยู่ดี
“ขอบคุณจริง ๆ ครับ ...อา ให้ตายเถอะ ผมประทับใจจนจะร้องไห้อยู่แล้วนะเนี่ย”
ธีรัชบอกอย่างตื้นตัน น้ำตาคลอนิด ๆ โดยเฉพาะยามเมื่อทุกคนพากันยิ้มแย้ม และกล่าวยินดีต้อนรับเขาเป็นสมาชิกเต็มตัวของที่นี่ หลังจากที่ชานนถือเค้กมาให้
“ต่อไปนี้พวกเราก็เป็นเหมือนครอบครัวเดียวกันแล้วนะ ถ้าเธอมีปัญหาอะไรที่เหลือบ่ากว่าแรงเพื่อน ๆ ของเธอ ก็ให้มาปรึกษาฉัน ราเมศ หรือไม่ก็คุณนนได้ตามสบาย”
ปวีร์บอกพร้อมรอยยิ้ม ซึ่งธีรัชก็ยิ้มตอบ จากนั้นชายหนุ่มก็ถูกเพื่อนคนอื่นคะยั้นคะยอให้เป็นเจ้าภาพตัดเค้ก เพราะต่างคนก็ต่างอยากจะกินเค้กฝีมือชานนเต็มที
“ก็ได้ ๆ พวกนี้นี่ ...ความจริงเค้กก้อนนี้คุณนนทำให้ฉันนะ ไม่น่าจะแบ่งให้พวกนายด้วยซ้ำ”
ธีรัชแกล้งบ่น แล้วก็ต้องหัวเราะออกมาเมื่อถูกโห่ใส่ จากนั้นเขาก็ตัดแบ่งเค้กในส่วนของตัวเอง แล้วจึงยื่นมีดให้คนอื่น ๆ จัดการตัดเค้กในส่วนของทุกคนกันต่อไป
“ตาว่าจะหาเวลามาลงเรียนคอร์สทำขนมหวานกับคุณนนตัวต่อตัวแล้วล่ะค่ะพี่ไกร พี่แก้ว เพราะจากเค้กก้อนนี้มันทำให้ตารู้ว่า ที่ตาเรียนมาทั้งหมด มันยังไม่พอที่จะทำให้ตาเป็นเชฟขนมหวานมืออาชีพได้เลยนะคะ”
ขวัญตาบอกกึ่งเล่นกึ่งจริง ทำให้หลายคนโดยเฉพาะชานนอมยิ้ม
“โธ่...คุณตาก็ ชมกันแบบนี้ เดี๋ยวผมก็ลอยพอดี”
“คุณตาไม่ได้ชมมากเกินไปหรอกครับ ผมเพิ่งเคยกินเค้กสตอเบอรี่อร่อย ๆ แบบนี้เป็นครั้งแรกนะครับเนี่ย นี่ถ้าคุณนนเป็นผู้หญิงผมจะให้ลุงเอาขันหมากไปสู่ขอเดี๋ยวนี้เลยทีเดียวล่ะครับ”
ธีรัชบอกตามมาพร้อมรอยยิ้มกว้าง ทำเอาชานนต้องหัวเราะเบา ๆ ในลำคออย่างไม่ถือสา ส่วนปวีร์แย้มยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงเปรยขัดขึ้น
“สินสอดแพงหน่อยนะ สำหรับเจ้าสาวคนนี้ ...และที่สำคัญ ถ้าไม่ทำให้ฉันยอมรับล่ะก็ อย่าหวังจะพาตัวไปได้เลย”
ธีรัชสะดุ้งโหยง ก่อนจะหันมายิ้มแห้ง ๆ ให้กับคนพูด แล้วขอโทษขอโพยยกใหญ่ เรียกเสียงหัวเราะครื้นเครงจากเพื่อนร่วมโต๊ะอาหารกันถ้วนหน้า ทำให้บรรยากาศภายในห้องครัวเล็ก ๆ แห่งนี้ เต็มไปด้วยความสุขและอบอุ่น จนกระทั่งทุกคนรับประทานอาหารมื้อนั้นกันเสร็จเรียบร้อย
“คุณนนครับ...คุณนนเกิดวันไหนหรือครับ”
คนที่ช่วยเก็บกวาดในครัวสะกิดถามชานนค่อย ๆ เพราะตั้งใจว่าจะตอบแทนน้ำใจอีกฝ่ายครั้งนี้ในวันเกิดของเจ้าตัวบ้าง ทว่าคำถามของเขากลับทำให้คนฟังเลิกคิ้วนิด ๆ ก่อนจะตอบออกไปตามตรง แต่กลับทำให้คนฟังสะดุ้งโหยง
“ก็วันอาทิตย์ที่จะถึงนี่สิครับ!”
“หือ...อา จริงด้วยสิครับ แต่ปกติผมไม่เคยสนใจเรื่องวันเกิดตัวเองเท่าไหร่ ก็เลยไม่ค่อยได้ใส่ใจนะครับ”
“...ไม่เคยฉลองกับใครเลยหรือครับ”
ธีรัชถามต่อ ซึ่งชานนก็สั่นศีรษะแล้วยิ้มน้อย ๆ ก่อนตอบออกไป
“ไม่เลยครับ...ที่บ้านผมเป็นร้านอาหาร ตั้งแต่จำความได้ผมก็ช่วยพ่อแม่ค้าขายในเวลาว่างจากเรียนหนังสือ พวกเราไม่ค่อยใส่ใจวันสำคัญของตัวเองเท่าไหร่หรอกครับ ...แค่ได้ทำอาหารฉลองให้คนที่มาจัดงานวันเกิดที่ร้านอยู่บ่อย ๆ แค่นั้นก็มีความสุขแล้วล่ะครับ”
ธีรัชนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ ก่อนจะจับมืออีกฝ่ายมากุมเบา ๆ
“งั้นอาทิตย์นี้ผมจะจัดงานวันเกิดให้คุณเองนะครับ วันนั้นคุณนนไม่ต้องทำอะไร แค่นั่งเฉย ๆ แล้วให้ผมเป็นฝ่ายตอบแทนความเอาใจใส่ของคุณบ้างนะครับ”
ชานนชะงัก แล้วมองคนพูดอึ้ง ๆ ก่อนจะมีสีหน้ากังวลขึ้นมาแทน
“จะดีหรือครับ...ถึงยังไงผมก็มีหน้าที่เป็นผู้ดูแลบ้านพัก ถ้ามีคนอยู่ในวันหยุด ผมก็ต้องเตรียมอาหารให้ทุกคนตามหน้าที่อยู่ดี จะให้อยู่เฉย ๆ คงไม่ได้หรอกครับ”
ธีรัชขมวดคิ้วยุ่ง เตรียมจะแย้งออกไป แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงกระแอมขัดจังหวะเบา ๆ ชายหนุ่มหันไปมอง ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นสายตาของปวีร์ที่มองมายังมือของเขา ธีรัชขมวดคิ้วนิด ๆ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเผลอลืมตัวจับมือของชานนอยู่ จึงรีบปล่อยมือออก พลางหัวเราะด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ เมื่อเห็นดังนั้นปวีร์จึงแย้มยิ้มน้อย ๆ แล้วหันไปคุยกับชานนแทน
“ผมเองก็ลืมไปเลยว่าใกล้จะถึงวันเกิดคุณนนแล้ว”
“ไม่ได้สลักสำคัญอะไรหรอกครับคุณปวีร์ ก็เหมือนกับทุก ๆ วันนั่นล่ะ”
ชานนรีบบอก เพราะเกรงว่าปวีร์จะเห็นดีเห็นงามจัดงานเลี้ยงให้เขาเหมือนที่ธีรัชเสนอ
“จะไปเหมือนกันได้ไงล่ะครับ โดยเฉพาะกับคนสำคัญที่สุดของพวกเราอย่างคุณนน ถ้าไม่มีคุณ นอกจากร้านของผมจะไม่สามารถดำเนินต่อไปได้แล้ว มีหวังผมจะกลายเป็นโรคเบื่ออาหาร เพราะกินอาหารที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่ากินฝีมือคุณนั่นล่ะ”
ปวีร์บอกยิ้ม ๆ แล้วจึงหันมาทางธีรัชที่จ้องมองเขาอย่างลุ้นรอคำตอบ
“ความคิดเธอใช้ได้เลยล่ะธีรัช ...แต่เรื่องที่จะให้พวกเราทำให้คุณนนกิน ฉันว่าคงไม่เวิร์ก เพราะเขาคงทนนั่งดูพวกเราทำลายครัวและวัตถุดิบของเขาไม่ไหว จนต้องกระโดดเข้ามาร่วมแจมด้วยอยู่ดีแน่นอน”
ปวีร์ฟันธงสรุป ทำให้คนฟังกะพริบตาปริบ ๆ เหลือบไปมองชานนก็เห็นอีกฝ่ายยังคงมีสีหน้าไม่สบายใจให้ได้เห็น ธีรัชนิ่งคิดแล้วจึงย้อนถามออกไป
“แล้วจะทำยังไงล่ะครับ...”
“ก็ต้องไปหาอะไรกินนอกสถานที่แทนสิ ... กินบรรยากาศไปพลาง กินอาหารสด ๆ ปรุงง่าย ๆ ไม่ต้องเหนื่อยแรงมากไปพลาง โรแมนติกดีออก”
คนฟังทั้งคู่ขมวดคิ้ว ปวีร์ยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงขอตัวไปด้านนอก ดึงไกรสรที่กำลังยืนจีบรุจเข้ามาข้างใน ก่อนจะบอกกับทั้งคู่
“ส่วนนี่ก็เป็นเจ้ามือใหญ่ของเรา ...พี่ไกรมีบ้านพักตากอากาศที่หัวหินใช่ไหม”
“ก็มี ...แล้วจะทำไม” ไกรสรตอบพลางย้อนถาม ปวีร์ยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงเอ่ยต่อ
“ก็ไม่ทำไม แค่จะยกพลไปจัดวันเกิดให้คุณนนที่นั่น แล้วก็จะพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวทะเล และไปกินอาหารทะเลสด ...อ้อ คุณนนไม่ต้องแย้ง ผมจะให้คุณทำครัวคู่กับปยุตนั่นล่ะ เพียงแต่อนุญาตให้ทำแค่อาหารทะเลง่าย ๆ เท่านั้น โอเคนะ”
ชานนมองนายจ้างของเขาที่จัดการมัดมือชกตาปริบ ๆ ก่อนจะถอนหายใจและพยักหน้ารับรู้ ซึ่งก็ทำให้ปวีร์หลุดยิ้มน้อย ๆ อย่างนึกขำ แล้วจึงหันมาทางไกรสรบ้าง
“เดี๋ยวผมกับพวกเด็ก ๆ จะออกเดินทางกันตั้งแต่คืนวันเสาร์ ไปถึงโน่นก็นอนต่อ เช้ามาก็เที่ยวแถวนั้นได้ทั้งวัน อยู่กินมื้อเย็นเสร็จ แล้วค่ำ ๆ หน่อยก็นั่งรถกลับ จะได้ไม่เพลีย... ส่วนพี่กับพวกแก้วและก็ตา ไปกันเองต่างหากแล้วกันเพราะรถตู้คนน่าจะเต็มอยู่ อ้อ! แล้วอย่าลืมสั่งให้ทางนั้นเตรียมอาหารสดไว้รอด้วยล่ะ พวกผมไปถึงจะได้ไม่ต้องไปหาซื้ออะไรเพิ่มเติม”
ไกรสรนิ่งคิด ก่อนจะโอเคตามมาโดยไม่ต้องเสียเวลานาน เพราะเขาตั้งใจจะใช้บรรยากาศโรแมนติกริมทะเลทำคะแนนให้รุจสนใจเขาให้มากกว่านี้นั่นเอง
จากนั้นปวีร์ก็เดินไปบอกคนอื่นที่เหลือ ซึ่งแต่ละคนต่างก็เห็นดีด้วย และหลายคนก็เตรียมคิดหาของขวัญให้กับเชฟหนุ่มผู้ใจดีของพวกตนเอาไว้ล่วงหน้า
“ขอโทษครับ กลายเป็นเรื่องใหญ่โตไปเสียแล้ว”
ธีรัชบอกกับชานนที่ยังคงมีสีหน้าลำบากใจ แต่เมื่อเชฟหนุ่มหันมาเห็นสีหน้าของคนข้าง ๆ เขาจึงหลุดแย้มยิ้มอ่อนโยนออกมา พร้อมกับเอ่ยปลอบ
“อย่าคิดมากเลยครับ ต่อให้คุณธีรัชไม่เสนอ ถ้าคุณปวีร์นึกขึ้นได้เอง ก็คงลงเอยราว ๆ นี้ล่ะครับ...และที่สำคัญ ผมต้องขอบคุณ คุณต่างหาก ที่เอาใจใส่เรื่องผมขนาดนี้ ขอบคุณจริง ๆ ครับ”
ธีรัชอึ้งไปเล็กน้อย เขาอยากจะแย้งกลับว่าชานนต่างหากที่ให้ความสำคัญกับเขาและคนอื่น ๆ ด้วยความจริงใจ โดยไม่คิดเรื่องผลตอบแทน แต่เมื่อเห็นสีหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขของอีกฝ่าย ธีรัชก็ได้แต่ยิ้มตอบ แล้วพยักหน้ารับรู้ค่อย ๆ
ไม่นานนักคนอื่นก็เข้ามาสมทบและต่างพูดคุยกับชานนถึงเรื่องวันเกิดที่จะมาถึงอย่างสนุกสนาน ทางด้านธีรัชจึงปลีกตัวออกมายืนห่าง ๆ เขามองชายสูงวัยกว่าเขาอยู่เงียบ ๆ ก่อนจะหลุดยิ้มออกมาน้อย ๆ อย่างลืมตัว รู้สึกอบอุ่นในหัวใจขึ้นมาอย่างประหลาด จากนั้นเจ้าตัวก็ต้องหันมาให้ความสนใจกับคนอื่น ๆ โดยเฉพาะรุจที่เอ่ยถามขึ้น
“เดี๋ยวฉันกับวินจะแวะไปซื้อเครื่องดื่มกับขนมที่เซเว่น เพราะคืนนี้คงได้ย้ายของกันจนดึก และอาจจะจบด้วยปาร์ตี้เล็ก ๆ ฉลองย้ายห้อง... นายจะฝากซื้ออะไรด้วยไหม”
“เอ๋...ผมหรือครับ ...งั้นเอาเบียร์...”
“พรุ่งนี้ต้องทำงานกันนะ...อย่าลืมสิ”
เสียงของปวีร์ขัดมาจากข้างนอก ทำเอาธีรัชสะดุ้งโหยง ไม่เพียงชายหนุ่ม คนอื่น ๆ ยังพากันกลืนน้ำลายลงคอ ยกเว้นรุจที่ยิ้มน้อย ๆ อย่างนึกขำ
“ง่า...งั้นขอเป็นโค้กสักขวดแทนก็ได้”
ชายหนุ่มรีบเปลี่ยนรายการเครื่องดื่มของตน ทำให้คนที่ฟังอยู่ข้างนอกอมยิ้ม ส่วนราเมศก็เหลือบมองคนรัก แล้วสั่นศีรษะเบา ๆ
“อยากให้ถึงวันเสาร์เร็ว ๆ จังเลยน้า...กลางวันได้ดูหนุ่ม ๆ ในชุดน่ารัก ๆ ส่วนกลางคืนก็เดินทางท่องเที่ยว ...จริงสิตา เราไปซื้อชุดว่ายน้ำชุดใหม่กันดีไหม”
ขวัญแก้วที่กำลังร่าเริงกับเรื่องในวันอาทิตย์หันมาบอกน้องสาว แต่กลับทำให้ใครบางคนแถวนั้นชะงัก ก่อนจะกระแอมเบา ๆ
“แล้วไม่ต้องเลือกชุดโป๊ ๆ โชว์หุ่นนักล่ะ”
“โธ่! พี่ไกรคะ กลัวอะไร หนุ่ม ๆ แถวนี้ เขาไม่สนสาวกันหรอกค่ะ”
ขวัญแก้วแย้งกลับ แต่ทำให้หนุ่ม ๆ แต่ละคนเงียบกริบ และมีสีหน้าเจื่อน ๆ ไปตามกัน
“...ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้อยู่ดี เกิดมีไอ้บ้ากามหน้าไหนหลงเดินเล่นเลาะหาดมา แล้วเห็นเข้าจะทำยังไง!”
ไกรสรยังคงยืนกรานเสียงเข้ม ทำให้รุจเหลือบไปมอง พลางอมยิ้มน้อย ๆ กับมาดพี่ชายหวงน้องสาวของอีกฝ่าย
“แหม...ก็ได้ ๆ จะหามิดชิดใส่หน่อยก็แล้วกันค่ะ”
ขวัญแก้วรับคำเนือย ๆ แต่แอบไปขยิบตากับน้องสาว เป็นเชิงว่าพวกเธอจะยังคงตั้งใจไปเลือกซื้อชุดว่ายน้ำน่ารัก ๆ ถูกใจมาใส่ตามใจชอบของตนอยู่ดี
“เด็กพวกนี้ อายุก็ตั้งมากแล้วแท้ ๆ ทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโตไปได้”
ไกรสรบ่นพึมพำ ก่อนจะสะดุ้งเฮือก เมื่อถูกสายตาคมกริบของสองสาวจับจ้องมองมา
“น่าเกลียดจังค่ะพี่ไกร พูดเรื่องอายุต่อหน้าสุภาพสตรีได้ไง ...ระวังเถอะ ตากับพี่แก้วจะเล่าเรื่องแย่ ๆ ทุกอย่างของพี่ไกรให้รุจฟังให้หมดเลย”
ไกรสรสะดุ้ง แล้วรีบอ้อนน้องสาวทั้งสอง โดยมีสายตาเอือมระอาแกมหมั่นไส้ของใครบางคนคอยมองอยู่ ก่อนจะหันมาให้ความสนใจกับรายการเครื่องดื่มและขนมของเพื่อนร่วมบ้านพักต่อแทน
“โอเค...แค่นี้นะ... ไว้ซื้อของเสร็จแล้วจะกลับมาช่วยย้ายแล้วกัน”
รุจสรุปตัดบท จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้านพัก เพื่อไปเตรียมเปลี่ยนห้อง ไกรสรนั้นทำท่าจะตามรุจไปซื้อของด้วย แต่ก็ถูกน้องสาวทั้งสองเบรกเอาไว้ แถมยังอ้างว่าพวกเธออยากรีบกลับบ้านไปอาบน้ำนอนไว ๆ แล้ว จึงทำให้ชายหนุ่มขัดไม่ได้ และยอมตามสองสาวกลับบ้านไปอย่างจำใจ
เวลาเกือบห้าทุ่ม ทุกคนก็ย้ายห้องเสร็จเรียบร้อย และต่างมารวมตัวกันที่ห้องหมายเลข 2 ซึ่งตอนนี้กลายเป็นห้องของการินและวาโยไปเสียแล้ว
“ไปชวนคุณนนมากินด้วยดีกว่า”
ธีรัชที่มองขนมและเครื่องดื่มตรงหน้าเอ่ยขึ้น และทำท่าจะลุกไปตามชานนเอาจริง ๆ จนรุจต้องดึงมือเอาไว้
“ไม่ต้องหรอก คุณนนเหนื่อยมาทั้งวัน ให้เขาพักผ่อนจะดีกว่า...อีกอย่าง ถ้าคุณนนอยู่ด้วยเราจะมีเวลาปรึกษาหาเรื่องเซอร์ไพรส์วันเกิดของเขาได้ยังไงล่ะ”
ธีรัชชะงัก แล้วจึงนั่งลงก่อนพยักหน้าหงึก ๆ
“นั่นสินะ...แล้วตกลงจะเซอร์ไพรส์คุณนนยังไงดีล่ะ ...ถ้าเป็นไปได้ผมอยากอบเค้กวันเกิดด้วยตัวเอง แล้วให้คุณนนได้กินน่ะ”
ธีรัชเสนอ ทำเอารุจเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างพิจารณา เพราะดูชายหนุ่มจะมุ่งมั่นเป็นพิเศษอย่างน่าประหลาด
“ทำเค้กให้คนที่ทำอาหารเก่งขนาดนั้นกินนี่นะ...ช่างกล้าคิดจริงนะ”
ภูริเปรยขัด ทำให้คนฟังหันมาขมวดคิ้วยุ่ง
“ถ้าตั้งใจเสียอย่างก็ทำออกมากินได้อยู่แล้วน่า อีกอย่างคนอย่างคุณนนน่ะ ต่อให้ออกมาแย่ขนาดไหน รับรองว่าเขาต้องกินอย่างดีใจแน่นอน!”
ธีรัชแย้งกลับ ทำให้คนอื่นเงียบกริบ นิ่งคิดตาม และต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย เพราะนิสัยอย่างชานนนั้นเป็นอย่างที่ชายหนุ่มบอกไว้จริง ๆ
“ผมว่าจะซื้อของขวัญสักชิ้นให้คุณนน...อยากให้เป็นของที่เขาจะใช้ได้จริง ๆ น่ะครับ”
“อืม...งั้นพรุ่งนี้เช้า ๆ เราไปเลือกซื้อด้วยกันดีไหม”
การินเสนอ แต่กวินนั้นแย้งออกไป
“เช้ามากไปห้างยังไม่เปิดน่ะสิ ร้านพวกเครื่องครัวอุปกรณ์แถวนี้ก็ไม่เห็นมีขายสักร้าน ใช่มะโย”
“ใช่...ถ้าจะซื้อก็ต้องเข้าห้าง แต่ว่ากว่าห้างจะเปิด พวกเราก็เข้าทำงานกันแล้ว”
“ถ้างั้นก็แวบไปตอนพักสิ กินเสร็จก็ขอคุณปวีร์แอบชิ่งออกไปสักพัก แล้วก็กลับมาไงล่ะ”
กวินเสนอ ซึ่งวาโยกับการินก็พยักหน้าหงึกหงักอย่างเห็นด้วย ส่วนรุจนั้นถอนหายใจน้อย ๆ แล้วจึงบอกกับคนอื่นบ้าง
“เชิญพวกนายตามสบายแล้วกัน สำหรับฉันตั้งใจว่าจะฝากคนรู้จักให้ซื้อ หรือไม่ก็สั่งทางเน็ต แล้วให้เขามาส่งด่วนที่ร้าน หรือส่งเป็น ems มาแทน เพราะถ้าทางร้านส่งของวันศุกร์ยังไงเสาร์ก็ได้ของทันอยู่แล้ว ...แต่แน่นอนว่าต้องย้ำกับทางร้านด้วยล่ะนะ”
ภูริรับฟังที่รุจบอกอย่างสนใจ ส่วนธีรัชนั้นตกลงใจจะทำเค้กให้ชานนด้วยตัวเอง แต่เขาก็ไม่มั่นใจว่าที่บ้านพักของไกรสรนั้นมีเตาอบด้วยหรือเปล่า
“ไปปรึกษากับคุณตาสิ รับรองว่าได้ของครบที่อยากได้แน่ เผลอ ๆ ก็จะได้ครูฝีมือดีช่วยติวและสอนทำให้อีกด้วยนะ”
รุจเสนอความเห็น ซึ่งธีรัชเองนั้นก็เห็นดีด้วย จากนั้นสักพักพวกเขาก็แกะขนมกินไปพลาง ดื่มเครื่องดื่มไปพลาง พร้อมกับปรึกษาเรื่องของขวัญกันไปพลาง จนกระทั่งถึงเวลาเที่ยงคืน
“เที่ยงคืนแล้ว แยกย้ายไปนอนกันดีกว่า ไม่งั้นพรุ่งนี้ตื่นมาเป็นหมีแพนด้า เดี๋ยวจะโดนคุณปวีร์บ่นเอาอีก”
กวินที่เคยมีประสบการณ์ในการโดนบ่นบอกกับทุกคน จากนั้นก็หันไปยิ้มลาคนรักของตน ซึ่งการินเองก็ยิ้มอาย ๆ ตอบ ทางด้านภูรินั้นอยากจะจูบลาวาโยแต่ก็เกรงใจคนอื่นที่มองอยู่ จึงทำได้แต่บอกราตรีสวัสดิ์สั้น ๆ โดยวาโยเองก็ยิ้มน้อย ๆ แล้วกล่าวตอบอีกฝ่าย
“หวานกันจริ๊ง อิจฉาคนมีคู่จังเนอะคุณรุจ ...อ๊ะ แต่คุณก็มีแล้วนี่ งั้นก็เหลือผมคนเดียวสินะ...เฮ้อ”
ธีรัชเปรยบ่นเบา ๆ เพราะรู้เรื่องพนันของอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน ทางด้านรุจพอได้ฟังก็สั่นศีรษะไปมาอย่างเอือมระอา แล้วตบบ่าอีกฝ่ายค่อย ๆ
“ไม่ต้องคิดมากน่า เดี๋ยวอีกไม่กี่วันฉันก็กลับเป็นโสดเหมือนเดิมแล้วล่ะนะ”
รุจบอกยิ้ม ๆ แต่ทำเอาคนฟังแต่ละคนหันมามองชายหนุ่มตาปริบ ๆ แล้วแอบนึกสงสารไกรสรขึ้นมาทันที
“งั้นพวกฉันไปล่ะ ราตรีสวัสดิ์นะทั้งสองคน”
รุจหันมาลาการินกับวาโย ซึ่งทั้งคู่ก็พยักหน้าตอบรับ จากนั้นเมื่อคนอื่นกลับห้องพักกันไปหมดแล้ว ทั้งสองคนก็หันมายิ้มน้อย ๆ ให้กัน และต่างก็ยื่นมือส่งให้อีกฝ่าย พร้อมเอ่ยทักทายกันเองอีกครั้ง
“ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ รูมเมทคนใหม่”
“อือ...ฉันเองก็ฝากตัวด้วยเช่นกันนะ”
ทั้งคู่ยิ้มแย้มให้กัน และจากนั้นก็ต่างแยกย้ายกันเข้าห้องนอนของตนเอง อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า และหลับลงในเวลาต่อมาไม่นานนัก
... TBC ...