[...Miracle Café...] คาเฟ่อลวน-คนอลเวง / +ตอนพิเศษให้อ่านแถม P.22
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [...Miracle Café...] คาเฟ่อลวน-คนอลเวง / +ตอนพิเศษให้อ่านแถม P.22  (อ่าน 223571 ครั้ง)

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
แล้วหนูอลิส จะได้ใส่ชุดอะไร อยากเห็นภูริหึงแบบออกอาการเยอะๆๆ 5555

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4


** และแล้ว วันเสาร์(ของร้านมิราเคิลคาเฟ่) ก็มาถึง ^^....เชิญอ่านกันต่อได้เลยค่ะ


Miracle Café / 43






     เช้าวันเสาร์ พนักงานของมิราเคิลคาเฟ่แต่ละคนนั้นตื่นกันมาแต่เช้า บ้างก็เพราะความเคยชิน แต่ก็มีคนที่ตื่นมาเพราะเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องชุดที่ต้องแต่งประจำอีเวนท์พิเศษของวันนี้

    “เพราะไม่สบาย ฉันเลยดีไซน์แบบง่าย ๆ แทน ...เพราะงั้นเสาร์นี้เลยไม่หวือหวาอะไร”

    ปวีร์บอกเรียบ ๆ พร้อมกับเปรยสายตามองกระเป๋าเสื้อผ้าล้อลากใบโตที่ปยุตเข็นตามมาด้วย

    “เอ่อ...หวังว่าผมคงไม่ต้องแต่งหญิงอีกสินะครับ”

    วาโยชิงถามอย่างหวาดระแวง ทว่าก็ต้องชะงักกึก เมื่อปวีร์หันมามองเขาพร้อมกับยิ้มมุมปากนิด ๆ โดยไม่ตอบคำถามอะไร จากนั้นปยุตก็แจกเครื่องแบบที่บรรจุในถุงพลาสติกมีซิบอย่างดีให้แต่ละคนตามป้ายชื่อที่แปะตามถุงเหล่านั้น และเมื่อต่างหยิบออกมาดูชุดของตัวเอง ก็มีทั้งเสียงโล่งอกบ้าง และอาการนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออกจากบางคนบ้าง

    “...คุณปวีร์ จะให้ผมแต่งแบบนี้จริง ๆ หรือครับ...แน่ใจนะครับ ว่าจะออกมาแล้วดูดีน่ะ”

    วาโยหันไปถามนายจ้างของเขา เมื่อเปิดถุงพลาสติกออกมาแล้วต้องเจอกับชุดเสื้อนักเรียนสีขาว ปกกะลาสี ผูกโบว์สีแดง กระโปรงลายสก็อต  ชายหนุ่มมองอีกฝ่ายอย่างรอคอยคำตอบด้วยสีหน้าที่แสนจะพิกล จนปวีร์อดนึกขำไม่ได้ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีอีกเสียงขัดขึ้นบ้างเช่นกัน

    “ตอนอาออกแบบน่ะ คิดไหมว่า มันจะเหมาะกับพวกเราหรือเปล่า ...พวกผมน่ะเรียนจบมหาลัยแล้วนะ จะให้กลับมาแต่ง...แต่งชุดปกกะลาสีเป็นเด็กนักเรียนแบบนี้นี่นะ!”

    การินโพล่งใส่อย่างหงุดหงิด เพราะชุดของเขานั้นแทบจะคล้ายกับวาโยทีเดียว จะมีแตกต่างกันบ้างก็ตรงโบของเสื้อเป็นสีฟ้า และเป็นกางเกงขาสั้นยาวถึงเข่าแทนกระโปรงแบบของวาโย

    “ไม่ใช่ชุดนักเรียนเต็มยศสักหน่อย นี่ออกแบบมากึ่งไปรเวทนะ ...คนอื่น ๆ เขาก็ไม่เห็นจะบ่นเลยนี่”

    ปวีร์บอกกับหลานชายแล้วหันไปยิ้มให้กับพนักงานคนอื่นที่ยิ้มเจื่อน ๆ ตอบ

    “ก็ชุดพวกนั้นไม่เหมือนกับพวกผมนี่ เครื่องแบบยังกับนักศึกษาชายโรงเรียนเอกชนแบบนั้นมันก็ดูดีน่ะสิ!”

    กวินมองคนรักที่โวยวายตาปริบ ๆ แล้วเหลือบมองชุดของตัวเอง ซึ่งเป็นสูทกึ่งแฟชั่น สีน้ำตาลอ่อน มีตราร้านปักเลียนแบบให้คล้ายเป็นตราสถาบันตรงกระเป๋าเสื้อด้านหน้า เสื้อตัวในเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาว ผูกไทต์สีน้ำเงิน กางเกงผ้าสีดำ โดยรวมแล้วเป็นเครื่องแบบที่เขาใส่อย่างไม่คิดตะขิดตะขวงใจอะไร เพราะจะว่าไปเขาเองก็เพิ่งจบการศึกษามาหมาด ๆ อยู่แล้วนั่นเอง

    “เอาน่า…อามั่นใจว่าเลือกชุดเหมาะกับหน้าคนใส่ ดูอย่างรุจสิ ได้เครื่องแบบอาจารย์ห้องพยาบาลแทนเครื่องแบบนักเรียน เขายังไม่บ่นอะไรเลยเห็นไหม”

    คนอื่น ๆ หันไปมองชายหนุ่มเป็นตาเดียว รุจยกยิ้มน้อย ๆ อย่างไม่สะทกสะท้าน แถมยังมีสีหน้าชอบอกชอบใจเครื่องแบบของตัวเองเสียอีกด้วย

    “แต่ว่า...” การินเตรียมจะแย้งต่อ แต่เขาก็โดนปวีร์ยกมือห้าม ก่อนจะเอ่ยตามมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่น้ำเสียงนั้นมีความเด็ดขาดกว่าเดิม

    “ลองไปใส่กันดูเลยดีกว่า ถ้ามีเสียงค้านไม่เหมาะเกินครึ่ง อาถึงจะอนุญาตให้เปลี่ยน โอเคนะ?”

    การินที่เตรียมจะเถียงนิ่งเงียบ ก่อนจะทำหน้ามุ่ย แล้วพยักหน้าหงึก ๆ ทำเอาวาโยที่ไม่ค่อยพอใจชุดตัวเองต้องมองทั้งสองตาปริบ ๆ ก่อนจะลอบถอนหายใจอย่างนึกปลงกับชะตากรรมของตัวเองยิ่งนัก



    ใช้เวลาพักใหญ่ทุกคนก็เปลี่ยนเสื้อผ้ากันเรียบร้อย สมาชิกในห้องพักเบอร์ 1 และ 3 ต่างลงมาพร้อมหน้าพร้อมตากันอยู่ด้านล่าง พวกหนุ่ม ๆ ใส่เครื่องแบบนักศึกษาได้เข้ายิ่งกว่าที่ปวีร์คาดไว้ ชนิดที่หากไม่มีใครบอก ก็คงต้องคิดว่าทั้งหมดกำลังอยู่ในวัยเรียนกันอยู่เป็นแน่

    “คุณรุจเหมาะกับเครื่องแบบอย่างนี้จนน่ากลัวเลยอะ”

    ธีรัชเปรยบอกกับภูริหลังจากยิ่งจ้องรูมเมทของเขา ก็ยิ่งเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นดูกลมกลืนกับชุด โดยเฉพาะเวลาที่ชายหนุ่มสวมเสื้อกาวน์คลุมทั้งเสื้อเชิ้ตและกางเกงผ้าสีดำทับอีกชั้นหนึ่ง ประกอบกับแว่นตาที่เจ้าตัวสวมใส่ ก็ทำให้รุจนั้นมองดูเหมือนนายแพทย์เสียยิ่งกว่าอาจารย์ห้องพยาบาลทั่วไปเสียอีก

     “ดีที่คุณปวีร์ไม่ยึดเขาเป็นหลัก แล้วเปลี่ยนเป็นธีมโรงพยาบาลแทน...ไม่อย่างนั้นเด็กนั่นคงถูกจับแปลงกายเป็นนางพยาบาลแน่นอน”

    “ตอนแรกก็ตั้งใจว่างั้นล่ะ แต่กลัวจะมีคนไข้อยากโดนคุณพยาบาลจับฉีดยากันหลายคนแทนน่ะสิ ...อีกอย่างฉันคิดว่าจะเอานั่นไว้เป็นธีมต่อ ๆ ไปด้วย... อย่างนางพยาบาลหูแมว กับคุณหมอเจ้าเสน่ห์ อะไรราว ๆ นี้ล่ะ”

    ปวีร์ที่ย่องมาด้านหลังทั้งคู่เปรยขึ้น ทำเอาธีรัชกับภูริสะดุ้งโหยง แล้วรีบหันขวับไปมองเจ้าตัวอย่างตกใจทันที

    “ว่าแต่เด็กน้อยของฉันสองคนนั่นยังไม่ลงมาอีกหรือไง สงสัยต้องไปตามลงมาเสียแล้วล่ะมั้ง... อ้อ พูดยังไม่ทันขาดคำก็มากันละ”

    ปวีร์ยังไม่ทันพูดจบดี หนุ่ม ๆ ต่างก็รีบหันไปมองสองคนที่เพิ่งลงมา ก่อนจะพากันนิ่งอึ้งไปตาม ๆ กัน กับความน่ารักของทั้งคู่ ที่แสนจะเข้ากันกับเครื่องแบบที่สวมใส่ โดยวาโยนั้นไม่ได้ใส่วิก แต่คาดผมด้วยโบสีแดงอันใหญ่ แม้ผมชายหนุ่มจะสั้น แต่ก็สั้นแบบรับกับใบหน้า พอได้เครื่องประดับช่วยก็ยิ่งทวีความน่ารักและสดใสของเจ้าตัวให้มากยิ่งขึ้นไปอีก

    ทางด้านการินนั้นก็แทบไม่แตกต่างกัน แม้ชายหนุ่มจะใส่กางเกงแทนกระโปรง แต่ด้วยความน่ารักของเครื่องแบบ และความหน้าสวยของเจ้าตัว ก็ยิ่งทำให้มองแล้วดูเด่นสะดุดตา ชนิดที่ว่าใครที่เดินผ่านต้องเหลียวหลังมองกันทุกคนเป็นแน่

    “...น่ารักชะมัด ทั้งคู่เลย ...โชคดีจริง ๆ ที่มาทำงานที่นี่”

    กวินพึมพำกับตัวเองด้วยแววตาเพ้อ แต่คนที่อยู่ข้าง ๆ และได้ยินเข้าพอดี ต้องกระแอมเบา ๆ ก่อนจะชำเลืองอีกฝ่ายเขม็งอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก

    “ชมแค่คนของนายก็พอ ไม่ต้องเผื่อมาชมคนของคนอื่น”

    กวินชะงักก่อนจะหันมามองอีกฝ่ายตาปริบ ๆ ส่วนธีรัชนั้นหัวเราะเบา ๆ อย่างนึกขำที่เห็นเพื่อนสนิทออกอาการหึงให้เห็นอีกครั้ง

     สำหรับสองคู่หูรูมเมทผู้น่ารัก ต่างก็พากันถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อได้เห็นปฏิกิริยาของเพื่อนร่วมงาน ซึ่งก็ไม่แตกต่างกับที่คาดเอาไว้ เพราะจะว่าไปแล้ว ตอนที่พวกเขาแต่งตัวเสร็จและต่างให้อีกฝ่ายดูนั้น ก็ต้องพบว่าฝ่ายตรงข้ามแต่งออกมาได้เหมาะสมกับชุดและดูดีอย่างที่ปวีร์บอกไว้ก่อนหน้านั้นจริง ๆ

    “กระโปรงมันสั้นจังครับคุณปวีร์ ...น่าจะยาวกว่านี้สักหน่อย”

    วาโยหันไปบ่นเบา ๆ กับคนออกแบบชุด เพราะกระโปรงของเขายาวขึ้นเหนือเข่ามาเกือบฝ่ามือ โชคดีที่ชั้นในนั้นไม่ถูกบังคับให้ใส่แบบของผู้หญิงตามชุด ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กล้าจะเดินทำงานไปมาในวันนี้แน่

    “อืม...ตอนส่งแบบไปฉันก็ออกแบบให้พอดีเข่าหรอกนะ แต่สงสัยคนตัดเขาเอาขึ้นมาอีกนิด ตามสมัยนิยมล่ะมั้ง ...แต่ก็ไม่ได้สั้นอะไรมากมายนี่ อีกอย่างถุงเท้าขาวลายลูกไม้นั่นก็ปาไปครึ่งหน้าแข้งแล้วไม่ใช่หรือ ก็ไม่ได้โป๊อะไรแล้วล่ะน่า”

    ปวีร์เปรยยืดยาวอย่างไม่ใส่ใจ ทำเอาคนแย้งต้องมองชายหนุ่มตาปริบ ๆ ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ตามมาเมื่อได้ยินประโยคท้าย ๆ นั่น

    “ครับ ๆ ก็แค่สั้นกว่าเสาร์ที่แล้วขึ้นมานิด ๆ หน่อย ๆ ก็เท่านั้น และหวังว่ามันคงจะไม่สั้นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ นะครับ”

    วาโยพึมพำติดประชด จนคนฟังนึกขำ ก่อนจะตอบพร้อมรอยยิ้มปลอบ

    “ไม่ต้องกังวลหรอก เสาร์หน้าจะให้ใส่กางเกงแทนกระโปรงแล้วล่ะนะ”

    วาโยชะงักกึก ก่อนจะจ้องมองคนพูดอย่างตกใจแกมดีใจ

    “จริง ๆ นะครับ!”

    “แน่นอน ฉันจะโกหกพวกเธอไปทำไมล่ะ เพราะงั้นเสาร์นี้ก็ทำงานให้เต็มที่ทิ้งทวนกระโปรงไปเลยแล้วกันนะ”

    ปวีร์เอ่ยพร้อมกับยกยิ้มน้อย ๆ อย่างเจ้าเล่ห์ ทว่าวาโยที่มัวแต่ดีใจนั้นไม่ได้ทันสังเกต ยกเว้นคนอื่นที่ได้เห็นรอยยิ้มนั้นเข้าพอดี ถึงกับทำตาปริบ ๆ แล้วนึกหวาดระแวงว่าเสาร์หน้านี้ พวกเขาจะได้เจอกับอะไรกันแน่

   

    พอกลับขึ้นห้องพักก่อนที่จะไปเปลี่ยนเสื้อเพื่อรอทานอาหารเช้า กวินกับภูริก็หันมาสบตากัน แล้วต่างฝ่ายก็ต่างดึงมือคนรักของตนเข้าไปในห้องของแต่ละคน โดยกวินดึงการินไปห้องพักของเขา ส่วนภูริก็ดันวาโยเข้าไปในห้องของอีกฝ่าย

    “อะ...อะไรหรือครับคุณภูริ”

    “ก็นายน่ารักจนอยากกอด แล้วก็อยากทำมากกว่ากอด เสียเดี๋ยวนี้เลยน่ะสิ”

    ภูริตอบตามตรงด้วยแววตาวาววับเอาจริง ทำเอาวาโยหน้าแดงก่ำ แล้วรีบละล่ำละลักปฏิเสธ

    “ไม่ได้นะครับ! อีกอย่างพวกคุณปวีร์ก็รออยู่ข้างล่างด้วย ... ถ้าเกิดเขาขึ้นมาแล้วเจอเรากำลัง...ไม่ได้หรอกครับ ยังไงก็ไม่ได้!”

    วาโยพูดแล้วก็ยิ่งหน้าแดงก่ำ ทำให้คนแสร้งทำหน้าเคร่งขรึมหลุดเก๊ก แล้วหัวเราะตามมาอย่างหยุดไม่อยู่  ทำเอาคนมองชะงักด้วยความงุนงง  ทางด้านภูรินั้นหัวเราะอยู่สักพัก จนเริ่มควบคุมตัวเองได้ เจ้าตัวจึงเอ่ยตามมา

    “ฮะ ๆ นี่นายคิดไปถึงไหนน่ะ ฉันก็แค่อยากกอดแล้วก็จูบนายนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้น...นี่คิดว่าฉันจะหน้ามืดปล้ำนายตอนนี้จริง ๆ น่ะหรือ”

    วาโยนิ่งอึ้ง ก่อนจะตามมาด้วยอาการหน้าแดงด้วยความเขิน และความฉุนตามลำดับ

    “คนบ้า! ถอยไปให้พ้นนะ! ผมจะเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปกินข้าว!”

    วาโยโวยวายอย่างโมโหที่ถูกหลอก ทว่าก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อภูริดึงร่างของเขามากอด พร้อมกับอ้อนขอโทษ

    “ไม่เอาน่า อย่าโกรธฉันเลยนะ ฉันขอโทษแล้วกัน ...คืนดีกันนะ”

    “ฮึ! หัวเราะเยาะเขาขนาดนั้น ยังมาทำเป็นพูดดีอีก”

    ภูริมองใบหน้างอน ๆ นั่น อย่างมันเขี้ยว นึกอยากจับจูบอีกฝ่ายเสียเดี๋ยวนั้น แต่ก็กลัวว่าวาโยจะงอนเพิ่มกว่าเดิม

    “โอ๋...ขอโทษนะครับโย มามะคนดีขอหอมแก้มทีนะ”

    วาโยชะงักก่อนจะหลุดหัวเราะเบา ๆ อย่างนึกขำ เพราะนาน ๆ จะเห็นภูริอ้อนเขาแบบนี้สักที

    “หายโกรธแล้วใช่ไหมล่ะ” ภูริบอกตามมายิ้ม ๆ ทำให้คนหลุดหัวเราะรีบเก๊กหน้าบึ้งแทน

    “ไม่เอาสิ เลิกงอนเถอะ...เวลามีน้อยนะ ไหนจะต้องกอด ต้องจูบ แถมยังต้องถ่ายรูปเก็บไว้ดูอีก”

    วาโยขมวดคิ้วยุ่งเมื่อได้ยินประโยคถัดมา แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะแย้งอะไร เขาก็ถูกอีกฝ่ายชะโงกหน้าลงมาจูบเสียก่อน และไม่นานนักคนที่ทำท่าจะประท้วงก็โอบแขนคล้องคออีกฝ่ายและร่วมมือตอบสนองด้วยเป็นอย่างดีในที่สุด



    อีกห้องหนึ่งที่กำลังคุยหวาน ๆ กันอยู่ดี ๆ ก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงวาโยโวยวาย ทว่าพอเสียงค่อนข้างเงียบไป ทั้งสองที่แอบฟังอยู่ก็เงียบตาม และต่างหน้าแดงน้อย ๆ เพราะพอจะคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอีกห้องกันแน่

    “เอ่อ ...ฉันกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าตอนนี้ จะได้ไหมเนี่ย”

    การินอ้อมแอ้มบอกกับคนตรงหน้า กวินถอนหายใจก่อนจะแย้มยิ้มน้อย ๆ พร้อมตอบ

    “รับรองว่าถ้าเข้าไปตอนนี้ ต้องมีคนหัวเสียกับคนที่อายจนแทบจะมุดดินหนี อย่างละคนแน่นอน”

    การินหน้าแดงวาบด้วยความเขิน จนคนมองอดใจไม่ไหว รีบคว้าร่างเพรียวบางมากอดและหอมแก้มเนียนนั่นฟอดใหญ่

    “วิน!” คนถูกหอมอุทานเรียกชื่อคนรักอย่างเขินอาย ทว่ากวินกลับทำเป็นไม่สนใจ เขาจูบแล้วจูบอีกไปทั่วใบหน้า จนร่างนั้นหมดแรงต่อว่า และอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนแกร่งแทน

    “ทำไมน่ารักแบบนี้นะริน... ชักรู้สึกหึงลูกค้าของเราแล้วสิ”

    กวินพึมพำขณะที่กอดร่างนั้นอย่างทะนุถนอม การินหน้าแดงก่ำ ก้มหน้างุด ๆ ซุกกับอกอีกฝ่าย ก่อนจะกอดตอบคนรักแน่น จนกวินต้องกลืนน้ำลายลงคอ

    “ง่า...ฉันว่ายอมเสียมารยาทขัดจังหวะห้องตรงข้ามดีกว่า ขืนปล่อยให้อยู่สภาพนี้นาน ๆ คงได้เผลอลืมตัว ทำอย่างอื่นนอกจากจูบเข้าให้แน่ ๆ เลยอะ”

    กวินกระซิบ ทำเอาคนที่กำลังกอดเขาอยู่สะดุ้งเฮือก แล้วจึงรีบปล่อยมือ ก่อนกระโดดออกมายืนหน้าแดงด้วยความตกใจ

    “คนลามก!” การินโพล่งใส่ ทำเอากวินยิ้มเจื่อน ๆ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า เขาเองก็กำลังคิดลามกอย่างที่อีกฝ่ายบอกไว้จริง ๆ

    “ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้นายน่ารักเองนี่ ...อ๊ะ ว่าแต่ถ่ายรูปคู่กันหน่อยนะ ฉันจะเอาไว้เป็นหน้าจอมือถือน่ะ”

     การินหน้าแดงด้วยความเขิน แต่ก็ยังคงพยักหน้าตกลง แล้วยอมถ่ายรูปกับอีกฝ่าย พอถ่ายเสร็จกวินก็ส่งรูปไปให้เครื่องของคนรัก ทำให้พวกเขาตอนนี้ใช้ภาพหน้าจอมือถือเหมือนกันทั้งคู่

    “ดีละ เวลางานยุ่ง ๆ เหนื่อย ๆ แล้วนายติดพัก ฉันจะได้ดูหน้านายผ่านมือถือแทน จะได้มีแรงทำงานกับเขาต่อไงล่ะ”

    กวินบอกพร้อมรอยยิ้มจริงใจ ทำให้คนฟังเกิดอาการเขินอายขึ้นมาอีกครั้ง แล้วจึงรีบเดินออกจากห้องเบอร์หนึ่ง ตรงไปเคาะประตูห้องเบอร์สอง ก่อนจะเปิดเข้าไป ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่วาโยและภูริผละออกจากกันพอดี

    “อะ...ขอโทษครับ ผมจะเข้ามาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า...”

    “อืม...ตามสบายแล้วกัน ฉันก็เสร็จธุระพอดี”

    ภูริบอกเสียงเรียบ ๆ ไม่ได้มีอารมณ์โกรธเคืองแฝงอยู่ จนการินนึกแปลกใจ แต่พอชายหนุ่มออกไปแล้ว เขาก็เดินเข้ามามองหน้ารูมเมท ก็เห็นว่าวาโยยังมีสีหน้าเขินอายให้เห็นได้อยู่

    “ฉันมาขัดจังหวะหรือเปล่า”

    “บ้ารึ...” วาโยพึมพำใส่คนถาม แล้วจึงเบือนหน้าหลบนิด ๆ แต่นั่นก็ทำให้คนมองต้องถอนหายใจ

    “ให้ฉันเดาไหม ที่คุณภูริไม่โกรธที่ถูกขัดจังหวะ เพราะทำตามใจชอบจนหนำใจแล้วสินะ”

    วาโยสะดุ้งเฮือกหันขวับมามองคนพูดตาตื่น จนการินนึกขำ

    “ถ้านายลองไปส่องกระจก ก็คงได้เห็นสภาพตัวเองตอนนี้นั่นล่ะ โดยเฉพาะปากแดง ๆ ของนายน่ะ มันบวมเจ่อแถมเซ็กซี่น่าดูเลย รู้ไหม”

    เท่านั้นเอง วาโยก็หน้าแดงวาบ แล้วรีบวิ่งเข้าห้องนอนของเขาไปทันที การินถอนหายใจเบา ๆ แล้วหวนนึกถึงตัวเอง ที่ก็โดนมาแทบจะไม่แตกต่างกัน เพียงแต่กวินชอบหอมแก้มหอมตัวเขามากกว่า และสำหรับเขาไม่ว่าอีกฝ่ายจะทำอย่างไร ก็ดันชอบไปหมดเสียอย่างนั้นจนน่าเจ็บใจตัวเองเลยทีเดียว แต่ก็นั่นล่ะ เขาก็อดยอมรับไม่ได้ว่า เขาในตอนนี้นั้นมีความสุขมากที่สุดด้วยเช่นเดียวกัน



... TBC ...

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ว้าว ตอนนี้หวานกันซะมดขึ้นหมดแล้ว  :o8: :-[

อยากได้รูปคู่แต่ละคู่มาขึ้นหน้าจอมือถือเหมือนกันนะ  :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
หวานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
เครื่องแบบครั้งต่อไปที่ไกรเป็นคนออกแบบหรือเปล่า แล้วออกแบบมาเป็นแบบไหนกันนะ ภูิโยหวานมาก ๆ วินรินก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนกว่ากัน

ออฟไลน์ nayne

  • miKapleXD
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
    • Super Сasual Dating - Actual Women
หวานมากกกกก
ว่าแต่วาโยย้ายมาอยู่ห้องเดียวกับการินตอนไหน
ตอนแรกอยู่กับกวินไม่ใช่รึ
หรือว่าเค้าอ่านผิด พลาดตรงไหนไปเนี่ยเรา :serius2:

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
หวานมากกกกก
ว่าแต่วาโยย้ายมาอยู่ห้องเดียวกับการินตอนไหน
ตอนแรกอยู่กับกวินไม่ใช่รึ
หรือว่าเค้าอ่านผิด พลาดตรงไหนไปเนี่ยเรา :serius2:


ย้ายห้องกันตั้งแต่ตอนที่ 37 ไงคะ ^^" ก่อนธีรัชจะเข้ามาอยู่  ตอนแรกรุจจะเสนอ ให้นอนกันเป็นคู่ ๆ แต่ภูริแย้งไปว่ากลัวอดใจไม่อยู่ จึงจัดคู่กันเป็นแบบนี้แทนค่ะ ^^

ออฟไลน์ nayne

  • miKapleXD
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
    • Super Сasual Dating - Actual Women
ขอบคุณมากค่ะ เค้าลืมจริงๆ :z3:
สงสัยอ่านตอนง่วงๆแน่เลย

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
เขาหวานกันจังนะทั้งสองคู่เลยแล้วคู่อื่นเป็นไงบ้างเนี้ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
เขาหวานกันจังนะทั้งสองคู่เลยแล้วคู่อื่นเป็นไงบ้างเนี้ย

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
ภูรินี่แอบหื่นเงียบนะเนี่ย 
คอยหาโอกาสตอดนิดตอดหน่อยตลอดเลยนะ   :impress2:

น้องโยช้ำหมดแล้วมั๊งเนี่ย   :o8:

ออฟไลน์ entirom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-2
โอ๊ยยย!

มดกัด
มดขึ้นคอมเต็มเลย

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
หวานมากกกกกกกกก  :o8:
ปกติภูริกับวาโยก็ทำให้น้ำตาลหกเต็มคอมอยู่แล้ว มาเจอคู่กวินกับการินอีก มดมาทั้งรัง :laugh:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
คุณภูริหื่นอ่าาา

เขาว่าคนขรึม ๆ เงียบ ๆ นิ หื่นมาก จริงนะเนี้ย

กวินนิหื่นแบบแสดงออก 5555 เฉพาะกับรินเท่านั้นอะนะ

น่าจะลองให้รินใส่กระโปรงเป็นเพื่อนหนูโยบ้าง555

พอลูกค้ามาคราวนี้ ภูริกับกวินต้องหลุดแน่เลยอ่า

alekung103

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดด อยากไปร้าน 555+

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ร้านกาแฟร้านนี้ มันน่าไปอุดหนุนจริงๆ โดยเฉพาะวันเสาร์เนี่ย 555

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
อยากเห็นการินกับวาโยบ้างจังเลย สงสัยน่ารักมากจนแฟนอดใจไม่ไหว

บวกหนึ่งค่ะ

ออฟไลน์ kasarus

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
วันนี้คุณไกรสรยังไม่โผล่มา ไม่รู้ว่าจะมาป่วนอะไรที่ร้านกับเค้าอีก
อย่าบอกนะว่าคุณไกรสรแอบไปตัดชุดมาให้เข้ากับพนักงานของร้าน ถ้าเป็นจริงคง....หึหึ :z1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
หวานๆกันใหญ่  :-[

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
มดขึ้นห้อง  แอร๊ยยยย  ต่อมอิจฉาทำงานหนัก

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
หวานมากกกกกกก ทั้งคู่โย คู่ริน

คุณภูหื่นหลบใน ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ nongnette

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ชอบทุกคู่เลยอ่า

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4

*ช่วงนี้มีงานเข้ามาเรื่อย ๆ  ไม่แน่ใจว่าจะจบทันเดือนนี้ไหม ถ้าจบก็คงเป็นลักษณะแฮปปี้ทุกคู่ ล่ะนะคะ ส่วนเรื่องหวาน ๆ (และแอบเลือดกำเดาสาด) คงจะมีในตอนพิเศษ เพราะก็อยากเขียนแบบวันพักผ่อนสบาย ๆ ของแต่ละคนดูเหมือนกัน ^^ ยังไงก็ติดตามกันนะคะ จะทยอยลงให้อ่านเรื่อย ๆ จนจบ  และถึงจะมีโปรเจ็คทำมือก็จริง แต่ก็ไม่ทิ้งนักอ่านในบอร์ดอยู่แล้วจ้ะ ได้อ่านตอนพิเศษกันแน่ค่ะ สำหรับเรื่องนี้



Miracle Café / 44





     ไกรสรนิ่งอึ้งเล็กน้อย เมื่อเห็นรุจในมาดอาจารย์ห้องพยาบาล แถมพอได้เห็นปฏิกิริยาจากลูกค้าสาวบางคนที่เข้ามาในร้านแล้วเห็นรุจเข้า เขาก็ยิ่งไม่ค่อยสบอารมณ์เข้าไปใหญ่

    “ถ้าฉันประกาศตัวว่าเป็นแฟนเธอเสียตรงนี้ จะเป็นอะไรไหม”

    รุจเปรยตามามองคนที่ยังคงนั่งข้างเขาอยู่แถวตู้ขนมหวาน ก่อนจะตอบกลับไปเสียงเรียบ ๆ

    “ก็เอาสิครับ ใครห้ามคุณล่ะ”

    ไกรสรหันมามองคนพูดนิ่งสักพัก ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ตามมา

    “ไม่ดีกว่า ฉันยังไม่อยากถูกเธอให้คะแนนติดลบ แค่นี้ก็ไม่รู้จะทำยังไงให้มันบวกขึ้นมาแล้ว”

    รุจเลิกคิ้วนิด ๆ ก่อนจะอมยิ้มกับตัวเอง แล้วจึงเปรยขึ้นลอย ๆ

    “อืม...ตอนนี้ก็เข้าเกณฑ์บวกมานิดหน่อยแล้วล่ะนะครับ”

    ไกรสรสะดุ้ง แล้วหันขวับกลับมามองคนพูดทันที

    “จริงรึ!”

    รุจไม่ตอบ เขาหันมายิ้มน้อย ๆ ก่อนจะหันกลับไปสนใจงานของตนต่อ เมื่อกวินเอาใบออเดอร์อาหารมาส่งเขาที่แคชเชียร์

    “ไม่ตอบก็ไม่เป็นไร ...แค่ขอให้เธอรู้ว่าฉันกำลังดีใจมากก็พอ”

     ไกรสรบอกแล้วก็นั่งวาดรูปชุดบนสมุดสเก็ตในมือไปเรื่อยเปื่อย จนทำให้รุจต้องเหลือบมอง แล้วถอนหายใจเบา ๆ แม้จะเป็นเพียงแค่เกมการพนันโดยที่เขาไม่ได้ใส่ใจนัก ทว่าเขากลับรู้สึกเริ่มเคยชินต่อการที่มีอีกฝ่ายคอยมาอยู่เคียงข้างเช่นนี้ บ้างแล้วเหมือนกัน

     

    วันนี้ด้านหลังครัว ชานนกับขวัญตานั้นต้องผจญกับศึกหนัก เนื่องจากลูกค้าที่มาทานปกติก็สั่งอาหารกินกันประจำอยู่แล้ว ทว่าวันนี้คนที่ตั้งใจมากินนั้นต่างสั่งอาหารเพิ่มมากขึ้นจากปกติเป็นเท่าตัว เพื่อหวังโปรโมชันของร้านอีกทางหนึ่งด้วย

    “คุณนนคะ...สลับกันดีกว่าค่ะ วันนี้คุณลุยหนักมาตั้งแต่เปิดร้านแล้วนะคะ ข้าวก็ยังไม่ได้กิน เดี๋ยวก็ล้มวูบไปหรอกค่ะ”

    ขวัญตาเอ่ยเตือนอย่างเป็นห่วง ทำให้ธีรัชที่ก้าวเท้าเข้ามาในช่วงพักชะงัก แล้วเดินไปสอบถามทั้งคู่

    “เกิดอะไรกันหรือครับ ผมช่วยได้ไหม”

    ขวัญตาหันมายิ้มน้อย ๆ ให้ชายหนุ่ม ก่อนจะแสร้งทำเป็นเปรยฟ้องอีกฝ่าย

    “ก็คุณนนน่ะสิจ๊ะ ลุยทำอาหารหนักมาตั้งแต่เช้าแล้ว นี่ยังไม่ได้พักทานอะไรเลย ฉันบอกให้พักก็ไม่ฟัง ...คงไม่เชื่อมือว่าฉันจะทำรอดล่ะมั้ง”

    ขวัญตาแสร้งถอนหายใจหนัก ทำเอาชานนสะดุ้งโหยง

    “ผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลยนะครับ แต่คุณตาเองก็ยุ่งไม่แพ้ผมเหมือนกันนี่ครับ ผมว่าคุณต่างหากที่ควรไปทานข้าวก่อน”

    ขวัญตาหันมายิ้มน้อย ๆ แล้วจึงบอกกับอีกฝ่าย

    “ไว้ตาทานทีหลังก็ได้ค่ะ บอกตรง ๆ นะคะ ตาก็แค่ช่วยคุณเตรียมของกับเก็บจานล้าง คนที่เหนื่อยหนักน่ะคุณต่างหาก”

    ธีรัชมองทั้งคู่อย่างเห็นใจ จากนั้นเขาจึงตบอกตัวเองเบา ๆ แล้วบอกกับทั้งคู่ออกไป

    “เอาอย่างนี้ไหมครับ เดี๋ยวผมจะช่วยล้างจานพวกนี้ให้เอง คุณตาก็จะได้มีเวลาช่วยเตรียมวัตถุดิบและจัดใส่จานให้ คุณนนก็จะได้เบาแรงขึ้น พอออเดอร์เริ่มซา พวกคุณก็สลับกันทานข้าว จะได้มีแรงทำต่อยังไงล่ะครับ”

    ขวัญตามองคนเสนอความเห็น ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ ตามมา ส่วนชานนเงียบไปเล็กน้อย แล้วจึงเอ่ยอย่างเป็นกังวล

    “จะดีหรือครับ นี่เป็นเวลาพักของคุณนะครับ แล้วอีกอย่างคุณก็ยังไม่ได้ทานข้าวเหมือนกันไม่ใช่หรือครับ”

    “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงครับ ผมมีเวลาพักตั้ง 1 ชั่วโมง  และถ้าผมเร่งสปีดก็สามารถกินหมดได้ใน 10 นาทีด้วยซ้ำ”

    ธีรัชบอกพร้อมยิ้มกว้าง แต่คนฟังนั้นถอนหายใจเบา ๆ อย่างเหนื่อยใจ  ส่วนขวัญตาอมยิ้ม แล้วรีบตัดบท

    “เอาเถอะค่ะ ในเมื่อธีเขาเสนอตัวช่วยขนาดนี้ เราก็ควรรับน้ำใจไว้นะคะ แล้วถ้าคุณนนกังวล คุณก็ค่อยตอบแทนธีเขาด้วยอาหารจานโปรดของเจ้าตัวทีหลังสิคะ จริงไหมจ๊ะธี”

    “ใช่เลยครับคุณตา! นะครับคุณนน...”  ธีรัชรีบรับคำของหญิงสาว แล้วหันไปอ้อนชานน จนกระทั่งอีกฝ่ายยอมใจอ่อน

    “ก็ได้ครับ...” ชานนรับคำพร้อมกับถอนหายใจเบา ๆ ธีรัชยิ้มกว้างอย่างยินดี แล้วจากนั้นพวกเขาจึงแบ่งงานกันทำอย่างคล่องแคล่ว แม้จะไม่ค่อยชอบใจนักแต่ชานนก็ต้องยอมรับว่า พอได้ธีรัชมาช่วยอีกคน เขาก็เบาแรงไปมากขึ้นทีเดียว

   

    เมื่อการินกับวาโยหมดเวลาพักและเตรียมลงมาเปลี่ยนเวร พวกเขาก็ต้องพบกับความแปลกใจเมื่อเห็นธีรัชนั้นไปยืนล้างจานเป็นผู้ช่วยเชฟทั้งสอง และพอรู้เรื่องราวทั้งคู่ก็บ่นใส่ทั้งสามคนทันที

    “แล้วทำไมไม่เรียกพวกผมล่ะครับ! นั่งว่างกันอยู่บนนั้นตั้งนาน ถ้ารู้นะ จะรีบลงมาช่วยแล้วเชียว!”

    วาโยบ่นอุบ เพราะตอนที่เขามานั่งกินอาหารกับการิน ออเดอร์ยังไม่เยอะมากอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ ทั้งคู่จึงขึ้นไปพักผ่อนตามปกติที่เคยทำ

    “นั่นสิ...พวกเราเลยเหมือนคนแล้งน้ำใจไปเลย”

    การินบ่นเสริม ทำให้ชานนสีหน้าไม่ค่อยดี เพราะแค่นี้เขาก็เกรงใจธีรัชมากแล้วด้วยซ้ำ ขืนคนอื่นมาช่วยอีก เขาคงรู้สึกเหมือนเอาเปรียบทุกคนกว่านี้เป็นแน่

    “งั้นเสาร์หน้าตอนพักก็มาขลุกกันอยู่ที่ครัวแทนสิ ถ้างานเข้าเมื่อไหร่ พวกนายก็ค่อยแจมตอนนั้นแทนไง”

    ธีรัชขัดขึ้นเพราะไม่อยากให้ชานนลำบากใจมากกว่านี้ และเพราะคำพูดนั้นจึงทำให้วาโยและการินพยักหน้ายอมรับ และหันไปบอกกับชานนและขวัญตาว่า ถ้ายุ่งเมื่อไหร่ให้เรียกใช้พวกเขาได้เลยโดยไม่ต้องเกรงใจ ทำให้เชฟทั้งสองรู้สึกซาบซึ้งในความมีน้ำใจของทุกคนยิ่งนัก

    “เอ้า! ไปเปลี่ยนตัวได้แล้ว หวานใจพวกนายเข้ามาแล้วเห็นไหม!”

    ธีรัชตัดบทเมื่อเห็นกวินกับภูริเข้ามา วาโยและการินชะงักเล็กน้อย หน้าแดงระเรื่อที่อีกฝ่ายพูดเช่นนั้น โดยเฉพาะการินถึงกับทำปากขมุบขมิบบ่นใส่ชายหนุ่มเลยทีเดียว และเมื่อกวินกับภูริเดินเข้ามาหาอย่างแปลกใจที่เห็นทุกคนมารวมตัวกันในครัว วาโยกับการินจึงบอกเรื่องราวทั้งหมด โดยที่ชานนยังไม่ทันได้อ้าปากห้าม ดังนั้นในครัวตอนนี้จึงมีผู้ช่วยเพิ่มมาสองคน และธีรัชก็ถูกชานนไล่ให้ไปนั่งกินข้าวในเวลาพักอีกครึ่งชั่วโมงที่เหลือ ทว่าเจ้าตัวกับยังคงยืนต่อรองโดยไม่ยอมไปพักง่าย ๆ

    “งั้นคุณนนก็ต้องพักด้วย... ออเดอร์แทบไม่เข้ามาแล้วนะครับ เมื่อครู่ตอนที่คุณตาไปพักทานข้าว คุณบอกว่าทำอีกสองจานก็จะพักบ้างไงครับ จริงไหมครับคุณตา”

    ธีรัชหันไปหาพวกช่วยพูด ซึ่งขวัญตาก็รีบรับลูกจากอีกฝ่ายแล้วย้ำตามมาทันที

    “จริงด้วยค่ะ ออเดอร์ที่เหลือ ตาจัดการเองค่ะ ตาชิมรสมือคุณนนจนทำตามได้แล้วล่ะ ไม่ต้องกลัวว่าร้านจะเสียเครดิตหรอกนะคะ”

    พอเจอขวัญตาพูดแบบนี้เข้า ชานนจึงต้องยอมแพ้ ปลีกตัวไปพักทานข้าวอย่างจำใจ โดยมีธีรัชกุลีกุจอลากเก้าอี้ พร้อมกับรินน้ำมาบริการอีกฝ่ายเต็มที่ จนภูริที่หันมาเห็นถึงกับนิ่งอึ้ง แล้วเริ่มจะคิดถึงเรื่องที่เพื่อนของเขากำลังตกหลุมรักกับใครบางคนในร้านขึ้นมาได้

    “พวกเขาสมกันดีนะ...ว่าอย่างนั้นไหมล่ะจ๊ะ”

    ขวัญตาเปรยกระซิบบอกคนข้าง ๆ เมื่อหันไปเห็นสายตาของภูริที่มองธีรัชอีกที ทำเอาภูริสะดุ้งโหยง แล้วหันมาสบตากับหญิงสาวอย่างตกใจ

    “คิก ๆ อย่าลืมเอาใจช่วยเพื่อนเธอด้วยล่ะ ส่วนฉันน่ะ เชียร์เต็มที่เลยล่ะ”

    ขวัญตาเอ่ยตามมา แล้วหันไปให้ความสนใจกับออเดอร์อาหารที่ทำค้างอยู่ต่อ ทำเอาภูริต้องกลืนน้ำลายลงคอ แล้วเหลือบไปมองธีรัชที่กำลังยิ้มมองชานนกินอาหาร อย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

   

    “คนเยอะใช่ย่อยเลยนะวันนี้ ...แล้วนี่  คุณนนคุณได้พักกินข้าวแล้วหรือยังน่ะ”

     เวลาบ่ายสามกว่า ปวีร์ที่ลงมาดูแลร้านด้านล่าง หลังจากทำงานส่วนตัวเสร็จ หันมาเอ่ยถาม ทำเอาขวัญตาหัวเราะคิก ขวัญแก้วที่นั่งพักอยู่แถวนั้นนั่งยิ้ม ส่วนชานนถอนหายใจเบา ๆ จนปวีร์แปลกใจ

    “เป็นอะไรกัน เกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านั้นหรือไง”

     ชายหนุ่มถามอย่างคาดเดา ซึ่งขวัญตาก็รีบตอบคำถามนั้นทันที

    “ก็ก่อนหน้านั้นคุณนนทำงานหนักไม่ยอมพักน่ะสิคะ ธีเขาก็เลยมาช่วยล้างจาน ตาเลยมีเวลาไปช่วยคุณนนได้มากขึ้น แถมเจ้าตัวยังช่วยทำจนเกือบหมดเวลาพัก แล้วไม่ยอมไปทานข้าว ถ้าคุณนนไม่พักด้วยกันน่ะค่ะ”

    ปวีร์เลิกคิ้วนิด ๆ เขาเองก็พอได้ฟังเรื่องจากปยุตมาบ้าง แต่ไม่คิดว่าธีรัชจะจริงจังขนาดนี้

    “ก็ดีนี่... แล้วคุณนนก็ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นหรอกน่า ผมเองเคยบอกพวกนั้นไปแล้วว่า ถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยคุณบ้าง เพราะคุณอยากไม่เลือกสักอย่าง ระหว่างเป็นเชฟให้ร้านกับเป็นผู้ดูแลบ้านพัก มันก็ต้องเป็นแบบนี้นั่นล่ะ”

    ปวีร์บอกอย่างนึกขำเมื่อเห็นสีหน้าลำบากใจของเชฟหนุ่ม ส่วนชานนนั้นถอนหายใจอีกครั้ง แล้วจึงเอ่ยตามมา

    “งานทั้งสองอย่างผมก็ทำได้อยู่แล้วนี่ครับ คุณเองก็เห็นอยู่ไม่ใช่หรือ  แต่กลายมาเป็นว่าผมต้องมาทำตัวกินแรง พนักงานที่ตนต้องคอยดูแล มันก็ลำบากใจนะครับ และคราวนี้ก็ไม่ใช่แค่คุณธีรัชแล้ว แต่นี่ทุกคนกลับบอกว่า ถ้าถึงเวลาพักเมื่อไหร่จะแวะมาช่วย ทั้งที่แต่ละคนก็มีงานที่ต้องรับผิดชอบหนักอยู่แล้วด้วย”

    ปวีร์มองคนที่รับผิดชอบต่อหน้าที่จนเกินไปตรงหน้า เหมือนที่ราเมศเคยบอกไว้ อย่างนึกขำ แล้วจึงเอ่ยปลอบอีกฝ่าย

    “ไม่เอาน่า คิดมากไปได้ วันที่คนจะเยอะจนพวกนั้นจะเข้ามาวุ่นวายในครัวของคุณได้ ก็คงมีแค่วันเสาร์นี่ล่ะ เพราะฉะนั้นก็ทนรำคาญใจไปแค่วันเสาร์ก็พอแล้วน่า”

    ชานนลอบถอนหายใจ แล้วจึงพึมพำตามมา

    “คุณก็รู้ว่าผมไม่เคยนึกรำคาญ เพียงแต่ผมเกรงใจก็เท่านั้น”

    “ใช่ ผมรู้ ...และเพราะรู้เลยอยากให้คุณนนชินและปรับตัวยอมรับความช่วยเหลือจากทุกคนที่นี่บ้าง”

    ชานนเงยหน้าสบตากับนายจ้างของตนนิ่ง และก็ต้องชะงักเมื่อปวีร์เอ่ยตามมา

     “...นี่คุณนน ผมไม่ใช่ผู้มีพระคุณอะไรมากมายที่คุณต้องตอบแทนถึงกับทุ่มสุดตัว จนไม่คำนึงถึงร่างกายตัวเองแบบที่เป็นอยู่นี่หรอกนะ ...เราเป็นครอบครัวเดียวกันไม่ใช่หรือ ผมไม่ได้แค่พูดลอย ๆ ให้ฟังดูดีเฉย ๆ แต่ผมรู้สึกแบบนี้กับทุกคนที่นี่จริง ๆ ...กับคุณเองก็เหมือนกัน คุณเหมือนเพื่อน เหมือนพี่ชาย เป็นคนที่ผมจะฝากความไว้วางใจให้ดูแลทุกคนในร้านนี้แทนผมได้คนหนึ่งเลยนะ รู้ไหม”

    ชานนนิ่งอึ้งและเงียบไปพักใหญ่ กระทั่งขวัญตาเองก็ยังแอบไปซับน้ำตาที่มันเอ่อล้นมาอย่างตื้นตันแทน ส่วนขวัญแก้วนั้นยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงลุกเดินออกไปช่วยงานด้านนอกต่อ เพราะวันนี้แขกเยอะเต็มร้านมากเสียยิ่งกว่าทุกวันที่ผ่านมาเลยทีเดียว จากนั้นสักพักเชฟหนุ่มจึงเอ่ยขึ้นแผ่วเบา

    “ผมเข้าใจแล้วครับคุณปวีร์...ขอบคุณนะครับ” 

     ปวีร์ยิ้มน้อย ๆ ตอบอย่างอ่อนโยน จากนั้นจึงเดินไปชะโงกดูด้านนอก แล้วขมวดคิ้วยุ่ง

    “คนเยอะจริง ๆ นี่ขนาดบ่ายสามกว่าไปแล้วนะ สงสัยเพราะโปรโมชันถ่ายรูปจะหมดในเสาร์หน้า ก็เลยมีคนมาใช้บริการกันเยอะล่ะสิ”

    ปวีร์พึมพำ จากนั้นจึงหันมามองในครัว ที่คาดว่าพอช่วงมื้อเย็นและค่ำมาถึง จะต้องผจญกับศึกหนักไม่แพ้กันกับช่วงกลางวันแน่

    “คุณนน เดี๋ยวผมจะเรียกผู้ช่วยมาช่วยคุณตอนเย็นอีกแรงนะ อ้อ ไม่ต้องปฏิเสธ รายนั้นยินดีช่วยคุณเต็มที่อยู่แล้วล่ะ”

    ปวีร์รีบเอ่ยดักคอ ทำเอาชานนสั่นศีรษะไปมาอย่างเอือมระอาแล้วเปรยบ่น

    “ลำบากคุณปยุตเปล่า ๆ นะครับ”

    “ไม่เห็นเป็นไร หมอนั่นอยู่บ้านสบายจะตาย เพราะผมมาขลุกที่ร้านเสียส่วนมาก อีกอย่างถ้าบอกว่าให้มาที่ร้านแล้วช่วยคุณด้วยล่ะก็ ดูเหมือนจะยินดีมาโดยไม่มีบ่นเลยทีเดียว เพราะเจ้าตัวกำลังหาเรื่องสนุกแก้เบื่อในช่วงนี้อยู่น่ะ”

    ชานนขมวดคิ้วอย่างสงสัย แต่สุดท้ายเขาก็ขัดคำสั่งของปวีร์ไม่ได้อยู่ดี จึงต้องพยักหน้ารับคำจำยอมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สร้างความพอใจให้กับคนสั่งเป็นยิ่งนัก

   

    ระหว่างที่ในครัวกำลังพูดคุยกันอยู่ อีกด้านหนึ่งนอกร้าน การินเองก็กำลังให้บริการลูกค้า เขามองจำนวนคนในร้านที่แทบไม่ค่อยพร่องลงเท่าใด แม้จะไม่ค่อยมีคนนั่งแช่ และเดินเข้าออกกันตลอดเวลาก็ตาม

    “ดีนะ ที่เตรียมการด้านนอกไว้พร้อมแล้ว ยังไงคืนนี้เผลอ ๆ ก็คงจะได้ใช้โต๊ะจนเกือบหมดร้านแน่”

    การินพึมพำกับตัวเอง เมื่อมองต้นไม้สมุนไพรไล่ยุง ที่เขาบอกให้อาสั่งมาปลูกแซมไปกับไม้ประดับอื่น ๆ และเขาก็ได้พิสูจน์กับตัวเอง และพวกกวินแล้วว่า ยุงที่เคยมีมากในช่วงกลางคืน เริ่มลดน้อยลงจนแทบไม่เจอเลยด้วยซ้ำ ประกอบกับอากาศเย็นสบายในตอนค่ำ และบรรยากาศจากแสงไฟที่ถูกประดับไว้ให้พ้นจากแมลงมารบกวนลูกค้าและอาหาร ก็ทำให้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มมีลูกค้ามาใช้บริการนั่งนอกร้านแทนในร้านอยู่หลายโต๊ะเลยทีเดียว

    “เอ่อ...คุณรินคะ ...”

    เสียงจากหญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านนอกกับเพื่อนของเธออีกสามคนเอ่ยเรียกชื่อชายหนุ่มเบา ๆ จนการินสะดุ้งแล้วหันมายิ้มให้

    “มีอะไรให้รับใช้หรือครับ”

    หญิงสาวคนนั้นทำท่าเอียงอายนิด ๆ แล้วจึงตัดสินใจเอ่ยขึ้นในที่สุด

    “ถะ...ถ้าไม่ว่าอะไร...ขอจับมือหน่อยจะได้ไหมคะ...”

    เจ้าหล่อนหน้าแดงขณะพูด ทำเอาการินนิ่งอึ้ง แต่ก็ยังคงยื่นมือให้อีกฝ่าย เพราะไม่เห็นว่าน่าจะเสียหายอะไรนัก

    “ได้สิครับ ถ้าไม่รังเกียจนะครับ”

    “มะ ไม่เลยค่ะ! ...อา  ผิวนุ่มจัง เนียนจริง ๆ ด้วย ....อ๊ะ ขอบคุณนะคะ”

    หญิงสาวผู้นั้นบอกด้วยนัยน์ตาเคลิบเคลิ้ม แล้วเอ่ยขอบคุณอีกฝ่ายระหว่างที่ปล่อยมือข้างนั้นอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก

    “อ๊ะ ฉันก็อยากจับมั่งเหมือนกัน!”

     เพื่อนร่วมโต๊ะอีกคนที่เห็นดังนั้นรีบเสริมขึ้น แต่คนที่จับมือคนแรกรีบขัดไว้

    “ไม่ได้! ก็ตกลงกันแล้วว่าใครจะเป็นฝ่ายได้จับไงล่ะ”

    “งก...อิจฉาชะมัด ฉันก็อยากจับคุณรินเหมือนกันนะ”

    หญิงสาวคนเดิมบ่นอุบ ทว่าอีกคนที่เหลือกลับมองชายหนุ่มด้วยแววตายิ้มแปลก ๆ พร้อมกับเอ่ยขึ้น

    “แต่ฉันอยากทำมากกว่าจับจัง”

    การินกลืนน้ำลายลงคอ และก่อนที่จะถูกลวนลามด้วยคำพูดจากสาว ๆ ไปมากกว่านี้ เจ้าตัวก็ขอเลี่ยงออกมาจากกลุ่มเสียก่อน

    “เอ่อ...คือ ถ้าไม่ว่าอะไรผมขอตัวก่อนจะได้ไหมครับ”

    “ได้สิคะ ขอบคุณนะคะ คืนนี้ฉันฝันดีแน่เลย”

     หญิงสาวที่ขอจับมือเป็นฝ่ายตอบแล้วยิ้มหวานให้ ก่อนจะชะงักเมื่อเพื่อนที่นั่งอยู่ด้วยเอ่ยกระเซ้าขึ้น

    “...ฝันถึงคุณรินคนเดียว หรือฝันถึงใครด้วยล่ะจ๊ะ”

    “แน่นอน ผิวนุ่มนิ่มเนียนน่าลูบไล้แบบนั้น ก็ต้องมีพระเอกประกอบด้วยสิจ๊ะ ...อ๊ะ! คุณวินคะ คุณวิน รบกวนอะไรหน่อยได้ไหมคะ!”

    การินที่กำลังเดินเลี่ยงไปยืนให้ห่างจากโต๊ะสาว ๆ กลุ่มนั้น ชะงักฝีเท้า เมื่อเห็นพวกเธอเรียกกวินที่เดินออกมาจากร้าน เพราะชายหนุ่มเห็นจากในร้านว่าการินนั้นกำลังยืนจับมือกับลูกค้า เขาจึงทั้งหึงทั้งห่วง เลยออกมาหวังที่จะช่วยดึงคนรักออกห่างพวกสาว ๆ ทว่าพอมาถึงก็ต้องถูกพวกเธอเรียกเสียอย่างนั้น

    “เอ่อ…มีอะไรหรือครับ”

    “ช่วยยืนข้างคุณรินแป๊บได้ไหมคะ แป๊บเดียวเองค่ะ ขอร้องนะคะ”

    กวินชะงักด้วยความงุนงงเช่นเดียวกับการิน ทว่าทั้งคู่ก็มายืนเคียงข้างกันตามคำขอร้องของอีกฝ่าย แล้วคอยดูว่าพวกเธอจะทำยังไงต่อไป แต่กลับได้ยินเสียงกรี๊ดตอบ จนคนอื่นในร้านพากันตกใจ

    “กรี๊ดใช่เลย! นี่ล่ะ เหมาะมาก อ๊ะ! ขอบคุณมากค่ะ ไม่รบกวนแล้วล่ะค่ะ ...กรี๊ด คืนนี้ฉันฝันดีแน่เธอ!”

    สาว ๆ กลุ่มนั้นบอกกับกวินและการิน ก่อนจะหันไปพูดคุยกันเองอย่างเมามัน ทำเอาพนักงานเสิร์ฟทั้งสองคนมองตาปริบ ๆ ทว่าก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไปประจำที่ เพื่อเตรียมตัวดูแลลูกค้ารายอื่น ๆ พวกเขาก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงใส ๆ จากในกลุ่มนั้นดังขึ้น

    “งั้นก็สั่งอาหารเพิ่มอีกสักอย่างสิ เอากลับหอพักก็ได้ เย็นนี้จะได้มีกับข้าวอร่อย ๆ กิน แล้วจะได้สิทธิ์ถ่ายรูปเพิ่มอีกใบด้วย...คราวนี้ล่ะจะให้คุณรินโพสท่าแบบที่อยากเห็นให้ดูให้ได้เลย!”

    กวินมองสาว ๆ กลุ่มนั้น แล้วจึงหันมาทางคนรักที่ยืนอึ้ง ๆ

    “ฉันว่านายลาป่วยตอนนี้เลยก็ได้นะ ไว้พวกนั้นกลับบ้านแล้วค่อยลงมาทำงานต่อ”

    การินชะงักพลางหันไปมองคนที่จ้องเขาเขม็งด้วยความหึงหวง จากนั้นชายหนุ่มหน้าสวยจึงอมยิ้มน้อย ๆ ตามมาอย่างแอบดีใจนิด ๆ และจึงบอกคนรักออกไปอย่างใจเย็นกว่าเดิม

    “บ้ารึ...ก็แค่ถ่ายรูปด้วย อีกอย่างพวกนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรกับฉันในแง่นั้นหรอก เพราะวันก่อนที่มายังเห็นคุยสนิทสนมกับโยอยู่เลย แถมถ้าจำไม่ผิด พอคุณภูริเดินมาบอกโยเรื่องให้ไปรับออเดอร์อีกโต๊ะหรือไงเนี่ย สาว ๆ กลุ่มนั้นก็กรี๊ดเขาเหมือนกันนะ”

    กวินขมวดคิ้วยุ่ง ก็โล่งใจที่ไม่มีใครในกลุ่มปิ๊งการินอยู่หรอก แต่พฤติกรรมยากจะเข้าใจของสาว ๆ กลุ่มนั้น ก็ทำให้เขารู้สึกสงสัยปนแปลกใจอยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน



    และกว่าที่ชายหนุ่มจะได้รู้คำตอบ พวกเขาก็ถูกเรียกให้มาถ่ายรูปคู่ด้วยกัน โดยสาว ๆ กลุ่มนั้นเป็นคนขอใช้สิทธิ์ตามโปรโมชันของร้าน โดยให้ทั้งสองถ่ายรูปในลักษณะเป็นคู่รักนักเรียน แม้การินนั้นจะเขินเพียงใด แต่ก็ยอมยืนควงแขนกวินและซบศีรษะลงกับไหล่ของอีกฝ่าย ทำเอาสาว ๆ กลุ่มนั้นกรี๊ดกันสนั่นอีกรอบ พอได้รูปแล้วพวกเธอก็เข้ามาขอบคุณทั้งสองคนอีกครั้ง และพอได้ยินที่พวกเธอพูด ก็ทำให้กวินลดอคติลงไปมาก แม้จะยังงุนงงอยู่บ้างก็ตาม

    “อย่าตกใจและรำคาญพวกเราเลยนะคะ เพราะพวกเราชอบพวกคุณมาก ๆ จึงแสดงออกแปลก ๆ ไปนิด แต่ที่ทำลงไปไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรเลยจริง ๆ นะคะ ...แต่เมื่อไหร่ที่คุณเกิดรู้สึกรำคาญ และคิดว่าพวกเราเริ่มล้ำเส้นกันจนเกินไป  ก็ขอให้บอกกันตรง ๆ ได้เลยนะคะ  พวกเราจะได้ลด ๆ อาการลงหน่อย เพราะบางทีพวกเราก็เผลอลืมตัวไปบ้างเหมือนกัน”

    หญิงสาวคนที่ขอจับมือการินเป็นฝ่ายพูด จากนั้นเธอจึงขอตัวลากลับไปพร้อมกับเพื่อนคนอื่น ส่วนขวัญแก้วที่เห็นสองหนุ่มยืนงง ๆ จึงเข้ามาอธิบายเพิ่มเติม

    “พวกนั้นเป็นกลุ่มสาว Y น่ะ ...สาว ๆ ประเภทนี้บางคน ก็ชอบมองผู้ชายหน้าตาดี และแอบไปจินตนาการว่าคนนั้นเหมาะสมกับคนนี้ ...บางคนที่ถูกจับจินตนาการ แล้วรู้เข้าอาจจะมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของตัวเอง แต่ฉันคิดว่ามันก็ไม่ได้เป็นเรื่องเลวร้ายอะไรนักหรอก ก็แค่ความคิด มันไม่ได้ไปทำร้ายอะไรให้ใครเดือดร้อน  ยกเว้นคนที่ถูกจับจินตนาการคนนั้นเกิดร้อนตัว เพราะตัวเองเป็นจริง ๆ เลยออกมาโวยวายว่าถูกละเมิดสิทธิส่วนบุคคล นั่นก็ว่าไปอย่าง ...”

    สองหนุ่มมองขวัญแก้วตาปริบ ๆ และพอจะคาดเดาจากคำพูดได้ว่า หญิงสาวเองก็คงเป็นหนึ่งในกลุ่มสาว Y อะไรนั่นเป็นแน่

    “สรุปง่าย ๆ ก็คือ พวกนั้นชอบจับคู่หนุ่ม ๆ ในร้านเรา คิดว่าคนนั้นเหมาะกับคนนี้ และน่าเป็นคู่กัน ...ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงไม่ใช่หรือไง”

    ท้ายประโยคขวัญแก้วลดเสียงพูดให้ได้ยินกันสามคน ทำให้กวินและการินสะดุ้ง หน้าแดงระเรื่อ จนหญิงสาวที่มองอยู่ถึงกับหลุดหัวเราะเบา ๆ

    “สาว Y น่ะ ความรู้สึกเรื่องพวกนี้ไวนะจ๊ะ ...ลองหลุดอาการไปนิด พวกเธอก็จับปะติดปะต่อกันไปยืดยาว และหลายคนก็ดันจินตนาการคาดเดาได้แม่นจนน่ากลัวเสียด้วยสิ!”

    ขวัญแก้วเอ่ยเตือนก่อนขอตัวกลับไปทำงานที่บาร์ต่อ ทำให้ทั้งคู่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ และต่างคิดว่าคงต้องระวังตัวกันให้มากกว่าเดิม ไม่อย่างนั้นคงได้ความแตกในเร็ววันนี้  ถึงแม้สาว ๆ กลุ่มนั้นอาจจะชอบใจ แต่พวกเขาก็รับประกันไม่ได้ว่า ลูกค้าคนอื่นในร้านจะชอบใจไปด้วยอย่างพวกเธอหรือเปล่ากันแน่

   

... TBC ...

 :L2:

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
แอบมาจิ้มเบาๆ ฮุฮุ
ธีเริ่มรุกหลักขึ้นเรี่อยๆแล้วซิ เมื่อไรคุณนนจะรู้ตัวซักทีน๊า
ว่าโดนธีหมายตาเอาไว้แล้ว สาวๆที่มาในร้านคงเป็นสาววายไปเกือบครึ่งแน่ๆเลยอ่ะ
อยากให้เรื่องจริงมีร้านแบบนี้บ้างจัง >.,< จะไปนั่งจิ้นจับคู่หนุ่มๆ
ปล.สู้ๆนะค่ะ ไฟร์ติ๊ง ^_^V
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-09-2012 14:30:07 โดย 111223 »

ออฟไลน์ LimousinX9

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 229
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ตายละ!! ติดเรื่องนี้งอมแงมซะแล้วสิ!!!  รอลุ้น คุณนน+ธีรัชอยู่นะ ฮิฮิ

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
ธี เริ่มรุกมากขึ้นแล้ว

คุณนน นิไม่ไหวเลยนะ ดูแลตัวเองบ้างดิค้าบบ

วินกับริน น่ารักอะ

5555 อยากไปถ่ายรูปบ้างง

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ว๊าย  ในร้านน่ะสาววายน้อยกว่าในเล้าตั้งเยอะ  ไม่ต้องกังวลหรอกจ้ะ  อิ อิ

alekung103

  • บุคคลทั่วไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด