[...Miracle Café...] คาเฟ่อลวน-คนอลเวง / +ตอนพิเศษให้อ่านแถม P.22
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [...Miracle Café...] คาเฟ่อลวน-คนอลเวง / +ตอนพิเศษให้อ่านแถม P.22  (อ่าน 223575 ครั้ง)

ออฟไลน์ RELAXED

  • ทำไงได้ก็ Y มันเรียกร้อง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
555 หวานกันเกิ๊นนนนน

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
ปวีร์เจ้าแผนการตลอดเวลาเลยนะเนี่ย แล้วนนจะว่ายังไงกันนะ

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
ธีคงใช่ฟ่อแย่ ถ้าเห็นเค้กของปยุต

หรือว่า ปยุตจะลืมทำเค้ก 555

เพราะทรงพลกักตัวไว้

มีออกมาครบทุกคู่เลยอ่า

น่ารักๆทั้งนั้นเลย

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
สงสัยปยุตจะกลับบ้านพักไม่ไหวแล้วมั๊งนั่น  :laugh:

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
แล้วยังงี้ถ้าธีรัชเห็นคงน้อยใจแย่

ออฟไลน์ gam

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
  :-[ โอ๊ยยย  หวานกันจังเลย  :o8: :o8:

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
ตอนที่ 49 มาต่อแล้วค่ะ ^^" ถ้าไม่ตันหรืองานเข้า จะรีบมาต่อ 50 ให้นะคะ

---------



Miracle Café / 49





    “เสร็จแล้ว!”  ธีรัชมองเค้กที่แต่งหน้าโย้เย้เบื้องหน้าเขาอย่างพึงพอใจ แต่พอเขาเหลือบดูเวลาก็นึกอดห่วงเชฟหนุ่มไม่ได้ เพราะผ่านไปเกือบชั่วโมง แต่ชานนก็ยังไม่กลับมาถึงบ้านพักเลย

    “ไปตามดีกว่า!” ชายหนุ่มตัดสินใจออกตาม หลังจากเก็บเค้กของตัวเองเรียบร้อย  ทว่ายังไม่ทันออกจากบ้านพัก เสียงปวีร์ก็ขัดขึ้นเสียก่อน

    “จะไปไหนน่ะธีรัช”

    “อ้าว คุณวี ...เอ่อ คือผมจะไปรับคุณนนน่ะครับ ...”

    ปวีร์อมยิ้มนิด ๆ แล้วจึงเอ่ยปรามอีกฝ่าย

    “ไม่ต้องหรอก สองคนนั่นเขากำลังเดินกลับมาน่ะ  แต่ตอนนี้ฉันอยากได้เครื่องดื่มเพิ่ม ช่วยไปซื้อของเป็นเพื่อนหน่อยได้ไหม”

    ธีรัชฟังแล้วก็พยักหน้ารับรู้  จริง ๆ เขานั้นอยากอยู่รอชานน แต่ก็คงไม่ดีถ้าหากจะปล่อยให้ปวีร์ไปซื้อของคนเดียว

    “ได้ครับ...จะไปกันเลยหรือเปล่าครับ”

    ปวีร์ส่งยิ้มให้นิด ๆ แล้วจึงพยักหน้าตอบ แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงกระแอมของใครบางคนดังขึ้น

    “อย่าเถลไถลนักล่ะ… ฝากนายปราม ๆ ด้วยแล้วกันนะธีรัช”

    ราเมศที่ยืนอยู่บนชั้นสองเอ่ยเสียงเข้มนิด ๆ แต่ปวีร์นั้นกลับหันไปยิ้มหวานให้แทน แล้วหันมาทางชายหนุ่มอีกคน

    “งั้นเราไปกันเถอะ รีบไปไว ๆ จะได้กลับไว ๆ ไงล่ะ”

    บอกแล้วปวีร์ก็ควงแขนธีรัชเดินออกนอกบ้านพัก เรียกเสียงกระแอมไล่หลังอย่างไม่สบอารมณ์จากคนบนชั้นสองดังขึ้นถี่ ๆ จนธีรัชต้องเหลือบมอง

    “จะดีหรือครับ ไม่กลัวเขาหึงคุณหรือไง”

    “ไม่หรอก ถึงอยากจะให้หึงก็เถอะ...แต่ตอนนี้สำหรับเขา เธอก็เป็นเหมือนคนในครอบครัวของพวกเราอีกคนหนึ่ง เพราะอย่างนั้นเขาถึงวางใจปล่อยให้เธอไปกับฉันได้สองต่อสองแบบนี้ไงล่ะ”

    ธีรัชอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยพึมพำขอบคุณอย่างตื้นตันตามมา ปวีร์เห็นดังนั้นก็ลูบศีรษะอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู แล้วจึงตรงไปที่รถ ขับออกไปที่ร้านค้าใกล้ ๆ แถวนั้น  เป็นเวลาไล่เลี่ยกับที่ชานนและปยุตเดินกลับมาถึงบ้านพักพอดี

    “นั่นคุณปวีร์กับคุณธีรัชหรือเปล่าครับ...”

    ชานนที่ทันได้เห็นหลังรถเลี้ยวผ่านหน้าไปแวบ ๆ หันไปถามคนข้างกาย ปยุตมองตามแล้วยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะเอ่ยตอบ

    “คงใช่มั้งครับ...ว่าแต่ผมขอตัวเอาเค้กขึ้นไปเก็บก่อนนะครับ ส่วนคุณนนก็ไปพักผ่อนหรือจะเล่นน้ำกับพวกเด็ก ๆ ก็ดีนะครับ จะได้ผ่อนคลายบ้าง วันเกิดทั้งทีแบบนี้”

    “ผมคงเล่นน้ำทะเลกับเขาไม่ไหวหรอกครับ...ว่าแต่คุณปยุตเองเถอะครับ จะอยู่โยงเฝ้าบ้านพักยันเย็น ไม่กลับไปที่โรงแรมจริงหรือครับ”

    ชานนย้อนถาม เพราะตอนที่เขาไปรับอีกฝ่าย ทรงพลคนรักของปยุตนั้นมองเขาอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก ทั้งที่รู้จากพ่อบ้านหนุ่มแล้วว่า เขากับปยุตทำงานให้ปวีร์ด้วยกันมานานแล้วก็ตาม  ยิ่งตอนที่เขาเข้าไปในครัวดูปยุตทำเค้กวันเกิดให้ตนเอง ทรงพลก็แทบจะมายืนหน้าบึ้งเฝ้าไม่ไปไหน  เล่นเอาพนักงานคนอื่น ๆ พากันหนาว ๆ ร้อน ๆ ไปตามกัน ที่เจ้าของโรงแรมมายืนคุมถึงในครัวแบบนี้

    “ก็บอกออกไปแล้วนี่ครับว่าไม่... ขืนกลับคำเดี๋ยวก็โดนหาว่าโลเลพอดี”

    ปยุตบอกเชฟหนุ่มพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นิด ๆ ทำเอาคนฟังต้องลอบถอนหายใจ พลางหวนนึกถึงตอนที่ทรงพลตามมาส่งพวกเขาออกจากโรงแรม ซึ่งดูเหมือนชายหนุ่มจะชวนให้ปยุตกลับมากินข้าวเที่ยงที่นี่ด้วย แต่ปยุตนั้นปฏิเสธไป แล้วบอกว่าจะอยู่โยงกินมื้อเที่ยงและเย็นที่บ้านพักตากอากาศ แล้วก็จะตรงกลับกรุงเทพฯ พร้อมทุกคนที่นี่ด้วยเลย ทำเอาทรงพลถึงกับหน้าหงิกและพาลหันมาเขม่นเขาแทนเสียอย่างนั้น

    “คุณนี่นะ...ไหน ๆ ก็อุตสาห์คืนดีกันได้ทั้งที ความจริงถึงจะลาพักร้อนยาวตอนนี้ คุณปวีร์ก็คงไม่ขัดอะไรหรอกครับ”   

    ชานนเปรยเบา ๆ ทำให้คนฟังยิ้มน้อย ๆ แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร จากนั้นเจ้าตัวจึงออกอุบายโน้มน้าว ให้ชานนไปเดินเล่นรับลมทะเลแถวนั้น ส่วนตัวเขาก็นำเค้กขึ้นไปเก็บบนตู้เย็นชั้นสอง แต่เปลี่ยนฝากล่องเค้กที่ติดมาจากโรงแรม ไปคลุมเค้กของธีรัชด้านล่างแทน เพื่อไม่ให้ชานนสงสัย ส่วนธีรัชเขาปล่อยให้ขวัญตาเป็นคนโทรไปบอกว่าเธอได้หากล่องเค้กปิดไว้ เพื่อไม่ให้ชานนรู้ล่วงหน้า ซึ่งชายหนุ่มเองก็ไม่ได้สงสัยอะไรเช่นเดียวกัน 

    แผนการนี้นอกจากพวกปวีร์ ราเมศ ขวัญแก้ว ขวัญตาและปยุตแล้ว คนอื่น ๆ แม้แต่ชานนผู้เป็นเจ้าของวันเกิดเองก็ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ แม้จะแปลกใจอยู่บ้าง เมื่อตอนที่ปวีร์โทรมามือถือของเขา และขอพูดคุยกับปยุตแทนอยู่นานสองนานก็ตามที

     

    จากนั้นสักพักธีรัชกับปวีร์ก็แบกเครื่องดื่มกลับมาเพิ่มเติม หลังวางเครื่องดื่มเก็บเรียบร้อย ธีรัชก็ตรงเข้าไปหาชานนโดยไม่สนใจสายตาใคร ทำเอาปวีร์ต้องมองตามอย่างเอ็นดู ก่อนจะขึ้นไปบนชั้นสองตรงไปหาพ่อบ้านของเขา

    “เรียบร้อยหรือยังล่ะ”

    ปยุตอมยิ้มแล้วจึงแสร้งตอบกลับไป

    “ก็แอบถ่ายรูปสวย ๆ ได้หลายรูปแล้วล่ะครับ”

    ปวีร์ขมวดคิ้วยุ่ง แล้วจึงย้อนกลับไปอย่างเริ่มหงุดหงิด

    “ฉันหมายถึงเรื่องของนายกับ...แฟนเก่านายต่างหากเล่า! รู้แล้วก็ชอบหลีกเลี่ยงประจำนะ”

    ท้ายประโยคชายหนุ่มบ่นอุบ ทำเอาสาว ๆ และราเมศที่มองอยู่นึกขำ

    “เรื่องของพวกเราจบลงด้วยดีแล้วล่ะครับ ...ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง”

    ปวีร์นิ่วหน้า แล้วจ้องอีกฝ่ายนิ่ง ทำเอาปยุตต้องหลุดยิ้มตามมาในที่สุด แล้วเอ่ยต่ออีกหน่อย

    “หมายถึงแฮปปี้เอ็นดิ้งกันดีแล้วล่ะครับ”

    “นายนี่มัน...” ปวีร์พึมพำกับตัวเองอย่างเอือมระอาแกมหมั่นไส้ ส่วนคนที่มองนั้นพากันนึกขำ เพราะนาน ๆ จะเห็นปวีร์เถียงสู้คนอื่นไม่ได้สักทีแบบนี้

    “แล้วจะลาออกจากงานพ่อบ้านตอนไหนล่ะ...” แม้น้ำเสียงจะพยายามบังคับให้ราบเรียบ แต่คนพูดก็ยังมีสีหน้าไม่สบายใจ จนราเมศที่มองอยู่ ต้องเดินมาโอบบ่ากอดคนรักอย่างปลอบโยน

    “ลาออก...ทำไมผมต้องลาออกด้วยล่ะครับ”

    ปยุตย้อนถามกลับ ทำเอาแม้แต่ขวัญแก้วและขวัญตาที่ฟังอยู่ห่าง ๆ ยังตกใจ

    “อ้าว ก็คุณปยุตคืนดีกับแฟน แล้วถ้ายังทำงานอยู่กับวี พวกคุณก็ต้องห่างกันเหมือนเดิม แบบนั้นมันก็แทบไม่แตกต่างจากแยกกันอยู่เหมือนก่อนหน้านั้นสิคะ”

    ขวัญแก้วแย้งขึ้น แล้วก็ชะงัก ก่อนจะหลุดขอโทษออกมาเบา ๆ ที่ขัดจังหวะการสนทนา แต่ปยุตกับปวีร์ไม่ได้ถือสาหญิงสาว โดยเฉพาะปวีร์นั้นกำลังอยากถามพ่อบ้านของเขาในประโยคแบบเดียวกันนั่นพอดี

    “ก็อย่างที่แก้วบอกนั่นล่ะ ฉันเองก็อยากรู้คำตอบนะ”

    ปยุตจ้องมองนายจ้างของเขาด้วยสายตาอ่อนโยน แล้วจึงเอ่ยตอบออกไป

    “ความจริงผมก็คิดเรื่องนี้ แต่บอกตามตรงว่าผมยังเป็นห่วงคุณอยู่ ถึงตอนนี้คุณจะมีคุณราเมศอยู่เคียงข้าง คอยดูแลคุ้มครองคุณ ใกล้ชิดกับคุณยิ่งกว่าผม... แต่ผมก็อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยประคับประคองพวกคุณทั้งคู่ให้ก้าวไปข้างหน้า ...อย่างน้อยก็ให้งานร้านของคุณมั่นคงกว่านี้ และถ้าถึงวันนั้น คุณไม่ต้องการผมอีกแล้ว ผมก็จะปลีกตัวออกไปจากคุณเอง”

    ปวีร์จ้องมองอีกฝ่ายนิ่ง แล้วก็โผเข้ากอดคนตรงหน้าจนปยุตตกใจ ราเมศเองก็ชะงักชั่วครู่แต่ก็ยิ้มน้อย ๆ ตามมา แล้วหันไปชวนพวกขวัญแก้วและขวัญตาลงไปจากชั้นสอง และปล่อยให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันตามลำพัง

    “บอกตามตรงนะปยุต...ฉันไม่อยากให้นายไปไหนเลย อยากให้อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนพวกเราแก่เฒ่าไปตาม ๆ กัน ...แต่ฉันทำแบบนั้นไม่ได้... ทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่าถ้าฉันขอร้อง นายก็คงไม่จากฉันไปไหนแน่...”

    ปวีร์พึมพำกับแผ่นอกของอีกฝ่าย ปยุตนั้นถอนหายใจเบา ๆ แล้วลูบหลังลูบศีรษะของนายน้อยที่เติบโตมาด้วยกันกับเขา ชายหนุ่มเป็นเหมือนพี่เหมือนน้องเหมือนเพื่อนมาโดยตลอด จนกระทั่งถึงวันนี้

    “ผมเองก็อยากให้เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน... แต่ถ้าผมยืนกรานแบบนั้น ผมก็รู้ดีว่าแม้คุณจะดีใจ แต่คุณก็คงต้องรู้สึกผิดต่อผมไม่แตกต่างกัน ...เพราะอย่างนั้นผมถึงรอจนกว่าคุณจะพร้อมที่จะก้าวเดินไปข้างหน้า โดยไม่มีผมได้...และผมคิดว่าวันนั้นก็คงจะมาถึงในไม่ช้านี่หรอกครับ... คุณปวีร์ คุณเติบโตมาเข้มแข็ง และสง่างามในแบบที่ผมเคยวาดฝันไว้ ...ผมดีใจที่ในช่วงหนึ่งของชีวิต ได้มีโอกาสเป็นพ่อบ้านรับใช้คุณแบบนี้นะครับ”

    ปวีร์น้ำตาซึม เจ้าตัวซบซุกแผ่นอกอันอบอุ่นของอีกฝ่ายอยู่สักพัก แล้วจึงเงยหน้าขึ้นพร้อมกับยิ้มส่งให้พ่อบ้านของเขา ก่อนจะเอ่ยถามสั้น ๆ

    “เขาเป็นคนดีไหม...”

    “เป็นคนที่ผมอยู่ด้วยแล้วอุ่นใจครับ”

    ปยุตเองก็ตอบไม่ยาวนัก แต่เพียงแค่นั้นก็ทำให้ปวีร์ยิ้มออกน้อย ๆ แล้วดันกายออกมาก่อนจะเตรียมใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตา แต่ก็ไม่ทันคนที่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าส่งให้ก่อน

    “ขอบใจนะ” ปวีร์รับมาซับน้ำตาแล้วส่งคืนอีกฝ่าย ก่อนจะทำเป็นมองรอบ ๆ แล้วเปลี่ยนเรื่องคุยแก้เขิน

    “พวกนั้นหายไปไหนกันหมดนะ! จริงสิปยุต ถ้าได้ภาพพอสมควรแล้วก็พักได้นะ วันนี้ฉันอยากให้ทุกคนได้พักผ่อนกันอย่างสนุกสนานมากกว่า ...มันจะได้เป็นความทรงจำแสนสุขร่วมกันของพวกเราอีกอย่างยังไงล่ะ”

    ปยุตยิ้มรับและให้สัญญาว่าสักพักจะตามลงไปแน่นอน ทำให้ปวีร์ยิ้มออกมาได้ และเลี่ยงลงมาชั้นล่างเพื่อตามหาพวกราเมศต่อไป

    และเมื่ออยู่คนเดียว ปยุตก็ยิ้มน้อย ๆ เมื่อหวนถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ที่ผ่านมา เขาหยิบมือถือของตนออกมากดเบอร์ไปหาคนรัก รอเพียงไม่นานปลายสายก็รีบตอบรับอย่างรวดเร็ว

    “ปยุต! มีอะไรน่ะ หรือจะแวะมาที่โรงแรม! จะให้ฉันออกไปรับนายเลยไหม!”

    ปยุตหัวเราะเบา ๆ ในลำคอแล้วเอ่ยถามไป

    “วันนี้นายยุ่งมากไหมพล”

    “ก็มีบ้าง แต่ถ้านายมาหาฉันได้ ฉันจะเคลียร์ทุกอย่างให้ว่างเพื่อนายเดี๋ยวนี้เลยล่ะ”

     ทรงพลตอบตามตรง ทำให้อีกคนอมยิ้มแล้วจึงเอ่ยต่อ

    “ถ้าอย่างนั้นนายจะมากินข้าวเย็นและอยู่ร่วมงานเลี้ยงที่บ้านพักกับฉันและทุกคนได้ไหม...ฉันอยากแนะนำนายให้ทุกคนที่นี่รู้จัก...พวกเขาเป็นครอบครัวที่สำคัญสำหรับฉัน และฉันก็อยากให้นายมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในนั้นด้วย...จะได้ไหม”

    ปลายสายเงียบไปนานจนปยุตแปลกใจ แต่พอย้ำถามไป เขาก็ได้ยินเสียงคล้ายสะอื้นนิด ๆ ทำเอาพ่อบ้านหนุ่มต้องเงียบตาม จากนั้นเสียงของทรงพลจึงดังขึ้นอีกครั้ง

    “ขอบใจนะปยุต...ฉันจะไปแน่ ๆ ...”

    “อืม...แล้วฉันจะรอ ...รักนายมากเลยนะพล”

    อีกฝ่ายจะมีสีหน้ายังไงปยุตก็สุดคาดเดา แต่ถ้อยคำที่ทิ้งท้ายก่อนตัดสายไปนั้น ทำให้พ่อบ้านหนุ่มมีรอยยิ้มประดับหน้าอย่างกึ่งขำแกมมีความสุขขึ้นมาทันใด

     “....ให้ตายเถอะ! ทำไมถึงทำตัวให้คนอื่นเขารักเขาหลงได้แบบนี้อยู่เรื่อยเลยนะ! โธ่โว้ย! ฉันอยากจะรีบไปหานายเสียเดี๋ยวนี้เลยล่ะ! แล้วเจอกันเย็นนี้นะ!”

    ปยุตมองโทรศัพท์มือถือของเขาที่ปลายสายวางได้ไปแล้ว ก่อนจะเดินไปที่หน้าต่าง และมองไปที่ชายหาดซึ่งมีพนักงานของมิราเคิลคาเฟ่ กำลังเล่นน้ำทะเลด้วยกันอย่างสนุกสนาน

     “ถ้าพวกเราสามารถอยู่ร่วมกันทั้งหมดนี่ได้ตลอดไป มันจะดีสักแค่ไหนนะ...”

    ปยุตพึมพำกับตัวเอง เมื่อหวนคิดถึงว่าสักวันเขาจะต้องจากพวกปวีร์ไป แม้จะเศร้ามากขนาดไหน แต่เขาก็ยังมีทรงพลคอยอยู่เคียงข้าง แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงปรารถนาว่า จะมีสักวันที่เขาและทุกคนที่เขารัก จะได้กลับมาใช้ชีวิตและอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขเช่นนี้ อีกครั้งหนึ่ง...



    เวลาเดียวกันนอกบ้านพัก ชานนกำลังนั่งรับลมเย็น ๆ อยู่บนเก้าอี้ชายหาด  ข้างกายของเขานั้นมีธีรัชนั่งอยู่ด้วย ชายหนุ่มนั่งเฝ้าอีกฝ่ายโดยไม่คิดไปเล่นน้ำทะเลเช่นเดียวกับคนอื่น จนชานนต้องเอ่ยปากในที่สุด

    “มานั่งแบบนี้ไม่เบื่อหรือครับคุณธีรัช”

    “ไม่เลยครับ ผมมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้คุณนะ...อ๊ะ หรือว่าคุณนนจะเบื่อที่ผมคอยตามแบบนี้”

    ท้ายประโยคเจ้าตัวเอ่ยขึ้นคล้ายนึกได้ และก็มีสีหน้าสลดลง จนเชฟหนุ่มนึกสงสาร

    “ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ อุตส่าห์มาทะเลทั้งที คุณน่าจะไปเล่นน้ำกับเพื่อน ๆ ให้สนุก  มากกว่าที่จะมานั่งเรื่อยเปื่อยกับคนแก่แบบผมต่างหากล่ะครับ”

    ชานนอธิบายให้อีกฝ่ายฟัง และพอได้ฟังธีรัชก็มีสีหน้าดีขึ้น

    “ผมเล่นน้ำบ่อยแล้วล่ะครับ อย่างทะเลนี่ ถึงไม่ได้มาบ่อยมาก แต่ก็มีโอกาสได้มาอยู่เรื่อย ๆ ...แต่เวลาที่จะได้อยู่เคียงข้างคุณนนแบบนี้สิครับ...มันไม่แน่นอนไม่ใช่หรือครับ ผมก็อยากจะกอบโกยช่วงเวลาดี ๆ นี่ ให้มากที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้น่ะครับ...แต่ถ้าคุณนนรู้สึกอึดอัดเมื่อไหร่ ก็บอกผมได้นะครับ”

    ธีรัชบอกพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน ทำให้คนฟังมีรอยยิ้มน้อย ๆ ตาม และปล่อยให้อีกฝ่ายนั่งอยู่เคียงข้างเขาต่อไปแบบนั้น  นาน ๆ ทีก็คุยเรื่องสัพเพเหระกันไปบ้าง ซึ่งก็น่าแปลกที่ความชอบของเขาและชายหนุ่มต่างวัยนั้น มีอะไรคล้าย ๆ กันอยู่หลายอย่างเลยทีเดียว

   

    จากนั้นพอใกล้ถึงตอนเย็น ปวีร์ก็รับหน้าที่ดึงตัวชานนมา โดยแกล้งทำเป็นนั่งปรึกษาถึงรายการอาหารเมนูใหม่ ๆ ของร้าน  ส่วนคนอื่นก็พากันเตรียมตัวสำหรับการจัดเตรียมงานฉลองวันเกิดครั้งนี้

    ทันทีที่ปวีร์ได้รับสัญญาณจากคนในบ้านให้พาชานนเข้ามา เชฟหนุ่มก็ต้องตกตะลึง เมื่อพบว่าทุกคนนั้นยืนรอรับเขาในห้องรับแขกของบ้าน พร้อมกับจุดพลุกระดาษต้อนรับ ด้านในบ้านพักก็ถูกประดับตกแต่งด้วยธงริ้วสี และลูกโป่งหลากสีสันเต็มไปหมด

    “เซอร์ไพรส์!!”

    “...อะไรกันครับเนี่ย”

    เชฟหนุ่มพึมพำ อย่างตกตะลึงระคนงุนงง เมื่อตัวเขาถูกพามานั่งที่โซฟา จากนั้นพนักงานแต่ละคนก็นำเอาของขวัญที่ตนเตรียมไว้ มามอบให้กับอีกฝ่าย แล้วก็กล่าวอวยพรชายหนุ่มราวดังว่าเขาเป็นญาติผู้ใหญ่แท้ ๆ ของพวกตน ทำเอาชานนอดปลาบปลื้มตื้นตันไม่ได้

    ทางด้านธีรัชพอเห็นคนอื่นนำของขวัญมามอบให้กับชานน เขาจึงเตรียมจะตรงไปที่ตู้เย็น เพื่อเอาเค้กของตนให้อีกฝ่ายบ้าง แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นปยุตเดินนำเค้กที่ทำเองลงมาจากชั้นสอง ทั้งการตกแต่งและรูปทรง มองดูก็รู้ว่าเค้กชิ้นนั้นเป็นระดับมืออาชีพขนาดไหน

    “โอ้! เค้ก น่ากินจังเลย!”

    กวินอุทานอย่างตื่นเต้น แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อการินที่อยู่ข้าง ๆ หยิกเอวเขาเบา ๆ แล้วสะกิดให้เหลือบมองธีรัชที่ยืนอึ้งอยู่ห่างออกไป ทำให้กวินและคนอื่นนึกขึ้นได้ ว่าธีรัชเองก็เตรียมเค้กมาเหมือนกัน

    “ของขวัญวันเกิดเหมือนทุกปีครับ เค้กวันเกิดที่เจ้าของงานต้องมายืนคุมเองอยู่ประจำ”

    ปยุตเอ่ยแซว ทำให้ชานนรู้สึกเขินนิด ๆ

    “โธ่! คุณปยุตล่ะก็ ยืนคุมอะไรกันครับ ผมก็แค่สนใจและอยากศึกษาการทำเค้กจากคุณเพิ่มเติมก็แค่นั้นเอง”

    ปยุตยิ้มน้อย ๆ แล้ววางเค้กลง ก่อนจะเปรยขึ้นเสียงดัง ๆ ได้ยินไปทั่วห้อง

    “เค้กก้อนนี้เป็นแค่ของหวานสำหรับงานเลี้ยงเท่านั้น  แต่ผมยังมีเค้กที่ควรค่าต่อการประดับเทียนวันเกิดให้คุณอีกหนึ่งก้อนด้วยนะครับ”

    ชานนมองคนพูดอย่างแปลกใจ แต่พอเห็นปยุตหันหน้าไปทางธีรัชแล้วยิ้มน้อย ๆ เชฟหนุ่มก็ต้องมองตามและชะงักนิ่งเช่นเดียวกับอีกฝ่าย

    “เค้กที่ตั้งใจทำและเต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาดีต่อเจ้าของวันเกิด แม้จะไม่ใช่เค้กที่ทำจากมืออาชีพ แต่ก็คู่ควรต่อการประดับเทียนอวยพร ให้กับเจ้าของวันเกิดนั้น  ...จริงไหมครับ คุณธีรัช”

    ธีรัชนิ่งอึ้ง ยิ่งชานนและทุกคนมองเขาเป็นตาเดียวแบบนี้ เขาก็ยิ่งพูดอะไรไม่ออก

    “แต่เค้กของผม มันไม่...”  ชายหนุ่มอึกอัก จนบางคนนึกสงสาร แต่บางคนนั้นยังคงยิ้มน้อย ๆ แล้วขยิบตาให้กับคนที่เตรียมจะเอ่ยแย้งไป ให้รอดูสถานการณ์เงียบ ๆ

    “คุณธีรัชทำเค้กให้ผมด้วยหรือครับ” ชานนถามอย่างประหลาดใจ เพราะจำได้เมื่อตอนเจอกันใหม่ ๆ อีกฝ่ายเคยบอกเขาว่า ไม่เคยทำของหวานจำพวกเค้กมาก่อนเลยสักครั้ง

     “เอ่อ...ครับ”  ธีรัชบอกแล้วก็ยังคงยืนนิ่ง ท่ามกลางสายตาให้กำลังใจของทุกคนที่มองมา

    “ผมอยากเห็นจังครับ จะได้ไหม...”

    ชานนบอกแล้วเดินตรงไปหาชายหนุ่ม ธีรัชอ้ำอึ้งเล็กน้อย ก่อนจะยอมเดินไปที่ตู้เย็น แล้วหยิบเค้กของเขาออกมาเปิดฝากล่อง ตัวอักษรโย้เย้ที่เขียนอวยพรวันเกิดให้ชานน ทำให้เขารู้สึกอายเมื่อเทียบกับเค้กที่แต่งหน้าสวยงามของปยุต

    “...สุดยอดเลยครับ นี่ทำครั้งแรกจริง ๆ หรือครับเนี่ย”

    ทว่าชานนกลับมีสีหน้าที่แตกต่างออกไปผิดจากที่เขาคิด อีกด้านหนึ่งปยุตที่มองทั้งคู่อยู่อมยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงเอ่ยขึ้นบ้าง

    “ใช่ไหมล่ะครับ ผมเองยังคิดเลยว่า เขามีทักษะการทำขนมที่ดีทีเดียว อย่างนี้คุณนนต้องจับฝึกบ่อย ๆ แล้วล่ะครับ”

    ธีรัชมองชานนทีปยุตที อย่างประหลาดใจ เพราะดูจากสีหน้าแล้ว ทั้งคู่นั้นไม่ได้เสแสร้งแกล้งชมหรือเอาใจเขาแต่อย่างใด

    “ผมชักอยากชิมเค้กของคุณเสียแล้วสิ ... แล้วเมื่อไหร่ผมจะได้เป่าเทียนล่ะครับ”

    เสียงหัวเราะดังตามมาจากหลาย ๆ คน โดยเฉพาะปวีร์นั้นถูกใจมากที่ได้ยินอย่างนั้น

    “ฉันแทบไม่เคยเห็นคุณนนกระตือรือร้นแบบนี้มาก่อนเลย เพราะเธอคนเดียวเลยนะธีรัช”

    “แหม! อย่ามัวชมกันอยู่เลยค่ะพี่วี  รีบเอาเค้กมาประดับเทียนกันดีกว่า ตาก็อยากกินเหมือนกันนะคะ!”

    ขวัญตารีบแทรกขึ้นมา เพราะเธอเองก็อยากชิมฝีมือลูกศิษย์ที่ได้สูตรจากเธอไปเช่นเดียวกัน

    “จ้า ๆ เอ้า ธีรัชยกเค้กเธอมาสิ... แก้วขอเทียนหน่อย ...ภูริ เตรียมนั่นมาหรือยังน่ะ”

    ปวีร์หันมาทางภูริ ที่พยักหน้ารับ แต่คนอื่นนอกจากขวัญแก้วและขวัญตา ที่ไม่ได้รู้เรื่องนี้มาก่อนพากันขมวดคิ้วอย่างสงสัย ทว่าพอเห็นภูริไปหยิบกีต้าร์โปร่งออกมา ทุกคนก็พากันเซอร์ไพรส์ไปตาม ๆ กัน

    “ฉันให้แก้วกับตาเตรียมไว้ล่วงหน้าน่ะ เพราะร้านเรามีทั้งนักร้องนักดนตรีมืออาชีพทั้งทีนี่นะ”

    ปวีร์พูดเสร็จก็หันไปยิ้มให้กับธีรัช ชายหนุ่มงุนงงในตอนแรกแต่พอนึกออกเขาก็ยิ้มกว้าง แล้วรีบตอบรับ

    “ผมจะร้องให้สุดฝีมือเลยล่ะครับ!”

    “อ๊ะ... เดี๋ยวก่อนครับ รอสักครู่นะครับ...”

    ปยุตเอ่ยขัดขึ้นมา ทำเอาคนอื่นพากันหันไปมองอย่างงุนงง จากนั้นพ่อบ้านหนุ่มก็เดินตรงไปที่ประตูบ้านพัก แล้วกระแอมเบา ๆ

    “มาถึงแล้วทำไมไม่เข้ามาล่ะ ไปยืนเงียบ ๆ อยู่ได้”

    ทรงพลที่ยืนแอบอยู่ถอนหายใจเบา ๆ แล้วจึงยอมเดินเข้ามาในที่สุด

    “ก็เห็นกำลังสนุกสนานกัน ก็ไม่กล้าเข้ามาแทรกน่ะสิ”   

    คนอื่นพากันจ้องมองไปที่ทรงพลเป็นตาเดียว จนชายหนุ่มนึกเกร็ง ทว่าก็ต้องชะงักเมื่อคนข้างกายเอ่ยบอกกับทุกคน

    “เขาชื่อทรงพล เป็นคนรักของผมเองครับ...ผมอยากให้เขามาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของคุณนนด้วย ...ขอโทษนะครับที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า”

    ปยุตหันไปบอกกับปวีร์ ซึ่งชายหนุ่มเองก็ตกตะลึงในตอนแรก แต่ก็ยิ้มแย้มตามมาหลังจากนั้นไม่นาน

    “เชิญเลยครับคุณทรงพล ...คนรักของปยุต ก็เหมือนกับญาติพี่น้องของผมนั่นล่ะ ยินดีต้อนรับนะครับ”

    ปวีร์เชื้อเชิญชายหนุ่มให้มารวมกลุ่มด้วย พวกเขาแนะนำตัวกันคร่าว ๆ จากนั้นขวัญแก้วก็เอาเทียนมาประดับบนเค้กของธีรัชและจุดไฟ ทางด้านภูรินั้นเล่นกีต้าร์เพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ ส่วนธีรัชก็เป็นต้นเสียงนำทุกคนร้องเพลงอวยพรให้แก่ชานน  ปวีร์นั้นนึกสนุกขึ้นมาจึงให้ธีรัชและทุกคนร้องเพลงวนไปเกือบสิบรอบ สร้างความสนุกสนานให้ทุกคนยิ่งนัก

    “...แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทูยู  ....แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทูยู  ...แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ...  แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทูยู”

    จนกระทั่งมาถึงรอบสุดท้าย เมื่อเพลงจบลง ชานนก็เป่าเทียนที่เค้กจนหมด เสียงอวยพรดังขึ้นรอบทิศอีกครั้ง ชานนเอ่ยขอบคุณทุกคน ก่อนจะหันไปยิ้มอ่อนโยนให้กับธีรัช ซึ่งเจ้าตัวก็ยิ้มตอบ  จากนั้นพวกเขาก็เข้าสู่กระบวนการตัดเค้กแจกจ่ายกันกิน ทั้งเค้กของธีรัชและเค้กของปยุตนั่นเอง และเมื่อได้ชิมฝีมือของทั้งคู่เสียงชมก็ดังขึ้นไปทั่วบ้านพัก  แม้ว่าเค้กของธีรัชจะอร่อยสู้ปยุตไม่ได้ก็จริง แต่เชฟทั้งสองและพ่อบ้านผู้ชำนาญด้านอาหารต่างลงความเห็นว่า ชายหนุ่มนั้นมีพรสวรรค์และสามารถพัฒนาฝีมือไปได้อีกมาก หากเจ้าตัวสนใจเรียนรู้ทางด้านนี้จริงจัง



    “เป็นครอบครัวที่อบอุ่น อย่างที่นายเคยเล่าให้ฟังจริง ๆ ด้วยสินะ”

    ทรงพลเอ่ยขึ้นกับปยุตหลังจากที่พวกเขาเลี่ยงมานั่งสนทนากันสองต่อสอง ระหว่างที่คนอื่นพากันเฮโลไปเตรียมอาหารทะเลมาเตรียมปิ้งย่างกินกัน  โดยหนุ่ม ๆ นั้นอาสาเตรียมอาหารกันเอง และบังคับให้ชานนนั่งเฉย ๆ รอไปแทน

    “ใช่...เพราะอย่างนั้นฉันถึงจากไปอยู่กับนายทันทีไม่ได้ไงล่ะ...รออีกสักนิดนะพล แล้วฉันสัญญาว่าจะชดเชยเวลาที่เราจากกันให้นายอย่างคุ้มค่าทีหลังเอง”

    ปยุตพึมพำบอกคนรัก ทว่าสีหน้าและแววตาที่มองทุกคนกลับดูเศร้าจนทรงพลสังเกตได้

    “อืม...ฉันรอได้ ขอแค่นายกลับมาเป็นเหมือนเดิมแบบนี้... ต่อให้ต้องรออีกกี่ปีฉันก็รอได้”

    ทรงพลตอบกลับด้วยถ้อยคำที่กลั่นมาจากใจจริง ทำให้พ่อบ้านหนุ่มต้องยิ้มน้อย ๆ แล้วอิงศีรษะซบกับไหล่ของอีกฝ่าย โดยไม่สนว่าจะมีใครอยู่แถวนี้ด้วยหรือไม่  ทรงพลยิ้มกับตัวเองอย่างมีความสุข ทว่าเมื่อผ่านไปสักพักพอเขาเหลือบมองคนรัก ก็เห็นอีกฝ่ายมีแววตาเศร้าซึมอีกครั้งยามเมื่อสายตาคู่นั้นจับจ้องไปยังร่างของปวีร์ ทำให้ทรงพลต้องลอบถอนหายใจ แล้วลูบไล้เส้นผมอ่อนนุ่มนั่นแผ่วเบาเป็นการปลอบโยน แล้วต่างก็นิ่งเงียบไป จนกระทั่งวาโยเดินมาตามทั้งคู่ให้ไปร่วมรับประทานอาหารมื้อเย็นนี้ ทั้งคู่จึงหันมายิ้มน้อย ๆ ให้กัน แล้วเดินตามไล่หลังอีกฝ่ายไปรวมกลุ่มหลังจากนั้น…




... TBC ...

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
ลงเอยกันครบทุกคู่เลย เอ๊ะ เหลืออีกคู่แฮะ หุๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
คิดว่าธีจะน้อยใจซะแล้ว ดีนะเนี่ยที่เป็นอย่างเนี่ย แตก็เหลือคู่เดียวซินะที่ยังไม่รุว่าจะลงเอยกันยังไง ^^

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
ว้าวววว ตอนนี้ดูมีความสุขดีจัง

ดีแล้วๆๆๆ เขาชอบความสุข 555

ธีดูอึ้งๆไปนิดนึงต้องเจอเค้กปยุต 5555 ใจหายแวบเลยละสิ


ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
เหมือนจะเศร้าตอนท้ายนิดๆอ่ะ

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
เป็นครอบครัวที่ใหญ่มากและอบอุ่น :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:


รอออออออออออจ้า :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :call: :call:

ออฟไลน์ gam

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารักมาก ๆ เป็นครอบครัวที่อบอุ่นสุด ๆ  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
คู่ปยุตกับทรงพลนี่มาอย่างหวานเลย ต่อให้ต้องรออีกกี่ปีฉันก็รอได้
รอคู่ชานนกับธีรัช และคู่รุจกับไกรสร

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
**....หึ ๆ ตอนนี้มี เซอร์ไพรส์!!



Miracle Café / 50




     หลังงานเลี้ยงสิ้นสุด ทรงพลก็มาส่งพวกปยุตกลับกรุงเทพฯที่รถตู้ และไม่รู้ว่าทรงพลไปกระซิบอะไรกับปวีร์ ปยุตนั้นจึงถูกสั่งกึ่งบังคับให้มานั่งเบาะหลังกับชานน ส่วนราเมศก็ไปประจำตำแหน่งคนขับรถแทน โดยมีปวีร์นั่งอยู่หน้ารถเป็นเพื่อนข้าง ๆ

    ทว่าก่อนออกเดินทางปยุตที่นั่งด้านหลังเบาะแรกก็เอื้อมไปเปิดประตูรถตู้ และเรียกทรงพลมาใกล้ ๆ ก่อนจะยิ้มหวานยะเยือก จนคนมองสะดุ้งพร้อมกับเปรยเสียงเยียบเย็นตามมา

    “ไม่ต้องโทรมาหาสัก 1 อาทิตย์นะ ...และถ้าทำไม่ได้ ก็งดโทรหากันสักเดือนเลยแล้วกัน”

    ทั้งรถเงียบกริบ แม้กระทั่งทรงพลเอง เจ้าตัวพยายามขอความเห็นใจ แต่ก็ถูกปิดประตูโครมใส่หน้า ทำเอาหนุ่ม ๆ เงียบกริบไปตาม ๆ กัน

    “...ปกติเวลาโมโหก็งอนกันแบบนี้บ่อย ๆ หรือครับ”

    ชานนถามขึ้นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ หลังจากราเมศขับรถออกมาจากบ้านพัก และทั้งรถมีแต่ความเงียบ 

    “โมโห...ไม่หรอกครับ นี่แค่หงุดหงิดนิดหน่อย ถ้าโมโหแม้แต่หน้าก็ไม่อยากมองหรอกครับ”

    หนุ่ม ๆ บางคนที่ได้ยินพากันกลืนน้ำลายลงคอ ทว่าปวีร์ที่นั่งเบาะหน้ากลับหัวเราะเบา ๆ แล้วเปรยขัด

    “เอาน่า! เขาบอกกับฉันก็เพราะห่วงนาย อีกอย่างเพลีย ๆ แบบนั้นมาแท้ ๆ แทนที่นายจะหาเวลานอนพัก ฉันเห็นนายเอาแต่ทำโน่นทำนี่ทั้งวันไม่ใช่หรือ ขากลับก็นอนหลับไปเถอะน่า เหนื่อยมากแล้วเกิดมาขับรถแล้วหลับในขึ้นมา มันจะแย่เอานะ”

    คนอื่นที่ได้ยินต่างพากันอมยิ้มและพอจะคาดเดาเรื่องได้ ยกเว้นวาโยที่ทำตาปริบ ๆ เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รุจที่อยู่ใกล้ ๆ จึงแกล้งกระซิบบอก ทำเอาหนุ่มน้อยผู้น่ารักต้องนั่งหน้าแดงก่ำ สร้างความเอ็นดูให้แก่ผู้แกล้งยิ่งนัก

    “ผมรู้สภาพร่างกายตัวเองดีครับ... อีกอย่างหมอนั่นก็ขี้ห่วงเกินไปหน่อย เรื่องห่วงผมไม่ว่า แต่ห่วงแล้วเที่ยวโพนทะนาให้ชาวบ้านรู้เรื่องส่วนตัวแบบนั้นมันไม่ค่อยเหมาะนัก”

    ปยุตเปรยตอบอย่างนึกเซ็ง แต่ไม่ได้เขินอายอะไรอย่างที่ควรเป็น ชายหนุ่มดูออกจะหงุดหงิดเสียมากกว่าที่ถูกใช้ให้มานั่งข้างหลังแทนที่จะได้เป็นฝ่ายขับรถพาทุกคนกลับกรุงเทพฯ

    “อีกหน่อยจะยิ่งกว่านี้อีก พอไปอยู่ด้วยกันจริง ๆ คิดหรือว่าคุณชายไฮโซคนนั้นเขาจะปล่อยให้นายทำโน่นทำนี่น่ะ นายเตรียมซ้อมนั่ง ๆ นอน ๆ รอให้คนอื่นรับใช้ไว้ก่อนได้เลย”

    ปวีร์แหย่ต่อ ทำให้คนขับที่อยู่ใกล้ ๆ นึกหมั่นไส้แทนพ่อบ้านหนุ่มขึ้นมาบ้าง เพราะคนข้างกายเขานั้น หากลองมีใครเปิดช่องให้โจมตีได้เมื่อไหร่ เจ้าตัวก็แทบไม่เคยพลาดโอกาสนั้นเลยสักครั้ง

    ทว่ายังไม่ทันที่ปยุตจะได้โต้ตอบอะไรกลับไป เสียงมือถือของเขาก็ดังขึ้น เป็นสัญญาณข้อความเข้า ซึ่งผู้ส่งนั้นเป็นทรงพลนั่นเอง

    ‘ไม่โทรหาก็ได้ แต่ขอส่งข้อความหากันก็ยังดี...รักมากที่สุด อย่าโกรธกันเลยนะ’

    ปยุตอ่านข้อความนั้นแล้วจึงหลุดยิ้มน้อย ๆ ออกมา จนปวีร์ที่มองจากกระจกส่องหลังลอบยิ้ม พอจะคาดเดาได้ว่าใครเป็นคนส่งข้อความมากันแน่

    ‘...งั้นลดโทษให้เหลือแค่ 3 วันก็ได้... ระหว่างนี้จะส่งข้อความมาหาก็ตามใจ’

    ปยุตพิมพ์ข้อความไปเตรียมจะส่ง ทว่าก็ต้องชะงัก แล้วพิมพ์เพิ่มต่อท้ายไปอีกนิด

    ‘ป.ล. รักมากเหมือนกันนั่นล่ะ...’

    จากนั้นพ่อบ้านหนุ่มก็กดส่งข้อความไป แล้วจึงเอนหลังเตรียมนอนพัก ทำให้ปวีร์เลิกคิดก่อกวน เขาชวนราเมศคุยเรื่อยเปื่อย เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายง่วง ส่วนคนอื่นที่เหลือนั้นพอรถแล่นไปสักพัก ก็เพลียจนหลับไปตาม ๆ กัน



    เช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนตื่นมาทำงานกันด้วยความสดชื่นแจ่มใส เนื่องจากได้นอนหลับพักผ่อนกันเต็มที่ ทางด้านธีรัชนั้นก็ยังคงรุกเข้าหาชานนอย่างจริงจังเช่นเดิม แต่ก็ยังคงเว้นระยะห่างเพื่อไม่ให้เชฟหนุ่มต้องอึดอัดใจมากจนเกินไป ยิ่งนานวันความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ

    ส่วนไกรสรเองก็ยังคงเทียวแวะเวียนมาหาและเฝ้ารุจตั้งแต่เปิดร้านจนปิดร้านเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ทว่าจากที่เคยทีเล่นทีจริงกับอีกฝ่าย รุจนั้นกลับดูอ่อนโยนขึ้นกว่าเดิม แม้จะยังคงแจกคะแนนติดลบให้กับไกรสรเป็นระยะ ในเวลาที่อีกฝ่ายหึงหวงเขาจนน่ารำคาญก็ตาม



    เวลาผ่านไปไวราวโกหก...ในที่สุดเช้าวันศุกร์อันสดใสก็เวียนมาถึงอีกครั้ง

    “พรุ่งนี้ก็วันเสาร์แล้วสินะ อยากเห็นเธอในชุดนั้นเร็ว ๆ จัง”

    รุจเปรยขึ้นเบา ๆ พร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ ยามเมื่อจินตนาการถึงรุจในชุดที่ตนดีไซน์เอาไว้ล่วงหน้าเมื่ออาทิตย์ก่อน

    “ถ้าเป็นที่นิยมก็ดีสินะครับ...ทางร้านก็จะได้มีรายได้มากขึ้น ...แต่ก็ลำบากใจเหมือนกันนะครับ เวลาลูกค้าขอถ่ายรูปด้วย แล้วต้องโพสท่ากอดบ้าง โอบไหล่บ้าง ควงแขนบ้าง หรือ...หอมแก้มบ้าง”

    ท้ายประโยคเจ้าตัวเว้นวรรคเล็กน้อยแล้วเอ่ยย้ำเน้น ๆ ทำให้คนที่เตรียมแหย่ชะงัก แล้วขมวดคิ้วยุ่งตามมา

    “ฉันไปขอปวีร์เหมาร้านพรุ่งนี้ทั้งวันเลยดีไหมนะ!”   

    “หึ ๆ อย่าดีกว่าครับ ผมออกจะชอบ ถ้ามีคนมองแล้วปลื้มแบบนั้น”

    รุจแกล้งแหย่กลับ ทำให้ไกรสรหน้ายุ่ง แต่พอสักพักคนกำลังงอนก็ต้องชะงัก เพราะรุจนั้นยื่นมือข้างหนึ่งมาหา โดยไม่มองหน้าเขา ไกรสรเหลือบมองคนที่ทำเป็นยืนนิ่งทำงาน แล้วอมยิ้ม ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือนั้นบีบตอบเบา ๆ อย่างอ่อนโยน จนกระทั่งมีลูกค้าสั่งอาหารและพนักงานในร้านนำออเดอร์มาให้ลงใบเสร็จ รุจจึงปล่อยมือข้างนั้นซึ่งไกรสรก็ยอมปล่อยแม้จะนึกเสียดายก็ตาม

   

    อีกด้านหนึ่งในครัวซึ่งเป็นเวลาพักของธีรัช วันนี้ชายหนุ่มก็ยังอาสามาช่วยงานเชฟทั้งสองอย่างเคย จนชานนนั้นเลิกบ่นไปแล้ว หลังจากที่ทั้งบ่นทั้งขอร้องแต่ธีรัชก็ยังหาเหตุผลมาแย้งให้เขาจนมุมอยู่เรื่อยไป จนเขาเริ่มชินที่มีอีกฝ่ายมาคอยอาสาช่วยแบบนี้ตลอดเกือบอาทิตย์ที่ผ่านมา

    “คุณชานนครับ...อ้าปากหน่อยครับ”

    ชายหนุ่มในชุดพนักงานเสิร์ฟกระซิบข้างหูคนที่กำลังง่วนกับการจัดแต่งหน้าตาอาหาร อีกฝ่ายชะงักแล้วหันมามองงง ๆ

    “อ้าปากสิครับ...” ธีรัชอ้อนต่อและทำท่าจะไม่ยอมถอยหรือเลิกรา หากชานนไม่ยอมทำตาม

    “อะ...อืม...ก็ได้ครับ” ชานนอ้าปากน้อย ๆ แล้วก็ต้องตกใจนิด ๆ เมื่อสัมผัสรสหวานหอมที่ปลายลิ้นของเขา

    “มาการองหรือครับ...” ชานนถามหลังจากที่เคี้ยวขนมสีชมพูในปากไปเรียบร้อย

    “ครับ ดัดแปลงนิดหน่อย ทำเป็นอันเล็ก ๆ พอดีคำหยิบกินง่ายดี”

    “แต่เรื่องรสสตอเบอรี่นี่ ความชอบส่วนตัวสินะครับ” ชานนเอ่ยต่อพร้อมยิ้มน้อย ๆ อย่างเอ็นดูเมื่อเห็นอีกฝ่ายยิ้มแห้ง ๆ แล้วเกาแก้มเขิน ๆ ตามมา

    “แอบงุบงิบซุ่มซ้อมทำกันสองคนอีกแล้วหรือเปล่าครับ” ชานนหันไปถามขวัญตาที่นั่งพักทานข้าวอยู่ หญิงสาวสะดุ้ง แล้วรีบแก้ตัว

    “เปล่านะคะ ตาแค่บอกสูตรคร่าว ๆ เบื้องต้นเท่านั้น แต่ลูกศิษย์คนเก่งของพวกเราเขาเอาไปดัดแปลงเองต่างหาก อ้อ! แต่ยอมรับค่ะ ว่าถูกบังคับให้ชิมก่อนว่าผ่านไหม เพราะธีเขาไม่อยากให้คุณนนได้ทานของไม่อร่อย...น่าอิจฉาจังเลยนะคะ ไม่เห็นมีใครมาใส่ใจตาแบบนี้บ้างเลย”

    ขวัญตาเอ่ยกระเซ้าเสริมตามมา ทำให้คนถามหน้าแดงนิด ๆ ด้วยความเขิน เพราะคำพูดของหญิงสาวนั้นยิ่งตอกย้ำให้รู้ว่า ธีรัชนั้นให้ความสำคัญต่อเขาขนาดไหน

    “โธ่! คุณตาก็เป็นครูของผมคนหนึ่งเหมือนกันนะครับ ...เพียงแต่คุณนนนี่เป็นทั้งครู ทั้งเจ้าของหัวใจด้วย ก็เลยสำคัญกว่านิดหน่อย”

    ธีรัชรีบอ้อนตามมา ทำให้ขวัญตาหัวเราะคิกคักอย่างถูกใจ ส่วนชานนหน้าแดงระเรื่อมากกว่าเดิม แต่แสร้งทำเป็นหันไปให้ความสนใจอาหารตรงหน้ากลบเกลื่อน ด้านธีรัชพอเห็นดังนั้นจึงหันมาทางขวัญตาซึ่งเจ้าหล่อนยกนิ้วโป้งชูให้ ชายหนุ่มยิ้มรับ แล้วก็ถอยฉากออกมาช่วยเหลือเชฟหนุ่มห่าง ๆ เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องอึดอัดมากไปกว่านี้

   

    “เราออกไปช่วยตอนนี้จะถูกว่าอะไรไหมครับ คุณภูริ”

    วาโยเอ่ยถามชายหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆ ความจริงเขาตั้งใจจะกินข้าวและอยู่รอช่วยชานนในห้องครัว แทนที่จะขึ้นไปพักผ่อน แต่โดนธีรัชกึ่งบังคับกึ่งขอร้องให้พวกเขาขึ้นไปพัก เขาจึงจำต้องยอมทิ้งครัวไปอย่างไม่เต็มใจนัก และมายืนเตร็ดเตร่แอบดูอยู่แถวนั้นแทน

    “อืม...รออีกสักสิบนาทีก็ได้ ให้คุณตาทานข้าวให้เสร็จก่อน แล้วเราค่อยไปบังคับเปลี่ยนเวรให้หมอนั่นมานั่งกินข้าวกับเขาบ้าง ...ระหว่างนี้ก็ไปเดินเล่นด้านหลังร้านกันเถอะ”

    ภูริหันไปชวนคนข้างกายพร้อมยิ้มนิด ๆ ติดเจ้าเล่ห์ ทำให้วาโยที่ได้เห็นรอยยิ้มเช่นนั้นหน้าแดงน้อย ๆ เพราะรู้ดีว่าการเดินเล่นครั้งนี้ คงต้องมีการเปลืองเนื้อเปลืองตัวตามมาแน่นอน

   

   เวลาเดียวกันภายในร้านค้า การินกับกวินนั้นก็กำลังทำงานอย่างขยันขันแข็ง วันนี้อากาศข้างนอกค่อนข้างร้อน คนจึงเข้ามาเลือกนั่งด้านในอย่างเดียว แทนที่จะกระจายนั่งทั้งด้านนอกและด้านในอย่างที่เป็น ทำให้ดูแลลูกค้าได้ง่ายกว่าปกติ

   “เหนื่อยไหมริน”  กวินที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ถามขึ้น ตอนนี้ในร้านเหลือลูกค้าเพียงแค่สองสามโต๊ะเท่านั้น และต่างก็กำลังทานอาหารและดื่มเครื่องดื่มกันอยู่ พวกเขาจึงคอยยืนดูแลแค่ต้องเติมน้ำเปล่าที่พร่องก็แค่นั้น

   “ไม่หรอก แต่วันนี้อากาศร้อนจริง ๆ เลยนะ ...แอร์ในร้านยังต้องปรับเพิ่มตามเลย”

   การินพึมพำตอบ แล้วมองข้างนอกที่แดดออกจัด จนแค่มองก็ร้อนตามแล้ว

   “เจอแอร์เย็น ๆ แล้วออกไปเจอแดดร้อนจัด ๆ ถ้าใครไม่เอารถมาแล้วไม่มีร่มด้วยคงแย่เลยเนอะ”

   กวินเอ่ยต่อแล้วมองไปด้านนอก จนไม่ได้สังเกตว่า คนใกล้ตัวกำลังมองเขาแล้วอมยิ้มน้อย ๆ อย่างนึกชื่นชมในความใจดีของอีกฝ่ายที่ห่วงใยแม้กระทั่งลูกค้าของร้าน

   “บอกอาให้ทำบริการร่มยืมได้แทนไหมล่ะ สกรีนโลโก้ร้านตัวโต ๆ ติดร่ม วางไว้ด้านนอก สำหรับวันฝนตกแดดออก ถ้าใครเขาเกิดเอาไปแล้วไปเลย ก็ถือว่าถ้าเขาเอาไปใช้ก็ช่วยโฆษณาร้าน ถ้าเขาเอากลับมาคืนก็ดีไป...ทดลองดูสักสัปดาห์ถ้าเห็นว่าไม่เวิร์กก็ค่อยเลิกทำ”

   การินลองเสนอขึ้น ทำให้คนข้าง ๆ ตาโต แล้วจึงหัวเราะเบา ๆ ตามมา ทำให้คนพูดขมวดคิ้วยุ่งด้วยความประหลาดใจ

   “หัวเราะทำไม ไอเดียฉันมันแย่นักหรือไง”

   “เปล่า ๆ ไอเดียนายเข้าท่าดี นายนี่เชื้ออาไม่ทิ้งแถวเลยนะ....แบบนี้ร้านกาแฟริมทะเลของพวกเราในอนาคต คงขายดิบขายดีเป็นแน่”

   กวินอธิบายพร้อมยิ้มน้อย ๆ อย่างอ่อนโยน ทำให้อีกคนหน้าแดงระเรื่อ แล้วรีบเดินหนีไปเฝ้าโถน้ำเปล่าแทนด้วยความอาย ทำให้กวินต้องหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้วจ้องมองคนที่เดินหนีไป  พลางคิดในใจว่าดีแล้ว ที่เขาเลือกรักผู้ชายคนนี้ และเขาขอสัญญากับตัวเองว่า จะไม่ทรยศต่อความรักของการินอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะต้องพบกับอุปสรรคน้อยใหญ่ในอนาคตข้างหน้าเพียงใดก็ตาม
   
    

    อีกด้านหนึ่งราเมศที่กำลังอยู่ในช่วงพักนั้น เลือกมานั่งกินข้าวที่ห้องทำงานของปวีร์แทน เขามองคนรักที่ครุ่นคิดแผนงานใหม่ ๆ เพื่อโปรโมทร้านด้วยแววตาเอ็นดูแกมระอา ก่อนจะแกล้งกระแอมเบา ๆ ให้อีกฝ่ายละสายตาจากงาน มากินอาหารที่ค้างไว้ในจานต่อให้เสร็จ

    “เดี๋ยวก็เย็นชืดหมด กินให้เสร็จไปเลยทีเดียว เดี๋ยวก็ค่อยทำต่อก็ได้”

    ราเมศเอ่ยติง ทำให้คนที่กำลังนั่งขมวดคิ้ว ขีด ๆ เขียน ๆ บางอย่าง ต้องเงยหน้ามามอง

    “บางทีไอเดียมันก็ปิ๊งมาตอนกำลังกินนี่นา”

    “มันคงไม่ใช้เวลานานจนลืมหรอกน่า กินข้าวนะ ไม่ใช่กิจกรรมบนเตียง”

    ราเมศเปรียบเปรยทำเอาคนฟังหน้าแดง แล้วสบถตามมาเบา ๆ ก่อนจะไปจัดการกินอาหารที่เหลือให้หมดอย่างว่าง่าย เพราะไม่อยากถูกแกล้งให้เขินแบบนี้อีก

    “รู้ไหม พักหลัง ๆ นายน่ะทั้งหื่นทั้งเจ้าเล่ห์ขึ้นมากเลย ...หรือว่าจริง ๆ แล้วเป็นคนแบบนี้มาแต่แรกกันแน่”

    ปวีร์ที่จัดการกินอาหารตรงหน้าจนหมด รับน้ำที่อีกฝ่ายยกมาให้ดื่ม แล้วเปรยบอกอย่างหมั่นไส้นิด ๆ ทว่าราเมศกลับหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ก่อนจะชะโงกหน้าไปหอมแก้มคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างรักใคร่

    “ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้ล่ะ... แต่ถ้านายบอกรักฉันเร็วกว่านี้อีกสักหน่อย นายก็จะได้รู้ว่าฉันก็เป็นคนแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วล่ะนะ”

      “ฮึ! ถ้าฉันรู้ ฉันคงเปลี่ยนใจตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วล่ะ!”

    ปวีร์ประชด แต่ก็ต้องสะดุ้งหน้าแดง เมื่ออีกฝ่ายอ้อมมาอยู่ด้านหลังและกอดคลอเคลียเขาอย่างเอาใจ

    “สายไปแล้ว...ทำให้ฉันทั้งรักทั้งหลงขนาดนี้ แล้วคิดจะเปลี่ยนใจ ไม่มีวันเสียล่ะ”

    “แล้วถ้าฉันเกิดเปลี่ยนใจจริง ๆ ล่ะ” ปวีร์แกล้งลองถาม ทำให้ราเมศชะงัก ก่อนจะคลายอ้อมกอดออกและถอยมายืน จนคนที่แกล้งถามออกไปตกใจและรีบหันกลับไปดู ก่อนจะได้เห็นสีหน้าและแววตาเศร้า ๆ ระคนจริงจังของอีกฝ่ายที่จ้องตอบมา

    “ถ้าคนที่นายเปลี่ยนใจไปหา เป็นคนดีที่รักนายมากยิ่งกว่าที่ฉันรัก และนายก็รักเขามากกว่าที่รักฉัน ...ถ้าวันนั้นมาถึงจริง ๆ ฉันก็คงจะยิ้มส่งพวกนายทั้งคู่จากใจที่มันสลายไปแล้ว ...และก็คงไม่คิดรักใครอีกตลอดชีวิตล่ะนะ”

    ปวีร์นิ่งอึ้ง ก่อนจะลุกขึ้นไปกอดคนรักแน่น แล้วพึมพำแนบอกกว้างของอีกฝ่าย

    “จะไม่มีวันนั้นเด็ดขาดราเมศ... ฉันจะรักนายคนเดียว จวบจนกระทั่งวันที่ฉันไร้ลมหายใจและจากโลกใบนี้ไป”

    ราเมศกอดตอบอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน ทั้งคู่ยืนกระซิบคำหวาน และแลกจุมพิตเร่าร้อนระหว่างกัน จวบจนกระทั่งเวลาผ่านไป ราเมศจึงจำต้องถอยออกห่างอย่างนึกเสียดาย เพราะได้เวลาที่เขาต้องไปเข้างานต่อแล้ว

    “ฉันว่าจะลงทุนจ้างบาริสต้ามาทำงานแทนตัวเองสักครึ่งวัน ฉันจะได้มีเวลาอยู่กับนายให้มากกว่านี้หน่อย นายว่ายังไง”

    ราเมศเปรยกึ่งเล่นกึ่งจริง ทำเอาคนฟังต้องหัวเราะเบา ๆ อย่างชอบใจ

    “ไม่อนุมัติ! เพราะฉันจะเอางบตรงส่วนนั้นไปตัดชุดใหม่ ๆ ให้พวกเด็ก ๆ ใส่แทน  เพราะฉะนั้นนายก็ทนทำไปก่อน ...ส่วนเรื่องเวลา ยังไงพวกเราก็มีเวลาอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตอยู่แล้ว ไม่ต้องโลภมากไปกว่านี้หรอกน่า”

    คนฟังถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ แล้วขอตัวไปทำงานต่อ ทำให้เจ้าของห้องต้องมองตามไล่หลังไปอย่างนึกขำ ทว่าสักพักเจ้าตัวกลับพึมพำตามมาค่อย ๆ

    “...จ้างบาริสต้าอีกสักคน ก็คงเข้าทีล่ะนะ ลูกค้าในร้านก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย... อีกอย่างหาผู้ช่วยเชฟในครัวเพิ่มสักคนก็เข้าท่าเหมือนกัน  ไม่อย่างนั้นเวลามีออเดอร์อาหารเยอะ ๆ มีหวังพนักงานเสิร์ฟของเราบางคนคงต้องวิ่งวุ่นคอยห่วงไม่เป็นทำการทำงานกับเขาแน่ ... ส่วนตำแหน่งแคชเชียร์ก็น่าเป็นห่วง  เพราะคนปัจจุบันก็ไม่รู้จะโดนลักพาตัวไปจากร้านตอนไหนเสียด้วยสิ ...อืม”

    ปวีร์เอ่ยกับตัวเองพร้อมครุ่นคิดวางแผนจัดการในอนาคตข้างหน้า เขานั่งอยู่เช่นนั้นจนกระทั่งมารู้สึกตัวอีกที เมื่อถึงเวลาพักของราเมศอีกครั้ง และเจ้าตัวมายืนกระแอม พร้อมส่งสายตาดุให้เขาได้หยุดพักเสียบ้าง

    “รู้แล้วน่า ...พักเดี๋ยวนี้ล่ะ จัดตารางพนักงานใหม่ลงตัวเสร็จพอดี!”

    ราเมศขมวดคิ้วยุ่งกับคำพูดที่ได้ยิน ทว่าพอจะเอ่ยปากถาม ปวีร์ก็ลุกขึ้นเดินฮัมเพลงมาทางเขา พร้อมกับยิ้มน้อย ๆ แล้วเอ่ยขึ้น

    “ความลับ! ไปรอเซอร์ไพรส์พร้อมทุกคนทีหลังเถอะ”

    ราเมศถอนหายใจแผ่วเบา แล้วจึงเดินตามปวีร์ลงไปชั้นล่างที่ห้องครัว  พลางนั่งฟังอีกฝ่ายคุยสัพเพเหระกับพวกขวัญตาและชานนเงียบ ๆ และเมื่อถึงเวลางาน ชายหนุ่มก็ดัดมือน้อย ๆ เตรียมพร้อมรับมือลูกค้าที่บาร์เครื่องดื่มต่อ โดยมีปวีร์เดินตามออกไปส่ง

     เจ้าของร้านหนุ่มหยุดฝีเท้าและมองไปรอบ ๆ ร้านของตน ก่อนจะได้เห็นในสิ่งที่ทำให้ใบหน้านั้นค่อย ๆ มีรอยยิ้มประดับ... ไม่ว่าจะเป็นความขยันขันแข็งของพนักงานแต่ละคน หรือสีหน้าพึงพอใจของลูกค้า

     และเมื่อปวีร์เตรียมที่จะกลับขึ้นไปบนห้องทำงานของเขาอีกครั้ง ชายหนุ่มก็ต้องชะงัก แล้วอมยิ้มน้อย ๆ กับตัวเอง เมื่อได้ยินเสียงพนักงานแต่ละคนขานขึ้นพร้อม ๆ กัน หลังจากเสียงกระดิ่งที่หน้าประตูร้านดังขึ้นและถูกเปิดออกมา

      “ยินดีต้อนรับ สู่มิราเคิลคาเฟ่ครับ!”





..
..
...
....


…End…






จบแล้ว???  จบจริงรึ  คำตอบก็คือ จบจริง ๆ ค่ะ อิ ๆ  ตัดจบไง ^^ (โดนนักอ่านกระโดดถีบขาคู่!) 

แหะ ๆ ความจริงแล้วคิดแล้วคิดอีกสำหรับฉากจบเรื่องนี้ว่าจะตัดจบตอนไหนดี เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างเป็นความรัก ควบคู่ชีวิตประจำวัน ก็เลยให้จบแบบชีวิตประจำวันแทน  ซึ่งสำหรับปัดพออ่านไปอ่านมา มันก็ค่อนข้างลงตัวดีนะคะ (มั้ง) ^ ^"

หลายคนอาจจะค้างในส่วนที่ว่า  แล้วพี่ไกรล่ะ จะจีบติดไหม  - คุณนนกับนายธีล่ะจะเป็นยังไง   ...ตกลงชุดที่ไกรสรดีไซน์ จะเป็นชุดอะไรกันแน่ .... 

คำตอบก็คือ .........รออ่านกันได้ในบทพิเศษทิ้งท้าย ที่จะเป็นบทสรุปสมบูรณ์ของเรื่องนี้ในตอนหน้าค่ะ  จะลงอ่านในบอร์ดให้ได้อ่านกันแน่ ยาวสั้น ขึ้นอยู่กับความเมามันในการเขียน และความหวานของอีกสองคู่ที่เหลือ ว่าเขาจะจีบกันได้หวานซึ้งขนาดไหนค่ะ

ส่วนเรื่องรวมเล่ม.....เบรกไว้ก่อนนิดนึงค่ะ ไว้พอเข้าตุลาสักสัปดาห์ที่สองจะเริ่มมีคำตอบให้ค่ะ อย่าลืมติดตามข่าวคราวนะคะ ^^


หรือคอยเช็คข่าวสารที่นี่ก็ได้ค่ะ https://www.facebook.com/NovelPat   ตุลานี้นอกจากตั้งใจว่าจะรวมเล่มเรื่องใหม่แล้ว ยังมีโปรเจกต์รีปริ้นท์เรื่องเก่าทำมือทุกเรื่อง (และในบางเรื่องเป็นครั้งสุดท้ายไม่รีปริ้นท์ซ้ำอีกแล้ว เช่น คุณตำรวจยอดรัก คุณอาที่รัก เป็นต้น)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2012 12:43:10 โดย Xenon »

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ว้า จบแล้วจริงหรอเนี่ย ยังไม่รู้เลยว่าคุณไกรออกแบบชุดไว้เป็นแบบไหน(อยู่ในตอนพิเศษใช่มั้ยค่ะ)

รอตอนพิเศษนะคะ

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
ว้า จบแล้วจริงหรอเนี่ย ยังไม่รู้เลยว่าคุณไกรออกแบบชุดไว้เป็นแบบไหน(อยู่ในตอนพิเศษใช่มั้ยค่ะ)

รอตอนพิเศษนะคะ

บทสรุปปิดท้ายยาว จะเริ่มตั้งแต่เหตุการณ์ในวันเสาร์ (ซึ่งนักอ่านจะได้เห็นชุดที่พี่ไกรดีไซน์แน่นอนค่ะ ^^)

และเป็นเรื่องรักลงตัวของคู่ที่เหลือค่ะ ^^  ตอนพิเศษจะพยายามปั่นค่ะ ไม่เกินสองสามวันนี้แน่นอนค่ะ เพราะไม่อยากทิ้งช่วงนานนัก^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
อ๊าาา จบแล้วว น่ารักน้าาา

ชอบมากเลยยย แต่รีปริ้น สิ้นเดือนตุลาได้ไหมค้าบ

แหะๆ กลาง ๆตุลามีงานหนังสืออ่า กลัวไม่มีเงินซื้อ

คิคิ รอตอนต่อไปจ้าา

vocaloid

  • บุคคลทั่วไป
จบแล้วเหรอเนี่ย
รู้สึกใจหายยังไงไม่รู้
ขอตอนพิเศษเยอะๆนะค้าาา

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
จบแล้วอ๊า T T
ความจริงจบแบบนี้ก็โอเคแล้วอะ เพราะที่ผ่านมาก็หวานกันทุกคู่เลย >///<
แต่รอตอนพิเศษนะคะ ^_^

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6
เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
จบจริงอะ  ไม่เอานะ

ออฟไลน์ entirom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-2

mister

  • บุคคลทั่วไป
พึ่งได้ตามอ่านเรื่องนี้  ตั้งแต่ต้น(ใช่เวลา 2 วัน )   เรื่องก็จบพอดีน่าเสียดาย


อย่าลืมตอนพิเศษด้วยนะ !!

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
จะตั่งตารอตอนพิเศษจ้า :impress3: :impress3: :impress3:

alekung103

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
ธีน่ารักมาก ๆ เลย สงสัยธีอยากจะเปลี่ยนจากพนักงานเสิร์ฟเป็นผู้ช่วยเชฟนะนั่น ทรงพลปยุตก็น่ารัก

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4

แวะเข้ามาซ่อมนิยายนิดหน่อยนะคะ

ใส่ฉากของกวินกับการิน คุยกันหวาน ๆ คั่นไปด้วยค่ะ จะได้เป็นบทสรุปที่ครบทุกคู่

ส่วนตอนพิเศษหรือบทปิดท้ายสมบูรณ์ กำลังปั่นอยู่ค่ะ  ถ้าเสร็จจะรีบเอามาลงให้อ่านนะคะ ^^


 :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด