- STEP 16 -
การสอบปลายภาคแต่ละตัว แทบจะสูบพลังชีวิตของผมจนเกือบหมด คุณชายเองก็มีสภาพเหมือนกับศพ ตลอดช่วงสอบ ผมทำแต่อาหารง่ายๆกินกับคุณชายตลอด เข้าใจว่าร่างกายต้องการสารอาหารไปหล่อเลี้ยงสมอง แต่...ผมจำแต่สูตรฟิสิกส์จนแทบจะลืมสูตรอาหารแล้วครับ
“พี่เภา...วันนี้กินข้าวผัดกุ้งนะ” ผมตะโกนบอกคนที่อ่านหนังสืออยู่
“ถ้าแอลเหนื่อย โทรสั่งร้านข้างล่างก็ได้นะ ไม่ต้องลำบากหรอก” คุณชายเขาตะโกนตอบกลับมา
ผมไม่ตอบอะไร แต่ลงมือทำอาหารเย็น วันรุ่งขึ้นเราต่างมีสอบด้วยกันทั้งคู่ เลยเป็นโอกาสที่จะได้ไปมหาลัยพร้อมกัน เหลืออีกแค่สองตัวแล้วครับ ไอ้เวย์มันเริ่มเรียกร้องหาเหล้าเข้าปากแก้เครียดหลังสอบแล้ว พี่เภาเลยจะสนองให้มันซะหน่อย แต่...ต้องรอสอบเสร็จก่อนครับ
พอทำอาหารเรียบร้อย ยกมาวางบนโต๊ะ ผมก็ถอดผ้ากันเปื้อนออกพาด จัดการล้างมือให้เรียบร้อย แล้วถึงเดินไปตามคุณชาย พอไปถึงก็ต้องอมยิ้มกับภาพที่เห็น...
ปกติเวลาทั่วไปพี่เภาเขาไม่ใส่แว่น แต่เวลาอ่านหนังสือจะเอาแว่นมาใส่ แต่ตอนนี้คนที่อ่านหนังสือหนักมาหลายวัน กำลังนั่งอยู่กับพื้น เอาคอพาดโซฟา หลับตาพริ้ม ท่าทางเหนื่อยน่าดู ผมเลยทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ยื่นมือไปลูบแก้มเบาๆ ก่อนจะถามเสียงอ่อนด้วยความเป็นห่วง
“เหนื่อยมากไหมพี่เภา?”
คุณชายเขาเปิดเปลือกตามาคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ผม แล้วบอกหน้าตาเฉย
“เหนื่อยมากเลย แต่ถ้าได้จูบหวานๆคงหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง”
“ทฤษฎีไหนเนี่ย ไม่เคยได้ยิน ลุกไปกินข้าวเย็นได้แล้ว”
ผมทำท่าจะผละออกมา แต่พี่เภาก็ยื่นมือมารั้งเอาไว้ จนผมต้องนั่งลงไปอีกรอบ แกล้งตวัดตาดุใส่ แต่อีกฝ่ายดันทำตาอ้อนกลับมาซะงั้น รู้สึกเหมือนเห็นแววว่าตัวเองจะต้องเสียเปรียบยังไงก็ไม่รู้
“นิดนึงนะ...นะ”
คนที่ทำหน้าโหดเสียงเหี้ยมใส่พี่ครามหายไปไหน ทำไมที่อยู่ตรงหน้าผมถึงกลายเป็นหมาจิ้งจอกที่สวมชุดลูกแมวขี้อ้อนเสียได้ หึ...เห็นแก่ว่าอ่านหนังสือจนเหนื่อยหรอกนะ
“หลับตาก่อน...”
พูดไปหน้าผมก็ร้อนผ่าว รู้ตัวเลยว่าถ้าส่องกระจกมีหวังแดงแป๊ดแน่นอน คุณชายเขาก็หลับตาพริ้มอย่างว่าง่าย เหมือนเจ้าชายนอนรอจุมพิตถอนคำสาป ผมค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปหาช้าๆ แล้วก็...
แตะริมฝีปากลงกับริมฝีปากหนาเบาๆ แค่พอให้รู้สึก ก่อนจะรีบเด้งออกมานั่งหน้าแดง
คุณชายเขาลืมตามานั่งหน้างอ ชี้นิ้วคาดโทษผมเลยครับ ผมก็ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้
“อะไรพี่เภา จูบแล้วเหอะ”
“แถวบ้านพี่ เค้าเรียกว่าเอาปากมาชนกัน ไม่ใช่จูบครับ”
“อ้าว...แล้วแบบไหนถึงเรียกว่า...อื๊อ!”
ผมพูดยังไม่ทันจบประโยคดี มือหนาก็สอดรองท้ายทอยผม ก่อนริมฝีปากหยักจะทาบทับลงมา ผมแกล้งเม้มริมฝีปากแน่น แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมลดละ แทะเล็มริมฝีปากผม ราวกับกำลังชิมขนมหวานเลิศรส สัมผัสอุ่นแตะลงบนกลีบปากผม ก่อนลิ้นร้อนจะแตะไล้อย่างเว้าวอน จนผมเผลอปล่อยให้อีกฝ่ายเข้ามารุกราน
ก้อนเนื้ออุ่นควานหาความหวานทั่วโพรงปากของผม หยอกล้อกับลิ้นของผมที่หลบอยู่อย่างขลาดกลัว แล้วคนคุมเกมส์ก็หลอกล่อจนผมเผลอปล่อยปลายลิ้นของตัวเองลงสู่สังเวียน ที่มีเสียงครางและลมหายใจของแต่ละฝ่ายเป็นเดิมพัน เนิ่นนาน...กว่าจูบหวานๆจะสิ้นสุด ด้วยความพ่ายแพ้หมดรูปของผม ยอมจำนนต่อคนที่บังอาจช่วงชิงลมหายใจของผมไป จนผมยังเผลอคิดว่าตัวเองคงจะขาดอากาศหายใจแล้ว
“นี่ต่างหากที่เรียกว่าจูบ”
“ไหนบอกว่าจะไม่ทำอะไร ถ้าแอลไม่อนุญาตไง”
“นี่พี่ก็ไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย เมื่อกี้เขาเรียกว่า ‘สอน’ ต่างหาก”
“สอนบ้าอะไร?”
“สอนจูบไง”เหอะ! หลักสูตรนี้กระทรวงศึกษาธิการไม่ได้บรรจุเอาไว้ ไม่ต้องสอนโว๊ย!.
.
.
กว่าการสอบจะดำเนินมาจนถึงวันสุดท้าย สภาพแต่ละคนก็ปางตายราวกับเพิ่งผ่านพ้นสงคราม มีเพียงแค่บางคนที่ยังคงสภาพดีเหมือนช่วงก่อนสอบ บางคนนี่แลดูละม้ายคล้ายซอมบี้เรียบร้อย ข้อสอบของอาจารย์นี่เปรียบเหมือนอาวุธที่ใช้ประหัตประหารนักศึกษากันเลยทีเดียว
พวกเราชาววิศวะก็มีสภาพทรุดโทรม ยิ่งกว่าโครงสร้างตึกที่ถูกปล่อยร้าง ขาดการดูแลและซ่อมบำรุง ไอ้สุดหล่อเวย์แทบจะหมดมาดเดือนคณะ เพราะมันพาเอาหน้าตาอิดโรย ขอบตาดำคล้ำประหนึ่งพ่อพันธุ์หมีแพนด้ามาสอบทุกวัน แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีสาวน้อยจากคณะอื่นแวะเวียนมาให้กำลังใจมันอยู่เสมอ
ส่วนดาวคณะสุดสวยของพวกเราชาววิศวะอย่างนิหน่า มีสภาพดีกว่าเดือนเล็กน้อย ความจริงแล้วนิหน่ามันจะไม่โทรมมาก ถ้าไม่ต้องอุทิศเวลาอ่านหนังสืออันมีค่าของมันเอง มาติวผมและไอ้เวย์ จนผมกับไอ้เวย์ยังอยากจะแสดงน้ำใจด้วยการซื้อคอร์สทำทรีทเม้นต์ให้มันหลังสอบ เพื่อที่มันจะได้กลับมาเป็นสาวน้อยสุดสวยในเร็ววัน
“เหม่ออยู่นั่นแหล่ะมึง ตัวสุดท้ายแล้ว อ่านเข้าไป!” นิหน่ามันปฏิบัติตัวเยี่ยงมารดาผมครับ
ส่วนสามหนุ่มสามมุมคณะสถาปัตย์ สภาพดูดีกว่าตอนทำโปรเจคเล็กน้อย พี่เชนกับพี่จอมยังหล่อเหมือนเดิม คุณชายเขาก็เช่นกัน ก็ผมเล่นเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี ให้อาหารและน้ำดื่มไม่มีขาด
ส่วนผม...โดนยัดเยียดให้กินแต่ของที่มีประโยชน์ช่วงสอบ ไม่รู้ว่าคุณชายเขาไปสรรหามาจากที่ไหนกัน แต่บางอันก็เหลือรับประทานครับ
“พี่เภา แอลเกลียดซุปไก่ แค่กลิ่นก็จะอ้วกแล้ว”
ซุปไก่สกัดสีดำสารพัดยี่ห้อ กลิ่นมันชวนอ้วกมากครับ แค่เปิดฝาออกมาก็บังเกิดอาการคลื่นเหียนวิงเวียนศีรษะ ต้องรีบผลักออกให้ไกลในรัศมีร้อยเมตร
“กินแป๊ะก๊วยนะแอล แป๊ะก๊วยช่วยให้ความจำดี แล้วก็ช่วงนี้อ่านหนังสือเยอะ ต้องกินบลูเบอร์รี่บำรุงสายตา”
สรุปแล้ว...ผมก็ปฏิเสธได้แค่ซุปไก่ ที่พอเปิดฝาปุ๊บ ผมก็วิ่งเข้าห้องน้ำอ้วกปั๊บ คุณชายเลยยอมแพ้ แต่ที่เหลือก็ต้องกินตามคำสั่งอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
ส่วนไอ้เพียวนะครับ ช่วงนี้อย่าได้พยายามติดต่อหรือเสนอหน้าไปหามันเด็ดขาด เพราะคุณชายเพียว แกจะร่ายประมวลกฎหมายให้ฟังชนิดหูดับตับไหม้กันเลยทีเดียว เวลาคุยอะไรกับมันนิดหน่อย แทบจะต้องหยิบยกเอาประมวลกฎหมายมาคุย มันให้เหตุผลว่า...
“มันทำให้กูเข้าใจมากขึ้น ถ้าลองเอาประมวลฯที่เรียนมาประยุกต์เข้ากับชีวิตประจำวัน”
นับว่าเป็นวิธีที่ไม่เลวครับ แต่ผมยังไม่อยากเอาประมวลกฎหมายของมันมาปนกับเนื้อหาของผม เลยต้องพยายามเลี่ยงการติดต่อมันจนกว่าจะสอบเสร็จ
ส่วนแทนเพื่อนรัก ก็เพลิดเพลินกับการวิเคราะห์เศรษฐกิจโลก ดูอุปสงค์อุปทานอะไรของมันเรื่อยเปื่อย เป็นความชอบและความถนัดของมัน ไอ้แทนมันเลยชิลล์ตลอดการสอบ แถมยังพกพาหน้าหล่อเด้งมาเยาะเย้ยพวกผมถึงห้องสมุดคณะอยู่หลายหน หมั่นไส้มันครับ...
“เห็นหน้ามึงแล้วหมั่นไส้หว่ะ” ไอ้เวย์ว่าอย่างเหยียดๆ ตอนที่ไอ้แทนมานั่งร่วมวงที่ห้องสมุด
“แต่เห็นหน้าแทน แล้วกูมีกำลังใจหว่ะเวย์” นิหน่ามันสดชื่นทันตาเห็น เหมือนเจอโอเอซิส
“แล้วหน้ากูมันทำมึงหมดกำลังใจเหรอไงวะ?” ไอ้เวย์มีเคืองครับ ดาวคณะดันปันใจไปหาหนุ่มคณะอื่น
“ไม่ใช่แค่หน้าโทรมๆของมึงอย่างเดียวนะเวย์ ปากหมาๆของมึงด้วย” ชัดเจนแจ่มแจ้งครับ
“สอบเสร็จเมื่อไหร่นะ...กูจะเมาหัวราน้ำ” ไอ้เวย์ประกาศเจตนารมณ์อันแรงกล้าของมัน
คนอื่นได้แต่หัวเราะหึๆ ไม่มีใครคัดค้าน เพราะเป็นเรื่องปกติที่ต้องมีการฉลองหลังสอบเสร็จ แต่ความจริงแล้ว พวกผมก็หาเรื่องมาฉลองกันได้เกือบทุกเทศกาลครับ สอบตก สอบผ่าน หมาที่บ้านคลอดลูก ลองถ้าอยากจะเมาแล้ว มันก็หาเรื่องมาเมากันจนได้
.
.
.
ผ่านพ้นการสอบสุดทรหด พวกเราเจ็ดชีวิต ก็พากันยึดบ้านไอ้เวย์เป็นสถานที่สังสรรค์เนื่องในโอกาสหลุดพ้นจากการสอบ แต่ละคนก็มีสภาพรื่นเริงสุดขีด แต่ความรื่นเริงจะหมดไปทันทีที่รู้ผลสอบ
บ้านของไอ้เวย์อยู่บนถนนพระราม 2 เป็นบ้านเดี่ยวที่กินอาณาเขตค่อนข้างกว้างขวาง บนที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของพ่อไอ้เวย์ แถมบริเวณบ้านมันยังมีส่วนหน้าบ้าน ที่บางทีพวกผมก็นึกครึ้มมานั่งกินเหล้าเคล้าแสงจันทร์ หรือบางทีก็อัปเปหิตัวเองไปนั่งกินอยู่ในบ้านตามแต่โอกาส
ช่วงที่เราสอบเสร็จ เป็นช่วงที่พ่อกับแม่มันบินไปทำธุระที่ต่างประเทศพอดี เลยเหลือแค่มันกับพวกแม่บ้านและคนสวน พวกเราเลยเปรมกันครับ ยึดครองบ้านมันประหนึ่งบ้านของตัวเอง เราขนเสื้อผ้ามาตั้งรกรากที่บ้านไอ้เวย์กันตั้งแต่สอบเสร็จ เพราะกะว่าจะเมาไม่ขับ แต่เมาแล้วค้างที่บ้านไอ้เวย์กัน
พอมาถึง สามหนุ่มสถาปัตย์กับหนึ่งหนุ่มนิติ เขาก็นอนหลับยาวเอาแรงกัน ส่วนผมกับไอ้เวย์นั่งเล่นเกมส์กันครับ มีไอ้แทนนั่งดูและให้กำลังใจ(?)
“ห่าเวย์ มึงแม่งโง่หว่ะ เค้าให้เก็บพลังไว้สู้กับหัวหน้า มึงแม่งมัวแต่แวะตามทาง”
“ถ้าชีวิตมึงหมด ไม่ต้องมายืมของกูเลยนะเชี่ยเวย์” ผมเองก็รีบดักคอมันครับ
“กูไม่ได้อยากเล่นเกมส์นี้นี่หว่า ไอ้น้องแอลมันบังคับกู กูอยากเล่นวินนิ่ง สาด” ไอ้เวย์มันเริ่มโวยวายครับ
“กูไม่อยากเล่นวินนิ่ง มึงต้องตามใจกูสิ”
“เชี่ย ทำไมกูต้องตามใจมึงด้วยไอ้น้องแอล กูไม่ใช่แฟนมึงซะหน่อย แฟนมึงตื่นแล้ว รีบวิ่งกระดิกหางไปหาแฟนมึงเลยไป”
ผมโบกหัวไอ้เวย์ไปทีแบบเน้นๆแรงๆ แล้วก็ส่องจอยให้ไอ้แทนไปเล่นแทน ก่อนจะเดินไปหาคุณชายที่เพิ่งตื่น หน้าตางัวเงียเหมือนเด็กมาเชียว
“ทำอะไรกันอยู่ เสียงดังจัง”
“อ๋อ เล่นเกมส์กันอยู่ แต่ไอ้เวย์แม่งเรื่องมาก มีอะไรหรือเปล่า”
“หิว...” สรุปคือที่ตื่นเพราะหิวใช่ไหมเนี่ย
“อยากกินอะไรล่ะ เดี๋ยวไปบอกป้าจิตเขาทำให้” ผมหมายถึงแม่บ้านของไอ้เวย์น่ะครับ
“ให้แอลทำ”
“ห๊ะ??”
“อยากกินแต่ฝีมือแอล ไม่อยากกินที่คนอื่นทำ”อยากจะด่าเหลือเกินว่าเรื่องมากๆ แต่พอเห็นคนตัวสูงๆมายืนทำท่าอ้อนๆแล้ว สุดท้ายก็ต้องใจอ่อนตามเคย
“จะกินอะไรล่ะ”
“อะไรก็ได้ที่แอลทำ”
“ไปนั่งรอก่อนไป เดี๋ยวไปทำให้”
สุดท้ายผมก็ต้องมาเข้าครัวครับ ป้าจิตแกตกใจ รีบถามผมว่าจะเอาอะไร เดี๋ยวแกทำให้เอง แต่ผมบอกว่าคุณชายเขาจะให้ผมทำ ป้าจิตที่รู้จักพี่เภา เพราะเป็นญาติไอ้เวย์เลยหัวเราะขำ ก่อนจะบอกให้ผมแสดงฝีมือตามสบาย
สุดท้ายก็จบลงที่อาหารง่ายๆอย่างผัดมาม่า เพราะคุณชายท่าจะหิวเอาการ ผมเองก็ไม่อยากเสียเวลา คว้าไข่ ปูอัด แฮม และกุ้งจากตู้เย็นมาได้ ก็เอามาผัดมาม่าเลย ใส่มาม่าไปสองห่อ เพราะเผื่อคุณชายจะโดนพวกปอบมันแย่งเอา แล้วจะมางอแงอีก
ปรากฏว่า...ตอนที่ผมยกผัดมาม่าออกมาวางที่โต๊ะ ทุกคนตื่นกันหมดแล้วครับ คุณชายถือช้อนกับส้อมนั่งรออยู่ที่โต๊ะ หึ...เดี๋ยวจับผูกผ้ากันเปื้อนซะจะได้เหมือนเด็ก ไม่รู้คนเอาแต่ใจจอมบงการที่เจอกันวันแรกหายไปไหน เดี๋ยวนี้สบโอกาสหน่อยไม่ได้ มาคลอเคลียตลอด
“ผัดมาม่า พี่เภากินได้นะ” ถามยังไม่ทันจบประโยค คนถูกถามก็จ้วงเข้าปากเรียบร้อย
“โห...กลิ่นอะไรเนี่ย หอมชะมัด แอลทำเองเหรอ” พี่เชนเดินตามกลิ่นมาแล้วครับ “เชี่ยเภา แบ่งกูแดกมั่ง กูก็หิวนะมึง”
พี่เภามันยึดจานไว้กับตัวเองแน่น ส่ายหน้าปฏิเสธพี่เชน เพราะมาม่ายังเต็มปากเต็มคำ
“มึงอย่ามางก จานเบ้อเริ่ม มึงแดกหมดเหรอ เอามาแบ่งกูมั่ง”
“มึงอยากแดก มึงเดินไปบอกป้าจิตที่เป็นแม่บ้านให้ทำให้มึงไป”
“กูจะกินกับมึงเนี่ยแหล่ะ ของมึงตั้งเยอะ มึงแดกไม่หมดหรอก กูรู้”
“ห่า อย่ามาสู่รู้ อยากแดกก็ไปเรียกป้าจิตทำให้”
“แล้วทำไมกูจะแดกกับมึงไม่ได้วะ” เออ...ผมก็อยากรู้เหมือนกันครับ ในเมื่อผมก็อุตส่าห์ทำมาเผื่อคนอื่นด้วย
“แฟนกูทำให้กู กูไม่แบ่งให้คนอื่นกินหรอก”พี่เภา...มึงเด็กมาก ทำตัวเป็นเด็กหวงของเล่นไปได้
.
.
.
ตกดึก พวกผมก็ย้ายกันออกมาอยู่ที่สวนครับ บรรยากาศดีร่มรื่นสมกับที่อยู่ชานเมือง ไอ้เวย์หอบหิ้วกีตาร์มันมาช่วยสร้างบรรยากาศ ไอ้เพียวรับหน้าที่มือชงเหมือนเดิมเด๊ะ
“ไอ้น้องแอล มึงบอกพี่กูเรื่องนั้นหรือยังวะ” ไอ้เวย์มันยื่นหน้ามากระซิบข้างหูผม แต่มีหรือที่คนหูดีอย่างพี่เภา ที่นั่งเบียดอยู่ข้างๆผมจะไม่ได้ยิน
“เรื่องอะไร?”
ผมหรี่ตามองไอ้ตัวต้นเรื่องเวย์ที่สร้างปัญหาให้ แล้วก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ จนคุณชายต้องมาคาดคั้นเอากับผม แต่สุดท้ายคนตอบกลับเป็นไอ้แทนที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ
“เดี๋ยวหลังจบค่ายวิศวะ พวกผมสี่คนจะไปเที่ยวทะเลกัน”
“มีใครบ้าง?” เป็นตำรวจหน่วยสืบสวนสอบสวนปลอมตัวมาใช่ไหมเนี่ย
“ก็มีแอล ไอ้เวย์ ไอ้แทน ไอ้เพียว”
“จะไปที่ไหนกันล่ะ?”
“หัวหินนี่แหล่ะ ใกล้ดี มีที่เดินเที่ยวเยอะด้วย กะจะไปกันสามวันเอง”
ตอนนี้ทุกคนมานั่งล้อมวงถกปัญหาการไปเที่ยวหัวหินแทนแล้วครับ แม้แต่พี่เชนกับพี่จอมก็เสนอหน้าเข้ามามีส่วนร่วมด้วยทันที
“อืม...ก็ไปสิ แต่พี่ไปด้วย” ชัดเจนไหมครับพี่น้อง พอเห็นผมหรี่ตามอง คุณชายเลยถามว่า “หรือจะไม่ไป”
“ก็ไปสิ ไม่มีใครว่าอะไรซะหน่อย”
“เฮ้ย! กูกับไอ้จอมไปด้วยดิ ไปกันหลายๆคนสนุกดีนะมึง พวกเรายังไม่เคยเที่ยวกันเจ็ดคนเลยด้วย” ไอ้พี่เชนเสนอทันที
“แล้วนี่จองห้องพักกันเหรอยัง”
“ยังเลยพี่ กะว่ารอใกล้ๆค่อยจอง คงไม่เต็มหรอก เพราะเราจะไปพักกันวันธรรมดา”
“ไม่ต้องจองหรอก ไอ้จอมมีบ้านอยู่หัวหิน ติดทะเลด้วย เดี๋ยวไปพักบ้านไอ้จอม”
พี่จอมแม่งหน้าเหวอไปเลย เมื่อโดนยัดเยียดภาระมาให้ แต่พอคุณชายเขาถลึงตาใส่หน่อย พี่จอมเลยพยักหน้าอย่างยอมแพ้
“โหย...ไอ้น้องแอล กูบอกให้มึงบอกพี่เภาตั้งนานแล้วก็ไม่เชื่อกู นี่ถ้าจองโรงแรมไปแล้ว โคตรเซ็งเลยนะเนี่ย ที่พักก็พักบ้านพี่จอม แล้วเดี๋ยวเอารถคันใหญ่บ้านพี่เภาไป ส่วนอาหารก็ให้พี่เชนเลี้ยง กินฟรีอยู่ฟรีเลยพวกมึง”
ป๊าบบบบ!! ไอ้เวย์โดนฝ่ามืออรหันต์สามฝ่ามือฟาดเข้าให้ที่กบาลมันแรงๆ
“ไอ้เชี่ยเวย์ กูยังไม่ได้บอกจะเลี้ยงข้าวมึงเลยนะ”
“โธ่พี่! กับน้องกับนุ่งน่ะ หัดสปอร์ตเหมือนที่ทำกับสาวบ้างดิ เป็นพี่ก็ต้องมีน้ำใจต่อน้อง”
“ไอ้นี่นิ กับสาวกูก็ไม่ได้สปอร์ตเหมือนมึง”
แฟนผมครับแฟนผม แฟนผมรีบยกมือเป็นกรรมการห้ามมวยทันที ก่อนจะสรุปเอง
“เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง ถือว่าพาแฟนกับเพื่อนไปเที่ยว”
“ฮิ้วววววววววววววววววววววววว”
“เพื่อนกูครับเพื่อนกู โคตรแมนอ่ะ เดี๋ยวกูสั่งแม่บ้านที่นู่นเตรียมอาหารทะเลไว้เลยดีไหมมึง” พี่จอม
“พี่ผมครับ คิดไม่ผิดจริงๆที่กูยกให้มึงให้พี่ชายกู ไอ้น้องแอล กูเลยพลอยได้อานิสงส์ไปด้วยเลย” ไอ้เชี่ยเวย์
“แต่พวกมึงไปจัดการเรื่องรถกันเอง แต่กูจะขับรถกูไป เพราะกูจะนั่งกับแฟนกูสองคน”
“ฮิ้ววววววววววววววววววววววววว”
“แหมๆๆ จะมีคนอื่นเป็นก้างขวางคอระหว่างทางไม่ได้เลยนะมึง มึงจะทำอะไรบนรถเหรอไง” ไอ้พี่เชน
“น้ำทะเลที่หัวหินคงหวานไปเลย” ไอ้แทน...ไม่ช่วยกูเลยนะมึง
สรุปแล้วทริปหัวหินก็ตกลงกันได้ โดยที่ผมและเพื่อนไม่ต้องเสียตังค์ซักกะบาท แต่ผมนี่สิ ต้องเปลืองตัวมานั่งให้คนอื่นแซวซะสนุกปาก ไอ้คุณชายก็ไม่ช่วยอะไรผมเลย เอาแต่นั่งยิ้มกริ่มอย่างเดียว หมั่นไส้โว๊ย
กินกันไปซักพักพอกรึ่มๆ พวกเราก็เริ่มหาอะไรมาเล่นกันครับ มีขวดโซดาเปล่าอยู่ เลยตกลงกันว่าจะเล่น Truth or Dare เกมส์คลาสสิคกลางวงเหล้า ที่จะผลัดกันหมุนขวด ถ้าปากขวดไปหยุดอยู่ที่ใคร คนนั้นก็มีสิทธิ์เลือกว่าจะตอบคำถามหรือทำตามคำสั่ง
รอบแรกๆก็ไม่มีอะไรครับ เพราะไอ้เพียวหมุนไปโดนพี่เชนบ้าง พี่จอมหมุนโดนไอ้แทนบ้าง คำถามก็เลยเป็นแนวว่า ‘มีแฟนมาแล้วกี่คน’ ‘ปัจจุบันคบอยู่กับใคร’
แต่ตอนที่ไอ้เวย์มันหมุนมาโดนผมนี่สิครับ ผมล่ะเสียววูบ เหลือบตามองพี่เภาก็เห็นนั่งยิ้มให้กำลังใจมา ผมจะไม่กลัวเลย ถ้าไม่ได้รู้จักสันดานไอ้เวย์ดี
“มึงกับพี่เภาถึงขั้นไหนกันแล้ว Truth or Dare”
เชี่ยเวย์...ผมล่ะอยากจะโดดถีบขาคู่ใส่มันเลยครับ คำถามแม่งโคตรส่อและเสื่อม โชคดีที่ผมยังไม่มีอะไรเกินเลย แต่ให้ประกาศออกไปโต้งๆก็อายอยู่เหมือนกันหว่ะ ต่อหน้าสักขีพยานเยอะแยะ
“Truth...จูบอย่างเดียว”
ตาโตรอบวงเลยครับ ทำไมวะ มันน้อยไปหรือมันเยอะไปเนี่ย ช่วยอธิบายให้ผมฟังหน่อยได้ไหม ผมควรจะเสียตัว หรือผมควรจะแค่จับมือ วีรินทร์งงครับ
“โอ้โห...เป็นเสือสิ้นลายเหรอมึง ทำได้แค่จูบน้องเนี่ย” พี่เชน พี่จะถามทำไมครับ
“กูรักของกู กูก็ต้องอยากถนอมคนที่กูรักสิ” กูจะอัดคำพูดมึงไว้ครับไอ้คุณชาย เผื่อวันไหนมึงหน้ามืดจะปล้ำกูขึ้นมา กูจะเปิดกรอกหูมึงซ้ำไปซ้ำมาเลย สงสัยผมจะกินเหล้าเยอะไป ถึงได้รู้สึกหน้าร้อนๆ ถ้าไม่ได้กินเหล้าหน้าผมจะแดงขนาดไหนเนี่ย ไม่อยากจะคิด
และแล้วช่วงเวลาที่ผมรอคอยก็มาถึงครับ ปากขวดไปหยุดที่ไอ้หล่อลากไส้เวย์ครับ เปล่าครับ...ผมไม่ได้เป็นคนหมุน แต่คนหมุนน่ะนั่งอยู่ข้างผม แล้วพี่เภาก็ไม่เคยทำให้ผมผิดหวัง หึหึ
“เวย์...มึงคิดยังไงกับน้องจีน Truth or Dare” แฟนผมจัดหนักครับ
ไอ้เวย์นิ่งไปเลย ไอ้เพียวกับไอ้แทนก็รู้เรื่องน้องจีนแล้ว จากการถ่ายทอดบอกเล่าของผมเอง พวกมันวินิจฉัยอาการแล้วก็ลงมติเหมือนผม ว่าไอ้เวย์มันเป็นหมาบ้า ไอ้เวย์มันนิ่งไปนานจนพี่เภาต้องกระตุ้นมัน
“เฮ้ย! อย่าคิดนาน Truth or Dare ตอบมา”
แต่บางทีนะครับ การจะเค้นความลับของไอ้เวย์ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ความบ้าบิ่นมันมีสูงด้วยครับ มันเลยตอบว่า
“Dare”
“โทรไปบอกรักน้องจีน”ไอ้เวย์ตาโตเลยครับก่อนจะหน้าเหวอ ส่วนผมอยากจะดึงคุณชายเข้ามากอดแรงๆด้วยความถูกอกถูกใจอย่างยิ่ง คุณชายมันก็ยังทำหน้าตาเจ้าเล่ห์คงเส้นคงวา
“เร็ว...อย่าให้เสียเวลา”
“ผมไม่มีเบอร์มันซะหน่อย” ไอ้เวย์มันอุบอิบ
หึหึ แล้วคิดว่าจะปล่อยไปง่ายๆเหรอครับ ผมเปิดดูเบอร์ในเครื่องผม แล้วคว้าโทรศัพท์มันมากดเบอร์น้องจีนทันที ก่อนจะยื่นส่งให้มัน ถ้าถามว่าทำไมไม่โทรจากเครื่องผม ก็ถ้าโทรจากเครื่องผมจะไปสนุกอะไรล่ะครับ
“เปิดสปีคเกอร์ด้วย” พี่เภาสั่ง เพราะกลัวไอ้เวย์เนียนพูดตอนที่ยังไม่มีคนรับ
โทรศัพท์มือถือของไอ้เวย์ถูกวางลงกลางวง พร้อมกับอาการลุ้นระทึกของทุกคน แม้กระทั่งพี่เชนกับพี่จอมที่ไม่รู้เรื่อง ก็ยังเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องสนุก
((ฮัล...))
“ไอ้เตี้ยยยยย!! กูรักมึง”((ไปตายซะ!! ไอ้หมาบ้า ตึ๊ด...))เวย์...ถ้ามึงไม่ได้กินเหล้า กูจะเหมาเอาว่ามึงหน้าแดงเพราะเขินนะ...ใช่หรือเปล่าเพื่อน?
- END STEP 16 -
ขอโทษด้วยนะคะ...ที่หายไปนาน
รีบปั่นที่สุดแล้วค่ะ ขออภัยด้วยค่ะ เรากำลังเตรียมตัวเรียนต่อโท
ขอบคุณทุกกำลังใจเลยนะคะ 
ตอนนี้แอบกลัวว่าไม่สนุก เพราะรีบเอามาลง
ยังไงถ้ามีข้อผิดพลาดตรงไหน ขออภัยด้วยนะคะ
ดีใจที่ทุกคนยังติดตามพี่เภากับน้องแอลและชาวคณะนะคะ
ตอนนี้พี่เภากับน้องแอลรวมหัวกันแกล้งเวย์ หึหึ
น้องจีนได้ออกมาหนึ่งประโยค ฮา...