STEP 47
WAY’s POVพอแม่ของจีนรู้ว่าผมจะมาอยู่เป็นเพื่อนมันช่วงคริสต์มาส ก็ฝากฝังมันกับผมใหญ่ จนไอ้จอมดื้อถึงกับบ่นอุบ ว่ามันจะเข้ามหาวิทยาลัยอยู่แล้วนะ แม่ยังทำเหมือนมันเป็นเด็กประถม ผมก็ยิ้มรับแม่มันอย่างเดียวเลยครับ ปล่อยให้ไอ้จีนมันบ่นของมันไปคนเดียว แม่จีนจะออกจากบ้านตอนเช้าวันเสาร์ เพราะจะได้ไปถึงชลบุรีไม่สายนัก ผมก็เลยรีบออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ แล้วอาสาขับรถไปส่งแม่จีนที่ขนส่ง เพราะขากลับแม่จีนจะนั่งรถพ่อกลับมา ขาไปเลยต้องนั่งรถทัวร์ไปชลบุรีแทน
“แม่...จีนเอาข้าวหลามหนองมนนะ อยากกินปลาหมึกตากแห้งด้วย” ไอ้ตัวแสบข้างผมมันสั่งแม่มันหน้าตาเฉย
“โอ๊ย...ลูกฉัน ห่วงแต่ของกินนะ เวย์เอาอะไรจากชลบุรีหรือเปล่าลูก” แม่มันหันมาถามผม ผมก็ส่ายหน้าปฏิเสธด้วยความเกรงใจ และอีกอย่างคือไม่รู้จะเอาอะไรเหมือนกัน
“แม่ รถจะออกอยู่แล้วนะ” ไอ้ตัวแสบมันก็คอยเร่งแม่มัน
“เร่งจริงนะ แม่ฝากน้องด้วยนะเวย์”
“ครับ เดี๋ยวผมจะดูแลจีนเองครับ”
จากหางตา เห็นเลยว่าไอ้ตัวแสบมันทำหน้าเบ้กับมาดสุภาพเรียบร้อยของผม ผมกับมันยืนรอแม่ขึ้นรถ และดูจนรถออกจากท่าเรียบร้อย ถึงกลับมาที่รถกัน เป้าหมายต่อไปของเราก็คือการซื้อของ เพราะว่าช่วงคริสต์มาส ของจะขายดีกว่าปกติ ปริมาณวัตถุดิบที่ทางร้านต้องเตรียมก็เลยเพิ่มขึ้นด้วย ผมกับไอ้จีนเลยต้องซื้อของกลับไปตุนที่ร้าน สำหรับไว้ทำขนมขายช่วงเทศกาล
ผมไม่ได้มีความรู้อะไรเกี่ยวกับการทำขนมหรอกครับ ก็ทำหน้าที่เป็นแค่คนขับรถ ขับรถพามาซุปเปอร์ คอยเข็นรถเข็นเดินตาม มองดูเวลาไอ้ตัวเล็กมันหยุดที่ชั้นวางของ หยิบพวกวัตถุดิบออกมาดูอย่างชำนาญ พลิกซ้ายพลิกขวาดูวันหมดอายุ แล้วก็จับวางลงบนรถเข็นก็เพลินดีเหมือนกันนะครับ ตัวมันเล็กก็จริง แต่ท่าทางมันคล่องแคล่วน่าดู มันเดินนำผม เข้าซอยนู้น ออกซอยนี้ ผมก็เข็นรถตามซะเพลินเลย รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มันมาเขย่งมองหน้าผม เพราะผมสูงกว่ามันพอสมควร
“หิวหรือยัง?”
“ซื้อเสร็จแล้วเหรอ?” ผมไม่ตอบ แต่ถามกลับแทน ตาก็มองรถเข็นที่มีข้าวของเต็มคันรถเป็นเชิงถาม
“ฮื่อ ครบแล้วล่ะ จะกินอะไรหรือเปล่า”
“กลับไปกินที่บ้านละกัน”
ถึงจะไม่มีความรู้เกี่ยวกับการทำขนม แต่ผมก็รู้ดีว่าของบางอย่าง จำเป็นต้องรีบเอาเข้าตู้เย็น ไม่ควรปล่อยไว้ข้างนอกนานๆ เลยสู้ชวนกันกลับไปหาอะไรกินที่บ้านดีกว่า หรือถ้าขี้เกียจนักก็แวะซื้อเอาข้างทางก็สะดวกไม่เลว พอจีนพยักหน้าหงึกหงักอย่างเห็นด้วย ผมเลยเข็นรถมาที่แคชเชียร์ ช่วยจีนมันยกของวางบนเคาน์เตอร์ แม่จีนทิ้งเงินสดจำนวนหนึ่งกับบัตรเดบิตไว้ให้ สำหรับให้มันใช้สอยช่วงที่ต้องอยู่บ้าน ผมเลยยืนดูเงียบๆ รอพนักงานคิดเงินเสร็จ ก็ช่วยยกของลงรถเข็น แล้วเข็นกลับมาที่รถ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นหัวหน้าครอบครัวชะมัด
.
.
พอกลับมาถึงบ้าน ก็ช่วยกันขนข้าวของลงจากรถมาไว้ที่บ้านก่อน เจ้าคริสต์มาสมันก็มาคอยป่วนอยู่ตลอด มาด้อมๆมองๆกองถุงพลาสติกสีสด ตอนแรกจีนมันก็อุ้มกลับไปไว้บนเบาะที่นอนของมัน มันก็เดินมาใหม่ จีนอุ้มกลับไปวางอยู่สามรอบก็ยอมแพ้ ต้องปล่อยให้มันเข้ามามีส่วนร่วม
นั่งจัดของกันยังไม่ทันเสร็จเรียบร้อยดี ก็ได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามา ผมขมวดคิ้วเล็กน้อย กำลังจะถามจีนว่าใครมา เสียงก็นำมาก่อนตัวซะอีก
“เวอร์จิ้น!! เวอร์จิ้นมาหาพี่แอลเร็ว” ไอ้น้องแอลเดินหน้าระรื่นเข้าบ้านมาพร้อมผู้ปกครอง ที่วันนี้มาในชุดสบายๆ
“หมากูชื่อคริสต์มาส อย่าเสือกเปลี่ยนชื่อ” ผมปรามมัน แต่มันไม่ได้สนใจฟังซักนิด
ไอ้คริสต์มาสนี่ก็เป็นหมาดีเหลือเกิน พอเจอแม่บุญธรรมก็เข้าไปคลอเคลีย พันแข้งพันขา ลืมพ่อลืมแม่มันทันที พอผมเห็นไอ้น้องแอลมาก็นึกอะไรขึ้นได้ทันที ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ก็ให้มันทำตัวให้เป็นประโยชน์หน่อยละกัน
“ไอ้น้องแอล มึงว่างใช่ไหม?” คุณคิดว่ามันจะตอบว่ายังไงล่ะครับ
“กูไม่ว่าง เล่นกับเวอร์จิ้นอยู่” พี่เภาดึงแก้มมันไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้
“ตลกละมึง” ผมด่ามันไปที ก่อนจะหันไปถามพี่เภา “พี่เภา กินข้าวมายัง?”
“ยังเลย ว่าจะมากินพร้อมกันเนี่ย”
“ดีเลยพี่ ไอ้น้องแอล มึงไปทำอะไรก็ได้มาให้พวกกูกินสิ”
คนถูกใช้มันทำเมิน ไม่สนใจ ก้มหน้าไปซุกไซร้ไอ้คริสต์มาสใหญ่ ไอ้หมาแก่แดดก็ทำหน้าซะเคลิ้มเชียว จนพี่เภาสะกิดนั่นแหล่ะ มันถึงยอมเงยหน้ามาทำตาละห้อย
“แอลเล่นกับเวอร์จิ้นอยู่”
เชี่ยแอลก็พยายามยัดเยียดชื่อเวอร์จิ้นให้หมาผมเหลือเกิน เอาเถอะ ปล่อยมันไป เวอร์จิ้นของมัน ส่วนคริสต์มาสน่ะ...ของผมกับไอ้จีน
“พี่หิวแล้ว”
ไอ้น้องแอลมันพึมพำว่า ก็ได้ๆ ก่อนจะยอมปล่อยคริสต์มาสลง แต่ไม่วายหันมาชี้หน้าผมอย่างคาดโทษ ผมก็ยักไหล่แบบไม่แคร์ ทีเพื่อนทำเป็นด่า ทีผัวไม่ยักด่า
“เชี่ยเวย์! กูไม่ใช่แม่บ้านนะครับ กูเป็นแขก มาถึงก็ใช้กูเลยนะ”
“ล้างมือด้วยนะมึง ถ้ากูเจอขนหมาซักเส้น กูจะให้มึงกินอาหารเม็ด” ผมแกล้งขู่ไอ้คนที่เดินหน้าตูมเข้าไปในครัว มันหันมาสะบัดนิ้วกลางใส่ แถมท้ายด้วยการสรรเสริญผมเสียงลั่น
“ไอ้เพื่อนชั่ว!!”
พี่เภาส่ายหัวอย่างระอา พอดีกับที่ผมกับจีนจัดของเสร็จเรียบร้อยพอดี จีนบอกว่าต้องยกไปไว้ที่ร้าน ผมกับพี่เภาเลยบอกว่าจะเป็นคนยกไปแทน มันเลยขอตัวเข้าไปช่วยไอ้น้องแอลในครัว พี่เภามันก็แซวแฟนตัวเองขำๆ โดยที่ไอ้น้องแอลมันไม่รู้ตัว
“ไม่ต้องกลัวว่าแอลจะทำครัวบ้านจีนพังนะ พี่เทรนมาแล้ว”
“เดี๋ยวผมไปเป็นลูกมือพี่แอลดีกว่า จะได้ครูพักลักจำ”
สังเกตเหมือนผมหรือเปล่า ถ้าไม่นับพ่อแม่แล้ว ก็มีแค่ผมเนี่ยแหล่ะ ที่มันแทนตัวเองว่าจีน ถึงมันจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ผมก็เดินยิ้มกว้างไปตลอดทาง จนพี่เภามันเหล่ใหญ่เลยครับ
“มึงพี้กัญชามาเหรอเวย์ ทำหน้าซะเคลิ้มเชียว”
ดูนะครับ นี่ก็อีกคนละ พูดกับน้องนุ่งอย่าง พูดกับแฟนอีกอย่าง
.
.
ตอนผมกับพี่เภาเดินมาถึง ที่ร้านมีคนอยู่บ้างพอสมควร เราก็ช่วยกันจัดของลงจนเรียบร้อย พอเดินกลับมาที่บ้านอีกที ไอ้แทนกับไอ้เพียวก็มาถึงแล้วครับ ผมไม่ได้นัดกะเกณฑ์เวลาให้พวกมัน แค่บอกว่าถ้าว่างก็ให้แวะมากัน มันสองคนบอกว่าไม่มีธุระอะไรพอดี ก็เลยถือโอกาสแวะมา เผื่อจะได้กินฟรีด้วย เห็นมันนั่งรออยู่บนโต๊ะกินข้าวแล้วก็ไม่ต้องเดาเลย นี่คงกะมาฝากท้องที่นี่เหมือนกันล่ะสิ
“มากันนานหรือยังวะพวกมึง”
“เพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี่แหล่ะ รอมาแดกข้าวกับมึงอยู่เนี่ย” ไอ้แทนเป็นคนตอบ
“ไอ้น้องแอลมันจะทำอะไรให้กินวะ?”
“ข้าวผัดของเหลือ” ไอ้เพียวตอบหน้านิ่งๆ ตามแบบฉบับของมัน
“สัดเพียว!! เค้าเรียกข้าวผัดทรงเครื่องเว้ย ไม่ใช่ข้าวผัดของเหลือ”
ไอ้น้องแอลแม่งหูโคตรดีครับ มันเดินออกมาเอาตะหลิวชี้หน้าไอ้เพียว โทษฐานไปเปลี่ยนชื่ออาหารของมัน เดือดร้อนไอ้จีน ต้องลากมันกลับเข้าครัวไปผัดข้าวต่อ อยู่กับคนอื่นมันก็ทำตัวห่ามๆแมนๆ อยู่กันแฟนเข้าหน่อย อย่าให้พูดเลยครับ...หึหึ
พวกผมนั่งรอซักพัก ไอ้จีนก็เอาอุปกรณ์ จานกับช้อนส้อมมาวางบนโต๊ะ ผมเลยลุกไปช่วยมันเทน้ำ หลังจากอุปกรณ์พร้อมเรียบร้อย พ่อครัวหัวป่าก์ก็ยกหม้อข้าวอันใหญ่ออกมาวางกลางวง แล้วก็ยืนยิ้มอวดๆ
“นี่มันข้าวผัดของเหลือชัดๆ” ไอ้เพียวยังไม่เลิกแหย่ไอ้น้องแอล
“มึงจะกินหรือไม่กินห๊ะเพียว พูดมากไม่ต้องแดกเลยนี่”
ข้าวผัดทรงเครื่องของไอ้น้องแอล ก็คือข้าวผัดที่เอาบรรดาของที่มีอยู่ในตู้เย็นมาผัดนั่นแหล่ะครับ มันใส่มั่วซั่วหมด ใส่แครอท หัวหอม เนื้อหมู ปูอัด ถั่วลิสง ลูกเกด แล้วก็เอาหมูหยองมาโรยข้างบน ถ้ามันใส่สับปะรดด้วย ผมจะนึกว่าเป็นข้าวผัดสับปะรดแล้วนะ แต่รสชาติก็...พี่เภาเขาการันตีอยู่แล้วนี่ครับ
“พี่เภา...แอลไม่กินหัวหอม” ไอ้น้องแอลทำตัวน่าหมั่นไส้ ด้วยการหันไปออเซาะแฟนมัน ไอ้แทนกับไอ้เพียวเลยทำหน้าเอือมๆใส่
“แล้วใส่มาทำไม” ไม่ใช่แค่พี่เภางง ผมก็งง
“ใส่หัวหอมแล้วจะได้หวาน เนี่ยนะ...แอลอุตส่าห์หั่นให้ใหญ่ๆ จะได้หยิบให้พี่เภาง่ายๆ กินหัวหอมแล้วดีนะพี่เภา ทำให้ไม่คัดจมูก น้ำมูกไม่ไหล โรคภัยไม่ถามหา...”
พี่เภารีบตักหัวหอมในจานข้าวไอ้น้องแอลไปใส่จานตัวเอง ก่อนที่มันจะร่ายสรรพคุณหัวหอมออกมาจนหมด ไอ้จีนก็กินน้อยตามแบบฉบับมันนั่นแหล่ะครับ ส่วนพวกผมก็กินกันตามปกติ จัดไปกันคนละสองจาน ไม่ให้เสียของ แต่ขนาดกินกันไปเยอะ ก็ยังเหลืออยู่เลยครับ เพราะไอ้คนทำมันหนักมือไปหน่อย
พอกินเสร็จ เห็นไอ้จีนทำท่าจะเก็บจานไปล้าง ผมก็รีบดึงแขนมันไว้ แล้วบอกว่าไม่ต้อง ก่อนจะสั่งให้ไอ้แทนกับไอ้เพียวเอาไปล้างแทน โทษฐานที่กินเยอะกว่าคนอื่น ไอ้น้องแอลพออิ่มก็ไปนั่งแปะอยู่บนโซฟา อุ้มไอ้คริสต์มาสไปด้วย ไอ้จีนก็เลยเดินตามไป ไปนั่งเลี้ยงลูกกันอยู่สองคน เป็นสมาคมแม่บ้าน
ซักพักพี่เชนกับพี่จอมก็มา ไม่มาตัวเปล่าด้วยครับ พี่เชนใส่หมวกซานต้ากับติดเคราปลอมมา เดินไปหัวเราะโฮะๆๆใส่ไอ้น้องแอล ไอ้น้องแอลเลยดึงเคราหมับ แล้วหัวเราะใส่หน้าพี่เชนบ้าง
“นี่! กูเอาของดีมาฝากพวกมึงด้วยนะ” พี่เชนวางถุงซานต้าที่ขนมาด้วยลง แล้วก็เริ่มปฏิบัติการรื้อของ
“มึงจะให้พวกกูใส่หมวกเนี่ยนะ” พี่เภาพลิกดูหมวกซานต้าในมือตัวเอง แล้วทำหน้ารังเกียจ
“เออสิ นี่มันเทศกาลคริสต์มาสนะมึง”
“พี่เชน ของผมกับน้องจีนล่ะ” ไอ้น้องแอลสะกิดยิกๆเลย เรื่องสนุกล่ะชอบเหลือเกิน
พี่เชนมันยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนจะล้วงมือลงไปก้นถุง ทำท่าลีลาจนพี่จอมแทบจะยันหน้าเข้าให้ ก่อนจะหยิบของไอ้น้องแอลกับของไอ้จีนออกมา
“แท่น แทน แท๊น...นี่คือชุดซานตี้ที่พี่ลงทุนซื้อให้แอลกับจีนเลยนะ”
“พ่องตายเหรอเหี้ยเชน!!” พี่เภาโมโหจนแทบจะงับหัวไอ้พี่เชนได้อยู่แล้ว
ไม่ต้องบอกแหล่งที่มาของชุดซานตี้เลย มาแบบครบเซต เซ็กซี่น่ารักน่ากด แต่มันจะดีกว่านี้ ถ้าคนใส่ไม่ใช่ไอ้น้องแอลกับไอ้จีน ไม่ใช่ว่ามันใส่ไม่ขึ้นหรอกนะครับ แต่ถ้ามันสองคนใส่ อย่างน้อยๆก็ต้องมีผมกับพี่เภาเนี่ยแหล่ะที่ของขึ้นแน่ๆ
ไอ้จีนนั่งหน้าแดง ถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว ส่วนไอ้น้องแอล ลืมความเป็นพี่เป็นน้อง เขวี้ยงชุดใส่หน้าพี่เชน แล้วก็เดินไปแย่งหมวกพี่เภามาใส่แทน ไอ้พี่เชนหน้าจ๋อยไปเลยครับ ไม่ใช่จ๋อยเพราะโดนด่า แต่จ๋อยเพราะความเสียดายที่ไอ้น้องแอลกับไอ้จีนไม่ยอมใส่
“เฮ้ย!! แอลกับจีนไม่ใส่เหรอ พี่อุตส่าห์สั่งมาจากทางเวบเลยนะเนี่ย ตามคอนเซปต์ เปลี่ยนค่ำคืนคริสต์มาสของคุณให้เป็นค่ำคืนที่แสนเร่าร้อน”
“เร่าร้อนพ่องสิ”
“ทำไมฮะเภา มึงอิจฉาที่กูให้แค่หมวกมึงใช่ไหมเภา มึงอยากได้บ้างก็บอกกูดีๆสิ”
“อิจฉาพ่องสิ”
“ตอนแรกกูกะจะซื้อชุดกวางเรนเดียร์ให้มึงด้วย เผื่อซานตี้แอลอยากจะขี่กวางเรนเดียร์” หน้าไอ้พี่เชนโคตรกาม แต่หน้าพี่เภา...
“ไอ้เหี้ย แล้วทำไมมึงไม่ซื้อมาฮะเชน”
ไปละพี่กู ความหื่นกามไม่เข้าใครออกใครจริงๆ
.
.
พอร้าน Take a Rest เปิด เลยมีซานต้าหกคนยืนคอยต้อนรับลูกค้าอยู่ ทุกคนใส่หมวกซานต้าที่ไอ้พี่เชนเอามานั่นแหล่ะครับ รวมถึงไอ้น้องแอลกับไอ้จีนด้วย พี่เชนมันอาสาไปต้อนรับลูกค้าถึงหน้าประตูร้าน พอมีลูกค้าเข้าร้านมาที ไอ้พี่เชนก็สวมบทซานต้าทันทีเลยครับ
“โฮ่ๆๆ เมอร์รี่ คริสต์มาสครับสาวๆ” แต่ถ้าเป็นลูกค้าผู้ชายเมื่อไหร่ คำทักทายจะเปลี่ยนทันที
“ยินดีต้อนรับครับ เชิญครับ”
พี่พนักงานคนอื่นก็หัวเราะกันสนุกสนานเลย ไอ้น้องแอลโดนพี่เภาสั่งให้ไปอยู่ตรงเคาน์เตอร์คิดเงินกับไอ้จีน ผม พี่เภา ไอ้แทน ไอ้เพียว กับพี่จอมก็กลายเป็นเด็กเสิร์ฟไปโดยปริยาย เรียกว่ามีลูกค้าเข้าร้านมาที ถ้าเป็นผู้หญิงก็ถึงกับอายม้วน ส่วนตุ๊ดกระเทยก็วี๊ดว๊ายกระตู้วู้กันไป
แล้วไอ้พี่เชนผู้มีความประหลาดปราชญ์เปรื่องก็นึกอะไรขึ้นได้ ถึงกับตบเข่าตัวเองฉาด ก่อนจะเดินมาหาพวกผมที่ยืนเกาะกลุ่มอยู่แถวเคาน์เตอร์
“กูมีความคิดดีๆหว่ะ”
“ดีเหี้ยไรของมึงอีกล่ะเชน ความคิดมึงแต่ละอย่าง อย่าให้กูพูดเลย”
“เฮ้ย อันนี้ดีจริงๆ พวกเราไปนั่งเป็นเพื่อนสาวๆ แล้วก็คุยกับเขาดีไหมมึง”
“ไอ้เชี่ย ไม่ใช่เด็กนั่งดริ๊งค์นะมึง”
“ไม่ได้นั่งฟรีๆนะมึง มึงก็นั่งคุยกับเขาไง คิดชั่วโมงละร้อยละกัน”
“ตัวกูมีค่าแค่นั้นเองเหรอวะ” ไอ้พี่จอมพึมพำเบาๆ
ไอ้น้องแอลก็สนุกด้วย ไปเอาสติกเกอร์มาเขียนเบอร์ แล้วติดที่ตัวแต่ละคน มึงไม่จับพวกกูใส่ตู้ด้วยเลยล่ะ ไอ้น้องแอลมันเริ่มติดจากพี่เชน ที่ทำหน้ากระดี๊กระด๊า อยากจะขายหน้าตาเต็มแก่ ไล่มาถึงพี่จอมที่ทำหน้าเหมือนถูกบังคับ พอมาถึงพี่เภา ผัวมันก็ทำตาดุ ส่ายหัวห้ามอย่างเดียว จนไอ้ตัวดีมันหน้าง้ำ
“อ้าว!...ทำไมไม่ให้แอลติดล่ะพี่เภา”
“พี่เป็นของแอล ไม่ใช่ของสาธารณะ”หึหึ เพื่อนผมอายม้วน ไม่มีปากมีเสียง เดินเลี่ยงไปติดเบอร์สามให้ไอ้เพียวที่ยืนหน้านิ่งๆแทน ส่วนพี่เภาก็ยืนยิ้มกริ่มไป ไม่สนสายตาล้อเลียนของพี่เชน แล้วเบอร์สี่ก็ตกเป็นของไอ้แทน พอมันจะมาแปะเบอร์ห้าให้ผม ผมก็เหลือบตามองไปไอ้จีน ก่อนจะพูดหน้าตาย
“กูขอบายหว่ะ พอดีแฟนหวง”
“จริงเหรอจีน?” ไอ้น้องแอลหันขวับไปถามไอ้จีนทันที
“พี่เวย์ว่ายังไง ก็ตามนั้นล่ะครับ”
ไอ้น้องแอลทำหน้าเซ็ง ก่อนจะบ่น
“ไม่สนุกเลย” แล้วมันก็จัดการแปะป้ายเบอร์ห้าให้ตัวเอง แปะเสร็จไม่ทันไร พี่เภาก็เดินหน้าดุมาแกะออกทันที
“ทำอะไรน่ะแอล”
“แปะเบอร์ห้าไงพี่เภา”
“แปะทำไม”
“เบอร์ห้าประหยัดไฟมั้ง ก็แปะดู เผื่อจะมีคนเรียกแอลบ้าง”
“ไม่ต้องเลย อย่าซ่า เดี๋ยวโดนแน่ๆ”
ไอ้น้องแอลทำหน้ามุ่ย ก่อนจะย้ายกลับไปยืนอยู่หลังแคชเชียร์เหมือนเดิม มีพี่เภาคอยตามประกบไม่ห่าง
สรุปแล้วก็มีพี่เชน เบอร์หนึ่ง พี่จอม เบอร์สอง ไอ้เพียว เบอร์สาม และไอ้แทน เบอร์สี่ ถ้าไม่มีคนเรียกก็เดินเสิร์ฟกันตามปกติ ไอ้พี่เชนก็โปรยยิ้มหล่อบาดใส่ลูกค้าสาวๆลูกเดียว แถมยังโฆษณาอีกต่างหาก
“ชั่วโมงละร้อยครับ สำหรับนั่งทานเค้กหรือจิบกาแฟกับหนุ่มหล่ออารมณ์ดีอย่างผม”
และแล้วเบอร์ห้าของไอ้น้องแอลก็ได้ใช้ ตอนที่ไอ้ภามมันแวะมาตอนเย็น ไอ้น้องแอลก็จัดการแปะเบอร์ห้าใส่ไอ้ภามที่ยังยืนเหวออยู่ แล้วจับลากมายืนโชว์ตัวข้างไอ้แทนทันที พอไอ้ภามมันรู้เรื่อง แทนที่จะปฏิเสธ มันกลับหัวเราะชอบอกชอบใจแล้วยืนโปรยเสน่ห์ซะงั้น
เอ๊ะ...เหมือนมีคนถามถึงลูกชายผมเหรอครับ ไอ้จีนมันนั่งประคบประหงมไอ้คริสต์มาสลูกมันอยู่ ไอ้น้องแอลก็นั่งกดเครื่องคิดเงินสนุกเลยครับ พอผมถามมันว่าสนุกมากไหม มันตอบว่ายังไงรู้ไหมครับ
“ไม่สนุกเท่าไหร่หรอก แต่กูต้องฝึกไว้ เผื่ออีกหน่อยต้องคอยดูแลเงินของพี่เภา” ผมเลยผลักหัวมันไปทีด้วยความหมั่นไส้
“มีผัวเป็นตัวเป็นตน นี่หน้าด้านหน้าทนขึ้นเยอะเลยนะมึง”
“ใครจะเหมือนมึง มีแฟนเป็นตัวเป็นตนก็ยังปากหมาเท่าเดิม ทำไมวะ...น้องจีนลืมพามึงไปฉีดยาเหรอ” มีเถียง มียอกย้อน เดี๋ยวโดน
“ฉีดทำไม กูไม่ใช่มึงนะ ที่ต้องให้พี่เภาพาไปฉีด
‘ยาคุม’ ทุกเดือน”
ไอ้น้องแอลมันอ้าปากพะงาบๆเลยครับ คิดไม่ถึงว่าผมจะมามุกนี้ เถียงไม่ได้ไล่ไม่ทันกันเลยทีเดียว ผมเลยซ้ำให้อีกดอกก่อนจะเดินหัวเราะจากมา
“พี่เภาพามึงไปฝากครรภ์หรือยังล่ะ? อย่าเปรี้ยวมากนะมึง เดี๋ยวลูกไหล”
“ไอ้เชี่ย!! ถ้าอย่างกูท้องได้ แฟนมึงคงมีเมนส์แล้วล่ะ”.
.
[มีต่อนะคะ]