วันชื่น...คืนลอยกระทง
ผู้ชายดีดี...ผู้ชายดีดีเป็นเกย์หมดแล้ว คุณจะรออะไร
ผู้ชายรวยรวย...ลูกคนรวยรวย ก็มีกระเทยแย่งชิงมากมาย[คำร้องโดยศิรวัตร ทำนองผู้ชายกลางๆ]ผู้ชายหล่อ รวย เลว และเป็นเกย์!! กำลังนั่งแหกปากร้องเพลงที่มันขอหยิบยืมทำนองมาจากพี่แสตมป์ ขวัญใจของผม แต่ดัดแปลงคำร้องซะจนผมสงสารผู้หญิงเลย และขณะที่มันกำลังร้องเพลงพร้อมกับเกากีตาร์โปร่ง ผู้ชายที่หน้าตาละม้ายคล้ายแฟนผม เวอร์ชั่นลดอายุลงซักสี่ปีก็อ้าปากร้องเป็นลูกคู่รับทันที
“อย่างพี่เวย์มันต้อง...
ผู้ชายเลวเลว ผู้ชายเลวเลวเป็นเกย์อีกคนแล้ว คุณจะรออะไร”
เอิ่ม...กูสงสารพี่สแตมป์หว่ะครับ ถ้าพี่แสตมป์มาได้ยินคงร้องไห้แน่นอน ดูไอ้เวย์กับไอ้ภามมันเอาเพลงพี่เขามาร้องซะเสียเลย แต่จะว่าไปที่ไอ้ภามมันร้องมาก็ถูกต้องทุกประการ จนผมยังต้องเผลอยิ้มออกมาเลย
“ด่ากูเลวเหรอภาม กูแฟนเพื่อนมึงนะ” ไอ้เวย์ประกาศสถานะตนเองทันทีครับ
ตอนแรกผมก็คิดว่ามันจะงุบงิบปิดบังหลบซ่อน ที่มีแฟนเป็นผู้ชาย แถมยังเป็นรุ่นน้องที่คณะอีกต่างหาก ที่ไหนได้ แค่อาทิตย์แรกที่น้องจีนเข้ามาเป็นเฟรชชี่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ไอ้เวย์ก็แทบหาป้ายมาคล้องคอน้องจีน แถมยังเดินประกบตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ยกเว้นก็เฉพาะเวลาเรียนที่ต้องแยกห้องใครห้องมัน แต่ไม่วายฝากฝังกับไอ้ภาม เหมือนน้องจีนเพิ่งเข้าอนุบาล
“เฮ้ย! นี่แฟนมึงเหรอจีน?” ไอ้ภามก็ยังกวนตีนต่อ ด้วยการหันไปทำหน้าตาเหรอหราถามเพื่อนมันที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ น้องจีนเลยเงยหน้ามามองด้วยความรำคาญ ก่อนจะตอบเสียงดังฟังชัด
“เออ! แฟนกูเอง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”คิดว่าไอ้ภามมันจะว่ายังไงล่ะครับ มันเห็นน้องจีนไม่ยอมเล่นด้วย มันก็เริ่มหาเป้าหมายใหม่ หน้าตาหล่อๆแบบนี้ ตอนแรกรุ่นน้องปีสองก็ว่าจะดันมันเป็นเดือนคณะหรอก แต่ไอ้ภามมันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวเกินไประหว่างพี่เภากับไอ้เวย์ หรือพูดให้เข้าใจง่ายก็คือ เหมือนพี่เภากับไอ้เวย์มีลูกออกมาเป็นไอ้ภามนั่นแหล่ะ ผมแค่เปรียบเทียบให้เห็นภาพ อย่าบอกพี่เภากับไอ้เวย์นะครับ
นายเภตราหล่อหมือนนายภีศเดชเลยครับ เชื้อมันแรง แทบจะถอดแบบกันมา แต่พอมันอ้าปากทีนี่ ยิ่งกว่าฝาแฝดไข่ใบเดียวกันกับไอ้เวย์อีก สรุปคือมันหล่อเหมือนพี่เภา แต่กากและเกรียนเหมือนไอ้เวย์
“แล้วคนนี้แฟนใครครับ?” ไอ้ภามมันลามปาม ไม่ถามผมเปล่า ยังเอื้อมมือมาจะจับคางผมอีก เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวอย่าหาว่าผมไม่เตือนนะ
ป๊าบบบบ!! นั่นไง...ยังไม่ทันได้ออกปากเตือนเลย
“ยุ่งอะไรกับแฟนกู” พ่อ เอ๊ย พี่ไอ้ภามมาแบบหน้าโหดเลยครับ ยิ่งช่วงนี้กำลังจะจบแล้วงานรุม หน้ายิ่งหงิกอย่างกับท้องผูกมาห้าวันติด
“อะไร? ไหนใครแฟนเฮีย อย่ามามั่ว พี่แอลของผมเหอะ”
“สัด! กวนตีนมาก เดี๋ยวกูโบกลงไปนอนเลย กูยิ่งเหนื่อยๆอยู่” พี่เภาด่าไอ้ภามเสร็จ ก็เบียดตัวเองลงมานั่งแทรกกลางระหว่างผมกับไอ้ภาม ผมเลยทำตัวเป็นแฟนที่ดี ส่งแก้วน้ำให้พี่เภารับไปดื่ม จะได้ให้หายเหนื่อย
ซักพักพี่เชนกับพี่จอมก็ตามมา สภาพแต่ละคนยิ่งกว่าศพ เดินโซเซกันมาทิ้งร่างลงที่ม้านั่งคณะผมกันทีละคน ขาดอยู่อีกสองคนครับ ไอ้เพียวกับไอ้แทน ดูไปดูมา ดูเหมือนว่าจะมีแค่เด็กวิศวะสี่คนที่ชิลล์สุด ผมกับไอ้เวย์เรียนครึ่งวัน พอเรียนเสร็จ ไอ้เวย์มันก็ไปหยิบเอากีตาร์โปร่งจากห้องสโมสรมานั่งเกาสลับกับแหกปากร้องเพลง แล้วพอน้องจีนกับไอ้ภามเลิกเรียนก็ตามมาสมทบกันที่ม้าหิน
เดี๋ยวนี้เวลาจะนัดเจอกัน เป็นต้องนัดเจอที่คณะผมตลอด เนื่องจากสี่ในเก้าของพวกเราเรียนอยู่คณะวิศวะ เพราะฉะนั้นเวลาจะนัดหมายอะไร จึงต้องเรียกทุกคนมาเจอที่คณะวิศวะ ตามหลักประชาธิปไตยที่อาศัยเสียงส่วนมากเป็นหลัก
“เห็นไอ้ภามกับน้องจีนแล้วกูโคตรอยากกลับไปเป็นเฟรชชี่เลยหว่ะ” นักศึกษาปีห้า ที่ไม่มีแม้แต่เวลาจะจีบสาวอย่างพี่เชนโอดครวญทันทีครับ
“มึงก็คิดซะว่าปีนี้มึงเป็นเฟรชชี่ แล้วมึงก็เรียนต่ออีกสามปีสิวะเชน จบแปดปีตามเกณฑ์พอดีเลย” พี่จอมแนะนำเพื่อนรักทันที เลยได้รับสัญลักษณ์เพศชายจากพี่เชนแทนคำขอบคุณ
“แปดปีตามเกณฑ์พ่องเหอะ!!”
คิดแล้วก็ตลกเหมือนกัน ว่าสุดท้ายแล้วพวกผมเก้าคนก็เข้ามาเรียนอยู่ที่เดียวกันหมด เสียอยู่อย่างเดียว ไอ้เวย์ได้ไอ้ภามเป็นสายรหัส ชวดจากน้องจีนอย่างน่าเสียดาย จนไอ้เวย์มันถึงกับบ่นอุบวันที่รู้ว่า
‘มีมึงเป็นหลานรหัส กูยอมมีหลานรหัสเป็นไอ้เต้หว่ะ’ไอ้ภามก็กลัวว่าจะเสียชื่อเสีย(ง)ที่ญาติผู้พี่ของมันสั่งสมมานาน แทบจะเจริญรอยตามไอ้เวย์เลย หวังอย่างเดียวว่ามันคงไม่มีแฟนเป็นผู้ชายเหมือนไอ้เวย์กับพี่เภา เดี๋ยวป่าป๊าม่าม๊ามันจะตกใจ มีลูกชายสองคน แต่ดันสืบสกุลไม่ได้ซักคน
“จะว่าไปก็เร็วเหมือนกันนะ เหมือนจีนกับไอ้ภามเพิ่งเข้ามหาลัยมาเอง นี่ลอยกระทงแล้วเหรอวะ” พี่จอมเปรยขึ้นมา และนี่แหล่ะคือสาเหตุที่พวกเราเจียดเวลามาเจอกัน เพราะวันนี้คือวันลอยกระทง
“กูล่ะอยากจะเอาโปรเจคท์ เอาเท็กซ์บุ๊ค เอาทุกสิ่งทุกอย่างลอยไปให้หมด” พี่เชนโอดครวญอย่างน่าสงสาร
“เออดี! แล้วมึงก็ลอยมด ลอยแมว ลอยหมาไปด้วยเลยนะ”
“เชี่ยเภา มึงปากหมามากเลย เรื่องแบบนี้ห้ามเอามาล้อเล่นนะมึง”
พูดเรื่องเกรดที พี่เชนทำหน้ายิ่งกว่าโดนกะเทยควายอัดตูดอีก คนอื่นได้แต่มองพี่เชนที่เอาแต่คร่ำครวญด้วยความสมเพช
“เมื่อไหร่ไอ้แทนกับไอ้เพียวจะมาซะทีวะ หรือมันไปเที่ยวเก็บใบตองมาทำกระทงอยู่” ไอ้เวย์ที่เลิกเรียนเป็นคนแรกพร้อมกับผมเริ่มบ่น ผมก็นั่งรอมาพร้อมมัน ผมยังไม่เห็นบ่นเลย
“มึงก็โทรศัพท์ตามมันสิ”
“ไม่ต้องละมึง มันเดินกอดคอกันมาละ” พี่เภารีบห้ามไอ้เวย์ที่ทำท่าจะกดโทรศัพท์
ไอ้เพียวกับไอ้แทนเดินหน้าระรื่นกันมาแต่ไกล พอมาถึงมันก็ยืนค้ำหัวพวกผมทันที เพราะโต๊ะหินที่มีม้านั่งล้อมรอบอยู่สี่ตัว โดนพวกผมจับจองพื้นที่จนไม่เหลือแล้ว ความจริงเหลือที่ว่างข้างไอ้ภาม แต่ไอ้เวย์มันก็เพิ่งเอากีตาร์วางลงไป
“มึงไม่รอให้ถึงวันคริสต์มาสก่อนแล้วค่อยมาล่ะ” ไอ้เวย์กัดไปทีด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะโดนไอ้แทนผลักหัวไปที
“พูดมากนะมึง กูก็อยากให้มึงได้ใช้เวลาอยู่กับน้องจีนไง”
“กูได้อยู่กับจีนสองคนไม่ถึงห้านาที” ไอ้เวย์มันพึมพำเสียงเบา แต่ผมก็อุตส่าห์ได้ยิน เลยยื่นหน้าไปถามมัน
“ทำไม มึงจะหาว่ากูกับภามเป็นก้างขวางคอเหรอ”
“เออ! รู้แล้ว คราวหลังมึงกับไอ้ภามก็แยกไปนั่งโต๊ะตัวอื่นเลยนะ กูเห็นหน้าพวกมึงจนเบื่อละ”
“ใช่ซิ กูไม่ใช่แฟนมึงนี่”
“จะพูดอะไร ดูหน้าผัวมึงบ้าง กูยังไม่อยากให้จีนเป็นม่าย”
ก่อนที่ผมกับไอ้เวย์จะถกเถียงกันไปมากกว่านี้ พี่จอมก็รีบโบกมือห้ามทัพทันทีครับ เพราะนี่ก็ปาเข้าไปจะห้าโมงเย็นแล้ว พวกผมยังสรุปสาระสำคัญอะไรกันไม่ได้เลยซักอย่าง
“หยุด! อย่าเพิ่งเถียง กูเหนื่อย ขอรอบเดียวจบนะ ตกลงพวกมึงจะลอยกันที่มหาลัยหรือจะลอยที่ไหน”
“ลอยในอ่าง...โพไซดอน คลีโอพัตรา บะซะล่ะเฮ่ยมาก” เดาถูกไหมครับ ว่าใครเป็นคนตอบ
“เดี๋ยวกูตบเกรียนแตกเลย เชี่ยภาม ไอ้เวย์ไม่สั่งสอนบ้างเหรอไง”
“อ้าว...ตลกแล้วพี่ เกี่ยวอะไรกับผมหว่ะ ทำไมไม่โทษพี่ชายมันโน่น”
“พี่ชายมันยุ่ง ไม่มีเวลาสั่งสอนหรอก โทษมึงนั่นแหล่ะถูกแล้ว เพราะมึงเป็นลุงรหัสของมัน”
ไอ้เวย์เกาหัวแกรกทันทีด้วยความงงกับตรรกะของพี่จอม
“มึงอยากลอยด้วยกันหมดหรือเปล่าล่ะ”
“อ้าว! กูนัดมาเจอกันหมด ก็ต้องอยากลอยด้วยกันสิวะ ไม่งั้นกูจะเสียเวลานัดมาเจอกันทำไม แต่ลอยที่นี่คนเยอะน่าดูเลยหว่ะ เอายังไงดี”
ถูกเลยครับ เพราะงานลอยกระทงของมหาวิทยาลัย นอกจากนักศึกษาแล้ว ยังมีบุคคลภายนอกอีก อย่าว่าแต่จะลอยกระทงเลย แค่เดินเที่ยวในงานก็เบียดกันจนแทบจะรวมเป็นร่างเดียวกันกับคนไม่รู้จักอยู่แล้ว ยิ่งไปลอยกระทงในสระน้ำของมหาวิทยาลัยอีก ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นสระน้ำ ไม่ใช่แม่น้ำ พอคนลอยลงไปเยอะเข้า กระทงมันก็ลงไปเบียดกองกันอยู่กลางน้ำไม่ไปไหนนั่นแหล่ะ
“ก็เดินเล่นที่นี่ก่อน เสร็จแล้วค่อยไปลอยที่ท่าน้ำโรงเรียนเรากันไหมล่ะ” ไอ้เพียวเสนอไอเดียที่ทุกคนเงยหน้ามองด้วยความสนใจทันที
“ฉลาดสมกับที่เป็นเพื่อนกูเลยเพียว”
“ตกลงเอาตามที่ไอ้เพียวว่านั่นแหล่ะ ง่ายดี”
“กูเอากีตาร์ไปเก็บที่ห้องสโมสรก่อนนะ อย่าเพิ่งหนีไปไหนกันล่ะ”
คิดว่าไอ้เวย์มันจะไปคนเดียวหรือเปล่าล่ะครับ มันลากน้องจีนที่อ่านหนังสืออยู่ วิ่งหัวซุกหัวซุนตามมันไปนู่น พี่เภามองตามก่อนจะส่ายหัวอย่างระอา ส่วนไอ้ภาม
“เฮีย...เฮียจะลอยกับใครอ่ะ”
“กูมีแฟน กูก็ต้องลอยกับแฟนกูสิวะ”
“เชี่ย! แล้วผมจะลอยกับใครวะ ไอ้จีนก็ต้องลอยกับพี่เวย์”
“มึงก็เลือกเอาซักคนสิ นี่ยืนอยู่กันตั้งสี่คน ไอ้แทน ไอ้เพียว ไอ้จอม ไอ้เชน ถูกใจคนไหนมึงก็ควงไปลอยกับมึงเลย” ดูพี่เภามันสอนน้องตัวเองครับ แต่ไอ้ภามมันเบ้ปาก
“ไม่มีแก้วน้ำซักคน”“อะไรของมึง” ไม่ใช่พี่เชนคนเดียวที่งง คนอื่นก็งงด้วย
“ไม่มีคัพ” มุกมึงยังเกรียนได้อีกเยอะนะภาม
แล้วผมก็ไม่เข้าใจว่า ไอ้แทน ไอ้เพียว พี่จอม และพี่เชนมันจะก้มลงดูหน้าอกตัวเองทำไม อยากมีแก้วน้ำกันเรอะ??
.
.
กว่าพวกผมจะพากันเดินมาร่วมงานลอยกระทงของมหาวิทยาลัย งานก็เริ่มไปได้ซักพักแล้ว ตอนแรกก็เดินเกาะกลุ่มกันอยู่เก้าคน รู้ตัวอีกทีก็เหลือแค่ผม พี่เภา ไอ้เวย์ แล้วก็น้องจีน
“คนอื่นหายไปไหนหมดแล้วล่ะ”
“ไอ้จอมโดนเพื่อนที่คณะลากไป ส่วนไอ้เชนเดินตามหญิงไปแล้ว”
“มึงเห็นไอ้เพียวกับไอ้แทนหรือเปล่าวะเวย์”
ไอ้เวย์ที่กำลังยื่นหน้ามางับลูกชิ้นจากไม้ในมือน้องจีนส่ายหน้า แล้วมันก็ไม่สนใจอะไรอีก น้องจีนเหลือบตามองไอ้เวย์ ก่อนจะเป็นฝ่ายตอบเสียเอง
“พี่แทนกับพี่เพียวบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำ ส่วนไอ้ภามเหมือนจะเจอเพื่อนเก่าครับ”
“เดี๋ยวจะไปลอยกระทงแล้วค่อยโทรตามทีละคนละกัน”
เพราะมันเริ่มมืด เพราะคนมันเยอะ หรือเพราะอะไรก็แล้วแต่ ผมเลยปล่อยให้พี่เภาจูงมือผมโดยไม่พูดอะไร หันไปมองไอ้เวย์ ก็เห็นทำเนียนเอาแขนพาดไหล่น้องจีน แถมยังทำตัวเป็นกำแพงอย่างดี คอยกันคนอื่นให้อีกต่างหาก คิดไม่ถึงว่าอย่างไอ้เวย์จะมีมุมนี้กับเขาเหมือนกัน
“กินอะไรไหมแอล”
ผมมองแผงขายของกินที่ละลานตา ส่วนมากก็เป็นอาหารบ้าง ขนมบ้าง มีหลากหลายไปหมด เป็นของแต่ละคณะและแต่ละชมรมที่มาออกร้าน ก่อนจะตาโตเมื่อเห็นของโปรด รีบกระตุกมือพี่เภาแล้วเดินตรงเข้ายังเป้าหมายทันที
“พี่คราม ขอผมอันสิ” ผมชี้นิ้วไปที่สายไหมสีสวยน่ากิน
“เอาสีอะไรดีแอล ขาวหรือชมพู”
พี่เภาพอเห็นว่าคนขายประจำซุ้มเป็นใคร ก็ทำเนียนเดินมาเบียดผมเลย คิดว่าผมจะรู้ไม่ทันเหรอ แต่ก็ช่างเถอะ ปล่อยเขาไป ผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับพี่ครามซะหน่อย อีกอย่าง ผมก็ไม่เคยให้ความหวังพี่ครามแล้วก็ระวังตัวเองตลอดด้วย
“ขอสีขาวดีกว่าครับ สีชมพูเดี๋ยวโดนล้อไปตลอดทาง อายคนอื่น”
พี่ครามฟังเหตุผลของผมแล้วก็หัวเราะทันที ก่อนจะหยิบสายไหมสีขาวส่งให้ผม พอผมทำท่าจะควักเงินออกมาจ่าย พี่ครามก็รีบโบกไม้โบกมือเป็นพัลวัน
“ไม่ต้องจ่ายหรอก พี่ทำให้แอล”
แต่สุดท้ายพี่ครามก็ต้องรับเงินไปจนได้ เพราะคนยื่นให้ไม่ใช่ผม แต่เป็นพี่เภาที่ควักกระเป๋าเงินตัวเองออกมา ก่อนจะหยิบธนบัตรใบสีเขียวส่งให้พี่คราม กำลังจะเดินจากมา ไม่วายโดนพี่ครามแซวอีก
“ยังไม่เลิกหวงแอลอีกเหรอพี่”
พี่เภากระตุกยิ้มออกมานิดหนึ่ง ผมชอบเวลาพี่เภากระตุกยิ้มที่มุมปาก มันดูหล่อแบบเย็นชาดี
“มีแฟนเสน่ห์แรง เลิกหวงไม่ได้หว่ะ”เจอพี่เภาหยอดทีเดียว สายไหมของผมจืดสนิทเลย
.
.
ผมกับพี่เภาเดินเล่นกันซักพัก รู้ตัวอีกที ไอ้เวย์กับน้องจีนก็หายไปแล้ว ส่วนพี่เภาก็มีของกินเต็มไม้เต็มมือ แต่ไม่ใช่ของพี่เภาหรอก ของผมหมดนั่นแหล่ะ ผมกินสายไหมไปได้แค่ครึ่งเดียวก็โดนพี่เภาแย่งไป ไม่ได้แย่งไปกินนะครับ แต่แย่งไปเพราะไม่ยอมให้ผมกินต่างหาก
“พอได้แล้ว เดี๋ยวฟันผุพอดี”
ผมขี้เกียจเถียง เลยดึงขนมปังสังขยาในมือพี่เภามาบิใส่ปากแทน ผมชอบเดินงานแบบนี้อยู่อย่างครับ ของกินเยอะดี กินเพลิน กินได้ไม่มีเบื่อเลย แถมไม่ลำบากผมด้วย ผมแค่เดินเข้าไปเมียงมอง ชี้นิ้วเสร็จก็จะมีคนคอยตามจ่ายตังค์ให้ แถมยังหิ้วให้อีกต่างหาก สบายแฮเลย
เดินกินมาซักพัก ก็มาเจอไอ้แทนกับไอ้เพียว มันสองคนมาหยุดยืนดูดนตรีอยู่หน้าเวทีนี่เอง รู้สึกว่าวงที่เล่นอยู่บนเวที จะเป็นเด็กคณะวิทยาศาสตร์ ความจริงตอนแรกพวกผมก็อยากทำอะไรแบบนี้อยู่หรอกครับ แต่คิดไปคิดมา ไม่เอาดีกว่า แต่ละคนก็ยุ่งๆกันทั้งนั้น
“ไม่ได้เห็นพวกพี่เล่นดนตรีด้วยกันมาตั้งนาน ไม่เล่นด้วยกันอีกเหรอ” ไอ้ภามที่มาจากไหนไม่รู้ เดินตรงเข้ามากอดคอไอ้แทนก่อนจะเอ่ยปากถาม
“เคยไปดูด้วยเหรอไง”
“เคยสิ ตอนคริสต์มาสตอนมอปลายไง ไปดูถึงโรงเรียนเลยนะ ไอ้จีนมันเลยเกิดอาการรักแรกพบ”
“เฮ้ย! จริงเหรอวะ” ไอ้แทนอุทานด้วยความตื่นเต้น ส่วนผมที่รู้เรื่องอยู่แล้วก็เลยไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่
แล้วไอ้ภามก็เริ่มต้นพาไอ้แทนกับไอ้เพียวย้อนอดีตอย่างเมามันส์ มีพี่ชายมันยืนส่ายหัวด้วยความระอาอยู่ข้างผม พอมันเล่าจบ ก็มีลูกโป่งปริศนาตีมาที่หัวมันไม่แรงนัก ออกแนวเข้ามาขัดจังหวะมากกว่า
“พอกูไม่อยู่นี่นินทากูเลยนะ มึงว่างมากเหรอไงฮะภาม” ไอ้เวย์มันทำด่ากลบเกลื่อน เห็นหรอกว่าหน้ามันแดงเล็กน้อย
“จีน! มึงอย่าปล่อยให้แฟนมึงมาทำร้ายกูสิ กูเป็นกามเทพนะ ไม่อย่างนั้นมึงจะได้เจอพี่กู รักพี่กู ขุดหลุมรักรอพี่กูตกลงไป จนสุดท้ายก็มาลงเอยกันอย่างนี้เหรอ”
คราวนี้น้องจีนมันหน้าแดงเลย ที่โดนเพื่อนรักมันแฉหมดเปลือก มันชี้หน้าใส่ไอ้ภามเป็นเชิงอาฆาต ก่อนจะขมุบขมิบปากด่าแบบไม่ออกเสียง
“แกล้งแฟนกู เดี๋ยวโดนหรอกมึง” ไอ้เวย์ทำเป็นขู่ไอ้ภาม
“อย่าให้พูดเลย เมื่อก่อนใครกันแน่ที่ชอบแกล้งไอ้จีน มันไม่ร้องไห้ขี้มูกโป่งก็ดีแค่ไหนแล้ว”
“แล้วไง กูแกล้งได้คนเดียวเว้ย”แหม...เต็มปากเต็มคำเลยนะมึง ยิ่งรักยิ่งแกล้งใช่ไหมเนี่ย เดี๋ยวนี้ไอ้เวย์มันก็ยังแกล้งน้องจีนอยู่เหมือนเดิม แต่ออกแนวแกล้งแบบกวนประสาทมากกว่า แต่เมื่อก่อนคงเรียกว่าแกล้งไม่ได้ คิดถึงช่วงแรกที่เห็นไอ้เวย์อยู่กับน้องจีน กัดกันแทบเป็นแทบตาย ดูวันนี้สิ...
“จะไปไหน” ไอ้เวย์ดึงแขนน้องจีนที่ทำท่าจะเดินหายไปไว้ทันที ถึงมันจะเถียงกับไอ้ภามอยู่ แต่มันก็คอยสังเกตน้องจีนตลอด
“หิวน้ำ จะไปซื้อน้ำ”
“รออยู่นี่แหล่ะ เดินไปซื้อให้เอง คนมันเยอะ ตัวก็ยิ่งเล็กอยู่ หลงขึ้นมาเดี๋ยวหาไม่เจอ”
ไอ้เวย์พูดเสร็จมันก็เดินดุ่มไปซุ้มขายน้ำเลย ผมเลยดึงน้องจีนเข้ามายืนกับผม ถึงไอ้เวย์จะไม่ค่อยพูดอะไรหวานๆรื่นหูเหมือนพี่เภา แต่มันก็...น่ารักในแบบของมันล่ะครับ
.
.
[มีต่อนะคะ]