...อสงไขย... แจ้งข่าว[13-02-2559 แจงรายละเอียดหนังสือ หน้า๑๒]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...อสงไขย... แจ้งข่าว[13-02-2559 แจงรายละเอียดหนังสือ หน้า๑๒]  (อ่าน 171463 ครั้ง)

ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
อ่านยังไม่จบแต่จะกลับมาอ่านอีกนะครับ
เรื่องน่าสนใจ ดูท่าทางมีอะไรลับลมคมในอีกเยอะ

luvsin

  • บุคคลทั่วไป
รู้สึกหลอนเล็กๆ แต่น่าติดตามมาก

ปล. จุนซูคือใครคะ

ออฟไลน์ DarknLight

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-1
แม้อยู่ไกลกันคนละภพ
หากอีกไม่นานกาลเวลาคงผันผ่านมาบรรจบ ให้ได้พบกัน

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
เพิ่งสังเกตว่า มีชื่อ จุนซู จริงๆด้วย

คิดว่าน่าจะเป็น แฟนฟิคทงบังมาก่อนใช่มั้ยคะ 5555

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
สนุกครับมาต่ออีกเร็วๆนะครับผม

devilmlb

  • บุคคลทั่วไป
ดีดดิ้นรอตอนต่อไป

คุณพระนาย อยากเจอเร็วๆจัง


ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
รักต่างภพหรือเปล่า

รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
สนุกอ่ะ รออ่านตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
อ่านจบแล้ว มันจะเป็นแบบทวิภพหรือเปล่าน้อ
รอแก้วตาข้ามภพกลับไปหาพระนายหรือเปล่า
รอติดตามต่อนะครับ

ปล.แอบสงสัยกับจุนซูด้วยคนครับ ^^

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
มาต่อได้แล้วนะคร้าบ  รออยู่ครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kakaris

  • หากชีวิตเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เราสามารถให้ผู้เป็นที่รักยิ่งนั้นได้ แล้วเราจะไม่มอบให้เ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 149
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
แค่ชื่อก็น่าตามแล้วค่ะ

มาต่อไวๆนะ

จะรออ่านตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
ยังไม่มาอีกเหรอ  รออ่านนะคะ

ออฟไลน์ Sorso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-3
เข้ามารอตอนต่อไปจ้า ^^

ออฟไลน์ srikoon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 530
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-6


มาได้แล้วครับ

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
อ๊าย คุณพระนายเป็นผี อยู่ในโลกอดีต

รออ่านต่อจ้า สนุกมากๆเลย

puyyakuma

  • บุคคลทั่วไป
เริ่มดรามาแล้วแวร๊ คุณพระนายก็เริ่มโผล่มาแวบๆ ตอนที่แก้วได้ยินเพลงฉุยฉายนั่นหลอนๆพิกล อ่านแล้วขนลุกอ่ะ

มาต่อเร็วๆน้า~~

luvsin

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาดัน  :call:

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 814
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
น่าสนใจมากเลยจ้า

ตอนนี้คงต้องพูดได้แค่  สู้ๆจ้า ตามต่อไป :really2:

 :z10:


 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
น่าติดตามมากอ่ะ

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
รอต่อไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Sorso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-3
เข้ามาดันๆ คนแต่งลืมเรื่องนี้ไปรึยังเนี่ย

ออฟไลน์ srikoon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 530
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-6

oattie

  • บุคคลทั่วไป
มารอตอนต่อไปค่ะ ตื่นเต้นๆ  :L2:

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
แบบว่าพระเอกเป็นผีไรงี้ป้าววว    :a5:

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 321
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
...อสงไขย...
...กาลที่๓...



เสียงตึงตังดังก่อนจะตามมาด้วยเสียงทุ้มที่ร้องเรียกคนด้านในให้ต้องขมวดคิ้วด้วยเคยตักเตือนอยู่หลายทีก่อนหน้า

“คุณพระนาย  คุณพระนายขอรับ!”

“.....” 

ปัง!  เสียงปิดประตูไม่เบานักทำให้คนในห้องต้องส่งสายตาตำหนิให้เด็กหนุ่มที่ยิ้มร่าเต็มหน้า  เมื่อเห็นสายตาดุเข้านั่นล่ะจึงได้เจี๋ยมเจี้ยมขึ้นมาทันที

“เอ่อ”

“แสน  ฉันสอนแล้วไม่ใช่รึว่าอย่าวิ่ง  เป็นคนของหมื่นเสมอใจราชเสียเปล่าเหตุใดจึงทำตัวไม่เหมาะ...”

“คุณพระนาย  กระผมรู้แล้วขอรับว่าแม่หญิงที่รำฉุยฉายคนนั้นชื่ออะไร!”

“...สม..”  หางเสียงสุดท้ายแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน  ข้อความที่เด็กหนุ่มแสนเอ่ยขัดเพื่อบอกเขานั้นทำเอาชายหนุ่มหยุดชะงัก  มือแกร่งที่กำปากกาอยู่เผลอปล่อยให้มันทิ้งตัวลงบนโต๊ะ  แววความยินดีฉายในดวงตาคู่สวย  ริมฝีปากอิ่มเผยยิ้มให้เด็กหนุ่มต้องยิ้มตาม



เรือนหลังกว้างตรงหน้ามีเสียงของเครื่องสายเครื่องเป่าดังลอดออกมาเป็นระยะๆ  ให้เด็กหนุ่มต้องหันกลับไปมองคนด้านหลัง  ใบหน้าหล่อเหลาของคุณพระนายหนุ่มยังคงมีรอยยิ้มประดับ  ผิวเกลี้ยงเกลาสะท้อนแสงนวลจากตะเกียงหน้าเรือนขับให้ผ่องดูน่ามอง  ร่างสูงโปร่งสวมชุดธรรมดาด้วยไม่อยากให้ใครรู้เร็วนักว่าเขาคือใคร

“มาหาใครหรือเจ้าคะ?”  ดูเหมือนว่านางรำคนหนึ่งจะจำได้ว่าชายหนุ่มคือใครจึงถามด้วยความนอบน้อม  หากไม่วายหางตาจะเหลือบมองใบหน้าคมของร่างสูงไปด้วย

“เอ่อ  นางรำที่รำฉุยฉายในวันที่สมเด็จออกขุนนางอยู่หรือไม่ขอรับ พี่สาวคนสวย?”  แสน  ที่แสนรู้เอ่ยประจบถามแทนนาย  ร่างสูงกวาดสายตามองไปรอบๆเพื่อหวังว่าจะสามารถพบใครคนนั้นได้เร็วขึ้นแม้สักนิดก็ยังดี  ไม่สนสายตาของบรรดาสาวสวยนางรำมากมายที่เมียงมองส่งมาให้เป็นระยะๆ

“อ้อ  แม่พยอมน่ะรึ  ไม่สบายอยู่ที่บ้านนู่นแน่ะ”

“ไม่สบายรึ?” ร่างสูงกลายเป็นคนถามแทน

“เจ้าค่ะ”  เมื่อตอบแสนจบ  เธอจึงหันมาตอบชายหนุ่มตรงหน้าอย่างรวดเร็ว

“พี่สาวคนสวยบอกทางไปบ้านแม่พยอมให้ฉันได้หรือไม่จ๊ะ?”  แสนถามก่อนที่คุณพระนายหนุ่มจะได้สั่งเสียอีก

“...ได้สิ  ว่าแต่คุณพระนาย...”

“อ้อ ฉันต่างหากล่ะจ๊ะที่มีธุระหาใช่คุณพระนายไม่  ท่านแต่เพียงอยากมาดูเรือนฝึกดนตรีฝึกรำของหลวงเสนาะเท่านั้นเองจ่ะ” แสนว่าพลางยิ้มแหย

“อย่างนั้นรึ?”  หล่อนว่า   ก่อนจะบอกทางไปเรือนหลังเล็กของแม่พยอม



ตัวเรือนไม้เก่ามีแสงตะเกียงลอดผ่านออกมาทางหน้าต่าง   เด็กหนุ่มแสนเดินนำหน้าหยุดยืนก่อนจะส่งเสียงเรียกหากมีแต่ความเงียบตอบกลับมา  เด็กหนุ่มหันไปมองร่างสูงก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปด้านใน

“แค่กๆ!”  เสียงไอโขลกทำให้แสนต้องวิ่งเข้าไปหา

“แม่เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะ?”  เด็กหนุ่มพยุงร่างผอมบางให้ลุกขึ้นนั่งก่อนจะหันหาขันน้ำมาให้   

“ขอบใจจ้ะพ่อ...”  ดวงตาสีอ่อน  ใบหน้าซีดเซียวและผิวพรรณที่บ่งบอกว่าอายุว่าไม่ใช่สาวน้อยหากแต่เริ่มเข้าสู่วัยกลางคนนั้นยังมีแววความงามให้เห็นอยู่บ้าง  “แล้วนี่พ่อมีธุระอะไรหรือจ๊ะ?”   ถึงจะเป็นคนแปลกหน้าหากแต่น้ำใจเมื่อครู่ทำให้หล่อนเอ็นดูเด็กหนุ่มตรงหน้าไม่น้อย   ชายหนุ่มร่างสูงที่มาด้วยกันทิ้งตัวลงนั่งข้างๆยิ้มอ่อนโยนมาให้จนต้องยิ้มตอบ

“กระผมชื่อแสนขอรับ  ส่วนนี่นาย..เอ่อ  พี่ชายของกระผมชื่อใหญ่..ขอรับ”  ขณะอธิบายแสนก็เหลือบตามองคนด้านหลังว่าจะดุว่ากระไรหรือไม่ที่เขาแอบอ้างอย่างนี้  เมื่อไม่เห็นทีท่าไม่พอใจเด็กหนุ่มจึงยิ้มเผล่กล่าวต่อ “กระผมมาหาแม่หญิงที่รำฉุยฉายในวันงานที่สมเด็จออกขุนนางวันนั้น  แม่พยอมน่ะจ่ะ”

“....”

“น้าสาวคนสวย?”

“แม่หญิงที่รำฉุยฉายในวันงานหรือจ๊ะพ่อ?”  แสนพยักหน้ารับ

“จ่ะ”

“...พ่อมีธุระอะไรหรือ?”

“กระผม....เอ่อ  พี่ชายของกระผม...เห็นทีคงจะตกหลุมรักนางรำคนสวยเสียแล้วล่ะขอรับ”  ท้ายประโยคเด็กหนุ่มก้มลงกระซิบเสียงเบาแล้วหัวเราะอายๆ

“.......”  ดวงตาสีอ่อนหม่นแสงคู่นั้นจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มที่นั่งเงียบนิ่ง  ใบหน้าใจดีกลายเป็นเย็นชาให้ชายหนุ่มนึกหวั่น  หากกระนั้นก็ยังคงส่งยิ้มบางให้

“น้าสาว?”

“ฉันนี่ล่ะที่รำฉุยฉายในวันนั้น”

“!”

“แต่?” แสนอึกอักคล้ายไม่อยากเชื่อ

“ถ้าพ่อมาตามหาคนรำฉุยฉายในวันงาน ก็ฉันนี่แหละแม่พยอมคนนี้”

“......”  แสนหันไปมองใบหน้าของพระนายหนุ่มที่บัดนี้ซีดขาว  ไม่ใช่เพราะรังเกียจว่าคนตรงหน้าไม่ได้เป็นสาวน้อยหน้าแฉล้มงดงาม  หากแต่ไม่ใช่คนที่เขาตกหลุมรักต่างหาก   ไม่ใช่เจ้าของดวงตาพราวระยับราวกับดาวคนนั้น  ไม่ใช่เจ้าของรอยยิ้มหวานที่พาใจแช่มชื่นคนนั้น  ไม่ใช่เจ้าของปรางค์นวลสีเรื่อราวกุหลาบคนนั้น


ไม่ใช่!


**********


เรือนไม้หลังใหญ่สีขาวสะอาดบ่งบอกว่าต่อให้เวลาผ่านมานานแค่ไหนก็ยังคงมีผู้ดูแลเรือนนี้เอาไว้อย่างดีแน่นอน  ตัวเรือนแบ่งเป็นสองชั้น  ด้านหน้าของเรือนชั้นบนมีระเบียงยื่นออกมา   หน้าต่างมีม่านสีฟ้าอ่อนถูกผูกเอาไว้เหมือนมีคนอยู่   ส่วนชั้นล่างเองก็เช่นกัน  ผ้าม่านสีฟ้าใสปลิวไหวเบาๆตามแรงลม....ดวงตาเรียวกวาดมองก่อนจะก้มลงสบตากับมารดาอย่างลังเล

ดูอย่างไรเรือนนี้ก็ไม่น่าจะเป็นของเขาได้เลย...


แอ๊ด...  ประตูรั้วเตี้ยสีเดียวกับตัวเรือนเปิดออกเมื่อเด็กหนุ่มผลักมันเบาๆ  สวนด้านหน้าเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่บ่งบอกอายุสถานที่แห่งนี้ได้ดี  แปลงดอกรักเร่ชูช่อบานสะพรั่ง  ต้นจำปาเองก็ส่งกลิ่นหอมจากดอกสีขาวลอยอวล  ซุ้มดอกการเวกที่ภายในมีชุดเก้าอี้ไม้สีขาววางแจกันดอกกุหลาบสีแดงเข้มเอาไว้  พุ่มดอกราตรีเรียงตามแนวรั้วที่ค่ำคืนคงส่งกลิ่นหอมเย็นไปทั่ว  ต้นดอกลำดวนเองถึงแม้จะไม่มีดอกออกมาให้ชมหากใบสีเขียวทั้งต้นก็พาให้รู้สึกสดชื่น  สระบัวเองก็น้ำใสเสียจนเห็นปลาสีสวยแหวกว่าย

“มาแล้วหรือเจ้าคะ?”

“!”  ไหล่เล็กสะดุ้งไหวเมื่อจู่ๆเสียงแหบพร่าทักขึ้นจากทางด้านหลัง   มองมา  ทางมารดาเขาเองก็ตกใจเช่นกัน   หันมาอีกทางก็พบเจ้าของเสียงที่ว่า  เป็นหญิงอายุมากผมสีขาวโพลนไปทั้งหัว   ดวงตาดุตวัดเงยขึ้นมองหน้าเด็กหนุ่มอย่างไม่พอใจ

“คุณแก้วตากับแม่ซินะเจ้าคะ?”

“ครับ”  เด็กหนุ่มพยักหน้าตอบรับ

“เชิญทางนี้เจ้าค่ะ”  หญิงสูงวัยว่า  พลางเดินนำหน้า   เพ็ญจันทร์พยักหน้ารับก่อนจะเดินตามไปก่อน   แก้วตายืนนิ่ง....ความรู้สึกคล้ายมีสายตาจับจ้องและเงาร่างเคลื่อนไหวทางหางตาทำให้เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองระเบียงชั้นสองทันควัน !


 ....ว่างเปล่า...


“.....”  แก้วตายังคงกวาดสายตามองหาว่ามีใครแอบซ่อนอยู่หรือไม่

“จะยืนอยู่จนค่ำเลยหรือเจ้าคะ  ห้องของคุณอยู่ชั้นบนเจ้าค่ะหาใช่ที่สนามไม่”   คนเดินนำหน้าหันมากล่าวให้แก้วตาต้องละสายตา    ก้มหัวขอโทษที่ทำให้อีกฝ่ายเสียเวลา  ก้าวเท้าไปทางมารดาเร็วๆ   คนนำทางเหลือบมองไปยังชั้นบนในจุดที่เด็กหนุ่มจ้องมองเมื่อครู่พลางรีบก้มหน้าคล้ายคนถูกดุ
.
.


“นี่เป็นห้องของคุณเจ้าค่ะ”

“ขอบคุณครับ  เอ่อ...”

“เรียกอิฉันว่านมแย้มเจ้าค่ะ”

“ครับ  ขอบคุณนะครับนมแย้ม”  แก้วตายกมือไหว้พลางยิ้มกว้าง  ใบหน้าดุของนมแย้มกระตุกก่อนกระแอมไอแก้เขินพลางโบกมือไล่ให้เด็กหนุ่มเข้าห้องนอนไปเสีย

ห้องกว้างมีเตียงสี่เสาหลังใหญ่อยู่กลางห้อง   มุ้งสีขาวถูกรวบไว้แต่ละเสาเรียบร้อย  ตรงหัวเตียงมีตั่งตั้งวางพานพวงมาลัยสดส่งกลิ่นหอมกำจาย         ผ้าม่านสีฟ้าอ่อนเล่นลายลูกไม้ตรงชายผ้าปลิวสะบัดตามแรงลม   เครื่องเรือนทุกชิ้นทำมาจากไม้เนื้อดีขัดเงาสวย  กระจกบานใหญ่ที่เห็นได้ทั้งตัวถูกตั้งชิดผนังในกรอบแกะสลักลายฉลุงดงาม   

“นมแย้มคงจะเตรียมเอาไว้ซินะ?”  มือขาวแตะช่อมาลัยดอกไม้สดแผ่วเบา

เด็กหนุ่มคิดพลางเดินดูรอบห้อง   ก่อนจะหยุดคิดบางอย่างแล้วสาวเท้าไปยังบานประตูอีกฝั่งที่ถูกปิดเอาไว้รวดเร็ว  มีระเบียงจริงๆด้วย!  ถ้าอย่างนั้นห้องนี้ก็เป็นห้องใหญ่น่ะซิ?  ไม่มีใครคนอื่นอยู่ที่นี่จริงๆหรือ?

“แก้ว  แม่มาชวนไปเดินดูรอบๆบ้านไปไหมจ๊ะ?”  เด็กหนุ่มเดินกลับเข้ามาในห้องเมื่อได้ยินเสียงมารดา    เหลือบเข้ามามองในห้องอีกครั้งก่อนปิดบานประตูลงอย่างเบามือเพื่อลงไปชั้นล่าง


ภายในห้องที่ปิดเงียบ   สายลมพัดโบกจนผ้าม่านตีกระทบขอบหน้าต่าง   กลิ่นดอกไม้สดจากพวงมาลัยลอยอวลคละคลุ้งหวานไปทั่วห้อง    คล้ายยินดี...ชื่นทรวง...


*********


“ขอโทษที่มาสายนะฤดี  พอดีว่าทางนั้นไกลจากนี่พอควรอยู่”  เสียงแหบหวานเอ่ยขอโทษเพื่อนสาวที่นั่งหน้ามุ่ยรออยู่
   
“เรานึกว่าแก้วจะไม่มาเรียนซะอีกนะวันนี้”  เด็กสาวหยิบถุงกระดาษมาวางตรงหน้าเพื่อน

   “อะไรน่ะ?”

   “พี่ชายฝากมาให้”  ฤดียิ้มกว้างล้อเลียนเด็กหนุ่ม

   “น้ำหอม?”  ขวดเล็กสลักลายมีน้ำสีสวยอยู่ข้างในทำเอาแก้วตาเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ

   “พี่ชายเขาเอามาฝากทุกคนนั่นแหละ  พอดีเราขอมาเผื่อแก้วด้วยขวดหนึ่ง”

   “....เธอก็รู้ว่าเราไม่ใช้น้ำหอมพวกนี้...”

   “เก็บเอาไว้เฉยๆก็ได้นี่   เสียน้ำใจคนให้นะถ้าเธอปฏิเสธ”  คำพูดที่ทำให้แก้วตาต้องถอนหายใจ  เก็บขวดเล็กลงถุงกระดาษแล้วใส่กระเป๋าสะพายข้าง   “แล้วนี่  งานนั้น...เป็นยังไงบ้าง?”

   “...ก็ยังวาดไม่ได้น่ะ”  เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องย้ายบ้าน แล้วแม่ก็ป่วยอีกเลยทำให้แก้วตาลืมเรื่องงานที่ค้างคาไปเสียสนิท

   “แปลกจริง...ทั้งๆที่แก้วก็วาดรูปอื่นได้นี่”

   “....อืม”   เขาจะบอกเพื่อนดีไหมนะว่าไอ้ที่เขาวาดไม่ได้เพราะมีความรู้สึกว่า...เขาตั้งใจจะวาดรูปใครบางคน...

   “ว่าแต่บ้านหลังใหม่เป็นยังไงบ้าง” ฤดีเปลี่ยนเรื่อง

   “ก็ดี...”

   “ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้เราไปเที่ยวนะ”   เด็กหนุ่มพยักหน้า   มันคงจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้นได้ถ้าฤดีจะไปเที่ยวหาเขาบ่อยๆ  ไม่รู้ทำไม...ความรู้สึกของเขาถึงได้กลัวบ้านหลังนั้นแปลกๆ   เหมือนไม่ได้มีแค่เขากับแม่หรือนมแย้มอยู่ที่นั่น....

   หลายครั้งที่เขารู้สึกเหมือนมีใครอยู่ในห้องด้วยพอเหลียวมองก็มีแต่ความว่างเปล่า...ทำให้ต้องยกมือขึ้นลูบแขนตัวเองเบาๆเมื่อขนแขนพากันพร้อมใจลุกตั้งเป็นแถว  ถึงอย่างนั้นเมื่อคืนเขาก็หลับเป็นตายเพราะเหนื่อยอ่อนติดกันมาหลายวัน


   หลังจากพยายามเลี่ยงอาจารย์กิตติที่อยากจะแนะนำเรื่องงานที่ค้างคาของเขาได้  แก้วตาก็รีบดึงแขนฤดีวิ่งออกจากตึกทันที

   “พี่ชาย  ทางนี้ค่ะ!”  เด็กสาวยกมือทักทายร่างสูงโปร่งที่ยืนพิงรถรออยู่ด้านนอกเสียงดัง

   “เธอไม่เห็นบอกว่าพี่ชายจะไปด้วย!”  แก้วตาหันมาถามเพื่อนเสียงขุ่น

   “มีคนขับรถให้สบายจะตาย” ฤดีว่า  พลางลากแขนแก้วตาเข้าไปหาพี่ชายร่างสูงที่ในวันนี้มาในชุดกางเกงสีขาวกับเสื้อโปโลสีเขียวอ่อน  ขับผิวขาวแบบชาวจีนให้ดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

   “สวัสดีครับ พี่ชาย”  เด็กหนุ่มยกมือไหว้พี่ชายของเพื่อนแล้วยิ้มบาง

   “อนุญาตให้พี่ไปเที่ยวบ้านใหม่ของแก้วตาด้วยคนนะครับ”

   “ครับ”  เขาได้แต่พยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้  จะอย่างไรเสียก็พี่ชายเพื่อน
.
.

   “เป็นบ้านที่เก่านะครับ  แต่ดูแข็งแรงดีทีเดียว”  ชายว่า  พลางรับแก้วน้ำจากเด็กหนุ่ม  แก้วตาพาเพื่อนสาวและพี่ชายมานั่งที่ซุ้มไม้สีขาว  วันนี้แจกันใบเตี้ยเปลี่ยนจากดอกกุหลาบสีแดงเข้มเป็นดอกจำปาแซมหญ้าอ่อนเล็กน้อย ประดับใบดอกจำปาอีกนิดพอสวยงาม  กลิ่นหอมอ่อนกำจายทั่วจนชายอดจะสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆไม่ได้

   “สวยนะแก้ว  แต่ว่า...บางทีมันก็ดูน่ากลัวยังไงไม่รู้...”

   “ฤดี!”  ชายหันมาดุน้องสาวเสียงเบาด้วยกลัวว่าคำพูดนั้นจะทำให้เด็กหนุ่มตรงหน้ากลัวขึ้นมา   

   “อืม”  แก้วตายิ้มเซียว  จะบอกอย่างไรดีว่า    เขากลัวไปแล้ว...

   “แล้วนี่อยู่กี่คนครับ”

   “มีผม  แม่  แล้วก็นมแย้มอีกคนน่ะครับ”

   “นมแย้ม?”

   “คนดูแลบ้านนี้น่ะ”

   “ตั้งแต่มานี่ยังไม่เห็นเลยนะ”ฤดีถามหา

   “แกคงไม่อยู่มั้ง   จริงซิ  เดี๋ยวเราไปเอาขนมในครัวก่อนนะ  วันนี้แม่ทำลูกชุบล่ะ”

   “ว้าว~  คุณน้าทำของชอบเลยนี่”

   “จ้าๆ  แถมด้วยน้ำมะตูมด้วยนะ” แก้วตาหัวเราะกับท่าทางของฤดี  ก่อนจะลุกออกมา

   “ไปเดินเล่นแถวนี้ได้ไหมนะ?”  ชายลุกยืนขึ้นเต็มความสูงเดินไปรอบๆซุ้มไม้  ต้นดอกจำปาด้านข้างเรียกความสนใจเมื่อดอกสีขาวโผล่ออกมาให้เห็น  ข้างกันเป็นต้นดอกลำดวน  ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะหยุดเท้ากึก

   “นายเป็นใคร!”  ชายถามเสียงดัง  ในเมื่อแก้วตาบอกว่าอยู่กันเพียงสามคน  ชายหนุ่มร่างสูงผิวเข้มที่อยู่ตรงหน้านี้คง...

   “กระผมต่างหากที่ต้องถามว่าคุณเป็นใคร  กล้าดีอย่างไรถึงเข้ามาในเขตเรือนนี้!”  เสียงทุ้มตวาดก้องจนชายรู้สึกเย็นวาบที่แขนสองข้างแบบแปลกๆ  หากแต่เมื่อคิดถึงความปลอดภัยของเด็กหนุ่มแก้วตาทำให้เขายืดไหล่ขึ้น

   “ผมเป็นใครก็ช่าง  แต่ผมจะเรียกโปลิส...”

   “โปลิสรึ? คิดว่ากระผมกลัวอย่างนั้นรึ?  กล้านักที่มาเหยียบเรือนนี้ถ้ายังไม่ออกไปจากที่นี่จะได้เห็นดี!”   ท่าทางคุกคามทำเอาชายเผลอก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว

   “แสน!”  เสียงทุ้มกังวานตวาดให้ไหล่หนาสะดุ้ง  ใบหน้าคร้ามหันไปยังต้นเสียง  ชายเองก็เงยหน้าขึ้นไปยังระเบียงชั้นสองตาม

   “คุณพระนาย!”

   ผิวขาวจัดราวกับจะโปร่งแสง   คิ้วเรียวเข้มรับดวงตาหมองเศร้า  จมูกโด่งรั้นและริมฝีปากสีเข้ม  เส้นผมสีนิลไหวแผ่วตามแรงลม  บ่ากว้างภายใต้เสื้อคอตั้งสีขาวสง่าสวย   คางเรียวเชิดขึ้นอย่างคนมีอำนาจ  กระแสบางอย่างในดวงตาคู่นั้นทำให้ชายเย็นตรงหลังคอขนลุกซู่


|
|
v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-09-2012 10:48:11 โดย sine »

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 321
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3

“พี่ชาย  อ้าว   นายแสน?”  แก้วตาเดินมาตามพี่ชายเพื่อน  ก่อนจะสะดุดตากับร่างสูงของแสนเข้า  คิ้วเรียวเลิกขึ้นมองอย่างแปลกใจที่เห็นอีกฝ่ายที่นี่

   “คนรู้จักของแก้วรึ?”  ชายหันมาถาม

   “เอ่อ   เขาเป็นคนให้แก้วกับแม่มาอยู่ที่นี่น่ะครับ  พี่ชายมาทำอะไรตรงนี้หรือครับ?”

   “พี่... แก้วตกลงที่นี่มีคนอื่นอยู่อีกหรือเปล่า?”  ชายถาม  เพราะเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นไปบนชั้นสองกลับไม่เห็นร่างสูงเจ้าของสายตาเหยียดแสนเศร้าคู่นั้น

   “ไม่มีนี่ครับ”

   “ต่อไปนี้กระผมจะมาอยู่ด้วยขอรับ”  แสนเอ่ยแทรกขึ้น   แก้วตาเลิกคิ้วอีกครั้ง  คิดว่าอีกเดี๋ยวค่อยมาคุยกับแสนต่อ

   “จะเข้าไปหาแม่หรือเปล่า?”  แก้วตาถามแสน  เขาเริ่มไว้ใจคนตรงหน้ามากขึ้นและดูเหมือนว่าแสนเองก็ไม่ใช่คนคิดร้ายอะไรเลย  หนำซ้ำยังช่วยเหลือเขากับแม่อีกด้วย   แสนพยักหน้ารับก่อนเดินไปทางหลังเรือน

   “....แก้ว...”

   “ครับ?”

“...บ้านหลังนี้เป็นของใครงั้นหรือ?”

“.....แสนบอกว่า...บ้านหลังนี้เป็นของผม”

“?”

“แต่ผมก็ไม่ได้เชื่อหรอกนะครับ  คิดว่าอีกหน่อยถ้าหาที่อยู่ใหม่ได้จะย้ายออกไปทันที”  คำว่าย้ายออกไปทันทีทำให้ชายถอนหายใจโล่งอก  นึกแปลกใจตัวเองเหมือนกันไม่รู้ทำไม...เพียงแต่เขาไม่อยากให้แก้วตาอยู่ที่นี่เลย... 
ใบหน้าเนียน  จมูกมนรั้น ริมฝีปากสีเข้มที่ยิ้มแย้ม...ทุกอย่างของแก้วตาพาให้ใจของเขาสดชื่นในอกคล้ายเจอดอกไม้แสนสวย...จนอยากปกป้อง...

ชายเหลือบมองผ่านปลายต้นดอกจำปาไปยังระเบียงชั้นสองที่มีแต่ความว่างเปล่า...เขาได้เจอใครคนอื่นในบ้านหลังนี้จริงแน่แท้  เขาไม่เชื่อว่าตัวเองตาฝาด...แต่แก้วตาบอกว่าไม่มีคนอื่น...



“ขับรถดีๆนะครับ”  แก้วตาเอ่ยก่อนยืดตัวขึ้นมองส่งรถสีขาวที่ค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป  ฤดียิ้มกว้างพลางโบกมือให้เพื่อน  ชายเองก็ยิ้มกว้างเช่นกัน  เหลือบมองกระจกหลังเห็นเด็กหนุ่มยังยืนอยู่ที่เดิมก็หุบยิ้มไม่ได้จนฤดีถองศอกใส่เบาๆล้อเลียน หากพลันสายตาที่รับภาพบางอย่างทำให้ต้องเหยียบเบรกกะทันหันจนดังเอี๊ยดให้ฤดีไม่ทันตั้งตัวหัวแทบโขกกับคอนโซลรถ


ผู้ชายคนนั้น!


ชายหันกลับไปมองด้านหลังรวดเร็ว  หากบนระเบียงชั้นสองก็ยังคงว่างเปล่า!   เหงื่อเริ่มไหลซึมข้างขมับ  มือแกร่งยกขึ้นรั้งกระจกมองหลังให้อยู่ในระดับสายตา....ไม่มี?

“พี่ชาย!  เป็นอะไรหรือคะจู่ๆก็หยุดรถ  หัวน้องแตกหรือเปล่าเนี่ย?” ฤดีโวยวาย   ชายหันมาขอโทษน้องสาวก่อนจะใส่เกียร์แล้วขับออกไป   เหลือบมองกระจกหลังอีกครั้งก็ไม่เห็นสิ่งใดนอกจากแก้วตาที่ส่งสายตาเป็นห่วงมาให้จึงถอนหายใจ

“พี่ว่าเรือนหลังนี้ดูแปลกๆ”

“แปลก?  แปลกอย่างไรหรือคะ?”

“ไม่รู้ซิ  เหมือนนอกจากแก้วตากับคุณน้าแล้วยังมีคนอื่นอยู่ด้วย”

“โธ่  ก็นมแย้มไงคะ”  ฤดีว่าพลางหัวเราะ  ถึงวันนี้พวกเขาจะไม่เห็นนมแย้มที่แก้วตาเอ่ยถึงก็เถอะ

“ไม่....ไม่ใช่นมแย้ม...”

“ฮั่นแน่   กลัวเพื่อนของฤดีจะแอบเก็บใครไว้หรือคะ?  พี่ชายสนใจเพื่อนของน้องจริงๆหรือเนี่ย?” ฤดีแสร้งทำเสียงตกใจหากดวงตาพราวระยับ  ถ้าพี่ชายของเธอจะชอบเพื่อนตัวเล็กเธอก็ไม่ขัดเพราะอย่างน้อยแก้วตาก็จะได้มีคนคอยดูแลบ้าง...

“อ่า   ไม่รู้ซิ  พี่แค่รู้สึกถูกชะตามากๆน่ะ”

“ช่างเถอะ  น้องไม่อยากคุยกับคนปากแข็งแล้ว”  ชายยิ้มเอ็นดูให้น้องสาว    บทสนทนานั้นทำให้ชายลืมเรื่องแปลกประหลาดเมื่อครู่ไปเนื่องจากความสุขใจที่มีมากกว่า     วันนี้ที่ได้มาที่นี่...ทำให้เขารู้สึกอยากเข้าใกล้เด็กแก้วตามากขึ้นอีก....สงสัย...อาจจะสนใจอย่างที่ฤดีว่าเสียแล้ว



“ใครหรือขอรับ?”

“โธ่  แสน ตกใจหมด!”  ไหล่เล็กสะดุ้งเฮือกเมื่อเสียงทุ้มดังขึ้นด้านหลัง

“ทำไมถึงให้เขามาที่นี่ขอรับ?”  สายตาต่อว่าแบบไม่ปิดบังทำเอาแก้วตาคิ้วขมวด

“ก็ไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย  แล้วนี่ไปคุยกับแม่มาแล้วรึ?” แก้วตาเสเปลี่ยนเรื่อง

“ขอรับ   คุณน้าให้นมแย้มจัดห้องให้อยู่”

“นายรู้จักนมแย้มอยู่แล้วเหรอ?”

“ทำไมจะไม่รู้จัก  ท่านเห็นกระผมมาตั้งแต่แก้ผ้าวิ่งอยู่กลางนาโน่นแน่ะขอรับ”  แก้วตาหัวเราะกับคำนั้น ก่อนจะขอตัวไปอาบน้ำนอน   คิดว่าทั้งนมแย้มทั้งแสนคงเป็นคนรู้จักคุ้นเคยที่เห็นกันมานานจึงไม่ซักต่อ




มุ้งสีขาวถูกปล่อยคลุมเตียงไหวปลิวตามสายลมอ่อน  กลิ่นดอกราตรีโชยมาตามลมให้หอมชื่นใจ  แก้วตาเดินไปยังหน้าต่าง  มองด้านล่างก็เห็นแสนยืนนิ่ง  อยากจะลองส่งเสียงทักหากแต่ต้องชะงักเมื่อนมแย้มเดินเข้าใกล้ร่างสูงแล้วทั้งคู่ก็เงยหน้าขึ้นมามองเขา  เด็กหนุ่มยิ้มบางให้ทั้งสองคนแล้วผลุบเข้าห้อง  ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มดึงผ้าแพรสีแดงขึ้นคลุมตัวแล้วหลับตาลง

ยามใกล้จะเข้าสู่ห้วงนิทรา  ความรู้สึกแผ่วเบาคล้ายสายลมอุ่นคลอเคลียที่เปลือกตา  อบอุ่นอ่อนโยนเสียจนต้องแย้มยิ้มโดยไม่รู้ตัว   ร่างเล็กพลิกตัวตะแคงข้างกระชับผ้าห่มแน่น   แรงยวบบนเตียงไหวขยับตามแนบชิดร่างอุ่นทางด้านหลัง...เกี่ยวกระหวัดโอบกอดอย่างแสนโหยหา....


หากแม้ในฝัน...เจ้าจะฝันถึงพี่...

พี่คงสุขใจเหลือเกิน...แก้วตา....




‘วันนี้ก็จะไปซ้อมรำอย่างนั้นหรือ?’  เสียงทุ้มเอ่ยถามคล้ายงอนอีกคน

‘ก็ใช่น่ะซิ  หรือคุณพระนายจะไปด้วย?’  เสียงแหบหวานคุ้นหูเอ่ยถามบ้าง   ดวงตาพราวระยับคู่สวยดีใจอย่างปิดไม่มิดเมื่อเสียงนั้นชักชวน

‘คราวนี้เจ้ายอมให้พี่ไปด้วยแล้วรึ?’

‘ใครว่า...แก้วไม่ให้คุณพระนายไปด้วยหรอก  ประเดี๋ยวคนอื่นเห็นเข้าล่ะก็...” 

‘ใจร้ายเสียจริง...’

‘...กลับมาแล้วจะมารำที่ซ้อมให้ดู  ดีหรือไม่?’  คนถามยิ้มพลางเลื่อนกายลงนั่งเคียงข้าง  แนบแก้มกับไหล่กว้างออดอ้อน  เจ้าของดวงตาสวยหวานซึ้งก้มลงมองก่อนจะหยิกแก้มเนียนเบาๆอย่างหมั่นไส้คนช่างฉอเลาะ

‘ทำมาเป็นอ้อน  ประเดี๋ยวถ้าพี่ยั้งใจไว้ไม่อยู่เรานั่นล่ะจะแย่’

‘ไม่แย่ดอก   แก้วรู้ว่าคุณพระนายไม่ทำอะไรแก้วอยู่แล้ว’

‘พูดดักทางไว้เยี่ยงนี้ใครจะกล้าฝืนใจ...’   ริมฝีปากสีเข้มเม้มแน่นเมื่อเจ้าดวงตานั้นมองมาอย่างรักใคร่   

‘......คุณพระนายรอนะ  เดี๋ยวเดียวแก้วก็กลับ’  มือเล็กแตะหลังมือขาวของอีกฝ่ายแผ่วเบา  ชายหนุ่มพลิกฝ่ามือมากระชับแน่นก่อนจะยกมือนิ่มขึ้นแตะริมฝีปาก

‘รออยู่แล้ว...ถ้าก่อนนอนคืนนี้พี่ไม่เห็นหน้าเจ้าคงนอนไม่หลับเป็นแน่  เพราะฉะนั้นพี่จะรอ’  คนถูกรอยิ้มกว้างก่อนจะลุกออกไปด้วยความสุขใจ





ร้อน...

ร้อนเหลือเกิน...

เจ็บ...

ช่วยด้วย...

‘คุณพระนาย   ช่วยด้วย!’





ร่างเล็กบนเตียงดิ้นไปมา  เหงื่อซึมขมับเนียนตกลงหมอนเปียกชื้น  คิ้วเรียวขมวดแน่น  เสียงแหบหวานแหบโหยผะแผ่วหวาดกลัว  เสียงสะอื้นกรีดลงในอกคนได้ยินจนแทบฉีก  ดวงตาเศร้าของผู้นั่งมองเจ็บปวดรวดร้าวจวนเจียนจะขาดใจ  หากความเจ็บปวดนั้นย้ายมายังเขาได้ก็คงดี...ไม่อยากให้เจ็บปวด  ไม่อยากให้ทรมาน  เหตุใดวันนั้นเขาจึงไม่ได้อยู่เคียงข้าง  เหตุใดเขาจึงไม่เอะใจเลย...ว่าจะต้องจากกัน...

ปลายนิ้วแตะหยาดน้ำตาที่ร่วงหล่นทางหางตาของคนหลับแผ่วเบา  สัมผัสบางเบาเรียกเสียงสะอื้นจากร่างเล็กให้ผู้ฟังหลั่งน้ำตาเป็นเพื่อน   ริมฝีปากอิ่มเลื่อนแตะเปลือกตาบาง  กดจูบซับน้ำตาปลอบโยน  เลื่อนแตะริมฝีปากที่หน้าผากมนเนิ่นนานเพื่อส่งผ่านความรักให้รับรู้


ขอโทษ...   

แก้วตาของพี่...


**********


ใครกันนะ?

เสียงหัวเราะแบบนั้น    แววตาพราวระยับคู่นั้น...

คนในฝัน...

มือเล็กยกแตะอกตัวเองแผ่ว  ความรู้สึกอิ่มเอมคละกระแสเศร้าอวลในอก...เมื่อเช้าตอนที่ตื่นขึ้นมานั้นเขารู้สึกเสียใจ  เจ็บปวดค้างคาจนต้องร้องไห้โดยไม่รู้สาเหตุ   ความโหยหา...จากใครสักคนคล้ายสายลมโอบกอดเขาเอาไว้จนต้องยกแขนกอดตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า     

กอดของใคร...

ความรู้สึกที่หลงเหลือนี้เป็นของใคร...


สายลมอ่อนพัดแผ่ว  ปลายกระดาษขยับตีกันเสียงดัง  มือขาววางแนบแผ่นกระดาษนิ่ง   ใครคนนั้นในความฝันยังติดอยู่ในห้วงคำนึง...ปลายดินสอสีถ่านแตะจรดกระดาษแล้วลากไล้ลายเส้น

แววตารักใคร่  รอยยิ้มอ่อนโยน...มือขาวบรรจงถ่ายทอดคนในความฝันออกมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้  ไม่รู้ว่าทำไม...ทั้งๆที่เป็นภาพคนแต่คราวนี้แก้วตากลับไม่รู้สึกติดขัดสักนิด...หัวใจกลับยิ่งเปรมปรีดิ์เมื่อเค้าร่างในภาพชัดเจนขึ้น  ดวงตาทอประกายราวกับมีชีวิต...รอยยิ้มที่เหมือนจะยิ้มให้กับคนวาดตรงหน้า...


...สัญญานะแก้วตา  ว่าจะวาดรูปพี่คนเดียว...

...สัญญา...



“ครับ  ผมสัญญา...”   ถ้อยคำตอบรับแผ่วเบา  ริมฝีปากสีเข้มแย้มยิ้มระเรื่อย  แสงตะวันเริ่มจะลาลับขอบฟ้าหากเสียงขีดเขียนยังดังต่อเนื่องไม่หยุด  ผ่านไปนานแผ่นกระดาษก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ   เสียงฝีเท้าย้ำเข้ามาใกล้หากคนจมอยู่ภวังค์ของตัวเองไม่ได้ยิน  สัมผัสแตะลงบนบ่าเล็กให้สะดุ้งตัวโยนจนดินสอร่วงพื้น

“ฤดี!”

“เราเรียกตั้งนานไม่ได้ยินหรือไงนะ?”  เด็กสาวเอียงคอทำแก้มป่องอย่างไม่พอใจ  ก่อนจะตาโตกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า “เธอวาดได้แล้วนี่แก้ว”

“ห่ะ  เอ่อ”   เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูง  ฤดีเอื้อมมือคว้าภาพบนขาตั้งหมายจะดูให้ชัดๆ   ความรู้สึกหวงแหนกลับจู่โจมแก้วตาจนเผลอยกมือห้ามอย่างไม่ตั้งใจ

“อะไร  เราแค่จะดูเองนะ....”  พรึ่บ!   ลมแรงกรรโชกพัดให้กระดาษวาดรูปปลิวลอยหลุดจากมือเด็กสาว  แก้วตาหันกายกลับกระโดดคว้า   ปลายนิ้วแตะเอื้อมไม่ทันพลันหัวใจของเด็กหนุ่มสะท้านหวาดกลัว...


อย่าหายไปนะ!


“เหตุใดคุณถึงไม่วาดในบ้านล่ะขอรับ  เย็นย่ำค่ำแบบนี้ลมแรงนัก  ถ้าปลิวหายไปจะว่าอย่างไร?”  ร่างสูงของแสนคว้าแผ่นรูปเอาไว้ในมือง่ายดายแล้วส่งคืนให้แก้วตา  เขารับมันเอาไว้แนบอก  หันมาทางเพื่อนสาวที่มองมาอย่างไม่เข้าใจก็ให้ยิ้มแหย

“ฤดี เข้าบ้านก่อนเถอะ  เดี๋ยวเราขอเอารูปไปเก็บก่อนนะ”

“.....”  เด็กสาวอยากจะเอ่ยปากขอดูรูปหากแต่แก้วตาก็คว้าขาตั้งรูปแล้วหอบเอาสมุดภาพแนบอกเข้าบ้านไปเสียก่อน   ปรกติแก้วตาไม่เคยหวงอะไรกับเธอเลย  คราวนี้แปลกนักที่หวงรูปวาดนั้นมากขนาดนี้


*********


“สวยจริง!”  เด็กสาวอุทานลั่นกับภาพตรงหน้า  ยิ้มกว้างภูมิใจราวกับเป็นคนวาดเสียเอง   คนด้านข้างก็ยิ้มกว้างไม่ต่างกันนัก

“แบบนี้น่าจะให้คะแนนเต็ม  ถึงจะส่งช้าไปหน่อยก็เถอะ”

“อาจารย์!”   เด็กสองคนร้องพร้อมกัน  วันนี้แก้วตานัดมาส่งงานก่อนจะหยุดปิดเทอม  กิตติเหลือบมองหน้าเนียนเด็กหนุ่มแล้วยิ้มหวาน  เสมองรูปวาดที่ลงสีด้านข้างแล้วอดชื่นชมไม่ได้

“พรุ่งนี้ก็จะปิดเทอมแล้ว  ถ้ายังไงรูปนี้เอาไว้กับครูก่อนแล้วกัน”

“เอ่อ...”  แก้วตาลังเลขึ้นมาทันทีกับคำกล่าวนั้น  จะให้ทิ้งรูปนี้เอาไว้กับอาจารย์อย่างนั้นหรือ?  ไม่อยากเลย...

“เอาอย่างนี้  ถ้าเธอกลัวที่จะเอารูปไว้กับครู อีกสักสองอาทิตย์ค่อยมารับคืนก็แล้วกัน  ถึงอย่างไรปิดเทอมพวกครูก็ต้องมาทำงานกันอยู่ดี”

“...ครับ”  ถึงจะไม่ค่อยเต็มใจหากแต่เมื่อมันส่งผลต่อการเรียนเขาเลยได้แต่พยักหน้ารับ

“เดี๋ยวฉันจะมาเป็นเพื่อนเองนะ  ไม่ต้องห่วง” ฤดีจับมือแก้วตาเอาไว้พลางกระซิบให้เด็กหนุ่มยิ้มบางกับความห่วงใยของเพื่อน 

แก้วตาหอบรูปพร้อมขาตั้งไปยังห้องเก็บภาพของคณะฯ ค่อยบรรจงวางรูป  ก่อนคลุมผ้าอ้อยอิ่ง  ความรู้สึกห่วงหวงราวกับภาพนั้นเป็นของล้ำค่า....

ก็ล้ำค่าจริงๆนั่นแหละ...

“...อยู่ที่นี่แป๊บเดียวนะ  แล้วจะรีบมารับกลับ...”

“แก้วเสร็จหรือยัง?”  ฤดีตะโกนถามาจากประตูห้อง    แก้วตาตะโกนตอบกลับไปก่อนจะหันมาทางรูปที่คลุมผ้าเรียบร้อยอีกครั้งแล้วตัดใจเดินออกจากห้อง       ผ้าคลุมสีขาวพัดปลิวแผ่วขยับหยอกล้อคล้ายรับฟังคำพูดนั้น


เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นเป็นจังหวะ  อาจารย์หนุ่มหันทางต้นเสียงก่อนยิ้มกว้างให้กับแขกผู้มาเยือน

“สวัสดีครับ คุณโสภี”

“สวัสดีค่ะ อาจารย์กิตติ”   หญิงสาวรูปหน้าสวยหุ่นโปร่ง ยิ้มหวานให้คนตรงหน้าพร้อมคำทักทายอย่างมีมารยาท

“ไม่ทราบว่า..”

“ดิฉันแวะมารับหลานสาวน่ะค่ะ   พรุ่งนี้จะปิดเทอมแล้วจะมารับไปเที่ยวที่ต่างจังหวัดด้วยกันเสียหน่อย  แล้วนี่...ฤดียังไม่เสร็จธุระหรือคะ?”

“อ่อ  เพิ่งออกไปกับเพื่อนเมื่อครู่เองครับ   ถ้ายังไงเดี๋ยวผมจะไปตามให้ก็แล้วกัน   เชิญคุณโสภีเดินดูรูปไปพลางๆก่อนนะครับ”  หญิงสาวพยักหน้ารับ  มองส่งร่างของอาจารย์ที่เดินออกประตูไป

ใบหน้าสวยเงยขึ้นดูรูปมากมายที่แขวนประดับ  บ้างถูกกองตั้งกับพื้นเพราะพื้นที่ไม่เพียงพอ  บ้างตั้งโชว์ฝีมือเอาไว้เด่นหราให้ชื่นชม  หากมีเพียงหนึ่งที่สะดุดสายตา  ภาพที่อยู่ใต้ผ้าคลุมสีขาวมุมห้อง...

คล้ายมีบางอย่างดึงดูดให้ก้าวเท้าไปหา  นิ้วเรียวเกี่ยวชายผ้าเลิกขึ้นแล้วภาพตรงหน้าจึงทำให้หล่อนนิ่งขึ้ง

“...คุณ...”   เสียงหวานแหบพร่าติดขัด  หัวใจของโสภีเต้นระรัว   ความสุขถาโถมจนแทบหลั่งเป็นน้ำตา  โหยหาอาลัยและถวิลหารุนแรงจนไม่อาจห้าม


ผิวขาว  ตัดกับเส้นผมสีดำขลับ  ดวงตาเรียวซึ้งเศร้า  ริมฝีปากอิ่มเข้ม  เครื่องหน้าทุกอย่างบนภาพนั้น...ทุกอย่างหล่อนจำได้ดี   ภาพนั้นติดอยู่ในหัวใจของเธอแน่นมานาน...ตั้งแต่จำความได้...เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังรอใครบางคนที่จะพบเจอ...

โสภีไม่เคยมีความรักกับชายหนุ่มคนใด  ไม่เคยเหลียวมองใคร   เธอรอ  เฝ้ารอ...และในที่สุดเธอก็ได้พบ...คนคนนั้นอยู่ตรงหน้าเธอนี่แล้วไม่ผิดแน่

นิ้วเรียวแตะแผ่วไล้ตามโครงรูปนั้นอย่างหลงใหลท่วมท้น   ภาพสีเหมือนจริงราวกับคนในภาพมีตัวตน   มีลมหายใจ   เธอไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคนวาดภาพนี้ขึ้นมา  จะอย่างไรเสียเธอก็ต้องการ...

“ในที่สุด...ฉันก็ได้เจอคุณเสียทีนะคะ”    หญิงสาวทิ้งตัวลงคุกเข่ากับพื้น  แนบใบหน้าลงบนรูปพลางยิ้มยินดี   “ของฉัน...”


เจ้าคุณพี่ของน้อง!



โปรดติดตามกาลต่อไป




ชี้แจงแถลงไข...
เรื่องนี้นำมาแปลงจากฟิคนะคะ
อยากจะลองเอามาเป็นแบบไทยๆดู เพราะแนวเรื่องนั้นไทยมาก
ซึ่งอาจจะเหมาะกับแบบนี้มากกว่า...
และไม่อยากให้มีการเข้าใจผิดใดๆเกิดขึ้น...
และขอโทษที่บางคนอาจจะไม่ชอบแนวการแปลงฟิคชั่นมาเป็นนิยาย
กเขออภัยนะคะ...^^

อาจจะมีผิดพลาดบ้างก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-09-2012 10:50:48 โดย sine »

ออฟไลน์ lykar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-0
สนุกมาก และหลอนมากกกก
อยากรู้ว่าตอนเขียนรู้สึกยังไงบ้างคะ
แบบว่ากลัวมั้ยอะไรมั้ย
เพราะเราเคยเขียนเรื่องออกแนวลึกลับๆ แล้วดันกลัวเอง เขียนไปขนลุกไป แฮ่ :P

เรื่องราวดูมีพื้นหลังดี ชวนติดตามดี
ตัวละครค่อยๆ เพิ่มมาใหม่เรื่อยๆ มีจังหวะการดำเนินเรื่องที่น่าสนใจ

เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ

สู้ๆ
 o13 o13

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
มาต่อเร็วๆนะคะ  อยากรู้ว่าคุณโสภีเป็นใคร


ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
สงสัย ตัวอิจฉาจะออกมาแล้วล่ะั้มั้ง รึป่าวนะ

luvsin

  • บุคคลทั่วไป
คุณโสภีมีแววว่าจะเป็นตัวโกงนะเนี้ย
 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด