[เรื่องสั้น] คำถาม? จบแล้ว!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบแล้ว!!  (อ่าน 10345 ครั้ง)

ออฟไลน์ patt02746

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0




TALK:

เรื่องสั้นขัดตาทัพ ฮ่าๆๆๆ
เอามาลงขัดตาทัพเนื่องจากเรื่องยาวยังแต่งไม่เสร็จ
ฉลองให้กับการสอบเสร็จอย่างลากเลือด
เรื่องนี้แต่งไว้นานมากแล้ว แล้วก็เคยลงไว้ ณ บอร์ดแห่งหนึ่ง
ซึ่ง....เราได้ทำการเปลี่ยนชื่อตัวละครใหม่
ถ้าใครเคยอ่านแล้วก็ จุ๊ จุ๊ นะจ๊ะ ;)

 :-[

ส่วนนี่เรื่องยาวเรื่องแรกนะจ๊ะ ฝากเนื้อฝากตัว
❉IMPRONTA...เรื่อง(ไม่)บังเอิญรัก

จุ๊บุ จุ๊บุ

 :pig4:
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-09-2012 20:54:03 โดย patt02746 »

ออฟไลน์ patt02746

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม?
«ตอบ #1 เมื่อ11-08-2012 13:50:13 »

ในวันธรรมดากลางสัปดาห์เช่นวันนี้ ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาเช่นเดียวกันที่จะเห็นแก็งค์ลิงทโมนประจำคณะนั่งสุมหัวกันอยู่ที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่ทุกยุคทุกสมัยนักศึกษาประจำคณะต่างจับจองพื้นที่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลจากรุ่นสู่รุ่น

และที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับพลพรรคคนรักความวุ่นวายคือเสียงเจี๊ยวจ๊าวที่มีมาได้ทุกวันทุกเวลาไม่รู้เบื่อ ซึ่งระดับเดซิเบลนั้นอาจจะเรียกว่าเสียงเจี๊ยวจ๊าวไม่ค่อยได้ซักเท่าไหร่ เสียงทะเลาะกันก็ยังไม่เท่า เรียกว่ามลพิษทางเสียงเลยดูจะเหมาะสมที่สุด

“ เฮ้ย ไอ้ไม้ แกเอาการ์ตูนเรื่องโปรดฉันคืนมาเดี๋ยวนี้เลยนะเว้ย ” ไม่พูดเปล่า หญิงสาวเจ้าของการ์ตูนในมือเด็กหนุ่มวัยรุ่นหน้ากวนอวัยวะเบื้องล่างตรงดิ่งเข้าไปหาการ์ตูนสุดที่รักที่โดนฉกไปต่อหน้าต่อตาโดยคนร้ายยืนตาแป๋วแต่กวนตีนส่งยิ้มยั่วอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล แต่สาบานได้เลยว่าถ้ามันอยู่ใกล้ระยะสวิงขาเมื่อไหร่ ได้ลิ้มรสรองเท้าเบอร์สามเจ็ดแน่!

“ ชิ หวงไรนักหนาว่ะมิ้น กะอีแค่การ์ตูนเกย์เล่มเดียว แบ่งๆให้เพื่อนบ้างไม่ได้หรือไง เพื่อนกันเปล่าเนี่ย ” คนร้ายยังไม่ยอมจำนนต่อหลักฐานที่คาอยู่ในมือ ยังคงแถไปอย่างสีข้างเลือดซิบ

“ ฉันแบ่งแน่ถ้าแกจะอ่านจริงๆ ไม่ใช่เอาหนังสือสุดที่รักของฉันไปปู้ยี่ปู้ยำตามใจชอบแบบที่แล้วๆมา ” ว่าแล้วเธอก็พุ่งตัวชาร์จเจ้าเพื่อนตัวดีแต่ติดอยู่หน่อยก็ตรงที่เจ้าเพื่อนรักของเธอมันดันรู้ทันวิ่งปรู้นไปอีกมุมหนึ่งของโต๊ะ เกิดเป็นเกมวิ่งไล่จับให้เพื่อนคนที่เหลือในกลุ่มซึ่งไม่คิดจะห้ามเชียร์อย่างสนุกปาก

“ กะอีแค่การ์ตูนเกย์ ทำเป็นหวงไปได้ ”

“ อย่ามาเรียกการ์ตูนฉันว่าการ์ตูนเกย์นะย่ะ เค้าเรียกการ์ตูนวายต่างหาก พวกไม่มีอารยธรรมอย่างแกจะไปเข้าใจอะไร! ”

“ แล้วฉันต้องเข้าใจอะไรของแกกัน ต้องเข้าใจจิตใจผู้หญิงวิปริตแบบแกที่วันๆนั่งจับคู่ผู้ชายเนี้ยนะ แค่คิดขนหน้าแข้งก็แทบสแตนอัพแล้ว ”

และโดยไม่คาดคิด มิ้นอาศัยแทกติกเล็กๆน้อยๆก็วิ่งไล่ตามเจ้าตัวแสบทัน ไม่ต้องคิดให้มากความหญิงสาวก็จัดการชาร์จเจ้าตัวดีล้มกลิ้งกลุกๆไปด้วยกันทั้งคู่ แต่สิ่งไม่คาดคิดที่สองก็ตามมา เมื่อหญิงสาวพยุงตัวขึ้นมาภาพตรงหน้าก็แทบทำเอาเธอลมจับ ก็หนังสือการ์ตูนวายสุดรักสุดห่วงของเธอหน่ะซิ ลอยละลิ่วปลิวละล่องลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่ในบ่อเต่าข้างๆคณะซะแล้ว ซ้ำร้ายเจ้าเต่าตัวดีดันมาคาบหนังสือเธอลงไปกกอีกต่างหาก ทำเอาคนที่เหลือตาค้างไปตามๆกัน

เคยมีคนบอกไว้ว่า....

ถ้าใครเห็นเต่าในบ่อจะต้องติดเอฟ....




หนังสือการ์ตูนตกน้ำหน่ะเรื่องเล็ก....

แต่ถ้าแดกเอฟยกกลุ่มหล่ะเรื่องใหญ่.....




ร้อยวันพันปีแม่งไอ้เต่าหื่นนี่ไม่เคยโผล่หน้าออกมาดมออกซิเจนเหนือผิวน้ำ แต่พอการ์ตูนเกย์ลอยลงน้ำเท่านั้นแหละว่ายขึ้นมางับไปแทบไม่ทัน ไอ้เต่าเกย์เอ้ย!!!

โดยไม่ได้นัดหมาย สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่คนต้นเรื่องเป็นตาเดียว...

“ ไอ้ไม้ ถ้าสอบคราวนี่กูได้เอฟแม้แต่ตัวเดียว กูเนี่ยแหละจะเอาผักบุ้งมายัดปากมึง แล้วเอามึงโยนลงบ่อเซ่นไอ้เต่าหื่นนั่น ” หนุ่มน้อยจีเพื่อนสนิทในกลุ่มที่เมื่อครู่นังหัวเราะเอิ๊กอ๊ากแต่ตอนนี้เริ่มยิ้มไม่ออกส่งสายตาเชือดเฉือน

แต่ลืมอะไรไปหรือเปล่า ว่าไอ้หนังสือการ์ตูนวายเซ่นเต่าหื่นเล่มนั้นเจ้าของมันยังนั่งตาเหลือกน้ำลายจะฟูมปากอยู่มะรอมมะร่อ ใครก็คงไม่เศร้าเสียใจเท่ามิ้นอีกแล้ว เสียการ์ตูนสุดที่รักเซ่นเต่าหื่น รู้ถึงไหนอายถึงนั่น!

ว่าแล้วก็หันไปจ้องเจ้าตัวดีที่แสบซะจนได้เรื่อง

“ อะไร ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้น แค่การ์ตูนเกย์เล่มเดียวเดี๋ยวซื้อใช้คืนให้ก็ได้ ” ไม้ที่เห็นสภาพเพื่อนสาวก็เริ่มรู้สึกผิดอยู่หน่อยๆ หน่อยเดียวจริงๆ

“ บอกว่าการ์ตูนวาย คนอย่างแกนี่มันไม่มีอารยธรรมซะจริงๆเลยนะเนี้ย ” แทนที่แม่เจ้าประคุณจะโกรธกลับหันมาด่าเรื่องที่เรียกชื่อการ์ตูนของเธอผิดไปซะนี่

“ เออ การ์ตูนวายก็การ์ตูนวาย ว่าแต่มันซื้อที่ไหนหล่ะ จะได้ไปซื้อมาใช้คืนให้ ” ไม้ตัดบทจบปัญหา คนอย่างเค้าลูกผู้ชายแมนเกินร้อย กล้าทำกล้ารับผิดชอบอยู่แล้ว

“ คนอย่างแกนี่มันไม่เข้าใจอะไรเลย ให้แกซื้อมาคืนให้แล้วไง คุณค่าทางจิตใจมันต่างกันเฟ้ย! ”

“ อ้าว แล้วจะให้ทำไง กะอีแค่การ์ตูนเกย์เล่มเดียวแกอย่ามากเรื่องได้ป่ะ? ”

“ บอกว่าอย่าเรียกว่าการ์ตูนเกย์ไงหล่ะย่ะ “

“ อ้าว ก็การ์ตูนผู้ชายกับผู้ชายได้กัน ไม่ให้เรียกการ์ตูนเกย์แล้วจะเรียกอะไร ”

“ การ์ตูนที่ฉันอ่านมันเป็นเรื่องราวของความรักของคนสองคน ซึ่งมันอาจจะผิดที่เค้าสองคนเกิดมาเป็นผู้ชายทั้งคู่ แต่เค้ารักกันด้วยใจแล้วไงหล่ะ? มันเป็นความรู้สึกที่คนอย่างแกคงไม่เข้าใจหรอกว่าความรักที่แท้จริงมันเป็นยังไง ”

“ ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าความรักมันเป็นยังไง ” เมื่อถูกหญิงสาวปรามาส มีหรือที่ไม้จะยอมอยู่เฉยๆได้

“ งั้นก็ลองบอกมาดิ ว่าความรัก มันเป็นยังไง ” เพื่อนสาวปรายตามองอย่างเหนือกว่า เอ้าแล้วไงหล่ะไอ้ไม้ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าไม้เป็นยังไง อยู่กลุ่มเดียวกันมาจะสามปีแล้วยังไม่เห็นวี่แววว่าเจ้าตัวแสบจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเลยซักคน อย่าว่าแต่แฟนเป็นตัวเป็นต้นเลย สนใจหรือก็เปล่า วันๆเอาแต่เล่นซนแกล้งคนโน้นทีคนนี่ที่สนุกเจ้าตัวเค้าหล่ะ

ด้วยความที่ไม้เป็นคนหน้าตาดีออกจะน่ารักซะด้วยซ้ำ ทำให้เจ้าตัวมีคนมาจีบอยู่เรื่อยๆทั้งหญิงและชาย แต่ดูเหมือนคนพวกนั้นคงจะต้องปลูกไร่แห้วกันเป็นแถว ก็เจ้าตัวดีมันสนใจซะที่ไหน ไม่เคยจะรู้หรอกว่าเค้ามาจีบตัวเอง ที่จริงที่พูดไปก็แค่อยากจะแกล้งเจ้าตัวแสบซะบ้างอยากมาทำหนังสือการ์ตูนสุดรักของเธอหล่นน้ำเซ่นเต่าทำไมกัน ใจจริงก็ไม่ได้โกรธอะไรมากมายแค่เสียดายนิดหน่อย ยังไงเพื่อนก็สำคัญกว่าอยู่แล้ว(แต่จะสำคัญกว่านี่นะถ้าเพื่อนวาย อิอิ)

ไม้ทำหน้าอึ้งอยู่ซักพักก็เปิดปากพูด “ ความรักก็คือคนสองคนรักกันไง ” พูดจบแล้วก็ยิ้มแฉ่งมั่นใจว่าถูกเต็มที่ แถไปได้งามๆเลยทีเดียวเชียว

“ ผิด ” หญิงสาวส่ายนิ้วไปมาเหมือนจะบอกว่านายนี่ช่างไม่รู้อะไรเอาเสียเลย

“ งั้นคืออะไร แกลองบอกมาดิ ” เจ้าตัวแสบเริ่มหมั่นไส้เพื่อนสาวขึ้นมาตะหงิดๆ หมดอารมณ์จะค้นหาคำตอบ ก็เลยเล่นถามมันเอาซะดื้อๆแบบนี้แหละ

“ จุ๊ๆๆๆ เรื่องแบบนี้ฉันบอกแกไปแกก็ไม่เข้าใจหรอก เอาเป็นว่าฉันให้เวลาเท่าที่แกต้องการ หาคำตอบมาให้ฉัน แต่ฉันจะบอกใบ้ให้แกนิดหน่อยหล่ะกัน เห็นแกลูกกะตาดำๆที่มันแบ๊วๆนี่ แกต้องตามหาหัวใจ ถ้าเมื่อไหร่แกหาหัวใจของตัวเองเจอ แกก็จะรู้ว่าความรักมันเป็นยังไง ” พูดจบหญิงสาวก็ได้เวลาพอดี เธอจึงเดินจากไปขึ้นเรียนวิชาเลือกที่เธอกับเพื่อนอีกสองสามคนเลือกลงโดยที่คนที่เหลือเลือกที่จะลงอีกวิชาหนึ่งทำให้เวลาไม่ตรงกัน

พอกลุ่มเพื่อนหายลับไปจากสายตา ไม้ก็หันมาหาเพื่อนในกลุ่มที่เหลือซึ่งแน่นอนรวมถึงจีด้วย

“ นี่จี มึงรู้เปล่าว่ะ ว่าความรักมันเป็นยังไง ” เจ้าตัวแสบหันไปถามเพื่อนสนิทที่สุดในกลุ่ม แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือการส่ายหน้า

“ กูจะไปรู้ได้ไงเล่า เคยมีแฟนกับเขาที่ไหนกัน วันๆก็อยู่แต่กับมึง จะเฉาตายพร้อมมึงอยู่แล้วเนี่ย พูดแล้วก็ขึ้น ฮึ่ย! ” เพื่อนในกลุ่มที่เหลือต่างหัวเราะขำกันยกใหญ่

“ มึงอย่าไปใส่ใจคำพูดมิ้นมันเลย ก็รู้อยู่ว่ามันก็พูดไปยังงั้นแหละ ป่ะ ไปเรียนกันเถอะ ใกล้จะได้เวลาเข้าเรียนแล้ว ” ว่าแล้วคนที่เหลือกันลุกขึ้นจากโต๊ะม้าหินที่ประจำค่อยๆทยอยเดินนำๆตามๆกันไป ไม้ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่เดินตามเพื่อนต้อยๆเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือตอนนี้ความคิดของไม้มันมัวจดจ่ออยู่กับคำถามที่ว่า ‘ ความรักคืออะไร ’ ที่เพื่อนสาวตั้งมาถามเมื่อซักครู่ ใครจะว่ายังไงไม่สนหรอก แต่ถ้าปล่อยให้มีเรื่องค้างคาใจแบบนี้มันไม่ใช่วิสัยของหนุ่มหล่อแบบไม้หน่ะสิ

แล้วชั่วโมงเรียนก็จบลงด้วยคำสั่งของอาจารย์หัวโล้นให้ไปหาศิลปะของยุคต่างๆทำรายงานมาส่งภายในเดือนหน้า บอกทีเถอะว่าอาจารย์แกไม่ได้บ้า พระเจ้าที่ไหนมันจะไปทำเสร็จทันกันนี่มันจะกลางเดือนแล้วนะครับ!

โปรแกรมเที่ยวหลังเลิกเรียนวันนี้ก็เลยต้องเปลี่ยนจากเดินห้างดังมาเป็นเดินในห้องสมุดกลางแทนอย่างช่วยไม่ได้ รู้งี้ลงตัวเดี๋ยวกับพวกมิ้นก็ดีหรอก เรียนก็ง่าย งานก็ไม่เห็นจะต้องทำอะไร วิชาตำนานเทพบ้าอะไร ชื่อวิชาหลอกกันชัดๆ นี่มันวิชาตำนานสร้างคนให้เป็นซอมบี้ซะมากกว่า

พอมาถึงหอสมุดกลางต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันหาหนังสือที่ต้องการ โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าจะช่วยๆกันทำ ไม่เช่นนั้นถึงต้องรอให้ถึงปีหน้าไม้ก็คงจะยังทำไม่เสร็จ คอนเฟิร์ม!!!

สองขาก้าวเดินด้วยจังหวะเอื่อยไปตามชั้นวางหนังสือ สองตาก็ไล่เรียงอ่านชื่อหนังสือไปเรื่อยๆ หวังว่าจะเจอชื่อหนังสือที่ต้องการซักที แล้วพระเจ้าก็คงจะปรานีคนหล่ออยู่บ้าง สายตาของไม้ไปปะทะกับเจ้าหนังสือเล่มหนาปกสีซีดที่ชื่อหนังสือตรงตามชื่อที่เค้าท่องจำทุกประการ แต่ติดอยู่ตรงที่บริเวณที่หนังสือมันวางอยู่อยู่เลยหัวไปเกือบเมตรเอื้อมให้ตายก็ไม่ถึง มองซ้ายแลขวาไม่มีตัวช่วยซักอย่างเลยตัดสินใจใช้เคล็ดวิชาลับสุดยอด วิชาตัวเบาแห่งสำนักเส้าหลิน กระโดดเหย่งๆเผื่อจะถึง



อีกนิดเดียว จะได้อยู่แล้วเชียว



อีกนิดเดียวจะถึงแล้ว



กระโดดจนเหนื่อยก็ไม่มีท่าทาว่าจะถึง แต่แล้วหูก็แว่วเสียงหัวเราะอยู่ใกล้ๆเลยหันขวับกลับไปมอง ต้นเสียงเป็นชายหนุ่มน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับไม้กำลังยืนส่งยิ้มมาให้เค้า ยังไม่ทันที่จะอ้าปากบ่นชายหนุ่มก็ลากบันไดที่ใช้สำหรับปีนหยิบหนังสือสูงๆออกมาจากซ่องหลืบหนึ่งของชั้นหนังสือ ทำเอาไม้ยืนอาปากค้าง ทำไมเมื่อกี้ไม่เห็นมี หรือไอ้บ้านี่จะเสกมันขึ้นมาได้ ฮึ่ย...บ้าไปใหญ่แล้วไอ้ไม้

ผู้ชายคนนั้นลากบันไดมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ แล้วก็ปีนขึ้นไปหยิบหนังสือที่เค้าท่องชื่อจนขึ้นใจลงมายื่นให้พร้อมรอยยิ้มกว้าง

พอไม้หยิบหนังสือเล่มนั้นจากมือชายหนุ่มมาได้ เค้าคนนั้นก็เอื้อมมือผ่านหน้าไม้ไปหยิบหนังสือที่อยู่ตรงข้างๆโดยที่สายตายังไม่ละไปจากหน้าของตัวแสบประจำกลุ่ม แววตาวาววับสั่นระริกนั่นคล้ายจะบอกอะไรบางอย่าง แต่ก็สุดจะเข้าใจ

หยิบเสร็จเค้าก็เดินจากไปทิ้งไว้แต่ไม้ที่ยืนตัวแข็งหน้าเริ่มขึ้นสีแดงเรื่ออย่างแปลกๆ กับประโยคกระซิบเบาๆอีกประโยคหนึ่ง

“ นายนี่ตลกดีนะ พฤกษา ”


ออฟไลน์ patt02746

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม?
«ตอบ #2 เมื่อ11-08-2012 14:13:05 »

อับอาย! อับอายเป็นที่สุด! รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั้น แถมเจ้านั้นยังรู้จักชื่อของเค้าอีก แล้วทีนี้จะทำยังไง ขอสาบานเลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้น ณ วันนี้ จะเป็นความลับระดับท็อปซีเคร็ทที่จะตายไปพร้อมๆกับร่างของไม้ตลอดกาล ต่อให้เอามิยาเสะมาล่อตรงหน้าก็ไม่มีทางเปิดปากไม้ได้ เว้นเสียแต่ว่า....ไอ้เจ้านั่นมันจะเป็นคนพูด!!!

หลังจากวันนั้นไม้และพลพรรคก็ต้องทำตัวเป็นหนอนหนังสือจำเป็นกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ เดินเข้าออกหอสมุดกลางมากซะยิ่งกว่าห้องน้ำในมหาลัยด้วยซ้ำ วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่เจ้าตัวซึ่งตอนนี้หยุดแสบชั่วคราวนั่งหน้าดำคร่ำเคร่งอยู่กับกองหนังสือตั้งใหญ่ที่เจ้าตัวดูจะไม่ค่อยสนใจสภาพมันซักเท่าไหร่ เปิดๆหาเนื้อหาเสร็จแล้วก็โยนๆสุ่มๆมันเข้าไป สภาพของตั้งหนังสือจึงโอนเอนเสียเต็มที แต่ดูท่าเจ้าของพฤติกรรมจะไม่สนใจซักนิด ยังคงขะมักเขม้นก้มอ่านหนังสือที่วางอยู่ตรงหน้าโดยไม่รู้ว่าภัยกำลังจะมาเยือน

โครม!

เสียงในจินตนาการของผู้คนรอบข้างที่เห็นเหตุการณ์ ต่างพากันหลับตาปี๋ภาวนาให้ร่างน้อยๆนั่นรอดจากเงื้อมมือมัจจุราชกองหนังสือเล่มเท่าควายปลิดชีพเด็ดวิญญาณ



แต่!!!



มันก็ไม่เป็นดังคิด เมื่อลืมตาขึ้นมากลับเห็นมือขาวๆแต่ทว่าแข็งแกร่งวางอยู่บนตั้งหนังสือมหาปะลัยนั่นอย่างทันเวลา ในขณะที่คนเกือบจะสิ้นชีพยังไม่มีวี่แววว่าจะรู้ตัวเลยซักนิด แต่พอรู้สึกถึงสายตาหลายสิบคู่ที่พร้อมใจกันมองตรงมาที่ตนก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้น และก็ผสานสายตาเข้ากับเจ้าของมือขาวนั่นพอดิบพอดี

“ เฮ้ย! ” อุทานตกใจตาโต ไม่คาดไม่ฝันว่าจะได้เจอกันอีกครั้งกับโจทย์ตัวโตที่ไปทำขายหน้าให้เห็นเข้าอย่างจัง รีบมองซ้ายมองขวาหาตัวช่วยแต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้เพื่อนๆขอลากิจกลับก่อนกันไปหมด เหลือเพียงแค่เค้าคนเดียวที่ยังคงนั่งทำรายงานต่อ ไม่ใช่ว่าเกิดขยันขึ้นมาผิดปกติหรืออะไร แต่รายงานของเค้ามันไม่คลืบหน้าไปไหนเลยหน่ะสิ ทั้งที่เวลาขีดเส้นตายก็ใกล้เข้ามาทุกทีๆ แอบไปจิ๊กของเพื่อนในกลุ่มมาดูก็เห็นแต่ละคนเสร็จกันไปเกือบห้าสิบเปอร์เซนต์แล้ว ทั้งที่ก็ทำด้วยกัน ช่วยๆกันทำแท้ๆ ไหงมีเค้าคนเดียวที่ยังทำไปไม่ถึงไหนว่ะ?

เงยหน้าขึ้นไปมองคนยืนค้ำหัวอีกทีก็เจอกับยิ้มบางๆมุมปากเหมือนเคยแล้วเจ้าตัวก็ถือวิสาสะลากเก้าอี้ออกนั่งลงตรงข้างๆไม้เอื้อมมือมาหยิบร่างรายงานตรงหน้าไปดูอย่างไม่ขออนุญาตเจ้าของซักนิด

“ ดูเหมือนนายจะกำลังมีปัญหานะ ” พูดขณะตาก็จ้องเนื้อหาในรายงานมือก็ยังคงเปิดหน้ากระดาษไปเรื่อยๆ

ไม้รีบคว้าเจ้ารายงานตัวปัญหากลับคืนอ้อมอกโดยไว หันไปจิกตาใส่คนถือวิสาสะนิดนึง “ ยุ่ง! ”

แต่คนโดนจิกตาใส่กลับเอาแต่ระบายยิ้มขำไม่ถือสา ทำเอาคนจิกตาใส่ค้อนควับเข้าให้อีกหนึ่งทีตามภาษาเด็กเอาแต่ใจ

“ ให้ฉันช่วยมั้ยหล่ะ ” เสนอตัวอย่างมีน้ำใจสุดๆพร้อมรอยยิ้มที่ยังคงประดับอยู่บนริมฝีปากตลอดเวลา

“ ยุ่ง! ว่างนักหรือไงถึงมาช่วยคนอื่นเนี้ย เราไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ! ” เกือบตาลุกวาวตั้งแต่มีคนมาเสนอตัวจะช่วยแล้วหล่ะ ก็ไอ้เจ้ารายงานนี่มันทำง่ายๆซะที่ไหนกันเล่า ทำทีไม้ก็ปวดหัวทีเล่นเอาไมเกรนจะถามหาวันละสี่ห้ารอบ แต่ด้วยศักดิ์ศรีและทิฐิที่มันยังค้ำคอเลยได้แต่เหน็บกลับไปทั้งที่ในใจก็แอบเสียดาย เชอะ!

“ ไม่ได้ว่างนักหรอก ก็แค่อยากจะช่วย แล้วก็ไม่ได้จะช่วยฟรีๆด้วยแต่นายต้องจ้างฉันช่วย ” ไม้หันควับไปทางคนพูด ชิ! ที่แท้ก็พวกหิวเงินจนต้องมาเสนอตัวทำรายงานให้เค้านั่นแหละ

“ บอกไว้ก่อนเลยนะว่าฉันไม่มีเงินมากขนาดจะมาจ้างนายได้หรอก ” ตาจ้องตาโดยที่นัยตาสวยของเด็กเอาแต่ใจเผยอาการดูถูกอย่างปิดไม่มิด แต่อีกคนก็ใช่ว่าจะถือสา เพียงแค่ส่ายหัวนิดๆแล้วส่งยิ้มละไมไปให้เหมือนเดิม

“ ฉันไม่ได้ต้องการเงิน ”

“ แล้วนายต้องการอะไร? ” สวนกลับไปทันควันทันทีที่อีกคนพูดจบ

“ ตอนนี้ยังไม่บอกแต่จะบอกไว้ก่อนว่าสิ่งที่ฉันต้องการหน่ะไม่ได้ยากเลยสำหรับนาย เพียงแค่นายเต็มใจจะให้ก็เท่านั้น ”

ถ้าไม่ได้มาเพราะเงินก็น่าสน แล้วยิ่งอีกฝ่ายบอกว่าสิ่งที่ต้องการมันไม่ได้ยุ่งยากมากมายใจก็ยิ่งเริ่มเอนเอียง โดยไม่เอ๊ะใจซักนิดในจุดประสงค์ของผู้มาใหม่ตามสไตส์คนใสซื่อ

“ เงียบแบบนี้ฉันแปลว่าตกลงนะ ” ยังไม่ทันที่ไม้จะคิดทบทวนประมวลผลและสรุปเสร็จ คนตรงหน้าก็ตัดบทฉับแล้วโน้มหน้าลงมาใกล้ทำให้เจ้าตัวแสบใจสั่นแปลกๆ แต่ก็ยังไม่คิดที่จะถอนสายตาออกมาจากแววตาพราวระยับคู่นั้น

“ งั้นวันพรุ่งนี้มาเจอกันตรงนี้เวลาเดิม แล้วฉันจะรอนะ ” ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าแต่ทำไมไม้ถึงรู้สึกว่าน้ำเสียงที่ใช้พูดนั้นมันอ้อนแปลกๆ และยังไม่ทันที่ตัวเค้าจะทันได้ไขข้อข้องใจ ตัวคนพูดก็ลุกขึ้นยืนหันหลังเตรียมตัวเดินจากไป แต่เหมือนไม้จะนึกเรื่องสำคัญได้ ทำให้มือน้อยเอื้อมไปรั้งชายเสื้ออีกคนไว้ได้ทันท่วงที เป็นเหตุให้คนโดนรั้งหันกลับมาเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ

“ นายชื่ออะไร ” ถามตาแป๋ว ที่รั้งไว้ไม่ใช่ว่าเกิดอาเพศอะไร แต่เจ้าตัวแสบดันนึกขึ้นมาได้ว่าเค้ายังไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนามของอีกฝ่ายเลยมีแต่อีกคนที่รู้จักชื่อเค้า มันไม่ยุติธรรมนี่นา!

คนที่ยืนอยู่อมยิ้มกับความน่ารักและคิดอะไรก็แสดงออกทางสีหน้าของคนตรงหน้า จึงโน้มหน้าเข้าไปหยุดริมฝีปากอยู่แค่ริมใบหูอีกฝ่าย แล้วกระซิบเบาๆ

“ ป้อง ปกป้อง จำไว้ให้ดีๆหล่ะ ” กระซิบเสร็จเจ้าของชื่อก็หมุนตัวเดินจากไป ทิ้งให้ไม้ค้างอยู่กลางอากาศกับความร้อนที่มาจากไหนไม่รู้ทั่วร่าง เหมือนยังแว่วเสียงกระซิบริมหูนั่นซ้ำไปซ้ำมาพร้อมๆกับรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆที่เหมือนยังคงกรุ่นอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่การกระซิบเบาๆ แต่ทำไมเค้าถึงรู้สึกเหมือนกับว่า เจ้าของชื่อต้องการจะเน้นย้ำอย่างที่พูด ย้ำให้จำ ไม่ใช่แค่ใช่สมองจำ แต่จำไปถึงหัวใจ!

จากวันนั้นทุกๆวันหลังเลิกเรียนไม้จะต้องปลีกวิเวกตัวเองจากกลุ่มพลพรรคคนรัก(มลพิษทาง)เสียง จนพวกเพื่อนๆมันด่าบ้างล้อบ้างว่าเจ้าตัวแสบแอบไปมีกิ๊กไม่บอกกล่าวเพื่อน แต่ถ้าพวกมันมาเห็นกิ๊กคนที่มันด่าทุกวันแล้วจะเข้าใจเองว่าไม้ไม่มีทางไปกิ๊กกะไอ้หมอนี่ได้แน่ เพราะมันไม่คลิ๊ก ถ้าจะให้กิ๊กจริงๆต้องสาวสวยหมวยไม่ต้องอึ๋มมากก็ได้คณะบริหาร บัญชี เศรษฐศาสตร์ นิติ หรือรัฐศาสตร์ก็ยังไหว ทำไงได้หล่ะ ถ้าเลือกได้ไม้ก็อยากจะให้ไอ้หมอนี่มันเปลี่ยนเป็นพี่สาวสุดสวยดังที่กล่าวมาข้างต้นใจจะขาด แต่เผอิญว่าไม่มีทางเลือกหรือหมดสิทธิ์เลือกก็ตามแต่ เลยต้องมานั่งจมปลัก(ควาย)กับไอ้เจ้ารุ่นพี่ปกป้องนี่ทุกเย็น

นี่ก็เกือบๆจะสามอาทิตย์แล้วที่ไม้ต้องมานั่งทำรายงานกับผู้ชายตัวสูงนี่ทุกวันมันก็ต้องมีปฏิสัมพันธ์กันหน่อย เลยได้รู้ว่าที่จริงแล้วไอ้โย่งนี่ หรือเรียกตามลำดับอาวุโสแล้วมันคือรุ่นพี่ปีสี่ที่เคารพของน้องๆคณะสถาปัตยกรรม แต่แม่งไม่เห็นมันติสเหมือนชาวบ้านชาวช่องเค้าซักเท่าไหร่ เค้าเห็นเด็กถาปัตคนอื่นๆติสแตกแหวกแนวสุดๆ แต่ไอ้บ้านี่ดันเสือกธรรมดาสุดฤทธิ์เสื้อเชิ้ตกางเกงยีนสุดคลาสสิคติดตรงที่มันแม่งหน้าตาเอ่อ...พอดูได้ แต่สาวๆดันมองมันจนเหลียวหลังจนไม่แลมาทางไม้มั้งเลย หมั่นไส้หว่ะ! พูดแล้วก็อารมณ์เสีย!!

รายงายเสร็จไปเยอะพอสมควรเกือบๆจะแปดสิบเปอร์เซนต์อยู่แล้ว แต่ก็ชะล่าใจไม่ได้เพราะวันกำหนดส่งก็ใกล้เข้ามามากแล้วเช่นเดียวกัน ถ้าหากยังไม่รีบเร่งทำมีหวังแดกเอฟแน่ครับพี่น้อง!

ที่รายงานเสร็จได้ขนาดนี้ไม่อยากจะคุยว่าฝีมือไม้ล้วนๆ ไอ้รุ่นพี่ปกป้องแม่งไม่ได้ทำอะไรเลยเหอะ นั่งกระดิกตีนไปวันๆ ไหนมันบอกว่าเค้าจ้างมันช่วยทำรายงานแต่ไม่เห็นมันจะลงมือทำซักเอ๊ะ อย่างมากก็แค่หาข้อมูลแล้วก็ชี้แนะไม้เท่านั้นแหละ!



เออๆ ยอมรับก็ได้ว่ามันก็ช่วยได้มากเหมือนกัน เพราะได้ข้อมูลกับมันชี้แนะนั่นแหละรายงานถึงติดจรวดเทอร์โบเสร็จไปเกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์ขนาดนี้ ถ้าหากตอนนี้ไม้ยังนั่งทำคนเดียวนะ มีหวัง ตอนนี้จะหาทางออกจากโอ่งได้หรือยังยังไม่รู้เลย จริงๆลึกๆก็อดจะยอมรับวิธีการของมันไม่ได้เหมือนกัน มันช่วย ย้ำว่าแค่ช่วยจริงๆ ทำรายงาน ไม่ใช่ทำรายงานให้

“ มัวแต่เหม่ออยู่นั่นแหละ วันนี้รายงานยังไม่กระเตื้องขึ้นจากเมื่อวานเลยนะ ” ไม้หันไปมองหน้าคนบ่นด้วยหางตา

 ที่พูดสรรเสริญเยินยอมันเมื่อซักครู่โปรดดีลีททิ้งทั้งหมดเลยนะครับ พอเริ่มสนิทหล่ะเอาใหญ่เชียวนะ ชิ!

“ คนเราก็ต้องมีเหนื่อยบ้างอะไรบ้างซิ ” ตวัดสายตาจิกมันไปหนึ่งทีพอหอมปากหอมคอ

“ เหนื่อยเหรอ? งั้นยื่นมือมา ” เห็นมันยื่นมือมารอเหมือนขอมือหมาไม้ก็ไม่ทำตามซิครับ แต่ติดตรงที่สายตาที่หรี่ลงนิดนึงอย่างดุๆนั่นทำให้จำใจต้องส่งมือซ้ายที่ไม่ได้จับปากกาไปให้มันอย่างช่วยไม่ได้ แต่มันกลับส่ายหัวทำสีหน้าเอือมระอา

“ ไม่เอาข้างนี้ ยื่นอีกข้างหนึ่งมา ” ก็บอกแค่ว่าให้ยื่นมือไปแล้วจะรู้มั้ยว่าจะเอาข้างไหนหน่ะ ไม้เลยวางปากกาลงแล้วง้างมือตีมือมันที่ยื่นมารอดังเพี๊ยะเบาๆ แต่ดูเหมือนว่ามันก็ไม่ได้สนใจอะไรกับท่าทางของเจ้าตัวแสบมากนัก กลับนวดมือที่ประทุษร้ายตัวเองเมื่อกี้เบาๆ คลึงๆกลางฝ่ามือไล่ไปจนถึงนิ้วแต่ละนิ้ว จะว่าไปมันก็สบายดีเหมือนกันนะ หายเมื่อยจากการจับปากกาเป็นเวลานานไปได้โข

แอร์เย็นๆ บรรยากาศเงียบๆ แถมมีคนนวดให้อีกต่างหาก เด็กกำลังกินกำลังนอนก็เริ่มเคลิ้มจวนเจียนจะหลับ แต่แล้วมันก็หยุดมือไปเสียเฉยๆ ทำเอาไม้หันไปมองหน้ามันตาปรอยๆแล้วก็ฟุ่บหน้าลงกับโต๊ะโดยบัดดล ทำเอาคนนั่งข้างๆได้แต่อึ้ง

“ นี่ไม้ ตื่นซิ ถ้าไม่รีบรายงานจะเสร็จไม่ทันส่งนะ ” สองมือล้วงกระเป๋า สองเท้าก้าวเข้ามา ซะที่ไหน! สองมือหนาๆที่เมื่อกี้ยังนวดอย่างนุ่มนวลเปลี่ยนมาเป็นเขย่าไหล่เจ้าตัวแสบปลุกคนอู้ต่อหน้าต่อตาให้ตื่นขึ้นมาทำงานต่อ

“ ขอพักสายตาแป๊บนึงดิ ” คำพูดอู้อี้ที่ฟังเกือบไม่ได้ศัพท์ลอดผ่านช่องว่างระหว่างหน้าที่ฟุ่บลงไปกับหนังสือที่ยังเปิดค้างไว้

“ แต่อีกเดี๋ยวห้องสมุดก็จะปิดแล้วนะ เดี๋ยวกลับไปบ้านนายก็ไม่ได้ทำอีก อีกสามสี่วันก็ต้องส่งแล้วนะแต่นี่นายยังเหลืออีกต้องเยอะ เดี๋ยวก็ไม่ทันหรอก เฮ้ ฟังอยู่หรือเปล่า ” พอได้ฟังไม้เลยหันหน้ามามองคนพูดด้วยสายตาเว้าวอนประหนึ่งว่ากำลังจะตาย

ไม่ผิดไปจากที่อีกคนพูดเลยซักนิด เพราะที่ไม้จะตั้งใจทำรายงานจริงๆก็มีแค่ช่วงที่อยู่กับเจ้าโย่งนี่ที่ห้องสมุดเท่านั้น แต่พอกลับถึงบ้านทีไร เตียงนอนเอย คอมพิวเตอร์เอย มักจะมีแรงดึงดูดสูงกว่าเจ้าหนังสือเล่มหนาๆนั่นร้อยเท่าพันเท่า ผลจึงมาตกให้ต้องมากลุ้มใจว่าจะทำไม่ทันอยู่นี่ ถ้าหากตั้งใจทำจริงๆจังๆป่านนี้นอนตีพุงสบายใจเฉิบรอส่งงานอยู่ที่บ้านแล้ว ไม่ต้องมานั่งปั่นหูตาเหลือกแบบนี้หรอก

พออีกคนเห็นสายตาอ้อนๆแบบนั้นแล้วก็ให้ใจอ่อน ถอนหายใจออกมาเบาๆยอมแพ้เจ้าตัวแสบตรงหน้าปล่อยให้เจ้าตัวพักซักนิดตามที่ต้องการ แต่ว่า...

“ ก็ได้ ฉันจะให้นายพักจนกว่าเราจะถึงคอนโดฉัน ไม่ต้องทำหน้างง เดี๋ยวไปยืมหนังสือที่สำคัญๆแล้วไปทำต่อที่คอนโด จากวันนี้พอเลิกเรียนนายจะต้องตรงดิ่งไปทำรายงานต่อที่คอนโดฉันจนกว่าจะเสร็จ เอ้า เก็บของ ” พูดจบก็ไม่ปล่อยให้อีกคนตอบรับหรือคัดค้าน ลงมือเก็บสัมภาระต่างๆลงกระเป๋าแล้วหยิบหนังสือสองสามเล่มบนโต๊ะมาถือพร้อมฉวยข้อมือบางติดมือไปด้วย เดินตรงดิ่งไปหาบรรณารักษ์ทำเรื่องยืมหนังสือเสร็จสรรพ

ไม่ถึงยี่สิบนาทีต่อมารถยนต์สัญชาติยุโรปคันหรูที่ตัวแสบไม้โดยสารมาก็จอดสนิท มองไปรอบด้านหวังจะเห็นตึกที่อยู่อาศัยสุดหรูตามจินตนาการอันสุดจะบรรเจิดแต่กลับพบกับภาพร้านอาหารที่ตกแต่งด้วยสไตส์คลาสิคผสมผสานความโมเดิร์นอย่างลงตัวซะอย่างนั้น ไม่รอช้า เจ้าของรถคันหรูเปิดประตูเดินนำลิ่วตรงไปยังตัวร้าน ทำให้ผู้ที่ได้แต่งงว่าทำไมตัวเองจะต้องมาอยู่ ณ ที่ตรงนี้ และทำไมจะต้องทำตามที่ไอ้บ้านั้นสั่งด้วย ต้องรีบเปิดประตูวิ่งตามไปทั้งที่ในใจยังคงสับสนในอาการอันน่าเป็นห่วงของตนเอง



ได้แต่งงตัวเอง...ทำไม??



เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในร้าน บรรยากาศอันสุดแสนจะหรูหราไฮโซที่ผู้คนซึ่งมีขื่อเสียงเรียงนามตามหน้าหนังสือกอสซิบหรือตามหน้าข่าวหนังสือพิมพ์ต่างแข่งกันปล่อยออกมากระแทกหน้าไม้เข้าอย่างจัง รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังตัวหดลีบเล็กลงเรื่อยๆ อดไม่ได้ที่จะคว้าแขนคนข้างหน้าให้หยุดเดินแล้วหันกลับมามอง

“ พามาที่นี่ทำไม บอกไว้ก่อนนะว่าไม่มีตังค์จ่าย ” กระซิบกระซาบให้พอได้ยินกันแค่สองคน สภาพร้านก็พอจะคาดคะเนราคาอาหารได้ไม่ยาก ถ้าไม่อยากกระเป๋าฟีบตัวแบนลีบติดถนนก็อย่าเฉียดกรายเข้ามาเป็นอันขาด

แต่อีกคนกลับยิ้มละไมส่งให้เสียนี่ ไม้ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนข้างๆช่างดูไม่ขัดกับบรรยากาศโดยรอบเลยซักนิด ถึงแม้จะแอบคาดคะเนความหนาของปึกแบ้งค์ในกระเป๋าตังค์ของอีกคนจากราคารถหรูที่จอดนิ่งสงบอยู่ด้านนอกแล้วก็ตาม แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะหมั่นไส้ตะหงิดๆ

“ ไม่เป็นไรเดี๋ยวเลี้ยง ” ว่าแล้วก็ฉวยข้อมือบาง เดินตามบริกรที่ออกมาต้อนรับถึงหน้าประตู

พอจับจองที่นั่งได้เรียบร้อย บริกรคนเดิมก็ส่งเมนูให้อย่างมีมารยาทแล้วขอตัวจากไป

มือขาวเปิดเมนูหน้าแรกก็ต้องรีบปิดฉับแล้วเลื่อนมันไปไกลๆอย่างกับกลัวเชื้อโรคที่มันอาจจะแอบแฝงอยู่รวมกับตัวหนังสือลงทองบนหน้ากระดาษหน้าอย่างดีนั่น

“ เป็นอะไร เมนูที่นี่เค้าส่งเข้าฆ่าเชื้อทุกวันไม่ต้องกลัวหรอก ปลอดภัย ”

“ จะบ้าหรือไง ใครจะไปบ้ากลัวเชื้อโรคขนาดนั้น ” หันไปแว้ดใส่เอาเสียเต็มเสียง ทำเอาทุกสายตารอบบริเวณต่างจับจ้องมาเป็นตาเดียว ต้องรีบหันไปก้มหัวขอโทษขอโพยเสียยกใหญ่แล้วหันกลับมาจิกตาใส่ตัวต้นเหตุอย่างคาดโทษ

“ โอเคๆ ไม่กวนแล้วก็ได้ จะกินอะไรหล่ะ ” ยกมือขึ้นสองข้างอย่างคนยอมแพ้ แต่ปากนี่ยิ้มจนจะฉีกถึงรูหู

“ ไม่กิน ” สายตาเหลือบไปมองเมนูนิดนึง กระซิบตอบเสียงเบา

“ ทำไมหล่ะ ”

“ แค่เห็นราคาก็กินไม่ลงแล้ว ” พึมพำงุบงิบอยู่คนเดียวแต่ก็ดังพอให้คู่สนทนาจับใจความได้

“ ก็บอกแล้วไงว่าจะเลี้ยง ไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน ไม่ให้เด็กน้อยจ่ายเองหรอก ”

“ ฉันไม่ใช่เด็กน้อยนะ! นายเป็นใครถึงต้องมาเลี้ยงฉัน ไม่เสียดายเงินบ้างหรือไง ” น้ำเสียงเข้มขึ้นตามอารมณ์ของเจ้าตัว แต่ความดังก็ยังคงถูกควบคุมให้ดังกว่าเสียงกระซิบอยู่นิดหน่อยเช่นเดิม

“ ฉันไม่เสียดายหรอก ถ้ามันจะทำให้นายมีความสุขได้ ” ไม่พูดเปล่ามือเอื้อมมาจากฝั่งตรงข้างเข้าเกลี่ยที่แก้มนวลเบาๆ ทำเอาไม้อดไม่ได้ที่จะตาโตตกใจกับการกระทำที่ปุบปับ แก้มขึ้นสีระเรื่ออย่างช่วยไม่ได้ เสตามองไปด้านข้างโดยอัตโนมัติ ไม่กล้าสบสายตาแวววาวนั้นตรงๆเหมือนเคย ไม่ปัดป้อง ไม่ขัดขืน ไม่ต่อว่า ไม่รู้ทำไม

“ ฉันจะไปกินที่อื่น นายจะอยู่ที่นี่ก็ตามใจ ” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ลุกขึ้นก้าวฉับๆออกไปจากร้านโดยไม่หันมามองที่ด้านหลังอีก คนที่ถูกทิ้งไว้ด้านหลังเลยได้แต่อมยิ้มส่ายหัวน้อยๆแล้วเดินตามคนที่ก้าวฉับๆทั้งที่แก้มแดงแจ๋ออกไป

เมื่ออีกคนไม่พอใจร้านแรกที่พาไปเลยตัดปัญหาด้วยการให้เจ้าเด็กแสบเลือกร้านเอง สุดท้ายทั้งสองคนเลยต้องฝากท้องไว้กับร้านชายสี่หมี่เกี๊ยวที่เจอระหว่างทางเพราะเจ้าตัวแสบทนเสียงเรียกร้องของกระเพาะไม่ไหวสั่งหยุดรถลงตรงริมฟุตบาตข้างร้าน ฟาดบะหมี่ไปสองชามใหญ่ๆกับน้ำแข็งใสชามใหญ่ที่สั่งมากินด้วยกันแต่มากกว่าครึ่งหายลงท้องคนตัวเล็กกว่า ทำให้ฉงนสงสัยซะเหลือเกินว่าที่เห็นยัดๆลงไปนั้นกระเพาะคนหรือแบล็คโฮล ส่งลงไปหายๆ

จากร้านที่ฝากท้องเดินทางอีกไม่ถึงสิบห้านาทีรถยนต์ก็มาหยุดนิ่งลงตรงที่จอดรถสำหรับผู้อยู่อาศัย

ผู้อยู่อาศัยตัวจริงหิ้วสัมภาระต่างๆแล้วเดินนำเข้าไปข้างใน ปล่อยให้ผู้อยู่อาศัยชั่วคราวเดินตัวปลิวตามไปติดๆ กดลิฟต์ขึ้นมาชั้นที่ต้องการ แล้วก็ต้องพบกับความแปลกใจอีกระลอก

พอประตูลิฟต์เปิดออก เผยภาพของห้องที่ดูก็รู้ว่าถูกตกแต่งอย่างพิถีพิถันขนาดไหน ชั้นทั้งชั้นคือห้องของชายหนุ่มที่เดินนำเข้าไปวางสัมภาระกับโต๊ะตัวเตี้ยรูปทรงแปลกตา ยังไงคนรวยก็ยังคงเป็นคนรวยอยู่วันยันค่ำ มันน่าหมั่นไส้จริงๆให้ดิ้นตาย

“ ไปอาบน้ำก่อนเถอะ ผ้าเช็ดตัวผืนใหม่อยู่ในตู้ข้างบนอ่างล่างหน้า เดี๋ยวจะเอาเสื้อผ้าไปให้ ” ว่าจบแล้วก็ผลุบตัวหายเข้าไปในห้องที่คาดว่าน่าจะเป็นห้องนอนของเจ้าของห้อง ปล่อยให้คนจนยืนมองโน้นมองนี่อยู่ในห้องรับแขกคนเดียว สุดท้ายก็ตัดสินใจทำตามที่เจ้าของห้องเค้าบอก เดินหาห้องน้ำจนเจอ เปิดประตูเข้าไป ข้างในก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ตกแต่งอย่างมีสไตส์ไม่แพ้ด้านนอก ของตกแต่งทุกชิ้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไม่สั่งทำก็คงอิมพอร์ตมาทั้งนั้น ราคาอย่างให้เดา แค่คิดก็คันยิบๆแถวๆแขนแล้ว

เปิดประตูตู้ที่อยู่เหนือหัวตรงอ่างล่างหน้าก็พบกับผ้าเช็ดตัวสีขาวสองสามผืนสภาพใหม่เอี่ยมพับซ้อนกันอย่างเรียบร้อย จัดการดึงออกมาผืนหนึ่งตามคำอนุญาตจากเจ้าของแล้วจึงเปิดประตูกระจกที่กั้นระหว่างพื้นที่ส่วนเปียกกับพื้นที่แห้ง

เสียงน้ำไหลดังลอดประตูออกมาได้ไม่นานคนข้างในก็แง้มประตูเปิดออกมามองหาบุรุษอีกผู้ที่อาศัยออกซิเจนร่วมกันในขณะนี้ มองซ้ายมองขวาก็ไม่มีวี่แววของชายหนุ่มเลยซักนิด เงียบซะยังกับไม่มีคนอยู่ หางตาเหลือบไปเห็นเสื้อผ้าที่พับทบซ้อนกันอยู่บนพื้นคาดว่าเจ้าของห้องคงเตรียมไว้ให้จึงหยิบขึ้นมาแล้วผลุบหายเข้าห้องน้ำไปอีกรอบ


ออฟไลน์ patt02746

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม?
«ตอบ #3 เมื่อ11-08-2012 14:25:10 »

พอออกมาอีกทีกับสภาพใกล้เคียงพวกฮิพฮอพฝั่งตะวันตกก็ไม่ปาน เสื้อยืดตัวหลวมโพรกที่ต้องพับแขนขึ้นมาสามสี่ทบกับกางเกงขาสั้นที่ดีหน่อยที่ยังเป็นยางยืดไม่อย่างนั้นมีหวังได้ใส่แค่เสื้อยืดตัวยาวนี่ตัวเดียวกระมัง

เดินตามหาอีกคนหนึ่งทั่วห้องก็ไม่พบ เหลือห้องสุดท้ายคือห้องนอนของเจ้าตัว ที่ไม้ไม่กล้าเข้าไป เลยได้แต่นั่งรออยู่ที่โซฟารับแขก นั่งรออยู่สามนาทีเห็นจะได้ก็รอไม่ไหว ผุดตัวลุกขึ้นแอบย่องเดินไปหยุดยืนหน้าประตูห้องชายหนุ่ม ค่อยๆลองหมุนลูกบิดประตูดู ปรากฏว่าไม่ได้ล็อคเลยแง้มๆสอดส่ายสายตาจับความเคลื่อนไหวภายใน แต่ยังไม่ทันได้สำรวจจนทั่วประตูที่ทิ้งน้ำหนักตัวไว้ก็เปิดออกกว้าง ทำเอาเจ้าตัวแสบแทบจะหน้าคะมำถ้าไม่ติดว่ามีมือดีมารอรับไว้ได้ทันท่วงที

หันหน้ากลับไปมองก็เจอเข้ากับใบหน้าของคนที่ตามหา

“ ทำตัวลับๆล่อ จะเข้ามาขโมยอะไรหรือไง? ”

“ จะบ้าหรือไง ก็แค่คิดว่านายไปไหนก็แค่นั้นแหละ กลัวว่าจะล้มหัวฟาดพื้นตายคาห้อง ขี้เกียจซื้อชุดดำแต่งไปงานศพ ” ทำเป็นปากดีกลบเกลื่อนไว้ก่อน พ่อสอนไว้

“ เป็นห่วงรึไง ”

“ เปล่าซะหน่อย เสียเวลาชะมัด ไหนนายบอกว่ารายงานจะเสร็จไม่ทันถ้ายังอู้อยู่ แล้วนี่อะไร โอ้เอ้ชะมัด ” เสมองนู้นมองนี่ภายในห้องไปเรื่อย อ่ะ! ผ้าม่านสวยจัง!

“ รายงานฉันก็วางไว้ให้ในห้องนั่งเล่นแล้วไง ไม่เห็นเหรอ? ”

“ เห็นแล้วจะมายืนอยู่ตรงนี้มั้ยเล่า ชิ! ”

“ ครับๆ นายไปทำก่อนเลยเดี๋ยวฉันแต่งตัวเสร็จแล้วจะตามไปช่วย ” แค่นั้นแหละ ตาที่ว่าจะไม่มองหน้าคนพูดกลับหันกลับมาสำรวจอีกคนทันที มองตั้งแต่หัวจรดเท้ามีแค่ผ้าขนหนูพันเอวผืนเดียว เลือดลมสูบฉีดดีขึ้นมาพลัน จัดการผลักอีกคนแล้วกลับหลังหันสี่คูณร้อยออกไปทันที

พอนั่งพักบนโซฟาได้ซักครู่ก็เกิดข้อสงสัย?

จะวิ่งหนีทำไม?

ตายห่า! นี่มันจะคิดว่าเราป๊อดเปล่าว่ะ? วิ่งหนีมันมายังงั้นมันต้องคิดว่าเราใหญ่สู่มันไม่ได้แหงม กลับไปยืนโชว์มันเลยดีม่ะ ว่าเราก็ใหญ่ไม่เป็นสองลองใครเหมือนกัน

กล้ามอ่ะนะ....

แต่คิดดูอีกที ไม่ดีกว่า เดี๋ยวมันจะอายซะเปล่าๆ

ไม้นั่งทำรายงานไปได้อีกหน่อยหนังตาก็เริ่มหนัก เงียบๆแอร์เย็นๆ ยิ่งอาบน้ำแล้วสบายตัวอีกต่างหาก หัวเริ่มไหลไปแนบกับหนังสือ เอาน่า ของีบซักหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง?



“ ม้...ไม้.......ไม้....ตื่น ”



ถามว่าได้ยินมั้ย?



ได้ยิน....



แต่ไม่สน...



นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว....



แล้วอยู่ๆก็รู้สึกตัวลอยหวือ อยากจะลืมตาดูหรอกนะแต่หนังตามันหนักเอาการเลยปล่อยเลยตามเลย




มารู้สึกตัวอีกทีท้องฟ้าก็กลับกลายเป็นสีฟ้าของวันใหม่ไปซะแล้ว




“ ตื่นแล้วก็ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเร็วแมวขี้เซา วันนี้มีเรียนเช้าไม่ใช่เหรอ ” ยกมือขยี้ตาปาดน้ำลายที่มันไหลย้อยตามมุมปากแล้วลุกขึ้นจากเตียงอย่างว่าง่ายด้วยสติสตังที่ยังโหลดเครื่องได้ไม่ถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ คว้าผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าที่อีกคนยื่นให้แล้วเดินเข้าห้องน้ำภายในห้อง ไม่ถึงสิบนาทีก็ออกมายืนเท่อวดหุ่นและหน้าขาวผ่อง ติดอยู่นิดหน่อยก็ตรงที่....

เสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนต์มันดูจะใหญ่เกินขนาดมาตรฐานชายไทยเช่นนายพฤกษาไปนี๊ส....

“ ไม่มีเสื้อผ้าที่มันตัวเล็กกว่านี้แล้วหรือไง? ตัวใหญ่ยังกับไม่ใช่คน ” พูดไปมือก็ต้องจับกางเกงไป ทำไงได้ก็หุ่นไม้ออกจะดีขนาดนี้ไขมันส่วนเกินไม่มีคำนี้อยู่ในสาระบบ ผิดกับอีกคน...ว่าแล้วก็ชายตามอง คนอะไรกล้ามใหญ่ยังกับจะไปแข่งมวยปล้ำชิงแชมป์เปี้ยนโลก

“ ลองใส่เสื้อเชิ้ตตัวเดียวดูซักครั้งมั้ย? จะได้รู้ว่าเวลาพวกผู้หญิงเค้าทำแล้วรู้สึกยังไง ” ไม่พูดปล่อยสองเท้าเดินเข้าประชิดเอื้อมมือมายื้อแย่งดึงกางเกงลง แต่มีหรือที่ไม้จะยอม ยื้อกางเกงยีนต์ที่ตอนนี้รักยิ่งชีพไว้สุดพลัง จนอีกคนจำต้องล่าถอยไปในบัดดล

“ งั้นนายมีพวกเข้มขัดไรงี้ม่ะ ให้เดินหิ้วกางเกงไปแบบนี้เกรงว่าจะโดนมองหาว่าเป็นพวกโรคจิตวิปริตซะก่อน ” เน้นเสียงสองคำหลังใส่หน้าเจ้าของเสื้อผ้าเต็มๆ

อีกคนได้แต่ส่ายหัวให้ความแสบของเจ้าตัว แล้วเดินกลับเข้าไปหยิบเข็มขัดตามที่เจ้าตัวแสบต้องการมาให้ จึงได้ฤกษ์ออกเดินทางเสียที

จากคอนโดของคนตัวโต ใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง รถสัญชาติยุโรปคันเดิมก็มาจอดเทียบท่าอยู่ ณ ข้างคณะของคนตัวเล็กกว่าพอดิบพอดี เรียกสายตาทุกผู้รอบบริเวณนั้นให้หันมามองอย่างสนใจอย่างช่วยไม่ได้ ก็ร้อยวันพันปีไม่เคยจะมีรถหรูมาจอดเทียบท่าซักคัน สงสัยวันนี้จะเกิดอาเพศหนักนักแล... แล้วพอไม้ก้าวลงจากรถหรูต้องสงสัย เสียงอื้ออึงจากรอบด้านก็ดังขึ้นอย่างอย่างตกใจระคนสับสนงงงวยราวกับเทอมนี้จะได้มีเอประดับในทรานสคริบกันยกเซค

แค่ได้ยินเสียงจากรอบตัวไม้ก็ฟันธงได้เลยโดยไม่ต้องไปเรียนวิชาหมอดูว่าตัวเค้าจะต้องกลายเป็นหัวข้อสนทนาภาคเช้าของบรรดาสัมภเวสีร่วมคณะภายในสองวินาที นี่ไม่รู้ว่าจะขอบใจหรือตามไปกระทืบถึงที่ดี ที่ทำให้นายพฤกษากลายเป็นคนดังภายในสองวินาที!

แต่พอตัดสินใจเลือกอย่างหลังกำลังจะหันกลับไปด่า จำเลยก็หายเข้ากลีบเมฆไปโดยไวซะแล้ว เลยต้องจำใจสลักแค้นไว้ในใจชั่วขณะ รอวันทบต้นทบดอก!!!

และก็เป็นดังคาด พอเดินมาถึงโต๊ะที่บรรดาลิงทโมนจับจอง เสียงลือเสียงเล่าอ้างก็ดังเจี๊ยวจ๊าวแข่งกันเล่นเอาจับประเด็นไม่ถูกกล่าวไม่ออกกันเลยทีเดียว

“ หยู๊ดดดด!!! พูดทีละคน ” เป็นไม้เองที่ทนไม่ไหว นั่งหน้าบูดให้บรรดานักข่าวกลอสซิปรู้ว่ากูเริ่มไม่ขำ

“ หนุ่มหล่อที่ขับรถแปดหลักผู้นั้นท่านได้แต่ใดมา ” ดูมันรำลิเกมาแต่ไกลเชียว ไม่รู้ว่าตอนนั้นหน้ามืดตามัวเมาออกซิเจนหรือกระไรถึงได้คบเป็นเพื่อนกับมันมาหลายปีดีดักขนาดนี้ได้

“ ชื่อเสียงเรียงนามว่ากระไรโปรดจงแจ้งแถลงไข ” ไอ้จีนี่ก็เอากับเค้าอีกคน เป็นลูกคู่กันดีเหลือเกิน ดูแต่ละคน ไม่บ้าก็ใกล้เคียง

“ พวกมึงอย่ามาลิเก นั่งห่างตั้งสามลี้แล้วรู้ได้ไงว่าไอ้คนขับรถมันหล่อ ”

“ แกอย่ามาดูถูกเรดาห์เฟ้นหาผู้ชายหล่อของฉันนะย่ะ ระดับนี้แล้วสแกนทั่วราชอาณาจักร ” ดูเจ้าแม่การ์ตูนเกย์มันพูดบอกทีว่ามันเป็นผู้หญิง มันน่าภูมิใจ?.....ตรงไหน?

“ ตอบมาเร็วๆไอ้ไม้ อย่ามาเฉไฉ ” แหน่ะ ดันรู้ทันอีก ชิ!

“ เก็บได้จากหอสมุด ไม่รู้ใครเอามาทิ้งไว้ ตอนนี้กำลังหาผู้ใจบุญรับไปเลี้ยงดูปูเสื่อ ว่าแต่แกสนใจรับเลี้ยงมั้ยหล่ะมิ้น? ”

“ ไม่เอาอ่ะ ฉันไม่นิยมแย่งของเพื่อน ” เพื่อนสาวส่ายหัว ส่งยิ้มแบบมีเลศนัยมาให้ ทำเอาหนาวๆร้อนๆชอบกล

“ ไม่สนเหรอกินง่ายนอนง่าย แค่เพดดีกรีวันละสามมื้อเพื่อคุณภาพขนที่เงางามของลูกสุนัข ” ยังโฆษณาไม่เลิก


โป๊ก!!!


“ โอ๊ย! ไอ้จี โขกลงมาได้ เดี๋ยวพ่อก็ทวงเงินห้าบาทที่มึงยืมไปซื้ออมยิ้มจีบครูสมัย ป.สี่ ซะเลยนี่ ” ยกมือขึ้นคลำหัวปอยๆ หน้ามุ่ย

“ เงินนั้นกูคืนไปตั้งแต่ปีมะโว้แล้วเว้ย อย่ามานอกเรื่องไอ้ไม้ ”

“ เออๆ ก็คนที่มาช่วยกูทำรายงานไง ชื่อปกป้อง อยู่ถาปัตปีสี่ ”

“ อ่อ ที่แท้ก็กิ๊กคนนั้นนั่นเอง ” จัดการโบกเกรียนมันไปหนึ่งที ข้อหาปากหมาน่าตืบ “ บอกว่าไม่ใช่กิ๊ก ดูหน้าแม่งหน่อยเหอะ คิดว่าคนอย่างกูจะเอามันมาเป็นกิ๊กเหรอว่ะ ”

“ ใช่ๆ คนหล่อๆรวยๆ สุดเพอร์เฟคอย่างพี่เค้าคงไม่ตาต่ำมาเอาคนเกรียนๆแบบแกเป็นกิ๊กหรอกหว่ะ ”

“ ใช่....เฮ้ย! สัด! ต้องบอกว่าคนมาดแมนแอนด์แฮนซัมเช่นกูไม่เอามันเป็นแฟนเว้ย ”

“ จ้าๆ ” พร้อมใจกันส่ายหัวปลงอนิจจา ทุกขัง อนัตตา

“ ว่าจะถามตั้งแต่เมื่อกี้และ แกจะไปเข้าลัทธิฮิปฮอปที่ไหนว่ะ โย่วๆ ” ไม่พูดเปล่ามิ้นมันโย่วมามือแทบจะทิ่มหน้า

“ ก็ของแม่งมันนั่นแหละ เมื่อคืนไปนอนกับมันมา ” พูดแล้วอารมณ์เสีย ทำไมต้องแพ้ทางมันทุกทีด้วยว่ะ?

แต่ถ้าไม้จะหันมาสนใจถึงสีหน้าของเพื่อนๆซักนิดก็คงจะเห็นทุกคนอ้าปากค้างอึ้ง! โดยถ้วนหน้า

“ โถๆๆ นี่ลูกแม่เป็นสาวแล้วหรือนี่ ถึงแม่จะเตรียมใจไว้แล้วก็เถอะ แต่แม่ก็ยังทำใจไม่ได้อยู่ดี มันเร็วเกินไป ” มิ้นเจ้าเก่าคนเดิมเดินมากอดคนตาแป๋วไม่รู้เรื่องรู้ราว มือลูบหัวลูบไหล่ปลอบประโลมเต็มที่ ทำเอาไม้ถึงกับอึ้ง! นี่มันเป็นบ้าอะไรอีกเนี่ย?

“ ชักจะไปกันใหญ่ นี่ตกลงแกจะเป็นลิเก ฮิปฮอป หรือแม่ฉันกันแน่ว่ะมิ้น ไม่เอาแล้ว ขี้เกียจคุยกับคนบ้าหว่ะ พูดอะไรไม่เห็นเข้าใจ ไปเรียนดีกว่า ” จัดการแกะมือเพื่อนสาวออกแล้วเดินแก้มป่องนำไป ทำเอาเพื่อนๆเก็บของเดินตามกันให้อุตหลุด

คิดว่าเดินหนีแล้วจะได้ผล? ก็เรียนคลาสเดียวกันแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร?!


ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม?
«ตอบ #4 เมื่อ11-08-2012 14:34:29 »

ว๊ายยย ต่อด่วนๆค่ะ

ออฟไลน์ patt02746

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม?
«ตอบ #5 เมื่อ11-08-2012 15:05:23 »

หลังจากนั้นเจ้าของรถเจ้าปัญหาก็มารับมาส่งไม้ทุกวันจนคนขี้เกียจจะเม้าส์ เลิกเม้าส์กันไปเอง พรุ่งนี้ก็กำหนดส่งเล่มรายงานแล้ว เจ้าตัวแสบทำเนื้อหาเสร็จแต่ยังพิมพ์ไม่เสร็จเหลืออีกกว่าสามสิบเปอร์เซ็นต์ โชคดีที่พรุ่งนี้ไม่มีเรียนตอนเช้าอาจารย์งดเซค ถ้าพิมพ์วันนี้กับพรุ่งนี้ก็ยังน่าจะทันอยู่

ตอนนี้ไม้เข้าประจำที่เรียบร้อยตั้งหน้าตั้งตาปั่นรายงานเต็มสปีดเทอร์โบอย่างคนชอบดินพอกหางหมู ถ้าไฟไม่ลนจริงๆไม่มีทางเห็นขยันขันแข็งปานฉะนี้แน่นอน

ไม่รู้ว่าพิมพ์ไปนานเท่าไหร่ รู้สึกตัวอีกทีก็ปวดตาปวดหลังไปหมด เหลือบตาไปมองนาฬิกาหน้าจอคอม เกือบจะตีหนึ่งแล้ว เวลาเหลือน้อยลงทุกทีๆ เหลือรายงานที่ต้องพิมพ์อีกประมาณสิบห้าเปอร์เซ็นต์ สมองก็เริ่มคิดว่าจะพิมพ์ให้เสร็จไปเลยคืนนี้ดี หรือนอนก่อนแล้วค่อยตื่นขึ้นมาพิมพ์ต่อพรุ่งนี้ กำหนดส่งตอนบ่ายโมง พิมพ์วันนี้ให้เสร็จไปเลยดีกว่าแล้วค่อยนอนตื่นสายๆไปส่ง แต่ตอนนี้ขอพักสายตาแป๊บนึงนะ ปวดตาไม่ไหวแล้วจริงๆ

ไม่รู้ว่าไอ้เจ้าของห้องมันหายหัวไปไหน แรกๆก็ขยันมาส่งข้าวส่งน้ำดีอยู่หรอก แต่พอรู้สึกตัวอีกทีก็หายจ๋อย เดี๋ยวกลับมาต้องด่าซักหน่อย ทำงานไม่คุ้มค่าแรง(ซึ่งไม่รู้ว่าคืออะไร)



หนังตาเริ่มหนังขึ้นๆ และในที่สุด....



เอาไว้มาพิมพ์ต่อพรุ่งนี้เช้าแล้วกัน....



สะดุ้งสุดตัวตื่นขึ้นมา รีบควานหานาฬิการอบตัวซะจนแทบจะตกเตียง เห็นโทรศัพท์วางบนโต๊ะข้างหัวนอนไม่รอช้ามือรีบคว้ามากดดูเวลา



เรือหาย!!!!



สิบเอ็ดโมง!!!



รีบตาลีตาลานล้มลุกคลุกคลานไปเปิดโน๊ตบุ๊คอย่างเร็วไว ในใจได้แต่ภาวนาถึงคุณพระคุณเจ้าให้คุ้มครองลูกช้างด้วย ลูกยังไม่อยากแดกเอฟวิชานี้นะครับ อยากได้อะไรขอให้มาเข้าฝัน หรืออยากดูรำแก้บนแก้ล่างเดี๋ยวจะส่งคนหล่อแห่งถาปัตไปให้!



แต่พอบูธเครื่องเสร็จเปิดไฟล์รายงานขึ้นมาก็ต้องถึงกับอึ้งรอบที่สองของวัน!!



รายงานเสร็จสมอารมณ์หมาย สำเร็จเสร็จอย่างสวยงามโดยที่ไม้ได้แต่งง หรือว่า....



คุณพระคุณเจ้าจะได้ยินที่ลูกช้างพูดไปเมื่อกี้แล้วดลบันดาลให้มา โอ้ว มายก็อด!!



จัดการต่อโน๊ตบุ๊คเข้ากับเครื่องปริ๊นเตอร์สั่งปริ๊นโดยไว้ไม่ให้เสียเวลา เมื่อกระทำภารกิจเสร็จก็เดินตรงไปยังห้องๆหนึ่ง เปิดประตูเข้าไปอย่างง่ายดาย ไม่แปลกใจเลยซักนิดถ้าหากว่าวันหนึ่งจะมีพาดหัวข่าวนักศึกษาชายดับอนารถคาคอนโดหรูย่านใจกลางเมือง เหตุเพราะไม่ล็อคห้องส่งผลให้คุณโจรเข้ามาฆ่าชิงศัพท์ขณะที่เจ้าตัวหลับอย่างง่ายดาย

เดินเข้าไปข้างๆคนนอนหลับสนิท เอื้อมมือไปสะกิดเบาๆ ก็ไม่ตื่น... เขย่า ก็ไม่ตื่น..... สงสัยถ้าบ้านไฟไหม้มันคงตายคากองเพลิงโดยที่ยังไม่รู้ตัว เมื่อทนไม่ไหวไม้เลยตัดสินใจกระโดดขึ้นไปนั่งทับพุงอีกฝ่ายแล้วจัดการดึงแก้มซ้ายขวาๆของอีกคน นี่แหน่ะ! ไม่ตื่นให้มันรู้ไป!

แต่พอดึงไปได้สามสี่ที คนที่หลับสนิทไม่มีทีท่าว่าจะตื่นกลับพลิกตัวทำให้ไม้เสียหลักตกลงมานอนบนเตียงภายใต้อ้อมกอดของคนขี้เซา ยังไม่พอ จมูกของอีกคนมันดันมาชนแก้มของเค้าอย่างพอดิบพอดีด้วยนี่สิ

“ ตื่นเดี๋ยวนี่นะ เดี๋ยวฉันไปไม่ทันส่งรายงาน ” ตะโกนกรอกหูมันตรงนี้นี่แหละไม่รู้จะปลุกยังไงแล้ว มาว่าคนอื่นเค้าขี้เซา ตัวเองนั่นแหละขี้เซาอย่าบอกใคร!

“ จูบอรุณสวัสดิ์ก่อนสิ แล้วจะยอมตื่น ” พูดทั้งที่ยังหลับตาพริ้ม

“ เอากำปั้นอรุณสวัสดิ์ก่อนดีม่ะ เช้านี้ฉันยังไม่ได้ออกกำลังกายเลย ” ไม่พูดเฉยๆ กำปั้นที่ว่าทุบลงบนอกอีกคนตั้งแต่ยังพูดไม่ทันจบประโยคดี

“ จ้าๆตื่นแล้วๆ ” อีกคนขยับปล่อยไม้ออกจากอ้อมกอดลุกขึ้นขยี้หัวเหอฟูฟ่องไปหมด ทำเอาคนตัวเล็กกว่าถึงกลับหลุดยิ้มที่คนมาดเนียบก็มีมุมหลุดเก็กกับเค้าบ้าง แบบนี้ดิค่อยสมกับเป็นเด็กถาปัตหน่อย

“ ยิ้มอะไร ไปอาบน้ำได้แล้ว ” ไม่ได้พูดเฉย ยื่นหน้ามาซะใกล้ ไม้ไม่ได้หูหนวกนะไม่ต้องยื่นหน้ามาพูดซะใกล้ขนาดนั้นก็ได้ เลยรีบผลักหน้าอีกคนออกห่างแล้วมุดตัวหนีออกมาจากห้องทันที เดินไปหยิบรายงานที่เครื่องปริ๊นเตอร์เอาไปใส่กระเป๋าแล้วจึงหยิบเสื้อผ้าเข้าไปอาบน้ำ

ดีหน่อยตรงที่หลังจากวันฮิปฮอปเดย์วันนั้นคนข้างๆพากลับบ้านไปเก็บเสื้อผ้า ไม่อย่างนั้นคงมีคนคิดว่าไม้เปลี่ยนแนวทางไปเอาดีทางด้านฮิปฮอปซะแล้ว ถึงจะชอบร้องแร็ฟก็เถอะ วันนี้เลยมายืนหล่อสง่าด้วยเสื้อแขนยาวมีฮู๊ดกับกางเกงยีนต์ขาดๆตามแบบฉบับอยู่หน้าตึกเรียน

“ ฉันรออยู่ข้างล่างนะ ” หันไปพยักหน้าหงึกหงักรับคำคนข้างหลังนิดหน่อยแล้วเดินขึ้นไปส่งงานอย่างเร็วไว

เป็นดังคาด แถวส่งงานยาวเลยไปแปดลี้เกือบจะถึงวันเส้าหลิน เอ...แต่อาจารย์แกก็คล้ายหลวงจีนวันเส้าหลินเหมือนกันนะหัวโล้นๆ ติดอยู่ตรงที่พวกหลวงจีนเค้าคงไม่อ้วนลงพุงกันขนาดนี้มั้ง

ดีที่พอเจ้าพวกแก๊งค์ทโมนมันเห็นไม้ยืนทำหน้าเหรอหราก็กวักมือเรียกกันหยอยๆเป็นสัมภเวสีขอส่วนบุญ เลยเดินตรงไปหามันอย่างไม่ต้องคิดอะไร

“ เฮ้ย เป็นไงมั้งว่ะ แม่งไปขี้ซะนานเชียว พวกกูต่อแถวจนจะถึงอาจารย์อยู่แล้วเนี่ย ” พอเดินไปถึงไอ้จีมันก็ชงมุกอย่างไม่ได้เตี๊ยมกันมาก่อน พูดซะเสียงดัง กะเอาไว้ว่าคงได้ยินกันถึงท้ายแถวนู่น

“ แค่นี้ทำมาเป็นบ่น คนเค้าระบบขับถ่ายดีเว้ย ” ไม้ก็รับมุกสิครับ พูดดังไม่แพ้มัน แต่ว่า....ทำไมต้องให้กูไปขี้ด้วยว่ะ? ว่าแล้วก็แทรกเข้าไปข้างหน้าจีมันอย่างเนียนๆ(เด็กดีไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง) อย่างนี้แหละครับ มีเพื่อนดีเป็นศรีแก่ตัว เรื่องชั่วๆนี่ต้องช่วยกันทำ

พอส่งงานเสร็จแก็งค์ทะโมนก็เดินเรียงแถวหน้ากระดานกันลงมา แต่พอพวกมันเห็นราชรถคันงามพร้อมสารถีจำเป็นยืนรอเจ้าตัวแสบประจำกลุ่มอยู่ใต้ตึกก็พร้อมใจกันเป่าปากส่งเสียงเห่ากันตามประสาหมาที่เจ้าของปล่อยปละละเลย เผลอแป๊บเดียวพวกมันรีบเข้าไปยกมือไหว้ประจบประแจงเจ้าของรถหรูกันใหญ่ เจ้านั่นก็ไม่ว่าอะไรยืนยิ้มจนตาจะปิด

“ อย่างนี้แกก็ไปกับพวกฉันไม่ได้อ่ะดิ อุตส่าห์จะชวนไปถล่มร้านหมูย่างซะหน่อย เล่นมีคนมายืนรอแบบนี้ชวนไม่ออกกันเลยทีเดียว ” ประโยคมันหน่ะตัดพ้อ แต่สายตาวิบวับนี่มันคืออะไรช่วยชี้แจงแถลงไขด้วย ยัยมิ้น

“ ก็ไปซิครับ ไปรถพี่ก็ได้ เดี๋ยวพี่ไปส่ง แล้วเดี๋ยวพี่เดินเล่นแถวนั้นรอ ” เกิดอยากจะเป็นพ่อพระขึ้นมากะทันหันหรือไง?

“ ไม่เอาอ่ะ พวกหนูไม่อยากไปเป็น กอ ขอ คอ งอ จอ ถึง ฮอ นกฮูก ของใครบางคนแถวนี้ ” รีบส่ายหน้าปฏิเสธเป็ยพัลวัน แถมแอบเหล่มาทางนี้เวลาพูดอีกต่างหาก

“ แกหมายถึงใครว่ะ ” ไม่ได้ครับ เรื่องแบบนี้มันต้องให้เคลียร์

“ ไม่รู้ซิ ยังไม่ทันพูดอะไรก็มีคนแถวนี้ร้อนตัวซะแล้ว ” ว่าเสร็จเจ้าตัวคนพูดก็รีบวิ่งหนีพร้อมเพื่อนทั้งกลุ่มที่วิ่งไปหัวเราะไปกันยกใหญ่ ทิ้งให้ไม้ยืนเตะวืดอยู่กับไอ้พ่อพระนี่สองคน

“ หึ หึ ” หันไปเห็นคนตัวโตยืนหัวเราะยิ่งอารมณ์ขึ้น เดินเข้าไปชนแล้วเปิดประตูรถเข้าไปนั่งเสร็จศัพท์ เมื่อเห็นอีกคนยังไม่มีทีท่าจะขยับเลยต้องเปิดกระจกมาแว้ดอีกรอบ รถคันหรูถึงได้เคลื่อนที่ออกจากหน้าตึก

หลังจากเดินเถียงเรื่องร้านอาหารกันมาเกือบครึ่งชั่วโมงสุดท้ายจึงมาจบที่ร้านหม้อไฟแห่งหนึ่ง ระหว่างที่คีบเนื้อเข้าปากไปเรื่อยๆ อยู่ๆไม้ก็นึกถึงคำถามที่ยังติดค้างเพื่อนสาวขึ้นมา เงยหน้ามองหน้าคนข้างหน้าที่กำลังคีบหมูเข้าปาก

“ นี่นาย ถามไรหน่อยดิ ” หลุดปากพูดออกไปทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจซักนิด แล้วก็ต้องมาตกใจกับตัวเอง มองหน้าอีกคนที่เงยหน้าขึ้นมาเลิกคิ้วใส่ก็ตัดสินใจถามออกไป เผื่อว่ามันอาจจะรู้ก็ได้ จะได้เอาไปคุยโม้กับยัยมิ้นซะที ให้มันรู้ซะบ้างว่าไม่เกินความสามารถของคนอย่างนายพฤกษาหรอก

“ นายว่า ความรักคืออะไรอ่ะ? ” ดูคนตรงหน้าจะตกใจมากกับคำถามที่เค้าถาม อ้าปากค้างซะจนเห็นไปถึงหลอดลม

“ นึกยังไงถึงถามเนี่ย? ”

“ เปล่า ก็แค่ยัยมิ้นมันถามมาแล้วฉันตอบไม่ได้ ยัยนั่นก็เลยเยาะเย้ยฉันใหญ่ ”

“ แล้วนายตอบไปว่ายังไง? ”

“ ก็ตอบไปว่า คือคนรักกัน ”

“ แล้วเค้าว่าไงมั้ง ”

“ มันก็บอกว่าผิด แล้วก็บ่นๆอะไรไม่รู้ ให้ฉันตามหาหัวใจอะไรเนี้ยแหละ พูดอะไรก็ไม่รู้ ไม่เห็นจะรู้เรื่อง ” พูดแล้วก็ขมวดคิ้วตาม แล้วเค้าจะไปตามหามันที่ไหนหล่ะเนี้ย ไอ้หัวใจอะไรนั่นหน่ะ

“ สำหรับฉัน ความรักก็คือ การได้เฝ้ามองคนสำคัญ ” เผลอเงยหน้าขึ้นมาสบตามันพอดี เลยต้องเจอกับสายตาวิบวับแบบครั้งแรกที่เจอกันอีกแล้ว มันเหมือนจะแปลออกแต่ก็ยังไม่ออก

“ เอ่อ รายงานนั่นนายเป็นคนทำจนเสร็จใช่มั้ย? ” หน้าร้อนผ่าวๆจนต้องหลุบตาลงแล้วเฉเปลี่ยนเรื่อง

ไม่มีคำตอบจากคนที่เอาแต่ทำเป็นคีบนั้นคีบนี้เข้าปากไม่สนใจ

“ ฉันจำได้ว่าก่อนฉันจะเผลอหลับฉันยังทำไม่เสร็จ แต่พอตื่นมาเปิดดูมันกลับเสร็จแล้ว ฝีมือนายใช่มั้ย? ”

“ นายจำผิดเป...ล.. ”

“ ขอบคุณ ” ไม่รู้ทำไมปากมันไปไวก่อนสมองสั่งอีกแล้ว

ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่เหมือนไม้เห็นคนตรงหน้าทำท่าจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม แปลกคน....

พอกินกันเสร็จอีกคนก็เรียกพนักงานมาเก็บเงิน แน่นอนว่าคนแก่กว่าต้องเป็นคนเลี้ยง ก็อยากบ้านรวยจนหน้าหมั่นไส้ทำไมหล่ะ อยากกินร้านนี้ก็จ่ายไปซะดีๆ แล้วไม้ก็นึกเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งออก

“ ว่าแต่นายยังไม่บอกฉันเลยนะว่าตกลงนายจะให้ฉันตอบแทนนายยังไง ” ระหว่างที่รอพนักงานคิดเงินไม้ก็จัดการเคลียร์ซะเลย คนอย่างนายพฤกษาบุญคุณต้องทดแทนแค้นต้องชำระ บอกแล้วว่าไม้โคตรแมนอ่ะ


มันทำท่าคิดหนัก



หนึ่งนาทีผ่านไป



สองนาทีผ่านไป



“ ถ้ายังคิดไม่ออกฉันไม่ให้แล้วนะเว้ย ” บอกแล้วว่าคนอย่างไม้โคตรแมน!



แล้วอยู่ๆมันก็เอื้อมมือเอานิ้วมาจิ้มตรงอกข้างซ้ายของคนตัวแสบ



“ ฉันขอแค่หัวใจนาย นายเต็มใจให้ฉันได้มั้ยหล่ะ ” พูดประกอบท่าทางเต็มสตรีม ไม้ไม่ใช่คนโง่ทำไมจะไม่รู้ว่ามันหมายความว่ายังไง




“ งั้นรอฉันตายก่อนนะ เดี๋ยวจะทำพินัยกรรมบริจาคทิ้งไว้ให้ ” ปากพูดไปแบบนั้นแต่ทำไมมันต้องร้อนๆทั้งตัวด้วยว่ะ



มันถอนหายใจเฮือกใหญ่ พอดีกับที่พนักงานเอาเงินทอนมาให้ เสร็จแล้วคนตัวโตก็มาส่งไม้ที่บ้านแล้วขับรถกลับไปทันที



ไม่รู้ทำไม คนตาแป๋วถึงรู้สึกโหว่งๆแบบนี้นะ....

........................................................

หลังจากนั้นก็ไม่ได้พบกันอีกเลย ไม้ก็กลับเข้าสู่สภาวะลัลล้าตามเดิมเนื่องจากสเตตัสปั่นรายงานนรกได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ไม่รู้ทำไม สีหน้าและแววตาที่คนตัวสูงส่งมาตอนที่มาส่งที่บ้านถึงยังคงติดตาติดสมองไม้ถึงตอนนี้

“ ม้...ไม้...ไอ้ไม้...ไอ้เหี้ยไม้!!! ” ไม่ตะโกนเปล่ามันจัดการตบหัวเรียกสติทำเอาคนเหม่อแทบหน้าทิ่มโต๊ะ ดีนะติดเบรกเอบีเอส ไม่งั้นดั้งหัก

“ มีไรว่ะมินอา ” หันไปมองหน้าคนโบกอย่างเอาเรื่อง

“ เรียกซะสิบชาติกว่า ดีหน่อยที่ชาติที่สิบเอ็ดมันยังขานรับ ” ว่าแล้วก็เหน็บ บอกทีว่าแม่งเป็นผู้หญิง นี่ชาววายเค้าควายเหมือนยัยนี้กันทุกคนหรือเปล่าว่ะ?

“ บ่นมาก มีไรว่ามา ”

“ อารมณ์เสียเหมือนเมนไม่มา อ่อ ลืมไป ไม่ใช่เมน แต่เป็นแฟนไม่มา ” หันไปค้อนคนพูดสองขวับสามขวับ เรื่องอะไรเค้าต้องมาหงุดหงิดด้วยเรื่องแค่ไม่เห็นหน้าไอ้รุ่นพี่ถาปัตนั่นมาสองอาทิตย์แล้วด้วย

“ เปล่าซะหน่อย ”

“ แกไม่ต้องมาปากแข็งเลยเหอะ ตั้งแต่พี่เค้าไม่มาหา แกรู้ตัวป่ะ ว่าแกนั่งเหม่อวันละไม่ต่ำกว่าสิบรอบ ”

“ อะไร อย่ามาเว่อร์ ฉันไปนั่งเหม่อตอนไหนกัน ” พูดซะเสีย ไม้นี่นะนั่งเหม่อ!?

“ เมื่อกี้คือตัวอย่างเหตุการณเพิ่งผ่านมาสดๆร้อนๆ ทุกคนเค้าเป็นห่วงแกนะเว้ย เลยต้องไล่ฉันมาคุยกับแกเนี่ย ”

“ คุยเรื่องอะไร ไม่เห็นมีเรื่องอะไรน่าคุย ”

“ เรื่องรุ่นพี่ถาปัตนี่แหละน่าคุยที่สุด ” ว่าแล้วสาวเจ้าก็จับตัวแสบประจำกลุ่มหันมานั่งประจันหน้ากับเธอ ตาจ้องตา สายตาก็จ้องมองกัน รู้สึกเสียวซ่าน จุ๊กกรู๊!

“ ไม่เห็นมีไรต้องคุย ” ว่าจะบอกปัดเสียงแข็งเพราะไม่มีอารมณ์คุย แต่ทำไมเสียงที่ออกมามันอ่อนๆว่ะ? บอกทีว่านั่นไม่ใช่เสียงนายพฤกษา

“ เล่าเหตุการณ์วันส่งรายงานมา ” เจาะตรงประเด็นจนไม้ถึงกับสะดุ้ง เสหลบตา

“ มันไม่มีอะไรหรอก ”

“ หลังจากวันนั้นแกก็มีอาการเหมือนคนใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เหมือนไม่ใช่ไอ้ไม้ที่ฉันรู้จัก แกไม่ต้องมาเฉไฉ เล่ามา เอาแต่เนื้อๆด้วยน้ำไม่ต้อง ขอแบบแห้ง ”

“ อ่ะๆ นี่เห็นแก่ต่อมเสือกของแกที่ทำงานดีเริศหรอกนะ ฉันถามเค้าว่า เค้าต้องการอะไรตอบแทนที่มาช่วยฉันทำรายงาน แกก็รู้ใช่ป่ะเรื่องข้อตกลงระหว่างฉันกับเค้าอ่ะนั่นแหละ ” ตัดสินใจเล่า ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน บางทีถ้าหากพูดออกไปซะบ้า คนตาแป๋วอาจจะรู้สาเหตุของอาการโหว่งๆที่กำลังเป็นอยู่นี่ก็ได้

“ แล้วไงต่อ ”

“ เค้าบอกว่าเค้าอยากได้หัวใจฉัน ถ้าฉันเต็มใจให้ ”

“ แล้วแกตอบไปว่าไง ” สายตามันวิบวับแวววาวอย่างคนเจอเรื่องที่สนใจ อยากรู้อยากเห็นเต็มที่

“ ฉันก็ตอบไปว่า รอฉันตายก่อนแล้วจะเขียนพินัยกรรมบริจาคทิ้งไว้ให้ ” เท่านั้นแหละ ชีโบกไม้ซะหัวคมำกระแทกโต๊ะดังโป๊กแบบเบรคเอบีเอสก็เอาไม่อยู่ เอามือลูบหัวปอยๆ ไม่รู้จะโนหรือเปล่า ผู้หญิงนี่ช่างน่ากลัวดีแท้

“ ฉันไม่รู้จะด่าแกยังไงแล้วเนี่ย ทำเอาพูดไม่ออก ฉันรู้ว่าแกไม่ใช่คนโง่ที่จะตีความคำพูดนั้นไม่ออก แต่แกแค่ไม่อยากจะเข้าใจมันเองต่างหากเลยต้องเฉไฉไปแบบนั้น ”

คำพูดของมิ้นทำให้รู้สึกเหมือนมีใครเอาค้อนมาทุบหัวซ้ำยังไงยังงั้น ใช่ ไม้เข้าใจทุกอย่างแต่แค่ไม่กล้า...ไม่กล้าที่จะรับรู้....ไม่กล้าที่จะรู้สึก

“ แกจำที่ฉันบอกแกได้มั้ย ว่าถ้าหากจะหาความหมายว่ารักคืออะไร แกจะต้องตามหาหัวใจตัวเองให้เจอก่อน ฉันว่าตอนนี้แกตอบคำถามของฉันได้แล้วหล่ะ ถ้าแกกล้าพอที่จะยอมรับความรู้สึกตัวเอง ความรัก...คืออะไร ”

ไม้ได้แต่นั้งนิ่ง....สายตาส่อแววของความสับสนเต็มเปี่ยม



“ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าความหมายที่แท้จริงของความรักมันคืออะไร แต่ถ้าถามฉันตอนนี้... ”



ไม้หลับตาลงช้าๆ ภาพเหตุการณ์ต่างๆที่ทำร่วมกันมาย้อนเข้ามาหมุนเวียนซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น มันทำให้ยิ้ม...ยิ้มออกมาแบบไม่รู้ตัว



ถ้าเค้ากล้า...




กล้าที่จะยอมรับความรู้สึกของตัวเองซักที...มันจะผิดมั้ย?




“ ฉันบอกได้แค่ ความรักของฉันตอนนี้ ก็คือ..........เค้า ”



หญิงสาวไม่พูดพร่ำทำเพลง จัดการโบกหัวสวยๆไปอีกหนึ่งที แต่ใบหน้ากลับระบายยิ้มอ่อนๆอย่างคนเอ็นดู

“ ในเมื่อรู้แล้วก็ไปซิ ไปบอกเค้า ถ้าเค้าไม่มาหา เราก็ไปหาเองซะก็สิ้นเรื่อง ทำตัวเยาะแยะแบบนี้ไม่สมเป็นนายพฤกษาที่ฉันรู้จักเลยหว่ะ สมัยนี้พูดชายดีๆหายากนะเว้ย อย่าปล่อยให้หลุดมือเชียวหล่ะ พวกฉันขี้เกียจมานั่งดูแกน้ำตาเช็ดหัวเข่า ”

มันจัดการฉุดไม้ทั้งผลักทั้งดันให้เดิน นี่ถ้ามันถีบได้มันคงถีบไปแล้ว เค้าก็เลยต้องจำใจเดินไปอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งที่ไม่เต็มใจแต่ขากลับก้าวไวอย่างผิดสังเกตจนเกือบจะกลายมาเป็นวิ่งอยู่ร่อมร่อ

สองขาหยุดยืนอยู่หน้ารถยุโรปคันเดิมที่จำได้ขึ้นใจเพราะไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ว่าจะต้องไปหาที่ไหน ไปตรงไหนถึงจะเจอ เค้าชอบไปที่ไหน ไม่รู้ซักกะอย่าง เลยทำได้อย่างเดียวคือยืนรออยู่ตรงนี้ หวังว่าคนตัวสูงคนนั้นคงจะมาเร็วๆนะ





ยกนาฬิกาข้อมือเรือนเก่งขึ้นมาดูรอบที่ล้านแปด ผ่านไปจะสองชั่วโมงแล้ว ทำไมยังไม่ออกมาอีกนะ นี่ก็เย็นมากแล้วไม่น่าจะมีเรียนอีก แต่ทำไมคนที่รอถึงยังไม่มาซักที คนอย่างไม้ใช่ว่าจะความอดทนสูงขนาดหนัก ที่ทนยืนรอมาได้เกือบสองชั่วโมงนี่ก็อะเมซิ่งต่างแดนจะแย่แล้ว ในที่สุดก็ทนความเมื่อยไม่ไหวเดินไปหามุมดีๆนั่งนวดขาตัวเองไปพลาง สายตาก็คอยสอดส่องไปพลาง กลัวว่าจะคลาดกันซะก่อน

นั่งไปได้ซักครู่เสียงพูดคุยก็ดังขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเสียงที่ไม้จำได้ขึ้นใจอย่างน่าประหลาด เหลือบสายตาไปดูเห็นกลุ่มคนประมาณสี่ห้าคนเดินตรงมาทางนี้โดยที่หนึ่งในนั้นมีคนตัวสูงที่ไม้กำลังรออยู่เดินยิ้มน้อยๆรวมอยู่ด้วย จะว่ายังไงดี มันดูโทรมแบบแปลกๆ ดูไม่เหมือนคุณชายสุดเนี้ยบคนเดิม ทำเอาใจหาย

พวกเค้าล่ำลากันซักพัก คนตัวสูงก็เดินแยกห่างออกมา ตรงมาที่รถโดยเดินผ่านที่ที่ไม้นั่งไปอย่างไม่ทันสังเกต เป็นเค้าอีกนั่นแหละที่ต้องเดินแกมวิ่งไปจนประชิดตัวแล้วดึงชายเสื้อคนข้างหน้าเบาๆสองสามที




“ พี่ๆ สนใจมาสอนผมว่าความรักคืออะไรมั้ย? ” คนตัวสูงหันมาแล้วทำหน้าอึ้ง จ้องไม้ที่ยืนยิ้มแฉ่งนาน นานมาก คนตัวเล็กทนไม่ไหวเลยหมุนตัวกลับ เดินออกห่างมา

“ ไม่สนใจก็ไม่เป็นไร ไปหาคนอื่นก็ได้เชอะ!! ”

แต่เดินไปยังไม่ทันถึงสามก้าวก็มีแขนขาวทว่าแข็งแกร่ง มาตวัดรอบเอวดึงคนใจร้อนแต่หน้าแดงแจ๋เข้าไปอยู่ในอกอุ่น

“ สนใจซิ แต่ว่า ถ้าจะให้พี่สอนเรื่องความรักมันคงต้องใช้เวลาทั้งชีวิตนะ เราเต็มใจจะเรียนหรือเปล่าหล่ะ ” กระซิบข้างหูแดงๆนั่นเบาๆแล้วตามมาด้วยเสียงหัวเราะในลำคอ

“ เอางั้นก็ได้ ว่ายังไงก็ว่าตามกัน ยังไงก็คงไม่มีใครรับสอนอีกแล้วหล่ะมั้ง แต่บอกไว้ก่อนนะว่าลูกศิษย์คนนี้ดื้อนะจะบอกให้ ” คนโดนกอดยกยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมาโชว์รอยบุ๋มสองข้างบริหารเสน่ห์

“ ดื้อยังไงก็ไหว ว่าแต่เริ่มเรียนเลยมั้ย บทแรก สอนเรื่องจูบก่อนเลยดีกว่า ” คนตัวโตทำหน้าเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่า ยิ้มทีปากเกือบจะฉีกถึงรูหู ผิดกับคนที่ทำหน้าซึมๆตอนเดินมาลิบลับ

“ มันไม่ข้ามขั้นเร็วไปหน่อยเหรอไงห่ะ ”

“ ไม่หรอก พี่ว่ามันช้าไปด้วยซ้ำ ”



อย่าคิดว่ารู้ไม่ทันนะจะบอกให้ ไม้ฉลาดจะตาย แต่...



“ ว่าไงก็ว่าตามกัน ”

ที่ยอมก็เพราะว่าเป็นคนตรงหน้านี้หรอกนะ

สิ้นคำ หน้าคนตัวโตก็ค่อยๆโน้มลงมา ค่อยๆแตะริมฝีปากลงที่มุมปากอิ่มของคนตัวเล็กกว่า กดจูบลงไปช้าๆ แล้วค่อยๆเขยิบเข้ามาครอบครองเปิดปากอิ่มควานหาความหอมหวานจากคนตัวเล็กกว่าจนเจ้าของปากอิ่มต้องกำเสื้อตรงอกของอีกคนแน่น

นี่กะจะฆ่ากันให้ตายเลยใช่มั้ย นายปกป้อง?!




พอละริมฝีปากออกจากกันก็ระเบิดเสียงหัวเราะทั้งคู่อย่างไร้เหตุผล รู้แค่ว่าตอนนี้ ณ ขณะนี้อยากหัวเราะให้กันและกัน







ความรักคืออะไร...






ถ้าถามตอนนี้ไม้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความรักคืออะไร คิดว่าคงต้องศึกษาอีกเยอะกว่าจะได้รู้ว่าความหมายที่แท้จริงของมันคืออะไร



จากคนข้างๆนี่อ่ะนะ...




ตลอดชีวิต




พูดเองก็เขินเองหว่ะ -////-




…………….END…………………….

ออฟไลน์ Deeli

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบ!!
«ตอบ #6 เมื่อ11-08-2012 15:40:03 »

ซึ้งอ่าาา ขอตอนพิเศษหน่อย

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบ!!
«ตอบ #7 เมื่อ11-08-2012 17:42:09 »

ชอบผู้ชายแบบนายปกป้องจัง  :o8:

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบ!!
«ตอบ #8 เมื่อ11-08-2012 18:10:46 »

พี่ป้องกับน้องไม้ น่ารักๆๆจัง
พี่ป้องดูเป็นผู้ใหญ่ อบอุ่น แสนดี เข้ากับน้องไม้ที่ซนๆกวนๆ
แหม แอบอยากให้มีต่ออีกนิดจัง (แอบโลภ)


ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบ!!
«ตอบ #9 เมื่อ11-08-2012 18:22:35 »

และแล้วไม้ก็เปิดใจที่จะเรียนรู้ความรัก
พี่ปกป้องน่ารักจัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบ!!
« ตอบ #9 เมื่อ: 11-08-2012 18:22:35 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบ!!
«ตอบ #10 เมื่อ11-08-2012 18:42:48 »

น่ารักมากๆเลย o13

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบ!!
«ตอบ #11 เมื่อ11-08-2012 19:54:52 »

น่ารักมากคู่นี้

 :-[

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบ!!
«ตอบ #12 เมื่อ11-08-2012 20:47:14 »

ค่อยๆเรียนรู้
ค่อยๆรักกันไป

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบ!!
«ตอบ #13 เมื่อ11-08-2012 20:55:19 »

อยากได้แบบพี่ป้องอ่า ต้องไปหาที่ไหน

น่ารักมากเลยค่ะ ชอบมากกกกกกกก อ่านแล้วเขินโคตร

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบ!!
«ตอบ #14 เมื่อ12-08-2012 01:01:09 »

 :กอด1:

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบ!!
«ตอบ #15 เมื่อ12-08-2012 01:34:46 »

ขอแปะไว้ก่อน เดี๋ยวจะมาอ่านทีหลังนะ

ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบ!!
«ตอบ #16 เมื่อ13-08-2012 20:47:26 »

 :L1:

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบ!!
«ตอบ #17 เมื่อ14-08-2012 16:37:46 »

อร๊ายยยยยยยย

น่ารักมากๆ  :-[

ออฟไลน์ ΩPRESTOΩ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-1
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบแล้ว!!
«ตอบ #18 เมื่อ16-08-2012 21:35:39 »

มาบวก มาเป็ด
ให้กับความน่ารักของพี่ปกป้องและน้องพฤกษา
 :pig3:

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบแล้ว!!
«ตอบ #19 เมื่อ16-08-2012 22:29:47 »

น่ารักค้าบบบ

น่าจะยาวกว่านี้

ขอตอนพิเศษ อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบแล้ว!!
« ตอบ #19 เมื่อ: 16-08-2012 22:29:47 »





ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบแล้ว!!
«ตอบ #20 เมื่อ18-08-2012 21:11:54 »

อยากได้แบบนี้บ้าง

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบแล้ว!!
«ตอบ #21 เมื่อ19-08-2012 18:39:59 »

 :-[

ออฟไลน์ nco1236

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบแล้ว!!
«ตอบ #22 เมื่อ19-08-2012 21:24:40 »

ขอบคุณครับ...แก้เครียดดี

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบแล้ว!!
«ตอบ #23 เมื่อ20-08-2012 09:45:26 »

น่ารักมากกกก o13
 อยากอ่านตอนพิเศษอ่ะ :laugh:
จะมีไหมน้อ :-[

ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 951
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบแล้ว!!
«ตอบ #24 เมื่อ20-08-2012 10:29:29 »

พี่ปกป้องกะน้องไม้น่ารักดี

ออฟไลน์ maykiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบแล้ว!!
«ตอบ #25 เมื่อ21-08-2012 22:51:52 »

~~~~อ่อย~~~~ ใจจะละลาย น่ารักโครตๆ น้องไม้กะพี่ป้อง อ๊ายยยย >///< ไม่ไหวแล้ว เขิน

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบแล้ว!!
«ตอบ #26 เมื่อ24-08-2012 04:02:41 »

น่ารัก

rakna

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบแล้ว!!
«ตอบ #27 เมื่อ24-08-2012 08:32:20 »

น่ารักอ่ะ ชอบๆ น่าจะมีตอนพิเศษน่ะค่ะ

ออฟไลน์ kamikame

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบแล้ว!!
«ตอบ #28 เมื่อ25-08-2012 09:09:42 »

น่ารักมากมาาย อิอิ ^^"

ออฟไลน์ mellowshroom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 976
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
Re: [เรื่องสั้น] คำถาม? จบแล้ว!!
«ตอบ #29 เมื่อ06-10-2012 23:59:14 »



น่ารักอ่ะ อ่านไปเขินไป .. :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด