Unbelievable Love [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ขอฝากหน่อย - ซาวเสียงคนที่อยากให้รวมเล่ม 'เป็นได้แค่ตัวแทน' และ 'ตัวจริงคือเธอ' อีกรอบ

รวมเล่ม
156 (88.1%)
เรื่องไรวะ ไม่รู้จัก 555+ (ดูที่ลายเซ็นคนเขียน)
21 (11.9%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 152

โพลล์

รบกวนโหวตรวมเล่ม Unbievable+Unintentional อีกครั้ง TT_TT ขอโทษๆๆๆ

Unbelievable only
21 (8.5%)
Unintentional only
10 (4%)
Unbelievable + Unintentional
217 (87.5%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 218

ผู้เขียน หัวข้อ: Unbelievable Love [END]  (อ่าน 850264 ครั้ง)

ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #210 เมื่อ16-09-2012 19:19:26 »

เลย์น่ารักจัง
 :กอด1: :pig4:

ออฟไลน์ JingJing

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-2
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #211 เมื่อ16-09-2012 19:23:55 »

กรี๊ดไม่ได้อ่านหลายวัน เป็นแฟนกันแล้ว :-[

อยากได้หวานๆ ขอน้ำตาลให้คนอ่านอีกหน่อยน้าา :impress:
ปล.เล่มันก็น่ารักเนอะ

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #212 เมื่อ16-09-2012 19:38:08 »

เรื่องน่ารักดีค่ะ

ออฟไลน์ dimth

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #213 เมื่อ16-09-2012 20:12:50 »

น่าัรักอ่ะ :-[

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #214 เมื่อ16-09-2012 20:30:17 »

น้องพุกับพี่เล่ย์

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #215 เมื่อ16-09-2012 20:52:31 »

จะได้หวานกันซักกี่วันน้อ ถ้าพี่แพทมาจะเป็นเรื่องรึเปล่าก็ไมรู้ เพราะดูท่าที่เขาจะคิดกับพุเกินกว่าพี่น้องรหัสนะ

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #216 เมื่อ16-09-2012 22:21:05 »

น่ารักมากๆหวานนน

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #217 เมื่อ16-09-2012 23:31:58 »

เค้าเป็นแฟนกันแล้วแหละ อ๊าย น่ารักจังเลยตัวเองทั้งสองคน
แถมมีเพื่อนหน่วยสังเกตการณ์คอยแซวตลอดอ่ะ
แต่ก็นะพวกนี้นี่กลัวเกรงแต่เล่ย์ ไม่เห็นกลัวพุเลย(ก็พุมันน่ากลัวเสียที่ไหน ฮ่าๆ)
โอ้ เฮียแพทใกล้จะมาถึงแล้ว งี้เจอกันเล่ย์คงจะจำกันได้ว่าครั้งแต่ก่อนเก่าเราเคยเจอกัน
แถมตอนนี้เฮียยังช้าไปหลายก้าวหลายกิโลแล้วนะ พุเค้ามีเจ้าของแล้วจ้ะ

little_nok

  • บุคคลทั่วไป
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #218 เมื่อ16-09-2012 23:36:17 »

เป็นแฟนกันง่ายดีเนอะ
พุก็ยอมเขามาตั้งแต่แรกแล้วนิ
เล่ย์เหมือนมีปมปัญหาในชีวิต
คนนี้นี่แหละพระเอกตัวจริง
เป็นแพทไปไม่ได้ โคตรจะเรื่อยเฉื่อยแฉะ

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #219 เมื่อ16-09-2012 23:37:14 »

โฮววววววว
กลิ่นอายความเขิน กระจายมาถึงนี่
น่ารักไปนะเลย์ ><
ชอบอ้ะ ,,
แล้วเฮียแพทนี่ยังไงนะ จะมาตอนไหน
เจอกันหน่อย หุหุ ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
« ตอบ #219 เมื่อ: 16-09-2012 23:37:14 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ineverlove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-4
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #220 เมื่อ16-09-2012 23:59:21 »

รอๆ ชอบอะ น่ารัก เรื่อยๆ ดี

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #221 เมื่อ17-09-2012 00:34:11 »

พี่แพทแห้วไปเนอะ  เค้าเป็นแฟนกันแล้วววว

แต่น้องพันยังว่างนะพี่แพท   :teach:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #222 เมื่อ17-09-2012 09:07:57 »

เป็นแฟนกันแล้วแบบพุไม่รู้ตัว  ถ้างั้น  จัดพี่แพทมาได้แล้ว
อยากดูปฏิกิริยาของเล่ย์กับพี่แพทบ้าง  ถ้าจะมันส์  หุ หุ

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #223 เมื่อ17-09-2012 10:04:22 »

เป็นแฟนกันแล้ววววววว

ออฟไลน์ xeruoh

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #224 เมื่อ17-09-2012 10:40:18 »

พี่เล่ย์จะน่ารักไปไหนนน ?  :z10: :z10:
ชอบเวลาพี่เล่ย์อยู่กับพี่พุมากกกกกกกกก
น่ารัก หวานนนนนนนน ชอบอ้ะ !!
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:


ขอร้อง จากใจ อย่าหักมุมนะคะ TT  :m15:

มาอัพไวๆน่าาาาาาาาาาาาาาาาา  :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #225 เมื่อ17-09-2012 11:31:35 »

หวานวันละนิดจิตแจ่มใส

เล่ย์เท่มาก!!!

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #226 เมื่อ17-09-2012 11:37:43 »

ฮิ้ววววว!!! ชอบเรื่องนี้
อ่านไปยิ้มไป มีความสุข
เล่ย์นายมันพระเอกมั่กมาก
เนียนสุดยอดได้ใจสุดๆ
    กดบวกให้พัน มีน้องงี้รักขาดใจดิ้น
อยากให้เกียร์มาไวๆ จะได้เจอพันทิวาคนเก่ง
     ปล่อยเป็ดให้คนเขียนน่ารักสีรุ้งสดใส จะได้อ่านต่อไวๆ
เป็น-แฟน!
เป็น-แฟน!
เป็น-แฟน! (ชูป้ายไฟ)

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #227 เมื่อ17-09-2012 11:47:25 »

พี่เล่ย์ก็ ชอบให้เพื่อนแซวให้มั๊ยล่ะ
เห็นบ่นแทนพุ แต่ยิ้มทุกครั้งเถอะค่ะ 555

ออฟไลน์ sulsul

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #228 เมื่อ17-09-2012 18:10:20 »

หวานนิดหวานหน่อย
เดวเฮียมา จะกลายเ่ป็นสงครามแน่ๆ
เพราะงั้นขอหวานเยอะๆนะค่าาาา หึึหึ

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #229 เมื่อ17-09-2012 22:02:20 »

เรื่องนี้หวานแบบมึนๆ นายเอกรั่วตลอดเวลา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
« ตอบ #229 เมื่อ: 17-09-2012 22:02:20 »





ออฟไลน์ xeruoh

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #230 เมื่อ17-09-2012 22:05:07 »

รออัพน้าาาาาาาาาาาาาาา ><  :z2: :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ bytoey

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 865
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +197/-3
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #231 เมื่อ17-09-2012 23:30:27 »

ชอบค่ะ สนุกดี

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
Re: Unbelievable Story : Chapter 6 - 16 Sep 12
«ตอบ #232 เมื่อ17-09-2012 23:39:50 »

มารอน้องพุ
><

ออฟไลน์ rainbow67

  • Life is like a rainbow. You need both the sun and the rain to make its colors
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +763/-15
Unbelievable Love : Chapter Ten
«ตอบ #233 เมื่อ18-09-2012 00:26:35 »

UNBELIEVABLE LOVE

Chapter Ten

 

 

สองวันผ่านไป ขณะที่พวกเรากำลังล้อมวงกินข้าวกลางวันกันอยู่…

“อันนี้อะไรวะพุ อร่อยดีว่ะ” ไอ้เดียวถาม พร้อมชี้ไปที่ถ้วยพริก

“พริกมะเขือ” สูตรแม่ผมเองครับ ใช้มะเขือเปราะทำ ตำแล้วก็เอามาผัดกับหอมและใบโหระพา... เครื่องมันน่าจะมากกว่านี้นะ แต่จำได้แค่นี้

ไอ้เอ้ลองชิมบ้าง “เออ เดี๋ยวขอสูตรไปให้แม่หน่อยสิ อร่อยดี”

“ถามแม่โน่น ทำไม่เป็นเหมือนกัน” แม่เพิ่งกลับมาพอดีครับ ทันทำพริกมะเขือเป็นกับข้าวมื้อกลางวันให้พวกผม แต่แม่กับพ่อไม่กินด้วย บอกยังอิ่มอยู่

“เออ กูรู้ ไม่คิดจะหวังอะไรจากมึงเล้ยจริงๆ” ไอ้เอ้ประชด

ผมหยิบมะเขือในจานผักเตรียมปาใส่มัน แต่นับว่าชะตามันยังไม่ถึงฆาต เสียงเพลงจากมือถือผมช่วยชีวิตไว้พอดี

“ครับ”

[เออ กำลังไปนะ เตรียมห้องไว้ด้วย สี่คน] เสียงเฮียแพทครับ สี่คนเลยเหรอ จะมีห้องให้นอนมั้ยเนี่ย

“แล้ว อีกสามคนเป็นใครอะ”

[ไอ้พิท จ๋า แล้วก็อาย เพื่อนจ๋า]

“อ้าว นึกว่าพี่พิทไปเชียงใหม่แล้ว”

[มันเปลี่ยนใจ จะแวะนี่ก่อน]

“อืม… แล้วเฮียมาไงอะ ขึ้นเครื่องหรือว่าขับรถมาเอง”

[ขับรถ]

“โอเค… ตอนนี้ถึงไหนแล้วอะ”

[ถึงหนองบัวแล้ว]

“แล้วมากันตั้งแต่กี่โมง”

[สิบโมงกว่าๆ]

“ไวอะ แล้วใครขับรถ เฮียหรือพี่พิท”

[ไอ้พิท]

“มาถูกใช่มั้ย”

[ถูก ไม่เกินบ่ายสอง น่าจะถึง]

“โอเค… แล้วกินไรกันมายัง”

[รอไปกินบ้านมึงนั่นแหละ]

“โอเค เดี๋ยวจะได้เตรียมไว้ให้”

[หึ หึ กูพูดเล่น กินกันก่อนขึ้นรถแล้ว]

“อ้าว แต่ผมจะเตรียมไว้จริงนะ”

[เออๆ เตรียมไว้เหอะ เดี๋ยวไปกิน หิวอีกแล้วเนี่ย]

“โอเค”

[แล้วมึงกำลังทำไรอยู่]

“กินข้าว”

[อ้าว แล้วก็ไม่บอก งั้นไปกินต่อเหอะ ใกล้ถึงแล้วจะโทรไป]

“ครับ บายครับ”

[บาย] ผิดคาดวุ้ย มีบอกลาก่อนวางด้วย

 

เมื่อของคาวหมดและกำลังต่อด้วยของหวานผมก็บอกกับชาวคณะ

“เดี๋ยวลุงกับพี่รหัสเราจะมา สี่คน ต้องนอนเบียดๆ กันหน่อยนะ”

“มาวันไหน” ไอ้เดียวถามทั้งๆ ที่ยังมีวุ้นคาอยู่ในปาก

“วันนี้แหละ กำลังมา”

“ลุงรหัส? ใช่คนที่ทำให้มึงเครียดจนต้องไปกินเหล้าที่พัทยาป๊ะ” ไอ้เอ้ถาม

ผมพยักหน้า รอจนกลืนขนมลงคอแล้วจึงตอบ “อือ คนนั้นแหละ”

“คืนดีกันละ”

“อือ ฮึ”

“ทำไม เกิดไรขึ้น” ไอ้เดียวสงสัย เพราะเวลากินเหล้าแล้วผมจะง่วงและซึม ไม่ค่อยพูดความในใจอะไรออกไป กินเหล้าด้วยกันมาก็หลายวัน พวกมันเลยยังไม่รู้ว่าที่ไปพัทยาเพราะผมเครียดเรื่องอะไร

“ก็…” ไม่อยากจะเล่าเลยว่ะ ไอ้พวกนี้มันต้องรุมด่าผมแน่

ผมเหลือบมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็เห็นอีกฝ่ายมองมาเหมือนสนใจอยู่แล้ว “คือ… วันนั้นที่เราดูหนังกันอะ”

“อะไร ไอ้พุ แอบไปดูหนังกันมาสองคนเหรอ แม่งไม่ชวนเลยนะ” ไอ้ซอลพูดแทรกขึ้นมา

“ไม่ช่ายย เรื่องมันนานมาแล้ว ก่อนพวกเราจะเจอกันอีก”

“เออ งั้นก็แล้วไป อย่าให้รู้นะว่าแอบไปดูหนังกันสองคน ไม่งั้นล่ะน่าดู” ไอ้ซอลขู่

“แล้วมึงจะไปยุ่งอะไรกับเขาเนี่ย มันไปดูหนังกันสองคนก็ไม่แปลก แต่มึงนั่นแหละที่แปลก เสือกจะตามเขาไปทำไม” ไอ้เดียวด่าเพื่อนตัวเอง

ไอ้ซอลยักคิ้วกวนๆ แล้วลอยหน้าลอยตาพูด…ได้น่าถีบมาก“ไมอะ ก็กูจะไปเป็นกขคงจฉชซ…”

“เยอะละ เยอะ”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ไอ้ซอลหัวเราะขำตัวเอง ก่อนจะหันมาเอาเรื่องกับผม “แล้วเมื่อไหร่มึงจะเล่าเนี่ย กูรอฟังจนรากงอกแล้ว”

นี่ถ้านั่งอยู่ใกล้ๆ นะ จะขอโบกซักที กวนตีน“ก็พูดแทรกอยู่ แล้วจะไปเล่าตอนไหนวะ”

“ก็นี่ไง ไม่แทรกแล้ว อะ เร็วๆ เล่าๆ”

“ก็… วันนั้นที่ไปดูหนังกับพี่เล่ย์อะจริงๆ นัดกับเฮียแพทไว้ก่อนแล้ว… แต่ลืม”

ทุกคนนั่งอึ้ง ก่อนไอ้เอ้จะถามทวน “เอาใหม่นะ มึงนัดกับเฮียแพท แล้วลืม ก็เลยมานัดกับพี่เล่ย์อีกคน”

“เปล่า คนนี้ไม่ได้นัด อยู่ดีๆ ก็มาบังคับให้ไปดูหนังด้วยเฉยเลย” ผมเหล่ตามองคนชอบบังคับที่นั่งอยู่ข้างๆ

พี่เล่ย์ยักไหล่ ยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง“ใจง่ายเอง ช่วยไม่ได้”

“อ้าว พูดงี้ก็สวยดิ”

“ไม่สวย… หล่อ” พูดได้หน้าตาเฉยมาก

และแน่นอน ต้องมีเสียงจากสัมภเวสีทั้งสามตัวเป็นลูกคู่ “ฮิ้ววววววววววววววววว”

“สรุป พอไอ้เล่ย์ชวน มึงก็ตามมันไปง่ายๆ แล้วลืมลุงรหัสมึง” ไอ้เดียวยังไม่เลิกสงสัย

“อือ ฮึ… ก็หลงความหล่อพี่เล่ย์อะ ตาพร่าไปหมด คิดอะไรไม่ออกเลย” ผมบอก พร้อมกับมีแอ๊คติ้งประกอบ

“ฮิ้วววววววววววว” อีกรอบ

กำลังหัวเราะขำอยู่ดีๆ ก็รู้สึกเจ็บที่หูเพราะโดนดีด แล้วคนทำก็ว่า “ประชดประชัน”

ทุบขาคนซาดิสม์ไปทีแล้วก็แก้ตัว “อะไรอะ ก็กี้นี้พี่พูดเองนะ ว่าตัวเองหล่อ… อุตส่าห์เห็นด้วยนะเนี่ย”

“เยอะไป”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

 

 

 

ประมาณบ่ายสองโมง เฮียแพทก็โทรมาบอกว่า ถึงแล้วแต่หาทางเข้าบ้านไม่เจอ ผมเลยชวนพี่เล่ย์ออกไปรับ…

“ตรงมาเรื่อยๆ ก่อน ผมยืนรออยู่หน้าทางเข้าอะ”

[มีอะไรเป็นจุดสังเกตมั้ย]

“มีศาลาอยู่หน้าปากทาง รถเก๋งสีดำจอดอยู่ข้างๆ แล้วก็มีคนยืนอยู่สองคนอะ”

[เออ กูว่ากูเห็นมึงละ] นิสัยเดิม วางไปละ

เฮียแพทวางไปไม่ถึงนาที ฮอนด้าซีวิคสีขาวที่ผมจำได้ว่าเป็นของพี่พิทก็วิ่งมาชะลอจอดลงตรงหน้าพวกเรา พร้อมกันกับที่เสียงแตรมอเตอร์ไซค์คุ้นหูดังขึ้น “ปริ๊น!”

ไอ้พันครับ มากับไอ้ข้าว เพื่อนซี้เขา หายไปตั้งกะเช้า “รถเป็นไร”

“เปล่า มารอเพื่อน” ผมบอก แล้วทำสัญญาณมือให้มันลงรถมาก่อน พอเฮียแพทกับพี่จ๋าลดกระจกลงมา ผมก็ยกมือไหว้ “ทุกคนหวัดดีคร๊าบ” แล้วแนะนำคนในรถให้รู้จักกับไอ้พันและไอ้ข้าว “นี่น้องผมครับ พันกับข้าว…. เดี๋ยวให้น้องมันนำทาง พี่พิทขับตามมอ’ไซค์มันไปนะ”

“แล้วมึงจะไปไหน” เฮียแพทถาม

“เดี๋ยวขับตามหลังไป” ผมบอก

“เหมือนรถผู้นำประเทศเลยว่ะ มีขบวนประกบหน้าหลัง” พี่พิทว่าขำๆ

“เออใช่ พี่พิทเอาหวอมาวางด้วยดิ”

“มึงจะบ้าเหรอ” พี่พิทด่า ก่อนจะหันไปเปิดเก๊ะหาอะไรสักอย่าง แต่คงจะหาไม่เจอจึงหันไปถามพี่จ๋าที่นั่งอยู่ด้านหลังกับเพื่อน “จ๋า ไซเรนอยู่ไหน”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

 

แล้วขณะที่เรากำลังขับตามรถพี่พิทเข้าไปในบ้าน ผมก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้จัดห้องให้เฮียแพทกับพี่พิทและพี่จ๋าเลย “เออ เดี๋ยวพี่เล่ย์ไปนอนรวมกับคนอื่นที่ห้องพุได้มั้ยอะ ห้องพัน เดี๋ยวให้เฮียแพท พี่พิท แล้วก็พี่จ๋ากับเพื่อนนอน”

“ถ้าไม่ได้ จะทำยังไง”

“ไม่รู้อะ ยังไม่ได้คิด” ก็ไม่ได้คิดไง ว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอม

พี่เล่ย์หัวเราะในลำคอ ก่อนจะถาม “แล้วพุจะนอนไหน”

“เดี๋ยวพุกับพันไปนอนห้องพ่อแม่”

“ที่นอนพอมั้ย”

ผมนั่งนับนิ้ว “มีใครบ้างนะ พี่พิท พี่จ๋า เพื่อนพี่จ๋า เฮียแพท ไอ้ซอล ไอ้เดียว ไอ้เอ้ พัน พุ แล้วก็พี่”

“สิบคน” พี่เล่ย์ช่วยคิด

“อืม… สิบคน แล้วก็มีฟูกสี่ ที่นอนสอง”

“ขาดสี่” ว่าแล้วพี่แกก็กลับรถ “ที่นี่มีห้างมั้ย”

“ถามซะเหมือนอยู่ใกลปืนเที่ยง มีสิ ท็อปแลนด์กับเซ็นทรัล”

อีกฝ่ายอมยิ้ม “ที่ไหนใกล้”

“ท๊อปแลนด์ แล้วจะไปไมอะ ซื้อฟูกเหรอ ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพันกับพุนอนเสื่อก็ได้ แล้วอีกสองคนที่ขาดก็เอาผ้านวมมาปูแทน ไม่ใช่หน้าหนาว ห่มผ้าแพรกำลังเย็นสบาย” ผมถามเองแล้วก็สรุปเองเสร็จสรรพ

“ซื้อเก็บไว้ก็ดี เผื่อมีคนอื่นมาเพิ่มอีก”

“ไม่ไหวละมั้ง ถ้ามาอีก ก็คงต้องกางเต็นท์นอนกันแล้ว”

พี่เล่ย์หัวเราะขำ “แล้วพ่อกับแม่ไม่ว่าเหรอ คนเยอะขนาดนี้”

“ไม่ว่าหรอก พ่อเขาชอบ บอกคนเยอะๆ ครึกครื้นดี”

“พ่อไม่ว่า แล้วแม่ล่ะ ต้องมาทำอาหารเลี้ยงคนตั้งเยอะ เหนื่อยแย่”

ผมส่ายหน้า ไม่เห็นด้วยอย่างแรง “แม่ยิ่งชอบ จะได้โชว์ฝีมือทำกับข้าว ถ้าชมว่าอร่อยนะ ทำลืมเหนื่อยเลย เดี๋ยวคอยดูเหอะ เย็นนี้ได้กินพริกมะเขืออีกแน่” พูดแล้วก็เอนหลบมือที่ลอยวืดมา เจ้าของมือบอก “เป็นลูกที่กตัญญูมาก นินทาแม่”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

ผ่านไปสักครู่ คนขับก็บอก “พุ โทรบอกคนที่บ้านหน่อย ว่าจะไปห้าง เดี๋ยวเป็นห่วง”

“เออ ใช่ ลืมไปเลย”

“ประจำ… เดี๋ยวซื้อปลาทะเลให้กิน”

“ปลาอะไร”

“ปลาทู”

“ไม่ใช่แมว”

“หึ หึ”

 

เมื่อมาถึงห้าง เดินผ่านร้านไอศกรีมสเวนเซ่นส์ ผมก็ชวนคนที่มาด้วยให้แวะ“กินติมก่อนนะ แล้วค่อยไปเลือกของ”

“อือ”

เข้าไปนั่งในร้าน เมื่อพนักงานนำเมนูมาให้ ผมก็ไม่เห็นคนที่นั่งตรงข้ามจะกางเมนูออกดู เลยสงสัย “พี่เล่ย์ไม่กินเหรอ”

“พุสั่งเลย เดี๋ยวพี่กินด้วย”

“ไม่เอา สั่งเองดิ เดี๋ยวไม่อิ่ม”

“ไอศกรีมนะไม่ใช่ข้าว จะกินจนอิ่มเลยเหรอ”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ถึงจะรู้ว่าโดนประชด แต่ขำอะ

อย่าว่าแต่ผมจะขำ พนักงานยังแอบอมยิ้ม “งั้นลองซักเมนูก่อนมั้ยคะ ถ้าไม่อิ่มค่อยสั่งเพิ่ม”

“ครับ งั้นเอา… แมงโก้เครปก็ได้”

พนักงานจดรายการที่สั่งลงไปในกระดาษที่ถืออยู่ แล้วพูดยิ้มๆ “แมงโก้เครป ช้อนสอง รอสักครู่ค่ะ”

ออกจากร้านไอศกรีม พวกเราก็มุ่งตรงไปที่แผนกเครื่องนอน เลือกที่นอนแบบพับได้สี่ผืน

“รถจะพอใส่เหรอ” ผืนสองผืนก็พอได้ แต่นี่สี่ผืนมันจะไหวเหรอว้า

พี่เล่ย์ใช้นิ้วชี้เคาะปลายจมูก ซึ่งมักจะเผลอทำทุกครั้งที่ใช้ความคิด “น่าจะพอ… ถ้าไม่พอก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเอาใส่กระโปรงหลัง”

ชำระค่าสิ้นค้าเรียบร้อย สนนราคาอยู่ที่แปดพันบาทไทย พนักงานก็เข็นที่นอนไปส่งที่รถ… สรุป ด้านหลังของรถกว้างพอจะใส่ที่นอนผืนบางๆ ได้ถึงสี่ผืน ถึงแม้จะต้องเบียดเสียดยัดเยียดไปหน่อยก็ตาม

เห็นสภาพรถแล้วผมก็ต้องถามคนขับด้วยความเป็นห่วง จริงๆ ห่วงความปลอดภัยของตัวเอง “มันไม่บังเหรอ กระจกหลังมองเห็นป๊ะ”

“พุก็ไปนั่งข้างหลังสิ ที่นอนจะได้ยุบลงมาอีก” พี่เล่ย์พูดยิ้มๆ

“เอาจริงใช่ป๊ะ กำลังง่วงพอดีเลย” ผมทำท่าจะปีนข้ามไปนั่งข้างหลัง แต่ถูกมือใหญ่ๆ ดึงให้นั่งลงกับที่ “ไม่มานั่งคุยเป็นเพื่อน พี่นอนบ้าง อย่าร้องนะ”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ขำอะไรก็ไม่รู้ ทำไมผมเส้นตื้นจังวะ

 

ระหว่างเดินทาง นั่งๆ ไปไม่มีไรทำ ผมก็จับโน่นเปิดนี่เล่น เจอกระป๋องมันฝรั่งทอดในเก๊ะ ก็หยิบมาเปิดฝาแล้วหยิบใส่ปาก แอบเห็นคนขับเหลือบตามอง ก็เลยสงสัย “ไรครับ อยากกินเหรอ”

อีกฝ่ายไม่ตอบ มือที่แตะอยู่ตรงกระปุกเกียร์วาดมาวางตรงท้อง ทำเอาสะดุ้ง “เฮ้ย!”

“อะไร เสียงดังทำไม”

“ก็พี่ทำไรอะ หวาดเสียวนะเว้ย” ถ้าต่ำกว่านี้อีกนิดนะ

พี่เล่ย์นิ่วหน้า แป๊บเดียวก็เก็ท “คิดอะไร ทะลึ่ง”

อ้าว นี่ผมคิดไปเองใช่มั้ย แต่ยังไงเราก็ไม่ยอมผิด... นิสัยดีมาก คึคึ“ก็ทำให้คิดทำไมล่ะ”

“หึ หึ ถ้าจะทำก็ทำเลย ไม่รอให้คิดได้หรอก” ดูคำตอบซะก่อน โคตรน่าไว้ใจ

“แล้วมาจับทำไมอะ”

“อยากรู้… กินไม่ขาดปาก เอาไปเก็บไว้ที่ไหนหมด”

ผมยักคิ้วให้คนอยากรู้กวนๆ “ไมอะ เมทาบอลิซึมดี”

“มิน่า ไม่โตซะที เผาทิ้งไปหมด”

มาพูดเรื่องปมด้อย โกรธเว้ยโกรธ ยกแขนกอดอก ผมทำหน้ามุ่ย “เออ จำไว้”

ปกติพี่แกจะหัวเราะอยู่แค่ในลำคอ เหมือนกลัวว่าถ้าหัวเราะเสียงดังแล้วใครจะมาขโมยเสียงไปงั้นแหละ แต่ครั้งนี้ คงจะถูกใจมาก หัวเราะลั่นเลย “ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!”

 

กลับมาถึงบ้านก็โดนไอ้ซอลอาละวาดใส่ก่อนเลย“ไอ้พุ กูก็นึกว่ามึงตกส้วมท็อปแลนด์ตายไปแล้ว หายไปซะ”

“อย่าพูดมาก มาช่วยกันขนที่นอนเลย” ผมบอก แต่พอหันไป… ไม่ต้องละ ไอ้ข้าว ไอ้พัน ไอ้เดียว มาโน่นแล้ว

...คิดไปคิดมา ตัวเล็กก็ดีเหมือนกันนะ

ผมเดินตัวเบาไปหาเฮียแพท พี่พิท พี่จ๋า และพี่อาย ที่นั่งอยู่บนตั่งที่ใต้ถุนบ้าน “พี่จ๋า พี่อาย กินข้าวยังครับ”

ทั้งสองคนพยักหน้า แล้วบอกยิ้มๆ “กินแล้วจ๊ะ อร่อยมาก”

“แหม ไอ้พุ เห็นสาวๆ เป็นไม่ได้ แถไปทักก่อนเลยนะ พี่มึงนั่งอยู่นี่ทั้งคน ไม่ถามสักคำ” พี่พิทแกล้งน้อยใจ

“อ้าวเหรอ พี่พิทกินข้าวยัง”

“กินแล้ว แต่ยังไม่อิ่ม”

“อ้าว ไมอะ ข้าวหมดเหรอ”

“ไม่หมดหรอก แต่กูอยากกินของหวาน”

“แล้วก็ไม่บอก มีอ้อย เอาป่ะ เดี๋ยวไปตัดมาให้ หวานๆ เลย”

พี่พิททำตาโต “เออ ดีๆ ตรงไหน เดี๋ยวกูไปช่วยตัด”

ผมชี้ป่าอ้อยให้พี่พิทดู แล้วก็หันมาสนใจคนที่ยังนั่งเงียบอยู่ “เฮีย กินข้าวอร่อยเปล่า”

“อร่อย” แล้วเฮียแกก็นิ่งไป ไม่พูดอะไรต่อ

“อิ่มป่ะ”

“อิ่ม” ถามคำตอบคำ เหมือนจะยังไม่หายโกรธนะเนี่ย

“เอ่อ…” ไปไม่เป็นเลยกู ไม่รู้จะถามอะไรต่อดี เลยหันไปหาพี่พิท กำลังจะบอกว่า ให้ไปตัดอ้อยกัน แต่เฮียแพทก็โพล่งขึ้นมาก่อน “คนที่มากับมึง ใคร”

“ใครอะ พวกที่มาด้วยน่ะเหรอ”

“เจ้าของรถบีเอ็ม”

“อ๋อ พี่เล่ย์ เดี๋ยวลงมาจะแนะนำให้รู้จัก” พี่เล่ย์ขึ้นไปข้างบนพร้อมกับที่นอน ยังไม่ลงมาเลยครับ “เออ เห็นห้องกันแล้วใช่ป๊ะ นอนกันได้มั้ย”

“นอนได้” พี่จ๋าเป็นคนตอบ “พวกพี่มานี่ รบกวนแย่ เห็นบอกไปซื้อที่นอนมาใหม่เลยเหรอ”

“ไม่รบกวนหรอกครับ มากันเยอะๆ สนุกดี” ผมบอก แต่ไม่เอ่ยถึงที่นอน “พวกพี่รู้จักคนอื่นๆ กันหมดแล้วใช่มั้ย ไอ้เอ้ ไอ้ซอล ไอ้เดียวอะ”

“น้องมึงแนะนำให้รู้จักแล้ว” พี่พิทบอก แล้วลุกขึ้นยืน “ไปตัดอ้อยกัน”

ผมพยักหน้า แล้วชวนอีกคนไปด้วย “เฮียไปด้วยกัน”

“ไม่เอา ร้อน” สำอางจริงเว้ย เฮียกู

 

“เอาไปทำไร” พี่เล่ย์ถาม เมื่อเห็นผมเดินถือมีดออกมาจากในครัว

“ตัดอ้อย”

“เล่มเล็กไปมั้ย ใหญ่กว่านี้หน่อยดีกว่า” อีกฝ่ายว่า แล้วรับมีดที่ผมยื่นคืนให้ไปเก็บไว้ในครัว หยิบเล่มใหม่มา พอผมยื่นมือไปรับก็ส่ายหน้าแล้วบอก “เดี๋ยวพี่ถือเอง เห็นท่าถือมีดกี้นี้แล้วหวาดเสียว”

“ไหนๆ ก็ไหนๆ ตัดให้ด้วยดิ” ผมแซวยิ้มๆ

“เออ เดี๋ยวตัดให้ จะเอากี่ต้น”

“ไม่รู้อะ คนจะกินอยู่ข้างล่างโน่น” พี่พิทยืนรออยู่ตรงบันใดครับ พอเดินลงไปผมก็แนะนำให้ทั้งสองคนรู้จักกัน “พี่พิท นี่พี่เล่ย์ครับ… พี่รหัสพุ” ประโยคหลังบอกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ

ทั้งสองคนพยักหน้าและยิ้มให้กัน แล้วผมก็บอก “เดี๋ยวให้พี่เล่ย์ตัดให้”

“อ้าว ไปกวนเขาทำไม ตัดเองก็ได้” พี่พิทว่า เหมือนคนมีมารยาทเนอะ นั่นเพราะยังไม่สนิทครับลองสนิทสิ จะมีมั้ย ความเกรงใจ…

“ไม่เป็นไร เขาว่าง” พูดเสร็จก็รีบถอยหลบ กลัวโดนดีดหู แต่คงจะหลบแรงไปหน่อย ชนพี่พิทซะกระเด็น “อะไรของมึง”

ผมหัวเราะขำกับสายตาคาดโทษของคนที่ผมหลบและท่าท่างมึนงงของพี่พิท “โทษๆ สะดุดรากไม้…. แล้วพี่พิทเจอพ่อกับแม่ยัง”

“เจอแล้ว”

“แล้วไปไหนรู้ป๊ะ กลับมายังไม่เห็นเลย”

“ไปบ้านใครซักคนนี่แหละ จำชื่อไม่ได้ แต่เดี๋ยวเย็นๆ ก็กลับ”

 

“พี่ๆ ครับ นี่พี่เล่ย์ครับ ยังไม่ได้แนะนำให้รู้จัก” หลังจากที่ได้อ้อยมาแล้ว ผมก็ลากพี่เล่ย์ไปแนะนำให้คนอื่นๆ รู้จัก ก่อนจะแนะนำคนอื่นให้พี่เล่ย์รู้จักด้วย “เฮียแพท ลุงรหัสพุ… พี่จ๋าแฟนพี่พิท แล้วก็พี่อายเพื่อนพี่จ๋า”

ระหว่างที่แนะนำผมเห็นเฮียแพทมองพี่เล่ย์นานเป็นพิเศษก็สงสัย แต่ไม่ได้ถามออกไป กะรอให้โอกาสเหมาะก่อนแล้วค่อยถาม…

แนะนำตัวเสร็จ พี่เล่ย์ก็นั่งลงคุยกับพี่ๆ คนอื่นๆ สักครู่ไอ้พันก็เดินมา “พี่เล่ย์ ขอยืมรถหน่อยสิ”

“พุ?” พี่เล่ย์ถามหากุญแจที่ฝากไว้ ผมควักออกมาจากกระเป๋าข้างของกางเกงขาสั้นแค่เข่าที่ใส่อยู่ ยื่นให้เจ้าของรถ ซึ่งยื่นต่อให้ไอ้พันแบบไม่หวงไม่ห่วงอะไรเลย เห็นแบบนั้นก็ยิ่งเกรงใจ เลยต้องทำหน้าที่ทนายซักน้องสุดที่รักแทน “เอาไปไมอะ”

“ซื้อของ”

“ของไร”

“พวกข้าวสารอาหารแห้ง”

“ซื้อไปไหน ตักบาตรเทโวเหรอ”

“ซื้อมากิน… ใครเขาตักบาตรเทโวกันเดือนนี้…” ไอ้พันลากเสียงตอบ กวนว่ะ

“จะรู้มั้ยอะ ก็ไม่เคยบวช” ผมเถียง

คนนั่งข้างๆ ก็หัวเราะ หึๆ “เจ็บมั้ย”

“อะไรเจ็บ”

“ข้างๆ อะ เจ็บมั้ย แถไปขนาดนั้น” พอพี่เล่ย์พูดจบ ไอ้พันก็หัวเราะก๊ากอย่างสะใจ “เฮีย พูดเหมือนมานั่งอยู่ในใจผมเลยว่ะ ขอแปะมือหน่อย” แล้วพี่เล่ย์ก็บ้าจี้ยื่นไปแปะกับมันเฉย

แล้วผมทำไง… ผมจะทำอะไรด้ายยย นอกจากบ่นงึมงำๆ อาฆาตแค้นทั้งสองคน

เข้ากันเป็นฉิ่งเป็นฉาบ มันน่าจะมาเป็นแฟนกันนัก

“พุ?” ไอ้พันเรียก

“อะไร” ผมขานรับห้วนๆ มองหน้ายิ้มๆ ของมันอย่างหมั่นไส้

“อยากกินไรป๊ะ เดี๋ยวซื้อมาให้”

“ไม่ต้อง อยากกินเดี๋ยวซื้อเองได้” ผมตอบ แกล้งทำเป็นโกรธ เดี๋ยวมันจะได้ซื้อขนมมาง้อ

แต่สงสัยแผนนี้จะใช้บ่อยไปหน่อย ครั้งนี้เลยไม่ได้ผล ไอ้พันมันรู้แกว“เออ พอดีเลย เงินยิ่งไม่ค่อยจะมี”

“น้อง” เฮียแพทยื่นธนบัตรสีเทาให้ไอ้พันสามใบ “พี่ช่วยค่าข้าว”

แต่ไอ้พันไม่รับ เพราะที่บ้านเราไม่ว่าแขกจะมาเยอะหรืออยู่นานขนาดไหน ก็จะไม่ให้ออกเงินค่าอาหาร “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวค่อยช่วยออกค่าเหล้าดีกว่า”

เฮียแพทพยักหน้าเข้าใจ แล้วเก็บเงินเข้ากระเป๋า…

“ไปซื้อกับใคร” พี่เล่ย์ถามไอ้พัน

“พี่เดียว พี่ซอล พี่เอ้ ไอ้ข้าว ผม” ยกไปกันหมด จะมีที่เหลือใส่ของมั้ยเนี่ย

 

ตกเย็น แม่ก็โทรมาบอกว่าจะกลับดึกๆ ให้ทำอะไรกินกันไปก่อน… เข้าล็อคขี้เมา หมักคอหมูเตรียมย่าง

แล้วก็เข้าล็อคผม… เมื่อเฮียแพทนั่งอยู่คนเดียว เพราะคนอื่นๆ ไปทำภารกิจกันหมด

พี่เล่ย์ ไอ้เดียว ไอ้ข้าวและไอ้พันไปซื้อเหล้า… จะขนกันไปทำไมเยอะแยะ ไม่เข้าใจ

พี่จ๋ากับพี่อายไปอายน้ำ

ไอ้เอ้กับพี่พิทกำลังก่อกองไฟ

ไอ้ซอลทำน้ำจิ้ม

ส่วนผมกับเฮียแพท… รอกิน งานหนักมาก คึคึ

“เฮีย”

“ว่าไง”

ขี้เกียจอ้อมค้อม ผมยิงตรงประเด็นเลย “เมื่อกลางวัน เฮียจ้องพี่เล่ย์ทำไมอะ”

เฮียแพทนิ่งไปแป๊บ แล้วบอก “กูรู้จักมัน”

“จริงดิ ไม่เห็นพี่เล่ย์ว่าอะไรเลย” ผมว่า แล้วก็ถามด้วยความสงสัย “รู้จักกันนานยัง”

“เจอกันครั้งแรก ปีที่แล้ว”

มีครั้งแรก ก็ต้องมีครั้งที่สองสิ “เจอกันบ่อยเหรอ”

“สามครั้ง”

“อ้าว แล้วไมพี่เล่ย์จำเฮียไม่ได้อะ”

เฮียแพทส่งเสียงหึขึ้นจมูก ไม่ยอมตอบคำถาม เปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่นแทน “มึงรู้จักกับมันมานานยัง”

“ก็…..” ผมพยายามนึก ว่าเรารู้จักกันจริงๆ จังเมื่อไหร่ นานหรือยัง “สักพักแล้วล่ะ”

“เจอกันยังไง”

ผมยกนิ้วขึ้นถูกจมูกนึกถึงครั้งแรกที่เจอกัน ยังงั้นเขาเรียกว่าเจอกันได้เปล่าหว่า… ไม่เอาดีกว่า “เฮียจำเรื่องพี่ปลายได้ป๊ะ”

เฮียแพทไม่ตอบ แต่หันมามอง เหมือนจะบอกว่า ‘กูไม่ได้เป็นอัลไซเมอร์’

“พี่เล่ย์อะ คนที่ช่วยผม”

“แล้วมันมาเจอมึงได้ไง”

“เดินชนกันตรงประตู แล้วคงเห็นผมจะเป็นลมมั้ง พี่เล่ย์เลยพาออกไปนั่งข้างนอก”

“แล้วครั้งที่สอง?”

ผมสงสัย ทำไมเฮียแพทต้องถามซะละเอียดขนาดนี้ แต่ก็ตอบแต่โดยดี“อืม… วันนั้นที่เราไปกินเหล้ากันแล้วผมกลับก่อนเพราะน้องผมมาหาที่หออะ ตอนกำลังยืนรอรถก็เจอพี่เล่ย์พอดี เขาเลยพาไปส่ง”

เฮียแพทพยักหน้า เหมือนมั่นใจอะไรสักอย่าง “ครั้งที่สาม?”

เอาไงดีวะ บอกตรงๆ ผมโดนด่าแน่ “ก็… ก่อนสอบ ผมไปนั่งกินไอติม แล้วพี่เล่ย์ น่าจะเดินผ่านแล้วเห็นมั้ง เขาเลยมานั่งด้วย”

“แค่นี้?” เฮียแพทถามเหมือนรู้เลยอะ

“แล้วเขาก็ชวนดูหนัง ก่อนกลับก็พาไปกินข้าว”

“ใช่วันที่มึงเบี้ยวกูมั้ย” เฮียแพทถามเสียงเรียบ ไม่บ่งบอกว่าอยู่ในอารมณ์ไหน

ผมพยักหน้าแล้วยิ้มแหยๆ อุตส่าห์คืนดีกันแล้ว อย่าโกรธอีกนะ

“กูไม่โกรธมึงแล้ว สบายใจได้” พูดงี้ค่อยยิ้มออกหน่อย“แต่กูมีเรื่องจะบอกมึง”

ผมหันไปมองคนพูดอย่างสนใจ อุตส่าห์ไม่โกรธ ต้องตั้งใจฟังหน่อย

“ไอ้เล่ย์ไม่ได้บังเอิญเจอมึง”

“…..”

“มันเป็นน้องกู”

“…..”

“แม่มันเป็นเมียน้อยพ่อกู”

 

+++++unbelievablelove+++++

ขอบคุณที่ติดตามอ่าน แล้วเจอกันตอนต่อไป ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-10-2013 02:20:03 โดย rainbow67 »

ออฟไลน์ rainbow67

  • Life is like a rainbow. You need both the sun and the rain to make its colors
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +763/-15
Unbelievable Love : You Again
«ตอบ #234 เมื่อ18-09-2012 00:28:17 »

UNBELIEVABLE LOVE

You Again

 

 

“โกหก!!!”

ผมตวาดออกไปด้วยความโมโห เมื่อจู่ๆ ไอ้เด็กที่คุณแม่เคยชื่นชมหนักหนา เดินเข้ามาในห้องทำงาน แล้วบอกว่าเป็นลูกอีกคนหนึ่งของคุณพ่อ “นายต้องการอะไร”

มันหันมามองด้วยดวงตาเฉยชา เหมือนไม่รู้สึกรู้สมกับการตวาดของผม ก่อนจะหันไปมองสบตากับคุณพ่อ “ผมไม่ได้ต้องการอะไร แค่คิดว่าคุณควรจะรู้”

“ภาวิตา” คุณพ่อพึมพำออกมา น่าจะเป็นชื่อของหญิงแพศยาที่ให้กำเนิดไอ้เด็กเวรนี่ แต่นั่นยังไม่ทำให้ผมกลัวเท่าแววตาอ่อนโยนที่ท่านกำลังมองไปที่มัน “แล้วตอนนี้แม่ของลูกอยู่ที่ไหน”

“คุณพ่อ!” ผมตะโกนออกมาด้วยความแตกตื่น ยังไม่ทันจะรู้แน่ชัด แต่คุณพ่อกลับเรียกมันเต็มปากเต็มคำว่า ‘ลูก’ “คุณพ่อรู้ได้ไงว่ามันเป็นลูก ยังไม่ได้ตรวจ DNA เลย มันอาจจะเป…”

“เงียบ!” ตั้งแต่เล็กจนโต คุณพ่อไม่เคยใช้น้ำเสียงแบบนี้กับผมสักครั้ง แต่เพราะไอ้เด็กเวรนี่ ที่ทำให้คุณพ่อตวาดผมด้วยน้ำเสียงระคายหูแบบนี้ ไอ้เด็กที่ท่านยังไม่รู้แน่ชัดด้วยซ้ำว่ามันเป็นลูกจริงๆ หรือไม่ “ถ้ายังอยากฟังและมีส่วนร่วมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็สงบสติอารมณ์และอยู่เงียบๆ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ออกไป”

ผมยืนกำหมัดแน่น มองตรงไปยังไอ้คนที่เข้ามาแทรกแซงและบั่นทอนความสงบสุขครอบครัวของเรา... โกรธและเกลียดจนไม่อยากอยู่ร่วมห้องกับมันแต่เพราะความกระหายใคร่รู้ ทำให้ผมไม่สามารถก้าวเท้าออกไปจากห้องนี้ได้

เมื่อผมเงียบเสียงลงแล้ว คุณพ่อก็หันไปหามันอีกครั้ง แล้วเอ่ยคำที่แสลงหูสุดจะทน “แม่ของลูก…”

“เธอเสียชีวิตหลังจากที่คลอดผมได้สามวัน”

“แล้วใครดูแลลูก”

“เพื่อนเก่าของแม่ เธอรู้ข่าว จึงนำผมมาเลี้ยงและรับเป็นบุตรบุญธรรม”

“พิมมาลา” คุณพ่อเอ่ยชื่อออกมาเหมือนถาม

มันพยักหน้า

“พวกเขาดูแลลูกดีไหม”

มันพยักหน้าอีกครั้ง “ดีมาก”

ถ้าดีแล้วมึงจะมาทำไมที่นี่! ผมตะโกนร้องก้องอยู่ในใจ ไม่กล้าเปล่งเสียงออกมา เพราะกลัวจะถูกไล่ออกจากห้อง แล้วไม่สามารถรู้ได้ว่า มันพูดอะไรกับคุณพ่อ

“ลูกรู้เรื่องพ่อตอนไหน” ผมกัดฟันกรอด เมื่อได้ยินคุณพ่อแทนตัวเองกับมันอย่างสนิทสนม

ตั้งแต่ประถม”

“แล้วทำไม…” คุณพ่อพูดเสียงเครือ

“ทำไมผมจึงไม่มาหาคุณตั้งแต่ตอนแรกที่รู้?” พี่เล่ย์มันถามเหมือนรู้ใจคุณพ่อ ซึ่งท่านก็พยักหน้ายอมรับ

“เพราะผมรู้ ว่าคุณจะต้องหาทางเอาผมมาอยู่ด้วยให้ได้ และผมยังไม่พร้อมที่จะจากครอบครัวที่รักและอยู่ด้วยมาตั้งแต่เกิด เพื่อมาอยู่กับคนแปลกหน้าที่แม้จะได้ชื่อว่าพ่อแต่ก็ไม่เคยพบกันมาก่อนเลยสักครั้งเดียว อีกอย่าง ครอบครัวของคุณก็ดูมีความสุขดีอยู่แล้ว ผมไม่อยากเป็นมือที่สาม”

“ทำไมคิดอย่างนั้น”

มันยักไหล่แต่ไม่ตอบ กิริยาที่คุณพ่อเกลียดมาก แต่พอมันทำ เหอะ คุณพ่ออาจจะชอบก็ได้

“แล้วตอนนี้….” คุณพ่อถามอย่างมีความหวัง แต่ผมกลับร้อนรน นึกถึงคุณแม่ ที่หากรู้เรื่องนี้ ท่านจะรู้สึกอย่างไร สามีที่เคารพรัก อยู่ด้วยกันมายี่สิบกว่าปีไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย ไม่เคยมีเรื่องให้ร้อนใจ แต่วันนี้กลับจะนำลูกที่เกิดกับชู้เข้ามาอยู่ในบ้าน แค่คิดผมก็ชาวาบตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้ว

มันหันมามองสบตาผมเหมือนรู้ว่าคิดอะไร และพูดทั้งๆ ที่ยังไม่ละสายตาไป “วันนี้ผมอายุยี่สิบปีบริบูรณ์ ตามกฎหมาย ผมไม่ใช่ผู้เยาว์อีกต่อไป”

ผมไม่เข้าใจ มันหมายความว่ายังไง แต่ดูเหมือนคุณพ่อจะรู้ “แล้วถ้าพ่อขอร้อง”

“ถ้าคุณอยากพบผม เรานัดเจอกันข้างนอกได้ แต่ผมคงไม่มาที่นี่อีก”

“แล้ววันนี้”

“ผมมีนัดแล้ว”

มันคุยอีกสองสามคำ แล้วขอตัวกลับ แต่เมื่อเดินไปถึงประตูกลับถูกคุณพ่อรั้งไว้ “เดี๋ยวก่อน ดาวฤกษ์….ชื่อเล่นของลูก”

“เล่ย์……ฮัลเลย์”

 

+++++unbelievablelove+++++

ขอบคุณที่ติดตามอ่าน แล้วเจอกันตอนต่อไป ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-10-2013 02:08:04 โดย rainbow67 »

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
Re: Unbelievable Story : Chapter 7 - 18 Sep 12
«ตอบ #235 เมื่อ18-09-2012 01:03:10 »

เห้ยยยยยยยยยยยย


อย่าบอก ว่า เลย์ เล่นละครนะ

สงสาร หนู พุ เกินนนนนนนนนนน

ต่อๆๆๆๆ

little_nok

  • บุคคลทั่วไป
Re: Unbelievable Story : Chapter 7 - 18 Sep 12
«ตอบ #236 เมื่อ18-09-2012 01:05:40 »

อะไรกัน อย่าบอกว่าเล่ย์เข้ามาแบบมีแผน
ยังนึกอยู่ว่า เป็นสุภาพบุรุษมากๆ มีน้ำใจ
แล้วมันจริงใจไหมค่ะ เท่าที่อ่าน พี่ว่าเล่ย์จริงใจ
เฮียแพทอย่ามามั่ว (ว่าเล่ย์ไม่บังเอิญเจอ) อย่าอคติ เพราะเขาเป็นลูกเมียน้อย
ทำไมรู้สึกไม่ชอบแพทตะหงิดๆ เหมือนจะเป็นมารหัวใจเลยอ่ะ
ปล. ไอ่พี่แพท ไม่เห็นมันจะน่ารักที่ตรงไหน เอาแต่ใจก็เท่านั้น กับรุ่นน้องยังเอาเปรียบ
แล้วกับน้องตัวเอง คนละแม่ จะใจร้ายใส่เขาแค่ไหน

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
Re: Unbelievable Story : Chapter 7 - 18 Sep 12
«ตอบ #237 เมื่อ18-09-2012 01:15:25 »

 :sad4: อย่าทำร้าย คนอ่านด้วยปลายปากกา

ขอให้เฮียแพทเป็นตัวโกงทำให้เข้าใจผิด อย่าทำร้ายไอตอนที่หวานๆที่ผ่านมา

เลย์ไม่ได้เข้ามาเพราะแบบนี้ใช่หรือเปล่า อย่านะ จะร้องไห้แล้ว


ออฟไลน์ ineverlove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-4
Re: Unbelievable Story : Chapter 7 - 18 Sep 12
«ตอบ #238 เมื่อ18-09-2012 01:17:57 »

โห...พลิกล็อก ยิ่งกว่า กำลังมัน

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
Re: Unbelievable Story : Chapter 7 - 18 Sep 12
«ตอบ #239 เมื่อ18-09-2012 01:44:04 »

โอ๊ยตาย อ่านจบต้องร้องเชรดดดดดดดด...
แปลกใจที่ความสัมพันธ์ของเฮียแพทกับเล่ย์จะกลับมาเป็นญาติกันเพราะเหตุนี้
นั้นแสดงว่าตอนที่เจอกันนี่เป็นเหตุการณ์ที่บรรดาเมียๆมาเจอกันเองอ่ะดิ เหอะๆ ทนได้ไงวะ แม่เล่ย์ก็โม้โอ้อวดซะ
แบบว่าเป็นอะไรที่คาดไม่ถึง กร๊าก เราคงเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ตบเข่าฉาดอ่ะคุณเรนโบว์
เพราะคิดไม่ทัน เหอๆ ขนาดว่าต้องมาอ่านคอมเม้นต์ของคนอื่นๆก่อนถึงจะถึงบางอ้อ
แต่ส่วนตัวแล้วคิด(เข้าข้าง)ว่าเล่ย์ไม่ได้มีจุดประสงค์ร้ายอะไร เค้าก็ดูจริงใจดี
ถึงจะน่าสงสัยตรงที่จู่ๆก็เข้ามาทำนู่นนี่นั่นให้ อยู่ถูกที่ถูกเวลาหลายครั้งหลายคราว รุกหน้ารวดเร็ว ก็เถอะ
ว่าแต่เฮียแพทมีหลักฐานอะไรนอกจากนี้อะเปล่ามากล่าวหากันแบบนี้เนี่ย หรือเป็นแค่การคาดเดาของเฮีย
ไม่อยากให้เฮียกลายเป็นคนไม่ดีไปเลยอ่ะ แค่ที่เฮียเงียบๆงอนๆอะไรอยู่เนี่ยก็น่าจะโดนคนรุมเฮียอยู่แล้ว เห็นใจเฮียอ่ะ
รอติดตามชมว่าเรื่องจะพลิกไปในทางใดกันแน่ หวาดเสียวจริง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด