Unbelievable Love [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ขอฝากหน่อย - ซาวเสียงคนที่อยากให้รวมเล่ม 'เป็นได้แค่ตัวแทน' และ 'ตัวจริงคือเธอ' อีกรอบ

รวมเล่ม
156 (88.1%)
เรื่องไรวะ ไม่รู้จัก 555+ (ดูที่ลายเซ็นคนเขียน)
21 (11.9%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 152

โพลล์

รบกวนโหวตรวมเล่ม Unbievable+Unintentional อีกครั้ง TT_TT ขอโทษๆๆๆ

Unbelievable only
21 (8.5%)
Unintentional only
10 (4%)
Unbelievable + Unintentional
217 (87.5%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 218

ผู้เขียน หัวข้อ: Unbelievable Love [END]  (อ่าน 850511 ครั้ง)

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
Re: Unbelievable Story : Brothers Talk - 22 Sep 12
«ตอบ #360 เมื่อ22-09-2012 14:10:58 »

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
Re: Unbelievable Story : Brothers Talk - 22 Sep 12
«ตอบ #361 เมื่อ22-09-2012 14:33:32 »

พี่เล่ย์ดูคิดได้อ่ะ
คุยกันที ฉันก็ต้องรื้อฟื้นอิ๊ง 5555
เฮียแพทลองคิดตามดูนะ อย่ามัวแต่อคติ !!!

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
Re: Unbelievable Story : Brothers Talk - 22 Sep 12
«ตอบ #362 เมื่อ22-09-2012 14:57:45 »

ดูเหมือนพี่แพทจะฝั่งใจกับละครหลังข่าวมาก ที่ว่าลูกเมียน้อยมาเพื่อทำลายครอบครัว

รวมไปถึงต้องแย่งคนรักของตน He's really Drama Queen.

ฝั่งใจกับสิ่งที่ตัวเองรู้สึกเพียงด้านเดียว แล้วผูกเรื่องไปเรื่อยๆตามความคิดตัว คนแบบนี้จะว่าไปก็อธิบายอะไรไปก็เท่านั้น ไม่ฟังหรอก
แถมยังหลับหูหลับตาเถียง บางทีต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ตั้งสติฟัง

สมมติตอนที่แพทบอกพุว่า พุเป็นคนที่แพทรัก ที่เล่ย์เข้ามาเพราะจะมาแย่งพุไป อืมมมม แพทจะเจ็บหนักเลยนะเนี่ย เพราะพุคงบอกแพทว่า ไม่ได้คิดอะไรด้วย

ถามว่าตอนนี้เคลียร์ให้แพทรึเปล่า ยอมรับว่าไม่รู้สึกดีกับแพทขึ้นเท่าไหร่ 5555555 ยังมองว่าตอนนี้แพทยิ่งพูดไรก็ยิ่งเสีย เพราะสิ่งที่พูดมายิ่งชี้ให้เห็นว่าวุฒิภาวะของแพทไม่ได้โตไปกว่าเด็กประถมเลย เข้าใจนะว่าชีวิตที่ผ่านมาเนี่ยไม่ปะทะกับความทุกข์เท่าไหร่ พอเจอเข้าไปเลยเสียหลัก

แต่การกระทำของแพทที่เรียกว่า "แทงข้างหลัง" มันเป็นการกระทำที่ไม่แมน ไม่แฟร๋ในการต่อสู้เรื่องความรักของคนที่ได้ชื่อว่า "ผู้ชาย" ที่รู้สึกอคติยาวนานแบบนี้ เพราะส่วนนี้ด้วยละมั้ง

แทนที่จะสู้กันตรงๆโดยไม่เอาเรื่องอื่นมาเกี่ยว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-09-2012 15:01:49 โดย pooinfinity »

ออฟไลน์ Gaem

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
Re: Unbelievable Story : Brothers Talk - 22 Sep 12
«ตอบ #363 เมื่อ22-09-2012 18:17:34 »

พึ่งเข้ามาอ่านเลย ชอบค่ะ   ชอบอิมเมจตัวละครเพื่อนนายเอกของเรามาก  :oni2:

นี่ถ้ามีเพื่อนแบบนี้หายเครียดจนเป็นบ้าแน่ๆ  ฮ่าๆๆๆ   :laugh3: :laugh3: :laugh3:

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
Re: Unbelievable Story : Brothers Talk - 22 Sep 12
«ตอบ #364 เมื่อ22-09-2012 20:49:15 »

ชอบคำพูดของเลย์นะ  แลดูเป็นผู้ใหญ่กว่าเฮียแพทแต่ถ้ามองกลับกันเป็นเราก็คงทนไม่ได้ที่อยู่ๆมีใครไม่รู้โผล่มาแล้วบอกว่าเป็นลูกของพ่อเราคงช็อกแน่ๆ แต่อย่างที่เลย์ว่ามองไปข้างหน้าแทนที่จะมาฝังใจอยู่แต่กับอดีต

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
Re: Unbelievable Story : Brothers Talk - 22 Sep 12
«ตอบ #365 เมื่อ22-09-2012 21:10:55 »

มวยคนละรุ่นเลย แพทกับเล่ย์
ความเข้าใจชีวิตเข้าใจโลก และมุมมอง ของเล่ย์กับแพทต่างกันมาก
เล่ย์แอบปากจักเหมือนกันนะจ๊ะ
น้องพุเหมาะกับพี่เลย์ที่สุด เพราะดูจะเป็นผู้ดูแลปกป้องพุได้ แพทคงไม่สามารถทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีเท่าเลย์
ชักจะเห็นด้วยกับหลายๆคนซะแล้ว ที่จะให้น้องเกียร์จับคู่กับแพท น้องเกียร์คงจะดูแล"Queen"คนนี้ได้ดีแน่ๆ

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
Re: Unbelievable Story : Brothers Talk - 22 Sep 12
«ตอบ #366 เมื่อ22-09-2012 21:30:59 »

 จบป.3 ภาษาปะกิดไม่แข็งแรง

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
Re: Unbelievable Story : Brothers Talk - 22 Sep 12
«ตอบ #367 เมื่อ22-09-2012 21:40:50 »

ฮาที่สุดก็ดราม่าควีนเนี่ยละ ก๊ากเลย

แต่ก็เข้าใจแพทนิดๆ พ่อเป็นฮีโร่ เป็นคนที่ภูมิใจมาตลอด มาเจอเรื่องแบบนี้ก็คงไปไม่เป็นเหมือนกัน

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
Re: Unbelievable Story : Brothers Talk - 22 Sep 12
«ตอบ #368 เมื่อ22-09-2012 22:57:47 »

โดนน้องสั่งสอน  เจ็บแปล๊บๆเลยมั๊ยนั่นพี่แพท  :laugh:
แพทนี่โตแต่ตัวจริงๆ  แต่วุฒิภาวะทางอารมณ์ยังด้อยกว่าเด็กประถมมากกกกอ่ะ



ปล.เวอร์ชั่นภาษาอังกิดได้อารมณ์มากกว่าภาษาไทยจริงๆด้วยจ้ะ   :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-09-2012 23:46:12 โดย indy❣zaka »

little_nok

  • บุคคลทั่วไป
Re: Unbelievable Story : Brothers Talk - 22 Sep 12
«ตอบ #369 เมื่อ22-09-2012 23:34:13 »

ขอเวอร์ชั่นภาษาไทยสัีกหน่อยเถอะค่ะ
คิดว่ามันคงจะเข้าใจอะไรมากขึ้นแน่ๆ
บอกตรงๆ ว่าไม่ค่อยเข้าใจ แม้จะอ่านออกบ้าง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Unbelievable Story : Brothers Talk - 22 Sep 12
« ตอบ #369 เมื่อ: 22-09-2012 23:34:13 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
Re: Unbelievable Story : Brothers Talk - 22 Sep 12
«ตอบ #370 เมื่อ23-09-2012 00:15:42 »

 :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16:


งง   ได้อีก

ออฟไลน์ ineverlove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-4
Re: Unbelievable Story : Brothers Talk - 22 Sep 12
«ตอบ #371 เมื่อ23-09-2012 00:25:15 »

น่าอายจริงๆ ที่จะบอกว่า ขอเวอร์ชั่นไทยหน่อยค่ะ
...ToT....
เหมือนจะอ่านออกแต่ก็ไม่ใช่อะ มัน อย่าง Drama Queen ที่เหมือนจะเข้าใจ แต่ว่าถ้าลองนำมาเปรียบเทียบเป็นคำไทยก็นึกไม่ออกเลย

mach201

  • บุคคลทั่วไป
Re: Unbelievable Story : Brothers Talk - 22 Sep 12
«ตอบ #372 เมื่อ23-09-2012 01:38:03 »

พี่เล่ย์มีวุฒิภาวะมากกว่าเฮียแพทจริงๆอะนะ สงบเยือกเย็นดีจริง
ครอบครัวคงเป็นส่วนสำคัญ ไม่งั้นพี่เล่ย์อาจทำตัวดราม่ายิ่งกว่าเฮียแพทก็ได้
แต่เข้าใจเฮียแพทอยู่เหมือนกัน มีพ่อเป็นเหมือนฮีโร่ คงรู้สึกเหมือนโดนพ่อหักหลัง

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: Unbelievable Story : Brothers Talk - 22 Sep 12
«ตอบ #373 เมื่อ23-09-2012 10:00:08 »

พี่แพท --> Drama Queen  5555+

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
Re: Unbelievable Story : Brothers Talk - 22 Sep 12
«ตอบ #374 เมื่อ23-09-2012 13:10:15 »

นั่นซินะเพราะทำตัวไม่เหมือนผู้ใหญ่แล้วใครจะคิดว่าอายุมากกว่าแถมเป็นพี่อีก


ไม่สุขุมเยือกเย็นพอ



ได้ฝึกภาษาไปในตัวเยี่ยมๆๆๆ

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
Re: Unbelievable Story : Brothers Talk - 22 Sep 12
«ตอบ #375 เมื่อ23-09-2012 17:37:50 »

 :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:
 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22


แปลไม่ออก...

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
Re: Unbelievable Story : Brothers Talk - 22 Sep 12
«ตอบ #376 เมื่อ24-09-2012 00:46:21 »

มารอพี่เล่ย์

>..<

ออฟไลน์ rainbow67

  • Life is like a rainbow. You need both the sun and the rain to make its colors
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +763/-15
Unbelievable Love : Chapter Eleven (Part 2)
«ตอบ #377 เมื่อ26-09-2012 22:49:13 »

UNBELIEVABLE LOVE

Chapter Eleven (Part 2)





ตาสว่างทันที ผมลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิ เพื่อจะได้คุยกันแบบจริงจังและเป็นกิจจะลักษณะ แต่อีกฝ่ายก็ยังนอนอยู่เหมือนเดิม

แต่ไม่เป็นไร จริงจังคนเดียวก็ได้วะ “พี่เล่ย์รู้จักเฮียแพทหรือเปล่า”

“เคยเจอกัน” ถามว่ารู้จักมั้ย ไม่ได้ถามว่าเคยเจอกันมั้ยฮู้ งั้นขอโมเมว่ารู้จักละกัน

...คำถามต่อไป มันจะดูละลาบละล้วงไปหรือเปล่าหว่าแต่ถ้าไม่ถาม มันคงตะหงิดอยู่ในใจไปเรื่อยๆ

“พี่เล่ย์เป็นน้องเฮียแพทใช่มั้ย” เอิ่ม ไม่ได้ตั้งใจจะโพล่งออกมาแบบนี้นะ มันหลุดไปเอง

“โดยสายเลือด...ใช่” พี่เล่ย์บอก แล้วถามกลับ “เขาบอกอะไรพุบ้าง”

ไม่ต้องถามก็รู้ว่า 'เขา' ในที่นี้หมายถึงใคร ผมอ้อมแอ้มตอบ “ก็... บอกพี่เล่ย์เป็นน้องคนละแม่”

“อืม... แล้ว?”

เรื่องนี้ควรบอกดีไหมหว่า พูดไปแล้วจะโดนเตะมั้ยเนี่ย เสียวจริงๆ “บอกแม่พี่เล่ย์เป็นเมียน้อยพ่อเขา”

“ไม่ใช่เมียน้อย” พี่เล่ย์บอกเรียบๆ น้ำเสียงไม่บ่งบอกว่าโกรธหรือแค้นเคือง “แค่ one night stand”

อึ้งรับประทานครับ ถึงจะไม่เก่งภาษาอังกฤษ แต่คำนี้ก็พอรู้อยู่…ไปต่อไม่เป็นเลย

“แม่ไปฝึกงานที่บริษัทของปู่ ในแผนกที่พ่อดูแลอยู่.... พ่อแต่งงานแล้ว เมียกำลังท้องแก่ใกล้คลอด... วันสุดท้ายของการฝึกงาน พ่อพาทุกคนไปเลี้ยงส่ง......พี่เกิดคืนนั้น” พี่เล่ย์เล่าเรื่อยๆ เหมือนกับไม่ใช่เรื่องของตัวเอง “แม่ตัดสินใจไม่บอกพ่อว่าท้อง เพราะอีกฝ่ายมีครอบครัวแล้ว และที่มีอะไรกันก็เพราะความเมา ไม่ใช่เพราะรัก เลยคิดจะคลอดและเลี้ยงพี่คนเดียว”

ผมอยากจะบอก แม่พี่เล่ย์ทำไม่ถูก พ่อทุกคนควรมีสิทธิ์รู้ว่าตัวเองมีลูก และลูกทุกคนก็ควรจะได้รู้ว่าพ่อตัวเองเป็นใคร แต่ก็นั่นแหละ ต่างคนต่างเหตุผล... อย่างน้อยแม่พี่เล่ย์ก็ยังคิดจะคลอดลูก หากเป็นผมที่เจอเหตุการณ์นั้น บางทีอาจจะตัดสินใจทำอะไรที่แย่กว่านั้นก็เป็นได้

“แม่กลับบ้านที่ต่างจังหวัด... แล้วก็คลอดพี่ที่โรงพยาบาลของอำเภอ โรงพยาบาลเล็กๆ เครื่องมือหมอไม่พร้อม แม่เสียเลือดมาก... พี่เกิดได้สามวัน แม่ก็ตาย”

“.........” ไม่รู้ว่าควรแสดงความเห็นใจมั้ย เพราะน้ำเสียงไม่เศร้าเลย

“แม่แจ้งกับโรงพยาบาลว่าโดนข่มขืน ไม่รู้พ่อเด็กเป็นใคร ส่วนชื่อคนที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉินก็คือเพื่อนสนิทของแม่ที่เคยเรียนด้วยกันตอนมอปลาย กว่าจะติดต่อได้ก็เกือบอาทิตย์ พี่เกือบจะต้องไปอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้ว”

“อ้าว แล้วญาติคนอื่นๆ ล่ะ”

“ตากับยายเสียแล้ว แม่เป็นลูกคนเดียว ญาติคนอื่นๆ ก็ไม่รู้อยู่ไหน”

ผมพยักหน้าเข้าใจ...

“แล้วเพื่อนแม่ก็รับพี่เป็นบุตรบุญธรรม” พี่เล่ย์เล่าต่อ

“หมายถึงครอบครัวปัจจุบัน?”

“ใช่... รู้จักไอ้เกียร์ใช่มั้ย”

ผมพยักหน้า นึกถึงผู้ชายหน้าเหมือนลูกครึ่งคนที่เห็นในคอนโดพี่เล่ย์วันนั้น “ครับ เพื่อนที่อยู่คอนโดเดียวกันกับพี่เล่ย์”

“ไม่ใช่เพื่อน น้อง... มันอายุน้อยกว่าพี่สามเดือน”

“ลูกของครอบครัวคนปัจจุบัน?”

“ใช่... ตอนที่แม่รับพี่มาเลี้ยง ท่านก็กำลังท้องไอ้เกียร์ ใกล้จะคลอดพอดี”

ทำไมมันลึกลับซับซ้อนงี้วะเนี่ย “แล้วพี่เล่ย์รู้ตอนไหนว่าเป็นลูกเลี้ยง”

“ปอสี่” ผมว่ามันยิ้มว่ะ เห็นฟันขาวๆ “ไอ้เกียร์มันเป็นเด็กที่ฉลาดมาก ชอบดู discovery เป็นชีวิตจิตใจ... ตอนประมาณปอสามมั้ง มันก็เดินมาถามแม่ว่า 'แม่ เกียร์เป็นลูกที่แม่เก็บมาเลี้ยงใช่มั้ย' แม่ก็ถามว่าทำไมคิดงั้น มันก็บอก 'มนุษย์ใช้เวลาอุ้มท้องเก้าเดือน แต่เกียร์กับพี่เล่ย์อายุห่างกันแค่สามเดือน จึงเป็นไปไม่ได้ที่เกียร์กับพี่เล่ย์จะเป็นพี่น้องกัน และแม่ก็รักพี่เล่ย์มากกว่าเกียร์ ดังนั้นเกียร์คงเป็นลูกที่แม่เก็บมาเลี้ยงแน่ๆ”

ผมอึ้งอะ“โห นี่คำพูดของเด็กปอสามเหรอ”

“ก็บอกแล้วว่ามันฉลาด” พี่เล่ย์ว่ายิ้มๆ ก่อนจะเล่าต่อ“ตอนนั้นพี่ก็คิดว่ามันเป็นลูกที่แม่เก็บมาเลี้ยงเหมือนกัน เพราะมันไม่มีอะไรเหมือนพ่อและแม่เลย พี่ถนัดซ้ายเหมือนแม่ ชอบฟังเพลงร็อคเหมือนพ่อ แต่ไอ้เกียร์ถนัดขวาและชอบฟังเพลงป๊อบ ผมก็เป็นสีน้ำตาล ทั้งๆ ที่คนอื่นเป็นสีดำกันหมด...”

“อ้าว นั่นสีผมจริงๆ เหรอ นึกว่าทำสี”

“ไม่ได้ทำ ตอนเด็กๆ สีอ่อนกว่านี้อีก แต่พอโตมันก็เข้มขึ้น... เปลี่ยนอาจารย์ฝ่ายปกครองทีไรมันโดนเพ่งเล็งทุกที เพราะอาจารย์คิดว่ามันไปย้อมผมมา... พ่อยังชอบล้อบ่อยๆ ว่าไอ้เกียร์เป็นลูกชู้ฝรั่งของแม่” พี่เล่ย์พูดกลั้วหัวเราะ เป็นคนดีจริงๆ มีความสุขบนความทุกข์ของน้อง

“อ้าว แล้วไม่ใช่เหรอ” ส่วนไอ้พุ ก็ไม่ได้ต่างกันเล้ยยเหอะๆ

พี่เล่ย์หัวเราะขำ แล้วบอก “มันได้เชื้อฝรั่งมาจากปู่ทวด แต่พ่อไม่ยอมบอกเพราะชอบแกล้งมัน”

“ดีมากเลย ครอบครัวนี้” ผมพูดปลงๆ ส่วนพี่เล่ย์ก็หัวเราะขำ รอจนมันหยุด ผมก็เริ่มเข้าสู่โหมดจริงจัง “แล้วพี่รู้เรื่องจริงได้ยังไง”

“อืม... วันนั้นที่ไอ้เกียร์ถาม แม่ก็ไม่ยอมบอกว่าจริงหรือไม่จริง แต่ตัวมันก็ฟังธงไปเรียบร้อยแล้วว่าตัวเองเป็นลูกที่ถูกเก็บมาเลี้ยง” พี่เล่ย์หยุดพูด เพราะกลั้นขำไม่อยู่ “มันทำทุกวิถีทางที่คิดว่าจะทำให้รู้ว่าพ่อแม่ตัวเองเป็นใคร... แอบฟังพ่อแม่คุยกัน... รื้อเอกสารทั้งในห้องทำงานและห้องนอนของพ่อแม่... มันบ้าขนาดปีนขึ้นไปบนฝ้าเพราะคิดว่าเขาอาจจะซ่อนไว้บนนั้น...ดีไม่ตกมาตาย”

ผมนึกภาพตามแล้วก็ไม่สามารถกลั้นหัวเราะต่อไปได้ ปล่อยก๊ากออกมา

...แล้วทำไมมันกลายเป็นเรื่องขำขันไปได้ว่ะเนี่ย เรากำลังคุยเรื่องซีเรียสกันอยู่ไม่ใช่เรอะ

“มีวันหนึ่ง ตอนปอสี่ มันหนีออกจากบ้าน เขียนจดหมายลาไว้ว่า 'เกียร์ขอบคุณพ่อกับแม่และพี่เล่ย์มากที่ยอมให้อยู่ด้วยมาตั้งนาน ตอนนี้เกียร์โตแล้ว เกียร์จะออกไปตามหาพ่อแม่ตัวจริง ชาติหน้ามีจริงขอให้เกียร์ได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อกับแม่และน้องพี่เล่ย์จริงๆ บ๊ายบาย - เกียร์ ลูกที่เก็บมาเลี้ยง' แล้วมันก็วาดรูปเด็กผู้ชายแบกถุงผ้าน้ำตาไหลไว้ใต้ข้อความ”

“เฮ้ย เขียนยังงี้จริงๆ อะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” อะไรมันจะฮาขนาดนั้น

“เขียนประมาณนี้แหละ แต่ที่จำได้แม่นคือคำลงท้ายกับรูปเด็กผู้ชายแบกถุงผ้ายืนร้องไห้ ตอนนั้นพี่กับแม่ร้องไห้เลย นึกว่ามันหนีไปจริงๆ”

“อ้าว แล้วไม่ได้หนีจริงๆ เหรอ” จริงๆ ผมก็อยากตบเข้าประเด็นหลักอยู่เหมือนกัน แต่ใช่ว่าจะหาโอกาสแบบนี้ได้ง่ายๆ เพราะปกติพี่แกแทบจะไม่คุยเกี่ยวกับตัวเองเลย... รู้จักกันแรกๆ ยังคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กมีปัญหาบ้านแตกสาแหรกขาดหรือเปล่าวะ ถึงไม่ยอมพูดถึงเรื่องทางบ้านเลย

“หนีไปแล้ว... พอดียามของหมู่บ้านเห็นมันหอบหิ้วถุงใส่เสื้อผ้ากับของเล่นพะรุงพะรังก็ถามว่าจะไปไหน ถึงจะฉลาดแต่ก็ยังเด็ก พอโดนตะล่อมถามมันก็บอกความจริง เขาก็บอกว่าจะพามันไปหาพ่อแม่เอง แล้วก็วกกลับมาส่งที่บ้าน ตอนที่พวกเรากำลังจะเอารถออกตามหาอยู่พอดี... วันนั้นแหละที่พี่รู้ว่าตัวเองเป็นลูกเลี้ยง เพราะแม่กลัวว่าไอ้เกียร์มันจะบ้าไปมากกว่านี้เลยต้องบอกความจริง แล้วมอบไดอารี่ของแม่ให้พี่... ในนั้นก็บอกหมดทุกอย่างเกี่ยวกับแม่ รวมทั้งชื่อพ่อด้วย”

“แล้วพี่เล่ย์ว่าไง”

“ก็... ไม่ได้ว่าไง งงอยู่ เพราะไม่เคยคิด มีแต่ไอ้เกียร์แหละที่ร้องไห้ลั่นบ้าน”

“อ้าว แล้วเขาไม่ดีใจเหรอที่ไม่ได้เป็นลูกเลี้ยง”

“มันบอก มันทำใจไว้แล้วว่ามันไม่ใช่ลูกของพ่อกับแม่ แต่ยังไม่ได้ทำใจว่าพี่ไม่ใช่พี่มัน งงกับมันมั้ย ลอจิกของเด็กปอสี่”

“เออว่ะ” ผมก็งง ต่างกันยังไงวะ “แล้วยังไงต่อ พอรู้ว่าพ่อแม่เป็นใคร พี่เล่ย์ทำไง ออกตามหามั้ย”

“ไม่ใช่ไอ้เกียร์” พี่เล่ย์ว่าขำๆ ก่อนจะบอก “ไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้ตามหาใครทั้งนั้น แต่ก็เสียใจมาก ถึงขั้นเก็บเอาไปฝันว่าโดนพ่อแม่กับไอ้เกียร์มายืนชี้หน้าไล่ออกจากบ้านเกือบอาทิตย์เลย”

ไม่มีไรทำ ผมหยิบฟางเส้นหนึ่งมากัดเล่น แล้วก็รีบทิ้ง... เกือบจะเป็นควายไปแล้วมั้ยล่ะ

“ตอนมอสอง... ด้วยความอยากรู้ของไอ้เกียร์ มันก็สามารถสืบมาได้ว่า พ่อพี่ทำงานที่ไหน ตำแหน่งอะไร”

“เชอร์ล็อคโฮล์มส์น้อย” ผมบอก

“มันเสือกอะดิ” คนเล่าแย้งขำๆ ก่อนจะต่อ “แล้วมันก็ชวนพี่ไปแอบดูพ่อที่บริษัท”

“แล้วไปป๊ะ”

“ไม่ไป”

“อ้าว...” แล้วบอกทำไมวะ

พี่เล่ย์หัวเราะหึๆ “มันตื้อทุกวัน จนมอห้าก็ยังไม่เลิก พี่รำคาญเลยยอมไป”

...ใช้เวลาตื้อตั้งแต่ ม.2 ถึง ม.5!! ไอ้คนตื้อก็โคตรจะมีความพยายาม ส่วนไอ้คนโดนตื้อก็โคตรจะใจแข็ง

“พอได้เห็นพ่อ... วันต่อมามันก็มาพร่ำว่า พี่ควรจะไปพบพ่อและบอกความจริงให้ท่านรู้ว่ายังมีลูกอีกคนหนึ่ง พ่อกับลูกควรจะได้รู้จักกัน พ่อลูกต้องพลัดพรากจากกันมันทรมานขนาดไหน บลาๆๆ ดราม่าตามสไตล์มัน”

“แล้วพี่ไปป๊ะ...ไม่ไป” ผมถามเอง ตอบเองเสร็จสรรพ พี่เล่ย์ก็หัวเราะขำก่อนจะบอก “จริงๆ พี่ก็อยากจะไปพบพ่อเหมือนกัน แต่ติดตรงที่ว่าอายุยังไม่ครบยี่สิบ”

“เกี่ยวไรกับยี่สิบ”

“ครบยี่สิบก็ถือว่าบรรลุนิติภาวะ พ้นสภาพการเป็นผู้เยาว์ พ่อก็ไม่สามารถบังคับให้พี่ไปอยู่ด้วยได้... เพราะถ้าเขาเป็นพ่อพี่จริง ก็คงจะคิดเหมือนพี่ ไม่ยอมให้ลูกตัวเองไปอยู่กับคนอื่นแน่ๆ”

อืม... ตอนนั้นอยู่ ม.5 น่าจะอายุสิบเจ็ด คิดลึกขนาดนี้เลย

“วันเกิดอายุครบยี่สิบ... พี่ก็ไปหาพ่อที่บริษัท... รู้มั้ยพ่ออยู่กับใคร”

“ไม่รู้” ผมตอบโดยไม่คิด พี่เล่ย์ก็ว่า“เดาสิ ใช้สมองซะบ้าง ฝ่อหมดแล้ว”

“โห ว่ากันขนาดนี้เลยเหรอ” ผมทำหน้ามุ่ยยิ่งเห็นอีกฝ่ายหัวเราะขำก็ยิ่งหมั่นไส้ เอาไฟฉายเคาะขาซะ“อ้าว ดับเลย”

“ไหน เอามาดูดิ๊” เห็นมือคนถามเป็นเงารางๆ ในความมืด ผมก็ยื่นไฟฉายไปให้ แต่แทนที่จะรับไปดีๆ กลับคว้ามือแล้วดึงจนผมล้มลงไป หัวกระแทกกับคางดังโป๊ก...

หัวแข็งครับ ไม่ค่อยเจ็บ แต่เจ้าของคางสิ ซี๊ดปากเลย “สมน้ำหน้า”

อีกฝ่ายบ่นงึมงำอะไรไม่รู้ ฟังไม่ได้ศัพท์ แล้วพอผมจะลุกขึ้น แขนแข็งๆ ก็ล็อคไว้ไม่ยอมปล่อย ก่อนเจ้าของแขนจะบอก “หนาว”

“สำออยว่ะ” ผมว่า แต่ไม่ได้ขัดขืน เอนหน้าแนบกับอกอุ่น...

คนสำออยหัวเราะหึๆ แล้วบอก “จะฟังต่อมั้ย ถ้าฟังก็ต้องยอมให้กอดดีๆ ห้ามดิ้น” แบล็คเมล์กันแบบนี้เลย

ผมย่นจมูก ขนาดนี้ยังไม่ยอมอีกเหรอ“ฟังดิ... แล้วสรุปอยู่กับใคร”

“ลุงรหัสพุ” พี่เล่ย์ว่า มือก็ไม่อยู่นิ่ง.... คึคึ คิดอะไรกันอยู่ แค่หมุนเปิดถ่านไฟฉายออกมา แล้วใส่กลับเข้าไปใหม่ ก่อนจะปิดให้สนิท แล้วลองเปิดดู “อะ ติดแล้ว... ทำไมไม่ซื้อแบบที่ชาร์จไฟ ประหยัดกว่า”

“เผื่อต้องไปอยู่ในที่ๆ ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงไง”

“เผื่อยาวไปมั้ย”

ผมหัวเราะขำ แล้วก็เร่ง “เล่าต่อดิ”

“อืม... ถึงไหนแล้ว”

“ถึงดาวอังคาร ฮ่า ฮ่า ฮ่า” สรุปเราคุยเรื่องซีเรียสกันอยู่ใช่มั้ย

“โอเค ไปรอที่ดาวอังคารก่อนเลย เดี๋ยวพี่ตามไป ขอนอนพักก่อน”

“เฮ้ย ไม่ได้ๆ มาเล่าต่อเลย ถึงตอนเจอพ่อกับเฮียแพทแล้ว”

พี่เล่ย์หัวเราะขำ ก่อนจะเล่าต่อ “พี่ตั้งใจให้พ่อรู้แค่คนเดียว ก็เลยขอคุยส่วนตัว แต่ลุงรหัสพุไม่ยอมออกไป จะขอฟังด้วย พ่อก็เลยตามใจ”

“แล้วพี่เล่ย์บอกป๊ะ”

“บอก... ตั้งใจมาแล้ว แค่จะบอกให้รับรู้ เชื่อไม่เชื่อก็อีกเรื่องหนึ่ง”

“แล้วพ่อเชื่อมั้ย”

“เชื่อ เขาจำแม่พี่ได้”

“แล้วพี่เล่ย์ทำไง”

“ไม่ทำไง คุยเสร็จก็กลับ”

“ห๊ะ แค่เนี้ย” ฟังมาตั้งนาน จบง่ายๆ แบบเนี้ย

“อืม แค่นี้แหละ พี่แค่อยากให้พ่อรู้เฉยๆ”

“แล้วพ่อพี่ไม่รั้งไว้เหรอ”

“พี่รับปากแล้วว่าจะออกมาพบ ถ้าเขาอยากเจอ”

“ทำไมจบง่ายจัง ไม่มีฉากเรียกน้ำตาซึ้งๆ เลยเหรอ แบบกอดกันแล้วร้องไห้อะไรเงี้ย”

พี่เล่ย์หัวเราะขำ “เลิกดูได้แล้วนะ ละครหลังข่าว” แล้วก็บ่นงึมงำ “ดราม่าพอกับไอ้เกียร์เลย อยู่ด้วยกันจะขนาดไหนวะเนี่ย”

“ท่าทางจะสนุกถ้าได้อยู่กับพี่เกียร์” ผมบอกขำๆ ก่อนจะนึกได้ “แล้วเฮียแพทล่ะ เป็นไง”

“ก็...สบายดี” ตอบได้กวนจริงๆ หมั่นไส้เลยทุบไหล่คนกวนดังบึ๊ก “กวนว่ะ”

“พุ ชอบใช้กำลัง เดี๋ยวเถอะ” เธ่อ ทำเป็นดุ ไม่เห็นกลัว

“โอ๋ เจ็บเหรอ ไหนๆ มา เดี๋ยวเป่าให้” ผมพูดล้อๆ ก่อนจะลูบคลำบริเวณที่ลงกำปั้นไปเมื่อตะกี้ แต่ถูกจับมือไว้

คนจับบอก “อยู่เฉยๆ ถ้าไม่อยากให้ขึ้น”

“อะไรขึ้น” ผมถามด้วยความปากไว ก่อนจะหน้าแดงเมื่ออีกฝ่ายจับมือผมไปวางตรงนั้น “ตรงนี้”

“เฮ้ย พี่เล่ย์ ทุเรศว่ะ” ผมว่าพร้อมกับยกกำปั้นจะทุบคนทุเรศ แต่โดนขู่ซะก่อน “หนึ่งจูบต่อหนึ่งที”

ทำอะไรไม่ได้ ผมก็ได้แต่บ่นงึมงำ อีกฝ่ายก็พูดล้อๆ “แมงหวี่ที่ไหนมาบินข้างหูวะ”

“เลิกพูดได้แล้ว เล่าเลย” อารมณ์เสีย

“เล่าอะไร”

“เฮียแพทอะ เป็นไง ห้ามตอบว่าสบายดีนะ” ผมรีบดักคอไว้ พี่เล่ย์ก็หัวเราะหึๆ “ไม่สบายก็ได้... ลุงรหัสพุก็โกรธมาก ไม่ยอมรับว่าพี่เป็นลูกอีกคนของพ่อ จะให้ตรวจ DNA”

“แล้วพี่จะตรวจป๊ะ”

“ไม่”

“เอ๊า” ผมงงกับคนๆ นี้จริงๆ

“แค่คิดว่าเขาควรจะได้รู้ว่ายังมีลูกคือพี่อีกคนหนึ่ง และก็สบายดีไม่มีอะไรต้องห่วง แต่ไม่ได้ต้องการอะไรจากเขา… เพราะหากพี่เป็นพ่อ ก็คงอยากรู้เหมือนกัน”

“นึกว่าพี่เกียร์กล่อมจนยอม”

“มีส่วน… เพราะถ้าไม่มีไอ้เกียร์ พ่อกับพี่คงไม่ได้พบกัน” พี่เล่ย์พูดขำๆ“สองปีกว่าที่มันพูดกรอกหู จนพี่รู้สึกผิด เหมือนกับเป็นฝ่ายทิ้งพ่อไป”

“หึๆๆ” ผมหัวเราะตัวสั่น นึกภาพออกเลย

รอจนผมหยุดหัวเราะ แล้วพี่เล่ย์ก็ถาม “คำถามต่อไป?”

“อืม…” จะบอกว่าไม่คิดอะไรกับคำพูดของเฮียแพทเลยมันก็ไม่ใช่ แม้ไม่ได้ระแวงว่าพี่เล่ย์เข้าหาผมเพื่อแก้แค้นเฮียแพทแบบในนิยายน้ำเน่า เพราะหากต้องการแก้แค้นจริงๆ เป้าหมายก็ควรจะเป็นแฟนของเฮียแพทน่าจะได้ผลกว่า… แต่ถึงยังไงผมก็ยังอยากจะฟังคำยืนยันจากปากอีกฝ่ายอยู่ดี “เวลาที่เราเจอกัน... บังเอิญหรือพี่เล่ย์ตั้งใจ”

“ตอนไหน”

“ก็…ทุกตอน”

“ตอนแรกด้วยมั้ย ในห้องน้ำ?” พี่เล่ย์ถามกลั้วหัวเราะ

ผมควรจะดีใจใช่มั้ย ที่อีกฝ่ายจำการพบกันของเราได้ตั้งแต่ครั้งแรก... แต่พอนึกถึงผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ด้วย“ตอนนั้นไม่ประทับใจ ไม่นับ ห้ามพูดถึงด้วย”

“อืม… ตอนแรกที่ไม่ใช่ในห้องน้ำ” ยัง ยังไม่จบอีก “หึ หึ บนรถเมล์?”

“อือ ฮึ… บังเอิญหรือว่าตั้งใจ”

“วันนั้น… พี่ไม่ได้ขับรถไปเรียนเพราะตอนเย็นต้องไปรับมอ’ไซค์ที่อู่ ตอนที่ออกมาจากมอ เห็นพุกำลังก้าวขึ้นรถเมล์ คันที่ผ่านอู่พอดี ก็เลยขึ้นตาม…”

“บังเอิญ” ผมสรุป

“ฟังให้จบแล้วค่อยตัดสิน” พี่เล่ย์ว่า แล้วเล่าต่อ “พอรถออกได้ไม่นาน ไอ้เกียร์ก็โทรมา เพราะพี่นัดมันไว้ที่หน้ามอ จะให้ขับรถไปส่งที่อู่”

“อ้าว…” น่าจะคุยก่อนที่จะเอากระเป๋ามาวางที่ตักผม เพราะหลังจากนั้นก็ไม่เห็อีกฝ่ายจะคุยโทรศัพท์เลย

“พี่ลงต่อจากพุป้ายหนึ่ง ปรากฏว่ามอ’ไซค์ยังซ่อมไม่เสร็จ ช่างบอกอีกประมาณสามชั่วโมง พี่เลยไปหาอะไรกินที่ห้างข้างๆ รอเวลา เพราะไหนๆ ก็มาแล้วไม่อยากให้เสียเที่ยว… พออู่โทรมาว่าเสร็จแล้ว เดินออกไปนอกห้าง ไอ้เกียร์โทรมาพอดีให้ซื้ออาหารญี่ปุ่นไปฝาก ไถ่โทษที่ทำให้มันรอเก้อ พี่ก็เลยเดินกลับเข้าไปใหม่… แล้วก็เจอกับพุ”

“แล้วสรุปว่าไง”

“สรุปว่า วันนั้นพี่ก็ไม่ได้ไปเอามอ’ไซค์และไอ้เกียร์ก็ไม่ได้กินอาหารญี่ปุ่น” พี่เล่ย์ว่าขำๆ ก่อนจะพูดเสียงจริงจัง “ทำไมพุถึงอยากรู้ มันสำคัญด้วยหรือ จะบังเอิญหรือตั้งใจ แต่ทั้งสองก็ทำให้เราได้เจอกัน แค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว”

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ถ้าเฮียแพทไม่จุดประเด็นไว้ก่อน แค่นี้ก็คงจะพอ “ขอถามข้อหนึ่ง…”

“อืม… ว่ามา”

เอาวะ เว้ากันซื่อๆ นี่แหละ ขี้เกียจอ้อมค้อมละ “พี่เล่ย์ไม่ได้มีอะไรแอบแฝงใช่มั้ย… ที่คบกับพุเพราะพุเป็นพุใช่มั้ย”

“ถ้าพุไม่เป็นพุ แล้วพุจะเป็นอะไร” อีกฝ่ายว่าขำๆ ผมก็เลยจิ๊ปากแล้วบอก “ฮื้อ พี่อะ คนยิ่งซีเรียส ไม่ใช่เรื่องตลกนะเนี่ย”

“โอเคๆ แต่ก่อนตอบ พี่ขอถามข้อหนึ่ง… พุคิดว่าพี่จริงใจกับพุหรือเปล่า”

ผมถอนหายใจอีกเฮือก “พุเชื่อละ ว่าพี่เล่ย์กับพ่อเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน นิสัยเหมือนกันเด๊ะ”

“ยังไง”

“ก็ยังงี้ไง… ชอบตอบคำถามด้วยคำถาม”

มือใหญ่ที่วางอยู่ตรงเอวเลื่อนขึ้นมาลูบหัวผมเบาๆ “เพราะพี่เชื่อว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูด... พี่ไม่ต้องการให้พุเชื่อในสิ่งที่พี่พูด แต่ให้ตัดสินจากสิ่งที่พี่ทำ”

ได้ยินอย่างนั้นผมก็ได้แต่นิ่ง วนนิ้วกับกระดุมเชิ๊ตของอีกฝ่ายเล่น ก่อนจะพูดพึมพำ “นั่นก็ใช่ แต่การสื่อสารก็สำคัญเหมือนกัน พุไม่อยากคิดเองเออเอง อะไรที่ไม่รู้ไม่มั่นก็อยากจะถาม”

“อะไรที่พุไม่มั่นใจ”

ผมเผลอยักไหล่ ก่อนจะตอบ “คือ… เข้าใจป๊ะ พี่เล่ย์ทั้งหล่อทั้งรวย” พูดแล้วก็เขินแต่คนโดนชมไม่มีทีท่าว่าจะเขินสักนิดเดียว มีอืมๆ ด้วย เหมือนการโดนชมว่าหล่อว่ารวยเป็นเรื่องปกติธรรมดาของชีวิต “แล้วมาคบกับคนอย่างพุเนี่ยนะ”

“คนแบบพุเป็นยังไง”

“ก็แบบ…รวยก็ไม่รวย หน้าตาก็จืดๆ” ไม่เหมาะสมกันอย่างยิ่ง

พี่เล่ย์นิ่งไปนิด ก่อนจะถามช้าๆ เหมือนไม่แน่ใจ “ที่พูดมาเนี่ย เป็นคำถามหลอก จะให้พี่ชม ใช่มั้ย”

ตายไปเลยเจอตอบแบบนี้ “โอเค จบ ไม่คุยละ”

“เฮ้ย พี่สงสัยจริงๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ดูเขาดิ ไอ้พี่บ้า 

แล้วนี่ผมหลงประเด็นไปไหนแล้วเนี่ย ซีเรียสได้แป๊บเดียว หลุดไปอีกละ“ยังไม่ตอบพุเลย… มีไรแอบแฝงหรือเปล่า”

“พุก็ยังไม่ได้ตอบพี่เหมือนกัน… คิดว่าพี่จริงใจหรือเปล่า”

“ก็… จริงใจมั้ง”

“ทำไมต้องมีมั้ง… ไม่มั่นใจ?”

“จริงใจคร๊าบบบ”

“ประชด?”

เรื่องมากจริงเว้ย“จริงใจครับ… แล้วคำตอบของพี่ล่ะ”

“จริงใจแล้วจะมีอะไรแอบแฝงได้ยังไง”

ขอตบเข่าฉาด “น๊าน ว่าแล้วต้องตอบแบบนี้ ทำไมแทงหวยไม่ถูกวะ”

พี่เล่ย์หัวเราะขำ ก่อนจะถาม “หมดหรือยังคำถาม”

ปิดบัง… ก็เล่าซะหมดเปลือกขนาดนี้ จะมีอะไรปิดบังอีก

บริสุทธิ์ใจ… การกระทำสำคัญกว่าคำพูด จริงใจหรือแอบแฝงคงต้องวัดกันต่อไป

บังเอิญหรือตั้งใจ… ก็อย่างที่บอก จะตั้งใจหรือบังเอิญ แต่ก็ทำให้ได้เจอกัน แค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว

“คำถามสุดท้าย…” ผมบอก พออีกฝ่ายพูดอืมอยู่ในลำคอก็บอก “พี่เล่ย์คิดอะไรกับเฮียแพท”

“คิดอะไร… คิดว่าเป็นลูกอีกคนของพ่อ ใช่มั้ย?” คงจะงงกับคำถามอย่าว่าแต่คนตอบเลย คนถามอย่างผมยังงงตัวเอง

“หมายถึงความรู้สึกอะ…รัก ชอบ อิจฉา เกลียด โกรธ อะไรแบบเนี้ย” แล้วมันก็นิ่งไปนานมาก จนผมนึกว่ามันหลับไปแล้ว “พี่?”

“อืม… ก็เฉยๆ นะ ไม่รู้สึกอะไรเลย”

“เนี่ยนะคำตอบ คิดซะนาน” นึกว่าจะได้คำตอบที่ชัดเจนกว่านี้

“ก็มันหาคำตอบไม่ได้ เลยต้องคิดนาน” พี่เล่ย์ว่า ก่อนจะถาม “ทำไม… ต้องรู้สึกด้วยเหรอ”

ชักสงสัย… ผมมีแฟนตายด้านเปล่าวะ

“เปล่า… แค่แปลกใจว่าปกติพี่น้องต่างแม่ก็น่าจะไม่ชอบกัน อิจฉาริษยากันอะไรแบบเนี้ย”

“ปกติของใคร”

“ก็ของคนทั่วๆ ไป ดูอย่างหนัง…” หลุดไปแล้วผมรีบหุบปากเลย… และก็เป็นไปตามคาด เมื่อพี่เล่ย์บอก “สรุปเอาความคิดนี้มาจากละครหลังข่าวใช่มั้ย ดราม่ามาเลย”

“พี่ไม่รู้อะไร เรื่องจริงยิ่งกว่านิยายอีก ขอบอก” ผมเถียง

“ยกตัวอย่างเช่น…”

ผมยิ้มอย่างมีชัย “ยกตัวอย่างเช่นพี่กับเฮียแพท… พี่น้องที่พลัดพรากจากกันตั้งแต่เด็ก สุดท้ายก็ได้มาเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน และรู้จักกับพุเหมือนกัน… เห็นมั้ย พรหมลิขิตชัวร์”

“พรหมลิขิตขีดเขี่ยให้เหี้-” ผมรีบยกมือขึ้นปิดปากคนพูด “จบๆ ห้ามพูดๆ เดี๋ยวปั๊ด…” ชอบทำเป็นเล่นอยู่เรื่อย

“เดี๋ยวปั๊ดอะไร” น้ำเสียงท้าทายมาก... แล้วเราจะยอมได้ไง

“เดี๋ยวปั๊ด…” ผมว่า แล้วดันตัวขึ้นไปจุ๊บแก้มคนท้า ก่อนจะยักคิ้วในความมืด “แบบเนี้ย”

พี่เล่ย์เงียบไปแป๊บหนึ่ง แล้วบอก “ว้าว พัฒนาขึ้นนะเรา” พร้อมพลิกตัวคร่อมร่างผม ก้มลงหอมไปทั่วทั้งหน้า ก่อนจะลามเลยมาที่ซอกคอและไหล่ “อืมมมมม์” ก่อนมือซุกซนข้างหนึ่งจะล้วงเข้าไปในกางเกงผม ทั้งลูบทั้งขยำอย่างมันมือ

ชักจะเลยเถิดเกินกว่าที่คิด กลัวจะหยุดไม่อยู่หากปล่อยต่อไป ผมรีบตะครุบมือของอีกฝ่ายไว้ “เดี๋ยวๆ พี่เล่ย์ หยุดก่อน หยู๊ดดด”

อีกฝ่ายหยุดตามที่ผมขอ แต่ยังไม่ยอมเอามือออกจากกางเกง เสียงหอบหายใจ ฟังแล้วมันดูหื่นๆ ยังไงไม่รู้ จะรอดมั้ยเนี่ยงานนี้

“พะ พุยังไม่พร้อม พะ พี่เล่ย์อย่าทำพุเลยนะ” เสียงสั่นเลยผม…กลัวเพราะไม่เคยเลยเถิดขนาดนี้มาก่อน

พี่เล่ย์ถอนหายใจ ก่อนจะดึงมือออก แล้วบ่นเซ็งๆ“แกล้งกันใช่มั้ย… ยั่วแล้วหนี”

แค่หอมแก้มเอง ยั่วตรงไหนวะ!



+++++unbelievablelove+++++

ขอบคุณที่ติดตามอ่าน แล้วเจอกันตอนต่อไป ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-10-2013 02:28:42 โดย rainbow67 »

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
Re: Unbelievable Story : Teaser for Next Chapter - 26 Sep 12
«ตอบ #378 เมื่อ26-09-2012 22:59:48 »

นี่ทีเซอร์ช่ะ
อ่อยยยย
พี่เล่ย์น่ารักมากไปแล้วนะ
นี่ตักบาตรกัน 3 คนเราะ
หึหึ เอาแล้ว เฮียจะทำไงเนี่ย
รอดูกันต่อไปปปป

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
Re: Unbelievable Story : Teaser for Next Chapter - 26 Sep 12
«ตอบ #379 เมื่อ26-09-2012 23:20:08 »

อู้ว หนุ่มสาวสมัยนี้มันต้องงี้สิทำบุญบ้างอะไรบ้าง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Unbelievable Story : Teaser for Next Chapter - 26 Sep 12
« ตอบ #379 เมื่อ: 26-09-2012 23:20:08 »





ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8
Re: Unbelievable Story : Teaser for Next Chapter - 26 Sep 12
«ตอบ #380 เมื่อ26-09-2012 23:22:55 »

พุมาแล้ว :z2:ขอบคุณค่ะ :pig4:

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
Re: Unbelievable Story : Teaser for Next Chapter - 26 Sep 12
«ตอบ #381 เมื่อ26-09-2012 23:23:53 »

หุหุ น่ารักดีอะ

ออฟไลน์ arisa_sa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
Re: Unbelievable Story : Teaser for Next Chapter - 26 Sep 12
«ตอบ #382 เมื่อ26-09-2012 23:35:13 »

พุมาแล้ว เย้ดีใจ ใส่บาตร 3 คน เป็น 3พี ใช่ปะ
(เกี่ยวกันมะเนี่ย)

ขอบคุณมากๆๆๆ ค่ะ  :L1: :pig4: :L1:

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15
Re: Unbelievable Story : Teaser for Next Chapter - 26 Sep 12
«ตอบ #383 เมื่อ26-09-2012 23:35:22 »

^^

ออฟไลน์ andear

  • ยาราไนก๊ะ ??
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
Re: Unbelievable Story : Teaser for Next Chapter - 26 Sep 12
«ตอบ #384 เมื่อ26-09-2012 23:36:51 »

น่ารักกันจริงๆ :-[ :-[

ออฟไลน์ Aoya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 906
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-3
Re: Unbelievable Story : Teaser for Next Chapter - 26 Sep 12
«ตอบ #385 เมื่อ26-09-2012 23:38:32 »

เอามายั่วคนอ่านอีกแล้ว

นี่เฮียแพทยังไม่รู้ใช่ไหมว่าพุกับเล่ห์เป็นแฟนกัน
พุท่าจะงานงอกอีกแล้วล่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-09-2012 00:06:50 โดย Aoya »

gonna.be

  • บุคคลทั่วไป
Re: Unbelievable Story : Teaser for Next Chapter - 26 Sep 12
«ตอบ #386 เมื่อ27-09-2012 00:02:06 »

นี่ขนาดทีเซอร์นะ
อชขอเเบบจัดเต็มเลยได้มั้ยค๊าาาา
พี่เล่ห์น่ารักขึ้นทุกวันๆ  :-[

namtarn11

  • บุคคลทั่วไป
Re: Unbelievable Story : Teaser for Next Chapter - 26 Sep 12
«ตอบ #387 เมื่อ27-09-2012 00:54:05 »

น่ารัก ^^

ออฟไลน์ BitterSweet~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 788
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-0
Re: Unbelievable Story : Teaser for Next Chapter - 26 Sep 12
«ตอบ #388 เมื่อ27-09-2012 01:01:13 »

รออ่านเต็มบทนะคะ ^^

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: Unbelievable Story : Teaser for Next Chapter - 26 Sep 12
«ตอบ #389 เมื่อ27-09-2012 05:54:12 »

นี่แค่ทีเซอร์ ตอนแรกๆถ้ายาวขนาดนี้ก็เป็นตอนปกติแล้ว รักคนเขียนที่ซู้ดดดดด :man1:
รอแบบเต็มๆ อยากรู้ว่าตักบาตรกันสามคน จะเกิดอะไรขึ้น แต่ชาติหน้าอาจได้เจอกันอีกนะ :z1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด