ตอนที่ 13 ชายรูปร่างผอมเกร็งยืนอยู่ที่ข้างเสาต้นหนึ่งใต้ถุนอาคารเรียน ดวงตายาวเรียวเหมือนงูจับจ้องชายหนุ่มนักศึกษารูปร่างผอมบาง ที่ก้าวลงบันไดอาคารเรียน มะพร้าวที่เดินตามมาเอาหนังสือเรียนสะกิดเอว
“เขามาทำไมวะน่ะ”
ไข่ตุ๋นส่ายหน้า แล้วเลี้ยวขวาเดินออกไปจากใต้ถุนอาคาร ชายคนนั้นก็เดินตามมาจนทันก่อนที่ 2 หนุ่มจะไปถึงห้องสมุด
“คุณไข่ตุ๋น”
ชายคนนั้นเรียก ทำให้ไข่ตุ๋นหันมามอง
รอยยิ้มที่ไม่น่าไว้วางใจปรากฏชัดเจนที่มุมปาก
“ผมมีเรื่องอยากถาม
“คุณเป็นใคร” มะพร้าวชิงถามก่อน
ดวงตายาวเรียวตวัดมาหาหนุ่มอ้วนกลมสวมแว่นทันที ไข่ตุ๋นก็เลยถามซ้ำ เพราะแม้จะเคยเห็นหน้าหลายครั้ง แต่ไม่เคยรู้เลยว่าคนๆ นี้ชื่ออะไร
“คุณเป็นใครครับ ผมไม่รู้จักคุณ”
“ผมชื่อเกริกเป็นผู้ติดตามของคุณโต้ง”
“แล้วพี่โต้งไปไหนละครับ” ไข่ตุ๋นถามต่อ
“ทำงานครับ ที่ผมมาก็เพียงแค่อยากถามเรื่องพี่สาวของคุณ”
มะพร้าวหันมามองหน้าไข่ตุ๋นทันที ขณะที่ไข่ตุ๋นคอแข็งหลังตรง สีหน้าและน้ำเสียงเฉยเมยเหมือนเจ้าชายน้ำแข็ง
“ผมไม่รู้จักคุณ”
พูดจบไข่ตุ๋นก็หมุนตัวเดินออกมาทันที แต่ยังได้ยินเสียงหัวเราะแปร่งหู ตามหลังมา
“พี่สาวคุณรู้จักผมดี และฝากบอกเขาด้วยว่า ผมรออยู่”
====+====+====
ชิณณะมองรูปภาพบนโต๊ะ โดยมีชัยกับก้องยืนอยู่ข้างๆ
“เรารู้ว่าคนที่ทำร้ายคุณสกาวมีคุณเล็ก หรือแบงค์ ที่เสียชีวิตอยู่ในรถที่จมน้ำ มีคุณเก่งที่เสียชีวิตจากไฟคลอก แต่ยังมีอีกคนที่หายไปคือคุณเลิศ เมื่อหลายเดือนก่อนมีคนพบศพนิรนามถูกทิ้งไว้ในทุ่งนาแถวชัยนาท ยังมีทรัพย์สินหลายอย่างอยู่ที่ศพ เพียงแต่ขั้นตอนที่ล่าช้าทำให้กว่าที่ครอบครัวจะไปชี้ศพ และสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิตเวลาก็ล่วงเลยมามาก”
“ช้ามาก” ชิณณะยอมรับ คิดคำนวณในใจว่าเวลาน่าจะอยู่ใกล้ๆ กับที่เก่งและแบงค์เสียชีวิต
ชัยรายงานต่อไปขณะที่เลื่อนรูปภาพอีกใบให้ชิณณะ
“มีรูปคุณสกาวอยู่ในคอมพิวเตอร์ของคุณเลิศด้วยครับ”
นอกจากรูปของสกาวยังมีทั้งเล็กและแบงค์ รวมถึงใครอีกคนที่เป็นเงาสะท้อนอยู่ในกระจก
คนที่ถ่ายภาพ!
ภาพที่เห็นคือ สกาวในสภาพหมดสติ กับชายหนุ่ม 3 คนที่ไม่มีปรากฏใบหน้าเต็ม แต่กลับมีภาพใบหนึ่งที่มีเงาสะท้อนจากกระจก
ภาพของคนที่ถือกล้อง
ชิณณะกดโทรศัพท์หาโต้งขณะที่บอกกับชัย “โทรไปเชียงใหม่ บอกเขาว่าให้ระวังสกาว”
“ครับ” ชัยรับคำสั่ง ก้าวถอยออกมาจากโต๊ะทำงานของชิณณะ เพียงไม่กี่ก้าวแล้วโทรศัพท์หาแฟนที่เป็นพยาบาลดูแลหวานอยู่ที่เชียงใหม่
พอโต้งกดรับสายชิณณะก็ถามทันที
“ทหารคนที่ติดตามมึง เคยอยู่กับเล็กมาก่อนใช่มั้ย”
“ใช่” โต้งบอกแล้วลดเสียงให้เบาลง “เดี๋ยวนะ ขอกูออกไปข้างนอกห้องทำงานก่อน”
โต้งก้าวยาวๆ ออกมาที่สนามหญ้าด้านข้างอาคารกวาดตามองว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ถึงได้บอกให้ชิณณะเล่าว่าเกิดอะไรขึ้น
“รู้เรื่องที่พบศพของเลิศเพื่อนเจ้าเล็กหรือยัง”
“เพิ่งรู้เมื่อคืน กูโมโหชิบหาย พ่อแม่มันปิดข่าว นี่เผาไปแล้วด้วยนะ” โต้งเริ่มด่ายาว “ห่าเอ้ย ตำรวจบอกว่า ตอนแรกมันไม่ยอมรับว่าลูกถูกฆาตกรรม ก็สืบหลายทางเพราะอาจลักพาตัว กรรโชกทรัพย์ หรือขัดผลประโยชน์ แต่หลักฐานหลายอย่างมันชี้ไปที่ฆ่าตัวตายแต่มีคนเอาศพมาทิ้ง หรือไม่ก็ฆ่าตัวตายที่ตรงนั้น แต่จู่ๆ คนจะมาอยู่ตรงนั้นได้ยังไงมันต้องมีคนพามา จนกระทั่งศพเผาไปเป็นเดือน พนักงานสอบสวนถึงได้มาหากูบอกว่า เจอเพื่อนเจ้าเล็กคนที่หายสาบสูญไป”
“ในรูปที่ได้จากคอมพิวเตอร์ของเลิศ มีรูปของสกาว เจ้าเล็ก เก่ง แล้วก็ทหารคนที่ติดตามมึง”
โต้งเหมือนกำลังกลั้นหายใจ
“มึงอยู่ที่ทำงานใช่มั้ย อีกครึ่งชั่วโมงกูจะไปหามึง”
“เฮ้ย เร็วไป”
“เดี๋ยวกูซ้อนมอเตอร์ไซค์จ่าแถวนี้ไป มึงรอกูก่อน”
อีกครึ่งชั่วโมงถัดมา โต้งก็มานั่งอยู่ที่ห้องทำงานของชิณณะจริงๆ
“กูเอารถมาไม่ได้ เพราะเดี๋ยวมันรู้”
“แสดงว่ามึงก็สงสัยมันหรือไง”
โต้งยอมรับตรงๆ “กูไม่เคยไว้ใจมันตั้งแต่มันพาเจ้าเล็กไปเที่ยวกลางคืน แต่ก็อย่างที่รู้ ว่าพูดอะไรไม่ได้ แม่ออกรับแทนหมด แต่พอเล็กหายไป แม่ก็ให้มันมาอยู่กับกู แต่มันชอบทำตัวแปลกๆ ความลับมันเยอะ แล้วตั้งแต่กูไปหาไข่ตุ๋นที่มหา’ลัยเมื่อวันก่อน มันก็กลับมาถามถึง”
ชิณณะหันไปมองชัยทันที ชัยค้อมตัวรับคำสั่งโดยที่ไม่ต้องมีคำพูดแล้วก้าวออกไปจากห้อง
“มันไม่เคยเจอไข่ตุ๋นหรือไง”
“เคยสิ ตั้งแต่แรกที่มึงให้น้องไปที่สนามกอล์ฟ ก็เจอแล้ว แต่เพิ่งมาถามถึงก็ตอนที่กูไปสารภาพรักแล้วได้แห้วกลับบ้าน”
ดวงตาสีเข้มจ้องมองภาพที่ขยายใบหน้าของเกริกให้เห็นชัดเจนขึ้น
“มันทำให้น้องกูกับเพื่อนทำเรื่องเลวๆ”
ก้องกระแอม “น่าจะบอกว่าเป็นคนแนะแนวมากกว่านะครับ เพราะคนที่ลงมือทำเรื่องเลวๆ น่ะเป็นคุณเล็กกับเพื่อน”
โต้งหันมาจ้องเขม็งใส่ก้องทันที ขณะที่ชิณณะปรามเลขาฯ ไฮเปอร์
“แรงไปก้อง”
แต่ก้องแค่เบ้ปากทำท่าไม่สนใจ ทั้งแสดงความเห็นต่อ “ผมว่าตอนต่อไปจากนี้คือระวังคุณสกาวเก็บนายเกริก และระวังนายเกริกเก็บคุณสกาวมากกว่านะครับ คุณไข่ตุ๋นน่ะลอยตัวแล้วงานนี้”
คราวนี้ดวงตาสีเข้ม 2 คู่ตรงมาที่ก้องทันที
โต้งลุกขึ้นยืน ก้าวช้าๆ เข้ามายืนค้ำเลขาฯ “สกาวพยายามฆ่าไข่ตุ๋น เกริกถามข้อมูลเกี่ยวกับไข่ตุ๋น มีอะไรที่ให้เขาลอยตัว”
“ชัยไปรับคุณไข่ตุ๋นแล้ว แล้วนับจากวินาทีนี้เจ้านายก็ต้องหาเรื่องล็อกคุณไข่ตุ๋นติดไว้กับตัว ไม่เรียกว่าลอยตัว งั้นเรียกใหม่ว่าเก็บใส่กล่องนิรภัยใครก็ขโมยไปไม่ได้ ดีมั้ยครับ”
ก้องเถียงนิ่มๆ ไม่ได้เกรงกลัวทหารตัวใหญ่แม้แต่นิดเดียว
“ก้อง ไม่ปะทะคารมกับใครสักวันมันจะไข้ขึ้นมั้ยเนี่ยเรา”
ชิณณะห้ามเลขาฯ อีกครั้ง แต่ทั้งโต้งและชิณณะต่างก็รู้ดีว่า ประโยคที่ว่าใครก็ขโมยไปไม่ได้ยังรวมถึงโต้งด้วย
โต้งหันมามองรูปบนโต๊ะชิณณะอีกครั้งด้วยอารมณ์ขุ่นมัว เล่าเรื่องของครอบครัวเลิศให้ชิณณะฟัง
“มึงคิดดู ลูกชายตายทั้งคนมันเลือกที่จะปิดข่าวเพราะกลัวธุรกิจเสียหาย จนกระทั่งเผาไปแล้วก็บอกกับคนที่ถามถึงว่าป่วย แต่ตำรวจมาหากูที่บ้านเมื่อคืน ถามเรื่องภาพในคอมพิวเตอร์ กูก็ว่ากูยกคอมพิวเตอร์ ทั้งโทรศัพท์เล็กให้ตำรวจไปหมดแล้ว ไม่มีเหลืออยู่”
“ตอนนี้มันข้ามไปถึงช่วงที่นายเกริกร่วมอยู่ในกลุ่มคนที่เสียชีวิตไปแล้วนะครับ”
“แต่บังเอิญว่า คนที่เสียชีวิตมีน้องชายฉันอยู่ด้วย” โต้งหันมาทำเสียงหนักๆ ใส่
ก้องทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้
ขณะที่ชิณณะมองเพื่อนกับเลขาฯ แล้วต้องกระแอมกลบเกลื่อนความคิดแปลกๆ ในสมอง
“คงต้องหาทางกันสกาวออกไป”
ชิณณะเสนอความเห็น
“ตอนนี้ก็ห่างแล้วนี่” โต้งบอก “เกริกไม่รู้ว่าสกาวอยู่ที่ไหน กูเองก็ดูแค่ตอนที่มีเรื่องคดีความของไข่ตุ๋น แล้วพอเรื่องของเจ้าเล็กไม่มีหลักฐานชัดเจน ก็ไม่ได้ติดใจ”
“แต่คุณหญิงอาจติดใจ” ก้องท้วงขึ้น “คุณหญิงรักคุณเล็กมาก แล้วก็เคยบอกว่า จะช่วยดูแลคุณสกาวด้วยนะครับ”
เลขาฯ ที่อยู่หน้าห้องเคาะประตูบอกว่า มีแขกมารอพบชิณณะ โต้งเลยลุกขึ้นเตรียมกลับไปทำงาน แต่ไม่ลืมหันมาบอกกับชิณณะ
“ชีค มึงเก็บรูปดีๆ น้องกลัวรูปพวกนี้”
“มึงอยู่ก่อนดีกว่าจะได้คุยกับชัยเรื่องคดี กูไปรับแขกที่ห้องประชุมได้ หวังว่ากลับมากูไม่ต้องเก็บศพใคร”
“อ้าว แล้วเจ้านายไม่ให้ผมไปด้วยหรือไง” ก้องทำหน้าตาเหรอหรา ที่เจ้านายไม่ให้ไปด้วย
“ไม่ละ ให้อยู่นี่น่ะแหละ วันนี้มีหมาอยู่ในปากเราเยอะเกิน เดี๋ยวไปกัดแขกเข้า”
ชิณณะบอกแล้วก้าวออกไปจากห้อง ขณะที่ก้องหันมาทำตาขวางใส่คนที่ยืนกอดอกหัวเราะหึหึ
“ขำตาย กาแฟมั้ยครับ”
“ขอบใจนะที่ยังนึกได้”
“นึกได้นานแล้ว แต่คิดว่ามาแป๊บเดียวก็จะกลับ ก็เลยไม่ชงให้ต่างหาก”
โต้งได้แต่ส่ายหน้า เดินไปนั่งที่โซฟาตัวยาวในห้อง
ก้องออกไปไม่ถึงอึดใจก็กลับเข้ามา
“ลืมถาม คุณผู้พันโต้งกินข้าวหรือยัง”
“กินแล้ว”
“งั้น คุกกี้หรือแซนด์วิช”
“ขอกาแฟไม่ครีม ไม่น้ำตาลก็พอ”
“โอเค”
แต่พอกลับเข้ามาอีกครั้ง ก้องกลับมีทั้งคุกกี้และขนมหวานเต็มจาน โต้งถึงกับหัวเราะ
“มิน่า ชีคมันถึงได้เครียดตลอดเวลา เพราะมีเลขาฯ เกินตลอดแบบนี้นี่เอง”
แต่ก้องกลับรีบไปเก็บของบนโต๊ะของชิณณะใส่ซองสีน้ำตาล แล้วบอกกับโต้ง “ผมใส่ไว้ในลิ้นชักเจ้านายนะครับ เดี๋ยวคุณไข่ตุ๋นมาเห็น”
โต้งพยักหน้า แล้วยกกาแฟขึ้นจิบ ก้องก็เดินมานั่งยองๆ มองหน้า
“คุณกินกาแฟโหดมากเลยนะ ลูกผู้ชายไม่เห็นจำเป็นต้องกินกาแฟโหด”
“ฉันไม่ชอบครีมต่างหาก มันติดลิ้น”
“งั้นก็กินน้ำตาลได้”
“น้ำตาลก็ไม่ชอบเพราะมันหวาน ฉันไม่ชอบของหวาน”
“แล้วชอบคุกกี้มั้ย”
“กินได้”
“ครัวซองด์เล็กๆ แบบนี้ล่ะ”
“กินได้”
“แล้วผมล่ะ”
โต้งมองหน้าก้องอึ้งๆ
“เมื่อกี้ไม่ได้ยินอะไรใช่มั้ย ช่างมันเหอะ ถ้าคุณเป็นคนความรู้สึกไว คงไม่เป็นเพื่อนกับเจ้านายผมได้นานขนาดนี้หรอก”
หนุ่มไฮเปอร์พูดแล้วก็ลุกออกไปจากห้องทันที
โต้งได้แต่หันไปมองผ่านกระจกบานใหญ่กั้นผนังห้องทำงานของชิณณะ เห็นก้องก้มหน้าก้มตาทำงานไปเรื่อย
...ไอ้ที่ถามมาเมื่อครู่ มันหมายความว่าไง พบเจอกันมาตั้งนาน ทำไมไม่เคยสังเกตเห็นท่าทีที่ผิดปกติ หรือก็แค่แกล้งแหย่เล่นตามนิสัย....
แต่ที่แน่ๆ คำพูดของก้องกำลังดึงความคิดของโต้งออกจากเรื่องที่ทำให้ต้องทิ้งงานมาหาเพื่อนในวันนี้
จนกระทั่งไข่ตุ๋นมาถึงพร้อมกับชัย
“มีอะไรหรือครับ”
ก้องตามเข้ามาพร้อมกับเครื่องดื่มและของว่างให้ไข่ตุ๋น แล้วก็ออกไป ปล่อยให้โต้ง กับชัยคุยกับไข่ตุ๋น
“เรื่องของเกริกผู้ติดตามของพี่น่ะ” โต้งบอก
“เมื่อตอนเที่ยงเขามาหาที่มหาวิทยาลัย พูดว่าพี่หวานรู้จักเขา”
ทั้งโต้งและชัยเงียบไป จนกระทั่งชิณณะกลับเข้ามาในห้อง พร้อมกับก้อง ไข่ตุ๋นถึงได้เล่าเรื่องที่มหาวิทยาลัยอีกครั้ง
“มันอยู่เงียบๆ จนเจอกับสกาวไม่ดีกว่าหรือไง” ชิณณะ ตั้งข้อสังเกต
ไข่ตุ๋นหันมองทุกคนในห้อง ดวงตากลมที่ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกบ่อยครั้งนักดูเป็นกังวล
“พี่หวานบอกว่า คนที่ทำร้ายเขามี 3 คน คนที่ติดตามพี่โต้งคือคนที่ 3 หรือครับ”
“ไม่ใช่” ชิณณะบอก “คนที่ 3 ถูกพบศพนานแล้ว แต่ทางครอบครัวปิดข่าว โต้งเองก็เพิ่งรู้เรื่องเมื่อคืน ส่วนคนที่ติดตามโต้งคือคนที่บันทึกภาพ”
“แล้ว...เขาจะแก้แค้นหรือครับ พี่หวานไม่เคยพูดถึงเขาเลยนะครับ แล้วรูปในห้องก็มีแค่ 3 คน”
"ในห้องมีรูปใหญ่ที่เห็นหน้าชัดๆ อยู่ 3 รูปเป็นรูปของคนที่ตายไปแล้ว และสกาวก็พูดแค่ 3 แต่ยังมีรูปอื่นๆ อยู่อีกที่เราไม่เคยสังเกตุ"
มันเป็นความผิดปกติที่เป็นเครื่องหมายคำถามอยู่ในสมองของชิณณะมาตลอด ว่าคนที่ถ่ายรูปเป็นใคร
“มันแค่ไม่อยากรอให้สกาวไปหา” โต้งบอก “แต่มันก็ผิดปกติอย่างที่ไข่ตุ๋นว่า”
“มันอาจร้อนตัวจนรอไม่ได้ เพราะคุณสกาวเธอเก็บมาแล้ว 3 แล้วพอโดนจับเรื่องคุณไข่ตุ๋น แทนที่จะโดนคุมตัวเพื่อสืบคดีอื่น กลับปรากฏว่าเธอรอดหมด เพราะไม่มีหลักฐาน” ก้องแทรกขึ้นมา
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย ขณะที่โต้งช่วยอธิบายต่อ “แต่การที่มันไปหาไข่ตุ๋น ยังไงชีคก็ต้องรู้ ชีครู้พี่ก็ต้องรู้เหมือนกัน ทำอย่างนี้มันดูแปลกๆ” ทหารตัวโตพูดแล้วหันไปมองหน้าเพื่อน “ห่าชีค กูไม่อยากคิดต่อเลยว่ะ”
โต้งตั้งข้อสังเกตต่อไป "เกริกมันอาจดูเหมือนโรคจิต บ้ากาม ที่แนะนำเจ้าเล็กกับเพื่อนๆ ให้ทำเรื่องเลวๆ แต่เท่าที่เห็นมามันไม่เคยฆ่าใคร"
"รู้จักไม่หมดน่ะสิ" ก้องสวนทันที "มันเป็นช่างภาพงานนี้ยังไม่รู้เลย"
ชิณณะต้องยกมือห้ามเลขาฯ "เอาเป็นว่า ต้องระวังทั้งคู่น่ะแหละ เพราะเราไม่อยากให้สกาวถูกทำร้ายหรือทำร้ายใครอีกถูกมั้ย"
“เคยมีใครถามคุณโต้งเรื่องคุณสกาวหรือเปล่าครับ” ชัยถามบ้างหลังจากที่เงียบมานาน
“ไม่มี แล้วฉันเองก็ไม่รู้ว่าที่ไหน เพราะใจคิดว่าคนก็ตายไปแล้วต่างคนต่างใช้กรรม ก็ไม่คิดที่จะอยากรู้อะไรอีก”
“มันก็ไม่เคยถามผมเหมือนกัน” ชัยบอก
“แสดงว่าที่มันไปหา เพราะไข่ตุ๋นไม่ได้ไปดูคุณหญิงหลายอาทิตย์แล้ว และคิดว่าไข่ตุ๋นกำลังซ่อนพี่สาวไว้”
เรื่องที่ว่าหวานพักอยู่ที่ไหน มันไม่ใช่ความลับ เพียงแต่ไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ควรต้องบอกใคร เพราะหญิงสาวต้องการเวลาพักฟื้นจิตใจ
ไข่ตุ๋นเดินไปจับมือของชิณณะไว้
“แต่พ่อผม”
พ่อยังคงอยู่ที่ร้านในเมือง เป็นสถานที่เดิมที่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
“โทรหาพ่อมั้ยครับ”
“บอกให้พ่อระวังตัว อย่าเพิ่งไปหาแม่กับสกาวที่รีสอร์ท” ชิณณะบอกทันที “ยังไงมันก็ต้องเจอเข้าสักวัน เพราะสกาวต้องไปหาหมอ เราแค่ถ่วงเวลา”
“ผมไปโทรหาพ่อนะครับ” ไข่ตุ๋นบอกแล้วเลี่ยงไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก
โต้งเลยขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
คราวนี้เจ้านายกับชัยเลยหันมาหาก้องทันที
“ทำอะไร”
“ทำอะไร” ก้องทวนด้วยหน้าตาไม่รู้ไม่ชึ้
“ฉันไม่ได้ตาบอดนะ ทิ้งแกไว้กับไอ้โต้งออกไปประชุม กลับมาไอ้โต้งกับแกอยู่กันคนละมุมห้อง” ชิณณะบอกทันที
“ผมก็แค่แหย่เล่นนิดหน่อยเอง” ก้องบอก
ชัยทำหน้าตาเคร่งขรึม “ดูท่าคุณโต้งแล้วไม่น่าจะนิดหน่อย”
“ก็แค่ถามเขาว่า...ชอบผมมั้ย”
“เฮ้ย!” ชิณณะร้องทันที ขณะที่ชัยส่ายหน้า
“แล้วแกชอบเขาหรือไง ถึงไปถามเขาแบบนั้น”
“เปล่า” ก้องรีบอธิบายต่อเมื่อเห็นสีหน้าของเจ้านาย “ผมไม่ได้บอกว่าผมชอบเขานะ ผมแค่ถามว่าเขาชอบผมมั้ย”
“ไปขอโทษเขาซะ” เจ้านายออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงหนักๆ “โต้งมีเรื่องของคนรอบตัวมากเกินกำลัง แล้วยังมาโดนไข่ตุ๋นปฏิเสธอีก แกไม่ควรล้อเล่นกับหัวใจใครแบบนี้”
“ก็แหม~~”
“ไปขอโทษโต้ง จะล้อเล่นอะไรกับใครให้มันมีขอบเขต ไม่อย่างนั้นฉันจะส่งแกไปเฝ้าไอ้เกริก”
“อ๋า~~~” ก้องทำตาเหลือก “ไปขอโทษดีกว่า จัดหาคู่แถมให้ด้วยก็ได้”
“อย่าเกินหน้าที่ ให้งานไปแค่ไหนก็แค่นั้น”
“แหม ผมกำลังคิดอยู่ว่าเจ้ามะพร้าวเพื่อนคุณไข่ตุ๋นคนที่ผมติดต่อผ่านไปซื้อรถน่ะ ถึงจะตัวกลมๆ ใส่แว่น แต่เขาก็เฟรนด์ลี่ดี ก่อนนี้เคยคิดว่าจะแนะนำหลานสาวของคุณชีค ที่ดูแลท่านประธานอยู่ ก็ไกลไปหน่อยยังเรียนมัธยมอยู่เลย”
“ก้อง” เจ้านายชักปวดหัวเหมือนไมเกรนจะขึ้น
“ครับ รู้แล้วว่าแค่ขอโทษ”
ไข่ตุ๋นวางสายจากพ่อ เดินมาหาชิณณะที่กำลังดุก้อง แต่เปลี่ยนโหมดอารมณ์ได้ทันทีเมื่อเห็นท่าทางเป็นกังวลของไข่ตุ๋น
"พ่อว่าไง"
"พ่อจะไปรับพี่หวานกับแม่อย่างที่คุณบอกจริงๆ ก็เลยบอกว่าให้ใจเย็น เพราะเขารู้ว่าพ่ออยู่ที่ไหน อาจรอให้พ่อนำทางไปหาแม่กับพี่หวานก็ได้ แต่ลองถามพ่อเรื่องคนที่ทำร้ายพี่หวาน พ่อก็บอกว่า ตอนที่ฟังพี่หวานสารภาพกับตำรวจก็พูดแค่ 3 คน จากนั้น ก็ไม่เคยพูดถึงอีก" โต้งออกมาจากห้องน้ำ ฟังเรื่องที่ไข่ตุ๋นพูด
"ถามเรื่องรูป พ่อบอกว่า ไม่มีรูปแบบที่ส่อไปทางนั้น มีรูปถ่ายของคน 3 คน แบบที่ถ่ายหลายที่ ส่วนมีคนอื่นอีกหรือเปล่า พ่อไม่แน่ใจนะครับ" ไข่ตุ๋นหยุดพูดมองหน้าชิณณะ "แต่พ่อไม่เห็นอะไรผิดปกติ"
ชิณณะแค่พยักหน้า ไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องรูป แต่กลับถามเรื่องที่ไข่ตุ๋นใกล้สอบ
"ถ้าไข่ตุ๋นไม่ย้ายมาบ้านพี่ พี่ก็คงต้องย้ายไปบ้านไข่ตุ๋น"
"โป๊ะเช๊ะ!" ก้องร้องเสียงดังจนชัยกับโต้งต้องรีบดึงแขนกึ่งลากออกมานอกห้อง
ก่อนที่จะออกมา โต้งไม่ลืมร้องบอกเพื่อน "คืนนี้กูจะโทรหา"
ขณะที่ประโยคที่ไข่ตุ๋นหันมาบอกชิณณะไม่ได้ผิดไปจากที่คาดไว้เหมือนกัน
"ผมดูแลตัวเองได้"
"รู้ว่าไข่ตุ๋นดูแลตัวเองได้ แต่พี่อยากจัดการทีละเรื่อง"
"เรื่องเกริกน่ะหรือครับ"
ชิณณะพยักหน้า "พอมันรู้ว่าหวานเก็บคนที่ 3 ไปแล้วมันก็ตรงไปหาไข่ตุ๋นทันที แสดงว่ามันก็ร้อนใจ ถ้าปล่อยไข่ตุ๋นไว้คนเดียวมันอาจกดดันทางไข่ตุ๋น แต่ถ้าไข่ตุ๋นอยู่กับพี่มันจะได้ไปที่เชียงใหม่"
"แต่พ่อผม"
"ชัยกับโต้งจะไปอยู่กับพ่อทางโน้น จะได้จัดการก่อนที่มันจะไปถึงสกาวและแม่"
สรุปคร่าวๆ ก็คือ การจัดการเรื่องของเกริกกับสกาว จะเกิดขึ้นห่างจากไข่ตุ๋นให้มากที่สุด
ไข่ตุ๋นจ้องมองชิณณะ "ครับ แต่ว่า คืนนี้ขอผมกลับไปเก็บของแล้วก็นอนที่ห้องผมก่อนคืนหนึ่งได้มั้ยครับ"
====จบตอนที่ 13====
1 อย่าบอกว่ายังอึดอัด เพราะผมเฉลยแล้ว.....555555
2 เครียดหรือครับ แน่นอนเพราะอีก 5 ตอนก็จบแล้ว
3 คิดถึงหวานใช่มั้ย เดี๋ยวมา ส่วนตอนหวานๆ ก็กำลังจะมาเหมือนกัน
4 ถ้าคิดว่าตอนหน้าคือ "ตอนนั้น" คุณกำลังคิดผิด
5 มีเด็กบอกว่าผมโรคจิต อย่าไปเชื่อ ผมก็แค่คนเขียนเรื่องเท่านั้นเอง
ขอบคุณที่ติดตาม พบกันวันพุธครับ
ไจฟ์กับที