The Call Chapter 20: ‘น้ำ’ พระเอก----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
‘ไม่มีความลับ ในความรักอีกต่อไป’
ระหว่างทางที่มะนาวกำลังเดินคอตกแบกความเศร้าพร้อมกับเข็นรถมอเตอร์ไซค์คุรุสีขาวกลับหอ จู่ ๆ ก็มีรถมอเตอร์ไซค์ลักษณะคล้ายรถแข่งขนาดเล็กขับชะลอมาจอดเทียบข้าง ๆ
“รถนายเป็นอะไร?”
“น้ำมันหมด”
“เหมือนนายไม่สบาย?”
มะนาวยังไม่กล้าสบตากราฟตรง ๆ เริ่มรู้สึกมึน ๆ หัวขึ้นมานิดหน่อย อาจเป็นเพราะผลพวงของการที่ไปเล่นเอ็มวีนอนรับน้ำฝนมา
กราฟกวาดสายตามองสำรวจมะนาวที่เนื้อตัวเปียกฝนเหมือนลูกหมาตกน้ำ มะนาวก็รู้ว่าตอนนี้นะยังหรอก ถ้าคืนนี้ไม่แน่อาจจะไม่รอด เพราะพิษไข้ตีตั๋วจองตัวรอเขาอยู่แล้ว
“ขึ้นมาสิ?”
“ไม่อยากทิ้งรถไว้”
กราฟพยักหน้ารับรู้ ยืนนิ่งเงียบใช้ความคิดสักครู่ก่อนเอ่ยประโยคถัดมา “งั้นนายรออยู่ตรงนี้ เดี่ยวขับมอ’ไซค์ออกไปซื้อน้ำมันมาให้”
ผมเดินตัวเปียก คอตก เข็นรถต่อ เดินไปได้แป๊บเดียวเท่านั้นแหละครับ 'อ้าว เชี่ย' รองเท้าแตะหูคีบผมดันขาด โชคไม่เข้าข้างผมเอาซะเลยเลยจริงๆ เดินเท้าเปล่าก็ได้ว่ะแม่ง ผมถอดรองเท้าออก หยิบขึ้นมาโยนใส่ตะแกรงหน้ารถ เดินต่อไปอีกแป๊บเดียวรถเวสป้าสีเขียวมะนาวก็ขับชะลอมาจอดเทียบข้าง ๆ รถมอเตอร์ไซค์ผม
“รถเป็นอะไร?” เสียงชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผิวเข้ม ตัดผมทรงสกินเฮด ใส่แว่นสายตาหนาอยู่ในชุดนักศึกษาเอ่ยถามมะนาวที่กำลังเข็นรถมอเตอร์ไซค์อยู่ริมถนน
“น้ำมันหมดครับ” มะนาวหยุดเข็นรถแล้วหันไปคุยกับชายหนุ่มผิวเข้มอีกคนที่นั่งอยู่บนรถเวสป้า พี่เข้มทำหน้าเซ็ง ๆ
“ขับยังไงให้น้ำมันหมดว่ะ”
“ขับไปเรื่อย ๆ ”
“มึงไม่ต้องทะลึ่งตอบ กูแค่บ่น เดี่ยวกูถีบให้"
"?"
"จ้องหน้าทำไม? รีบขึ้นไปนั่งบนรถเดี่ยวกูถีบรถมอ’ไซค์ไปส่ง”
พอผมนั่งบนรถมอเตอร์ไซค์เรียบร้อย พี่โอมยักษ์เข้มก็ใช้เท้ายันที่เหยียบรถมอเตอร์ไซค์ผม ล้อรถก็เริ่มเคลื่อนตัวออกไปตามถนนมุ่งหน้ากลับหอ คงเห็นผมเงียบ ไอ้พี่เข้มเลยไม่ได้กวนประสาทผมเหมือนทุกที รถก็เคลื่อนตัวมาเรื่อย ๆ จนถึงหน้าหอ จอดรถเสร็จ ผมก็เปิดเบาะรถหยิบเอาโทรศัพท์ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง ตอนนี้ชักเริ่มรู้สึกมึน ๆ หัว สงสัยเป็นเพราะพิษไข้ จะว่าไปไข้สมัยนี้มันมาเร็วทันใจสงสัยใช้บริการของรถไฟฟ้าเลยไม่มีติดขัด ใช้เวลาฟักตัวไม่นานยังไม่ข้ามวันดีก็วิ่งมาเกาะอยู่ตามตัวผมซะแน่นเลย
“ไม่สบาย?”
“....” เห็นผมยืนเงียบนานไม่ได้ตอบอะไรออกไป พี่เข้มก็เลยเดินเข้ามาหา ใช้หลังมือแตะลงที่หน้าผาก
“มึงตัวร้อนจริง ๆ ด้วย เดินไหวไหม?”
“ไหวครับ?” ผมขมวดคิ้วทำหน้างง ทั้งงงจากคำถามและอาการแปลก ๆ ของไอ้พี่เข้ม ไหวสิครับ? ใจผมอยากจะตอบแบบกวนตรีน ๆ กลับไปบ้าง แต่ด้วยวันนี้สภาพร่างกายรวมถึงสภาพจิตใจไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่เลยขอตอบแบบธรรมดา แค่ตัวร้อนแค่นี้ ใครมันจะเดินไม่ไหววะ เดี่ยวอาบน้ำ กินยาเสร็จ แล้วนอนตื่นมาก็คงหาย ผมร่างกายแข็งแรงนะครับ กำลังบ่นอยู่ในใจคนเดียวจู่ ๆ ตัวผมก็ลอยขึ้นกลางอากาศ
“เหวอ!” ไอ้พี่เข้มอุ้มผมจนตัวลอยแล้วแบกตัวผมไว้บนไหล่หนาของตัวเอง พอได้สติผมก็เริ่มดิ้น แต่ก่อนที่ผมจะพูดอะไรออกไปไอ้พี่เข้มก็ชิงพูดขึ้นมาซะก่อน
“หยุดดิ้นไม่งั้นกูทุ่มลงพื้นแน่”
พอผมนิ่งไอ้พี่เข้มก็เงียบก่อนจะถอนหายใจออกมายาว ๆ แล้วพูดขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค "มึงไม่ใส่รองเท้าจะเดินยังไง"
จากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา พี่เข้มแบกผมเดินมาเรื่อย ๆ จนถึงประตูหน้าห้องผมไอ้พี่เข้มถึงปล่อยผมลง
“อาบน้ำไหวไหม? ถ้าไม่ไหวเช็ดตัวก็พอ”
“ไหวครับ?”
“แล้วมียาแก้ไข้หรือเปล่า?”
“มีครับ”
“อยากกินอะไรร้อน ๆ ไหม? เดี่ยวพี่ออกไปซื้อให้”
“เอ่อ...ไม่เป็นไรครับ” พี่? ไอ้พี่เข้มใช้คำว่าพี่แทนตัวเองถึงผมจะถูกพิษไข้รุมเล่นงานจนรู้สึกมึนแต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ พอผมเดินเข้ามาในห้องไอ้พี่เข้มก็เดินกลับไป
ผมใช้เวลาในการอาบน้ำ สระผม ไม่นานก็เสร็จ พอเป่าผมจนแห้งก็เดินมาหยิบยาที่วางไว้เอาบนโต๊ะตั้งแต่ตอนเช้า กินขนมรองท้องก่อน แล้วกินยาแก้ไข้ตาม จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง
ผมชักเริ่มง่วง สงสัยยาแก้ไข้เริ่มออกฤทธิ์
ใช้เวลาไม่นานผมก็หลับ
เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นเต็มหน้าเต็มหลัง พิษไข้กำลังเล่นงานอย่างหนักผมจนรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ รู้สึกเหนอะหนะไม่สบายตัวเอาเสียเลย ผมทั้งร้อนทั้งเหนียวตัว เลยใช้เท้ายันผ้าห่มออกจากตัว ผมนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง เป็นอยู่แบบนี้ทั้งคืนจนเกือบสว่างผมถึงนอนหลับสนิท
เช้าจนได้สุดท้ายพิษไข้ก็ล่าถอยผมเป็นฝ่ายชนะ ตอนนี้ผมรู้สึกสบายตัวขึ้น ไข้ไม่มีแล้วแต่ยังรู้สึกมึนหัวอยู่นิดหน่อย ผมยังไม่ได้ขยับเขยื้อนตัวออกจากอาณาเขตของเตียงนอน มีหลายเรื่องวิ่งสวนทางเป็นขบวนรถไฟอยู่ในหัวเลยทำให้สมองเบลอ งงและสับสน ผมนอนหงายอยู่บนเตียงกระพริบตาติด ๆ กันเพื่อปรับสายตาให้คุ้นชินกับแสงยามเช้า มองดูเพดาน ไล่กราดสายตามองไปรอบ ๆ ห้อง จนไปสะดุดโน้ตแผ่นใหญ่เท่ากระดาษเอสี่ติดไว้กับชั้นวางหนังสือเมื่อวานผมคงไม่ทันได้สังเกตเห็น
‘ถึงห้องแล้วโทรหาด้วย คืนนี้เจอกันที่ร้านxxx’
แม่หมู
เมื่อวานผมตั้งใจลืมเปิดโทรศัพท์ ผมยื่นมือออกไปหยิบโทรศัพท์ที่วางเอาไว้บนโต๊ะอ่านหนังสือ กดปุ่มเปิดเครื่อง เสร็จโทรศัพท์ผมก็สั่นรัวติดต่อกันแจ้งเตือนว่ามีสายไม่ได้รับถึง 107 สายในคืนเดียว
สายที่ไม่ได้รับ
‘แม่หมู 47 สาย’
‘มะตูม 45 สาย’
‘พี่มีน 10 สาย’
‘โก๋แก่ 5 สาย’
นอกจากสายโทรเข้ายังมีข้อความที่ยังไม่ได้เปิดอ่านอีกหลายข้อความด้วยกัน ผมค่อย ๆ เลื่อนหน้าจอโทรศัพท์เปิดอ่านข้อความที่ส่งมาทีละข้อความ
‘แม่หมู’เปิดเครื่องแล้วโทรกลับด่วน ลืมชาร์ทแบตอีกแล้วใช่ไหม ตล้อดดด!, คืนนี้มีปาร์ตี้เกิร์ลฉลองสอบเสร็จที่ร้าน xxx นะ, ทำไมโทรไม่ติดเนี่ย อารมณ์เสีย, คืนนี้ไม่กลับห้องนะ
มิน่าตื่นมาไม่เจอแล้วเพื่อนตัวกลมผมไปนอนไหน?
‘พี่มีน’‘น้องเมทอยู่ไหน คืนนี้ฉลองพี่จบนะโว้ย ไม่มาไม่ได้นะ เปิดเครื่องแล้วโทรหาพี่เมทด้วยเป็นห่วง จากพี่เมทสุดหล่อ’เช้าแล้วพี่เมทผมก็ยังไม่กลับห้องเหมือนกัน สองคนนี้ไปนอนไหนกันนะ?
‘มะตูม’ ทำไมโทรไม่ติด มะนาวอยู่ไหน? อ่านข้อความแล้ว โทรกลับด่วน , ขอสวมรอยหิ้วแฟนมะนาวไปเที่ยวหน่อยนะ 555, โทรไม่ติดเลย แล้วคืนนี้มะตูมจะนอนไหน ชักไม่สนุกแล้วนะโว้ย¬_¬, แฟนมะนาวเมาว่ะ มอมตัวเองจนสลบคาร้านตัวใหญ่ยังกับยักษ์แล้วใครจะแบกกลับ _ _”
อ่านข้อความจากน้องผมจบก็เกิดคำถามขึ้นมาในหัวผมทันที แฟน? แฟนใคร? ผมแอบไปมีแฟนตอนไหน? ทำไมผมไม่รู้ตัวมาก่อน? แล้วใครคือแฟนผมหรือผมไปเป็นแฟนใคร? แค่เป็นไข้คืนเดียวตื่นมาอีกทีก็มีแฟนเฉยเลย มะนาวเอ๊ย!
แต่เฮ้ย! เดี่ยวก่อน น้องผมมาหาผม มาถึงตั้งแต่เมื่อวาน แล้วมะตูมน้องชายฝาแฝดผมไปนอนไหน? อยู่กับใคร? ผมรีบกดโทรศัพท์หาไอ้น้องชายตัวดีทันที
ตื้ดดดดดด ตื้ดดดดดด
“ทำไมเพิ่งเปิดเครื่องโทรศัพท์ว่ะ! เกือบโดนฉุดแล้วเนี่ย แฟนมะนาวโคตรหื่น” น้ำเสียงโวยวายปกติแสดงว่าน้องผมยังโอเค
“มะตูมอยู่ไหน? ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม? แล้วไปนอนกับใคร? เมื่อวานมะนาวโทษทีไม่ได้เปิดเครื่องโทรศัพท์น่ะ”
"เดี่ยว ๆ ใจเย็นครับพี่ชาย ไม่ต้องทำเสียงรู้สึกผิดขนาดนั้น ตอนนี้ผมปลอดภัยดีครับ กำลังนอนเกาตูดอยู่ห้องแฟนคุณนั่นแหละครับ"
"มะตูม เอาดี ๆ อย่ากวนประสาท ตอนนี้อยู่ไหน?"
"เห้ย พูดจริงโว้ย เนี่ยตอนนี้นอนอยู่ห้องพี่ตี๋ยักษ์ตัวหอม"
"มะตูม! เอาดี ๆ ตอนนี้อยู่ไหน? มะนาวเป็นห่วง"
"ไม่ต้องมาทำเสียงเข้ม คุณมีคดีติดตัวอยู่นะครัช"
"แล้วตอนนี้อยู่ไหน? อยู่กับพี่มีน หรืออยู่กับออยด์"
"ก็บอกว่าอยู่ห้องพี่ตี๋ตัวหอม หอ 13"
"ใครพี่ตี๋ตัวหอม"
"โว้ะ! พี่ตี๋จิ้นไงครัช"
"พี่จิ้น?"
"โซเยสเซ่อ!"
"!"
"ถึงกับช็อคเลยนะครัช แหม่...ผมไม่ได้ทำอะไรแฟนคุณหรอกนะครับ มีแต่แฟนคุณแหละครัชที่จ้องทำมิดีมิร้ายทำผม เป็นแฟนกันประสาอะไร แยกไม่ออก" ขณะที่คุยโทรศัพท์มะตูมก็ก้มหน้าลงไปมองตี๋จิ้นที่นอนเมาหลับเป็นตายอยู่พื้นห้อง
“พี่จิ้นไม่ได้เป็นแฟนมะนาวโว้ย”
"ครัช?"
"เออ นั่นแหละ แล้วไปนอนห้องนั้นได้ไง ช่างเถอะ เดี่ยวเดินไปรับ"
"เฮ้ย อย่าตัดจบง่าย ๆ แบบนี้ดิ คนอุตส่าห์อยากเล่า"
"ถ้าผมไม่พูดแบบนี้ คุณมะตูมคงไม่เริ่มเล่าสักทีสิครับ แหม่!"
"พี่จิ้นไม่ได้เป็นแฟนมะนาวจริงอ่ะ หรือว่ากำลังจีบ?"
"จะเล่าไม่เล่า?"
"เออ ๆ เล่าก็เล่า เกลียดคนรู้ทันว่ะ จะเล่าล่ะนะ"
"รออยู่ครัช"
"ห้องมะตูมถูกงัด"
"เห้ย! จริงดิ"
"จริง บอกโทรแม่แล้ว แม่ก็เป็นห่วงใหญ่ แต่มันไม่ได้อะไรไปหรอก ตอนนี้เลยว่าจะย้ายหอใหม่ เบื่อ ๆ เซ็ง ๆ ด้วย เลยนั่งรถมาหามะนาว ไม่ได้โทรบอก กะมาหาแบบเซอไพรซ์ แล้วเป็นไงทีนี้ เซอไพรซ์จริง ๆ พี่ชายดันปิดเครื่อง พอมาถึงหน้าหอมะนาวใช่ป่ะ กำลังหงุดหงิด ๆ เลย โทรกี่รอบก็ไม่ติด พี่ตี๋ตัวหอมก็เดินมาทัก ชวนไปเที่ยวไปกินข้าว กินเหล้า สุดท้ายพี่ตี๋เมาแอ๋ เลยต้องลากกลับห้อง จอบอ จบเรื่อง"
"เคยบอกแล้ว ให้อยู่หอใน ไม่ก็แชร์ห้องอยู่กับเพื่อน เป็นไงล่ะ ซวยเลย"
"ก็คนมันไม่ชอบ อยากอยู่คนเดียวมากกว่า"
“เออๆ ช่างมันเถอะ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม เดี่ยวเดินไปรับ”
“ไม่เป็นไร เดินกลับเองได้”
"แล้วจะมาตอนไหน?”
“คงรอให้พี่ตี๋จิ้นตื่นก่อน ออกไปตอนนี้มันคงดูไม่ดีเท่าไหร่”
“แล้วห้ามปิดเครื่องโทรศัพท์อีกล่ะ ชาร์ตแบตฯเอาไว้ด้วย”
“ไม่แล้วน่า”
หลังจากที่มะนาววางสายโทรศัพท์เสร็จเขาก็ได้ยินเสียงชายหนุ่มถามเขาขึ้นมาพร้อม ๆ กันถึงสองเสียง
“มึง/นาย หายไข้แล้ว?”
มะนาวสะดุ้งสุดตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนทันที ตกใจนึกไม่ถึงเหมือนกันว่าจู่ ๆ จะมียักษ์ถึงสองตัวนั่งกึ่งนอนกึ่งนั่งจ้องมองเขาอยู่บนเตียงเพื่อนเมทกับพี่เมท มะนาวจ้องสองยักษ์สลับกันไปมา ชักมึนเต็มที่ ไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหมหรือว่าตอนนี้เขาแค่กำลังฝันอยู่
“เมื่อวานนายนอนหลับ แต่ลืมปิดประตูห้อง”
“แล้วหายไข้ยัง” ไอ้พี่เข้มถามผมต่อทันที
“ดีขึ้นแล้วครับ”
สรุปคือเมื่อคืนผมนอนหลับ แต่ดันลืมปิดประตูห้อง พอสองยักษ์มาห้องผมแล้วเห็นผมนอนเป็นไข้อยู่ห้องคนเดียวจะทิ้งไปก็คงดูไม่ดีด้วยความสงสารเลยเฝ้าทั้งคืน
สองยักษ์กลับไปแล้ว พี่เมทผมก็เดินสวนทางกลับมาห้องพอดี
“สองคนนั่นมาทำอะไร?” พี่เมทผมถามเสียงเรียบจ้องหน้าผมนิ่ง จากนั้นก็เดินไปหยิบกล่องอะไรบางอย่างใต้เตียงยื่นส่งมาให้ด้วยท่าทางที่แปลกไปกว่าทุกที
.................
มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นหลังจากที่มะตูม(ที่สวมรอยว่าเป็นมะนาว)ขอตัวเดินออกไปนอกร้านเพื่อโทรศัพท์หาพี่ชาย
“เชี่ยจิ้น คนนี้หรอว่ะ เด็กมึง”
“เออ”
“ถึงไหนแล้ว”
“ถึงไหนอะไรว่ะ”
“ห่า ทำเขินนะมึง ตอบกูมาตรง ๆ”
“...” ตี่จิ้นเงียบแทนคำตอบหันไปกระดกเหล้าในมือเข้าปากแทน
“มึงจะบอกกูดี ๆ หรือจะให้กูถามน้องมันเอง”
“เออ กำลังดู ๆ อยู่”
“ห้ะ! หน้าอย่างมึงเนี่ยนะ ผ่านมานานขนาดนี้แต่เพิ่งอยู่ในช่วงกำลังดู ๆ อยู่ มึงช่วยพูดให้กูฟังอีกที เอาชัด ๆ กูไม่อยากเชื่อหูตัวเอง”
“กูจริงจัง”
“อ้าว ไอ้เชี่ย! จริงจังแต่ไม่ทำห่าอะไรเนี่ยนะ ทำตัวยังกับเป็นพระรองสวมบทเป็นคนดีแต่ไม่มีสิทธิครอบครอง ได้ข่าวว่ามึงสอบเสร็จวันนี้วันสุดท้ายเหมือนกู แล้ววันนี้มึงก็เรียนจบพร้อมกู ท่ามากอยู่นั่นเดี่ยวก็โดนคนอื่นคาบไปรับประทาน กูเตือนไว้อย่างได้ข่าวเด็กมึงเพิ่งอยู่ปีหนึ่งและเป็นกำลังตกเป็นเป้าที่เก้งฝูงใหญ่หมายตา”
“มึงพูดห่าอะไร”
“สัด หน้าตาแบบเด็กมึง ใครก็อยากงาบ มึงรออะไร? หรือป๊อดว่ะ 555”
“...” ตี๋จิ้นไม่ตอบ แต่หันไปยกแก้วเหล้ากระดกเข้าปากแทน
“ถุย กูไม่อยากเชื่อว่าจะมีวันที่ไอ้เสือจิ้นสิ้นลาย”
“เออ อย่าให้ถึงคิวมึงบ้างแล้วกันว่ะ”
“คงไม่มีว่ะ 555”
“แล้วงานที่มึงไปสัมภาษณ์มาเป็นไงบ้างว่ะ”
“ก็ดี”
คุยกันไปสักพักตี๋จิ้นก็ขอตัวลุกออกไปตามหาเด็กหนุ่มที่เขาพามาด้วย ในจังหวะที่ตี๋จิ้นลุกออกไปจากโต๊ะ เพื่อนตัวดีของเขาก็นึกสนุกหยิบหลอดขนาดเล็กที่ภายในบรรจุของเหลวใสออกจากกระเป๋ากางเกง ‘เดี่ยวกูช่วยมึงให้เป็น ‘พระเอก’ เองเพื่อน’ ของเหลวใส ปราศจากกลิ่น ไร้รสชาติใด ๆ ถูกลอบเทลงในแก้วของหนุ่มเด็กหนุ่มที่ตี๋จิ้นพามาด้วยโดยที่พวกเขาทั้งคู่ไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย
ตี๋จิ้นกับมะตูม(ในนามของมะนาว)เดินกลับเข้ามาในร้าน พูดคุยแนะนำตัวพอเป็นมารยาท เพื่อนตี๋จิ้นก็ยื่นแก้วเหล้าส่งให้มะตูม
“เออ กูไปหล่ะ เจอกันที่กรุงเทพฯ พี่ไปแล้วนะครับหวังว่าเราคงได้เจอกันอีก” เพื่อนตี๋จิ้นขอตัวลุกออกไป ก่อนจะหันมายิ้มให้เพื่อนแล้วพูดออกมาให้ได้ยินกันแค่สองคน ‘คืนนี้เป็นของมึง’ ตี๋จิ้นชะงักหลังได้ยินประโนคสุดท้ายจากปากเพื่อนก่อนที่จะลุกเดินออกไป เขาสังเกตเห็นท่าทางและแววตาของเพื่อนดูเลวแปลกๆ ตี๋จิ้นชักไม่มั่นใจจึงเอื้อมมือใหญ่ไปหยิบแก้วเหล้าที่เด็กหนุ่มอีกคนถือเอาไว้
“พี่กินเอง” หนุ่มจิ้นคว้าแก้วเหล้าเพียว ๆ จากมือเด็กหนุ่มที่เขาพามาด้วยกระดกเข้าปากอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ดื่มเหล้าจากแก้วใบนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง ตี๋จิ้นรู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ ขนตามตัวลุกชันเป็นพัก ๆ เขารู้สึกแปลกไป หน้าเขาเริ่มแดงก่ำแต่ไม่ได้แดงเพราะฤทธิ์เหล้า ตอนนี้ร่างกายเขากำลังมีความต้องการอย่างเต็มที่ จนรู้สึกปวดหนึบบริเวณจุดกึ่งกลางลำตัวที่ขยายอาณาเขตคับเป้ากางเกง อยากปลดปล่อย เขาถูกวางยาเข้าให้แล้ว ก่อนที่เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ตี๋จิ้นหันไปสั่งเหล้าแสงโสมจากเด็กเสิร์ฟมาสองกลม พอขวดเหล้าถูกวางลงบนโต๊ะ เขาก็รีบเปิดฝากระดกเหล้าเข้าปากแบบเพียว ๆ เพื่อสยบความต้องการของตัวเองที่กำลังตื่นตัวอย่างเต็มที่ ระหว่างที่เขากระดกเหล้าเข้าปากความต้องการทางกายของเขาก็ทวีความต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ ขวดแรกหมดขวดที่สองก็ถูกเปิดทันที เขากระดกเหล้าเข้าปากเรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนเหล้าขวดที่สองหมด แต่ความต้องการเขามันกำลังเดือดพล่านเหล้าสองขวดยังดับไฟแห่งความต้องการให้เย็นลงไม่ได้เขาจึงหันไปสั่งเหล้าแสงโสมจากเด็กเสิร์ฟเพิ่มอีกขวด กระดกแล้วดื่ม ๆ อยู่อย่างนั้นจนเหล้าขวดที่สามค่อย ๆ ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว เขาต้องการเมาเร็วที่สุด เพราะตอนนี้เขาเริ่มไม่แน่ใจว่าถ้าปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือสติแบบนี้ อาจจะต้องมีคนเดือดร้อนเพราะอารมณ์กำหนัดจากฤทธิ์ยา แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าสร้างความงุนงงให้กับมะตูมเป็นอย่างมาก
ในที่สุดน้องแอลกอฮอล์ก็กำชัยชนะอยู่หมัดตี๋จิ้นเมาจนหงายหลังหลับไปแต่อารมณ์ที่ถูกฤทธิ์ยากระตุ้นยังไม่ยอมหยุดง่าย ๆ
ฤทธิ์จากยาทำให้เขาฝันราวกับว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง เขาฝันเรื่องเดิมวนซ้ำไปมาอย่างมีความสุขจนถึงเช้า
“เป็นแฟนกันนะ” ตี๋จิ้นละเมอเป็นคำพูดออกมาเสียงเบาขณะที่เขานอนอมยิ้มหลับอยู่บนพื้นห้องคนเดียว กางเกงเขาเปียกชุ่มด้วยหยาด 'น้ำ' แห่งความสุข
__________________________________________________________________________________________________TBCอาจจะมาช้าต้องขอโทษจากใจจริงๆแต่หวังว่าทุกคนคงให้อภัยและไม่ตบเราน้า _ _”
(ตอนแรกกะพิมพ์ว่าจะยอมให้ตบแต่โดยดี แต่กลัวจะโดนตบจริงๆเลยลบออกแล้วพิมพ์ใหม่ ^ ^)
ปล ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามและขอบคุณทุกคอมเม้นต์นะจ้ะ