▬ " รักคืนรัง " ▬ 「จบบริบูรณ์」
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「จบบริบูรณ์」  (อ่าน 270655 ครั้ง)

It_s_me

  • บุคคลทั่วไป
ธรณ์หลอกตัวเองเก่งซะยิ่งกว่าผีอีก
โดนจูบจนเคลิ้มแล้วยังจะปากแข็ง
แถมมีอาการนะจ๊ะตอนรู้ว่าเขตเจ็บ
ว่าแต่ชินมีเรื่องให้สงสัยอีกแล้วอ่ะ

ออฟไลน์ pharm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
รอนาน นึกว่าจะไม่มาละ

ตอนนี้ความสัมพันของสองคนลุดหน้าบ้างแล้ว ดีใจจัง อิอิ

แล้วก็นอนรอ ตอนต่อไป :t3:

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ธรณ์เป็นห่วงเขตต์ หวังว่าเขตต์คงไม่เป็นอะไรนะ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
รู้สึกเหมือนรุ่นพ่อจะมีซัมติ้งรองกันอยู่นา

ส่วนคู่นี้ก็เริ่มเห็นการพัฒนา คริคริ

ออฟไลน์ NannY

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +125/-1
คุณเขตต์เจ็บตัวคราวนี้อาจจะคุ้มกว่าที่คิดนะคะ

ออฟไลน์ sujusaranghae

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
มาต่อเร็วๆนะคะ กำลังสนุกเลยยย ><

puu142

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากครับ.....................เขียนดีมาก

                                                    เรียบมาต่อเร็ว ๆ นะครับ

ออฟไลน์ withmeto_PJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เพิ่งจะได้เข้ามาอ่านนนน สนุกมากๆๆๆเลยค่ะ อ่านตั้งแต่ต้นนจนถึงตอนปัจจุบันน
หลงรักธรณ์และเขตแดนมากกกกกกกกกกกกกก ชอบๆๆๆๆๆๆ
เขินมากๆเลยตอนเค้าจูบกัน >/////////////<

ขอบคุณคนแต่งมากๆเลยนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ แล้วมาต่ออีกน๊า อยากอ่านมากๆ สนุกๆๆๆ

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
เพิ่งตามอ่านทันค่า...

อั๊ยยะ เค้าเริ่มมีใจกันแล้วจ้า พี่เขตแดนเอนเอียงก่อนเป็นลำดับแรกเพราะมีหวงมีหึง
หึงแรงด้วยจับจูบมันซะเลย ฮี่ๆๆ ส่วนคุณธรณ์ก็ทำอึน ๆ แหมมมมม แต่นอนบ้านตัวเองไม่ได้เลยต้องไปนอนบ้านเพื่อน
อ้าว แล้วนี่พี่เขตจะเป็นไรมากมั้ยเนี่ย น่าเป็นห่วงจัง...

เรื่องราวลึกลับโน่นนี่ไม่อยากจะเดาว่าพ่อของสองคนอาจมีความสัมพันธ์มากกว่าเพื่อนหรือเปล่า
ถึงต้องเอาตัวมาบังไว้ แล้วชินก็คงรู้เรื่องนี้เลยไม่อยากให้สองคนรักกันเพราะกลัวรู้แล้วธรณ์รับไม่ได้
ย่อหน้านี้เดาล้วนค่ะ 555 รอติดตามต่อไปค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Renze

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-25
“ รักคืนรัง ”

ตอนที่ 9


               ร่างสูงกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาตามทางเดินของโรงพยาบาล มีชายหนุ่มคนสนิทเดินตามหลังมา นางพยาบาลและญาติผู้ป่วยหันมามองเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้ากลับ เพราะแทบจะเป็นเรื่องปกติที่เห็นเป็นประจำอยู่ทุกวัน ที่ญาติของผู้ป่วยมีอาการร้อนรน

               ธรณ์วิ่งมาเกาะเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ หยาดเหงื่อซึมออกมาตามไรผม เพราะความรีบร้อนของเจ้าตัว แต่สิ่งเดียวที่เพลย์บอยหนุ่มสนใจคือ...

               “รบกวนช่วยเช็คทีครับ ผู้ป่วยที่ชื่อเขตแดน เกียรติณรงค์...” เอ่ยยังไม่ทันจบประโยคดี คนสนิทหนุ่มที่วิ่งกระหืดกระหอบมาอยู่ด้านข้างก็รีบร้องบอก

               “คุณเขตต์อยู่ที่ห้องฉุกเฉินครับ”

               “ห้องฉุกเฉินเดินตรงไป แล้วเลี้ยวซ้ายสุดทางเลยนะคะ” นางพยาบาลประจำเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์รีบบอกทางทันที

               พอรู้คำตอบแล้ว ธรณ์ก็พึมพำขอบคุณ ก่อนจะผละออกมาจากเคาน์เตอร์ เป้าหมายของชายหนุ่มคือห้องฉุกเฉิน ช่วงขาที่ยาวก้าวพรวดด้วยความรวดเร็ว ทำเอาเวธน์ที่เพิ่งเดินตามมาทันถึงกับปาดเหงื่อ ก่อนจะรีบเดินตามเจ้านายทันที

               อาการร้อนรนผิดวิสัยของธรณ์ สร้างความประหลาดใจแก่เวธน์ไม่มากก็น้อย ตลอดทางจากโรงแรมมาถึงโรงพยาบาล แม้ธรณ์จะไม่ได้เอ่ยปากเร่งเขา แต่ท่าทีกระวนกระวายของผู้เป็นเจ้านายอีกคน ก็บังคับเวธน์ให้ต้องเร่งความเร็วของรถยนต์

               ด้านคนที่มีอาการร้อนรนกระวนกระวาย ก็นึกโทษโรงพยาบาล ที่ช่างสร้างห้องฉุกเฉินได้ห่างไกลเหลือเกิน พอเดินมาจนเห็นป้ายห้องฉุกเฉิน ชายหนุ่มก็ถามนางพยาบาลเวรอีกรอบ จนมั่นใจว่าผู้ที่อยู่ในห้องฉุกเฉินคือเขตแดนแน่นอน ธรณ์ก็เปิดประตูเข้าไปอย่างที่วิสาสะทันที


               “พี่เขตต์!!”


               นานแค่ไหนกัน ที่เขตแดนไม่ได้ยินสรรพนามที่คุ้นเคยหลุดออกมาจากริมฝีปากของธรณ์ สิบปีหรือเปล่า เขตแดนก็คร้านที่จะนับ แต่พอได้ยินคำเรียกขาน ที่คิดว่าชาตินี้จะไม่ได้ยินอีกแล้ว หัวใจของชายหนุ่มก็เต็มตื้นขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ยิ่งเอี้ยวตัวหันมาเห็นอาการเบิกตากว้างของธรณ์เต็มสายตา เขาก็ยอมรับอย่างเห็นแก่ตัวเลยว่า...

               เป็นการเจ็บตัวที่คุ้มค่าที่สุดของเขตแดน เกียรติณรงค์

               แต่ดูเหมือนเจ้าตัวร้ายของเขตแดนจะทำให้หัวใจของชายหนุ่มชุ่มชื่นอยู่ไม่นานนัก เพราะเมื่อธรณ์เห็นชัดว่าอะไรเป็นอะไร ก็เหมือนเจ้าตัวจะสลัดคราบ ‘น้องธรณ์’ และกลับมาเป็น ธรณ์ อิสรพัฒน์คนเดิมทันควัน

               “คุณไม่ได้บาดเจ็บอะไรหรือ”

               เขตแดนนิ่วหน้า ธรณ์ใช้สายตาคู่ไหนของตัวเองมองกัน ถึงเห็นว่าเขาไม่ได้บาดเจ็บ ชายหนุ่มยกมือข้างขวาที่มาผ้าพันแผลพันอยู่ให้ดูแทนคำตอบ ส่วนถ้อยคำอธิบายก็ตกเป็นหน้าที่ของนายแพทย์เวร

               “โดนลวดบาดครับ แต่ไม่ร้ายแรงอะไรมาก หมอฉีดยากันบาดทะยักและทำแผลเรียบร้อยแล้ว ยังไงก็หมั่นดูแลทำความสะอาดแผล แล้วอาทิตย์หน้ารบกวนมาเช็คอีกทีนะครับ”

               “แค่โดนลวดบาด...” ธรณ์พึมพำกับตัวเอง

               “ครับ โดนลวดบาดครับ ยังไงเดี๋ยวรับยาและชำระเงินที่ด้านหน้าเลยนะครับ ผมขอตัวก่อนครับ” นายแพทย์เวรเอ่ยก่อนจะเดินออกจากห้อง

               “เวธน์ ไปจัดการเรื่องยากับจ่ายเงินที เดี๋ยวฉันตามออกไป” เขตแดนเอ่ยสั่งคนสนิทที่ตามเข้าเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ แต่คาดว่าคงเพิ่งมีตัวตนในสายตาของเขตแดนและธรณ์ เวธน์พยักหน้ารับ ก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปอีกคน ปล่อยให้เจ้านายสองคนอยู่ด้วยกันตามลำพัง

               ธรณ์ อิสรพัฒน์นั่งแปะลงบนเก้าอี้ตัวที่ว่างอยู่ เดินเหินรวดเร็วจากลานจอดรถมาถึงห้องฉุกเฉินร่วมกิโลเมตร เพิ่งจะมารู้สึกล้าจนแข้งขาพลันหมดเรี่ยวหมดแรงก็ตอนนี้เอง ชายหนุ่มไม่รู้จะโทษใครได้ นอกจากโทษตัวเอง แค่ได้ยินว่าอีกฝ่ายประสบอุบัติเหตุและบาดเจ็ด เขารีบหุนหันจะมา จะมาโกรธคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าก็ใช่ที่ ควรจะดีใจต่างหาก ที่อีกฝ่ายยังปลอดภัยดี

               ใช่ว่าธรณ์จะไม่รู้ตัว ว่าเมื่อครู่เผลอเรียกเขตแดนออกไปด้วยสรรพนามเช่นไร ขณะที่ตรงดิ่งมายังห้องฉุกเฉิน เขาคิดเพียงแค่ว่า คนที่เปรียบเสมือนครอบครัวของเขา เหลือแค่คุณสงครามกับเขตแดนเท่านั้น เขาไม่อยากจะสูญเสียใครไปอีก เขายอมรับว่าเป็นห่วงเขตแดน อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็เป็นคนใกล้ชิดคุ้นเคย แต่ก็เสียหน้าอยู่พอสมควร ที่แสดงอาการแตกตื่นให้เขตแดนเห็น

               “ฉันไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ”

               “ก็ดี...” ธรณ์ไม่รู้ว่าเขาจะพูดอะไรได้มากกว่านี้อีก

               “แล้วคุยกับทางโรงแรมเรียบร้อยดีหรือเปล่า”

               “เรากลับไปคุยกันที่บ้านดีไหม ผมว่าคุยกันที่นี่คงไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่” ธรณ์เอ่ยพลางกวาดสายตามองรอบด้าน คล้ายจะย้ำเตือน ว่าเขาและเขตแดนยังคงอยู่ในห้องฉุกเฉิน

               “ขอโทษที ถ้าอย่างนั้นก็กลับกันเถอะ”

               ธรณ์ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เขาเป็นฝ่ายเดินนำเขตแดนออกมาก่อน วันนี้เขาไม่ได้โดนเขตแดนต้อนให้จนมุมแต่อย่างไร แต่เป็นตัวเขาเองนั่นแหล่ะ ที่พาตัวเองเข้ามาอยู่ในมุม จนไม่มีโอกาสปัดป้องหรือเปิดโอกาสให้ตัวเองแม้แต่น้อย

====================

               ตอนที่เขตแดนและธรณ์เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน เวธน์ก็รับยาและจัดการจ่ายเงินเรียบร้อย แต่พอคนสนิทหนุ่มหันมาเห็น เขาก็ลากธรณ์ไปหานางพยาบาล จนธรณ์ต้องถามด้วยความสงสัย

               “มีอะไรหรือเปล่าคุณเวธน์”

               “ผมจะให้คุณธรณ์มาฟังวิธีทำความสะอาดแผลและข้อควรระวังครับ”

               “แล้วทำไมผมต้องฟังด้วยล่ะ” ธรณ์เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ

               “คุณธรณ์อยู่บ้านเดียวกับคุณเขตต์ จะได้ช่วยดูแลคุณเขตต์ยังไงครับ”

               ธรณ์พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ แต่แค่รับรู้เท่านั้น เขาไม่ได้เข้าใจอะไรเลยซักนิด ชายหนุ่มขยับปากจะปฏิเสธ แต่เขตแดนก็เอ่ยเสียงเรียบเสียก่อนว่า

               “นายฟังนั่นแหล่ะถูกแล้ว จะได้กลับไปบอกป้าอุ่นถูก ว่าต้องทำแผลให้ฉันยังไง”

               เหตุผลของเขตแดนฟังดูเข้าท่ามากกว่าของเวธน์ ธรณ์เลยยอมยืนฟังนางพยาบาลอธิบายวิธีทำแผล และข้อห้ามตลอดจนข้อควรระวังอย่างสงบ

               พอเสร็จเรียบร้อย ธรณ์ก็เตรียมจะเดินตามเวธน์ไปที่รถ ถ้าเกิดเขตแดนไม่ใช้มือซ้าย ที่ยังปกติอยู่รั้งธรณ์เอาไว้เสียก่อน เพลย์บอยหนุ่มหันมาเลิกคิ้วใส่ด้วยความสงสัย เขตแดนเลยต้องยกมือข้างขวาให้ดู

               “ฉันจะขับรถกลับเองได้ยังไง”

               เวธน์ก็รู้งานเป็นอย่างดี ชิ่งหนีไปเสียก่อน ปล่อยให้ธรณ์ก้มลงมองมือขวาของเขตแดน ก่อนจะแบมือมาตรงหน้า แล้วเอ่ยเสียงเรียบ

               “ขอกุญแจด้วยครับ”

               เขตแดนกระตุกยิ้มออกมา ก่อนจะล้วงกุญแจรถจากกระเป๋ากางเกงมาหย่อนใส่มือธรณ์ เห็นธรณ์เดินนำลิ่วไปที่ลานจอดรถ เขตแดนก็ต้องทักท้วง

               “รู้ว่าฉันจอดรถไว้ที่ไหนหรือ”

               ฟังคำของเขตแดนแล้ว ธรณ์ถึงได้ยอมผ่อนฝีเท้าลง ก่อนจะเอ่ยถามอย่างสงสัย

               “แล้วตอนขามาคุณขับมายังไงล่ะ”

               “ผู้จัดการโรงงานขับรถมาส่ง แล้วฉันก็ให้เขานั่งแท็กซี่กลับไปแล้ว”

               ธรณ์ไม่ได้เอ่ยตอบรับอะไร เขาปล่อยให้เขตแดนเดินนำมาจนถึงรถที่จอดอยู่ เปิดประตูให้อีกฝ่ายขึ้นไปนั่ง ก่อนที่ตัวเองจะอ้อมไปฝั่งคนขับ ขับรถออกมาซักพัก เขตแดนจึงเกริ่นบทสนทนาที่ยังค้างคาอยู่

               “ตกลงนายไปคุยกับทางโรงแรมมาเป็นยังไงบ้าง”

               “ถ้าถามผม ผมก็บอกได้เลยว่าดีมาก แต่คงต้องรอให้คุณไปดูอีกที ว่าเขาทำออกมาได้ถูกต้องและตรงใจคุณหรือเปล่า”

               “ทำไมต้องถูกใจฉัน ทำไมถึงไม่ถูกใจนาย”

               “ผมเห็นคุณควบคุมซะยิ่งกว่างานตัวเองเสียอีก เลยกลัวว่าถ้าผิดพลาดตรงไหน เดี๋ยวคุณจะไม่พอใจ”

               เขตแดนไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ แต่ก็รู้ดีว่าที่เขาเอาจริงเอาจังกับงานเลี้ยง ก็เพราะว่าเป็นงานเปิดตัว ธรณ์ อิสรพัฒน์ ชายหนุ่มผู้ที่น้อยคนนักจะมีโอกาสเห็นหน้าค่าตา ที่ผ่านมาก็รู้จักผ่านตัวหนังสือของกรอบข่าวซุบซิบที่ขยันประโคมลงข่าววันเว้นวัน แม้ว่าเจ้าตัวจะอยู่ไกลถึงอีกซีกโลก จนไม่รู้ว่าต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับบริษัทคู่ค้าอีกซักเท่าไหร่กัน พวกเขาถึงจะเชื่อมั่นในตัวว่าที่ประธานบริษัทคนใหม่

               พอคิดถึงข่าวฉาวของคนที่กำลังขับรถอยู่ เขตแดนก็พลันนึกถึงเรื่องที่คาอยู่ในใจขึ้นมาได้ เขาหรี่ตามองธรณ์ ที่ยังคงจ้องมองถนนเบื้องหน้า ก่อนจะหลุดคำถามที่ตนเองสงสัยออกไป

               “เมื่อคืนนายไม่ได้นอนที่บ้าน”

               คราวนี้ คนชะงักกับเป็นธรณ์ ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนเหมือนจะวนเวียนกลับเข้ามาในหัว และสถานที่เกิดเหตุก็ไม่ใช่ที่ไหนไกลเลย รถคันที่เขากำลังขับแทนเจ้าของอยู่นี่ไงล่ะ ที่เกิดเหตุให้เขาต้องถ่อออกจากบ้านไปหาชินดนัยกลางดึก เพื่อพิสูจน์ให้รู้แจ้งเห็นจริงไปว่า เขาไม่ได้ชอบผู้ชาย เขาไม่ได้เป็นเกย์ แต่เขตแดนต่างหากที่ผิด ผิดที่จูบเก่งเกินไปจนธรณ์เผลอรู้สึกดี

               “ผมไปนอนบ้านชินดนัย”

               นาทีนี้ เขตแดนก็ไม่รู้ว่า ระหว่างให้ธรณ์บอกเขาว่าไปนอนค้างกับผู้หญิงซักคน หรือบอกว่าไปนอนค้างกับชินดนัย อย่างไหนจะทำให้เขารู้สึกแย่น้อยกว่ากัน

               “วันหลังก็บอกคนที่บ้านไว้หน่อย ตอนเช้าพอไม่เจอนาย จะได้ไม่มีใครตกใจอีก”

               “ขอโทษที ผมเองก็ลืมไป”

               ธรณ์จะรู้ซักนิดไหม ว่าตอนเช้าที่เขาตื่นมาแล้วไม่พบอีกฝ่าย แถมป้าอุ่นเรือนก็มารายงานว่ารถไม่อยู่ เขตแดนถึงกับกระวนกระวาย ก่อนจะปลอบใจตัวเองว่า ธรณ์เองก็อาจจะไปเที่ยวกลางคืนเหมือนที่เคยทำเป็นประจำ บางทีการกลับมาคราวนี้ของธรณ์ ก็ทำให้เขตแดนรู้ว่า อีกฝ่ายมีอิทธิพลกับตัวเขามากกว่าที่เขาคาดคิดเสียอีก

====================

               “ตายจริง! คุณเขตต์ไปโดนอะไรมาคะนั่นน่ะ” ป้าอุ่นเรือนอุทานออกมาด้วยตกใจ ทันทีที่เห็นเขตแดนเดินเข้ามาในบ้านพร้อมผ้าพันแผลที่มือขวา

               “โดนลวดที่โรงงานบาดนิดหน่อยเองครับ ไม่เป็นอะไรมากแล้ว”

               “แล้วนี่ไปหาหมออะไรมาเรียบร้อยหรือยังคะ”

               “เรียบร้อยแล้วครับ”

               ธรณ์ที่เดินตามหลังเขตแดนเข้ามา เห็นอาการของป้าอุ่นเรือนก็นึกขัน อยากจะบอกป้าอุ่นเรือนว่า คนที่ป้าอุ่นเรือนนึกห่วงและยืนถามไถ่อาการอยู่นี่ เขาอายุจวนเจียนจะสามสิบอยู่แล้ว ยังมีอะไรต้องห่วงอีก

               “ป้าอุ่นไปเตรียมอาหารเถอะครับ ผมหิวแล้วล่ะ”

               พอป้าอุ่นเรือนได้ยินว่าคุณธรณ์ของเธอหิวแล้ว ก็เลยยอมรามือจากเขตแดน ก่อนจะกระวีกระวาดเข้าครัว แต่ไม่วาย กำชับให้ธรณ์และเขตแดนไปอาบน้ำอาบท่ากันให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะเสร็จแล้วจะได้พอดีกับที่เธอเตรียมอาหารเย็นเสร็จ

               ธรณ์เดินเลี่ยงขึ้นมายังห้องของตนเอง ชายหนุ่มอาบน้ำอาบท่าเสร็จ เพิ่งจะแต่งตัวเรียบร้อย ยังไม่ทันได้ทำอะไร เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น ธรณ์ขมวดคิ้วก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้อง แล้วก็ต้องสงสัยยิ่งกว่าเดิม เมื่อเห็นเขตแดนยืนอยู่หน้าห้องพร้อมกับถุงยา

               “ป้าอุ่นตั้งโต๊ะเรียบร้อยแล้วหรือครับ”

               “เปล่า ช่วยหลบให้ฉันเข้าไปหน่อยได้ไหม”

               แม้จะยังงุนงงและไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่ธรณ์ก็ยอมเบี่ยงตัวหลบให้เขตแดนเดินเข้ามา แล้วก็ยืนดูอีกฝ่ายเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ พร้อมกับถุงยาที่ถือมาด้วย ก่อนจะกวักมือเรียกธรณ์

               “อะไรของคุณ”

               “ทำแผลให้หน่อย ฉันเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ยังชื้นอยู่เลย” พร้อมกับคำตอบ เขตแดนก็ยื่นมือที่มือผ้าพันแผล ซึ่งเปียกชื้นให้ธรณ์ดูประกอบคำพูด

               “เดี๋ยวผมไปเรียกเด็กมาทำให้” ธรณ์ตอบแล้วก็ทำท่าจะเดินออกจากห้อง ถ้าเขตแดนไม่เอ่ยท้วงเสียก่อน

               “ก็แล้วทำไมจะต้องไปเรียกคนอื่นด้วย ในเมื่อคนอื่นเขาก็มีงานที่ต้องทำ ส่วนนายก็ว่างอยู่พอดี”

               ธรณ์ถอนหายใจยาว ก่อนจะเดินมานั่งลงตรงข้ามเขตแดน คว้ามืออีกฝ่ายเพื่อแกะผ้าพันแผลออก แต่ผ้าพันแผลพอโดนน้ำ ก็ยิ่งหดตัวแน่น กว่าจะแกะออกจากมือของเขตแดนได้ ธรณ์ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร พอปลดผ้าพันแผลออกเรียบร้อย ธรณ์ก็ต้องเบิกตากว้าง เพราะแผลลวดบาดของเขตแดน มันลึกและใหญ่กว่าที่เขาคิดเสียอีก

               “ทำไมคุณไม่บอกว่าโดนเยอะขนาดนี้”

               “แผลแค่นี้ ไกลหัวใจ”

               ธรณ์เหลือบตามองคนพูดด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาจัดการกับแผล แต่ถึงจะหมั่นไส้คนปากดีแค่ไหน ธรณ์ก็ไม่วาย...

               “ถ้าเจ็บก็บอกละกัน ผมก็ไม่ใช่คนมือเบาซะด้วย”

               คนที่ออกตัวว่าไม่ใช่คนมือเบาคงไม่รู้ตัวว่า ตัวเองทำแผลด้วยความเบามือ จนคนเจ็บมือถึงกับเผลอยิ้มออกมา เมื่อเห็นอาการระมัดระวังของอีกฝ่าย คล้ายกับกลัวว่าเขาจะเจ็บหรือจะแสบแผล

               “คราวหลังคุณก็ระวังหน่อยละกัน” ธรณ์บอกเสียงเรียบ ก่อนจะหันไปเก็บอุปกรณ์ทำแผลใส่ถุงเหมือนเดิม เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ

               “ช่วงนี้ฉันคงทำอะไรไม่ค่อยถนัด” เขตแดนเอ่ยเหมือนเปรยกับตนเอง จนธรณ์ที่ได้ยินเข้าด้วยความตั้งใจของเขตแดน เผลอเอ่ยกลับไปด้วยความปากไว

               “ถ้ามีอะไรที่ผมพอช่วยได้ก็บอกมาละกัน ลงไปกินข้าวได้แล้วคุณ”

               ถึงจะไม่ใช่คนใจดี แต่ธรณ์ก็ไม่ใช่คนใจร้าย ก็แค่เป็นห่วงตามประสาคนรู้จัก และไม่อยากเห็นอีกฝ่ายฝืนตัวเองจนแผลเปิดก็เท่านั้น

====================


[มีต่อนะคะ]


ออฟไลน์ Renze

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-25


               โชคดีของเขตแดนที่บาดเจ็บแค่ที่มือ แต่โชคร้ายที่ดันเป็นมือขวาข้างที่เจ้าตัวถนัด พอจะหยิบจับอะไรหลายสิ่งหลายอย่างก็ดูจะลำบากลำบนไปเสียหมด แม้กระทั่งเวลาอาหาร ธรณ์หรี่ตามองคนมือเจ็บ ที่พยายามใช้มือข้างที่ยังดีอยู่จับช้อนด้วยความรำคาญ ก่อนจะย้ายมานั่งข้างเขตแดน แล้วแย่งช้อนจากอีกฝ่ายมาถือไว้เสียเอง

               “แค่อ้าปากเรียกให้คนอื่นช่วยมันจะตายไหมเนี่ยคุณ”

               “นายเองก็กำลังกินข้าวอยู่เหมือนกันไม่ใช่หรือ”

               “ผมจัดการคุณให้เรียบร้อยก่อนก็ได้”

               ธรณ์ตะโกนเรียกเด็กรับใช้ให้ไปหยิบช้อนมาเพิ่มอีกหลายคัน ถึงจะมีน้ำใจอยากจะช่วย แต่ธรณ์ก็ไม่ได้ใจดีขนาดจะป้อนเขตแดน ธรณ์ตักกับและข้าวใส่ช้อนพอดีคำ แล้ววางเรียงรายลงบนจาน มองดูคล้ายซุ้มชิมอาหารตามห้างสรรพสินค้า ก่อนจะปล่อยให้เขตแดนใช้มือซ้ายจับเอา แล้วตนเองก็ย้ายกลับไปนั่งที่เดิม

               ถึงแม้จะแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายของเขตแดนเท่าไหร่ กับวิธีแก้ปัญหาของธรณ์ ถ้าธรณ์มาถือช้อนป้อนข้าวเขา นั่นต่างหากที่เหนือความคาดหมายของชายหนุ่ม

               เสร็จเรียบร้อยแล้ว ธรณ์ก็เดินไปหยิบถุงยาของเขตแดนมา ก่อนจะหยิบยาแก้ปวดและแก้อักเสบออกมาส่งให้อีกฝ่ายโดยไม่พูดอะไร เขตแดนเองก็รับไปส่งเข้าปาก ก่อนจะดื่มน้ำตาม จากนั้นก็มีแต่ความเงียบปกคลุม ระหว่างที่ทั้งคู่นั่งมองเด็กรับใช้เดินเข้ามาเก็บโต๊ะอาหาร จนสุดท้าย โต๊ะอาหารก็ว่างเปล่า เช่นเดียวกับบรรยากาศรอบข้าง ที่เหลือเพียงเขตแดนและธรณ์อยู่กันตามลำพัง

               “งานเลี้ยงของนาย ท่านปลัดกระทรวงตอบตกลงแล้วว่าจะมาร่วมงานด้วย นอกจากนั้นก็ยังมีคู่ค้าและพันธมิตรของเราอีกหลายราย รวมถึงคู่แข่งของเราด้วย”

               “คุณต้องการจะบอกอะไร”

               “ฉันไม่รู้หรอกว่าภาพลักษณ์ของนายในสายตาคนอื่นเป็นยังไง แต่สำหรับฉันบอกได้เลยว่า ที่ผ่านมามันดูไม่ดีเลย เพราะฉะนั้นถ้าจำเป็น...นายก็ต้อง ‘สร้างภาพ’ บ้าง”

               ธรณ์ถึงกับหน้าตึงทันควัน ถ้าเขาตีความไม่ผิด ที่เขตแดนพูดมา ก็ไม่ต่างจากการที่หาว่าเป็นพวกที่ชอบ ‘สร้างภาพ’ เลย

               “ผมไม่ใช่พวกชอบสร้างภาพ”

               “ฉันรู้ แต่นายก็ไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง”

               “คุณจะมารู้ดีกว่าผมได้ยังไง”

               เขตแดนเหยียดริมฝีปากออก เขาอยากถามธรณ์เหลือเกินว่า ธรณ์มั่นใจแล้วหรือ ว่ารู้จักตัวเองดี เพราะไม่ใช่คนทุกคนที่จะรู้จักตัวตนของตัวเองดี

               “ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยบอกให้ฉันหายโง่หน่อยเถอะ ว่าแบบไหนกันแน่คือตัวของนายเอง น้องธรณ์ที่ใสซื่อบริสุทธิ์และเป็นห่วงเป็นใยคนอื่น เพลย์บอยหนุ่มชื่อธรณ์ที่มีข่าวกับผู้หญิงนับไม่ถ้วน หรือผู้ชายชื่อธรณ์ ที่พยายามสร้างเกราะป้องกันตัวเองจากคนอื่น”

               ธรณ์เม้มริมฝีปากแน่น ขยับจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ แต่เสียงดุของเขตแดนก็ดักเอาไว้เสียก่อน

               “อย่าคิดที่จะหนี ธรณ์ อิสรพัฒน์ มันถึงเวลาที่เราต้องมาคุยเรื่องนี้กันอย่างจริงจังซะที”

               “ผมไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ”

               “ทำไมเมื่อก่อนนายถึงต้องทำตัวแบบนี้ ทำไมนายถึงต้องทำตัวประชดอายุทธ”

               ธรณ์แค่นหัวเราะออกมา กึ่งจะเย้ยหยันกึ่งจะสมเพชตัวเอง เมื่อคิดถึงเหตุและผลของการกระทำ มันจะไปมีความหมายอะไรล่ะ ในเมื่อเขาเรียกร้องความสนใจ จากคนที่ไม่เคยคิดที่จะสนใจไยดีในตัวเขา

               “คุณถามผมช้าไปสิบปีนะคุณเขตแดน”

               “ไม่มีคำว่าช้าไปหรอก ถ้านายไม่พูด ก็จะไม่มีใครรู้ และถ้าไม่รู้ ก็จะไม่มีวันเข้าใจ นายจะคาดหวังให้คนอื่นมาเข้าใจการกระทำของนาย โดยที่นายไม่ยอมอธิบายอะไรไม่ได้หรอกนะธรณ์”

               นาฬิกาของธรณ์เหมือนจะเดินถอยหลังไปอีกสิบปี วันที่ชีวิตของเด็กชายธรณ์ อิสรพัฒน์เปลี่ยนไป คุณแม่ที่ป่วยกระเสาะกระแสะจากเขาไป วันที่มีแค่เขากับป้าอุ่นเรือนที่เกาะอยู่ข้างเตียงของแม่ ฟังแม่ฝากฝังเขากับป้าอุ่นเรือน และสั่งให้เขาเป็นเด็กดีของพ่อ อย่าโกรธพ่อที่ไม่ได้อยู่ข้างแม่ในวันที่แม่จากไป


               ‘พี่อุ่นคะ...ฉันฝากดูน้องธรณ์กับคุณยุทธด้วยนะคะ ส่วนธรณ์ของแม่ ก็ต้องเป็นเด็กดีของคุณพ่อนะลูก อย่าโกรธพ่อเขา พ่อเขาจำเป็นต้องไปทำงาน เขาทำทุกอย่างก็เพื่อธรณ์นะลูก’


               เด็กชายธรณ์ในวันนั้นเถียงออกมาเสียงดังว่าไม่จริง พ่อไม่ได้ทำเพื่อเขา พ่อกำลังทำเพื่อตัวเองต่างหาก ถ้าพ่อทำเพื่อเขา พ่อต้องอยู่กับเขาและแม่ ไม่ใช่ไปทำงานต่างประเทศและติดต่อไม่ได้ แม้ว่าพอพ่อกลับมาและรู้เรื่องแม่ พ่อจะโทษตัวเองและมีใบหน้าเศร้าโศกแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนความคิดของธรณ์ได้ว่า เพราะพ่อ แม่ถึงจากไป เพราะพ่อไม่เคยสนใจแม่

               ช่องว่างระหว่างธรณ์กับพ่อเหมือนยิ่งจะดูห่างออกไปมากกว่าเดิม หลังจากเสียแม่ไป เด็กชายธรณ์ก็รู้สึกเหมือนตัวเองได้สูญเสียพ่อไปอีกคน พ่อที่โหมทุ่มเททำงาน กลายเป็นพ่อที่ธรณ์สัมผัสไม่ถึง เขาเริ่มทำตัวเกเร หวังว่าทุกครั้งที่ถูกเรียกผู้ปกครอง จะเป็นโอกาสที่เขาได้ดึงพ่อออกมาจากงานของพ่อ แต่สิ่งที่เขาได้รับคือ...รอยยิ้มใจดีของลุงครามที่ยืนรอเขาอยู่หน้าห้องฝ่ายปกครอง ไม่ใช่พ่อของเขา

               นอกจากพ่อจะเปลี่ยนไปแล้ว อีกคนที่เปลี่ยนไปสำหรับธรณ์ก็คือเขตแดน คนที่ธรณ์คิดว่าเป็นพี่ชายคนเดียวของเขา เขตแดนในวัยที่เพิ่งก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย เริ่มห่างจากธรณ์ออกไปทีละนิด ‘พี่เขตต์’ ไม่ได้มีเวลาให้ธรณ์เหมือนเคย และพ่อ...คนที่ธรณ์อยากให้สนใจก็ทุ่มเวลาและทุกอย่างให้เขตแดน จนมารู้ตัวอีกที ‘พี่เขตต์’ ก็กลายเป็น ‘คุณเขตแดน’ ไปแล้ว


               สำหรับธรณ์แล้ว จึงมีแค่เพียงลุงคราม แค่ลุงครามเท่านั้นที่ยังเหมือนเดิมสำหรับธรณ์


               ธรณ์ผุดลุกจากเก้าอี้แล้วเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขตแดน ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ไม่เคยคิดว่าจะต้องเอ่ยออกมาให้อีกฝ่ายรู้


               “เพราะผมอิจฉา...อิจฉาที่พ่อสนใจคุณมากกว่าผม แล้วก็อิจฉาที่คุณก็คิดถึงแต่พ่อผมก่อน ตั้งแต่แม่จากไปก็ไม่มีใครคิดถึงผมก่อนเลย ไม่มีเลย...นอกจากลุงคราม”


               เขตแดนนั่งมองธรณ์ที่เดินขึ้นบันไดไป โดยไม่เหลียวหลังกลับมามองเขา ก่อนจะถอนหายใจยาวเพื่อผ่อนความหนักหน่วงในใจ เขาเคยหาเหตุผลร้อยพันอย่าง ว่าอะไรที่ทำให้ธรณ์เปลี่ยนไป แต่ไม่เคยคาดคิดว่า ตัวเขาเองจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ธรณ์เปลี่ยนไป เคยคิดว่าช่วงที่ธรณ์เปลี่ยนไป เป็นช่วงที่อีกฝ่ายเพิ่งเข้ามัธยมต้น และยังเพิ่งสูญเสียคุณอัจฉราผู้เป็นแม่ไปอีก มันอาจจะเป็นความคึกคะนองประสาวัยรุ่น แต่สุดท้ายแล้วเขาก็คิดผิดอย่างมหันต์

               ถ้าเขาจะไม่ด่วนตัดสินการกระทำของธรณ์ และเข้าใจธรณ์มากกว่านี้ ธรณ์จะเป็นอย่างที่เป็นอยู่หรือเปล่า แล้วถ้าตอนนี้ เขตแดนจะพยายามเข้าใจธรณ์ให้มากขึ้น มันจะสายเกินไปหรือเปล่า แต่เขาก็เพิ่งออกปากไปเองว่า มันไม่มีคำว่าช้าไป

               เขตแดนก็ได้แต่หวังว่า...ธรณ์จะยังต้องการให้พี่เขตต์เป็นพี่ชายของธรณ์เหมือนเดิม

====================

               แม้เมื่อคืนจะแยกจากกันด้วยความเคืองขุ่น แต่ตอนเช้าธรณ์ก็ยังมีสำนึกที่ดีพอ ที่จะเดินมาเคาะประตูห้องของเขตแดน ที่เพิ่งจะกลัดกระดุมเสร็จด้วยความยากลำบาก เจ้าของห้องมองคนที่ร้อยวันพันปีถึงจะยอมมาเหยียบย่างห้องเขาด้วยความสงสัย ก่อนจะได้รับคำตอบ เมื่อธรณ์เดินเข้ามาคว้าถุงยาที่มีอุปกรณ์ทำแผลออกมา แล้วก็เอ่ยเสียงเรียบ

               “ขอมือขวาด้วย”

               เขตแดนเองก็ยื่นให้โดยดี ก่อนจะนั่งมองดูธรณ์ทำแผลแล้วก็นึกชมเปาะในใจ ว่าอีกฝ่ายก็ทำแผลได้ค่อนข้างเรียบร้อย เหมือนกับว่า...เคยชินกับการทำแผล คิดแล้วเขตแดนก็ต้องด่าตัวเอง ว่าธรณ์จะไม่เคยชินกับการทำแผลได้อย่างไร ในเมื่อสมัยก่อน ธรณ์เองก็มีเรื่องชกต่อยไม่เว้นแต่ละวัน

               พอทำแผลให้เสร็จเรียบร้อย ธรณ์ก็คว้าเนคไทด์ของเขตแดนที่วางพาดอยู่มาผูกหน้าตาเฉย ก่อนจะยื่นเนคไทด์ที่ผูกเรียบร้อยแล้วให้อีกฝ่ายรับไปสวมคล้องคอ

               “ขอบใจนะ”

               “ไม่เป็นไร ผมก็แค่กลัวว่าแผลคุณจะเปิด เดี๋ยวคุณเวธน์เขาจะหาว่าผมดูแลเจ้านายเขาไม่ดี” ธรณ์เอ่ยเสียงเรียบ ก่อนทำท่าจะผละออกจากห้อง แต่ก็ต้องหันกลับมาเลิกคิ้วใส่อีก เมื่อเห็นว่าเขตแดนยังรั้งแขนเขาไว้อยู่

               “ฉันยังเป็นพี่ชายของนายนะ”

               ธรณ์ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะปลดมือของเขตแดนออกจากแขนของเขา

               “คุณพูดพราะคิดอย่างที่พูดหรือเพราะว่ากำลังรู้สึกผิดอยู่กันแน่”

               คำถามของธรณ์เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ เพราะพอถามจบ ธรณ์ก็อาศัยจังหวะที่เขตแดนกำลังนิ่งงัน เดินออกจากห้องไป ทิ้งให้เจ้าของห้องยืนทบทวนประโยคเมื่อครู่ซ้ำไปซ้ำมา แต่กว่าที่เขตแดนจะได้คำตอบ ธรณ์ก็คงลงไปถีงโต๊ะกินข้าวเรียบร้อยแล้ว

====================

               ร่างสูงที่แต่งกายด้วยเครื่องแบบชุดทหารนั่งอยู่บนโซฟา บนโต๊ะตัวเล็กตรงหน้าเขาคือภาพถ่ายและรายงานเล่มหนา แต่สายตาของชายหนุ่มไม่ได้หยุดที่อยู่ที่โต๊ะตัวเล็กตรงหน้า กลับมองเลยไปยังเจ้าของเรือนเล็กที่ยืนหันหน้าออกนอกหน้าต่างด้วยท่าทางเคร่งเครียด

               “ชิน...”

               นายทหารหนุ่มลองเรียกเจ้าของเรือนเล็ก แต่ที่ได้รับกลับมาคือความเงียบ ที่ปกคลุมทั่วเรือนเล็กมาร่วมสิบห้านาทีแล้ว จนเขาเองยังอดรู้สึกอึดอัดไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องเอ่ยปากเรียกอีกฝ่ายซ้ำ

               “ชินดนัย...”

               คราวนี้ร่างสูง เจ้าของเรือนเล็กยอมหันกลับมา ทว่าดวงหน้ากลับเคร่งเครียด แล้วยิ่งแปรเปลี่ยนเป็นเครียดหนักกว่าเดิม เมื่อปรายสายตามามองภาพถ่ายและเอกสารบนโต๊ะ

               “ผมไม่อยากจะเชื่อเลย ให้ตายสิ!”

               “ฉันก็สืบตามที่นายบอกทุกอย่าง ก็ออกมาอย่างที่เห็นเนี่ยแหล่ะ”

               “ถ้าไม่ใช่เพราะพี่เป็นคนสืบมา ผมก็คงไม่มีวันเชื่อ แต่ผมก็ไม่อยากให้มันเป็นความจริงอยู่ดี มันเป็นเรื่องที่เข้าใจและยอมรับได้ยาก พี่เข้าใจใช่ไหม”

               นายทหารหนุ่มแห่งหน่วยข่าวกรองของกองทัพบก ซึ่งถูกดึงตัวมาใช้ในภารกิจส่วนตัวมองผลงานตัวเอง แล้วก็ถอนหายใจออกมา เพราะเขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน แต่ว่าเขานี่แหล่ะ ที่เป็นคนรับรู้และเห็นมาเอง มันจึงปฏิเสธความจริงที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย

               “แล้วนายคิดจะทำยังไงล่ะ นายจะบอกเขาหรือเปล่า”

               ชินดนัยไม่อยากจะคิดเลยว่า บาดแผลที่ยังสมานไม่สนิทของธรณ์จะเป็นอย่างไร ถ้าต้องมารับรู้เรื่องที่ทำร้ายจิตใจกันมากถึงเพียงนี้ ถ้าเขาไม่เคยได้ยินธรณ์นอนละเมอพร่ำเพ้อถึงแม่ เขาคงใจร้ายพอที่จะบอกความจริงทุกอย่างแก่ธรณ์ได้


               ธรณ์ อิสรพัฒน์...ไม่ได้เข้มแข็งอย่างที่คนอื่นคิดเลยซักนิด
               ธรณ์อาจจะแข็งแกร่ง แต่ธรณ์ไม่ได้เข้มแข็งเลย



               “วันงานเลี้ยงต้อนรับธรณ์ พี่จะไปกับผมหรือเปล่า” ชินดนัยไม่ได้ตอบคำถาม แต่เสถามไปอีกเรื่องแทน

               “แล้วนายอยากให้ฉันไปด้วยหรือเปล่าล่ะ”

               “ถ้าจะไป ก็อย่าลืมหาชุดเตรียมไว้ด้วยแล้วกัน อ้อ...อเล็กซ์ก็จะไปกับผมด้วยนะ”

               ร่างสูงในชุดนายทหารพึมพำบางอย่างคล้ายไม่พอใจ แต่ชินดนัยก็คร้านที่จะใส่ใจ เขาเดินกลับมานั่งลงบนโซฟา มือหยิบภาพถ่ายขึ้นมาดูทีละภาพ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเป็นรอบที่ร้อย

               แม้จะรู้ดีว่าความลับไม่มีในโลก แต่ชินดนัยก็อยากจะลองเสี่ยงเก็บความลับดูเหมือนกัน

               ถ้าไม่จำเป็น...เขาก็ไม่อยากให้ธรณ์ต้องมารับรู้อะไรแบบนี้เลย มันคงหนักหนาสาหัสกว่าที่ธรณ์จะรับได้ ถ้าได้รู้ว่าสิ่งที่เห็น ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด


TO BE CONTINUE



๐ มาช้าไปหน่อย ขอโทษด้วยนะคะ ยังไม่มีโอกาสอ่านทวนเลย ถ้ามีผิดพลาดหรือตกหล่น ขออภัยล่วงหน้านะคะ
๐ และแล้วคุณเขตต์ก็ปลอดภัยดี ตอนนี้เหมือนความสัมพันธ์จะพัฒนาแล้ว เหมือนจะหวาน...หรือเปล่า
๐ ชินดนัยคุยกับใคร ชินดนัยเห็นอะไร รู้อะไรมา บางทีก็คิดอยู่ว่า เราแกล้งธรณ์มากไปหรือเปล่า
๐ ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ ขอบคุณคนอ่านทุกคนค่ะ ชาวเล้าเดากันเก่งมากเลย  :pig4:

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
มาอัพแล้ว กำลังคิดถึงน้องธรณ์อยู่พอดีเลยจ้า

ตอนนี้แอบมีออร่าความหวาน ถึงจะบางเบาก็เถอะ ชอบจังที่ธรณ์เรียกว่า พี่เขตต์เนี่ย

แต่เรื่องที่อยากรู้ตอนนี้ก็คือ ชินรู้อะไร เรื่องอะไร มันยังไง อยากรู้มากกกกกกก

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
ชินยังคงเก็บความลับต่อไป

อร๊าก ก ก!!!! ให้ตายเหอะ อยากรู้สาเหตุการตายของพ่อธรณ์
 

ออฟไลน์ sujusaranghae

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ชอบเรื่องนี้มากกก เห็นไรเตอร์อัพทีดีใจได้อีก
ถ้ามีรวมเล่มเราไม่พลาดแน่นอน

ออฟไลน์ coon_all

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
แสดงว่าที่ลุงครามบอกไม่ใช่เรื่องจริงแน่เลย
ชินสืบได้มาว่ายังไงน้า...
รอตอนต่อไปอยู่นะ^_^

ออฟไลน์ masochism2018

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
ลุงครามมีซัมติงกับพ่อธรณ์หรอ 55555555555555555555555

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
จะคืนรัง หรือรังจะแตกก่อน  :เฮ้อ:
ดูความลับของพ่อธรณ์จะเป็นเรื่องคอขาดบาดตายมาก

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
อะไรที่ธรณ์ควรจะรู้ดีหรือไม่รู้ดี รู้แต่คนอ่านอยากรู้ม้ากมากค่ะ
ธรณ์ห่วงพี่เขตมาก ยอมรับซะเถอนะ น่ารักดีออก รอกำแพงระหว่างสองคนหายไปกลับมาเป็นพี่ ๆ น้อง ๆ คงจะน่ารักน่าดู
แต่เรื่องดราม่าที่รออยู่นี่สิ จะเศร้าก่อนแฮปปี้มั้ยฮึ~
ฮาตอนธรณ์ตักข้าวเป็นคำ ๆ ให้เขตกิน อืม คิดได้เนอะ 555

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ zelesz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
โหวว เรื่องนี้ Renze เขียนต่างจากเรื่องที่แล้วเยอะเลยนะคะ เรื่องนี้แลเป็นผู้ใหญ่ค่ะ
แต่ก็บรรยายเรื่องหนุกนะคะ ชอบค่ะ แล้วพอมาหลังๆ แทบจะคลั่งใหญ่เลยย ><
ไม่รู้รู้สึกไปเองไหม ว่าเหมือนห่วงกันมาก แต่ไม่ค่อยแสดงออกอ่ะค่ะ
แล้วก็มีปริศนาด้วย ทำให้อยากรู้ไปใหญ่เลยยยย อ๊ากก จะติดตามนะคะ

ขอบคุณค่ะ :)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Baitaew

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 361
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ทั้งสองจูบกันแล้ว กรี๊ดดดดดดด  :-[

เคลิ้มกันไปเลยสิ อิอิ โมเมนต์นี้เราฟิน

แต่ไอ้คุณชินดนัยนี่ทำให้ต่อมอยากรู้เราเพิ่มขึ้นไปอีกนะ

ให้เดา คุณยุทธกับลุงครามซัมติงวรอง แน่ๆ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
กลายเป็นแม่ของธรณ์ทำอะไรไว้หรอ?  :confuse:


ตอนนี้รู้สึกสองพี่น้องกลับมาอึมครึมเหมือนเดิม  :เฮ้อ:

chae

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ติดตามอย่างหนักหน่วง
ชอบทั้งการใช้ภาษาและการแสดงออกถึงความรู้สึกของแต่ละตัวละคร
ชอบจิงๆ

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
แล้วความจริงที่ชินรู้มันคืออะไร พี่ก็อยากรู้เหมือนกัน

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
เพิ่งตามมาอ่านจนทันค่ะ

อยากจะรู้ความลับนั้นจริง ๆ >.<

ติดตามตอนต่อไป .. ขอบคุณนะคะ

 :กอด1:

It_s_me

  • บุคคลทั่วไป
กำแพงระหว่างพี่เขตกับน้องธรณ์หนาจัง
แถมยังมีเรื่องที่ชินสืบรู้มาอีก
ดูท่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้พระนายของเรายิ่งห่างกันเข้าไปใหญ่
หรือเราคิดไปเอง? จริงๆแล้วคดีอาจพลิก 55555

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ไม่รู้ไปอยู่ไหนมา ถึงเพิ่งเห็นนิยายเรื่องใหม่ :z3:
อ่านรวดเดียวจบ ปวดตาเพราะเพ่งมากไปหน่อย
เนื้อหาเข้มข้น ซ่อนปม ให้ขบคิดตาม ผิดกับน้องแอลที่ฮาได้ตลอด  :z2:
+ 1 ให้เป็นกำลังใจเช่นเดิมครับ  :กอด1:

NaNaAS

  • บุคคลทั่วไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด