▬ " รักคืนรัง " ▬ 「จบบริบูรณ์」
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「จบบริบูรณ์」  (อ่าน 270677 ครั้ง)

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพี่เขตกะน้องธรณ์เหมือนกำลังไปด้วยดี

แต่รู้สึกว่าจะมีเรื่องปมปัญหาต่างๆ กำลังตามมาอีกเยอะเลย ทั้งเรื่องรูปของชิน แล้วที่ทิ้งท้ายไว้

คนแต่งทิ้ง ปล.ซะเรากลัวเลยค่ะ รังจะแตกเลยหรอคะเนี่ย

ปล. คู่น้องชินน่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ zelesz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
รู้สึกว่า ยิ่งอ่านยิ่งหนุก ตอนอ่านตอนแรกคิดว่าเขียนเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และบรรยายดีขึ้น
ต่อมาเริ่มติด ต่อมารู้สึกว่ามันสนุกทั้งการบรรยาย การใช้คำ การเล่าเรื่อง (เอ๊ะ หรือเราชอบแนวนี้ก็ไม่รู้เน้)
รู้สึกว่าคนเขียนมีการพัฒนาจากนิยายเรื่องก่อนอย่างมากเลยค่ะ เพราะมันสนุกขึ้นมากเลย รู้สึกความห่วงใยละยังมีปมอีกด้วยย
อยากรู้มากกกกก ยังไงก็ติดตามตอนต่อไปนะคะ สู้ๆ ค่ะ

ออฟไลน์ sujusaranghae

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
อ่านข้ามไปตอนนึง ว่าแล้วว่าทำไม งงๆ
ชอบเรื่องนี้มาก <3

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
หะะ !!!! อย่าบอกนะว่า ผู้พัน กับชินดนัยเป้นแฟนกัน
โอ้ม่ายยยยยยยยยยย :serius2: อยากรู้จังเลยเป็นแฟนกันได้ไงอ่ะ :z3:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
แม้ว่าอะไร ๆ ที่คาใจท่านประธาน จะกระจ่างแล้ว
ส่วนนายทหารหนุ่ม จะมีอะไรกับใครระหว่าง น้องชายลูกนายพลกับลูกชายของ ตระกูลคาร์เตอร์ คงต้องลุ้นกันต่อไป
แต่ตัวละคร ตัวใหม่นี่คงไม่ธรรมดา เพราะความลับไม่มีในโลก  :m28:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ
ปล. สู้ ๆ นะครับ

ออฟไลน์ zelesz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
รออยู่นะค้าบบบบบ คนเขียนที่รัก  :L2:

ออฟไลน์ Cc-kun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
น่าจะอัพอายุทั้งคู่สักคนละสี่ห้าปีนะคะ
อายุ29มันดูเด็กไปหน่อย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-11-2012 04:05:47 โดย Cc-kun »

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
ผู้พันกับชิน  :-[

ไม่อยากจะนึกถึงวันที่ธรณ์รู้ความจริงเล้ยยย >.<

ออฟไลน์ Baitaew

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 361
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
มีตัวละครเพิ่มมาให้ปวดหัวอีกแล้ว

มันทั้งน่าสนุกและน่าปวดหัวอ่ะนะ

เรื่องลุงครามก็เป็นอย่างที่คิดสินะ

และคาดว่าธรณ์ต้องรู้ความจริงจากแม่เขตแดนเป็นแน่ (เดานะ)




CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
ตามอ่านทันแล้ววววว
ลุงครามกับคุณพ่อนี่เคยเป็นคู่รักกันรึป่าว
ชินดนัยถึงไม่อยากให้รู้
แถมแม่ของเขตต์ยังพูดแบบนี้ด้วย
ยังไงก็รอวันที่ความจริงเปิดเผยล่ะเนอะ

ออฟไลน์ Renze

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-25

“ รักคืนรัง ”

ตอนที่ 12


               หลังจากที่ธรณ์และเขตแดนหันมาคุยกันอย่างเปิดอก ก็ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างชายหนุ่มสองคนจะดีขึ้นตามลำดับ อาการงัดข้อก็ลดน้อยลง แต่ก็ยังคงมีบ้างที่ต่างฝ่ายต่างพยายามที่จะท้าทายซึ่งกันและกัน ยกตัวอย่างเช่น ตอนสายของวันที่ธรณ์เดินดุ่มเข้ามาเคาะประตูห้องทำงานของเขตแดน

               “เชิญ!”

               หลังจากที่เจ้าของห้องอนุญาต ชายหนุ่มร่างสูงก็เปิดประตูพรวดเข้ามาพร้อมกับแฟ้มเอกสารหลายอัน ธรณ์เดินนิ่วหน้ามาทิ้งตัวนั่งลงตรงข้ามเขตแดนที่ยังคงสาละวนกับการเซ็นเอกสาร แต่ผู้มาเยือนก็นั่งรอด้วยความอดทน พยายามย้ำอยู่เสมอถึงตำแหน่งประธานบริษัทของอีกฝ่าย ยามอยู่ที่บริษัทและต่อหน้าคนอื่น ธรณ์จะเคารพเขตแดน อาจมีบ้างที่โต้แย้งตามเหตุและผล แต่ก็ไม่ได้คิดก้าวก่ายอำนาจประธานบริษัท แต่ถ้าอยู่ที่บ้านหรือตามลำพังก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

               “มีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่า?” เขตแดนถามเสียงเรียบเรื่อยโดยที่ยังไม่ยอมละสายตาจากเอกสาร จนเป็นภาพที่น่าหมั่นไส้สำหรับธรณ์เหลือเกิน

               ธรณ์วางแฟ้มเอกสารลงตรงหน้า ก่อนจะเอาปลายปากกาชี้ตัวเลขที่ถูกวงด้วยปากกาสีแดง

               “ทำไมงบประมาณที่ผมเสนอเพื่อรับรองลูกค้าถึงถูกตีกลับล่ะ”

               “นายคิดว่าทำไมถึงถูกตีกลับล่ะ” เขตแดนย้อนถามกลับ โดยที่มือก็ยังตวัดปากกาเซ็นเอกสาร ไม่ได้เงยหน้ามามองธรณ์แม้แต่น้อย จนธรณ์อดที่จะหงุดหงิดคนที่ดำรงตำแหน่งประธานบริษัทไม่ได้ ว่าทำไมเขตแดนจะต้องตอบคำถามเขาด้วยคำถามเสมอ

               “ถ้าผมรู้ ผมจะมาถามคุณเหรอครับ”

               “ฉันอยากให้นายลองไตร่ตรองด้วยตัวเองดูก่อนที่จะวิ่งโร่มาหาฉัน เพราะที่นี่ไม่ใช่โรงเรียน และฉันไม่ใช่คุณครูที่จะมาคอยสอนและบอกทุกอย่าง นี่คือชีวิตจริง ทุกอย่างต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง”

               แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังสอนด้วยความปรารถนาดี แต่ธรณ์ก็อดขุ่นในอารมณ์ไม่ได้ เขาก้มลงกวาดสายตามองเอกสาร ไล่สายตาไปมาอยู่นาน แต่เขตแดนก็ไม่ได้เอ่ยเร่งอะไร ปล่อยให้ธรณ์ได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่ จนในที่สุดชายหนุ่มก็ยอมแพ้

               “ผมหาไม่เจอ ช่วยบอกหน่อยได้ไหม”

               เขตแดนวางปากกาลง เอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วกอดอกมองธรณ์ ที่นั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะยังหาจุดที่ผิดพลาดไม่เจอ ท้ายที่สุดชายหนุ่มก็ต้องหยิบเอกสารอีกฉบับออกมาวางตรงหน้าธรณ์

               “งบประมาณสำหรับแต่ละแผนกในแต่ละปีจะถูกกำหนดเอาไว้แล้ว และงบประมาณที่นายเสนอมาเพื่อขออนุมัติก็เกินโควตา ถ้าจะให้ฉันอนุมัตินายก็ต้องลดงบประมาณลง”

               “แต่คุณก็รู้ว่าเราต้องเต็มที่กับลูกค้าเสมอ ถ้าคุณมาบีบงบประมาณแบบนี้แล้วผมจะทำยังไง”

               “นั่นก็เป็นหน้าที่ของนาย บริษัทให้งบนายสิบ นายก็ต้องจัดสรรสิบที่ได้ไปให้พอใช้ ไม่ใช่มาขอเพิ่ม ถ้าฉันเพิ่มงบประมาณให้แผนกต่างประเทศ พอแผนกอื่นรู้ก็จะพากันมาขอ แล้วมันก็จะเสียการปกครอง หวังว่านายคงเข้าใจ ส่วนจะทำยังไงให้สิบที่ได้ไปเกิดประโยชน์สูงสุด นายก็ต้องไปคิดเอาเอง”

               ธรณ์พยักหน้ารับเป็นเชิงเข้าใจ แต่เขาจะจัดสรรงบประมาณที่มีอยู่อย่างไรก็เป็นปัญหาของเขา นี่ก็ไม่ต่างอะไรจากการถูกจำกัดค่าขนมหรอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธรณ์ที่มักจะเลือกสิ่งที่ดีสุดเสมอ และนิสัยนี้ก็ยังคงเป็นอยู่ แม้จะนำมาปรับใช้ในการรับรองลูกค้า เพราะธรณ์เลือกโรงแรมห้าดาว ห้องอาหารระดับภัตตาคาร โปรแกรมทัวร์ระดับวีไอพี งบมันถึงได้บานปลายจนเขตแดนต้องส่ายศีรษะ

               สุดท้ายชายหนุ่มก็ทำได้เพียงแค่รวบแฟ้มแล้วขอตัวออกจากห้องทำงานของเขตแดน ปล่อยให้ประธานบริษัทหนุ่มนั่งทำงานต่อไปอย่างอารมณ์ดี ซึ่งเขาก็ไม่คิดจะหาสาเหตุหรอกว่าอีกฝ่ายอารมณ์ดีเรื่องอะไร พอกลับมาที่โต๊ะทำงานของตนเอง นั่งลงบนเก้าอี้ยังไม่ทันไร ภวินท์ก็เดินเข้ามาหาผู้มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าโดยตรงทันที

               “คุณธรณ์ครับ มิสเตอร์จอห์น วิลสันที่เคยติดต่อว่าจะขอเข้ามาพบคุณธรณ์ จะเดินทางมาถึงประเทศไทยพรุ่งนี้ เขาขอนัดหมายเป็นช่วงบ่ายวันศุกร์นะครับ”

               “เดี๋ยวขอผมเช็คตารางงานก่อนนะครับคุณภวินท์”

               ธรณ์คว้าสมุดออร์แกไนเซอร์มาเปิดดู เขาจำได้ว่ามิสเตอร์วิลสัน คือคู่ค้ารายใหม่ที่เพิ่งติดต่อเข้ามา และเขาก็รับจะเป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบทุกอย่างตลอดจนกระทั่งการรับรองแขกเอง แม้ว่าปกติคู่ค้าทุกรายจะต้องผ่านการสกรีนจากเขตแดนก่อนก็ตาม ถ้าการเจรจาราบรื่น นี่ก็จะเป็นผลงานชิ้นแรกของธรณ์ และมิสเตอร์วิลสันก็จะเป็นคู่ค้ารายแรกของธรณ์ด้วยเช่นกัน

               “โอเคครับคุณภวินท์ วันศุกร์ผมไม่ติดธุระอะไร นัดหมายกับเขาได้เลยครับ”

               “ได้ครับ ยังไงถ้ามีรายละเอียดเพิ่มเติม เดี๋ยวผมจะแจ้งคุณธรณ์อีกทีนะครับ”

               ธรณ์ยิ้มรับ ก่อนจะก้มลงจดนัดหมายลงไปในสมุดออร์แกไนเซอร์ของตัวเอง เสร็จแล้วก็สาละวนกับการแก้งบประมาณการรับรองลูกค้าของแผนก ที่ธรณ์คงต้องมาหัวหมุนกับการปรับเปลี่ยนขนานใหญ่ เพราะบางครั้งสิ่งที่คิดว่าดีที่สุด ก็ไม่ได้แปลว่าเหมาะสมที่สุดเสมอไป


====================


               ช่วงเย็นหลังเลิกงาน คฤหาสน์อิสรพัฒน์มีโอกาสได้ต้อนรับแขกอีกสองคนอย่างกระทันหัน เพราะจู่ๆหนึ่งในแขกสองคนก็โทรศัพท์มาบอกธรณ์ว่าจะขอมาร่วมโต๊ะอาหารเย็นด้วย ธรณ์เองก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรอยู่แล้ว จึงบอกให้อีกฝ่ายมาได้เลย ป้าอุ่นเรือนเลยต้องรับหน้าที่จัดการอาหารเย็นเพิ่ม ซึ่งแกก็ไม่ได้ลำบากอะไร ออกจะชอบเสียด้วยซ้ำที่มีแขกมาร่วมโต๊ะอาหารกับคุณชายของแก

               ทันที่กลับมาถึงและเดินเข้าบ้านมาพร้อมเขตแดน ธรณ์ก็ต้องเลิกคิ้วนิดๆ เมื่อเห็นว่าแขกที่จะมาร่วมโต๊ะอาหารเป็นฝ่ายมารออยู่ก่อนแล้ว บนโต๊ะตัวเล็กมีของว่างและกาแฟที่พร่องไปเล็กน้อย บ่งบอกว่าแขกคงจะมาถึงซักพัก ธรณ์และเขตแดนหันไปทักทายคนที่อายุมากกว่าก่อน เสร็จแล้วธรณ์จึงหันมาหาเพื่อนรักตนเองที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่

               “เป็นอะไรมึง”

               “พอดีผมชวนเขาเปลี่ยนที่นอนไปนอนที่กรมน่ะ เลยไม่สบอารมณ์เท่าไหร่”

               “พี่มานอนที่เรือนเล็กก็หมดเรื่อง ทำไมต้องให้ผมไปนอนบ้านพักที่กรมด้วยเล่า”

               “เกรงใจคุณลุงคุณป้า”

               “เกรงใจอะไรกัน พ่อกับแม่ผมเขารักพี่ยิ่งกว่าลูกในไส้อย่างผมอีก”

               ถึงถ้อยคำของชินดนัยจะฟังดูประชดประชัน แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้รู้สึกอิจฉาคนที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายตามกฎหมาย ออกจะพอใจเสียด้วยซ้ำที่ท่านนายพลกับคุณหญิงรักและเอ็นดูผู้พันชนวีร์ เพียงแค่หมั่นไส้นายทหารหนุ่มที่ชอบหมกตัวอยู่ที่กรมทหาร นานทีปีหนถึงจะยอมกลับมาอยู่ที่คฤหาสน์จิรวงศ์ ไม่รู้จะคิดมากแล้วก็เกรงอกเกรงใจอะไรกันนักหนา

               “ผู้พันเขามีสาวซ่อนไว้ที่กรมทหารหรือเปล่ามึง” ธรณ์แกล้งแหย่เพื่อนรัก

               ผลที่ได้คือคนถูกพาดพิงสะดุ้งทันควัน ส่วนเพื่อนรักอย่างชินดนัยก็ทำตาวาววับ ที่ดูแล้วว่าเดี๋ยวคงต้องมีเคลียร์กันนอกรอบแน่ๆ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น ที่ทำได้จึงมีแค่การถามหน้านิ่งๆ

               “จริงหรือครับ”

               “เชื่ออะไรกับธรณ์เล่า ฉันไม่ใช่เพลย์บอยแบบธรณ์นะ จะได้มีสาวซุกไว้เป็นกระบุง อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เล็กยังไม่รู้นิสัยกันอีกเหรอ”

               ผู้พันหนุ่มถือโอกาสโยนเผือกร้อนกลับมาให้ธรณ์ทันที และก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน คนที่กำลังจะกลายเป็นอดีตเพลย์บอยถึงได้เหลือบตามองเขตแดน ก่อนจะรีบแก้ตัวทันที

               “อะไรกันผู้พัน เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยมีแล้วนะ วันๆทำแต่งาน”

               “หึหึ อย่าให้มีใครมาเรียกร้องตำแหน่งสะใภ้ตระกูลอิสรพัฒน์ละกัน”

               เขตแดนปรายตามองธรณ์นิ่งๆ ก่อนจะเอ่ยขอตัวไปที่ห้องหนังสือ โดยไม่ลืมที่จะบอกว่า ถ้าเกิดป้าอุ่นเรือนเตรียมอาหารเรียบร้อยก็ให้เข้าไปตามเขาด้วย พอนักธุรกิจหนุ่มเดินไปแล้ว ธรณ์ก็ทำหน้าอิหลักอิเหลื่อพิกลก่อนจะเปรยเบาๆ

               “เป็นอะไรของเขา สงสัยจะโมโหหิว”

               นายทหารหนุ่มแทบอยากจะหลุดหัวเราะมา เพลย์บอยหนุ่มที่ดูหญิงสาวออกมานักต่อนัก ประสบการณ์โชกโชนจนเรียกได้ว่าเจนสนาม กับดูอาการง่ายๆของคนใกล้ตัวไม่ออก แต่เอาเถอะ เขาจะสงเคราะห์ให้หน่อยละกัน เผื่อบุญกุศลจะหนุนนำความรักของเขาให้ราบรื่นบ้าง

               “เขาหึง”

               แค่สองคำที่หลุดออกมาจากปากผู้พันชนวีร์ ก็เรียกอาการอ้าปากค้างจากธรณ์ได้ทันที ขณะที่ชินดนัยเองก็มีสีหน้าเคร่งเครียดทันควัน

               “เฮ้ย! ผู้พัน มุกนี้ไม่ขำนะเนี่ย” ธรณ์ปฏิเสธออกไปเสียงหลง แต่ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมพอรู้ว่าเขตแดนอาจจะหึงตัวเองอยู่ มันถึงได้รู้สึกพองในอกอย่างบอกไม่ถูก เหมือนกับว่าตัวเขาเองกำลังพึงพอใจที่ถูกเขตแดนหึงหวงอยู่ยังไงยังงั้นเลย

               “ผมไม่ได้มุก พูดไปตามที่เห็นเนี่ยแหล่ะ”

               ธรณ์นิ่งเงียบไปทันที ใคร่ครวญไตร่ตรองท่าทางของเขตแดน โดยที่ไม่รู้ว่าได้ตกเป็นเป้าสายตาให้เพื่อนรักลอบสังเกตอาการอย่างไม่สบายใจ ขณะเดียวกันผู้พันชนวีร์ที่มองท่าทีของชินดนัยอยู่ก็นึกรู้ความคิดของอีกฝ่าย ถึงได้เอื้อมมือมาแตะข้อศอกชินดนัยคล้ายจะปราม

               “ใจมันบังคับกันไม่ได้หรอก ต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามที่ต้องการ”

               ธรณ์คิดว่าประโยคที่นายทหารหนุ่มพูดลอยๆ คงเจาะจงพูดกับตัวเขาและหมายถึงตัวเขาเอง แต่คงมีแค่คนพูดและชินดนัยที่รู้ ว่านายทหารหนุ่มต้องการจะสื่อถึงใคร


====================


               พอป้าอุ่นเรือนจัดโต๊ะอาหารเสร็จเรียบร้อย ธรณ์จึงถือโอกาสขอตัวไปตามเขตแดนที่ห้องหนังสือ ปล่อยให้ชินดนัยกับผู้พันชนวีร์ล่วงหน้าไปรอที่โต๊ะอาหารก่อน พอเห็นเพื่อนรักเดินไปแล้ว ชินดนัยก็หันมาเปิดฉากสนทนากับนายทหารหนุ่มทันที

               “ผมไม่เห็นด้วยเรื่องธรณ์กับคุณเขตต์หรอกนะ ถ้าเป็นพี่เป็นน้องกันก็อีกเรื่อง”

               “นายบังคับธรณ์ได้หรือไง”

               แค่ประโยคเดียวจากผู้พันชนวีร์ ก็ทำเอาชินดนัยถึงกับนิ่งงัน เขาและธรณ์เป็นเพื่อนรักกัน แน่นอนว่าธรณ์คงฟังในสิ่งที่เขาพูด แต่จะเชื่อหรือเปล่าก็อีกเรื่อง ถ้ามีเหตุผลสมควรเชื่อ ธรณ์ก็เชื่อ แต่ถ้าธรณ์คิดว่าเหตุผลมันไร้สาระ ชายหนุ่มก็เลือกที่จะไม่เชื่อ และครั้งนี้ชินดนัยก็ไม่รู้ว่า เหตุผลที่เขาเป็นห่วงและไม่อยากเห็นธรณ์เจ็บปวด มันมีน้ำหนักพอให้ธรณ์เชื่อเขาได้หรือเปล่า

               “คุณเขตต์ก็เป็นคนดี แต่ผม...ไม่อยากให้เรื่องมันยุ่งยากไปมากกว่านี้อีกแล้ว”

               “นายอย่าเพิ่งกลัวในสิ่งที่ยังมาไม่ถึงเลย มันอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่นายคิดก็ได้”

               ชินดนัยถอนหายใจยาว ขยับปากจะเอ่ยโต้แย้งว่าเขารู้จักธรณ์ดีแค่ไหน แต่ไม่ทันได้เอ่ยปากก็ต้องเงียบ เพราะธรณ์และเขตแดนพากันเดินออกมาจากห้องหนังสือเรียบร้อย เห็นสีหน้าธรณ์ในวันนี้ ชินดนัยก็ต้องยอมรับว่าดีขึ้นมาก ธรณ์ดูมีความสุขกว่าช่วงแรกๆ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าความสุขนี้จะอยู่กับธรณ์อีกนานแค่ไหน

               ด้านนายทหารหนุ่มเองมองท่าทีของเขตแดนก็นึกรู้ สายตาของเขตแดนที่คอยมองตามและรับฟังทุกเรื่องที่ธรณ์พูด มันก็ไม่ต่างอะไรจากตัวเขาที่คอยมองชินดนัย เคยคิดว่าเป็นสายตาที่พี่ชายมองน้องชาย ก่อนจะมารู้เอาภายหลังว่าความรู้สึกมันได้ก้าวข้ามเส้นแห่งความเป็นพี่น้องไปแล้ว อุปสรรคแรกที่เขาและเขตแดนต้องเจอก็คงไม่พ้นความเป็นผู้ชายเหมือนกัน ส่วนอุปสรรคต่อมาของเขา ก็หนีไม่พ้นความเป็นจิรวงศ์ที่ค้ำคออยู่ สำหรับเขตแดนเองก็คงเป็นเรื่องเดียวกับที่ชินดนัยกำลังกังวล เลยไม่รู้ว่าสำหรับเขาและเขตแดน อุปสรรคของใครกันแน่ที่ใหญ่หลวงกว่ากัน


               ระหว่างความรู้สึกของเขตแดน เกียรติณรงค์ที่มีต่อธรณ์ อิสรพัฒน์ หรือความรู้สึกของพันตรีชนวีร์ จิรวงศ์ที่มีต่อชินดนัย จิรวงศ์


               ผู้พันหนุ่มเลือกนั่งลงข้างชินดนัย ปล่อยให้เขตแดนยึดที่นั่งข้างธรณ์ การรับประทานอาหารเป็นไปอย่างครึกครื้น เพราะสำหรับชินดนัยแล้ว นอกจากไม่พอใจเรื่องที่เขตแดนอาจจะคิดเกินเลยกับธรณ์ เขาก็ยังไม่เห็นข้อเสียอย่างอื่นของเขตแดน อย่างน้อยเขาก็รู้และมั่นใจว่า...

               เขตแดนคงเอาธรณ์อยู่แน่ๆ

               “ธรณ์นี่โชคดีนะครับ ที่ได้คุณเขตต์เป็นพี่ชาย

               คำพูดของชินดนัยจะไม่สะดุดหูเขตแดนเลย ถ้าหากเจ้าตัวจะไม่ย้ำคำว่า ‘พี่ชาย’ ชัดเจน เขามองสบตากับอีกฝ่าย ซึ่งชินดนัยก็ไม่ได้หลบสายตา ยังกระตุกยิ้มที่มุมปากน้อยๆ

               “ผมกับธรณ์เราต่างก็เป็นลูกชายคนเดียวครับ”

               “ผมถึงบอกว่าธรณ์โชคดีไงครับ ที่เป็นลูกชายคนเดียวแล้วคุณเขตต์ยังมาเอ็นดูเป็นน้องชายอีก เป็นพี่ชายน้องชายนี่ความสัมพันธ์มันยืนยาวนะครับ เพราะยังไงพี่น้องกันก็ตัดไม่ขาด”

               นายทหารหนุ่มแตะแขนชินดนัยเป็นเชิงปราม คล้ายจะบอกให้รู้ว่าชินดนัยกำลังล้ำเส้นมากไปแล้ว แต่นี่ก็ไม่ใช่เวลาที่ชินดนัยจะมาสนใจอะไร ในเมื่อสิ่งที่เขาสนใจมีเพียงการตัดไฟแต่ต้นลม

               “คงต้องถามธรณ์ครับ ว่าอยากให้ผมเป็นพี่ชายหรือเป็นแค่คุณเขตแดนของเขา

               คราวนี้คนที่อุตส่าห์นั่งทานข้าวเงียบๆถึงกับกระแอมออกมา ก็เขตแดนย้ำคำว่า ‘ของเขา’ ชัดเหลือเกิน จนธรณ์อดไม่ได้ต้องเอ่ยปากออกมา

               “คุณเขตต์ก็ต้องเป็นพี่ชายอยู่แล้วสิ คุณเขตต์เขาอายุมากกว่ากูนะชิน”

               “กูก็แค่กลัวว่า...สมภารเกิดอยากจะกินไก่วัดขึ้นมา”

               “ชินดนัย!” ผู้พันชนวีร์เรียกชื่ออีกฝ่ายเป็นเชิงปรามทันที

               “สมภารอยากจะกินไก่วัด แล้วยังไงวะ กูไม่เห็นจะเข้าใจเลย”

               ชินดนัยคงลืมไปว่า เพื่อนรักของตัวเองไปอยู่ต่างประเทศมาเกือบสิบปี และไม่ได้กลับบ้านทุกปิดเทอมเหมือนเขา พอเขาพูดสำนวนไทยออกมา ธรณ์เลยไม่กระดิกหูแม้แต่น้อยแถมยังทำหน้างง ก่อนจะหันไปเลิกคิ้วใส่เขตแดนเป็นเชิงถามเมื่อไม่ได้รับคำตอบจากชินดนัย เขตแดนเองก็บอกเพียงแค่ว่า...

               “สมภารเลี้ยงไก่วัดมา ไก่วัดก็ต้องเป็นของสมภาร” ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ธรณ์เข้าใจอะไรเพิ่มขึ้นเลยแม้แต่น้อย

               “ช่างมันเหอะ กูคงมึนๆ” สุดท้ายชินดนัยก็เลือกที่จะตัดบท แต่กลายเป็นการเปิดโอกาสให้คนข้างๆที่รอจังหวะอยู่

               “โอเค งั้นเดี๋ยวผมขอพาชินกลับไปนอนพักก่อนละกัน ดูท่าจะมึนมากๆเลย ขนาดยังไม่ได้แตะแอลกอฮอล์นะเนี่ย ลาเลยละกันครับ”

               ครั้นชินดนัยจะขยับปากเอ่ยทักท้วงก็ทำไม่ได้ เพราะผู้พันชนวีร์ถือโอกาสที่รับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย พาเขาเดินออกจากบ้านโดยไม่เปิดโอกาสให้พูดอะไร เขตแดนเองก็เอาแต่ยิ้มนิดๆก่อนจะเดินตามมา ส่วนธรณ์ก็คงเข้าใจเรียบร้อยแล้วว่าเพื่อนรักรู้สึกไม่สบาย ถึงได้ฝากฝังชินดนัยกับนายทหารหนุ่มเป็นการใหญ่

               “ฝากดูแลชินด้วยนะครับผู้พัน”

               นอกจากนายทหารหนุ่มจะไม่ตอบรับธรณ์แล้ว ยังถือวิสาสะหันไปฝากฝังธรณ์กับเขตแดนเสียอีก

               “คุณเขตต์ก็ดูแลธรณ์ดีๆด้วยนะครับ”

               ธรณ์ขมวดคิ้วอย่างงงๆ แต่ไม่ทันได้ซักถามอะไร ผู้พันชนวีร์ก็เดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งคนขับ สุดท้ายเลยได้แต่ยืนมองจนนายทหารหนุ่มขับรถออกไป และคาดว่าสองพี่น้องคงได้เคลียร์กันยาวแน่ๆ เพราะชินดนัยเองก็ดูไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่

               ใช่ว่าจะมีแต่ฝ่ายโน้นที่เฝ้าสังเกตเขตแดนและธรณ์ เขตแดนเองก็ลอบสังเกตอีกฝ่ายอยู่เหมือนกัน พอเดินเข้ามาในบ้านเรียบร้อยแล้ว เขาเลยถือโอกาสพูดในสิ่งที่ตัวเองสงสัย แต่ก็ไม่มั่นใจว่าตนเองเลือกใช้คำถูกหรือไม่

               “ชินดนัยกับผู้พันเขาดูห่วงกันแปลกๆดีนะ”

               “แปลกยังไงครับ”

               “ผู้พันเขาดูแลชินดนัยแปลกๆ เหมือนเป็น...” เขตแดนนิ่งเงียบไป จนธรณ์ต้องเป็นฝ่ายต่อให้จนจบประโยค

               “คนรักกันใช่ไหมครับ”

               คราวนี้เขตแดนเป็นฝ่ายเบิกตาโพลง เขาเองยังแค่คิด แต่ก็ไม่กล้าคิดว่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะนอกจากชินดนัยกับผู้พันชนวีร์จะเป็นผู้ชายเหมือนกันแล้ว ยังมีสายเลือดเดียวกันอีกไม่ใช่หรือ แต่ดูเหมือนธรณ์จะไม่ได้แปลกใจสงสัยอะไรเลย เหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป

               “ผู้พันเขาชื่อ-นามสกุลเต็มว่าอะไรนะ”

               “พันตรีชนวีร์ จิรวงศ์ครับ”

               “สองคนนั่นนามสกุลเดียวกันนี่”

               แค่เห็นหน้าเขตแดน ธรณ์ก็นึกรู้ทันทีว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ แปลกดีเหมือนกัน พอเป็นเรื่องของคนอื่น ธรณ์มักจะฉลาด แต่พอเป็นเรื่องของตัวเองมักจะต้องมีพลาดบ้าง ไม่ต่างอะไรจากเส้นผมบังภูเขา เพลย์บอยหนุ่มยิ้มน้อยๆก่อนจะเอ่ยไขข้อข้องใจของเขตแดน

               “ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดหรอกครับ ผู้พันเป็นพี่ชายบุญธรรมของชิน ความจริงแล้ว...เขาสองคนไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดเลยแม้แต่น้อย”

               เขตแดนพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ เพราะเท่าที่เคยรู้มา ก็รู้ว่าชินดนัยเป็นลูกชายคนเดียวของท่านนายพล ตอนแรกก็คิดว่าผู้พันชนวีร์คงเป็นญาติ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นพี่ชายบุญธรรมที่ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน ถ้าอย่างนั้นจะมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งก็คงไม่แปลก

               “แล้วตกลงสองคนนั่นเขาเป็นคนรักกันจริงหรือ”

               “ไม่รู้สิครับ ถ้าบอกว่ารักกันก็คงใช่ แต่อยู่ในสถานะอะไรกันผมก็ไม่ทราบ”

               ดูเหมือนธรณ์จะรู้เรื่องพอสมควรและยังยอมรับได้ถ้าหากเพื่อนรักของตนจะชอบพอกับผู้ชายด้วยกัน ถึงแม้ปัจจุบันจะมีให้เห็นอยู่ทั่วไปจนไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่เขตแดนก็อดคิดไม่ได้ว่า ทำไมคนที่คลุกคลีกับผู้หญิงมาตลอดอย่างธรณ์ถึงยอมรับเรื่องพวกนี้ได้อย่างง่ายดาย

               “นายไม่รู้สึกแปลกๆบ้างหรือไง ชินดนัยกับผู้พันเขาเป็นผู้ชายเหมือนกันนะ”

               “เขาไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนซะหน่อย แล้วเขาก็ยังเป็นเพื่อนผมเหมือนเดิม สมัยที่อยู่เมืองนอกผมเห็นมาเยอะ ไม่แปลกหรอกครับ”

               ถ้าถามว่าเขตแดนรังเกียจไหม ที่ผู้ชายจะชอบกันเอง คำตอบของผู้บริหารหนุ่มก็คือ ‘ไม่’ แถมเขาเองยังรู้สึกยินดีอย่างประหลาดด้วยซ้ำ ที่ธรณ์บอกว่าไม่ได้รังเกียจความรักของเพศเดียวกัน แล้ว...

               “นายเคยมีผู้ชายมาชอบหรือนึกชอบผู้ชายบ้างหรือเปล่า”

               “ก็มีนะ แต่น้อยมาก ใครๆเขาก็รู้กันทั่วนี่คุณ ว่าผมน่ะควงผู้หญิงเป็นว่าเล่น เลยไม่อยากจะเข้ามาหาให้หน้าแตกกลับไป ส่วนจะให้ไปชอบผู้ชาย ผมก็ยังไม่เคยคิดเหมือนกัน”

               ทั้งที่เป็นฝ่ายพูดเองว่ายังไม่เคยคิดเรื่องที่จะไปชอบผู้ชาย แต่ไม่รู้ทำไม พอเห็นสายตาเขตแดนที่มองมา ธรณ์ถึงต้องเบือนหลบก่อนที่เขาจะรู้สึกไม่เป็นตัวเองมากไปกว่านี้

               “แล้วนายก็ปฏิเสธผู้ชายทุกคนที่เข้ามานายเหรอ”

               “ก็ผมไม่ได้ชอบพวกเขา ไม่รู้จะให้ความหวังไปทำไม”

               “แล้วมีโอกาสที่นายจะชอบผู้ชายไหม”

               “ผมไม่รู้”

               ตอบออกไปแล้ว ธรณ์ก็นึกอยากตบปากตัวเองแรงๆ แทนที่จะตอบว่าไม่มี ดันตอบไปว่าไม่รู้ เหมือนว่าเขาเองก็ยังไม่แน่ใจ ก่อนที่หัวข้อสนทนาอันล่อแหลมจะเลยเถิดไปไกล ชายหนุ่มเลยทำทีเป็นเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องอื่นเสีย

               “แล้วตกลงสมภารกินไก่วัดมันหมายความว่ายังไงเหรอครับ”

               “อยากรู้จริงเหรอ”

               ถึงจะตงิดที่อีกฝ่ายถามตาพราวระยับ แต่ธรณ์ก็พยักหน้าตอบไป ส่วนเขตแดนเอง แม้จะอยากรอให้ความรู้สึกของตัวเองแน่ชัดเสียก่อนแล้วจึงค่อยเอ่ยปาก แต่วันนี้เห็นชินดนัยทำท่าเหมือนจะคอยกันท่าเขา ก็อดไม่ได้ อย่างน้อยถ้ายังไม่ได้พูดออกไปเต็มปากเต็มคำ ก็ขอลองแย็บๆดูก่อนคงไม่เสียหายอะไร

               “ฉันก็อธิบายไม่ถูกหรอก คงเหมือนกับว่า...ฉันเป็นผู้ปกครองนาย แล้วก็เกิดรักนายขึ้นมาล่ะมั้ง”

               ถ้ามีกระจกให้ส่อง ธรณ์คงได้เห็นว่าตอนนี้ตัวเองกำลังทำหน้าตาตลกที่สุด เพราะเขาไม่รู้ว่าที่เขตแดนพูดมาเป็นแค่การเปรียบเปรยหรืออีกฝ่ายหมายความจริงจังอะไร แล้วแถมคำพูดของผู้พันชนวีร์ที่ว่าเขตแดนหึงเขา ก็ยังตามมาวนเวียนให้ต้องรู้สึกสับสน จนชายหนุ่มต้องเอ่ยปากขอตัวก่อนที่จะรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองไปมากกว่านี้

               “คุณเปรียบเทียบได้เห็นภาพดีนะ ยังไงผมก็ขอตัวไปนอนก่อนละกัน”

               เขตแดนไม่พูดอะไร ยืนมองแผ่นหลังของธรณ์ที่เดินจากไป ในหัวสมองก็ใคร่ครวญทบทวนความรู้สึกของตัวเอง อยากรอ...ให้แน่ชัดกว่านี้เสียก่อน ว่าที่รู้สึกอยู่มันเพราะความผูกพันฉันท์พี่น้อง หรือเพราะเขาคิดเกินเลยกับธรณ์ไปไกลแล้ว


====================

[มีต่อนะคะ]

ออฟไลน์ Renze

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-25

               เช้าวันศุกร์ ธรณ์บอกเขตแดนล่วงหน้าแล้วว่าเขามีนัดหมายกับมิสเตอร์จอห์น วิลสัน คู่ค้าชาวอังกฤษ เลยขอตัวขับรถออกมาเองเพราะช่วงบ่ายจะได้ตรงไปหามิสเตอร์วิลสันเลย เขตแดนเองก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร แต่ก็ขอรายละเอียดคู่ค้าชาวอังกฤษจากธรณ์และให้เวธน์จดบันทึกเอาไว้

               ธรณ์เดินเข้ามาที่โต๊ะทำงานของตัวเอง วันนี้ที่เขาต้องทำก็คือเตรียมเอกสารที่จะไปคุยกับมิสเตอร์วิลสัน ด้านภาษาอังกฤษคงไม่ต้องเป็นห่วง เพราะชายหนุ่มเองก็มีพื้นฐานภาษาอังกฤษดีอยู่แล้ว อาจจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัทที่ชายหนุ่มยังไม่แม่นเท่าไหร่ เลยต้องมารบกวนภวินท์

               “คุณธรณ์จะให้ผมไปด้วยไหมครับ”

               “ไม่เป็นไรหรอก คุณภวินท์อยู่ทำงานที่ออฟฟิศดีกว่าครับ เผื่อผมต้องการข้อมูลเพิ่มเติมอะไรจะได้โทรศัพท์มาหาคุณภวินท์”

               “เมื่อเช้ามิสเตอร์วิลสันโทรศัพท์เข้ามาที่ออฟฟิศ ผมให้เบอร์โทรศัพท์มือถือคุณธรณ์ไป มิสเตอร์วิลสันจะได้ติดต่อคุณธรณ์โดยตรง ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ”

               “ไม่เป็นไร ให้เขาติดต่อผมโดยตรงนั่นแหล่ะ”

               ตลอดช่วงเช้า ธรณ์ก็เคลียร์ส่วนของตนเองจนเรียบร้อย เสร็จแล้วจึงไปรับมิสเตอร์วิลสันที่โรงแรม ซึ่งอยู่ในย่านธุรกิจไม่ห่างจากที่ตั้งของอิสระคอนสตรัคชั่นมากนัก โปรแกรมแรกของธรณ์ ก็คือการพาคู่ค้าชาวอังกฤษไปดูโรงงานที่สมุทรสาคร ซึ่งอีกฝ่ายก็ดูสนใจเป็นอย่างดี ออกจะสนใจมากเสียด้วยซ้ำ เพราะอีกฝ่ายคอยเดินตามประกบและซักถามธรณ์ตลอด แต่พอธรณ์จะไปเรียกผู้จัดการโรงงานเข้ามาอธิบายเพิ่มเติม มิสเตอร์วิลสันก็โบกมือปฏิเสธเสียยังงั้น

               “สำเนียงภาษาอังกฤษคุณดีมากๆเลยนะครับ”

               “ผมเคยอยู่โรงเรียนประจำที่อังกฤษตอนไฮสกูลน่ะครับ เสร็จแล้วก็ย้ายมาเรียนมหาวิทยาลัยที่อเมริกา”

               “ว้าว...ผมถึงสงสัยว่าสำเนียงคุณดีกว่าชาวเอเชียหลายคนที่ผมเคยติดต่อด้วยเสียอีก ตอนนั้นไปอยู่ที่ไหนครับเนี่ย”

               “ทันบริดจ์ที่เคนท์ครับ”

               “ผมก็มาจากเคนท์เหมือนกันครับ บ้านเกิดผมเลย แต่ผมเกิดที่โดเวอร์ พอโตหน่อยก็เข้ามาอยู่ลอนดอน โอ้โฮ...ดีจังเลยนะครับ คนกันเองแท้ๆ” อีกฝ่ายไม่พูดปากเปล่า ยังเข้ามากอดธรณ์สนิทสนมแนบแน่นราวกับได้เจอเพื่อนเก่าก็ไม่ปาน

               ธรณ์เองแม้จะคุ้นชินกับธรรมเนียมตะวันตก แต่สิ่งที่มิสเตอร์วิลสันกำลังทำอยู่นี่ก็ออกจะเกินไปหน่อย เห็นแก่ว่าอีกฝ่ายเป็นคู่ค้า เขาถึงได้ค่อยๆขืนตัวออกอย่างสุภาพ อีกฝ่ายก็เหมือนจะรู้ตัวถึงได้ขอโทษเป็นการใหญ่ แต่ไม่วายยิ้มแปลกๆ หากธรณ์ก็คร้านจะถือสาหาความ

               พอชมโรงงานเสร็จก็เป็นเวลาเย็น เจ้าบ้านหนุ่มเลยถือโอกาสพามิสเตอร์วิลสันไปร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เขาจัดการจองไว้แล้ว แม้จะรู้สึกแปลกๆที่อีกฝ่ายดูจะชอบหาโอกาสสัมผัสเนื้อต้องตัวเขา แต่ธรณ์ก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าลักษณะนิสัยอีกฝ่ายอาจจะเป็นแบบนั้น

               แต่ถึงแม้จะดูโรงงานและทานอาหารอะไรกันจนเรียบร้อยแล้ว ธรณ์ก็ยังไม่ได้คุยเรื่องงานกับมิสเตอร์วิลสันอย่างจริงจัง มีแต่อีกฝ่ายที่คอยซักถามเรื่องส่วนตัวของเขา ซึ่งธรณ์ก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง บางทีเขาก็อดคิดไม่ได้ว่า ดูท่าการเจรจากับมิสเตอร์วิลสันคงจะไม่ประสบความสำเร็จแน่ๆ เพราะอีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าอยากจะพูดคุยเรื่องธุรกิจเลย

               “คุณต้องรีบกลับหรือเปล่าธรณ์” ในเมื่อคู่ค้าเอ่ยถามแบบนี้ ธรณ์จะตอบอย่างไรได้ นอกเสียจาก...

               “ไม่เป็นไรครับ ตามสบายเลย”

               “โอ้...ขอบคุณมาก ขอผมดื่มเบียร์หน่อยแล้วกัน คุณเอาด้วยไหม”

               “ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวผมต้องขับรถ”

               ความจริงแล้วก็เป็นแค่ข้ออ้างของธรณ์ ใช่ว่าเขาจะไม่เคยขับรถหลังจากดื่ม แต่สาเหตุที่ยังไม่ดื่มเพราะวันนี้เขายังไม่ได้คุยธุรกิจกับมิสเตอร์วิลสันเลย แถมเขายังมีหน้าที่ต้องรับรองอีกฝ่ายอีก แล้วจะให้มาดื่มเบียร์ด้วยกันก็ใช่ที่

               ธรณ์ไม่รู้ว่าเขาใช้เวลาในการนั่งตอบคำถามและฟังมิสเตอร์วิลสันพูดพล่ามนานแค่ไหน มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูและเห็นว่าเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว

               “อา...ดึกแล้วสินะ”

               ธรณ์จะตอบอย่างไรได้นอกจากยิ้มให้ พอเขาไม่ได้ตอบอะไร มิสเตอร์วิลสันจึงเป็นฝ่ายต่อบทสนทนาเอง

               “กลับกันเลยดีไหมคุณธรณ์ ความจริงผมเองก็สนใจธุรกิจของคุณมากนะ อยากจะทำสัญญาระยะยาว แต่เงื่อนไขเราค่อนข้างเยอะ ไม่รู้ว่าคุณจะสะดวกอยู่ดึกหน่อยหรือเปล่า”

               ในที่สุดสิ่งที่ธรณ์รอคอยมาตลอดวันก็สัมฤทธิ์ผล ในเมื่อปลากินเหยื่อแล้ว เหตุใดเขาจะไม่รีบคว้าโอกาสทองนี้ไว้เล่า

               “เอาตามที่มิสเตอร์วิลสันสะดวกเลยครับ ผมได้เสมอ”

               “ก็คงต้องตามนี้แหล่ะคุณธรณ์ เพราะพรุ่งนี้บ่ายผมจะบินไปเวียดนามแล้ว ยังไงเดี๋ยวเรากลับไปคุยกันที่โรงแรมละกัน ผมเองก็ดื่มพอละ”

               ธรณ์ลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะกวักมือเรียกพนักงานมาคิดเงินทันที อารามดีใจ ชายหนุ่มเลยไม่ได้สังเกตว่าคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามลอบยิ้มอย่างสมใจ


====================


               “คุณรังเกียจหรือเปล่า ถ้าเกิดเราจะต้องคุยธุรกิจกันในห้องพักของผม”

               และเพราะคำถามเบื้องต้นของมิสเตอร์วิลสัน ตอนนี้ธรณ์และอีกฝ่ายถึงได้มายืนอยู่ในลิฟต์ของโรงแรมด้วยกัน ในที่สุดเอกสารและข้อมูลที่เขาเตรียมมาก็จะได้ใช้เอาตอนนี้นี่เอง สามทุ่ม...ดึกไปหน่อย แต่ก็ไม่ดึกเกินสำหรับการค้าและการเจรจา

               ห้องที่มิสเตอร์วิลสันพักเป็นห้องสูทที่มีส่วนรับแขกอยู่ด้านหน้า ธรณ์เลยไม่แปลกใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้เรียกเขาเข้ามาคุยในห้องพัก

               “คุณธรณ์อยากดื่มชากาแฟก็บริการตัวเองเลยนะ เดี๋ยวผมขอล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นเสียหน่อย”

               มิสเตอร์วิลสันปล่อยธรณ์ไว้ที่ห้องรับแขกตามลำพัง ส่วนตัวเองก็เดินหายลับเข้าไปในห้องนอน ความจริงแล้วธรณ์ก็ไม่ได้อยากดื่มอะไรเป็นพิเศษ แต่คิดว่าอาจจะต้องคุยกันนาน ชายหนุ่มเลยถือโอกาสเดินไปชงกาแฟสองที่สำหรับตัวเองและเจ้าของห้อง

               พอยกถ้วยกาแฟสองถ้วยกลับมาวางที่โต๊ะ โทรศัพท์มือถือของตัวเองก็ดัง ธรณ์หยิบขึ้นมาดูเห็นว่าเป็นเขตแดน ก็เดาได้เลยว่าป้าอุ่นเรือนอาจจะไหว้วานให้อีกฝ่ายโทรศัพท์ตามเขา เพราะนี่ก็เกือบสามทุ่มแล้ว ซึ่งก็ถือว่าดึกพอสมควร แถมตั้งแต่ที่เขาบอกเขตแดนเมื่อตอนเช้าแล้ว เขาก็ยังไม่ได้คุยอะไรกับอีกฝ่ายอีกเลย แต่งานเขาก็ยังไม่เรียบร้อยดี ชายหนุ่มกดรับก่อนจะกรอกเสียงลงไปทันที

               “ผมรอคุยกับมิสเตอร์วิลสันอยู่ครับ ยังไงเดี๋ยวเรียบร้อยแล้วผมจะรีบกลับนะครับ บอกป้าอุ่นเรือนว่าไม่ต้องรอผม”

               ((นายอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร)) เสียงเขตแดนดังมาตามสายด้วยความร้อนรน

               “ผมอยู่ที่ห้องพักของมิสเตอร์วิลสันครับ โอ๊ะ...เขาออกมาจากห้องแล้ว ยังไงแค่นี้ก่อนนะครับ” ธรณ์กดวางสายทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดประตูจากด้านหลัง เขาได้ยินเสียงเขตแดนเรียกชื่อเขาด้วยความตกใจ แต่คิดเอาเองว่าเดี๋ยวค่อยโทรกลับเมื่อเสร็จเรียบร้อย ก่อนที่ชายหนุ่มจะต้องเป็นฝ่ายตกใจเสียเอง

               คนที่บอกว่าจะเข้าไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น กลับเดินออกมาในชุดคลุมอาบน้ำของโรงแรม แม้จะไม่เคยมีประสบการณ์กับผู้ชาย แต่ก็ใช่ว่าเพลย์บอยเจนสังคมอย่างเขาจะไม่ประสา แต่ชายหนุ่มก็ยังทำใจดีสู้เสือเอ่ยถามออกไปว่า

               “ถ้าคุณจะทำธุระส่วนตัว เดี๋ยวผมลงไปรอที่ล็อบบีก่อนก็ได้ครับ”

               “ธุระส่วนตัวของผมก็คือธุระกับคุณนั่นแหล่ะ”

               ธรณ์มั่นใจมาตลอดว่ายังไงการเป็นผู้ชายก็ดีกว่าผู้หญิง แต่ยามนี้เขาชักไม่มั่นใจเสียแล้ว ว่าความเป็นชายของเขาจะปลอดภัยตลอดรอดฝั่งหรือไม่ เคยได้ยินข่าวการล่วงละเมิดทางเพศมา แต่ไม่เคยคิดว่าวันนี้ตัวเองจะต้องมาตกอยู่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ แล้วจะโทษใครได้เล่า นอกจากความสะเพร่าและประมาทเลินเล่อของตัวเขาเอง ที่สนใจแต่ธุรกิจ จนมองข้ามความปลอดภัย และเป็นฝ่ายเดินเข้ามาในกับดักด้วยความยินยอมพร้อมใจ สุดท้ายเลยได้แต่กร่นด่าความโง่เขลาของตัวเอง

               “คุณไม่รู้หรือไงว่าคุณเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มากนะ”

               ชายหนุ่มได้แต่มองหาทางหนีทีไล่ พร้อมๆกับที่อีกฝ่ายก็ย่างสามขุมเข้ามาหาด้วยท่าทีคุกคาม ถ้าดูขนาดตัวแล้ว ยังไงเขาก็เป็นรองอีกฝ่ายแน่ๆ เพราะถึงอย่างไรรูปร่างของคนตะวันตกก็สูงใหญ่กว่าคนเอเชียอยู่แล้ว

               “ถ้าคุณปรนเปรอจนผมพอใจ บริษัทของผมกับคุณจะเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันในระยะยาวแน่ๆ มิสเตอร์ธรณ์ อิสรพัฒน์”

               “ผมไม่ใช่ผู้หญิง” ธรณ์เอ่ยเสียงกร้าว

               “บังเอิญว่าผมชอบผู้ชายเสียด้วย ยอมผมดีๆดีกว่าน่า เพื่อธุรกิจของคุณไง”

               ธรณ์อยากจะอ้าปากค้านปฏิเสธ ว่าให้ตายเขาก็ไม่มีวันลดตัวไปทำอย่างที่อีกฝ่ายต้องการ เขามีศักดิ์และศรีมากกว่านั้น แต่ก็ต้องเปลี่ยนเป็นเบิกตาโพลง เมื่ออีกฝ่ายโถมเข้าทับตัวเขาที่ยังอยู่บนโซฟาไว้ทั้งตัว

               “ผมมีสิทธิ์แจ้งความว่าถูกคุณข่มขืนได้นะมิสเตอร์วิลสัน”

               “โดยที่คุณเป็นผู้ชาย แถมคุณยังเป็นฝ่ายตามผมขึ้นห้องมาเนี่ยนะ น่าเชื่อน่าดู”

               ถ้อยคำเย้ยหยันหลุดออกมาจากริมฝีปากชายชาวอังกฤษ พร้อมกับฝ่ามือที่ตะโบมลูบไปตามเรือนร่างที่เล็กกว่า ก่อนเสื้อเชิ้ตสีขาวจะถูกกระชากจนกระดุมร่วงกราว

               !!?!!


TO BE CONTINUE


๐ มาต่อแล้วค่ะ แล้วก็จะหายไปอีก เลยมาลงยาวๆเลย ตอนนี้พาคุณแม่พี่เขตต์ไปเก็บก่อน ธรณ์เจอศึกหนัก มีหลายเรื่องรุมเร้าเหลือเกิน เรื่องเก่ายังไม่เคลียร์ เรื่องใหม่มาอีกแล้ว

๐ จากตอนที่แล้ว...กระแสคนในเครื่องแบบมาแรงแซงคู่หลักไปไกลเลย ชอบคนในเครื่องแบบเหมือนกันค่ะ นายทหารหนุ่มนี่มันเท่จริงๆเลย

๐ ช่วงนี้คงไม่ได้มาลงบ่อยๆนะคะ คงจะหายไปซักพัก นี่มาลงก่อนหนีพักร้อน กลับมาก็ต้องลุยงานต่อส่งท้ายปี ขอโทษทุกคนที่รอด้วยนะคะ แล้วก็ขอบคุณมากๆที่ติดตามค่ะ ขอบคุณทุกความเห็นเลยค่ะ  :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-12-2012 22:28:11 โดย Renze »

gngane

  • บุคคลทั่วไป
 :a5: :a5: :a5: :a5:

พี่เขตมาด่วนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!

น้องธรณ์ ฟีโรโฒนยั่วยวนใจชายเธอเเรงกล้ายิ่งนัก

นักเขียนจะพักร้อนซักพัก :z3:

มาไวๆนะค่ะตัวเอง  มาทำเค้าค้างมารับผิดชอบเลยน๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ andear

  • ยาราไนก๊ะ ??
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
คุณพี่เขตขราาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา มาช่วยด่วนๆๆๆๆๆ :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
ค้างอ่า
ธรณ์จะโดนอะไรมั้ยเนี่ย
เขตต์มาช่วยธรณ์ด้วยน้า

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
พี่เขตจ๋าาาาาาาาาาาาาาา มาช่วยน้องด่วนเลยน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
เอิ่มมมมมมมมมมม....ตัดตอนใจร้ายมากเลยอ่ะค่ะ พี่เขต มาช่วยน้องเร็ว

น้องจะโดนกินแล้ว อย่างด่วนเลยนะพี่เขต น้องธรณ์อย่ายอมมัน

ปล. เค้าชอบประโยคนี้ของพี่เขตมาก 'สมภารเลี้ยงไก่วัดมา ไก่วัดก็ต้องเป็นของสมภาร' กรี๊ดดด ><

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
เค้าซัมติงกันจริงด้วยอ๊า ชินกับพี่ชาย เรื่องราวดูเหมือนจะยุ่งกว่าคู่หลักอีกนะเพราะทางนั้นนามสกุลเดียวกันเลย
แต่เค้าเข้าใจกันแล้ว ส่วนคู่หลักเรายังซึน ๆ กับความรู้สึกตัวเองกันอยู่ สำหรับพี่เขตเริ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ ละ
ส่วนธรณ์ ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยยยย
มิสเตอร์วิลสันแกบ้าแล้ว  :angry2: เจอกันวันเดียวมาปล้ำน้องธรณ์ชั้นเลยเหรอ เลวจริงไรจริง
ดีนะคุยกับพี่เขตก่อนเนี่ย ป่านนี้บึ่งออกมาจากบ้านแล้ว จะทันมั้ยเนี่ย วางสายปุ๊บ อีตานี่ก็ปล้ำปั๊บ
ธรณ์คงต้องช่วยตัวเองให้เต็มที่ก่อน ต่อยปากแตกไปเลย  :m16:

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
ว้ายยย ตายแล้วๆๆๆ



 :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pharm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
เขตไปช่วยน้องเร็วหมาจะกินไก่แล้ว

เรื่องนี้ใครเคะ เมะ นี่งงเลย  :serius2:




ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
เอาแล้วววววว

 o22

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
ไว้ใจใครไม่ได้จริง ๆ ทุกวันนี้
มาลุ้นกันว่า ธรณ์จะจัดการกับปัญหานี้ได้ด้วยตัวเอง หรือว่า พี่เขตจะเข้ามาจัดการ
+1 ให้เป็นกำัลังใจ กับการพักร้อน  :z2:

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
พี่เขตต์มาช่วยธรณ์เร็ว

มีหมาอื่นจะมากินไก่ของสมภารแล้ว

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
เขตแดนต้องมาช่วยธรณ์ให้ทันนะ เราไม่อยากให้นายเอกโดนข่มขืนนะ  :m15:

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
คุณเขตต์มาช่วยน้องธรณ์ด้วยๆๆๆๆๆๆๆๆ

ขอบคุณนะคะ

 :L2:

ออฟไลน์ zelesz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
คุณเขตแดนมาช่วยธรณ์อย่างด่วนเลยยยยย แงงงง ทำไมมันค้างเยี่ยงนี้
เราเครียดยิ่งนัก ธรณ์สู้เค้านะ ตั๊นหน้าไอ้ฝรั่งหื่นกามนั่นไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวเดี๋ยวคุณเขตแดนจะมาช่วยกอดปลอบ :impress2:
นักเขียนคะ โปรดอย่าหายไปนานมากนะคะ กลับมาต่อไวไวน้า เค้าอยากอ่านมากกกกก   :z3:  :z10:  :call:

ออฟไลน์ sujusaranghae

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ค้าง อยากอ่านต่อมาก คุณเขตเเดนมาช่วยธรณ์เร็ว

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
มาต่อเถอะๆๆๆ :z3:
ลุ้นๆๆๆ เขตแดนจะทาช่วยทันไหทเนี้นยยยยยย  :serius2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด