▬ " รักคืนรัง " ▬ 「จบบริบูรณ์」
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「จบบริบูรณ์」  (อ่าน 270642 ครั้ง)

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
เรื่องสนุกมากครับ
ทำเอาต้องตลุยอ่านจนครบ
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ masochism2018

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
ขอให้ธรณ์หนีเสือแล้วไปปะจระเข้ที่ชื่อพี่เขตต์ อิอิอิอิอิ

gngane

  • บุคคลทั่วไป
 :call: :call: :call: นักเขียนที่รัก  นักอ่านจะตายเเล้ว  มาทำค้างเเล้วจากไป มาไวๆนะค่ะ :L2:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-12-2012 19:41:50 โดย gngane »

ออฟไลน์ Baitaew

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 361
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
โหยยยยย มาปล่อยให้เราค้าง  :serius2:  :z3:

ธรณ์เอาตัวรอดให้ได้นะ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
น้องธรณ์จะรอดมั๊ยเนี่ย พี่เขตต์มาเร็วๆ นะ  :dont2:

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
แวะมาเยี่ยมเรื่องนี้ค่ะ

คิดถึงพี่เขตต์กะน้องธรณ์จังเลย

ออฟไลน์ Renze

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-25
“ รักคืนรัง ”

ตอนที่ 13


               ‘มิสเตอร์จอห์น วิลสันเคยพัวพันคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายเมื่อสามปีก่อน แต่ต่อมาทางโจทก์แจ้งว่าเป็นการเข้าใจผิด มิสเตอร์วิลสันแกเลยฟ้องร้องกลับจนชนะคดีครับ’

               นั่นคือคำบอกเล่าจากเวธน์ หลังจากที่เมื่อเช้าเขตแดนซักถามรายละเอียดคู่ค้าจากธรณ์ แล้วมอบหมายให้เวธน์จัดการตรวจสอบข้อมูล เพราะคู่ค้าทุกรายเขามักจะทำการสกรีนก่อน เว้นเสียก็แต่รายของมิสเตอร์วิลสัน ที่ธรณ์เป็นฝ่ายรับหน้าที่ดูแลโดยตรง

               พอรู้เรื่องคดีความมิสเตอร์วิลสันจากเวธน์ ประกอบกับเอกสารหลายอย่างที่คนสนิทหามายืนยันแล้ว เขตแดนที่นั่งสะสางงานอยู่ที่บริษัทตลอดวันด้วยความกระวนกระวาย ก็เพียรพยายามที่จะโทรติดต่อหาธรณ์ แต่กว่าจะติดต่อได้ก็ตอนที่ธรณ์อยู่ที่โรงแรมกับมิสเตอร์วิลสันแล้ว แถมยังไม่ทันได้คุยกันให้รู้เรื่องรู้ราว ธรณ์ก็เป็นฝ่ายชิงวางสายไปเสียก่อน

               พอธรณ์วางสายไปแล้ว เขตแดนก็รีบโทรศัพท์สั่งการให้เวธน์ตามไปเจอกันที่โรงแรม ส่วนตัวเขาเองก็รีบเก็บข้าวของแล้วล่วงหน้าไปก่อน หลังจากพยายามติดต่อธรณ์หลายหน แต่ก็ไม่มีคนรับสายจนถูกตัดเข้าระบบฝากข้อความตลอด แต่...

               สวรรค์ทรงโปรดเถอะ!! เขตแดนไม่เคยนึกอยากกร่นด่าสมรรถนะรถยุโรปราคาแพงของตัวเองมาก่อน แต่ตอนนี้เข็มกิโลเมตรที่แตะหลักร้อยยังดูช้าเกินไปสำหรับเขา โชคยังดีว่าโรงแรมที่เป็นจุดหมายอยู่ไม่ห่างจากบริษัทเท่าไหร่ เพียงแค่ระยะเวลาสิบนาทีจากบริษัทมาสู่โรงแรมหรูก็ทำเอาชายหนุ่มร้อนรนจนแทบนั่งไม่ติด

               พอมาถึงโรงแรม เขตแดนก็ต้องเสียเวลาวนหาที่จอดอีกร่วมสิบนาที จนชายหนุ่มหลุดคำสบถออกมาด้วยความหงุดหงิด

               ถ้ามีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นกับธรณ์ เขตแดนจะไม่โทษใครเลย นอกจากโทษความประมาทเลินเล่อของเขา ที่ปล่อยปละละเลยการตรวจสอบข้อมูลของคู่ค้า ทั้งที่คุณธีรยุทธก็ฝากฝังธรณ์ไว้กับเขา แถมเขาก็ตกปากรับคำเสียเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะดูแลธรณ์ แต่นี่ยังไม่ทันครบปีที่ธรณ์กลับมา ก็มาเกิดเรื่องเสียแล้ว

               ดับเครื่องและลงจากรถแล้ว นักธุรกิจหนุ่มก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งด้วยความเร็วมาที่เคาน์เตอร์เช็คอิน โดยไม่รอช้า เขตแดนก็ตรงปรี่เข้าไปถามพนักงานคนที่ว่างอยู่ทันที

               “รบกวนเช็คหน่อยได้ไหมครับ ว่ามิสเตอร์จอห์น วิลสันพักห้องอะไร”

               “ขอโทษด้วยค่ะ ทางเราไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของแขกที่เข้าพักได้ค่ะ”

               “แต่นี่มันเป็นเรื่องร้ายแรงนะ คุณจะ...” เขตแดนขยับปากจะเถียง แต่ก็ต้องชะงักก่อน เพราะเวธน์ที่เพิ่งมาถึงยื่นมือมาแตะข้อศอกเขาอย่างสุภาพ เขตแดนตวัดสายตามองคนสนิทคล้ายจะไม่พอใจ

               “คุณเขตต์ใจเย็นก่อนครับ เดี๋ยวผมลองคุยดูครับ”

               เขตแดนยอมล่าถอยออกมา หลีกทางให้เวธน์ที่ใจเย็นกว่าเป็นฝ่ายเข้าไปสอบถามแทน เขายอมรับเลยว่าตอนนี้เขาร้อนรนจนแทบบ้า เขาไม่อยากจะเสียเวลารออีกแม้แต่นาทีเดียว เขาห่วงธรณ์ เขาห่วงผู้ชายอวดดีที่ชอบทำเป็นเก่งกาจ แต่ความจริงแล้วแสนจะเปราะบางคนนั้น

               เขตแดนยืนรอด้วยความกระวนกระวายอยู่ไม่นาน เวธน์ก็เดินกลับมาหาเข้าพร้อมหมายเลขห้อง ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่อยากรู้ว่าอีกฝ่ายสอบถามมาได้อย่างไร แค่ได้หมายเลขห้องมา เขตแดนก็พึงพอใจแล้ว

               ระหว่างรอลิฟท์ เขตแดนก็ยังคงเพียรพยายามกดโทรศัพท์ติดต่อหาธรณ์ แต่ก็ยังไม่มีคนรับสายอยู่ดี สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้โดยการหย่อนโทรศัพท์ลงไปนอนสงบนิ่งในกระเป๋ากางเกง

               พอประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นที่ต้องการ ซึ่งมีจำนวนห้องพักไม่มากนัก เพราะเป็นชั้นของห้องสูท เขตแดนก็ไม่รอช้า ชายหนุ่มเดินนำลิ่วไปทันทีก่อนจะชะงักเมื่อมาหยุดอยู่หน้าห้องเป้าหมาย เสียงโครมครามดังลอดออกมานอกห้องให้เขตแดนยิ่งกระวนกระวายใจ ก่อนเสียงสบถอย่างหยาบคายเป็นภาษาอังกฤษจะดังออกมา อย่างน้อยมันก็ทำให้เขตแดนใจชื้นได้เล็กน้อย เพราะเสียงที่ได้ยินคือเสียงของธรณ์ไม่ผิดแน่


               “ไอ้ฝรั่งชั่วเอ๊ย!! ไปลงนรกซะเถอะมึง อย่าอยู่เลย!!”


               “ธรณ์!! เปิดประตูให้ พี่ หน่อย ธรณ์!!”


               เขตแดนตะโกนบอกคนที่อยู่ข้างในพลางเคาะประตูไปด้วย เพียงอึดใจเดียวประตูห้องก็ถูกกระชากเปิดออก ร่างของคนที่มาเปิดประตูถูกเขตแดนรวบไว้เต็มอ้อมแขน นาน...กว่าเขตแดนจะยอมคลายอ้อมกอด

               เขตแดนถอดสูทของตัวเองออกมาคลุมตัวธรณ์เอาไว้ หลังจากเห็นเสื้อเชิ้ตสีขาวของอีกฝ่ายกระดุมหลุดลุ่ยจนเหมือนเศษผ้า ชายหนุ่มขบกรามแน่น พยายามกลั้นโทสะที่แล่นขึ้นมาเป็นริ้วๆไว้ด้วยความยากลำบาก อย่างน้อยก็ยังดีที่ธรณ์ของเขาไม่ได้เป็นอะไรไป

               พอเขตแดนปล่อยธรณ์เป็นอิสระ เพลย์บอยหนุ่มก็ทำท่าจะเข้าไปซ้ำคนที่นอนพังพาบอยู่ที่พื้น จนเขตแดนต้องรีบรวบตัวคนอารมณ์ร้อนไว้เหมือนเก่า

               “พอ...พอได้แล้วธรณ์ ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเวธน์นะ”

               ธรณ์ไม่ได้ตอบรับหรือตอบปฏิเสธ ชายหนุ่มพรูลมหายใจออกมาทางปาก เหมือนพยายามสะกดกลั้นอารมณ์โกรธ ก่อนจะเสยผมที่ยุ่งเหยิงของตัวเอง แล้วก็ยอมยืนอย่างสงบอยู่ในอ้อมกอดของเขตแดน

               เขตแดนปรายตามองร่างสูงของชาวต่างชาติที่นอนหงายอยู่ที่พื้น คู่กรณีสวมเพียงชุดคลุมอาบน้ำบ่งบอกเจตนาเป็นอย่างดี ใบหน้ามีร่องรอยฟกช้ำ หางคิ้วและปากแตกมีเลือดไหลซึม ที่ดูท่าว่าก่อนที่เขามาถึงก็คงจะโดนไปไม่น้อยทีเดียว เขามองอีกฝ่ายดวงตากร้าว ชนิดที่คนสนิทอย่างเวธน์ยังต้องนึกผวาแทน เขาไม่ได้ห้ามธรณ์เพราะสงสารอีกฝ่าย แต่เขาไม่อยากให้ธรณ์ไปจัดการมันให้เสียมือ

               “เวธน์ ช่วยจัดการกับมันด้วยนะ ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ฉันจะพาธรณ์กลับก่อน”

               “ครับคุณเขตต์”

               แล้วก่อนที่คนอื่นจะทันรู้ตัว เขตแดนก็พุ่งเข้าซัดคนที่นอนอยู่เต็มแรง จนมือของชายหนุ่มแดงเถือก ส่วนคนถูกกระทำก็นอนร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด ธรณ์ที่เพิ่งได้สติมองเขตแดนหน้าเหวอ แต่ก็ไม่มีเวลาสงสัยอะไรนานนัก เพราะเขตแดนกระแทกปลายเท้าเข้าใส่ชายโครงคนที่นอนอยู่ แล้วก็หันมาจับจูงมือเขาเดินออกมา ปล่อยทุกอย่างให้เป็นภาระหน้าที่ของเวธน์ในการสะสางเรื่องทั้งหมด

               ตลอดระยะทางจากห้องพักของมิสเตอร์วิลสันจนกระทั่งลงลิฟต์มายังลานจอดรถ ไม่มีบทสนทนาระหว่างสองหนุ่ม ธรณ์เองก็ยังตกใจกับอารมณ์รุนแรงของเขตแดนที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จนเขายังตอบตัวเองไม่ได้ว่า ระหว่างเผชิญหน้ากับมิสเตอร์วิลสันกับเขตแดน ใครกันแน่ที่น่ากลัวกว่ากัน เขาได้แต่กระชับเสื้อสูทที่มีกลิ่นหอมอ่อนของเจ้าของเสื้อเข้ากับตัว อย่างน้อยกลิ่นของเขตแดนที่ติดอยู่ที่เสื้อ ก็ทำให้เขารู้สึก ‘อุ่นใจ’ ขึ้นมาพอสมควร

               ธรณ์ยอมรับเลยว่า ตอนที่กำลังซัดเจ้าฝรั่งหื่นกามสลับกับสบถด่าโคตรเหง้ามันอยู่ คิดว่าจะจัดการมันให้สาแก่ใจที่บังอาจมาดูถูกคนอย่างธรณ์ อิสรพัฒน์ เพราะคนอย่างเขา ถ้าไม่แน่จริงคงไม่สามารถอยู่ต่างบ้านต่างเมืองมาได้เกือบสิบปีหรอก แต่พอได้ยินเสียงเขตแดนที่ตะโกนเรียกเขาจากนอกห้อง ที่สำคัญคือ...สรรพนามแทนตัวเองว่า ‘พี่’ มันก็ทำให้เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เพราะไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะเป็นเขตแดนที่มาช่วยเขา

               ธรณ์ไม่อยากจะคิดไม่อยากจะสนใจ ว่าเขตแดนมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาได้อย่างไร ถึงอีกฝ่ายจะมาไม่ทันช่วยเขาก็ไม่เป็นไร เพราะเขาเป็นผู้ชาย ไม่จำเป็นต้องนอนรอความช่วยเหลืออยู่แล้ว แต่การที่เขตแดนมา มันก็ทำให้ธรณ์อุ่นใจไม่น้อย แล้วยังอ้อมกอดอุ่นๆที่รั้งเขาเข้าไปกอดนั่นอีก แค่อ้อมกอดเดียว มันมีความหมายยิ่งกว่าคำปลอบประโลมนับร้อยนับพันประโยค

               ธรณ์รู้...รู้ว่าเขตแดนโมโหมาก อ้อมแขนที่สั่นระริกเหมือนเจ้าตัวกำลังพยายามควบคุมอารมณ์อยู่ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ยังฉายชัดผ่านดวงตาเกรี้ยวกราดที่ลุกโชนไปด้วยเพลิงโทสะของเขตแดน แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ได้แสดงท่าทีกราดเกรี้ยวออกมา ก็ยังทำให้ธรณ์นึกกลัวไม่น้อย เพราะเขตแดนดูโมโหมากกว่าตัวเขาที่เป็นผู้ถูกกระทำเสียอีก

               พอลงลิฟต์มายังลานจอดรถ ธรณ์ก็ทำท่าจะเลี่ยงไปยังรถของตัวเอง แต่แค่ขยับตัวเพียงนิดเดียว คนที่เดินนำหน้าก็หยุดชะงักตามทันที

               “จะไปไหน” คำถามเรียบนิ่งหลุดออกมาจากริมฝีปากหยักลึก ไม่บ่งบอกว่าผู้พูดกำลังรู้สึกอย่างไร

               นี่คงเป็นเวลาเดียวที่ธรณ์ยอมรับกับตัวเองด้วยความสัตย์จริง ว่าเขาเองก็นึกกลัวเขตแดนไม่น้อย ถึงอีกฝ่ายจะไม่ได้อาละวาดออกมา แต่การโมโหหน้านิ่งๆนี่แหล่ะที่น่ากลัวมากกว่ากันหลายเท่านัก

               “ไปที่รถของผมครับ ผมเอารถมา”

               “ไม่ต้อง! มารถพี่นี่”

               มันเป็นคำสั่งแน่ๆ และธรณ์ก็ไม่คิดจะคัดค้านอะไร เขาปล่อยให้เขตแดนจับจูงมือเขาไปที่รถของอีกฝ่าย ขณะที่มืออีกข้างของเขตแดนก็สาละวนกับการโทรศัพท์สั่งให้เวธน์จัดการเรื่องรถของธรณ์

               พอขึ้นมานั่งบนรถ ยังไม่ทันที่ธรณ์จะได้คาดเข็มขัด คนที่นั่งประจำตำแหน่งคนขับก็รวบตัวเขาเข้าไปกอดอีกครั้ง ตอนแรกธรณ์ก็นั่งนิ่งด้วยความตกใจ ก่อนจะยอมปล่อยให้เขตแดนกอดเขาตามสบาย แถมยังยกมือกอดเขตแดนตอบเสียอีก เขายอมรับอย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่า...

               อ้อมกอดของเขตแดนอุ่นเหลือเกิน และเขาเองก็ขวัญเสียกับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาไม่น้อย ดังนั้นอ้อมกอดของเขตแดนจึงเปรียบเสมือนที่พึ่งดีๆของธรณ์นี่เอง

               “คุณเขตต์...”

               “เรียกพี่เขตต์...เรียกพี่เขตต์เหมือนเดิมได้ไหม” เสียงห้าวกระซิบอยู่ข้างใบหู ให้ธรณ์พึมพำตอบกลับไปเสียงแผ่วเหมือนละเมอ

               “พี่เขตต์...”

               คำตอบรับของเขตแดน คือสัมผัสอุ่นวาบที่แตะลงอย่างนุ่มนวลบนหน้าผากของธรณ์ แม้จะแตะอย่างแผ่วเบาและครู่เดียว ทว่ากับทิ้งความรู้สึกร้อนผ่าวจนลุกลามไปทั่วใบหน้า หนำซ้ำยังไปกระตุ้นอัตราการเต้นของกล้ามเนื้อตรงอกซ้ายให้ผิดจังหวะอีก

               “พี่อยู่นี่แล้ว พี่อยู่กับธรณ์แล้ว...”

               เนิ่นนาน...ที่ธรณ์ปล่อยตัวปล่อยใจให้อยู่ในอ้อมกอดของเขตแดน อ้อมกอดอบอุ่นที่เขาโหยหามาตลอด ไม่อยากจะคิด ไม่อยากจะสนใจอะไรอีก รู้เพียงแค่ว่าการอยู่ในอ้อมกอดของเขตแดนมันทำให้เขารู้สึกดี แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

               เขตแดนปล่อยธรณ์เป็นอิสระ ก่อนจะโน้มตัวมาคาดเข็มขัดให้ธรณ์ที่นั่งนิ่งเงียบ เขาสตาร์ทรถแล้วเคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถของโรงแรม มุ่งหน้าเข้าสู่ถนนใหญ่ แต่ดูเหมือนทางที่ไปจะไม่ใช่ทางกลับบ้านแม้แต่น้อย ซึ่งคนขับรถก็บอกเพียงแค่ว่า...

               “อย่าเพิ่งกลับบ้านเลยนะ ไปพักผ่อนกัน แล้ววันอาทิตย์ค่อยกลับมา”

               ธรณ์จะตอบอะไรได้ในเมื่อเขาไม่ใช่เจ้าของรถ และเขาก็ไม่ใช่คนขับรถเสียด้วย ส่วนเขตแดนที่เป็นทั้งเจ้าของรถและคนขับรถก็เลี้ยวรถขึ้นทางด่วนเป็นที่เรียบร้อย วูบหนึ่ง...ความรู้สึกบางอย่างมันทำให้เขาอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่า...

               เขตแดนกำลังพยายามทำให้เขาสบายใจอยู่


====================


               แม้นี่จะไม่ใช่หนแรกที่มีผู้ชายเข้าหาธรณ์ แต่ก็เป็นหนแรกที่เขาถูกคุกคามจนเรียกได้ว่าลวนลาม เขาเองไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าหากเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เขา คนอื่นจะจัดการอย่างไร ถึงสุดท้ายแล้วเขาจะปลอดภัย แต่การที่เขาเป็นผู้ชายแล้วถูกผู้ชายด้วยกันคุกคามทางเพศ มันก็ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเลย อย่างน้อยมันก็ทำให้ธรณ์ได้รู้ว่า ไม่เพียงแต่ผู้หญิงที่ตกอยู่ในอันตราย แม้แต่ผู้ชายเองก็ไม่ต่างกัน

               “ไหน...เล่าให้พี่ฟังหน่อยว่าเรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่”

               ธรณ์เริ่มต้นเล่าตั้งแต่ตอนบ่ายที่เขาไปรับมิสเตอร์วิลสัน พอมาคิดทบทวนดูดีๆ เขาถึงเพิ่งพบว่า ถ้าเขาเอะใจซักนิด เขาคงจะสังเกตว่ามิสเตอร์วิลสันพยายามเข้าหาเขาอยู่ตลอดเวลา แต่เพราะคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชาย ยังไงก็ปลอดภัย ไม่มีอะไรเสียหาย และอีกฝ่ายจะมาหวังอะไรจากเขาที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน เขาถึงได้ประมาทจนยอมตามอีกฝ่ายขึ้นไปถึงห้องพัก

               ตลอดเวลาที่ธรณ์เล่า คำสบถหยาบคายก็หลุดออกมาจากริมฝีปากเขตแดนเป็นระยะ นี่เป็นอีกด้านที่ธรณ์ไม่เคยเห็น และไม่คิดด้วยซ้ำว่าตัวเองจะมีโอกาสเห็น ไม่เพียงเท่านั้น มือที่กำพวงมาลัยยังเกร็งแน่น บ่งบอกได้ชัดว่าเขตแดนเองก็ยังโมโหอยู่ไม่น้อย

               “ตกลงมันไม่ได้ทำอะไรใช่ไหม”

               “ยังไม่ทันได้ทำอะไรมากกว่า มันก็ลูบๆไปตามตัวผมแล้วก็กระชากเสื้อผมออก ดูสิ...กระดุมหลุดหมดเลย” ธรณ์โชว์สาบเสื้อที่วางเปล่าปราศจากกระดุมให้ดูเป็นหลักฐาน

               เขตแดนขบกรามแน่น พลางคิดว่าที่เขาจัดการกับหมอนั่นมันน้อยเกินไปหรือเปล่า แม้คู่กรณีจะเพียงแค่แตะตัวธรณ์ก็เถอะ แต่เขาก็หวง ยิ่งเห็นผิวขาวๆของธรณ์มีรอยแดงเป็นปื้น ซึ่งแน่นอนว่าเกิดจากช่วงที่ต่อสู้กัน โทสะที่พยายามข่มให้ดับก็ทำท่าจะคุขึ้นมาอีกรอบ

               “ให้ตายเถอะ!!” สุดท้าย เขตแดนก็หลุดเสียงสบถออกมาอีกจนได้

               กลายเป็นว่าตอนนี้พอเห็นอาการห่วงจนเกินพอดีของเขตแดน ธรณ์เลยพลอยอารมณ์ดีขึ้นมาได้ เขายิ้มขำออกมาที่เห็นเขตแดนดูเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเขา แต่ลึกๆแล้วก็ยอมรับเลยว่ารู้สึกดีจริงๆ

               “พี่เขตต์เลิกหงุดหงิดเถอะ ผมไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย พี่ก็เห็นนี่นา แล้วนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย”

               คนที่กำลังขับรถอยู่เหยียบเบรกอย่างแรงด้วยความตกใจ จนคนนั่งข้างถึงกับหน้าคะมำหัวโขกกระจก เขตแดนหันมาขอโทษขอโพยธรณ์ ก่อนจะขับรถต่อ แต่ไม่วายเอ่ยปากถามสิ่งที่คาใจ

               “ที่ไม่ใช่ครั้งแรกน่ะหมายความว่ายังไง”

               “ก็หมายความว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมมีเรื่องชกต่อยไงครับ”

               แม้จะรู้แจ้งแก่ใจและประจักษ์แก่สายตา ว่าธรณ์สามารถเอาตัวรอดได้เป็นอย่างดีแม้อยู่ในสถานการณ์คับขัน เพราะประสบการณ์ที่อยู่ต่างแดนมาหลายปี สอนให้ธรณ์รู้จักเอาตัวรอดได้ แต่เขตแดนก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี

               “จริงๆมันก็เป็นความผิดของพี่เองที่ไม่ยอมตรวจสอบข้อมูลให้ดี”

               “ความผิดของผมเองด้วยครับ ที่ประมาทเกินไป”

               ที่เขาว่าคนเราจะเห็นใจกันเมื่อยามยากเห็นจะเป็นเรื่องจริง เพราะหลังจากผ่านเหตุการณ์ร้ายๆมา เขตแดนและธรณ์ต่างก็ยอมรับว่าเป็นความผิดของตัวเองกันอย่างง่ายดาย ไม่คิดจะมาโทษอีกฝ่ายให้เสียเวลา มีแต่หันหน้าเข้ามาคุยกันด้วยความเข้าใจ

               ซักพักเวธน์ก็โทรศัพท์มารายงานเขตแดน แน่นอนว่าคนกว้างขวางอย่างเวธน์ต้องมีวิธีจัดการปัญหาอยู่แล้ว อย่างน้อยเวธน์ก็ประสานงานกับนายตำรวจที่คุ้นเคยกันดีจนมิสเตอร์วิลสันโดนข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ เขตแดนจึงสั่งให้เวธน์จัดการไปตามสมควร แต่ไม่วายกำชับไปว่า...

               “คงรู้ดีนะ ว่าฉันต้องการให้มันจบแบบไหน”

               ธรณ์ที่นั่งฟังอยู่ด้วยก็นึกสงสัยครามครัน พี่เขตต์คนอบอุ่นของเขา มีอีกด้านเป็นเจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลหรือ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องสนใจเท่าไหร่ ที่เขาต้องสนใจและต้องรีบเอ่ยปากถามทันทีที่เขตแดนวางสายจากเวธน์ก็คือ...

               “พี่เขตต์! นี่เรากำลังจะไปไหนกันครับ”

               แค่ไม่ได้หันไปดูทางหน่อยเดียว ปรากฏว่าคนที่บอกว่าจะพามาพักผ่อน พาเขาออกนอกกรุงเทพฯมาเสียแล้ว เพราะตอนนี้รถยนต์คันหรูกำลังแล่นอยู่บนมอเตอร์เวย์มุ่งหน้าชลบุรี

               “พี่บอกแล้วว่าจะไปพักผ่อนไง”

               “ที่ไหน?”

               “พัทยา”

               “แล้วเสื้อผ้าผมกับเสื้อผ้าพี่ล่ะ เรามากันแต่ตัวไม่ใช่เหรอ”

               “เดี๋ยวค่อยแวะห้างซื้อก็ได้ ไม่เห็นจะลำบาก”

               ธรณ์ถอนหายใจยาว ก่อนจะก้มหน้าก้มตาสำรวจตัวเอง แล้วก็พบว่าทั้งเนื้อทั้งตัวเขา นอกจากเสื้อผ้าที่สมควรจะเรียกว่าเศษผ้ามากกว่า ก็มีแค่กระเป๋าเงินกับโทรศัพท์มือถือแค่นี้เอง

               “ดึกป่านนี้ห้างคงปิดหมดแล้วล่ะครับ ยังไงเดี๋ยวพอเข้าตัวเมืองแล้วแวะร้านขายของเอาละกันครับ”

               เขตแดนไม่ตอบอะไร ตามองแต่ถนนเบื้องหน้า คงมีเพียงแค่เจ้าตัวที่รู้ดีว่าตอนนี้เขากำลังคิดเรื่องอะไร จะเรื่องอะไรเสียอีก ถ้าไม่ใช่เรื่องของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ

               อย่างน้อยธรณ์ก็ปลอดภัย ไม่มีอะไรบุบสลาย เพราะถ้าขืนธรณ์เป็นอะไรไป เขาก็ไม่รับประกันเหมือนกันว่า เขาจะหักห้ามใจตัวเองให้หยุดแค่การกระทืบคู่กรณีได้หรือไม่

               “ขอบคุณครับ ที่มาช่วยผม”

               ไม่ใช่เพราะบรรยากาศเป็นใจหรือความเผลอไผลแน่ๆ ที่ทำให้เขตแดนยอมละมือข้างซ้ายออกจากพวงมาลัย แล้วเอื้อมไปจับมือของธรณ์เอาไว้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำลงไปคือความต้องการของตัวเองล้วนๆ ไม่มีสิ่งใดมาเจือปนแม้แต่น้อย

               “พี่ไม่ได้ช่วยอะไรธรณ์เลย แต่ยังไงพี่ก็จะอยู่ข้างๆธรณ์เสมอ”

               “ขอบคุณครับ ขอบคุณจริงๆ”

               คำถามที่เฝ้าถามตัวเองมาหลายร้อยหลายพันครั้ง กลับได้รับคำตอบอย่างง่ายดายในวันนี้ เขตแดนเฝ้าถามตัวเองว่าเขาคิดอย่างไรกับธรณ์ ที่เขารู้สึกกับธรณ์ มันเป็นความรู้สึกระหว่างพี่ชายกับน้องชาย หรือมันได้ก้าวผ่านเส้นแห่งความเป็นพี่น้องไปแล้ว คำตอบคือ...


               เขาคิดกับธรณ์เกินกว่าความเป็นพี่น้องไปแล้ว


               มันคือความห่วงและหวงผสมปนเปกันจนแทบจะแยกไม่ออก ตอนที่รู้ว่าอาจจะมีอันตรายเกิดกับธรณ์ เขาก็แทบจะเป็นบ้าด้วยความร้อนรนกระวนกระวาย พี่ชายก็อาจจะเป็นห่วงน้องชายแบบที่เขากำลังรู้สึกได้เช่นกัน แต่เขตแดนรู้ดีว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อธรณ์ มันไม่ใช่แค่พี่ชายกับน้องชาย

               ตลอดทางจากบริษัทไปโรงแรม เขตแดนยอมรับเลยว่า สิ่งเดียวที่ทำให้เขาครองสติอยู่ได้ คือความคิดที่ว่าธรณ์กำลังรอเขาอยู่ แล้วพอไปถึง แค่ไปยืนหยุดอยู่หน้าห้อง ได้ยินแต่เสียงดังโครมครามโดยไม่อาจคาดเดาเหตุการณ์ในห้องได้ เขาก็แทบอยากจะพังประตูเข้าไป ถ้าธรณ์เป็นอะไรไปจริงๆ เขาไม่รับประกันเลยว่าตัวเองจะยั้งมือยั้งเท้าไม่ให้ประเคนใส่คู่กรณีได้หรือไม่

               ตอนที่เห็นว่าธรณ์เป็นฝ่ายเปิดประตูออกมา สมองก็ทำงานช้ากว่าหัวใจ ปล่อยให้ร่างกายเข้าไปประชิดแล้วคว้าธรณ์เข้ามากอดแนบอก กอดแน่นและนาน เพื่อให้ตัวเองรับรู้และมั่นใจว่าธรณ์ไม่ได้เป็นอะไร เขารู้ตัวเลยว่าอ้อมกอดของตัวเองสั่นระริก มันอัดแน่นไปด้วยความโกรธและความกลัวผสมปนเปกันจนแยกไม่ออก นานกว่าที่มันจะสงบลง

               ไม่ใช่แค่เพียงอ้อมกอดของเขตแดนเท่านั้นที่ทำให้ธรณ์สงบลง แต่การที่มีธรณ์อยู่ในอ้อมกอดก็ทำให้เขตแดนสงบลงด้วยเช่นกัน

               เขตแดนยอมรับเลยว่า สภาพธรณ์ที่เห็น ก่อนที่เขาจะถอดสูทตัวเองคลุมลงบนตัวธรณ์ มันทำเอาอารมณ์ที่เหมือนจะสงบแล่นกลับขึ้นมาอีก แม้จะไม่มากเท่าตอนแรก แต่มันก็รุนแรงพอให้เขาใช้กำลังกับคนไม่มีทางสู้อย่างขาดสติ

               ถ้าไม่ได้รับรู้ว่าธรณ์ตกอยู่ในอันตราย เขตแดนยังไม่มั่นใจว่า เขาจะกล้ายอมรับกับตัวเองเมื่อไหร่ ว่าความรู้สึกลึกซึ้งที่ไม่ให้ธรณ์มันมากเกินคำว่าพี่ชาย

               สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องยอมรับความจริง เขาอาจจะโกหกคนทั้งโลกได้ หรือแม้กระทั่งโกหกคนที่เขารัก แต่เขาไม่มีทางโกหกตัวเองได้เลย


               เขารักธรณ์...เขตแดน เกียรติณรงค์รักธรณ์ อิสรพัฒน์!!


====================

[มีต่อนะคะ]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-12-2012 08:41:52 โดย Renze »

ออฟไลน์ Renze

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-25
               พอขับรถเข้ามาถึงตัวเมืองพัทยา ธรณ์ก็รีบเตือนเขตแดนให้แวะร้านสะดวกซื้อทันที ตอนแรกธรณ์ทำท่าว่าจะตามเขตแดนลงไปด้วย ก่อนจะต้องขมวดคิ้วอย่างสงสัยเมื่อเขตแดนเอ่ยห้าม หนำซ้ำยังทำหน้าดุใส่เหมือนว่าเขาทำอะไรผิดอีก

               “ทำไมจะลงไม่ได้ล่ะ ผมอยากหาอะไรกินเล่นเหมือนกันนะ”

               “จะเอาอะไร เดี๋ยวจะซื้อมาให้”

               “ผมอยากลงไปดูเอง”

               “ธรณ์จะลงไปทั้งสภาพนั้นเนี่ยนะ ถึงธรณ์จะไม่แคร์สายตาใคร แต่พี่แคร์ และไม่อยากให้ใครเห็นธรณ์ในสภาพนี้ด้วย รออยู่บนรถเนี่ยแหล่ะ” เอ่ยจบ เขตแดนก็ลงจากรถโดยไม่คิดจะอยู่ฟังคำทักท้วงธรณ์อีก

               พอเจ้าของรถลงไปแล้ว คนที่นั่งอยู่บนรถก็ได้แต่นั่งหน้าแดง ใจเต้นกับคำพูดของคนที่เพิ่งจากไปจนนึกหงุดหงิดตัวเอง ความจริงแล้วเขาก็ลืมนึกไปว่าตัวเองตกอยู่ในสภาพแบบไหน นี่คงต้องโทษฝรั่งหื่นกามที่มันกระชากจนเสื้อเขากลายเป็นเศษผ้าสินะ โชคดีที่ยังมีสูทของเขตแดนคลุมอยู่บนตัวเขา

               ธรณ์นั่งรออยู่ไม่นาน เขตแดนก็กลับมาพร้อมถุงพลาสติกใบใหญ่ ชายหนุ่มรับมาเปิดดู ปรากฏว่าข้างในมีขนมปังอยู่สองถุง นมหนึ่งขวด ยาสีฟัน แปรงสีฟัน สบู่ ยาสระผม และ...กางเกงในสองแพ็ค!!

               “ขาดเหลืออะไรหรือเปล่า”

               “มีแต่กางเกงใน ไม่มีเสื้อผ้า” ธรณ์พึมพำเบาๆ

               เลยจากร้านสะดวกซื้อมา เขตแดนเลยแวะร้านขายเสื้อผ้าในตัวเมือง และคราวนี้ชายหนุ่มก็กลับมาพร้อมเสื้อยืด เสื้อลายดอก และกางเกงเอวยางยืด ที่ทำเอาธรณ์ถึงกับหลุดหัวเราะขำออกมา ลำพังถ้าธรณ์ใส่เองคงไม่เท่าไหร่ แต่พอคิดภาพท่านประธานบริษัทต้องมาแต่งตัวแบบนี้ ธรณ์ก็ถึงกับกลั้นหัวเราะไม่ไหว จนคนซื้อต้องหันมาเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้

               “ขำอะไรนักหนาเนี่ย”

               “พี่เขตต์กล้าใส่ด้วยเหรอ”

               คนถูกถามไหวไหล่นิดๆอย่างไม่ใส่ใจ

               “ก็มันมีแบบนี้ เลือกมากไม่ได้หรอก ถ้าจำเป็นก็ต้องใส่”

               พอเห็นเขตแดนขับเลยตัวเมืองพัทยา มุ่งหน้าไปทางจอมเทียน ธรณ์เลยคิดเอาเองว่าเขตแดนคงมีที่พักอยู่แล้ว แต่ดูท่าว่าธรณ์จะคิดผิดถนัด หลังจากนั่งดูเขตแดนวนรถให้เปลืองน้ำมันอยู่นาน ธรณ์ก็อดถามขึ้นมาไม่ได้

               “หาที่พักไม่เจอเหรอครับ”

               “ยังไม่มีที่พักต่างหาก กำลังดูอยู่ว่ามีที่ไหนที่พอพักได้บ้าง”

               “เอาซักที่เถอะครับ ผมง่วงจะแย่แล้ว”

               พอธรณ์บอกว่าง่วง แล้วอ้าปากหาวประกอบเท่านั้นแหล่ะ เขตแดนก็ตัดสินใจเลี้ยวเข้ารีสอร์ทแห่งหนึ่งที่ค่อนข้างเงียบสงบและเป็นส่วนตัวทันที เขาก็ได้แต่หวังว่า น่าจะมีห้องพักอยู่บ้าง เพราะนี่ก็เป็นหนแรกที่เขาทำอะไรทันทีโดยไม่มีแบบแผน ขับรถมาพัทยาในคืนวันศุกร์โดยไม่มีการเตรียมตัวอะไร ถ้าคุณสงครามรู้เข้าคงแปลกใจในตัวลูกชายคนเดียวไม่น้อย

               “เหลือแค่ที่พักแบบบังกะโลอยู่หลังเดียว เป็นเตียงคู่นะคะ พอดีเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่พักเลยเต็มเกือบหมดเลยค่ะ” พนักงานต้อนรับเช็คข้อมูลอยู่ครู่เดียวก็เงยหน้ามาบอก

               “เอายังไงธรณ์ จะลองไปที่อื่นดูไหม” เขตแดนหันมาปรึกษาคนที่นั่งรออยู่

               “ไม่ต้องหรอกพี่เขตต์ เอาที่นี่แหล่ะ ผมง่วง อยากอาบน้ำแล้วก็นอนจะแย่ละ”

               ในเมื่อธรณ์เองไม่ได้ลำบากที่ต้องเปิดบังกะโลหลังเดียว แถมยังเป็นเตียงคู่ เขตแดนเองก็ไม่ได้คิดจะค้านอะไร เขากรอกข้อมูลสำหรับเช็คอินก่อนจะรับคีย์การ์ดมาจากพนักงาน ไม่ต้องเสียเวลารอพนักงานยกกระเป๋า เพราะผู้ชายสองคนที่วอล์คอินเข้ามาถามหาห้องพักตอนดึกดื่น มีสัมภาระแค่ถุงพลาสติกสองถุง

               บังกะโลหลังที่ว่างตั้งอยู่หน้าหาดพอดี แต่เนื่องจากมืดแล้วจึงยังมองไม่เห็นอะไรชัดเจนนัก หลังจากที่เขตแดนจัดการเปิดห้องเสร็จสรรพ ธรณ์ก็เดินมาล้มตัวลงนอนบนเตียงทันที โดยไม่ลืมที่ถอดสูทของเขตแดนออกไปแขวนที่ตู้เสื้อผ้า เดือดร้อนคนที่เพิ่งเดินตามเข้ามาให้ต้องชะโงกมองก่อนจะสะกิดเรียก

               “ถ้าง่วงก็รีบไปอาบน้ำไป จะได้รีบมานอน”

               “นอนเลยได้ไหม ผมเหนื่อยจะแย่แล้ว”

               เขตแดนส่ายหน้าอย่างระอา เมื่อซักครู่ยังบอกอยู่ว่าอยากจะอาบน้ำ ตอนนี้ทำท่าจะว่าจะนอนเลยเสียแล้ว ถึงจะเห็นใจแต่เขาก็ไม่ยอมหรอก

               “ลุกไปอาบน้ำเลย พี่ไม่นอนกับคนสกปรกนะ ถ้าไม่ยอมอาบน้ำ พี่จะให้นอนที่โซฟา”

               คนที่แกล้งทำเป็นนอนหลับ ปรือตาขึ้นมามองอย่างขัดใจ เขตแดนก็ไม่ยอมแพ้ ยืนกดดันจนธรณ์ต้องยอมเด้งตัวขึ้นมาจากเตียง เสื้อยืดกับกางเกงยางยืดถูกส่งให้ธรณ์ที่คว้าเอาไปก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ

               เขตแดนมองตามหลังคนที่หายเข้าห้องน้ำไป ริมฝีปากคลี่ยิ้มออกมาบางๆ บางทีธรณ์ก็ยังเป็นเด็กอยู่จริงๆนั่นแหล่ะ แต่ไม่เป็นไร ในเมื่อเขาเต็มใจจะดูแลธรณ์ไปเรื่อยๆ ถึงตอนนี้จะทำได้เพียงแค่ในฐานะผู้ปกครองก็เถอะ

               เขารู้...ว่าธรณ์เองก็ไม่ได้รังเกียจความรักระหว่างผู้ชายด้วยกัน แต่ด้วยสถานะทางสังคมและอะไรหลายอย่าง มันทำให้เขตแดนไม่สามารถเปิดเผยออกไปได้เต็มที่ และที่สำคัญ...


               เขตแดนยังไม่มั่นใจว่า ธรณ์จะรู้สึกเหมือนที่เขารู้สึกกับธรณ์หรือเปล่า


====================


               ด้านธรณ์ที่เดินเข้าห้องน้ำมา ก็คิดสะระตะจนวุ่นวาย แม้สายน้ำเย็นฉ่ำที่ไหลผ่านร่างจะช่วยให้สงบลง แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ความตื่นเต้นลดลงเลยแม้แต่น้อย ถ้าใครรู้เข้าคงต้องหัวเราะเยาะอย่างแน่นอนว่า...   

               เพลย์บอยเจนสนามอย่างธรณ์ อิสรพัฒน์นึกหวาดหวั่นที่ต้องมานอนร่วมเตียงกับผู้ชาย แถมยังเป็นผู้ชายที่ชื่อเขตแดน เกียรติณรงค์อีก

               ความจริงแล้วเขาเองก็ไม่อยากจะสร้างปัญหา เพราะเขากับเขตแดนก็คุ้นเคยกัน เป็นผู้ชายเหมือนกัน นอนด้วยกันก็ไม่น่ามีปัญหา ถ้าเพียงแต่เจ้าก้อนเนื้อไม่รักดีตรงอกข้างซ้ายจะยอมกลับมาเต้นเป็นจังหวะปกติ แต่ธรณ์ก็ได้แค่คิดเท่านั้น เพราะถึงมันจะเป็นหัวใจของเขา แต่เขากลับบังคับให้มันเต้นเป็นปกติไม่ได้เลย ช่างเป็นหัวใจที่ไม่รักดีเสียจริงๆ

               คราวก่อนแค่จูบปากก็ทำเอาเขาเคลิ้มจนต้องวิ่งโร่ไปหาชินดนัย วันนี้แค่จูบหน้าผากก็ทำเอาเขาใจเต้นไม่เป็นส่ำ โดนกอดก็รู้สึกดีจนอยากจะเรียกร้องอะไรที่มากกว่านั้น แล้วถ้าต้องมานอนด้วยกันล่ะ...


               เขากลัว...ไม่ได้กลัวเขตแดน แต่กลัวหัวใจไม่รักดีของตัวเองต่างหาก!!


               พอเป็นสัมผัสจากคนอื่น กลับไม่ทำให้เขารู้สึกดีแม้แต่น้อย อย่างวันนี้ตอนที่โดนมิสเตอร์วิลสันลูบไล้ มันกลับให้ความรู้สึกขยะแขยงมากกว่าจะรู้สึกดี แต่พอเขตแดนรั้งเขาเข้าไปกอด มันกลับอบอุ่นจนธรณ์อยากจะฝังตัวเองลงไปในอ้อมกอดแข็งแรงนั่น ไม่อยากจะให้เขตแดนปล่อยเขาออกจากอ้อมกอดเลย

               เขาต้องผิดปกติไปแล้วแน่ๆ หรือไม่ก็เป็นบ้าไปเสียแล้ว

               ความรู้สึกดีที่เกิดขึ้น จำเพาะเจาะจงว่าจะต้องเป็นสัมผัสจากเขตแดนคนเดียวด้วย คราวก่อนที่ทดลองจูบกับชินดนัยก็ขนลุกจนแทบอาเจียน แต่แค่สัมผัสอุ่นวาบที่แตะแผ่วๆตรงหน้าผากจากเขตแดน มันกลับรู้สึกวาบหวามจนไม่อยากให้อีกฝ่ายหยุด


               ถ้าเขาไม่ได้บ้า เขาก็คงจะชอบเขตแดนเข้าแล้วแน่ๆ


               ธรณ์ปัดความคิดฟุ้งซ่านไร้สาระของตัวเองทิ้ง ยังไม่รู้จะหาทางออกให้กับปัญหาที่คิดไม่ตกยังไง แต่ที่แน่ๆก็คือ เขาต้องหาทางออกจากห้องน้ำเสียก่อน ชายหนุ่มจัดการอาบน้ำสระผมจนเสร็จเรียบร้อย แล้วจึงคว้าเสื้อยืดลายการ์ตูนสีชมพูมาดูก่อนจะทำหน้าเบ้ แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือกก็ต้องสวมมันลงไป เสร็จแล้วถึงตามด้วยกางเกงลายดอกสีฉูดฉาด ที่พอส่องกระจกแล้วก็ได้แต่ยิ้มขำตัวเอง

               พอธรณ์เดินออกมา เขตแดนที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ก็เดินสวนเข้าไปทันที ร่างสูงในชุดเสื้อยืดสีชมพูเดินไปนั่งแปะลงที่ปลายเตียง กะว่าเช็ดผมเสร็จเรียบร้อยก็จะนอนแล้ว เพราะเขาเองก็รู้สึกเหนื่อยไม่น้อย

               เช็ดผมเสร็จเรียบร้อย ธรณ์ก็คลานไปล้มตัวลงนอนบนเตียง พอดีกับที่เขตแดนเดินออกมา คนที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำกระตุกยิ้มที่มุมปากนิดๆ ให้คนที่นอนอยู่ร้อนตัวจนต้องเอ่ยปากถาม

               “พี่เขตต์ขำอะไร”

               “เสื้อยืดสีชมพู...น่ารักดี”

               “ฮึ...จำไว้ละกัน ว่าของตัวเองเอาสีฟ้า แล้วเอาสีชมพูให้คนอื่นน่ะ”

               “ช่วยไม่ได้ สีฟ้ามันใหญ่กว่านี่”

               “ผมก็สูงใกล้เคียงกับพี่เขตต์เถอะ แค่ผอมกว่าหน่อยเอง”

               เขตแดนอยากจะค้านออกมาเหลือเกิน ถึงส่วนสูงจะใกล้เคียงกัน ธรณ์ก็ผอมกว่าเขาพอสมควร แต่ก็เอาเถอะ ปล่อยให้ธรณ์คิดเอาเองว่าผอมกว่าเขาแค่นิดเดียว แต่ว่านะ...ธรณ์ที่สวมเสื้อยืดสีชมพูนอนมองมาที่เขานี่ มันดูเหมือนเด็กมัธยมปลาย จนเขตแดนชักจะนึกภาพเพลย์บอยคนเก่งไม่ออกซะละ เห็นแต่เด็กแสบท่าทางเฮี้ยวๆนอนอยู่บนเตียง

               เขตแดนจัดการเก็บของอะไรจนเรียบร้อย เสร็จแล้วก็เดินไปดัปไฟให้หมด แล้วถึงเดินมาสอดตัวลงใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ เว้นระยะตรงกลางเอาไว้เล็กน้อย เขาเองก็รู้สึกเหนื่อยเหมือนกัน คงเพราะกระวนกระวายอยู่ตลอด แล้วยังขับรถทางไกลอีก จังหวะที่กำลังจะผล็อยหลับ ก็รู้สึกว่ามีมือเอื้อมมาแตะเขา

               “หืม? นอนไม่หลับเหรอธรณ์...”

               “พี่เขตต์”

               “ครับ”

               “กอดหน่อยได้ไหม”

               “มาสิ”

               เขตแดนอ้าแขนออกกว้าง ก่อนจะรั้งคนที่นอนอยู่ข้างกายเข้ามาในอ้อมแขน ไม่ว่าธรณ์จะต้องการอ้อมกอดของเขาเพราะอะไรก็ตาม แต่เขาก็ยินดีจริงๆ

               “ดีขึ้นไหม?” เขตแดนก้มลงถามคนที่นอนซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของเขา

               “อืม...รู้สึกดีขึ้นจริงๆด้วย ช่วยกอดหน่อยนะ ผมจะได้นอนหลับ”

               “ครับ ฝันดีนะครับ”

               เขตแดนแตะริมฝีปากลงแผ่วเบาลงบนผมของธรณ์ ก่อนจะกระชับอ้อมกอดแน่นเข้า ไม่ว่าตอนนี้ธรณ์จะรู้สึกอย่างไร ขอให้รู้เอาไว้ว่ายังมีอ้อมกอดของเขาเสมอ ถ้ามันทำให้ธรณ์รู้สึกดีขึ้น เขาก็ยินดี...

               พรุ่งนี้เช้าจะเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ แต่ในวันนี้แค่มีธรณ์อยู่ในอ้อมกอด แค่ได้กอดธรณ์เอาไว้ในอ้อมแขน มันก็ดีจนเขาเผลอคิดว่าตัวเองกำลังฝันไปหรือเปล่า ถ้าเป็นฝัน...ก็คงเป็นฝันที่ดีมากๆจนเขาไม่อยากตื่นเลย

               ในเมื่อความต้องการของคนสองคนตรงกัน คนหนึ่งอยากกอด อีกคนอยากถูกกอด จึงไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องยาก อ้อมกอดของเขตแดนยังเป็นความอบอุ่นที่ทำให้ธรณ์สงบได้เสมอ และมันยิ่งตอกย้ำให้ธรณ์รู้ว่า เขาไม่ได้รู้สึกดีกับผู้ชายทุกคน เขาแค่รู้สึกดีกับผู้ชายที่ชื่อเขตแดน...แค่คนนี้เพียงคนเดียว

               บางที...วันนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายไปซะทีเดียว อย่างน้อย...มันก็ทำให้เขตแดนกลับมาเป็นพี่เขตต์คนเดิมของเขา แล้วจะเป็นอะไรไป ถ้าเขาจะกลับไปเป็นธรณ์คนเดิมของพี่เขตต์บ้าง


               เขาไม่ได้อ่อนแอ เขาดูแลตัวเองได้ แต่บางครั้งมันก็มีบางเวลา...ที่อยากจะมีใครซักคนให้พึ่งพึง เป็นไปได้ไหม...ที่ใครคนนั้นจะเป็นเขตแดน เจ้าของอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของเขา


TO BE CONTINUE



๐ เง๊อ...หายไปนานเลย กลับจากพักร้อนก็หัวฟูหัวหมุนมาก *โค้งงามๆ* ขอโทษทุกคนที่รอด้วยนะคะ แวบมาลงเวลางาน แต่งานยังยุ่งเหมือนเดิม รีบมาลงก่อนโลกแตก ถ้าโลกไม่แตกก็เจอกันต่อเนอะ...ตอนหน้าก็อีกนานเหมือนเดิม

๐ ตอนนี้มาแบบยาวๆอีกแล้วค่ะ หวานไหม? คิดว่าหวานเนอะ แต่เขียนแล้วแก้หลายรอบเหมือนกันค่ะ ดูมันมึนๆอึนๆกับอารมณ์ของเขตแดนดี ใช้คำว่ากระวนกระวายหลายรอบมาก ตอนนี้เน้นบรรยายเป็นหลัก แต่รู้สึกว่ายังบรรยายความรู้สึกของทั้งคู่ได้ไม่ดีเลย

๐ สุดท้ายก็ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ เรื่องนี้คงไม่ยาวเท่าไหร่ เขียนตามพล็อตไปเรื่อยๆ ยังไงก็ติชมได้เลยนะคะ มีตกหล่นอะไรไปบ้างก็ขออภัยค่ะ ขอบคุณทุกคนที่ทวงที่ถาม ที่เข้ามาเยี่ยมเยียน ขอบคุณจริงๆค่ะ

ปล. ตอนหน้าอาจจะเป็นปีหน้านะคะ ขอเคลียร์หลายๆเรื่องก่อนค่ะ  :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-12-2012 08:42:31 โดย Renze »

countryside_69

  • บุคคลทั่วไป
 o13 สนุกมากครับ แต่งนิยายได้เก่งสุด ๆ  o13

ติดแต่ว่าหายไปแต่ละทีนานมาก
จนบางทีอารมณ์ของตัวละครที่สื่อออกมา
หายไปซะดื้อ ๆ
 :amen: :amen: :amen:
รอติดตามตอนต่อไปครับ
 :catrun:

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1
 :a5:  แย่แล้วววว..ดูท่าเราจะติดเรื่องนี้งอมแงมยิ่งกว่าติดฝิ่นอีกนะเนี่ยย
ตอนต่อไปอย่าให้รอนานนะคนเขียน :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ withmeto_PJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0
สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกเลยค่ะ
แต่ว่าแต่ละตอนช่างยาวนานเหลือเกิน T^T
ชอบตอนนี้นะค่ะ มันให้ความรู้สึกหวานๆแบบบอกไม่ถูก ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น
ทั้งสองคนรู้ใจตัวเองแล้ววววว เย้ๆ รอแค่ว่าเมื่อไหร่ที่จะเอ่ยปากบอก ย๊ากกก คิดไปไกลลลลเลย

ขอบคุณคนแต่งมากๆนะคะ ถ้าว่างจากงานแล้ว ขอให้นึกถึงพี่เขตต์น้องธรณ์ด้วยน๊า คนอ่านยังรอคอยอยู่จ้า

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
ต่างคนต่างรู้ใจของตัวเองว่ารักอีกฝ่ายหนึ่งแล้ว

เหลือก็แค่ปากเท่านั้นที่จะพูดมันออกมา ส่วนการกระทำบางครั้งก็ออกแนวพี่ชายน้องชาย


ออฟไลน์ pharm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
น่าร้ากอ่ะ  กอดกันละๆ :-[

ในที่สุดเขตก็รู้ใจตังเอง รอน้องหน่อยนะ

 :L2:

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
ได้อ่านตอนหวานๆก่อนไปสอบ รู้สึกดีมากเลยค่ะ

ตอนนี้หวานจัง ชอบเวลาธรณ์เรียกว่า พี่เขตต์อ่ะ น่ารัก

ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8
มาให้หายคิดถึง :z2:
 :pig4:

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ธรณ์ยอมรับความรู้สึกของตัวเองเหมือนกับเขตต์
ถ้าไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นก็คงยังไม่รู้ตัวกันมั้ง

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
รู้สึกตรงกันแล้วนะ เหลือแค่พูดออกไป  :-[

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
พัฒนาไปอีกขั้นแล้ว
หวังว่าคงราบรื่นเน้อ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
ธรณ์ช่วยตัวเองได้อยู่นะ เยี่ยมเลย ได้พี่เขตไปช่วยทันเวลาด้วย  o13
เค้าใจตรงกันแล้วอ่า กิ๊บกิ้วววววววววววว แต่ยังมีกำแพงบาง ๆ กั้นอยู่นะ
นอนกอดกันด้วยอ่า ใจพี่เขตอ่ะไปเต็ม แต่ใจธรณ์นี่ยังอีกนิด ๆ

 :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






รอยยิ้ม

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาอ่าน ปิ๊งเลย ชอบอ่ะ มีปมให้คิด ผูกเรื่องได้ดี ชอบค่ะชอบ ภาษาสวย
เนื้อเรื่องตอนนี้กำลังดีเลยสินะ ชอบกันแล้ว แอบมีหวานๆ อ่านไปแล้วก็นั่งเขิลเอง ^///^
แต่เหมือนจะมีปัญหาตามมาในไม่ช้านี่สิ ไม่เป็นไร ช่วงนี้ก็เก็บเกี่ยวความสุขไปก่อน พี่เขตกับน้องธรณ์
ติดตามค่ะ รอต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
ตอนนี้เหมือนจะหวาน
เอะอะกอด 55555
ชอบเรื่องนี้ม้ากมากกกกกก ><

zeen11

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาอ่านแบบรวดเดียวถึงตอนล่าสุด สนุกมากเลยค่ะ เขียนเรื่องได้ชวนติดตามมาก  o13 o13 o13

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
ใสๆ แบ๊วๆ

กอดกันๆ


 :กอด1:

ออฟไลน์ smirnoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-4
ตอนนี้อ่านแล้วเขินเลย กอดๆๆๆๆ

ออฟไลน์ honeyhoon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
 :o8:
ตายล่ะ พี่เขต รักเค้าก็รีบบอก :-[
 :impress2:

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
ต่างคนต่างรู้ใจตนเอง  แต่ยังไม่สารภาพความรู้สึกที่มีต่อกันตรง
อาจจะทำให้ดูคลุมเครือล่ะมั้ง  แต่ก็คอยเอาใจช่วยล่ะกัน


คนแต่งหายไปนาน  คิดถึงนะเนี่ย  แล้วว่างๆ ก็เอามาลงให้อ่านใหม่น่ะจ๊ะ

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
ตอนนี้น่ารักมายมายเลยค่ะ

#นอนหลับไปในอ้อมกอดของพี่เขตต์

 :กอด1:

ออฟไลน์ So_Da_Za

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
ตามอ่านทันแว้ว เย้ๆ
รักกันหวานๆหน่อยจิ น้านะ
เค้าชอบอ่ะ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด