▬ " รักคืนรัง " ▬ 「จบบริบูรณ์」
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「จบบริบูรณ์」  (อ่าน 270670 ครั้ง)

ออฟไลน์ Sorso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-3
มาฝากตัวอีกเรื่องครับ ><!!

เมื่อไหร่จะบอกความรู้สึกของตัวเองออกไปน๊า ใจตรงกันซะขนาดนี้

ออฟไลน์ Renze

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-25
“ รักคืนรัง ”

ตอนที่ 14


               ธรณ์หลับลึก หลับสนิท และหลับสบายตลอดคืน แม้กระทั่งตอนที่เขตแดนขยับตัวเพื่อคลายอ้อมกอด ธรณ์ก็ยังไม่รู้สึกตัว คนที่ตื่นก่อนขยับถอยออกมาดูคนที่นอนหลับปุ๋ย ยามนอนหลับก็เหมือนผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง

               ไม่สิ! ความจริงแล้วธรณ์ อิสรพัฒน์ก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ความเป็นเพลย์บอยและข่าวฉาว ก็เหมือนแค่เครื่องประดับภายนอก

               เขตแดนดีใจ...ที่อย่างน้อยธรณ์ก็ยอมกลับมาเป็นธรณ์คนเดิมของเขา หรืออย่างน้อยแค่เป็นตัวของธรณ์เองเวลาที่อยู่กับเขา...แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

               โดยปกติเขตแดนเองก็เป็นคนตื่นเช้าอยู่แล้ว พอตื่นแล้วชายหนุ่มก็เดินเข้าห้องน้ำ จัดการล้างหน้าแปรงฟัน มองเสื้อลายดอกที่ตัวเองเป็นคนซื้อมาแล้วก็ยิ้มขำ เขาเองก็เป็นคนธรรมดาเหมือนกัน ไม่ใช่นักธุรกิจหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่อย่างที่ใครหลายคนคิด

               ก็แค่คนธรรมดา...ที่อยากมีความรักแบบคนธรรมดาทั่วไป

               จัดการกับตัวเองจนเรียบร้อย เขตแดนก็เงยหน้ามองนาฬิกา เพิ่งจะแปดโมงครึ่ง แถมยังเป็นแปดโมงครึ่งเช้าวันเสาร์ ที่ยังไงธรณ์ก็คงไม่ยอมตื่นง่ายๆแน่ และในเมื่อเขาเป็นคนบอกเองว่าจะพาธรณ์มาพักผ่อน เขาก็เลยไม่อยากจะปลุกคนที่กำลังนอนหลับสบาย ปล่อยให้ธรณ์นอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่

               เขตแดนโทรศัพท์ขอหนังสือพิมพ์จากรีเซฟชั่น เสร็จแล้วก็แกะกาแฟซองมาชง ไม่ใช่ว่าไม่หิวหรือไม่อยากกิน เพียงแต่อยากรอคนขี้เซาตื่นมากินพร้อมกัน

               สุดท้าย...กว่าธรณ์จะตื่นก็ตอนสิบโมงกว่า ลุกขึ้นมานั่งหัวฟูกอดหมอนอยู่กับเตียง ท่าทางงัวเงีย ตายังลืมได้ไม่เต็มที่ ทำเอารอยยิ้มกระจายอยู่ทั่วใบหน้าคม สายตาที่เปลี่ยนจากหนังสือพิมพ์มาทอดมองคนบนเตียงพลันอ่อนลงด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย

               “ตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำไป เสร็จแล้วจะได้ไปหาอะไรกินกัน”

               เขตแดนส่งเสื้อผ้าให้คนขี้เซา ที่พอรับมาก็เดินมึนๆเข้าห้องน้ำไป จนเขาชักจะสงสัยว่า ตกลงคนที่เพิ่งเดินไปนี่รู้เรื่องไหม หรือคิดว่าตัวเองกำลังละเมออยู่

               หลังจากที่เขตแดนอ่านหนังสือพิมพ์เสร็จ กาแฟหมดแก้วพอดี ธรณ์ก็เดินหน้ายุ่งออกมานจากห้องน้ำ เสื้อลายดอกยังไม่ได้ติดกระดุม เผยให้เห็นแผงอกขาวที่มีหยดน้ำเกาะพราว จนเขตแดนต้องเสเบือนหน้าหลบ
ไม่ใช่ไม่อยากเห็น แต่เขาเป็นปุถุชนคนธรรมดา ไม่ใช่พระอิฐพระปูน

               “พี่เขตต์...พอใส่แบบนี้แล้วผมดูเหมือนพนักงานรีสอร์ทเลย”

               เขตแดนเบือนหน้ากลับมา โชคดีที่ธรณ์ติดกระดุมเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังไม่วายปล่อยสองเม็ดบนเอาไว้ อวดแผงอกขาวๆของเจ้าตัว

               “พี่ก็ใส่เหมือนธรณ์ ถ้าเป็นพนักงานก็เป็นด้วยกันสองคนนี่แหล่ะ”

               “ฮึ! จริงด้วย แล้วนี่จะพาผมไปไหนเหรอครับ”

               “อยากไปไหนล่ะ”

               ธรณ์นิ่งเงียบไป ถึงจะเป็นคนไทยที่เกิดและเติบโตอยู่ในเมืองไทยมากว่าสิบห้าปี แต่ธรณ์เดินทางออกต่างจังหวัดแทบนับครั้งได้เลย และมันก็ผ่านมานานซะจนความทรงจำมันลางเลือน ตอนที่พ่อและแม่ยังมีชีวิตอยู่ คุณธีรยุทธก็มีงานยุ่งตลอด ส่วนคุณอัจฉราก็นอนป่วย เด็กชายธรณ์จึงไม่เคยได้ไปไหนไกล นอกเสียจากมาเล่นกับพี่เขตต์ที่บ้านชานเมือง ยิ่งหลังจากผู้เป็นแม่เสียไป ความสัมพันธ์ระหว่างธรณ์กับผู้เป็นพ่อก็ยิ่งเลวร้าย แทบไม่มีโอกาสที่จะได้ทำกิจกรรมร่วมกันตามประสาพ่อลูกเลย

               เขตแดนเห็นธรณ์นิ่งเงียบไปก็นึกรู้ทันที ในเมื่อเรื่องราวช่วงระหว่างที่ธรณ์อยู่เมืองไทยตอนเด็ก เขาเองก็รับรู้มาตลอด เด็กชายตัวเล็กที่ขยันมาเล่าให้เขาฟัง ว่าเพื่อนคนนู้นไปเที่ยวไหน เพื่อนคนนี้ไปเที่ยวไหน แต่ตัวเองกลับไม่เคยได้ไป เขายื่นมือไปแตะบ่าธรณ์

               “ไป...เดี๋ยวพี่พาไปกินอาหารทะเลก่อนละกัน เสร็จแล้วจะทำอะไรต่อค่อยว่ากันอีกที”

               ดวงหน้าที่สลดไปชั่ววูบหันกลับมาคลี่ยิ้มกว้างให้เขตแดนอย่างยินดี ธรณ์ตัดสินใจแล้ว เขาจะพักผ่อนและลืมเรื่องราวหนักอกทุกอย่างไป ขอกลับไปเป็นธรณ์คนเดิม...ธรณ์คนที่เคยวิ่งตามร้องเรียกหาพี่เขตต์ และคอยออดอ้อนพี่เขตต์ของเขา

               ไม่รู้ว่าเขาจะหวังมากไปหรือเปล่า...แต่พอไม่มีคุณพ่อคุณแม่ เขาก็เหลือเพียงแค่คุณสงครามกับเขตแดน จะเป็นไปได้ไหม...ถ้าเขาอยากให้เขตแดนเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเขา และเข้าใจในทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเป็นและทำลงไป...คงไม่มากไปใช่ไหม


====================


               เขตแดนขับรถออกมาวนหาร้านอาหารทะเลเจ้าดัง ที่เขาโทรสอบถามเอาจากเวธน์ พอได้พิกัดว่าอยู่แถวละแวกจอมเทียนก็มาขับรถตามลายแทง คนที่นั่งข้างก็มองซ้ายมองขวา เพราะเมื่อคืนมาถึงก็มืดแล้วมองอะไรไม่ชัดเท่าไหร่ อารมณ์ประหนึ่งพาเด็กมาทัศนศึกษาเลยทีเดียว

               “ตอนอยู่ที่เมืองนอกได้เที่ยวบ้างไหมเนี่ย” เขตแดนแกล้งถามเด็กโข่ง

               “เที่ยวสิ เที่ยวเยอะมากเลยด้วย เพราะตอนอยู่ที่นี่ไม่ได้ไปไหนเลยล่ะมั้ง ผมเลยเก็บกด”

               แม้ธรณ์จะพูดกลั้วหัวเราะ แต่คนฟังก็รู้ดีว่ามันแฝงความน้อยใจอย่างปิดไม่มิด แต่เพียงแวบเดียว ธรณ์ก็ปัดความรู้สึกเหล่านั้นทิ้ง เพราะไม่รู้ว่าจะมาน้อยอกน้อยใจอะไรกับคนที่ไม่อยู่แล้ว

               ในที่สุด เขตแดนก็หาร้านอาหารเจอ แต่เพราะมันเป็นวันเสาร์ แถมตอนที่พวกเขาสองคนมาถึงร้านก็เป็นเวลาเที่ยงเศษ เลยต้องมายืนรอคิวกันอยู่หน้าร้าน ความจริงเขตแดนก็ถามธรณ์แล้วว่าจะเปลี่ยนไปที่อื่นแทนไหม แต่คำตอบที่ได้รับคือ...

               “เอาร้านนี่แหล่ะ ไม่นั่งในห้องแอร์นะ จะนั่งติดทะเล”

               เขตแดนได้แต่ส่ายหัวน้อยๆ ถ้าคนข้างตัวเขายอมนั่งห้องแอร์ซักหน่อย ป่านนี้ก็คงได้เข้าไปนั่งสั่งอาหารแล้ว แต่คุณชายธรณ์เขาเกิดอยากจะนั่งรับประทานอาหารกลางวันเคล้าลมทะเล ซึ่งที่นั่งริมทะเลก็มีจำนวนน้อย และลูกค้าหลายคนก็อยากจะจับจองโต๊ะริมทะเลกันหมด เลยต้องมายืนคอยคิวกันอยู่อย่างนี้

               เอาเถอะ...ไม่เป็นไรหรอก ในเมื่อเขาเองก็ยังอยากเห็นคนที่กำลังยืนหล่ออยู่ข้างๆ มีรอยยิ้มประดับอยู่บนหน้าไปนานๆ รอยยิ้มที่เป็นรอยยิ้มจริงๆ มันออกมาจากใจของคนที่มีความสุข มีค่ามากซะจนให้เอาอะไรมาแลกเขตแดนก็คงไม่ยอม ในเมื่อกว่าเขาจะได้รอยยิ้มนี้มา มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

               “ทะเลเมืองไทยสวยนะ ผมชอบมากๆเลย” คนที่ยืนทอดอารมณ์มองทะเลเปรยออกมาเบาๆ

               “ทะเลแถบนี้ยังสวยสู้ทางภาคใต้ไม่ได้หรอก ภาคใต้สวยกว่าอีก”

               “ที่นิวยอร์กก็มีทะเลนะ นั่งซับเวย์จากอพาร์ทเมนต์ผมออกไปชั่วโมงกว่าๆ หน้าร้อนคนเยอะมาก แต่สวยสู้พัทยาบ้านเรายังไม่ได้เลย”

               “ถ้าธรณ์ไปเห็นทะเลแถวกระบี่หรือภูเก็ต ธรณ์ก็ต้องบอกว่าที่พัทยาธรรมดาไปเลยเหมือนกันนั่นแหล่ะ”

               คนที่ยืนมองทะเลอยู่ดีๆ หันควับกลับมาหาเขตแดน ดวงตาเป็นประกายเหมือนเจออะไรถูกใจขึ้นมาทันที

               “พี่เขตต์เคยไปด้วยเหรอครับ”

               “เคยไปเรื่องงานอยู่สองสามหนน่ะ” เขตแดนตอบไปตามความจริง

               เขาเคยไปกระบี่กับภูเก็ตด้วยเรื่องงานของบริษัท ไม่ได้ไปเที่ยวบรรดาเกาะน้อยใหญ่ที่ใครเขาร่ำลือกันว่าสวยงาม แต่แค่หาดหน้าโรงแรมที่พักที่เขาเห็น เขตแดนก็ว่ามันสวยมากๆแล้ว ไม่สงสัยเลยว่าทำไมชาวต่างชาติถึงชอบมาเที่ยวทะเลเมืองไทยกัน

               “ฟังพี่เขตต์พูดแล้วผมอยากไปขึ้นมาทันทีเลย”

               “ไว้มีโอกาส...จะพาไป”

               “สัญญานะครับ...”

               เขตแดนยิ้มออกมา คนที่ไม่รู้จักธรณ์คงสงสัย ว่าเพลย์บอยเจนจัดหรือธรณ์ตรงหน้ากันแน่คือตัวจริงของธรณ์ อิสรพัฒน์ แต่ถ้าถามเขา เขตแดนตอบได้เลยว่า ธรณ์ตรงหน้าเขาเนี่ยแหล่ะคือตัวจริง ไม่ต่างไปจากธรณ์ในวันวานก่อนที่จะเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย

               ขอบคุณ...ขอบคุณที่ธรณ์ยอมเป็นตัวของตัวเองเวลาอยู่กับเขา

               “ได้โต๊ะแล้วมั้ง พนักงานเรียกเราสองคนแล้ว” เขตแดนพยักเพยิดให้ธรณ์เดินไปถามพนักงานคนที่จัดคิว

               ธรณ์เดินตรงเข้าไปหาพนักงาน ซักถามอะไรอยู่นิดหน่อย ก็หันมาโบกมือเรียกเขตแดนให้เดินตามไป

               โต๊ะที่ได้ต้องบอกว่าทำเลดีสมกับที่ยืนรอมานานกว่าครึ่งชั่วโมงจริงๆ เป็นโต๊ะที่ตั้งอยู่ริมทะเล ไม่มีอะไรมาบดบัง ชนิดที่ว่าสามารถมองเห็นท้องทะเลในมุมกว้างได้อย่างชัดเจน เขตแดนจัดการสั่งอาหารทะเลมาหลายอย่าง โดยไม่ลืมที่จะสั่งข้าวผัดปูจานเล็กมาด้วย พอเห็นธรณ์ทำหน้างงก็รีบบอกทันที

               “พี่สั่งมาให้ธรณ์นั่นแหล่ะ ตั้งแต่เช้ามายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยนะ กินข้าวไปซะดีๆ”

               “โห...พี่เขตต์จะสั่งมาตัดกำลังให้ผมกินกุ้งกับปูได้แค่นิดเดียวใช่ไหมล่ะ” ธรณ์แกล้งโอดครวญ

               “ใครบอกล่ะ...พี่กลัวว่าธรณ์จะปวดท้องต่างหาก เอาเถอะ กินข้าวได้แค่ไหนก็กินไปละกัน ที่เหลือเดี๋ยวพี่จัดการให้เอง”

               ธรณ์เผลอยิ้มกว้างออกมาอย่างไม่รู้ตัว นี่สิ...พี่เขตต์คนเดิมที่คอยตามใจเขา มีเวลาให้เขา เป็นห่วงเขาเสมอ...พี่เขตต์ของเขา

               ก่อนอาหารที่สั่งไว้จะมา พนักงานก็ยกเครื่องดื่มมาก่อน ธรณ์เบิกตามองมะพร้าวน้ำหอมที่มาในลูกมะพร้าวด้วยความตื่นเต้น ธรณ์อาจจะเก่งกาจในบางเรื่อง แต่กับเรื่องง่ายๆ บางทีธรณ์ก็กลายเป็นเด็กๆไปเลยเหมือนกัน

               “นี่มะพร้าวน้ำหอม พอธรณ์กินน้ำจนหมด ก็เอาช้อนตักเนื้อออกมานะ เขาขูดเป็นแผ่นอยู่ในลูกมะพร้าวเรียบร้อยแล้ว”

               ธรณ์ยังไม่ทันได้ทำตามคำแนะนำของเขตแดน ก็ต้องสูดปากทันที เมื่อพนักงานเสิร์ฟยกน้ำจิ้มซีฟู้ดมาวาง

               “พี่เขตต์รู้ไหม เวลาผมอยู่เมืองนอก ผมกินอาหารทะเลไม่อร่อยก็เพราะไม่มีน้ำจิ้มซีฟู้ดเนี่ยแหล่ะ จะโชคดีหน่อยก็เวลาที่ชินมันกลับบ้าน มันจะให้แม่บ้านเขาทำแล้วแพ็คใส่กระปุกไป แต่อยู่ได้เต็มที่เดือนเดียวก็หมดแล้ว แค่เห็นก็น้ำลายสอเลย”

               ธรณ์ทำท่าจะเอาช้อนตักน้ำจิ้มซีฟู้ด แต่ถูกเขตแดนคว้ามือเอาไว้ก่อน

               “ไม่ต้องเลย ยังไม่มีอะไรรองท้องมากินของเผ็ดเดี๋ยวก็ปวดท้องพอดี รอข้าวผัดมาก่อน”

               ธรณ์เบ้ปาก แต่ก็ยอมหดช้อนกลับมาโดยดี พอข้าวผัดปูจานเล็กยกมา เจ้าตัวก็จัดแจงบีบมะนาวและใส่น้ำปลาพริก ที่ดูแล้วเหมือนจะโกยแต่พริกลงไปคลุกกับข้าวซะมากกว่า จนเขตแดนต้องส่ายหน้าน้อยๆ

               “กินเผ็ดขนาดนี้ ใครเขาจะเชื่อว่าไปอยู่เมืองนอกมาเกือบสิบปี”

               “ทำไมอยู่เมืองนอกแล้วต้องกินเผ็ดไม่เป็นด้วยล่ะ ชินนั่นแหล่ะตัวดีเลย มันถึงกับปลูกต้นพริกไว้ที่ระเบียงอพาร์ทเมนต์เลยครับ เวลาเอามาคั่วกระเทียมแล้วผัดกับข้าวนะพี่เขตต์...อย่าให้พูดเลย” ไม่พูดเปล่า เจ้าตัวยังยกนิ้วรับประกันด้วยว่าเมนูตัวเองเด็ดแค่ไหน

               “หึ...มัวแต่พูด เดี๋ยวข้าวก็เย็นหมดหรอก”

               ธรณ์เกาศีรษะแก้เก้อทันที เมื่อรู้สึกว่าเขาชักจะเป็นตัวของตัวเองมากไปหน่อย ที่เป็นอยู่นี่...เหมือนกลับไปเป็นเด็กชายธรณ์ เจ้าตัวน้อยที่ช่างจำนรรจาของเขตแดนเลย



               ภาพเด็กชายตัวเล็กที่ขี่หลังเด็กชายตัวโตยังแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำ เป็นภาพความทรงจำดีๆ ที่ไม่ว่าเวลาผ่านไปกี่ปีก็ไม่มีวันเลือนหาย ไม่ว่าจะหวนนึกถึงเมื่อไหร่ก็ต้องยิ้มออกมา

               หัวเข่าสองข้างของเด็กชายตัวเล็กถลอกปอกเปิก แต่เจ้าตัวดูเหมือนจะไม่ได้ทุกข์ร้อนเท่าไหร่ ยังส่งเสียงร้องเพลงอย่างอารมณ์ดี ผิดกับคนที่แบกรับน้ำหนักที่ทำหน้าเครียดราวกับว่าเป็นคนเจ็บเสียเอง

               “เจ็บมากไหมธรณ์” คนตัวโตกว่าเอ่ยถามน้องอย่างเป็นห่วง

               “เจ็บ แต่ธรณ์ทนได้” เจ้าตัวเล็กบอกหน้าชื่น พยายามยิ้มแย้มให้คนเป็นพี่คลายความเป็นห่วง

               แม้จะแบกร่างเล็กเอาไว้ แต่เด็กชายตัวโตก็พยายามเร่งฝีเท้าให้ถึงบ้านโดยไว จะได้รีบพาน้องไปล้างแผลทำแผล ถึงเด็กชายตัวน้อยจะไม่ร้องไห้โยเย แต่เด็กชายเขตแดนก็รู้ว่าน้องคงเจ็บไม่น้อย เพราะตอนพยุงน้องขึ้นมา น้องยังแทบทรุดลงไปกอง จนเขาต้องตัดสินใจให้น้องขี่หลัง

               “พี่เขตต์ ธรณ์ไม่อยากหายเจ็บเลย” เด็กชายตัวน้อยทำท่าจะงอแงในเรื่องที่ไม่ควร

               “ทำไมล่ะ ถ้าไม่หายแล้วจะเล่นด้วยกันยังไง ไม่อยากเล่นกับพี่เหรอ”

               “อยาก แต่ธรณ์อยากขี่หลังพี่เขตต์มากกว่า”

               เด็กชายเขตแดนเผลออมยิ้มออกมา ค่อยๆทอดฝีเท้าให้ช้าลง ไม่อยากบอกเลยว่า พี่ชายคนนี้ก็ชอบเวลาเจ้าตัวเล็กขี่หลัง บ้านอยู่ข้างหน้าอีกไม่ไกล แต่ทำไมไม่อยากให้มันถึงเลย อยากพาน้องขี่หลังไปนานๆ และเด็กชายเขตแดนคงไม่รู้ ถึงเด็กชายธรณ์จะชอบซ้อนท้ายจักรยานที่พี่ขี่ แต่ตอนนี้ที่ชอบมากกว่าคือการได้ขี่หลังพี่...ไม่ได้อยากแกล้งให้พี่ลำบาก แต่แค่อยากกอดพี่ไว้แน่นๆ




               สัมผัสแผ่วเบาที่แตะลงตรงมุมปาก เรียกให้คนที่นั่งเหม่อลอยอยู่ในห้วงภวังค์ของตนเอง ถึงกับสะดุ้งสุดตัว ธรณ์ทำหน้าเลิ่กลั่กก่อนจะพ่นลมหายใจออกจากปากอย่างโล่งอก เมื่อเห็นว่าเป็นปลายนิ้วของเขตแดนเองที่เอื้อมมือมาแตะมุมปากของเขา

               “มัวแต่เหม่ออะไรเนี่ยเรา กินเลอะเทอะหมดแล้ว”

               ถ้อยคำสำทับมาพร้อมกับปลายนิ้วที่เอื้อมมาเกลี่ยมุมปากอีกข้างอย่างอ่อนโยน ผิดแต่ว่าคราวนี้ผู้ถูกกระทำรู้สึกตัว ไม่ได้นั่งเหม่อลอยเหมือนเมื่อครู่ สัมผัสแผ่วๆที่นุ่มนวลจึงเรียกอาการร้อนวูบวาบให้บังเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย จนต้องเสหลบตา ก่อนจะยึดข้อมือของอีกฝ่ายไว้

               “เดี๋ยวผมเอากระดาษทิชชู่เช็ดก็ได้ครับ”

               เขตแดนเห็นอาการกระอักกระอ่วนของเจ้าตัว ก็ยอมปล่อยมือแต่โดยดี และถ้าเขาไม่ได้ตาฝาดและคิดเข้าข้างตัวเองมากไปนัก สีแดงๆบนแก้มขาวๆนั่นคงไมได้เป็นเพราะอากาศร้อนแน่ๆ เพราะเขาว่าตรงที่นั่งอยู่ลมมันก็โกรกเย็นสบายดี ธรณ์คงไม่น่าจะร้อนจนถึงกับหน้าแดง และถ้าไม่ได้ร้อนก็แปลว่า...


               เขิน!! ธรณ์กำลังเขินเขาอยู่จริงหรือ!?!


               ธรณ์คว้ากระดาษทิชชู่มาซับปากตัวเอง เสร็จแล้วก็อดมองซ้ายมองขวาไม่ได้ ว่าตนเองได้ตกเป็นเป้าสายตาของใครไปบ้างหรือเปล่า โชคดีที่ทุกคนมัวแต่สาละวนกับการรับประทานอาหาร จึงไม่มีใครยอมเสียเวลามาสนใจคนอื่น พอหันกลับมาก็ปรากฏว่า กุ้งเผาที่สั่งมา ถูกใครบางคนจับลอกคราบจนเหลือแต่เนื้อขาวๆอวบๆ แล้วจับมาวางใส่จานเขาหลายตัวแล้ว

               “พี่เขตต์ เดี๋ยวผมแกะเองก็ได้”

               “กินไปเถอะ พี่แกะให้แล้ว เอาปูด้วยไหม”

               ทั้งที่เป็นประโยคคำถาม แต่ดูเหมือนเขตแดนจะไม่ต้องการคำตอบ เพราะเขาจัดแจงคว้าปูมาแกะต่อเป็นที่เรียบร้อย ธรณ์เองก็ไม่ใช่ไม่ชอบ เขาชอบ...ชอบพี่เขตต์คนนี้ที่คอยเอาใจเขา ใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆ แม้จะเป็นเรื่องที่เขาทำเองได้ แต่พอมีคนมาทำให้ก็รู้สึกดีขึ้นมา

               “ทำแบบนี้เดี๋ยวคนอื่นเขาก็นึกว่าเราสองคนเป็นแฟนกันพอดี” ธรณ์พึมพำออกมาเบาๆ น่าแปลกที่คนฟังกลับรู้สึกขุ่นมัวกับประโยคที่ได้ยิน แม้จะรู้ดีว่ายังไม่มีสิทธิ์ใดๆก็ตาม

               “พี่ทำแบบนี้แล้วทำให้ธรณ์ลำบากใจใช่ไหม”

               ประโยคธรรมดาๆที่หลุดออกมาจากปากเขตแดน กลับทำให้ธรณ์รู้สึกผิด คล้ายกับกำลังถูกตัดพ้อต่อว่าอยู่ ชายหนุ่มเลยรีบส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัน

               “เปล่าซะหน่อย ผมแค่กลัวว่าเดี๋ยวคนอื่นจะเข้าใจพี่เขตต์ผิด”

               “แล้วธรณ์แคร์คนอื่นหรือเปล่า”

               คำถามเรียบๆถูกส่งออกมา แต่แววตาที่มองกลับเต็มไปด้วยความจริงจังอย่างที่ธรณ์ไม่เคยเห็น เขาไม่รู้ว่าเขตแดนหมายความว่าอย่างไร แต่ถ้าถามว่าธรณ์แคร์สายตาคนรอบข้างหรือเปล่า ชายหนุ่มก็ตอบได้เลยว่าไม่ เพราะถ้าเขาแคร์ เขาคงไม่ทำตัวเป็นเพลย์บอยที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่มานานหลายปี

               “ผมไม่แคร์คนอื่นหรอก”

               “พี่ก็ไม่แคร์คนอื่นเหมือนกัน”

               ธรณ์เสก้มลงสนใจปูสนใจกุ้งบนโต๊ะ มันก็แค่คำพูดธรรมดา แต่ทำไมเขากลับรู้สึกว่ามันมีความหมายลึกซึ้ง แล้วอาการหน้าร้อนผ่าวๆนี่มันอะไรกัน ธรณ์ อิสรพัฒน์ที่จีบผู้หญิงมานักต่อนักกลับมาใจเต้นเป็นส่ำ ทำตัวไม่ถูก มือไม้ไม่รู้จะวางไว้ตรงไหนกับแค่คำพูดประโยคเดียว

               ธรณ์ไม่เคยดูถูกหรือรังเกียจความรักระหว่างเพศเดียวกัน อาจจะเป็นเพราะเห็นจากคนใกล้ตัวอย่างชินดนัยก็เป็นได้ แต่ก็ไม่เคยคาดคิดว่าวันหนึ่ง...จากเรื่องใกล้ตัวจะกลายมาเป็นเรื่องของตัว ที่ผ่านมาก็ทำตามใจตัวเองมาตลอด

               จะเป็นอะไรไหม...ถ้าจะทำตามใจตัวเองอีกซักครั้ง


====================

[มีต่อนะคะ]

ออฟไลน์ Renze

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-25


               กินข้าวเสร็จเรียบร้อย ธรณ์ก็ขอให้เขตแดนแวะซื้อกางเกงว่ายน้ำ พอเขตแดนถามว่าจะเอาไปทำอะไร เลยได้คำตอบกวนๆกลับมาว่า...

               “ปกติกางเกงว่ายน้ำเขาเอาไว้ใช้ทำอะไรล่ะครับ”

               เขตแดนส่ายหน้านิดๆ ก่อนจะแวะร้านข้างทางแถวชายหาด แล้วก็ได้กางเกงขาสั้นมากันคนละตัว พอกลับถึงที่พัก ธรณ์ก็ขอตัวไปนอนเอนหลังทันที

               “บอกให้พี่แวะซื้อกางเกงว่ายน้ำ แล้วก็มานอนเนี่ยนะ”

               “ของีบเดี๋ยวเดียวเองครับ พอหนังท้องตึงแล้วหนังตาก็หย่อน”

               “ฮึ! ช่วยไม่ได้ อยากกินเยอะเอง”

               พอได้ยินประโยคที่เขตแดนพูด คนที่นอนอยู่เลยลืมตามาทำตาดุๆใส่ทันที

               “ไม่ต้องพูดเลย พี่เขตต์นั่นแหล่ะ ผมบอกว่าพอแล้วๆ ก็ยังจะแกะกุ้งแกะปูใส่จานผมอยู่นั่น สงสัยผมต้องว่ายน้ำนานแน่ๆกว่าของที่กินลงไปจะย่อยหมด” ธรณ์บอกก่อนจะเอามือลูบท้องตัวเองป้อยๆ

               “แค่นี้ก็ผอมจะแย่แล้ว จะลดไปถึงไหนกัน”

               “ออกกำลังกายครับ ไม่ได้ลดน้ำหนักซะหน่อย ให้มันเฟิร์มไง”

               เขตแดนหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงเอนหลังข้างๆธรณ์ มือหนึ่งก็คว้าเอารีโมทมากดเปิดโทรทัศน์ เขตแดนกดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ ความจริงแล้วเขาก็ไม่รู้จะดูอะไร ก็แค่หาอะไรทำฆ่าเวลารอคนที่บอกว่าจะของีบก็เท่านั้น

               “พี่เขตต์...” คนที่เขตแดนคิดว่าหลับไปแล้วร้องเรียกชื่อเขาเบาๆ

               “ว่าไงครับ”

               “เวลาที่ผมทำตัวแย่ๆ เคยเกลียดผมบ้างหรือเปล่า”

               “หึ! เด็กบ้าเอ๊ย...พี่จะไปเกลียดธรณ์ได้ยังไง ไม่ได้เกลียดหรอก แต่ไม่ชอบ ไม่พอใจ เรียกว่าโกรธคงถูกต้องกว่าล่ะมั้ง”

               เขตแดนไม่เคยนึกเกลียดธรณ์เลย เวลาที่รู้ว่าจากปากคุณธีรยุทธหรือพ่อของเขาว่าเจ้าตัวไปมีเรื่องชกต่อย แต่เขาโกรธ...โกรธธรณ์ที่ไม่รักตัวเอง ทำไมถึงได้เอาแต่ทำเรื่องโง่ๆ ธรณ์อาจจะต้องการทำตัวแย่ๆเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคุณธีรยุทธ เขตแดนอยากบอกเหลือเกินว่ามันก็ได้ผล เพียงแต่คนที่สนใจทุกเรื่องราวไม่ใช่แค่คุณธีรยุทธคนเดียว แต่ยังรวมถึงตัวเขาด้วย

               ช่วงที่ห่างหายกันไป คือช่วงที่คุณอัจฉราเพิ่งเสีย ธรณ์เริ่มเข้ามัธยม ส่วนเขตแดนเองก็เข้ามหาวิทยาลัย แต่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้พบเจอบ่อยๆเหมือนสมัยก่อน แต่เขตแดนก็ยังคิดถึงเด็กผู้ชายที่คอยวิ่งตามเขาเสมอ เพียงแต่เรื่องราวเกี่ยวกับธรณ์ที่รู้มาจากผู้เป็นพ่อและคุณธีรยุทธ ทำเอาเขาถึงกับไม่พอใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ธรณ์ถึงได้เปลี่ยนไปกลายเป็นเด็กเกเร

               “รู้ไหม ตอนที่พี่เขตต์เข้ามหาวิทยาลัย ผมโมโหไปช่วงหนึ่งด้วย ว่าทำไมอยู่ดีๆถึงได้หายไป”

               “จะบอกว่าที่ธรณ์ทำตัวแย่ๆก็เป็นเพราะพี่หรือไง”

               “ก็ไม่เชิงหรอก พ่อน่ะปกติก็ไม่ค่อยมีเวลาให้ผมอยู่แล้ว พอเจอผมก็ชอบพูดถึงแต่พี่เขตต์ จนผมยังไม่รู้เลยว่าตกลงแล้วผมหรือพี่เขตต์กันแน่ที่เป็นลูกพ่อ”

               “ธรณ์เลยไม่พอใจพี่ว่างั้นเถอะ”

               “ฟังผมพูดให้จบก่อนสิ พี่เขตต์ไม่รู้หรอกว่ามันรู้สึกยังไง จู่ๆคนที่เคยอยู่กับเราทุกวันก็หายไป ไม่ใช่แค่แม่นะ เรื่องที่แม่เสียผมก็พอทำใจได้ส่วนหนึ่งแล้วล่ะ เพราะแม่เองก็ไม่ค่อยแข็งแรงมาตั้งแต่แรก ผมก็ผิดเองที่ไปโทษพ่อ มันคงเป็นอารมณ์แบบเด็กๆ แต่พี่เขตต์นั่นแหล่ะ...พอเข้ามหาวิทยาลัยแล้วก็ห่างจากผมออกไปเรื่อยๆ” ความในใจที่เก็บสะสมมานานถูกถ่ายทอดออกเป็นคำพูดให้เขตแดนได้รับรู้ โดยไม่ทันรู้ตัว...เขตแดนเองก็เผลอยื่นมือไปรั้งธรณ์เข้ามาใกล้

               “พี่ขอโทษ ตอนนั้นพี่ก็ผิดเอง ทั้งๆที่พี่ควรจะอยู่ข้างธรณ์เวลาที่ธรณ์ต้องการพี่ แต่พี่ก็ไม่ได้ทำ”

               สังคมใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัยไม่ได้ทำให้เขตแดนลืมธรณ์ แต่มันทำให้เขาละเลยธรณ์ไปบ้าง เขตแดนรู้ว่าเขาเองก็มีส่วนเหมือนกันที่ทำให้ธรณ์ต้องกลายเป็นแบบนี้

               “ไม่รู้สินะ ตอนนั้นผมก็คงเด็ก คิดอะไรโง่ๆแบบเด็กๆด้วย ผมแค่ต้องการคนที่เข้าใจผม พอเพื่อนชวนไปไหนชวนไปทำอะไรผมก็ไป แรกๆพอโดนเรียกผู้ปกครอง ผมก็คิดว่าดีเหมือนกัน พ่อที่ไม่เคยมางานวันพ่อเลย อย่างน้อยก็ต้องยอมหยุดงานมาพบอาจารย์แน่ๆ ที่ไหนได้...กลับกลายเป็นลุงครามไปซะได้ ผมก็เลยคิดอะไรตื้นๆ อยากจะเอาชนะพ่ออย่างเดียว ว่าถ้าโดนเรียกบ่อยๆเข้า พ่อจะไม่มาซักครั้งเลยเหรอ แต่...เขาก็ไม่มาจริงๆ” ธรณ์แค่นหัวเราะออกมาเสียงขื่น

               การหยิบยกเรื่องราวในอดีตมาพูด ก็ไม่ต่างอะไรจากการกรีดหนองออกมาจากแผล แต่ถ้าไม่ทำอย่างนี้ก็คงไม่มีวันที่จะดีขึ้น มันอาจจะเจ็บปวดที่ต้องมาพูดถึงเรื่องที่ไม่อยากจดจำ แต่ถ้าไม่ทำอย่างนั้น ก็คงจะไม่มีวันได้เข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำลงไปมันเป็นเพราะอะไร

               “แล้วพี่...” คราวนี้คนพูดหันมาตวัดสายตาใส่เขตแดนอย่างเคืองๆ “พี่เขตต์ก็ไม่เคยถามผมเหมือนกันนั่นแหล่ะว่าทำไปทำไม พี่เขตต์เอาพ่อมาอ้างตลอด หาว่าผมทำตัวเหลวไหล ทำไมไม่คิดถึงพ่อ พ่อต่างหากที่ไม่คิดถึงผม พี่เขตต์ก็เหมือนกัน มีแต่ลุงครามที่เข้าใจผม”

               เขตยกมือเป็นเชิงยอมแพ้ เขาเองก็ตัดสินธรณ์จากความไม่รู้และความเข้าใจผิด นี่ใช่ไหม สาเหตุที่พ่อของเขาไม่เคยโกรธเวลาธรณ์ทำตัวไม่ดี เพราะพ่อรู้ว่าธรณ์ทำลงไปทำไม พ่อได้แต่สอนและอธิบายให้ธรณ์เข้าใจ แต่ตัวเขาล่ะ...เอาแต่ต่อว่าในสิ่งที่ธรณ์ทำลงไป

               อีกเรื่องที่เขตแดนไม่เคยรู้เลยก็คือ สาเหตุที่ทำให้ธรณ์คิดว่าเขตแดนเปลี่ยนไป มันคือทุกครั้งที่เขาไปบ้านของเขตแดน แล้วมักจะเจอเขตแดนอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่มหาวิทยาลัย เด็กชายได้แต่มองอยู่ห่างๆ พี่เขตต์ไม่เรียกเขาเข้าไปหา ไม่สนใจเขาเหมือนเดิม จักรยานที่เคยปั่นให้เขาซ้อน ก็เห็นพี่เขตต์ปั่นไปซื้อของกับเพื่อน มีแค่มืออุ่นๆของลุงครามที่แตะลงบ่าอย่างปลอบประโลม



               ‘มาอยู่กับลุงก่อนมา เดี๋ยวพี่เขาทำอะไรเสร็จแล้วก็มาตามธรณ์เอง’

               ‘ไม่เป็นไรครับลุงคราม ธรณ์กลับเลยดีกว่า’

               ‘ไป...เดี๋ยวลุงไปส่ง’ คุณสงครามบอกหลานชาย แล้วจึงตะโกนบอกลูกชาย ‘เขตต์! พ่อพาน้องไปส่งก่อนนะลูก’

               นักศึกษาหนุ่มพยักหน้ารับ ก่อนจะมุ่งมั่นกับรายงานตรงหน้า อยากทำให้เสร็จไวๆ คิดว่าน้องคงเข้าใจ แต่เขตแดนคงลืมไป ว่าธรณ์ในตอนนั้นไม่เหมือนเด็กชายธรณ์คนเก่า ธรณ์ที่เพิ่งเสียแม่ไป ต้องการใครซักคนมาอยู่ข้างๆ




               ลุงครามอาจจะแทนที่พ่อได้ เพราะลุงครามดูแลเอาใจใส่ธรณ์ยิ่งกว่าพ่อ แต่ที่ของเขตแดน...ไม่เคยมีใครแทนได้จริงๆ พอเขตแดนทิ้งที่ว่างข้างๆธรณ์ไป ธรณ์ก็ไม่เคยให้ใครเข้ามา ถึงชินดนัยกับอเล็กซ์จะเป็นเพื่อนรัก แต่ทั้งสองคนก็ไม่ใช่เขตแดนอยู่ดี และก็ไม่มีทางแทนกันได้

               “พี่ขอโทษครับ มันจะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว”

               “ช่างมันเถอะครับ เรื่องมันผ่านมาแล้ว ผมเองก็งี่เง่าด้วยเหมือนกัน” บทจะยอมรับ ธรณ์ก็ยอมรับออกมาง่ายๆทันที

               “ส่วนเรื่องอายุทธ พี่อาจจะเคยพูดมาหลายครั้งแล้ว แต่พี่ก็ยังอยากจะพูดอีก ความจริงแล้วอายุทธเขาไม่ได้ไม่รักธรณ์หรอกนะ เขาทำทุกอย่างก็เพื่อธรณ์ เขาไม่เข้าใจธรณ์ ไม่ได้แปลว่าไม่รักธรณ์นะ...”


               “ผมรู้ แต่ผมต้องการความรักของพ่อ ไม่ใช่เงินของพ่อหรือกิจการของพ่อ”


               “ช่างมันเถอะ เรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ได้แต่ทำวันนี้และวันต่อไปให้ดีกว่าเดิม”

               “พี่เขตต์เข้าใจผมแล้วใช่ไหม”

               “เข้าใจครับ แต่สัญญาก่อนได้ไหม ว่าธรณ์จะไม่ทำตัวแบบที่ผ่านๆมาอีก พี่ไม่ชอบเลย”

               “ครับ ไม่ทำแล้วครับ”

               รอยยิ้มแห่งความเข้าใจจุดประกายบนดวงหน้าของทั้งคู่ ไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก แค่ความไม่เข้าใจกันที่บ่มเพาะมานาน เอามาตัดสินความผิดถูกไม่ได้ สุดท้ายเมื่อเข้าใจกัน ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่มีอะไรมาทำให้ผิดใจกันอีก เมื่อวานคือบทเรียนของวันนี้ และวันนี้ก็คือบทเรียนของวันพรุ่งนี้

               ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขตแดนและธรณ์ทำลงไป ก็เป็นเพราะว่าต่างคนต่างแคร์กันและกันมาก ยิ่งสนใจมาก ก็ยิ่งจะคาดหวังมาก พอไม่เป็นอย่างที่หวัง ก็ยิ่งเจ็บมาก

               เพราะสนใจ เพราะคิดถึงอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ เขตแดนถึงได้โกรธ เวลาที่ต้องมารับรู้ข่าวคาวๆของธรณ์ โกรธคนที่ไม่เคยรักตัวเอง แต่ก็คงเป็นเพราะเขาเช่นกัน ทุกครั้งที่ห่วงก็เป็นต้องหยิบยกเอาคุณธีรยุทธขึ้นมาอ้าง เรื่องง่ายๆจึงกลายเป็นเรื่องยาก

               และเพราะสนใจเช่นกัน แม้ว่าผู้เป็นพ่อจะไม่อยู่คอยรับรู้พฤติกรรมเหลวแหลกของตนแล้ว แต่ธรณ์ก็ยังทำตัวเสเพล หมายจะให้คนที่รับหน้าที่เป็นผู้ปกครองคลั่ง เพื่อว่าจะมีซักครั้งที่ยอมบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาหากันบ้าง แม้สุดท้ายจะลงเอยด้วยความผิดหวัง

               แต่สุดท้ายแล้ว...อดีตมันก็ผ่านพ้นไป เหลือแค่ทำวันต่อไปให้ดีกว่าที่เป็นอยู่

               ความไม่เข้าใจก็เหมือนแค่กระจกใสบางๆที่มากั้น ที่ไม่ได้มีค่าเป็นเพียงสิ่งกีดขวาง แต่ยังเป็นเกราะกำบังเล็กๆของธรณ์ด้วย


               “พี่จะอยู่ข้างๆธรณ์ ถึงแม้ว่าธรณ์จะไม่อยากให้พี่อยู่”

   
               ก็แค่คำพูดธรรมดา ที่คนพูดหมายความทุกอย่างตามที่พูด คนฟังก็เพียงแค่เบือนหน้าออกไปมองนอกห้องบ้าง มองเฟอร์นิเจอร์ในห้องบ้าง แต่เสียงแผ่วๆที่ตอบออกมา รับประกันได้ว่ามันเข้าหูเขตแดนเต็มๆ


               “ก็อยู่ไปสิ ยังไม่มีใครมาแทนที่พี่เขตต์ซะหน่อย”


====================


               ท้ายที่สุด แผนการนอนกลางวันของธรณ์ก็ล่มไม่เป็นท่า กลายเป็นมานั่งรำลึกความหลังและปรับความเข้าใจกันประหนึ่งคนแก่ แต่ธรณ์ก็อยากจะยืนยันว่าเขายังไม่แกซักหน่อย

               “พี่เขตต์นี่พูดถึงความหลังเหมือนพวกคนแก่ๆเลยเนอะ”

               มือใหญ่ยื่นมาทำท่าจะผลักหัวคนช่างพูด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นขยี้หัวเบาๆ ให้คนถูกกระทำรีบจัดทรงผมให้เข้าที่เข้าทางเป็นการใหญ่

               “ธรณ์นั่นแหล่ะที่เป็นคนจุดประเด็น อย่ามาโทษพี่เลย”

               คนที่ประกาศว่าจะว่ายน้ำก็จัดแจงเปลี่ยนเป็นกางเกงว่ายน้ำเรียบร้อย ส่วนเขตแดนก็ขอบายตามระเบียบ ให้ธรณ์ได้มีโอกาสจิกกัดแบบแสบๆคันๆเล่น

               “พี่เขตต์แก่แล้ว ว่ายไม่ไหวก็ยอมรับมาเถอะ”

               เขตแดนแค่กระตุกยิ้มมุมปากออกมา คร้านจะเถียงคนที่เดินนำลิ่วไป เขาเนี่ยนะจะว่ายน้ำไม่ไหว ให้วิ่งไปตะครุบตัวคนปากดีตอนนี้ก็ยังทำได้ เพียงแต่ไม่อยากทำเท่านั้น ความจริงแล้วตอนที่ธรณ์รู้ว่าเขาจะไม่ว่ายน้ำ ธรณ์ก็บอกให้เขานอนเล่นที่บังกะโล แต่ก็เป็นเขตแดนเองที่ดึงดันจะมานอนเล่นที่ข้างสระว่ายน้ำ

               “จะมาดูสาวๆในชุดว่ายน้ำก็บอกผมมาเถอะ” พูดออกมาเองแท้ๆ แต่ธรณ์กลับรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาตงิดๆ ถ้าเกิดเขตแดนจะทำอย่างที่เขาพูดจริงๆ แต่ความขุ่นข้องหมองใจก็ละลายหายวับไปอย่างรวดเร็ว แค่เพียงประโยคเดียวที่เขตแดนพูดออกมา


               “มาเฝ้าเด็กต่างหาก”


               ไม่ได้บอกว่าเด็กที่ไหน แต่สายตาที่มองมาก็ไม่ต้องเดาผิดเดาถูกให้วุ่นวาย และมันก็ทำเอากล้ามเนื้อไม่รักดีที่อกซ้ายของธรณ์เต้นผิดจังหวะอีกแล้ว ชายหนุ่มจึงเสสะบัดผ้าขนหนูส่งให้เขตแดน ก่อนจะพุ่งตัวลงน้ำ ทิ้งให้คนยืนมองได้แต่อมยิ้มเจ้าเล่ห์

               ถ้ารู้ว่ารุกแบบนี้แล้วธรณ์จะไปต่อไม่ถูก เถียงต่อไม่ได้ เขาทำแบบนี้นานแล้ว ไม่เสียเวลาไปลับฝีปากกันให้ความดันขึ้นเด็ดขาด

               คนที่กระโดดลงน้ำมาอย่างสวยงาม ก็พยายามใช้สายน้ำเย็นๆทำให้ตัวเองสงบลง พอได้ว่ายน้ำ ธรณ์ก็เหมือนจะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ชายหนุ่มว่ายไปกลับ จากขอบสระอีกฝั่งไปแตะขอบสระอีกฝั่ง ว่ายซ้ำอยู่หลายรอบก่อนจะหยุดพัก แล้วลอยคอมาจะเกาะขอบสระตรงที่เขตแดนนั่งอยู่ ยังไม่ทันจะถึงขอบสระก็ต้องหน้าหงิกทันทีกับสิ่งที่ปรากฏแก่สายตา


               ผู้หญิงที่อยู่กับเขตแดนเป็นใคร?


               ตั้งแต่กลับมาจากต่างประเทศ ธรณ์ยังไม่เคยเห็นเขตแดนไปไหนมาไหนกับผู้หญิงคนไหน หรือพูดให้ถูกอีกอย่างคือ เขามั่นใจว่าเขตแดนไม่มีแฟนและไม่มีใครแน่ๆ ไม่ว่าก่อนหรือหลังจากที่เขากลับมาจากต่างประเทศก็ตาม ถึงจะเคยบอกตัวเองว่า ‘รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง’ แต่ถ้าพูดกันตามตรงก็ต้องยอมรับเลยว่า ที่ธรณ์สนใจเรื่องของเขตแดน แม้ตอนนั้นจะยังมีอคติเต็มเปี่ยม ก็เป็นไปเพราะความอยากรู้เพียงอย่างเดียวเลย

               เอื้อมมืออีกแค่นิดเดียวก็จะแตะขอบสระ แต่เห็นเขตแดนก็กำลังคุยกับใครอยู่ก็ไม่รู้ ธรณ์ก็เกิดลังเล ว่าแต่แล้วทำไมเขาจะต้องไม่พอใจด้วย หน้ายิ้มๆของเขตแดนนั่นก็เหมือนกัน เห็นแล้วมันทำเอาธรณ์หงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

               ไม่ปล่อยให้ความสงสัยครอบงำนาน ธรณ์เปลี่ยนเป้าหมายจากขอบสระเป็นบันไดทันที เสร็จแล้วก็เดินตรงไปหาเขตแดนกับใครอีกคน พอเขาเข้าไปใกล้ เขตแดนกับผู้หญิงคนนั้นก็หันมา ก่อนประโยคเดียวที่หลุดออกมาจากปากเขตแดนจะทำเอาธรณ์ตัวชา เหมือนถูกไม้หน้าสามฟาดเข้ากลางแสกหน้า


               “ที่รัก นี่ไงธรณ์...ธรณ์ อิสรพัฒน์จำได้ไหม?”


TO BE CONTINUE



๐ หวานเรี่ยราดอีกตอน อย่าเพิ่งเลี่ยนกันนะคะ เดี๋ยวแจกไบกอนให้เอาไปฆ่ามด ส่วนหลังปีใหม่...อย่าลืมมาต่อคิวรอรับมาม่ากันนะคะ
๐ ว่าจะพยายามเข็นให้ได้อีกตอนก่อนปีใหม่ แต่ไม่รับปากนะคะ ชีวิตไม่มีความแน่นอนเอาซะเลย T^T มาๆหายๆเป็นระยะ
๐ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ งึ๊ด...ดีใจที่ยังรอ ถึงจะมาต่อช้ามาก ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ คนอ่านมีความสุขกับนิยาย ส่วนเรามีความสุขกับคอมเม้นท์  :กอด1:



ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
หวังว่า 'ที่รัก' คงเป็นแค่ชื่อของสาวคนนั้นนะ  :m29:



มาม่าจะมาแล้วหรอ?  :a5:

ออฟไลน์ Mengjie_JJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
o22

ชื่อเล่น ชื่อที่เพื่อนๆเรียกกันในกลุ่ม หรืออะไรก็ตาม

มันทำให้น้องธรณ์ อึ้งกันไปเลยทีเดียว

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
ชื่อ สิน่ะะ   o22 o22 o22 o22

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
เป็นชื่อแน่ๆ หรือไม่ก็เรียกกันเล่นๆ

น้องธรณ์อย่าเพิ่งคิดไปไกลน้า

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1
 :a5: ที่รักอะไร ยังไงเนี่ยยย  :z3:

countryside_69

  • บุคคลทั่วไป
 ตึ่ง !
o22 o22 o22
 แรกได้ยินคงเกินบรรยายความรู้สึกได้
 :sad5: :sad5: :sad5:

chae

  • บุคคลทั่วไป
ชื่อเล่นทำเอาใจหายกันเลยอ่ะ
หวานๆบ้าง อย่าดราม่ากันเยอะเลยน้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
ที่รักคือใคร มาจากไหน
ตอนแรกๆกำลังหวานแล้วแท้ๆ
มาขัดเอาประโยคสุดท้ายเนี่ยแหล่ะ

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
ที่รัก ต้องเป็นชื่อของผู้หญิงคนนั้นแน่ๆ ไม่มีนัยใดๆใช่ไหม??

ordinary

  • บุคคลทั่วไป
มันน่าดักตีหัวพี่เขตต์จริงๆมาทำให้น้องหึง  :m16:
แต่เดาว่าผญนี่คืออาจจะชื่อที่รักก็เป็นได้555

รอมาม่านะคะแต่อย่าายลังนะเค้ากลัว
เป็นกำลังใจให้นักเขียนค่ะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
ที่รัก หรอ ??


มันไม่ค่อยใช่น่ะ ..!!!  :m16:

ออฟไลน์ honeyhoon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
พี่เขตมา :-[
ที่รัก ผู้นั้นเป็นใครนะ......

 :angry2:

คนแต่งทิ้งปมไว้ น่าตีจริงๆ o22

บวกเป็ดคร้าบบบบบบบ

ออฟไลน์ Sorso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-3
ตึ่งโป๊ะ!!

หวานไม่ทันไร กลิ่นมาม่ามาอีกแล้วววว

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
"ที่รัก"   มันคือใคร?  ไม่อยากกินมาม่าแล้วอ่ะ

อยากได้ของหวานแทน   :serius2:

ออฟไลน์ yaoigirl

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ไม่อยากกินมาม่าอ่ะ คนแต่ง จะเอาหวานๆๆๆ

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
หืม ที่่รักอะไรของพี่เขตคะ หรือจะเป็นเพื่อนสนิทของพี่เค้า
บรรยากาศกำลังดี๊ดี หยอดกันไปมา รำลึกถึงอดีต
ชอบตอนที่ธรณ์คิดว่าไม่มีใครมาแทนพี่เขตได้แม้กระทั่งเพื่ือนสนิททั้งสองคน
รอลุ้นตอนหน้าจ๊ะ

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
ยังไงกันล่ะเนี่ย

 o22

 :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
ที่รักที่นี่ใครกันเนี่ย

กำลังหวานกันเลย

รอยยิ้ม

  • บุคคลทั่วไป
ที่รัก มาคิดๆดู เหมือนจะพอเดาออก มั้งนะ
พี่เขต น้องธรณ์ตอนนี้น่ารัก ปรับความเข้าใจกันแล้ว ดีจัง มีหวานๆ พี่เขตแอบหยอดบ้าง โอ๊ย ^///^   :-[
ลางมาม่ามาแล้ว พึ่งหวานๆกันเองนะ หวังว่าคงไม่มีอะไร
รอตอนต่อไปค่ะ   :pig4:

ออฟไลน์ withmeto_PJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0
โอยยยย กำลังหวานนนนกันเลย ใครก็ไม่รู้โผล่มาอีกแล้วว
แล้วนี่คนคนนั้นเปนใคร ค้างงงเลยค่ะ T^T ฮืออออ

ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ เรายังคงติดตามเรื่องนี้อยู่ ชอบบๆๆค่ะ รอนะค๊า

ออฟไลน์ pharm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ที่รัก นี่ชื่อผู้หญิงคยยั้ยป่าว

ธร อย่าเพิ่งงอนพี่เขตสิ 55

ออฟไลน์ mro

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
ชอบบง่ะ

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
นี่เพิ่งสร้างรักหรอกเหรอ เราอุตส่าห์คิดว่าถึงตอนเรียกรักกลับรังแล้วเสียอีก  :a5:

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
พ่อเขตพ่อธรณ์เป็นคนรักกันใช่ไหมนะนั่น แล้วที่ชินเกรงว่าธรณ์จะเจ็บปวดถ้ารักเขตก็คงเพราะว่าพ่อเขตก็เหมือนเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พ่อธรณ์ละเลยแม่ธรณ์หรือเปล่า พี่ชินชินรักกันแล้วพ่อแม่รู้หรือเปล่านะนั่น เขตธรณ์ยอมรับความรู้สึกตัวเองแล้วสินะ แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แล้วพ่อเขตไม่บอก ชินไม่บอกเรื่องที่ปิดไว้ แต่แม่เขตล่ะ น่าสงสัยจัง

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
เค้ารางของความสุข  มันมีแค่งูแลบลิ้นเท่านั้นมั่ง
คนทั้งสองยังต้องเจอกับแรงกดดันอะไรอีก มาลุ้นกันต่อ
ตอนนี้หวานแบบเย็น ๆ รอตอนร้อนแรงดีกว่า  :z2:
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ Merry Christmas ครับ

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
ที่รักคนนั้นเป็นใครๆๆๆๆๆๆ!!!!!   :serius2:

++++++++++++

ขอบคุณค่ะ
เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ ^^

 :L2:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด