(ความเดิม)
.......วันนั้นผมจำได้ว่าเป็นเย็นวันศุกร์กลางเดือนมิ.ย. XX ก่อนเลิกทำกิจกรรมประจำวัน รุ่นพี่คนหนึ่งได้เรียกพวกเรามารวมกันและแจ้งให้ทราบว่าคืนนี้จะมีพิธี "ยกเสาลงหลุม" ที่บ้านเจ๊แมวในตัวเมือง ตกเย็นพวกเรารวมตัวกันไปนั่งกินและดื่มจนได้ที่แล้วพี่ๆ ก็พากันยกโขยงไปเที่ยว "บ้านเจ๊แมว" ผมและเพื่อนๆ หลายคนรู้สึกตื่นกลัวและประหม่าจนทำอะไรไม่ค่อยถูกแต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธ ผมขึ้นห้องกับสาวนางหนึ่งและเสร็จอย่างรวดเร็ว เมื่อออกมาจากห้องผมก็บอกกับรุ่นพี่คนหนึ่งว่าผมขอกลับหอก่อนเพราะรู้สึกไม่สบาย ร่ำลากันแล้วผมก็เดินลัดเลาะออกจากซอยที่บ้านหลังนั้นตั้งอยู่ เดินไปเรื่อยๆ จนถึงถนนใหญ่ที่มีไฟตามทางสลัวๆ ขณะที่ผมหยุดยืนเพื่อหารถกลับหออยู่นั้นก็มีแสงไฟจากรถตรวจการณ์คันหนึ่งซึ่งแล่นมาอย่างช้าๆ และเปิดไฟส่องมาที่ตัวผม... เมื่อมาหยุดอยู่ตรงหน้าก็มีเสียงถามจากในรถว่า
"ค่ำมืด ดึกดื่นแล้ว มาทำอะไรแถวนี้หือม์น้อง"? บทที่1 (ต่อ)
ผมกำลังหารถกลับหอครับ ผมตอบคำถามพร้อมกับมองไปยังร่างของเจ้าของเสียงนั้น ซึ่งเป็นนายตำรวจหนุ่มใหญ่ในชุดเครื่องแบบดูน่าเกรงขาม
"เฮ้ย..ดึกป่านนี้แล้วมายืนหารถอะไรแถวนี้ โน่นต้องเดินไปที่ตลาดโน่นอีกไกลเป็นกิโลฯ ถึงจะมีรถ เอ้ามาขึ้นมานั่งด้วยกันประเดี๋ยวพี่ไปส่งให้แล้วกัน"
ผมก้าวขึ้นนั่งเคียงคู่เบียดกับร่างนายตำรวจหนุ่ม ความแคบของพื้นที่ทำให้เขาต้องเอามือพาดพนักพิงในลักษณะโอบคอผม ไออุ่นจากเรือนร่างของเขาทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นและซาบซ่านไปทั่วร่างอย่างประหลาด ผมเริ่มสังเกตุและสำรวจดูรูปร่างหน้าตาของเขาได้อย่างเด่นชัดขึ้น หน้าตาของชายวัย30กว่าๆ ใกล้40 ดูดุๆ เพราะความเข้มของขนคิ้วและหนวดที่ดกหนาบริเวณริมฝีปาก รูปร่างที่บึกบึนแข็งแกร่งดูรวมๆ แล้วจัดว่าเป็นคนหล่อและ บุคคลิกดีคนหนึ่ง
"น้องคงไม่ใช่คนที่นี่แน่ ท่าทางคงมาเรียนที่มอ...ใช่ไหม? "
ครับท่าน...
ท่านเทิ่นอะไรกัน เรียกพี่แล้วกัน เออ...จ่าขับรถไปจอดที่โรงพักแล้วกัน เดี๋ยวออกเวรแล้วผมจะไปส่งน้องคนนี้เค้าเอง เขาหันหน้าไปสั่งลูกน้องซึ่งทำหน้าที่พลขับ สักครู่รถตรวจการณ์คันนั้นก็มาจอดอยู่หน้าสถานีตำรวจภูธรฯ
น้องนั่งรอพี่ในรถนี่สักเดี๋ยวนะพี่ไปลงบันทึกก่อน เขาหายเข้าไปในสถานีฯ สักพักแล้วกลับออกมาในชุดแบบครึ่งท่อน ก้าวขึ้นรถและขับออกจากสถานีฯ หิวหรือปล่าวน่ะเรา หือม์? แต่พี่หิวนะ เดี๋ยวเราแวะหาข้าวต้มกินกลางทางแล้วกัน พูดเองเออเองเสร็จ ผมยังไม่ได้ตอบอะไรเลย ....
ชื่ออะไรน่ะเรา? เรียนคณะไหน? เออ...เรียกพี่ว่า "พี่ชัย" ก็แล้วกันนะ
ผมตอบคำถาม และแอบชำเลืองดูท่างทางของเขา เขาดูผ่อนคลายและมีอารมณ์ขัน พูดคุยสนุกดูต่างออกไปจากตอนที่กำลังปฎิบัติหน้าที่ นี่แหละน๊า เสน่ห์ของคนในเครื่องแบบ...
เราจอดรถแวะกินข้าวต้มที่ร้านริมทางเสร็จ พอขึ้นรถ พี่ชัยก็หันมาบอกผมว่า "นัทคืนนี้นอนค้างที่บ้านพักพี่แล้วกันนะดึกแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าพี่ไปส่ง"
ผมนั่งงง ไม่ทันรู้ว่าจะตอบยังไงดี เขาไม่รอคำตอบขับรถตรงไปยังบ้านพักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีฯ ทันที เรือนพักของเขาเป็นอาคารชั้นเดียวตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีชุดรับแขกไม้พร้อมเบาะรองนั่งตั้งอยู่กลางห้อง มีห้องครัวเล็กๆ และห้องน้ำติดกับห้องนอนขนาดไม่ใหญ่แต่ก็ดูสบายๆ น่าอยู่
"เมียพี่ไม่อยู่หรือครับ?" ผมโพล่งคำถามออกไปดุ่ยๆ งั้นเอง
เฮ่ย...พี่ยังไม่มีเมีย มีแต่แฟนอยู่ที่กรุงเทพฯ ยังไม่ได้แต่งงานกัน ปีๆ เจอกันไม่กี่หนหรอก เค้าไม่ชอบต่างจังหวัดว่ะ เสียงพี่ชัยเริ่มมีความสนิทสนมมากขึ้น เอ้าไปอาบน้ำไป๊ เขาพูดพร้อมกับโยนผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ให้ผม
ผมถือผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำไป คิดไปด้วยความรู้สึกสับสนพอสมควร ออกมาเห็นพี่ชัยนั่งสูบบุหรี่อยู่ในชุดผ้าขาวม้าตาหมากรุกสีแดงเปลือยแผงอกที่เต็มไปด้วยขนขึ้นเป็นทางเลื้อยลงไปจนถึงด้านล่างแล้วรู้สึกอารมณ์วาบหวิว อย่างบอกไม่ถูก
พี่วางกางเกงแพรอยู่ที่ปลายเตียงไว้ให้นัทแล้ว นัทนอนก่อนนะเดี๋ยวพี่อาบน้ำแล้วจะตามไปนอนด้วย นอนสองคนบนเตียงเดียวกันคงไม่รังเกียจนะ พี่ไม่นอนกรนหร๊อก.....
ผมนอนลืมตาโพลงอยู่ในความมืด สักครู่ใหญ่ขณะที่เริ่มจะเคลิ้มหลับ ก็รู้สึกว่ามีคนมานอนอยู่ข้างๆ ร่างนั้นนอนตะแคงข้างหันหน้ามาที่ผม จนลมหายใจเคล้ากลิ่นเหล้าและกลิ่นสาบบุหรี่อ่อนๆ โชยมากระทบหน้า
เออ...พี่ลืมบอกนัทไปว่า ถึงพี่ไม่นอนกรน แต่พี่ชอบนอนก่ายนะครับ ว่าพลาง พี่ชัยก็ยกขาก่ายมาที่ร่างของผม ผมนอนเกร็งตัวแข็งทื่อ รู้สึกตัวอีกทีนึงกางเกงแพรที่นุ่งอยู่ลงไปกองอยู่ที่ปลายเท้าแล้ว พี่ชัยประทับปากประกบปากผม จูบอย่างดูดดื่มและพรมจูบโลมไล้ไปทั่วเรือนร่างที่สั่นสะท้านไปทั้งตัว ผมยอมรับว่าผมเป็นคนชอบเพศเดียวกัน แต่ทั้งชีวิตผมยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกันเลย ได้แต่เพ้อฝันและเก็บกดทั้งอารมณ์และความรู้สึกไปวันๆ เท่านั้น
คืนนั้นผมและพี่ชัยร่วมรักก้นอย่างมีความสุข พี่ชัยสอนการทำรักให้ผมทุกอย่าง เราต่างผลัดกันปรนเปรอความสุขให้กันและกันอย่างเต็มที่ สิ่งที่ผมไม่เคยทำมาก่อนเลยในชีวิต ผมได้ "ขึ้นครู" แล้วในคืนนั้น.....
ความสัมพันธ์ระหว่างพี่ชัยกับผมเริ่มสนิทแนบแน่นและกลายเป็นความรักที่ดูดดื่มจนในที่สุดผมตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่ร่วมบ้านเดียวกับพี่ชัยในฐานะ "น้องชาย" จากกรุงเทพฯที่มาเรียนหนังสือที่จังหวัดนี้....
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จบบทที่ 1 แล้วครับ ชอบกันมั่งเปล่า
ปล. แอบไซโค นิดๆดีก่า ให้เดาดูว่าเหตุการณ์น่าจะเป็นไงต่อ เหอๆ
อ้าวนัท มานี่ซิ มารู้จักพี่กุ้งหน่อยเร็ว กุ้งนี่ไงนัทน้องชายที่พี่เล่าให้กุ้งฟังไงล่ะ เอ่อ...ทำความรู้จักกันซะ.... 
.
.
.
.
....ผมยกมือไหว้พี่กุ้ง พี่กุ้ง...ผู้หญิงที่พี่ชัยเคยเล่าให้ผมฟังว่าคบหาอยู่ที่กรุงเทพฯ
.
.
.
นัท... นัทก็รู้ดีนี่นาว่าพี่มีอาชีพอะไร? และเราอยู่ในสังคมของใคร?

วิ่งหนีดีก่าตู
