Coldness Town....เพราะหัวใจ ไม่เคยลืม [ตอนที่ 52 Coldness Town] จบแล้วจ้า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Coldness Town....เพราะหัวใจ ไม่เคยลืม [ตอนที่ 52 Coldness Town] จบแล้วจ้า  (อ่าน 52574 ครั้ง)

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
เข้มข้นมากตอนนี้ เรื่องมันช่างสลับซับซ้อน
พลิกแพลง  เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ

ออฟไลน์ srikoon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 530
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-6
ซับซ้อนซ่อนเงื่อน

ผูกมากๆ จะแก้ไม่ไหว

ออฟไลน์ M2M_Jill

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
ตอนที่ 30 Watching You

   ก่อนจากกันในวันนั้น เอิร์ธเซ้าซี้ขอตารางนัดหมายที่เกี่ยวข้องของจีโอและเจนจิราไปจนได้ ถึงแม้ว่าวินจะยืนยันว่าถ้าหากเจนจิรารู้ว่าเขาแอบก๊อปปี้แล้วเอาให้เอิร์ธ รับรองได้ว่าเธอคงจะถลกหนังเขาไปตัดเสื้อแน่ๆ แต่ก็นั่นแหละ เอิร์ธก็สามารถเอามันไปได้ในที่สุด โดยที่ยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าเจนจิราไม่มีทางรู้แน่ๆ ในความเห็นของเอิร์ธตอนนี้ เขาจะจัดฉากหวานซึ้งให้เกิดขึ้นกับเจนจิราและจีโอ ให้อย่างเต็มสตรีม มันจะเป็นยิ่งกว่าสิ่งเกินความคาดหมายทั้งหมด แถมมันยังคุ้มเกินคุ้มที่เขาจะใช้ครั้งนี้แก้เผ็ดเจนจิราไปเลยในคราวเดียวสำหรับเรื่องวุ่นวายที่เคยเกิดขึ้นกับเขาและพี่ๆที่เขารัก ในสตูดิโอสาม Lovable Studio
   ย้อนกลับไปซักประมาณหนึ่งปีก่อน เอิร์ธเดินหน้าเข้าฝึกงานที่สตูดิโอมีชื่อแห่งหนึ่งที่กรุงเทพ Lovable Studio ที่นั่นเขาได้พบกับพี่ๆที่น่ารักสามคน และมีโอกาศได้เข้าร่วมงานประกวดใหญ่พร้อมๆกับพี่ๆในโปรเจ็คเดียวกัน โปรเจ็คนั้นทำให้เขารู้จักกับเจนจิรา ที่ปรึกษาคอร์สแฟชั่นที่เขาเทคไปสามเดือนที่ Esmod เธอเป็นสไตลิสมีชื่อ นอกจากนั้นแล้ว เธอยังเป็นแม่มดตัวแสบ ที่ร่ายเวทย์ทำให้พี่ๆทั้งสามของเขาต้องหัวปั่นมาแล้ว เจนจิราคนนี้ ทำให้เขาเรียนรู้ว่า สายอาชีพนักออกแบบยังมีคนที่ใช้ความเห็นส่วนตัวเป็นบรรทัดฐาน และแน่นอนว่าเธอคือผู้หญิงที่ทำได้ทุกอย่าง เพื่อให้เป้าหมายของเธอบรรลุผล นั่นรวมถึงการใช้คนอื่นๆเป็นเครื่องมือ ซึ่งตัวเขาเอง ก็เคยเกือบเป็นส่วนหนึ่งของเกมส์บ้าบอนั้นของเธอตลอดปีนั้น โชคดี เธอไม่ได้ลงมาลึกพอที่จะรู้จักเขา แต่เรื่องที่เธอสร้างขึ้น ก็ส่งผลกระทบกับเขาโดยตรง
   หลังจากแยกกับเอิร์ธแล้ว วินนำแบบงานทั้งหมด ขึ้นไปเสนอกับพี่สุเมธ เขาทำได้เพียงทิ้งมันเอาไว้ พี่สุเมธไม้เข้าออฟฟิศตลอดทั้งอาทิตย์ กว่าจะกลับมาอีกที ก็คงหลังจากที่จีโอตกลงรับข้อเสนอจากทางซูเม่และเซ็นสัญญา วินยอมรับว่าเขาร้อนรนอยากให้วันนั้นมาถึงเร็วๆเสียที
   ชายหนุ่มเดินออกจากซูเม่เพื่อไปทำงานที่ร้านเกล็ดหิมะตามปกติ วันนี้ลมเย็นๆแห่งฤดูใบไม้ผลิพัดมาให้รู้สึก สายลมที่เปลี่ยนทิศ เหมือนกำลังจะบอกอะไรอย่างนึงที่วินไม่รู้ตัว มันเป็นสายลมที่แอบมีความร้อนพัดผนมาด้วย บางทีเมืองนี้ในตอนนี้มันไม่ได้หนาวเย็นอีกต่อไปแล้ว อากาศกำลังเปลี่ยน วินรับรู้ได้ถึงบางอย่างที่แอบแฝงตัวเองอยู่รอบๆตัว มันมีอะไรบางอย่างที่ไม่น่าไว้วางใจ หลายต่อหลายครั้งที่เขารู้สึกว่าอะไรๆที่เขาคิดมันอาจจะง่ายดายเกินไปก็ได้
   เลี้วขวาเดินเข้าสู่ร้านเกล็ดหิมะ เปิดประตูเข้าไปตามความเคยชิน กล่าวทักทายเด็กเสิร์ฟคนอื่นๆตามปกติ พลางมองไปยังบาร์ดริงค์ที่อยู่ตรงหน้า ชายคนหนึ่งในชุดบาริสต้าทำงานอยู่ตรงบาร์ เจ๊ใหญ่คงสามารถหาคนมาทำงานกะกลางวันได้ซักที ไม่เช่นนั้นปีเตอร์คงต้องวิ่งวุ่นเสิร์ฟและชงกาแฟไปด้วยตอนช่วงที่เขาไม่อยู่ หมอนั่นบ่นออดแอดมาหลายเดือนนับตั้งแต่....
   “มาแล้วเหรอครับ"
   วินถึงกับหยุดชะงักและมองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ชายหนุ่มในชุดบาริสต้าคนนั้นราวกับดึงเวลาที่เขาเคยรับรู้และสัมผัวได้ย้อนหลังกลับไปทั้งหมด ใบหน้าที่หล่อเหลาคมคาย และดวงตาที่เฉยเมยคู่นั้น อยู่ภายใต้ชุดบาริสต้าชุดเดิมสีดำสนิท ไม่ได้ต่างจากวันแรกที่เขาเข้ามาที่นี่ ต่างกันก็แต่รอยยิ้มที่ปรากฎขึ้นและส่งมาให้เขาตอนนี้
   “ก...ไก...ด์" วินพูดตะกุกตะกักเบาๆ พลางหันซ้ายหันขวาและรุดมานั่งลงที่บาร์ตรงหน้าไกด์ ไกด์เลิกคิ้วมองวินและยิ้มกว้าง "เห้ยไกด์....เอ่อ..คือ...ต้องเป็นก้องสิ..นี่นาย"
   “เรียกไกด์ก็ได้" ไกด์ว่า พลางเริ่มต้นชงกาแฟ "เจ๊ใหญ่รู้เรื่องหมดแล้ว"
   “ห๊ะ อะไรนะ" วินว่าพลางยิ้มให้วินอย่างไม่เชื่อสายตา "นายกลับมาทำงานที่นี่แล้วก็เล่า...”
   “ใช่" ไกด์ว่า "มัวแต่ทำหน้าตกใจอยู่ได้น่า รีบไปเปลี่ยนชุดไป เดี๋ยวค่ำๆคนเยอะนะ"
   วินทำหน้าไม่เชื่ออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าไปหลังร้านเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อเป็นชุดบาริสต้า ไกด์มองตามวินไปพลางยิ้มให้กับตัวเอง พอดีกับที่มีคนอีกคนเดินตามเข้ามาในร้าน และนั่งลงที่เก้าอี้ตัวสุดท้ายของบาร์ดริงค์ ไกด์เดินไปหาผู้ชายคนนั้นทันที
   วินออกมาหน้าร้านด้วยชุดบาริสต้าเช่นเดียวกับไกด์ แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะแวะทักทายเจ๊ใหญ่และพูดคุยกันเรื่องการกลับมาของไกด์ เจ๊ถามวินอย่างซักไซร้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับก้อง เธอคิดว่าไกด์จะต้องไปเจออะไรมาจนเสียสติแน่ๆ ที่อยู่ดีดีก้องก็เดินเข้ามาในร้านแล้วบอกกับเธอว่าที่จริงแล้วเขาชื่อไกด์และขอทำงานกับเจ๊ใหญ่ต่อไป วินถามไถ่จนรู้ว่าไกด์เองก็ไม่ได้เล่าความจริงทั้งหมดให้เจ๊ใหญ่ฟัง เขาบอกเจ๊ว่าตัวเองเป็นนักธุรกิจอิสระ อยากจะใช้เวลาดีดีที่เมืองนี้และอยากช่วยเหลือร้าน และลองแกล้งปลอมตัวมาเป็นคนไทยตัวเล็กๆ เพื่อดูว่าร้านนี้จะปฏิบัติกับเขายังไง แน่นอนว่าเจ๊ใหญ่เชื่อเรื่องนี้ของไกด์อย่างเต็มรัก เจ๊ใหญ่รักร้านนี้และยึดมั่นกับจุดประสงค์การช่วยเหลือคนไทยที่นี่เป็นอย่างมาก เธออ้าแขนรับความจริงของไกด์ข้อนี้อย่างเต็มอก วินจึงไม่ขอเอาความจริงที่จริงยิ่งกว่ามารบกวนความสบายของทั้งคู่ จึงได้แต่ช่วยยืนยันกับเจ๊ใหญ่ พลางบอกว่าไกด์ก็เพิ่งบอกความจริงเรื่องเดียวกันนี้กับเขามาไม่นานเหมือนกัน และที่เขายังไม่บอกเธอ ก็เพราะว่าอยากให้ไกด์เป็นคนบอกเจ๊ใหญ่ด้วยปากของตัวเองมากกว่า
   วินออกจากหลังร้านมาประจำที่ที่บาร์ดริงค์เคียงข้างไกด์ ชายหนุ่มรู้สึกดีเอามากๆ เมื่อเห็นไกด์และตัวเองอยู่ในชุดบาริสต้าเหมือนกัน ไกด์ยิ้มให้วินเบาๆ เมื่อเข้าใจว่าวินกำลังคิดอะไร แม้ว่าทั้งคู่จะมองตากันอยู่นานเสียจนลูกค้าชาวฝรั่งเศสรายหนึ่งถึงกับเคาะบาร์เบาๆเพื่อสั่งอาหาร ไกด์ทำท่าเงอะเงิ่นอยู่พักหนึ่งก่อนจะหันหลังกลับไปรับออร์เดอร์ วินขำเบาๆกับเหตุการณ์นั้น ก่อนจะเริ่มลงมือทำงานโดยการเทเม็ดกาแฟสดจากถุงลงเครื่องบด พลางมองไปยังชายหนุ่มที่นั่งอยู่ริมสุดของบาร์ วินรู้สึกถึงออร่าบางอย่างส่งสัญญาณออกมาจากร่างของผู้ชายคนนั้น เขาสังหรณ์ใจบางอย่างชอบกล แต่ด้วยจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น วินจึงต้องเริ่มเร่งมือทำงานมากขึ้น
   ล่วงเลยเวลาไปเกือบชั่วโมงกว่าๆ ที่วินและไกด์ได้ใช้เวลาร่วมกันหลังบาร์เพื่อทำหน้าที่บาริสต้า กลิ่นหอมอบอวลของกาแฟสดที่บดเอาความหอมกรุ่นอันอบอุ่นเสิร์ฟให้กับหนุ่มสาวชาวฝรั่งเศสที่ผ่านไปผ่านมา ทำให้เวลารอบตัวของทั้งคู่หมุนไปช้าๆ ตั้งแต่เมื่อเช้าที่วินตื่นขึ้นมาด้วยร่างที่เปลือยเปล่า เขารู้สึกเขินอายเกินกว่าจะปลุกไกด์ขึ้นมาเพื่อพูดคุยหรือบอกอรุณสวัสดิ์ วินอาบน้ำแต่งตัวอย่างเงียบเชียบ และออกไปซูเม่อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเขากลับมาเจอไกด์อีกครั้งในตอนเย็นนี้ ไกด์เองก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรที่ดุเหมือนจะระลึกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้ต่อวิน เขาทั้งคู่ทำงานกันไปเรื่อยๆอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด พร้อมกับมอบรอยยิ้มให้กันทุกครั้งที่ต้องเดินมาเจอกัน ส่งแก้วกาแฟให้กัน หรือแม้แต่ตอนยกถังน้ำร้อน วินคิดว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยสัมผัสมา มันเหมือนกับเขาได้ย้อนเวลาไปตอนที่เขาและไกด์อยู่ที่สตาร์เบิร์ก มันเป็นบรรยากาศที่อบอุ่นเหลือเกิน
   เสียงนาฬิกาของร้านบ่งบอกเวลาสี่ทุ่ม ลูกค้ารายสุดท้ายออกจากร้านไปพร้อมให้ทิปราคาสูงกับวิน เขาปิดงานด้วยการรวบรวมเอาขยะหลังบาร์ทั้งหมดรวมกัน หอบรวมกันทันที พลางเดินออกไปหลังร้าน
   “ไหวนะวิน" ไกด์ถามมาด้วยเสียงเป็นห่วง
   “อื้อ" วินตอบ พลางเดินออกไปหลังร้านเพียงลำพัง วินวางถังขยะลงกับพื้นถนนที่เปียกแฉะ แสงเรื่อๆจากแสงไฟที่ริมหัวมุมถนนที่ส่องเข้ามาจากปากทางทำให้พอเห็นถังขยะใบใหญ่เหนือหัวได้ วินหยุบถุงขยะจากถังออกมาทีละถุงและโยนขว้างไปให้ลงถังขยะใบใหญ่ไปเรื่อยๆ
   เงาสะท้อนจากแสงไฟเรื่อๆนั้นดูแปลกประหลาด ราวกับมีบางเฝ้ามองเขาอยู่ ความรู้สึกไม่สบายใจและไม่ปลอดภัยเกิดขึ้นทันที วินหยุดยืนนิ่งๆพลางมองไปที่ตรอกแคบๆรอบๆตัว ที่ตรงนี้มันควรจะมีเพียงเขาเท่านั้น ที่อยู่ตรงนี้ แต่อะไรบางอย่างบอกเขาว่า ตรอกนี้ไม่ได้มีเพียงเขา สองเท้าเดินออกไปช้าๆจากถังขยะ ออกไปยังปากตรอกแคบที่ตอนนี้มีคนเพียงไม่กี่คนเดินผ่านไปมาเท่านั้น วินออกไปยังปรากตรอกทันทีพลางมองไปยังซ้ายมือ ชายคนหนึ่งเดินอย่างรวดเร็วไปตามถนน วินรู้สึกคุ้นๆตาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ชายหนุ่มคนนั้นหันหลังมามองวินหนึ่งครั้ง ก่อนที่จะออกเดินต่อไป วินขมวดคิ้วครั้งหนึ่ง
   หรือว่า นี่จะเป็น....
   วินก้าวเท้าออกจากปรากตรอกทันที อย่างน้อยถ้านี่เป็นอีกอย่างที่เกิดขึ้นล่ะก็ เขาจะต้องรีบแก้ไขมันให้.....
   อะไรบางอย่างดึงตัวเขากลับมาที่เดิมตรงปากตรอกอย่างรวดเร็วทันที วินตกใจแทบสิ้นสติ เขาหายใจเข้าหอบถี่ด้วยความตกใจ ก่อนจะตั้งสติได้อีกครั้ง
   “ผู้ชายที่ใส่เสื้อโค้ทสีน้ำเงินใช่ไหม" ไกด์ถามเขาทันที เมื่อวินตั้งสติได้แล้ว เป็นเขาเองที่ดึงตัววินกลับมา
   วินมองหน้าไกด์ด้วยความตื่นตระหนก ก่อนจะมองไปยังท้องถนนที่ว่างเปล่านั้นอีกครั้ง
   “ร...รู้...ได้ไง" วินถามเสียงสั่น ไกด์หันหลังมองตามวินไป ทั้งคู่มองไม่เห็นชายคนนั้นอีกแล้ว คงจะปะปนไปกับฝูงชนตรงแยกข้างหน้า วินก้มหน้าลงพลางครุ่นคิด ไกด์หันมาหาชายหนุ่มพลางวางมือบนไหล่
   “ฉันเห็นเขามาซักพักแล้ว" ไกด์ว่า "เขาปรากฎตัวอยู่แทบทุกที่ ที่นายไป"
   วินเงยหน้ามองไกด์ เขาเริ่มเป็นกังวลขึ้นมาอีกครั้งแล้ว สิ่งที่เขากลัวที่สุด กำลังก่อตัวขึ้น พลังบางอย่างที่จะต่อต้านทุกอย่างที่เขาพยายามสร้างมา เงาที่น่ารังเกียจนั่น
   “'อย่างนั้นเหรอ" วินพยายามพรับเสียงให้สั่นน้อยที่สุด
   ไกด์พยายามมองวิน เขาอยากเข้าใจให้ได้ ว่าวินกำลังเป็นอะไร อาการแบบนี้ไม่ได้ปรากฎกับวินมานานมากแล้ว การที่วินต้องครุ่นคิดหนักแบบนี้มันมีอยู่ไม่กี่เรื่อง
   “รู้ตัวอยู่แล้วว่าถูกตาม แล้วทำไมไม่บอกกันอ่ะ" ไกด์ถามขึ้น
   “ก็....ยังไม่แน่ใจ" วินว่า "คิดว่า...อาจจะคิดไปเองน่ะ นายนั่นแหละ รู้ได้ไง ว่าชั้นถูกตาม"
   “ก็เมื่อหลายวันก่อนไง ที่นายชนชั้นที่ตึกหน้าบ้าน นายวิ่งหนีบางอย่างมา" ไกด์ว่า "ชั้นก็เลยลองตามนายดู ก็เลยรู้"
   วินครุ่นคิดอะไรบางอย่างได้ ชายหนุ่มวิ่งกลับเข้าไปในตรอกทันทีและเปิดประตูเข้าไปในร้านอย่างเร่งด่วน ไกด์วิ่งตามเข้ามาอย่างร้อนรน ในขณะที่วินส่งเสียงดังไปทั่วร้านเพื่อตามหาเจ๊ใหญ่
   “เจ๊ใหญ่ครับ เจ๊" วินร้องเรียก "เจ๊ เจ๊!!!”
   “จ๋าจ้ะ วิน ว่าไง" เจีใหญ่โผล่หน้าออกมาจากห้องเก็บของพร้อมผ้ากันเปื้อน "มีอะไรเหอะวิน เรียกเจ๊ซะดังเชียว"
   วินถลาเข้ามาจับตัวเจ๊ใหญ่ทันที
   “เจ๊ ช่วงหลายวันมานี่มีผู้ชายมาหาเจ๊บ้างหรือเปล่า" วินถามทันที
   “โอย ถามแบบนี้" เจ๊ใหญ่ทำตาถลนใส่ "ใครจะไปจำได้ล่ะวิน วันนึงเจ๊เจอลูกค้าผู้ชายเป็นร้อยนะ"
   วินมองไปมาพักนึง พลางคิดคำถาม
   “มีอะไรกันเหรอ" เจ๊ใหญ่ถาม พลางมองไปที่ไกด์ เขายักไหล่และส่ายหน้าเป็นคำตอบให้เจ๊
   “แล้ว......ถ้าเกิดเป็นคนที่มาถามเจ๊เรื่องว่าจะขายที่นี่มั้ยล่ะครับ" วินถามเจ๊ใหญ่ทันที "มีใครมาถามเจ๊มั่งไหมครับ"
   เจ๊ใหญ่ทำตาถลนใส่วินอย่างทันทีก่อนจะเอามือทาบอก และมองไปหาไกด์ครั้งหนึ่ง ก่อนจะหันกลับมามองวิน
   “รู้ได้ยังไงอ่ะวิน" เจ๊ใหญ่ว่าพลางหัวเราะเบาๆ "น..นี่ล้อเล่นอะไรกันหรือเปล่า"
   “มีคนมาถามเจ๊เรื่องที่นี่ใช่ไหมครับ" วินว่า "ถามเรื่องความเป็นอยู่ที่นี่ แล้วเรื่องราคา"
   “ช...ใช่" เจ๊ใหญ่ว่า "มีสิ.......ถ้านับวันนี้ด้วย ก็วันที่สามแล้ว ที่เค้ามา"
   วินหันไปมองไกด์ทันที ชายหนุ่มมองกลับมาหาวินด้วยสีหน้าเป็นกังวลเอามากๆ วินหันหลับไปหาเจ๊ใหญ่
   “เล่าให้ผมฟังได้ไหมเจ๊" วินว่า "เล่าให้ผมฟังทั้งหมดเลย"
…...........
   วินนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟาในบ้าน สายตาจับจ้องไปยังพื้นห้อง พลางนึกถึงสิ่งที่เจ๊ใหญ่พูด มันเป็นเหมือนสิ่งที่เขาปฏิเสธว่ามันจะไม่มีทางเกิดขึ้น และมองข้ามมันมาเสมอ แต่แล้ว สิ่งที่เค้ากลัวที่สุดก็เกิดขึ้น สิ่งที่จำทำลายแผนการทั้งหมดของเขาที่สร้างมา

   “เขาเป็นผู้ชาย เป็นคนไทยนะ เขาก็ว่าเขาสนใจที่นี่ เห็นว่าคนของหน่วยงานจากบ้านเรานั่นแหละ เรื่องแรงงานไทยในฝรั่งเศส เจ๊ก็ไม่ได้อะไรนะ ก็ให้เค้าแนะนำตัวไป เค้าก็ถามว่าที่นี่เปิดมานานหรือยัง เขาบอกว่าร้านนี้อาหารอร่อยมีชื่อ วันแรก เขาก็แค่ทำความรู้จักเจ๊เฉยๆ ก็ไม่ได้คิดอะไร แต่วันที่สองเค้าก็มาอีก คราวนี้มาขอดูร้าน แล้วก็ให้เจ๊แนะนำคนที่ทำงานที่นี่เค้ารู้จัก" เจ๊ใหญ่เล่า
   “แล้วเจ๊บอกหรือเปล่า ว่าผมก็ทำด้วย" วินถามอีก
   “บอกสิ" เจ๊ใหญ่ว่า "เจ๊ก็แนะนำทุกคนนั่นแหละ แต่วันนั้นวินยังไม่ได้มากะดึกน่ะ เขาก็เลยไม่เห็นตัวเธอ ทีนี้เค้าก็ถามว่าแต่ละคนทำงานยังไง ได้เงินเท่าไหร่ แล้วก็พักอยู่ที่ไหนกัน"
   “แล้วเจ๊ก็บอก....ใช่ไหมครับ" วินว่า
   “เหยยยย ใครจะไปบอกล่ะ" เจ๊ใหญ่ว่า "บอกตรงๆเลยนะ ว่าเจ๊ก็เริ่มไม่ไว้ใจเค้าตั้งแต่เริ่มเซาะแซะแล้วล่ะ แต่ก็ยกตัวอย่างเอาว่า ก็อยู่แถวๆนี้ ส่วนใหญ่จะทำงานกันเป็นกะ ใครกลับดึกได้ ส่วนใหญ่ก็จะพักอยู่ไม่ไกลจากที่นี่"
   “เขาถามเฉพาะเจาะจงใครเป็นพิเศษหรือเปล่าเจ๊ หรือแบบสนใจใครในร้านมั้ย" วินถามต่ออีก เจ๊ทำเป็นนึกๆ
   “ใครเหรอ...อืม....ถามหรือเปล่านะ....ไม่แน่ใจนะ แต่จำได้ว่าเขาบอกว่าชอบบาริสต้าของเรา ชงกาแฟเก่งดี" เจ๊ใหญ่ว่า วินถึงกับชะงัก
   “เขาขอซื้อที่นี่เหรอครับ" วินถามต่อ
   “อื้อ เขาขอให้เจ๊ตีราคาเลยล่ะ ว่าถ้าเซ้ง จะเอาเท่าไหร่" เจ๊ใหญ่ว่า "เขาเสนอราคาไม่อั้นเลยนะเอาจริง"
   “งั้นเหรอครับ แล้วเจ๊ว่าไงอ่ะ" วินว่า
   “ไม่ขาย เจ๊บอกแล้วไง ว่าถ้าเราไม่จนเพราะเรื่องสัญญาเวนคืน หรืออุบัติเหตุอื่นๆที่มันเกินกว่าที่เจ๊จะรับได้จริงๆ เจ๊ก็จะไม่ขาย" เจ๊ใหญ่ว่า "ไม่ต้องห่วงหรอกน่าวิน นี่อย่าบอกนะว่า ที่กังวลมากๆก็เพราะเรื่องนี้น่ะ ไม่ต้องเลยนะ เจ๊ยังทำที่นี่ต่อจ้ะ ก็เป็นแบบนี้แหละ ผู้ชายคนนี้ก็ไม่ใช่คนแรกที่เข้ามาถามอะไรอย่างนี้หรอกนะ"

   วินถอนหายใจครั้งหนึ่ง พลางหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด เขาไม่เคยมั่นใจมากเท่านีมาก่อน ว่านี่จะต้องเป็นการคุกคามจากพ่อเขาแน่นอน มันเคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อน เขาจำได้ มันเป็นลักษณะแบบนี้ ค่อยๆเข้ามาผ่านสิ่งที่ไม่คาดคิด เพื่อเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้เป็นแบบที่พ่อของเขาต้องการ วินกัดฟันเบาๆ ก่อนที่จะมีแก้วนมอุ่นๆมายื่นให้ตรงหน้า ชายหนุ่มมองแก้วใบนั้นทันที
   “ดื่มซักหน่อยเหอะนะ" ไกด์ว่า
   วินเงยหน้าขึ้นมองไกด์ทันที เขามองไกด์อยู่อย่างนั้น หมอนี่เป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้เขาสงบได้ เขามองไกด์อย่างไม่ละสายตา ดวงตาดำขลับของวินสั่นเรื่อด้วยความเจ็บปวด เขาไม่อยากให้เงาของพ่อมาตามหลอกหลอนเขาอยู่อย่างนี้ เขาไม่อยากเสียสิ่งที่เขาเดิมพันเอาไว้ตอนนี้เลย ไม่อยากแม้แต่ให้ใครก็ตาม เข้ามาแตะต้องชีวิตของเขาและไกด์ตรงนี้แบบนี้ เขาอยากเก็บช่วงชีวิตด้านนี้ของเขาไว้เป็นความลับ
   เขาไม่ใช่คนมีอิสระมากนัก แต่ว่านี่คืออิสระสุดท้ายที่เขามี เขาไม่อยากเสียมันไปและ...
   วินหลับตาและรับนมแก้วนั้นมาไว้ในมือ และจิบมันเบาๆ ความอบอุ่นเกิดขึ้นในตัวอย่างเงียบเชียบ ความวิตกกังวลค่อยๆเบาบางลงทันที ไกด์นั่งลงตรงหน้าของวินพลางมองหน้าของเขา
   “คิดว่าเป็นพ่อของนายงั้นเหรอ" ไกด์ถามขึ้น"คิดว่าเป็นเค้าจริงๆเหรอ"
   วินถอนหายใจเบาๆ
   “พยายามไม่คิดงั้นอ่ะ" วินว่า "ถึงออกจะน่าเชื่อว่าใช่"
   “นายทำอะไรเหรอวิน" ไกด์ถามต่อ "ทำไมเค้าถึงต้องทำแบบนี้กับนายด้วยอ่ะ"
   วินมองเข้าไปในดวงตาของไกด์ ทำไมเขาถึงรู้สึกสั่นไหวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แค่เขาคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ มันก็ทำให้เขากลัวจนตัวสั่นแล้ว สิ่งที่เขาทำ มันเป็นคำตอบง่ายๆที่สุด

   ฉันกำลังทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้อยู่กับนายไง

   วินกระพริบตาเบาๆ อยู่ดีดีเขาก็รู้สึกเหมือนตัวเองจะร้องไห้ขึ้นมาเฉยๆ เขากลัวจนไม่รู้จะทำอะไรต่อไป พยายามหาคำพูดที่เหมาะสมทันที
   “ไม่รู้" วินตอบ "ฉัน....ฉันไม่รู้"
   ไกด์มองวินอยู่อย่างนั้น พยายามอ่านอะไรบางอย่างให้ออก
   “เพราะฉันใช่ไหม" ไกด์ถามทันที "อะไรก็ตามที่นายทำอยู่....มีฉันเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ใช่หรือเปล่า"
   วินหันมามองไกด์ทันที นี่มันเกินไปแล้ว ไกด์รู้จักตัวตนของเขามากเกินไปแล้ว ดวงตาของวินเริ่มแดงก่ำ ขณะที่มองใบหน้าของไกด์ ความรู้สึกกลัวการพลาดพลั้ง การผิดแผนกำลังจู่โจมเขา
   ความรู้สึกกลัวการสูญเสียความรู้สึกที่เขามีให้ไกด์
   “ฉ...ฉัน" วินพยายามพูดอะไรบางอย่าง มือที่ถือแก้วนมอุ่นๆสั่นรัว "ฉ...ฉัน...ฉันไม่....”
   ไกด์เอื้อมมือไปจับมือของวิน ก่อนจะเอาแก้วออกจากมือและวางลงกับพื้น และหันกลับมามองดวงตาคู่นั้นอีกครั้ง
   สำหรับวินแล้ว ยิ่งไกด์ทำแบบนี้กับเค้า มันยิ่งผูกมัดเค้ามากขึ้นเรื่อยๆ แรงกดดันที่เต็มไปด้วยความรัก สำหรับวินมันเริ่มหนักอึ้งขึ้นทุกที เขาเองก็ทนมันแทบไม่ไหวแล้ว
   “นายกำลังอะไรอยู่วิน" ไกด์ว่า "บอกชั้นได้ไหม"
   น้ำตาของวินไหลลงเบาๆแม้ว่าดวงตาของวินจะจ้องนิ่งไปหาไกด์ มันเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย ไกด์ไม่มีวันเข้าใจ ไม่มีวันเข้าใจเลย ว่าสิ่งที่เขาทำ มันเสี่ยงแค่ไหน และกำลังจะต้องแลกด้วยอะไร
   ไกด์เอื้อมมือมาปาดน้ำตาบนหน้าของวิน พลางส่ายหน้าเบาๆ ชายหนุ่มก้มหน้าลงและเริ่มครุ่นคิด และนั่นยิ่งทำให้วินเจ็บปวดมากขึ้นไปอีก เขาทนไม่ได้ ที่จะเห็นไกด์เจ็บปวด ไกด์เจอเรื่องเจ็บปวดมาเยอะพอแล้ว เขาไม่อยากให้ไกด์กลับไปรู้สึกแบบเดิม
   “ไม่....มีอะไรหรอก" วินพูดเสียงสั่นเครือ "ฉัน...แค่...กังวลมากไป"
   ไกด์เงยหน้าขึ้นมองวินทันที สายตาของไกด์เต็มไปด้วยความห่วงใย
   “แต่นายร้องไห้ ฉัน....” ไกด์พูดเสียงแผ่วเบา "…..นายร้องไห้ทำไมอ่ะคับวิน"
   วินยิ้มอย่างนุ่มนวลให้กับไกด์ แม้ว่ามันจะขัดกับดวงตาที่แดงกำ่คู่นั้นก็ตาม
   “นายกลัวเหรอ" ไกด์ถาม "ฉันช่วยอะไร ได้ไหม”
   “ไกด์" วินร้อง "ฉันหยุดคิดไม่ได้อ่ะ ฉ...ฉันหยุดคิดไม่ได้เลย"
   วินร้องออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ ไกด์ตั้งใจฟังอย่างเป็นกังวล
   “มันมีแต่คำว่าถ้าเต็มไปหมด ฉัน....” วินร้อง "ฉันกลัวอ่ะไกด์.....ฉันกลัวอ่ะ......”
   วินร้องไห้เบาๆ ก่อนจะก้มหน้า
   “ฉ...ฉันกลัวอ่ะไกด์"
   วินก้มหน้าหลั่งน้ำตาเบาๆ ไกด์ดึงตัวร่างที่สั่นรัวแล้วอ้างว้างเข้าหาตัวทันที วินปล่อยทุกอย่างเข้าไปในอ้อมกอดของไกด์
   “ฉัน....ฉันอยู่ตัวคนเดียวไม่ได้แล้วอ่ะ ฉัน....ฉันอยู่โดยไม่มีนายไม่ได้" วินว่า "นายเข้าใจไหมอ่ะไกด์....ฉันอยู่ต่อไปคนเดียวในเมืองนี้ไม่ได้.....ฉันอยู่โดยไม่มีนายไม่ได้อ่ะ....ฉัน"
   ไกด์โอบตัววินที่สั่นสะท้านเอาไว้ ชายหนุ่มเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง บางทีวินอาจจะไม่ใช่แค่ลูกคุณหนูที่ถูกส่งตัวมาดัดนิสัยเสียแล้ว มีอะไรบางอย่างอยู่ข้างหลังเรื่องนี้ ไกด์หลับตาก่อนจะกอดวินเอาไว้แนบตัว
   “ผมอยู่นี่วิน" ไกด์พูดเบาๆ "ชั้นอยู่กับนายแล้วนี่ไง.....อย่าร้องนะ"
   “ฉันอยู่ไม่ได้อ่ะ.....ไม่ได้อีกแล้วไกด์.......อยู่คนเดียว.......ไม่เอาอีกแล้ว"
   เสียงสะอื้นของวินดังก้องสะท้อนไปยังห้องที่ว่างเปล่า ลมร้อนของฤดูใบไม้ผลิพัดมาให้น้ำแข็งที่เกาะกินหัวใจเอาไว้จนหนาเตอะเพราะต้องแนกรับทุกอย่างเอาไว้ ละลายออกมาเป็นสายน้ำ ความอบอุ่นเดียวที่มีคือกลื่นกายอันสงบนิ่งของไกด์ที่กำลังประคองไม่ให้น้ำแข็งนั้นกระเทาะจนหมดไปและทำลายหัวใจที่อ่อนแรงของวิน
   “ก็อยู่ด้วยกันนี่ไง" ไกด์พูดเบาๆ "ชั้นไม่ไปไหนหรอก สัญญาเลย"
….............
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-01-2013 03:07:02 โดย M2M_Jill »

ออฟไลน์ srikoon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 530
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-6
2 คนช่วยกันคิด น่าจะมีทางออกดีๆ หลายๆทาง

Tuna Omega

  • บุคคลทั่วไป
อีตาพ่อเค้าเคยทำไรวินไว้มั่งเนี่ย...ท่าทางจะฝังใจอย่างแรง...

 :กอด1: กอดเบาๆ....มิรันดาสู้ๆ มาต่อไวๆน๊าเค้ารออยู่

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ srikoon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 530
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-6
คิดถึวแล้วครับ

ออฟไลน์ M2M_Jill

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
ตอนที่ 31 Conspire

   การขอลาหยุดอย่างกระทันหันของวิน ทำเอาเอิร์ธหัวปั่น กองงานมหึมากำลังถาโถมเข้าใส่เขา แต่นับว่าโชคดีที่อย่างน้อยเขาและวินก็ได้วางแผนเอาไว้อย่างแน่นหนาแล้ว ซึ่งสำหรับเอิร์ธ ถ้าไม่นับเรื่องมู้ดบอร์ดและการสรุปเรื่องเนื้อผ้าทั้งหมดที่ต้องใช้ในแฟชั่นวีคที่กำลังทำให้เขาหัวไหม้ การที่วันนี้จีโอจะเข้ามาศึกษาดูงาน นั้นเป็นอะไรที่เข้าทางเอิร์ธเอามากๆเลยทีเดียว
   เสียงเปิดประตูสตูดิโอดังขึ้นในช่วงสาย ขณะที่จูเนียร์ดีไซน์เนอร์ปรากฎตัวขึ้น
   "He comes" เขากล่าวกับเอิร์ธ
   "Thanks Lionelle" เอิร์ธกล่าวขอบคุณไลโอเนล ก่อนจะลุกขึ้นจัดแจงเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อย พลางรุดออกจากห้องทำงานออกไป
   ลิฟท์พาเขาลงมาที่ Lobby ของซูเม่ ชายหนุ่มเดินตรงรี่ไปยังจีโอที่ยืนรออยู่หน้าเคาท์เตอร์อยู่แล้ว ชายหนุ่มนักหมุ่นเงินในวันนี้ อยู่ในชุดโค้ทสีน้ำตาลส้ม และผ้าพันคอสีน้ำเงินเข้ม สีแบบนี้ทำให้เขานึกถึงใครคนนึงขึ้นมาอย่างประหลาดใจ มีผู้หญิงที่ร้ายกาจคนนึงชอบสีนี้เอามากๆ เอิร์ธยิ้มกริ่มในใจ แน่นอนว่ามันเข้าทางเขามากๆเลย
   "อรุษสวัสดิ์เอิร์ธ" จีโอกล่าวทักทาย ขณะที่เอิร์ธกล่าวตอบพลางจับมือละสวมกอดพอเป็นพิธี
   "คุณมาก่อนเวลาตั้งยี่สิบนาที" เอิร์ธว่า "ผมยังไม่ทันเตรียมตัวเลยที่จริงแล้ว"
   "นี่ผมมารบกวนคุณหรือเปล่าเนี่ย" จีโอว่า
   "ไม่หรอกครับ" เอิร์ธว่า "เพราะวันนี้ผมไม่ได้เป็นคนนำคุณชมซูเม่"
   "อ้าว" จีโอร้อง "แล้วใครล่ะ"
   "นั่นครับ"
   เอิร์ธชี้ไปยังโถงทางเข้าแกลอรี่ที่เจนจิรากำลังเดินออกมาพร้อมกับเลขาส่วนตัวของเธอ ก่อนที่เธอจะมาพบกับจีโอและเอิร์ธที่ยืนอยู่ก่อนแล้ว
   "อรุณสวัสดิ์ครับ มามัวแซลล์" จีโอเปิดฉากยิงใส่เจนก่อน เธอประเมิณค่าเขาครั้งหนึ่ง ก่อนจะยิ้มให้พอเป็นพิธี
   "อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณจีโอ" เจนจิราว่าพลางมองไปยังเอิร์ธ "อย่าบอกนะว่านี่คือสิ่งที่เธอรบกวนชั้นไว้เมื่อวาน"
   "ครับ" เอิร์ธรับคำพลางยิ้มกว้าง
   เจนเลิกตากว้างพลางหันหลับมามองจีโออีกครั้ง
   "งั้นก็ดีเลย" เจนจิรา "ฉันก็อยากรู้อยู่เหมือนกันว่า ว่าอะไรเป็นแรงบันดาลใจ ให้คุณสนใจทำธุรกิจกับเรา"
   "กับผมและวินครับ" เอิร์ธว่า "พี่น่าจะใช้คำพูด...ให้ถูกประเด็นนิดนึง"
   เจนมองเอิร์ธด้วยหางตาแว้บนึง ก่อนจะผายมือเชิญจีโอไปยังทางเข้าลิฟท์ จีโอหันมายิบตาให้กับเอิร์ธครั้งหนึ่งก่อนจะหายไปพร้อมกับเจนจิรา
   เอิร์ธคิดว่าวันนี้จะต้องเป็นสิ่งที่พิเศษสุดแล้ว อย่างน้อยมันก็ต้องได้อะไรขึ้นมาบ้างจากการเริ่มต้นที่ศูนย์ และขาก็พร้อมยกการต่อยอดตัวเลขที่เหลือ ให้กับจีโอทันที
   เจนจิรรานำจีโอไปยังชั้นที่สอง ที่เป็นส่วนของสตูดิโอต่างๆ ของดีไซน์เนอร์และสไตลิส ที่ง่วนอยู่กับการออกแบบและปรึกษาวึ่งกันและกัน จีโอมองสิ่งที่อยู่รอบๆตัวอย่างใคร่รู้ ขณะที่เจนจิรานำเขาเดินไปสู่ห้องของเธอที่อยู่ที่สุดปลายทางเดิน เธอเปิดประตูให้เขาเข้าไปข้างใน
   "ทีนี่เป็นห้องทำงานส่วนตัวของชั้นค่ะ" เจนจิรากล่าว "ชั้นเป็นหัวหน้าสไตลิสที่นี่ แล้วก็เป็นหุ้นส่วนของซูเม่ด้วย"
   "ห้องคุณน่ารักดีนะ" จีโอกล่าว
   เจนจิรายิ้มให้อย่างไม่จริงใจ เธอไม่คิอว่าการมาของจีโอนั้นโปร่งใสอยู่แล้ว ปราการที่ตั้งเอาไว้ตอนนั้จึงสูงลิ่วยิ่งกว่าหอไอเฟลเสียอีก เธอเชิญจีโอนั่งลงหลังจากนั้น
   "คุณได้อ่านสัญญาและข้อตกลงแล้วใช่ไหมคะ" เจนจิรากล่าว
   "ครับอ่านแล้ว" จีโอว่า
   "แล้ว?" เจนจิราเลิกคิ้ว
   "แล้ว?...อะไรครับ" จีโอถามต่อ
   "แล้วไงคะ" เจนจิราว่า
   "ก็ไม่ไงครับ" จีโอว่า
   "คุณจีโอคะ ชั้นไม่มีเวลามานั่งขำกับมุกกวนๆของคุณหรอกนะ" เจนจิราว่ากลับ
   "กวน? กวนอะไรครับ....คุณไม่ได้ถามอะไรผมเพิ่มนี่ คุณถามผมแค่ว่าผมอ่านหรือยัง ผมก็ตอบตามนั้น" จีโอว่า "ถ้าคุณอยากรู้อะไรเพิ่ม คุณก็ถามผมเพิ่มสิครับ....ถามแบบเป็นคำถามที่รู้เรื่องน่ะ"
   เจนจิราเลิกคิ้วหนึ่งครั้ง นี่ผู้ชายคนนี้ซื่อหรือว่าจงใจกวนประสาทเธอกันแน่ เจนจิราแค่นหัวเราะออกมาครั้งหนึ่ง ก่อนจะยิ้มให้
   "แล้วคุณมีความเห็นอะไรไหมคะ กับตัวสัญญา" เจนจิราถาม
   "มีครับ" จีโอว่า
   "มีว่ายังไงคะ" เจนจิราถามต่อ
   "ผมสงสัยว่า ระบบบริหารของซูเม่ ผมจะสามารถเข้าประชุมและฟังผลของานที่ผมลงทุนด้วยได้หรือเปล่า" จีโอว่า "ผมหมายถึงมาที่นี่ได้บ้างเป็นครั้งคราวน่ะครับ"
   "แน่นอนค่ะ" เจนจิราว่า "ถ้าคุณเป็นหุ้นส่วน และลงทุนให้กับงานแฟชั่นวีค คุณมีสิทธิ์เข้ามาตรวจเช็คผลงานตัวเองอยู่แล้ว แต่ฉันไม่รับปากนะคะ ว่าดีไซน์เนอร์จะยอมรับฟังความเห็นของคุรเกี่ยวกับงาน เพราะว่าดีไซน์เนอร์เค้าจะมี...."
   "ครับ ผมเข้าใจ" จีโอว่า "ผมไม่ได้อยากจะมาเพราะมายุ่งกับส่วนงานดีไซน์อยู่แล้วครับ"
   จีโอยิ้มกว้างให้เธอ
   "ค่ะ...ก็ถ้าคุณจะมา ก็แจ้งเอาไว้ล่วงหน้าก่อนก็แล้วกันค่ะ จะได้มีคนคอยต้อนรับ" เจนจิราว่า
   "เรื่องนั้นไม่ต้องลำบอกหรอกครับ" จีโอว่า พลางหยิบเอกสารที่วินให้เขาเมื่อหลายวันก่อนออกมาแล้วยื่นให้กับเธอ "ผมตกลง"
   เจนจิรารับมันกลับมาทันที
   "คุณตกลง....และ...เอ่อ....เซ็นแล้วเหรอคะ" เจนจิราว่า
   "ใช่ครับ" จีโอว่า "ผมตกลงที่จะลงทุนให้กับซูเม่อินเตอร์เนชั่นนอล เป็นจำนวนเงิน 4 ล้านยูโร และทันทีที่คุณสุเมธเซ็นคู่กำกับ สัญญานี้ก็จะสมบูรณ์ทันที"
   เจนจิราตกใจเล็กน้อย พลางมองซองเอกสารในมืออย่างพินิจ เงิน 4 ล้านไม่ใช่จำนวนน้อยๆเลยสำหรับเธอ และเป็นจำนวนเงินที่มากโขสำหรับเธอ เพราะนั่นท่ากับว่าในกองทุนรวมทั้งหมด จีโอถือหุ้นร่วมในซูเม่อินเตอร์เนชั้นนอล เกินไปกว่า 35% แล้ว มากกว่ายอดถือที่เธอและกายมีร่วมกันเสียอีก และถ้าพี่สุเมธเซ็นยอมรับ จีโอก็จะขึ้นแท่นตำแหน่งผู้บริหารทันที เธอเงยหน้าขึ้นมองชายตรงหน้าด้วยสายตาที่เฉียบคม
   "ซึ่งผมหวังว่าจะเป็นการดีมากถ้าคุณสุเมธจะเซ็นให้ถายในวันนี้เลย" จีโอว่า "ผมไม่ใช่คนมีชื่อเสียงอะไร ก็คงไม่ต้องจัดงานแถลงข่าวอะไรให้วุ่นวาย เพราะผมเอง ก็อยากเข้าร่วมประชุมการปันงบไตรมาสที่สามให้ทันด้วย จะได้ช่วยตัดสินใจอะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับงานแฟชั่นวีคครับ"
   เจนจิราหมุนปากกาไปมาอย่างเป็นกังวล ความคิดร้อยแปดตีขึ้นในหัว ผู้ชายคนนี้ถูกเสียบเข้ามาในจังหวะที่แปลกประหลาดมากสำหรับเธอ มันต้องมีบางอย่างอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ และเธอจะไม่ยอมให้วิน เข้ามาแทรกแซงสิ่งที่เธอ กายและพี่สุเมธร่วมสร้างกันมาเด็ดขาด แต่ด้วยจำนวนเงินขนาดนี้ เธอไม่สามารถสู้อะไรได้เลย
   "ค...ค่ะ งั้นเราขึ้นไปหาพี่สุเมธกัน" เจนจิราว่า "แต่ก่อนอื่น ฉันอยากจะบอกคุณบางอย่างค่ะคุณจีโอ"
   "หลายอย่างก็ได้ครับ ผมยินดี" จีโอยิ้มรับ
   "ข้อแรก ฉันไม่เชื่อในการมาของคุณว่ามันโปร่งใส ดังนั้นฉันจะทำทุกวิถีทางเพื่อดึงซูเม่ไปในทิศทางที่มันควรจะเป็นเท่านั้น และฉันไม่สนด้วย ว่ามันจะเป็นวิธีไหน
 และถ้าหากคุณใช้วิธีตุกติกกับที่นี่ คุณจะต้องตอบคำถามกับฉันโดยตรงแน่ๆ" เจนจิราพูดอย่างตรงไปตรงมา
   "ครับ" จีโอรับคำสั้นๆ
   "ข้อสอง วินและเอิร์ธ สองคนนั้นยังใหม่สำหรับที่นี่มาก ฉันขอไม่แนะนำให้คุณต้องทำตามในสิ่งที่เขาพูด ถ้าคุณอยากจะลงทุนในธุรกิจนี้ เพราะอยากจะมีส่วนร่วมในงานออกแบบเพราะชื่นชอบจริงๆอย่างที่คุณว่า ฉันแนะนำให้คุณเรียนรู้ที่นี่จากทางอื่นจะดีกว่า" เจนจิราว่า
   "ครับ" จีโอรับคำอีก
   "และข้อสุดท้าย ในฐานะที่ยังไงฉันก็เชื่อว่าพี่สุเมธจะต้องเซ็นอยู่แล้ว และนั่นก็จะทำให้คุณกลายเป็นผู้บริหารที่นี่ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ซึ่งก็เท่ากับว่า เราสองคนมีตำแหน่งเดียวกัน ดังนั้น ฉันอยากให้คุณรู้เอาไว้ด้วย ว่าฉันเป็นคนตรง และก็จะไม่บิดพลิ้วกับอะไรที่ไม่ชอบมาพากลใดใดทั้งนั้น ฉันจะพูดกับคุณตรงๆเท่านั้นและสิ่งที่ฉันอยากจะพูดกับคุณตอนนี้อย่างแรกก็คือ....ฉันไม่ไว้ใจคุณเลย"
   "ครับ" จีโอรับคำอีก
   เจนจิรารู้สึกอึ้งเล็กน้อย ในใบหน้าที่ไม่แสดงความตุกติกน่าสงสัยใดใดออกมา มีเพียงรอยยิ้มจริงๆเท่านั้น
   "และ....และฉันก็เชื่อว่า คุณก็จะตรงไปตรงมา กลับมาให้ดิฉันด้วยเหมือนกันค่ะ นะคะคุณจีโอ" เจนจิราหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้ง พลางยิ้มกลับให้เขา "มีคำถามไหมคะ"
   "มีครับ" จีโอว่า
   "งั้นก็ว่ามาเลยค่ะ" เจนจิราตอบ
   "คุณมีแฟนหรือยัง" จีโอยิงคำถามใส่ และห้องทั้งห้องก็เงียบสนิท  เจนจิรามองจีโอกลับด้วยสายตาที่แข็งกร้าว เมื่อได้สติแล้วเธอทุบโต๊ะแล้วลุกขึ้นทันที
   "คุณต้องการอะไรกันแน่" เจนจิราว่าเสียงดัง "ฉันบอกแล้วไงว่าฉันต้องการคนที่ตรงไปตรงมาเท่านั้น"
   จีโอขมวดคิ้วแล้วยื่นหน้าไปหาเธอ
   "ผมว่าผมตรงแล้วนะ" จีโอว่าเสียงใส "ก็คุณบอกเอง ว่าต้องการให้ผมตรงไปตรงมากับคุณกลับ ผมก็ทำอยู่นี่ไง"
   เจนจิราอ้าปากค้าง เธอนึกคำด่าหมอนี่ไม่ออกเอาจริงๆ
   "คุณจีโอ ฉันไม่ตลกนะ" เจนจิราว่า
   "ใช่ แต่ผมว่าคุณนั่นแหละ กำลังเล่นตลกกับผมละ" จีโอตอบกลับ
   "อะไรนะ ฉันเนี่ยนะ" เจนจิราร้อง
   "ใช่ ผมชักจะไม่เชื่อซะแล้ว ว่าคุณจะเป็นคนตรงไปตรงมาจริงๆ" จีโอว่า
   "ทำไมเหรอคะ" เจนจิราพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง "ฉันไม่ตรงไปตรงมาอย่างไรมิทราบ"
   "ก็คุณไม่ตอบคำถามผม" จีโอว่า "ถ้าคุณเป็นคนจริงใจอย่างที่คุณว่า คุณก็คงตอบคำถามผมไปแล้ว"
   "มันไม่เกี่ยวกันเลยนะคะ" เจนว่า "ฉันต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายพูด เพราะคุณจะเอาข้อมูลชั้นไปทำไมกันล่ะ"
   "ก็ผมอยากรู้อ่ะ ก็แค่อยากรู้ ไม่ได้เหรอครับ" จีโอว่า "เอางี้ ถ้าคุณตอบนะ คุณถามอะไรผม ผมจะเล่าให้คุณฟังหมดเลย"
   เจนจิรามองจีโออย่างไม่เชื่อสายตา
   "คุณอยากรู้ไม่ใช่เหรอ ว่าผมเข้ามาลงทุนทำไม ไว้ใจได้หรือเปล่า" จีโอว่า "ผมจะตอบคุณแบบหมดเปลือกเลยอ่ะ เอาดิ"
   "ดีค่ะ" เจนจิราพยักหน้าพลางเม้มปาก เธอมองไปทางอื่นพักนึง ก่อนจะหันกลับมายิ้มให้จีโออย่างไม่เป็นธรรมชาติที่สุด
   "ฉัน...ยังไม่มีแฟนค่ะ" เจนจิราตอบ จีโอยิ้มกว้างทันที
   "เยี่ยมเลย" จีโอว่า "ต้องอย่างนี้ซี่"
   เจนจิราเหลือกตาทันที
   "คุณได้คำตอบฉันไปแล้ว กรุณารักษาสัญญาด้วยค่ะ" เจนจิราว่า
   "ได้ๆๆ" จีโอตอบ "ผมมาที่นี่ด้วยความบริสุทธิ์ใจนะ เด็กสองคนนั้น อยากผมมาช่วยเรื่องเงินลงทุนแฟชั่นวีค วินติดต่อผมมาจากคนรู้จักอีกที ผมเห็นว่ามันก็ไม่ได้เสียหายอะไร ผมมีเงิน และมันก็แปลกใหม่ดี ก็แค่นั้น"
   เจนจิรามองหน้าจีโออย่างพินิจอีก
   "นี่คุณ ผมรู้ว่าคุณรักที่นี่ ผมอ่ะ เข้าใจอีโก้พวกดีไซน์เนอร์ดี เพราะผมได้ศึกษารายละเอียดมาจากวินบ้างแล้ว" จีโอกล่าว "ผมไม่ได้มาในแง่ร้าย อย่างที่คุณคิดหรอกน่า"
   เจนจิราหรี่ตาลงอีกครั้ง
   "แล้วนี่คุณจะเอาไปให้คุณสุเมธเซ็นได้หรือยังล่ะ" จีโอว่า "วันนี้ธุระผมจะได้จบ คุณก็จะได้ไม่ต้องมาหรี่มองทะลุผมอยู่อย่างนี้ไง"
   เจนจิราคว้าเอกสารในมือมาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเดินตัดหน้าออกจากห้องทันที
   "งั้นก็เชิญค่ะ" เจนจิราว่า พลางเผยทางนำหน้าให้
   "ด้วยความยินดีคร้าบ" จีโอว่า
   และแล้ว ความต้องการของวินและเอิร์ธก็สัมฤทธิ์ผลอย่างไม่น่าเชื่อ
...............
   "เยี่ยมเลย คุณทำได้ดีมากเลยจีโอ" วินร้องเสียงดังที่ร้านเกล็ดหิมะ ในเย็นวันนั้นเมื่อจีโอเล่าเรื่องทุกอย่างจบลง โดยที่เอิร์ธถึงกับถือถ้วยนมค้างเอาไว้ในมือ ในขณะที่สเตลล่าเหล่มองจีโออ่างไม่ไว้ใจ
   "นี่ยูชอบเขาจริงๆเหรอจีโอ" สเตลล่าถาม "แล้วแอนเดรียล่ะ"
   "เอ้ย นั่นไม่เกี่ยวแล้วสเตลล์ เลิกแล้วๆ" จีโอว่า "ผมเป็นผู้บริหารซูเม่แล้วนะ จะมีเรื่องชู้สาวไม่ได้ๆ"
   "เหรอคะ" สเตลล่าแซวเสียงสูง
   "นี่จีโอ ผมเตือนไว้เลยนะ พี่เจนน่ะ เค้าร้ายกว่าที่คุณคิดเอาไว้เยอะ" เอิร์ธว่า "ถ้าเขาจับได้ว่าคุณตุกติก ทุกอย่างพังแน่นอน"
   "ตุกติกเหรอ" จีโอว่า "เราไม่ได้ทำอะไรไม่ดีกันอยู่ซะหน่อย แล้วเราจะกลัวอะไรอ่ะ"
   เอิร์ธกับวินมองหน้ากันทันที
   "เห้ๆๆๆ นี่ยูสองคนมีแผนอะไรป่ะเนี่ย" จีโอว่า "บอกไว้ก่อนเลยนะ ผมไม่ได้จะมาเพื่อให้คุณล็อบบี้ผมได้ง่ายๆ นะบอกไว้ก่อน สัญญาต้องเป็นสัญญานะวิน คุณชวนผมมาลงทุนและผมก็ต้องได้กำไรกลับไปตามสัญญานะ"
   "คุณได้แน่ แต่ผมขอแค่ให้คุณทำตามที่ผมบอก" วินว่า "คุณจะได้กำไร แต่ผมขอให้คุณเชื่อใจ ผมไม่ได้มีอคติอะไรกับคุณเจนจิรา เธอทำหน้าที่ของเธอ คุณทำหน้าที่ของคุณ สิ่งที่ผมกับเอิร์ธกำลังทำ ไม่ได้ส่งผลกระทบกับเธอ จริงๆแล้วเธอควรจะดีใจด้วยซ้ำ ถ้าเราทำสำเร็จ"
   "แน่ใจนะ ถึงผมจะไม่ได้เชี่ยวชาญอะไรมาก แต่ผมก็รู้ว่าเราไม่ควรจะเทคโอเวอร์งาน ผมเพิ่งเข้าไปเป็นหุ้นส่วนด้วยนะ" จีโอร้อง
   "ผมทราบครับ เอาเป็นว่าสบายใจลงเหอะ คุณจะอยู่ในที่ปลอดภัยแน่นอนจีโอ" วินว่า "ในวันที่ประชุมแบ่งงบครั้งแรก คุณจะเห็นสิ่งเกิดขึ้นเอง ผมกับเอิร์ธ เราจะมีชื่อรับผิดชอบโปรเจ็คแฟชั่นวีค คุณต้องทำทุกอย่างให้คุณเป็นคนสนับสนุนเราสองคนในโปรเจ็คนี้ให้ได้ คุณเข้าใจหรือเปล่า"
   "เห้ ก็นายลากฉันมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะไม่ใช่เหรอ" จีโอว่า
   "ใช่ครับ" วินว่า "มันไม่ได้อยู่เหนือข้อตกลงของเราตอนแรกเลย"
   "แล้วไงอ่ะ" จีโอว่า
   "ไม่ว่าจะยังไง ผมอยากให้คุณทำให้ตัวเองคุมโปรเจ็คนี้ให้ได้ เท่านั้นพอ" วินว่า "เพราะจะมีคนแย่งมันไปจากคุณ แล้วเขาจะทำทุกวิธีด้วยครับ"
   "เรื่องอะไรจะยอมล่ะ" จีโอว่า "ก็ผมมาเพื่อช่วยคุณ ไม่ได้จะไปช่วยงานอื่นซะหน่อย"
   "ดีแล้วครับ ดีแล้ว" วินยิ้มให้เอิร์ธพลางยักคิ้ว
   "แต่เดี๋ยวก่อน คนที่จะแย่งผมนี่ หวังว่าจะไม่ใช่คุณเจนนะ" จีโอขัดขึ้น
   "เธออยากทำงานนี้ครับ" เอิร์ธว่า "แต่เราแย่งเธอมานานแล้ว ตอนนี้เธอกังวลว่าเราจะเอามันมาทำพังเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้เธอมีงานใหม่ต้องรับผิดชอบแล้วล่ะ"
   "อืม ผมไม่อยากมีปัญหากับเธอน่ะ" จีโอว่า
   "กลัวจะต้องเผชิญหน้ากับเธองั้นสินะ" สเตลล่าแซวอีก "เวลาผู้หญิงเอาเรื่องทีไร ยูล่ะก็หงอประจำจีโอ"
   "ไม่ใช่นะสเตลล์ ไม่ใช่เลย" จีโอว่าพลางครุ่นคิด "ผมว่าเจนจิรา เค้าดูที่น่าสงสารมากกว่า"
   เอิร์ธถึงกับสำลักนมออกมาทันที ขณะที่วินเลิกคิ้วอ้าปากค้าง
   "โหจีโอ นี่คุณตกหลุมรักพี่เจนขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย" เอิร์ธว่า
   "ไม่ใช่เอิร์ธ" จีโอว่า "นายไม่สังเกตเหรอ ดูแว้บเดียวก็รู้แล้ว เจนจิราเค้าต้องเคยเจออะไรมาเยอะมากๆ ที่ทำร้ายจิตใจ จนต้องสร้างเกาะบางอย่างขึ้นมาปกป้องตัวเธอเอง เธออยู่ในเกราะนั้นมานานเสียจนไม่ยอมเปิดรับอะไรที่ตัวเองไม่เข้าใจทั้งนั้น ผมว่าเธอเป็นคนที่น่าสงสารมากจริงๆนะ หลังจากที่ได้คุยกันวันนี้"
   เอิร์ธมองหน้าจีโอครั้งนึง ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ไร้สาระอย่างที่เขาคิดจริงๆเสียด้วย เขาอ่านเจนจิราออกทั้งๆที่เพิ่งเจอกันไม่กี่ครั้ง แถมยังสงสารเธออีก ในขณะที่เขาก็พอรู้เรื่องของเจนมาบ้าง แต่ก็ไม่เคยทำให้เขารู้สึกสงสารเธอลงเลย
   "เรื่องคุณกับคุณเจน พวกเราไม่ยุ่งละกัน ถือว่าเป็นเรื่องที่คุณจัดการเองนะ" วินว่า
   "ได้เลยๆ" จีโอว่า "ของแบบนี้มันยุ่งกันไม่ได้อยู่แล้ว.....เห้เคลวิน"
   จีโอร้องทักเพื่อนรักที่เปิดประตูร้านเข้ามาทันที เป็นไกด์นนั่นเอง บาริสต้าหนุ่มเมื่อเห็นจีโอ ก็ยิ้มกว้างและถลาเข้าหากันทันที
   "เห้จีโอ" ไกด์ร้องพลางดึงตัวเพื่อนขึ้นมา กอดจีโออย่างเป็นมิตร "ไม่ได้เจอนานมากเพื่อน คิดถึงว่ะ อ้าวสเตลล์มาด้วยเหรอเนี่ย"
   สเตลล่าทำหน้างงๆเล็กน้อย พลางมองตาจีโออย่างรู้กัน จีโอก็เช่นกันที่เริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง
   "...o.....of course" สเตลล่าพูดตะกุกตะกัก " วินเค้าชวนมาทานข้าวน่ะ ไอก็เลย...."
   "เห้ย เยี่ยมเลยๆ อ้าวหวัดดีคับเอิร์ธ" ไกด์ทักทาย เอิร์ธพยักหน้ารับเบาๆ พลางสงสัยในสีหน้าของจีโอและสเตลล่า ที่มองไกด์ด้วยความแปลกใจอย่างเห็นได้ชัด "ว่าแต่มีอะไรกันเหรอ นายนัดทุกคนมาเหรอวิน"
   "ช...ใช่" วินตอบตะกุกตะกัก "ค..คือวันนี้จีโอเค้าเซ็นสัญญาที่ที่ทำงานฉันน่ะ ก็เลยพามาเลี้ยง"
   "เห้ยจริงดิ ไหงบอกปีนี้ไม่จะลงทุนไงเพื่อน" ไกด์ถาม
   "บ้า..." จีโอหันมาตอบเสียงสูงพลางมองไปที่วิน สับไปมากับไกด์ "ก็.....เพิ่งจะรู้...ว่าเอ่อ....มันดี...น่าลงอ่ะ"
   "อ่านะ เปลี่ยนใจไวตลอดอ่ะ" ไกด์ว่า
   "นายแหละ ไหนว่าวันนี้ไปทำธุระไง แล้ว....มานี่ทำไมอ่ะ" วินร้องถาม
   "ฉันกำลังจะไป แต่อยากแวะมาเจอนายก่อน" ไกด์ตอบ
   แล้วทั้งโต๊ะก็เกิดความเงียบสนิทขึ้นทันที
   สเตลล่าและจีโอเหล่มองไปที่ไกด์ เอิร์ธขมวดคิ้วทันที พลางพยายามตีความในคำตอบของไกด์ ในขณะที่วินเหล่ขวับไปทางเอิร์ธทันที สเตลล่าสติไวกว่า เธอจึงควงแขนเข้าหาวินอย่างรวดเร็ว ไกด์มองมือของสเตลล่าที่ควงวินเอาไว้ ขณะที่เอิร์ธขมวดคิ้วเข้มพลางพยายามตีความคำตอบของไกด์เมื่อครู่
   ความคิดร้อยแปดผุดขึ้นในหัวทันทีของทุกคนที่อยู่ในโต๊ะนั้น ทุกคนพยายามตีความสิ่งที่เกิดขึ้นท่ามกลางความเงียบนี้
   "เอ้อ....ไอมีข่าวดีมาบอก" สเตลล่าเอ่ยขึ้นกลบความเงียบ "ไอจะได้ขึ้นปกโวร์คเดือนหน้า"
   "จริงเหรอ" วินร้องตอบทันที "ดีเลยๆ เดี๋ยวผมพาไปเลี้ยงฉลองนะ"
   ไกด์ขมวดคิ้วทันที พลางมองหน้าวิน
   "ดีค่ะ ขอบคุณนะคะวิน" สเตลล่ากล่าวพลางยิ้มกว้างให้วิน ที่ยิ้มตอบเธอ
   ไกด์มองสิ่งที่เกิดขึ้น พลางยืดตัวขึ้นและกระแอมเสียงดัง จีโอและเอิร์ธเหล่มองตาม วินกัดฟันเบาๆ สิ่งที่เขาและเสตลล่าปกปิดไว้มันซับซ้อนหลายชั้น เกินกว่าที่คนในโต๊ะนี้จะเข้าใจเรื่องเดียวกัน เขาเสียวสัหลังวาบๆ การปรากฎตัวของไกด์ มันไม่ได้อยู่ในสิ่งที่เขากำหนดไว้
   "นี่ฉันมาผิดจังหวะหรือเปล่า" ไกด์ว่า
   "ไม่หรอกนาย" วินเผลอตอบเสียงนิ่ม เอิร์ธหันควับมาหาเพื่อนรัก เสียงแบบนี้ ไม่ใช่เสียงปกติ วินกระแอมหนึ่งครั้ง พลางพยายามปรับเสียงตัวเอง "ว่าแต่ นายแวะมามีอะไรเหรอ"
   "ก็...เรื่องที่ฉันเคยบอกนายไว้ไง ว่าฉันจะพาไปเที่ยวน่ะ" ไกด์ว่า ถึงประโยคนี้ วินมองไปยังสายตาของเอิร์ธทันที ที่จ้องขเม็งมาที่เขา เช่นเดียวกับจีโอที่เหล่มองไกด์ รอบนี้เป็นสเตลล่าที่หลับตาปี๋แม้ว่ามือจะบีบแขนวินไว้แน่น
   "อ๋อ....เอ้อ พอดีเลย ไหนๆก็วันนี้ก็ทุกๆคนมาเจอกันแล้ว นายไม่ชวนทุกๆคนไปด้วยกันซะเลยล่ะ" วินว่า "ไปด้วยกันหลายๆคนจะได้สนุกๆไง"
   ไกด์มองหน้าวินทันที พลางขมวดคิ้ว
   "นายอยากไปเป็นกลุ่มหรอกเหรอ" ไกด์ถาม
   "ใช่" วินร้อง "จะได้เป็นการฉลองไง
   "ต..แต่ว่า ถ้าคนอื่นไม่อยากไปก็ไม่เป็นไรนะ" สเตลล่าร้องขึ้นแก้เกมส์อีก ทั้งวินและไกด์เหล่ควับมามองเธอ "จ...จะได้ไม่ต้องรบกวนไง ค..คือว่าไอหมายถึงว่า....ตอนแรกก็ว่าจะไปกัน สามคนน่ะค่ะ....ช....ใช่มั้ย"
   "ไปดิ" เอิร์ธว่าพลางจ้องหน้าวิน "แบบนี้มันต้องไปอยู่แล้ว"
   "ช่ายยยย" จีโอร้องเสียงสูง พลางหันไปมองไกด์ "ต้องไปกันเยอะๆ จะได้รู้......สึกสนุก"
   ไกด์มองไปที่ทุกๆคนทันที รอบนี้เป็นวินและสเตลล่ามองหน้ากันอย่างเสียวสันหลัง
   "ผมกะจะพาวินไปดีสนีย์แลนด์น่ะ ถ้าทุกคนอยากไปกัน ก็ต้องจ่ายค่าตั๋วมานะ ผมกำลังจะไปจอง" ไกด์ว่า "ไปกันหมดนี่เลยใช่หรือเปล่า"
   "ผมขอเพิ่มอีกที่นึงครับ" เอิร์ธว่า "ผมจะชวนพี่ไปด้วย"
   เอิร์ธหยิบเงินในกระเป๋าพลางส่งให้ไกด์ แม้ว่าสายตาจะเหล่มองไปหาวินอย่างไม่ลดละ
   "ฉันก็เพิ่มอีกที่นึงเหมือนกันเคลวิน" จีโอว่า รอบนี้เป็นวินและเอิร์ธหันไปมองจีโอ "ชั้นว่า ฉันเจอโอกาสดีดีในเดทแรกละ"
   "ห๊ะ" วินและเอิร์ธร้องขึ้นพร้อมกัน
   รอบนี้ เป็นไกด์ ที่มองวินด้วยสายตาแข็งกร้าว
   วินชักไม่แน่ใจแล้ว ว่าเรื่องที่เขาวางแผนเอาไว้กับทุกๆคนในโต๊ะนี้ ผลมันจะออกมาเป็นยังไง แต่ที่แน่ๆ เขาอยากจะมุดตัวหายออกไปจากร้านเกล็ดหิมะเสียตั้งแต่ตอนนี้ ซึ่งสเตลล่าก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-02-2013 05:43:52 โดย M2M_Jill »

ออฟไลน์ srikoon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 530
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-6
วินทำหน้าไม่ถูก

ความแตกแน่ๆ

ออฟไลน์ M2M_Jill

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
ตอนที่ 32 Bad Mood

   ใช้เวลาไปนานทีเดียว กว่าความอึดอัดในร้านเกล็ดหิมะจะเบาบางลงไปได้ ไกด์ออกจากร้านเกล็ดหิมะไปพร้อมกับส่งสายตาบางอย่างมาให้กับวิน เป็นสายตาที่วินไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ก็รับรู้ได้ว่า หมอนั่นอารมณ์ไม่ดีแน่ๆ เช่นเดียวกับเอิร์ธ ที่เมื่อทานสปาเกตตี้หมดจาน ก็ขอตัวกลับอย่างรวดเร็ว แม้ว่าวินจะพยายามชวนคุย แต่ก็ไม่เป็นผล เอิร์ธบอกกับเขาแต่เพียงว่า
   "เดี๋ยวมึงก็ได้คุยกับกูอีก คุยยาวอ่ะ"
   ทิ้งไว้เพียงระเบิดลูกใหญ่ ก่อนเพื่อนรักจะหายตัวไปจากร้าน ผิดกับจีโอที่ยังคงทำตัวร่าเริง และยิ่งร่าเริงมากขึ้นไปอีก เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดตลอดหนึ่งชั่วโมงในโต๊ะอาหารนี้ สเตลล่าพยายามส่งสายตาปรามไปให้จีโอซึ่งไม่ได้ผลใดใด หลังจากเสร็จสิ้นของหวาน ไปพร้อมๆกับที่วินเริ่มเก็บข้าวของในร้านรอบเย็น วันนี้เขาทำงานมาทั้งวัน เพื่อแทนไกด์ ดังนั้นหัวค่ำเขาจึงว่างและอาสาไปส่งจีโอที่บ้านและส่งสเตลล่าที่สถานีรถไฟ
   แม้ว่าตลอดการเดินเท้าออกจากร้านเกล็ดหิมะ จีโอจะมีอารมณ์ที่ร่าเริงและกอดคอของเขาไปด้วย แต่มันก็ไม่ได้ทำให้วินรู้สึกอารมณ์ดีขึ้น มันน่าแปลกตรงที่วันนี้ทุกอย่างจบลด้วยดีแล้วแท้ๆ แต่ใจเขาเต็มไปด้วยความกังวล บ้านพักของจีโออยู่ห่างไปเพียงไม่กี่ช่วงบล็อค วินและสเตลล่าส่งจีโอที่หน้าบ้านพัก
   "ขอบคุณมากนะวิน" จีโอพูดขึ้น
   "ไม่เป็นไรหรอก" วินตอบ "เดินมาส่งแค่นี้ ไม่ใช่เรื่องลำบากอะไรครับ"
   "ไม่ใช่เรื่องนั้น" จีโอว่า "เรื่องเคลวิน"
   วินหายใจเข้าลึก คิดไว้อยู่แล้วว่าจีโอต้องวกเข้าเรื่องนี้
   "จีโอ" สเตลล่าร้องเสียงแข็ง "ไอว่ามัน..."
   "ไม่ต้องหรอกสเตลล์" วินพูดห้าม "ว่ามาเลยครับ สิ่งที่คุณคิด"
   "ไม่คือ ผมก็ไม่รู้หรอกนะ ว่าคุณกับเคลวินมีความสัมพันธ์กันยังไง" จีโอว่า "แต่ที่แน่ๆ คุณทำในสิ่งที่ผมกับสเตลล่าก็ทำไม่สำเร็จ ในรอบหลายปีมานี่"
   สเตลล่าก้มหน้าลง วินยังคงมองหน้าจีโอต่อ
   "เขากลับไปเป็นเคลวินได้แล้วในที่สุด" จีโอพูดต่อ วินยิ้มอย่างเบาบาง พลางส่ายหัวเบาๆ "เราสองคนรู้ดีอยู่แก่ใจสเตลล์ เราพยายามกันมาแค่ไหน แต่เขาก็ไม่เคยยอมลืมอดีตที่ผ่านมา"
   "งั้นเราก็ควีที่จะปล่อยให้เรื่องที่เหลือ เป็นการตัดสินใจของเขาสองเองหรือเปล่า" สเตลล่าว่าพลางมองจีโอ "อย่าได้สะกิดอะไรเพิ่มเลยจีโอ หยุดทำตัวฉลาดกว่าความจริงแล้วปล่อยให้ความจริงทำงานด้วยตัวมันเองซะ"
   "ฉันเนี่ยนะสะกิด ใครกันแน่สะกิดแผลเก่าเคลวิน เสตลล์ เธอนึกดูดีดี" จีโอชี้หน้าหญิงสาว "เธอต่างหาก เธอกลับมาหามัน"
   "ไอกลับมา ก็เพราะว่าอยากจะทำให้เค้าหายเศร้าเท่านั้น ไออยากจะรับผิดชอบในสิ่งที่ไอทำ และไอก็ทำในสิ่งที่ยูก็ทำไม่ได้" สเตลล่าว่า "ยูเป็นเพื่อนเค้าด้วยซ้ำ"
   "ไม่เลย.....ผมน่ะ..."
   "โอเค หยุดเหอะครับ ทั้งคู่เลย" วินยกมือขึ้นห้าม "มันไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วนี่ ในเมื่อคุณสองคนก็เห็นว่าเขาเป็นปกติดีแล้ว"
   "ใช่....ฉันก็แค่อยากจะแสดงความยินดีด้วยเท่านั้น" จีโอว่า "ฉันไม่ถือหรอกเรื่องแบบนี้ ที่สตาร์เบิร์กมีตั้งหลายคู่ที่เป็น"
   "โทษครับจีโอ ผมกับไกด์ เราสองคนไม่ได้....." วินว่า
   "ไม่ใช่อย่างนั้นเลยจีโอ" สตลล่าว่า "นี่ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเลยนะ"
   สิ้นคำของสเตลล่า วินหันไปมองเธอทันที
   "ยูรู้นิสัยเพื่อนยูดีกว่าใครๆ" สเตลล่าว่า "เคลวินคนเดิมนิสัยเป็นยังไง แล้วเขาเคยทำอะไรไว้ นั่นเป็นสิ่งที่ไม่เคยลูกลบล้างเลยนะ"
   จีโอเงียบสนิท
   "ยูอาจจะดีใจที่ได้เพื่อนสนิทกลับมาก็จริง มาขอบคุณวินก็จริง แต่นี่มันไม่ต่างอะไรกับการโยนภาระทั้งหมดให้กับเค้า" สเตลล่าพูดชัดเจน "ยูไม่ได้ทำอะไรเลยซักอย่าง เพื่อจะเปลี่ยนเพื่อนของยูให้ดีขึ้น พอเพื่อนคุณดีขึ้นได้หน่อย คุณร้องเฮ ดีอกดีใจ ลอยไปจีบแม่สไตลิสแสนสวยคนใหม่ของยู แล้วถ้าเกิดว่าวินจะต้องเจอกับอะไรแบบที่ฉันเคยเจอ แบบที่ก้องเคยเจอล่ะ ยูจะยังกล้าพูดแบบนี้อีกไหม"
   วินมองสเตลล่าอย่างไม่เชื่อสายตา ในขณะที่จีโอก้มหน้าก้มตาทันที
   "เห้ย เธอคิดมากไปแล้วสเตลล์ ฉันเอ่อ...ไม่คิดว่ามันจะทำอย่างนั้นกับวินได้หรอกน่า" จีโอว่า
   "ยูก็พูดกับเคลลี่แบบนี้ เรื่องฉันเหมือนกัน" สเตลล่าว่า
   "สเตลล์" วินจับเข้าที่ตัวเธอ "ไม่เป็นไร....มันไม่มีอะไรหรอก"
   สเตลล่าหันมามองหน้าวิน ดวงตาของเธอมีประกายใสใส ด้วยอารมณ์ที่โกรธพล่าน
   "ไอไม่อยากเห็นทุกอย่างมันจบลงแบบนั้นอีก" สเตลล่าว่าเสียงสั่น วินยิ้มปลอบใจเธอ ก่อนจะหนักลับมาหาจีโอ
   "ไม่เป็นไรหรอกจีโอ คุณขึ้นไปพักผ่อนเถอะ" วินว่า "มีอะไร เดี๋ยวผมบอกคุณเองผมหมายถึงเอ่อ...เรื่องงานนะ"
   จีโอมองมาที่วินอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะตบไหล่อย่างเป็นมิตรพร้อมรอยยิ้ม พร้อมกับมองสเตลล่าที่ส่งสายตาแข็งกร้าวกลับไปให้เขา จีโอก้มหน้าก้มตาเดินขึ้นบ้านพักจนลับตาไป
   สเตลล่าหันหลังกลับทันที พลางจ้ำอ้าวเดินออกจากหัวมุมถนน วินออกเดินตามเธอไปก่อนจะคว้าแขนเธอไว้ได้ทัน
   "เป็นอะไรไปสเตลล์ เกิดอะไรขึ้นเนี่ย" วินถามเธอทันที สเตลล่าหันกลับมามองหน้าวินอย่างเป็นกังวล วินตกใจเล็กน้อย เธอถอนหายใจครั้งหนึ่ง ก่อนจะหันหลังเดินต่อ วินก็คว้าตัวเธอให้หันกลับมาอีก
   "เดี่ยวดิ คุยกันให้รู้เรื่องก่อน" วินท้วงต่อ
   สเตลล่าถอนหายใจพลางมองหน้าวิน
   "คุยอะไร" สเตลล่าถาม "ไอพูดกับจีโอไหมดแล้ว ที่เหลือ ยูต้องคิดเอง"
   "ไม่ใช่ดิ ก็ก่อนหน้านี้ ตอนที่ผมกับเค้าอยู่ด้วยกัน ตอนที่ทุกอย่างกำลังดีขึ้น เธอไม่เห็นท้วงอะไรซักคำ" วินว่า
   "ก็เพราะว่าไอไม่เชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น" สเตลล่าตอบ "ไอดีใจ ที่เขารู้จักเปิดใจรับคนอื่นมากขึ้น แต่ไอไม่เชื่อ ว่านี่จะเป็นสิ่งที่ดี"
   "หมายความว่ายังไง" วินถาม
   "วิน ยูไม่เคยรู้จักเค้า" สเตลล่าตอบ "ยูเพิ่งมาอยู่ที่นี่แค่ 6 เดือน ยูไม่รู้หรอก ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเคลวินคนก่อน ยูไม่เคยเห็นหรอกว่าเค้าเป็นยังไง"
   วินนิ่งเงียบพลางหลบสายตาเธอ สเตลล่าเบือนหน้าหนีไปทางอื่นครั้งหนึ่ง ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ตัววินมากขึ้น
   "บอกไอสิ ว่าสิ่งที่นายทำอยู่ แผนการทุกอย่างที่เกิดขึ้น เป็นเพราะเค้า" สเตลล่าถามวิน วินมองหน้าเธอโดยไร้ซึ่งคำตอบ "บอกสิว่าไม่ใช่"
   "นี่ฟังนะ สเตลล์ มันไม่ได้มีอะไรต้องกังวลเลยนะ" วินพยายามแย้ง "ทุกอย่างมันกำลังไปได้สวย และ...."
   "ตอนเรื่องของไอกับเคลลี่ก็เป็นแบบนี้ เริ่มต้นแบบนี้นั่นแหละ" สเตลล่าว่า "และก็เป็นเค้า ที่ทำลายทุกอย่างลง"
   "สเตลล์" วินเรียกชื่อเธอเบาๆ
   "ไอเคยหวัง ว่าการที่เคลลี่จากไป จะทำให้เค้ารสำนึกได้บ้าง ใช่ เค้าทำ แต่ไม่ใช่การมาเดทกับนายต่อ" สเตลล่าว่า "แค่ไปเห็นเค้าวันนี้ ก็เห็นทุกอย่างแล้วว่ามันจะเป็นยังไง เค้าจะเป็นคนเดิม"
   "ไม่ เค้าจะไม่เป็นคนเดิม เค้าจะเป็นคนใหม่สเตลล่า"
   "แล้วเป็นใครอ่ะ" สเตลล่าร้อง
   วินเงียบสนิท
   "ให้เค้าเป็นใครดีวิน เป็นไกด์ เป็นเคลวิน หรือเป็นก้อง" สเตลล่าพูด "ยูอยากให้เค้าเป็นใคร เค้าก็เป็นได้ทั้งนั้นแหละ"
   "เธอกำลังพูดเหมือนกับว่า เคลวินเป็นคนเลวเอามากๆนะสเตลล์" วินว่า "ผมไม่เชื่อว่า...."
   "เค้าไม่ได้เลว แต่เค้าเป็นใครสำหรับยูล่ะนี่ต่างหากคือประเด็น" สเตลล่าว่า "ฟังนะวิน ไม่ว่ายูจะเชื่อไอหรือเปล่า แต่อย่ารู้สึกอะไรกับเคลวินไปไกลกว่านี้ เพราะที่จะต้องเจ็บปวดที่สุดในตอนสุดท้าย จะเป็นนายเอง"
   วินมองหน้าเธอพลางกัดฟัน สเตลล่าส่ายหน้าครั้งนึง
   "ยูไม่เชื่อชั้น" สเตลล่าถอนหายใจ พลางเดินทิ้งห่างไปทันที "ไม่ต้องไปส่งนะ ไอกลับเองได้ เราสองคนไม่ได้เป็นแฟนกัน"
   "ผมไม่สนหรอก" วินตะโกนใส่หลังของสเตลล่าไป แม้ว่าเธอจะไม่หยุดยืนฟัง "ผมไม่สนว่าคุณจะไม่ให้อภัยเขา แล้วไม่ยอมให้เกิดการเริ่มต้นใหม่ให้เค้า ได้ยินไหมสเตลล่า
   วินออกเดินตามเธอที่หายไปจากหัวมุมถนน และตะโกนไล่หลังเธอไป
   ผมไม่สน ว่าคุณจะโดนเขาทำอะไรมา แต่ผมเชื่อใจเขา ที่คุณพูดมันใช้ไม่ได้กับผมสเตลล์ ผมรั......."
   วินถูกกระชากให้หันหลังกลับทันทีโดยที่ยังพูดไม่จบประโยค ความตกใจของวินถูกแทนที่ด้วยกลิ่นอายที่คุ้นเคย วินพลักตัวเองออกจากแรงดึงดูดมหาศาลตรงหน้าที่ดึงร่างของเขาไว้ และผลักร่างนั้นออกจนพ้นตัว และมองดูเจ้าของผลงานที่เกิดขึ้น ไม่ต้องทายว่าเป็นใครอยู่แล้ว
   "น...นาย...." วินหอบแฮ่กๆ พลางปาดริมฝีปากด้วยหลังมือพลางมองหน้าไกด์ที่ยืนอยู่ตรงหน้า ดวงตาที่เย็นชาคู่นั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ที่รุนแรง ใบหน้าที่หล่อเหลาตอนนี้แดงจัดไปด้วยความโกรธ วินรู้สึกถึงคลื่นพังมหาศาลที่ปล่อยออกมาผ่ายการกระชาก ชายหนุ่มหายใจหอบมองไกด์อยู่อย่างนั้น
   "ทำบ้าอะไรวะ" วินว่า แต่ไกด์ยังคงนิ่งเงียบสนิท
   "กลับบ้าน" ไกด์พูดสั้นๆ พลางดึงแขนวินให้เดินตามทันที
   "เห้ย ไอ้ไกด์ นายทำบ้าอะไรของนายอ่ะ" วินร้องทันที ที่ไกด์เริ่มกระชากตัวเขาออกเดิน "ปล่อยนะไกด์"
   วินสะบัดแขสไกด์ออกทันที
   "ถ้าไม่อธิบายมา ฉันก็จะไม่ไปไหนกับนายทั้งนั้น" วินร้อง ไกด์หันหลังกลับมา มองวินด้วยสายตาเย็นชา "และคราวนี้ฉันพูดจริงนะไกด์ แน่จริงก็เอาดิ"
   ไกด์ยืนมองวินอย่างนิ่งสนิท
   "กลับบ้านวิน" ไกด์พูดเสียงเย็นเฉียบ
   วินมองเข้าไปในดวงตาของไกด์ ชายหนุ่มกัดฟันด้วยความโกรธ
   "เห้ย นี่มันอะไรกันวะ" วินร้องออกมาด้วยเสียงอันดัง เขาหมดความอดทนแล้ว "ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้นอ่ะไกด์ ฉันไม่ไปแล้ว"
   "เราคุยกันตรงนี้ไม่รู้เรื่องหรอก" ไกด์พูดเสียงเรียบ "กลับบ้านเหอะ"
   "นายไม่เข้าใจเหรอวะ" วินร้อง "เห้ย.....นายรู้หรือเปล่าไกด์ ว่าวันนี้เป็นวันดีแค่ไหนอ่ะ"
   ไกด์ยังคงเงียบสนิท
   "ทุกๆอย่างแม่งโคตรเข้าล็อคหมดเลยนะ" วินร้อง "ทุกๆเรื่องแม่งออกมาดีหมด เท่าที่นายจะคิดออกเลยอ่ะ แต่ทำไมวะ ทำไมทุกๆคนถึงกลายเป็นว่า ไม่มีใครเห็นว่าวันนี้แม่งดีแค่ไหนอ่ะ"
   วินก้มหน้าลง ชายหนุ่มขยี้หัวตัวเองอย่างหัวเสีย
   "โธ่เว้ยยยยยยยยย" วินตะโกนก้อง "มันเกิดเหี้ยไรขึ้นวะเนี่ย ให้ตายเหอะ"
   ไกด์ยังคงมองวินอย่างสงบนิ่ง ชายหนุ่มมองวินอย่างเย็นชา ก่อนจะก้มหน้าลง
   "กลับบ้านกับผมนะวิน" ไกด์พูดเสียงที่อ่อนโยนเอามากๆ วินมองหน้าชายหนุ่มตรงหน้า คำพูดของสเตลล่าตีไปมาอยู่ในหัว คำพูดของเอิร์ธ คำพูดของพ่อ คำพูดของจีโอ คำพูดของทุกๆคน กำลังทำให้วินปวดหัว เขาไม่เข้าใจทุกๆคนเลยจริงๆ ทำไมทุกคนถึงพยายามทำให้ทุกอย่างมันแย่ลง เขาทำทุกอย่างขึ้นมาได้สวยอยู่แล้วเชียว
   "นายไม่เข้าใจอ่ะไกด์" วินว่า "นายไม่เข้าใจอ่ะ ว่าทั้งหมดนี่มันคืออะไร ฉันเครียดจะตายอยู่แล้ว นายรู้หรือเปล่า ฉัน..."
   มือของไกด์จับแขนของวินและดึงตัวชายหนุ่มเข้าไปกอดทันที วินหยุดคำพูดไว้แค่นั้นทันทีที่ไกด์อดเขา น้ำตาของวินก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เขาต้องการเพียงแค่อ้อมกอดแบบนี้เท่านั้นที่อบอุ่นใจที่สุดในเมืองนี้
   "ฉันงงไปหมดแล้ว" วินว่า "ฉันทำอะไรไม่ถูกเลยไกด์ ทำไม ไม่มีใครรับฟังชั้นเลยอ่ะ ทำไมอ่ะไกด์"
   "กลับบ้านนะวิน" ไกด์ว่า
   วินกอดไกด์อยู่เนิ่นนาน จนท้องถนนนั้นไม่เหลือผู้คนอีกเลย
........................
   เสียงลำธารไหลเอื่อยๆที่เชิงสะพานใกล้ๆโบสถ์โรสแมรี่ วินไม่มีความพยายามที่จะกลับบ้าน เขาส่งสัญญาณทุกวิถีทางเพื่อให้บาริสต้าสุดเย็นชา หยุดบังคับเขากลับบ้าน อย่างน้อยก็ในชั่วกลางดึกตอนนี้
   ไกด์เท้าแขนมองเหม่อออกไปยังแม่น้ำที่ไหลออกไปยังใจกลางกรุงปารีส ในขณะที่วินยืนหันหลังพิงขอบสะพาน มองถนนที่ไม่มีผู้คน เหลือเพียงแสงไฟที่ส่องให้ทั้งคู่มองเห็นกันและกันอยู่ ไกด์และวินเงียบใส่กันมาเกือบชั่วโมงแล้ว ตั้งแต่เดินออกจากถนนทอร์ควิลมาถึงที่นี่ สองเท้าทั้งคู่พาทั้งคู่มาเองโดยสัญชาตญาณ โดยมีเพียงมือที่จับกันและกันเดินมาถึงตรงนี้ ไม่มีคำถาม ไม่มีคำตอบ ไม่มีคำพูด เวลาหยุดเดินอยู่กลางกรุงปารีส วึ่งสำหรับวินแล้ว ตอนนี้ เขาไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง เขาไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองกำลังมีปัญหา เขาแค่รู้สึกว่าทำไมรอบๆตัวเขาถึงมีแต่ปัญหา ทั้งที่เขาก็จัดการทุกอย่างเอาไว้เต็มที่แล้ว
   "มีอะไรจะบอกกันหรือเปล่า" ไกด์ถามทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน หลังจากที่เงียบกันไปนาน วินถึงกับทรุดตัวลงนั่งกับพื้นทันที พลางกัดฟันแล้วก้มหน้าลงกับตัวเอง "หรืออะไรก็ได้ ที่นายจะพูด หรืออยากจะถาม"
   วินกลับเป็นฝ่ายเงียบขึ้นมาแทน
   "บอกตรงๆนะ ฉันไม่แน่ใจว่า สิ่งที่ฉันทำให้นาย มันยังจะเป็นเรื่องที่ดีอยู่หรือเปล่า" ไกด์พูดต่อ "ฉันอาจจะไม่ควรทำแบบนี้เลย อย่างที่สเตลล์พูด ฉันอาจจะไม่ควรดูแลนาย"
   วินตั้งใจฟังไกด์ต่อพลางกำหมัดแน่น
   อะไรนะ....ไม่ควรดูแลกันงั้นเหรอ
   "บางที ถ้าเกิดว่านายกับสเตลล์จะเป็นแฟนกันจริงๆ มันก็อาจจะ...."
   "ไม่" วินพูดออกมาทันที "ไม่ใช่อย่างนั้น นั่นเป็นเรื่องที่นายกำลังเข้าใจผิด"
   "แล้วอะไร ถึงเรียกว่าเข้าใจถูก" ไกด์ถามกลับ วินนิ่งเงียบ "แบบไหนเหรอ ที่เรียกว่าเราเข้าใจตรงกันแล้ว"
   วินหลับตาลง
   "ฉันขอเหอะไกด์ ทุกอย่างกำลังไปได้สวย อย่าเป็นนายอีกคนได้ไหม ที่จะขัดฉันเรื่องนี้" วินว่า
   "เรื่องไหนอ่ะ" ไกด์ถามกลับ
   "ก็ทุกเรื่องที่ฉันทำอยู่นี่ไงเล่า นายอย่าเพิ่งขัดอะไรที่...."
   "ทุกเรื่องนี่คือรวมเรื่องที่ทั้งหมดที่นายทำ นายกำลังทำเพื่อฉันด้วยหรือเปล่า" ไกด์พูดต่อคำวินจนจบ วินเงียบสนิท และเงยหน้าองไกด์ทันที
   "น...นาย"
   "นายคิดว่าฉันไม่รู้เหรอ" ไกด์ถามขึ้น "ฉันรู้มาซักพักแล้ว ว่านายกำลังทำอะไรอยู่"
   น้ำตาวินเริ่มเอ่อคลอขึ้นมาอีกครั้ง
   "มันไม่ใช่เรื่องที่ดูยากอะไรเลยใช่หรือเปล่าล่ะ" ไกด์ส่ายหน้าพลางยิ้มให้ตัวเองขำๆ พลางมองออกไปข้างหน้า "วิน ลูกคุณหนูเอาแต่ใจ เคยวิ่งหายไปจากชีวิตฉันแล้วครั้งหนึ่ง อยู่ดีดีก็กลับมา แล้วทุกๆอย่างก็ดีขึ้น ดีขึ้นอย่างน่าประหลาด ลูกคุณหนูคนนั้น สลัดคราบความเอาแต่ใจทิ้งไป ทำงานควบสองที่หลายเวลา หาเงินตัวเป็นเกลียว แต่กลับทำทุกอย่างเพื่อต่อต้าน ความก้าวหน้าในสายงานของตัวเอง"
   วินมองหน้าไกด์ขณะที่ชายหนุ่มพูด
   "นายเริ่มดูแลคนที่นายไม่รู้จัก เริ่มเห็นค่าของสถานที่ที่ช่วยเหลือคนอย่างเกล็ดหิมะ แสดงความเห็นใจกับคนที่นายเองก็เคยโวยวายใส่หน้าเค้า นายรู้สึกดี ที่ได้ทำสิ่งดีดีให้คนอื่น และนายก็เชื่อว่า มันก็คงจะดีไม่น้อย ถ้าจะทำอะไรแบบนี้ไปเรื่อยๆ อยู่ในที่ที่ตัวเองรู้สึกไม่เหมือนเดิม" ไกด์ก้มหน้าลง
   วินกระพริบตาถี่ ไกด์รู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร และถ้าไกด์รู้ไปมากกว่านี้ นั่นก็เท่ากับว่าไกด์กำลังรู้ ว่าเขา....
   "ล..แล้ว....แล้วมัน...." วินพยายามควบคุมเสียงตัวเองไม่สั่นเครือ "แล้วมันไม่ดีหรือไง"
   "แต่ฉันคิดว่า นายไม่ได้ทำสิ่งเหล่านี้ เพราะเหตุผลแค่นั้นหรอก" ไกด์ว่า
   "แค่นั้นแหละ ฉันทำไป ก็เพราะอยากอยู่ที่นี่ต่อ ก็ไม่ได้มีอะไรนอกเหนือไปมากกว่านั้น ความจริงแล้วที่ฉัน ทำไปก็เพราะแค่อยากจะได้อยู่กับ........" วินอ้าปากค้าง เค้าถูกไล่ต้นมาจนมุมตัวเอง ไกด์จะรู้เรื่องนี้ไม่ได้ ชายหนุ่มอ้าปากค้าง ไม่มีแม้แต่ลมหายใจออกมา ไกด์หันมามองวินเบาๆ "ทำไปก็เพราะแค่อยากจะได้อยู่กับ....กับ...."
   "....กับชั้น" ไกด์ต่อคำจนจบ
   และแล้วเวลาก็หยุดลงอย่างสมบูรณ์ วินหลับตาลงทันที ในที่สุค ไกด์ก็รู้มันเข้าจนได้ วินเม้มปากเบาๆ
   "ไกด์ชั้น....คือชั้นหมายความว่า" วินพยายามพูดอะไรบางอย่าง
   "อย่าทำนั้นเลยวิน" ไกด์พูดต่อ "อย่าทำอะไรไปมากกว่านี้ เพราะชั้น"
   "อ...อะ...อะไร....นายว่าอะไรนะ" วินร้องเสียงสั่น "....ชั้น...ทำไม...เพราะอะไรอ่ะ เพราะอะไรฉันจะทำให้นายบ้างไม่ได้"
   "ก็เพราะทั้งหมดที่ผ่านมา มันอาจจะไม่ใช่ฉันก็ได้" ไกด์ว่า "นายไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าฉันเป็นใคร"
   วินลุกขึ้นยืนทันที คำพูดของไกด์ กำลังหลายเป็นมีดที่แทงลึกเข้าไปในตัวของเขา คำพูดเดียวกับที่สเตลล่าพูดกับเขาเมื่อหัวค่ำที่ผ่านมา
   "ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกไกด์ นายแค่ได้ยินสิ่งที่สเตลล่าพูดเมื่อกี้" วินพยายามอธิบาย "และนั่นมันไม่ได้ทำให้ฉันลังเลเลยเว่ย ฉันตั้งใจไว้แล้ว และฉันจะไม่..."
   "นายไม่เข้าใจวิน" ไกด์หันหน้ามาหาวินทันที "นายไม่รู้หรอกว่าฉันเป็นใคร นายจะรู้ได้ยังไง ในเมื่อฉันยังไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ฉันไม่รู้จักตัวเองเลยวิน หลังจากเรื่องทั้งหมดนั่น ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะเป็นใครต่อไปได้อีก ฉันเป็นก้อง เป็นไกด์ เป็นเคลวิน ฉันเป็นทั่วไปหมด ฉันปรากฎตัวไปทุกที่ แต่มันไม่มีที่ไหนที่เป็นฉันเลยวิน และนั่นแหละเหตุผล เข้าใจไหมวิน"
   วินมองหน้าไกด์พลางกัดฟัน
   "เพราะว่าฉันไม่ใช่คนที่นายพึ่งพาได้ ฉันช่วยนายได้ แต่ไม่ใช่คนที่นายจะมาคาดหวังหรือเชื่อมั่นได้หรอก ฉันเป็นฆาตรกรวิน และก็ยังเป็นอยู่" ไกด์ว่า "น้องชายฉันตายเพราะฉัน เพราะความเป็นฉัน และฉันก็ไม่เคยได้ไถ่โทษ ฉันเคยเอานายมาเป็นตัวไถ่โทษ แล้วก็ได้เรียนรู้ว่าสุดท้าย มันไม่มีการแทนกันได้ นายก็คือนาย และฉันก็คือฉัน เราทั้งคู่ก็แค่คนสองคนที่มาเจอกันในเมืองบ้าๆนี่ แล้วสุดท้าย เราสองคนก็จะต้องจากกันไปวิน มันจะจบลงแค่นั้น"
   วินกำหมัดแน่นขึ้น
   "ฉันเคยบอกนายแล้ว ว่าฉันมองไม่เห็นนายอยู่กับฉันมาพักนึงแล้ว แต่นายก็ไม่รับฟัง" ไกด์ว่า "นายกลับยิ่งพยายามทำทุกอย่างหนักขึ้น จนตัวนายเองเริ่มต้องแบกรับ ต้องเจอกับเรื่องร้ายๆ และนายอาจจะต้องเจอกับเรื่องที่ร้ายไปมากกว่านี้เพราะฉันนะวิน มันจะเกิดขึ้นกับนาย และฉันก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น เพราะฉันเป็นใครก็ไม่รู้ ฉันเป็นคนที่นายไม่รู้จักด้วยซ้ำ ฉะนั้น ไม่มีทางที่นายจะมาอยู่กับฉันได้หรอกถ้า......"
   พลั่ก!!!
   วินต่อยหน้าไกด์ไปเต็มแรง ชายหนุ่มเซถลาไปตามแรงมือ ของวินทันที ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองวินอีกครั้ง ใบหน้าของวินอาบไปด้วยน้ำตา ชายหนุ่มกำหมัดแน่น กัดฟันกรอด พลางมองมาหาไกด์ด้วยความโกรธ
   "ว...วิน" ไกด์เอ่ยขึ้น พลางจับเข้าที่ใบหน้าของตัวเอง
   "พอเหอะ ฉันไม่อยางนายพล่ามแล้วว่ะ" วินว่า "เทปม้วนนี้จะถูกเล่าอีกกี่ครั้งวะไกด์ ห๊ะ มันจะถูกเล่าอีกกี่ครั้ง เรื่องไอ้ก้อง นายจะพูดเรื่องนี้อีกกี่ครั้ง นายถึงจะพอใจอ่ะห๊ะ"
   วินร้องเสียงดัง พลางส่ายหัว
   "นายไม่รู้ใช่ป่ะ ว่าตัวเองเป็นใคร นายไม่รู้ใช่ป่ะ" วินชี้หน้าใส่ไกด์
   "ที่ผ่านมา ที่เราทำเรื่องต่างๆด้วยกัน มันยังไม่ชัดเจนพอใช่ป่ะ มันยังไม่ชัดใช่ป่ะวะ" วินว่า "แล้วพอแม่งมาถึงครึ่งทาง นายก็จะบอกให้หันหลังกลับงั้นเหรอ มันจะไม่มักง่ายไปหน่อยเหรอวะ"
   วินหายใจเข้าลึกๆ
   "นายเป็นใคร ฉันอาจจะไม่รู้" วินว่า "แต่ตอนนี้ไอ้ก้อง ไอ้ไกด์ ไอ้เคลวิน....มันคือคนที่ไอ้วิน....รักเว่ย...ชัดยัง"
   ไกด์เงยหน้าขึ้นมามองวินทันที
   "แล้วไอ้วินคนนี้ ก็ไม่ถอยหลังกลับแล้ว" วินว่า "มันมาไกลเกินกว่าที่มันจะยกเลิกแล้ว มันรักไปแล้วเว่ย มันรักไปแล้ว นายเข้าใจป่ะวะ"
   วินกัดฟันกรอด พลางทุบหัวตัวเอง และทรุดตัวนั่งลงทันที
   "เชี่ยยยเอ้ย" วินว่า "กูเป็นบ้าอะไรของกูวะ นี่กูทำเหี้ยอะไรอยู่เนี่ย นี่สรุปที่ผ่านมานี่กูคิดไปเองใช่ป่ะ ที่อยู่ด้วยกัน มีเวลาดีดีด้วยกัน นี่สรุปกูคิดไปเองใช่ป่ะวะ"
   ไกด์ยืนนิ่งสนิท วินมองไปหาชายหนุ่ม
   "ชั้นไม่สนว่านายเป็นใคร เราไม่คุยเรื่องนี้กันแล้วได้ป่ะวะ" วินว่า เขาต้องลดความแพ้ตัวเองลงเดี๋ยวนี้ เขาเสียท่ามากเกินไปแล้ว "ทำไมอ่ะ เรื่องที่นายเป็นใครมันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ ชั้นทำอะไรต่อไปไม่ได้แล้วเลยงั้นเหรอ ไกด์ตอบดิ"
   วินสงบสติอารมณ์ตัวเองลง ความเงียบเข้าครอบคลุมสะพานแห่งนั้น ไม่มีคำพูดใดใดเล็ดลอดออกมาอีก มีเพียงสายลมที่พัดผ่านไปให่รู้สึกเย็นเบาๆ วินก้มหน้าลงกับตัวเอง พลางครุ่นคิดสิ่งที่จะเป็นไป
   "พูดมาแบบนี้ ทำเหมือนที่ผ่านมาแม่งเป็นเรื่องเล่นๆ" วินว่าพลางส่ายหัว "ทำอย่างกับว่าไม่เคยรู้สึกอะไรเลยงั้....."
   วินถูกเชยคางขึ้น ไกด์ประกบริมฝีปากจูบวินทันทีอย่างไม่รีรอ กลิ่นอายที่คุ้นเคยแทรกผ่านเข้ามา วินหลับตาพลางรับรู้ในคำตอบที่ไกด์พยายามบอกเขา ผ่านริมฝีปากที่นุ่นนวลที่สุดเท่าที่เคยสัมผัสมา วินยอมรับว่ามันทำให้อารมณ์ที่พลุ่งพล่านของเขาเย็นลงมาก เย็นลงมากมายเลยทีเดียว
   ผละออกจากกัน ดวงตาของไกด์ที่สั่นไหว จ้องมองดวงตาของวินที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตา แม้ว่าจะโกรธอยู่มากก็ตาม
   "ไม่ใช่ฉันไม่รู้สึก" ไกด์พูด "ฉันรู้สึก รู้สึกมากกว่านายด้วยซ้ำ แต่ฉันต้องรับผิดชอบความรู้สึกที่นายมีให้ด้วยต่างหากล่ะ"
   วินมองไกด์ที่ใบหน้าชิดกันอยู่ตรงนั้น
   "เพราะงั้น ฉันเลยบอกอยู่นี่ไง ว่าบางทีนายอาจจะไม่ควรทำอย่างที่ทำอยู่" ไกด์ว่า "เพราะฉันไม่รู้ ว่าฉันจะทนรับมันได้ไหม"
   "ทนอะไร" วินว่า
   "ทนเห็นนายเจ็บเพื่อฉัน" ไกด์ตอบ
   วินนิ่งไปซักพัก
   "มีบาริสต้าคนนึงเคยบอกเอาไว้ว่า ถ้าเราสามารถอดทน ทำสิ่งที่เราคิดว่าทำไม่ได้แน่ๆจนผ่านมันไปได้" วินตอบ "หลังจากนั้น ไม่ว่าเจอเรื่องอะไร เราก็จะสามารถทนได้ทุกอย่างเอง"
   ไกด์หลับตาลงทันที
   "ฉันทำให้นายเลือกฉันจนได้" ไกด์ว่า "ฉันเคยบอกตัวเองไว้แล้ว ว่าอย่า"
   "นายบังคับคุณหนูวินไม่ได้หรอก" วินว่า
   "รู้แล้วล่ะ" ไกด์ตอบ
   "แล้วยังจะห้ามกันอยู่อีกไหม" วินถาม
   "ขอโทษนะวิน" ไกด์ว่า "ฉัน...ฉันยังไม่พร้อมเป็นที่พึ่งให้นาย ฉันยังทำไม่ได้"
   วินก้มหน้าลง
   "แต่ฉันจะพยายาม"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-02-2013 12:19:23 โดย M2M_Jill »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
ปวดหัวแทนวินอ่ะ
คนโน้นก็พูด คนนี้ก็พูด คนนั้นก็พูด  แต่ไม่มีใครยอมฟังวินพูดบ้างเลย  :เฮ้อ:
ยัดแต่คำพูดใส่หัววิน  จนเวียนหัวแทนเลย  o2

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
สเตลล่าเป็นหวง หรือแค่เจ็บใจที่ตัวเองทำให้เค้าดีขึ้นไม่ได้ พอวินทำได้ และมันกำลังจะสวยงาม เธอก็เลย

Tuna Omega

  • บุคคลทั่วไป
ที่สำคัญกว่าเคยเป็นยังไงคือจากนี้ไปจะเป็นยังไงต่างหาก....วินสู้ๆเน้อ---

ชอบอ่ะ ปมในเรื่องเยอะมากๆๆ น่าติดตามว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นไปตามที่วินหวังหรือโลกจะโหดร้าย(หรือคนแต่งจะโหดร้าย...555)

ออฟไลน์ M2M_Jill

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
ตอนที่ 33 Over You

   ประตูสตูดิโอเปิดผางออกในบ่ายวันต่อมา เอิร์ธเงยหน้าจากกองงานขึ้นมาพบกับวินที่ยืนอยู่หน้าประตู สภายของเพื่อนรักที่ดวงตาแดงก่ำ และใบหน้าซีดเผือด เอิร์ธเหลือบตามองนาฬิกาที่ข้อมือตัวเอง ก่อนจะนั่งสเก็ตงานต่อ
   "บ่ายครึ่งไอ้สัด" เอิร์ธว่า "มึงไปขายวิญญาณให้พระเจ้ามาหรือไงวะ สภาพถึงเป็นเงี้ย"
   "โทษทีเอิร์ธ" วินตอบ พลางวางของตัวเองลงที่โต๊ะทำงาน ก่อนจะหยิบเอาแบบร่างงานตัวเองออกมาแผ่กลางโต๊ะทันทีอย่างไม่รีรอ "กูสเก็ตงานเสร็จหมดแล้วนะ เดี๋ยวมึงเตรียมพรีเซนต์ได้เลย มู้ดและโทนอยู่ในคอม เดี๋ยวกูปรินท์ออกมาเอง"
   "ไม่ต้องแล้ว กูทำเสร็จหมดแล้ว" เอิร์ธร้องขัด
   "งั้นก็เอาทุกอย่างมารวมเลย จะได้ขึ้นไปพรีเซนต์ทันบ่ายสอง" วินพูดต่อ
   "ไม่ต้องแล้ว กูพรีเซนต์เสร็จไปแล้ว" เอิร์ธว่า "ตั้งแต่เก้าโมงแล้ว"
   "อ...อ้าว" วินมองหน้าเอิร์ธ "ไหงงั้นอ่ะ"
   "พอดีพี่กูมาอ่ะ พี่ที่รู้จัก" เอิร์ธว่า "เค้าอยากดูงานพอดี กูก็เลยต้องเร่งให้เสร็จไปคนเดียว"
   "โทษทีว่ะ" วินว่า "กู...ตื่นสาย"
   เอิร์ธไม่ได้พูดว่าอะไรต่อ ได้แต่ก้มหน้าสเก็ตต่อไปอย่างนิ่งเงียบ วินถอนหายใจพลางมองเพื่อนที่นิ่งเฉยอย่างมีอะไรอยู่ในใจ
   "เอิร์ธ....กูมีเรื่องจะบอก" วินเริ่มต้นพูดก่อน
   "เรื่อง?" เอิร์ธถามกลับ แม้ว่าจะยังไม่เงยหน้าจากงาน
   "เรื่องเมื่อวาน" วินพูดต่อ "กู..อยากอธิบาย"
   "งั้นเหรอ" เอิร์ธว่าต่อ "อธิบายว่าอะไร"
   "ว่ามันไม่มีอะไรเลยเว่ย กูแค่......."
   ถึงประโยคนี้ เอิร์ธเงยหน้าขึ้นมามองวินทันที พลางส่งสายตาเซ็งตายด้านไปหาวินอย่างจงใจ วินจ้องดวงตาคู่นั่นขเม็ง
   "มึงเห็นกูมีเขาป่ะ" เอิร์ธว่า
   วินส่ายหน้าพลางกัดริมฝีปากและก้มหน้าลงทันที ก็เป็นอันว่าไม่ต้องพูดอะไรให้มากมายอีก เอิร์ธยังคงครองตำแหน่งเพื่อนสนิทของเขาเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น และทำหน้าที่ประจำตำแหน่งนี้ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องเหมือนเดิม การรู้ทันเขาจนได้
   "สภาพอย่างกะตกหอไอเฟลมาไอ้วิน" เอิร์ธว่า "ยังเสือกจะมาโกหกกูต่ออีก......กล้าเนอะมึง"
   วินไร้คำโต้เถียงใดใดอีก ได้แต่นั่งมองสมุดสเก็ตตรงหน้านิ่งเงียบ
   "กูโทรหาสเตลล่าตั้งแต่เมื่อคืนแล่ว" เอิร์ธว่า "เพราะถ้ากูไม่กระจ่างเรื่องเมื่อวาน กูก็นอนไม่หลับหรอก"
   วินเงยหน้าขึ้นมองเอิร์ธทันที เขายอมสู้นห้าเอิร์ธแล้วจุดนี้
   "กูมีคำถามข้อเดียว" เอิร์ธว่า "มึงตอบกูมาแค่ใช่หรือไม่ใช่พอ"
   วินพยักหน้ารับทราบ
   "สรุปที่มึงดิ้นรนเชี่ยๆ อยู่ทุกเรื่องที่นี่ ก็เพราะเขาใช่ป่ะ" เอิร์ธถาม
   วินพยักหน้า เอิร์ธถอนหายใจออกเบาๆ
   "โธ่ ไอ้วินเอ้ย" เอิร์ธร้อง "แล้วที่ผ่านมา มึงจะโกหกกูเพื่อ?"
   "กูไม่ได้ตั้งใจจะโกหกมึง กูแค่...." วินมองไปทางอื่น "...กูแค่ยังไม่แน่ใจตัวเองว่ะ"
   "ไม่แน่ใจเชี่ยไร.....แผนที่มึงวางไว้ทั้งหมด ที่มึงทำมาทั้งหมดเนี่ยนะไม่แน่ใจ" เอิร์ธร้อง
   วินหันมาหาเอิร์ธ
   "กูไม่ได้เป็นแบบมึงนะเว่ย ถึงจะยอมรับเรื่องนี้ได้ง่ายๆอ่ะ" วินว่าเอิร์ธกลับ
   "มึงไม่ต้องมาเกทับกูไอ้วิน" เอิร์ธว่ากลับ "กูจะเลือกใครก็เรื่องของกู และมึงจะเลือกใครก็เรื่องของมึง ประเด็นสำคัญคือมึงอย่ามาซึน ว่าตัวเองไม่แน่ใจไอ้วิน มึงทำทุกอย่างเพื่อมันยิ่งกว่ากูทำเพื่อพี่มิกอีก มึงตัดเรื่องยอมรับตัวเองได้หรือไม่ได้ออกไปเลย นี่มันไม่เกี่ยวกับที่มึงเป็นอะไร มันเกี่ยวกับบว่ามึงกำลังรู้สึกอะไรกับใครมากกว่า"
   วินมองเอิร์ธอย่างตกใจ
   "อะไร นี่มึงคิดว่ากูจะล้อมึง แซวมึง หรือดูถูกมึงเพราะว่ามึงมีความรักเหรอวะ ปล่าวเลย" เอิร์ธร้อง "กูเป็นใคร กูเพื่อนมึงนะเว่ยวิน สิ่งที่มึงควรทำมากกว่าการกลัวกูจะรู้ คือปรึกษาเรื่องนี้กับกู ไม่ใช่วิ่งไปหาคนอื่นป่ะวะ"
   "แล้วเวลาที่กูมีปัญหา มึงไปอยู่ไหนมาวะ" วินว่ากลับ "มึงมีแต่ความฝัน ความต้องการของมึงอ่ะ กูดิ ต้องคิดทุกอย่าง ทำทุกอย่างคนเดียว"
   "ไอ้วิน ตลอดเวลาที่ผ่านมา มึงไม่บอกอะไรกูเลย" เอิร์ธโวย "มึงบอกกูซักคำมั้ย ว่ามึงไม่มีเงิน มึงบอกกูซักคำหรือเปล่า ว่ามึงใช้เวลาทั้งหมดตอนเราอยู่ที่ Esmod ฝากชีวิตไว้กับคนที่มึงไม่รู้จัก มึงบอกกูซักคำมั้ย ว่าไอ้คนที่พามึงไปตะลอนๆที่สตาร์เบิร์กมา เคยโกหกที่มาของตัวเอง โกหกชื่อของตัวเองกับมึงมาก่อน"
   วินเงียบสนิท เขาไม่อยากเถียงอะไรกับเอิร์ธ วันนี้เขาเรี่ยวแรงไม่พอ
   "คนที่มึงไว้ใจ กับไม่ใช่กูว่ะ" เอิร์ธว่า "ที่กูจะโกรธ กูโกรธมึงประเด็นนี้เว่ย ไอ้เชี่ยตัวไหนบอกกูวะ ว่าคนที่ไว้ใจได้กันตอนนี้ ก็มีแต่กูกับมึงเท่านั้น"
   "มันคนละประเด็นกันไอ้เอิร์ธ กูไว้ใจมึง ในเรื่องงาน แต่กับเขา กูไว้ใจเรื่อง...."
   "ไม่เกี่ยว มึงควรจะไว้ใจกูในทุกๆเรื่อง" เอิร์ธว่า "อย่ามาทำเป็นแยกเรื่องไอ้วิน มึงเอากูมาเป็นเครื่องมือกันชนพ่อมึง เพื่อจะหลบออกไปอยู่กับคนที่มึงเลือก มึงเอากูไปเป็นเครื่องมือสัด.....เอาเรื่องงานไปเป็นตัวช่วยเรื่องส่วนตัวของมึงไง อย่ามาทำเป็นแยกเรื่องวิน"
   วินหน้าซีดเผือดอีกครั้ง เอิร์ธรู้หมดทุกอย่างแล้วจริงๆด้วย
   "กูเป็นเพื่อนมึงมาปีนี้จะขึ้นปีที่เจ็ดแล้ว แต่มึงไม่บอกกู" เอิร์ธว่า "ขนาดที่กูคบพี่มิกเป็นแฟน ในบรรดาเพื่อนทั้งหมด กูบอกมึงคนแรก กูบอกมึงก่อนเลย ว่ากูต้องการอะไรในเกมส์นี้ แต่มึง มึงทำเชี่ยไรวิน"
   "กูก็จะทำแบบมึงอยู่นี่ไง" วินว่า "มึงก็รู้แล้วนี่"
   "จะออกไปอยู่กับใครก็ไม่รู้อ่ะนะ" เอิร์ธร้อง
   เอาอีกแล้ว วินคิดในใจ เอิร์ธเป็นอีกคนแล้วที่ตั้งประเด็นนี้ใส่เขา ไม่มีใครไว้ใจไกด์เลยซักคน และทุกๆคนก็กำลังชักจูงให้เขาล้มเลิกแผนการทั้งหมดนี้ซะ แผนการที่เขายอมแลกทั้งหัวใจเพื่อจะเดิมพันมัน แผนการที่มีชัยไปแล้วกว่าครึ่ง
   "เชี่ยเอิร์ธ" วินร้องเสียงดัง เอิร์ธผงะไปเล็กน้อย "กูขอนะ มึงจะโกรธกู แล้วจะยอมฟังไม่ฟังกูไม่รู้ แต่สิ่งที่สเตลล์เล่าให้มึงฟัง เขาไม่มีทางรู้ดีไปกว่ากูที่อยู่กับไกด์ทุกวัน กูเห็นในสิ่งที่ไม่มีไอ้เชี่ยคนไหนในปารีสเห็นเว่ย กูเผชิญหน้ากับคนถึงสามบุคคลิกในคนเดียวมาแล้ว แต่ไอ้คนที่กูไม่รู้ว่าเป็นใครนี่แหละ ที่ทำให้กูมีวิธีพามึงมานั่งด่ากูในสตูดิโอซูเม่นี่ เพราะไอ้คนที่กูก็ไม่รู้ว่าแม่งเป็นใครนี่แหละ ที่แม่งดูแลกูในเวลาที่กูไม่มีใครเว่ยเอิร์ธ"
   เอิร์ธมองวินด้วยสายตาที่เบิกกว้าง
   "มึงบอกว่ากูควรจะไว้ใจมึง" วินว่า "กูไว้ใจมึงเว่ย ไม่ใช่กูไม่ แต่กูรู้ ถ้าพูโพล่งเรื่องนี้ออกไป ว่ากูจะออกจากวงการนี้ แล้วไปใช้ชีวิตอยู่ในแบบที่กูต้องการบ้าง มันไม่มีใครยอมหรอก มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเป็นไกด์เขาหรือเปล่า แต่กูก็ไม่มีใครแล้วเว่ย ที่จะมีทางออกที่ดีกว่าชีวิตใต้อำนาจพ่อกูที่นี่ ขนาดกูหนีมาค่อนโลกแล้วอ่ะ กูยังไปไม่พ้นเลยไอ้เอิร์ธ
   วินหายใจเข้าลึก สิ่งที่อัดอั้น คำพูดทุกอย่างที่เขาอยากจะบอกเอิร์ธได้พังทลายออกมาแล้วในที่สุด
   "ถ้ามึงเป็นเพื่อนกูจริงล่ะก็ มึงอย่าเป็นอีกคนที่ไม่เชื่อในการตัดสินใจของกูได้ป่ะวะเอิร์ธ" วินพูดเสียงจริงจัง "มึงอยากได้ที่อยู่ดีดีที่นี่ข้างๆพี่มิกของมึง กูเคยขัดมึงซักคำมั้ย"
   เอิร์ธก้มหน้าลง ก่อนจะอมยิ้มทันที และเงยหน้ามองวินอีกครั้งด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
   "ก็แค่เนี้ยไอ้ห่า" เอิร์ธยิ้มกริ่ม วินตีหน้างงทันที ก่อนจะอ้าปากค้าง "บอกมาซะก็สิ้งเรื่อง สรุปว่าเป็นไอ้ไกด์ใช่ป่ะ"
   "นี่มึง......." วินว่า "สเตลล์ไม่ได้เล่าให้มึงฟังทุกอย่างหรอกใช่ไหม"
   เอิร์ธยิ้มเยาะพลางส่ายหน้า และทำหน้ากวนตีนใส่เพื่อน
   "ไอ้เชี่ยเอิร์ธ มึงหลอกกู" วินร้องทันทีพลางหยิบสมุดสเก็ตเขวี้ยงใส่เพื่อนทันที เอิร์ธก้มตัวหลบพลางหัวเราะร่า
   "เห้ยๆ พอๆ ไอ้วิน กูเจ็บเห้ย" เอิร์ธว่า พลางหัวเราะไปด้วย ขณะที่วินกัดฟันพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่รู้เหตุผล
 เขาแอบนึกไปแล้วว่าเอิร์ธจะต้องเชื่อสเตลล่าแน่ๆ แต่ว่า....
   "มึงอธิบายมาเลย" วินว่าพลางนั่งลงหายใจเสียงดัง
   "กูอ่ะ แค่สงสัยเฉยๆ ก็ไม่นึกว่าแม่งจะเป็นจริง" เอิร์ธว่า "กูอ่ะ โทรไปหาสเตลล์มา ได้ยินเสียงกูก็รู้แล้ว ว่ามึงกับเค้าต้องทะเลาะกันแน่ๆ แต่กูอ่ะตะหงิดๆใจ ที่ไกด์กับมึงทำใส่กันเมื่อวานที่เกล็ดหิมะ กูเลยขอให้สเตลล์ล่าเล่าเรื่องมึงกับไกด์ให้ฟังทั้งหมด กูกะละ ว่ามึงกับมันแน่ๆ"
   "มึงถามเรื่องกูกับไกด์เหรอ" วินว่า
   "ก็เออดิวะ แม่ง...โคตรงงเลย มันไม่ได้ชื่อก้อง มันใช้ชื่อน้องมันมาทำงานที่เกล็ดหิมะ แล้วก็ชวนมึงไปอยู่ด้วยเมื่อตอนต้นปี ใช่ป่ะล่ะ" เอิร์ธเล่า "มึงมารู้ทีหลัง ว่าแม่งโกหก แล้วก็เลยออกจากบ้านมันมาแล้วด้วย ตอนรู้ว่าแม่งเคยทำเรื่องกับน้องชายมัน แต่สุดท้ายมึงก็เสือกกลับไปอยู่กับมันอีก...ถึงตรงนี้กูรู้และ กูลำดับไทม์ไลน์ที่มึงเริ่มเปลี่ยนจากไอ้เชี่ยคุณหนูวิน เป็นคุณวินได้พอดี กูก็เลยคิดว่าต้องเป็นเพราะไอ้ไกด์แน่ๆที่มึงกำลังจะออกไปอยู่ด้วย ไม่ใช่สเตลล่า บวกกับท่าทางมึงสองตัวเมื่อวานก็ยิ่งชัด"
   วินมองหน้าเพื่อนรักอย่างไม่เชื่อหู
   "ไง แบบนี้กูยังเป็นเพื่อนมึงได้อยู่ป่ะวะคับ" เอิร์ธว่าใส่ วินหยีปากใส่เอิร์ธทันที พลางส่ายหัว
   "แล้วเมื่อกี้มึงตั้งคำถามใส่กูทำไมวะ ว่ากูจะออกไปอยู่กับคนที่กูไม่รู้จักได้ยังไง" วินว่า
   "กูไม่ได้พูดอย่างนั้นเลย กูแค่หยอดมึงว่า มึงจะออกไปอยู่กับใครก็ไม่รู้เนี่ยนะ" เอิร์ธว่า "กูถามอย่างนี้ต่างหาก ก็กูไม่รู้นี่ว่าคนที่จะออกไปอยู่ด้วยจะเป็นใคร กูก็หยอดๆไป เอียงไปทางไกด์ที่กูค่อนข้างมั่นใจอยู่แล้ว เดี๋ยวมึงก็โพล่งออกมาหมดเอง"
   "สัด" วินสบถออกมาทันที
   "อ้าว ไอ้นี่ ด่ากูเพื่อ" เอิร์ธเอื้อมมือไปเคาะหัววินทีนึง ก่อนจะหลับมานั่งที่เดิม "แล้วนี่คือไงเนี่ย มึงทะเลาะกับสเตลล่าเรื่องไกด์มาใช่ป่ะล่ะ สภาพถึงเป็นเงี้ย"
   วินพยักหน้ารับเบาๆ
   "ทำไมวะ" เอิร์ธถามกลับ "เกิดไรขึ้น สเตลล่าเกิดชอบมึงขึ้นมาจริงๆหรือไง หรือว่าโกรธที่มึงไม่ได้เลือกเค้า"
   "ไม่ใช่ กูกับสเตลล่าไม่ได้เป็นอะไรกันมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องบังเอิญที่เขาก็เหมาะที่จะบังเรื่องของกูได้พอดี" วินว่า "แต่เขาไม่ไว้ใจไกด์ว่ะ"
   "เพราะเรื่องที่แม่งเคยทำไว้ใช่ป่ะ" เอิร์ธพูดต่อ ตามประสาคนที่อ่านเกมส์ทัน วินพยักหน้า "แต่ประเด็นเนี้ย กูก็ไม่ไว้ใจมันนะเว่ย"
   วินขมวดคิ้วใส่เอิร์ธทันที
   "มึงอย่าเพิ่งโวยใส่กูไอ้วิน ฟังก่อน" เอิร์ธว่า "กูอาจจะไม่รู้เรื่องไอ้ไกด์ดีเท่ากับตัวมึง หรือสเตลล์ แต่อจากที่กูฟังๆมา และประติดต่อเอาได้ตอนนี้นะเว่ย กูไม่รู้ว่าแม่งเป็นใครเหมือนกันว่ะ ถ้ามันเคยเป็นคนที่เลวมาก่อน มึงก็ยิ่งน่าห่วงเข้าไปใหญ่"
   "แต่กูไว้ใจเขา" วินว่า "ไอ้เอิร์ธ กูไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะเว่ยมึงก็รู้ มันเป็นคนแรกที่..."
   "พอๆๆๆ กูเข้าใจ" เอิร์ธว่า "ไม่ได้ต่างอะไรกับเรื่องกูของพี่มิก ไม่ต้องมาอธิบายด้วยความโรแมนติกอะไรของมึงกับมันให้กูฟัง กูจะรู้สึกโรแมนติกกับเรื่องอะไรแบบนี้เฉพาะที่เกิดขึ้นกับกูและพี่มิกเท่านั้นเว่ย"
   วินหัวเราะเบาๆ
   "ประเด็นคือ อย่างกูกับพี่มิกนะ พี่มิกอ่ะ เค้าไม่ใช่คนที่ชอบความเปลี่ยนแปลงมากนัก เขายึดติดกับอดีตเอามากๆ ในขณะที่กูเอง รักอิสระมากๆ กว่าที่พี่เค้าจะยอมมาที่นี่ได้ เขาต้องแน่ใจว่าอะไรๆจะต้องมั่นคง วึ่งกู ชอบที่เขาเป็นแบบนี้" เอิร์ธอธิบาย
   "อ่าหะ แล้วมึงบอกกูทำไมวะ" วินถามกลับ
    "กูจะบอกว่าที่กูยอมทำตามแผนมึง เพราะจุดหมายกูชัดเจน ว่ากูจะเข้ามาอยู่กับเค้าที่นี่ เพราะพี่มิก เค้ามีจุดยืนชัดเจน ว่าเค้าจะอยู่ที่นี่ต่อไปแล้วไง" เอิร์ธว่า "กูจะไม่เสียหายอะไร ที่มึงจะหายไปแล้วมาแทนที่กู แต่ฝั่งมึงอ่ะ มึงหายไปแล้ว ไปไหน ไปยังไง กูจะต้องชนกับอะไรบ้าง พ่อมึงอีกล่ะ มึงจะให้กูชนพ่อมึงให้ มึงก็ต้องชัดเจนก่อน ว่ามึงจะไปโผล่ที่ไหนป่ะวะ"
   วินเงียบเสียงลง เอิร์ธพูดถูก เขาไม่มีหลักประกันที่เชื่อถือได้เลย ว่าถ้าหากเขาออกไปกับไกด์ได้จริงๆ ชีวิตหลังจากนั้นจะเป็นยังไงต่อ เอิร์ธมองเกมส์ขาดจริงๆอย่างที่เป็นมาเสมอ เขามีแค่ความรู้สึกที่ชัดเจนอยู่ข้างในเท่านั้นที่เป็นหลักประกัน ความรู้สึกที่เชื่อถือไม่ได้เลย
   "กูตอบไม่ได้หรอก" วินว่า "กู....กูตอบได้แค่ว่า กูเชื่อใจเขาว่ะ...มันอาจจะดูงี่เง่าแต่...มึงเคยเชื่อใจใครมากๆป่ะวะ ที่มึงจะยอมแลกทุกอย่างเพื่อที่จะอยู่กับเขาให้ได้ ตอบแทนสิ่งที่เขาเปลี่ยนมึงมาได้ ทำให้มึงเป็นมึงทุกวันนี้ได้ เป็นมึง มึงไม่คิดจะทำอะไรบางอย่าง เพื่อเขาตอบแทนบ้างเหรอวะ"
   "กูก็ทำอยู่นี่ไง" เอิร์ธยิ้มกว้าง "และกูก็กำลังจะช่วยให้มึงทำสำเร็จด้วย..."
   "ห๊ะ" วินร้องอย่างไม่เชื่อสายตา
   "กูเพิ่งจะบอกมึงไปเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ว่าตาเนี้ย กูจะเป็นฝ่ายช่วยมึงเอง มึงจำไม่ได้เหรอ" เอิร์ธว่า วินถึงกับอมยิ้มน้อยๆ พลางมองวินอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
   "จ...จริงดิ ต...แต...แต่ว่า....ยังไงล่ะวะ" วินถามตะกุกตะกัก
   "มึงอ่ะรักมันใช่ป่ะล่ะ ยอมรับกับกูก่อน" เอิร์ธถามตรงประเด็น วินผงะไปเล็กน้อย เขาเมินหน้าไปทางอื่น
   "คือ...กูก็...ไม่ได้ขนาดนั้น...คือก็แค่..."
   "โอยยยยย จุดนี้ไม่ต้องเขินกูแล้ว" เอิร์ธว่า "กูพูดก่อนก็ได้อ่ะ ที่กูทำอยุ่ทุกวันนี้ กูรักพี่มิกเค้าว่ะ กูก็ไม่ได้เป็นเกย์เว่ย แต่ผู้ชายคนนี้ คือคนที่กูรัก กูรักเค้า และกูก็พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเค้า"
   วินมองหน้าเพื่อนรักอย่างไม่เชื่อสายตา
   "อ่ะ คราวนี้มึงบอกกูมาได้ละ" เอิร์ธว่า "ยังไง...สรุปมึงรักมันป่ะเนี่ย"
   วินยิ้มให้กับตัวเอง เขาแทบไม่ต้องคิดทบทวนเรื่องนี้แล้วด้วยซ้ำ
   "ใช่ไม่ใช่ไม่รู้.....แต่กูก็รักไปแล้วว่ะ" วินว่า พลางยิ้มเขินๆขณะมองไปหาเอิร์ธ
   “ก็แค่นั้น ส่วนของมึงจบ...ประเด็นคือส่วนของมัน” เอิร์ธว่า “มันบอกมึงหรือยัง ว่ามันรู้สึกยังไงกับมึง”
   วินคิดทบทวน
   “จริงๆก็ยังอ่ะ” วินว่า เอิร์ธส่ายหน้าทันที “คือ....กูไม่ได้รักมันข้างเดียวเว่ย มันก็ต้องมีให้กูรู้สึกมาก่อนดิวะ ไม่งั้นกูจะรู้สึกไปคนเดียวได้ไง”
   “จริงเหรอวะ เชื่อได้?” เอิร์ธถามอีก
   “ไกด์เค้าไม่ใช่คนพูดเก่ง เค้าไม่เก่งเรื่องแสดงความรู้สึก ตั้งแต่เรื่องน้องชายเค้า เค้าก็ไม่เคยแสดงความรู้สึกออกมาให้รู้กันได้ง่ายๆเลย” วินอธิบาย “เค้าเก่งเรื่องการใช้ร่างกายกับการกระทำแสดงความรู้สึกมากกว่า”
   “อ้อ.....” เอิร์ธอ้าปากค้างพลางมองหน้าวิน ที่ตอนนี้หุบปากลงอย่างรวดเร็วและเริ่มหน้าแดง “อ๋อ....วันนั้นที่กูแซวมึง หมายความว่า....”
   “เออเออ...ก็อย่างที่กูว่านั่นแหละ เข้าใจใช่ป่ะ” วินรีบพูดตัดบททันที
   “อืมม” เอิร์ธกลับมาครุ่นคิด “กูว่า....อ้ะ .... กูได้วิธีและ......เสาร์นี้เราจะไปดีสนีย์แลนด์กันใช่ป่ะ”
   “เออ ก็ตารางเดิมเป็นงั้นนี่” วินว่า
   “ดี ต่อจากวันนี้เป็นต้นไป ถ้ากูทำอะไรแปลกๆใส่มึง มึงก็อย่าสงสัยไปล่ะ” เอิร์ธว่า
   “มึงจะทำอะไรเนี่ย” วินว่า
   “เอาน่า เชื่อมือกูเหอะ กูจะช่วยมึงเองไง บอกแล้ว” เอิร์ธว่า พลางยิ้มย่องให้กับตัวเองทันที ผิดกับวินที่กลับมาทำหน้าเศร้าอีกครั้ง และก้มหน้าลง
   “เป็นไรไปอีกล่ะ” เอิร์ธถาม
   “...มันจะเป็นไปได้หรือเปล่าวะ” วินว่า “นี่กูอาจจะคิดไปเอง รู้สึกไปเอง ทั้งๆที่มันไม่มีทางเป็นจริงได้ก็ได้นะเว่ย กูยังไม่หลุดออกจากวงโคจรพ่อกูเลยด้วยซ้ำ เรื่องไกด์ กูก็ไม่รู้จักอะไรมันเพิ่มขึ้นเลย เรื่องมึง กูก็พามึงไม่ไปถึงไหน”
   วินถอนหายใจครั้งใหญ่
   “เอิร์ธ กูว่ามันอาจจะล้มเหลวครั้งใหญ่เลยก็ได้นะเว่ย” วินร้อง
   เอิร์ธโยนกองงานบนโต๊ะมาหาวินทันที
   “สเก็ตพวกนี้ ที่มึงกะกูนั่งงมมาตลอดสองเดือน พี่เจนบอกว่าอะไรรู้ไหมเมื่อเช้า" เอิร์ธถาม วินส่ายหน้า "เขาบอกว่า นี่อาจจะเป็นสิ่งใหม่ที่ซูเม่ไม่เคยมีมาก่อน และเขาหวังว่าเงินที่เราหามา มันจะงอกเงยได้ด้วยสเก็ตพวกนี้ ทันทีที่มันเริ่มตัดเย็บ"
   วินทำตาโตทันที
   "เห้ย..งี้ก็หมายความว่า" วินร้อง
   "เออ สเก็ตพวกนี้ผ่านหมดแล้ว กูเลยนั่งร่างแบบละเอียดเพื่อจะส่งตัดไง" เอิร์ธตอบ วินถึงกับก้มลงดูงานของตัวเองอย่างบ้างคลั่งทันที "งานที่กูกับมึงทำมา มันไม่เคยสูญเปล่า มันกำลังไปได้สวย มึงเองก็เชื่ออย่างนั้นมาตลอดไม่ใช่เหรอวะ"
   วินยิ้มให้เอิร์ธ
   "ถ้าไม่มีใครเชื่อว่ามันดีขึ้น กูคนนึงแหละเชื่อ" เอิร์ธตอบ "มันจะต้องดีขึ้นกว่านี้ เรื่องมึงกับไอ้ไกด์ด็เหมือนกัน ถ้าคิดจะรัก ก็ไม่ต้องกลัวแล้ว เรากล้าทำเรื่องบ้าบิ่นกันมาตั้งเยอะ แค่จะกล้าทำตามหัวใจตัวเอง.....
มันจะมีอะไรยากวะ"
..................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-02-2013 05:33:53 โดย M2M_Jill »

ออฟไลน์ M2M_Jill

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
ตอนที่ 34 Invitation

   บรรยากาศในวันศุกร์สุดสัปดาห์ของสตูดิโอเป็นไปอย่างเคร่งเครียด การร่างแบบละเอียดเพื่อปิดดงานสำหรับดราฟท์ละเอียด เอิร์ธและวินทิ้งแผนทุกอย่างไว้เบื้องหลังและพยายามจบงานให้ไวที่สุด เพื่อที่จะให้วันรุ่งขึ้นเป็นวันสำหรับการไปดิสนีย์แลนด์ที่สบายที่สุด ก่อนจะกลับมาเตรียมตัวเข้าประชุมการปันงบในอาทิตย์หน้า
   ไม่มีอะไรให้พูดคุยกันมากนักสำหรับวินและเอิร์ธ ทั้งคู่มีงานต้องทำมากเกินกว่าจะมานั่งถกเถียงกันในเรื่องต่างๆ ก่อนจะแก้แบบสุดท้ายเสร็จตอนบ่ายสอง ก็เล่นเอาทั้งคู่เหนื่อยหอบเอามากๆ
   ประตูสตูดิโอเปิดออก ซึ่งนั่นทำให้ทั้งคู่กลับมานั่งตัวตรงทันที เพราะคนตรงหน้าก็คือคนที่พร้อมจะโละทุกแบบของทั้งคู่ลงได้ทุกเมื่อ
   “พี่เจน” เอิร์ธร้องก่อนพยายามทำเสียงให้สุภาพที่สุด “อะไรหอบพี่มาถึงนี่คับ”
   เจนมองหน้าเอิร์ธอย่างครุ่นคิดครั้งหนึ่ง ก่อนจะปรายตามองมายังวินที่เหล่มองเจนอย่างหลบๆตา เจนจิราขมวดคิ้วพลางทำหน้าแปลกใจพักนึง ก่อนจะมองหลับไปหาเอิร์ธอีกครั้ง เจนดูเหมือนพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง เอิร์ธไม่เคยเห็นอาการแบบนี้มาก่อนจากเจน
   “มีอะไรหรือเปล่าพี่” เอิร์ธถามอีก “แก้งานหรือเปล่า”
   วินขมวดคิ้วใส่เอิร์ธที่พูดชี้โพรงให้กับเธอ เพราะถ้าเธอบอกว่าใช่ทั้งคู่ไม่ได้กลับบ้านเร็วแน่ๆในวันนี้
   “ไม่ใช่” เจนจิราตอบ พลางชูซองอะไรบางอย่างขึ้นมา เป็นซองจดหมายสีส้ม ทั้งเอิร์ธและวินหันไปมองเธอด้วยความสงสัย
   “มีใครเล่นตลกกับพี่หรือเปล่า” เจนพูดทันที
   “อะไรเหรอพี่” เอิร์ธออกรับหน้าแทนก่อน พลางหรี่ตามองไปที่ซองสีส้มในมือเจน
   “ก็นี่ไง” เจนเลิกคิ้วพลางมองเอิร์ธกลับ ก่อนเธอจะเปิดซองออกมา ที่เอิร์ธและวินเห็นในมือของเธอ ก็คือบัตรคิวคอนเฟิร์มรับตั๋วเข้าดิสนีย์แลนด์ล่วงหน้าสามวันนั่นเอง วินและเอิร์ธถึงบางอ้อ เพราะเมื่อเช้าก่อนที่วินจะออกจากบ้าน ไกด์ได้นำบัตรคิวแจกจ่ายให้กับทุกๆคนที่จองตั๋วไว้กับเขาแล้ว วินแอบแวะให้กับจีโอที่บ้านพักก่อนจะมาทำงานและมอบมันให้เอิร์ธเมื่อเข้านี้สองใบ ส่วนไกด์ก็เก็บของเขาเอาไว้
   ทั้งคู่มองหน้ากัน ถ้าสิ่งนี้อยู่ในมือเจนจิรา ก็แสดงว่าการคาดเดาของเขาเมื่อสองวันก่อนไม่ได้ผิดพลาด จีโอชวนเธอ สิ่งๆนั้นทำให้เอิร์ธถึงกับอมยิ้มขึ้นมาอย่างหยุดไม่อยู่ นั่นทำให้เจนจิรามองเขาตาถลน
   “เธอมาไกลจากการเป็นเด็กฝึกงานตัวเล็กๆแห่ง Lovable Studio แล้วนะเอิร์ธ” เจนว่า “ชั้นหวังว่าเธอคงจะเลิกทำตัวไร้สาระ เล่นสนุกไปวันๆแบบนี้ซักที”
   เอิร์ธขมวดคิ้วใส่เจนทันที
   “ไร้สาระ เล่นสนุกเหรอพี่เจน” เอิร์ธว่า “มันก็ไม่เห็นจะเสียหายเลยนี่ครับ ถึงเราจะโตแล้ว แต่เราก็ยังเล่นสนุกได้นี่ ไม่เห็นแปลก”
   เจนจิราทำหน้าดูถูก ก่อนจะวางบัตรลงบนโต๊ะด้วยเสียงอันดังทันที
   “แต่ฉันไม่คิดว่านี่จะมีสาระ” เจนพูดเสียงดัง ก่อนจะหันหลังให้ทั้งคู่
   “คุณเอาอะไรมาก็เอากลับไปด้วยสิครับ” วินรีบพูดแทรกขึ้นก่อนเธอจะเดินออกไปจากห้อง หญิงสาวหันหลังกลับมาหาวินทันที
   “ฉันขอพูดให้ชัดนะคะคุณวิน ฉันคงไม่เอาเวลาที่ควรจะทำงานขยายสาขาที่อังกฤษไปทิ้งเล่นกับพาเหรดมิกกี้เมาส์ เช่นเดียวกับที่คุณและเอิร์ธก็คงไม่เอาเวลาทำงานแฟชั่นวีค ไปทิ้งกับหุ่นโจรสลัดแห่งทะเลคาริบเบี้ยนเช่นเดียวกัน” เจนจิราว่าเสียงเย็น พลางฉีกยิ้มกว้างให้วิน
   “พูดว่าเอาเวลาที่ควรจะทำงานไปทิ้งมันไม่ก็ไม่ถูกซะทีเดียวนะพี่เจน เพราะงานแฟชั่นวีคเราสองคนก็เคาะดราฟท์แรกแล้ว รอพรีเซนต์ให้ผู้บริหารฟังในวันพุธหน้า ซึ่งผมกับวินก็ว่าง ตั้งแต่เย็นนี้แล้วด้วยซ้ำ” เอิร์ธว่ากลับ “ผมกับวิน เราจะไปเที่ยวกันฉลองปิดดราฟท์ก็ไม่เห็นแปลกเลยครับ”
   “งั้นก็เชิญไปกันสองคนเถอะ ไม่ต้องชวนชั้นหรอก” เจนจิราว่า “ชอบใจนะที่อุตส่าห์นึกถึงชั้น”
   “เราไม่ได้เป็นคนชวนคุณครับ” วินว่า
   “อะไรนะ” เจนจิราว่าต่อ “ตลกอะไรกันมากหรือมากหรือเปล่าเนี่ย ก็ไหนบอกว่าพรุ่งนี้เธอจะไปดีสนีย์แลนด์กัน นี่....ชั้นไม่มีเวลามาเล่นอะไรไร้สาระหรอกนะโดยเฉพาะกับคุณ....คุณวิน”
   เจนจิราหันมามองหน้าวินด้วยสายตาเรียบเฉียบคม
   “ไม่ว่าคุณต้องการจะทำอะไรในเกมส์นี้ แต่อย่าคิดว่าฉันจะยอมอะไรไปง่ายๆ” เจนจิราว่า “ไม่ว่าคุณจะมาไม้ไหน มันจะต้องอยู่ในสายตาของชั้นทุกฝีก้าว หวังว่านายคงจะเข้าใจ....นายด้วยเอิร์ธ”
   “คร้าบบบบคุณแม่” เอิร์ธว่าติดตลก “แต่ตั๋วที่พี่ได้อ่ะ มันไม่ได้มาจากเราสองคนซะหน่อย”
   “แล้วมันจะมาจากใคร ถ้าไม่ใช่คนที่ทำงานดีไซน์กับชั้น มันมีไม่กี่คนหรอกที่รู้ว่าฉันน่ะ จะรับของเฉพาะที่ให้ส่งมาให้ฉันด้วยซองสีส้.....”
   “ส้ม.....เท่านั้น” เสียงอันยียวนดังมาจากข้างหลังของประตูสตูดิโอ เจนจิราหยุดคำพูดของเธอพลางหันไปมองต้นกำเนิดเสียงทันที เป็นดังคาด จีโอนั่นเอง
   “ค...คุณ” เจนจิรามองใบหน้าของหนุ่มหล่อที่วันนี้มาในชุดสบายๆ ยืนยิ้มกว้างให้กับเธอ เอิร์ธและวินมองหน้ากันอย่างขำขัน พลางตื่นเต้นไปกับเหตุการณ์ตรงหน้า
   “ใช่ครับ....เพราะงั้นผมเลยส่งมันมาให้คุณไง” จีโอว่า “คุณก็น่าจะรับคำชวนผมนะ เพราะคุณจะรับเฉพาะของที่อยู่ในซองสีส้มเท่านั้นไม่ใช่เหรอ”
   เจนจิราส่ายหน้าก่อนจะหันกลับไปมองวินและเอิร์ธ
   “นายสองคนบอก....”
   “เปล่าครับ ผมทราบเอง” จีโอตอบแทนทั้งคู่ เอิร์ธและวินถึงกับมองจีโอด้วยความตกตะลึง
   นี่จีโอเอาจริงๆเข้าซะแล้ว
   เจนจิราหลับตาลงครั้งหนึ่งก่อนจะหันไปยิ้มกว้างให้กับจีโอทันที
   “คุณจีโอคะ ฉันคิดว่า นี่คงเป็นการเข้าใจผิดครั้งใหญ่แน่ๆ” เจนจิราพูดเสียงหวาน “บางทีคุณอาจจะไม่ทราบว่า ฉันไม่เที่ยวอะไรแบบนี้ เอ่อ....บ่อยนัก”
   “ก็นี่ไง พอดีเลยคุณ....ผมก็ชวนคุณอยู่นี่ไง” จีโอยิ้มตอบเธอ พลางกอดอกและยืนพิงประตู ไม่สะทกสะท้าน กิริยาปฏิเสธของเธอแม้แต่น้อย
   “นี่คุณไม่เข้าใจที่ฉันพูดเหรอ” เจนจ้องหน้าจีโออย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง เธอออกตัวปฏิเสธชัดขนาดนี้ แต่ชายคนนี้กลับไม่อ่อนกำลังลงเลย ยังคงออกตัวแรงมากขึ้น
   “เข้าใจสิครับ คุณพูดว่าไม่เที่ยวอะไรแบบนี้บ่อย ผมก็จะทำให้มันบ่อยขึ้นไง” จีโอยิ้มตอบ
   “เพื่ออะไรมิทราบคะ” เจนจิราหลับตาและพยายามยิ้มตอบ แม้ว่าสีหน้าของเธอจะไม่เข้ากันกับรอยยิ้มนั้นก็ตาม
   “ก็.....เป็นการ...ทำความรู้จัก สร้างความไว้ใจร่วมกัน ในหมู่ผู้บริหารเหมือนกัน อะไรทำนองนี้ก็ได้นี่ครับ” จีโอตอบ
   “แต่ฉันคิดว่ามันไม่จำเป็น” เจนจิราค้าน
   “แต่ผมคุณควรจะคิดว่าจำเป็นนะ” จีโอแย้ง
   “เพราะ?” เจนจิราโต้
   “เพราะคุณบอกผมในวันเซ็นสัญญา ว่าคุณไม่ใจผม และคุณจะจับตาดูผม ว่าผมมาไม้ไหน” จีโอตอบ “ในเมื่อผมก็บอกคุณไปแล้ว ว่าผมบริสุทธิ์ใจ ผมก็เลยอยากให้เราสองคน ไม่มีอคติต่อกัน สร้างความไว้ใจให้กันและกัน รู้จักกันมากขึ้น แล้วก็เป็น....เพื่อน....ที่ดีต่อกัน.....น่าจะได้นะครับ”
   “แล้วคุณแน่ใจได้ยังไง ว่าฉันอยากจะรู้จักคุณ” เจนจิราเดินเข้าไปหาจีโอใกล้ขึ้นอีก
   “ผมค่อนข้างแน่ใจครับ” จีโอยื่นดวงตาที่เปล่งประกายยียวนของเขาเข้าหาเจนจิราอย่างจงใจ “คุณอยากรู้จักผมแน่ อย่างน้อย ผมเชื่อว่าคุณอยากจะรู้ว่าผมเป็นใคร มาที่นี่เพราะอะไร ยังไงคุณก็ต้องหาวิธีรู้เรื่องของผมให้ได้อยู่ดี แต่ผม ไม่ค่อยอยากให้ใครมาอะไรลับหลังผม....ผมเป็นคนเปิดเผย และค่อนข้างตรง ดังนั้น....”
   จีโอเว้นวรรคและส่งยิ้มหล่อเป็นประกายไปให้เธอ
   “ไปเที่ยวกับผมนะเจน เราจะได้รู้จักกันมากขึ้น” จีโอพูดเสียงนิ่ม เจนมองเข้าไปในดวงตาของจีโอ ก่อนจะลดความแข็งกร้าวลงและถอยกลับมาช่วงตัวหนึ่ง แม้ว่าตอนนี้วินและเอิร์ธมั่นใจว่าได้ยินเสียงลมหายใจถี่รัวมาจากเธอ
   “ฉ.....ฉัน....ฉัน” เจนจิราเริ่มพูดกระตุกกระตัก
   วินและเอิร์ธมองสับไปสับมาระหว่างสองคนนั้นอย่างไม่เชื่อสายตา ในความคิดของวิน จีโอเป็นคนแรกที่สามารถทำให้เจนติดสตั๊นได้ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์หากจีโอจะสามารถสอยดาวลงมาให้อ่อนลงได้บ้าง ในขณะที่วินเห็นเอิร์ธนั่งอ้าปากค้าง ดูไม่อยากเชื่อสายตาที่ตัวเองเห็นตอนนี้
   เจนจิราหันมามองเขาทั้งคู่ วินและเอิร์ธถูกสายตาที่เฉียบคมหันมามองจึงต้องรีบปรับหน้าตา ทำเป็นไม่รู้ไม่ขี้ ไม่รับรู้เรื่องที่เธอโดนจีบ ทั้งๆที่เจนจิราเองรู้ดีว่าไม่ใช่แค่ที่สตูดิโอนี้ที่ได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่
   ก๊อก ก๊อก ก๊อก
   เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทั้งหมดก้เห็นอีกร่างนึงที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่ที่ประตู
   “พี่กาย” เอิร์ธร้องทัก
   กายยืนส่งยิ้มกรุ่มกริ่มมาให้เจนทันที
   “หวัดดีๆ...เอ่อ...ในนี้ต้องการความช่วยเหลือมั้ย” กายส่งเสียงหล่อมาให้เจน ที่เหมือนจะได้สติกลับมาทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น
   “ใช่......เอ่อ....เรา...ม...มีงานสองสามอย่าง...เอ่อ....ที่ต้องจบวันนี้น่ะที่รัก” เจนกล่าวกับกาย ก่อนจะมองไปรอบๆห้องอีกครั้ง เธอพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่สบตาจีโอ ที่ยังคงมองตาเธอและยิ้มกว้าง
   “รับทราบครับ” กายตอบรับเสียงของเธอ เจนจิราเบี่ยงตัวออกไปจากสตูดิโอ
   “ถ้าคุณจะเปิดซองสีส้มนั้นใช้ เจอกันวันพรุ่งนี้ที่มาร์เล่ ลา วัลลี ตอนสิบโมงนะครับ” จีโอว่า “ผมจะรอ”
   เจนจิราหันมามองจีโอครั้งหนึ่ง ก่อนจะหายตัวออกไปทันที
   “ยี่สิบยูโรคุณเจนไม่มา” วินว่าพลางหันไปหาเอิร์ธ ที่ยิ้มเยาะและส่ายหน้า
   “หมื่นยูโร” เอิร์ธว่า พลางลดเสียงลงเป็นเสียงกระซิบ “ได้กัน”
   ทั้งคู่หัวเราะกันเบาๆ
   “หมอนั่นใคร” จีโอหันมาถามเสียงเข้ม เมื่อเห็นว่าเจนจิราเดินหายไปแล้ว “ขัดจังหวะเป็นบ้าเลย”
   “เค้าชื่อกาย” เอิร์ธว่า “ดีไซน์เนอร์ชื่อดังของเมืองไทยอ่ะจีโอ เค้าเป็นแฟนเก่าของพี่เจน แล้วก็เอ่อ...เป็นหนึ่งในโต๊ะผู้บริหารด้วย สงสัยจะแวะมาดูงานน่ะฮะ”
   “แล้วเอ่อ...ชั้นต้อง...ระวังมั้ย” จีโอร้องถาม
   “ไม่ครับ” เอิร์ธตอบ “พี่กายมีแฟนใหม่แล้ว เค้าเป็นพี่ชายผม ไม่มีอะไรหรอกครับ.....ว่าแต่ไหงมาไม้นี้อ่ะ”
   “นั่นสิ.....ออกตัวแรงนะจีโอ” วินแซวเพิ่ม “ไปรู้ได้ไงว่าเค้าชอบสีส้ม เราสองคนใช้เวลาตั้งเดือนกว่าจะรู้
   “ใช่ รู้เอาตอนที่เค้าโละสีดำจากงานเราทั้งเซ็ทเลยที่ Esmod” เอิร์ธพูดเสริม
   “ข้อแรกที่นายสองคนต้องรู้เอาไว้เลย เวลาชั้นทำธุรกิจ” จีโอว่า “คนเราทุกคนมีนัยยะในตัว ถ้าเราอ่านออก เราจะประเมิณการตัดสินใจจากเค้าได้”
   เอิร์ธและวินนั่งฟังอย่างตั้งใจ
   “สำหรับเจน.....ฉันเห็นห้องของเค้าเมื่อวันก่อน ของทุกอย่างถูกวางเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ แฟ้มบนโต๊ะมีแต่สีส้ม” จีโอว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นสีธีมของที่นี่ซึ่งฉันเดาว่าไม่น่าใช่ ก็แสดงว่าเธอชอบสีนี้ และต้องการให้ของที่เธอใช้เป็นสีส้ม มีสีนี้ในที่ทำงานก็แสดงว่าเธอต้องมีสิทธิมีเสียง และเป๊ะในที่ทำงานเอามากๆ”
   ทั้งคู่พยักหน้ารับทันที
   “เป๊ะในที่ทำงาน นายสองคนไม่อยากให้ฉันยุ่งกับเธอ เพราะเธอเป๊ะ และแข็งแกร่งเกินกว่าจะกระเทาะใช่ไหมล่ะ” จีโอพูดต่อ “ดูจากสิ่งที่พูด เธอไม่ไว้ใจใคร และนั่นทำให้เธอไม่สามารถเปิดเผยตัวเองออกมา ดังนั้นเกราะที่นายสองคนกลัวกันนักหนา มันจะต้องเป็นแค่ภาพลักษณ์ที่ป้องกัน อะไรบางอย่างที่แท้จริงข้างในตัวเธอ....”
   จีโอพูดต่อ พลางยิ้มกริ่มและหันหลับไปมอประตูสตูดิโอที่ปิดสนิท
   “...และฉันคิดว่าสิ่งที่อยู่ภายใต้เกราะนั่น มันต้องส่องสว่าง พอๆกับสีส้มที่เขาชอบนั่นล่ะ”
.............
   เป็นจริงอย่างที่จีโอคาดเดา เจนจิราลากกายเข้ามาถึงห้องส่วนตัวก่อนจะล็อคประตู หญิงสาวหอบหายใจ พลางก้มหน้าลงกับตัวเองอยู่อย่างนั้น ชายหนุ่มเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิต ผู้ที่เคยผ่านเหตุการณ์มากมายมาด้วยกันเข้าใจดี เขายิ้มให้กับเธอจากโต๊ะทำงานของเธอเอง
   “เขาเก่งนี่” กายเริ่มพูดก่อน “ใช้แค่ไม่กี่ประโยคเอง เธอก็จนมุมแล้ว”
   “หยุดเลยนะกาย” เจนจิราจ้องกายตาถลนพลาง เดินตัดเขาอ้อมไปนั่งที่โต๊ะทำงานตัวเอง “หมอนั่นก็แค่พยายามปั่นหัวเรา เขาเข้ามาอยู่ในบอร์ดแบบไม่ใสซื่อ เขาก็แค่ จะสร้างภาพให้ศัตรูเห็นว่าตัวเองดูดีเท่านั้นแหละ”
   “งั้นเหรอ...สร้างภาพด้วยการชวนศัตรูไปเที่ยวดีสนีย์แลนด์เนี่ยนะ” กายพูดติดตลก เขาได้ยินบทสนทนาทั้งหมดมาตั้งแต่มาถึงชั้นสามแล้ว
   “ขอเถอะกาย อย่าได้......”
   “ผมอ่านเอกสารเขาแล้ว” กายพูดกลับ “คุณรู้ดีพอๆกับผมเจน ว่าเขามาซื่อ....รายได้เขาไม่ได้ตุกติกอะไรเลย เขาทำโรงแรมมาสามปี แถมเคยขาดทุน ตอนช่วงวิกฤตเงินยูโรตอนปีกลายด้วย ธุรกิจเขาก็ไหลไปพร้อมกับธุรกิจอื่นๆในแถบนี้ เขาอยู่กับธุรกิจแถวนี้มานาน ไม่แปลกเลยที่เขาอยากจะลองธุรกิจสายใหม่กับเราอย่างแฟชั่น พี่สุเมธก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้นะ”
   “แต่เขามากับวิน” เจนจิราบอก
   “เรื่องวิน มันก็เป็นอีกประเด็น” กายว่า “ยังไงเราก็ต้องจับตาดูเด็กคนนี้ แต่การที่เขาจีบคุณ มันก็อีกประเด็นนึงไม่ใช่เหรอ”
   “จีบ...ใครจีบ” เจนจิราว่าเสียงสูง “เค้าก็แค่มากวนประสาทเจนเท่านั้นเอง เขาก็แค่นักธุรกิจธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษ ไม่มีหัวด้านแฟชั่นด้วยซ้ำ เมื่อวันเซ็นสัญญา เจนต้องพาหมอนั่นไปแนะนำทั่วซูเม่ ว่าเราทำอะไรบ้าง แล้วเขามีสิทธิทำอะไรบ้าง หมอนี่ทึ่มเรื่องดีไซน์อย่างสุดโต่ง แบบว่า.....”
   “รู้ดีขนาดนั้นเลย” กายพยักหน้าพลางยิ้มกว้าง “รู้จักเขาดีขนาดนั้นเลยเหรอ”
   “ขอเถอะกาย หยุด อย่านะ เจนไม่....”
   “ถามจริงเหอะเจน ที่คุณปิดกั้นเค้า เพราะกลัวเรื่องงาน หรือกลัวเรื่องอะไร” กายยิงเข้าตรงประเด็นทันที เจนมองหน้ากาย “อย่ามาโกหกผม ผมพ่อมดนะ”
   “หมายความว่ายังไงคะ” เจนเอียงคอ
   “ก็หมายความว่า เราสองคนไม่ใช่คนอื่นคนไกล” กายยิ้มกริ่ม “ผมเป็นคนจีบคุณคนแรก ผมดูออกนะ ว่าอาการเมื่อกี้ ก่อนที่ผมจะช่วยคุณออกมาได้ มันเรียกว่าอะไร”
   เจนเมินหน้าไปทางอื่น
   “คุณก็สนใจเขาเหมือนกันเจน” กายว่า “ยอมรับมาซะดีดี”
   “ฉันสนใจก็เพราะว่าเขาอยู่ดีดีก็โผล่มาต่างหาก” เจนแย้ง
   “แต่คุณก็สนใจ” กายย้ำอีก
   “หยุดเลยกาย เจนไม่....”
   “อ่ะอ่ะอ่ะ โอเค ไม่ก็ไม่ ผมไม่เถียงคุณก็ได้” กายยกมือขึ้นห้ามพลางยักไหล่ “แต่เค้าก็พูดถูก ในเมื่อคุณอยากจะล้วงลับเขา ก็ไปกับเขาซะ จะได้รู้ว่าเขามาดีหรือมาร้าย ไม่เห็นมีอะไรเสียหายเลย”
   “ออกไปกับพันธมิตรธุรกิจที่เราไม่ไว้ใจเนี่ยนะไม่เสียหาย” เจนแย้ง
   “ก็เค้าดันชวนคุณไปดีสนีย์แลนด์” กายว่า “ถ้าเขาชวนคุณไปดินเนอร์หรือไปตีกอล์ฟก็ว่าไปอย่าง นี่ไปดีสนีย์แลนด์นะ ผมก็เพิ่งเคยเห็นการผูกมิตรทางธุรกิจที่ดีสนีย์แลนด์เหมือนกันนั่นแหละ”
   “ไม่ตลกเลยนะกาย” เจนว่า
   “ก็ไม่เห็นเสียหายนี่เจน ถ้าผมฟังไม่ผิดก็ได้ยินว่าเจ้าเอิร์ธก็ไป ไหนว่าคุณก็ไม่ได้อะไรกับเอิร์ธ” กายแย้งอีก
   “ฉันก็ไม่ได้อยากไปซะหน่อย” เจนว่าเสียงอ่อย
   “ไม่อยากไปแล้วทำไมไม่คืนตั๋วเค้าไปล่ะเมื่อกี้” กายยิ้มกริ่ม พลางมองสิ่งที่เจนถือตามมาด้วยในมือ
   “ก็.....”
   “อยากจะชั่งใจก่อน ใช่ไหมล่ะ” กายพูดต่อคำเจนทันที
   “เจนเกลียดคุณอ่ะกาย” เจนพูดเสียงสูง ก่อนจะตีแขนกายแรงๆหนึ่งที
   “ไม่มีใครในโลกจะรู้จักคุณดีไปกว่าผมแล้ว” กายยิ้มกริ่มพลางหัวเราะเบาๆ “ไปเถอะ....ถ้าให้แนะนำทั้งในฐานะเพื่อน และหุ้นส่วนธุรกิจ ผมอยากให้คุณไปเจน”
   เจนมองหน้ากาย พลางมองตั๋วในมืออย่างลังเล
   “แล้วถ้าแนะนำในฐานะแฟนเก่าล่ะคะ” เจนถามต่อ
   “อืม.....” กายคิดอยู่ครู่นึง “ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป....”
   เจนมองหน้าชายหนุ่มทันที
   “แต่ผมว่าถึงเวลาได้แล้วที่คุณจะยกโทษให้ผมกับเรื่องเก่าๆนั่น แล้วเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆให้กับตัวเองได้แล้วเจน” กายยิ้มให้กับเจน ที่มองตั๋วในมืออยู่อย่างนั้น
....................
   “ขอบใจมากนะที่มาส่ง แต่ไม่ต้องขึ้นไปก็ได้มั้ง” วินบอกเอิร์ธที่เดินตามมาถึงบ้านพักในหัวค่ำของวันนั้น ทั้งคู่ปิดงานได้อย่างสง่างาม ก่อนจะพากันไปกินข้าวที่ร้านสเต็กเจ้าอร่อยที่หัวมุมถนน วันนี้ไกด์ต้องชดเชยแลกกับวินเมื่อกะวันพูธทำให้วินและเอิร์ธ ใช้เวลาอยู่ด้วยกันได้ตลอดทั้งหัวค่ำ ก่อนที่เอิร์ธจะยืนยันว่าจะมาส่งวินที่บ้านให้ได้
   “เอ๊า นี่มึงรู้อะไรป่ะ ตั้งแต่กูกับมึงเจอกันนะ กูยังไม่เห็นที่นอนมึงเลย” เอิร์ธว่า
   “กูก็ยังไม่เห็นที่นอนมึงเอิร์ธ” วินร้องกลับ
   “ก็....ก็บ้านพี่มิกไง มึงไปนอนบ้านเค้ามาแล้ว” เอิร์ธว่า
   “เชี่ย....กูหมายถึงหอมึง” วินว่า
   “เหมือนกันแหละ เดี๋ยวอีกหน่อยกูก็ย้ายไปอยู่กับเค้าละ” เอิร์ธว่า “มึงอ่ะรีบกดๆเหอะ กูอยากเห็นห้องมึง”
   “เออๆๆ ก็มึงเสือกไม่รีบกลับ” วินว่า “พากูท่องปารีสอยู่ได้ นี่ก็จะสามทุ่มแล้วเนี่ย พรุ่งนี้ก็ไปกันแต่เช้าอีก”
   “เอาน่าเร็วเข้าๆ”
   วินกดรหัสที่หน้าประตู ก่อนจะพาเอิร์ธเดินขึ้นบันไดไปจนถึงห้องของตัวเอง วินไขกุญเจบ้าน ขณะที่เอิร์ธยิ้มกริ่มมองไปที่ประตู ทันทีที่ประตุเปิดผางออก วินและเอิร์ธก้าวเข้าไปในห้องก็พร้อมกับเสียงต้อนรับ
   “กลับดึกนะ....หายไปไหนมาล่ะ กินอะไรมาหรือ.....อ้าว เอิร์ธ” เสียงของไกด์ทักขึ้นทันที เอิร์ธมองไปหาไกด์พลางยิ้มให้
   “หวัดดีๆ พอดีวันนี้เราไปกินข้าวกันมาน่ะ” เอิร์ธเริ่มพูดทันที “ก็เลยกลัววินมันจะกลับคนเดียว ก็เลยมาส่ง”
   “อ่อ...” ไกด์รับคำ “เข้ามาก่อนมั้ย”
   “เห้ยไม่เป็นไร เดี๋ยวกลับแล้วๆ” เอิร์ธว่า พลางเหล่มองไกด์และวิน ซึ่งตอนนี้เพื่อนตัวดีของเขา พยายามทำตัวให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้
   “งั้นเจอกันพรุ่งนี้ จะไปเจอกันที่โน่นเลยหรือเปล่าล่ะ” วินรีบตัดบทเอิร์ธทันที
   “ใช่ๆ กูกับพี่กูไปเจอมึงที่นู่นเลย” เอิร์ธว่า “โชคดีนะวิน หลับฝันดีนะ”
   วินทำหน้ากระตุกเล้กน้อย เมื่อเอิร์ธพูดจบ
   “มึงว่าอะ....”
   “แล้วเจอกันพรุ่งนี้...” เอิร์ธลากตัววินมากอดแน่นๆหนึ่งที ก่อนจะผละออก วินทำตาถลนใส่ ขณะที่เอิร์ธยิ้มหวานให้เขา
“กูกลับละ....ผมกลับก่อนนะไกด์....แล้วเจอกันพรุ่งนี้ที่ดีสนีย์ครับ”
   เอิร์ธปิดประตูห้องจากไป ทิ้งไว้เพียงความเงียบ วินยืนนิ่งสนิท ไม่กล้าหันไปมองด้านหลังของตัวเอง ร่างกายของเขาแข็งทื่อ เหมือนกับมีอะไรบางอย่างมายึดเท้าเขาไว้กับพรมหน้าห้อง
   เมื่อได้สติก็ค่อยๆหันกลับไปมองหน้าไกด์ ที่ยังคงมองเขาอย่างนิ่งสนิท
   “เอ่อ..คือ....”
   “หาอะไรกินเอาเองนะ.....ฉันนอนละ” ไกด์พูดเสียงเย็นๆ ก่อนจะปิดประตูเข้าห้องนอนไป วินกลืนน้ำลายหนึ่งครั้ง ก่อนจะส่ายหัวให้ตัวเอง
   ตอนนี้สิ่งแรกที่เขานึกออกเมื่อเจอหน้าเอิร์ธพรุ่งนี้ที่ดีสนีย์แลนด์ก็คือ
   เด็ดหัวเอิร์ธมาจิ้มอาริกาโน่

ออฟไลน์ srikoon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 530
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-6
ยั่วให้หึง จะติดกับไหม

Tuna Omega

  • บุคคลทั่วไป
แผนเอิร์ธจะทำวินบ้านแตกป่าวเนี่ย...ทริปวัดใจของทุกคู่ท่าทางจะมันนะเนี่ย

ออฟไลน์ M2M_Jill

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
ตอนที่ 35 Witch’s Faces

   เสียงเด็กหัวเราะ ส่งเสียงดังกึกก้องระงมไปทั่วลานทางเข้าสู่ปราสาทที่ตั้งตระหง่านโอ่โถงอยู่ที่มาร์ลี ลา วัลลี นอกกรุงปารีส สถานที่ที่เด็กทั่วโลกฝันอยากจะมาถึง
   ดีสนีย์แลนด์ ปารีส ในยามเช้าของวันเสาร์กลางเดือนมิถุนายน แม้ว่าจะเป็นวันเสาร์แต่ว่าเนื่องจากเป็นเดือนมิถุนายน ดังนั้นเด็กๆในปารีสจึงไม่มากมายเท่าเด็กๆที่เป็นนักท่องเที่ยว ประตูสวนสนุกที่กำลังจะเปิดออกในอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมง คราคร่ำไปด้วยผู้คนที่เข้าคิวรอแลกบัตรคิวเพื่อรับตั๋วเข้าไปท่องเที่ยวข้างใน ท่ามกลางความวุ่นวายของวัน วินนั่งนิ่งรอไกด์อยู่ตรงด้านหน้าที่จุดนัดหมาย เนื่องด้วยต้องตื่นเช้าเพื่อให้ทันรถรอบพี่เศษที่ออกจากปารีสมาถึงดีสนีย์แลนด์ วินจึงได้แต่จิบกาแฟอุ่นๆที่ซุ้มขนมด้านนอก พื้นที่ขนาดกว้างที่รองรับนักท่องเที่ยวเกือบหมื่นชีวิตตรงนี้ วินกำลังรอให้ไกด์ไปต่อคิวรับตั๋ว ในขณะที่ตัวเขาเองกำลังรอคนอื่นๆที่นัดมาให้มาเจอกันตรงนี้ ตามที่ได้ส่งข้อความไปบอกเมื่อคืน
   ไม่กี่นาทีต่อมา วินรู้สึกได้จากสัมผัสที่หัวไหล่ของตัวเอง ก่อนจะหันไปมอง
   “Good Morming” สเตลล่านั่นเอง วินวางแก้วกาแฟลง ก่อนจะลุกขึ้นเพื่อทักทายเธอ
   “หวัดดีสเตลล์” วินจับมือกับเธอ “เอ่อ....พอดี.....ไกด์ไปเอาตั๋วน่ะ เดี๋ยวของเธอก็คงได้พร้อมกัน”
   “อืม” สเตลล่าว่า พลางซุกมือลงกับเสื้อโค้ทสีเข้มของเธอ
   “แล้วเอ่อ.......” วินพยายามพูดอะไรบางอย่าง
   “ช่างมันเถอะ” สเตลล่าพูดตัดบท “วันนี้เรามาเที่ยวกัน อย่าทำให้เสียบรรยากาศดีกว่า”
   วินไม่ได้ตอบอะไร เขาไม่แน่ใจว่าอารมณ์ของสเตลล่าจะนิ่งลงหรือยัง เขาเองก็ไม่อยากที่จะคุ้ยเรื่องเมื่อหลายวันก่อนเพื่อที่จะหาคำตอบเรื่องนี้
   “แล้วคนอื่นๆล่ะ” สเตลล่าถามขึ้น “มากันหรือยัง เอิร์ธ จีโอ แล้วก็คนที่ได้รับเชิญอีกสอง”
   “จีโอมาแล้ว แต่ขอแยกไปเอาตั๋วอีกแถว” วินตอบ ส่วนเอิร์ธยังไม่เห็น”
   “แล้วใครจะมาเพิ่มอีกสองคนล่ะ” สเตลล่าถาม
   “ผมก็ไม่รู้เหม.......” วินมองผ่านไปยังด้านหลังของสเตลล่า ก็พบกับเอิร์ธที่กำลังเดินตรงรี่มาพร้อมกับผู้หญิงคนนึง วินขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาคิดว่าคนที่เอิร์ธจะมาพามาด้วยคือพี่มิกซะอีกซึ่งนั่นมัน...
   “ไอ้เอิร์ธ” วินร้องทักทันทีที่เพื่อนเขาเข้ามาใกล้
   “เห้ยโทษที ตื่นสายว่ะ” เอิร์ธร้องทัก “พี่สาครับทางนี้คับพี่”
   “อ้อๆ ได้จ้ะเอิร์ธ” หญิงสาวที่เอิร์ธพามาด้วย กำลังยกกล้องขึ้นถ่ายรูปลานด้านหน้าอย่างมีความสุข ก่อนที่เธอจะเดินมาหาเอิร์ธตามเสียงเรียก
   “เอ่อ สวัสดีครับ” วินทักทาย เช่นเดียวกับสเตลล่าที่จับมือกับเธอเพื่อทำความรู้จัก
   “สวัสดีค่ะ น้องวิริยะ โสภณนภา” สากล่าวอย่างยินดี “ลูกชายคนเดียว ของคุณวรพัฒน์แห่งคอสโม่คอนเทอลิโอนี่ประเทศไทย......ได้เจอตัวจริงซักทีนะคะ”
   “เอ่อ...” วินขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาเคยชินกับเรื่องแบบนี้ เขาและพ่อทำให้มีชื่ออยู่บ้าง แต่กับที่นี่ ปารีส เขาไม่คิดว่าจะใช่ “ผมไม่แน่ใจว่าเราเอ่อ.....”
   วินหันหน้าไปหาเอิร์ธที่เหล่มองไปรอบๆ ก่อนจะหันกลับมา
   “อ๋อ...เอ้อ...นี่พี่สา เป็นพี่ที่สตูดิโอเก่าของกูเอง เค้าเป็นเพื่อนสนิทพี่มิกน่ะ” เอิร์ธให้คำตอบ “เค้าเป็นช่างภาพแล้วก็อาร์ทไดเรกเตอร์ ทำงานอยู่สาขาเบอร์ลิน พอดีเค้ามาดูงานที่นี่น่ะ ก็เลยชวนมา”
   “ครับ ยินดีที่ได้รูจักครับ” วินยิ้มรับ “ผมคิดว่าเอิร์ธจะพา....”
   สาแอบเหล่มองเอิร์ธเล็กน้อย ชายหนุ่มรีบตั้งตัวตรง
   “อ๋อคือ.....พี่มิกเค้าไม่มาหรอก อะไรอย่างนี้อ่ะ” เอิร์ธรีบพูดตัดบท “เค้าไม่ชอบไปที่คนเยอะๆ เนอะพี่สา”
   “ใช่.....มันเป็นอย่างนั้นแหละ แล้วพี่ก็อยากมาเที่ยวที่นี่ด้วย ไม่มีโอกาสซักที” สายิ้มกริ่ม “รบกวนด้วยนะคะ แล้วนี่เอ่อ....ฉันว่าฉันคุ้นหน้าคุ้นนะคะ คุณ....เอ่อ”
   “สเตลล่า โรมานอฟค่ะ” สเตลล่ายิ้มให้สาหนึ่งที “ฉันเป็นนางแบบให้กับคอสโมโพลิแทน”
   “อ๋อ....ใช่ จริงๆด้วย คุณลงปกเมื่อเดือนที่แล้วใช่ไหมคะ ของเยอรมัน” สากล่าวพลางยิ้มกว้าง “ให้ตายสิเอิร์ธ นายนี่ไม่เจอกันแป้บเดียว เส้นสายเป็นกองเลยนะยะ”
   “นิดหน่อยฮะพี่” เอิร์ธยืดตัวเบาๆ
   “ยินดีที่ได้พบค่ะสเตลล่า คุณดูดีมากในชุดสูทเซ็ทนั้น ช่างภาพคือ สตีเว่น ร็อคฟอร์ดใช่หรือเปล่าคะ” สาพูดต่อ
   “ใช่ค่ะ” สเตลล์ตอบเธอ
   “เขาเป็นต้นแบบของฉันเลยค่ะ ถ้ายังไงไม่รังเกียจ คราวหลังรบกวนมาเป็นแบบให้ชั้นบ้างได้ไหมคะ” สาว่า
   “ด้วยความยินดีค่ะ” สเตลล์ตอบ
   “อ่ะแฮ่มๆ” เอิร์ธขัดจังหวะสาขึ้นมา “พี่สา..ผม..เอ่อ...เรามาเที่ยวกันนะพี่..อย่าลืมที่ผมบอกสิ”
   วินหันแว้บไปหาเพื่อน พลางพยายามตีความรูปประโยคอันแปลกประหลาดนั้น
   “อ๋อ...ใช่ๆ เรื่องงานเอาไว้ทีหลังเนอะ” สาว่าพลางยิ้มให้วินทันที วินยิ้มตอบเธอกลับอย่างสงสัย พลางมองไปทางเอิร์ธที่ยิ้มกริ่มมองไปรอบๆเหมือนจะหาอะไรบางอย่าง
   “ว่าแต่..แล้วคนอื่นๆละคะ วันนี้มีใครจะท่องโลกนิทานไปกับเราบ้างล่ะ” สาพูดเสียงใส
   “อยู่นั่นไง” เอิร์ธร้องขึ้นทันพลางชี้ไปทางชายหนุ่มสองคนในชุดโค้มสีดำขลับ เดินมาจากแถวที่เรียงยาว ไกด์กับจีโอ คงจะได้ตั๋วมาเรียบร้อยแล้ว
“หวัดดีไกด์ หวัดดีจีโอ” เอิร์ธร้องเสียงดัง ก่อนจะเอื้อมมือโอบไหล่วินเอาไว้ทันที
“อ้าวมากันแล้วเหรอ” จีโอร้องเสียงดัง “แล้วนี่เอ่อ...”
“เอ่อนี่พี่สาครับ เป็นพี่สาวผมเอง คือผมหมายถึงพี่ที่เคารพน่ะ” เอิร์ธว่า “ส่วนนี่จีโอกับไกด์นะพี่สา ที่ผมเอ่อ....เล่าให้ฟัง”
“อ๋อ” สายิ้มกริ่ม พลางมองไปที่ชายหนุ่มสองคน “สวัสดีค่ะ คุณจีโอ ได้ยินว่าคุณเป็นนักธุรกิจคารมดี แล้วก็คุณไกด์ พ่อครัวมือฉมังประจำร้านอาหารไทยในปารีส....ใช่ไหมคะ”
“ใช่ครับ” จีโอตอบรับพลางจับมือกับเธอ เช่นเดียวไกด์ที่ยิ้มรับคำของเธอ พลางมองมาที่วินและเอิร์ธหนึ่งครั้ง
ท่ามกลางบทสนทนาแนะนำตัวระหว่างจีโอและสา ไกด์เดินตรงมาหาวินที่โดนเอิร์ธโอบไหล่และทำเป็นมองไปรอบๆ วินรู้สึกถึงคลื่นพลังมหาศาลที่โจมตีใส่เขาอย่างรุนแรงแบบเดียวกับตลอดหนึ่งคืนที่ผ่านมา มันกำลังทวีความรุนแรงขึ้นและ....
ไกด์ยื่นถุงนึงใส่มือวินทันที เอิร์ธมองการกระทำที่เกิดขึ้นตรงหน้า อย่างพิจจารณา
“แซนวิช” ไกด์พูดห้วนๆใส่วิน “นายยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่ออกมา ทานซะจะได้ไม่หิว”
วินมองถุงแซนวิชตรงหน้าก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองไกด์
“ขอบใจมากนะไกด์” เอิร์ธยิ้มกริ่ม พลางหยิบมันออกมาจากมือวินแล้วเริ่มแกะทันที “นี่มึงยังไม่ได้กินอะไรมาเหรอวะ มาๆ แบ่งกะกูคนละครึ่ง”
วินมองเพื่อนรักด้วยความงงงวยก่อนจะรับครึ่งนึงของแซนวิชมากินอย่างเสียไม่ได้ แม้ว่าจะยังไม่ละสายตาไปจากการสบตากับไกด์ที่ทำเป็นยืนฟังบทสนทนาของอีกสามคนที่เหลือ แต่สายตาไม่ได้ละไปจากวินเลยแม้แต่น้อย
“เห้ยไอ้วิน กินยังไงเนี่ย เลอะหมดแล้ว” เอิร์ธว่า ก่อนจะหยิบทิชชู่จากในถุงและเช็ดปากให้กับวิน ที่ติดสตั๊นทันที เมื่อโดนเอิร์ธเช็ดปากให้อย่างไม่ทันตั้งตัว
และแล้วความเงียบก็เกิดขึ้นทันที วินรู้ตัวเลยว่าไกด์จ้องเขม็งมาที่เขา แต่ด้วยความตกใจ วินก็ได้แต่เพียงทำเป็นขัดขืนเพื่อน แต่นั่นยิ่งทำให้ภาพการเช็ดปากดูเป็นอะไรที่ชวนเข้าใจผิดมากเข้าไปอีกและ...
“...ว่าไงคะ คุณไกด์” เสียงของสาดังแทรกขึ้นมา “คุณไกด์คะ....”
“...ค...ครับ” ไกด์หันกลับไปยังวงสนทนาตามเดิม ”ครับ เอ่อ...เมื่อกี้คุณสาว่าอะไรนะครับ”
“อ้าว...แหม ไม่ได้ฟังเลยเหรอคะ” สาถามเสียงใส “ฉันถามว่าคุณน่ะ มาอยู่ปารีสนานแล้วเหรอคะ เพื่อนคุณเล่าให้ฉันฟังเมื่อกี้”
“อ๋อ..ครับใช่” ไกด์กล่าว “ผมมาอยู่ที่นี่ปีนี้ปีที่ห้าแล้ว ผมย้ายมาจากเมืองไทยเพราะได้ทุนเรียนต่อปริญญาตรีต่ออีกสองปี แล้วก็ทำงานต่อเลยน่ะครับ”
“ว้าว...แล้วคุณได้ทุนจากไหนคะเนี่ย” สาถามต่อ
“จุฬาครับ ผมเคยเป็นศิษย์เก่าจุฬา” ไกด์พูดต่อ “ผมย้ายมากับน้องชายสองคน แต่น้องผมเสียไปเมื่อสองปีก่อน ตอนนี้ผมอยู่คนเดียว”
“ตายจริง...ฉันขอโทษด้วยนะคะที่” สาพยายามพูด
“ไม่เป็นไรครับ” ไกด์พูดทันที สเตลล์และวินมองสิ่งที่ไกด์พูดพร้อมกัน ไกด์มองกลับมาหาวินอีกครั้ง “เพราะผมกำลังคิดว่า ผมจะเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้ว”
“ดีแล้วล่ะค่ะ” สาว่า
“เอ่อ...แล้วยังไงเนี่ย เราจะเข้าไปกันได้หรือยัง” สเตลล่าตัดบทสนทนาขึ้นทันที “ได้ตั๋วกันแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ใช่” ไกด์พูดรับคำสเตลล่าทันที “ตั๋วของทุกคนอยู่กับผม”
“งั้นเราก็ไปกัน.....” สาพยายามพูด
“เอ่อ...เดี๋ยวก่อนนะ” จีโอพูดพลางมองไปรอบๆบริเวณ
เอิร์ธได้โอกาสจึงทำเป็นยื่นหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของวิน โดยที่มือก็ยังโอบคอเพื่อนรักอยู่
“เค้ากำลังรอพี่เจนน่ะ” เอิร์ธกระซิบใส่หูวิน
“เออ กูเข้าใจ” วินว่า “แต่ว่ามึงอ่ะ.....กำลังทำเชี่ยไรกูเนี่ยสัด”
“เออน่า มึงอยู่เฉยๆเหอะ” เอิร์ธย้ำอีกครั้ง “กูว่า....พี่เจนแม่งไม่มาหรอก”
“แหงอยู่แล้ว กูพนันไว้ตั้งยี่สิบยูโร” วินพูดตอบ “เดี๋ยวนะ...เห้ย นั่นมัน”
หญิงสาวคนนึงหญิงสาวคนนั้นสวมเสื้อสีขาว และกางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้ม พันผ้าพนคอสีส้มสด ผมที่ดัดเป็นลอนเข้ากับใบหน้าที่สมแว่นกันแดดอย่างมีสไตล์ หญิงสาวใส่สนีกเกอร์สีดำ ดูสปอร์ตมากขึ้นกว่าที่วินเคยเห็นในชุดปกติของเธอ
   วินสะกิดเอิร์ธให้มองไปยังผู้หญิงคนนั้นทันที ก่อนที่จีโอจะเดินตัดกลุ่มของทุกคนเข้าไปหาเธอ
   “คุณเจน” จีโอร้องทัก เธอหันมาหาเขา ก่อนจะเลิกแว่นกันแดดขึ้นไปบนศรีษะ ใบหน้าที่สดใสไม่มีเครื่องสำอางค์ทำเอาวินและเอิร์ธอึ้งไปพักนึงทีเดียว เจนจิรายังคงสวยแบบที่เธอควรจะเป็น แม้ไม่มีเครื่องสำอางค์ แต่ใบหน้าของเธอวันนี้กับเปล่งประกายยิ่งกว่าเก่า ลุคที่ดูสดใสของเธอในชุดสีขาว เข้ากับผ้าพันคอสีส้มของเธออย่างไม่น่าเชื่อ วินเผลอมองใบหน้าของเธอไปหลายนาทีเช่นเดียวกับเอิร์ธ
   “ผม...เอ่อ....ไม่นึกว่าคุณจะ......” จีโอว่า
   “ขอโทษที ฉันหาคุณไม่เจอแล้วเอ่อ...ฉันต้องไปต่อคิวรับตั๋วเองแล้ว......”
   “เจนจิรา” สาร้องขึ้นทันที พลางมองไปที่เจนด้วยตาที่แทบถลนออกจากเบ้า
   “คุณสา” เจนร้องกลับทันทีเมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้า
   “ชิบหายแล้ว” เอิร์ธร้องกับตัวเองเสียงดังพลางตบหน้าผากตัวเองเข้าอย่างจัง
   “อะไรกันวะ” วินกระซิบถามเอิร์ธ
   “มึงลองจินตนาการเอาแล้วกันนะ” เอิร์ธพูด “ว่าถ้าเกิดเมลีฟิเซนต์จากเจ้าหญิงนิทรา ต้องมาสู้กับราชินีเรเวนจากสโนไวท์จะเป็นยังไง”
   “อะไรนะ เค้าสองคนไม่ถูกกันเหรอ” วินพูดพลางมองไปยังเหตุการณ์ตรงหน้าอีกครั้ง เป็นการกระทำที่ตลกมาก เจนและสาทำหน้าตึงใส่กันอยู่เสี้ยววิ ทำให้ทั้งวงเกิดความฉงนขึ้นทันที
   “เอ่อ...ค...คุณสองคนรู้จักกันเหรอครับ” จีโอถามขึ้น แม้ว่าเจนจิราจะหันมาหาเขา เพื่อขอคำตอบ “คือ...ผมเพิ่งรู้จักคุณสาวันนี้เอง แล้วเอ่อ.....มีอะไรกันหรือเปล่าครับ”
   เจนจิราส่ายหน้าครั้งนึง ก่อนจะหันหลังกลับทันที
   “เดี๋ยวสิคุณ” จีโอพยายามวิ่งตามและดึงตัวเธอเอาไว้ “เจนผมไม่รู้เรื่องนะ มีอะไรเหรอ”
   “นั่นสิ เธอหนีงั้นอะไรเหรอเจน” สาเดินตามมายังจีโอและเจนจิราทันที วินและเอิร์ธเห็นใบหน้าที่เจนไม่เคยมีปรากฎขึ้นมาก่อน ใบหน้าของคนเสียรู้และถูกคุกคาม
   “ป..เปล่าซะหน่อยคุณสา ชั้นแค่......” เจนพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง “ฉันก็....ตั้งใจมาพบคุณจีโอไง.....”
   เจนจิราตัดบททันที ไม่ยอมให้ตัวเองเสียฟอร์มไปมากกว่านี้ จีโอยิ้มกริ่ม
   “งั้นเหรอ.....ฉันไม่นึกว่าเธอจะ...” สายิ้มที่มุมปากเบาๆ พลางมองจีโอและเจนจิรา
   “ครับ...คือผมเป็นคนชวนเธอมาเอง” จีโอออกตัวรับ “ผมเพิ่งตกลงร่วมลงทุนกับคุณเจนในซูเม่อินเตอร์เนชั่นนอล เราสองคนก็เลย...”
   “อยากจะออกมาพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติกันน่ะ” เจนจิรายิ้มให้สาทันที พร้อมกับพูดตัดบทจีโอ ที่ตอนนี้หันไปมองเธอด้วยรอยยิ้ม
   “อ้อ.....งั้นเหรอ" สาว่า "ดีสนีย์แลนด์ เนี่ยนะ"
   "ใช่" เจนจิราว่า "ดีสนีย์แลนด์"
   เจนจิรารู้ตัวดีว่านี่เป็นเรื่องที่งี่เง่าที่สุด เท่าท่ตัวเธอจะคิดทำได้ สามองเธอหัวจรดเท้า
   "วันนี้เป็นครั้งแรก ที่ฉันไม่เห็นเธอแต่งหน้า" สาว่า พลางยกกล้องขึ้นถ่ายรูปเจนกับจีโอทันที เจนถึงกับกัดฟันกรอดเบาๆ "เธอก็ ดูดีในชุดเดทนะ"
   สาพูด ก่อนจะเดินหันหลังกลับไป ทิ้งให้เจนติดสตั๊นอยู่กับจีโอที่ยังคงยิ้มกว้างให้กับเธอ
   "ตั้งใจมาหาผมเลยเหรอคุณ" จีโอหยอดใส่เธอไปอีก เจนจิราหน้าแดงจัด เธอทั้งโกรธ ทั้งเขิน ทั้งอาย มันปนเปยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว
   "ช่างมันเถอะ" เจนจิราตัดตัวเองออก ก่อนจะเดินเข้าไปสมทบกับกลุ่มอย่างเสียไม่ได้ ในขณะที่สาเดินกลับมาที่กลุ่มพร้อมกับทำหน้าอาฆาตใส่เอิร์ธทันที พลางทำท่าขอคำอธิบายการปรากฎตัวของเจนจิราที่นี่ เอิร์ธห่อไหล่ก่อจะเอามือออกจากไหล่ของวินทันทีและยกมือไหว้สาประหลกๆ
   ด้วยเวลาอันรวดเร็ว เมื่อไหล่ของวินพ้นจากอ้อมโอบของเอิร์ธ ตัวของขาถูกไกด์ ดึงเขามาหาตัวทันที กลายเป็นแขนของไกด์ ที่โอบไหล่เขาไว้แทน วินจ้องหน้าไกด์ที่ทำเป็นมองเหตุการณ์ตรงหน้า เหมือนว่าที่เขาดึงตัววินมา ไม่ใช่เรื่องจงใจ
   วินจึงทำทีเป็นจะแกะแขนไกด์ออกแต่ทว่า
   “ถ้านายยอมให้เจ้านั่นโอบนายอีกล่ะก็.....” ไกด์พูดเรียบๆ “ฉันจะพานายกลับไปกับฉันสองคนเดี๋ยวนี้เลย”
   ไม่รู้ว่าทำไม วินถึงรู้สึกว่านี่เป็นคำตอบของอะไรบางอย่างที่เขากำลังตามหาอยู่ เอิร์ธควรจะได้ยินสิ่งที่ไกด์พูดเมื่อกี้
   ไม่อย่างนั้นการเข้าไปในดีสนีย์แลนด์วันนี้ อาจจะไม่ใช้การเที่ยวสวนที่สนุกนัก

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :impress2:


หึงแล้วๆ อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
วี๊ดวิ๊ว   หึงแว้วววว  :m12:

ออฟไลน์ srikoon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 530
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-6
ต้องกระตุ้นถึงจะเห็นภาพ

ไม่ใช่หมูในอวยนะ จะบอกให้

ออฟไลน์ M2M_Jill

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
   วินคิดว่านี่เป็นการเที่ยวที่แปลกประหลาดมาก ทันที่เข้ามาอย่างลานโล่งด้านหน้าที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางของดีสนีย์แลนด์ ปราสาทสีชมพูดตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ลานตรงนี้เรียงรายไปด้วยร้านค้ามากมาย เป็นจุดที่จะเชื่อไปยังห้าส่วนของสวนสนุก ซึ่งก็จะเป็นแลนด์ต่างๆ ได้แก่ Adventure Land , Fantasy Land , Frontier Land และ Discovery Land ซึ่งวินเดาจากรูปการณืที่เกิดขึ้นนั้น นี่เป็นขบวนที่น่าอึดอัดเอาอย่างมาก
   วินและเอิร์ธเป็นคนเดินนำหน้า ทั้งๆที่เขาทั้งค่สูงกว่าคนที่เดินตามหลังมาอย่างเสตลล่า ในขณะที่เจนจิราและสาวิตรี ที่ดูเหมือนว่าทั้งคู่พยายามหันหน้าไปคนละฝั่งทุกครั้งที่มีการบังเอิญมาสบตากัน เดินแยกไปอีกทางนึง โดยที่เจนจิรามีจีโอคอยเดินประกบอยู่ใกล้ และสาก็ดูเหมือนจะเริ่มสนุกไปกับการถ่ายรูปอย่างเพลิดเพลิน ซึ่งสถานการณ์อันน่าอึดอัดกลับมาตกอยู่ที่วิน เอิร์ธพยายามทำทุกอย่างเพื่อจะได้จับมือเขา โดบไหล่และตัวเขา วินเองก็ทำทุกอย่างที่จะสะบัดตัวออกมาให้สำเร็จ เขาไม่ได้กังวลว่าไกด์จะมาทำท่าทีแปลกๆใส่เขาอีก แต่พูดตรงๆว่าการที่เอิร์ธมาทำแบบนี้ใส่เขามันทำเอาเขาขนลุก เจ้าเพื่อนตัวแสบคนนี้พูดจามีสัตว์ยั้วเยี้ยออกมาจากปากกับเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน อยู่ดีดีมาทำตัวสุภาพใส่กัน สำหรับวินแล้วมันน่าตบกระโหลกส้นดี
   “บ่ายโมงจะมีขบวนพาเหรดที่เซ็นทรัลพาร์ค” เอิร์ธร้องขึ้นเมืื่อเห็นตารางในโบรชัวร์ในมือ “ผมว่าพวกเราแยกกันไปเล่นเครื่องเล่นกันก่อนแล้วค่อยกลับมาเจอกันที่นั่นตอนนั้นดีไหมครับ”
   “ก็ดีนะ” สาร้องว่า “พี่อยากถ่ายรูป จะได้ไม่กวนคนอื่นๆเค้าเนอะ”
   “ใช่” เจนจิราพูดตอบทันที “แยกกันก็ดี เป็นความคิดที่เยี่ยมมาก”
   “แล้วคุณจะไปโซนไหนล่ะเจน” จีโอพูดถามขึ้น “ผมจะได้พาไป”
   เจนจิราหลับตาลงอย่างเสียไม่ได้ เธอแค่ไม่อยากอยู่ให้สาค่อนแขะใส่เธอ แต่มันกลายเป็นว่าสิ่งนี้มันไปเข้าทางจีโอเอามากๆ
   “เอ่อ….ฉันเอ่อ” เจนจิราส่ายหน้าครั้งหนึ่ง ่กอนจะรีบพลิกดูแผนที่ในมืออย่างลกลั่ก “เอ่อ…..น…นี่ก็ได้ สมอล์เวิร์ล มั้ยคะ”
   เธอหันไปหาจีโอ ที่ไม่ได้ดูแผนที่ตามมือเธอเลย เขามองหน้าเธอที่กำลังเหวออย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อเจนรู้ว่าตัวเองกำลังโดนมอง ก็หลบหน้าจีโอทันที
   “ว่าไงคะคุณจีโอ” เจนจิราถาม
   “ด้วยความยินดี” จีโอรับคำตอบ “งั้นไปกันครับ”
   จีโอและเจนจิราเดินแยกออกจากไป สายิ้มกริ่มพลางหันมาหาเอิร์ธ
   “พี่จะขยายเรื่องนี้คอยดู” สาว่า
   “จัดไปอย่าให้เสียพี่” เอิร์ธยักคิ้วตอบ “แล้วเอ่อ ไกด์ล่ะ นายจะไปกับสเตลล่าหรือเปล่า”
   เอิร์ธยิงคำถามที่ทำเอาวินหันมามองเอิร์ธอย่างรวดเร็วด้วยตาโต ไอ้เพื่อนตัวแสบชักจะล้ำเส้นคนรู้จักไกด์ไปไกลเสียแล้ว
   “ไม่ล่ะ” ไกด์ตอยเสียงเย็น “ฉันจะอยู่กับวิน”
   เกิดความเงียบกริบทันที สเตลล่าหลับตาลงครั้งนึงก่อนจะเม้มริมฝีปาก
   “คุณสา เอางี้มั้ยล่ะค่ะ ก็เดี๋ยวเราก็ไปทางเดียวกับที่วิน เอิร์ธและเคลวินไป” สเตลล่าว่า “คุณจะลองเทสกล้องกับฉันไหมล่ะ”
   สาทำตาเบิกกว้าง
   “ว้าววว ได้ค่ะ ยินดีเลย แต่ว่า มันจะเป็นการรบกวนพวกนายหรือเปล่า” สาถามอีก
   “ไม่เลยครับ” วินรับพูดตัดบททันที “ผมเรื่อยๆครับ ไม่ได้จะลุยเล่นไปทุกเครื่องหรอก ก็เดินเที่ยวกันไปเรื่อยๆก็ได้ ไม่ต้องแยกกันก็ดีเหมือนกัน”
   วินหันมามองหน้าไกด์ที่มองเขา
   “ผมไม่ได้จะแยกไปกับใครเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว” วินว่า เหมือนพยายามอธิบายให้ไกด์เข้าใจ
   “งั้นก็ดีเลยเพื่อน” เอิร์ธว่า “งั้นเอิร์ธสุดหล่อขอเสนอ…..บ้านผีสิงแฟนธ่อมแมนเนอร์ ณ ฟรอนเทียร์เแลนด์”
   “โคตรมึงเลยนะสัด” วินว่า
   “เอ๊า….ไปวัดใจไง หรือมึงป๊อดไอ้วิน” เอิร์ธว่า
   “บ้า….ใครป๊อด” วินร้อง “จัดมาเลยดีกว่า……”
   “ดี งั้นเชิญเลยทุกคน ซ้ายมือครับ”
   เอิร์ธเดินนำทุกคนเลี้ยวซ้ายไปยังฟรอนเทียร์แลนด์ทันที
.............
   เจนจิราเดินตรงรี่ไปโดยไม่สนใจจีโอที่วิ่งกระหืดหระหอบตามเธออยู่ หญิงสาวยิ้มกริ่มพลางคิดว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะสลัดจีโอให้หลุดออกจากตัวเองไปได้ซักพัก แผนการร้อยแปดตีขึ้นในหัว บางทีเธออาจจะทำทีเป็นหาจีโอไม่เจอ แล้วไปหลบอยู่ในเครื่องเล่นอะไรบางอย่างสบายๆซักพัก แล้วค่อยกลับไปเจอกับทุกคนอีกทีตอนขบวนพาเหรดจะเริ่มตอนบ่ายโมง
   คิดได้ยังไม่ทันไร อยู่ดีดีเด็กชายชาวฝรั่งเศสคนนึงกำลังวิ่งไปมาเลิ่กลั่ก และด้วยความที่เธอเองก็รีบเดินมากเกินไป เด็กน้อยคนนั้น มาชะงักตรงหน้าเธอ ก่อนจะสะดุดล้มลงทันที เด็กคนนั้นนั่งร้องไห้อยู่หน้าสวนหย่อมหน้าปราสาทดิสนีย์สีชมพูอยู่อย่างนั้น
   เจนจิราส่ายหน้าพลางยิ้มกว้าง ก่อนจะนั่งลงตรงหน้าเด็กชายคนนั้น
   “Hey handsome” เจนจิรากล่าวพลางยิ้มกว้าง พลางเอามือลูบหัวเด็กชายคนนั้น “Did you get hurt or something?”
   เด็กชายคนนั้นมองหน้าเจนจิราพลางส่ายหน้า
   “Great, you’re fine I’m sorry for scared you but ah……where’re your parents?” เจนจิราถามต่อ
   “round here” เด็กชายตอบห้วนๆ “I lost them from there”
   เด็กชายชี้ไปตรงลานที่เธอเพิ่งเดินจากมา เด็กคนนี้คงจะพลัดกับพ่อแม่ตรงทางแยกหน้าปราสาท คนเยอะมหาศาลแบบนี้ เป็นเรื่องที่ไม่แปลกนัก
   “So…did you know what land they’re going to go?” เจนจิราถามอีก
   “fantasy” เด็กชายตอบอีก เจนจิราหัวเราะครั้งนึง ก่อนจะยิ้มให้เด็กชายคนนั้น
   “Ok…. But first you have to stop crying my tiny cute boy.I guess you didn’t want to be in bad mood at Disneyland,don’t you?” เจนจิราขยี้หัวเด็กน้อยทีนึง “I’ll help you find them.May be we should go to fantasyland together and then contact to the information point and ask them to helping you. So what you think?”
   เด็กชายพยักหน้าหงึกๆ เจนจิราหัวเราะครั้งนึง
   “Great.So get up handsome.Come with me.” เจนจิราเอื้อมมือไปดึงตัวเด็กชายลุกขึ้นและยิ้มให้ “Let’s go”
   ทันใดนั้นเด็กชายคนนั้นก็ถูกจีโออุ้นขึ้นขี่คอทันที
   “Let’s fly boy find your mom” จีโอว่า เจนจิราตาถลนทันที
   “คุณทำอะไรน่ะ” เจนจิราร้องเสียงดัง ขณะที่เด็กน้อยบนไหล่ของจีโอ ตกใจทันทีที่ถูกอุ้ม “เดี๋ยวเด็กก็ร้องโวยวายว่าเราลักพาตัวเค้าหรอก”
   “โอยนี่คุณ...มองโลกในแง่ร้ายจัง” จีโอว่า “โจรลักพาตัวที่ไหนเค้าเอาเด็กขึ้นนั่งไหล่บ้างล่ะ...แล้วอีกอย่าง ถ้าคุณไม่โวยวายก็ไม่มีปัญหาหรอก Calm down boy.She’s my girlfriend.”
   “นี่คุณจีโอ....” เจนจิราร้องทันทีที่จีโอบอกเด็กไปอย่างนั้น
   “เอาน่าคุณ...ไม่เห็นเป็นไรเลย เค้าก็แค่เด็กคนนึง” จีโอหยิบตาให้เจนจิราครั้งนึง “แล้วผมก็เดาเอาว่า คุณก็คงไม่อยากอยู่ใน Bad Mood ตอนอยู่ที่ดีสนีย์แลนด์หรอกใช่ไหมเจน”
   เจนมองหน้าจีโอครั้งนึง
   “คุณดูอยู่เหรอ” เจนจิราถามขึ้น
   จีโอไม่ตอบได้แต่ยิ้มให้เจน
   เจนได้แต่เดินตามจีโอไปยังทางไปสู่แฟนตาซีแลนด์ อย่างเสียไม่ได้ ระหว่างทาง เธอเห็นท่าทีของจีโอที่กำลังเล่นหยอกล้ออยู่กับเด็กคนนั้น เพื่อที่จะช่วยหาพ่อแม่ของเขา

   “ผมว่ามันถึงเวลาแล้วนะ ที่คณจะยกโทษให้ผมกับเรื่องเก่าๆนั่น แล้วเริ่มต้นเปิดใจกับอะไรใหม่ๆซักทีนะเจน”

   คำพูดของกายแว้บเข้ามาให้หัวของเธอ หรือบางทีสิ่งนั้นอาจจะจริงขึ้นมาก็ได้
...........
   “เป็นไงล่ะมึง หน้าซีดเลย” เอิร์ธแซววิน ที่เดินออกมาจากแมนเนอร์ด้วยหน้าขาวซีด วินที่กำลังอยู่ในอารมณ์ตกใจมองหน้าเอิร์ธพร้อมด่าใส่แบบไม่มีเสียงใส่ วินไม่ได้กลัวผีหรือกลัวความมืด แต่สิ่งที่เขาไม่ชอบเอามากๆเลยคือเรื่องการแหย่ให้ตกใจ แล้วในแมนเนอร์ ก็ทำให้เขาใจหล่นวูบไปอยู่ตาตุ่มได้สำเร็จ เมื่อเขากำลังเดินเข้าไปพิจารณาหุ่นชุดเกราะเหล็กที่ตั้งอยู่เรียงรายโถงชั้นสอง แล้วอยู่ดีดีหุ่นเกราะเหล็กก็พร้อมใจกันกระตุกเอาหอกทิ่มขึ้นเพดานพร้อมกัน ซึ่งสิ่งนั้นทำให้วินก้มลงหลบทันทีพร้อมร้องเสียงดัง
   แล้วทางเดินที่เหลือหลังจากนั้น วินก็ไม่ไว้ใจเพดานของเมนเนอร์อีกเลย ชายหนุ่มเดินท่ามกลางความมืดพยายามหดตัวให้เล็กที่สุด ความตกใจที่หุ่นชุดเกราะเป็นตัวเปิด ทำเอาทุกอย่างในอีกชั้นครึ่งของแมนเนอร์ดูน่ากลัวมากขึ้นอีกเท่าตัว
   วินไม่พูดอะไรเอาแต่เดินไปนั่งที่ม้านั่งด้านหน้าทันที
   “โอ๋ๆๆๆ” เอิร์ธรีบรุดมาแซววินอีก “งั้นมึงรออยู่ตรงนี้ เดี๋ยวกูไปซื้อน้ำให้ จะได้ไปตามพี่สากับสเตลล่าที่สวนด้านโน้นด้วย”
   วินพยักหน้ารับพลางควบคุมจังหวะหายใจตัวเอง พลางส่ายหน้าเมื่อเอิร์ธเดินหายไปยังด้านหน้าของแมนเนอร์ที่มีร้านค้าบริหารอยู่ วินห่อตัวพลางตั้งสติตัวเอง จนกระทั่งผ้าพันคอผืนนึง มาพันรอบคอของเราไว้โดยไม่ทันตั้งตัว
   “นาย” วินร้องทันที เมื่อคนที่วางผ้าพันคอลงที่ตัวเขาคือไกด์นั่นเอง ชายหนุ่มไม่ได้มองหน้าวิน ได้แต่นั่งอยู่ข้างๆ ก้มตัวเอาข้อศอกวางไว้บนหัวเข่า ไกด์หันหน้าไปทางอื่น รังสีแห่งความเย็นชาแผ่ออกมามากกว่าเดิม มากกว่าทุกครั้งซะอีก ไกด์ทำตัวเหมือนกำลังชั่งใจอะไรบางอย่าง ชายหนุ่มขยับขาเบาๆอย่างครุ่นคิด
   “ไปเจออะไรมาหรือไง” ไกด์ถามขึ้น ใบหน้าที่หันมาถามวิน เป็นใบหน้าที่แปลกเอามากๆ ไกด์ขมวดคิ้วอย่างเต็มที่ แววตาฉายแววไม่พอใจอย่างรุนแรง นี่ไม่ใช่สิ่งที่วินเคยเห็นมาก่อน
   “ก...ก็ไม่เชิง” วินตอบตะกุกตะกัก แม้ว่าจะยังคงมองใบหน้าของไกด์อยู่อย่างนั้น
   ไกด์สะบัดหัวครั้งหนึ่งก่อนจะถอนหายใจอย่างดัง วินรู้ได้ทันทีเลยว่าไกด์กำลังหงุดหงิด
   “เป็นอะไรไปอ่ะนาย” วินถามขึ้น
   “ถามตัวเองดีกว่าป่ะ” ไกด์สวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลุกขึ้นเดินหนีไปทันที พอดีกับที่เอิร์ธสวนเดินกลับมาพอดี
   “อ้าวไกด์ หายไปไหนมาอ่ะ” เอิร์ธถามขึ้น ในมือถือนมอุ่นๆมาสองแก้วกระดาษ พร้อมกับน้ำหนึ่งขวด
   ไกด์มองเอิร์ธอย่างเพ่งพินิจอยู่ครั้งนึง เอิร์ธเอง เมื่อเห็นแววตาที่ครุกรุ่งของไกด์แล้วก็ยิ่งรู้สึกสนุกมากขึ้นไปอีก ชายหนุ่มจ้องตาไกด์กลับอย่างจงใจ ทั้งคู่มองอยู่นานมากจนวินเริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เอิร์ธก็เช่นกัน
   “เห้ หนุ่มๆ....พวกเรากลับมาแล.....” เสียงของสาที่เดินยิ้มมากับสเตลล่ามาจากอีกฝั่งหนึ่งของแมนเนอร์ ต่างต้องชะงักเมื่อเห็นสงครามจ้องตาอาฆาตอยู่ตรงหน้า และดูเหมือนว่าเสียงของสาจะไม่ได้ทำให้สงครามของไกด์และเอิร์ธหยุดลง วินหันไปมองพี่สาที่เพ่งมองไปยังไกด์โดยตรง ผิดกับสเตลล่าที่กำลังมองทั้งคู่ด้วยสายตาที่ตื่นกลัว
   “Kevin stop” สเตลล่าเอ่ยขึ้นก่อน ก่อนจะรีบถลาเข้ามากลางวงระหว่างไกด์และเอิร์ธทันที เธอจับตัวไกด์ถอยออกหนึ่งช่วงตัว แม้ว่าไกด์จะยังคงมองเอิร์ธอย่างเอาเป็นเอาตาย “God Damn it stop it Kevin. I need to talk.”
   สเตลล่าลากตัวไกด์ออกไปจากตรงนั้นทันที เธอหันกลับมาหาเอิร์ธพลางส่ายหน้า
   “วิน ทำอะไรซักอย่างซะ” สเตลล่าพูดทิ้งท้ายเอาไว้ ก่อนจะพาไกด์หายไปกับฝูงชน ซึ่งระเบิดที่สเตลล์ทิ้งไว้ท้ายประโยค ทำเอาตอนนี้วินใจหายเสียยิ่งกว่าในแฟนธ่อมแมนเนอร์เสียอีก
   “เชี่ย....” เอิร์ธร้องขึ้นก่อน พลางหันกลับมาหาวิน “แม่งจะแดกกูอยู่แล้ว ไอ้วิน....”
   วินก้มหน้าลงหายใจถี่รัว
   “พี่สาเห็นหรือเปล่า” เอิร์ธหันไปหาสา ที่เดินมาหาทั้งคู่ สาพยักหน้ารับครั้งนึง
   “ไอ้วิน...มันเป็นใครกันแน่วะ” เอิร์ธร้อง “หน้าแบบนั้นไม่ใช่ไอ้ไกด์ที่กูเคยรู้จักแน่ๆ พี่สาว่าไงพี่”
   “ก็.....” สาพยายามหาคำพูดบางอย่าง “นายให้พี่มาดูไม่ใช่เหรอ ว่าเค้าจะมีอาการหึงหรือว่าอะไรหรือเปล่า มันยิ่งกว่านั้นอ่ะ มันมากกว่าที่พี่กายหึงพี่นัทของนายซะอีกเอิร์ธ ก็ไม่รู้เหมือนกัน เจ้าตัวว่าไงล่ะ”
   “นี่มึงพาพี่สาเค้ามาเพื่อสิ่งนี้เองเหรอวะ” วินเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้ว ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนรัก “มึงทำเชี่ยไรลงไป มึงรู้ตัวป่ะเนี่ย”
   เอิร์ธชะงักไปครู่หนึ่ง
   “นี่ที่มึงกระแซะกุเหลือเกิน นี่มึงกะจะดูแค่นี้ใช่ป่ะ” วินว่า เอิร์ธตกใจขึ้นมาจริงซะแล้ว
   “เห้ยวิน ใจเย็นเห้ย” เอิร์ธถลาเข้ามาหาวินอีกครั้ง ก่อนจะดึงตัวเพื่อนกลับไปนั่งเก้าอี้ทันที วินกัดฟันกรอด “มันก็ใช่เว่ย แต่กูก็ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยไปซักหน่อย กูกับมึงก็ปกติป่ะวะ”
   “โกหกกูเหรอ” วินหันไปมองเอิร์ธทันที “มึงโกหกกูใช่ป่ะ”
   “โอเค...เออ....กูอยากเห็นอาการมันเว่ย ว่ามันหึงมึงหรือเปล่า” เอิร์ธว่า “ก็กูอยากรู้อ่ะ”
   “เพื่อไรวะ” วินถามอีก
   “เอ๊า ก็มึงกับมันแบบว่า.....ไม่ใช่ไง” เอิร์ธถามอีก วินส่ายหัว “อย่างน้อยกูก็จะได้มั่นใจ ว่าเออ ไอ้บาริสต้าสุดหล่อของมึงเนี่ย แม่งก็รักมึงจริง”
   “พิสูจน์ว่ารักจริงไม่จริงกะไอ้แค่เรื่องหึงไม่หึงเนี่ยนะ” วินร้อง “มันจะไม่เด็กไปหน่อยเหรอวะ”
   “หึง มันอาจจะเป็นอาการของความรักเด็กๆอย่างมึงว่า” เอิร์ธว่า “แต่ถ้าคนเราหึงกัน นั่นก็เป็นเครื่องหมายที่บอกว่า เขายังต้องการมึงอยู่”
   “แล้วไง” วินว่า
   “แล้วไง ประเด็นคือตอนนี้แม่งเกินคำว่าหึงไปแล้วไง” เอิร์ธว่า “ไอ้บาริสต้าของมึงแม่ง ดุชิบหาย แล้วมึงจะไปอยู่กับคนแบบนั้นเนี้ยนะ มึงิดดีแล้วเหรอวะ ถ้าเกิดวันนึงแม่งทำเชี่ยอะไรมึงขึ้นมา กูจะอธิบายกับพ่อมึงยังไงเนี่ย”
   วินมองหน้าเอิร์ธทันที
   “แล้วเมื่อกี้ก็อีก” เอิร์ธว่า “สรุปแม่งในตัวไอ้ไกด์เนี่ย มันเป็นใครอีกคนหรือเปล่าวะ ไอ้เชี่ยนั่นเป็นใคร แล้ว...สรุปแล้ว มึงรักใครวะ”
   “อะไรของมึงเนี่ย” วินถามต่อ
   “ก็ไอ้ไกด์ไง เมื่อกี้ มึงก็เห็นในสายตาของมันอ่ะ” เอิร์ธว่า “แล้วมึงจะรู้ได้ยังไง ว่าไอ้คนที่มึงรัก เป็นคนที่มึงรู้จักดีพอ”
   วินลุกขึ้นทันที เขารับคำถามนี้ไม่ได้ มันมากเกินไปสำหรับเขา ไกด์จะเป็นใครมันไม่สำคัญเลยซักนิด ไม่สำคัญเลย ชายหนุ่มจ้องหน้าเอิร์ธ
   “กูจะรักใครมันก็เรื่องของกูเอิร์ธ” วินร้อง “มึงอย่าเสือก”
   “เห้ย” เอิร์ธลุกขึ้นทันทีอีกเหมือนกัน “พูดงี้ก็สวยดิวะ กูเพื่อนมึงนะ”
   “เรื่องของมึงกับพี่มิก กูก็ไม่เคยยุ่ง” วินว่า “มึงก็ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของกูกับไกด์ มันไม่ใช่เรื่องของมึง”
   “เรื่องของมึงกับพ่อมึง มันก็ไม่ใช่เรื่องของกูเหมือนกันไอ้วิน” เอิร์ธว่ากลับเสียงแข็ง
   “แต่สิ่งที่มึงต้องการ มันจะเกิดขึ้นได้เพราะกู มึงอย่า....”
   พลั่ก!!!
   เอิร์ธต่อยหน้าวินเข้าอย่างแรง การกระทำนั้นถึงเอาฝูงชนรอบๆหันมามองทันที
   “ไอ้เชี่ยวิน” เอิร์ธร้องทันที “มึงคิดว่านั่นเป็นบุญคุณมากหรือไงหะ มึงจะเยอะไปละ ไอ้สัด”
   “หยุดเดี๋ยวนี้นะ ทั้งคู่เลย” สาถลาตัวเองเข้ามาห้าม “เอิร์ธไม่เอา พอ เลิกกันๆ”
   “กูไม่ว่าหรอก ถ้ามึงจะเลือกมัน แล้วหัดมีความรักซะบ้างอ่ะ” เอิร์ธพูดเสียงดังไม่สนใจคำของสาแต่อย่างใด “แต่ที่กูพูด ที่กูทำ ก็เพราะกูอ่ะเป็นห่วงมึง มึงจะไปอยู่ที่ไหน จะไปทำอะไร อยู่กับใคร กูต้องรู้ เพราะมึงก็ช่วยกูมา แต่ถ้ามึงจะมาอ้างเป็นบุญคุณกันแบบนี้ งั้นที่ตกลงกันไว้ก็เป็นอันเลิกกัน”
   วินมองหน้าเอิร์ธทันที
   “กูอ่ะ ออกจากเกมส์มึงได้ทุกเมื่อนะ มึงรู้เอาไว้ด้วย กูก็ไม่อยากเอาตัวเองไปขัดแย้งกับแฟนกู กับเพื่อนแฟนกู กับทุกคนในซูเม่หรอก ที่กูต้องตกอยู่สภาพแบบนี้ก็เพราะมึงนะไอ้วิน” เอิร์ธว่า “กูยกเลิก ถอยหลังกลับซะ ยังไงแฟนกูก็ไม่ทิ้งกูหรอก เค้าจะดีใจด้วยซ้ำ และที่กูเป็นอยู่ตอนนี้ มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรแล้วด้วย กูถอยหลังกลับได้เสมอ มึงต่างหากไอ้วิน ถ้ากูถอยหลังซะ กูก็อยากรู้เหมือนกัน ว่ามึงจะเสนอหน้าอยู่ที่ซูเม่ต่อไปได้ยังไง ถ้ามึงยังมีหัวโขนของพ่อมึงอยู่”
   วินกัดฟันกรอด
   “มึงก็จะอยู่ใต้กางเกงพ่อมึงต่อไปไง” เอิร์ธตอบให้แทน
   ถึงตรงนี้วินถลาเข้าหาเอิร์ธทันที
   “หยุดนะ หยุดทั้งคู่เลย” สาตะโกนทันที พลางพลักตัววินออกไปจากเอิร์ธ “เอิร์ธหยุด วินหยุดนะ”
   “พี่ก็บอกน้องพี่ให้หยุดเห่าซะทีดิ” วินกัดฟันกรอด
   “แล้วมึงจะทำไงต่อไปวะ” เอิร์ธแค่นเสียงหัวเราะ “หนีพ่อมึง ออกไปอยู่กับคนที่มึงก็ไม่รู้ ว่าจริงๆแล้ว แม่งเป็นใคร เป็นคนยังไง ไว้ใจได้แค่ไหน....ถ้ามึงยังยืนยันจะเลือกแบบนั้น มึงไม่ต้องเอากูเสียบเกมส์แทนหรอก มึงออกไปได้เลย ตั้งแต่ตอนนี้ ออกไปเลยเว่ย แล้วที่ตกลงกันไว้ก็เป็นอันเลิกกัน”
   วินหายใจเข้าอีกครั้ง
   “เอิร์ธ” สาร้องเบาๆ พลางมองหน้าชายหนุ่ม “พี่ว่า.....หยุดเลย เรามาเที่ยวกันนะ และ.....ให้ตายสิ เอาไว้ให้เย็นลงกว่านี้ แล้วค่อยมาคุยกันใหม่ทั้งคู่เลย”
   “ไม่” เอิร์ธและวินตอบพร้อมกันแบบเดิมอีกครั้ง สาทำหน้านิ่งทันที
   “งั้นมึงก็ทำแฟชั่นวีคไปคนเดียวแล้วกัน” วินพลักอกเอิร์ธออก ก่อนจะเดินหายไปในกลุ่มผู้คนทันที
   “วิน น้องวิน วิน” สาร้องเรียกตามทันที พลางจะรีบวิ่งตาม “วิน
   เอิร์ธจับเขนสาเอาไว้
   “เอิร์ธ ให้ตายสิ เค้าเป็นเพื่อนเธอนะ” สาหันกลับมาหาเอิร์ธ “พี่จะไม่พูดกับเธออีก ถ้าเธอเป็นคนไม่เห็นความสำคัญกับเพื่อนแบบน......เอิร์ธ”
   สาถึงกับหยุดชะงักเมื่อเห็นใบหน้าของเอิร์ธตรงหน้า
   ชายหนุ่มน้ำตาไหลนองหน้าตัวเองเบาๆ พลางกำหมัดแน่น สาไม่เคยเห็นเอิร์ธร้องไห้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นน้ำตาของเขา
   “อย่าตามฮะ” เอิร์ธพูดเสียงสั่น
   “อ...เอิร์ธ” สาพยายามพูดอะไรบางอย่าง
   “มันไม่เข้าใจหรอก ว่าผมห่วงมันแค่ไหน” เอิร์ธพูด “ถ้ามันยังไม่รู้ว่ากำลังเผชิญหน้ากับอะไร มันก็ต้องไปเรียนรู้ด้วยตัวเอง”
   “แล้ว.....เป้าหมายของเธอล่ะ” สาว่า “เป็นแบบนี้ซะมันก็เท่ากับว่า.....”
   “ครับ” เอิร์ธว่าพลางหลับตา “บางทีภาพที่ผมกับพี่มิก จะอยู่ด้วยกันที่นี่อย่างเหมาะสม มันอาจจะเป็นได้แค่ ความฝันก็ได้”
   “เอิร์ธ”
   สารู้ตัวเข้าซะแล้วว่า ปารีส มันหนาวกว่าสตูดิโอสาม Lovable Studio เมื่อปีก่อนหลายเท่านัก
   และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
...............

ออฟไลน์ M2M_Jill

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
ตอนที่ 37 Beauty and The Beast

พ่อแม่ของเด็กน้อยชาวฝรั่งเศสร้องขอบคุณจีโอและเจนจิราเป็นการใหญ่อยู่ที่หน้าสถานีรถไฟแฟนตาซีเรลล์ จุดที่เคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ตั้งอยู่ เด็กชายยิ้มกว้างเมื่อได้พบกับพ่อและแม่ของเขาแม้ว่าจะเพิ่งจากกันมาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ
   ก่อนที่ครอบครัวคนแปลกหน้าจะเดินจากไป คุณแม่กล่าวกับจีโอและเจนจิรากล่าวแสดงความยินดีที่ทั้งคู่เป็นแฟนกัน แล้วใจดีกับเด็กแบบนี้ ถ้าทั้งคู่มีลูกก็คงน่ารักมากๆ จีโอหัวเราะร่วนทันที ขณะที่เจนจิราได้แต่ยิ้มพอเป็นพิธีเมื่อครอบครัวนั้นเดินผ่านไป
   และแล้วทั้งคู่ก็กลับเข้าสู่วังวนความกระอักกระอ่วน เจนจิราทำเป็นไม่มองหน้าจีโอ เมื่อเขามองกลับมาหาเธอพลางยิ้มกว้าง
   “คุณไม่ถือใช่ป่ะ” จีโอถามต่อ
   “ช่างมันเถอะ...” เจนจิราตอบห้วนๆ
   จีโอขำน้อยๆ ก่อนเดินไปที่เคาท์เตอร์ของแฟนตาซีเรลล์ทันทีพลางตีตั๋วรถไฟมาสองใบและเดินกลับมาหาเธอ
   “ผมรู้ว่าคุณไม่ได้อยากมากับผมนักหรอก” จีโอพูดพลางยื่นตั๋วรถไฟให้ตรงหน้าเธอ “คุณแค่ไม่อยากสุงสิงกับใครเป็นกลุ่มใช่ไหมล่ะ”
   เจรจิราหันมามองหน้าจีโอ ไม่พูดตอบอะไร แม้ว่าจีโอจะพูดตรงประเด็นอย่างที่เธอต้องการเอามากๆเลยทีเดียว
   “ถ้าไม่รังเกียจ นั่งรถไฟชมที่นี่ไปพลางๆก่อนจะถึงเวลาที่น้องๆของคุณนัดเอาไว้ กับผมไหมครับ” จีโอกล่าวกับเธอ ด้วยใบหน้าที่สุภาพเอามากๆ เจนจิรามองเขาอย่างประเมิณค่าครั้งหนึ่ง มองอยู่อย่างนั้นนานมากทีเดียว
   “คุณยังไม่ไว้ใจผมอีกเหรอ” จีโอถาม
   เจนจิราไม่ตอบอะไร ได้แต่หยิบเอาตั๋วในมือของเธอเดินไปต่อคิวทันที
   สิบห้านาทีต่อมาจีโอและเจนจิราอยู่บนขบวนรถไฟที่กำลังแล่นตัดผ่านไปรอบแฟนตาซีแลนด์ นำพาทั้งคู่เที่ยวชมสวนต่างๆจากเทพนิยายดีสนีย์คลาสสิค ที่รายล้อม รวมถึงเครื่องเล่นเบาๆจากเหล่าเจ้าหญิงดีสนีย์ เจนจิรามองภาพต่างๆที่ไหลผ่านตัวเองไป มันกำลังสะท้อนมุมมองอะไรบางอย่างในตัวของเธอ
   เมื่อ 5 ปีก่อน เธอเคยมาเที่ยวดีสนีย์แลนด์แล้วครั้งหนึ่ง มิหนำซ้ำรถไฟสายแฟนตาซีเรลล์ก็เป็นขบวนที่เธอกับกายเคยนั่งชมวิวกันมาก่อนด้วย เจนจิรามองผ่านไปยังปราสาทของเจ้าชายอสูรที่อยู่เยื้องออกไป หญิงสาวถอนหายใจหนึ่งครั้ง ก่อนจะหันไปมองจีโอที่กำลังมองเธออยู่พร้อมรอยยิ้ม เจนจิราขมวดคิ้วใส่ชายหนุ่ม
   “คุณคิดอะไรอยู่เหรอ” จีโอถามขึ้น
   “มันก็ไม่เกี่ยวกับคุณหรือเปล่า” เจนจิราตอบห้วนๆ
   “โธ่คุณ พูดแบบตัดสัมพันธ์กันเลยนะเนี่ย” จีโอว่า “ผมถามคุณจริงๆเหอะ นี่คุณสนุกมั่งไหมครับ มาเที่ยวเนี่ย”
   เจนจิราถอนหายใจเสียงดัง
   “ค่ะ สนุกดี” เธอตอบ
   “จริงเหรอ” จีโอถามอีก “ไหงหน้าคุณยังเป็นแบบว่า....”
   จีโอชี้ไปยังรูปปั้นเจ้าชายอสูรที่อยู่ไกลออกไป
   “นี่คุณ” เจนจิราร้อง
   “ก็มันจริงนี่” จีโอว่า “ทำตัวให้ร่าเริงหน่อยสิคุณ ไหนว่าเรามาผูกมิตรทางธุรกิจกันไม่ใช่เหรอ ไหงคุณไม่เห็นจะถามอะไรผมบ้างเลย ผมชวนคุณคุย คุณก็ไม่ค่อยอยากคุย”
   “งั้นฉันขอถามคุณตรงๆเลยแล้วกัน” เจนจิราว่า “คุณต้องการอะไรกันแน่”
   “โห คำถามกว้างจัง ชีวิตก็ต้องการอะไรหลายอย่างนะ”จีโอว่า "ตีวงให้แคบหน่อยได้ไหมคุณ”
   เจนจิราถอนหายใจพลางส่ายหน้า
   “คุณนี่มัน” เจนจิราพูดเสียงเหนื่อยหน่าย “เพราะงี้ไง ฉันถึงไม่อยากคุยกับคุณ”
   “เห้ยคุณ.....อยู่ดีดีคุณไปถามใครว่า คุณต้องการอะไรกันแน่ ใครมันจะไปตอบล่ะ” จีโอว่า “ไม่ต้องพูดถึงคนที่มีลับลมคมนัยหรอก เอาแค่ผมที่จริงใจสุดๆนะ ก็ตอบไม่ถูก”
   “จริงใจเหรอคะ” เจนจิราทำเสียงสูง “ฉันไม่เห็นว่าคุณจะจริงใจเลยซักนิด”
   “ไหงคิดงั้นอ่ะ” จีโอว่าต่อ
   “ก็คุณน่ะ.....” เจนจิราอ้าปากค้าง เหมือนพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง จีโอเลิกคิ้วกว้าง “โอ๊ย ให้ตายสิ ฉันมาทำอะไรที่นี่เนี่ย”
   “มานั่งรถไฟเล่นกับผมครับ” จีโอตอบเธอ
   “คุณจีโอ” เธอร้องเสียงดัง ทำเอาเด็กๆหันมามองทั้งคู่ทันที เจนจิรามองไปรอบๆ อย่างเขินอาย ก่อนจะหลับมานั่งทำหน้านิ่งตามเดิม จีโอขำเบาๆ
   “เอางี้เจน ผมว่านะ คุณน่าจะลอง ลดเกราะตัวเองลงดูบ้างนะ” จีโอว่า พลางวางแขนโอบตัวเจนจิราอย่างทำเป็นไม่จงใจ
   “อะไรนะ” เจนจิราว่า
   “ก็ลดเกราะตัวเองลงไงครับ ผมเข้าใจคุณนะ ว่าถ้าเกิดว่าเรากำลังเผชิญกับอะไรที่ไม่น่าไว้ใจ คนเราก็มักจะสร้างกำแพงขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเอง” จีโอว่า “แต่ผมอ่ะ ก็เคยบอกคุณแล้ว ว่าผมบริสุทธิ์ใจจริงๆ ที่เข้ามาลงทุนในซูเม่ สี่ล้านยูโรที่ผมลงทุนไปน่ะ มันไม่พอให้คุณเชื่อใจเลยหรือไงครับ”
   “แต่คุณน่ะ โผล่เข้ามาในทางที่ฉันไม่....”
   “ทางไหนเหรอ” จีโอถามต่อ
   “คุณรู้ดีอ่ะ”
   “รู้ว่า?....”
   เจนจิรากำลังจะเถียงใส่จีโอ
   “คุณคิดไปเองอ่ะ” จีโอพูดตัด “ถ้าคุณคิดว่าการที่วินเป็นคนติดต่อผมมา มันเป็นทางที่ไม่โปร่งใส ผมก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงเหมือนกัน เพราะผมก็ไม่ใช่วิน”
   เจนจิราเงียบทันที
   “ผมแบไต๋คุณหมดแล้วนะเจน โปรไฟล์ธุรกิจผมทุกอย่าง คุณก็ได้อ่านกันหมดแล้ว ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าคุณจะระแวงผมไปอีกทำไม” จีโอว่า
เจนจิรามองดวงตาของจีโอที่มองมาหาเธอ เจนยังคงเงียบสนิท
“ผมเป็นคนเข้าหาคุณก่อนเลยนะ” จีโอว่า “ถ้าผมมีเล่ห์ล่ะก็ เรื่องอะไรผมจะเอาตัวเองมาให้คุณเชือดล่ะเจน”
   เจนจิราหายใจเข้าทันที
   “ฉันเป็นห่วงธุรกิจของฉันก็เท่านั้น” เจนจิราว่า
   “แต่ผมว่าคุณปิดกั้นตัวเองมากกว่า” จีโอพูดต่อ
   รถไฟเลี้ยวมาถึงสถานีปลายทางก่อนจะหยุดนิ่งลง จีโอเดินลงจากโบกี้ พลางยื่นมือไปหาเจนจิรา เพื่อรับตัวเธอลง เจนจิรามองมือของจีโออยู่ครู่หนึ่ง
   “คุณจะเชื่อไม่เชื่อไม่รู้นะ แต่ผมไม่ใช่เจ้าชายอสูรหรอกนะ” จีโอพูด “ไม่ต้องหวาดกลัวผมขนาดนั้น ผมไม่ทำอะไรคุณแน่ๆ”
   “เจ้าชายเชียว” เจนจิราแค่นเสียงหัวเราะ
   “ใช่” จีโอว่า “คุณก็จะได้เป็นโฉมงามไง”
   เจนจิรายิ้มให้จีโอทันที ก่อนจะจับมือของเขาแล้วก้าวลงจาโบกี้รถไฟ ทั้งคู่ลงมายืนที่ชานชาลาปลายทาง มองหน้ากันอยู่อย่างนั้น
   “ขอบคุณค่ะ” เจนจิราพูดขึ้นมาก่อน
   “ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี” จีโอว่า
   “คือฉันหมายถึง......ที่คุณบอกว่า...คุณบริสุทธิ์ใจ” เจนจิราว่า
   “อ๋อ....” จีโอยิ้มกว้าง พลางเกาหัวตัวเอง “ไม่รู้สิ...ผมก็ไม่ได้พยายามจะทำตัวบริสุทธิ์ใจให้คุณหรอกนะ”
   เจนจิราหัวเราะกับท่าทางนั้น หรือว่ามันจะจริงอย่างที่จีโอพูด เธออาจจะมีเกราะอยู่มากเกินไป
   “ฉันว่าเรา...ไปหาอะไรทานกันมั้ยคะ” เจนจิราเอ่ยปาก
   “ดีเลยครับ ผมเหล่ร้านสเต็กตรงนั้นมาพักนึงละ” จีโอว่าพลางชี้ไปตรงหน้า เจนจิราตลกกับท่าทางนั้นจริงๆ หมอนี่นี่มันยังไงกัน
   “ค...ค่ะ” เจนจิราว่าพลางอมยิ้มกับท่าทางซื่อๆของจีโอ
“งั้นไปกัน” จีโอจับมือเธอ พลางออกเดินทันที เจนจิรามองมือที่จีโอจับเธออย่างตกใจ แม้ว่าจะเธอจะยอมก้าวเดินไปพร้อมกัน
.............
   เต้ง!!!
   ค้อนปอนด์ขนาดหนักถูกทุบลงแป้น ขณะที่ลูกสีแดงเด้งขึ้นไปตีระฆังด้านบนเสียงดังลั่น ไกด์วางค้อนลงทันทีพลางหอบหายใจ ก่อนจะเดินจากไปโดยไม่รับของรางวัล ทำเอาเจ้าหน้าที่ถึงกับงงงวยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สเตลล่าจึงออกตัวรับของรางวัลแทน และรีบวิ่งตามไปหาไกด์ทันที
   “เคลวิน นี่ยูคงไม่ได้จะมาดีสนีย์แลนด์แค่มาตีค้อนหรอกนะ” สเตลล่าว่า
   ชายหนุ่มหันกลับมามองหน้าเธอ ใบหน้าของเคลวินกำลังโกรธจัด สเตลล่ารู้ดี นี่เป็นใบหน้าที่เธอคุ้นเคยดีอยู่แล้ว
   “ขอร้อง หยุดบ้าซะที” เธอว่า
   ไกด์ส่ายหน้า ก่อนย่างเท้าเข้าหาตัวเธอ
   “การที่เราได้กัน มันก็ไม่ได้หมายความว่า ยูจะเป็นเจ้าของผมหรอกนะสเตลล์” ไกด์พูดเสียงเย็นชา
   สเตลล์ปาตุ๊กตาใส่หน้าไกด์ทันที ชายหนุ่มหันหน้าหนีไปตามแรงโยน
   “Suck it” สเตลล์สบถ “ไอรู้ดีต่างหาก ว่ายูเป็นคนยังไง แล้ววินจะต้องเจอกับอะไร”
   “ก็เลยทำตัวเป็นแม่พระ ลุกขึ้นมาปกป้องเขางั้นเหรอ” ไกด์ว่า “เธอรู้หรือไง ว่าวินเป็นคนยังไง”
   “มันก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า ยูเป็นใครหรอก” สเตลล่าว่า “ไอจะไม่ยอมให้วินต้องมาเจออะไรที่ชั่ว แบบที่ไอเคยเจอ”
   ไกด์กัดฟันกรอด
   “ยูแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาเท่าไหร่ นั่นก็ยิ่งทำให้ยูเสียเขาไปมากขึ้น” สเตลล่าว่า “หยุดบ้าได้แล้ว ถ้ายูรักเขาจริงล่ะก็ ฉันขอ อย่าทำร้ายเขา”
   ไกด์หลับตาพลางมองหน้าสเตลล่าใหม่อีกครั้ง
   “ขอร้องสเตลล์ นี่จะเป็นครั้งแรกที่ผมจะขอร้อง” ไกด์ว่า “ผมแค่....ผมแค่อยากเริ่มต้นใหม่ ผมไม่อยากสูญเสียอีกแล้ว ขอร้อง ยูอย่าดึงผมกลับไปเป็นคนเดิมอีก”
   “นั่นมันขึ้นอยู่กับตัวยู ไม่ใช่ไอ” สเตลล่าว่า “แต่ยูจะเปลี่ยนเหรอ ใช่กับสิ่งที่ยูทำกับเอิร์ธและวินเมื่อกี้เหรอ”
   “สองคนนั้นกำลังกำลัง....”
   “เขาเป็นเพื่อนกัน” สเตลล่าว่า “ไอยืนยันได้เลยว่าเป็นแค่เพื่อน”
   ไกด์กัดฟันมองหน้าเธอ
   “วินก็บอกนายไปแล้ว ว่าเอิร์ธเป็นเพื่อนรักของเขาตั้งแต่ไฮสคูล” สเตลล่าว่า “ยูไม่เชื่อเค้าเหรอ”
   ไกด์เงียบสนิท
   “เย็นลงซะเคลวิน นายคงไม่อยากปล่อยอสูรในตัวนายออกมาทำร้ายวินหรอกใช่ไหม” สเตลล่าว่า “เย็นลง แล้วกลับไปคุยกับทั้งคู่ใหม่ สองคนนั้นไม่มีอะไรหรอก”
   “เขารู้ดีอ่ะ ว่าผมรู้สึกยังไง” ไกด์ว่าพลางกัดฟัน “ผททนไม่ได้หรอก”
   “รู้เหรอ รู้ว่า?” สเตลล่าถามไกด์ทันที เขามองหน้าเธอพลางเงียบสนิท “วินไม่รู้อะไรเลยเคลวินฉันจะบอกให้ สิ่งสิ่งเดียวที่วินมีให้ยูคืออะไรรู้ไหม”
   ไกด์ยังคงเงียบ
   “ความเชื่อใจไงล่ะ” สเตลล่าว่า “เขาเชื่อใจยู ทั้งๆที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ายูเป็นใคร”
   “ฉันก็คือฉัน” ไกด์ว่า
   “แล้วใครคือยูล่ะ” สเตลล่าว่า “สำหรับยู อาจจะไม่สำคัญ แต่กับวินมันอาจจะสำคัญมากสำหรับเขาก็ได้นี่”
   “เขาไม่แคร์หรอกว่าผมคือใคร” ไกด์ว่า “เขาควรจะเชื่อใจผม ที่ผมเป็นแบบนี้”
   “เหรอ คิดงั้นเหรอ” สเตลล่าว่า “กี่ครั้งแล้วที่ตัวตนที่จับต้องไม่ได้ของยูทำให้วินเจ็บปวด”
   ไกด์นิ่งสนิททันที
   “ยูเป็นใครมาบ้างสำหรับเขาเคลวิน” สเตลล่าว่า “ยูเป็นก้อง ยูเป็นไกด์ ยูเป็นเคลวิน สามคนนี้ไม่มีใครเหมือนกันเลย สรุปแล้ว ยูคือใครอ่ะ วินกำลังเชื่อใจใครอยู่เหรอเคลวิน ตอบไอทีสิ”
   ชายหนุ่มก้มหน้าลงกับตัวเอง
   “เขาวิ่งหนียู เขาลับมาหายู เขาต่อสู้กับคนอื่นเพื่อยูมาตลอดนะ” สเตลล่าว่า “ฉันเคยเตือนเขาแล้ว ว่าอย่าถลำลึกไปมากกว่านี้ เพราะถ้ายูยังเป็นแบบนี้ เหตุการณ์วันนี้คือสิ่งที่เขาจะได้รับ ยูจะเป็นอากาศสำหรับคนรอบตัวของเขา และสิ่งที่วินต้องสู้มาก็จะสูญเปล่า สิ่งที่เขายอมแลกเพื่อให้อยู่ด้วย จะจับต้องไม่ได้อีกเลย”
   “ยูพูดอะไรของยู” ไกด์ว่า “วินต่อสู้อะไรเพื่อผมงั้นเหรอ”
   “อ้อ...ใช่สิ เขาไม่เคยบอกยูเลยงั้นสินะ” สเตลล์ว่าพลางส่ายหน้า
   “บอก...บอกอะไร” ไกด์ว่า
   “ยูรู้หรือเปล่า ว่าเป้าหมายของวินที่ปารีสตอนนี้คืออะไร” สเตลล์ถาม
   “แฟชั่นวีค...” ไกด์ตอบ “เขากำลังทำงานให้สำเร็จ เพราะเหตุผลทางบ้าน ผมเอ่อ...คิดว่านะ”
   “หึ” สเตลล่าเมินหน้าหนีทันที ไกด์มองหน้าเธอก่อนจะจับตัวเธอทันที
   “รู้อะไรก็บอกมา บอกผมมาเดี๋ยวนี้สเตลล์” ไกด์ทำเสียงเข้ม พลางเขย่าตัวเธอ สเตลล์จับไกด์สะบัดออก
   “เนี่ยน่ะเหรอ คนที่วินจะอยู่ด้วย” สเตลล่าแค่นเสียง “ยูมันก็เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน คิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง”
   “อะไรนะ” ไกด์ว่า
   “ยูไม่รู้เรื่องอะไรเลย วินไม่ได้แค่จะทำแฟชั่นวีคเพราะที่บ้าน แต่เขาต่อสู้กับมัน” เสตลล่าว่าเสียงดัง “วินกำลังทำทุกอย่าง เพื่อให้ตัวเองหลุดออกจากทางบ้านต่างหาก นั่นคือสาเหตุที่เขาต้องทำงานร่วมกับเอิร์ธ นั่นคืดสาเหตุที่เขาดึงตัวจีโอเข้ามา”
   “หลุดออกจากทางบ้านเหรอ......เพื่ออะไร” ไกด์ว่าเสียงดัง “เขาจะต้องลำบากมากนะ ครอบครัวของวินมีทุกอย่างที่จะทำให้เขาจะสบายได้มากกว่านี้และ.....”
   “ก็เพราะยูไงล่ะ” สเตลล่าร้อง “เขาจะออกมาใช้ชีวิตอยู่กับยูไง”
   “อะไรนะ” ไกด์พูดเสียงวสั่น “ม...เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ”
   “ให้ตายเถอะเคลวิน” สเตลล่าร้อง “ยูรู้สึกยังไงกับวินกันแน่”
   “เดี๋ยวนะ....ผมงงไปหมดแล้ว สเตลล์คือ.....”
   “ใช่...เขารักยู.....เคลวิน” สเตลล่าตอบ “ยูก็รู้ดีอยู่แก่ใจ....เขาเชื่อใจยู เขากำลังทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้อิสระ จากกรอบทุกอย่างของตัวเอง แล้วเขาก็คิดว่ายู จะเป็นที่ที่เขาจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยที่นี่ต่อไป...ที่ปารีส”
   “อะไรกัน เขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้แลย....” ไกด์ว่า “ผม...ผมไม่รู้...ผม......เขาทำแบบนี้ทำไมอ่ะ....ไม่จำเป็นเลย...เขาอยู่กับผมไม่ได้หรอก มัน....ผมก็แค่พูดไปอย่างนั้นเองตอนนั้น ผมก็แค่คิดว่า....”
   “อะไรนะ” สเตลล่าร้อง “ไม่จำเป็นงั้นเหรอ ยูแค่พูดไปอย่างนั้นเอง...อะไรนะ”
   “ใช่คือผม...ผมเคยพูดกับวินว่า...เป็นไปได้ไหม ถ้าหลังจากเขาขบโปรเจ็ค จะอยู่ด้วยกันต่อ” ไกด์พูดกับสเตลล่า “คือ...ผมก็แค่.....ให้ตายสิ นี่เขาทำจริงๆงั้นเหรอ”
   สเตลล่าหลับตาลงทันที
   “นี่วินทำทุกอย่างไปเพื่ออะไรกัน” สเตลล่าพูดเสียงสั่น “ฉันเคยบอกเขาแล้วว่าอย่า เพราะฉันรู้ ว่ายูจะเป็นแบบนี้”
   ไกด์มองหน้าเธอ
   “พูดอะไรของเธอ” ไกด์ถามขึ้น
   “You’re an asshole” เธอตะโกนทันที “Fucking asshole Kevin.”
   ไกด์ยืนนิ่ง
   “ให้ตายสิ เขายอมแลกทุกอย่างเพื่อจะมาอยู่กับคนที่พูดไปอย่างนั้นเอง” สเตลล่าว่าพลางเดินทิ้งห่างออกจากไกด์ “ฉันต้องทำอะไรซักอย่าง เขาจะมาอยู่กับคนแบบนี้ไม่ได้หรอกมัน....”
   “ไม่” ไกด์ร้องทันที ”ยูไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เสตลล์”
   “ไม่ทำเหรอ” สเตลล์ร้อง “แล้ววินก็จะโดนทำลายทุกอย่างเหมือนที่เคลลี่โดนงั้นเหรอ ไอไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นหรอก วินมีบุญคุณกับไอ ไอได้เป็นนางแบบอาชีพก็เพราะเขา ไอจะไม่ยอมให้ไอ้งี่เง่า ชั่วร้ายอย่างยูไปทำลายชีวิตที่เหลือของเขาหรอก”
   “ไม่ ยูไม่เข้าใจ”
   “เขาทำทุกอย่างมามากเกินไปแล้ว เขาต้องทนกับทุกอย่างมามากไป” สเตลล่าว่า “ยูมันเป็นคนไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรให้ต้องทำทุกอย่างให้ขนาดนั้นเลย ยูมันก็แค่....”
   “ผมรักเค้า” ไกด์ร้องทันที สเตลล่าหยุดเดินทันที ก่อนจะหันมามองไกด์อีกครั้ง “ผมรักเค้าสเตลล์ นั่นคือสาเหตุที่ผมขอให้เขาอยู่กับฉันตั้งแต่แรก”
   สเตลล์มองหน้าไกด์
   “ผม ผมก็ไม่รู้อ่ะโอเค้” ไกด์ว่า “ผมไม่รู้หรอกว่ามันเป็นไปได้แค่ไหนแต่..ตอนนั้นผมไม่แน่ใจ ว่าผมอยากให้เขาอยู่ด้วยเพราะเห็นเป็นเคลลี่หรือเปล่าแต่ตอนนี้....ตอนนี้ผมมั่นใจแล้วสเตลล์ วินคือคนที่ผมอยากให้อยู่ด้วย ไม่ใช่เคลลี่”
   สเตลล่าส่ายหน้า
   “ไม่หรอก ยูโกหก” สเตลล่าว่า “ยูจะรักเขาได้ยังไง ยูเป็นใครก็ไม่รู้”
   “ผมไม่ใช่เคลวินคนเก่าอีกแล้วสเตลล์” ไกด์พูดเสียงหนักแน่น “ผมคือคนใหม่ คนที่คุณเองก็ไม่รู้จัก”
   สเตลล์มองหน้าไกด์ทันที
   “บอกไอตอนนี้จะไปมีประโยชน์อะไร” สเตลล่าว่า “เขาเชื่อใจยูเต็มร้อย แต่ยูกลับไม่เชื่อใจเขาเลย ยูไม่เชื่อด้วยซ้ำ ว่าเขาจะอยู่กับยูได้ตามสัญญา นับประสาอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ยูไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าเค้าก็รักยู”
   ไกด์มองไปยัทางที่เพิ่งจากมา
“นายคิดว่ามันสำคัญงั้นเหรอ ว่าฉันคือใคร” ไกด์ว่า “มันก็มีสิ่งหนึ่ง ที่นายเองก็ไม่เคยเห็นว่ามันสำคัญเหมือนกันนะวิน ว่าฉันคือคนที่รักนายไงล่ะ”
“นั่นเพราะยูไม่เคยบอกเค้า” เสตลล์ว่า “เขาไม่รู้”
ไกด์ออกวิ่งทันที ขณะที่หอนาฬิกากำลังตีบอกเวลาอย่างเร่งร้อน
ไกด์ไม่รู้เลยว่า วินกำลังก้าวเท้าออกจากดีสนีย์แลนด์ไปเพียงลำพัง ด้วยความหวังที่ริบหรี่ลง แม้ว่าไกด์ก็กำลังรู้สึกเช่นเดียวกัน
.........

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
เละเทะ วุ่นวาย ไปล่ะน่ะ

พูดแล้วทำไม่ได้ ไมีรุ้จะพุดไปทำไม ..? เงียบปากไปดีกว่า

 :z2:

Tuna Omega

  • บุคคลทั่วไป
เจอประโยคนี้..."ผมก็แค่พูดไปอย่างนั้นเองตอนนั้น"

 :z6:

อยากโดดขาคู่ใส่มากกกกกก

ออฟไลน์ M2M_Jill

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
ตอนที่ 38 Alone

   เอิร์ธนั่งนิ่งอยู่ด้านหน้าของปราสาทดีสนีย์สีชมพูสด เป็นอันว่าทริปท่องเที่ยวอันสวยหรูของเขาได้จบลง ในหัวสมองเขาตื้อไปหมด เขากำลังตกใจเรื่องของวิน เพื่อนรักของเขาเปลี่ยนไปมากจนน่าตกใจ และที่น่ากลัวกว่านั้น เขาไม่คิดว่าเพื่อนของเขาจะเปลี่ยนไปได้มากถึงขนาดนี้
   ตอนแรก เขาก็รู้สึกดี ที่ไอ้ลูกคุณหนูสุดแสบสุดบ้าลูกคู่ของเขา จะรู้จักสงบลงและเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่นี่มันไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดการณ์เอาไว้ มันต่างไปจากนั้นมาก วินกำลังท้าทางทุกอย่างในชีวิตของตัวเอง ให้กับสิ่งที่เอิร์ธเห็นได้ชัดเจนว่าอันตรายเอามากๆ วินกำลังเชื่อใจคนแปลกหน้า ที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร
   มันก็ถูกที่ข้อตกลงระหว่างเขากับวินจะเดินหน้าต่อไปด้วยดี และเขาก็ยินดีเข้าร่วมด้วยอย่างเต็มที่ แต่ลองมันมาเป็นแบบนี้เข้าแล้ว เขาก็ไม่อยากเห็นเพื่อนตัวเอง ไปเจออะไรที่เสี่ยงเหมือนกัน การใช้ชีวิตอยู่ในปารีสโดยไม่มีหลักประกันอะไรเลย ถอดตัวเองออกจากตระกูล โสภณนภา ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ โดยที่เขาจะต้องนั่งอยู่ที่ซูเม่ต่อไปได้อย่างที่ตั้งใจ แต่ถ้าหากเขาจะต้องเผชิญหน้ากับพ่อของวินเพียงลำพัง เขาไม่เอาด้วยแน่ๆ
   สาเดินมานั่งลงข้างๆ เด็กหนุ่ม ก่อนจะถอนหายใจ เอิร์ธหันไปมองสาพักนึง ก่อนจะกลับมาก้มหน้าลงกับตัวเอง
   “หายไปไหนมาล่ะครับ” เอิร์ธถามขึ้น
   “เปล่า” สาตอบ “พี่อยู่แถวนี้ตลอดอ่ะ นายต่างหากเอิร์ธหายไปไหนมา”
   เอิร์ธหันไปมองพี่สาทันที
   “พี่หมายถึง ตลอดเวลาที่ผ่านมา” สาว่าต่อ
   “ผมก็ไม่ได้ไปไหนไกลนะ” เอิร์ธตอบเธอ “ผมก็เดินตามพวกพี่มาติดๆนั่นแหละ”
   “งั้นเหรอ” สาว่า “รู้หรือเปล่า ว่ามิกเค้าเป็นห่วงเรามาก กับเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่”
   “รู้คับ” เอิร์ธตอบ “เราคุยกันแล้วพี่ ผมขอให้เขาเชื่อใจในสิ่งที่ผมทำอยู่”
   “ทำไมถึงคิดว่าจะสำเร็จ” สาถามขึ้น “ตอนแรกน่ะ”
   เอิร์ธมองหน้าเธอทันที
   “ผมไม่ชอบพี่เจน” เอิร์ธพูดเสียงดัง สาถึงกับผงะเล็กน้อย “ผมเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น กับพี่กาย แล้วก็พี่นัท ผมไม่อยากให้พี่เจนเข้ามาบงการ เรื่องของผมกับพี่มิก ผมกับพี่มิก เราจะหนีออกจาก”
   “Loveless Society” สาต่อคำพูดของเอิร์ธ “ก็เลยทำให้เธอมาโผล่ที่ปารีสเนี่ยนะ”
   “ครับ.....ผมจะไม่กลับแล้ว ถ้าไม่มีพี่มิกไปด้วย ผมจะไปกับเขาทุกๆที่” เอิร์ธว่า “ผมจะทำ”
   “ก็ไม่เห็นต่างอะไรกับวินเลยหนิ” สาว่า
   “ต่างครับ มันไม่เหมือนกันพี่สา” เอิร์ธว่า “ผมกับวิน เราสองคนมีเป้าหมายต่างกัน”
   “ยังไงเหรอ” สาถามอีก
   “ผมอยากอยู่กับพี่มิกครับ เขาเป็นคนทำให้ผมเป็นผมได้อย่างทุกวันนี้ ผมจะไม่พูดอะไรน้ำเน่าหรอกว่า ผมขาดเขาไม่ได้แต่มันก็ใช่ครับ ผมจะอยู่กับเขาที่นี่” เอิร์ธว่า “หนทางที่ผมจะอยู่กับเขาให้ได้ ก็คือได้ทำงานที่เดียวกับเขาที่นี่ สายเดียวกัน เหมือนพี่ เหมือนพี่กาย เหมือนพี่นัท”
   “แล้วก็เหมือนกับเจน” สาว่า
   เอิร์ธส่ายหน้าทันที
   “พี่สาก็ไม่ชอบเค้าไม่ใช่เหรอ” เอิร์ธถามต่อ “พี่เคยบอก”
   “พี่ไม่เคยพูดว่าพี่ไม่ชอบเจนนะ” สาว่า “เจนทำให้พี่หัวปั่นได้ก็จริง แต่ก็เป็นเพราะเค้า เราทั้งหมดถึงมาอยู่ที่นี่ อยู่ตรงจุดนี้ เจนเป็นทั้งศัตรูและก็เพื่อนของพี่ในเวลาเดียวกัน”
   “พี่ว่าอะไรนะ” เอิร์ธถามอีก
   “สาบานต่อพระเจ้าสิ ว่ายัยนั่นจะได้ยินที่ฉันพูดเมื่อกี้ไม่ได้เป็นอันขาด” สาพูดกับตัวเอง “เอิร์ธ สิ่งที่เธอกบวินมันไม่ได้ต่างกันเลย เธอทั้งคู่แค่จะทำตามหัวใจตัวเอง สิ่งที่ต่างกันคือสิ่งที่อยู่ในนี้ต่างหาก”
   สาชี้ไปที่หัวใจของเอิร์ธทันที
   “เธออย่าตัดสินคน เพียงแค่เพราะสิ่งที่เธอเห็น เธอต้องมองให้ลึก ให้เห็นในสิ่งที่เขาทำ” สาว่า
   “แต่คนที่ไอ้วินเลือก มันน่ากลัวจะตายพี่สา พี่ก็เห็น” เอิร์ธว่า
   “ใช่พี่เห็น แต่พี่ไม่ตัดสินวิน หรือตัดสินผู้ชายคนนั้น” สาว่า “เอิร์ธ มิกเค้าก็รักนายทั้งที่นายน่ะมันยอดตัวแสบแห่งยุคเลยนะ”
   สาขยี้หัวเอิร์ธ ที่ทำเป็นก้มหนีมือของเธอ
   “เขายังไม่เคยตัดสินมิก เพียงเพราะสิ่งที่เขาเลือกเลย” สาว่า “เจนเองก็ไม่เคยตัดสินนัท สิ่งที่กายเค้าเลือกเหมือนกัน”
   “แต่พี่เจนก็...”
   “ถ้าไม่ได้เจน กายกับนัท อาจจะไม่ได้รักกันก็ได้นะ” สาตอบ “บางทีเรายังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจเอิร์ธ เจนอาจจะดูเป็นอย่างนั้นๆ แต่เขาไม่ใช่คนไม่ดีหรอก”
   “ทำไมพวกพี่ถึงต้องทำอะไรให้ซับซ้อนด้วยอ่ะ พี่จะจริงใจกับความรู้สึกตัวเองบ้างไม่ได้หรือไงกัน ทำให้อะไรๆมันง่ายๆ” เอิร์ธร้อง “เพราะอย่างนี้ไง ผมถึงอยากหนีออกมา”
   “โลกนี้ซับซ้อนเอิร์ธ ถ้าทุกอย่างอ่านง่ายหมด เราคงทำดีไซน์ง่ายขึ้นเยอะ” สาว่า “พี่ก็อยากให้เป็นอย่างนั้น แต่ขอโทษเอิร์ธ ความจริงมันไม่ใช่ Loveless Society อาจจะเลวร้ายสำหรับเธอ แต่นั่นคือโลกแห่งความจริง”
   “ผมจะรู้ได้ยังไงอ่ะ” เอิร์ธว่า
   “คนที่เธอจะรู้ได้ทันที ว่าเขารู้สึกยังไง โดยไม่ต้องพยายามเลยคือใครรู้ไหม” สาถาม เอิร์ธมองหน้าเธอ ”คนที่เธอรักไง”
   เอิร์ธมองหน้าสาด้วยสายตาที่เบิกกว้าง
   “เธอรู้ว่าพี่ความจริง มิกไม่ใช่อ่านง่าย ทั้งหมดสามคน พี่นัท พี่ และมิก มันเป็นคนที่ซับซ้อนที่สุด” สาว่า “บางครั้งพี่ก็ไม่รู้หรอกว่ามันคิดอะไร จนได้พูดคุยหรือใกล้ชิดกับมันมากๆจริงๆ และตอนนี้คนที่รู้ใจมันที่สุดก็มีเพิ่มขึ้นมาอีกคนแล้ว ที่ไม่ใช่พี่ ไม่ใช่นัท....แต่เป็นเราเอิร์ธ เรารู้ใจมิกดีกว่าพี่สองคนซะอีกในบางเรื่อง”
   เอิร์ธอมยิ้มน้อยๆให้สา
   “มันแน่นอนอยู่แล้วครับ” เอิร์ธว่าพลางมองไปตรงหน้าพลางยิ้มกับตัวเอง “ผมเข้าใจพี่มิกนะ ผมไม่สนหรอกว่าเขาจะเป็นคนซับซ้อน อินดี้อ่านยากแค่ไหน ผมรู้แค่ว่าพี่มิกทำอะไรให้ผมบ้างก็พอ”
   “เพราะจริงๆแล้ว บางทีคนเราไม่สนหรอกว่าคนที่เรารักจะเป็นใคร ดีหรือร้ายแค่ไหน แต่เราสนแค่ว่า เขาทำอะไรให้เราบ้างก็พอ” สาทวนคำพูดของเอิร์ธเองครั้งหนึ่ง ชายหนุ่มมองหน้าเธอ เหมือนจะคิดอะไรบางอย่างออก
   “พี่สา...” เอิร์ธเรียกชื่อเธอเบาๆ
   “พี่ว่า เรากับวิน ก็ไม่ได้ต่างกันเลยอยู่ดีนั่นล่ะ” สาว่าทันที
   “แต่ว่า....” เอิร์ธขมวดคิ้วกับตัวเอง
   “ไม่อยากให้พี่เจนบงการชีวิตเรา ไหงเราถึงจะไปบงการชีวิตวินเค้าซะเองล่ะหึ” สาว่ากลับ
   “มันเป็นข้อแลกเปลี่ยนครับ” เอิร์ธว่า “ผมไม่ได้จะไปบงการชีวิตมันหรอก แค่ชีวิตมันที่กำลังเลือก อาจจะกำลังเพิ่มความเสี่ยงให้กับผมน่ะ”
   “เรื่องคุ้นจัง” สาว่า “เหมือนเคยเจออะไรทำนองนี้มาก่อนเลยนะเนี่ย”
   “แต่ไม่ต้องทำอะไรแล้วพี่สา” เอิร์ธว่า “เป็นอย่างนี้แหละดีแล้ว ถึงสุดท้าย สิ่งที่ผมทำมันอาจจะหมดไปก็ได้ แต่พี่มิกเค้าก็ยังรักผมเหมือนเดิมนั่นแหละ”
   “ถ้านายไม่ลองทำสิ่งที่นายคิดว่าทำไม่ได้แน่ๆให้ผ่านไป หลังจากนี้ นายจะไปทำอะไรได้ล่ะ” เสียงอันเย็นชาดังขึ้นตรงหน้า เอิร์ธและสาเงยหน้าขึ้น ก็พบกับร่างๆหนึ่งที่หอบเหนื่อยยืนอยู่ เอิร์ธจ้องหน้านั้นที่กำลังมองเขาอย่างจริงจัง
   “นายว่าอะไรนะ” เอิร์ธถามทันที
   “ถ้านายยอมแพ้ซะตอนนี้ นายก็จะก้าวต่อไปไม่ได้อีกเลย” ไกด์พูดต่อ
   เอิร์ธยืนขึ้นทันที สาที่มองทั้งคู่อย่างตื่นๆ
   “นายสอนชั้นเรอะ” เอิร์ธว่า
   “ไม่” ไกด์พูดเสียงสั่น ”ชั้นขอร้องนายต่างหาก”
   “ขอร้องชั้น” เอิร์ธว่า “ขอร้องเรื่องอะไร”
   “อย่าหยุดทำอะไรก็ตาม ที่นายตกลงกับวินไว้” ไกด์พูด
   “นายไม่ได้จะฆ่าชั้นแล้วรึไง” เอิร์ธตอบยียวน
   “คราวนี้ทำแน่......ถ้านายไม่ตอบคำถามฉัน” ไกด์ว่าเสียงหนักแน่น
   “งั้นก็แฟร์ๆดิ” เอิร์ธว่า “เพราะฉันก็ฆ่านายแน่ ถ้านายไม่ตอบคำถามฉันเหมือนกัน”
   “เราย้ายไปลานประลองคาวบอยมั้ยหนุ่มๆ” สาพูดโพล่ขึ้น ทั้งคู่หันมามองเธอ “เอ่อ...พี่เห็นมันอยู่ตรงข้ามแมนเนอร์เมื่อกี้น่ะ”
   สารู้ตัวว่าสิ่งที่เธอพุดไม่ได้สร้างความตลกเลยซักนิด
   “คำถามคืออะไรก็ว่ามา” เอิร์ธเปิดเกมส์ก่อนอย่างท้าทาย
   “ฉันต้องการคำยืนยัน ว่านายกับวินไม่ได้เป็นอะไรกันมากไปกว่าเพื่อน” ไกด์พูดทันที
   “มันแหงอยู่แล้ว” เอิร์ธตอบ “เราสองคนเป็นมากกว่าเพื่อนธรรมดา.....”
   สาหายใจเข้าทิ้งช่วงทันที เอิร์ธกำลังจงใจท้าทายไกด์
   “ฉันไม่ตลกด้วยหรอกนะ” ไกด์ว่า
   “นั่นน่ะสิ” เอิร์ธว่า “ไม่เห็นจะตลกเลยซักนิด”
   “เอิร์ธ นายต้องการอะไรจากฉันก็ว่ามาเลย” ไกด์พูดอย่างแข็งขัน “เพราะฉันจะไม่อยมเสียอะไรไปง่ายแม้แต่อย่างเดียว”
   “หึหึ” เอิร์ธขำจริงๆกับเรื่องนั้น “งั้นนายก็ช้าไปแล้ว”
   “นายพูดพล่ามอะไรของนายเนี่ยหะ” ไกดืถลาเข้ากระชากคอเสื้อของเอิร์ธทันที
   “หยุดนะ” สายื้ตัวเข้าห้าม “พอกันที นี่มันชักจะเกินไปแล้ว”
   “มันไม่เกินไปหรอกพี่สา กับคนอย่างเขาน่ะ” เอิร์ธว่า
   “คนอย่างฉันมันทำไมเหรอ” ไกด์ว่า “นายไม่ได้รู้จักฉันดีพอด้วยซ้ำ นายไม่มีสิทธิมาตัดสินฉัน”
   “แล้วคนอย่างนายน่ะ มันเป็นยังไงงั้นเหรอ” เอิร์ธว่าต่อ พลางส่งสายตาดุดันไปให้ไกด์ ชายหนุ่มเงียบสนิท เขาจะไม่อธิบายสิ่งนี้อีกครั้ง ไม่ใช่กับคนอย่างเอิร์ธ ไม่มีประโยชน์เลยด้วยซ้ำ
   “นายจะไม่ขอโทษสิ่งที่นายทำวันนี้ แล้วยังจะพูดแบบนี้อีกงั้นเหรอ” ไกด์ว่า
   “แล้วนายจะทำไมอ่ะ” เอิร์ธว่า” “ฉันก็ไม่เห็นว่าจะทำอะไรเสียหายตรงไหนเลย ทำไมเหรอ ฉันทำอะไร”
   “เอิร์ธ” ไกด์ร้อง “นายรู้ดี”
   “รู้ว่า?” เอิร์ธเลิกคิ้ว
   ไกด์ปล่อยตัวเอิร์ธลง
   พลั่ก!!!
   ไกด์เหนี่ยวหมัดอย่างรุนแรงไปหาเอิร์ธที่ล้มลงไปกองกับพื้นทันที สารีบรุดเข้าขวางตัวเอิร์ธเอาไว้ได้ทัน เอิร์ธจับปากตัวเองด้วยความตกใจพลางมองหน้าไกด์
   “เคลวิน!!!” เสียงของจีโอดังมาแต่ไกล ถลาเข้ามาดึงตัวไกด์เอาไว้ ในขณะที่สาพยายามพยุงตัวเอิร์ธลุกขึ้น เจนจิราเดินตามมาด้วยความงงงวย ก่อนจะเข้ามาดูสถาการณ์ที่เกิดขึ้น
   “ให้ตายสิ นายทำอะไรเจ้าเอิร์ธเนี่ย” จีโอว่า พลางมองหน้าเพื่อนรัก “เย็นลงก่อนเพื่อน”
   “เกิดอะไรขึ้นน่ะ สาคะ ว่าไง” เจนจิราถามขึ้น สาหลับตาพลางส่ายหน้าเบาๆ ตอบเธอ ”เกิดอะไรขึ้นกัน”
   ทั้งเอิร์ธและไกด์ต่างคนต่างเงียบ
   “ผมบอกแล้ว หมอนี่มันบ้า” เอิร์ธพูด ก่อนจะสะบัดตัวออกจากสา และออกเดิน “ใครจะเที่ยวต่อก็เที่ยวไปเถอะ ผมกลับละ”
   ไกด์ดึงแขนเอิร์ธเอาไว้
   “วินอยู่ไหน” ไกด์ถามเอิร์ธเสียงขรึม
   “ผมไม่รู้” เอิร์ธตอบ
   “ฉันถามนายว่า วินอยู่ที่ไหน” ไกด์พูดเสียงดังขึ้น
   “เค้าไม่รู้หรอกค่ะคุณไกด์” สาพูดแทน “วินเขาไปแล้ว”
   ไกด์หันมามองสา
   “เขาไปแล้ว....เมื่อชั่วโมงก่อน” สาว่า เจนจิราหันมามองหน้าเธอ
   ไกด์หันไปมองหน้าเอิร์ธทันที
   “นายทำอะไรลงไปรู้ตัวหรือเปล่า” ไกด์ถามเอิร์ธเสียงเย็น
   เอิร์ธไม่ตอบ ได้แต่มองหน้าไกด์อย่างหวั่นๆ
   “แบบนี้น่ะดีแล้ว นายจะได้รู้ว่าตัวเองควรทำอะไรซะที” เอิร์ธว่า “เพราะฉันก็เลิกแล้วเหมือนกัน สัญญาระหว่างผมกับวินน่ะ”
   “เห้ย..เดี๋ยวนะ ไอ้น้อง เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ ยกเลิกสัญญาอะไร” กลายเป็นจีโอที่เป็นคนถามขึ้นมา เอิร์ธส่ายหน้าทันที โอเค ทุกๆอย่างล่มสลายลงตรงนี้ก็ได้เลย เขาพร้อมแล้ว
   “สัญญาอะไรก็ตามที่ผมกับวินตกลงกันไว้ตอนนี้เป็นอันยกเลิกแล้วจีโอ” เอิร์ธว่ ไกด์หันไปหาจีโอ เช่นเดียวกับเจนจิรา
   “นี่เอิร์ธอย่าพูดเล่นนะ” จีโอว่า “แล้วฉันล่ะ”
   “ผมไม่รู้ คุณไปถามวินเอาเองก็แล้วกัน” เอิร์ธว่า “หรือไม่ ก็ไปถามเพื่อนคุณดู ผมไม่เอาด้วยแล้ว”
   ไกด์ปล่อยตัวเอิร์ธลงทันที ก่อนจะหันไปหาจีโอ
   “แกไปกับชั้น” ไกด์พูดกับจีโอ “ไปเดี๋ยวนี้เลย”
   “ด...เดี๋ยวดิ เห้ยไอ้ไกด์” จีโอพยายามร้องเรียกเพื่อน ที่ออกเดินไปไกลแล้ว จีโอไปไม่เป็น พลางหันกลับมามองเจนจิราที่กำลังมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม “เอ่อ...เจน ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆนะ....ผม...”
   เจนจิรายังคงยืนเงียบ
   “ที่เราคุยกันที่ร้านสเต็กผมพูดความจริงนะ คุณอาจจะำตามเรื่องตรงนี้ไม่ทันแต่” จีโอเดินเข้าไปหาเจนจิราพลางจับมือเธอ “เชื่อใจผม......ได้โปรด”
   เจนจิราจับมือจีโออกจากมือของเธอทันที
   “ไปซะค่ะ” เจนจิราพูดเสียงเย็นเฉียบๆ “ไปซะ”
   จีโอมองหน้าเจนอย่างไม่รู้จะอธิบายยังไงดี ชายหนุ่มค่อยๆก้าวถอยหลังห่างออกจากเจนจิรา
   “คุณทำเพื่อเพื่อนของคุณ” จีโอพูด “ผมก็ทำเพื่อเพื่อนของผมเหมือนกัน”
   จีโอทิ้งคำพูดเอาไว้ ก่อนจะเดินจากไปทันที ทิ้งเจนจิราเอาไวเพียงความสับสน หญิงสาวส่ายหน้ากับตัวเอง พลางกัดฟัน ก่อนจะเริ่มออกเดินไปอีกทาง
   “พี่เจน ผมมีเรื่องจะบอก” เอิร์ธพูดโพล่งขึ้น
   เจนจิราหันกลับมาหาเอิร์ธ ใบหน้าของเธอแดงก่ำทันที
   “จะบอกว่าเธอเป็นคนส่งเขามาจีบฉัน...งั้นใช่ไหม” เธอยิงคำถามตรงเข้าอกของเอิร์ธทันที วันนี้เขาโดนอะไรไปหลายดอกเข้าเสียแล้ว สาเองก็หันไปมองเอิร์ธด้วยความฉงนทันที
   “เอ่อ.......พี่ว่าอะไรนะ...ผมเอ่อ” เอิร์ธพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง “มันไม่ใช่อย่างนั้...”
   “ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ” เจนจิราร้อง “นายกำลังทำอะไรของนายกันแน่เอิร์ธ พี่ถามหน่อย ทำแบบนี้ทำไม”
   “พี่เจน” เอิร์ธตกใจมาก ตอนนี้เขาเห็นหยาดน้ำตาเล็กๆที่ใบหน้าของเธอ
   “นายต้องการอะไรอีกเอิร์ธ ยังมีอะไรที่นายต้องการจากพี่อีกไหม” เจนจิราร้องเสียงดัง “เธอยังมาไกลไม่พออีกใช่หรือเปล่า เธอต้องการจะทำลายพี่ใช่หรือเปล่า ทำลายงานที่พี่รัก แล้วก็ทำลายความรู้สึกของพี่ด้วย”
   เอิร์ธยืนนิ่ง นี่มันเกินจากแผนที่เขาวางไว้เสียแล้ว
   “พี่ขอล่ะเอิร์ธหยุดซะทีเถอะ พี่ไปทำอะไรให้เธอหะ เคยทำอะไรให้เธอหรือไง เธอถึงต้องเกลียดพี่ขนาดนี้น่ะเอิร์ธ” เจนจิราร้อง เอิร์ธรู้สึกแย่เอามากๆเสียแล้ว เขาไม่เคยโดนเจนใส่ความรู้สึกนี้ให้เขามาก่อน นี่เป็นครั้งแรก ที่เจนพูดกับเขาแล้วทำให้เขารู้สึกผิดจริงๆ
   เจนจิราร้องไห้อยู่เงียบๆ สาเองก็ตกใจกับภาพตรงหน้า นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นน้ำตาของเจนจิรา
   “รู้หรือเปล่า ว่าพี่มิกของเธอ เป็นคนขอร้องฉันให้ดูแลเธอ ให้ทำให้สิ่งที่เธอต้องการ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามสำเร็จด้วยดีน่ะ” เจนจิราพูดเอิร์ธเงยหน้าขึ้นมองเธออกีครั้ง “เขาขอร้องฉัน ตั้งแต่ก้าวแรกที่เธอลงมาเหยียบทีปารีส เขานึกถึงเธอเป็นอย่างแรก และคนแรกที่เขาขอร้องก็คือฉัน”
   เอิร์ธมองหน้าเจนทันที
   “บอกเขาสิว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริงสา บอกเขาสิ” เจนจิราร้อง “ว่าไงล่ะสา ที่คลับมูแลงรูจ เมื่อต้นปี งานหมั้นของนัทและกายน่ะ”
   เอิร์ธหันหน้าไปมองพี่สาทันที
   “ไม่จริงใช่ไหมพี่” เอิร์ธร้อง สามองหน้าเอิร์ธ “จริงเหรอพี่สา”
   “มิกเป็นคนขอ ไม่ให้บอกนาย” สาว่า “เจนพอเถอะ เอิร์ธแค่ทำในสิ่งที่เขาคิดว่า...”
   “คิดว่าเจ๋ง คิดว่าเก่ง เด็กใหม่ไฟแรง” เจนจิราต่อคำ “สา ฉันทนกับเด็กคนนี้มาตลอด เขาทำลายทุกอย่างที่ฉันทำ เขาดึงลูกชายคุณวรพัฒน์เข้ามา เขาเอาคุณวรพัฒน์เข้ามา เขาเอางานแฟชั่นวีคไปจากฉัน มิหนำซ้ำ เขายังเอาใครที่ไหนก็ไม่รู้ มาปั่นหัวฉันเล่นอีกสา”
   สาหลับตา
   “เนี่ยอ่ะเหรอ เด็กจาก Lovable Studio ที่พวกเธอหลงไหลนักหนาอ่ะ” เจนจิราว่า “พวกเธอหลงใหลเขาในเรื่องแบบนี้อ่ะเหรอ.....”
   เจนจิรากัดฟัน
   “พอกันที....” เจนจิราว่า พลางเดินหันหลังจากไปท่ามกลางผู้คน
   เอิร์ธยืนนิ่งสนิท เขาถูกโจมตีอย่างหนัก และนี่ก็คือสิ่งที่เขาได้รับเมื่อมาถึงจุดหมายปลายทาง
   ความพ่ายแพ้
   เขาจงใจยั่วไกด์เมื่อครู่ เพื่อให้หมอนั่นทำอะไรซักอย่างต่อไป แต่การปรากฎตัวของจีโอและเจนจิรา มันนอกเหนือจากสิ่งที่เขาคิดเอาไว้
   และเจนจิราก็ทำให้มันนอกเหนือกว่าสิ่งที่เขาคิดมากขึ้นไปอีก
   หรือว่าตอนนี้ แผนที่เขาทำมาทั้งหมด กำลังย้นมาตีตัวเขาเอง
   เขาคิดว่ามันเป็นอย่างหลัง....
   และใช่.....เขาเริ่มรู้สึกเสียใจเข้าเสียแล้ว
   เสียใจแบบที่ลูกผู้ชายคนนึงจะทำได้
   “ผมไม่รู้เลย....ว่าพี่กายกับพี่นัทหมั้นกันแล้ว” เอิร์ธพูดเบาๆ “การเขาหมั้นกันมันเปลี่ยนทุกอย่างที่...”
   “...ที่เธอรู้จัก...ใช่” สาต่อคำเอิร์ธ
   “ทำไม่ไม่มีใครบอกผม” เอิร์ธหันไปหาสา “ทำไมพี่ไม่บอกผม”
   “พี่ถึงถามไง ว่านายหายไปไหนมาเอิร์ธ” สาว่า “นายคิดว่าตัวเองอยู่ตัวคนเดียวที่นี่หรือไง เธอไม่ได้อยู่คนเดียว พวกพี่คอยดูเธออยู่ห่างๆเสมอแหละ......แต่บอกพี่ที่ซิ ว่าสิ่งที่เจนพูดเมื่อกี้ เธอไม่ได้ทำมันลงไปแล้ว...อย่างน้อยก็ไม่ได้ตั้งใจ”
   เอิร์ธเงียบสนิท เขาตอบคำถามนั้นไม่ได้ สาเงยหน้าขึ้นทันที
   “มิกไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวนะ เขาไม่ได้นั่งเฉยๆรอให้เธอวิ่งหาเขาอย่างเดียวหรอกนะเอิร์ธ” สาว่า “เขาทำเพื่อเธอมาตลอด ทำไมเธอถึงไม่เคยรู้เลยล่ะ นายคิดว่าตัวเองอยู่ตัวคนเดียวงั้นเหรอ ให้ตายสิ”
   “ผมอยู่คนเดียวพี่สา” เอิร์ธว่า “ผมเดินมาที่นี่คนเดียวตลอด ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยผมเลยซักคน”
   สาชี้นิ้วไปยังทางที่เจนจิราเพิ่งเดินจากไป
   “แล้วนั่นใคร” สาพูด “เธอทำลายความรู้สึกของคนที่ช่วยเธอมาตลอด เธอไม่เชื่อใจเขา”
   “ก็ผมไม่รู้นี่ว่า.....เขาจะช่วยผม” เอิร์ธว่า “คนแบบพี่เจน ใครๆก็ร้ว่าเขาน่ะร้ายกาจ”
   “งั้นเธอก็คงได้อยู่คนเดียวต่อไปแล้วล่ะเอิร์ธ” สาว่าพลางเดินถอยหลังเช่นเดียวกัน เธอส่ายหน้าให้กับเอิร์ธทันที
   “ไม่เอาน่าพี่สา ผมไม่รู้” เอิร์ธร้อง “ขอร้อง อย่าเป็นพี่ที่ทิ้งผมไปอีกคนได้ป่ะ”
   “ก็หวังว่าเธอจะยังเหลือมิก” สาว่า “ฉันไม่น่ายุ่งกับของเธอสองคนเลย ไม่น่าเลย....”
   สาบ่นกับตัวเอง พลางพยายามตามหาเจนจิรา
   “ฉันน่าจะเชื่อเธอตั้งแต่แรกเจน.....บางครั้ง ความรักก็เป็นแค่เรื่องของคนสองคนสินะ”
.............

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
เริ่มอิรุงตุงนังมากขึ้นเรื่อยๆ  ทั้งวิน ทั้งเอิร์ธ   :เฮ้อ:

sarama

  • บุคคลทั่วไป
ตัวละครน่าสนใจ อ่านไปลุ้นไป...

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
เค้าเรียกว่า ผลของการไม่พูด ต่างคนต่างมั่นใจ ต่างคนต่างคิดว่าตัวเองเหนือที่สุดและควบคุมทุกอย่างได้

สุดท้าย ทุกอย่างก็กำลังจะพัง สงสารใครไม่ลงว่ะ ทำตัวเองกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเจนเองก็ตาม

ได้แต่หวังว่ามิกซ์จะยื่นมือเข้ามาพยุงเอิร์ทไว้นะ ส่วนวินกับไกด์ คน 2 คนนี้ถ้าผ่านจุดนี้ไปได้ ก็น่าจะเดินไปด้วยกันอย่างเข้มแข็ง

สิ่งที่จะสอนทุกคนได้นั้นคือ "ความรัก เป็นเรื่องของคน 2 คน" คนอื่นไม่ได้เห็นในจุดที่คน 2 คนนั้นเค้าเห็นหรือรู้สึก ไม่มีใครรู้ดีเท่าคนที่เค้ารู้สึกแบบเดียวกันหรอก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด