T@NG[รวมเรื่องสั้น] 鸱尾 ขอ 'กิน' บ้างดิ! (29/5/58)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: T@NG[รวมเรื่องสั้น] 鸱尾 ขอ 'กิน' บ้างดิ! (29/5/58)  (อ่าน 49113 ครั้ง)

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
ชอบทุกเรื่องเลยค่ะ แต่เรื่องต๊อกกับพรตเศร้าไปหน่อยนะ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
                                                                            เรื่องที่12


                                                                  คำว่ารัก... ก็แค่เนี๊ยะ!! 1



         วันนี้แก๊งค์เดิมกลุ่มเดิมกำลังวางแผนที่จะไปเที่ยวทะเลกัน  แน่นอนคนต้นคิดไม่ใช่ใครที่ไหน คนที่ชอบเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ... ต้นน้ำคนนี้นี่เอง
   “โอเค งั้นพรุ่งนี้รวมตัวกันบ้างไอ้ท่อง  ใครไม่เอาแฟนไปก็ไม่รับผิดชอบชีวิตนะเว้ย! หรือกลัวเป็นภาระจะทิ้งเอาไว้บ้านก็ได้ ฮาๆ”ไอ้เที่ยวบอก ก่อนจะได้เสียงดังผลัวะสองผลัวะประทบเข้าที่หัว  จากฝีมือทั้งของแฟนของเพื่อนนั่นแหละ
 
   แล้วเช้าวันรุ่งขึ้นในเวลาตีสี่กว่าๆ  ทั้ง10คนก็พร้อมที่จะออกเดินทางโดยได้อภินันทนาการรถตู้จากพ่อของเหมันต์ให้มาขับเล่นฟรีๆ... ที่จริงพ่อของเหมันต์จะให้คนขับมาด้วย แต่เหล้าทโมนนั้นมีจำนวนเยอะกว่าที่นั่งอยู่แล้ว จึงปฏิเสธข้อเสนอนี้ทิ้งไป...
   เขาตะเกียบเป็นจุดหมายปลายทางที่ทุกคนกำลังมุ่งหน้ากันไป โดยสลับให้เหมันต์... น้ำฝนแล้วก็ปักษาเป็นคนขับรถจำเป็นสลับกันไป...  จากจัดที่นั่งก็ไม่มีอะไรมากมาย คู่ใครคู่มัน  ยกเว้นแต่ว่าถ้าเหมันต์เป็นคนขับรถ คิมหันต์ก็ต้องขึ้นมานั่งข้างคนขับ... ถ้าน้ำฝนขับเมฆก็ต้องมาสลับที่กับคิมหันต์  ถ้าปักษาขับต้นน้ำก็ต้องขึ้นมานั่งแทน  แต่ดูคู่สุดท้ายจะไม่ค่อยเป็นใจกันเท่าไร เมื่อคนที่นั่งข้างๆเอาแต่คอยแหย่ให้คนขับหน้าแดงอยู่ร่ำไป
   “งั้นเอาเป็นว่า... เก็บของให้เสร็จ สิบเอ็ดโมงมาเจอกันที่หาดแล้วกันนะ”เนื่องจากเป็นบังกะโลที่พัก หลังละสองห้อง... ทั้งห้าคู่จึงต้องแยกกันไป  หลังละสี่คน   เมฆากับน้ำฝนพักอยู่หลังเดียวกับต้นน้ำและปักษา โดยให้เหตุผลว่า ปักษากับน้ำฝนเป็นเพื่อนกัน จำได้ไม่เกร็งมาก  คนแรกกับสุดท้ายอยู่หลังที่สองกับเที่ยวและท่อง  ด้วยเหตุผลง่ายๆของเหมันต์ว่า ไม่ชอบอยู่รวมกับคนอื่น จึงขโมยบ้านหลังหนึ่งไปคนเดียว ไม่ต้องอยู่รวมกับใคร ยกเว้นคิมหันต์น่ะนะ... แต่ละคู่เมื่อได้รับกุญแจห้องแล้วก็เดินไปยังห้องของตนเอง... 
   “พี่น้ำฝน ผมอาบน้ำก่อนนะครับ”เมฆบอกก่อนจะวิ่งจู๊ดเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้น้ำฝนมองแล้วแล้วยิ้มขำๆ  เขาใช้เวลาประมาณห้านาทีในการเก็บสัมภาระของทั้งคู่ก่อนจะร้องบอกกับคนที่ยังอาบน้ำไม่เสร็จ
   “เมฆ  พี่ไปรอที่หาดเลยนะ รีบอาบล่ะ อีกสิบนาทีจะสิบเอ็ดโมงแล้ว”เสียงคร้าบยาวๆดังจากห้องน้ำให้คนพูดได้ยิ้มอีกรอบแล้วเดินออกไปรอที่ชายหาด

   สำหรับคู่ของปักษากับต้นน้ำ ที่พักอยู่ห้องเดียวกันก็มีสภาพไม่ต่างกันเท่าไร...
   “โอ๊ย! เหนื่อยจริง...”เสียงโอดครวญจากร้องสูงใหญ่ที่ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม ให้คนตัวเล็กกว่าหัวเราะอย่างระอาแล้วเดินไปนั่งที่ข้างเตียง
   “นอนพักก่อนก็ได้ครับพี่น็อต พอใกล้ถึงเวลาแล้วผมจะมาปลุกนะ เดี๋ยวผมออกไปเซอร์เวย์ชายหาดแปป”เสียงครางฮือตอบรับ ทำให้ต้นน้ำเดินออกมาจากห้องพักด้วยความเงียบไม่อยากรบกวนคนที่เหนื่อยสักเท่าไร

   “ไอ้เที่ยว... มึงเอาผ้าขนหนูกูไปเก็บไว้ไหนเนี่ย”เสียงโวยวายดังลั่นจากร่างของคนตัวเล็ก... เที่ยวกุมขมับคลึงสักพักแล้วดึงกระเป๋าเป้ใบใหญ่ขึ้นมาเปิด 
   “เอ้า!”ผ้าขนหนูสีฟ้าผืนใหญ่ถูกโยนให้คนตัวเล็กกว่าที่รอรับอยู่แล้วก่อนจะเดินเฉิบไปเข้าห้องน้ำ... นับวันจะยิ่งปากกล้ามากขึ้นทุกปี  คิดถูกคิดผิดวะเนี่ยที่คบกับมันน่ะ  คงเป็ฯได้แค่ความคิดในใจ  ลองพูดออกมาสิ มีหวังตายไม่ต้องรักษาเลย  ท่องตัวเล็กบอบบาง บัดนี้กลายเป็นไอ้ท่องที่แข็งแกร่ง... จนเกินไป
   “ท่อง... กูไปรอที่หาดนะ”เสียงเออตอบรับทำให้เที่ยวคว้ากล้องถ่ายรูปคู่ใจแล้วเดินออกจากบังกะโลทันที

   คนแรกเดินเข้ามาในห้องพัก  ก่อนจะวางกระเป๋าของตัวเองกับสุดท้ายลง  แล้วดึงเอาคนที่เดินตามเข้ามามากอด
   “เฮ้อ! ชื่นใจจัง  เหนื่อยรึเปล่า หืม...”เสียงอ่อนโยนที่ถามทำให้สุดท้ายยิ้มแล้วส่ายหน้า... ไม่เหนื่อยหรอกถ้าพี่คนแรกดูแลเขาขนาดนี้...
   “งั้นเดี๋ยวจัดของแล้วเราไปเดินเล่นที่หาดกันนะ”คนแรกบอกแต่สุดท้ายส่ายหน้าปฏิเสธ
   “เดี๋ยว... สุดท้ายจะไปหาท่อง  พี่คนแรกไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวสุดท้ายตามไปทีหลัง”เสียงหวานบอก  คนแรกก้มลงไปหอมแก้มก่อนจะยิ้มหวานแต่ก็เข้มได้ใจสุดท้ายไปเต็มๆ
   “โอเคครับ... งั้นมาจัดของกันนะ”แล้วก็จูงมือกันไปจัดของให้เข้าที่เข้าทาง...  ดูเป็นคู่ที่เข้าใจกันดีที่สุดแล้วในบรรดาสามีภรรยาที่พากันมาในทริปนี้น่ะ...

   เสียงโหวกเหวกโวยวายของคิมหันต์กับเหมันต์กำลังดังลอดมาจากบังกะโลที่อาศัยอำนาจข่มขู่เพื่อนๆจนทำให้ได้อยู่บังกะโลหลังเดียวมาไว้ในมือ  แต่เสียงที่ทะเลาะกัน ถ้าใครได้ฟังแล้วคงต้องปวดยอดลามไปถึงปลายประสาทอย่างแน่แท้
“พี่เห... ผมจะใส่ขาสั้น”ร่างบางแย่งกางเกงขาสามส่วนมาไว้ในมือ...
“เรื่องสิ...  พี่จะให้ใส่ขายาว”เสียงเข้มของอีกฝ่ายบอกก่อนจะยัดกางเกงขายาวใส่มือของคนตรงหน้าแล้วแย่งกางเกงขาสามส่วนกลับมา
   “พี่เหมันต์!!”เสียงดุๆดังขึ้นแต่อีกฝ่ายก็ไม่มีทีท่าว่าจะกลัว
   “คิมหันต์... ใส่ขายาว”และจบลงด้วยร่างเล็กๆของคิมหันต์ที่ปากางเกงลงพื้น
   “เออ! ไม่ให้ใส่สามส่วนงั้นก็ไม่ใส่แม่งเลย เดินออกไปทั้งแบบนี้ล่ะ กูรึอุตส่าต์ไม่เอาขาสั้นมาแล้วเชียว”เสียงงอนๆที่คลอไปด้วยเสียงสะอื้นทำให้เหมันต์ยอมคืนกางเกงให้อีกฝ่าย...
   “โอเคครับ คิมหันต์พี่ยอมแล้ว.. ขอโทษนะ  ก็พี่ไม่อยากให้ใครมาเห็นของๆพี่นี้หน่า  แฟนใครใครก็หวง หรือเราว่าไม่จริง ฮึ!”เหมันต์เดินไปกอดด้านหลังของคิมหันต์เบาๆแล้วหอมแก้มก่อนจะอ้อนง้อ
   “ไม่เอาแล้ว... กูไม่ใส่แม่งแล้วอ่ะ ไอ้พี่ว๊ากนิสัยไม่ดี”คำเรียกที่คิมติดใช้มาตั้งแต่ปีหนึ่ง เวลาที่คิมโกรธเหมันต์... พี่เหมักจะเปลี่ยนเป็นพี่ว๊ากทันที... แล้วอาจจะตามมาด้วยการบรรยายสรรพคุณของคนตรงหน้า
ทั้งพี่ว๊ากกวนตีน พี่ว๊ากนิสัยเสีย  และพี่ว๊ากอื่นๆอีกมาก เท่าที่คนตัวเล็กนี้จะคิดออก...
   “คิมหันต์ครับ... ไม่เอานะ พี่ขอโทษแล้วไง  สามส่วนก็สามส่วนครับ  เดี๋ยวพี่ไปรอข้างนอกแล้วกัน ใส่เสร็จก็ตามไปที่ชายหาดนะ”นิ้วเรียวโยกหัวของร่างเล็กเบาๆแทนคำขอโทษอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกจากบังกะโลมุ่งสู่ชายหาดจุดนัดพบทันที...

   น้ำฝนที่เดินมาที่ชายหาดยืนมองเหล่าบรรดาคุณสามีทั้งหลายที่นั่งๆนอนๆรอคุณภรรยาสาวสวยทั้งหลายให้ลงมาสักทีก่อนจะนึกอะไรสนุกๆได้บางอย่าง... ถ้าลองเอาไปทำดูได้ก็คงดี แต่มันก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากเหล่าเมะทั้งหลายพวกนี้นี่แหละ ว่าแล้วก็ไม่รอช้า  เดินไปเรียกทุกคนยืนนั่งเล่นกันอยู่ให้หันมาสนใจตนเอง
   “เอ่อ... ขอโทษนะครับ  ผมมีอะไรสนุกๆมาเสนอ สนใจจะฟังกันบ้างมั๊ยครับ”เที่ยวที่นั่งยองๆเขียนทรายผละจากก่อนจะหันมามองคนพูดเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ลองคนอย่างน้ำฝนคิดจะเสนออะไรละก็... มันคงต้องเป็นสิ่งที่น่าสนใจแหงๆ  ก็คิดดูสิ... คนปกติที่ไหนกัน เรียนจนแพทย์แต่ไปทำงานบริษัทแถมบ้านก็เป็นโรงพยาบาล  ความคิดไม่รู้จะอธิบายยังไงจริงๆ 
   “คือว่า...”แผนการสนุกๆที่น้ำฝนเสนอให้ ทำเอาคนฟังนั่งยิ้มนั่งขำกันตลอดเวลา เมื่อนึกถึงแฟนของตนเองถูกแกล้งตามแผนที่วางไว้ แล้วมีหรือที่ใครจะไม่ยอมทำ ขนาดเที่ยวที่กลัวๆท่องยังกล้าตกลงรับคำ เอาหน่า... ถ้าไอ้ท่องมันจะพูดอะไรก็โบ้ยว่าเป็นแผนหมอน้ำฝนก็สิ้นเรื่อง...  และแล้วแผนการแกล้งเหล่าเคะที่น่ารักทั้งหลายก็เริ่มต้นขึ้น...  ด้วยรอยยิ้มของฝ่ายชายที่คิดจะหยอกล้อแฟนของตนเองให้สนุกสนาน... 
   “เฮ้อ...”เสียงถอนหายใจของท่องดังเบาๆระหว่างทางเดินมาชายหาด ดังถี่จนสุดท้ายที่เดินมาด้วยกันต้องถามด้วยความสงสัย
   “ท่องเป็นไรอ่ะเนี่ย  ถอยหายใจซะ”
   “ไอ้สุดท้าย... ถ้าเกิดว่าอยู่ดีดีพี่คนแรกของมึงอ่ะ... เงียบลงกว่าเดิม... หรือว่าไม่ค่อยเถียงเราเหมือนเคย  มันแปลว่าเขาเบื่อเราแล้วรึเปล่าวะ”
   “ไม่หรอกมั้ง แบบนั้นเราคงคิดว่าพี่คนแรกเหนื่อยล่ะมั้ง  ทำไมอ่ะ หรือว่าเป็นเพราะเที่ยว”สุดท้ายตบไหล่ปลอบใจเพื่อนเบาๆ ทิ้งให้ท่องอยู่ในโลกส่วนตัวเพียงคนเดียว... เขากลัว... ว่าเที่ยวจะเบื่อที่เขาอ่อนแอ เขาจึงพยายามทำตัวให้เข้มแข็งกว่าเดิม เขากับเที่ยวก็คบกันมาเกือบจะห้าปีแล้ว ถึงจะเบื่อกันบ้างก็ไม่แปลก  แต่เขาคงทำใจไม่ได้... ถ้าต้องเลิกกับเที่ยวจริงๆ...
   และในเวลาสิบเอ็ดโมงตรง เหล่าทโมนทั้งสิบก็มารวมตัวกันที่ชายหาดเป็นที่เรียบร้อย...   เหมันต์เสนอตัวเป็นสารถีขับรถพาทั้งหมดไปหาอะไรกินกันที่ร้านใกล้ๆริมหาด  บรรยากาศตอนเที่ยงทำให้น้ำทะเลสะท้อนแสงแวววาว... สวยจนเกินบรรยาย  อาหารหลายชนิดถูกทยอยนำมาเสิร์ฟ  และผู้ชายทั้งสิบคนก็เลิกสนใจทุกสิ่งอย่าง มุ่งทำให้ตนเองอิ่มท้องโดยเร็ว
   หลังทานอาหารเสร็จ... คิมหันต์  คนแรก สุดท้าย  เมฆ   ท่อง  และปักษา ขอไปเล่นน้ำทะเล  และให้คนที่เหลือไปหาซื้ออาหารทะเลมาเพื่อทำอาหารกินในช่วงเย็นจนถึงค่ำ...  และนี่ก็เป็นเวลาเริ่มแผนการหรรษาที่ฝ่ายรุกทั้งหลายเตรียมเอาไว้เซอร์ไพรส์แฟนที่รักของตนเอง  โดยทิ้งพี่คนแรกเอาไว้ให้คอยดูแลแทนไปก่อน... ก็แต่ละคนน่าไว้ใจที่ไหน เผลอเมื่อไรผู้ชายเข้ามาหากันให้ตรึม เอ่อ... ยกเว้นปักษาไว้คน รายนั้นน่ะ ผู้หญิงพรึบ! ซึ่งไม่ได้ทำให้ต้นน้ำรู้สึกดีเลยสักนิด...

   เมื่อช่วงเย็นผ่านมาถึง พวกหน้าหวานทั้งหลายก็ต้องแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของแฟนตัวเอง...  ละปักษากับต้นน้ำไว้ในฐานที่เข้าใจ เพราะสองคนนี้มันสลับหน้าตากัน...  วงอาหารเริ่มกร่อยเมื่อไรมีใครเริ่มคุยอะไร แม้แต่คนแรกที่นั่งแกะปูแกะกุ้งให้สุดท้ายก็ยังนั่งซึมไม่พูดไม่จา
   “พี่คนแรก... เป็นอะไรรึเปล่าไม่สบายเหรอ”สุดท้ายหมดความอดทนเป็ฯคนแรก  พี่คนแรกส่ายหน้าแล้วตั้งหน้าตั้งตาแกะเนื้อสัตว์ให้คนข้างๆต่อไป  ยิ่งเที่ยวกับท่องยิ่งแล้วใหญ่ เมื่อไม่มีใครพูดอีกฝ่ายก็ยิ่งเงียบจนเหมือนไม่ได้มากด้วยกัน...
   “กูไปฉี่ก่อนนะ”เสียงเหมันต์บอกก่อนจะลุกออกจากวงอาหารโดยมีน้ำฝนกับต้นน้ำเดินตามไป...  วงอาหารยังคงเงียบเหมือนเดิมแม้จะเริ่มเปลี่ยนเป็นวงเหล้าแล้วก็ตาม... 
   “ไอ้ต้นน้ำมันไปนานเกินแล้วนะ... เดี๋ยวกูไปตามก่อน”เที่ยวบอกก่อนจะลุกออกไป
   “พี่ไปด้วย”เสียงพี่คนแรกบอกก่อนจะละมือจากการแกะอาหารให้สุดที่รัก...  ตอนนี้ทั้งวงเหลือเพียงเหล่าเคะผู้น่าสงสารที่ยังไม่รู้ชะตากรรมต่อไปของตัวเอง...
   “เฮ้ย!”พี่ปักษารับขวดพลาสติกที่ถูกโยนมาจากทีไกลๆ ขวดนั้นเกือบโดนหัวของเมฆที่นั่งเหม่ออยู่  ปักษามองในขวดที่มีกระดาษม้วนๆเอาไว้อยู่  ก่อนจะเทมันออกมาคลี่ดู  กระดาษมีทั้งหมด 5 แผ่น คนที่เหลือต่างตีวงให้แคบลงเพื่อนั่งอ่านข้อความในนั้น
   ‘ คิม... พี่รักคิมนะครับ ’ ลายมือที่คุ้นตา คิมหันต์ถึงกับน้ำตาคลอ  และร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร
   ‘ ท่อง... กูรักมึงนะ ’ ท่องปล่อยโฮต่อจากคิมหันต์ไปติดๆและทุกคนก็มีสภาพไม่ต่างกันเมื่อข้อความในกระดาษเป็นคำบอกรักตนเอง  จะยกเว้นก็แต่... ปักษาที่นั่งนิ่งแล้วพลิกกระดาษกลับไปกลับมาดู
“นี่... มาดูนี่สิ”ด้านหลังกระดาษแต่ละใบมีแผนที่คร่าวๆถูกเขียนเอาไว้  ทั้งห้าเงยหน้ามองกันเลิกลั่ก  ก่อนที่ปักษาที่มีสติดีที่สุดในที่นี้จะบอกกับทุกคน
“ผมไม่รู้ว่ามีอะไร... แต่รู้สึกว่าพวกเราคงต้องออกไปตามหาสิ่งที่อยู่ในแผนที่กันซะแล้วล่ะ”ทุกคนพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ  คนที่หน้าซีดที่สุดคงไม่พ้นท่อง ที่กำลังเป็นห่วงคนที่หายไปอย่างมาก...  จะเป็นอะไรรึเปล่านะ...
“งั้นจะเอายังไง ไปหาทีละคนหรือแยกกันไป”ปักษาถามความเห็นซึ่งคิมหันต์ก็หันมาตอบคนแรก
“ผมไปคนเดียวได้ครับ... ถ้ารอคนอื่นไปพร้อมกันเดี๋ยวพี่เหมันจะมีอันเป็นไปซะก่อน”ยิ้มขำกับคำแช่งตัวเองแม้ในใจจะเป็นห่วงมากขนาดไหนก็ตามที...  ท่องลุกตามมาติดๆก่อนจะตอบด้วยคำตอบเดียวกับคิมหันต์
“ ผมเองก็ไปคนเดียวดีกว่า... เห็นแบบนี้ผมก็เก่งนะครับ”ยิ้มแม้จะมีคราบน้ำตาบนหน้า... ทำเอาหนุ่มๆที่แอบมองอยู่รู้สึกผิดขึ้นมาทันที  แต่เพื่อความรักแล้ว ทุกคนพร้อมจะยอมมองคนรักร้องไห้ดีกว่า... หรืออาจจะมีแค่บางคน... ที่คิดว่าโผล่ไปตอนนี้คงตายแหง ข้อหาเล่นพิเรนทร์จนทำให้คนอื่นเป็นห่วง... รอกล่อมทีหลังดูจะเข้าท่ากว่า  และแล้วภารกิจด่านแรกก็เริ่มต้นขึ้นโดยมีฝ่ายหนุ่มๆคอยเดินตามคนรักตัวเองอยู่ไม่ห่าง... ห่วงเหมือนกันนั่นแหละใครว่าไม่ห่วงเล่า!
“พี่น้ำฝน... ทำไมพี่ปักษาเพื่อนพี่ดูจะไม่เสียอกเสียใจที่ผมหายไปเลยล่ะ”ต้นน้ำพูดเสียงเศร้า เขามองคนรักคนอื่นร้องไห้กันระงม ผิดแต่แฟนตัวเองที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดแล้วพูดปลอบคนอื่นอยู่ได้ หึงเฟ้ย!
“เอาหน่า... ไอ้น็อตมันก็เงี้ยะแหละ  ที่จริงมันเป็นห่วงเราจะตาย  ไปเถอะ... ดูสิ พวกนั้นเริ่มออกตามหาเรากันแล้วนะ”น้ำฝนบอกก่อนจะออกเดินตามหลังเมฆไปโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว...  ส่วนต้นน้ำก็ได้แต่เดินตามปักษาไปหงอยๆ  ช่วยแสดงความเป็นห่วงให้ผมเห็นหน่อยจะได้มั๊ยคร้าบบบพี่ปักษาที่เข้มแข็งของผม...

ทางด้านคนแรกที่เดินตามสุดท้ายไปอย่างเงียบๆจนเกือบถึงท้ายหาด...  ร่างของสุดท้ายก็ทรุดนั่งลงกับพื้นทรายก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างไม่สนใจใคร...
“พี่คนแรก... ไหนพี่บอกจะรักผมเป็นคนสุดท้ายไง แล้วพี่หายไปไหนล่ะ  พี่ปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวได้ยังไง”เสียงโฮที่ดังออกมาทำให้คนแรกเผลอตัวเกือบจะเดินออกไปแล้วเชียว... ถ้าไม่ได้มือของเที่ยวที่กำลังเดินตามท่องแตะไหล่เอาไว้แล้วส่ายหน้าเป็นเชิงห้ามเบาๆ... พี่คนแรกพยักหน้าแทนคำขอบคุณก่อนที่เที่ยวจะเดินตามคู่ของตัวเองที่กำลังลุยเข้าไปในพงไม้รกๆ...


-------------------------------------------------------------------------------------------

แต่งจบแล้ว  แต่ไม่อยากรีบลง  ขอโทษที่มาอัพช้านะครับ

แบบ... เพิ่งกลับมาจากซ้อมบาส  เหงื่อซกเชียว...

ลุ้นรอประกาศผลค่าย ปรากฎว่าติด  ดังนั้น20-22ผมคงไม่มาอัพ  แต่เดี๋ยวจะกลับมาอัพย้อนหลัง...

ปล.ขอสักสามเม้นท์ในคืนนี้ พรุ่งนี้เช้าจะรีบอัพเลย ถ้าไม่ถึงก็รอเย็นๆดึกๆซะ!!
ปลล.+เป็ดให้จะเป็นพระคุณมากครับ
ปลลล.ขอบคุณที่หลงมาอ่านนะครับ...
ปลลลล.รักคนอ่านทุกคนฮับ   :L1: :L1:

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
:angry2: อย่าทำให้ค้างแล้วจากไปนะ
เด่วเจอดีแน่ๆๆคนเขียน :fire:

ออฟไลน์ ekuto

  • ถ้าวันไหนไม่เข้ามาในเล้า วันนั้นเหมือนชีวิตขาดบางอย่าง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 605
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-5
มาต่อเร็วนะครับ

เพิ่งตามอ่านทัน แอบอิจฉานิดๆที่คนเขียนมีเวลาแต่ง. ไม่เหมือนเรางานยุ่ง อยากแต่งเรื่องต่อแต่ไม่ว่าง

เป็นกำลงใจให้+เป็ด

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
                                                                          เรื่องที่12

                                                                   คำว่ารัก... ก็แค่เนี๊ยะ!! 2


              ทางด้านคนแรกที่เดินตามสุดท้ายไปอย่างเงียบๆจนเกือบถึงท้ายหาด...  ร่างของสุดท้ายก็ทรุดนั่งลงกับพื้นทรายก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างไม่สนใจใคร...
“พี่คนแรก... ไหนพี่บอกจะรักผมเป็นคนสุดท้ายไง แล้วพี่หายไปไหนล่ะ  พี่ปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวได้ยังไง”เสียงโฮที่ดังออกมาทำให้คนแรกเผลอตัวเกือบจะเดินออกไปแล้วเชียว... ถ้าไม่ได้มือของเที่ยวที่กำลังเดินตามท่องแตะไหล่เอาไว้แล้วส่ายหน้าเป็นเชิงห้ามเบาๆ... พี่คนแรกพยักหน้าแทนคำขอบคุณก่อนที่เที่ยวจะเดินตามคู่ของตัวเองที่กำลังลุยเข้าไปในพงไม้รกๆ...

“เที่ยว... มึงอยู่ไหน... ออกมานะเที่ยว มึงรู้มั๊ยว่ากูกลัวน่ะ  เที่ยว... ถ้ามึงไม่ออกมากูโกรธจริงๆนะ”เสียงของคนที่เที่ยวกำลังเดินตามดังจนเที่ยวสะดุ้งนึกว่าอีกฝ่ายรู้จริงๆว่าเขาตามมาอยู่
“เที่ยว... มึงเกลียดกูแล้วใช่มั๊ย  กูไม่มีค่าพอให้มึงรักแล้วสินะ... ช่างแม่งเหอะ  ถึงมึงไม่รักกู กูก็จะรักมึงคนเดียวก็ได้”เสียงหัวเราะแผ่วๆปนเสียงสะอื้นทำให้เที่ยวอยากเดินไปฉุดคนข้างหน้ามาจูบซะให้เข็ด คิดได้ไงว่าเขาไม่รักน่ะ... ถ้าไม่รักแล้วจะยอมอยู่เงียบๆ ไม่ทะเลาะยอมอยู่เงียบๆทั้งๆที่ตัวเขาเองก็เป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆแบบนี้น่ะเหรอ... บ้าจริงเชียว  จบเกมนี้เมื่อไรมีเคลียร์กันยาวแน่...

“พี่เหมันต์!!”เสียงตะโกนดังจากอีกฟากของหาดทำให้เที่ยงเผลอหันไปมอง... ไอ้คู่นั้นก็คงจะรักกันดีสินะ  เที่ยงคิดโดยไม่รู้เลยว่าไอ้คู่ที่คิดว่ารักกันดีน่ะ... ตอนนี้แฟนที่รักกำลังพร่ำบ่นถึงความยากลำบากที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้อยู่ตลอดเวลา
“แม่ง! ถ้าเจอนะไอ้พี่ว๊ากชั่วร้าย  เกลียดมึงที่สุดเลย  รู้มั๊ยว่าสุดท้ายใครต้องมาลำบากลำบนตามหาเนี่ย แล้วอะไรวะ คำที่เขียนให้  คิม... พี่รักคิมนะครับ เฮอะ!  รักจริงแล้วหายหัวไปไหนวะ... ไอ้พี่ฤดูหนาว  อยู่ไหนวะเนี่ย”เสียงโหวกเหวกโวยวายทำให้คนที่เดินตามมาต้องกลั้นขำแทบเป็นแทบตาย...  แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมองเห็นใบหน้าของคนที่กำลังบ่นชัดๆ มันเต็มไปด้วยหยดน้ำตาที่ไหลไม่หยุด  เขาลืมไป... คิมหันต์เองก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง  ถึงจะแสบแค่ไหน แต่ข้างในก็ยังอ่อนแออยู่ดี...  เหมันต์ตบแก้มตัวเองเบาๆเรียกสติไม่ให้เดินเข้าไปปลอบคนที่ร้องไห้อยู่... อีกนิดนะคิม... แล้วพี่จะเข้าไปปลอบให้เราไม่ต้องเสียน้ำตาอีกเลย...

น้ำฝนที่เดินตามเมฆมาช้าๆ  คนตัวอวบเดินฮัมเพลงไป  ความเงียบทำให้ได้ยินเสียงใบไม้ไหว...  ยิ่งเดินน้ำฝนก็เริ่มรู้สึกว่าคนข้างหน้าเดินช้าลงๆ จนแทบจะเดินแบบเท้าต่อเท้าเล่น...
“พี่น้ำฝนครับ  ผมรักพี่น้ำฝนนะครับ”พูดขึ้นมาลอยๆจนเจ้าของชื่อสะดุ้งคิดว่าโดนจับได้ซะแล้ว แต่เมฆที่เริ่มเดินเร็วขึ้นเรื่อยๆก็ทำให้น้ำฝนต้องเดินตามไปติดๆ 
“ต้นมะพร้าว... เลี้ยวขวา”เสียงอ่านแผนที่ดังเบาๆ ก่อนที่คนที่เดินมาถึงต้นมะพร้าวจะเลี้ยวเข้าซอยเล็กๆ  ลัดเลาะไปตามแผนที่เรื่อยๆ  น้ำฝนอยากเดินไปบอกคนที่คนเองเดินตามมามากเลยว่า... ไอ้ทางที่เจ้าตัวเดินมาน่ะ มันผิด!
“ผมรู้นะ... ว่าพี่น้ำฝนน่ะ เก่งมาก ถึงผมจะไปช้า... พี่ก็คงไม่เป็นอะไรใช่มั๊ย”เสียงเบาๆดังขึ้นมา... ถ้าน้ำฝนมองเห็นใบหน้าของเมฆตอนนี้ก็คงจะรู้ว่าประโยคเมื่อกี้เป็นประโยคที่เมฆใช่ปลอบใจตัวเอง  ดวงตาเศร้าๆมองไปยังท้ายซอยที่มืดมิด  แล้วเขาจะไปยังไงต่อ...
“พี่น้ำฝน... ผมขอโทษนะครับ”แล้วคนที่พูดก็หันหลังวิ่งกลับออกมาอีกทางจนน้ำฝนหลบเกือบไม่ทัน  เจ้าตัววิ่งมาหยุดยืนที่หน้าปากซอยใหม่อีกครั้งแล้วหมุนรอบตัวเอง... 
“พี่น้ำฝน พี่น้ำฝน พี่น้ำฝน”ครบสามรอบ เมฆหยุดหมุนแล้วเดินเข้าซอยที่ตัวเองยืนอยู่ตรงหน้าอย่างมั่นใจ  ต่อไปนี้... ก็ขอให้มันเป็นเรื่องของหัวใจแล้วกันนะครับ... ผมหวังว่าหัวใจของผมกับพี่ เราจะสื่อถึงกันได้ใช่มั๊ยครับ พี่น้ำฝน  คนที่แอบมองถอนหายใจแล้วยิ้มขำๆ ไม่น่าเชื่อว่าทางที่เมฆเลือกนั้นจะเป็นทางที่ถูกต้อง...

ทางด้านต้นน้ำที่เดินตามปักษามา ยิ่งเดินก็ยิ่งท้อ... ไม่มีทีท่าว่าพี่ปักษาของเขาจะรู้สึกคิดถึงเขาเลยสักนิด... ยังคงก้าวเดินฉับๆ ปีนเข้านู่นออกนี่จนเขาเกือบตามไม่ทัน...  โดยที่ต้นน้ำไม่มีทางรู้หรอกว่า... ที่ปักษาปีนเข้านู่นออกนี่อยู่บ่อยๆก็เพราะตั้งใจจะไปหาคนที่เดินตามมาอยู่นั่นแหละ ความร้อนรนในใจก่อตัวขึ้นโดยที่ไม่มีใครรู้... ตอนนี้ถ้าปักษาไม่มีสติพอก็คงเป็นที่พึ่งให้คนอื่นๆไม่ได้ แม้จริงๆแล้วเขาจะอยากร้องไห้มากแค่ไหนก็ตามทีเถอะ...
“พี่ปักษา... พี่เป็นห่วงผมใช่มั๊ย  ผมขอให้เป็นแบบนั้นเถอะนะ”ต้นน้ำได้แต่ภาวนากับดวงดาวบนฟ้าเบาๆ ...

แอ๊ด~ 
ประตูบานเก่าๆถูกเปิดออกโดยร่างเล็กๆที่ก้าวเข้ามา  ก่อนจะสังเกตเห็นร่างๆหนึ่งนอนกองอยู่กับพื้น  ร่างเล็กถลาเข้าไปทันที
“พี่คนแรก”ร่างหนาถูกพลิกตัวให้ขึ้นมานอนบนตักของอีกฝ่าย  ริมฝีปากมีรอยแดงจากน้ำยาอุทัยทิพย์ที่น้ำฝนอุตส่าห์ไปหาซื้อมา ตบแต่งอย่างแนบเนียน  คนแรกแกล้งทำเป็นปรือตาขึ้นช้าๆ  ก่อนจะยิ้มออกมา
“อะไรครับคนดี... ไม่ร้องแล้วนะ  พี่ไม่เป็นอะไรสักหน่อย”แกล้งสำออยยันตัวลุกขึ้นมาแล้วทรุดลงไปอีกครั้งให้คนที่นั่งอยู่เป็นห่วงเล่นๆ
“พี่คนแรก... เดี๋ยวผมช่วยพี่ดีกว่า”ปาดน้ำตาทิ้งลวกๆก่อนจะก้มไปพยุงร่างหนา...  คนแรกแอบกดโทรศัพท์ส่งสัญญาณไปให้น้ำฝนที่กำลังรอแฟนตัวเองมาเจอ ก่อนจะยอมให้สุดท้ายพยุงตัวเองออกไป...
“พี่น้ำฝน”เมฆถลาตัวเข้ามาหาคนที่นั่งพิงต้นมะพร้าว อยู่ในสภาพที่เสื้อผ้าคลุกฝุ่นจนเละเทะ  พลิกตัวคนที่นั่งรออยู่ไปมาอย่างเป็นห่วง ซึ่งน้ำฝนก็ใส่ลูกเล่นให้เต็มที่โดยการร้องโอ๊ยตอนที่เมฆจับไปที่แขน
“พี่น้ำฝน... เจ็บแขนเหรอ  เป็นอะไรรึเปล่า กระดูกหักมั๊ย”เมฆถามอย่างเป็นห่วง  น้ำฝนส่ายหน้า
“ไม่หรอก... แค่ระบบน่ะ  แต่พี่ลุกไม่ไหวเลยแฮะ”อ้อนอีกนิดให้เมฆช่วยมาพยุง   และก็สำเร็จไปอีกราย...  ร่างของน้ำฝนยิ้มให้กับตัวเองก่อนจะหันไปสูดดมกลิ่นที่คุ้นเคยของคนรัก...
“พี่เหมันต์”คิมหันต์อยู่ในสภาพไม่ต่างกันเมื่อเห็นร่างสูงเดินโงนเงนออกมาจากซอยแคบๆ เสื้อผ้าขาดหลุดลุ่ย  คิมหันต์วิ่งเข้าไปพยุงร่างที่แกล้งจะล้มไม่ล้มแหล่ 
“พี่เห... ไม่เป็นไรใช่มั๊ยพี่”น้ำเสียงดีใจ... ไม่ใช่ที่เจอแฟนตัวเอง แต่ดีใจที่เหมันต์ปลอดภัย  ก่อนที่ทั้งสองร่างจะพากันแบกกันกลับไป  แต่ก่อนหน้านั้นเหมันต์ก็โทรส่งสัญญาณให้น้ำฝนเป็นที่เรียบร้อย  เสร็จไปอีกหนึ่ง...
ปักษาเดินไปตามทางในแผนที่จนถึงกำแพงเก่าๆ  ใต้แสงหลอดไฟมีร่างเล็กที่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น... ทำเอาใจของปักษาร้าวไปทั้งแถบ
“ต้นน้ำ...ไม่เป็นไรแล้วนะ  ไม่เป็นไรแล้ว”ปักษาวิ่งเข้าไปโอบกอดก่อนจะพยุงอีกฝ่ายเข้ามาสำรวจความเสียหาย  โชคดีที่ต้นน้ำไม่เป็นอะไรเลย...  นอนจากที่เจ้าตัวบอกว่าโดนโปะยาสลบแล้วเอามาทิ้งไว้ตรงนี้... มันดูไม่ค่อยน่าเชื่อเท่าไร แต่ในยามที่ปักษาเป็นหัวคนรักมากนั้น เขาเองก็ไม่มีเวลามาคิดอะไรทั้งนั้นแหละ...  แล้วก่อนที่ปักษาจะอุ้มต้นน้ำกลับไป คนเจ้าเล่ห์ก็ส่งสัญญาณไปให้น้ำฝนที่รออยู่เรียบร้อยโรงเรียนไอ้ต้นน้ำ...

“ไอ้เที่ยวนะ.. มึงอยู่ไหนวะเนี่ย”คู่สุดท้ายที่ตามหายังไงก็ไม่เจอ... 
“ท่อง... กูอยู่นี้”เสียงแผ่วๆทำให้ท่องวิ่งตามไปทันทีแล้วพบกับเที่ยวที่ยืนพิงเสาไฟฟ้าอยู่  ร่างของเที่ยวเต็มไปด้วยบาดแผลที่เจ้าตัวกล้าลงทุนถึงขนาดให้เหมันต์ชกสักสองสามครับแล้วก็เดินหกล้มให้เป็นแผลเล่นซะงั้น  ก็นะ... ถ้าไม่ลงทุนขนาดนี้ มีหรือที่ไอ้ตาเหยี่ยวอย่างท่องมันจะจับไม่ได้น่ะ
“เที่ยว... กู... กูตามหามึงตั้งนาน... กูนึกว่ามึงเป็นอะไรไปซะแล้ว”น้ำตาพร่างพรูจนมองแทบไม่เห็ฯความสวยงามบนใบหน้า  เที่ยวปาดน้ำตานั้นเบาๆก่อนจะยิ้มให้...
“กูไม่เป็นไรหรอก...  กูถึกจะตาย มึงไม่รู้เหรอ ไม่งั้นตอนปี1กูคงไม่ท้าพี่คนแรกลุกนั่งตั้ง180ทีแทนใครบางคนหรอก”พูดไปก็เจ็บปากไป คนอื่นเขาหาวิธีเจ็บตัวง่ายๆกันทั้งนั้น ยกเว้นเขานี้แหละ...
“ไอ้บ้า... มา กูช่วยพยุงมึงเองนะ”แล้วร่างบางก็สอดตัวเองเข้าใต้วงแขนของคนที่ยืนรออยู่... นิ้วเรียวแอบกดโทรศัพท์ส่งไปถึงพี่น้ำฝนแล้วเก็บมันลงเครื่องอย่างอารมณ์ดี...
ทั้งห้าคู่สิบคนทยอยกันมาถึงบังกะโลที่พัก...  หนุ่มๆแต่ละคนต่างยิ้มให้กัน แล้วนั่งกอดสุดที่รักของตัวเองกันไป... ใครว่าแผนของน้ำฝนมีแค่นี้  พวกคุณคิดผิด... แผนที่สองมันกำลังจะเริ่มต่อจากนี้ไปต่างหากล่ะ!!!

เมื่อถึงเวลาปฏิบัติการณ์ขั้นที่สอง เหล่าเมะที่ส่งซิกกันอยู่พักใหญ่ก็เริ่มทำตัวทยอยเจ็บทีละคนสองคน  เนียนมากกกก....  เหล่าเคะที่สายตาดีไปนิดหนึ่งเลยช่วยกันพยุงให้เข้าไปในบังกะโล ซึ่งผู้ชายทุกคนเสนอว่าขอไปนั่งในบังกะโลของเหมันต์ดีกว่า... ทำไมต้องไปน่ะเหรอ... เซอร์ไพรส์แผนสองรออยู่น่ะสิ
ปุ้ง!
สายรุ้งที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ตอนที่เมะน้อยๆทั้งหลายไปซื้ออาหารถูกจัดไว้อย่างดีในบังกะโลหลังนี้  เค้กช็อคโกแลต  เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลทุกประเภทมาครบจนเกือบกลายเป็นปาร์ตี้ย่อมๆ....
“อ๊ะ... อะไรเนี่ย”เสียงเมฆร้องเรียกสติทุกคนกลับมา  ต่างคนต่างมองหน้าคู่ตัวเองแล้วผู้ชายหน้าหล่อทุกคนก็ได้แต่หัวเราะขำๆ  กับการเซอร์ไพรส์แฟนที่รักของตัวเอง...
“อย่าบอกนะ... ว่าตั้งแต่แรกน่ะ... มันเป็นแผน”เสียงเย็นเยียบจากเด็กเล็กของกลุ่มพูด  เหมันต์เห็ฯท่าไม่ดีโอบกอดตัวเล็กเอาไว้ในอ้อมอกทันที...
“โอ๋! แล้วไม่เซอร์ไพรส์เหรอครับ”ยิ้มหวานเอาตัวรอด  ก่อนจะได้เสียงดังตุบเบาๆเพราะคนในอาณัติทุบไหล่เบาๆ  เหมันต์หันมายักคิ้วให้คนอื่นแล้วเดินพาคิมน้อยไปหาอะไรกิน รอดตัวไปหนึ่งราย... ถัดมาก็ปักษาที่ก้มมองคนที่ตัวเองพยุงมาแล้วก้มลงไปดีดหน้าผากเบาๆทีหนึ่ง
“โอ๊ย!”
“โกหกผู้ใหญ่ นิสัยไม่ดีนะ”ว่าแล้วก็จูงมือต้นน้ำไปหาอะไรทานตามเหมันต์กับคิมหันต์ เหลือสามคู่ให้มาเคลียร์กันทีหลัง
“พี่น้ำฝน”เสียงเข้มๆดังขู่ทำให้น้ำฝนรีบฉกโอกาสจูบปากบางทันที  เมื่อเมฆหลุดมาได้ก็ก้มหน้าก้มตา  ถูกจูบต่อหน้าคนอื่น น่าอายไม่ใช่น้อย... รอดไปได้ด้วยดี  กอดคอโอบเอวกันไปป้องเค้กช็อคโกแลตอย่างสบายอุรา  มาถึงคิวคนแรกกับสุดท้าย ที่ดูท่าพี่คนแรกจะถูกน้องสุดท้ายงอนเอาไม่ใช่น้อย
“โอ๋ๆ  อย่างอนนะครับ  พี่กะทำเซอร์ไพรส์เราไง ถึงต้องมีเวลาสักหน่อย ไม่งั้นพี่จะมาจัดยังไงให้ทัน”พี่คนแรกแหลสุดขีด  ไอ้ของพวกนี้น่ะ... เหมันต์กับคนอื่นวิ่งมาจัดกันตั้งแต่ตอนขอตัวออกมาเข้าห้องน้ำแล้ว  แต่ด้วยความเนียนเรียกพ่อทำให้สำเร็จไปอีกราย  เหลือคู่สุดท้ายที่ยังดูบรรยากาศอึมครึมพิกล...
“เที่ยว... ทำไมต้องแกล้งเรา”ท่องเริ่มเปิดประเด็น...
“ก็จะทำให้เซอร์ไพรส์ไง  ไม่ชอบเหรอ”
“รู้ไหมเราใจหายขนาดไหน ตอนที่เที่ยวหายไปน่ะ”เสียงสั่นเครือทำให้อีกคนใจหายวาบ...  ทำไมต้องร้องไห้ต่อหน้าเขาอีกแล้ว...  ร่างสูงรวบตัวท่องเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด  เช็ดน้ำตาที่เอ่อขึ้นมาเบาๆ
“ขอโทษนะครับ... สัญญา ต่อจากนี้จะไม่ทำให้ท่องต้องเสียน้ำตาอีกแล้วนะ”ร่างสูงก้มลงกระซิบเบาๆที่ข้างหูก่อนจะดึงคนในอ้อมกอดให้นั่งลงกับพื้นห้องในมุมเงียบๆ ปล่อยอีกสี่คู่ที่คืนดีกันแล้วให้ไปฉลองกลางบ้านพัก
“รอก่อนนะ เดี๋ยวเที่ยวไปหาอะไรมาให้กิน”รอยยิ้มที่อบอุ่นทำให้ท่องน้ำตาซึมอีกครั้ง  เที่ยวเดินกลับมาพร้อมเค้กกับน้ำโค้กเปล่าๆไม่ได้ผสมแอลกอฮอล์ล อารมณ์ตอนนี้ของเขากับท่อง คงไม่มีใครดื่มลง  เที่ยวใช้ส้อมตัดเค้กก่อนจะป้อนเข้าปากของท่องที่รับไปเคี้ยวช้าๆ แต่ยังไม่หันมาคุยกับเขาอยู่ดี
“ท่อง”เค้กช็อกโกแลตถูกงับเอาไว้เบาๆที่ปากของเที่ยว  เรียกร้องให้คนที่นั่งข้างๆมารับมันไป...  ริมฝีปากบางค่อยๆงับเค้กช็อกโกแลตจากอีกฝ่ายมาเคี้ยวช้าๆเหมือนเดิม   เที่ยวขยับตัวไปนั่งด้านหลังก่อนจะเอาคางเกยกับไหล่ของท่อง
“รู้มั๊ย... ตอนที่ท่องตามหาเที่ยวน่ะ  เที่ยวเดินตามอยู่ตลอดเลยนะ”ร่างสูงล็อคตัวคนในอ้อมกอดให้อยู่นิ่งๆก่อนจะพูดต่อ
“ได้ยินใครบางคนบอกด้วยว่าเที่ยวไม่รักเขาแล้ว”เสียงหัวเราะแบบจืดจางดังเบาๆ ก่อนจะพูดตอบเนิบๆ
“ท่องรู้มั๊ย  เที่ยวน่ะไม่เคยรักใครเท่านี้มาก่อนเลยนะ  และไม่มีวันที่จะเลิกรักคนๆนี้เด็ดขาดด้วย... ถ้าไม่มีเขา เที่ยวก็คงไม่อยากจะอยู่ต่อไปหรอก... ห้าปีน่ะ... ไม่ใช่จะผ่านมาได้ง่ายๆนะ  อุปสรรคมากมายที่เราสองคนฝ่าฟันมันมาด้วยกันน่ะ มันยังไม่พิสูจน์ให้เห็นอีกเหรอ... ว่าเที่ยวให้ความสำคัญกับท่องขนาดไหน”เสียงพูดคลอกับเสียงสะอื้น  ท่องพลิกตัวหันกลับมาก่อนจะก้มลงจูบปากของเที่ยวไว้แน่น
“พอแล้ว... เที่ยว... ท่องรู้แล้ว ท่องมันโง่เอง  ไม่ต้องพูดแล้วนะ”น้ำตาของทั้งคู่ไหลปนกัน  ต่างฝ่ายต่างเช็ดน้ำตาให้กัน  น้ำตาแห่งความเข้าใจที่ทั้งคู่มอบให้กัน...

ทางคู่ที่เหลือตอนนี้ก็ซัดเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เป็นว่าเล่น  เปิดปั๊บหมดปุ๊บ จนเปิดต่อแทบไม่ทัน...   ไม่รู้ว่าเอาไปกินหรือเอาไปอาบกันแน่  แต่ที่รู้ๆคนคออ่อนอย่างสุดท้ายน่ะ...  เสียงอ้อแอ้อยู่ในอ้อมกอดของพี่คนแรกแล้วล่ะ...   คิมหันต์กับเหมันต์ คอแข็งทั้งคู่ มีเหล้าเมื่อไรเป็นท้าดวล  และคราวนี้ก็ไม่ต่างจากดื่ม ซดกันเหมือนน้ำเปล่าจนรู้สึกเปลืองเหล้าตะหงิดๆ ต้นน้ำ เมฆา ปักษา แล้วก็น้ำฝน ตั้งวงเล็กๆค่อยๆกินค่อยดื่ม  ดูจะเป็นกลุ่มที่เข้าท่าที่สุดแล้ว... ต้นน้ำเอาหัวลงไปหนุนตักปักษาก่อนจะกอดเอวอีกฝ่ายเอาไว้หลวมๆ อ้าปากบอกว้าจะกินอะไร สิ่งนั้นก็จะมาประเคนถึงริมฝีปากทันที...
   “อร่อยจัง”ปากเล็กๆงับนิ้วของปักษาที่เอาคุกกี้มาป้อนจนอีกฝ่ายต้องชักมือหนีแล้วตีเข้าที่หน้าผากเขาดังแปะ!  เจ็บมากกก...ต้นน้ำพลิกไปมาก่อนจะร้องโอดครวญ
   “โอ๊ย! เจ็บ  เจ็บมากเลย  ตีมั๊ยเนี่ย”เมฆที่นั่งอยู่ข้างๆชักรู้สึกอยากมอบรางวัลตุ๊กตาทองคำสาขาตอแหลดีเด่นให้เพื่อนสนิทตัวเอง...  ปักษาหัวเราะแล้วก้มลงมาเป่าหน้าผากให้คนที่ร้องครวญทีเดียว... หายเลย 
   “อิจฉาเหรอ”เสียงกระเส่าเบาๆทำให้เมฆหันไปส่ายหน้าพรืด
   “เปล๊า... ใคร ไม่มี๊”เมฆจ๋า... ไอ้อาการแบบนี้น่ะ แถวบ้านพี่น้ำฝนเขาเรียกซึนเดเระนะจ๊ะ...  น้ำฝนหัวเราะก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มก่อนจะประกบจูบกับเมฆปล่อยน้ำสีอำพันให้ไหลลงคออีกฝ่าย
   “อืม...”ดูเหมือนจะลามปามไปมากกว่าเดิมเมื่อเมฆโน้มคอพี่น้ำฝนให้ลงมาจูบต่ออีกครั้ง  แล้วน้ำฝนก็ได้โอกาสแยกวงกลับบังกะโลของตัวเองทันที...
   “พี่น็อต... รักนะ”พูดเบาๆให้ได้ยินกันสองคนก่อนจะได้การหอมแก้มแทนคำขอบคุณ... 
   “คราวหน้าไม่ต้องทำเซอร์ไพรส์พี่แบบนี้แล้วนะ รู้มั๊ยว่าพี่เป็นห่วงเราขนาดไหน ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย”สียงหัวเราะขำๆของต้นน้ำดังขึ้น  ก่อนจะตามมาด้วยกันจูงมือกันเดินกลับบังกะโล  พร้อมๆกับคนแรกที่อุ้มสุดท้ายกลับบ้านพักตัวเอง 
   “ไอ้เที่ยว มึงกลับได้แล้ว กูจะอยู่กับคิม”เหมันต์ส่งเสียงไล่เพื่อนตัวเองที่สวีทกันจนมดอิจฉา  เที่ยวหัวเราะขำๆก่อนจะแบกท่องขึ้นหลังพาลงไปวิ่งเล่นที่ชายหาด  เนื่องด้วยทั้งคู่ไม่ได้กินเหล้า นอกจากท่องที่กรึ่มๆรอก่อนหน้านั้น...
   “คิมครับ... ไม่มีใครอยู่แล้ว  ไปนอนกันเถอะ”แล้วร่างของคิมหันต์ก็ลอยขึ้นหลังจากที่เหมันต์พูดจบ  ต่างคนต่างเข้าห้อง  มาเที่ยวทั้งที ถ้าไม่ทำอะไรกันบ้างก็ผิดกฎแก๊งค์หมดน่ะเซ่~!

   เช้าวันต่อมา... เหล่าเคะที่น่ารักทั้งหลายต่างหมดเรี่ยวแรงหลับกันอยู่ในห้อง ยกเว้นปักษาที่ออกมาเดินได้อย่างสบายอุรา...  น่าแปลกชะมัด  ทุกคนหันมองต้นน้ำที่ส่งสายตาประมาณว่า ‘ เค้าก็ทำน้า~ แต่พี่น็อตถึกเกินต่างหาก ’ อะไรประมาณนี้มาตอบให้ทุกคนฟัง   จนเมื่อสายมากแล้ว เคะผู้น่ารักจึงได้พาร่างกายที่บอบบางออกมาเสนอหน้าทีละคน  แต่ละคนก็นะ... พอจะรู้กันอยู่ว่าต้องผ่ายสมรภูมิอะไรมาเมื่อคืน แต่ก็ไม่มีใครโวยวายอะไร  ก็คนมันรักกันนี่หน่า...
   น้ำฝนลอบมองหน้าคุณผู้ชายสุดแสบทุกคนที่ยิ้มกริ่มนึกขอบคุณแผนของน้ำฝนอยู่ในใจ  จะมีใครรู้บ้างมั๊ยน้า~ ว่าไอ้แผนจริงๆของน้ำฝนน่ะ มันมีแผนสามอยู่ด้วย!

   ‘ คือว่า... ผมอยากลองทำแผนเซอร์ไพรส์แฟนๆพวกเราดู ดีมั๊ยครับ ’
   ‘ แล้วจะทำยังไงล่ะครับ ’
   ‘ เดี๋ยวเราออกไปซื้อของมาทำอะไรปิ้งกันตอนเย็น  ช่วงนี้ก็ให้พวกเราเงียบๆกันไว้เหมือนมีอะไรในใจกันไปก่อน พอผ่านไปสักพักก็ให้พวกเราหาเรื่องลุกกันไปทีละสองคนสามคน  จากนั้นเดี๋ยวช่วยเขียนความในใจที่อยากบอกที่รักของพวกคุณไว้ให้ผมคนละแผ่นนะครับ ’
   ‘ โอเคครับ ว่าต่อเลย ’
   ‘ จากนั้น ผมจะเขียนแผนที่ให้ที่รักของเราแต่ละคน  ให้ไปตามหาพวกเรากัน   พอตามหาเราเจอ เราก็พามาฉลองที่บังกะโลดีมั๊ย เดี๋ยวตอนที่ออกไปซื้ออาหารผมจะซื้อพวกเหล้าเค้กกับขนมอะไรพวกนี้เข้ามาด้วยเลย ’
   ‘ โดนฉุดจนหายกันไปหมดสินะ  น่าสนุกดี งั้นผมเอาด้วย ’ต้นน้ำบอกก่อนที่คนอื่นๆจะพยักหน้าทำตาม
   ‘ แผนตามหาพวกเราคือแผนหนึ่ง  เมื่อเจอกันแล้วให้โทรมาที่เครื่องผม ผมจะได้รู้ว่าใครพบกันแล้วบ้าง  แผนสองคือทำสำออยให้พาไปในบังกะโลของคุณเหมันต์ให้ได้  ส่วนแผนสาม... ’
   ‘ เฮ้ย! พวกเรามีแค่สองแผนเองไม่ใช่เหรอ ’
   ‘ ครับ แต่แผนสามน่ะ ต้องอาศัยเทคนิคส่วนบุคคล หลอกล่อกันเอาเอง มาเที่ยวทั้งทีพวกคุณไม่คิดจะทำอะไรเลยเหรอครับ ’ เสียงกรุ่มกริ่มทำให้เหล่าบรรดาทโมนร้องอ๋อไปตามๆกัน 
   ‘ นั่นแหละครับ แผนของพวกเรา... งั้นเริ่มแผนหนึ่งกันเลยนะครับ ’

จากนั้น... ก็ตามที่พวกคุณอ่านกันมานั่นแหละครับ  ^^


---------------------------------------------------------------------------------------

จบแล้วฮับ...

เหมือนจะเศร้า (แต่มันดันไม่เศร้า)  เรื่องนี้แน่นอนว่าเน้นฮาไม่เน้นสาระครับ

สำหรับเรื่องต่อไป...  ง่า... จะหมดสต๊อกล่ะ

เรื่องต่อไป  ขอเอาตอนพิเศษของพี่คนแรกน้องสุดท้ายมาลงแล้วกันนะครับ (อันเนื่องจากหน้ามีน้อย)

ดังนั้นแถมเรื่องของ คิมหันต์กับเหมันต์ลงพร้อมกันเลย2คู่!!!

ปล.+เป็ดๆๆ//ลงไปกลิ้ง เค้าจาเอาๆ :impress:

ปลล.เม้นด้วย ไม่เม้นงอน! เชอะๆ! :a14: :a14:

ปลลล.แล้วเจอกันฮับ... 


ร๊ากกกกกกกกกกกกกกกก...  ทุกคนเลยนะฮับ :3123: :3123:


ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
:laugh: ก๊ากกกกก ฮ่ามว๊วกกก
แต่ก็สงสารเหล่าเคะจังเจอแกล้งแรงไปนะ  :sad4:

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
น่ารักทุกคู่จริงๆ  o13

ออฟไลน์ funland

  • https://www.facebook.com/pew.pal
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
    • pew.pure
อ่านแล้วมีไรที่คิดไม่ถึงด้วยแหะ สนุกอ่ะ น่าร๊าก :o8: ทุกคู่เลย ขอบคุณนะค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ ekuto

  • ถ้าวันไหนไม่เข้ามาในเล้า วันนั้นเหมือนชีวิตขาดบางอย่าง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 605
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-5
น่ารักมากๆเลย +เป็ดให้แล้วครับ

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
                                                                         คำว่ารัก... ก็แค่เนี๊ยะ!!

                                                                          คิมหันต์Xเหมันต์

                                                                           พิเศ๊ษพิเศษ




            เคยคิดมั๊ยครับว่าวันๆหนึ่ง... คุณจะเจอคนที่ ‘ ใช่ ’ โดยที่คุณไม่ทันตั้งตัว... สำหรับผม... มันเป็นอะไรที่แปลกประหลาดเกินกว่าจะอธิบายได้เลยล่ะครับ  ผ่านมา20กว่าปีไม่เคยมีสักครั้งที่ผมจะชายตาแลเด็กผู้ชาย... แต่เพราะใครคนหนึ่ง ทำให้ผมที่คิดว่าตัวเองชอบผู้หญิงต้องยอมหักความคิดนั้นลงทันที... ไอ้เด็กบ้าที่เป็นฤดูร้อนสำหรับผม... แถมยังเป็นฤดูร้อนที่ใจร้อนสมชื่อเลยล่ะครับ 
   “ไอ้พี่เหที่ร๊ากกกก... วันนี้น้องคิมสุดหล่ออยากไปเที่ยว”มาแล้วครับ... ร่างเล็กๆที่เด็กกว่าผมแค่ปีเดียวแถมนิสัยก็กวนตีน พอๆกับพี่ชายข้างบ้านของมันล่ะครับ
   “งั้นไปสวนสยามมั๊ย”ผมถามแต่เจ้าตัวดีส่ายหน้า...
   “จะไปดูจระเข้ แฮ่!”เอากะเขาสิครับ มีแฮ่มาด้วย 
   “อี๋! พี่เห ทำไรวะ เค็มอ่ะ”เจ้าตัวดีทำหน้าเบ้เอามือเช็ดลิ้นตัวเองอย่างมันส์ครับ  หึหึ... ผมก็ไม่ได้ทำไรสักหน่อย แค่เอานิ้วป่ายลิ้นเอง ปกติก็เล่นกับเพื่อนอยู่แล้วล่ะครับ ผมเอามือไปยีหัวคนตรงหน้าก่อนจะไล่ให้ไปเปลี่ยนชุด... อ่อ... ผมกับคิมหันต์ย้ายมาอยู่หอเดียวกันด้วยเหตุผลที่ว่า... ผมไม่อยากให้เจ้าตัวดีหายหัวไปไหน ลองไม่ตามสิครับ  หายแวบประจำ ขนาดอยู่หอเดี๋ยวกันบางทียังหายตัวได้เลย ไม่รู้จะเทพไปไหนแฟนผมคนนี้...

   ผมยิ้มขำกับชุดของคิมหันต์ที่ใส่มาครับ  คือมันใส่เสื้อยืดปกติเนี่ยล่ะแต่ดันสกรีนลายว่า    ‘ แฟนกูโหด โปรดเข้าใจ ’  เอ่อ... ที่จริงผมว่าผมก็ไม่ได้โหดนะ แค่เคยลากไอ้เพื่อนที่มหาลัยที่โผล่มาจีบคิมหันต์ไปตืบแค่นั้นเอง...  เชื่อสิ ผมโหดน้อยกว่าไอ้เที่ยวตั้งเยอะ!
   “นี่ตัวเล็ก... มาเที่ยวดูจระเข้ไม่ใช่เหรอ ไปสิ เขาจะทำการแสดงแล้วนะ”ผมเตือนคนข้างๆที่เลียไอศกรีมรสช็อคชิพไม่หยุด 
   “ไม่เอาอ่ะ... คนเยอะ... ขี้เกียจเบียด”เออ... เอากับเขาสิครับ มาดูจระเข้แต่ไม่ดูโชว์จระเข้ด้วยเหตุผลที่ว่าคนเยอะ... กวนตีนมากมายเลยทีเดียว
   “แล้วจะไปไหนล่ะครับ หืม...”เจ้าตัวดีไม่ตอบแต่ลากผมไปที่เรือถีบทันที...
   “จะเล่นเหรอ...”ผมถาม คิมหันต์พยักหน้า... แล้วต่อไปทำงาน  ซื้อบัตรสิครับ  ผมกับคิมหันต์เลือกเรือลายเต่าสีแดงสดใส...  แต่เมื่อเริ่มถีบก็มีปัญหาทันที
   “พี่เห... ผมเลี้ยวไม่ไปอ่ะ”มาแล้วครับ เสียงอ้อนเบาๆเคล้ากับเสียงสะอื้นทำให้ผมต้องเอื้อมมือมาจับคันโยกแทน...  ที่จริงมันก็บังคับยากนิดหน่อยล่ะครับ... หางเสือของเรือถีบคันนี้คงไม่ดีเท่าไร  แต่สำหรับผมแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรมากมาย 
   “พี่เห... เข้าไปข้างในกัน คนไม่แน่นด้วย” คิมหันต์หันมาบอกผมแล้วชี้ไปข้างในที่มีน้ำพุอยู่ ไม่ค่อยมีคนเข้ามาเท่าไรครับ เพราะว่ามันไกลพอสมควร...
   “ก็เอาสิ...”ผมบังคับเรือถีบให้ไปอยู่ใต้น้ำพุ... น้ำมันก็กระเด็นเข้ามาบ้างล่ะครับ  แต่เพราะว่าเรือมันมีหลับคา เราสองคนเลยไม่เปียกอะไร
   “พี่เหมันต์...”คิมหันต์เรียกผมเสียงอ่อยทำให้ผมต้องหันไปมอง...
   “มีอะไรครับ”
   “ไม่รู้อะไรเข้าตาอ่ะ ดูให้หน่อยดิ”คนข้างๆบอกผม ผมเลยโน้มตัวไปหาคิมที่นั่งหลับตาอยู่
   จุ๊บ...
   ริมฝีปากเล็กๆที่เข้ามาแตะผมเบาๆแล้วผละไปในเสี้ยววิทำให้ผมอมยิ้ม... ทำแบบนี้น่ะ... มันน่ารักมากเลยล่ะครับ
   “อือ...”ผมกระชากตัวของไอ้เด็กน่ารักข้างๆให้หันมาประกบปากกับผมอีกครั้ง  เนิ่นนาน... และหอมหวานเป็นที่สุด จนคิมหันต์ทุบไหล่ผมเบาๆ ผมเลยค่อยๆคลายริมฝีปากออก  ปล่อยให้ที่รักของผมนั่งหอบหายใจด้วยริมฝีปากที่บวมแดง น่าจับฟัดซะให้เข็ดถ้าไม่ติดว่าอยู่บนเรือน่ะนะ...
   “พี่เหอ่ะ... ผมจะตายเอานะเนี่ย”คิมหันต์หันมาว่าผมด้วยใบหน้าแดงๆ
   “ไม่มีความอดทนเลยนะ... สงสันคืนนี้ต้องฝึกความอดทนให้แล้วล่ะมั้งเนี่ย”พูดไปก็เหมือนมองปากแดงๆที่เบ้ลง  ทำไมน่ารักอย่างนี้น้า...
   “พี่เหมันต์...”เสียงเล็กๆที่โหดมาก... สำหรับคนอื่นแต่ไม่ใช่สำหรับผมดังขึ้นเบาๆ ทำเอาผมอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปหอมแก้มคนข้างๆอีกครั้ง
   “พี่เห!”เสียงฉุนๆทำให้ผมต้องยกมือสองข้างขึ้นมาเพื่อบอกว่ายอมแพ้... แล้วเราสองคนก็ถีบเรือออกจากใต้น้ำตกไปที่อื่น...
   “คิมหันต์ครับ...  ถ่ายรูปกันหน่อยสิ”ผมดึงไหล่คนข้างๆให้มาชิดกันผมก่อนจะล้วงไอโฟนขึ้นมาเพื่อถ่ายรูป...
   “โห... ไม่หล่ออ่ะพี่ เอาใหม่ๆ”คราวนี้คิมแย่งโทรศัพท์ในมือผมไปถ่ายเองแทนแล้วส่งกลับมา  ผมจัดการตั้งมันเป็นภาพหน้าจอแทนภาพเดิม  ก่อนจะเก็บมันลงกระเป๋ากางเกง...
   “คิมหันต์ครับ...”
   “มีไรเหรอพี่เห... โหปลาเยอะว่ะ”คิมตอบกลับผมแล้วหันไปมองปลาที่ลอยอยู่บริเวณผิวน้ำ 
   “พี่รักเรานะ...”ผมบอกอีกครั้ง... คิมไม่เคยบอกคำว่ารักให้ผมฟังเลยทั้งๆที่ผมตามดูแลเขามาเกือบ6เดือนแล้ว นอกจากคำว่าชอบ...
   “ผมก็ชอบพี่นะครับ พี่เหมันต์”เสียงเบาๆที่ดังตอบมาทำให้ผมเริ่มออกแรงปั่นเรือถับอีกครั้ง... ก็ได้แค่คำว่าชอบ  ผมท้อจนเลิกท้อแล้วล่ะครับ แต่ก็แค่หวัง... ว่าสักวันผมจะได้ยินคำว่ารักออกจากปากของคนข้างๆบ้าง
   “พี่เห...  ผมหิวแล้วอ่ะ”เสียงเล็กๆอ้อนอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มที่ทำให้ผมเคลิ้มอีกรอบ เราสองคนปั่นเรือถีบไปคืน จากนั้นก็ขึ้นไปหาซื้ออะไรมากินเล่น.... ได้เวลาย้อนเป็นเด็กล่ะครับ ก็เจ้าเด็กดื้อนี่น่ะสิครับ พอเห็นชิงช้าก็วิ่งเข้าไปนั่งปุก! แถมยังเรียกให้ผมไปแกว่งให้อีกต่างหาก  แล้วมีเหรอครับที่ผมจะปฏิเสธ ก็แกว่งไปเรื่อยๆครับ  อย่างกับเด็กเลยแฮะ...
   “พี่เห...  ผมมีอะไรจะให้ฟังแหละ”คิมหันต์ส่งหูฟังบมาให้ผมก่อนจะหันไปเปิดอะไรสักอย่างในโทรศัพท์
   ‘ ครับ... ในช่วงนี้ก็มีน้องคนหนึ่งฝากเพลงแล้วก็ข้อความมาให้ฤดูหนาวของเขานะครับ  บอกมาว่าไม่สามารถโทรมาได้เลยขออัดเสียงเอาไว้แทน แหม... ยังไงก็ได้ครับน้อง พี่ไม่เกี่ยงอยู่แล้ว  เอาล่ะครับ จากนี้เดี๋ยวเราฟังข้อความที่น้องเขาฝากไว้แล้วก็ไปฟังเพลงกันต่อเลยนะครับ ’ เสียงในโทรศัพท์เงียบหายไปพักหนึ่ง ผมหันไปมองน้องรหัสของผมที่นั่งไกวชิงช้าเบาๆโดยไม่เงยหน้าขึ้นมาสบตาผมเลยสักนิด
   ‘ เขาเป็นฤดูหนาวของผมครับ... เราเจอกันเมื่อครึ่งปีก่อน...  ครั้งแรกที่เจอกันพี่เขาเป็นพี่  ว๊ากของคณะผม ทั้งๆที่ผมไปสายแค่สี่ชั่วโมงแท้ๆ แต่กลับโดนสั่งทำโทษให้วิ่งรอบสนาม แต่พี่เขาคงจำไม่ได้เลยสั่งให้พี่รหัสของผมวิ่งด้วย ก็คือเขาแหละครับ... ทั้งๆที่ผมไม่คิดจะชอบพี่เขาเลยสักนิด แต่มันก็มีเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่ทำให้ผมเปลี่ยนความคิดไป  ผ่านมาหกเดือนแล้ว ผมพูดกับพี่เขาได้แค่คำว่าชอบ... แต่พี่ครับ รออีกไม่นานหรอกนะครับ  ให้ผมคนนี้ได้แน่ใจอีกนิด แล้ว
ฤดูร้อนอย่างผมจะพูดคำว่ารัก... ให้พี่ได้ฟังแน่นอน...’ท้ายเสียงฟังดูเหมือนเสียงสะอื้น ผมหันไปมองคนข้างๆอีกครั้งที่ตอนนี้แกล้งเสหน้ามองไปทางอื่น
‘ ฉันคิดว่ารักคือความเพ้อฝัน  ไม่คิดว่าฉันจะเป็นแบบนั้น
เป็นเพราะฉันนั้นหลอกตัวเอง  ทั้งๆที่ใจร่ำร้องว่ามีแค่เธอ
คอยบอกกับใจไม่ให้หวั่นไหว  แต่หากข้างในจิตใจยิ่งเพ้อ
เฝ้านอนฝันละเมอ และคิดว่ามีเธอไปนานเท่านาน
จะรักแต่เธอคนนี้คนเดียว เพราะเธอคือคนที่ฉันต้องการ
อาจดูเหมือนฉันไม่เคยใส่ใจ แค่คิดว่าขาดเธอไปฉันคงร้าวราน
ก็คิดว่าอาจเป็นรักครั้งเดียว ที่ทำให้คนอย่างฉันมั่นใจ
จะเป็นรักแท้ที่ไม่หวั่นไหว ฉันคิดจะเก็บเอาไว้เพื่อมอบให้เธอ
แค่เพียงสบตาของเธอสดใส ได้อบอุ่นใจทุกครั้งที่เพ้อ
เฝ้านอนฝันละเมอ และคิดว่ามีเธอไปนานเท่านาน
จะรักแต่เธอคนนี้คนเดียว เพราะเธอคือคนที่ฉันต้องการ
อาจดูเหมือนฉันไม่เคยใส่ใจ  แค่คิดว่าขาดเธอไปฉันคงร้าวราน
ก็คิดว่าอาจเป็นรักครั้งเดียว ที่ทำให้คนอย่างฉันมั่นใจ
จะเป็นรักแท้ที่ไม่หวั่นไหว ฉันคิดจะเก็บเอาไว้เพื่อมอบให้เธอ เพื่อเธอคนนี้คนเดียว ’
*As over-นัททิว  OST.- You‘re Beautiful หล่อน่ารักกับซูเปอร์สตาร์น่าเลิฟ
เสียงเพลงจบไปแล้ว แต่ในใจผมกลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก... ผมหันไปดึงตัวของคิมให้เข้ามาหาผมเบาๆ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร
“ขอบคุณนะครับ... พี่ชอบมากเลย..”ผมก้มลงกระซิบที่ข้างหูของคิมเบาๆ
“พี่เห... ปล่อยก่อน  คนเยอะแยะเลยเห็นมั๊ย”คิมพยายามดันตัวผมให้ออกห่าง... ก้มหน้าก้มตาไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองผมซะงั้น...
“พี่ไม่อายหรอกครับ ถ้าคนที่อยู่ในอ้อมกอดพี่คือคิมหันต์... แล้วพี่จะรอนะครับ รอทำว่ารักจากฤดูร้อนของพี่น่ะ”ผมยิ้มก่อนที่เราสองคนจะเดินจับมือกันกลับไปที่รถ
“แล้วคืนนี้พี่จะทำให้เราบอกรักพี่ให้ได้เลย”คิมหันต์หันมามองผมแล้วยิ้มหวานจนผมถึงกับตกตะลึง
“ฝันไปเหอะไอ้พี่ว๊ากบ้า”ตะโกนใส่หน้าผมเต็มๆครับ ก่อนจะวิ่งหนีผมไปรอที่รถ
“ฝากไว้ก่อนเถอะเจ้าตัวดี คืนนี้พี่จัดการปิดบัญชีแน่”ผมอมยิ้มกับความน่ารักน่าทะเล้นของอีกฝ่ายแล้วเดินไปเปิดประตูรถ...

ถึงยังไงตอนนี้ในใจของฤดูร้อน... ก็คงจะเริ่มมีผลึกน้ำแข็งไปเกาะตัวให้เย็นลงได้บ้างแล้วล่ะมั้ง... แต่อย่าให้ผมรอนานมากนักนะ...  เดี๋ยวหิมะในใจผมจะละลายเพราะโดนความร้อนเผาไปซะหมดน่ะ  ยังไงพวกคุณก็เอาใจช่วยให้น้องรหัสที่แสนจะน่ารักน่าถีบของผมคนนี้ บอกรักผมในเร็ววันแล้วกันนะครับ...




------------------------------------------------------------------------

เก๊าขอโต๊ดดดดด :sad4: :sad4:

มิมีเวลาว่างมาอัพให้เลย...

เช็คที่เหลือดูแล้ว  เหลือให้ลงได้อีกสองครั้ง 

ดังนั้น... เอาคู่ของคิมกับเหไปก่อนแล้วกัน  (อย่าเพิ่งกระซวกกันเลยน้าาาาา) :monkeysad:

ปล.+เป็ดให้ก็ได้ ไม่ว่ากันนะ

ปลล.สักเม้นท์เถอะ  พลีสสสส...

ปลลล.เรื่องต่อไปประมาณวันที่22นะครับ

ปลลลล.ใครเรียนที่เกษตร พรุ่งนี้ผมจะไปลั้นล้าที่นั่นล่ะ... 

ปลลลลล.ภาวนาให้ค่ายครั้งนี้สนุก...

ปลลลลลล.รักทุกคนเลยคร้าบบบบบบบบบบบบบ//อ้อน

ปลลลลลลล.ชอบอีโมตัวนี้มาก   :z13:  นั่งดูไปฮาไป... ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน><

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ พี่วันเสาร์

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +282/-3
ชอบตัวนี้ :z13:ใช่ใหมงั้นให้เลย :z13:
ชอบคิมหันต์อ้อนพี่เหได้น่ารักมาก
++ให้นะจ๊ะ :L2:

ออฟไลน์ entirom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-2
น่ารักกันทุกคนเลย

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
                                                                     ตอนพิเศษ

                                                                 คนแรกXสุดท้าย

              ผมกับสุดท้ายคบกันมาได้สองปีแล้วครับ... ไม่น่าเชื่อว่าสุดท้ายจะหาเรื่องให้ผมปวดหัวได้ทุกวี่ทุกวัน ล่าสุดครับ... ไปต่อยกับไอ้พวกไหนก็ไม่รู้... โดยให้เหตุผลว่า ไอ้เมฆโดนรุมมันกับเหมันต์ที่ผ่านไปพอดีทนไม่ได้เลยต้องเข้าไปช่วยรุม แถมยังนิสัยดีโทรตามเพื่อนที่เหลือมาอีกแหนะ... มันน่า... น่าจับตีก้นซะให้เข็ด
   “สุดท้าย...”ผมพูดด้วยเสียงระอาๆ
   “ครับพี่คนแรก”เอาอีกแล้ว งอน...เดินไปคลุมโปงซะงั้น  เฮ้อ! ผมมีแฟนหรือลูกกันเนี่ย
   “สุดท้ายครับ... ลุกมาก่อน อย่าเพิ่งงอน”
   “สุดท้ายไม่ได้งอน... พี่คนแรกจะว่าอะไรสุดท้ายอีกล่ะ ใช่สิ... เจ็บตัวยังไม่พอต้องมาโดนพี่คนแรกดุอีก”น้ำเสียงน้อยอกน้อยใจดังเป็นสัญญาณเตือนแล้วครับ 
   “โอเคๆ... พี่ไม่ว่าเราแล้ว  มานอนดีๆมา คลุมโปงแบบนั้นเดี๋ยวก็หายใจไม่ออกพอดี”สุดท้ายก็เป็นผมที่ต้องยอมแพ้... บทจะดื้อก็ดื้อจนไม่มีใครเอาอยู่จริงๆ  สุดท้ายกลิ้งขลุกๆมานอนตักผมก่อนจะมองตาแป๋ว...
   “พี่คนแรก... ผมรักพี่คนแรกนะ”
   “พี่ก็รักเราครับเด็กดื้อ”สุดท้ายยิ้ม... ก่อนจะโน้มคอผมให้ก้มลงไปรับจูบเบาๆจากคนที่นอนอยู่
   “ผมขอโทษนะครับ”เสียงเศร้าๆบอกแล้วกลับมายิ้มให้ผมอีกครั้ง  แค่คำขอโทษสั้นๆมันก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นอีกจมเลยครับ  สุดท้ายผลักตัวผมให้ลงไปนอนแล้วคลานขึ้นมาคล่อมตัวผมเอาไว้
“จะทำอะไรครับเนี่ย”ผมถามพร้อมกับรอยยิ้มแปลกๆที่สุดท้ายส่งมาให้
“ก็... ยั่วไงครับ ผมคบกับพี่มาสองปีแล้วนะ”ตรงมากครับ... ผมหัวเราะก่อนจะยีหัวคนที่คลานลงไปใต้กางเกงของผม
“แน่ใจแล้วเหรอครับสุดท้าย... ไม่เสียใจแน่นะ”ผมถามย้ำ  แต่เด็กดื้อของผมเปิดโอกาสที่ไหน คลานมุดหายเข้าไปในผ้าห่มเรียบร้อย...
“อืม... สุดท้าย  ไปฝึกมาจากไหนเนี่ย”คนที่คล่อมอยู่บนตัวผมจ้องผมตาแป๋วแล้วส่ายหน้า... ไม่ได้เข้ากับนิสัยปกติเล้ยยย~
“โอ๊ะ! เบาๆสิครับ เดี๋ยวเราจะเจ็บนะ”ผมประคองตัวน้องที่คล่องผมอยู่ให้โยกช้าๆทั้งที่ในใจผมน่ะ อยากแทรกกายให้มันเร็วกว่าเดิมอีกหลายเท่าเลยล่ะครับ  แต่นี่เป็ฯครั้งแรก แถมน้องยังออนท็อปอีก  คงต้องรอให้ชินซะก่อน
“อือ... พี่คนแรก  เร็วอีกก็ได้นะ... อ๊า”สุดท้ายทั้งโยกทั้งขย่มจนผมต้องเด้งเอวรับ ชักไม่แน่ใจแล้วสิว่าผมเป็นคนแรกของน้องน่ะ เชี่ยวซะขนาดนี้  ผมโน้มตัวสุดท้ายลงมาจูบก่อนจะพลิกตัวให้สุดท้ายลงมานอนอยู่ด้านล่างแล้วจัดการกระแทกแก่นกายของผมให้ผลุบเข้าออกในช่องทางด้านหลัง จนสุดท้ายครางลั่น  น้ำสีขุ่นๆพ่นขึ้นมาจนเลอะคางผม...
“ฮ๊า~”ผมค่อยๆถอนแก่นกายออกมา  แล้วนอนลงข้างๆสุดท้าย...
“เหนื่อยมั๊ยเนี่ยเรา หืม..”ผมถามก่อนจะซับเหงื่อที่เปียกชื้นตามไรผมให้น้องสุดท้าย
“ผม... ทำได้ดีเท่าคนรักเก่าๆของพี่รึเปล่าครับ”สุดท้ายพลิกตัวมากอดผม แม้จะได้ยินเสียงซีดส์ตามหลังมา  ก็แน่ละครับ ครั้งแรกนี้หน่า
“สุดท้ายน่ะ... เทียบกับใครไม่ได้หรอกครับ  เพราะสุดท้ายเป็นคนที่พี่รักที่สุดเลยนะ”ผมก้มลงจูบขมับของสุดท้ายก่อนจะอุ้มน้องเข้าห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดร่างกาย... ไม่ทำเพิ่มหรอกครับ ครั้งแรกของพวกเราแค่นี้ก็ดีถมแล้ว...

หลังจากวันที่ผมกับสุดท้ายมีอะไรกันครั้งแรก... ผ่านมาสองวัน ไข้ของสุดท้ายขึ้นหนักมากเลยครับ  ทำเอาผมต้องหยุดงานมานั่งดูแลประคบประหงมราวกับไข่ในหินเลยทีเดียว แถมสุดท้ายตอนเป็นไข้ ขี้อ้อนสุดๆเลยครับ  ทำเอาผมจะตายเพราะลูกอ้อนของน้องเขามาหลายรอบแล้ว
เรื่องของผมก็สั้นๆแบบนี้ล่ะครับ  ชีวิตพวกผมไม่ได้หวือหวาเท่าคู่ของเหมันต์หรือน้องท่องกับเที่ยว แต่ผมจะเป็นคู่ของคนธรรมดาๆ ที่คอยดูแลและรักกันตลอดไป  ไม่ว่าจะวันไหนก็ตาม...  ผมก็อยากจะบอกน้องเขาทุกครั้งที่มีโอกาส ‘พี่คนแรกรักสุดท้ายนะครับ’


-------------------------------------------------------------------------------------

สั้นมั๊ย... สั้นมากกกกกกกกกกกกกกกก

แต่งไว้หมดสตอกแล้ว  เดี๋ยวจะเริ่มแต่งใหม่ 

ไปค่ายมา  กลับมาเหนื่อยมาก แต่ไม่เท่าตอนซ้อมบาส โหดกว่า...

จะไปงานหนังสือวันนี้แหละ  เหอะๆ บายฮับ

 :z13: :z13:  ชอบบบบบบบบ

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
สั้นๆได้ใจความ :-[ ชอบๆๆๆ
แต่ขยายความอีกหน่อยกะได้นะอยากอ่านอีกอ๊าาาาา  :impress2:

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
ชอบทุกเรื่องเลย สนุกมากค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ abcee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ชอบๆ ยังมีต่อใช่มั้ย รอนะ

ออฟไลน์ entirom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-2
เหล่าเคะน่ารักทั้งนั้น

ออฟไลน์ phakajira

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
ชอบเรื่อง 3 มาก นัทกับสักก ขออีกกก

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
                                                                          ตอนที่15 :mc4:                                                                    


                                                                      ลิตเติ้ลยุง  โอเค! มึงเป็นผัวกู!


        พ่อง! พ่อง! พ่อง! และพ่อง!  อย่าสงสัยครับ  ไม่ได้ด่าพวกคุณหรอก  ผมกำลังด่าผมเองนี้แหละ  และคาดว่าพ่อของผมก็คงสะดุ้งไปหลายตลบแล้วเช่นกัน...  ว่าแต่!! นี้มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตผม(วะ)ครับ...  คุณอาจกำลังจะคิดว่าผมกำลังจะเป็นจะตายที่ไหน  ใช่ครับ ผมจะตายแล้ว  ตั้งแต่ตื่นมาเจอไอ้รอยเหี้ยๆ แดงๆจ้ำๆเต็มตัว  ไม่ครับ...  ผมไม่ได้โดนยุงกัด...  เอ่อ...  หรือจะบอกว่ายุงกัดก็ได้ครับ
   “ไอ้เชี้ยยุ๊งงงงงง  มึงทำไรกู๊!!”พลั่ก!! จัดเต็มจัดหนัก  ฝ่าตีนเน้นๆยันไปที่สะโพกมัน  ถึงแม้จะแลกกับการเจ็บช้ำปางตายก็ตามที
   “อู๊ย... ซี๊ดดด!!!”จับสะโพกแทบไม่ทัน  สะเทือนเลือนลั่นถึงชั้นโพรงประสาทเลยทีเดียว  แมร่งๆๆ และแมร่ง!! เออดี...  ทั้งแม่ทั้งพ่อกู  ตกใจตื่นหมดแล้วมั้งเนี่ย...
   กรี๊ด!!!!
   เสียงผู้หญิงที่ไหนร้องวะ  ผมหันไปมองรอบตัว  ไม่มีตรงไหนให้ผู้หญิงแอบมองและกรี๊ดได้นี้หว่า...  ผมคลานเอาสะโพกช้ำๆไปตามหาต้นตอของเสียง...  อ่อ...  โทรศัพท์ผมเองนี้หว่า...
   “ไอ้ก้อย...  อยู่ไหนวะ!!”เสียงตามสายลั่นมาซะเอวผมสะเทือน  เอิ่ม...  มันคงไม่เกี่ยวว่ะครับ
   “พ่อ! ผมไม่ได้ชื่อก้อย...  ผมชื่อเติ้ล...  ลิตเติ้ลอ่ะพ่อ...  ก้อยแมร่งโคตรจุ๋มจิ๋มเลยอ่ะ...  เติ้ลรับไม่ได้ รับไม่ด๊ายยย!!!”อุ๊ย อ้าว เอ๊ะ โอ๊ะ แต๋วแตกซะละกู...  ฮือ  ผมรับไม่ได้น้า...
   “เออๆ...  ไอ้ลูกหมานี้  พ่อแค่จะบอกว่าแม่มึงให้กลับมาแดกข้าวที่บ้าน เก็ท...  รีบมาล่ะ  ไม่งั้นพ่อจะแดกแม่ก่อนข้าว ฮาๆ  โอ๊ย! พรตจ๋า...  ต๊อกขอโต๊ดดด....  ต๊อกอยากเล่นกับลูกนิดเดียวเอง...  เมียจ๋าอย่าโกรธผัวน้า...  ไอ้ลิตไอ้เติ้ลไอ้หมาไอ้ก้อย  ไอ้เหี้ยไรไม่รู้ที่อยู่ในสาย  รีบกลับบ้านด่วนในสามนาที...  ไม่งั้นตัดจากมรดก!!”ปิ๊บ! เอ่อ...  งงมั๊ยครับ...  ครับ  ผมก็งง  ไอ้ชายรักชายผมก็รับได้อยู่หรอก... พ่อกับแม่ ไม่สิ  พ่อกับพ่อผมก็รักกันให้ดูแต่เด็ก...  แต่... แต่จะให้ผมมาเป็นเมียผู้ชาย...  โอ้! จอร์ด... ฆ่ากูเห๊อะ!  ว่าแต่...  สารผัว เอ๊ย!! เหี้ยยุงไม แม่งเงียบสนิทเลยวะ...
   “คร่อกกก...!!!”สาด! สาด! สาด! ถีบแทบตาย แมร่งมาตะกุยเตียงหลับสนิทอยู่ที่พื้น...  เอี้ยจริงๆ 
   ผมนั่งนึกสารตะ และไว้อาลัยให้ร่างกายตัวเองสิบวิ  นานไม่ได้ครับ ต้องรีบกลับบ้าน  แล้วก็ทำใจได้ว่า  ทำบุญให้ยุงแดกซะ  เลือดไม่กี่แกลลอนเอง  ช่างมันเต๊อะ! ฮือ!!  นึกได้ก็อัปเปหิตัวเองกลับบ้านครับ...  พยายามขโยกเขยกไปแล้ว  แต่ยังไง๊ยังไง  มันก็ระบบไม่หาย  พอถึงบ้านเท่านั้นล่ะครับ...!
   “อ้าว! ไอ้ลูกหมา  ไปโดนใคร ‘เอา’ มาล่ะเนี่ย  จ้ำเชียว”เอิ่ม...  พ่อครับ  กระดากปากบ้างเถอะ  ผมละอาย...
   “ไอ้ต๊อก...  กินข้าวแล้วไปทำงานไป๊...  ตกลงว่าไงก้อย... โดนใคร ‘เอา’ มา”เชี้ย  บอกผมทีว่าผมเป็นลูกเก็บมาเลี้ยง  ทำไมผมมีพ่อกับพ่อนิสัยแบบนี้วะ  เติ้ลรับไม่ได้ รับไม่ด๊ายยย...!
   “เอ้า! เข้าญาณซะแล้วลูกกู  มาๆ แดกข้าวๆ  เสร็จแล้วก็หาหยูกยาทาล่ะ... เดี๋ยวระบบขึ้นมาจะซวย ครั้งแรกใช่มั๊ย...  พรตเดี๋ยวมึงไม่ต้องเข้าบริษัทแล้วกัน  อยู่ดูไอ้หมาตัวนี้หน่อย  เป็นลมเป็นแล้งหน้ามืดขึ้นมาจะซวย”
   “เออๆ...  เดี๋ยวพรตดูให้  ต๊อกรีบทำรีบกลับล่ะกัน  พรตไม่เคยดูแลฝ่ายรับซะด้วยสิ  ไม่รู้ต้องทำไง”เอ่อ...  ช่วยกระดากอายกันบ้างได้ม๊ายยย...  ผมนั่งฟังไปก้มหน้าก้มหน้า  อายชิบหายวายป๋วง  ได้ข่าวไอ้คนถูกกระทำมันอยู่เน้...  ถามความสมัครใจกันบ้างสิฟร่ะ  ตูดกู เครื่องในกู กูดูแลเองด๊ายยยย...! 
   ผมรีบยัดข้าวรีบโยนตัวเองมานอนในห้องทันที...  ที่จริงก็ไม่อยากอายนะ  แต่แม่งอายอ่ะ  ยังไงก็อายอยู่ดี...  โว๊ะ! บ้าละกูนี้... 
   “ก้อย  เป็นไงบ้าง...  กินยาๆ  ไข้ขึ้นแล้วเนี่ย”พ่อพรตครับ  เอาพารามาสองเม็ดกับยาหลอดอะไรสักอย่าง  ผมรับยามากินก่อนจะนอนลงไปใหม่...
   “เอ้าๆ อย่าเพิ่งนอน  หันหลังโก้งโค้งก่อน  เดี๋ยวพ่อทายาให้”
   “เชี้ยพ่อ!!!  ไม่ต้องๆ ไม่ต๊องงง  เดี๋ยวผมทำเองพ่อ...  วางยาไว้นั่นแหละ”ผมห้ามเสียงหลงเลยครับ  ถึงจะเป็นผู้ชายด้วยกัน  แต่ความอายผมก็มีนะครับ!!
   “ลืมๆไปได้แล้วไอ้เรื่องอายน่ะ  พ่อเห็นตั้งแต่ตอนแรกเกิด  มึงอย่ามาทำอาย  โถ่!  เล็กเท่านิ้วก้อยเสือกทำอาย  พ่อยังเยอะซะกว่า ฮาๆ” โอเค ตกลงผมไปฆ่าตัวายดีกว่า...  ทำไมพ่อกับพ่อผมถึงเสื่อมได้ขนาดนี้วะเนี่ย
   แต่!!!  พูดไม่พูดเปล่า  พ่อพรตจับผมพลิกตัวยกสะโพกขึ้นมาซะผมตั้งตัวไม่ทัน  โอเค ผมยอมรับ  พอ่พรตตัวใหญ่พอๆกับพ่อต๊อก! แต่!!  ฝ่ายรับไม่น่าจะแรกเยอะขนาดนี้นี่หว่า!!
   “ไม่ต้องทำอึ้งไอ้หมา  พ่อก็ผู้ชาย  แรงมีมากกว่าเอ็งตั้งเยอะ  ไม่ได้เล็กบอบบางเป็นผู้หญิง  จำไว้ๆ”แม่ง...  ถ้ารู้ว่าโตมาจะเจอพ่อแบบนี้ ผมแดกรกแม่ตายในท้องเลยดีกว่า...  เชี้ย พูดแล้วน้ำตาซึม!
   “ซี๊ด....  พ่อ...  เบาๆหน่อยดิ”พ่อพรตจับกางเกงผมดึงลองก่อนจะลูบเบาๆ แต่แม่งแสบครับท่าน!
   “ไอ้เติ้ล...  ใครเอามึง...  บอกกูมา...”เสียงนิ่งเลยครับ  ผมหันไปมอง  พ่อพรตกำลังเช็ดคราบสีขาวขุ่นเลอะๆออกจากก้นผม...  เออ... เมื่อกี้ผมรีบเกิน เลยยังไม่ได้อาบน้ำมา  คราบอะไรต่อมิอะไร  มันก็ยังค้างคาอยู่เหมือนเดิมน่ะเซ่!
   “ก็... ไอ้... ไอ้ยุงอ่ะพ่อ...  แต่ผมไม่แน่ใจนะ  ผมเมาด้วยเมื่อคืน  อาจจะเป็นคนอื่นก็ได้...”ผมบอก พ่อพรตพยักหน้าก่อนจะเดินไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดในผม 
   “คราวหน้าบอกมันใส่ถุงยางด้วย  ถึงแกจะไม่ท้อง แต่โรคมันก็ไม่ได้ปลอดภัยถ้าแกนอนกับคนอื่น ทีนี้หลับตาก็ได้ถ้าอายอ่ะ  หลับๆไปเลย  เดี๋ยวพ่อต้องแหย่เอาน้ำข้างใน ออกมา  หมักไว้มึงจะไม่สบายเอา”เอ่อๆๆ  พูดซะเหมือนกำลังบอกว่า  โอเค มึงนอนไป เดี๋ยวกูเอาผ้ามาเช็ดขี้ตาให้มึงนะ  อะไรเทือกนี้  โอเค  ให้เลิกอายผมก็เลิกวะครับ...  พอเหอะ  อายมากผมคงระเบิดตัวเองกลายเป็นโกโก้ครันช์เข้าสักวัน!
   “อือ...  พ่อ...  เจ็บ”ผมน้ำตาซึมเลยครับ  นิ้วของพ่อพรตแหกรูตูดผมจากนั้นม   ผมก็รู้สึกถึงอะไรเย็นๆที่ไหลออกจากรูของผม  พ่อพรตทั้งแหย่ทั้งคว้าน ซะผมตัวอ่อนไปซะดื้อๆ  จากนั้นความเย็นจากปลายนิ้วที่สัมผัสในช่องทางของผมก็ทำเอาผมสะดุ้ง...  พ่อพรตมองสำรวจร่างกายของผม  ก่อนจะพยักหน้าลงช้าๆ... 
   “อ่ะ...  เรียบร้อย  เดี๋ยวเย็นๆพ่อมาทายาให้อีกที  ตอนนี้นอนหลับไปก่อนล่ะกันนะ”ผมทำตามอย่างว่าง่ายเพราะความปวดหัวและไข้รุมๆเริ่มจะรุมเร้าผม...  ไม่นาน  นิทราอันแสนสุขก็มาเยือนกับผม...

[ Tok Talk ]
   ผมนั่งเคลียร์งานด้วยความไว  ใจก็เป็นห่วงไอ้ก้อย  ถ้าใครจำได้  ก้อยถูกเลี้ยงอย่างเด็กผู้หญิงถึงอายุ12 -13 ปี  กว่ามันจะรู้ตัวว่าเป็นผู้ชาย  จริงๆ  ไอ้พรตไม่ได้ตั้งใจเลี้ยงให้เป็นผู้หญิง  แต่ตอนเด็กๆก้อยป่วยง่าย  ไอ้พรตมันเลยแก้เคล็ดเลี้ยงแบบเด็กผู้หญิงมา  แต่ก็ปล่อยให้มันห้อยโหนแบบเด็กผู้ชาย  พอโตๆมา  ก้อยมันก็ออกสไตล์ทอมบอย  จากนั้นไม่นานมันก็รู้ว่าตัวเองเป็นผู้ชาย  ดูมันจะดีใจมากจนลืมถามเหตุผลไปซะดื้อๆ...  ที่นี้ล่ะคือปัญหา...  ไอ้ก้อยเป็นผู้ชาย  แต่โดนเสียบประตูหลังโดยผู้ชาย ซึ่งดูๆแล้ว  มันคงไม่เต็มใจ... ล่ะมั้งนะ...  ก็ลูกผมนี้หว่า  ผมก็ต้องมองมันออกสิ...
   เชี้ยๆๆๆๆๆ 
   เสียงสถบดังรัวๆ  ผมคว้าโทรศัพท์มากดรับทันที  เป็นเสียงเฉพาะที่ผมตั้งไว้เพื่อไอ้พรตเพียงคนเดียวเท่านั้น
   “ครับพรต  มีอะไรรึเปล่า”
   -ไอ้ยุง...  มันมีอะไรกับก้อย-
   “แล้วพรตจะเอาไงล่ะครับ”
   -ไม่รู้  ก้อยบอกว่ามันเมา  แต่พรตเป็นห่วง...  ไอ้ยุงไม่ใส่ถุงยางด้วย  แถมตัวไอ้ก้อยก็รอยช้ำเต็มไปหมด... พรตว่ามันมากไปนะ-
   “ให้ต๊อกไปลากคอมันมากระทืบเลยดีมั๊ยครับ  หืม”ผมยิ้มไปพูดไป  อีกมือกดเข้าเฟสบุ๊คหาชื่อเฟสของเพื่อนสนิท
   -ไม่...  ไม่เอา  พรตขอที่อยู่ไอ้ยุงดีกว่า  เดี๋ยวพรตไปหามันเอง-
   “อีกห้านาทีจัดให้เลยครับ”ผมหัวเราะปิดท้ายก่อนจะกดวางสาย  นิ้วมือพิมพ์รัวบนแป้นคีย์บอร์ด
   -ไอ้บ้า  อยู่เปล่าวะ-
   /อยู่ๆ  มีไรไอ้ต๊อก/
   -กูอยากได้ที่อยู่ของคนที่ชื่อสหรัช  พัทธดุริเยงค์  ปี3 ม..... คณะ นิเทศ  ภายในห้านาที  จัดให้กูได้มั๊ย-
   /ไม่ยากๆ  แปปละกัน/
   ผมนั่งรอข้อมูลอยู่ไม่ถึงสามนาทีดี  ข้อความมันก็ตอบกลับมา  ผมยิ้มนิดหน่อยก่อนจะพิมพ์ขอบคุณมันกลับไป  หลังจากนั้นก็โทรหาสุดที่รักทันที
   “มาแล้วพรต...  เดี๋ยวต๊อกส่งไลน์ไปให้นะ...  แล้วก็...  อย่าทำอะไรรุนแรงล่ะ  ถึงแบ็คอัพเราจะดี  แต่ก็ต้องมีเหตุผลนะ...”ผมเตือนมัน  ได้ยินเสียงมันร้องฮืมตอบกลับมาแล้วสายก็ตัดไป...  ผมพิมพ์ไลน์ที่อยู่ของไอ้ยุงไปให้มัน  จากนั้นก็นั่งทำงานต่อ  ดูท่าผมคงต้องรีบกลับไปดูช็อตเด็ดหน่อยล่ะมั้งเนี่ย...

   [Tle Talk]
   ผมตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกหนักอึ้งที่ท่องบน  สายตาค่อยๆปรับความเคยชินกับภาพตรงหน้าแล้วผมก็ต้องอึ้งทึ้งมึนงง ผสมจนมั่วเชี้ยๆ
   “ไอ้ยุง!!  มึง...  แก... เอ็ง...  เชี้ย... สัด! มึงมาได้ไง”ไม่เป็นคำเลยครับ  แล้วแบบสภาพตอนนี้ผม ‘ล่อ’ แหลมสุดๆ  ผมใส่แค่เสื้อครับ  ท่อนล่างพ่อพรตถอนแล้วไม่ใส่กลับมาให้  ตอนนี้มีแต่ผ้าห่มบังไว้อยู่...
   “ก็มาดูแลมึงไง...  กูรับผิดชอบหน่า...”มันคราวฮืม...  แต่ผมถึงกับน้ำตาซึม...  มันคงเห็นผมเงียบๆเลยเงยหน้าขึ้นมามอง
   “เฮ้ย...  ไอ้เติ้ลมึงร้องไห้ทำไมวะ”ผมปาดน้ำตาออกก่อนจะดันตัวมันให้ออกจากตัวผม
   “ไม่ต้องรับผิดชอบกู...  กูเป็นผู้ชาย  กูไม่ท้อง  ถึงจะเจ็บ  แต่ทายาก็หาย...  อย่ามาทำเหมือนกูบอบบางเป็นผู้หญิง”ผมพูดนิ่งๆแล้วเอาผ้าห่มขึ้นคลุมหัวเลยครับ
   “ไอ้เชี้ยเติ้ล  มึงเข้าใจไรผิดป่ะเนี่ย...  เอางี้...  ถ้ามึงบอกว่ามึงดูแลตัวเองได้  งั้นมึงทายาให้กูดู....  ถ้ามึงทายาได้จนเสร็จก็จะออกไป”ผมเลิกผ้าห่มขึ้น...  มันจ้องหน้าผมอย่างท้าทาย
   “ถ้ากูทาให้ดู  แล้วมึงต้องออกไป  เลิกยุ่งกับกูนะ...”ผมถามย้ำ  มันพยักหน้า...  ผมชั่งใจอยู่ชั่วครู่จากนั้นก็เปิดผ้าห่มออก  มันดึงเก้าอี้มานั่งที่ปลายเตียงแล้วจ้องผม...  ไม่รู้ทำไม...  ร่างกายผู้กลับร้อยขึ้นมาซะดื้อๆ  ร่างกายเอ๊ยครับ  อย่าเพิ่งทรยศกูสิวะ...
   “เอ้า... ทาดิ”มันเร่ง  ผมกัดปาก ก่อนจะช้อนขาตัวเองให้ยกลอยขึ้นยาเตียง  จากนั้นก่อนบีบยาใส่นิ้ว  ค่อยๆเกลี่ยไปรอบๆทางเข้า...  ผมเห็นมันจ้องเขม่งไม่หยุดเลยครับ
   “ใส่เข้าไปสิวะ  ช้าจริง  หรือทำไม่เป็น”มันเร่งอีก  ผมกัดฟันแน่นก่อนจะค่อยๆดันนิ้วตัวเองเข้าไปด้านใน...
   “อือ...  เชี้ย...”ครางแผ่วเพราะทั้งเจ็บทั้งเสียว  มันปนจนน้ำตาผมไหลเลยครับ  เกิดมาไม่เคยคิด  ว่าจะต้องทำอะไรแบบนี้ให้เพื่อนตัวเองดู  แถมเป็นคนที่ได้ผมเป็นเมียซะอีก 
   “เฮ้อ...  มึงนี้หน่า...  ดื้อเหมือนพ่อมึงไม่ผิด  เอายามานี้”มันลุกขึ้นเดินมาหาผมที่หัวเตียง  ก่อนจะแย่งยาในมือผมไปบีบใส่นิ้วมัน 
   “นอนนิ่งๆ  หลับตานะ”มันหอมแก้มผมเบาๆก่อนจะคุกเข่าลงที่ปลายเตียง  มันดันมือของผมที่พยายามปกปิดส่วนตรงนั้นออกแล้วค่อยๆสอดนิ้วเข้ามา...  มันเย็น...  ทั้งเย็นทั้งเสียว... 
   “อืม... ยุง...  พอ... พอแล้ว  อ๊ะ!”ผมสะดุ้งสุดตัวตอนมันโดนจุดๆหนึ่ง  แล้วไอ้เติ้ลน้อยๆก็เริ่มไม่น้อยตามชื่อ...  มึงจะโตทำม๊ายยย!
   “หึหึ...”ผมได้ยินเสียงมันหัวเราะ  ทำไมผมเริ่มหวาดวิตกแล้ววะ  ไม่ปลอดภัยเชี้ยๆเลยทีเนี่ย...
   “อ๊ะ... อ๋า...  อย่าสอดเข้ามา... อ๊ะ... สองนิ้วสิ”ผมครางเบาๆ  มันเสือกดันนิ้วที่สองเข้ามาแถมควานไปทั่วเลยครับ
   “คราวที่แล้วมึงเมา  แต่กูไม่  กูทำเพราะกูรัก...  ส่วนตอนนี้  มึงไม่เมา  กุก็ไม่เมา  กูจะทำ...  เพื่อบอกมึงว่ารัก...”มันก้มลงมาจูบปากผม  ไล่เลียอ้อยอิ่งเนินนาน...  มือมันลูบไปตามตัวผมก่อนจะเขี่ยที่จุดสองจุดบนหน้าอกของผม...  มันดึงมือผมให้โอบรอบคอของมันก่อนที่มันจะก้มซุกไซร้ซอกคอ
   “อ๊ะ...  ยุง... อย่า... อืออออ...”ผมกดหัวมันเน้น  นิ้วมือขย่ำผมของมันจนไม่เป็นทรง  ความเสียวแล่นพล่านทั่วทั้งร่าง  ดีดดิ้นไม่ได้มากเพราะมันเอาตัวมันขึ้นมาทับผมทั้งตัว...
   “ยุง...  กูเจ็บ...  กูกลัว...  อย่าทำกูนะ... ฮึก...”น้ำหูน้ำตาไหลนองเต็มหน้าจนมันหันมามอง  มันยิ้มจางก่อนจะเกลี่ยน้ำตาออกจากหน้าของผม
   “เติ้ล...  กูทำไปไม่เคยอยากให้มึงเจ็บ...  กูอยากให้มึงสุข...  ไปพร้อมๆกับกู...  ยอมรับกู...  เชื่อใจกูนะเติ้ล...  นะ...”มันรั้งตัวผมขึ้นไปกอดแน่น  ก่อนจะดันผมลงนอนอีกครั้ง  เนื้ออุ่นร้อนกำลังผ่านเข้ามาภายในตัว...  มันไม่เจ็บอย่างที่คิด  ยุงหยุดรอหลังจากเข้าไปได้หมด  แล้วก็ค่อยๆขยับเบาๆอีกครั้ง และอีกครั้ง...
   “อ๊ะ...  อืม...  ยุง... อ๊าาาาาา...”ผมครางกระเส่าเมื่อปลายของมันไปโดนจุดๆหนึ่งของผม  แล้วมันก็เน้นย้ำตรงนั้นซะเหลือเกิน  ผมรั้นคอมันลงมา  ก่อนจะซบซุกซอกคอ มันอย่างเอาเป็นเอาตามเพื่อระบายความเสียวที่ได้รับมา  ยุงลูบหัวผมก่อนจะดันไอ้นั้นเข้าออกจนสุด...  มันดึงหน้าผมออกจากซอกคอมันแล้วก้มลงมาจูบปากผม...  ไม่เร่งเร้าไม่รุนแรง  แต่อบอุ่น...  เป็นจูบที่ทำให้ผมน้ำตาไหล...  มันบอกไม่ถูก...  แต่ความรู้สึกปลอดภัยมันท่วมท้น  ผมรู้สึกว่ามันจะไม่รังแกให้ผมต้องเจ็บปวด... 
   “จะไปแล้วนะเติ้ล  ไปพร้อมๆกัน...นะเติ้ลนะ...”มันเร่งจังหวะรัวแรง  ร่างของผมสั่นคลอนก่อนที่ในหัวจะกลายเป็นสีขาวสว่าง  และความรู้สึกอุ่นร้อนก็พุ่งเข้ามาอย่างไม่ยั้ง...  ผมถอนตัวออก  ก่อนจะก้มลงไปมองด้านหลังของผม  ไกล่เกลี่ยหยาดน้ำขาว ขุ่นให้เลอะทั่วไปหมด  ผมตีมันเบาๆ  ก่อนจะหลบหน้ามัน  โอเค...  เข้าใจป่ะ  สระเอขอไข่สระอินอหนู... ขอเออนอ เขินอ่ะ  รู้จักป่ะ...  มันหัวเราะ  ก่อนจะคลานขึ้นมาหาผม...
   “รักนะ...  รักมานานแล้ว  ตั้งแต่ตอนใส่กระโปรงน่ารักเป็นทอมบอย  ตอนนั้นก็รักแล้ว รู้ป่ะ...”มันกระซิบบอก
   “เฮ้ย...  มึง... มึงรู้ได้ไง”ผมตาโต...  ความลับขึ้นสุดยอดเลยนะเว้ย  ตอนผมแต่งหญิงอ่ะ  โคตรด่างพร้อยกับชีวิตเลย
   “ไม่บอกหรอก...  แค่รู้ว่ากูรักมึงก็พอ...  ตอนนี้มึงจะรักกูรึเปล่ากูไม่รู้  แต่กูขออย่างเดียว...  ให้กูมาดูแลมึง  เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมึง... ได้มั๊ย...”ลูกอ้อนทั้งเสียงหน้าตาท่าทาง ทำให้ผมถอนหายใจทั้งๆที่อยากจะยิ้มจนแก้มปริ
   “ดูแลไม่ดีกูฟ้องพ่อต๊อกให้ฆ่ามึงจริงๆด้วย”มันยิ้มแล้วดึงผมเข้าไปกอดแน่น
   “สัญญาด้วยเกียตริของนายสหรัชเลย  กุดูแลมึงไม่ดีเมื่อไร  กูยอมให้พ่อต๊อกเอาปืนมายิงกูทิ้งเลยเอ้า!”ผมยิ้ม  มันยิ้ม  แล้วเราก็กอดกันอย่างมีความสุข...

   เว้นแต่ว่า...

   “เอ้า! มึงสองตัว  เอากันเสร็จแล้วก็ออกมาคุยกับกูด้วย  ได้กันแล้วต้องคุยกับผู้ใหญ่  อย่าเสือกกินในที่ลับตา...  อย่าให้กูเข้าไปลากนะไอ้หมาพวกนี้นี่...”
   “เชี้ยต๊อก... พูดเสียงดังทำเชี้ยไร...  รู้แล้วว่าแม่งเอากัน  ยังเสือกพูดให้มันอายอีกนะ...”
   ผมหันมองหน้าไอ้ยุงที่หน้าแดงเพราะความเขิน  ก่อนจะหัวเราะแล้วก้มลงหอมแก้มมันเบาๆ...
   “เอาหน่า...  อย่างน้อยครอบครัวกูก็ยอมรับนะ...  แล้วมึง...  พยุงกูออกไปด้วย...  กูเดินไม่ไหวแล้ว...  ระบบชิบเลยเนี่ย”มันหัวเราะตอบกลับ  ก่อนจะดึงผมเข้าห้องน้ำเพื่อล้างตัว...  แต่!!!  มันไม่ยอมล้างตัวอย่างเดียวนี้ดิ...  สรุปโดยรวมก่อนที่ผมจะได้ออกไปหาพ่อต๊อกกับพ่อพรต  ผมก็ต้องเสียประตูให้มีอีกสามประตูเบ็ดเสร็จ...  มึงไปตายอดตายอยากมากจาไหนว้า!!  ไอ้เชี้ยยุ๊งงง  กูจะตายแล้วโว้ยยยย!!!

   [Yunk Talk]
   ฮาๆ  มาแนะนำตัวลูกเขยครับ  สวัสดีครับผมชื่อยุงครับ  ผมเจอไอ้ก้อยหรือไอ้ลิตเติ้ลนี้เมื่อหลายชาติที่แล้ว ฮาๆ  ตอนนั้นมันเป็นทอมบอยครับ  ผมยาวมัดรวบ  โดยรวม... น่ารักครับ  กร่างไปทั่วซะชื่อเสียงกระฉ่อน  เท่ห์นิดๆ น่ารักหน่อยๆ  น่าทะนุทนอมเป็นที่สุด!! พอรู้ว่าเข้ามหาลัยเดียวกันก็ดีใจสิครับ  แต่พอมาเจออีกที  อ้าวเชี้ย... ไหงเป็นตัวผู้ซะล่ะวะ...  แต่ช่างมัน  ผมรักของผมนี่หว่า...  ยุ่งยากนะ  เปลืองพื้นที่กระดาษ  ผมรู้ข้อสงสัยของทุกคน  พ่อพรตมาคุยอะไรกับผมใช่มั๊ยล่ะ  ฮาๆ  เดี๋ยวผมย้อนให้ฟังแล้วกัน...  เมื่อตอนนั้นผมนอนอยู่  ตื่นมากำลังงง  มองบนเตียงไม่เห็นไอ้เติ้ลเลยกระวีกระวาดจะไปหามันที่บ้าน  พ่อพรตก็โผล่พรวดเข้าก่อนจะ
   พลั่ก!
   “มึงจะรับผิดชอบลูกกูมั๊ยห๊า ไอ้เหี้ยยุง”จัดหนักจัดเต็มซะผมมึน  ผมส่ายหน้าแก้มึนแต่ดูเหมือนจะทำให้พ่อพรตเข้าใจผิด 
   ผลั๊วะ! โครม!
   เพราะไม่มีหลัก  พอโดนอีกหมัดซ้ำมา  ผมก็เซไปกระแทกตู้เทกระจาดข้าวของซะเละเทะ
   “เดี๋ยวๆพ่อ   ขอผมมึนก่อน  อย่าเพิ่งถาม... ผมเจ็บ”ผมทำมือปางห้ามญาติแล้วสะบัดหัวหูแก้มึนก่อนจะปาดเช็ดเลือดออกจากมุมปาก
   “โอเคพ่อ...  เดี๋ยวผมตอบให้ก่อน...  เมื่อคืนผมมีอะไรกับไอ้เติ้ลจริง  ผมไม่ได้เมา  มันอ่ะเมา...  ที่จริงมันถูกพี่ปีสี่มอมด้วยแหละเลยหมดสภาพซะเละเทะ  ผมก็พามันมาที่ห้องแล้วทีนี้มันดันร้อนแก้ผ้ายั่วผมซะงั้น  ไอ้ผมก็รักไอ้เติ้ลมาตั้งนาน  พอมันยั่วผมเลยตบะแตก...  ที่พ่อถามว่าผมจะรับผิดชอบมั๊ย... เนี่ยผมกำลังจะไปตามมันกลับมา...  ถ้าพ่อไม่ว่าอะไร  ผมขอติดรถพ่อไปที่บ้านเลยได้มั๊ย  เดี๋ยวผมไปเคลียร์กับมันได้มั๊ยพ่อ”ผมตอบยาว  พ่อพรตยืนฟังก่อนจะเดินนำไปที่ประตู...
   “จะไปไม่ไป  กูขี้เกียจรอ...”ผมยิ้มแล้ววิ่งปรู๊ดตามหลังพ่อพรตทันที...  คราวนี้ล่ะเติ้ลเอ๊ย! กูไม่ปล่อยมึงแน่  เมียที่รัก... หึหึ...   



----------------------------------------------------

หายไปสามชาติเศษ  ไม่ใช่อะไร  คิดพล็อตไม่ออก  :z3: :z3:

รอบนี้ก็กลับมาพร้อมกับไอ้หนูก้อยที่อ้อนนารักในตอนเด็กและอ้อนตีนในตอนโต...

รอบหน้าจะเป็นญาติโก โหติกาใครไม่รู้  รู้แต่ผมชอบเอาญาติจากผมเป็นคนบ้าฯกับเจ้านายครับฯ

มาแต่งต่อเล่นเหลือเกิน  มันสนุกมั๊กๆ.. ฮาๆ 

อยากได้+1  ส่วนเรื่องนี้สนุกไม่สนุกยังไงก็บอกด้วยนะครับจะเอาไปปรับปรุงในเรื่องหน้า

ปล.ไม่ได้แต่งฉากเรทนาน  ออกมาก็... ไม่ดีเท่าที่ควรนั่นแหละครับ
ปล2.ฟิคเรื่องนี้คำไม่สุภาพเยอะมากๆ...  และมันจะเป็นอย่างนี้อีกหลายๆเรื่อง  ทำใจซะนะครับ  คนเขียนเกรียนเองแหละ  :z2:
ปล3.กว่าจะมารอบหน้า...  อีกพักใหญ่ครับ  รอมีพล็อตในหัวก่อน  ส่วนใหญ่พล็อตมาตอนสอบ ไม่ได้แต่งสักที พอจะแต่งดันลืม  o22

ปล4.เจอกันเรื่องหน้า  แฮ๊!!! :z13: :z13:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-03-2013 16:55:37 โดย spy4869 »

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
จบแล้วหรออออ แหงะะ o22 :a5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ rule

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 430
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
                                                                       ตอนที่16
                                                           รักทั้งทีต้องปากแบบนี้สิหน่า!

   ผมเดินเลียบถนนฟุตบาท...  ปากฮัมเพลงฉ่อย  น่าน...  ผมสนับสนุนเพลงพื้นบ้านน่ะครับ  แต่ก็ไม่ได้เก่งนะ...
   “เอย...  น่าเบื่อจังนะวันนี้...  เดินมาสามที่ล่ะก็ยังไม่ใช่...  เดินไปเดินมาคนก็ร้อนเบียดเสียด... เดินไปเดินมาคนก็ร้อนเบียดเสียด... อ่ะคนมันเกลียดต้องเข้าใจ... เอ้อ เอย เอิง เอย ช้ะ เอิง เอย...”ร้องไปขำไปครับ  แต่งสดๆก็สนุกดี... 
   พลั้ก!
   “อ๊ะ... ขอโทษครับ”ผมหันไปขอโทษผู้หญิงที่เดินเข้ามาชน  ผมว่าผมเดินปกตินะ  แต่งเหมือนเขาจะเร่งรีบยังไงไม่รู้...
   “เหอะ...  ชนใครไม่ชนดันชนตุ๊ด...  ดวงซวยแน่เลยฉัน”คุณเธอรำพึงรำพัน  โธ่! เป็นตุ๊ดหนักหัวใครครับ... โอเค... ผมเป็นตุ๊ด แต่ผมไปแย่งแฟนเขาเมื่อไรล่ะ...
   “นี้คุณ...  คุณเดินมาชนผม ผมก็อุตส่าห์ขอโทษก่อนแล้ว  ถ้ามารยาทมีพอ ช่วยขอโทษผมแล้วเดินไปรำพึงรำพันอีกสักสามสี่ร้อยเมตรจะได้มั๊ยครับ...  หรือสมบัติผู้ดีเอาไปลงกับผู้ชาย พอเจอเพศที่สามอย่างผมมันเลยไม่เหลือเท่าไร... อ่ะ... จริงสิ... ผมลืมไป... ‘ชะนี’ มันไม่เคยเรียนมารยาทนี้หน่า... ขอโทษนะครับขอโทษ” แอบขำครับ  หูเหอคุณเธอแดงก่ำซะผมกลัวมันจะระเบิดเปาะๆเป็นป็อปคอร์นเลย
   “แก...  อีตุ๊ด อีต่ำ...  ชะนีบ้านแกสิย่ะ... มารยาทฉันมีแต่ฉันไม่คิดจะเอามาใช่กับพวกวิปริตผิดเพศอย่างแกหรอกย่ะ”ฮู่ว์... ของเขาแรงจริง  ผมยิ้มแบบสมเพชนิดๆ  มารยาชายหลายล้านเล่มเกวียนนะครับ
   “มารยาทผู้ดี...  ถ้าผมเคยเรียนเขาไม่แบ่งเพศชายหญิงนะครับ... แล้วถึงผมจะวิปริต  แต่วิปริตแบบนี้ก็มีเสปิร์มทำให้คุณท้องได้แล้วกัน...  ว่าไงครับ  ถ้าไม่อยากมีผัวเป็นตุ๊ดวิปริต  ก็ขอโทษผมหน่อยเถอะครับ  ดูสิ... คนเขามองกันหมดแล้ว...  ผู้หญิงปากจัดจนตุ๊ดอายเนี่ย...  ไม่มีใครคิดว่าน่าคบหรอกนะครับ อ๊ะ...  หรือพวกที่คบๆกันนี้... เขาไม่รู้ว่าคุณเป็นแบบนี้รึเปล่าครับ  น่าสงสารนะครับ  ต้องใส่หน้ากากเข้าหาคนอื่นตลอด โถ่ๆ  สงสาร สงสารจริงๆ”ผมแกล้งทำหน้าสงสารก่อนจะมองเพศแม่ที่สะบัดกระฟัดกระเฟียดเดินออกไป...  ผมมองตามก่อนจะหัวเราะ  ที่จริงมันก็ดีหรอกนะ... ได้ยืนเส้ยยืดสายด่าคนอื่นเขาบ้าง...  ส่วนใหญ่ผมมารยาทดีนะครับ  แต่ถ้ามาด่าผมก่อน...  ตุ๊ดไทยไม่แพ้หญิงใดในโลกนะครับ ฮาๆ
   “อ๊ะ... ร้านกาแฟนี้หน่า...  เอาไงดีน้า... ของยังไม่ได้เลย...”ผมคิดสรตระ แวะแปปหนึ่งแล้วค่อยออกมาหาซื้อก็ยังทันมั้ง... 
   กรุ๊งกริ๊ง...
   “เอ่อ...  เอาลาเต้เย็นแก้วหนึ่งครับ...”ผมหันไปบอกพนักงาน  ก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ในร้าน...  ระหว่างรอ ผมก็มองไปเรื่อยครับ...  เก็บข้อมูลทำงาน... อ่อ... ผมบอกรึยังว่าผมทำงานอะไร  ผมทำงานเป็นช่างภาพอิสระครับ  ฟรีแลนซ์น่ะ รู้จักมั๊ย 
   “กาแฟบ้าอะไรวะเนี่ย...  ขมชิหาย...  นี้มึงใส่กาแฟให้กูอย่างเดียวเลยนี้หว่า... กูไม่กินแล้ว เห้เอ๊ย”ผมหันไปมองคนโวยวาย...  มีพนักงานยืนหน้าจ๋อยเป็นแบ็คกราวอยู่ข้างๆ  ตลกดีนะครับ คนเราทำไมไม่ชอบใช่เหตุผลนะ...
   “แต่คุณสั่งเอสเพรสโซ  กาแฟมันก็เข้มอยู่แล้วนะคะ”พนักงานสาวเถียงเสียงสั่นๆ  เฮ้อ... น่าสงสารชะมัด...
   “นี้ๆคุณ...  ไม่ฉลาดแล้วยังไม่รู้มารยาทผู้ดีอีกนะเนี่ย...”ผมเดกินไปแทรก  ท้าวมือลงบนโต๊ะ มันหันมามองผมแล้วสถบเสียงลั่น
   “มึงมีมารยาทตายล่ะอีตุ๊ด! เสือก!”ผมสะดุ้งกับน้ำเสียงเขานิดๆ  แรงได้อีกจ้า... ไอ้ควายเผือกเอ๊ย...
   “อุ๊ยๆ ไม่หล่อแล้วยัง ‘ทราม’ อีกนะครับ  เป็นตุ๊ดแล้วหนักกบาลใครครับ  ผมว่าคนแบบคุณมันหนักแผ่นดินมากกว่าอีตุ๊ดอย่างผมอีกนะ..”ผมยิ้มอย่างมารยาทงาม  มันทำท่าจะเข้ามาชกผม... โอ๋ะโหย๋... ใครจะยอมให้ชกกันฟ่ะ... โง่จริง
   ซ่า!
   “อุ๊บส์! ขอโทษครับ  พอดีเห็น ‘หมา’ มันจะกัด เลยต้องป้องกันตัวน่ะครับ”ผมเสแสร้งอย่างงดงาม...  อ๊ะๆ... น้องพนักงานสาวอย่ายิ้มชื่นชมผมขนาดนั้นสิครับ มันเขินนะ แอร๊ยยยย...  ตุ๊ดปลื้มจ้า...
   “มึง! ไอ้สัดเอ๊ย!”มันจะพุ่งเข้ามาอีกรอบ  ผมหันมองแก้วน้ำ  และแล้วความซวยก็มาเยือน  รอบตัวผมโคตรโล่งอ่ะ  ไม่มีอะไรหยิบมาป้องกันตัวได้เลย  ผมหลับตาปี๋  โอ๊ย... บ๊ายบายหน้าอันบริสุทธิ์ผุดผ่อง  ต้องมามีมลทินซะแล้ววว
   พลั่ก!
   หมัดลุ้นๆเน้นๆ  แต่เอ๊ะ...  มันไม่เจ็บเลยอ่ะ  หรือหน้าผมฝังเหล็กไหลไว้  เลยไม่เจ็บ  ไหนๆ ลองลืมตาจิ...
   ปริบ... ปริบ...
   เหย้โด้โคอาล่ามาร์กี้... ไอ้สุภาพบุรุษจุติเทพมาเกิดนี้ใครวะ  สุดหล่อยืนบังผมอยู่  โหย... พ่อสูงชะลูดตรูดเปรต  จะสูงจะหญ่ายยย  ไปไหนจ้ะเนี่ย...  ผมชะโงกหน้ามามองด้านหน้า  ไอ้ไม่หล่อแล้วยังทรามลงไปนอนนับดาวบนพื้นครับ  แล้วก็มียามสองคนมาลากมันไปโยนไว้นอกร้าน  โอ๊ย... เมพขิงๆ  เท่ห์อ่ะ!
   “เอ่อ...  เป็นอะไรรึเปล่าครับ...”เขาหันมาถาม...  โอ๊ย... รังสีความหล่อแสบตา...
   “อ่ะ... ฮะครับ... ไม่ครับ  ไม่เป็นไร  ขอบคุณนะครับ”ผมบอกแล้วเดินกลับมาที่โต๊ะด้วยความเร็ว...  อ๋า... อย่ามองผมงั้นสิ  ทำไมผมไม่จีบงั้นเหรอ...  โธ่คุณ... ตุ๊ดก็เขินเป็นนะครับ  เกิดมาผมเคยมีแฟนที่ไหนล่ะ...  อย่าถามเรื่องซิงด้วย... เพราะผมน่ะ ทั้งโคตรโสด โคตรสดและโคตรซิง ไม่เคยผ่านอะไรทั้งนั้นล่ะ โอ๊ย... พูดแล้วก็อาย...  ก็ผมกลัวเจ็บนี่หน่า...
   “ลาเต้เย็นครับ... แล้วนี้... เค้กสตอเบอร์รี่... ผมแถมให้คนน่ารักแบบคุณ... ขอให้อร่อยนะครับ”โอ๊ย! ตุ๊ดเลือดกำเดาจะไหลจ้า...  ฮือ...  หล่อทรมานใจหญิง(เทียม)ชิหายเลยจ้า...
   “อ่า... ขอบคุณครับ...”ผมรับแล้วเอมานั่งกิน... แต่... เลขสิบหลักในกระดาษนี้มันอะไรฟ่ะ...  เบอร์ร้านเรอะ!
   ตรู๊ด ตรู๊ด...
   “สวัสดีครับ”อุ๊! เสียงหล่อกระแทกหูอีกแล้ว...
   “อ่า... ครับ... เอ่อ... นั่นใครเหรอครับ”ผมถาม...  น่ะ คนมันอยากรู้นี้หว่า...
   “ผมชื่อทัพครับ... จอมทัพน่ะครับ แล้วนั่นใครครับ”เสียงนุ่มตอบกลับมา  ผมยกแก้วลาเต้ขึ้นจิบ เชี้ย... ร้อนอ่ะ
   “อ่ะ แค่กๆ... ผมนพครับ นภดล... คือคุณลืมเบอร์โทรศัพท์ไว้บนจานเค้กของผมน่ะครับ...”อ่า... นิสัยดีมั๊ยผม เขาลืมของไว้ก็ต้องคืนเขาสิ เนอะ...
   “อุ๊บ... ฮาๆ”ติ๊ด...  เสียงสัญญาณตัดไป ก่อนที่ผู้ชายร่างสูงโปร่งจะเดินมานั่งฝั่งตรงข้มผม โอ๊ย... หล่ออีกแล้ว  วันนี้เป็นไรเนี่ยผม... มีแต่คนหล่อๆเข้าหา
   “ผมไม่ได้ลืมครับ... แต่ผมสนใจคุณต่างหาก...”ห๊ะ... ไม่เชื่อๆ ไม่เชื่อรูหูตัวเอง ไม่จริง ไม่จริง!
   “ฮะ! อะไรนะครับ”ผมถามซ้ำ  เข้าหน่อยหน่อยครับ ตุ๊ดไม่เคยโดนจีบ สภาพงงี้ ทุกคนแหละ...!!
   “หึ... ผมบอกว่า ผมจะจีบนพครับ... ได้มั๊ยครับ...”
   “อ่า... ง่า... เอ่อ... แต่ว่า... ผมปากจัดนะ... งือ... เป็นตุ๊ดด้วย... คุณ... คุณไม่ชอบหรอก... มั้ง...”อ๋อย... หล่อเกิน ผมไม่นิยมชมชอบหรอก  กลัวเจ็บ...  แต่ก็แอบเขินเบาๆ อ๊ายยย...
   “ฮะๆ... ไม่เป็นไรครับ  ผมชอบคนปากจัด น่ารักดี  ตุ๊ดผมก็ชอบ”อ๊าก... ยิ้มพิฆาต  ช่วยผมด้วยผมจะละลาย...
   ปุ๊ก...
   ใครมานั่งลงอีกคนฟ่ะ  ผมหันไปมอง  แอร๊ย! คนให้เค้กผมเมื่อกี้  มาไงอ่ะ  ผมเห็นเขาหันไปเขม่น มั้งนะ... กับคุณทัพ... เอ๊ย... นี้ผมทำไรผิดป่ะเนี่ยครับ...
   “สวัสดีครับ ผมชื่อจอมเทพนะครับ เรียกเทพเฉยๆก็ได้...”อ๊า... ไม่เอาอ่ะ  หล่อเกิน ผมกลัว...
   “อ่าครับ... ผมชื่อนพครับ นภดล  ขอตัวก่อนนะครับ”ผมรีบพูดแล้วทำท่จะลุกก่อนจะโดนฉุดมือจากสองคนคนละข้าง... พร้อมเพรียงกันไปไหนแฟร่ะ!!
   “ไม่ทราบว่ามีแฟนรึยังครับ”
   “ผมบอกแล้วว่าผมจะจีบ งั้นมื้อนี้ผมเลี้ยงแล้วกันนะครับ”
   โอ๊ยๆ... คนอินโนเซ้นซ์จะเป็นลม...  ไม่ไหวจะเคลียร์แล้วจ้า...
   “นี้คุณ... พวกคุณเป็นใครเนี่ยอยู่ดีๆก็เข้มาจับมือถือแขนผม  ถ้าอยากรู้จักคราวหน้าก็มาคุยดีๆ  ผมยังไม่มีแฟนหรอกนะ แต่เข้ามาจีบแบบนี้ผมไม่ชอบ... เข้าใจมั๊ยว่กลัวน่ะ ห๊า... ผมไม่เคยมีใครจีบมาก่อน...  แล้วก็ไม่ต้องคิดจะเลี้ยงผม  เงินผมมี ผมจ่ายได้... อย่าทำตัวสุภาพบุรุษกับผมเลย ถึงผมจะเป็นตุ๊ด แต่ผมก็ดูแลตัวเองได้เหมือนพวกคุณนั่นแหละ”ร่ายยาวครับ... ไม่ใช่อะไรเขินนนน...
   ทั้งสองคนปล่อยแขนผมครับ  ผมก็เดินไปจ่ายค่าลาเต้กับเค้ก...  แต่พนักงานไม่ยอมรับค่าเค้กผม  จนผมทิ้งเงินไว้เป็นค่าทิปเท่าราคาเค้กนั่นแหละ หล่อนถึงยอมเก็บไป... ผมเดินออกมานอกร้าน... สาบานร้านเค้กนั้นผมไม่เข้าไปเหยียบอีกแหงๆ  เล่นทำวีรกรรมไว้ขนาดนั้น...
   “คุณๆ... คุณนพครับ”ผมหันตามเสียง  ครับ... คุณจอมทัพครับ  วิ่งมาแบบหอบแฮกๆ
   “ผม... ผมเดินเป็นเพื่อนนะครับ”เขาเดินข้างๆ โอเคครับ  ตอบไม่ถูก  ผมยอมให้เขาเดินไปเรื่อยๆ จนถึงช่วงคนแน่นๆ...
   “จับมือนะครับ เดี๋ยวหลงกัน...”แอร๊ก... ฆ่าตุ๊ดให้ตายเหอะครับ มือเขา... อุ่นสุดยอดอ่ะ...  ตกลงผมใจง่ายไปรึเปล่าครับนี้...
   “ที่จริง... ผมชอบคนปากจัดนะ... แต่อย่างนพนี้... น่ารักสุดๆเลยล่ะครับ... ถ้าไม่ว่าอะไร... เรามาศึกษาใจกันดูได้มั๊ยครับ”พูด... พูดอาร๊ายยยย...  คุณจอมทัพครับ  เขาไม่ได้มองหน้าผมนะ... แต่เขาเดินข้างๆแล้วก็กระซิบใส่หูผมเบาๆ  โอ๊ย.. สยิวสุดๆ... แล้วผมทำยังไงน่ะเหรอ... แฮะๆ...  ก็บีบมือเขากลับไปเบาๆอ่ะสิครับ...
   “ผมโมเมเองว่าตกลงได้รึเปล่ครับเนี่ย...”โอ๊ย... เขินเฟ้ย  นี้ไม่ถึงสองชั่วโมงนี้ผมเขินไปกี่รอบแล้ววะครับ...  ตุ๊ดมึน...
   “แล้วแต่จะคิดสิ... คุณนี้มัน...”ผมสะบัดมือหนีแล้วเดินนำหน้าเขาครับ  จอมทัพหัวเราะแล้วเดินมาเกี่ยวมือผมไว้อีกรอบ...
   “ปากดีแบบนี้... มันน่า... จูบจริงๆนะครับเนี่ย...”หัวเราะครับ  หัวเราะเบาๆข้างหูผมเล้ยยย...
   “อะ... ไอ้บ้า...”
----------------------------------------------------------------------

จะบอกว่าสั้น... ก็โคตรสั้น....  แต่น่ารักเบาๆ  อยากแต่งนายเอกปากจัดสักที... พล็อตมาเรื่อยๆ แต่เวลาไม่เรื่อยๆด้วยสักที... ถ้าอยากได้เรื่องต่อไป +1มาซะดีดี ฮาๆ... 

เจอกันเรื่องหน้าในอีกไม่รู้นานแค่ไหนนะครับ กิ๊วๆ :z13: :z13:

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6

ออฟไลน์ Aomampapeln

  • แมวเหมียว เมี๊ยว เมี๊ยว~
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
ปากจัดจิงๆแต่น่าร๊ากกกกมั่กๆ

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
ตอน17จะมาในเร็วๆนี้ครับ...
ถ้าปมมันใหญ่... พระเอกเราจะแก้ปมได้ยังไงนะ...


  :z13: :z13:

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
                                                                             
                                                                               ตอนที่17

                                                                        รักสุดท้าย... คือนิรันดร์



‘รักกู... ให้มากกว่าที่กูรักมึง...’
คำพูดสั้นๆที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง...  แต่ในตอนนี้... ผมคงทำตามสัญญานั้นไม่ได้...  ผมปล่อยแขนมันช้าๆ  หันหลังกลับมาด้วยความเจ็บปวด...   ผมเกลียด... เกลียดที่จะต้องเสียน้ำตาให้คนอย่างมัน  ยิ่งรักมาก... เวลาเกลียดมันก็ยิ่งเจ็บหนัก...  ผมเดินออกมาด้วยอาการเจ็บหน่วงๆในใจ  ว่าแต่... อาการหน่วงนี้มันเป็นยังไงกันนะ... 
“พอใจมึงแล้ว... ทีนี้ก็ทำตามที่มึงสัญญาสิ”ผมพูดกับคนที่ยืนรออยู่ปลายทาง... มันมองผมอย่างชั่งใจก่อนจะเดินนำหน้าผมออกไป ปล่อยให้ผมเดินตามมันไปอย่างเงียบๆพร้อมกับน้ำตาที่ไหลเป็นทาง...
“เอ้า...  ที่นี้... ถ้าอยู่สักระยะคงพอไหวล่ะมั้ง”มันบอกก่อนจะดันผมเข้ามาในบ้านริมทะเลเก่าๆ...    ผมพยักหน้าก่อนจะเดินไปนั่งปุลงบนโซฟาที่ส่งเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าด...
“อาหารสดจะมาส่งทุกวันอังคาร ส่วนอาหารแห้งมีอยู่ในตู้เก็บของชั้นล่าง  น่าจะพอช่วงมึงอยู่ที่นี้...”มันพล่าม แต่ตัวผมตอนนี้ปิดประสาทการรับรู้ทุกอย่าง...
‘รักกู... ให้มากกว่าที่กูรักมึง...’
‘รักกู... ให้มากกว่าที่กูรักมึง...’
‘รักกู... ให้มากกว่าที่กูรักมึง...’
‘รักกู... ให้มากกว่าที่กูรักมึง...’
‘รักกู... ให้มากกว่าที่กูรักมึง...’
ประโยคติดปากของมันที่พร่ำบอกผมอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน...  สุดท้ายแล้วมันก็แค่คำพูดพล่อยๆที่ทั้งผมและมันไม่มีใครทำได้...   ผมรักมัน  แต่ผมก็ต้องยอม...  ความรักที่ผมให้มันไป... มันคงน้อยกว่าที่มันให้ผมกลับมา...  บางที... ความรักที่มาอย่างรุนแรง มันก็อาจจะจบได้อย่างรวดเร็ว...  ผมไม่เคยเชื่อ และก็ไม่เคยคิดจะเชื่อ...  แต่ตอนนี้... ผมไม่มีอะไรให้ยึดเหนี่ยวอีกแล้ว...
มัน... เดินออกไปแล้ว... ส่วนผมก็เดินออกจากบ้านพัก  ที่ชายหาดผมมองคนที่เดินผ่านไปมา... ผู้หญิงหลายคนส่งสายตาให้ผม  แต่ผมเพียงแค่เบนหน้าหนี...  มีบ้างบางส่วนที่เดินเข้ามาทักทายผม  แต่ในอารมณ์ตอนนี้ผมยังไม่พร้อมจะตอบรับอะไรทั้งนั้น....  ผมก้าวลงสู่ผืนทะเล ปล่อยตัวให้ลอยอยู่บนผิวน้ำ เงยหน้ามองท้องฟ้าจนกระทั่งคลื่นซัดสาดให้ผมขึ้นมาสู่บริเวณที่หลังผมโดนกับผืนทรายในที่สุด... และผมก็ทนไม่ไหว  น้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุดตั้งแต่หลายชั่วโมงที่แล้วทำให้ผมเพลียแล้วหลับไป...
“นี่คุณ...  ตื่นดิวะ...”ผมเรียกเบาๆทำให้ผมตื่นขึ้นมา... ใครคนนั้นมองหน้าผมก่อนจะถอนหายใจเบาๆ... 
“ฟู่ว์...  ดีชิบที่ยังไม่ตาย”ผมได้ยินมันสถบเบาๆก่อนจะฉุดผมให้ลุกขึ้น...
“คุณๆ... ช่วยไรอย่างดิ...  นอนทับผมที”มันบอกก่อนจะถอดเสื้อตัวเองออกแล้วร่นกางเกงลงนิดนึง... ผมมองตามมันอย่างงงๆ ก่อนจะถูกมันเลิกเสื้อขึ้นแล้วดึงตัวผมให้ล้มทับมัน...
“อือ...  พี่ครับ อ๊า... อย่า... อย่าจับตรงนั้น... อื๊ออออ...”ผมยังไม่หายงง แต่มันส่งเสียงเหมือนผมกำลังกระทำชำเรามันซะรุนแรง...  ผมเห็นเงาตะคุ่มๆของใครหลายๆคนเดินเข้ามาใกล้  แต่พอคนใต้ร่างผมส่งเสียงออกไปอีก  เงาพวกนั้นก็ค่อยๆกระจายหายออกไป...  ผมมองก่อนจะดันตัวเองลุกขึ้น...
“พวกมันไปแล้ว”เป็นเสียงแรกที่ผมเปล่งออกไปหลังจากผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหน่วงและก็เห็นว่ารอบตัวผมมีแต่แสงดวงจันทร์ร่ำไรๆเท่านั้นที่พอจะส่องให้ผมเห็นร่างของคนตรงหน้า...
“แต๊งค์พี่  ไหนๆก็ไหนๆล่ะ  ผมไปนอนกับพี่ได้มั๊ย”ผมมองหน้ามันอย่างไม่เข้าใจ
“ผมแค่จะหลบพวกมันเฉยๆ ไม่ได้หวังอะไรจากพี่เลย  แต่ถ้าพี่หวังจากผมก็ตามสบายนะ... ถือเป็นค่าที่พักก็ได้”มันพูดออกมาชิวๆเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่โต  ผมส่ายหน้าแล้วพามันเดินไปยังที่พักของผม...  เพราะเพิ่งมาอยู่สดๆเมื่อเย็น  ดังนั้นไม่ต้องหวังว่าจะมีอะไรพิเศษในบ้าน  ยิ่งผมที่มาอยู่ไม่เกินเดือน  ยังไงก็ไม่ยี่หระอะไรกับพวกนี้อยู่แล้ว...
“โห... บ้านพี่โทรมชะมัด... อุ้ย... โทดพี่ ผมปากพล่อยไปหน่อย  ผมนอนพื้นก็ได้นะ ถ้าพี่รังเกียจอ่ะ แค่ให้ผมเข้ามานี้ก็บุญคุณสุดล่ะ”มันพล่ามอะไรไปเรื่อยที่ผมไม่ได้ฟัง...    ผมเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อจะหาอะไรกิน  แต่พอเห็นมือของตัวเอง... มือที่ทิ้งมืออีกคู่นั้นมา  มันก็ทำให้ผมน้ำตาไหลอีกครั้ง
ปั๊ก! ปั๊ก! ปั๊ก! ปั๊ก!
ผมรัวหมัดไม่หยุดจนกำแพงสีขาวมีรอยแดงๆขึ้นอยู่ประปรายถ้าไม่ติดว่าอีกคนพุ่งถลาเข้ามากอดตัวผมไว้ก่อน...  ผมก้มลงทรุดลงไปในอ้อมแขนของมัน...  ไม่เหลือสภาพของคนที่ดูดีในสมัยก่อน  มีแค่ไอ้บ้าที่นั่งร้องไห้เป็นวักเป็นเวรอยู่คนเดียว...
“โอ๋ๆพี่...  มีอะไรบอกผมได้นะ...  ถึงผมจะไม่รู้จักพี่  แต่ผมก็ฟังปัญหาพี่ได้นะ  อย่าทำร้ายตัวเองดิ”ผมไม่ตอบอะไรมันกลับไป...  ทำเพียงแค่กอดตัวเองเอาไว้แบบนั้น... เคยมั๊ยครับ  มันเหมือนจุดพีคที่สุดที่เห็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับเขาก็อย่าทำลายมันทิ้งไปให้หมดน่ะ...
“เอางี้พี่เอางี้...  พี่ลืมร้องไห้ก่อน  เรามาเล่นเกมกัน...”มันพูดทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมอง... ผมเห็นมันยิ้มก่อนจะปาดน้ำตาผมออกไป...
“เรามาเล่นเกมความในใจกันพี่...  สลับกันตั้งคำถาม แล้วก็บอกคำตอบของตัวเอง  พร้อมกับที่อีกฝ่ายต้องตอบคำถามนั้นด้วย...  โอเคป่ะพี่... เริ่มนะ...  พี่เป็นคนที่ไหน  ผมเป็นคนที่นี้นะพี่”มันรัวไม่ให้ผมหยุดพัก...  แล้วมันก็มองหน้าผมเพื่อหาคำตอบ...
“กรุงเทพ...”ผมตอบเบาๆ  มันยิ้ม... ยิ้มแบบไม่มีความทุกข์ใดๆนั้นทำให้ผมต้องหันมามองมัน...
“เอ้า! ตาพี่ถามแล้วไง  ถามดิพี่”มันคะยั้นคะยอ...
“เธออายุเท่าไร....  ฉัน29”ผมถามไปแบบไม่คิดอะไร  อย่าให้ผมเล่นนักก็เอา...  ไหนๆผมก็มีแต่เศร้ากับเศร้าในชีวิตที่เหลือเท่านั้นแหละ...
“โห... แก่ว่ะพี่  ผม20เอง...”9ปี  จะว่าแก่ผมก็โคตรแก่... แต่... ช่างเหอะ...
“ตาผมถามนะพี่...  พี่มีแฟนป่ะ ผมไม่เคยมีเลยนะพี่”ผมสะอึก... 
“เคย... มี... แล้วเมื่อไรจะเลิกถาม...”ผมถามกลับ...  มันหัวเราะก่อนจะส่ายหน้า...
“ยังไม่ใช่ตอนนี้ว่ะพี่  เอ้า! เมื่อกี้พี่ถามไปแล้วใช่ป่ะ  ทีนี้ตาผม...  เรื่องที่เจ็บที่สุดในชีวิตพี่คืออะไร...  ของผมเหรอพี่...  โดคตรผู้ชายด้วยกันข่มขืนว่ะพี่  แม่งโคตรอยากตายอ่ะ ฮะๆ”มันหัวเราะเสียงใสราวกับพูดแค่ว่า อ่อ ผมเป็นร้อนในในปากว่ะพี่... และคำตอบนั่นก็ทำให้ผมหันกลับไปมอง...
“ของพี่ตอนบอกเลิกกับแฟนคนล่าสุด  เธอโดนพวกนั้นทำตอนอายุเท่าไร...  พี่เพิ่งเลิกกับแฟนเมื่อเย็น...”
“อ่อ... อกหักนี้เอง... มิน่า... ไปนอนให้น้ำทะเลสาดเล่น...  ของผมเหรอ...  ตอนแปดเก้าขวบมั้งพี่  จำไม่ค่อยได้แล้วอ่ะ  พวกเพื่อนๆพี่ชายของพ่อเลี้ยงล่ะมั้ง   ผมก็จำไม่ค่อยได้ล่ะ...  ที่นี้ตาผมถามนะ...  พี่เคยอยากตายมั๊ยพี่...  ผมเคยนะพี่ นี่ไงๆ”มันถลกแขนเสื้อให้ผมดู  รอยกรีดหลายแผลที่ขึ้นเป็นแผลเป็นทำให้ผมเบนหน้าหนี...   แต่หางตากลับเหลือไปเห็นรอยแดงที่ข้อมือ...  เหมือนถูกอะไรรัดไว้สักอย่าง...
“พี่... ไม่เคยอยากตายหรอก...  แล้วเธอ... ทำไมถึงอยากตายนักล่ะ...”ผมสงสัย... เด็กที่มีรอยยิ้มกับแววตาสดใสอย่างมัน  แค่บอกว่าโดนข่มขืนผมก็แทบไม่เชื่อแล้ว  ถ้าไม่ถกแขนเสื้อให้ผมดู ผมก็ไม่เชื่อแน่ว่ามันเคยคิดจะตาย
“โธ่พี่...   ชีวิตมันเฮิร์ทนี้หว่า...  บางทีมันก็อยากทำอะไรบ้าๆมั่ง  แล้วพี่ทำไมเมื่อกี้ไปนอนเล่นริมทะเลล่ะ ผมนึกว่าพี่จะไปตายซะแล้วรู้ป่ะ”ตอนนี้เหมือนเรากำลังถามปัญหาคาใจกัน... ผมมองหน้ามันก่อนจะตอบ
“พี่แค่อยากไปดูท้องฟ้าเฉยๆ แล้วเมื่อกี้ ทำไมเราถึงทำแบบนั้นกับพี่”ผมหมายถึงตอนที่มันให้ผมนอนทับตัวมันแล้วส่งเสียงครางนั้นออกไป
“โหพี่... คราวหน้านอนแค่ชานหน้าบ้านก็พอมั้งไม่ต้องลงทุนไปนอนในทะเลหรอก... น่ากลัวชิบเป๋ง...  ส่วนคำถาม... ถ้าพี่หมายถึงตอนเย็นล่ะก็...  ไอ้พวกนั้นมันแมงดาอ่ะพี่  พ่อเลี้ยงกับพี่ชายจับผมขาย  แต่ผมหนีมาได้ก่อนเนี่ย... แล้วดันไปเจอพี่พอดี เห็นแม่งมืดๆเลยจัดฉากไม่ให้มันกล้าเข้ามาหา...  โอนะพี่...”มันหัวเราะเหมือนเล่าเรื่องไปกินข้าวมื้อเย็นให้ผมฟัง 
“ทำไม... มึงถึงไม่ทุกข์เลยวะ”สรรพนามเริ่มเปลี่ยน...  มันมองหน้าผมแล้วยิ้ม...
“มันก็ขึ้นอยู่กับมุมมองอ่ะพี่...  ผมเคยผ่านจุดที่คิดว่าเลวร้ายที่สุดแล้ว  เคยคิดจะตาย  คิดจะบ้าให้รู้แล้วรู้รอด...  แต่พอสุดท้ายทุกอย่างแม่งก็ยิ่งเลวร้าย มันทำให้ผมคิดแล้วก็ดิ้นรนที่จะทำตัวเองให้ดีขึ้นอ่ะพี่...  ปัญหาทุกอย่างผมก็แค่คิดว่ามันเป็นปมเชือกปมหนึ่ง... ถ้าเราแก้ไม่ได้ ก็ปล่อยมันไปแล้วเราก็เดินตามเชือกไปเรื่อยๆ เพราะถึงเราไม่แก้ปม เราก็เดินไปถึงปลายทางได้จากอีกปลายที่โผล่ออกมาอยู่ดี... เก็ทป่ะวะพี่”มันพูดพล่ามอะไรของมันไปเรื่อย... ที่จริงมันคิดแบบนี้ก็ดูเป็นความคิดที่ดี... 
“แล้วทำไมพี่ถึงเลิกกับแฟนพี่อ่ะ”มันถาม... ผมหันไปมองหน้ามันก่อนจะหลับตา... กลั้นใจเล่าเรื่องให้มันฟัง บางที... ผมเองก็ต้องการคนระบายบ้าง...
“กู...  ไม่สบาย... มีเวลาอีกไม่นาน...  พี่ชายมันรู้แล้วก็ไม่อยากทำให้น้องมันต้องเสียใจเรื่องกู...  มันขอให้กูบอกเลิกน้องมัน...  แลกกับการที่มันจะหาที่อยู่ดีๆให้กูในช่วงที่กูยังมีชีวิตอยู่...”ผมตอบ...
“โห...  โคตรโรแมนติกอ่ะพี่...  ไม่อยากให้เขาเจ็บเลยชิงบอกเลิกให้เขาเจ็บก่อนเนี่ยนะ... ถุย! พี่แม่ง...  พระเอกเกาหลีชิบหายอ่ะ...  ถ้าเป็นผมนะ... ผมจะอยู่กับเขาจนวินาทีสุดท้ายอ่ะ... ถ้ารู้ว่าจะตายนะ... ยังไงผมก็ไม่มีทางห่างจากเขาแน่...”มันพล่ามมาเรื่อย...   ก่อนที่ผมจะตัดบทแล้วลุกขึ้นเพื่อไปนอน...
“ขอบใจที่ชวนคุย แต่พี่ว่า เธอไปนอนได้แล้ว... บนห้องนั่นแหละ... เดี๋ยวพี่นอนข้างล่างเอง...”ผมไล่มันไปนอน... มันยิ้มๆก่อนจะก้มลงหอมแก้มผม...
“แทนคำขอบคุณครับ... เพราะพี่เอง... ก็ช่วยผมไว้หลายเรื่องเหมือนกัน”เสียงมันนิ่งไปในตอนท้าย แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไร...   ผมเดินออกไปนอนบนโซฟา  ผ่านค่ำคืนโหดร้ายคืนแรก  อีกไม่นาน...  แค่อีกไม่นานเท่านั้นแหละ...

ผมลืมตาขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น...  ทำท่าจะเดินขึ้นไปเรียกคนที่นอนหลับอยู่บนห้อง... แต่น่าแปลก... ในห้องเหมือนไม่มีคนอยู่... ไม่สิ ต้องบอกว่าไม่เคยมีใครอยู่อยู่ต่างหาก  ผ้าปูที่นอนเรียบจนเหมือนไม่มีใครนอน... บานประตูฝืดเคืองจนแทบเปิดไม่ออก...  ผมเดินลงมาด้านล่างหวังว่าจะเห็นตัวของมันบ้าง...  แต่ผมก็ไม่พบใคร  ไม่แม้แต่รู้สึกถึงสัมผัสที่มันกอดตัวผมเอาไว้... 
ผมเดินออกไปริมทะเลหวังจะพบมัน... แต่ก็ไม่... จนสุดริมหาด... ผมเหลือบไปเห็นหลุมศพที่ฝังไว้... มีป้ายชื่อเขียนไว้ว่า...   นายพิพัฒน์ เหล่าภัคดี... ผมมองภาพบนหลุมศพ  มองวันชาตะและวันมรณะ  คำนวณคร่าวๆ  อายุแค่17เองหรือ...  น่าเสียดายที่ต้องตายตั้งแต่อายุยังน้อย...   ผมมองหลุมศพไปเรื่อยๆ  จนมีคนคนหนึ่งเดินเข้ามาสะกิดผม...
“รู้จักเขาหรือ...”ผมหันไปมอง  เป็นผู้ชายอายุราวๆ45ปี... ผมส่ายหน้าก่อนจะมองเขาที่เดินไปกวาดหลุมศพนั้น...
“ผมชื่อภาวนา... ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ...”ผมพยักหน้าตอบรับ  เขาจ้องมองแววตาของผมเล็กน้อยก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ...
“ถ้าไม่รบกวนอะไร... คุณช่วยฟังเรื่องของผมหน่อยได้มั๊ย...”ผมหันไปมองเขา...  ชายหนุ่มที่กำลังยิ้มเศร้าๆ... 
“ผมกับเขา...”เขาที่ว่านั่น...  ผู้ที่กำลังเล่าหันไปมองป้ายหลุมศพทำให้ผมรู้ว่าอะไรเป็นอะไร... “เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก... เราอยู่บ้านใกล้ๆกัน  ผมรวยแต่พ่อแม่ไม่เคยอยู่กันพร้อมหน้า  เป็นเด็กขี้โรคที่อ่อนแอจนปกป้องอะไรตัวเองไม่ได้ และเขา... ก็ช่วยผมมาตลอด...  ที่หนึ่ง...”ผมได้ยินชื่อเล่นของใครอีกคนหลุดจากปากของเขา ซึ่งผมเดาว่าคงเป็นของหลุมศพตรงหน้านี้... 
“บ้านที่หนึ่งรวยพอๆกับผม  แต่พ่อแม่เขาอยู่ด้วยกัน  เป็นคนแข็งแรงมีเพื่อนฝูงมากมาย  นิสัยก็ดี... จนมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งหนึ่ง...  อยู่ดีๆเขาก็พูดจาร้ายๆกับผม  ไถเงินผมเป็นว่าเล่น...  แต่ทุกกลางวัน  ที่เขาไถเงินผม  บนโต๊ะเรียนของผม... ก็จะมีขนมปังกับนมวางเอาไว้ตลอด...  ผมแอบคิดเข้าข้างตัวเอง... ว่าจะเป็นเขา... ที่เอามาให้ผม...”น้ำตาของคนตรงหน้าไหลออกมาเรื่อยๆ พอๆกับที่ผมนั่งฟังเขาเล่าต่อมา...
“มีอยู่วันหนึ่ง...  ผมอาการกำเริบ... ผมบอกรึยังว่าผมเป็นโรคหัวใจ...  ตอนนั้นผมสลบไปไม่รู้สติ...  ฟื้นขึ้นมาในอีกสองอาทิตย์ถัดมา พร้อมๆกับที่เขาก็หายไปจากชีวิตของผม...  ตอนนั้นผมร้อยรน  ถึงเขาจะแกล้งผมบ่อยครั้ง ไถเงินผมตลอด  แต่เขาก็เคยปกป้องผม...  ไม่มีใครให้คำตอบกับผมได้  จนตอนที่ผมอายุครบ18คำตอบนั้นก็ผ่านมาหาผม...”เขาเอามือจับหน้าอกตัวเองเอาไว้...
“ที่หนึ่งไม่เคยหายไปไหน... หัวใจของเขา... อยู่กับผมมาตลอด...  ผมอบอุ่นทุกครั้งที่หัวใจดวงนี้ยังเต้นอยู่ และผมก็รักษามันเอาไว้ให้ดีที่สุด... ให้เท่ากับที่เขามอบมันมาให้กับผม...  สายตาของคุณตอนนี้...  มันเหมือนสายตาในตอนนั้นของผม...  ว่างเปล่า... ดูไร้จุดหมาย...”เขาบอก  ผมหลับตา... น้ำตา... มันไหลออกมาอีกแล้ว...
“ผมว่าคุณไม่ได้เป็นคนไร้จุดหมาย  แต่คุณปล่อยมือออกจากจุดหมายนั้นเองใช่ไหม...  เชื่อผมเถอะ...  ไม่มีคนรักกันคนไหนอยากห่างจากคนรักหรอกนะ... ถึงแม้สุดท้ายจะต้องจากกัน แต่เขาก็อยากใช้ช่วงชีวิตสุดท้ายให้ดีที่สุด...”คนชื่อภาวนาลุกขึ้นแล้วเดินอ้อมไปหลังหลุมศพที่ผมเพิ่งสังเกตว่ามีใครอีกคนถูกฝั่งอยู่ติดกัน...
“เด็กคนนี้... มาที่นี้ได้จะห้าปีแล้ว...  เราเจอเขาตอนนี้เขาถูกน้ำซัดเข้าฝั่ง... ที่ข้อมือมีเชือกรัดเอาไว้แน่น...  พวกเราที่อยู่ที่นี้พยายามช่วยแล้ว  แต่เขาก็ไม่กลับมา...  ที่ตัวเขามีรอยถูกทารุณหลายที่จนผมเองก็อดคิดไม่ได้ว่าเขาต้องผ่านอะไรมาก่อนจะมาอยู่ที่นี่”ผมมองเข้าไปในรูป  ก่อนจะเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย...

‘มันก็ขึ้นอยู่กับมุมมองอ่ะพี่...  ผมเคยผ่านจุดที่คิดว่าเลวร้ายที่สุดแล้ว  เคยคิดจะตาย  คิดจะบ้าให้รู้แล้วรู้รอด...  แต่พอสุดท้ายทุกอย่างแม่งก็ยิ่งเลวร้าย มันทำให้ผมคิดแล้วก็ดิ้นรนที่จะทำตัวเองให้ดีขึ้นอ่ะพี่...  ปัญหาทุกอย่างผมก็แค่คิดว่ามันเป็นปมเชือกปมหนึ่ง... ถ้าเราแก้ไม่ได้ ก็ปล่อยมันไปแล้วเราก็เดินตามเชือกไปเรื่อยๆ เพราะถึงเราไม่แก้ปม  เราก็เดินไปถึงปลายทางได้จากอีกปลายที่โผล่ออกมาอยู่ดี...’


เสียงคุ้นหูที่คุ้นเคย  สัมผัสอุ่นที่โอบรัดและปลอบประโลมผมเมื่อคืน...  ผมไม่มีทางลืมใบหน้านั้น...  ผมไม่ได้พูดอะไรออกไปแต่นั่งลงข้างๆคุณภาวนา  ก่อนจะลูบมือไปบนแผ่นหินสลักนั้นเบาๆ...
“ขอบคุณนะ...  ที่ช่วยทำให้พี่หายเศร้า...  ทั้งที่เราไม่รู้เรื่องอะไรเลย...  หลับให้สงบเถอะนะ...  พี่สัญญา  พี่จะกลับไปหาหัวใจตัวเองอย่างที่เราบอกนะ...”ผมขอบคุณหลุมศพนั้นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะกล่าวลาจากคุณภาวนา...  และเขาก็ไม่ลืมบอกให้ผมกลับไปทำตามหัวใจตัวเอง...

ไม่นานที่ผมจะกลับมายืนหน้าห้องที่คุ้นเคย แค่สองวันที่หายไป มันทำให้ใจผมแทบไร้ซึ่งเรียวแรง...  ผมไขกุญแจเข้าไป  โชคดีที่เจ้าของห้องยังไม่เปลี่ยนกุญแจ...ผมเดินเข้าไปก่อนจะพบกับคนที่ผมคิดถึง... เขานอนมองผมอย่างเหม่อลอย...  ข้อมือมีสายน้ำเกลือปักคาไว้อยู่.... มัน... เป็นอะไร...
“มา... ทำไม...  กลับไป....  เรา.... เราเลิกกันแล้ว”มันพูดเสียงแหบพร่า...  ผมกอดตัวมันไว้แน่น... น้ำตาไหลหยด ลงบนอกมันแบบไม่รู้ตัว...
“กู... กูขอโทษ...  กูไม่รู้ว่ามึงป่วย...  กู...  กูขอโทษนะ”ผมพูดไม่ออก...  ผมรู้ตัวแค่ผมป่วย  อยู่ได้อีกไม่กี่เดือน... แต่ตอนนี้คนตรงหน้าผม...  สายน้ำเกลือและเครื่องช่วยหายใจที่ต่อระโยงรยางค์ทำให้ผมใจหาย  ทำไม... ผมไม่เคยรู้มาก่อน...
“กูไม่อยากให้มึงมาเห็นสภาพของกู...  มึง... น่าจะได้ไปเจอคนใหม่... ที่ดีกว่ากู... ไม่ต้องเสียใจ...  กูไม่เสียดาย... ที่รักมึง...”มันพูดกระท่อนกระแท่น เมื่อวาน  ผมยังเห็นมันปกติ...  ทุกครั้งที่เจอกัน... มันต้องอดทนแค่ไหน...  มันต้องฝืนยิ้มฝืนพูดแค่ไหนให้ผมสบายใจ  ยิ่งคิด... ผมก็ยิ่งเกลียดตัวเองมากขึ้นทุกที... ทุกที...
“กูขอโทษ...  แต่กูขอเวลา... ให้กูได้กับมึง...  จนถึงวินาทีสุดท้าย... มึงกับกู.... เรารักกันเหมือนเดิมเถอะนะ...”ผมก้มลงร้องไห้ใส่มัน  ไม่อาย... น้ำตาของผม... สำหรับคนที่ผมรักแล้วจะมากมายแค่ไหนผมก็ยอมเพื่อมันได้... 
“รักกู... ให้มากกว่าที่กูรักมึง...”มันพูดให้ผมได้ยินเบาๆ... ผมยิ้มแล้วเงยหน้ามองมัน... ในขณะเดียวกันมันก็ยิ้มตอบกลับมาทั้งๆที่ใบหน้านั้นซีดเซียว... ริมฝีปากนั้นขยับเบาๆ...
“เพราะกู... ก็จะรักมึง... ให้มากกว่าที่มึงรักกู...”ผมหัวเราะแล้วเกี่ยวนิ้วก้อยของมันเอาไว้...
“กูสัญญา...  รักของมึง... ไม่ว่าจะมากแค่ไหน... กูก็จะรักมึงให้มากกว่าที่มึงรักกู...”ผมโอบกอดตัวมันเอาไว้เพราะตัวของมันไม่มีแรงจะขยับอะไรแล้ว...  ผมยิ้มแล้วมองมันที่หลับตาพริ้ม...  แค่ช่วงเวลาไม่นาน... แต่มันคือความสุขของผม...  ความสุข... ที่ทำให้ผมทั้งเจ็บและรู้สึกดีไปได้พร้อมกันอย่างไม่น่าเชื่อ... 

ผ่านไปสองอาทิตย์ อาการของมันยังทรงตัวในขณะที่ผมก็ทรุดลงไปเรื่อยๆ... เราทั้งคู่นอนอยู่ข้างกันและประสานมือกันเอาไว้เพื่อให้รู้ว่ามีคนอยู่ข้างๆ...  มันหันมายิ้มให้ผมและผมก็ยิ้มตอบให้มันไป... 
“กูรักมึง... มากๆนะ”ผมบอกมันทุกครั้งที่เห็นหน้ามัน... ส่วนมันก็ยิ้มตอบกลับมา เพราะตอนนี้มันพูดไม่ได้...  แม้แต่จะลืมตายังลำบาก...  ผมเลยต้องพูดให้มันฟังอยู่บ่อยๆ...
“กู...”ผมรีบฟังว่ามันต้องการอะไร...  เสียงมันแหบพร่าเหมือนคนแก่...  และเบาหวิวราวกับมด...
“จูบกู... ได้ไหม...”มันพูดแค่นั้นแล้วก็นอนนิ่งเหมือนคนหมดแรง...   ผมโน้มตัวไปจูบมันเบาๆ...  ก่อนที่ผมจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างจากตัวมัน... น้ำตาผม... ไหลออกมาอีกครั้ง... มัน... จากผมไปแล้ว...  นิ่งงันราวกับถูกตอกตะปูที่หัวใจ... จูบสุดท้าย... ที่วิเศษที่สุด...
“กูรักมึง... มากกว่าที่มึงรักกู... ดังนั้น... มึงก็ต้องรักกู... ให้มากกว่าที่กูรักมึงให้ได้นะ...”ผมพูดกับร่างของมันก่อนจะนอนลงข้างๆ  ดึงตัวมันมากอด....  ผมเอง... ก็ยื้อร่างกายนี้ไว้ไม่ไหวเช่นกัน...  เวลาของผม... ก็หมดลงเช่นกัน...

“พี่ๆ...  มาแล้วเหรอ...  มาสิ... เดี๋ยวผมพาไปหาแฟนพี่... เขามาที่นี้ก่อนพี่แปปเดียวเองแหละ...”ผมหันไปมอง...  เด็กหนุ่มคนนั้นที่ผมคุ้นหน้า...  เขาพาผมเดินมาถึงริมน้ำ  มีชายสองคนนั่งคุยกันอยู่...  คนแรกหันกลับมามองผม  ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะยิ้มรับผมอย่างยินดี...  ผมจำหน้าของเขาได้...  คนๆนี้คือที่หนึ่ง...
“คุณเจอกับภาวนาแล้วสินะ... ผมเห็นอยู่...  ดีใจมากเลยนะครับที่เขารักผมถึงขนาดนี้...”เขาหัวเราะเบาๆ... ตอนนี้ใบหน้าเขาเท่าอายุตอนเสียชีวิต  แต่จากอายุบนหลุมศพ ผมก็ควรเรียกเขาว่าพี่ได้แล้ว...
“ไปหาคนรักของคุณเถอะ... นั่งเงียบตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”เขาดันผมให้มานั่งข้างๆ...  ผมมองอีกคนที่หลับตาปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาเรื่อยๆ... 
“รักกู...  ให้เท่ากับที่มึงและกูรักกัน...  ได้มั๊ย”ผมถามเบาๆ  มันลืมตาและหันกลับมามอง...
“มึง! มึงมาได้ไง”มันถามหน้าตื่น...  ผมหัวเราะแล้วดึงตัวมันมากอดเบาๆ...
“มึงไม่รู้...  กูก็ป่วย... กูบอกเลิกมึงเพราะไม่อยากให้มึงมารับรู้ความป่วยของกู...  แต่เพราะพวกเขา”ผมพะยักเพยินไปทางสองคนด้านหลัง “พวกเขามาบอกสิ่งสำคัญกับกู...”
“เรื่องอะไรวะ”
“การอยู่ด้วยกัน...  ถึงวันสุดท้ายของลมหายใจ... แต่มึงกับกูนี้คงต้องเป็น... อยู่ด้วยกัน... แม้กระทั่งตอนเป็นวิญญาณล่ะมั้ง ฮาๆ”ผมหัวเราะเบาๆตบท้าย...  มันเอนหัวมาซบไหล่ผม...
“รักกัน...  ให้เท่ากับที่กูและมึงรักกัน... ไม่ต้องมากหรือน้อยกว่า... ตกลงมั๊ย...”ผมยิ้มแทนคำตอบ...
ไม่ต้องแทนที่ตัวเองด้วยหัวใจ...  ไม่ต้องเจ็บปวดจนมีรอยยิ้ม...  แค่พวกเราสองคน... ที่อยู่ด้วยกัน...  ไม่จำเป็นต้องมีหัวใจไว้บอกรัก....  เพราะความรู้สึกที่เหลืออยู่... มันบอกทุกอย่างอยู่ในตัวของมันเอง...  ผมรักมัน... และมัน... ก็รักผม...  ถึงเราจะทำให้รักเราผิดพลาดไปบ้าง... แต่มันก็จบลงได้ด้วยดี...   ยินดีย้อนรับ... ความรักครั้งสุดท้ายของผม... อยู่ด้วยกันตลอดไปนะ...



--------------------------------------------------------------------------------

หายไปนานมากกกกกกกกกกกกก....  แต่ก็กลับมายาวนะคราวนี้ (คิดว่ายาวนะ)...   
ใครเคยอ่านเรื่องของที่หนึ่งกับภาวนา ยกมือ! :a1:
มาแนวเศร้าๆโรแมนติกมั่ง... แต่งแนวนี้ทีไร ยาวทุกทีอ่ะ  :z13:
ขอบคุณแฟนคลับ(ใช้คำนี้ได้มั๊ยเนี่ย ฮาๆ) ตามมาโพสทุกครั้งที่ผมโพสลง  ถึงเรื่องจะสั้นไปนิ๊ส... ไม่รู้เรื่องไปหน่อย...
แต่ผมก็พยายามสุดๆแล้วน้า...   เรื่องหน้าพอจะมีพล็อตแล้ว...  ถ้าไม่เกินกำลังไม่นานคงคลอดออกมา...
(แต่ส่วนใหญ่เรื่องที่คลอดมักไม่มีพล็อต  เรื่องนี้ก็ใช่ ฮา)
ใครไม่ชอบแนวเศร้าไม่ต้องห่วง... เดี๋ยวเปลี่ยนหลายๆแนว... มีครบแน่เรื่องสั้นนี้...
มีถามมาว่าทำไมไม่เขียนเรื่องให้ยาว... ตอบ... ผมเขียนเรื่องยาวไม่เคยจบ... เอาตอนสั้นๆแล้วแถมตอนพิเศษดีกว่าเนอะ... ผมสร้างปมไม่เก่ง แฮะๆ... พล่ามเยอะล่ะ... ขอบคุณที่อ่านนะครับ... ฝันดีจุ๊บๆ :กอด1:

ปล.เค้าชอบตัวนี้ :mew3:กับตัวนี้ :z13:อ่ะ ไปแหละๆ บาย

ออฟไลน์ Aomampapeln

  • แมวเหมียว เมี๊ยว เมี๊ยว~
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
นึกว่าจะจบแบบเศร้าๆซะอีกโรแมนติกดีเนอะเหอๆ

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
                                                       In Camera คุณครับ รักนะ...

   ผมลงจากมอไซค์คันเก่ง...  สวมสะพายกระเป๋ากล้องคู่ใจก่อนจะเดินไปยังจุดชมวิวที่ทางสถานที่ท่องเที่ยวจัดไว้ให้...  จะว่าไป...  ผมไม่ได้มาเที่ยวต่างจังหวัดนานแค่ไหนแล้วนะ... อืม...  หนึ่ง... สอง... สาม... สี่... เจ็ด... แปด...  อ่อๆ  แปดวันนี้เอง! ง่า... อะไรกันครับ  ก็ผมทำงานเป็นช่างภาพอิสระ  ไม่มาฝึกฝีมือบ่อยๆ  เดี๋ยวก็สนิมกินพอดี...  งั้นขอตัวไปถ่ายรูปก่อนดีกว่าเนอะ...  เห็นแบบนี้ผมก็ถ่ายเก่งใช่ย่อยนะคร้าบบบบ...  อะคึอะคึ....
แชะ....
แสงแฟลตที่สว่างเข้ามาในรัศมีสายตาทำให้ผมหันกลับไปมอง  อะไรเนี่ย...  กลางวันๆยังใช่แฟลตอีก...   จะเอาสว่างไปถึงดวงจันทร์รึไง... แฮะๆ...  แต่จะใช้ไม่ใช้ก็เรื่องของเขาเนอะ...  ยุ่งจริงเลยผมเนี่ย  ฮาๆๆๆ
“คุณ...  เมมการ์ดตกน่ะ”ผมหันไปตามเสียงเรียก  โห...  สาวเสียงหล่อบ้านไหนมาเที่ยวน่ะ  พ่อแม่ไม่ห่วงหรือกระไรกัน...
“คุณ...  เฮ้ย! หูหนวกรึไงครับ”
“ห๊ะ...  หะ....  อะ... อะไรๆ  อ่อๆ... ขอบคุณที่เก็บให้นะครับ”ช็อคครับ...  คือผมนึกว่าเธอเป็นผู้หญิงจนมองสำรวจลงไปถึงกลางตัว  แอร๊ก! อย่าเพิ่งบอกว่าผมทะลึ่งดิ...  ผมแค่ไปสะดุดตาตรงนั้น  แม่ม...  ใหญ่กว่าของผมอีก  เห็นแล้วมันก็น่าน้อยใจ  พ่อนะพ่อ...  ให้มาน้อยไปไหนเนี่ย  มันเสียเซลฟ์สุดๆเลยรู้มั๊ย! เพราะงั้น... งดของฝากรอบนี้แล้วกันนะพ่อ!
“มองอะไร...”เขา... เรียกว่าเขาแล้วกัน  ยังทำใจไม่ได้ ฮือ...  เขาถามเสียงห้วนๆ  โธ่! สวยแค่หน้า  ทำไมโลกช่างลำเอียงขนาดนี้...
“เปล่าครับ....  งั้นผมไปก่อนนะครับ... ขอบคุณที่เก็บของให้นะครับ”ผมรีบรับแล้วตั้งท่าจะหนี  ขอไปพักทำใจสักครู่นะครับ  เรื่องนี้มันเศร้าสุดจิตสุดใจเลย  ฮือ...
“เดี๋ยว...  ตอบแทนผมหน่อย  พาไปเลี้ยงข้าวสักมื้อสิ  ข้างถนนก็ได้”ผมหันควับไปทันทีที่เขาเริ่มพูด...  เอ่อ...  ตกลงเขาจงใจช่วยเพื่อขอสิ่งตอบแทนเหรอ...  ผมชักไม่แน่ใจแล้วล่ะว่าผมทำตกหรือเขามาจิ๊กไปน่ะ...  แต่ก็... เอาเหอะ...  เขาเสนอผมก็สนองให้  กล้าขอก็กล้าเลี้ยง...
“รถคุณล่ะครับ”ผมมอง  เพราะแถวนี้มีมอไซค์ของผมจอดอยู่คันเดียว... 
“ไม่มี”สั้นๆ และเขาก็เดินไปนั่งบนมอไซค์ผม  ง่ายดีนะ  เอ้า! กล้าทำมาก็กล้าทำตอบ...  เล่นผิดคนซะแล้วไอ้หนู... คริคริ...
“จอดๆๆๆๆ...”เสียงตบหลังปักๆทำเอาผมต้องเบรกตัวโก่ง  เออ... ก็เปล่าหรอกครับ แค่ชลอน่ะ...  เขาโดดลงจากรถวิ่งไปริมทางก่อนจะหยิบกล้องถ่ายอะไรสักอย่าง  สักพักก็เดินกลับมาซ้อนมอไซค์ผมอย่างเดิม...  หน้ามึนได้อีก  เอาถ้วยมั๊ยครับ  ถ้วยน้ำน่ะ  แล้วผมจะพูดบ้าอะไรคนเดียวเนี่ย แงะ...
“เอ้า! ไปต่อดิ... นิ่งทำบ้าอะไร”ทำเป็นสั่ง เดี๊ยะๆ  เดี๊ยะทำตามเลย (อ้าวววววว....)
“คร้าบๆ  สั่งจังนะครับแม่ ฮาๆ”หนึ่งตุบหลังจากพูดจบ  เอาหน่า ไม่ได้เจ็บมากมาย  ผมออกตัวไปอีกสักพักจนเข้าสู่ที่ๆพอมีอาหารขายบ้าง...  ผมจอดที่ร้านข้าวมันไก่...  ลงไปสั่งกินคนละจาน...
“ขอดูกล้องหน่อย”เขาพูดขึ้นมา  ผมเงยหน้าขึ้นมอง  เรียกว่าเหลือบดีกว่าเพราะปากผมกำลังโซ้ยข้าวมันไก่เข้าปากอย่างไร้มารยาทหรือคุณสมบัติผู้ดีอยู่...
“อือๆ... เอาไอ”ผมละมือที่หยิบจานไปคว้ากล้องให้เขาก่อนจะจัดการโซ้ยต่อ  ผิดกับอีกคนที่นั่งกินไปเรื่อยๆ  ทำไมรู้สึกอายจังเลยวะ...  ผมว่าปกติผมก็หน้าด้านพอทนนะ... เอ่... หรือผมจะดูเป็นผู้ดีขึ้นมาหน่อย  หนังหน้าเลยเลิกด้านน่ะ  คิดได้เนอะคนเรา ฮาๆๆ
“นี้... คิดอะไรอยู่น่ะ”ผมเงยหน้ามองคนถาม  เขาดูรูปในกล้องผมอยู่มั้ง... หรือว่านี้เขามีพลังจิตอ่านใจคน  รู้ว่าผมกำลังรั่วอยู่ ห๊ะ... ไม่จริง งั้นเขาก็รู้เรื่องที่ผมมองเป้าเขาน่ะสิ โธ่!!!!
“ตอนถ่ายรูปน่ะ... ภาพนี้  คิดอะไรอยู่...”แป่ววว...!!! ข้อสันนิฐานตกไป... คราวหน้าพูดให้จบสิคร้าบคนสวย...
“ไหน... อ่อ... ภาพนี้อ่ะนะ”มันเป็นภาพท้องฟ้าอ่ะครับ...  ภาพนี้ผมปีนต้นไม้ขึ้นไปถ่ายเชียวนะ... โคตรทรหดอ่ะ
“ก็อยากลองถ่ายสูงๆบ้าง  อยากลองดูในมุมมองความสูงของนกน่ะ  ถึงจะได้แค่รังมันก็เหอะ แฮะๆ”ผมเกาหัวแกรกๆ  หวังว่ารังแคคงไม่ตกไปในจานข้าวนะ...  เอิ่ม...
“เหงาเหรอ...”ผมหันไปมองคนถาม
“ว่าอะไรนะครับ”ไม่ค่อยแน่ใจ  ผมถามซ้ำอีกครั้ง...
“ตอนถ่ายภาพนี้...  มีอะไรอยู่ในใจรึเปล่า”ผมมองคนตรงหน้า...  คนที่ถ่ายภาพโดยที่ยังเปิดแฟลตกล้อง  (เกี่ยว?)  คนที่สวยกว่าผู้หญิง แต่ดันเป็นผู้ชายและมีอะไรๆที่ผมโคตรอิจฉา...  อ่านได้ขาดจริงๆ...
“ดูออก...”ผมถามแบบเดาทางไป.... ไม่แน่ว่าเขาอาจจะพูดมาเฉยๆก้ได้...
“ภาพมันฟ้องน่ะ...  ก็มัน... เศร้าซะขนาดนี้  ภาพนี้กำลังร้องไห้อยู่นะ...  เหมือนกัน... คนที่โหยหาอิสระน่ะ”ง่ะ... พระเจ้าบอกผมที... ท่านจะให้ผมช็อคกี่ครั้งต่อวันกันแน่... แต่ผมรู้พระเจ้าคงไม่ตอบ... เพราะผมนับถือพุทธไม่ใช่คริสต์... 
“เก่งนะที่ดูออก...  กำลังเครียดอะไรนิดหน่อยนะ... กินเสร็จยัง  เดี๋ยวพาไปที่ๆนึง”ไหนๆก็ดูภาพที่ผมถ่ายออก...  งั้นขอลองอะไรนิดหน่อยแล้วกัน... คงเก่งไม่เบา หรือผมอ่อนเองหว่า... เอ๊ะ... เอาไงล่ะ  ... ปัญหาชวนปวดสมองนะ...
“นี่...”แปปซี่  ขอทะเลาะกับตัวเองก่อน  เอาไง ไปไม่ไป  เลือกอะไรดีหว่า...  ก็ลองพาๆไปก้ได้มั้ง  ไม่น่าจะเป็น...
“เฮ้ย! ไม่พาไป ผมกลับล่ะนะ ขอบคุณที่เลี้ยง”ผมสะดุ้งเฮือก  แหงะ...  ขอเวลาคิดก็ไม่ได้... เชอะๆ...
“เฮ้ย เดี๋ยวๆ  เฮียๆ เก็บตังๆ  ด่วนเลยเฮีย  ผมรีบ”ผมคว้าแขนของอีกคนเอาไว้ โห! โคตรนิ่มอ่ะ 
“ทั้งหมด70บาท  แต่แฟนลื้อน่ารักอั๊วลดให้เหลือ50พอ...”เอิ่มๆ... 
“อ่ะเฮีย  แต๊งค์กิ้วมาก  ไปล่ะเฮีย  ข้าวอร่อยดี  คราวหน้าจะแวะมาใหม่นะเฮีย”ผมตะโกนไล่หลังก่อนจะรีบเดินมาขึ้นมอไซค์  โดนทักว่าเป็นแฟนกับเขาน่ะเหรอ...  กลัวจะโดนเขาเตะกลับมาน่ะสิถ้าได้ยินเข้าล่ะก็...
“ถูกไปเยอะเลยสินะ...  ปกติผมก็ใช้วิธีนี้เดินทางหรือหาของกินอยู่แล้วล่ะ”พูดกลับมาเสียงนิ่ง... ตกลงคือเมื่อกี้ได้ยินใช่ป่ะ... 
“แล้วทำไมเมื่อกี้ไม่ลงมากินเอง ถ้ารู้ว่าฟรีน่ะ”ผมถาม  เอาจริงคือสงสัยมาก...
“ก็เดินไปไกลแล้ว  ขี้เกียจเดินกลับมาเอง  แล้วนายก็ผ่านมาพอดี”เขาตอบเหมือนไม่สำคัญอะไร  นี่หมอนี้ไปกับคนอื่นเขาทั่วเลยเรอะ!
“งั้นถ้าเมื่อกี้ไม่ใช่ผม  คุณก็จะไปงั้นสิ”ผมถาม...  พยายามขับให้ช้าลงไม่งั้นลมตีไม่ได้ยินอะไรสักอย่าง  เขาเอาปากเข้ามาใกล้ๆหูผมก่อนจะตอบ
“อือ... ไปสิ”
“นี้คุณไม่กลัวโดนจับไปขายหรือปล้นบ้างเหรอ...”ผมถามด้วยความเป็นห่วง...  ดูเขาไม่สนใจใคร  ทำตัวมึนและอึนขนาดนี้  ผมก็เป็นห่วงนะ...
“ไม่หรอก...  ผมไม่เคยโดน”
“แล้วมันไม่มีสิทธิ์โดนรึไงเล่า!”เอี๊ยด! ยิ่งฟังยิ่งปรี๊ด...  คนอะไรสวยซะเปล่าไม่สนใจตัวเองเลย...  ผมเบรกรถก่อนจะหันไปขอโทรศัพท์จากคนด้านหลังมาเมมเบอร์ตัวเองเอาไว้...
“นี้เบอร์ผม...  คราวหน้าจะไปไหนโทรมาหาผม  เดี๋ยวผมพาไปเอง...  เบอร์อยู่บนสุดที่เพิ่งกดโทรออกไป...  อย่าลืมเมมล่ะ”ผมบอกก่อนจะออกตัวอีกครั้ง  ไม่นานเราก็มาถึงสถานที่สำคัญของผม...
สถานที่ตรงหน้าของผมยังเหมือนเคย...  ป่าที่เพิ่งผลัดใบ  ใบไม้สีน้ำตาลแห้งโรยร่วงลงสู่พื้นดินอันเป็นที่เกิดและที่อาศัยสุดท้ายของมัน...  ผมคว้ากล้องขึ้นสะพายก่อนจะเดินไปกลางที่ตรงนั้น... มีต้นไม้แห้งๆรายล้อมอยู่รอบข้าง...  ผมนอนลงกับพื้นก่อนจะหยิบกล้องขึ้นมาแนบดวงตา...
แชะ...
“อ้าว คุณ...  ถ่ายรูปสิ...  ที่แบบนี้...  คุณถ่ายไม่ได้งั้นเหรอ”ผมแกล้งพูดกระแทกเสียงนิดๆ  เขาทำหน้าไม่พอใจ ก่อนจะคว่ำหน้าลงนอนกับพื้น  หันเล็งมุมกล้องซ้ายขวาอยู่สักพักแล้วถ่ายภาพออกมา...  ผมหันไปมองเขาแล้วเขาก็ส่งกล้องของเขามาให้ผม
“เอาของนายมาด้วยสิ...”เขาแบมือรอกล้องของผมซึ่งผมก็ส่งให้แต่โดยดีก่อนจะรับกล้องของเขามาดูภาพที่เขาถ่ายเมื่อครู่...
“หืม...  มุมมองเจ๋ง...”ผมเอ่ยชมอย่างอดไม่ได้...  โฟกัสภาพที่ใบไม้แห้งแล้วเบลอต้นไม้ด้านหลัง  ให้บรรยากาศเหงาๆอย่างบอกไม่ถูก  เอารวมๆคือมันสวยอ่ะครับ  ว่าแล้วว่าเขาต้องฝีมือไม่ธรรมดา...   
“ก็ธรรมดา...  ของนายก็สวยดี”เขากลิ้งตัวมานอนหงายอยู่ข้างผม... ถามว่าสกปรกมั๊ย  ตอบทันทีเลยว่า... สกปรกครับ! ก็แหม... กลิ้งไปกลิ้งมา  ดินกับใบไม้แห้งทั้งนั้น  ก็ฝุ่นสิครับ เต็มตัวเลย...
“ผมถามจริงๆเถอะ...  อะไรคือข้อจำกัดของนายน่ะ...”เขาเอียงคอมาถามผม...  ข้อจำกัดเหรอ...  อืม....
“ผมอยากบินได้เหมือนนก...”ผมเห็นเขาหัวเราะนะ...  ข้อจำกัดของผมมันตลกมาเหรอ...  ใครๆก็บินไม่ได้ทั้งนั้นแหละ...
“ข้อจำกัดของคุณ...  ถ้าผมทำให้ดูแล้ว... เลิกถ่ายภาพเศร้าๆซักทีนะ”เขายิ้มแล้วลุกขึ้นปัดกางเกง  ก่อนที่ผมจะทันทำอะไร  เขาก็คว้ากิ่งไม้ใหญ่แล้วปีนขึ้นไปเรื่อยๆ  จนสูงอยู่ในระดับหนึ่ง...
“ผมจะบินเหมือนนกแล้วนะ...”เขายิ้ม...  ยิ้มแล้วก็หัวเราะไปพร้อมๆกัน  ก่อนจะตั้งท่ากระโดดลงมา 
“หนึ่ง...”เขาย่อตัวลงและยึดตัวเอาไว้กับกิ่งไม้ด้านข้าง
“สอง...”เขาเตรียมตัวจะกระโดด พร้อมๆกับที่ผมก้าวเท้าออกไปข้างหน้า
“ซั่ม!!”ร่างของเขาลอยลงมาจากต้นไม้... แน่นอนว่าเขาไม่ได้บินหรอก  เขากำลังตกลงมา...  ผมถลาเขาไปรับก่อนที่เราทั้งคู่จะกลิ้งไปบนพื้นหลายตลบ
“เฮ้คุณ! มันอันตรายนะ... ลงผิดท่านี้แขนขาหัก หรือตายเลยนะคุณ...  คนเราบินได้ที่ไหน  คิดบ้างสิ”ผมว่าเบาๆ...  ส่วนเขายังกอดผมไว้แน่น  ตัวเขาทับอยู่บนตัวผม  มันเบามากจนผมชักสงสัยว่าเขากินอะไรเข้าไปในวันๆหนึ่ง
“ได้สิ!”เขาเถียงขึ้นมาทันควัน
“เมื่อกี้ผมบินอยู่... ถึงจะไม่กี่วิ  แต่ผมก็ลอยอยู่บนอากาศโดยที่ไม่มีอะไรรองรับ...  ผมบินได้  เข้าใจรึยัง”เขาเถียงกลับมาทำเอาผมหัวเราะในมุมมองความคิดของเขา  ใช่! ผมลืมไปได้ไงนะ...  แค่ไม่กี่วิที่เท้าผมลอยจากพื้น  ผมก็บินอยู่ในอากาศแล้วนี้หน่า...  ผมมองหน้าเขาก่อนที่ตาของเราจะสบกัน  และผมเพิ่งสังเกตว่าดวงตาของเขาเป็นสีน้ำตาลอ่อน...  สวยชะมัดเลย...
“ถ่ายรูปกัน”เขาชวน  ทำให้ผมสะดุ้งและผละออกจากเขา...  ผมยิ้มและเขาก็ยิ้มตอบกลับมา  เราสองคนสะพายกล้องคนละตัว  ก่อนที่ผมจะขี่มอไซค์ไปบริเวณที่มีวิวสวยกว่านี้...
“ตรงนี้ดีกว่า  คนเงียบแล้ววิวก็สวยด้วย”ผมเอ่ยบอก  เขาลงจากมอไซค์ก่อนจะถอดหมวกกันน็อคส่งคืนให้ผม...  ผมจัดการล็อคคอรถก่อนจะสะพายกล้องเดินตามมา...  ตรงหน้าของผมคือเด็กผู้ชายที่กำลังยกกล้องส่องไปมาอย่างกระตือรือร้น  และอ่านความหมายของภาพได้อย่างเฉียบขาด...  ผมยกกล้องขึ้นมาแนบดวงตาอีกครั้ง... และในเลนส์นี้...  ผมเห็นคนที่น่ารักที่สุดในสายตาของผม...
ตอนนี้ภาพในกล้องผมเต็มไปด้วยคนที่มาพร้อมกับผม...  ไม่รู้เมื่อไรที่ในภาพจะมีคนๆนี้ติดมาด้วยเสมอ  ไม่มุมซ้ายก็มุมขวาของรูป  บางภาพกลับเป็นเขานั่นแหละ  ที่เป็นจุดโฟกัสของภาพ...   ผมขับมอไซค์กลับมาถึงที่พัก โดยทึ่เขายังขอตามมาด้วยเหมือนเดิม ซึ่งคราวนี้ผมรีบตอบตกลงทันที...
เราไปกินก๋วยเตี๋ยวข้างทางก่อนจะพากันไปที่วัดที่อยู่ใกล้ๆที่พัก...  ก่อนจะไปเดินเลียบริมแม่น้ำ... 
“เออ...  นายชื่ออะไรน่ะ  ผมลืมถามไปเลย”ผมถามเมื่อนึกได้  อยู่ทั้งวันได้โดยไม่เรียกชื่อกันซะงั้น  ทำไปได้เนอะ!
“เดาดูสิ...  สิ่งที่คุณชอบที่สุดน่ะ”เขาหัวเราะพร้อมกับตอบกลับมา  นี้จะเล่นคำถามอะไรเอ่ยกับผมเหรอ...  คนยิ่งโง่ๆอยู่ 
“งั้นผมไม่รู้ล่ะ  ชีวิตผมชอบอะไรเยอะแยะไปหมด  ใครจะไปจำได้เล่า!”ผมโวยกลับบ้าง...  เขายิ้มๆแล้วแย่งกล้องผมไปเลื่อนดูภาพที่ถ่ายมาเมื่อเย็น...
“เยอะแยะเลย...  อย่าบอกนะว่าอีกไม่นานก็จะลืมผมเหมือนกันน่ะ”เขาท้วงเบาๆ  ผมยิ้มกับการกระทำของเขาก่อนจะดึงกล้องกลับคืนมา
“ใครจะไปลืมล่ะ  รูปเต็มกล้องซะขนาดนี้ เออใช่!”ผมอุทานทันทีที่เห็นของที่อยู่ในมือ  สิ่งที่ผมชอบ  ที่ชอบที่สุดเหรอ...
“คุณคือกล้องงั้นสิ!”เขาหัวเราะแล้วพยักหน้ากับการตอบของผม...
“ชื่อแปลกจังเลยนะ  แล้วนายอายุเท่าไรเนี่ย”ผมยังซักต่อ....  เขาชูนิ้วชี้และนิ้วกลางก่อนจะเปลี่ยนเป็นนิ้วชี้ นิ้วกลางและนิ้วนาง...
“เด็กกว่าผมสามปี...  แล้วกล้องทำงานอะไร”พอรู้ว่ากล้องเด็กกว่าผมก็คุยด้วยสบายกว่าเดิม...
“ช่างภาพอิสระ  เหมือนคุณน่ะแหละ...”ผมยิ้ม  เจอคนอาชีพเดียวกัน...  คุยกันถูกคอสินะ...
“เรียกผมว่าฟิลม์ก็ได้...  กฤตนัย  อรุณจันทิรา”ผมบอกชื่อเล่นตัวเองไป...  แล้วก็ชื่อในวงการที่ผมใช้อยู่บ่อยๆ
“อ่อ...  กฤตนัย  ผมก็ว่าอยู่ว่าภาพคุณผมคุ้นๆแนวที่ไหน...  ช่างภาพของนิตยสารท่องทั่วถิ่นสินะ...  ผมชอบดูภาพของคุณบ่อยๆ  มันสวยแล้วก็สื่อความหมายได้ดีมากเลย”เขาชม... แหม ดีใจจังมีคนจำชื่อผมได้ด้วยเนี่ย...
“ครับ  ขอบคุณมาก...  แล้วกล้องล่ะ  ถ่ายให้หนังสืออะไรบ้างรึเปล่า...”ผมถามกลับ  ตอนนี้เรากำลังเดินกลับที่พักหลังจากที่เที่ยวมาตั้งแต่เช้าจรดค่ำ...
“ผมไม่ค่อยได้ถ่ายเท่าไรหรอก...  ส่วนชื่อผมใช้ว่า In Camera น่ะครับ”ผมพยักหน้ารับทราบ  ชื่อคุ้นๆแฮะ  อาจจะเคยเห็นสักทีล่ะมั้ง...
“เดี๋ยวถึงห้องแล้วกล้องอาบน้ำก่อนเลยนะ  พี่ขอเช็ครูปก่อน  แล้วเราเตรียมชุดมมาเปลี่ยนบ้างรึเปล่า”
“ฮึ!  เปล่าอ่ะ...  แค่คิดว่าจะมาก็หยิบกล้องแล้วก็ออกมาเลยน่ะ  เลยไม่ได้หยิบทั้งเงินทั้งเสื้อผ้าเลยสักอย่าง  เงินที่มีติดตัวก็ใช้เกลี้ยงแล้วด้วย”เขาหัวเราะ...  ซึ่งผมก็ว่ามันก็เป็นอะไรที่สนุกดี...
“ดูกล้องมีอิสระดีนะ... อยากทำอะไรก็ทำ...  แต่อยู่ๆจะไปขึ้นรถคนโน่นคนนี้ตลอดน่ะ  มันไม่ดีนะรู้มั๊ย... เกิดเขาฆ่าเราขึ้นมา ตัวแค่นี้จะไปสู้ใครได้ หืม... ไอ้เด็กน้อย”ผมยีหัวกล้องเล่นๆเพราะเขาสูงน้อยกว่าผมเกือบ8เซนต์  จะว่าไปอยู่กับเจ้านี่ก็สนุกดีแฮะ...
“เอ้า!... ไปอาบน้ำก่อน  เสื้อผ้าเดี๋ยวพี่เอาของพี่ให้เรายืมก่อนก็ได้...  ผ้าขนหนูใช้ของที่พักเลย  พี่พกของพี่มา”ผมไล่เด็กน้อยไปอาบน้ำก่อนจะหยิบนิตยสารต่างประเทศมาอ่านฆ่าเวลา...  ระหว่างรออีกฝ่าย... ผมพลิกไปพลิกมา  นิตยสารนี้ผมอ่านมากี่สิบรอบแล้วก้ไม่รู้...  จริงๆคือผมถูกใจภาพๆหนึ่งในนิตยสารเล่มนี้น่ะ...  มันให้ความรู้สึกตื่นเต้นแล้วก็ท้าทาย  ดูโลดโผนดี  เหมือนใครบางคนไม่มีผิด...
‘In Camera’
ผมหันกลับมามองตัวอักษรที่ผ่านหน้าผมไปแทบไม่ทัน...  ชื่อเจ้าของรูปภาพที่ผมดูไปหลายสิบรอบ...  In Camera  นี้มันเรื่องจริงเหรอเนี่ย....  ผมช็อคอ่ะครับ  ช็อคมากด้วย!
ผมนั่งรอคนตัวเล็กที่ยังอาบน้ำไม่เสร็จ...  ไม่นานประตูห้องน้ำก็เปิดประตูออกมา... ผมยิ้มก่อนจะชูนิตยสารขึ้นมา
“กล้อง... รู้มั๊ยนี้อะไร...”ผมเห็นเขาเหลือบมามอง  แต่กล้องในชุดนอนตัวโคร่งของผมนี่เซ็กซี่ชะมัดเลยแฮะ...
“นิตยสารไงครับ  ของต่างประเทศด้วย”เขาตอบเฉยๆเหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญ  ผมเดินไปคว้าตัวเขาเข้ามานั่งตัก  เปิดหนังสือไปหน้าที่ผมคั่นไว้...
“All Time London  นิตยสารอันดับหนึ่งของอังกฤษ   เล่มนี้เป็นฉบับเมื่อสองปีที่แล้ว...  รูปนี้  พี่ชอบมาก  คนถ่ายคือ In Camera คงไม่ลืมที่เราพูดไปใช่มั๊ย  หืม...  เก่งไปมั๊ยครับเนี่ย อายุ21 ก็ได้ถ่ายรูปให้นิตยสารอันดับหนึ่งของอังกฤษซะแล้วเนี่ย”ผมซุกริมฝีปากลงบนซอกคอคนตรงหน้า  สบู่อะไรเนี่ย หอมชะมัดเลย...
“จั๊กจี้หน่า...  ก็ตอนนั้นหางานพิเศษทำ  แล้วคุณอลันเขาก็มาพอดี  พอเห็นผมถ่ายภาพเขาเลยให้ช่วยถ่ายภาพเมืองไทยให้สักชุดน่ะ  โชคดีที่เขาชอบ  เลยได้ตังค์กินขนมเยอะเลย  หลังๆพอมีงานถ่ายภาพที่ไทย  เขาก็จะเมลล์มาบอกตลอด... ก็เลยรับทำให้ตลอดอ่ะ”
“ดูภาพจากกล้องพี่แล้ว... รู้อะไรบางรึเปล่าหืม...”ผมว่านิตยสารลงก่อนจะรวบตัวคนบนตักให้แนบชิดยิ่งกว่าเดิม...
“ไม่รู้เลยมั้ง ถึงยอมให้กอดอยู่เนี่ย  อนุบาลสามยังคิดออกเลย  หึหึ...”หัวเราะตบท้ายให้ผมหน้าแดงเล่นๆ...
“แล้ว... คำตอบอ่ะ...”ผมแกล้งถามไปงั้น  แต่อีกฝ่ายกลับปลดมือผมออกแล้วเดินไปหยิบกล้องเอามาให้ผมดู...
“อะไรครับเนี่ย”ผมเปิดแล้วไล่ดูภาพเรื่อยๆ  เกือบทุกภาพ... มีผมติดเฟรมอยู่เหมือนกัน...  ทำไมน่ารักแบบนี้น้า... 
“พี่อยากได้ยินคำพูดน่ะ... ตอบให้ชื่นใจได้มั๊ยครับน้องกล้อง...”ผมยิ้มแล้วดึงตัวอีกฝ่ายให้ล้มลงนอนข้างๆผม
“งั้นพี่ก็พูดมาก่อนสิ... พี่ยังไม่พูดเลยนะ...”
“ฮะๆ... โอเคๆ... ฟังดีๆนะครับ”ผมกระชับตัวคนในอ้อมกอดมากขึ้นก่อนจะกระซิบอะไรเบาๆที่ข้างหู...
“เป็นแฟนกับพี่นะครับ  เด็กดี”พูดเองก็เขินเองแฮะ... ผมถอยออกมาเพื่อรอฟังคำตอบจากอีกคนที่ตอนนี้ก้มหน้างุด  น่ารักน่าฟัดเกินไปแล้วนะ...
“ครับ...  ตกลงครับ”เขาก้มหน้าหลบสายตาผมใหญ่  แต่เอิ่ม...  อะไรดันขาผมอยู่...
“เอื๊อก...!”นั่นสิ... ลืมไป...  พ่อผมให้มาน้อยกว่าเขานี้หว่า...  อ๊าก...  แล้วผมจะกล้าจับเขาได้ไงเนี่ย... อายว่ะครับ  ด้อยกว่าฝ่ายรับนี้มันโคตรเสียหน้าเลยนะสำหรับผมอ่ะ  พ่อ...  ผมโกรธพ่อแล้ววววว....  ฮืออออออออออออ.......... 


                                                                         [จบจ๋าจ๊ะ!^^]
-
-
-
-
-

หายไปหนึ่งเดือนพอดีเป๊ะ! กลับมาพร้อมกล้องๆและรูปถ่าย  เพราะช่วงนี้บ้ากล้องมาก ตะลอนๆถ่ายรูปตลอดดดดด...   รอบนี้ก็มาในธีมความรักง่ายๆที่เกิดขึ้นได้ผ่านเลนส์กล้อง... ที่อัพวันนี้เพราะเป็นวันฤกษ์ดี วันเกิดโคนัน(ครบ16ขวบแล้ววว) ก็ยังอายุ6ขวบเท่าเดิม ป.1เท่าเดิม...  และก็ยังตามอ่านเหมือนเดิม  ฮาๆ... 

ปล.ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเข้ามา+1และเข้ามาเม้นท์ให้นะครับ ^^ :mew2: 

 :z13: :z13: :z13: //จิ้มนักเขียนได้นะถ้าอยากอ่านอีก  ตอนพิเศษจะดูตามกระแสตอบรับนะครับ เรื่องไหนดีจะเขียนตอนพิเศษเพิ่มให้...  แฮะๆ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2013 00:05:18 โดย spy4869 »

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
อั๊ก!! ตกไปหลายหน้าเลยเทียว  แอบมาดันเบาๆ//ย่องหนี

ออฟไลน์ Der Adler

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +126/-0
ชอบทุกเรื่องเลยอ่ะ o13 o13

โดยเฉพาะสักกะนัท  :hao7: :hao7:  น่ารักมากมายอ่ะ :ling1: :katai5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด