ร้ายที่ 20 พอผมเห็นหน้าไอ้คนที่บอกให้ผมรอปุ๊บ ผมก็สาดคำพูดใส่มันปั๊บโดยไม่ต้องหยุดคิด
“อะไรของมึง ทำไมมึงต้องทำแบบนั้นด้วยฟะ ไอ้สัดเอ๊ย ไอ้เวรตะไล ไอ้ . .” เหวออออออ นี่ผมโดนมันจับหัวให้หันไปข้างหลังแล้วรีบเดินหนี คราวนี้ผมไม่ได้โดนมันลากแล้วครับ ผมโดนมันดันให้ต้อวเดินไปข้างหน้าอย่างเสียไม่ได้ “อะไรวะเนี่ยยยย”
“รีบเดินเร็วเข้า” มันพูดเหมือนมันกำลังหนีอะไรบางอย่าง
“แล้ว . .ลินล่ะ แล้วนี่มึงไม่กินข้าวรึไงวะ”
“กูง่วงเกินกว่าที่จะกินข้าวได้”
“มังกร!!!!!!!!!!!” เสียงลินดังลั่นตามมาจากข้างหลัง ไอ้มังกรรีบพาผมวิ่งหนีทันทีที่ได้ยินเสียง ตายๆๆ เพิ่งเคยเห็นไอ้มังกรมันวิ่งหนีผู้หญิงเป็นครั้งแรก (อันที่จริงแล้วผมก็หนีกับมันด้วยไม่ใช่เหรอ) แอบเห็นไอ้ไนท์กับไอ้แอร์แม่งเหมือนจะช่วยฉุดรั้งสาวลินเอาไว้อย่างสารพัดวิธี
จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่บ้านพักหลังของพวกไอ้มังกร มันดันหลังของผมเข้าไปและก็ปิดประตูล็อคกลอนอย่างแน่นหนา ชนิดที่ว่าเป็นผีก็ยังเข้ามาได้ยากเลยครับ
“เฮ้อออ” มันถอนหายใจอย่างโล่งอก “ง่วงนอนชะมัด” พอพูดจบมันก็เดินผ่านหน้าผมที่ยืนตัวแข็งไปแล้วก็ทิ้งตัวลงไปบนเตียงด้วยท่าคว่ำ เตียงเด้งดึ๋งอย่างมีสปริง และผมก็กำลังมีความคิดที่ว่า . . มันจะหลับไปเลยอย่างนั้นเหรอ?
แล้วกูที่ยืนอยู่ตรงนี้ล่ะวะ!
“เห้ย ทำไมกูต้องมาติดอยู่กับมึงด้วย” ผมเดินไปเอานิ้วเขี่ยหัวไหล่มัน จิ้มจึกๆให้มันรำคาญ
“อยู่ตรงนี้แหละ ไม่ต้องไปไหนหรอก” มันพูดทั้งๆที่นอนคว่ำ ผมต้องเงี่ยหูฟังดีๆ ไม่งั้นผมก็ไม่ได้ยิน
“. . ให้อยู่ดูมึงนอนเหรอ” ผมส่งเสียงอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“จะมานอนด้วยก็ได้”
“เฮ้ยยย!!!”
“ตกใจอะไร”
“พูดออกมาได้ . . ไอ้เหี้ย!!!”
“ถ้างั้นก็อยากทำอะไรทำ”
“จะออกไปข้างนอกห้อง”
“ไม่ได้อยากอยู่กับกูหรอกเหรอ”
“…” ผมชะงัก ถ้ามันเงยหน้าขึ้นมาดูหน้าผมตอนนี้ล่ะก็ มันจะเห็นว่าผมโคตรทำอะไรไม่ถูกกับคำพูดนั้น รู้สึกว่าจริงและไม่จริงต่อต้านกันมั่วไปหมดในสมอง
“ก็เห็นมึงยืนรอ นึกว่าอยากจะอยู่กับกูซะอีก”
“…” มันง่วงจนมันเมารึเปล่าวะ . . แต่พูดออกมาแบบนั้นทำให้ผมรู้สึกอยากเถียงแต่ก็เถียงไม่ออก
“อยากทำอะไรก็ทำเถอะ แค่อยู่ในห้องอยู่ในสายตากูก็พอ”
สายตา สายตาเชี่ยไร ในเมื่อมึงจะนอน! . . ผมพูดในใจมองดูไอ้มังกรหลับและก็เงียบลงในที่สุด แม่งนอนในท่าคว่ำด้วยท่าทางจะง่วงแบบง่วงสุดๆ มันเพิ่งงานเลิกตอนตีสามตอนนี้ก็เพิ่งจะแปดโมงกว่าเท่านั้นคงหลับไม่เพียงพอมั้ง ผมถอนหายใจและก็เลือกที่จะนั่งลงบนเก้าอี้นวมริมหน้าต่างที่ไม่ห่างจากเตียงเท่าไหร่ มองผ่านบานประตูกระจกไป เห็นห้องของผมชัดเจน . . และในส่วนของสระน้ำที่ผมถูกทำร้ายเมื่อคืน
ผมกระดิกเท้ามองไปรอบๆห้อง ก็มีส่วนจริงที่ว่าถ้าออกไปเดินเหินข้างนอกห้องล่ะก็อันตรายคงลอยเข้ามาปะทะหน้าผากตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินแน่ๆ ผมยกมือขึ้นมาค้ำคางอย่างเซ็งๆแทนที่จะได้ไปเที่ยวอย่างสบายใจก็ดันมาติดอยู่กับไอ้มังกรขี้เซาที่หลับปุ๋ยสบายแฮอยู่บนเตียง ผมเผลอมองมัน . . จนผมเห็นโทรศัพท์ของมันที่อยู่บนเก้าอี้ที่ติดกับผม
เพราะมันเพิ่งมีสายเข้าจากลินหยกๆหน้าจอเลยสว่างวาบ นอกจากจะมีสัญลักษณ์ว่ามีสายที่ไม่ได้รับแล้ว . . ยังมีหน้าจอมือถือที่ผมต้องชะงักและก็เหลือบไปดูอย่างอยากรู้อยากเห็น
ไอ้มังกรในชุดนักเรียน!!!!!! มันก็ไม่ได้ต่างจากคนอื่นมากมายนักหรอก . . ก็เป็นเด็กนักเรียนกางเกงสีดำธรรมดาๆแต่ที่มันถ่ายรูปคู่ด้วยข้างๆนั่นน่ะสิสะดุดตาผมมากกว่าไอ้มังกรที่หล่อมาตั้งแต่เด็ก คนที่มันวาดภาพเขาในงานเทศกาล คนที่ศัตรูของมันชอบพูดถึงเสมอๆ และก็เป็นคนที่อยู่ข้างห้องในคอนโดของผม ถึงแม้ว่าตอนนี้จะอยู่ต่างประเทศก็ตาม
พี่แมท . . เขามีรอยยิ้มที่มีเสน่ห์และก็ดูเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก ไอ้มังกรแม่งเส้นใหญ่ใส่ชุดนักเรียนเข้าไปในร้านเหล้าได้ด้วย หนำซ้ำตรงข้างหน้าอย่างเป็นแก้วเหล้าอีกต่างหาก ท่าทางพี่แมทจะไฮโซพ่อรวย ในรูปพี่แมทโอบไหล่ไอ้มังกรเอาไว้และก็แอ๊คท่าให้กล้องอย่างโคตรเท่
พี่แมทคงเป็นคนที่สำคัญกับมันมากสินะ . . ศัตรูพูดถึงเป็นอันต้องโกรธ หนำซ้ำยังเป็นคนที่มันคิดถึงอยู่เสมอๆดูจากการตั้งชื่อใต้ภาพวาด . . หรือว่าในอดีตนั้น มังกรกับพี่แมทจะมีความหลังกัน???
พอเหอะไอ้เชี่ยนาย!!! เรื่องคนที่มาทำร้ายมึงยังน่าปวดหัวไม่พออีกเหรอ . . ดันซ่าส์ไปเอาเรื่องคนอื่นมาคิดอีก เอาเรื่องของตัวเองให้รอดก่อนมั้ย . .
“มึงดูอะไรน่ะ”
ผมสะดุ้งสุดตัวตอนที่มังกรมันเปลี่ยนเป็นย้ายหัวมาทางผมแทนทั้งๆที่แต่ก่อนมันหันไปอีกฟาก
“เปล่าซะหน่อย”ผมรีบโบ้ยไปทางวัตถุชิ้นอื่นทันที “เห็นกระเป๋าตังค์มึงสวยดี” . . เฮ้ย เพิ่งสังเกต หนี้เยอะๆอย่างมันใช้กุชชี่ O_O สงสัยผมคงแสดงออกมากไป มันก็เลยช่วยตอบคำถามให้
“คิดอะไรอยู่ ลินให้กูมา”
แปลกที่ผมหน้าตาเฉยเมยขึ้นมาทันที
“ดูมึงเซ็งๆนะ”
“ก็เซ็งดิ!!!”
“แล้วอยากไปไหนล่ะ”
“มึงไปต้องไปไหนกับลินแล้วเหรอ”
“กูถามมึงอยู่เนี่ย”
“…”
“จะพูดถึงคนอื่นทำไมล่ะ”
ผมหลุบตาต่ำลง . . หลบสายตาปรือๆที่มองผ่านหมอนมาของไอ้มังกร มันทำหน้าเหมือนกับว่าสิ่งที่มันพูดออกมานั้นดูปกติธรรมดาเสียเหลือเกิน . . แต่ผลกระทบของคำพูดนั้นต่อผม มันตรงกันข้าม!
“มึงไม่นอนแล้วเหรอ” ผมเบี่ยงประเด็น
“เมื่อตะกี้กูง่วง แต่ตอนนี้นอนก็นอนไม่หลับ”
“ทำไม”
“กลัวมึงเซ็ง เพราะไม่มีอะไรทำ”
“. . .” มันพูดทำนองนี้อีกแล้ว T_T
“อยากไปไหนรึเปล่า”
“อันที่จริงก็ไม่ได้อยากไปไหนไกลหรอก” ผมมองออกไปข้างนอก “ตั้งแต่มาถึงนี่ . . ยังไม่ได้เหยียบชายหาดเลย”
“งั้นไป” มังกรลุกขึ้นจากเตียงอย่างกระฉับกระเฉง ราวกับเป็นคนละคนกับคนขี้เซาเมื่อตะกี้ “อาบน้ำก่อน”
“เฮ้ย” ผมตกใจกับความกระตือรือร้นขั้นเทพของมัน และก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อมันเริ่มถอดเสื้อของตัวเองออก แผงกล้ามของมันกระทบเข้ากับลูกกะตาของผมเต็มๆก่อนที่ผมจะหลุบตาต่ำลงทันที กล้ามมันแน่นกว่าผมอีก TT “เมื่อกี้มึงจะออกไปกินข้าวทั้งๆที่ไม่ได้อาบน้ำเนี่ยนะ โสโครกว่ะ”
“ก็ผู้หญิงเค้ามาเรียกแล้วเค้าก็หิวมาก” มันเดินเข้ามาหาผม ผมรู้เพราะผมเห็นเท้าสีเรืองแสงได้ของมันมาหยุดอยู่ตรงหน้า . . กูอิจฉาความฝรั่งที่อยู่ในตัวของมึงจริงๆ พับผ่า “แต่ตอนนี้กูยังไม่ได้กินข้าวเลย”
“เออ ไปอาบน้ำ เดี๋ยวกูพาไปกิน”
“ถอยไปหน่อย”
“อะไรวะ” เผลอเงยหน้าขึ้นไปพอดี หน้ามันอยู่ห่างจากหน้าผมประมาณห้าเซนติเมตร ผมรีบถอยหลังทันที
“จะหยิบผ้าขนหนู”
ผมรีบถอยให้มัน มันหยิบผ้าขนหนูแล้วก็เดินไปเข้าห้องน้ำ ไม่ได้สะกิดในใจเลยสักนิดว่าทำให้คนอย่างผมปั่นป่วนภายในแค่ไหน ทั้งความหล่อ ความเท่ สีผิว และก็หุ่นที่โคตรเป๊ะ สาบานได้ว่าไม่เคยมีผู้ชายคนไหนมีผลกระทบกับผมมากมายขนาดนี้มาก่อน
บางทีผมอาจจะปล่อยให้มันเข้ามามีอิทธิพลกับผมมากเกินไป . .
ผมสั่นหัวเดินไปเดินมาในห้อง ระหว่างที่ได้ยินเสียงน้ำจากฝักบัวในห้องน้ำดังซ่าๆ กี่ครั้งแล้วที่ไอ้มังกรมันทำให้ผมต้องปั่นป่วนอยู่ภายใน ต้องทำอะไรไม่ถูก ต้องเก้ๆกังๆต้องหน้ามัน ต้องพ่ายแพ้ทำตามคำพูดมันเพียงเพราะสายตาดุๆนั่น นี่มันกี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว . .
ถ้าปล่อยไปมากกว่านี้ ผมกลัว . . ผมกลัวจริงๆนะ ว่าผมจะ . .
เฮ้ย! ไอ้นาย ไม่ได้นะมึง ไม่ได้นะมึง!!!! หัดควบคุมตัวเองหน่อยดิวะ!!!! ยังไงไอ้นั่นมันก็เป็นผู้ชาย หนำซ้ำยังลึกลับโคตรๆอีกต่างหาก(จู่ๆก็โผล่เข้ามาช่วยเกือบทุกอย่างในชีวิต) . .
คิดไปคิดมาอย่างสับสนในตัวเอง รู้ตัวอีกทีก็เสียงประตูห้องน้ำที่เปิดออกมานั่นแหละ ไอ้มังกรมีน้ำเกาะพราวตามลำตัว มีผ้าเช็ดตัวผูกเอว และก็มีผืนเล็กอีกผืนในมือที่กำลังเช็ดผมอย่างโคตรลวก
“นี่มึงวิ่งผ่านน้ำมาเรอะ!”
“ก็กลัวมึงรอนาน”
มันพูดหน้าตาเฉยแล้วก็เดินผ่านผมไปแต่งตัวอย่างชีวิตปกติ ทำตัวราวกับว่าผมไม่ได้ยืนโด่เด่อยู่ในห้องด้วยยังไงยังงั้น โอเคมันอาจจะปกติสำหรับผม แต่สำหรับผมการที่มันตัวหอมฟุ้ง ออร่าแตกกระจายไปทั่วห้องแบบนี้บอกตรงๆนะ . . ผมโคตรจะห้ามใจตัวเองตอนนี้ไม่ให้มองมันไม่ได้เลย
มันหยิบกางเกงขาสั้นเข้าไปใส่ในห้องน้ำ พอออกมาก็เปลือยท่อนบนเดินออกมาและก็หยิบเสื้อยืดสีขาวลายกราฟิกหน่อยๆขึ้นมาสวม เช็ดหัวแรงๆอีกรอบ ผมน้อยเลยไม่ค่อยพิถีพิถัน หลังจากนั้นมันก็หันมาหาผมและก็บอกว่า . .
“พร้อมแล้ว”
ผมเชื่อว่าตอนนี้ . . ผมห้ามใจตัวเองไว้ไม่ค่อยจะอยู่แล้วล่ะครับ
เพราะขนาดห้ามใจไม่ให้ตัวเองมองมัน . . ผมยังทำไม่ค่อยได้เลย T_____T (แถวบ้านเรียกทำไม่ได้เลยแหละ - -“)
สองร้ายในหนึ่งรัก *
[/b]
“แวะนี่ก่อน”
ผมเดินลิ่วนำหน้ามันมา ส่วนมันก็เดินตามผมมาอย่างไม่รีบร้อนอะไรติดจะชิวๆสบายๆด้วยซ้ำ สาวๆที่เดินสวนไปมามองผมด้วยสายตาที่ค่อนข้างจะโปรยเสน่ห์แต่ทว่าเมื่อเห็นคนที่เดินอยู่ข้างหลังผมนั้นกลับไม่เก็บอาการใดๆเลย พวกเธอแสดงออกอย่างชัดเจนมากว่าไอ้เหี้ยข้างหลังผมนั่นมันหล่อมากน่ากรี๊ดมากและน่ากินมาก ให้ตายสิ ฟ้าดินช่างไม่ยุติธรรม ทำไมผมกับมันเกิดมาต่างกันนักวะ
บ่นซะนานลืมบอกไปว่าผมพามันแวะร้านกาแฟริมทะเลที่แน่นอนว่าเป็นของโรงแรมนั่นแหละ เห็นว่ามีบริการเบรคฟาสต์เบาๆเช่นไข่ดาวเบคอนไรงี้ด้วย(ฝรั่งโต๊ะข้างๆกำลังเคี้ยวตุ้ยๆ)ก็เลยคิดว่าควรจะมีอะไรมายัดลงท้องของไอ้มังกรก่อนเพราะนี่ก็ปาไปเก้าโมงเศษๆแล้วครับ เออแฮะ เมื่อตะกี้ไอ้เชี่ยมังกรอาบน้ำไวเวอร์
“อะไร”
นั่นไง . . ทำหน้านิ่งไม่พอยังเสือกโง่ด้วย “กินข้าว”
“นี่มึงยังไม่อิ่มจากในโรงแรมอีกเหรอ”
“มึงยังไม่มีอะไรลงท้องไม่ใช่เหรอ” ผมนั่งลงที่โต๊ะน้อยๆกลมๆโดยมีมันนั่งลงตรงกันข้าม “ขอเมนูด้วย”
มังกรดูจะเก้ๆกังๆก็เลยนั่งมองดูผมเฉยๆ ส่วนผมก็ยื่นเมนูที่เพิ่งได้รับจากพนักงานไปให้มัน “สั่งดิ”
“เอ่อ . .เออๆ”
พอสั่งเสร็จมันก็มองไปที่ทะเล . . ผมก็มองไปที่ทะเลเช่นกัน สีฟ้าครามใสสะอาดยาวไกลสุดลูกหูลูกตา เป็นครั้งแรกในรอบกี่ปีกันนะที่ผมได้มาเหยียบที่นี่
“ครั้งสุดท้ายที่มึงมาทะเลคือตอนไหนวะ” ผมชวนมันคุยระหว่างที่รอของกินมาเสิร์ฟ
มังกรมองไปที่ทะเล ก่อนจะพูดนิ่งๆ “. . ปีที่แล้ว”
“กูไม่ได้มาตั้งหลายปี . .” ส่วนใหญ่จะวุ่นอยู่กับการแข่งรถ เที่ยวเล่น ใช้ชีวิตไร้สาระแบบเปล่าๆปี้ๆ
“. . อืม”
มังกรยังคงเหม่อต่อไปและก็มองไปที่ทะเลเรื่อยๆ ผมเหลือบมองใบหน้าด้านข้างของมัน ถึงแม้ว่าจะหล่อดูดีสักแค่ไหนแต่สิ่งนั้นก็ปิดความเศร้าที่มันแสดงออกมาไว้ไม่มิด
คำถามๆหนึ่ง ได้หลุดออกมาจากปากผม ถ้าเป็นก่อนหน้านี้มันคงไม่หลุดออกมาจากปากผมแน่ๆ “เป็นไรรึเปล่า”
มังกรดูเหม่อจนไม่ได้สังเกตน้ำเสียงของผม “เปล่า”
โกหกชัดๆ “อันที่จริงกูก็ไม่ใช่คนที่ชอบเสือกอะไรนักหรอก” แต่มึงเล่าก็ดี . . กูอยากรู้ความลึกลับของมึงเต็มแก่
“มึงเคย . .” เหยดดดด มันพูดเว้ยครับมันพูด!!!! แต่มันจะพูดเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่มันคิดอยู่ตอนนี้รึเปล่า “มึงเคยชอบใครนานๆ แล้วไม่ได้แสดงออกบ้างป่ะวะ”
“หา?”
“มัน . . แม่งโง่ว่ะ” ถ้ามีกล้องอยู่แถวนี้ล่ะก็ ผมจะมองเข้าไปในกล้องและก็ส่งไปให้ถึงคนอ่านเลยว่าตอนนี้ผมงงกับมันขนาดไหน สิ่งที่มันถาม แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับผม ผมไม่เคยคบกับใครจริงจังเลยสักคนเดียว ผู้หญิงที่ผ่านเข้ามา อย่างนานที่สุดก็แค่สองอาทิตย์ เจอกันอีกทีก็หลายเดือนต่อมาและก็ควงกันใหม่ อะไรเทือกๆนี้ แต่สิ่งที่ไอ้มังกรถามมา . . มันเป็นความรักที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง
“ใครโง่เหรอวะ”
“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก” อาหารมาเสิร์ฟพอดี ผมกับมันเลยไม่ได้คุยอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อ มังกรมันเป็นคนหน้านิ่งเฉยเมยเย็นชาตลอดเวลาอันนี้ผมค่อนข้างเคยชิน แต่ทว่าสิ่งที่มันแสดงออกมาเมื่อตะกี้เป็นความเศร้า เศร้าอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมกังวล
“เฮ้ยยยยย ทะเลๆๆๆ” ผมถอดรองเท้าแตะอย่างกระจัดกระจายหาดทรายแล้วก็วิ่งลงไปเอาเท้าไปสัมผัสพื้นทะเลริมหาดอย่างรวดเร็ว แดดตอนนี้ยังไม่แรงครับ กำลังดี
“เกือบโดนหัวกู” ผมได้ยินเสียงมังกรมันบ่นผมก็เลยหันกลับไป เห็นมันถือรองเท้าของผมมาด้วยมือเพียงข้างเดียว
“มึงลงมาดิ มาทะเลก็ต้องเอาเท้ามาสัมผัสทะเลดิวะ”
“เหนียว”
“เมื่อเช้ามึงยังโสโครก ไม่ยอมอาบน้ำไปกินข้าวอยู่เลย”
“…”
“ลงมา” ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุขึ้น
“ไม่” มันส่ายหน้า
“ลง มา” ผมพูดอย่างเน้นๆสองคำ จนมันเริ่มอ่อนตาม
“. . ชิ”
มันเลยจำใจต้องถอดรองเท้า ถือทั้งของผมกับของมัน และก็เดินลงมาสัมผัสทะเลใกล้ๆกับผม พอเท้าสัมผัสน้ำปุ๊บ มันก็ทำหน้าเฉย ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรกับไอ้ทะเลนี่เลยยยยยย เฮ้ย ของแบบนี้มันไม่ได้มีในกรุงเทพนะ
“ทำไมทำหน้าอย่างงั้นวะ น้ำที่นี่สวยนะ”
“ก็น้ำอ่ะ”
“มึงนี่แม่งไม่อาร์ตเลยว่ะ”
“เดินบนน้ำมันต้องอาศัยความอาร์ตด้วย?”
“เออน่ะ!” ผมคว้าแขนของมันให้เดินตามมา “มึงลองเดินมานี่ ยืนนิ่งๆ มึงจะจมลงไปกับทราย และก็มีคลื่นสาดน้ำเข้ามาใส่เรื่อยๆแบบนี้” มีคลื่นมาพอดี “รู้สึกดีจะตาย เท้ามันรู้สึกหยุ่ยๆยังไงไม่รู้” ผมเงยหน้าขึ้นมามองมัน “เป็นไง สัมผัสได้ถึงความอาร์ตรึยัง”
ดวงตาที่เกือบจะเป็นสีเดียวกับน้ำทะเลกลับจ้องมาด้วยแววตาที่ต่างออกไปจากเดิม ต่างจากความนิ่งเฉย เย็นชาที่เคยมีให้
ครั้งนี้มันต่างออกไป . .
“มึงนี่มันไม่อาร์ตเอาซะเลย” ผมปล่อยแขนมันและก็ก้มลงไปเล่นเท้าจมทรายตามเดิม อันที่จริงมันก็ไม่ได้สนุกอะไรขนาดนั้นหรอก แต่คนตรงหน้าแม่งทำเอาผมปั่นป่วนข้างในอีกแล้วราวกับแกล้งกัน ระหว่างที่ก้มผมก็ต้องคอยพ่นลมหายใจออกมาเพื่อระงับอาการบ้าๆที่กำลังเกิดขึ้น ให้ตาย แม้แต่รูปอั้มพัชราภาก็ไม่ทำให้ผมรู้สึกแบบตอนนี้ได้
“มังกร!!!!!!!” เสียงผู้หญิงเรียกมังกรดังขึ้น ผมกับมังกรก็เลยหันไปมอง พอผมเห็นลินในชุดว่ายน้ำผมถึงกับต้องตะลึงงันในความเป๊ะเวอร์ของเธอ ทูพีซลายดอกไม้สีส้มจี๊ด เผยให้เห็นสัดส่วนทุกอย่างชัดเจนซะจน . .
ไม่ได่ต่างอะไรกับการใส่ชุดชั้นในกับอันเดอร์แวร์เดินว่อน . .
“ลิน!” มังกรคืนรองเท้าให้ผมและก็ย่างสามขุมเข้าไปหาลินทันที “ทำไมใส่ชุดนี้” น้ำเสียงดุๆที่ผมเคยได้รับ บัดนี้กลับมาอีกครั้ง แต่มันไม่ได้ดุผม
“ก็ลินจะว่ายน้ำ”
“แต่ว่า . .”
“มังกรไหว้เป็นเพื่อนลินนะ นี่ลินชวนไนท์กับแอร์มาว่ายน้ำด้วยแหละ”
ผมเห็นไนท์กับแอร์ที่เพิ่งตามมาทีหลังทำหน้าเหมือนแทบจะกราบขอโทษไอ้มังกรทางสีหน้าอยู่แล้ว พวกมันเปลือยท่อนบนเตรียมเล่นน้ำเป็นทืเรียบร้อย แต่ทำหน้าราวกับโดนบังคับมา
“ลิน ฟังผมนะ”
“จ๋า”
“กลับไปเปลี่ยนชุดก่อน ใส่เสื้อยืดขาสั้นลงมาเล่นก็ได้”
“อะไรของมังกรน่ะ นี่ชุดว่ายน้ำนะ เสื้อยืดขาสั้นมันไม่ใช่ชุดว่ายน้ำ”
“ลินไม่เห็นสายตาไอ้ไนท์เหรอ ไอ้แอร์ด้วย” พวกมันทั้งคู่ได้ยินถึงกับสะดุ้ง “มันมองลินด้วยสายตาเจ้าชู้มาก ลินชอบเหรอ” พวกมันมองหน้ากันและก็คงจะถามกันในใจว่าพวกกูทำอย่างนั้นเหรอวะ?
“ไม่รู้แหละ” ลินยิ้มกว้างให้มังกรอย่างน่ารักก่อนที่จะวิ่งลงไปในทะเล “ถ้าลินใส่ชุดนี้ มังกรก็ต้องมาเล่นกับลินใช่มั้ย!!!!”
มังกรจิ๊ปากอย่างขัดใจก่อนที่จะถอดเสื้อตัวบนและก็เดินลงไปในทะเลเพื่อเล่นน้ำเป็นเพื่อนลิน ซึ่งผมมองว่าเป็นการหวงแฟนในชุดบิกินี่มากกว่า มังกรไม่มองมาที่ผมที่ยืนอยู่เลย เพราะมัวแต่คอยควบคุมสาวเจ้าให้เล่นระวังๆเดี๋ยวจะเกิดการหลุดขึ้นมา
ให้ตาย . . อย่างกับพระเอกนางเอกในละคร และผมก็ไม่ได้เป็นแม้กระทั่งตัวประกอบในฉาก
ดวงไฟที่เริ่มปะทุแผดเผาข้างในจิตใจผม จากที่มันเคยเล็กๆบัดนี้เริ่มไหม้ลามและก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ผมเดินหนีไปตามชายหาดไปทางฝั่งที่มีโขดหินอย่างไร้ซึ่งสติ ณ ตอนนั้นผมคิดในใจเพียงแค่ว่าไปให้ไกลทีสุด ไกลต่อไปเรื่อยๆ
จนกว่าผมจะเลิกมีความคิดที่ว่า . . ที่ของลินตรงนั้นมันเคยเป็นของผม
ความเกรงใจของไอ้ไนท์กับไอ้แอร์ กับ . . การดุด่าของไอ้มังกรเพราะความหวังดี ผมเคยได้รับสิ่งเหล่านี้มาก่อนและก็ได้รับเสมอมา แต่ทว่าวันนี้มันกลับเปลี่ยนแปลงไป โดยที่ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าผมไปสนใจเรื่องแบบนี้เอาตอนไหน มันช่างไร้สาระสิ้นดี แต่ทว่าผมห้ามความคิดของผมไม่ได้เลย
เพราะยิ่งมองกลับไปเท่าไหร่ ไอ้มังกร ไอ้ไนท์ และก็ไอ้แอร์ต่างก็แคร์ลินกันมาก
ช่างมันเหอะ ขอให้ความคิดบ้าๆของผมมันหายไปจากในหัวผมสักทีเถอะ ผมเดินไปเรื่อยๆเตะนั่นเตะนี่ไปสักพัก ก็สัมผัสได้ทิ้งอะไรนิ่มๆมากระแทกที่หลัง คนตัวเบาหวือกำลังกระโดดขึ้นขี่หลังผมอย่างนั้นหรือ
“เจ้านาย!!!” เสียงของลินดังขึ้นข้างๆหู “มาเล่นด้วยกันสิ!”
อะไรนิ่มๆนั่นคือ . . นอ ออ มอ ใช่มั้ย!
“เอ่อ คือ” ผมพยายามจะสบัดตัวเธอให้หลุด แต่ทว่าเธอเกาะผมไว้อย่างเหนียวแน่นหนึบเป็นปลิง “ปล่อยผมได้มั้ยครับ” ยังไม่สนิทกันมาทำอย่างนี้ได้ไง . .
“ลิน ปล่อยเถอะ” ผมเชื่อว่าไอ้มังกรต้องมาแกะตัวเธอออกจากผมด้วยมือของมันเองแน่ๆ ในที่สุดผมก็หลุดจากเกาะกุม
“อะไรอ่ะมังกร ลินก็แค่อย่างให้เจ้านายมาเล่นด้วยกัน”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่เล่น” ผมรีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
“อ้าว” เธอทำเสียงผิดหวัง “มังกร ช่วยเจ้านายมาเล่นด้วยกันกับเราสิ นะๆๆๆๆ” เธอเอาสองแขนโอบรอบคอของมังกรและก็ยืนหน้าเข้าไปใกล้อย่างอ้อนๆ นี่ถ้าไม่มีผมกับไอ้ไนท์ไอ้แอร์ล่ะก็ . . ป่านนี้อาจจูบกันไปแล้วก็ได้
ดวงไฟปะทุในใจผมอย่างดุเดือด ชนิดที่ว่าถ้าปล่อยไว้นานก็นี้ . . มันอาจจะแย่มากก็ได้
“ลิน เจ้านายไม่อยากเล่นกับเราหรอก”
“เค้ามีนัดเหรอคะ”
“ใช่ครับ” ขอบคุณที่ช่วยชี้แนะผมให้ผมได้มีทางได้ออกไปจากที่ตรงนี้สักที “พอดีพี่ชายผมเรียกน่ะ ยังไงก็ . . ขอตัวนะ”
ไม่ต้องฟังอะไรอีกแล้ว ผมเดินหนีออกมาเลย และก็รู้ว่าตัวเองกำลังโคตรหงุดหงิด ผมหงุดหงิดตัวเองที่ดันมีความคิดอิจฉาผู้หญิง หงุดหงิดตัวเองที่ห้ามความคิดของตัวเองไม่ได้ และก็ . .
ผมหงุดหงิดไอ้มังกร รู้สึกว่านี่จะเป็นเหตุผลหลักที่ผมหงุดหงิดเลยล่ะ!
“เชีย! รู้ตัวว่าแฟนมา แล้วแม่งจะมาดึงเราไว้ทำไมอีก!” พ่นออกไปอย่างหงุดหงิด “มึงมัน . . ไอ้ . . เจ้าชู้ แม่งเอ๊ยยยยยยยยยยยยย!!!!!”
ผมคงบ้าไปแล้วแน่ๆ . .
ฉับพลันทันทีผมเห็นชายร่างสูงใหญ่มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า แม่งใส่แมสปิดหน้า หนำซ้ำยังใส่หมวก เขามองมาที่ผมอย่างมีความหมาย ผมมองดูมัดกล้ามที่โคตรใหญ่ของเขา ผมก็รู้เลย . . ว่ามันเป็นใคร
คนร้ายที่ทำร้ายผมเมื่อคืน . .
มันโผล่หัวออกมาง่ายเพราะที่ๆผมยืนอยู่มันโคตรลับตาคน มีแต่โขดหินและก็คนเพียงสองคน
“หึ กำลังรออยู่เลย” มันคื่อคนที่ทำให้ผมร้องไห้เพราะกลัวตาย ขอแก้แค้นสักหมัดสองหมัดหน่อยเหอะ มันยืนนิ่ง ส่วนผมย่างสามขุมเข้าไปและก็ง้างหมัดเพื่อทีจะต่อย แต่ตัวมันใหญ่มาก ใหญ่เกือบๆสองเมตรจนหมัดของผมดูเหมือนหมัดของเด็กสามขวบ
ถึงแม้ว่าผมจะตัวเป็นมวยรองแต่ผมขอสู้ขาดใจ เมื่อคืนแม่งลอบกัดโดยที่ผมไม่รู้ตัวแต่คราวนี้ผมรู้ตัวและผมก็ตั้งใจว่าผมจะไม่แพ้ด้วย
ผมต้องรู้ให้ได้ว่าแม่งต้องการฆ่าผมเพื่ออะไร
แน่นอนว่ามันต้องไม่ยอมให้ผมทำร้ายแต่มันฝ่ายเดียวแน่ๆ(มันไม่ใช่ไอ้มังกรนี่) มันสวนหมัดคืนกลับมาในขณะที่ผมหลบทัน ผมรีบใช้ขาของผมเตะเข้าที่ท้องของมันอย่างแรงแต่ทว่ามันแข็งโป๊กซะจนผมอดคิดไม่ได้ว่าไอ้เหี้ยนี่มันอาจจะเป็นเดอะฮัลค์ก็ได้ แม่งไม่ได้สะดุ้งสะเทือนอะไรกับการโจมตีของผมเลย
มันย่างสามขุมเข้ามา ส่วนผมก็ตั้งท่าเตรียมพร้อมต่อสู้ ถ้ามีไอ้เหี้ยนี่อยู่ในแก๊งที่ผมเคยถล่มมาหลายเดือนก่อน ผมคงไมได้เป็นนัมเบอร์วันของมหาลัยแน่ๆ ก็ดูสิ ผมทำอะไรมันไม่ได้เลย
แต่ก็ใช่ว่าคนอย่างผมจะยอมแพ้มันง่ายๆ ผมไม่ยอมเสียหลักให้มันลอบกัดและก็ทำให้ผมแสดงความอ่อนแอออกมาอีกแน่ๆ ผมแค้นมาก
แต่ยิ่งสู้มันเท่าไหร่ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจนมุม ผมถีบผมจนผมล้มกระแทกลงไปในทะเล เปียกไปหมดทั้งตัว มันเข้ามาใกล้ตัวผม ก้มหน้าลงมา ทำท่าจะจับหัวผมกดลงไปในน้ำเหมือนที่มันเคยทำ มันคิดจะฆ่าผม
ฉับพลันทันทีมันก็ได้เซถลาไปราวกับมีใครสักคนมาโจมตีมันจากทางด้านหลัง ไอ้มังกร . . ซึ่งกระหน่ำใส่ตัวคนร้ายไม่หยุดทำให้ไอ้คนร้ายร่างควายเดอะฮัลค์นั่นไม่มีเวลาได้ตั้งตัว จนในที่สุดมันก็ได้ตั้งตัวและก็วิ่งหนีไป
ผมรีบรุดจะตามคนร้ายไป แต่มีคนกระชากเสื้อของผมให้หันกลับมา ท่าทางมันโมโหมาก
“ไม่ต้องตามไป!”
“มึงไม่ต้องมาเสือก”
“ถ้ากูไม่มาป่านนี้มึงอาจจะตายไปแล้วก็ได้!”
“นั่นมันเรื่องของกู” ผมผลักไอ้มังกรที่เริ่มจะเป็นมังกรพ่นไฟออกไปให้ห่างจากตัว
“มังกร!!!!” ลินในชุดบิกินี่ตะโกนเรียกอยู่ไม่ไกล
“เรื่องของมึงอยู่ตรงนั้น” ผมบอกกับมัน และจะเดินหนี
“จะไปไหน”
“กูจะตามมันไป”
“ไม่ได้!”
“นี่มันเป็นเรื่องของกูนะ”
“เลิกพูดอย่างนี้ซะที!!!” มังกรจับไหล่ของผมให้หันมาสบตามันตรงๆ “เรื่องของมึงเป็นเรื่องของกูมาตั้งนานแล้ว นี่มึงยังไม่เข้าใจอีกเหรอ!”
“โกหก!”
“มังกร เจ้านาย เกิดอะไรขึ้นคะ” ลินหน้าเสียมองดูผมกับมังกรกำลังทะเลาะกัน ตอนนี้เธอเดินมาอยู่ใกล้ๆมังกรและก็แขนของมังกรที่แตะไหล่ของผมไว้
ผมสะบัดแขนไอ้มังกรออก ผลักมัน และก็เดินหนีมันไป ผมโคตรหงุดหงิด หงุดหงิดมากๆ ได้เจอทั้งคนร้ายและก็ได้เจออะไรแบบนี้ตรงหน้า นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าโลกนี้แม่งโคตรเลวร้ายสำหรับผมเลย
มังกรมันเดินมาขวางหน้าของผมเอาไว้
“เหี้ยอะไรอีก”
“กูขอโทษ”
. . นั่นทำให้ผมชะงัก “ขะ ขอโทษอะไร”
“ขอโทษที่ดึงมึงมาแล้วไม่ได้อยู่กับมึง”
“ช่างแม่งเหอะ ลินเค้าเป็นแฟนมึง กูก็แค่ . .” “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!”
ไอ้มังกร ไอ้เหี้ย ไอ้ฟายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
“นี่คือสิ่งที่กูเลือก” พูดจบแม่งก็ลากผมให้เดินตามไป ผมที่ยังไม่ค่อยมีสติสตังก็เผลอโอนอ่อนตามแรงมือของมันไปอย่างเสียไม่ได้ นี่ถ้ามันไม่ได้ทำอย่างนั้นล่ะก็ ป่านนี้ผมคงมีแรงเถียงและก็มีแรงสะบัดมือมันออกไปแล้ว
. .
มันจูบผม เดี๋ยวรีบมาต่ออีก สัญญาๆๆๆ