ร้ายที่ 25 ฝนหยุดตกตอนที่ผมพาเจ้านายมายังสุสานที่มีหลุมศพสีขาวทอดยาวอยู่เต็มไปหมด ผมเดินนำเจ้านายมายังหลุมศพที่ผมมาบ่อยและก็คุ้นเป็นอย่างดี
. . แมท
เจ้านายทรุดตัวลงนั่ง เอื้อมมือไปแตะป้ายหลุมศพของแมท แมทมึงเห็นมั้ย คนๆนั้นของมึงเค้ารับรู้การมีตัวตนของมึงแล้วนะ . . มึงดีใจใช่มั้ยวะ
“มึงบอกว่า . . พี่แมทต้องมาตาย . .เพราะปกป้องกูเหรอ” เจ้านายพูดช้าๆด้วยน้ำเสียงที่แสนเศร้า
แมทคงไม่อยากให้เจ้านายคิดอย่างนั้น “เปล่า”
“แต่ที่มึงเล่ามาทั้งหมด . . มันหมายถึงอย่างนั้นจริงๆนี่” เจ้านายเอามือปิดหน้า “กู กูไม่รู้เลย . .กูไม่เคยรู้อะไรเลย”
แผ่นหลังอันสั่นเทาของเจ้านายนั่นทำให้ผมเริ่มรู้สึกหัวใจแตกสลาย . .
“ความผิดของกู . . ที่ทำให้เพื่อนรักของมึงต้องตาย” เจ้านายดูไร้ซึ่งสติ เริ่มเดินหนีผมไปยังลานจอดรถที่ผมกับเจ้านายเพิ่งจะจากมา “ความผิดกูเอง ความผิดกู . .”
ผมกลัวว่าเค้าจะทำร้ายตัวเอง ผมจึงรั้งตัวเค้าเอาไว้ด้วยการดึงข้อมือ . . เพราะตอนนี้เจ้านายดูสติแตกจริงๆ ทั้งตัวสั่นและก็ดูเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก
ไม่ช้าก็เร็ว . . เค้าก็ต้องรู้
“มึงก็เลยเกลียดกูใช่มั้ย” เจ้านายเงยหน้าขึ้นมาถามผม “เพราะกูทำให้เพื่อนมึงต้องตาย มึงเลยเกลียดกูใช่มั้ย . .”
“…”
“มึงเลยแกล้งเข้ามาในชีวิตกู ปั่นหัวกู หลอกให้กูรักด้วยการเข้ามาดูแลกู แล้วในท้ายที่สุด . . มึงก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“ไม่ใช่นะ”
“มันเป็นอย่างนั้นมาโดยตลอดสินะ” เจ้านายสะบัดมือผมทิ้ง “กูจะบอกอะไรให้ . . มันได้ผล . . ได้ผลทุกอย่าง” เจ้านายตวาดเสียงกร้าว “กูรักมึงแล้ว สาสมกับใจมึงรึยัง!!!”
“เจ้านาย . .” ผมต้องรีบดึงตัวเค้าเข้ามาให้เค้าฟังผม
“มึงเลือกวิธีแก้แค้นได้เจ็บแสบมาก” เจ้านายปาดน้ำตาที่เริ่มไหลพรั่งพรู
“ไม่ใช่อย่างนั้น . .” ผมพยายามพูด สีหน้าของผมแสดงออกถึงอาการหนักใจมาก “ที่กูรักมึงไม่ได้ . . ก็เพราะ . .”
เจ้านายมองผมทั้งน้ำตา รอฟังคำพูดของผม
“เพือนกู . . มันรักมึง”
“แล้วไง” เจ้านายระเบิดออกมาทันที แต่เป็นแบบที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงใดๆ “พี่แมทเค้ารักกู ใช่ . . แต่จะให้กูทำยังไงวะมังกร กูต้องตายตามไปรับรักเค้าบนสวรรค์ใช่มั้ยมึงถึงจะพอใจ ฮึกกก กูทำอะไรไม่ได้แล้ว มึงก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว มึง . . ฮึกก . .”
“. .”
“. . ควรจะอยู่กับปัจจุบันบ้าง”
เจ้านายผลักผมอย่างแรงจนผมล้มลงไปกอง . .
“แล้วจะบอกอะไรให้อย่างนะ . .”
“…”
“กูเสียใจที่ทำให้เพื่อนรักของมึงตาย กูเสียใจจริงๆ มันเป็นเพราะกู . . แต่ถ้าพี่แมทบอกเรื่องนี้กับกูเองสักนิด กูคงทำอะไรบางอย่างได้”
“…”
“กูผิดที่กูไม่รู้อะไรเลย หรือเพราะไม่มีใครบอกอะไรกูเองกันแน่”
ผมเห็นเจ้านายเดินหนีไปเรื่อยๆ . .
“พอกันที . . มังกร . . พอกันที”
“…”
“. .ถ้ากูจากไป. . มึงคงมีความสุข”
นั่นมันห่างไกลกับสิ่งที่ผมคิดเอาไว้มาก
“กูจะไม่มาให้มึงเห็นหน้าอีก”
สองร้ายในหนึ่งรัก *
“ฮัลโหล” ผมกดรับสายสายหนึ่งที่ดังเข้ามาในเวลาทำงานของผม มองดูนาฬิกา ตอนนีเกือบจะหกโมงเย็นเข้าให้แล้ว
“ผมตามจับตัวมาได้แล้วครับคุณกานต์”
“ดี” ผมชม “งั้นเอาตัวมาเลย”
ผมนั่งควงปากกาเล่นอย่างเครียดๆอยู่นานหลายนาที ดวงตาเหม่อมองไปยังแฟ้มและเอกสารรูปภาพต่างๆที่อยู่ข้างหน้าอย่างลังเล
ผมรู้ตัวคนที่ทำร้ายน้องชายของผมแล้ว . .
คนที่ทำการนั้นทำให้ผมลังเลที่จะปักใจเชื่อ เพราะฉะนั้นผมจึงต้องถามจากคนที่รู้จริงๆว่าเพราะอะไรทำไมคนๆนี้ถึงได้ทำ . . คิดว่าถ้าถามตรงๆมันบอกก็คงไม่บอก ผมเลยต้องใช้กำลังพามันมานี่ไง
ไอ้ไนท์ . . ผู้ซึ่งถูกมัดมือและก็คลุมหัวเข้ามาในที่ทำงานผม ผมสั่งให้ลูกน้องจัดการปลดพันธนาการออกจากตัวแหล่งข้อมูลชั้นดีของผม พอมันเห็นหน้าผมเท่านั้นแหละ . .
มันก็จะพุ่งเข้ามาซัดหัวผมให้เลือดตกยางออกกันเลยทีเดียว
“เฮ้ ใจเย็น” ผมรีบบอก “เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“วิธีการที่มึงพาตัวกูมามันเหี้ยสุดๆ!” มันคงจะอารมณ์เสียเรื่องนี้สินะ . . “อุ้มกู . . อุ้มกูเนี่ยนะ คนแม่งเป็นแสนมั้งที่จ้องมาที่กูอ่ะ”
ช่างน่าอับอาย . .
“ขอโทษ” ผมรีบพูด “กูรู้ตัวคนร้ายที่ทำร้ายเจ้านายที่ภูเก็ตแล้ว”
นั่นทำให้ไนท์มันสงบลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็โวยวายขึ้นมาแทบจะในทันที “ใคร! บอกมา!”
“ก็บอกแล้วไง . . ว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน”
เคยเห็นผีตายซากมั้ยครับ
นั่นแหละคือคำนิยามของผมในช่วงนี้ หลังจากถูกปฏิเสธอย่างไร้ซึ่งเยื่อใยกับรับรู้ความจริงอะไรบางอย่างเกี่ยวกับพี่ชายข้างห้องที่ไม่ได้ไปต่างประเทศ ผมก็ไม่ต่างอะไรจากคนที่ยังเป็นคน . . แต่ไร้ซึ่งจิตวิญญาณ
“มาหาใครเหรอวะ” ธัญถาม ขณะที่เห็นผมถือช่อดอกไม้สีขาวเดินลิ่วๆมายังหลุมศพของพี่แมท หลุมศพที่ตอนนี้มีดอกไม้สีขาวแบบเดียวกันวางอยู่เหมือนกันหลายช่อ
นั่นหมายความว่า . .ผมมาที่นี่เกือบจะทุกวัน
“เค้าเคยช่วยชีวิตกู” ผมตอบเสียงนิ่ง นั่งยองๆลงหน้าป้ายหลุมศพ วางดอกไม้ลงข้างๆกับช่ออื่นๆ แล้วลูบป้ายหลุมศพไปมาอย่างคนแน่วแน่
“มีอะไรจะเล่าให้กูฟังมั้ย”
น้ำเสียงของธัญฟังดูเป็นห่วงผมมาก . . “ยังไม่พร้อมจะเล่าว่ะ” ผมมีเรื่องราวในใจมากเสียจนเรียบเรียงเป็นคำพูดไม่ถูก
“เจ้านาย . .” ธัญพูดขึ้น “. . มึงดูแปลกๆไป ทั้งซึม และก็แข็งๆ กูไม่เข้าใจมึงเลย”
“ . . ไม่มีอะไรให้ห่วงหรอก”
ตั้งแต่วันที่แยกจากกันที่นี่ . . นี่ก็ผ่านไปเกือบสองสัปดาห์แล้ว ผมกลายเป็นเจ้านายที่แน่นิ่งและสุขุมเยือกเย็นจนทำเอาแฝดเพื่อนผมปวดหัวและก็ร้อนใจกันไปหมด . .
ช่วงนี้ผมลืมไปแล้วด้วยซ้ำ . . ว่ารอยยิ้มและความสุขนั้นมันเป็นยังไง
“งั้น . . วันนี้ไปเดินห้างป่าว”
ผมส่ายหน้า ปฏิเสธคำชวนของธัญ ขณะที่เราสองคนเดินออกมาจากสุสาน
“ไปกินชาบูมั้ย”
ผมส่ายหน้าอีก
“อยากไปไหนมั้ย”
ผมส่ายหน้า นั่นทำให้ธัญยอมแพ้ในที่สุด . .
“กูเป็นห่วงมึงว่ะ”
“เป็นไปไม่ได้” ไนท์พูดออกมาหลังจากที่รู้ชื่อคนทำ แน่นอนว่าผมหว่านล้อมให้ไอ้เด็กนี่มันปูดเรื่องความลับของมังกรออกมาจนหมด
ป่านนี้น้องกูจะเป็นไงบ้างวะเนี่ย TT
“เป็นไปแล้ว” ผมตอบเสียงเครียดๆ “ทุกอย่างชี้ชัดไปที่คนๆนี้ . .”
“แล้วมึงจะทำยังไงต่อ . . มึงจะ . . แจ้งความเหรอ” ไนท์ช็อคสนิทไปแล้ว
“. . คงไม่”
“. . .”
“เพราะตอนนี้เจ้านายอาจได้ใช้หนี้ให้เค้าไปแล้ว” ผมพูด ทั้งๆที่ไม่ค่อยแน่ใจนักว่าสิ่งที่ผมพูดมันถูกรึเปล่า “ยังไงชีวิตก็แลกกับชีวิตไม่ได้ . . ถ้าเค้าลงมืออีก . . กูก็จะไม่อยู่นิ่ง”
“เดี๋ยวกูช่วยอีกแรง”
นั่นเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของผมเอาไว้มาก
“กูจะช่วย . . เป็นหูเป็นตาให้อีกแรง”
“แล้วตอนนี้ . . มังกรเป็นยังไงบ้างวะ” ผมถามถึงไอ้อนาคตน้องเขยที่น้องชายของผมเลือกเองเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ไนท์มันบอกว่าน้องผมไปสารภาพรักกลางสายฝนต่อหน้าไอ้มังกรแต่ถูกปฏิเสธ
มันช่างกล้า . .
แต่ลึกๆแล้วผมรู้ว่าตอนนี้มังกรมันกำลังสับสน . . ผมอยากจะไปเตือนสติมันชะมัด เรื่องคนที่ยังอยู่ กับคนที่จากไปแล้ว มันควรจะเลือกสิ่งไหน
ผมเชื่อว่าเพื่อนมันจะเข้าใจ . .
“ผีตายซาก”
“ฮะ”
“มันไม่แดกเหี้ยอะไรเลย . .นอกจากเหล้า”
“มันเป็นคนหักอกน้องกู นั่นคือสิ่งที่น้องกูควรเป็น”
“นี่มึงยังไม่รู้อีกเหรอ” ไนท์ทำเสียงเหมือนผมโง่ซะเต็มประดา “มังกรมันรักเจ้านายจะตายไป”
“รักเหรอ” ผมตวาดกลับ “ถ้ารักจริงมันไม่ต้องมีเหตุผลอะไรให้มันมากความหรอก”
“มังกรมันไม่ใช่คนแบบนั้นนะ”
“…”
“มันรักเพื่อนมันซะยิ่งกว่าชีวิตของมันอีก”
“…”
“แล้วมันดันมารู้ใจตัวเองว่ารักคนที่เพื่อนมันรัก . . มันก็เลยสับสน"
“…”
“มันคงคิดหนักเรื่องคนที่มันไม่คิดว่ามันจะตกหลุมรักน่ะ”
ผมกลืนน้ำลาย . . ไอ้มังกรมันช่างเป็นคนที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนจริงว้อย! . .
“แล้ว . . ทางเจ้านายล่ะ” ไนท์เลียบๆเคียงๆถาม “คงช็อคมากเลยใช่มั้ยเมื่อรู้ความจริง” ดูมันเป็นห่วงน้องชายผมพอๆกับผมเลย . . ไอ้ตรรกะที่ว่าอัศวินพิทักษ์ราชากับราชินี . . คงมีมันที่ใช้จริงจังอยู่คนเดียวในโลกใบนี้
ผมหยิบรูปภาพของเจ้านายที่ผมให้คนไปตามติดมาให้ . . ช่วงนี้น้องอยู่ในสายตาของผมตลอด
“เฮ้ย” มันร้องเสียงหลง “ทำไมผอมลงเงี้ย”
“. . มันเศร้า”
“. . .”
“. .มันออกไปสุสานทุกวัน”
น้องผมคงรู้สึกผิดมาก . . และตอนนี้ผมรู้ความจริงทุกอย่างผมเลยเข้าใจหัวอกของไอ้เจ้านายเป็นอย่างดี . . ตอนแรกผมยังสงสัยอยู่เลยว่าจะไปสุสานทำไมทุกวัน แต่ตอนนี้ผมเข้าใจทุกอย่างแล้ว
เจ้านายมันเจอมรสุมหนักจริงๆ
“แล้ว . . จะรักกันยังไง” ไนท์รำพึง จนผมต้องหันขวับ “. . สองคนนี้จะรักกันยังไง”
พูดจริงๆนะ . . ผมเองก็อยากรู้
สองร้ายในหนึ่งรัก *
“เรียนเสร็จแล้วโว้ยยยยยย”
“แดกข้าวกัน แดกข้าวกัน”
ไอ้ธัญกับไอ้ธีตะโกนเสียงดังหลังจากที่ผมกับเพื่อนเรียนเสร็จ ชีวิตกลับเข้าสู่วงจรปกติอีกครั้ง ผมส่ายหน้าเล็กๆตอนที่พวกมันตะโกน ถ้าไม่มีสองคนนี้ชีวิตผมคงขาดสีสันไปเยอะ
“กินข้าวไหน ร้านป้าหลังมอดีมั้ย” ธีหันมาหาผม ราวกับขออนุญาต
“เอาสิ”
คำตอบของผมเกือบจะทำให้มันกระโดดโลดเต้นเลยทีเดียว . .
เราสามคนเดินไล่เตะกันมาเรื่อยๆจนกระทั่งมาถึงร้านป้า ที่แกยังไม่ลืมไหว้ผมเหมือนอย่างเคย
แต่คราวนี้ผมรับมือป้าไว้ได้ทัน
“อย่าไหว้ผมอีกเลยนะครับป้า” ผมบอกกับป้า “กระเพราปลาหมึกพิเศษไข่ดาวสามจานครับ”
ผมเดินเรื่อยๆหาที่นั่ง เมื่อได้ที่นั่งผมก็นั่งลง สายตากวาดไปทั่วร้าน
มีผมสามคน กับกลุ่มคณะไหนไม่รู้อีกสี่คน
“เฮ้ย . . นั่นมันเจ้านายอดีตราชานี่หว่า” . . อดีตแก๊งที่ผมเคยยำ มันเดินเข้ามาหาผมอย่างรู้เลยว่ากำลังจะมากวนตีน “แดกร้านแบบนี้เป็นด้วยเหรอ”
“เสือกไร” ผมตัดบทอย่างอารมณ์เสีย พยายามจดจ่อกับแก้วน้ำสแตนเลสสีเทาที่ไอ้ธีมันส่งมาให้
บางที . . ผมอาจจะเริ่มเบื่อการมีเรื่องแล้วล่ะมั้ง . . ก็ดูความจริงที่ผมเพิ่งได้รับรู้สิ . . ต้องมีหลายคนมาเจ็บ . . บางคนก็ถึงกับต้องสูญเสีย . .
มันไม่เคยให้อะไรดีๆ
แต่ถ้าพวกมันยังไม่หยุด เจ้านายคนเดิมก็หวนกลับคืนมาได้เหมือนกัน จัดการซะเรื่องจะได้จบๆ
“หึ . . ตำแหน่งตกแล้วยังจะทำซ่าส์” ดูเหมือนเจ้าพวกนี้จะอยากให้ผมจัดการพวกมันซะเหลือเกิน
ถ้าเสนอ . . ก็ต้องสนอง
“จะลองดูมั้ยล่ะ” ผมลุกขึ้นยืน ไอ้แฝดลุกขึ้นยืนตาม พวกมันตกใจเพราะตามอารมณ์ผมไม่ทัน
ผมเองก็ตามอารมณ์ตัวเองไม่ทันเหมือนกัน ช่วงนี้ไม่ค่อยมีสติคิดตริตรองอะไรมากมายนักหรอก
“ป้า! ขอข้าวผัดสอง กระเพราปลาหมึกหนึ่ง!” มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางหน้าร้าน ผมกับคนอื่นๆหันไป . .
มังกร ไนท์ แอร์ คนพูดน่าจะเป็นแอร์ ผมยืนตะลึงงันตาค้างอยู่เมื่อเจอไอ้มังกร พวกมันยืนอยู่กับป้าหน้าร้าน และไม่ได้มองเข้ามาข้างใน
ไม่ได้เจอมันมาตั้งนาน . .มังกร . . มึงผอมลงป่ะวะ
“เอาไงดีลูกพี่” ลูกน้องของไอ้คนที่มาหาเรื่องกระซิบข้างหูมัน ท่าทางพวกมันจะเริ่มกลืนน้ำลายลงคอแปลกๆ เพราะราชาคนปัจจุบันยืนอยู่ข้างนอกนั่น ผมเลิกคิ้วท้าทายพวกมัน ป๊อดชิบหาย . .
มันตีโต๊ะที่ผมนั่งอยู่เสียงดัง “เย็นนี้ค่อยเจอกัน”
ผมไม่ต้องเสียเวลาคิด “ตามนั้น”
เมื่อมันได้ท้าทายผมจนสาแก่ใจแล้ว มันก็ทำท่ากวนตีนใส่ผมเลยจะเดินจากไป แต่ดันมีคนมาชนไหล่มันซะก่อน ทำให้มันต้องชะงักกึก ผมเห็นมันแอบตัวสั่นงันงกด้วยนะ
ไอ้มังกรมันน่ากลัวขนาดนั้นเลย . .
“ทำอะไร” มังกรถามไอ้คนกวนตีน ก่อนที่จะหันมามองผม
มันมองผม . . แล้วก็หลุบตาต่ำลงราวกับไม่กล้าสบตา ผมก็หันหน้าหนีเหมือนกัน มีไนท์กับแอร์สองคนที่ส่งยิ้มแหยๆมาให้ผม
“เปล่า”
ถุย . . เมื่อกี้ยังทำเก่งอยู่หยกๆ
“ถ้าคิดจะทำอะไรให้เลิกทำซะ” มังกรพูดกับไอ้คนนั้น “เดี๋ยวจะหาว่ากูไม่เตือน” ไอ้พวกนั้นทำหน้าเหมือนเห็นผี หน้าซีดแถมยังเหงื่อซ่ก พยักหน้าแรงๆตามคำพูดของไอ้มังกร ก่อนที่จะวิ่งแจ้นหนีออกไปจากร้าน ได้ยินเสียงป้าโวยวายเรื่องค่าอาหารที่พวกมันยังไม่ได้จ่ายด้วย
ผมกำหมัดแน่น รู้สึกโกรธที่ความรู้สึกเดิมๆถ่าโถมเข้ามา มันกำลังจะเข้ามายุ่งเรื่องของผมเหมือนที่มันเคยทำ นั่นทำให้ผมอารมณ์เสียมาก
มันควรจะปล่อยๆผมไปตามทางของผมดีกว่า . .
เพราะที่มันทำ . . บางทีมันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากการให้ความหวังผมเลย
“กูไม่แดกแล้ว” ผมลุกขึ้นยืนแล้วเดินหนีออกไปจากร้าน ไอ้แฝดมองหน้ากันแล้วก็รีบรุดเดินตามผมมาอย่างงุนงง
ผมล้วงเป๋าตังค์กะจะไปจ่ายตังค์ให้ป้า แต่ดันมีมือหนึ่งมาจับมือผมไว้ซะก่อน
มือของไอ้มังกร . .
มันมองมาแล้วทำหน้าเศร้าๆ หรือถ้าจะให้ผมคิดเข้าข้างตัวเองอีกนิดคือเหมือนอาลัยอาวรณ์แปลกๆ . .จะเศร้าทำไมกัน ผมต่างหากที่ต้องเป็นคนเศร้า
ผมต่างหากที่ต้องเป็นคนอาลัยอาวรณ์
ทุกคนสตั๊นกับสิ่งที่มังกรเพิ่งทำ ยกเว้นผมที่สะบัดมือมันออกแล้วก็เดินหนีไปหน้าร้าน จ่ายเงินป้าค่าของกินที่ยังไม่ได้กินกับค่าอาหารที่ไอ้พวกเมื่อตะกี้มันชักดาบไปด้วย
เดินหนีออกมา . . ราวกับว่าผมไม่ได้สนใจอะไร
ทั้งที่ลึกๆในใจของผม . . รู้สึกหัวใจกระตุกวูบแบบยินดีแปลกๆ . .ที่ได้เจอมันอีกครั้ง
หลังจากที่ผมให้คนในแก๊งไปกระซิบที่รูหูของคนที่มาท้าทายผมเมื่อกลางวันว่าให้มาเจอกันตอนเย็นหลังมอ ผมพาคนในแก๊งไปไม่เยอะ รู้สึกคันไม้คันมืออยากออกกำลังเหมือนกัน เหมือนได้กลับไปอีกโลกที่ผมเคยเป็น
“นึกว่ามึงจะเป็นเมียราชาเหมือนที่เค้าลือๆกัน” ไอ้หัวโจกพูดขึ้น ตอนนี้คนของผมกับมันมีจำนวนเท่าๆกัน
“กูไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับมัน” ผมพูดเสียงเย็น
“กูเคยแพ้มึง . .”
“ขอบคุณที่ยังจำได้”
“. . แต่วันนี้กูคิดว่ากูไม่แพ้”
พูดจบพวกนั้นแม่งก็กรูกันเข้ามาหาพวกผม . . สงครามขนาดย่อมที่ผมคุ้นเคยเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ . .ดูเหมือนว่าพวกมันจะรู้ว่าผมนั้นไม่ได้เก่งเหมือนอย่างเคย
แม้จะป้องกันตัวพอเอาตัวรอดได้ แต่กลับเสียหลักหลายครั้งให้มันทำร้าย ซ้ำยังไม่มีโอกาสที่จะโจมตีโต้ตอบมันเท่าไหร่นัก
ไอ้หัวโจกแสยะยิ้ม . . เมื่อรู้ว่าผมอ่อนแอลง
แต่ผมเป็นพวกสู้ไม่ถอย ยังไงผมก็ไม่ยอมแพ้พวกมันหรอก เพราะความเย่อหยิ่งของผมที่ว่าเคยชนะแล้วยังไงก็ต้องชนะพวกมันวันยังค่ำ
แต่ผมคิดผิด . . ตอนที่พวกมันเริ่มสอยเพื่อนของผมล้มลงไปกอง และผมเองก็กำลังจะถูกรุมกระทืบเพราะพวกแม่งเล่นเอาพวกมาเสริมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
เส้นทางสายนักเลงนี่ . . มันเหมาะกับผมจริงๆเหรอวะ
“กูเตือนมึงแล้วใช่มั้ย!!!”
แก๊งบุคคลที่สามโผล่หัวมาและก็เข้ามาจัดการไอ้พวกที่เป็นอริของผมตอนนี้ . . ผมที่ล้มลงไปนอนอยู่ปาดเลือดออกจากปาก มองขึ้นไปเห็นลางๆว่าเป็นพวกชายโฉดไม่มีผิดเพี้ยน
มันเสือกอีกแล้ววววววววววว . .
แต่ผมไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะยืนขึ้น เลยไม่สามารถโวยวายอะไรได้อีก พอไอ้หัวโจกเห็นไอ้มังกรก็พากันหนีกระเจิดกระเจิง . . มันไม่เห็นน่ากลัวขนาดนั้นเลย
แต่ผมก็แพ้พวกไอ้หัวโจกนั่นป่ะวะ . . แม่งเอ๊ย . .สมเพชตัวเองชิบหาย
ผมที่ล้มอยู่เห็นมือที่ยื่นมา ก็พูดออกไปอย่างไม่กลัวเกรง “ไม่ต้องมายุ่ง”
ไม่รู้ว่ามันทำหน้ายังไง แต่มือที่ยื่นมายังคงนิ่งไม่ขยับเขยื้อน “ถ้าไม่ยุ่ง ป่านนี้มึงหยอดน้ำเกลือไปแล้ว”
“นั่นมันเรื่องของกู”
ผมปัดมือมันทิ้ง แล้วก็ลุกขึ้นยืน แต่พระเจ้าช่วยกล้วยทอดที่ไหนไม่รู้ดันแกล้งผมให้ผมต้องล้มอีกครั้งทั้งๆที่เมื่อกี้ก็ใกล้จะยืนได้แล้ว
โคตรเสียหน้า TT
ถ้าผมเป็นคนที่ยื่นมือมาล่ะก็ป่านนี้ผมคงจะหลุดขำก๊ากไปแล้ว แต่ไอ้มังกรกลับนั่งยองๆลงแทนทำท่าเหมือนจะช่วยพยุงผม
“เฮ้” ผมรีบร้อง “ไม่ต้อง . .ไม่ต้อง!”
แต่มันเคยฟังที่ผมพูดที่ไหนกัน แม่งเข้ามาพยุงผมจนลุกขึ้นยืนได้ . . มีเหรอที่ผมจะยอม ผมผลักมันอย่างแรงเท่าที่แรงที่เหลือจะอำนวย นั่นทำให้ผมเซไปด้วย
มังกรมันเสียหลักไปนิดเดียวแม่งก็ตั้งหลักใหม่
“ไปทำแผลก่อน”
“ถอยไป”
“เจ้านาย”
“อย่ามาเสือก เลิกเสือก ไปให้พ้น”
ถ้ามึงรักกูไม่ได้ . . ก็ไม่ต้องมายุ่งกับกู ไม่ต้องมาให้ความหวังกู . .
กูขอร้อง ผมเดินไปหาไอ้แฝดที่ตอนนี้กำลังช่วยกันให้ทรงตัวได้อยู่เพื่อช่วยพวกมัน(ตัวเองเอาตัวเองรอดยังวะ?) แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็บังเกิดขึ้น
และนี่ก็คือสิ่งที่คนที่อยู่ในเหตุการณ์แสดงออกมา
ไนท์ “เฮ้ยยยยยยยยยย”
แอร์อ้าปากค้าง
ธัญกับธีช็อคสนิท
คนอื่นๆได้แต่ทำหน้างงและก็ช็อคและก็อ้าปากค้างและก็ส่งเสียงเฮ้ยอย่างตกอกตกใจผสมปนเปกันไปหมด
มังกร . .
มันอุ้มผมอ่ะ!ชั้นไม่เข้าใจพวกสองคนเลยจริงๆนะ T_T
เม้นและก็ทวงกันเถิดรับรองเห็นผลทุกวัน ^^