Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Come to love . . เข้ามาให้รักกัน *ตอนพิเศษสั้นๆ* [23/06/15] P.17  (อ่าน 284415 ครั้ง)

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
เกียร์นายช่างหื่นอะไรเช่นนี้
แถมขี้หึงขี้หวงสุดสุดด้วย

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
คิดถึงคู่นี้มาก :mew1:
สวัสดีปีใหม่ไทยเช่นกันค่ะ :L2:

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
เกียร์อยู่ใกล้ไอรักไม่ได้นานหรอก ความหื่นมันขึ้นตา 5555

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
เกียร์ขี้หื่นขี้หวง แต่น่ารักอะ <3 :mew1:

nightsza

  • บุคคลทั่วไป
เกียร์ติดไอรักอะ ขี้หึง ขี้หวง สุดๆเลยยยย ไอรักดูจะเข้ากับที่บ้านเกียร์ได้ดีนะเนี่ยยย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อการหนักน่ะคุณน้ำแข็งเนี่ย ห่างหูห่างตาไม่ได้เลย

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
เกียร์ขี้หวงกับไอรักมากเลอะ น่ารักจังง >_<!! ไอรักก็น่ารักน่าเอ็นดูมากเลยลูก

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
หายไปนานเน้อ
 :mew1:

ออฟไลน์ O[]OVampire

  • เพียงเธอสบตา...แทบลืมหายใจ เพียงเธอ...จากไป...ตราบชั่วลมหายใจ ...ไม่ลืม
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-0
พึ่งเข้ามาอ่านชอบคู่นี้มากค่ะชอบที่ไม่ดราม่าเรื่องนอกใจเรื่องนอกใจเราไม่ค่อยชอบ
มีทะเลาะกันบ้าง หวานกันบ้าง อ่านไปอมยิ้มจนปวดแก้ม พี่เกียร์น่ารัก ไออุ่นก็น่ารักน่าฟัด
ติดตามตอนต่อไปค่ะมาเร็วๆนะคะ

ออฟไลน์ Calypso

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0
ตอนที่33





“เฮ้ยมึง ทางนี้ๆ” เปิดประตูรถออกก็ได้ยินเสียงคลื่นตะโกนทักเป็นคนแรก วันนี้ผมเอารถยนต์มาเพราะต้องขนกระเป๋าใบใหญ่สองใบกับเสบียงเตรียมทานระหว่างทาง

แต่เกือบจะมาไม่ทันเพราะทะเลาะกันเรื่องกระเป๋านี่ละ เกียร์มันจัดใส่ใบใหญ่ไปใบเดียวไว้ตั้งแต่เมื่อวานแต่ผมไม่ทันสังเกต มาเห็นอีกทีตอนเช้า ผมไม่อยากเอาเปรียบมันเพราะของคนเดียวก็แบกหนักจะแย่อยู่แล้ว ถ้ามันเอาของผมรวมไปอีกคนคงมีหลังยอกกันไปข้างเลยเถียงกันนิดหน่อย และครั้งนี้ผมก็เถียงชนะจนได้

“แต่งตัวอะไรของมึงเนี่ย” ผมหน้าเหวอมองคนตรงหน้าขึ้นๆลงๆ ไอ้เนมมันแต่งตัวเต็มมาก มีผ้าพันคอ ถุงมือ เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ในมือถือพัดลมพกพาอันเล็กสีชมพูแปร๋นสองอัน

“ทำไมงะ ก็แนวเค้า” เนมลอยหน้าลอยตาตอบ

“มึงจะไปไหนกันแน่วะ ไปแค่ปราจีน ไม่ได้ไปเชียงรายนะ” ผมพูดแล้วส่ายหน้าเอือม

“ก็เผื่อหนาวไง เดี๋ยวพ่อแม่เป็นห่วง” พวกผมที่อยู่ในระแวกเดียวกันส่งเสียงออกมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายว่า..

“ถุ้ย!”

“อิอิ”

“กูว่ามันเริ่มจะบ้าละ เหมือนจะแต่งตัวไปเหนือแต่พกพัดลมไปตั้งสองอัน” พิชบอก ผมพยักหน้าเห็นด้วย

“พัดลมของไอ้คิมอะ มันเอามาเผื่อกูอันหนึ่ง ส่วนอีกอันเป็นของมัน กูบอกไม่เอาๆก็ยังจะเอามาอีก แม่งไม่เชื่อกูว่าไปถึงโน่นแล้วจะหนาว” มันบุ้ยหน้าไปทางคิมที่กำลังคุยกับเพื่อนคนอื่นๆอยู่ คิมเหมือนจะรู้ตัว หันมาเลิกคิ้วมองพวกผมแต่ปากยังพูดกับเพื่อนคนนั้นอยู่ สามารถจริงๆ

“แล้วชื่อกูไปนั่งคันไหนอะ” ผมถามไทป์ เห็นมันถือใบรายชื่ออยู่ ไอ้นี่ก็เส้นใหญ่ ไปได้ใบมาจากไหนไม่รู้เพราะปกติใบเซ็นต์ชื่อจะอยู่ที่สต๊าฟหรือประธานค่าย

“ชื่อเราอยู่คันสุดท้ายกันหมด” ไทป์หยุดแล้วถามต่อ

“เกียร์ชื่ออะไรนะ” มันถามชื่ออีกคนที่เดินไปหาเพื่อนตัวเอง

“กฤตเมธ”

“อืม… คณะวิศวะอยู่คันที่สอง มันแบ่งตามเลขคณะ คันนั้นมีวิศวะกับเด็กมนุษย์ฯ” มันพูดพลางไล่รายชื่อในมือ

“หือ แล้วพวกมึงมาอยู่คันกูได้ไงวะ” ผมถามต่อ เพราะพิชคิมไทป์ไม่ได้อยู่คณะผมสักหน่อย

“คันมึงเป็นคันเดียวที่ไม่มีคนคุมหรืออาจารย์ เขาคงคิดว่าเด็กแพทย์กับวิทยาไม่ทำตัวเหลวไหลมั้งเลยว่างสองที่นั่ง เดี๋ยวให้ไอ้คิมไปนั่งเบียดๆเนมกับพิชเอาก็ได้”

“แหมะ ส่วนมึงนั่งกับไอ้รักแบบสบายไม่ต้องเบียดใครใช่ไหม” เนมได้ยินจึงสวนขึ้นแล้วเบะปาก ไทป์ไม่เคยสะทกสะท้านอะไรหรอกครับ

“กูแบ่งตามความเหมาะสมที่สุดละ”

“มาครบกันแล้วใช่ไหม กูจองที่ให้นานแล้ว ขึ้นไปกันเถอะ ปะ” ไอ้คิม ฝ่ายประสานงานและหากิจกรรมให้กลุ่มเราทำในครั้งนี้เดินมาพูดแล้วพยักหน้าให้เดินตาม

“แมว” ผมชะงักเท้าแล้วหันไปตามเสียง เกียร์เดินหัวเกรียนเหมือนนักเรียนนายร้อยมาหา

“หือ ครับ?” ผมส่งผ้าเช็ดหน้าไปให้ นี่ขนาดเช้าตรู่ขนาดนี้ร่างกายยังขยันผลิตเหงื่อได้อีกนะ

“ไปนั่งด้วย” มันรับมาแล้วเช็ดปื้ดๆไม่ได้กลัวว่าหนังหน้าจะหลุดติดมาเลย ผมเห็นแล้วขัดใจอยากจะเช็ดให้นะแต่ติดที่ว่าคนอยู่เยอะ เลยต้องส่งสายตาปรามไปให้มันเช็ดดีๆ

“คุณได้นั่งคันที่สองนิครับ ที่นั่งไม่พอเหรอ”

“เออไอ้ห่านี่ จะไปกวนเจ้าชายทำไมนักหนา เดี๋ยวเขาก็อึดอัดหรอก ระวังโดนทิ้งกูไม่ช่วยนะ” พัตครับ ถ้ามึงจะเดินดุ่มๆมาจิกกัดขนาดนี้ ค่อยๆซอยเท้ามาก็ได้ จะได้ยืดเวลาชีวิตให้อยู่นานขึ้น

“ไปๆ กลับเผ่าเราได้ละ” มัดเดินมาลากแขนคุณน้ำแข็ง แต่รายนั้นก็ไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหนเอาแต่จ้องรอคำตอบจากผม ขนาดตัวมัดกับเกียร์เกือบจะพอๆกันเลยนะยังลากให้มันขยับไม่ได้เลย ไอ้คุณน้ำแข็งร้อยกิโลเอ๊ย

“นั่งแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง ไปเถอะครับ” ผมยิ้มให้แล้วบีบมือมือใหญ่เร็วๆก่อนจะคลายออก พวกผมไม่ได้แสดงออกในที่สาธารณะกันมากสักเท่าไรเพราะยังให้เกียรติสถานที่อยู่(เหรอวะ)

เกียร์ถอนหายใจก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ ยื่นเสบียงถุงใหญ่มาให้ แต่ผมก็แบ่งให้มันเอาติดมือไปบ้าง จากนั้นก็เดินไปหาบอสที่ตะโกนเรียกอยู่หน้าประตูรถนานแล้ว

ขึ้นไปในรถก็ทำเอาเกือบเซ ไม่ใช่เขาออกรถกะทันหันหรอกนะครับ แต่เป็นเพราะภายในรถที่ตกแต่งเหมือนผับไม่มีผิด คือตอนแรกผมมองแว้บๆก็เห็นเพียงรถบัสพัดลมผมยังโอเค แต่ไม่คิดว่าข้างในจะแต่งไฟ แสง สี เสียงเต็มขนาดนี้ เล่นเอากูตึ้บเลย

“มึงว่าเราขึ้นถูกคันหรือเปล่าวะ” เนมกระซิบเสียงดังแข่งกันเพลงในรถ พอเท้าพวกผมสัมผัสกับพื้นรถเท่านั้นละ ดีเจแม่งเปิดเพลงกระหึ่มทันที แกล้งพวกกูหรือเปล่าวะ

“กูว่าผิด เราแม่งหลงมาเธคชัวร์” คลื่นตอบ

“นั่งแถวไหนดีวะ” ผมถาม

“ด้านหน้า!/ด้านหน้า!/ด้านหน้า!/ด้านหน้า!” เสียงประสานประหนึ่งวงออเคสตร้าดังก้องไปในแก้วหูผมเลย ไอรักอยู่ใกล้แค่นี้จะตะโกนทำไมกันครับคุณเพื่อน

“ห่า กูบอกว่าจองไว้ให้แล้ว มานี่เลยพวกมึง” ไอ้คิมเดินนำไปที่นั่งด้านหน้าของรถ

“นั่งเลยคร๊าบนั่งเลย ใครนั่งคนสุดท้ายเต้นไก่ย่างนะคร๊าบบ” เสียงแหบเหน่อๆคล้ายโฆษกแถวภูมิภาคบ้านเกิดพูดเสียงดังโดยไม่ต้องใช้โทรโข่ง แจ๋วมากครับพี่

“อย่าช้าครับเดี๋ยวโดนเจ๊ส้มจี๊ดกินตับกันนะ มีลูกบอกลูก มีหลานบอกหลานกันด้วยครับ คนข้างหลังหาที่ว่างๆแล้วนั่งก่อนนะ ทีมงานจะเริ่มนับจำนวนคนแล้ว”

“แอร๊ย อะไรกันยะฉันนั่งอยู่ดีๆแวะมากัดฉันซะงั้น คนที่ยืนเป็น..ตอๆ..แสดงว่าเขารอฉันไปสนองหรอกยะ เนอะพ่อหนุ่มทั้งหลาย” เสียงแตกหนุ่มหรือแตกสาวไม่รู้ดังแปดหลอด เท่านั้นละ คนที่หาที่ลงไม่ได้ก็วงแตกอย่างกับนกแตกรัง

พอนั่งที่กันครบเรียบร้อย เกือบสิบนาทีรถก็เคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทาง อย่าถามว่าในรถของผมตอนนี้เป็นอย่างไรนะ บอกได้สองคำว่า รั่ว..เละ

ฝ่ายนันทนาการมาพร้อมกับแสง สี เสียงในรถได้สักประมาณครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นก็เป็นช่วงแนะนำตัวเองกัน ส่วนใหญ่คนที่มาจะเป็นผู้ชายมากกว่าเพราะโครงการนี้ใช้แรงงานครับ ฮ่าๆ เด็กแพทย์มากันสิบสองคน ส่วนที่เหลือจะเป็นคณะวิทยาฯ คณะนั้นเขามาเยอะกว่าเราพอสมควร เด็กแพทย์จึงต้องนั่งนิ่งๆเพราะเดี๋ยวไปเหยียบเส้นใครแล้วจะเหลือกลับไปไม่ถึงห้าคน

“ว๊ายยยยย เจ้าชาย แก๊ๆๆๆๆเจ้าชายมาค่ายนี้ อุ้ย สวัสดีค่ะเจ้าชาย หนูชื่อเมย์นะคะ คือหนูปลื้มพี่มากเลย เรียนก็เก่งหน้าตาก็ดี ไม่รู้ว่ามีเคล็ดลับอะไรในการสอบไหม หนูอยากจะเก่งเหมือนพี่บ้าง เอ๊ะ แต่ทำไมหนูไม่เคยเห็นพี่ไปรับน้องเลยอะคะ พี่ไม่ค่อยว่างเหรอคะ” น้องผู้หญิงคนหนึ่งกระโดดมาทำตาวิบวับ น้ำเสียงตื่นเต้นจนผมแอบผวาไปชั่วครู่

“อ่า สวัสดีครับ เอาคำถามไหนก่อนดีละ” ผมยิ้มขำแล้วตอบคำถามน้องทีละคำถามอย่างใจเย็น

รถบัสเดินหน้าเพื่อไปสู่จังหวัดปราจีนบุรี โครงการที่ผมร่วมนั้นไม่ได้มีแค่มหาวิทยาลัยที่ผมเรียนอย่างเดียวนะครับ เขาจับมือร่วมกันกับอีกมหาวิทยาลัยหนึ่งเพื่อสร้างโรงเรียนให้ถิ่นทุรกันดาร ดูจากสปอนเซอร์และแบบพิมพ์เขียวของตัวโรงเรียนที่คิมเอามาให้ดูแล้วผมว่าโครงการนี้คงสร้างกันใหญ่พอสมควร

“โอ้ยๆ ปวดฉี่ว่ะ” เสียงเนมโอดโอยเสียงดังมาจากเบาะข้างหน้าผม

“ทนหน่อย ไอ้ประธานหัวแหลมมันบอกจะดิ่งตรงไปไม่หยุดแวะข้างทางเลยจะได้ถึงไวๆ” เสียงคิมตอบ พอดีรถที่ผมนั่งไม่มีห้องน้ำครับ แต่ถ้าเป็นผมถึงมีก็ไม่ค่อยอยากเข้านะนอกจากจะอั้นไม่ไหวจริงๆ เพราะก่อนหน้านี้ ตอนผมวัยรุ่นคึกคะนองอยากลองอะไรใหม่ๆก็เคยขึ้นรถบัสครั้งหนึ่งกับพวกเพื่อนๆผมนั่นละครับ ตอนนั้นผมจำได้ว่าดื่มน้ำไปเยอะมากจนปวดฉี่เลยลงไปเข้าห้องน้ำ แต่พอเปิดประตูเข้าไปเห็นโถส้วมเท่านั้นละปิดแทบไม่ทัน งูเขียวงูเหลือมแม่งยั้วเยี้ยแย่งกันลงหลุมให้พล่าน จากนั้นผมเลยตัดสินใจไม่อยากลองนั่งรสบัสแล้วเข้าห้องน้ำในนั้นอีกเลย ทุกวันนี้ถาพนั้นยังติดตาผมอยู่เลยครับ

“ไอ้รัก มีอะไรกินบ้างวะ ปวดฉี่ว่ะต้องหาอะไรไปดูดน้ำจะได้หายปวด อิอิ” ไอ้แม้วเผือกหันหน้ามาชะโงกดูถุงขนมข้างตัวผมแล้วทำตาลุกวาว

“เอาขวดน้ำไปรองฉี่มึงก่อนไหมละ ขนาดของมึงน่าจะใส่ปากขวดได้อยู่” ผมชูขวดน้ำขนาดมาตราฐานขึ้นแล้วยักคิ้วอย่างกวนๆ

“เชี่ย ของกูต้องใช้ตุ่มน้ำโน่น แม่งใหญ่เกิน ขวดเล็กๆเก็บไม่อยู่หรอก กร๊ากกก”

ไทป์ที่นั่งข้างผมตื่นขึ้นมาปาลูกอมใส่หัวเนมอย่างจัง ก่อนจะหยิบขนมส่งไปให้

“เอาไปแล้วนั่งดีๆ กูขี้เกียจฟังเสียงมึง”

ไอ้เนมหดหัวหน้าหงอยแต่ก็หันไปนั่งดีๆ ไม่วายยังได้ยินเสียงฮื้อๆๆดังขึ้นเป็นระยะ สะตอชัดๆเพื่อนเอ๋ย

ฝ่ายสันทนาการกลับมาอีกครั้งพร้อมภัยพิบัติที่มาเยือนผม ทำไมต้องเจาะจงเรียกผมไปเต้นเพลงสับปะรดด้วยไม่เข้าใจ ไม่ใช่แค่ผมนะครับยังมีแพทย์อีกสองคนกับเด็กวิทยาฯสี่คนยืนเบียดๆกันข้างหน้าเพื่อเต้นตามที่สั่ง ผมโคตรอายเลย นั่งก็นั่งคนแรกๆดันโดนแกล้งอีก ไอ้เพื่อนเวรก็โห่แซวกันอยู่ได้ ญาติใครบวชเหรอวะ!

กว่าจะถึงที่หมายก็ทำเอาผมหมดยางอายไปเลย แถมสนิทกับคนที่ออกมาเต้นด้วยกัน แพทย์สองคนนั้นผมรู้จักดีเพราะเป็นรุ่นพี่ ส่วนเด็กวิทยาฯพึ่งรูัจักกันชื่อ มิน มาร์ค สน เกิ้ล เห็นว่าคนชื่อมินกับมาร์คจะเป็นพี่น้องกันนะครับ หน้าตาคล้ายกันอยู่ สนจะสูงๆใส่แว่นเหมือนเด็กแก่เรียน แต่นิสัยกวนตีนสุดๆ ผมหันไปคุยตอนเต้นนี่หันกลับแทบไม่ทัน ไม่ใช่อะไรมันเป่าลมปากใส่ผมทั้งที่ตอนนั้นยังไม่รู้จักกันเลย อุบาทมาก ส่วนเกิ้ลจะตัวเตี้ยๆอ้วนๆ คุยแล้วนิสัยน่ารักดี น่าหยิกพวงแก้มขาวๆด้วยคงมีเชื้อจีนมากไปหน่อยเหมือนอาแปะร้านขายของชำเลย

“เอ้าทุกคน มาต่อเป็นแถวตอนลึกนะ ผมจะเริ่มนับจำนวนคนแล้ว” หัวหน้าใช้โทรโข่งพูดเมื่อเห็นว่าทุกคนขนของลงมาเรียบร้อยแล้ว

ผมกวาดสายตาออกไปมองพื้นที่โล่งขนาดใหญ่ มีแค่อาคารไม้ขนาดเล็กกับเสาเข็มต่างๆในพื้นที่ และสนามฟุตบอลขนาดย่อม นอกนั้นโล่งเลยครับ รอบข้างมีแต่ทุ่งหญ้ากับคลองน้ำเล็กๆ ก่อนจะมาถึงผมเห็นบ้านคนประปรายนะแต่ระหว่างทางไม่มีโรงเรียนให้เห็นนอกจากโรงเรียนนี้เลย

“เดี๋ยวเราจะเอาของไปเก็บกันที่อาคารตรงหน้าก่อนนะครับ วันนี้เราจะต้องนอนที่นั่นกัน หนึ่งห้องจะมีพัดลมตั้งอันใหญ่หนึ่งอัน แต่นอนประมาณสามสิบคน” สิ้นเสียงนี้ทุกคนร้องโห่กันใหญ่ อะไรของพวกมันกันวะ อยากจะมาทำกันจริงๆหรือใครเกณฑ์มาหรือเปล่านี่

“ไม่ต้องห่วง ถ้าใครอยากนอนโดนพัดลม เรามีเก้าอี้ยาวเอาไว้ให้ประมาณสามสิบตัว ใครจะเอายกมือครับ” มีคนกล้ายกประมาณหกคน

“โอเคครับ งั้นคนที่ยกมือมายกเก้าอี้ขึ้นไปบนห้องนะ ส่วนรายละเอียดวันนี้...” แล้วประธานก็พูดรายละเอียดของวันนี้ยืดยาว

“มึงว่าประธานเป็นหรือเปล่าวะ” ไอ้เนมกระซิบถาม

“เป็นอะไรอะ” ผมถามกลับอย่างงๆ

“โหไอ้ซื่อ ก็เป็นเกย์ไง”

“เฮ้ย ไม่มั้ง” ผมตอบแล้วหันไปมองประธาน ไม่เห็นจะมีอะไรบ่งบอกว่าเป็นเกย์เลยนี่หว่า

“แต่กูว่าเป็น เชื่อดิ”

“ทำไมกูต้องเชื่อมึงด้วยวะ ไร้สาระ”

“ผมจะนัดพวกคุณอีกทีตอนสิบโมงตรงนะครับ ใครมาสายโดนทำโทษ เอาละ แยกย้ายกันไปเก็บของได้เลยครับ”

ผมเดินเอื่อยขึ้นไปตามฝูงมนุษย์ที่พากันวิ่งกรูขึ้นไปจองที่กัน ไทป์บอกให้เลือกเดินไปห้องริมสุดดีกว่า เป็นห้องที่ไม่มีใครแย่งเพราะไม่ค่อยมีใครสนใจจะนอนสักเท่าไร แต่เปิดไปก็เจอกลุ่มเกียร์และคณะอื่นที่ไม่รู้จักประมาณสิบกว่าคนกำลังปูเสื่อกันอยู่

“อ้าวเจ้าชาย มึงมาทำอะไรวะ ไม่มีที่แล้วโว้ย ไปไป๊” คุณพัตทักทายและเชื้อเชิญตามประสาคนสนิทชิดเชื้อ เกียร์กำลังง่วนกับการจัดของอยู่ก็หันมามอง

“ห้องเต็มแล้วเหรอครับ งั้นผมไปดูห้องอื่นก่อนนะ” ผมพูด เกียร์ปาขันใส่หัวพัตก่อนจะเดินมาหาผม

“ปูไว้ให้แล้ว” มันพูดแล้วจูงมือให้เข้าห้อง เกียร์ปูผ้าให้สองที่เรียบร้อย ส่วนข้างซ้ายเป็นของที่มันวางจองให้เพื่อนผม ด้านขวาเป็นที่นอนของเพื่อนเกียร์

“แล้วคุณสาไปนอนกับใครเหรอครับ” เขาติดป้ายกำกับเอาไว้ว่าห้องด้านซ้ายเป็นของผู้ชาย ส่วนอีกด้านเป็นของผู้หญิงน่ะครับ

“เพื่อนในเอกนั่นละ มันสนิทกันไม่ต้องห่วง” มัดพูดขึ้น ผมพยักหน้าแล้วหันไปมองเนมที่ยุกยิกอะไรกับผ้าพันคอมาสักพักหนึ่งแล้ว

“กูบอกแล้วใช่ไหมว่ามันร้อนๆ ไม่เคยเชื่อ”

“เดี๋ยวมันก็หนาวแล้ว มึงก็ไม่เชื่อกู”

“เออไอ้ห่า กว่าจะหนาวมึงก็ร้อนตับแตกก่อนพอดี เอาไว้ค่อยใส่ตอนกลางคืนโน่น” ไอ้คิมจับพร๊อบเสริมออกจากตัวไอ้เนม มันก็ยอมอยู่นิ่งโดยดี คงร้อนจริงๆละครับ

“อ้าวหนูไอรักเอวดีลีลาเด็ด” ผมมองไปตามเสียง เห็นเด็กวิทยาฯกลุ่มใหญ่กำลังเดินผ่าน คนพูดคงเป็นคุณสนที่ทำท่ายียวนกวนประสาทอยู่

“....” ผมถลึงตาใส่มัน ถ้าไปพูดที่อื่นไอรักก็ไม่อายเท่าไรหรอก แต่นี่มันเล่นพูดต่อหน้าเกียร์ ไอรักโคตรอายเลย

“อะไร ปวดตาเหรอหนูไอ มาหาป๋ามามะๆ” อยู่ๆมันก็วิ่งอ้าแขนเข้ามา

“เฮ้ย/เฮ้ย/เฮ้ย/เฮ้ย/เฮ้ย/เฮ้ย/เฮ้ย/เฮ้ย/เฮ้ย/เฮ้ย” เพื่อนเกียร์กับเพื่อนผมเฮ้ยกันเสียงดังแล้วเอาตัวบังตัวผมกันหมด คนอื่นมองมาเพราะตกใจ

“เฮ้ย อะ อะไรวะ” ขนาดสนยังตกใจกลัวเลยครับ

“เปล่าโว้ย อย่าไปกอดมันๆถ้าไม่อยากชะตามึงขาดก่อนกำหนด” เนมรีบพูดใหญ่

“หา? ทำไมอะ” มันถามเสียงดังอย่างงงๆ

“เออน่า ไปๆมึงอะ” คิมช่วยไล่อีกทาง

“อ๋อ หนูไอรักเป็นเจ้าชายนี่หว่าลืมไป หึหึ เออๆป๋าไม่กวนละ ไม่อยากโดนแฟนคลับหนูกระทืบไส้แตกว่ะ ฮ่าๆๆ” มึงเข้าใจผิดแล้วเพื่อน พวกมันกลัวว่าคุณน้ำแข็งจะเอาหมัดเมาไปประทับบนหน้ามึงละสิ

“มันเป็นใคร” พอสนเดินออกไป เกียร์ก็ถามทันที

“เพื่อนคณะวิทยาฯน่ะครับ”

“สมัยเด็ก?”

“เปล่าครับ พึ่งเจอกันบนรถบัสนี่ละ” มันเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ ผมเลยพูดต่อ

“แล้วเราต้องเอาอะไรลงไปบ้างเหรอครับ” ผมไม่ทันได้ฟังตอนที่เขาบอกรายละเอียดเมื่อตอนเช้า ไอ้เนมดันสะกิดชวนคุยพอดี

“เอาแค่ของมีค่าไป เดี๋ยวเขานัดรวมกันไปกินข้าวแล้วก็เริ่มสร้างโรงเรียนแล้ว” เนแว่นได้ยินจึงอธิบาย ไอ้คนที่ผมถามก็นั่งเป็นใบ้มานานละ คิดอะไรของมันอยู่ก็ไม่รูู้

“แล้วอีกมหาลัยมาหรือยังอะ มันจะนอนกันพอเหรอวะ เห็นว่าคนเยอะกว่าเราอีกไม่ใช่เหรอ”

“คงใกล้ถึงแล้วมั้ง พอจำนวนคนอยู่แล้วละ กูเห็นเขาแบ่งให้อีกโรงเรียนหลายห้องอยู่ แล้วนี่เราก็อัดห้องละตั้งสามสิบคน ไม่พอก็ต้องพอละว่ะ” คิมตอบมัด มันสนิทกันเพราะอยู่ชมรมเดียวกันไงครับ แต่เพื่อนผมกับเพื่อนเกียร์ก็เริ่มสนิทกันแล้วนะ เห็นว่าบังเอิญเจอกันที่ผับบ่อยๆ ตอนแรกก็มาทักทายเพราะเป็นเพื่อนเกียร์ แต่หลังๆนี่ซี้กันประหนึ่งเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยประถม

“งานนี้อาคารมีทรุดนะกูว่า”

“ปากเสีย เพราะน้ำหนักตัวมึงละสิอาคารถึงพังได้อะ” คิมหันไปพูดกับเนม ผมว่าไอ้คิมมันปากเสียกว่าอีกนะครับ

“มึงจะเริ่มปูเสื่อกันหรือยัง หรือจะให้กูเอารองเท้ายัดปากพวกมึงก่อนถึงจะหยุดพูดแล้วเริ่มทำกันได้” ไทป์นั่งปูผ้าก็หันมาบ่นทั้งสองคน คนอื่นก็คุยกันนะครับ แต่เขาคุยไปทำงานกันไป ไม่เหมือนไอ้สองตัวนี้ หยุดทำทุกอย่างเพื่อเถียงกันโดยไม่รู้จะสิ้นสุดเมื่อไร

“มันนิ่มหรือยัง” เกียร์จิ้มไปที่นอนผม ตอนนี้ผมช่วยบอสปูผ้าอยู่น่ะครับ บอสนอนติดกับผม

“แค่นั้นก็พอแล้วครับ มีที่ให้นอนผมก็อยู่ได้แล้ว” ผมเงยหน้าขึ้นตอบ พอช่วยคนอื่นปูเสร็จผมก็ไปนอนใกล้ๆเกียร์

“เกียร์พามาลำบาก..”

“อย่าทำหน้าจ๋อยอย่างนั้นสิ ผมเป็นคนชวนคุณมาเองนะ ต้องเป็นคนกังวลกลัวคุณนอนไม่สบายสิ” ผมพูดแล้วอมยิ้มกับความน่ารักของมัน

“มากกว่านี้เกียร์ก็เจอมาแล้ว” มันพูดข่มแล้วยักคิ้วด้วยใบหน้านิ่ง

“อะโด่ ใครจะเก่งสู้คุณเกียร์ลูกเจ้าของอู่รถได้ละครับ ไหนๆดูมือหน่อย บ๊ะ! ด้านขนาดนี้ทำงานหนักชัวร์!” ทำเป็นพลิกมือใหญ่ไปมาแล้วแกล้งพูดออกไป ความจริงมันไม่ได้สากขนาดนั้นหรอกครับ แต่ก็มากกว่าผมอยู่มากโขละนะ

“หึ ไหน เอามาดูบ้าง” มันล้มตัวนอนที่ตัวเองแล้วเขยิบมาชิดผม คลี่ผ้ามาห่มเราทั้งคู่ก่อนจะประสานมือกันใต้ผ้านวมนุ่ม

“ก็เหมือนกันนั่นละ มือผมใหญ่จะตาย” ผมเคยชอบเล่นบาสมาก่อน มันก็สากๆใหญ่ๆอยู่เหมือนกัน

“ไม่เห็นใหญ่ นุ่มนิ่มด้วย” มันพูดแล้วยกมือที่จับกันอยู่ขึ้นมาหอมเร็วๆ ผมถลึงตาใส่คนขี้ทะลึ่ง คนตั้งเยอะตั้งแยะยังกล้าหื่นอีกนะมึง

“ผมเป็นผู้ชายนะ จะนุ่มนิ่มได้ไงเล่า”

.
.
.
.
.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-05-2014 15:16:42 โดย Calypso »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Calypso

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0
.
.
.
.
.



“เอ่อ พวกมึงสวีทกันเสร็จหรือยัง ถ้ายังไม่เสร็จกูจะได้ไปกินข้าวก่อน” เสียงพัตพูดอยู่เหนือหัว ผมรีบผละตัวออกแล้วยิ้มแหยๆ ลืมตัวไปเลยนึกว่าอยู่บ้านตัวเอง

“ไหนๆๆ พวกมึงสวีทอะไรกันเหรอ กูไม่ทันเห็นงะ แงๆๆๆ พลาดช็อตเด็ด ทำไมมึงไม่เรียกกูวะพัต” เนมร้องงอแง

“อ้าว ผิดที่กูเหรอวะ คราวหน้าเดี๋ยวกูบอกแล้วกัน” คราวหน้าอะไรเล่า ไม่มีแล้วโว้ย

“มึงไม่ต้องไปบ้าจี้ตามมันหรอก ไอ้เนมมันบ้า” คลื่นพูด พิชกับคิมรีบพยักหน้าเห็นด้วยอย่างแรง

“จะได้เวลานัดแล้ว ลุกๆ”

ไทป์ไล่ให้ทุกคนลุกเพื่อลงไปข้างล่าง ที่นี่ไม่มีโรงอาหาร มีแต่เก้าอี้ไม้ที่อยู่ตามเงาต้นไม้ไม่กี่ต้น พวกผมจึงต้องช่วยกันกางเต็นท์ผ้าใบสีขาวขนาดใหญ่จำนวนสี่เต็นท์กลางสนามหญ้าที่ค่อนข้างแห้งแร้ง ผู้ชายบางส่วนไปขนโอ่งเพื่อรองรับน้ำเอาไว้อาบน้ำ ส่วนผู้หญิงเขาก็กระจัดกระจายกันไปทำอาหารหม้อใหญ่ให้ทานบ้าง ไปยกหนังสือเรียนที่รถทัวร์เพื่อมาใส่ห้องสมุดบ้าง

“เฮ้ยไทป์ มันต่อยังไงวะ กูงงอะ” เสียงเนมตะโกนถาม ในมือถือเหล็กที่เป็นชิ้นส่วนของเต็นท์

“คลื่น ช่วยมันดูหน่อย” บอสพูด เพราะเรื่องกางเต็นท์มันเก่งมากครับ มันกางได้ทุกเต็นท์อะ ไปนอนกางเต็นท์ที่ไหนก็มีคลื่นนี่ละที่ช่วยให้งานไวขึ้น เมื่อกี้เห็นมันช่วยส่วนของบอสอยู่

“ไหนๆ” คลื่นปาดเหงื่อแล้วเดินไปช่วยเนม ผมมองพวกมันครู่หนึ่งแล้วหันมางงกับส่วนของตัวเองต่อ

“ทำได้ไหม” เสียงเกียร์ดังจากข้างหลังเล่นเอาสะดุ้งเลย ทำไมคุณชอบมาเงียบๆวะคุณน้ำแข็ง ไอรักยิ่งเป็นคนขวัญอ่อนอยู่ กร๊าก

“กำลังพยายามอยู่ครับ ตัวนี่ต้องต่อแบบนี้เหรอ”

“อืม” มันพูดแล้วช่วยต่ออีกด้าน

“แล้วเมื่อกี้ไปไหนมาเหรอ” ผมถาม เห็นมันเดินไปกับเนแว่นแถวหน้าอาคารเรียนที่ตอนนี้กลายเป็นห้องนอนของพวกเราไปแล้ว

“ไปช่วยฝ่ายทำอาหารมา”

“แล้ววันนี้มีอะไรทานบ้างเหรอครับ” มันกระตุกยิ้มขำใหญ่ อะไรละ แค่ถามเอง

“ต้มข่าไก่ ข้าวต้มหมูกับไก่ ข้าวผัด ยำปลากระป๋อง ไข่เค็ม ไข่เจียว บัวลอยไข่หวาน”

“ผมเห็นทำหลายหม้อเลย จะทานกันหมดเหรอ”

"ให้มหาลัยอื่นด้วย ..ต่อผิดแล้ว"

"โอ้ะ" ก้มลงดูก็ผิดอย่างที่มันว่าจริงๆ เลยนั่งต่อใหม่จนเสร็จ เกียร์ก็โดนโฟ่เรียกตัวไปช่วยงานส่วนอื่น

ผมเดินไปหยิบแก้วน้ำพลาสติกที่ต้องเจาะดูดแล้วเอาไปให้เกียร์ก่อนที่จะแยกกันออกมา แล้วผมก็เดินไปหยิบน้ำอีกครั้ง คราวนี้เอาไปเผื่อเพื่อนๆด้วย แล้วก็เดินไปหาพวกไอ้เนมที่ริมคลอง เห็นมันปูเสื่อนั่งเล่นกันอยู่ งานตัวเองเสร็จแล้วสบายเชียวนะมึง

"ทำอะไรกันวะไม่ไปช่วยเขา"

"เย้ย สัตว์ ตกใจหมดนึกว่าไอ้ประธานหัวแหลม" ดูๆ ไปว่าเขาอีก เขาแค่ซื้อเจลมาตุนเยอะเลยเผลอใช้มากไปหน่อยเท่านั้นเอง

"กูฟ้องประธานแน่" ผมพูด เนมเบะปากแล้วมุบมิบว่าขี้ฟ้องๆ อยากเตะกบาลมันจริงๆ

"โห หยวนๆให้กูหน่อยเถอะ ไหนๆขุ่นพี่ขอกินน้ำหน่อย" ไอ้เนมคนเดิมพูด ทำหน้ากรุ่มกริ่มกวักมือเรียกยิกๆ ผมเดินไปหาแล้วยื่นน้ำให้อย่างงงๆ ไอ้เนมไม่ยื่นมือมารับ แต่ดันยื่นตีนมาถีบผมเต็มเอว

"เชี่ยยย!" ผมตัวเซไถลลงคลอง เผลอปล่อยแก้วน้ำพลาสติกจนหล่นกระจุยกระจาย เสียงน้ำกระเซ็นเสียงดังจนคนอื่นหันมามองกันเป็นตาเดียว

"ฮ่าๆๆๆๆๆๆ" พวกเพื่อนผมที่นั่งอยู่หัวเราะจนเห็นลูกกระเดือก

"ไอ้พวกเวร ไม่มีเชี่ยอะไรทำหรือไงวะ ถีบมาได้ …."

ผมด่าไม่หยุด แต่พวกมันไม่ได้สนใจคำสาดเสียเทเสีย กลับหัวเราะเข้าไปใหญ่อีก ดีนะที่น้ำตื้นกูเลยยืนด่าได้ แต่เมื่อกี้เผลอกลืนไปหลายอึกแถมน้ำที่โคตรเย็นเข้าหน้าเข้าตาเล่นเอาผมเกือบตาย

"ไอรัก" เสียงเรียกดังขึ้น ผมหยุดด่าแล้วหันไปมอง เห็นเกียร์หน้าทะมึนเดินลิ่วๆมาหา

"เหี้ยละ พ่อมันมาว่ะ.." ไอ้ตัวต้นเหตุครางออกมาเบาๆแล้วค่อยๆกระดึ้บ..กระดึ้บ..

"มึงจะไปไหนวะ เดินดีๆสิ ทำตัวเป็นหนอนไปได้" เสียงคลื่นถาม ไอ้เนมสะดุ้งโหยงแล้วหันไปชู่ปากใส่

ผมว่ายไปเกาะริมคลอง โบกไม้โบกมือยกตัวขึ้นฝั่งเพราะเห็นเกียร์ทำท่าจะลงมาช่วย

"ลงไปทำไม ถ้าไม่สบายจะทำยังไง ทำไมไม่ดูแลตัวเองบ้าง อย่างนี้ทีหลังจะไม่ปล่อยให้ดื้อไปไหนมาไหนอีกแล้วนะ" ผมหงอเลย ได้ยินเสียงดุแบบนั้น

"..ผมไม่ได้อยากลงสักหน่อย" ผมแย้งอุบอิบ

"มึงอะไอ้เนมตัวดีเลยไปถีบไอ้รักเสียเต็มแรง อย่างนี้ทำไมไม่ถีบขาคู่ให้นอนโรงพยาบาลไปเลยละวะ กร๊าก" คลื่นหัวเราะท่ามกลางเพื่อนที่นั่งหน้าเจื่อน ไอรักว่าจะไม่พูดแล้วนะ แต่พอคลื่นพูดเท่านั้นละ แม่งรู้ทุกเม็ดทั้งเหตุการณ์เลย

เกียร์ปรายตามองตัวการที่นั่งท่าคลานยิ้มแหยๆ เดินเข้าไปแล้วง้างมือขึ้นจ้องจะตบกบาลเนมเต็มที่

"เฮ้ยๆเดี๋ยวๆๆ อย่าฆ่ากันน อย่าฆ่ามันน" เสียงคิมกับเนมร้องขึ้น คิมเอามือไปป้องหัวเนม

"เกียร์ อย่าทำรุนแรงกับเพื่อนผมนะ" ผมรีบเดินไปคว้าแขนหนาแล้วลากออกห่าง

“แง้ เค้าขอโทษษษ”

"กูดูแลของกูตั้งนานไม่เคยให้เจ็บให้เปรอะ แล้วนี่อะไร หันมาอีกทีลอยคอเป็นแมวน้ำเปื้อนโคลนแบบนี้ สัตว์เอ๊ย!" เกียร์ฟิวส์ขาด บ่นยาวเสียงดังกังวานจนเพื่อนผมตะลึงกันใหญ่เพราะเคยเห็นมันพูดยาวอย่างนี้เป็นครั้งแรก เกียร์มองเนมเขม็งแต่มือเอื้อมมาบิดชายเสื้อผมให้หมาด

“กกู กูขากระตุกงะ แงๆๆๆ จริงๆนะ” ปากไอ้เนมเริ่มเบะ ดิ้นเร่าๆหันไปฟ้องคนโน้นคนนี้จนคนอื่นแอบหัวเราะ

“มึงอะผิดเต็มๆ ได้เรื่องแล้วไงละ ชอบไปแกล้งมันนัก” พิชดุไม่จริงจัง

ผมเดินไปผลักตัวไอ้เนมเล่นๆ แต่ไอ้พิชดันถีบเนมตกคลองเสียงดังตู้มเล่นเอาคนที่อยู่บนบกหัวเราะจนน้ำตาเล็ดกับท่าทางเหมือนสุนัขตกน้ำของมัน คือเนมมันลอยตัวได้อย่างเดียว แต่เรื่องว่ายน้ำให้เป็นท่าสวยๆแบบคนอื่นมันทำไม่เป็นครับ จะว่าไปตอนแรกผมเป็นคนน่าสงสารไม่ใช่เหรอ ทำไมไปๆมาๆกลับเป็นเนมไปได้ เล่นเอาผมมึนไปเลย

ผมล้มนั่งบนเสื่อแต่โดนไอ้คิมไล่เพราะผมยังตัวเปียกอยู่ นี่กูโดนถีบแล้วยังโดนไล่อีกเหรอ โลกนี้ไม่ยุติธรรมเลยให้ตาย

แรงกระตุกที่มือทำให้ผมต้องหันไปมอง เห็นคุณผู้ชายหน้าบึ้งรั้งให้ผมยืนยิกๆ ถ้าผมเดาไม่ผิด..

“ไปเปลี่ยนเสื้อ” นั่นไง คุณน้ำแข็งจอมสั่งกลับมาอีกแล้ว

“หื้อ เดี๋ยวมันก็แห้งครับ” ผมตอบแล้วรั้งให้มันมานั่งด้วยกัน แต่อีกคนขืนตัวไว้

“เดี๋ยวไม่สบาย โรงพยาบาลแถวนี้ไม่ใช่ใกล้ๆ”

“ผมหนังหนาจะตายคุณ โดดน้ำอีกสักสิบครั้งก็ไม่เป็นหวัดหรอก” ผมพูดกวนๆ แต่อีกคนกลับไม่เล่นด้วย สีหน้าจริงจังมากจนผมต้องบู้ปาก ชอบทำหน้าดุจังวะ แค่เห็นหน้าคนเขาก็กลัวจนขี้ขึ้นสมองแล้ว

“ใช่ๆ นานๆทีไอ้นี่มันจะเป็นไข้ที ไม่ต้องเป็นห่วงมันหรอก” คิมพูดได้ดีมาก

“แต่เป็นทีเป็นหนัก อาการทางจิตก็หนัก” ไอ้ไทป์เสริมต่อ อยู่ข้างใครกันแน่วะ ด่ากูซะงั้น

“ลุก” ผมยิ้มแหยให้กับคนที่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ลุกขึ้นเดินตามหลังกว้าง เกียร์ปิดประตูบานยาวสูงทั้งหน้าห้องและหลังห้องแล้วยื่นผ้าขนหนูให้ผมซับน้ำที่เกาะบนตัวแล้วสั่งให้เกียร์หันหน้าไปทางประตูจะได้จัดการเปลี่ยนเสื้อ ดีนะที่น้ำคลองสะอาดใสแจ๋วจึงไม่ต้องไปล้างเนื้อล้างตัวอีก

พอเสร็จเรียบร้อยแล้วผมกับเกียร์ก็เดินลงมาสมทบคนในมอที่นั่งไม่ก็กำลังยืนดูหมู่คณะอีกมหาลัยกำลังสันทนาการอย่างหัวเราะชอบใจกันใหญ่ เห็นแล้วขำไม่ออกว่ะ นึกภาพตอนที่ตัวเองโดนแกล้งบนรถแล้วนึกสงสารมากกว่า

“แจวเรือจะไปซื้อของ แจวเรือจะไปซื้อของ..ขอเชิญไทยมุงลุกขึ้นมาแจว” ฉิบหายพวกกูแล้วไหมละคนสันฯ ผมที่พึ่งจะหย่อนก้นลงพื้นปูนก็ต้องรีบลุกขึ้นมาแจวอีก หันไปมองอีกคนที่นั่งนิ่งเป็นสากกะเบือก็รู้สึกหมั่นไส้ แม่ง เขาแจวกันหมด มีไอ้คุณน้ำแข็งที่ไม่เกรงกลัวอยู่คนเดียว ผมเลยแกล้งทำเป็นเต้นไปเหยียบเท้ามันจังๆ แต่สากกะเบือก็คือสากกะเบืออยู่วันยันค่ำ หันมาเลิกคิ้วมองผมเหมือนเมื่อกี้โดนฝุ่นเกาะ มึงไม่เจ็บเลยเหรอไอ้คุณน้ำแข็งงง

หลังจากเสียงเฮฮาจบไป ประธานของอีกมหาลัยก็ปล่อยให้ไปเก็บของที่ชั้นบน ก่อนจะนัดสองมหาลัยรวมกันเพื่อแบ่งหน้าที่ให้ชัดเจน และกว่าที่พวกเขาจะตกลงกันว่าจะให้ผมไปอยู่ฝ่ายไหนได้ ก็เล่นเอาคนอื่นยืนรอแทบหลับ ส่วนตัวผมง่ายๆสบายๆอยู่แล้ว จะให้ไปดำน้ำ ดูปะการังอะไรกูก็ไปหมดละ เรื่องไม่มากหรอกเลี้ยงง่าย ขี้อ้อนด้วยนะ อิอิ ไอ้พวกเพื่อนผมกับพวกเพื่อนเกียร์ก็ไปอยู่พวกแบกหามใช้แรงงานกันเพราะตัวแต่ละคนไซส์บิ๊คกันทั้งนั้น หน้าตาก็เข้าข่ายแรงงาน ใช้ได้อยู่ เหมาะสมๆ กร๊าก จะมีก็แต่ไอ้เนมที่ได้ไปช่วยประธานเพราะมันชอบเข้าค่ายทุกเทอมจนรู้จักคนเขาไปทั่ว กับคิมที่อยู่ฝ่ายประสานงาน สาที่เป็นผู้หญิงก็ได้ไปจัดการตกแต่งและย้ายหลังสือเข้าห้องสมุดขนาดย่อม และเนแว่นที่เป็นหอบหืดจึงไม่สามารถช่วยงานหนักๆได้จึงโดนเด้งให้มาอยู่กับผม

“เฮ้ย มึงทาสีเหี้ยอะไรของมึงเนี่ยแต้มเป็นจุดๆ ขาโต๊ะนะโว้ยไม่ใช่อีสุกอีใส ทาดีๆหน่อยสิวะไอ้เชี่ยเน” คุณสนที่อยู่แผนกเดียวกับพวกผมเดินเข้ามาพร้อมผลงานที่เนทำเสร็จแล้วมาบ่นเสียงไม่เบา ผมแทบปล่อยแปลงทาสีด้วยความตกใจกับเสียงทุ้มดังนั่น แต่ดูเนจะไม่ได้สะทกสะท้านแถมยังยียวนตอกด้วยสีหน้ามึนๆไปอีก

“เหรอ ไหนวะ กูว่าละ ไม้นี่แม่งไม่ได้ฉีดยากันเอาไว้แต่เด็กแน่ๆถึงได้เป็นอีสุกอีใสได้” นี่กูขวัญอ่อนจนกลัวเสียงดังๆของสน หรือมึงใจแข็งไม่เคยหวั่นกลัวต่ออะไรเลยวะ

“กวนกูไหมละสัตว์ เอาไปแก้มาใหม่เลย แม่งเสียเวลาคนตอกจริงๆ” สนโยนไม้ให้ข้างตัวเนแล้วเดินบ่นพึมพำออกไป ผมมองทั้งสองคนงงๆแล้วหันกลับมาทำหน้าที่ตัวเอง ความจริงพวกที่จับเรื่องไม้นี่น่าเป็นห่วงนะครับ เพราะมันต้องคอยระหวังหนามเสี้ยนไม่ให้ตำมือ ขนาดผมที่อุตส่าห์หลบหลีกมันอย่างดี ยังโดนไปหลายดอกเลยละ เจ็บจริงๆ

“เน เราขอสีขาวหน่อยสิ ของเราหมดอะ”

“เออเอาไปสิ” เนเงยหน้าไปบอกเกิ้ลที่อยู่คณะวิทยาฯ ที่เคยเต้นบนรถด้วยกันกับผมน่ะ

“ทำไมเนทาไม่มีระเบียบจังเลยอะ แอบสแตรกมาก ถ้าไม่บอกว่าอยู่วิศวะมาก่อน เราคงเข้าใจว่านายอยู่ศิล-กำ” ไอ้นี่มันหลอกด่าเนนี่หว่า หน้าซื่อเหมือนไม่ได้ตั้งใจกัด แต่คำพูดมึงเจ็บมาก

“นายพูดขนาดนี้ก็อย่าอ้อมเลยดีกว่า ด่ามาตรงๆเถอะ” เนพูดแล้วก้มหน้าทำผลงานอาร์ตของมันต่อ

“ฮ่าๆ เราล้อเล่น ดูไปก็สวยดีนะ ตะปุ่มตะป่ำเหมือนลายตุ๊กแกเลย”

“เหี้ยนี่สงสัยจะไม่จบวันนี้พรุ่งนี้” เนพึมพำกับตัวเองเบาๆ แต่ผมที่อยู่ข้างๆได้ยินเต็มสองรูหู

“เราพูดเล่นน่า ความจริงเราชอบตุ๊กแกนะ บ้านเราอยู่ข้างที่รกร้างอะ มีเต็มเลย” ขนาดเนทำเงียบไม่หือไม่อือกับมันแล้วนะ มันยังพูดได้ต่อ คือไอ้แป๊ะนี่มันยังไง

“อืม นายไปทำงานเถอะ เราว่าอีกไม่นานขาเราจะกระตุกไปโดนหน้านายได้อะ” เนพูดเนิบๆ ผมกลั้นขำเอาไว้เพราะเห็นเกิ้ลทำหน้าเอ๋อๆงงๆเหมือนมันไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ผมเคยบอกแล้วว่ามันนิสัยดีน่ารัก แต่ลืมบอกไปว่ามันโคตรซื่อจนเกือบบื้อสุดๆ

“ได้ๆ ขอบใจที่เป็นห่วงเรานะ แต่เนต้องหัดดูแลตัวเองบ้างนะ เราว่าเนต้องหาเวลาไปนวดขาบ้างอะ ยังไงถ้าอยากจะไปก็ปรึกษาเราได้นะ แม่เราชอบนวด คงแนะนำร้านดีๆให้นายได้ เราไปละไอรัก”

“ค่ายนี้มีใครเต็มสักคนไหมวะ แม่ง”

“แต่ผมว่าเกิ้ลเขาก็น่ารักดีนะ”

“น่ารักกับผีดิ คนเหี้ยอะไรซื่อบื้อฉิบ กูละปวดกะโหลกกับมันจริงๆ” ผมยิ้มขำแล้วทำงานไป สักพักใหญ่ก็มีเสียงทุ้มมากวนประสาทอีกละ คราวนี้ไอ้เนถอนหายใจแล้วหันหลังเอาไม้ไปทาอีกทางทันที

“หนูไอรักจ๋าาา จู๊คๆ” จู๊คอะไรของมันวะ ผมหันไปเตรียมจะด่าคนพูดภาษาวิบัติให้แสลงหู แต่ก็ต้องผงะเพราะมีถาดสีขาวที่เต็มไปด้วยแก้วน้ำเจาะดูดยื่นมาจ่อถึงหน้า มึงไม่ยัดถาดใส่ปากกูเลยละครับไอ้เชี่ยคุณสน

“เฮ้ยสน ตกใจหมด”

“ตกใจอะไรวะป๋าออกจะหล่อ เอ้า หยิบไปคนละอัน” ทำไมต้องแทนตัวเองว่าป๋าวะ เงินถึงนักเหรอ ผมยื่นมือไปหยิบน้ำแล้วส่งไปให้เนและเพื่อนต่างคณะต่างมหาลัยอีกหกคน

“อยู่ฝ่ายประกอบของไม่ใช่เหรอครับ มาเป็นคนเสริฟน้ำได้ไงหว่า” ผมถามออกไป

“ก็ไม่ไง ป๋าเดินไปเยี่ยวเสร็จ ผู้หญิงฝ่ายบริการก็วานให้มาเสริฟน้ำฝ่ายทาสี คงเห็นว่าป๋าจะมาแถวนี้อยู่แล้วมั้ง” มันพูดไม่พอ เสือกยื่นหน้ามาดูความคืบหน้าของงานที่ผมทำด้วย ผมก็ไม่อยากจะด่ามันหรอก ถ้ามันไม่ชะโงกมาอยู่ข้างกกหูกูระยะประชิดแบบนี้

“ใกล้ไปครับ เดินมามองดีๆก็ได้” คำด่านุ่มนวลอย่างนี้จะไม่ปรากฎเมื่อผมพูดกับเพื่อนสนิท สนยังพึ่งรู้จัก ต้องซอฟท์เพื่อรักษาภาพพจน์เข้าไว้ครับ หึหึ

“ไอ้เหี้ยนี่สงสัยตาเป็นเม็ดถั่วดำ ศพมึงหายไม่ทันได้ขึ้นอืดแน่”

“อะไรของมึง บ่นห่าอะไรอยู่คนเดียว บ้าแหงเลยว่ะ” สนหันไปด่าเนอย่างอึนๆ ผมก็งงเพราะคุณสนมันแตะไหล่กูละ ผมมองมันค้อนๆ แต่อีกคนก็งุบงิบปากว่าฝุ่นเปื้อน เดี๋ยวปัดให้ แม่งกูยังไม่ทันได้ขอให้มึงช่วยเล้ย

และยังไม่ทันที่ผมจะเขยิบถอยออกมา ก็มีชายฉกรรจ์คนหนึ่งเดินถือถ้วยใบปานกลางกับนมช็อคโกแลตที่ผมชอบมาหยุดมองพวกผมด้วยสีหน้าเรียบเฉย ต่างจากที่ผมกลายเป็นซีดเผือดไปแล้ว

คุณน้ำแข็งหน้านิ่งเดินเข้ามาวางชาม..บัวลอยไข่หวาน..และนมช็อคตรงหน้า ก่อนจะหันหลังกลับ

“อื้อหือ หนูไอรักของป๋านี่ตัวนุ่มนิ่มกว่าที่คิดนะเนี่ย มันน่าจับฟัดจริงๆ” สนจับกล้ามแขนของผมแล้วทำเป็นเอาจมูกมาไซร้ไปมา

ไอ้เหี้ยคุณสนนนนนนนนนน มึงนิ่งๆเหอะสาด มึงเห็นไหมมมมมมมมม กูงานเข้าแล้วว เมย์เดย์ๆ

ขาที่จะก้าวออกจากห้องชะงัก หันมามองพวกผมเต็มตาแล้วเดินกลับมาค้ำหัวใกล้ๆ ไอ้เนแว่นรีบกลิ้งตัวไปยืนอยู่ด้านหลังเกียร์ทันที ปล่อยให้ไอรักตัวน้อยๆนั่งสั่นหงึกๆอยู่คนเดียว แม่งทิ้งกูหน้าด้านๆ

“มึงว่าไอรักของใคร”

“หือ อ้าวเพื่อนหนูไม่ใช่เหรอ มาทำอะไรแถวนี้วะ ยืนทำไมนั่งก่อนดิ” ไอ้คุณสนที่ไม่ได้สนใจมองสีหน้าทะมึน แถวยังเชื้อเชิญยมฑูตที่จะมาเอาวิญญาณมันอย่างสนิทสนม

“เมื่อกี้ มึงว่าไอรักเป็นของใคร” สนชะงัก เงยมองขึ้นไปก็ตกใจ มึงพึ่งตกใจเหรอ กูกับคนในห้องเงียบตั้งแต่เห็นหน้าเกียร์แล้ว

เกียร์ไม่รอฟังคำตอบแต่กระชากข้อแขนผมให้เดินตาม เจ็บก็เจ็บ มันบีบแรงจนผมเห็นรอยแดงเถือกบนแขนตัวเอง แต่ผมก็เลือกที่จะเงียบแล้วเดินตามอีกคนไป ไม่กล้าต่อปากต่อคำกับมันหรอก กลัวโดนขวิด

“สนุกมากไหม” มันพูดเสียงเรียบนิ่ง หลังจากที่มาหยุดยืนข้างหลังอาคารที่ปลอดคน

“อะ เอ่อ” ผมอ้ำอึ้ง ไม่กล้าพูดอะไรออกไป สีหน้ามันนิ่งจนน่ากลัว

“ถ้าสนุกนักก็ทำต่อไป” มันพูดแค่นั้นแล้วเดินจะออกไป แต่ผมไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น รีบรั้งแขนมันเอาไว้

“เดี๋ยวเกียร์ สนแค่แกล้งผม ไม่ได้คิดอะไรกันทั้งนั้นนะครับ”

“.............”

“ผมขอโทษนะ แต่มันไม่มีอะไรกันจริงๆ อย่าโกรธผมเลยนะ นะ” หันซ้ายหันขวา เมื่อไม่มีใครผมก็รีบเดินเข้าไปกอดคนขี้งอน

“......อย่าให้มันเข้าใกล้มากไป ถึงจะไม่คิดแต่เกียร์ไม่ชอบ...” สุดท้ายมันก็ถอนหายใจเฮือก ยอมยกมือกอดตอบ

“ครับๆ ไม่เอาแล้ว ไม่ให้เข้าใกล้แล้ว มีแฟนขี้งอนแถมขี้หึงอย่างนี้ต้องทำตัวดีๆ เนอะ”

“รู้นิ” เหอะ..ไม่ปฏิเสธแถมยังยอมรับอีกว่าตัวเองเป็นอย่างไร คุณน้ำแข็งหน้าหนาจริงๆ

“ไหนๆ เมื่อกี้เอาบัวลอยมาให้ผมนี่นา อยากทานอยู่พอดี”

“งั้นเกียร์ไปละ”

“ไปไหนอะ ไปทานเป็นเพื่อนผมหน่อยสิ ผมเหงานะ” มันมองผมที่อ้อนมันสุดขีดนิ่งๆ ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจแล้วดันก้นผมให้เดินนำ ผมก็แอบอมยิ้มที่เห็นมันยิ้มให้ และหายงอนแล้วด้วย แต่อย่าคลึงก้นสิวะมันเสียวเป็นนะโว้ย

กลับมาก็ไม่เห็นสน มีแต่เนที่นั่งทาสีเคร่งเครียดท่ามกลางเพื่อนคนอื่นที่ไม่สนใจอะไรนอกจากตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันให้วุ่น เนหันมามองผมกับเกียร์ที่เดินมานั่งข้างตัวเอง ก่อนจะยิ้มแสยะให้

“ไงละ มีแฟนหน้าตาโคตรดีต้องทำใจ”

“หึ” มันก็ตอบเพื่อนตัวเองสั๊นสั้นนะ ผมส่ายหน้า หยิบชามขนมที่วางอยู่ที่เดิมขึ้นมาทาน

“เป็นไง” เกียร์ที่นั่งซ้อนหลังถาม ผมเลยหันไปป้อน

“ก็โอเคอะครับ แต่ผมชอบฝีมือคุณมากกว่า” ไม่ได้หยอด แต่รสชาติที่เกียร์ทำถูกใจผมมากกว่า อันนี้หวานไปหน่อย

“เจ้าชายมึงก็ปากหวานซะ กูว่าละทำไมไอ้เกียร์ถึงติดมึงจัง”

“ผมเปล่าปากหวานนะ” รู้สึกตัวเองหน้าร้อนกับคำพูดเน พวกเพื่อนเกียร์แม่งชอบแกล้งไอรัก

“จ้า ไม่ปากหวานก็ไม่หวาน รีบแดกไข่หวานแล้วเลิกหวานกันมาช่วยกูได้ละ” เนพูดจบ เกียร์ก็ขยับตัวไปหยิบแปรงมาทาสีให้แทน ผมก็ขอบคุณโดยการป้อนบัวลอยเข้าปากให้เรื่อยๆ เหลือบไปเห็นเนเบะปากแล้วบ่นอะไรอยู่คนเดียวก็ไม่รู้

“โห ทาเรียบขนาดนี้ย้ายมาแผนกพวกกูเลยไหม ทำไมกูทาไม่เคยเรียบเลยวะ” เนชะเง้อมองผลงานที่เกียร์ทำ

“อ่อน”

“คึ เรื่องแรงงานขอให้บอกเกียร์เถอะ เกียร์ชอบบ” ผมล้อกวนๆ ยิ้มตาหยีให้ เกียร์มองแล้วขยี้หัวผมจนผมฟูเลย

“ย้ายมาอยู่ด้วยดีไหม” คำพูดเหมือนจะออกเรือนมาอยู่บ้านกูเลยเนอะ ผมบู้หน้า ทำทีเอื้อมไปหยิบนมช็อคมาเจาะดื่ม

“แหม มึงไม่ค่อยหาช่องว่างเพื่อใกล้ชิดเลย” เนหัวเราะเพื่อนตัวเอง

“แล้วนี่ว่างเหรอครับ ถึงมาช่วยผมได้”

“เปล่า โดดมา” ดูนิสัยมัน

“กลับไปทำงานตัวเองได้แล้วเกียร์ เดี๋ยวเขาจะว่าเกียร์หรอก”

“แล้วไง” ผมปั้นหน้านิ่ง ให้คนมองรู้ว่าผมกำลังไม่พอใจ เกียร์เห็นแล้วถอนหายใจพยักหน้าให้ ไม่วายหันมาฝากฝังผมให้กับเนก่อนจะเดินออกไป

“ฝากดูแลไอรักด้วย”

“ไอ้เหี้ยนี่มันบ้าหรือบ้าวะ หวงแฟนยิ่งกว่าหวงจู๋ตัวเอง กูละไม่เข้าใจมันจริงๆ”






++++++++++++++++++++++++++++++++

+นานไป เลยเอามาต่อให้ยาวๆไปเลย แฮ่
+โซร๊ากทุกคน

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2
พี่เกียร์โหด^^
แต่ชอบอ่ะ

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
ยาวสะใจมากคร้าบบ
หนูไอรัก น่ารักเหมือนเคย ฮิฮิ
รักคุณโซ่เหมือนกันเน้อ :กอด1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
นึกงานจะเข้าซะแล้ว

ออฟไลน์ ekonut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 350
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1
ไอรักกลับมาพร้อมเกียร์แล้ว :กอด1:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
เกียร์ขี้หึงมากและหึงโหดด้วย
ก็ไอรักมันน่ารักต้องทำใจ
 :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
เกียร์ยังหึงคงเส้นคงวาเหมือนเดิมเลยอ้ะ น่ารักจริงๆ เสียใจด้วยนะที่ได้แฟนหน้าตาโคตรดี ฮ่าๆๆๆ

รอตอนต่อไปน้าาาา

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
หายไปนานเลย คุณน้ำแข็ง คง concept มาก 5555

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ชอบจังประโยคนี้ “ไอ้เหี้ยนี่มันบ้าหรือบ้าวะ หวงแฟนยิ่งกว่าหวงจู๋ตัวเอง กูละไม่เข้าใจมันจริงๆ”  :laugh:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
เพิ่งได้เข้ามาอ่านน่ารักมากมาย เกียร์ขี้หึงมากกกกกกกกก
แต่ไอรักเขาน่ารักนิเนอะ  :o8:

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1

ออฟไลน์ Y

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
คิดถึงน้องไอรักจุงงงง อยากอ่านแล้วจ้า คนเขียนกลับมาาาน้าาา

ออฟไลน์ Y

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
หายไปนานเกินไปแล้วววว   :hao5: :hao4:

ออฟไลน์ Calypso

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0
แจ้งข่าวนิดนึงนะคะ

ขอโทษที่หายไปนานนะคะ ไม่รู้ว่าลืมกันไปหรือยัง (เขาคงลืมแกหมดแล้วล่ะย่ะ เล่นหายไปหลายเดือน) โซ่ไม่มีเวลาเลยจริงๆ จันทร์-ศุกร์ติดฝึกงาน เสาร์-อาทิตย์ก็รับงานบัญชีมาทำอีก คือแทบไม่มีเวลาจะพักผ่อนเลยค่ะ (วันแม่ยังไม่ได้หยุดเลยT^T)

แต่ตอนนี้ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว คงยุ่งแค่งานบัญชี,ตัวที่เรียน,แล้วก็ thesis น่ะค่ะ แต่น่าจะพอมีเวลามาต่อให้ค่ะ

ขอบคุณคนอ่านมากค่ะ แล้วจะมาต่อให้ สัญญาว่าจะมาต่อแน่ๆค่ะ

โซ่ :กอด1:ทุกคน

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2015 19:01:32 โดย greenapple »

ออฟไลน์ Calypso

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-0
ตอนที่34


“เกียร์ครับ..”

“หืม..ยังไม่นอนอีก”

“ผมปวดฉี่ ทำไงดี” อ้าวแหน่ะ ปวดปัสสาวะนี่ต้องเอ่ยถามว่าทำอย่างไรด้วยหรือนี่กู ท่าจะเพี้ยนขั้นสุด

บ้าชะมัด ไอรักอั้นปัสสาวะนอนบิดไปมาอยู่นาน คิดว่าจะนอนไปทั้งอย่างนี้แต่ก็ทำไม่ได้ ความจริงผมไม่ได้กระแดะไปห้องน้ำคนเดียวตอนกลางคืนไม่ได้หรอก แต่เมื่อตอนเย็นที่มีงานเลี้ยงกระชับมิตรของทั้งสองมหาลัย ไอ้เนมมันดันเล่าเรื่องผีให้ฟังนี่สิ โดยปรกติแล้วผมก็ไม่ได้เป็นคนที่กลัวเรื่องพวกนี้สักเท่าไรนัก แต่เอาจริงๆก็...อดคิดไม่ได้

ผมมองค้อนเจ้าของได้ยินเสียงหัวเราะหึหึ เดี๋ยวเถอะเดี๋ยวจะโดน เห็นคนอื่นขวัญผวาเป็นเรื่องตลกเหรอชิ แต่มันคงไม่เห็นหรอกว่าผมทำหน้าบู้บี้ขนาดไหนเพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ไฟก็ไม่มีสักดวง ได้ยินแต่เสียงใบไม้ที่ถูกลมพัดเอื่อย เสียงอึ่งอ่างร้องประสานเสียงเพราะเมื่อตอนเย็นฝนตกปรอยๆไปที เห็นไหมละครับ ถ้าบรรยากาศไม่พาไปจริงๆผมก็ไม่กลัวหรอกนะนี่

เกียร์ลุกขึ้นแล้วดึงมือผมให้เดินตามมันไป ผมก็เดินซอกแซกไม่ให้เหยียบหัวคนที่นอนเอกเขนกกันอยู่ แต่ถ้าให้พูดตรงๆก็คงต้องบอกว่าเดินตามรอยเท้าเกียร์ไปละครับ ไอ้ผมก็สายตาคล้ายคนแก่เข้าทุกวัน เพ่งเงาหัวเพื่อนที่เลือนลางไม่ไหวหรอกไม่ได้เก่งขนาดคุณน้ำแข็งญาณทิพย์ อิอิ

เชี่ยแม่ง แล้วจะไม่ให้ไอรักกลัวได้ไง ออกมาจากห้องได้ขนลุกขนชันโดยไม่มีใครสั่งเพราะตลอดทางเดินไม่มีแสงไฟเลยสักหย่อม แสงสว่างมาจากพี่พระจันทร์ล้วนๆ นี่กลัวไฟตกถึงขนาดประหยัดกันขนาดนี้เชียวเหรอ

“เกียร์..เข้าไปด้วยกันไหมครับ” กว่าจะพูดออกมาได้ก็ยึกยักอยู่นาน มันจะหาว่าผมเชิญชวนหรือเปล่านี่ เปล่านะไม่ได้ยั่วนะแค่ได้ยินเสียงตุ๊กแกดังข้างหูเลยไม่อยากอยู่คนเดียวเท่านั้นเอง

“?” มันจุดเทียนหน้าห้องน้ำกับในห้องน้ำให้อยู่ พอผมพูดจบก็หันมามองผมด้วยสีหน้าที่แปลกใจมาก เอาเถอะ ไหนๆปวดฉี่ก็ปวดแล้ว ขอไอรักหน้าด้านสักวันเถอะครับ

“นะ นะครับ เข้าไปด้วยกันเถอะนะครับ” ผมหลับหูหลับตาพูด เกียร์มันก็เงียบไปพักหนึ่งแล้วคว้าคอผมไปดูดปากแรงๆดังจ๊วบ

“เฮ้ยยเกียร์ อะ บ้า ผมตกใจนะ ถ้าผมฉี่แตกขึ้นมาใครจะรับผิดชอบเนี่ย!” ผมซัดแขนมันแก้เขิน ไอ้คุณน้ำแข็งชอบทำตาหวานเชื่อมมาให้ผมเขินทุกทีเลยให้ตายสิ จิ้มตาบอดเสียเลยดีไหม!

“อย่างอื่นแตกแทนไม่ได้เหรอ” ไอ้หื่น!

“หยุดเลยเกียร์ พูดอย่างกับเป็นตาแก่บ้ากาม ไม่อยากเข้าก็ไม่ต้องเข้า” พอผมจะหันตัวเข้าห้องน้ำ มันก็รีบเข้าไปยื่นรอหน้านิ่งเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาว มันน่าหมั่นไส้ไหมละ

ถึงจะอาบน้ำตุ่ม ใช้ขันซัดน้ำเย็นเข้าตัว แต่โชคดีนะครับที่ห้องน้ำที่นี่สะอาดมาก ไม่มีอัขระตรงผนังหรือสิ่งแปลกปลอมชวนอาเจียน เรื่องอื่นผมรับได้แต่เรื่องห้องน้ำนี่ขอเถอะครับ

ผมสั่งให้น้ำแข็งก้อนใหญ่เท่ายักษ์หันหลัง ซึ่งเกียร์ก็ทำแต่โดยดี จากใจจริงเลยนะ ผมโคตรอายเลยที่ต้องให้ใครมาฟังเสียงที่ผมทำธุระอยู่แบบระยะประชิดขนาดนี้ ถึงมันจะเคยเกิดขึ้นมาบ้างในช่วงที่เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่คอนโดแต่สำหรับผมก็เคยไม่ชินกับมันเสียที ส่วนเกียร์ผมก็ไม่เคยเห็นมันรู้สึกรู้สาอะไรเลย ทำนิ่งยืนฟังเหมือนชมวงออเคสตร้าอย่างงั้นละ พอทำธุระเสร็จแล้วก็เดินไปสะกิดมัน ซึ่งเกียร์ก็ได้แต่พยักหน้าให้เฉยๆแต่ไม่ยอมหันมาหาจนผมเริ่มแปลกใจ...หรือผีจะเข้าสิงวะ!?

“...เกียร์..” เสียงกลืนน้ำลายดังเอือกไม่ได้มาจากผมแค่คนเดียว เอาไงดีวะ ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกูต้องวิ่งไปเอาข้าวสารเสกมาปาใส่หน้าเกียร์หรือต้องพรมน้ำมนตร์รดหัวเกียร์ดีวะ ผมกลั้นหายใจพลิกตัวเกียร์ให้หันมาประชันหน้าอย่างสุดแรงเกิด

เหี้ย...ผีเข้าจริงด้วย...ผีทะเล!!!!!!!!!

“เกียร์!!!!!!” ผมจำได้ว่าตะโกนไปเกือบสุดเสียง แต่อีกคนยกมือปิดปากผมทัน ไอ้คุณน้ำแข็ง ไอ้หื่นมหาตภัย ผมนึกว่ามันโดนผีอำแต่ที่ไหนได้ เห็นมันยืนชักยืนลูบอาวุธใต้หว่างขาตัวเองอย่างเพลิดเพลิน แถมสีหน้าท่าทางกำหนัดขั้นที่พร้อมปล่อยได้ตลอดเวลา

“เฮ้ยเกียร์ อย่าแกล้ง ไม่เอาผมไม่เล่นนะ เดี๋ยวคนอื่นได้ยิน” ผมพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดมัน ไอ้เกียร์บ้ามันเอาเกียร์น้อยถูกับไอรักน้อย มึงจะเสยลูกกูทำไมมม

“ไม่ได้แกล้ง”

“งั้นก็เอาลูกคุณออกไปสิครับ!”

“ไม่แกล้ง แต่เอาจริง..” พูดจบนิ้วแม่งก็แล่นมาแหย่รูไอรักทันที ไอ้ชั่วไอ้เลวไอ้ตัญหากลับบบบบบบบบ




………………………………………….




“มึง ปลิงเกาะอะ” เนแว่นพูดกับผมแต่มือยังคงทาสีไม่หยุด แรกๆมันก็เงอะๆงะๆแต่หลังๆมานี่แทบจะเป็นเซียนนักทาสีไม้เลยทีเดียว ผมทึ่งกับพัฒนาการของเนจริงๆ

นี่งานก็เสร็จไปเยอะเหมือนกัน คนบ้านละแวกนี้เห็นว่าเรามาช่วยกันบำรุงสร้างโรงเรียนก็เลยมาช่วยกันคนละไม้คนละมือจนตอนนี้มากันล้นโรงเรียนเลยครับ นี่ละคนไทย ช่วยเหลือกันได้ก็ช่วยกัน

“ผมขอกระป๋องสีขาวหน่อยสิครับ” ผมไม่สนใจ เปลี่ยนเรื่องพูดแล้วมองไปที่ถังสีที่อยู่ข้างตัวเนแว่น

“เออเอาไปสิ แต่ทำให้เพื่อนกูเลิกหงอยได้ไหม กูเห็นแล้วเกะกะลูกตาจริงๆว่ะ” เนถอนหายใจแล้วส่ายหน้าปลงกับเพื่อนมันที่มันอุตส่าห์พูดจนปากจะฉีกให้กลับไปยังฝ่ายของตัวเองเป็นร้อยรอบได้แต่ก็ยังคงนั่งนิ่งอยู่เยื้องไม่ใกล้ไม่ไกลจากพวกผมเท่าไร ผมปรายตามองไอ้คนที่นั่งอยู่ด้านหลัง เห็นสายตาที่มองมาอย่างสำนึกผิด เหอะ คิดว่ากูง่าย นึกอยากจะแหย่จะทำที่ไหนก็ได้ว่างั้น มึงคิดผิดแล้วไอ้น้อง กูไม่ได้ง่ายโว้ย เรื่องเมื่อคืนแค่ตกกระไดพลอยโจร ไอรักโมโหมากพูดเลย

“เกียร์ผิดไปแล้ว..” คิดว่าน้ำเสียงอ่อยๆเหมือนคนเป็นโรคจะทำให้ไอรักหายโกรธงั้นเหรอ ฝัน

“จะไม่ทำอีกแล้ว..” อย่าคิดว่าแค่เอานิ้วมาสะกิดปลายเท้าแล้วไอรักจะลืมเรื่องที่คุณปิดปากผมแน่นแล้วกระแทกใส่เหมือนข่มขืนกันนะ! ถึงตอนนั้นผมจะ เอ่อ..เกิดอารมณ์เหมือนกัน แต่ แต่ผมก็ไม่ได้ยินยอมตั้งแต่แรกนะ!

“หายโกรธกันนะ..” เหอะ! ง่ายไปแล้วไอ้น้อง

“ถอยครับ” ผมพูดโดยที่ไม่ได้หันไปมองว่าอีกฝ่ายทำหน้าอย่างไร แต่เนก็หันมามองเหมือนสงสารเกียร์จับใจ เกียร์เขยิบถอยหลังสักพักผมก็ได้ยินเสียงมันลุกออกไป ผมถึงได้หันไปมองที่ประตู

“เจ็บไปไหม โหดไปไหม ทำเหมือนคนจะไป ไม่แคร์ว่าใครจะเกือบตาย..น่าสงสารมึงจริงๆนะไอ้เกียร์ ใครกันนะใจร้ายโกรธมันได้ลงคอ...คนน่ารักมักใจร้าย ใช่ไหมเธอ~” ผมหันไปมองเนที่ยังทำเป็นทำการทำงานแต่ปากพูดไม่หยุด ผีเจาะปากมาพูดเหรอวะ

“อะไรครับ” เสียงจิกด้วยไม่ใช่อะไร

“เปล๊าาา”













ช่วงพักกลางวัน ผมก็ยังนั่งวาดลวดลายเล็กน้อยบนโต๊ะไม้อยู่ น้องๆที่ใช้จะได้รู้สึกผ่อนคลายมีความสุข เวลาเรียนจะได้ไม่กดดันตัวเอง ถ้าจิตใจปลอดโปร่งก็จะทำให้เรารับความรู้และสร้างความคิดสร้างสรรค์ได้มากขึ้น เหมือนผมคิดเยอะไปเนอะ คำพูดสร้างภาพได้เป็นหลายรูปแล้วละ กร๊ากก ส่วนเรื่องทานข้าว ถ้าจะให้ลงไปตอนนี้ก็คงไปเบียดกับผู้คนมากกว่า ตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยหิวเท่าไรด้วย

“ได้เวลากินข้าวแล้วไอ้เจ้าชาย”

“ทานก่อนเลยครับ เดี๋ยวผมลงตามไปทีหลังนะ” ผมพูดยิ้มๆให้เน

“ยังไม่หายโกรธไอ้เกียร์อยู่เหรอวะ กูก็ไม่รู้หรอกว่าเกียร์ไปทำอะไรให้มึงโมโหมันนักหนาหรอก แต่กูสงสารจริงๆว่ะ กูอยู่กับมันมานานไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้หรอกนอกจากเป็นกับมึงนี่ละ นี่ก็ครั้งแรกเลยด้วยมั้งที่เคยเห็น หายๆโกรธมันเถอะว่ะ” ไปกันใหญ่แล้ว ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงจริงจังไปไหน ผมหายโกรธไปตั้งนานละ ใครจะกล้าโกรธมันได้นานๆ ต่างคนต่างรู้สึกแย่ไม่เอาด้วยหรอก แต่ที่ผมไม่ลงไปเพราะผมกำลังมันส์กับการละเลงโต๊ะอยู่โว้ย

“ผมยังไม่หิวครับ ถ้าเจอเพื่อนผมหรือเกียร์ก็ฝากบอกด้วยนะครับว่าทานกันไปก่อนเลยไม่ต้องรอ” เดี๋ยวไอ้เนมมันบ่นอีกที่ทำให้มันต้องหิ้วท้องรอ

“เออๆ รีบตามมานะโว้ย เดี๋ยวเพื่อนกูคิดมากจนอกแตกตายไม่รู้ด้วย”

เมื่อเนออกไปห้องก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะคนอื่นก็ลงไปทานข้าวกันหมดแล้ว ผมเดินไปหยิบกระดาษหนังสือพิมพ์มาปูรองเพิ่มแล้วลงมือทาสีอีกครั้ง สักพักใหญ่ก็ได้ยินเสียงประตูเปิดขึ้น

แอ๊ด...ปึก..

ผมหันไปตามเสียงเปิดปิดประตู คนตัวโตหน้าหงอยเดินมาพร้อมถาดอาหาร มันทรุดลงนั่งข้างๆแล้วไม่พูดไม่จา แต่ดูจากท่าทางแล้วคงเป็นเพราะไม่กล้าพูดอะไรออกมามากกว่า

“ทานก่อนเถอะครับ” ผมพูด มันส่ายหน้า เม้มปากแน่นแล้วจัดแจงหยิบจานอาหารออกมาจากถาด วางตรงหน้าผม

“?” ผมมองจานอาหารตรงหน้าอย่างงงๆ แล้วหันไปมองมัน

“..ไอรักกินก่อน” ผมมองคนที่เบี่ยงหน้าออกไม่มองหน้ากัน ก็เพราะว่ามันน่ารัก ดูแลผมดีขนาดนี้ไงผมเลยไม่เคยโกรธมันจริงๆจังๆสักที ว่าแล้วก็หยิบจานข้าวมาถือไว้แล้วลงมือทานอาหารหนึ่งคำ ก่อนจะตักข้าวจ่อปากเกียร์แล้วยิ้ม คราวนี้คุณน้ำแข็งยอมหันมามองสบตา

“ทานด้วยกันนะครับ” เท่านั้นละมันถึงยิ้มออกมาได้

กว่าที่เราสองคนจะอิ่ม คนอื่นๆก็ทยอยขึ้นมากันแล้ว ก็มัวแต่คุยเล่นกันจนลืมอาหารตรงหน้าไปเลยน่ะสิครับ ส่วนเรื่องเมื่อคืนเราก็ไม่ได้ยกขึ้นมาพูดอีก มันก็คงรู้ว่ามันทำผิดตรงไหนและก็คงจะไม่ทำอีกแล้วละ

“อ้าวๆๆ ดีกันแล้วเหรอวะ” เสียงคุ้นๆเหมือนไอ้พิชทำให้ผมต้องหันไปมอง ชัดเลย มากันเป็นตับทั้งเพื่อนเกียร์ทั้งเพื่อนผม

“นี่กูไม่ได้เล่าอะไรไปเลยนะ สงสัยมันรู้กันด้วยตัวเอง หึหึ” ไอ้เนแว่น มึงตัวดีเลย มึงบอกชัวร์

“โห่ อะไรว้า เค้ากะจะมาดูสักหน่อยว่าเกียร์หงอยนี่มันเป็นยังไง เนอะตัวเองเนอะ ฮ่าๆๆๆ..อ่ะเอ่อ..แหะๆ” เนมกระแซะๆไอ้คิมแต่ก็ต้องสะดุ้งเพราะสายตาเกียร์

“กวนตีน” ผมจะตบหัวเนมแต่โดนคิมยึดข้อมือเอาไว้ก่อน

“ป๊าดด หยุดๆๆ เดี๋ยวก่อนเลยมึง นี่อะไรยังไงกันวะทำไมกูพึ่งรู้ ไหนไอ้เนบอกว่ามึงนั่งหันตูดใส่เกียร์ นี่อะไร แทบจะนั่งขี่กันอยู่ละ” ไอ้เชี่ย แค่นั่งคุยกันมึงพูดเหมือนได้เสียกัน ไอรักเสียภาพพจน์นะ! ผมถลึงตาใส่แต่ไอ้คิมก็ลอยหน้าลอยตากวนส้นบาทาแบบไม่ได้สนใจ ฮึ่ยย

“โหไอ้ตกยุค เป็นตำรวจเหรอวะถึงได้มาตอนสุดท้ายทุกที เขาเห็นกันเป็นชาติละ” เนยืดอกพูดโอ่ ได้ข่าวมึงก็พึ่งรู้เหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ

แล้วพวกมันก็นั่งจ๋อมจับเข่าคุยเรื่องโน่นนี่กันเสมือนเป็นบ้านตัวเอง คนอื่นที่เข้ามาจะทำงานก็เมียงมองมาเหมือนเห็นตัวประหลาดนับสิบประชุมหารือกัน ไอ้พวกมันก็เกรียนกันนะ ใครเข้ามาโดนแซวหมดทุกคน เห็นแล้วก็น่าสงสารผู้หญิงนะครับ เพื่อนผมมันก็หน้าตาดีพอสมควรไงจึงได้แต่เดินม้วนก้มหน้าแดงๆไปตามๆกัน

“เออกูว่าจะพูดนานละว่าแม่งใส่แหวนเหมือนกันเด๊ะอย่างกับคู่แต่งงานแล้วเลยพวกมึงนิ” พิชพูด ผมหน้าร้อนขึ้นมาทันที ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของคนข้างตัวยิ่งแทบอยากมุดดินหนี ไอรักเขินนนนเป็นนะ

“คู่ใหม่ปลามันก็งี้ กูละอิจฉา” ไอ้พัตต อย่าแซวกันสิวะครับ

“พอๆ เลิกแซวได้แล้ว” ผมพูดเสียงงึมงำเบาๆ มึงเห็นหน้ากูไหม หน้ามุ่ยคิ้วขมวดเพราะอยากให้เลิกแซวกูเสียที (ถ้าไม่รวมหน้าแดงนะ)

“อิอิ เค้าก็เห็นนานแล้วๆๆ เค้าคันปากอยากแซวมานานแต่ก็กลัว..” มันพูดแล้วเหลือบตาไปหาเกียร์ มันคงกลัวมากน่าดู

“โอเคนะ” ระหว่างที่พวกมันเม้ามอยเรื่องผมอย่างสนุกปากกัน ไทป์ก็กระซิบถาม ผมยิ้มให้เฉยๆไม่ตอบอะไรเพราะมันก็คงรู้คำตอบแล้ว

“เหี้ย ทำไมมึงมีสลิ่มด้วยวะ กูลงไปคนแรกๆแม่งหมดแล้วอะ ไอ้คู่รักขี้โกงงงงงงง” พัตที่นั่งข้างเกียร์ มองขนมที่พวกผมกำลังทานกันอยู่แล้วดิ้นพล่านใหญ่ หือ ถ้าพัตลงไปเป็นคนแรกๆแล้วเกียร์มันไปเอามาจากไหนละนี่ อย่าบอกนะว่ามันปล้นคนอื่นมา หน้าแม่งยิ่งชวนให้คิดไปทางที่ไม่ดีอยู่ กร๊าก

“เสือก”

“อูย โดนไปสิ”

“เออมึง เมื่อคืนเหมือนกูจะได้ยินเสียงอะไรเลยว่ะ” สะดุ้งเฮือก ผมเหลือบไปมองไอ้เนมตาแทบเคล็ด อย่าบอกนะว่ามันได้ยินเสียงเรา..

“หา เสียงอะไรวะ ที่ไหนอะ” คิมพูด ผมมองเกียร์ตาเขียวเลย เกียร์มันก็เลิ่กลั่กใหญ่ เอ่อก็ไม่ได้แสดงว่ามันเลิ่กลักขนาดนั้นหรอก แต่ผมก็พอดูออก

“ไร้สาระ ไปทำงานไป!” เกียร์เสียงดังกลบเกลื่อนความผิด ทำให้ทั้งห้องหันมามองมันเป็นจุดเดียว ไอ้ไม่เนียนนนน

“งะ..ตะ แต่กูได้ยินจริงๆนะ กูสะดุ้งตื่นมาตอนกลางคืนอะ ได้ยินว่ามีคนตะโกนว่าเอี้ยมั้ง” คงเป็นตอนที่ผมตะโกนเรียกชื่อเกียร์แน่เลย ไอ้เกียร์มึง ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก ผมหันไปมองยังไม่ทันปั้นสีหน้าอะไรออกไปมันก็รีบส่ายหน้าให้แล้วจับมือผมแน่นเหมือนกลัวจะโดนโกรธอีก

“หรือว่าจะเป็นเซียวเหล่งนึ่งกำลังเรียกหาเอี้ยก้วยวะ”

“ไอ้สัตว์ นี่อยู่ไทย ไม่ได้อยู่จีน มาเป็นเซียนกระบี่พิชิตมารเลยนะมึง” โฟ่ว่าไอ้คิม

“เอ่อ โทษทีมึง กูว่ามันเรื่องมังกรหยกมากกว่านะ” เนแว่นสกัดดาวรุ่งให้ร่วงมาไม่เป็นท่า โฟ่ยิ้มแหะๆแล้วพึมพำ ‘อ้าวเหรอ กูดูนานแล้วนี่หว่า’

“หึหึ แต่กูว่าเสียงคนกำลังโดนทารุณหรือเปล่าวะ แบบ เหี้ย ประมาณนี้….”

“ไปทำงานกันได้แล้วไอ้สัตว์!” เงิบเลยสิมึง เสียงดังกว่าเมื่อกี้อีก ผมที่อยู่ข้างๆยังสะดุ้งเลยคิดดูสิ

“สะ เสียงดังทำไมวะ เออแม่งไปก็ได้ ไล่กูจังเลยนะมึงแม่ง” พัตครับ มึงพูดแม่งได้อยู่คำเดียวเหรอ ประโยคนิดเดียวปาไปสองคำเชียวนะ ทุกคนก็ทยอยกันลุกออกไป

“โอ้ย..” เนมลุกขึ้นแล้วเซแต่คิมรับปีกมันได้พอดี นี่มึงรู้ว่าด้านนั้นมีเพื่อนอยู่หรือเปล่าวะ ท่าล้มมึงสวยเชียว

“เป็นเหี้ยอะไรมึง” คำพูดสวยหรูแลดูเป็นห่วงเป็นใยเพื่อนจับใจ

“เสียหลักว่ะ”

“รากฐานไม่มั่นคงก็งี้ กูบอกแล้วให้แดกเยอะๆไม่เชื่อกูเห็นไหม สงสารละป๊าม๊ามึงที่มีลูกผอมเป็นไม้จิ้มฟัน”

“บ่นๆๆ บ่นเป็นไอ้แก่อยู่นั่น กูเสียหลัก..เพราะรักเธอหรอกโว้ย ฮิ้ว” มันฮิ้วเสียงยาวคนเดียวแล้วเดินออกไปเหมือนแห่ขบวนขันหมาก ปล่อยให้คนที่ฟังนับสิบคนอ้าปากค้างกับมุขของมัน มึง-กล้า-มาก

“คุณก็ไปได้แล้วครับ” ไหนๆก็ไหนๆละ ขอไล่มันไปในตัวเลยแล้วกัน ก็ดูมันมานั่งขวางงานผมหมดเลย คนจะทำงานทำการ หึหึ เห็นอย่างนี้ไอรักก็จริงจังกับงานนะครับ

“ไม่โกรธแล้วนะ” ไอ้นี่ ชอบซักไซร้จริงมึงนิ

“จะโกรธถ้าคุณมานั่งทับแปรงทาสีของผมนี่ละ”

“..รู้สึกเดี๋ยวนี้จะโหดขึ้นเป็นสิบเท่า”

“ว่าไงนะครับ!?”

“เปล่าๆ” แล้วไป




…………………………………………………………




“พี่ๆ ทำไมตาสีฟ้าได้อะ” เด็กน้อยตัวสีเข้มที่เป็นเด็กนักเรียนในโรงเรียนนี้พูดออกมาซื่อๆ ถึงแม้ว่าวันนี้จะอยู่ในช่วงปิดเทอม แต่พวกน้องๆที่บ้านใกล้ก็มาเที่ยวเล่นกันที่นี่ ไหนๆก็มาพอดีผมเลยชวนน้องมาทาสีด้วยกัน ถ้าพูดตามความจริงคือก็หาคนแบ่งเบาภาระกันน่ะครับ กร๊ากก

“อ๋อ มันกินแฟนต้าเยอะไปหน่อยอะน้อง” ไอ้คิมมันเดินผ่านห้องผมพอดีเลยตะโกนหลอกเด็ก เลวจริงๆมึง

“พี่ผมก็ชอบกิน ทำไมไม่ตาสีนี้บ้างอะ” เด็กมันก็ช่างถาม(มาก)นะ

“อย่าไปเชื่อมัน พ่อแม่พี่เป็นลูกครึ่ง เอ่อ เป็นคนต่างชาติน่ะ” อธิบายให้เด็กฟังก็ยากเหมือนกัน พอไม่เข้าใจก็ทำหน้างงใส่ให้เราเสียเซลฟ์ เข้าใจหัวอกคนเป็นครูเลยครับ

“อ๋ออ” มันเข้าใจจริงๆหรือเปล่าวะ

“แล้วนี่อายุเท่าไหร่แล้วเอ่ยตัวเล็ก”

“ผมไม่ตัวเล็ก โตแล้ว” อูย เจอเด็กโหดว่ะ

“ครับๆ ตัวเท่าหน้าแข้งพี่เองแหนะ” ผมพูดแล้วขยี้หัวเกรียนๆของน้องมัน

“นัทแปดขวบแล้ว เตะไอ้เป้งชนะตลอด มันไม่เคยทันผมหร้อก” น้องกำหมัดชูใหญ่ ผมว่าน้องมันผอมไปนะ กินอะไรเป็นอาหารวะอยากรู้

“โหจริงเหรอ แล้วไหน ใครเหรอครับเป้งอะ” ผมก็เออออไป พลางทำงานไปด้วย ฟังน้องมันโม้ก็เพลินดีเหมือนกัน แต่มือน้องไม่ทำงานเลยนะ เม้าทีหยุดงานทั้งหมดเลย

“มันไม่มาหรอก มันกลัวผม” ครับ เอ็งเก่ง

“เก๋าไปปะน้องนัท” เนแว่นหันมาหัวเราะใส่ น้องเห็นก็ทำหน้ายู่ยี่ให้เน

ผมยิ้ม ฟังเด็กน้อยกับเนเถียงกันไปมาจนเพลินลืมระวังไม้เลยโดนบาด ผมซีดปากออกมาเพราะมันบาดลึกกว่าที่อื่นๆที่แค่ตำเบาๆ ห่าเอ๊ย เลือดเลย น้องนัทหันมาเห็นก็โวยวายลั่นห้อง มือป้อมๆจับมือผมแล้วร้องไห้ใหญ่เลยทำให้ผมยิ้มออกมาได้ เด็กมันน่ารักจริงๆนั่นละ ผมเลยเดินลงไปขอพลาสเตอร์จากฝ่ายปฐมพยาบาลโดยมีเด็กน้อยตัวเท่าหน้าแข้งจับมือแน่นไปด้วยกัน

ตกดึกผมก็มีปลิงสองตัวเกาะติดหนึบ ตัวหนึ่งเป็นตัวที่ผมตื่นมาก็เห็นจะหลับตานอนก็เห็นทุกวัน ส่วนอีกตัวเป็นเด็กผิวเข้มเกาะขาไม่ยอมกลับบ้าน อ้อนแม่อยู่นานจนได้มานอนกับผมคืนนี้

“นัทไปด้วย” พอเห็นเกียร์กับผมเดินแยกไปอาบน้ำคนละห้อง น้องนัทก็เลยจับมือผมให้แน่นขึ้นแล้วพูด ผมยิ้มให้แล้วพยักหน้าเพราะยังไงผมก็ให้เข้าไปด้วยอยู่แล้ว แต่ยังไม่ทันได้เข้าน้องนัทก็โดนกระชากจากด้านหลัง หันไปก็เห็นคุณน้ำแข็งยืนทำหน้ายักษ์อยู่ก่อนแล้ว รู้สึกมันจะหน้าบึ้งมาสักพักใหญ่ๆแล้วละแต่ผมไม่ได้ถามออกไปเพราะน้องนัทชวนคุยตลอดทางเลย

“โอ้ยๆ ปล่อยผม ปล่อยๆๆๆๆ” น้องนัทดิ้นพล่าน พยายามสะบัดมือแต่ก็ไม่หลุดจากอุ้งตีนหนา ผมจะเอ่ยปากดุมันเพราะสงสารน้องแต่มันก็ถูกตัดหน้าเสียก่อน

“มึงน่ะมานี่” พูดจบก็กระชากตัวเด็กไปซะตัวปลิวเข้าไปอาบน้ำกับมัน ผมได้แต่ส่ายหน้าเอือมแล้วเข้าไปอาบบ้าง

เสร็จก็ขึ้นไปบนห้องโดยมีเสียงน้องนัทเจื้อยแจ้วไม่หยุด ผมก็ขำเด็กมันนะพูดได้ไงวะตลอดทาง แต่เห็นท่าทางสนุกสนานแล้วก็ไม่อยากถามไปหรอก

แต่คงมีคนหนึ่งที่ดูท่าจะไม่สนุกสักเท่าไร ก็ไอ้คุณน้ำแข็งที่เดินหน้าหงิกอยู่อีกข้างนี่ไงละ ยิ่งตอนเห็นแผลที่มือผมครั้งแรกก็พาลโกรธคนที่อยู่ในเหตุการณ์หมดเลย หาว่าเนแว่นไม่ดูแลอย่างที่มันอุตส่าห์ย้ำนักย้ำหนา หาว่าคนอื่นหางานหนักมาให้ผม หาว่าเด็กชวนคุยจนทำให้ผมไม่ทันได้ระวัง กูจะบ้าตาย แถมมันยังหมั่นไส้น้องนัทที่มาเกาะแกะผมอีกนะ เชื่อเลย

กว่าจะได้นอนก็เถียงกันอยู่นานสองนานว่าจะให้ผมนอนหันไปทางไหน ซ้ายก็เกียร์ ขวาก็เด็กหน้าแข้ง จนไอ้บอสที่นอนใกล้ผมทนไม่ไหวลุกขึ้นมากดให้ผมนอนหงายตัดปัญหาการทะเลาะวิวาท ไอ้ผมกับน้องนัทก็กลั๊วกลัวมันนะ หน้าทะมึนมาเชียว รู้อยู่ว่าถ้าไม่ใช่เรื่องไอ้คลื่นมันความอดทนต่ำมาก ก็เลยได้แต่นอนนิ่งให้สองหน่อกอดก่ายจนอึดอัดตลอดทั้งคืน




…………………………………..





“เสร็จแล้วโว้ยยยยยยยย” เสียงผู้ชายคนหนึ่งตะโกนออกมาอย่างดัง ในที่สุดงานทั้งหมดก็สิ้นสุดลงเสียที โรงเรียนที่ขาดแคลนทั้งห้องเรียนและอุปกรณ์เกี่ยวกับการเรียนการศึกษา ตอนนี้ก็เหมือนได้โรงเรียนใหม่เลยครับ

พวกผมกับเด็กโรงเรียนนี้มองภาพตรงหน้าอย่างภูมิใจและดีใจกับน้ำพักน้ำแรงที่เราร่วมกันสร้าง ประธานโครงการของพวกผมและอีกมหาวิทยาลัยหนึ่งเรียกรวมตัว กล่าวคำสั้นๆแล้วมอบเงินสนับสนุนจากสปอนเซอร์ให้กับผู้อำนวยการโรงเรียนนี้

หลังจากนั้นก็แยกย้ายไปเก็บของแล้วยกขึ้นรถเพื่อเตรียมตัวกลับ น้องนัทกอดขาผมร้องไห้เป็นสายเลย เห็นแล้วก็กลั้นน้ำตาแทบไม่อยู่เพราะผมรู้จักน้องนัทหนึ่งอาทิตย์ได้แล้วจึงสนิทกับน้องนัทมากพอสมควร

“ตั้งใจเรียนเป็นเด็กดีนะครับน้องนัท หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกครั้งนะ” ผมย่อตัวลงกอดน้องไว้แนบอก อีกฝ่ายกอดกลับแน่นยิ่งสะอึกสะอื้นเข้าไปใหญ่

“นะ..นัท ฮึก เป็น..อึก..เด็ ก.ดี..ฮึก..อ ยู่ แ ล้ว...เรียน..เก่ง..ฮึก ด้วย..ฮื้อ...”

“ครับๆ น้องนัทเก่งที่สุดเลยเนอะ” ทำไมรู้สึกว่ายิ่งปลอบก็ยิ่งร้องวะ ผมหันไปมองเกียร์ก็เห็นมันมองมานิ่งๆก็ยอมให้ผมกอดปลอบนะ มองไปเห็นคนอื่นที่สนิทกับเด็กโรงเรียนนี้ก็โดนกอดเหมือนกัน

“นั ท.. จะไป..เรียน..ฮึก..ที่..เมือง..หลวง..ฮึก..นัทจะ..ไ ป.หา..ฮึก..พี่ ไ อรัก..ฮึก”

“งั้นน้องนัทก็ต้องตั้งใจเรียนให้คุณพ่อคุณแม่ภูมิใจนะครับ อยู่ที่นี่ก็ช่วยการช่วยงานท่านด้วย โตมาจะได้เก่งๆสอบเข้ามหาลัยได้แล้วก็จะได้มากรุงเทพฯด้วยนะ” ผมยิ้มให้น้องนัทตัวน้อย หน้าตามอมแมมจนผมต้องใช้มือเกลี่ยน้ำตาออกเบาๆ

“กว่าจะขึ้นก็เล่นบทโศกซะกูเศร้าเลยนะมึง” พิชพูดขณะที่ผมขึ้นมาบนรถแล้ว ผมก็มองไม่ได้ตอบอะไร เศร้าอยู่ ยิ่งตอนรถเคลื่อน เด็กตัวเท่าหน้าแข้งหน้าตามอมแมมวิ่งไล่ตาม ผมยิ่งเสียใจเข้าไปใหญ่


ติ๊ด..


ข้อความจากโทรศัพท์ดังขึ้น ผมยกขึ้นมาดูเพียงได้เห็นข้อความสั้นๆจากคนที่นั่งรถคนละคันก็ทำให้ผมกลับมายิ้มได้ไม่ยาก


iGEAR (18:48) : ไม่เป็นไรนะ


กลับไปคงต้องอ้อนการณ์ใหญ่เลยแล้วละมั้ง เล่นใส่ใจกันขนาดนี้




TBC-------->>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

+กราบขออภัยทุกๆท่านด้วยความจริงใจค่ะ TT !!!! นี่มันกี่วันกี่เดือนแล้วเนี่ยที่ไม่มีเวลามาต่อเลย
+ใครได้ดูเดอะวอยซ์ตอนแรกบ้างคะเมื่อกี้ รู้สึกเลยว่าคนไทยก็มีเสียงที่ดีมีคุณภาพมากเลยนะคะ ฟังแต่ละคนร้องแล้วขนลุก พอจบเลยรีบลุกขึ้นมาต่อให้เลย ฮ่าๆๆ ความจริงวันนี้เป็นวันอาทิตย์แรกที่สามารถลืมตาดูโลกได้ วันอื่นนี่จมแต่วิทยานิพนธ์ไม่ลืมหูลืมตาเลยค่ะ

ขอบคุณคนอ่านทุกคนค่ะ เป็นกำลังใจให้โซ่แต่งนิยายต่อไป :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด