- GAYscale Magazine - กองบ(เ)ก(ย์)สุดป่วง! #แจ้งข่าววววว P.41 30/01/16
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - GAYscale Magazine - กองบ(เ)ก(ย์)สุดป่วง! #แจ้งข่าววววว P.41 30/01/16  (อ่าน 347622 ครั้ง)

ออฟไลน์ befol2e

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ขุ่นแม่น่ารักอ่าาา ไฮเทคซะด้วย 55555
อย่างที่เขาบอกเลยค่ะว่า จะมีใครรู้ทันเราเท่าแม่ของเราบ้าง อิอิ
สำหรับขุ่นแม่ แค่ขุ่นลูกมีพิรุธเล็กๆน้อยๆ ขุ่นแม่ก็มองออกแล้วแหละค่ะ
ดีใจจังที่ขุีนแม่เข้าใจและยอมรับความรักครั้งนี้ของลูกชาย

ออฟไลน์ BIRD

  • บี เบิ๊ด นก ^___^
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ความทรงจำดี ๆ ที่ฉันมีอยู่ ล้วนมีเธอประกอบไว้ ..

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29

ออฟไลน์ lykar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-0
Page 34 : I do

          กองบก.ของเกย์สเกลกำลังซุ่มกันอยู่ในห้องประชุมใหญ่ของบริษัท แม้เวลาจะเลยช่วงพักเที่ยงมาแล้ว ทว่ายังไม่มีใครลุกออกจากโต๊ะเลยแม้แต่คนเดียว

            “ผมว่าอันนี้ดี” สิปป์ศิลป์เสนอความคิดเห็นกับภาพบนหน้าจอโปรเจ็กเตอร์

            “ฉันเห็นแกก็ว่าดีหมดทุกภาพอ่ะไอ้สิปป์” บก.เอ้ดักคอ สายตาก็ยังจับจ้องภาพตรงหน้าไม่หยุด

            คนถูกแขวะยักไหล่ “อะไรดี สิปป์ก็ว่าดี”

            “ก็ขายสบู่ไปอีกกกก” พี่เป็ดช่วยตบมุขของไอ้นักเขียนให้อีกทาง

            “อุ๊ย!” บก.สาวคนเดียวหลุดอุทาน ก่อนจะตามมาด้วยเสียงฮือฮาของคนโดยรอบ

            “ฮั่นแน่...”

            “อะแฮ่มๆ...กดผ่านไปเร็วๆ หน่อยก็ได้นะ” พี่เอ้ออกคำสั่ง

            ตอนนี้ทุกคนกำลังนั่งดูภาพจากทริป outing ซึ่งเมตตาเพิ่งมีเวลาแต่งภาพเสร็จ และภาพเจ้าปัญหาที่ทำเอาบก.หน้าแดงเบาๆ ก็คือภาพของตัวเองกับพี่ปืนที่ยืนข้างกันในช่วงตะวันตกดินพอดิบพอดี

            “อยากไปอีกเนอะ” น้องจีพูดขึ้นมาลอยๆ ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย ทริปนี้ถือเป็นความทรงจำดีๆ ที่พูดได้เต็มปากว่าสนุกจริงๆ

            “ช่วยกันทำยอดสิคะ ปีหน้าจะได้ไปได้ไกลกว่านี้” บก.เอ้ยังทำหน้าที่ของตัวเองอย่างแข็งขัน ทำเอาเซลส์ทั้งสามคนคอตกไปตามๆ กัน

            “รูปของวันที่สองค่อยกลับมาดูมั้ยครับ ไปกินข้าวกันก่อน” เมตตาเสนอไอเดีย เพราะหากจะนั่งดูกันให้ครบ สงสัยวันนี้คงได้กินข้าวอีกทีตอนสองทุ่มแน่ๆ

            “งั้นดูกันไปก่อนเลยนะ บ่ายนี้พี่ต้องไปธุระอ่ะ” บก.พี่ใหญ่บอกกับน้องๆ เมตตาเลยเซฟรูปใส่แฟลชไดรฟ์ให้พี่เอ้ไปก่อน เผื่อจะเก็บไว้ดูตอนว่างๆ

 
   บก.เอ้มาถึงโครงการช็อปปิ้งมอลล์กลางเมืองในเวลาบ่ายโมงกว่า แน่นอนว่าคนที่นัดไว้มานั่งรออยู่ก่อนแล้ว หนุ่มหน้าตี๋กำลังจดจ่อกับหนังสือในมือจนกระทั่งพี่เอ้ทิ้งตัวลงฝั่งตรงข้าม

   “อ้าว?” พี่ปืนวางหนังสือลงทันที พอดีกับที่บก.เอ้เหลือบมองแล้วหลุดยิ้ม

   “นิ้วกลม?” ผู้หญิงฝั่งตรงข้ามอ่านชื่อคนเขียนบนปก พี่ปืนเลยได้แต่ยิ้มเขินกลับไป

   “ช่าย เล่มนี้ดีนะ สนใจเอาไปอ่านมั้ย” มือเรียวเลื่อนหนังสือไปให้อีกฝ่าย ทว่าบก.เอ้กลับส่ายหน้าพรืด

   “หนังสือเศรษศาสตร์ที่ไอ้เอสบังคับให้อ่านยังไม่จบเลย” แม้จะเป็นคนทำหนังสือ แต่ต้องยอมรับว่าพี่เอ้ไม่มีความสนใจหนังสือเลยแม้แต่น้อย เพราะรู้สึกว่ามันน่าเบื่อ อ่านเท่าไรก็ไม่จบสักที ซึ่งโดนเจ้าสิปป์ค่อนขอดประจำ ว่าพี่เอ้กำลังเอารสนิยมตัวเองมาทำให้เกย์สเกลกลายเป็นหนังสือภาพไปแล้ว

   “กินอะไรกันดี” พี่ปืนรวบรวมของบนโต๊ะ พลางขอความคิดเห็นของผู้มาใหม่ พี่เอ้ผู้กำลังลดความอ้วนอยู่ จึงเสนอให้กินอะไรเบาๆ แคลอรี่ต่ำๆ แบบ...บุฟเฟต์ชาบู

   “เอ่อ...” พี่ปืนถึงกับชะงัก

   “ทำไมอ่ะ ไม่โอเคเหรอ”

   “ก็...โอเค ไปกันเลยมั้ย” พอตกลงกันได้ พี่ปืนกับพี่เอ้ก็เดินออกมาจากร้านกาแฟ แล้วทะลุไปยังอีกตึกที่มีร้านชาบูตั้งอยู่ อาจเพราะมาในช่วงวันธรรมดาจึงไม่ต้องรอคิวให้เมื่อย ทั้งสองคนเลือกที่นั่งใกล้บาร์อาหาร ด้วยเหตุผลที่ว่าอายุมากแล้ว ไม่อยากเดินไกล ซึ่งพี่เอ้ยืนยันว่าไม่ได้คิดเรื่องการฉกอาหารได้ไวเมื่อพนักงานมาเติมแน่นอน

“งานเป็นไงบ้าง” พี่ปืนเอ่ยถามขึ้นก่อน ระหว่างรอน้ำซุปเดือด

“อืม...” คนถูกถามทำท่านึกสักพัก “ถ้าเรื่องนิตยสารก็โอเคแหละ ตอนนี้พี่เป็ดกลับมาดูเรื่องการขายเต็มตัว เราก็สบายขึ้น”

“ไม่รู้เป็ดจะถูกไอ้เอสซื้อตัวมาอีกหรือเปล่านะ” พี่ปืนพูดลอยๆ ขณะช่วยอีกคนหักผักใส่ลงหม้อ ก่อนจะตามด้วยไข่ไก่

“ทำไมล่ะ ...เอ้า อย่าเพิ่งใส่ไข่ไปทั้งฟองสิ เก็บไว้ชุบเนื้อด้วย”

คนไม่เข้าใจสูตรเด็ดของพี่เอ้ถึงกับเหวอ แต่ก็ยอมเดินไปหยิบไข่ใบใหม่มาให้แต่โดยดี

“ตกลงทำไมไอ้เอสต้องซื้อตัวเจ้าเป็ด”

“เอสยังไม่ได้บอกเหรอ” พี่ปืนวางตะเกียบ ขยับตัวคล้ายมีเรื่องสำคัญจะพูด “คือ...เอ้รู้โปรเจ็กที่เราทำร่วมกับสิงคโปร์มั้ย”

“อ่อ ที่จะไปตั้งบริษัทที่นั่นน่ะเหรอ”

“ใช่...คือตอนแรกไอ้เอสจะให้คุณอั๋นไปประจำการที่นั่น”

“แล้ว?”

“แต่ปืนขอไปแทนเองน่ะ เห็นว่าเค้าเพิ่งมีลูก เค้าคงไม่อยากย้ายไปอยู่เมืองนอก” พูดจบก็รอดูทีท่าของคนฟัง ซึ่งพี่เอ้เพียงคีบผักกาดขาวพร้อมกับกุ้งที่ลวกไว้ใส่จานตัวเอง

“เอ้...”

“หืม?”

“โอเคมั้ย?”

“เรื่องอะไร” บก.ของเกย์สเกลยังคงละเลียดอาหารตรงหน้าต่อไปเหมือนเดิม “ก็ดีแล้ว ปืนไปอยู่ตรงนั้นคงได้พัฒนาตัวเองอีกเยอะ”

“เอ้รู้มั้ย” พี่ปืนหยุดคล้ายทบทวนสิ่งที่จะพูด “ปืนคิดว่าถ้าปืนหายไปเหมือนเดิม ชีวิตของเอสกับเอ้ก็คงดีกว่านี้”

“ปืน...การที่ปืนกลับมา” คนตรงข้ามถอนหายใจ “มันดีที่สุดแล้ว”

“จริงเหรอ?”

“อืม..แต่บางที การไม่มีปืนมันอาจจะดีกว่า” พี่เอ้พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ไปเถอะ ไปมีชีวิตของตัวเอง”

“ปืนขอโทษนะ ทุกอย่างๆ ...ทั้งเมื่อก่อนแล้วก็ตอนนี้”

“เรื่องที่ผ่านมาเราให้อภัย” พี่เอ้สบตากับคนตรงข้ามอย่างจริงจัง “แต่เรื่องตอนนี้...ปืนไม่ได้ทำอะไรผิดเลย”

“เราไม่ได้ทำให้เอ้เสียใจซ้ำอีกใช่มั้ย”

“ไม่หรอก แค่ใจหายนิดนึง” ...นิดนึงจริงๆ พี่เอ้มั่นใจความรู้สึกของตัวเอง ต้องขอบคุณประสบการณ์ที่ผ่านมา ที่ทำให้รู้สึกกับอะไรหรือกับใครได้ยากกว่าเมื่อก่อนมากนัก “แล้วต้องไปอยู่ถาวรเลยหรือเปล่า”

“แพลนแรกคือสามปีน่ะ คงไปเซ็ตอัพระบบต่างๆ ให้อยู่ตัวก่อน หลังจากนั้นต้องดูหน้างานอีกที”

“ว่างๆ ก็กลับมาหากันมั่งนะ ไปเที่ยวกันอีกคงดี” พี่เอ้เอ่ยคล้ายรำพึง

น้ำซุปในหม้อเดือพล่านจนเกือบล้น พี่ปืนเลยต้องรีบเอื้อมมือไปเบาไฟ ทุกอย่างจึงกลับคืนสู่ปกติ “หาช่วงฟูลมูน ไปพะงันอีกมั้ยล่ะ”

“ฟูลมูลรุ่นนี้คงต้องเข้าวัดเข้าวาแล้วมั้ง” บก.พูดติดตลก นึกแล้วก็ขำดี ช่วงวัยรุ่นอะไรๆ มันก็สนุกไปหมด

“อะไรๆ ยังไม่แก่ซะหน่อย ดูน้องชายเอ้สิ เห็นยังเต๊าะเด็กมหา’ลัยอยู่เลย!”

คนได้ฟังทำตาโต “ฮะ? ไอ้เอสมันยังไม่เลิกกับสาวบัญชีนั่นอีกเหรอ”

“ไม่ใช่ๆ”

“ไม่ใช่บัญชี?”

“ไม่ใช่ผู้หญิง!”

“โอ๊ย!! ไอ้เอส มีของดีก็ไม่บอกพี่ เดี๋ยวต้องไปเค้นความจริงแล้วไอ้น้องคนนี้” พูดจบก็หัวเราะเสียงดัง ทำเอาผู้ชายอีกคนพลอยหัวเราะไปด้วย

“เออ แล้วปืนไปเมื่อไรนะ”

“อีกสองเดือนจะบินไปครั้งแรก แล้วอยู่ประมาณเดือนหนึ่ง แต่ดูก่อนถ้าเอกสารเรียบร้อยก็อาจจะอยู่ยาวน่ะ” คนต้องเดินทางไกลตอบด้วยน้ำเสียงเศร้า

“......เร็วเนอะ”

“จริงๆ กว่าจะตั้งบริษัทมันก็เกือบหกเดือนแหละ แต่ต้องไปทำเรื่องสัญญาอะไรพวกนี้ก่อน ดูเรื่องที่ทางด้วย จะให้บินไปบินมามันก็ไม่คุ้ม”

“ก็จริง...”พี่เอ้เขี่ยผักในถ้วยไปมา ก่อนจะนึกอะไรได้ “เออนี่...เด็กที่ออฟฟิศเซฟภาพทริปที่ไปเที่ยวกันมาให้ ปืนเอาไปดูสิ ฝากให้เจ้าปันด้วย”

แฟลชไดรฟ์อันเล็กถูกยื่นให้คนฝั่งตรงข้าม พี่ปืนรับมาแล้วเอ่ยขอบคุณเบาๆ

“ภาพจากน้องที่เป็นตากล้องใช่เปล่า”

“ใช่ๆ เมตเป็นคนถ่าย” พี่เอ้ตอบ

“ตกลงคนนี้เค้าเป็นแฟนกับน้องคนที่ตลกๆ หรือแค่มุขแซวกันอ่ะ”

“ตอนแรกก็มุขขำๆ แหละไอ้คู่นี้ แต่ทำไปทำมาเริ่มสปาร์กกันจริงจังไง เหมือนคนแถวนี้เล้ยยย” ปลายเสียงจงใจล้อพี่ปืนถึงเรื่องสมัยก่อนอย่างชัดเจน ซึ่งอีกคนทำได้เพียงหัวเราะขำ ไม่มีอะไรจะแก้ตัว

“ไหนๆ มันก็ผ่านมาละ ถามจริงๆ นะ ตอนนั้นปืนกับเอสรักกันหรือเปล่า”

“เอ่อ...” คนถูกถามอึกอัก ไม่รู้จะตอบคำถามนี้ยังไง

“ตอบมาเหอะ เราไม่เสียใจหรอก”

พี่ปืนนึกย้อนกลับไปวันวาน สมัยที่ไปเรียนต่ออเมริกากันสองคน “อืม...ก็รักนะ จริงๆ มันก็ก้ำกึ่งกับความเป็นเพื่อนน่ะ ทั้งรักทั้งห่วง ไม่อยากให้มันเจอเรื่องไม่ดี”

“แอร๊ยยยยย ห่วงแล้วหวงป่ะ” บก.เอ้เอาสองมือกุมหน้าตัวเองด้วยความเขิน  “หรือหน้าอย่างไอ้เอสคือปลอดภัย ฮ่าๆๆ”

พี่ปืนหัวเราะหึหึพลางโบกตะเกียบไปมา “จะบอกว่าไอ้เอสนี่สเป็กฝรั่งมาก ทั้งผู้ชายผู้หญิงเลย เนื้อหอมสุดๆ”

“แล้วปืนทำไงอ่ะ”

“ก็ไม่ทำไง มันอยากทำอะไรก็ทำ แต่สุดท้ายก็ไม่เห็นมันไปกับใครนะ”

“มันคงรักปืนมาก” ฝ่ายตรงข้ามเอ่ยยิ้มๆ

“เปล่าหรอก” พี่ปืนอมยิ้มตาหยี “มันพูดภาษาอังกฤษไม่ได้น่ะ ฮ่าๆ”

“เอ่อ...” พี่เอ้พยักหน้าบ่งบอกว่าเข้าใจ “นี่คือประเด็นสินะ”

เสียงพูดคุยดังเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ดูเหมือนความสัมพันธ์ของคนสองคนที่มีหม้อชาบูคั่นกลางจะดีขึ้นกว่าเดิมมาก จริงๆ พี่เอ้ก็ไม่แน่ใจว่าการจากไปของผู้ชายตรงหน้า จะสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรให้กับชีวิตอีก รู้แต่เพียงว่าเมื่อพี่ปืนขยับถอยไปหนึ่งก้าว พี่เอ้ก็เหมือนได้พื้นที่ของตัวเองกลับคืนมา บางทีแบบนี้อาจจะดีที่สุดแล้วก็ได้ นั่นคือการมีระยะห่างระหว่างกัน ไม่ได้หายไปเหมือนไม่เคยรู้จัก หากก็ไม่ได้ใกล้ชิดจนสร้างความอึดอัดใจ

“วันนี้อากาศดีนะ” พี่ปืนเปรยเบาๆ ขณะเดินไปส่งพี่เอ้ที่รถ

พี่เอ้แหงนมองท้องฟ้าใบเวลาบ่ายแก่ที่ไร้ไอแดดและเงาฝน ทิ้งไว้เพียงสีฟ้าใสๆ กับเมฆที่ลอยอยู่ประปราย “อื้ม”

วันดีอากาศดีจริงๆ 


(ต่อด้านล่าง)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-01-2015 17:34:08 โดย lykar »

ออฟไลน์ lykar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-0
รถเต่าคันเดิมจอดนิ่งยังลานจอดรถตามแผนที่ที่ได้รับมา ก่อนสมาชิกบนรถจะก้าวลงมาพร้อมข้าวของเต็มสองมือ สิปป์ศิลป์หิ้วของสดทั้งผักทั้งผลไม้พะรุงพะรัง ในขณะที่เมตตากำลังใช้ไหล่หนีบโทรศัพท์พลางเจรจากับปลายสายไปด้วย

“ตึก A ชั้น 16 ห้อง 1612 นะพี่? เฮ้ยยย แล้วตึกเอนี่คือตึกไหน อะไรๆ ใครมันจะไปรู้ ผมไม่ได้มาทุกวันเหมือนพี่นี่ แหม่ๆ หยั่มมาๆ”

สิปป์ส่ายหัวกับการโวยวายผ่านสายโทรศัพท์ของคนข้างๆ บางทีเมตตาก็ดูเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับพี่เป็ด แต่บางทีก็กัดกันจนแทบจะเอาน้ำสาด อย่างนี้มันน่าจะขังให้อยู่ด้วยกันสักสองวัน เผื่อจะคบกันแบบปกติได้บ้าง

   “ตกลงว่าไง” พอเมตตาวางสายปุ๊บ สิปป์ก็เอ่ยถามคำตอบทันที เพราะเริ่มเมื่อยกับข้าวของที่ถืออยู่แล้ว

   “มาทางนี้ๆ” เมตตาชี้ไปทางด้านซ้ายมือ พลางคว้าเอาถุงองุ่นโลกว่าๆ จากอีกคนมาถือไว้เอง

   ตอนนี้พวกเขาสองคนอยู่ที่คอนโดของน้องจี ซึ่งเจ้าของห้องชวนมากินข้าวด้วยกันเนื่องในวันศุกร์แห่งชาติ เพราะยังไงปกติที่ออฟฟิศก็มักจะไปหาร้านนั่งดื่มชิลล์ๆ กันอยู่แล้ว เย็นนี้แม่น้องจีเลยทำกับข้าวให้สองสามอย่าง ส่วนสมาชิกที่เหลือก็ช่วยกันซื้อของที่อยากกินมากันเอง

   ก๊อก ก๊อก

   “เข้ามาเลยคร๊าบบบบ” คนเปิดประตูคือพี่เป็ดที่ทำตัวประหนึ่งเป็นเจ้าของห้องเสียเอง ด้วยความหมั่นไส้ เมตตาเลยโยนถุงของกินที่ซื้อมาไปให้ผู้ชายที่ยืนมั่นหน้าอยู่ข้างๆ

   “ไอ้นี่!! โยนมาได้ เกิดกูตกใจเดาะแตงโมเป็นตะกร้อทำไง” สิปป์ศิลป์หัวเราะก๊ากกับสองหนุ่มที่กัดกันไม่เลิก ก่อนจะพาตัวเองพุ่งไปยังโซฟานิ่มๆ ภายในห้อง จึงได้เห็นว่าน้องจีกำลังขะมักเขม้นกับการขนย้ายเสบียงมาวางบนโต๊ะ แต่นอกเหนือจากกิจกรรมที่ทำอยู่นั้น สิ่งที่สะดุดตาอีกอย่างก็คือ...

   “นี่คือพี่เป็ดมันบังคับให้ใส่ใช่ป่ะ” มือขาวกระตุกที่ปมของผ้ากันเปื้อนที่น้องจีใส่อยู่ ดูแว่บแรกนี่ไม่นึกถึงอะไรอื่นเลย นอกจากภาพที่เคยเห็นผ่านไฟล์วิดีโอหลายสิบคลิป!!

   “เฮ้ยๆๆ เอามือออกจากสะโพกน้องจีเลยไอ้สิปป์!!” คนในบทสนทนารีบรุดมาที่เกิดเหตุ ก่อนจะผลักมือของนักเขียนออกจากแฟนตัวเองอย่างรวดเร็ว

   “เยอะไป๊!” สิปป์อุทานลอยๆ แต่พอพี่เป็ดเผลอก็รีบดึงแขนน้องจีอย่างแรงจนคนถูกดึงล้มลงบนโซฟาด้วยกัน

   “ไอ้สิปป์!!” พี่เป็ดฉุดกระชากไอ้ตัวแสบที่กำลังกอดก่ายเจ้าของห้องด้วยใบหน้ายียวนชวนถีบ

   “น้องจีตัวนุ๊มนุ่มมมม” แม้จะโดนพี่เป็ดทำร้ายร่างกายอยู่ แต่สิปป์ก็จะไม่หยุดกวนอารมณ์อีกฝ่าย สองแขนคว้าตัวคนกลางเข้ามากอด และยังทำท่าจะหอมแก้มเป็นของแถม ส่วนน้องจีก็เอาแต่หัวเราะชอบใจ และกอดเพื่อนร่วมงานกลับอีกด้วย

   “มึงมาจัดการแฟนมึงดิ๊!!” พี่เป็ดกวักมือเรียกเมตตาที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ใกล้ๆ

อีกคนพยักหน้ารับแบบเซ็งๆ ก่อนจะเดินเข้ามาหาไอ้ก้อนกลมๆ บนโซฟา “ไปๆ เลิกเล่นได้แล้ว ทำแบบนี้พี่เป็ดแกลำบากใจนะ”

พูดจบก็คว้าตัว ‘น้องจี’ ลากออกมาจากจุดเกิดเหตุ แถมทำท่าจะพาเดินไปทางห้องนอนอีกด้วย ถ้าไม่ติดว่ามีเสียงเป็ดที่กำลังจะขาดใจโหยหวนเสียก่อน

“โธ่...น้องจี๊! มึงก็ยอมเค้าเนอะ! ฮือๆๆ”


   ไม่นานหลังจากนั้นสมาชิกเกย์สเกลก็ทยอยเดินทางมากันจนเกือบครบ ห้องพักของน้องจีเลยดูแคบไปถนัดตา จนสุดท้ายต้องเลื่อนโซฟาไปชิดกำแพง แล้วทั้งหมดก็ลงมานั่งพื้นล้อมวงกินข้าวกันอย่างสนุกสนาน

   “พี่เอสกับพี่ปืนไม่มาเหรอพี่” สิปป์เอ่ยถามบก.ที่กำลังปั้นข้าวเหนียวจิ้มกับส้มตำอยู่ข้างๆ

   “อืม” คนถูกถามรับคำ “มีประชุมกับบอร์ดทั้งคู่เลย”

   “เสียดายๆ” พี่เป็ดบ่นอุบอิบ ขณะตักกุ้งเผาส่งให้แม่น้องจี “แม่อย่าเพิ่งกินหัวกุ้งดีกว่าเนอะ ระดับไขมันยังไม่ปกติเท่าไร”
   คนในวงแอบสบตากันไปมา มันคงไม่แปลกอะไรหากประโยคนั้นลูกชายตัวจริงจะเป็นคนพูด แต่กลับกลายเป็นตาลุงที่เนียนเป็นคนในครอบครัวที่เอ่ยออกมาหน้าตาเฉยนี่แหละ เลยทำเอาเพื่อนๆ หมั่นไส้กันเป็นแถว

   “เออ แล้วพี่เก็ตจะมามั้ยวันนี้” สิปป์เอ่ยถามเมื่อนึกขึ้นได้ว่ายังขาดสมาชิกอีกคน เมตตาเลยส่งไลน์ไปตามในกลุ่ม สักพักกราฟิกจึงตอบกลับมาว่า ‘otw’

   “มันจะพิมพ์ให้ยาวกว่านี้ไม่ได้แล้วใช่มั้ย” ใครสักคนออกความเห็น

   “นี่ก็ยาวกว่าเวลาพี่แกพูดปกติแล้วนะ” อีกคนตอบ แล้วทั้งหมดก็หัวเราะกันลั่น ก่อนวีรกรรมของพี่เก็ตจะถูกขุดขึ้นมารีเพลย์ โทษฐานที่ชักช้ากว่าชาวบ้าน

   Rrrrrrrrrrr

   โทรศัพท์ของพี่เป็ดดังขึ้นระหว่างที่พี่พุดกำลังเลียนแบบคำพูดของพี่เก็ตตอนทวงเงินเดือน เจ้าของโทรศัพท์ยกมือเป็นเชิงขอโทษ ก่อนพาร่างตัวเองออกไปนอกห้อง น้องจีแอบมองตามด้วยสายตากังวล ซึ่งคนที่จับความรู้สึกนั้นได้ก็คือนักเขียนที่นั่งอยู่ตรงข้ามนั่นเอง

   ‘เป็นไรป่าวจี’ ข้อความจากสิปป์ถูกส่งมาทางเฟซบุ๊ก น้องจีเลยหันไปมองหน้าคนส่งซึ่งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ตีเนียนคุยกับคนอื่นไปเรื่อย

   ‘พี่เป็ดดูแปลกๆ วันนี้ออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกบ่อยมากเลย’

   ‘จริงดิ่ อย่าเพิ่งคิดมากนะ ไว้รอถามพี่เป็ดให้ชัวร์ดีกว่า’ อีกคนแนะนำ

   ‘โอเค’

   นักเขียนส่งสัญลักษณ์อมยิ้มไปให้ ซึ่งคนรับกลับยิ้มตอบกลับมาแบบตัวเป็นๆ สิปป์เลยหัวเราะแล้วยิ้มตอบกลับไปอีกที ทั้งหมดนี้แม้จะเกิดขึ้นในเวลาเพียงเสี้ยววิ แต่เชื่อเถอะว่าไม่มีทางรอดพ้นสายตาของเมตตาไปได้ เพราะเมื่อรู้ตัวอีกที วงแขนแข็งแรงก็คว้าหมับเข้าที่ไหล่ของคนข้างๆ ก่อนจะดึงร่างในอ้อมแขนเข้ามาใกล้ๆ

   “กูหึงนะ” เสียงกระซิบแผ่วเบาข้างหูทำเอาใบหน้าขาวของคนฟังขึ้นสีแดงระเรื่อแบบที่ตัวเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัว และก่อนที่จะตกเป็นเป็นเป้าสายตาของคนรอบวง เมตตาก็คลายวงแขนออก เหลือเพียงฝ่ามือที่วางลงบนไหล่ของสิปป์ศิลป์ ซึ่งมองดูแล้วเหมือนเพื่อนกอดคอกันธรรมดา

   ก๊อก ก๊อก

   เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง เจ้าของห้องตัวจริงจึงลุกขึ้นไปเพื่อเปิดประตู ซึ่งคนในวงพึมพำว่า พอนินทาพี่เก็ตปุ๊บ มันก็มาถึงเลย

   น้องจียังติดเสียงหัวเราะอยู่ในลำคอขณะหมุนลูกบิด หากเมื่อพบคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเท่านั้น สีหน้าของคนตัวเล็กก็แปรเปลี่ยนเป็นตกตะลึงทันที

   “คุณ...คุณป้า ส...สวัสดีครับ” มือเรียวยกมือขึ้นไหว้โดยอัตโนมัติ เมื่อเห็นว่าผู้มาเยือนรายใหม่คือแม่ของพี่เป็ดซึ่งไม่คาดคิดว่าจะเจอในตอนนี้

   “ตาเป็ด น้องจีช็อกไปแล้วลูก!!” คุณแม่พี่เป็ดหัวเราะขบขันพลางเอื้อมมือมาลูบหัวของคนที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงหน้า เจ้าของบ้านที่เริ่มตั้งสติได้จึงกุลีกุจอเชิญแขกเวรี่วีไอพีเข้ามาข้างใน

   สมาชิกที่ชะเง้อคอมองอยู่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นรีบยกมือไหว้ผู้มาใหม่โดยพร้อมเพรียงกัน ก่อนจะเห็นว่าด้านหลังคุณแม่มีพี่เป็ดและพี่เก็ตเดินหิ้วของตามมาด้วย

   “ไหว้พระเถอะลูกๆ” คุณหญิงรับไหว้จากทุกคน ก่อนจะหันไปทักทายผู้อาวุโสที่สุดซึ่งเป็นแม่ของน้องจี ในขณะที่อีกฝ่ายรีบเชื้อเชิญให้นั่งบนโซฟามุมห้อง แม่ของพี่เป็ดจึงแตะแขนแม่เจ้าของบ้านให้นั่งลงข้างกัน

   แน่นอนว่าวงข้าวเกิดการชุลมุนเล็กน้อยจากการขยับขยายพร้อมของกินที่เพิ่มเข้ามาอีก พี่เก็ตทิ้งตัวลงข้างพี่เอ้ด้วยใบหน้าราบเรียบ โดยไม่สนใจสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามของคนรอบวง

   “พี่ทานอะไรมาหรือยังคะ” แม่น้องจีเอ่ยถามผู้หญิงที่นั่งข้างๆ คุณหญิงโบกไม้โบกมือว่าไม่เป็นไร ก่อนจะหันไปขอบใจน้องจีที่ยกน้ำหวานมาให้

   “พี่ทานมาแล้วจ้ะ แต่พี่เอาหมูปิ้งนมสดมาฝาก ยังไงลองชิมกันดูนะ” คุณแม่หมายถึงหมูปิ้งจานใหญ่ที่พี่เป็ดกำลังยกมา ซึ่งส่งกลิ่นหอมชวนน้ำลายไหลตั้งแต่ในครัวจนถึงห้องนั่งเล่น

   “แม่ลองชิมนะครับ” พี่เป็ดแบ่งหมูปิ้งใส่จานเล็กมาให้ พร้อมๆ กับถ้วยน้ำจิ้มในมือน้องจี

   “คำนับฟ้าดินนนน” สิปป์กระซิบกระซาบกับคนในวง ทำเอาบก.เอ้กลั้นขำจนแทบสำลัก ก็นั่งดูในมุมนี้ มันเหมือนคู่บ่าวสาวยกน้ำชาจริงๆ นั่นแหละ

   หลังอาการเคอะเขินผ่านไป แขกผู้มาเยือนก็สนุกสนานกันต่อกับของกินและกิจกรรมบวกเลข ซึ่งแน่นอนว่าพี่เอ้รับหน้าที่เป็นเจ้ามือ ในฐานะที่อายุมากที่สุดในวง ส่วนสองแม่ก็จูงมือกันหายเข้าไปในครัว แว่วๆ ว่าชวนกันทำของหวานมื้อดึกให้เด็กๆ กิน
 
   “ป็อกเก้า”

   “ป็อกเก้าสองเด้ง!!”

   “โอ้ยยย ไอ้สิปป์ ไอ้เมต แกสองคนแอบแลกไพ่กันป่ะเนี่ย” เจ้ามือถึงกับโวย เมื่อไอ้คู่รักนรกชังชิงป็อกแบบรัวๆ มาสามตาติด จนบก.ต้องมีคำสั่งเด็ดขาด “แกสองคนนั่งแยกกันเดี๋ยวนี้!”

   สุดท้ายเมตตาเลยต้องย้ายไปนั่งข้างพี่เก็ตผู้ได้ไพ่บอดตาเว้นตา แค่อยู่ใกล้ก็รู้เลยว่าดวงซวยๆ คงต้องแผ่นกระจายมาถึงตัวเองอย่างแน่นอน

   “ขอตัดไพ่” พี่เป็ดยกมือขอสิทธิ์ขณะที่พี่เอ้สับไพ่มือเป็นระวิง เจ้ามือยักคิ้วเป็นเชิงอนุญาต พี่เป็ดจึงดึงมือของน้องจีที่นอนอยู่ข้างๆ มาวางไว้บนกองไพ่ ก่อนจะบอกให้มือเล็กหยิบไพ่จำนวนหนึ่งออกจากกอง

   คนที่กำลังเคลิ้มๆ หลับดูงงงวยแต่ก็ทำตามแต่โดยดี และไม่น่าเชื่อว่าการตัดไพ่ของน้องจีจะทำให้...เจ้ามือไพ่บอด!!

   เสียงเฮดังลั่นห้อง ก็ขนาดพี่เก็ตที่ได้แค่แต้มเดียวยังได้กินตังค์จากพี่เอ้ ส่วนพี่เป็ดนี่ถึงกับได้ขอบ กินไปชิลล์ๆ สามเด้ง จนเจ้าตัวลุกขึ้นเต้นแล้วคว้าคนนอนอยู่มากอดไว้แล้วหมุนตัวไปมา ...ก็ได้มาตั้ง 3 บาท!!

   “อุ๊ย!” เสียงอุทานจากด้านหลังทำเอาคู่รักสามเด้งผละออกจากกันโดยอัตโนมัติ เมื่อแม่ของทั้งสองคนเดินออกมาพร้อมโหลใส่ผลไม้ลอยแก้ว และแน่นอนว่าภาพการกอดกันกลมเมื่อครู่คงหนีไม่พ้นสายตาของผู้ใหญ่ทั้งสอง

   “ผมช่วยนะครับ” เมตตาเป็นคนแรกที่ได้สติ รีบลุกไปช่วยคุณป้าถือของมาวางบนพื้น

   “น่ากินมากเลยครับบบ” สิปป์ช่วยผ่อนคลายสถานการณ์ด้วยอีกแรง

   “เป็ด...” คุณหญิงเรียกลูกชายตัวเองเสียงดุ ทั้งห้องเงียบกริบกลั้นใจฟังประโยคต่อไป รวมถึงเจ้าของชื่อเองด้วย “เล่นกับน้องแรงจัง คราวหลังอย่าจับน้องจีเหวี่ยงอีกนะลูก เดี๋ยวล้ม”

   สาบานว่าทุกคนถอนหายใจอย่างโล่งอกในจังหวะเดียวกัน!

   ผลไม้ลอยแก้วสูตรแม่พี่เป็ดอร่อยจนเด็กๆ ซัดไปคนละสองสามถ้วย และก่อนที่ทุกคนจะเริ่มกลิ้งเลื้อยและหลับกันไป พี่เป็ดก็กระแอมไอแบบส่งสัญญาณว่าสิ่งที่กำลังจะพูดต่อไปนี้เป็นเรื่องสำคัญ

   “เอาล่ะครับ...” เซลส์นับเบอร์วันเอ่ยขึ้นเสียงค่อนข้างจริงจัง ก่อนจะหันไปสบตากับผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่บนโซฟา ถัดไปเป็นคุณแม่ของน้องจี ส่วนโซฟาเดี่ยวด้านริมสุดมีบก.เอ้ผู้เริ่มนั่งทรงตัวบนพื้นไม่ได้สถิตอยู่

   “คืนนี้อาจไม่มีอะไรพิเศษ แต่จริงๆ แล้วมันก็ค่อนข้างพิเศษอยู่” พี่เป็ดพูดไปพลางเอามือถูจมูกแก้เขิน “เพราะคนที่ผมรักและเคารพมารวมกันอยู่ที่นี่หมดแล้ว”

   สายตาของคนโดยรอบจับจ้องถึงการกระทำต่อไปของผู้พูดด้วยใจจดจ่อ เนิ่นนานกว่าคนที่นั่งอยู่กลางวงจะเอ่ยต่อ

   “จี...” พี่เป็ดกวักมือเรียกคนที่นั่งอยู่ด้านหน้าให้ลุกมานั่งอยู่ข้างกัน อีกฝ่ายลุกขึ้นสีหน้างงงวย ด้วยไม่รู้จริงๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป จนกระทั่งมือเย็นเฉียบของคนรักเลื่อนมากุมมือของตนเองไว้แน่น

   “พี่...” เอ่ยเรียกได้เพียงแค่นั้นเสียงใสก็เป็นอันต้องหยุดลง เมื่อมองสบกับแววตาจริงจังและหนักแน่นของคนข้างๆ

   “จริงๆ เจ้าเป็ดก็บอกว่าไม่อยากให้ทำอะไรใหญ่โต” คราวนี้เป็นคุณหญิงแม่ของพี่เป็ดที่เอ่ยทำลายความเงียบ และเพียงเกริ่นขึ้นมาแค่นั้นน้องจีก็รู้ทันทีว่าเหตุใดทุกคนจึงมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ในวันนี้ ร่างเล็กเริ่มสั่นสะท้านจนพี่เป็ดต้องลูบแขนเบาๆ เป็นการปลอบขวัญ

   คุณแม่พี่เป็ดทอดสายตาเอ็นดูเด็กผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างลูกชายตนเองก่อนจะเอ่ยต่อ “แต่แม่คิดว่าเจ้าเป็ดคงมารบกวนครอบครัวของน้องจีบ่อยๆ และถ้าลูกชายแม่ทำอะไรไม่ดีหรือไม่ถูกต้อง แม่ก็ต้องขอโทษด้วยนะจ๊ะ”

   ทั้งน้องจีและคุณแม่ส่ายหน้าพร้อมกันเป็นเชิงบอกว่าพี่เป็ดไม่ได้รบกวนอะไรเลย ตรงกันข้ามพี่เป็ดกลับเข้ามาพร้อมความสุขในชีวิตของเราสองคนด้วยซ้ำ แต่น้องจีก็พูดอะไรไม่ออก ได้แต่สบตากับแม่ตัวเองที่นั่งยิ้มทั้งๆ ที่มีน้ำตาคลอหน่วย

   “ยังไงแม่ขอฝากเจ้าเป็ดไว้กับบ้านนี้ด้วยนะ ดุว่าได้ตามสมควรเลย คิดเสียว่าเป็นลูกอีกคนไปเลยจ้ะ” มือนิ่มตบเบาๆ กับมืออีกคู่ของคุณแม่น้องจีที่นั่งข้างกัน

   “น้องเป็ดเป็นเด็กดีที่สุดที่หนูเคยรู้จักค่ะพี่ ต้องขอบคุณจริงๆ ที่น้องเป็ดและพี่ไม่รังเกียจน้องจี ขอบคุณที่เอ็นดูน้องจีนะคะ”

   “น้องจีน่ารัก ใครอยู่ด้วยก็อดที่จะรักไม่ได้จริงๆ” คุณหญิงเอ่ยก่อนจะกวักมือเรียกลูกชายสองคนเข้าไปกอด น้องจีโผเข้าไปหาและน้ำตาแห่งความปีติก็ไหลอย่างไม่อาจกลั้นได้ต่อไป จนพี่เป็ดต้องรีบโอ๋ยกใหญ่

   “จริงๆ แม่จะให้ตาเป็ดเอาแหวนมาให้ด้วย แต่รายนั้นบอกว่ามันน้ำเน่าเกินไป” คุณแม่พี่เป็ดพูดพลางหัวเราะ แน่นอนว่าพอลูกชายบอกความจริงเรื่องที่คบกับน้องจีแล้ว คุณแม่ก็แทบจะลมจับอยู่เหมือนกัน แต่หลังจากนั้นก็ทำใจได้ และเริ่มรู้สึกว่าความฝันเรื่องอยากได้ลูกสะใภ้น่ารักๆ ดูๆ ไปแล้วก็ไม่ได้ผิดหวังเท่าไร เมื่อคนๆ นั้นคือน้องจี

   “ก็มันน้ำเน่าจริงๆ นี่ ตอนแรกแม่จะให้จัดงานหมั้นด้วยซ้ำ” พอพี่เป็ดเล่าแบบนั้น น้องจีก็ยิ่งเขินเข้าไปอีก ใบหน้าเล็กๆ จึงซุกอยู่กับพุงแม่ไม่กล้าเงยขึ้นมาสบตาใครในนี้เลยสักคน โดยเฉพาะไอ้พี่เป็ดบ้าที่แอบกุมมืออยู่ข้างๆ แล้วพูดเรื่องหมั้นๆ แต่งๆ อะไรก็ไม่รู้!

   ท่ามกลางความซาบซึ้งกับพิธีเล็กๆ ที่ช่วยยืนยันว่าความสัมพันธ์ของคนสองคน ได้รับการยอมรับจากคนที่เขารักและเคารพที่สุดในชีวิต ทว่าใครบางคนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกลับนั่งน้ำตาซึมจนต้องแอบปาดทิ้งเงียบๆ เสียหลายที

   ...คนๆ นั้นคือบ.ก.เอ้!

   ‘ไม่รู้ว่าพี่เค้าซึ้ง หรือพี่เค้าฟิน’ พี่เก็ตกล่าว


........................................Gayscale Magazine........................................


   “เอามั่งมั้ย” เมตตาเอ่ยลอยๆ ขณะเอาไหล่เกยคนที่นั่งดูรูปในโทรศัพท์อยู่ปลายเตียง ตอนนี้เกือบตีหนึ่งแล้ว แต่ดูเหมือนคนที่ยังอินกับบรรยากาศชื่นมื่นเมื่อตอนอยู่ที่ห้องพักน้องจีจะยังไม่ง่วงเลยสักนิด

   “ว่าไงๆ เดี๋ยวให้พ่อมาขอนะ” พออีกคนยังเงียบ ตากล้องเลยแกล้งหยอกไปอีกนิด ซึ่งได้ผลเป็นอย่างดี เพราะสิปป์ส่ายหัวพรืดแถมหดคอหนี ซึ่งตีความหมายได้ว่า ‘ความคิดมึงสยองมาก’

   คนถามหัวเราะชอบใจ ก่อนจะถือวิสาสะแย่งสมาร์ทโฟนในมือเรียวมาเสียบสายชาร์จ แล้วปิดไฟที่หัวเตียงให้ทั้งบ้านมืดโดยฉับพลัน

   “โอ้ยยยย ยังดูรูปไม่ครบเลยนะ เพิ่งดูถึง...” ไม่ทันได้โวยวายจบประโยค ร่างโปร่งก็ถูกแขนหนาๆ คว้าเอวแล้วลากลงนอนเคียงข้างกัน ตามด้วยเรียวปากอุ่นที่ประทับแรงๆ ข้างแก้ม เป็นอันคำเตือนว่า จงนอนซะ! ไม่งั้นมีเรื่อง!

   “ดีใจแทนพี่เป็ดกับจีเนอะ” สิปป์เอ่ยในความมืด บอกตรงๆ ว่าเห็นคู่นี้แล้วมีความสุขอย่างกับเป็นพี่เป็ดซะเอง

   “ตกลงจะให้พ่อมาขอมั้ยเนี่ย แหวนล่ะ? ซุ้มดอกไม้? พรีเซนเทชั่น? รูปพรีเวดดิ้งด้วยมั้ยล่ะมึงงงง” พอเห็นคนในอ้อมแขนยังอินไม่เลิก เลยอดไม่ได้ที่จะแซวอีกสักที ซึ่งได้รับคำตอบมาเป็นหมัดแน่นๆ ที่ทุบซะกลางหลัง

   “อย่ามาตลกๆ ดูกันยาวๆ ถ้าความประพฤติดีเดี๋ยวพี่เดินไปหาพ่อน้องเอง เข้าใจ๋?” คำตอบแสนยียวนนั่นทำให้เมตตาอดไม่ได้จนต้องฟัดแก้มไอ้จอมกวนไปอีกหลายที เรื่องปากดีนี่ต้องยกให้จริงๆ!

   “เจ็บนะโว้ยยยย!!” มือเรียวยกขึ้นถูกแก้มในตำแหน่งที่ถูกจูบ เมื่อสัมผัสได้ถึงน้ำลายแหยะๆ ที่อีกฝ่ายจงใจทิ้งไว้จึงรีบเอาแก้มไปเช็ดเสื้อของร่างที่กอดอยู่ทันที

   “สกปรก!!” ด่าเขาไป แต่ตัวเองกลับซุกลงกับอกของคนขี้แกล้งเสียอย่างนั้น เมตตาเลยได้หัวเราะอีกรอบกับความขี้อ้อนที่สิปป์ศิลป์เองก็ยังไม่รู้ตัว

   “ว่าไปแล้วก็อยากรู้อ่ะว่าพี่เป็ดไปพูดยังไงแม่ถึงยอมรับ” นักเขียนพึมพำต่อ

   “แม่พี่เป็ดยอมรับไม่น่าแปลกเท่าไอ้พี่เก็ตยอมร่วมมือมั้ง” คำพูดของเมตตาทำเอาสิปป์ถึงกับต้องลุกขึ้นนั่ง

   “แสดงว่ามึงรู้แผนนี้ใช่มั้ย?”

   “เอ่อ....” เมตตาเกาหัวแกรกๆ ก่อนจะยอมเล่าเรื่องราวฉบับย่อให้อีกคนฟัง

   “ก็ตอนแรกอ่ะ พี่เป็ดจะให้กูไปรับแม่พี่เป็ดที่บ้าน แต่กูคิดว่ามันจะน่าสงสัยเกินไป ถ้าอยู่ๆ กูไม่มาพร้อมมึง กูเลยโบ้ยไปให้พี่เก็ตไง แต่ไม่รู้พี่เป็ดไปพูดยังไงให้พี่เก็ตยอมช่วยได้”

   “อืม อันนี้ฟังดูน่าเชื่อถือ แล้วตกลงพี่เป็ดไปสารภาพยังไงแม่แกถึงได้มาขอน้องจีถึงบ้าน?”

   “ไม่รู๊”

   “ทำไมต้องเสียงสูง?”

   “เอ้อ...โอ้ยยย กูเล่าก็ได้ๆ” ตากล้องเอ่ยน้ำเสียงยอมแพ้ ก่อนเรื่องราวที่ตัวเองไม่อยากพูดถึงจะถูกถ่ายทอดให้สิปป์ฟัง


   ภาพสีซีเปียฉายภาพคฤหาสน์ของพี่เป็ด ก่อนเมตตาจะก้าวลงจากรถพร้อมกับเจ้าของบ้าน

   ‘จะดีเหรอวะพี่’ ตากล้องเอ่ยถามเป็นครั้งที่สองแสนห้า

   ‘ดี!’ พี่เป็ดยืนยันน้ำเสียงหนักแน่น

   ทั้งสองคนเดินเข้าไปในบ้าน เสียงพี่เป็ดตะโกนเรียกแม่ดังลั่น ก่อนจะพบว่าแม่นั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น

   ‘พาใครมาด้วยล่ะนั่น’ คุณหญิงเอ่ยถาม เมื่อเห็นผู้ชายข้างกายลูกหน้าตาไม่คุ้นเคย ซึ่งจริงๆ แล้วคุณแม่เคยเจอเมตตาอยู่ 4-5 ครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นข้อยกเว้นจริงๆ

   พี่เป็ดจูงมือเมตตาเดินเข้าไปหาผู้เป็นแม่ช้าๆ ซึ่งสายตาของคุณแม่ตอนนี้ บอกตรงๆ ว่าเมตตาพร้อมจะหันหลังแล้ววิ่งมาราธอนกลับบ้านทันที

   ‘ตาเป็ด...’ คุณแม่ร้องเสียงหลงกับภาพที่เห็น ...ภาพที่ลูกชายเกาะกุมมือของไอ้หนุ่มหน้าขาววอก ปากแดงแจ๋ด้วยท่าทีที่มองยังไงก็มากกว่าเพื่อน

   ‘แม่ครับ ผมมีเรื่องจะบอก’ พี่เป็ดเกริ่นเสียงเข้ม โดยไม่สนใจว่าแม่ตัวเองทำท่าจะเป็นลมอยู่มะรอมมะร่อ ‘ที่แม่เคยถามผมว่าเมื่อไรจะพาแฟนมาแนะนำให้แม่รู้จัก ผมพา...’

   ‘นี่คือแฟนแกเหรอตาเป็ด! แม่... โอย... หยิบยาดมบนโต๊ะให้แม่ที’ เมตตารีบคว้ายาดมบนโต๊ะแล้วส่งให้คุณแม่ที่ดูหน้าซีดและจวนเจียนจะช็อกเต็มทน

   ‘แม่คงผิดหวังที่ผมชอบผู้ชายใช่มั้ย’ พี่เป็ดทำน้ำเสียงสลด ส่วนเมตตาก็เอาแต่นั่งก้มหน้า เพราะใจไม่แข็งพอจะเห็นความผิดหวังในแววตาของผู้หญิงตรงหน้า

   คุณหญิงนั่งเงียบไปพักใหญ่ พอตั้งสติได้ก็เพ่งพินิจลูกชายกับคนข้างกายอย่างถี่ถ้วน เสียงถอนหายใจดังครั้งแล้วครั้งเล่า จนสุดท้ายผู้หญิงหนึ่งเดียวในบ้านก็พูดออกมา

   ‘เอาเถอะๆ จริงๆ แม่ก็เตรียมใจไว้ตั้งแต่ได้ยินไอ้ข่าวซุบซิบของลูกเมื่อสิบปีก่อนแล้วล่ะ... เอ้อ ไม่เป็นไร จะรักใครชอบใครก็แล้วแต่ ...ทำตามที่เรามีความสุขเถอะ’

   ‘แม่...” พี่เป็ดโถมตัวกอดผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ยอมรับและเข้าใจในสิ่งที่เขาเป็นโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ น้ำตาลูกผู้ชายที่เก็บกลั้นไว้ไหลซึมขอบตาในขณะที่สองมือยกขึ้นไหว้ผู้เป็นมารดาจากหัวใจ “ขอบคุณครับแม่ ขอบคุณที่เข้าใจผม...’

   ‘เฮ้อ...แล้วแฟนลูกชื่ออะไรล่ะ’ คำถามของคุณแม่ทำเอาเมตตาเหวอไปเลย เพราะดูจะนอกบทไปมาก ฉากดราม่าแบบแม่ไม่เข้าใจตุ้มก็ยังไม่มี แล้วที่นี้เขาต้องตอบว่าอะไรล่ะเนี่ย

   ‘เอ่อ...คนนี้ชื่อไอ้เมต แต่แฟนผมน่ะ...’ พี่เป็ดกุมมือแม่ของตัวเอง ก่อนจะเอ่ยช้าๆ ‘แฟนผมชื่อ จี ครับ’

   คุณหญิงทำตาโต ก่อนจะเอ่ยถามลูกชายเพื่อความแน่ใจ ‘จี? น้องจีที่แม่ฝากขนมไปให้แม่เค้าบ่อยๆ น่ะเหรอ? เด็กผู้ชายน่ารักๆ ที่เคยมาพักบ้านเราใช่มั้ย?’

   พี่เป็ดพยักหน้ารับแบบรัวๆ ด้วยความโล่งใจ เมื่อเห็นใบหน้าของแม่ที่ดูสดใสขึ้นทันตา หลังจากได้รู้ว่าแฟนของลูกชายไม่ใช่ไอ้เมตที่จำแลงจนดูน่ากลัวแบบนี้

   สุดท้ายพี่เป็ดก็เฉลยกับแม่ตัวเองว่าใช้เมตตาเป็นตัวหลอก ซึ่งถูกคุณหญิงตีไหล่ซะหลายที โทษฐานที่ล้ออะไรเล่นไม่เข้าท่า พอเห็นแม่ลูกเข้าใจกันดีแล้ว เมตตาก็ขอตัวไปล้างหน้าทันที เพราะบอกตรงๆ ว่าไปไหนต่อไหนด้วยสภาพนี้ไม่ได้จริงๆ

   ‘ไปส่งเพื่อนแล้วกลับมาคุยกันนะตาเป็ด ตกลงเราไปคบกับน้องจีได้ยังไง แล้วไปทำอะไรให้เค้าเสียหายหรือเปล่า แม่ควรต้องไปขอ...’ พี่เป็ดยกมือห้ามก่อนที่คำถามของแม่จะยาวมากกว่านี้ แต่ก็รับปากสัญญาว่าจะกลับมาคุยด้วยแน่นอน


   “เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ” เมตตากล่าวด้วยน้ำเสียงเซ็งสุดฤทธิ์ เพราะแค่นึกสภาพตัวเองในวันนั้น กลิ่นน้ำยาอุทัยทิพย์ที่ใช้ทาปากก็คลุ้งขึ้นมาเลยทีเดียว

   “กูถามคำเดียวนะ” คนที่เงียบฟังมานานเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “มึงติดใจมั้ยไอ้การแต่งหน้าแบบนั้น?”

   #ผมงี้เตรียมรุกเลย #สิปป์คิดในใจ



TBC.

ฟิครายปีของจริง!! สวัสดีปีใหม่ 2015 ค่ะทุกคนนนน <3
ปีใหม่นี้ขออวยพรให้ให้ฟิคทุกเรื่องที่ตาม ไม่มีดอง อัพรัวๆ อ่านกันฟินไปยาวๆ เลยนะคะ
(แล้วเรื่องนี้ล่ะ? 555555)

ไม่รู้ว่านี่เป็นข่าวดีหรือข่าวร้าย แต่ตอนหน้าจะเป็นตอนสุดท้ายของ Gayscale Magazine แล้วนะคะ
หลังจากดองมั่งอัพมั่งมาสองปีกว่า ในที่สุดก็ถึงตอนจบแล้วค่ะ T^T
ยังไงก็อย่าลืมติดตามกับบทส่งท้ายกันนะคะ

สำหรับตอนนี้พูดเลยว่าพี่เป็ดนี่พระเอกมาเต็ม
ขนาดพี่ปืนแกทำเท่หน้าหม้อชาบูก็ยังสู่พี่เป็ดไม่ได้อ่ะ

 :katai2-1: :katai2-1:

วันนี้ไปก่อนนะคะ
แล้วเจอกันตอนหน้าค่าา

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-01-2015 01:09:20 โดย lykar »

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
เย่ๆๆๆๆ ในที่สุดก็มาอัฟแล้วววววววว แต่แอบเสียใจ..ที่ตอนหน้าเป็นตอนสุดท้ายแล้วอ่ะ จะมีตอนพิเศษเรื่อยๆไหมคะ?



Happy New Year 2015!  :pig3:

ออฟไลน์ Dezzerr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 550
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
ทั้งดีใจและเสียใจเลยค่ะ อ่านเรื่องนี้แล้วฮามาก เบาสมองดีค่ะ
ชอบสิปป์ศิลป์ที่สุดเลยยยยย
สวัสดีปีใหม่นะคะ

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
สวัสดีปีใหม่ 2558 ค่ะ  :mc3: :mc3:

พี่เป็ดพระเอกมาก ตอนนี้ แต่ขำตอนท้าย นี่ยังหวังอีกรึ น้องสิปป์


ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
ฮาพี่เป็ดกับเมตตาจริงๆ
ก็ช่างทำกันไปได้เนาะ 55555555

ขอบคุณคนเขียนที่มาต่อนะคะ แล้วก็สวัสดีปีใหม่ด้วยค่า

ออฟไลน์ Sillyfoolstupid

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-0
โหยยย ยังไม่อยากให้จบเลย
ยังตามอ่านได้อีกเรื่อยๆหลายๆปีเลยค่ะ
ชอบเมตสิปป์นะ คู่นี้อยู่ด้วยกันแล้วน่ารัก
ตอนหน้าจะมีคุณแม่ของสิปป์มา cameo มั้ยคะ
อาจจะต้องมาทำหน้าที่ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวบ้าง ฮ่าๆๆ
สวัสดีปีใหม่ค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1

 :hao5: จะจบแล้วเหรอ พอจะหายหน่วงกับรักสามเส้ารุ่นใหญ่ พี่ปืนไปสิงคโปร์ดีแล้ว ขอน้องปันกลับมาให้พี่เก็ต แล้วพี่เป็ดต้องตามไปอยู่ที่สิงคโปร์หรือเปล่า อย่า้เลยนะ สงสารน้องจี  :monkeysad: ให้พี่เอสพาน้องบัญชีมาเปิดตัวหน่อยยยย  :-[

ปล.สวัสดีปีใหม่นะคะ

ออฟไลน์ done_dirt_cheap

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
สวัสดีปีใหม่ค่ะ จะจบแล้วเหรอ ไม่อยากให้จบเลยรู้สึกเหมือน
ยังอ่านบทสวีทๆของสิปปกะเมตยั้งไม่จุใจเลย
 :mew1:
 :pig4:
ขอให้มีความสุขสดชื่นตลอดปีนะค่ะ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
เป็นตอนที่รู้สึกอบอุ่นหัวใจมากอ่ะ น้องจี ครับมีความสุขมากๆนะ :man1:
พี่เป็ดเป็นพระเอกนะฮะตอนนี้ :z1:
แล้วตอนหน้าจบ ฮือออ คงคิดถึงน่าดู แต่ก็จะตั้งตารอค่ะ :L2:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
สวัสดีปีใหม่ค่าาาาาาา ^^

จะจบแล้วหรอ แอบใจหายอ่ะ งื้ออ อยากเจอก๊วนนี้เรื่อยๆ มีสีสันดี
เรื่องรักสามเศร้าของพี่เอ้ พี่เอส พี่ปืน สำหรับเราเคลียร์แล้วอ่ะ เหมือนอะไรที่มันคาใจหายไปหมดแล้ว

ส่วนพี่เป็ดกับน้องจี ตอนแรกอารมณ์ซึ้งมาเต็มเลย แต่พอเจอประโยค พี่เก็ตกล่าวเข้าไป
บอกเลยว่าฮามาก แล้วยิ่งตอตัดไปภาพซีเปียอีก ช่างคิดนะเรา 5555555555

ส่วนเมต ถ้าชอบแนวนั้นก็รีบบอกสิปป์นะ จะได้เตรียมใตทัน ฮ่าๆๆๆ

เหลือคู่ไหนอีกนะ คู่พี่เก็ตๆๆๆๆๆ อย่าลืมพี่เก็ตน้องปันน๊าาาา

ออฟไลน์ nekodollzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
‘ไม่รู้ว่าพี่เค้าซึ้ง หรือพี่เค้าฟิน’ พี่เก็ตกล่าว


กดไลค์พี่เก็ตแทบไม่ทัน 55555  :hao7:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 แต่ละคนนี่จะเอาฮาไปไหน
สวัสดีปีใหม่จ้า

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
นึกถึงสภาพเมตปากแดงนี่คงฮาน่าดู

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
ไม่อยากคิดเลยว่าวันนั้นคุณหญิงแม่ของพี่เป็ดจะสยองแค่ไหน
555
ต้องน่ากลัวมากแน่ๆเลย
ชิมิ
อิอิ

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
เมตต๊าาาาาาาาาาาาาาา  พิลึกมากวิธีพี่เป็ดเนี่ย 55555555555



่แต่คำถามสุดท้ายคือขำมาก สิปป์เอ้ยยยยยยย

ออฟไลน์ boyslover

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
   #ผมงี้เตรียมรุกเลย #สิปป์คิดในใจ
ลั่นห้อง :laugh: :laugh: :laugh:


หายไปนานมว๊ากกกกกกกกกกก แต่มาตอนรับปีใหม่ก็หายคิดถึงหวังว่า คราวหน้า ไม่จะไม่เจอกันตอนสงกรานนะฮ๊าฟ(กุดักทางก่อนละ)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เรื่องของพี่ปืน บก.เอ้ และพี่เอส ให้เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
ต่างคนต่างมีพื้นที่ คิดถึงก็เจอกัน กินข้าว ไปเที่ยว รักแต่ไม่ครอบครอง
พี่เป็ดจริงจังมาก ดีใจกับน้องจีด้วย
สิปป์ยังหวังอะไรลม ๆ แล้ง ๆ อยู่อีก

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อ่านมาถึงกลางเรื่อง แอบมากรี้ดดด โวยวายก่อนได้ปะ ตอนแรกนึกนึกว่าเนื้อหาจะแรงอะ ใสเว่อร์อะคนแต่ง :z2:

ออฟไลน์ nekodollzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
คิดถึงคนเขียน คิดถึงสิปป์ เมต และผองเพื่อน
มาต่อเถอะพรีสสส
ยังรออยู่นะค้าาา ><

ออฟไลน์ lykar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-0
Last Page : ปิดเล่ม


บรรยากาศออฟฟิศตอนสิบเอ็ดโมงกว่าๆ กำลังวุ่นวายได้ที่ พี่พุดรับโทรศัพท์จากบก.เอ้เป็นครั้งห้าในเวลาครึ่งชั่วโมง เพราะบก.ฝากเช็กนู่นเช็กนี่ ถามย้ำว่าอันนี้ทำไปหรือยัง ทำเอาคนในออฟฟิศต้องร้อนรนตามไปด้วย สิปป์กำลังโทรเลื่อนคิวนัดสัมภาษณ์ในช่วงบ่ายนี้ ส่วนทีมเซลส์กำลังส่งเมลชี้แจงเรื่องที่ไปร่วมอีเวนต์ของลูกค้าไม่ได้

มีเพียงกราฟิกคนเดียวในทีมที่นั่งจิบกาแฟสบายอารมณ์ เคล้าคลอกับเสียงเพลงของวงโปรดอยู่ในห้องส่วนตัว...

“เรียบร้อยละ” พี่เป็ดบอกกับคนอื่นๆ ขณะสั่งชัตดาวน์คอม

“ต้องขอโทษอีกครั้งนะครับ ...ครับ เดี๋ยวเรานัดกันอีกทีนะครับ สวัสดีครับ” พอสิปป์วางสาย เมตตาก็ยื่นกระเป๋าส่วนตัวที่เก็บของเรียบร้อยให้เจ้าตัวทันที

“ไปกัน” พูดบอกคนข้างตัวเสร็จก็สาวเท้ายาวๆ ไปเปิดประตูห้องกราฟิก “พี่เก็ตไปยั...เฮ้ย! ทำไมยังไม่เตรียมตัวอ่ะพี่”

“กูไม่ไป” เจ้าของห้องตอบสั้นๆ ทำเอาเมตตาฮึดฮัดขึ้นทันที “อย่ามาตลก ไปเร็ว!”

พี่เป็ดเห็นเหตุการณ์จะยืดเยื้อเลยแทรกตัวเข้าไปในห้องนั้น ก่อนจะคว้าแก้วกาแฟในมือกราฟิกไปวางไว้บนโต๊ะ แล้วลากไอ้พี่เก็ตออกมาด้วยกัน

“บอกว่าไม่ไปไง!” พี่เก็ตสะบัดแรงลากที่ข้อมือออก พลางก้มหน้ามองพื้น ไม่สนสายตาของทุกคนที่มองมา

“ไอ้พี่เก็ต” สิปป์ศิลป์เรียกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “ไม่ว่ามึงจะโกรธลูกหลานเค้ายังไง แต่มึงก็ควรมีมารยาทกับเจ้าตัวเค้าบ้างนะ พี่ปืนไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเหตุการณ์ของมึงสองคนเลย แล้วเค้าก็มีน้ำใจกับพวกเรามาก มึงก็ควรจะให้เกียรติพี่ปืนด้วยการไปส่งเค้า เข้า-ใจ-มั้ย?”

พี่เก็ตไม่ตอบ แต่เสียงถอนหายใจที่ทุกคนได้ยินก็เป็นบทสรุปที่น่าพอใจ


วอลโว่ของพี่เป็ดกับรถเต่าของเมตตากำลังตีคู่บนทางด่วนเพื่อมุ่งสู่สุวรรณภูมิ น้องจีมองนาฬิกาบนจอมือถือแล้วก็บอกให้พี่เป็ดใจเย็นๆ เพราะเวลายังเหลืออีกเยอะ แต่เสียงบก.เอ้ที่ตามจิกอยู่ทุกนาทีกลับเร่งเร้าจนพี่เป็ดอยากจะกดปุ่มแปลงร่างรถยนต์เป็นเครื่องบินไปซะให้รู้แล้วรู้รอด ซึ่งต้นเหตุของความโกลาหลรับวันใหม่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น “พี่เอส” มนุษย์บอสผู้ไม่เคยจำตารางเวลาอะไรได้ แม้กระทั่งตารางบินของพี่ปืน

“ก็ สิบเอ็ด กับ สิบเจ็ด มันใกล้เคียงกันอ่ะ มันก็ต้องมีสับสนกันบ้าง” บอสใหญ่ได้กล่าวไว้ นี่ถ้าพี่เอ้ไม่มีเรื่องโทรหาพี่ปืนเมื่อเช้า ป่านนี้ทุกคนก็คงคิดว่าพี่ปืนยังอยู่ไทยอีกเกือบอาทิตย์นั่นแหละ

สมาชิกเกย์สเกลวิ่งกันอุตลุดไปยังเกตที่พี่เอ้บอกไว้ และโดยไม่ต้องมองหาก็เห็นคนหน้าตาคุ้นเคยยืนเกาะกลุ่มกันอยู่ก่อนแล้ว

“สวัสดีครับบบ” เด็กๆ ยกมือไหว้รอบวง ซึ่งประกอบด้วยพี่ปืน พี่เอ้ พี่เอส และ...

“เอ้า! ปัน!” สิปป์ร้องทักเมื่อเห็นเด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งยืนอยู่ด้านหลังพี่ปืนอีกที

“หวัดดีครับๆ” อดีตเด็กฝึกงานยกมือไหว้พี่ๆ ซึ่งทุกคนก็ทักทายอย่างสนิทสนม เว้นก็แต่ผู้ชายใส่แว่นหนาเตอะที่ยืนกดมือถือไม่รู้ไม่ชี้

“มากันช้าจัง” บก.เอ้บ่นอุบ จนพี่เป็ดต้องรีบยกมือห้าม

“แค่นี้ก็เลื่อนนัดกันเหงื่อซีดแล้วนะพื่ แล้วทำไมไม่บอกให้มันเร็วๆ ล่ะ”

“ต๊าย...ไปถามไอ้นี่เองสิยะ” นิ้วป้อมๆ ชี้ไปยังน้องชายตัวเอง “คนบ้าอะไรจำไฟลท์ผิดไปเป็นอาทิตย์”

“อ้าวๆๆ ก็แล้วทำไมเจ้ไม่เช็กเองล่ะคร๊าบ” บอสใหญ่ร้องอุทธรณ์

“ก็...” คราวนี้บก.พูดไม่ออก ได้แต่โบกไม้โบกมือเป็นเชิงว่าช่างมัน

หลังจากพูดคุยกันพักใหญ่ เมตตาก็ชวนทุกคนมาถ่ายรูปรวมเป็นที่ระลึก พี่ปืนยืนอยู่ตรงกลาง ขนาบข้างซ้ายขวาด้วยพี่เอสและพี่เอ้ ส่วนคนอื่นๆ ก็กระโดดโลดเต้นกันอยู่รอบๆ

เมตตาเล็งภาพแล้วทำไม้ทำมือให้สมาชิกเขยิบเข้ามาใกล้ๆ กัน ก่อนตัวเองจะรีบวิ่งไปเติมในตำแหน่งว่างอย่างรวดเร็ว    ชั่วจังหวะที่ไฟบนกล้องกะพริบถี่เป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงเวลาลั่นชัตเตอร์ เก็ตก็รู้สึกถึงแรงโอบที่หัวไหล่ ก่อนจะถูกดึงเข้าไปในจังหวะที่ชัตเตอร์ทำงานพอดี

“โอเค หล่อทุกคนเลยครับ” พอตากล้องตรวจงานแล้วบอกว่าผ่าน ทุกคนก็ขยับตัวออก เพื่อมาถ่ายภาพเล่นกับพี่ชายที่กำลังจะบินในวันนี้ ท่ามกลางความสนุกสนานปนวุนวาย มีเพียงผู้ชายสองคนที่ยืนนิ่งไม่ไหวติง

แรงสัมผัสบนไหล่ยังทิ้งความอุ่นไว้จางๆ ปันทอดสายตามองคนที่เคยทำงานร่วมกันเดือนกว่าๆ พี่เก็ตที่ไม่เจอกันเกือบห้าเดือนดูเปลี่ยนไปมาก ร่างกายเหมือนจะผอมลงกว่าเก่า ไหล่เล็กลู่ลงจนไม่คุ้นตา ใบหน้าใต้กรอบแว่นดูซีดเชียวจนน่าเป็นห่วง

“พักผ่อนมั่งหรือเปล่า...พี่” ปันเอ่ยถามคนที่เอาแต่ก้มหน้า เมื่อไม่มีเสียงตอบจึงเอื้อมมือไปสะกิดแขนอีกคน ผลคือเก็ตผละตัวออกแล้วเดินหนีไปอีกทาง

ปันถอนหายใจ ก่อนจะสบตากับสิปป์ศิลป์ที่ยืนมองอยู่ และโดยไม่ต้องพูดอะไรกัน นักเขียนก็เป็นฝ่ายยืนดักพี่เก็ตไว้ ในขณะที่น้องเล็กทำทีเดินมาคุยด้วย

“เป็นไงมั่งปัน ที่ ‘ฝึกงาน’ ที่ใหม่โอเคมั้ย” สิปป์เน้นคำว่าฝึกงานเสียงดังฟังชัด จนกราฟิกหันขวับ ใบหน้าที่เคยนิ่งเฉยส่อแววสงสัยอย่างเต็มที่

“ก็ดีพี่ แต่ทำโปรดักชั่นเฮ้าส์เหนื่อยอ่ะ แล้วก็เน้นงานขายมากเกินไป รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง” เด็กตัวสูงตอบ ก่อนจะถามกลับ “แล้วที่ออฟฟิศเป็นไงบ้างพี่ งานเยอะมั้ย”

สิปป์เหลือบมองไปยังพี่เก็ตที่ขยับตัวไปมาเหมือนไม่รู้จะวางไม้วางมือไว้ตรงไหน เมื่อถูกอีกฝ่ายจ้องมองแบบตั้งใจให้รู้ตัว

“โอ๊ย...งานเยอะเหมือนเดิมแหละ แต่ดูบางคนจะอาการ เอ้ย! งานหนักมากกว่าคนอื่นนะ” นักเขียนตอบยียวน

พี่เก็ตกำลังจะอ้าปากตอบ แต่บก.เอ้เดินเข้ามาร่วมวงเสียก่อน “ปันนนน เป็นไงบ้าง เมื่อไรจะกลับมาเป็นพนักงานของพี่สักที ไอ้เก็ตมันจะได้เลิกทำตัวซึมๆ เป็นพระเอมเอ็มวีเนี่ย”

“ตลกละพี่เอ้!” คนถูกพาดพิงโวยวาย ในขณะที่ปันเลิกคิ้วสูงเหมือนฉงนกับเรื่องนี้เอามาก ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วตัวเองก็รู้ความเคลื่อนไหวของออฟฟิศนี้มาโดยตลอด ยิ่งเรื่องของพี่เก็ตแล้วยิ่งรู้มากกว่าใคร

“ปันก็รออยู่ว่าพี่เอ้จะเปิดรับสมัครเมื่อไรนี่แหละครับ” เด็กหนุ่มหัวเราะเสียงใส “นี่ทำพอร์ตรอแล้วนะเนี่ย”

“ให้มันจริงเถอะจ๊ะ จะได้ไม่มีคนรอเก้อ”

คุยเล่นกันได้สักพัก พี่เอสก็กอดคอพี่ปืนเข้ามาเพื่อลาทุกคนอย่างเป็นทางการ เพราะอีกไม่นานพี่ปืนต้องเข้าไปด้านในแล้ว เด็กๆ ยกมือไหว้คนที่จะจากไปนานอย่างพร้อมเพรียง และอวยพรให้เดินทางโดยปลอดภัย

“นั่งเครื่องแค่สองสามชั่วโมงเอง เหมือนกรุงเทพฯ ไปหัวหินนั่นแหละ ไม่ต้องห่วงๆ” พี่ปืนพูดติดตลก เมื่อทุกคนอวยพรอย่างกับเขาจะไปดาวอังคาร

“ไปถึงแล้วโทรหาคุณวรชัยนะ เดือนแรกอาจยังไม่มีรถส่วนตัวให้ ให้ผู้ช่วยเค้าไปรับไปส่งก่อน ถ้าจะไปซ่าที่ไหนก็อย่าไปมีเรื่องนะเว้ย แล้วเสื้อผ้าเอาไปครบแล้วใช่มั้ย ยาล่ะ? ห้ามไปเที่ยวแถวเกลังคนเดียวนะ ไม่ต้องซื้อน้ำหอมทุกเดือนด้วย ที่มีอยู่นี่ก็ถมทะเลได้อยู่แล้ว ...ฝากดูแลทางนั้นด้วยนะ แล้วก็...ฝากดูแลตัวเองด้วย”

บอสใหญ่สั่งเสียซะยาวเหยียดอย่างไม่แคร์ลูกน้องที่ตกตะลึงกันอยู่ หากคนฟังได้แต่รับปาก “คร๊าบ...คร๊าบ” เพราะฟังมาเป็นร้อยรอบ แต่เพราะรู้ว่าถ้อยคำเหล่านั้นเต็มไปด้วยความห่วงใยของคนพูด พี่ปืนเลยไม่มีทีท่าว่าจะเบื่อหน่ายแม้แต่น้อย

“ไอ้นี่ก็เยอะจริง ได้ข่าวว่าอีกสองเดือนแกก็บินตามไปแล้วนะไอ้เอส” เจ้ใหญ่แขวะน้องชายที่ทำตัวเหมือนพ่อมากกว่าเพื่อน แต่พี่เอสไม่สนใจ ซ้ำยังกางแขนกว้างเพื่อสวมกอดพี่ปืนเสียอีก

“ยังกะลูกลิง...” พี่เอ้บ่นได้แค่นั้นก็ถูกน้องชายดึงมาร่วมวงกอดอันอบอุ่นด้วยกัน กลายเป็นคนแก่สามคนยืนกอดกันกลมกลางสุวรรณภูมิ จนเด็กๆ ที่ยืนอยู่แอบอมยิ้มไปตามๆ กัน

“โชคดีนะ” พี่เอ้อวยพรคนในอ้อมกอดเสียงเครือ จนพี่เอสรีบตัดบทก่อนที่ใครสักคนจะร้องไห้ให้อายเด็ก

“ไปๆ คุณ...เดี๋ยวตกเครื่อง แล้วเจอกัน”

พี่ปืนรวบรวมสัมภาระ ก่อนจะหันมาโบกมือให้กับคนที่มาส่งเป็นครั้งสุดท้าย “ขอบคุณทุกคนมากนะครับ เดี๋ยวว่างๆ พี่กลับมาหา”
ทั้งหมดยืนรอจนพี่ปืนเดินไปลับสายตา จากนั้นบอสใหญ่จึงชวนลูกน้องไปหาอะไรกิน เพราะไหนๆ วันนี้ทุกคนก็เกเรงานกันทั้งวันอยู่แล้ว

“ปันต้องไปไหนหรือเปล่า ไปกินข้าวด้วยกันสิ” พี่เอสเอ่ยชวนหลานเพื่อน ตามด้วยเสียงคะยั้นคะยอจากพี่ๆ คนอื่น

“ขอโทษด้วยจริงๆ ครับ ปันมีนัดส่งงานตอนเย็น ต้องรีบกลับไปปั่นอ่ะครับ” เด็กตัวสูงทำหน้าจ๋อย ใจจริงก็อยากจะไปร่วมวงใจจะขาด แต่จะให้ทิ้งงานก็ทำไม่ได้ ยิ่งเป็นงานชิ้นสุดท้ายแล้วด้วย...

“ถ้าไม่ไปกินข้าวด้วยกัน ก็มาเป็นลูกน้องพี่เดี๋ยวนี้เลย” พี่เอ้แกล้งพูดเสียงขึงขัง เรียกเสียงเชียร์จากคนรอบข้างอีกระลอก

“ฮ่าๆๆ ถ้าพี่เอ้รับ ปันก็ไปครับ”

“ถือว่ารับปากแล้วนะ ถ้าเบี้ยวล่ะน่าดู” บก.คาดโทษ ซึ่งน้องเล็กก็รับปากอย่างหนักแน่น ก่อนจะยกมือไหว้อำลาพี่ๆ ทุกคนที่ดูจะเอ็นดูเขาอย่างมาก เว้นก็แต่คนเดียวเท่านั้นที่จนตอนนี้ก็ยังไม่พูดกับเขาสักคำ

แก๊งเกย์สเกลเคลื่อนพลออกจากสนามบิน โดยนัดไปเจอกันที่ร้านสเต็กที่พี่เอสเสนอ ส่วนปันก็แยกไปเอารถของพี่ปืนที่ขับมา ขณะเด็กตัวสูงกำลังคิดอะไรเพลินๆ ก็ต้องสะดุ้งกับแรงกระชากที่แขนจนเกือบจะด่าออกไปด้วยความตกใจ

“พี่เก็ต!?” เมื่อเห็นว่าคนที่ดึงแขนตัวเองไว้เป็นใครก็ต้องตกใจมากขึ้นอีกหลายเท่า ภาพตรงหน้าคือพี่ชายที่เคยเรียกได้ว่าสนิทกัน ยืนหอบหายใจเหมือนวิ่งมาไกล มือข้างหนึ่งดันแว่นที่เลื่อนหลุดให้เข้าที่

“หมายความว่าไง” ประโยคแรกจากคนที่มึนตึงใส่เขามาตลอด ยิ่งสร้างความฉงนมากกว่าเดิม

“เรื่องอะไรพี่” ปันเอ่ยถามออกไป ขณะลอบมองดวงตาใต้กรอบแว่นที่ดูจะไม่เรียบเฉยเหมือนอย่างเคย “เรื่องที่รับปากพี่เอ้ไปเหรอ”

อีกฝ่ายส่ายหน้า ก่อนจะถามขึ้นมาอีกหน “ที่บอกว่าไปฝึกงาน”

เด็กตัวโตขมวดคิ้วกับคำถามนั้น ก่อนจะตั้งคำถามกลับไป “นี่พี่ไม่รู้เหรอว่าผมไปฝึกงาน”

“ไม่รู้” คำตอบจากคนแก่กว่าทำเอาปันถอนหายใจเฮือกใหญ่

“จริงๆ ผมไลน์ไปบอกพี่แล้ว แต่พี่คงบล็อกผมอ่ะ แล้ว...” เสียงทุ้มหยุดชะงักกับประโยคต่อไป เพราะเรื่องที่เขาไปฝึกงาน พี่สิปป์ก็เป็นคนแนะนำเอง แถมพี่เอ้ก็รู้ แต่น่าแปลกที่ไม่มีใครบอกพี่เก็ตเลย

...โดนแกล้งแน่ๆ

“เอาเป็นว่าผมไปฝึกงานที่โปรดักชั่นเฮ้าส์ครับ ไม่ได้ไปทำงานที่อื่น ...ขอโทษด้วยที่ตอนนั้นบอกว่าไม่ต้องรอ” ปันอธิบายพลางนึกย้อนไปถึงเรื่องราวเก่าๆ

“ก็ไม่ได้รอ” คนแก่กว่าตอบกลับทันควัน

 “โอเค โอเค ...งั้นเลิกบล็อกไลน์ผมนะ” เด็กหนุ่มอมยิ้ม ไม่รู้ว่าทำไมการที่อีกคนโกรธ ถึงทำให้รู้สึกดีอย่างประหลาด
พอได้ยินเสียงไอ้เด็กแสบว่าอย่างนั้น เก็ตเลยพยักหน้าส่งๆ แบบขอไปที ทว่าคำพูดต่อมาจากอดีตเด็กฝึกงานทำให้เขาต้องขมวดคิ้วมุ่น

“...เพราะเดี๋ยวพี่ต้องคุยกับผมทุกวันแล้วล่ะ”


   พี่เก็ตรีบกลับมาที่ประตูทางออกซึ่งมีเมตตากับสิปป์ศิลป์ยืนรออยู่ หลังจากไอ้สองคนบ่นเรื่องที่หายไปนานจบ ทั้งหมดก็รีบบึ่งรถตามสมาชิกคนอื่นๆ ที่ล่วงหน้าไปกันก่อนแล้ว

   “ตกลงพี่หายไปไหนมาอ่ะ” เมตตาเอ่ยถามเพราะนึกขึ้นได้ว่าพี่เก็ตยังไม่ตอบอะไรเลย

   “ขี้” คนถูกถามตอบสั้นๆ ได้ใจความ จนเมตตาหมดเรื่องจะถามต่อ ทำเอาสิปป์หัวเราะจนน้ำหูน้ำตาไหล

   “มึงจะไปเซ้าซี้ถามพี่เก็ตทำม๊าย เค้าก็อยากจะไปปรับความเข้าใจกับเด็กเค้าบ้างไรบ้าง หึหึ” คำพูดลอยๆ ของตุ๊กตาหน้ารถ ทำเอาเมตตาเริ่มเข้าใจอะไรได้ลางๆ ในขณะที่คนถูกพาดพิงเอาแต่กดโทรศัพท์เล่นเหมือนไม่รู้ว่ากำลังถูกนินทา

   ตั้งแต่ปลดบล็อกรายชื่อของอดีตเด็กฝึกงาน ไลน์ของเก็ตก็ยังไม่หยุดเตือน เพราะปันส่งข้อความมารัวๆ เหมือนกับคนอัดอั้นไม่ได้พูดมานาน แต่พี่เก็ตก็ยังคงเป็นพี่เก็ต ที่เอาแต่ตอบว่า ‘อือ’ ‘เหรอ’ ‘ก็ดี’ ‘ก็ได้’ ‘เค’ ทว่าคนที่สนทนาด้วยกลับรู้ดีว่านี่คือข้อความที่พี่เก็ตตั้งใจตอบ ไม่ใช่การพิมพ์ไปงั้นๆ เหมือนคนอื่น

   เมตตาจอดรถที่ใต้ร่มไม้ของทางร้าน ถัดไปเป็นรถของพี่เอส พี่เอ้ และพี่เป็ดตามลำดับ แสดงว่าอยู่กันครบองค์ประชุมแล้ว จริงๆ สเต็กร้านนี้เคยรีวิวลงเกย์สเกลด้วย เป็นเล่มตอนที่เมตกับสิปป์ยังไม่เข้ามาทำงาน ซึ่งก็นานพอสมควรแล้ว แต่ไม่นึกว่าเจ้าของร้านจะยังจำพี่เอ้ได้จนถึงตอนนี้

   “นี่ไงคะ ทางร้านเอาเนื้อหาที่นิตยสารรีวิวมาเก็บใส่กรอบด้วย” ผู้หญิงวัยกลางคนชี้ชวนให้ดูกรอบรูปบนผนัง ที่บรรจุเนื้อหาแนะนำร้านจากสื่อต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเกย์สเกล

   “ไม่นึกว่ายังจำกันได้นะคะ” พี่เอ้เอ่ยเสียงเขินๆ ตอนที่มารีวิวร้านนี้เป็นช่วงที่ขาดแคลนนักเขียนพอดี พี่เอ้เลยต้องมาทำงานด้วยตัวเอง

   “แล้วฟีดแบ็กจากตอนนั้นเป็นไงบ้างครับ” บอสใหญ่หัวโต๊ะสอบถามถึงผลตอบรับ

    “ตอนนั้นมีแต่หนุ่มๆ มาอุดหนุนเต็มไปหมด เลยรู้ว่าเป็นแฟนหนังสือเกย์สเกลค่ะ” เจ้าของร้านหัวเราะขำก่อนเล่าต่อ “จริงๆ พี่ก็กดไลค์เพจหนังสือไว้ด้วยนะคะ เนี่ยตามอัพเดตเรื่องน้อง ม. กับ น้อง ส. ประจำเลย”

   คราวนี้กองบก.หัวเราะกันยกโต๊ะ เว้นก็แต่น้อง ม. กับ น้อง ส. ตัวจริงที่ไม่ค่อยจะขำด้วย โดยเฉพาะน้อง ส. ที่แอบคาดโทษเจ้บก.ตัวแสบในใจ ...นี่พี่เอ้ยังไม่เลิกเอากูไปหากินกับเพจอีกเรอะ!!

   “แล้วในนี้มีน้อง ม. กับ น้อง ส. มั้ยคะ” คำถามของเจ้าของร้านสร้างความกดดันให้กับเจ้าของอักษรย่อเข้าไปอีก บก.เอ้แอบสบตากับตัวจริงก่อนจะตอบออกไป

   “รู้แล้วอย่าไปบอกใครนะคะ...จริงๆ น้อง ม. กับ น้อง ส. ไม่มีจริงหรอกค่ะ แอดมินเขียนมาขำๆ ให้อ่านกันเล่นๆ ค่ะ”

   “ว๊า...เสียดายจัง  นี่ตามอ่านมาตั้งสองสามปี รู้สึกผูกพันไปเลยค่ะ” เจ้าของร้านทำหน้าหงอย ซึ่งดูจะผิดหวังไม่น้อย

   “น้อง ม. กับ น้อง ส. ไม่มีจริง แต่ความรักแบบสองคนนั้นอาจมีจริงๆ ก็ได้นะครับ” ชายหนุ่มที่นั่งข้างบก.พูดติดตลก ซึ่งพี่เจ้าของร้านรีบพยักหน้าเห็นด้วย ส่วนพี่เอ้ยกนิ้วโป้งในความหมายว่ายอดเยี่ยมให้นักเขียนตัวเองไปเลย และแน่นอนว่าคนที่ดีใจกับคำตอบนั้นที่สุด คงเป็นตากล้องที่นั่งอมยิ้มอยู่ข้างๆ คนพูดนี่แหละ…


………………………Gayscale Magazine………………………


(ต่อด้านล่างค่ะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-02-2015 01:07:01 โดย lykar »

ออฟไลน์ lykar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-0
นับจากวันที่พี่ปืนบินไปสิงคโปร์ ตอนนี้ก็ผ่านมากว่าหนึ่งปีแล้ว กองบก.นิตยสารเกย์แห่งนี้ยังวุ่นวายเหมือนเดิมทุกอย่าง พี่สาวคนโตอย่างบก.เอ้ยังคงมุ่งมั่นกับการจิ้นให้ผู้ชายได้ (รัก) กันไม่มีเปลี่ยน ส่วนสามหนุ่มเออีก็ยังคงโดนกดดันในการทำยอดโฆษณาให้สูงขึ้นๆ แน่นอนว่านักเขียนกับตากล้องคู่ใจยังเหนื่อยกับคิวงานที่เยอะรุงรังแบบไม่มีลดลง ส่วนห้องเล็กๆ ของฝ่ายกราฟิกก็ยังรักษาความเหม็นอับไว้ได้อย่างคงเส้นคงวา แต่ที่เปลี่ยนไปคือตอนนี้ไอ้พี่เก็ตมีเด็กตัวสูงโย่งมานั่งแย่งอากาศหายใจอย่างเป็นทางการ

   “ปัน ทำไมไม่ครีเอตฟ้อนต์ไปเลย ไฟล์มันมีปัญหาเนี่ย เห็นมั้ย” กราฟิกรุ่นพี่บ่นอุบ ส่วนคนถูกบ่นได้แต่เอ่ยขอโทษก่อนจะรีบแก้ไขโดยเร็ว

หนึ่งปีแล้วที่ปันเข้ามาทำงานที่เกย์สเกล จากตอนฝึกงานที่เคยเกิดคำถามว่าตนเองจะชอบงานประเภทนี้และสามารถอยู่กับมันได้ทุกวันจริงๆ มั้ย แต่ตอนนี้เขาค้นพบคำตอบแล้วว่า ไม่มีงานไหนที่จะกลายมาเป็นสิ่งที่รักที่สุดในชีวิต แต่องค์ประกอบอื่นๆ ต่างหากที่ทำให้เราอยู่กับมันได้เรื่อยๆ ทั้งสภาพแวดล้อม การเดินทาง เงินเดือน และที่สำคัญที่สุดคือเพื่อนร่วมงาน ทุกคนในกองฯ นี้ไม่ได้ดีจนไร้ที่ติ ไม่ได้สามัคคีกันมากกว่าที่อื่น แต่เพราะคนที่นี่มีความรักในสิ่งเดียวกัน และพร้อมจะช่วยเหลือกันโดยไม่ต้องมีใครเอ่ยปากขอ

ทุกคนเหมือนคนในครอบครัว ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่เป็นเหมือน...บ้าน


“เบื่อออออ” เสียงของจีกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งหลังได้อ่านอีเมลจากลูกค้าอันดับหนึ่ง (ด้านการไม่อยากทำงานด้วยที่สุด) มือขาวคว้าชานมไข่มุกมาดูดปื้ดๆ ดับอารมณ์ ก่อนที่ไฟความโกรธแค้นจะเผาไหม้ตัวเองไปมากกว่านี้

   “นางขออะไรอีกอ่ะ” พี่ชิ เซลส์นัมเบอร์ทูเอ่ยถามเสียงเนือยๆ เพราะรู้กันดีว่าลูกค้าเจ้านี้ร้ายขนาดไหน เป็นประเภทเงินหนาแต่หน้าหนากว่า ได้คืบจะเอาศอก ได้ศอกจะเอาวา ขอได้ขอดีจนเซลส์ต่างระอาไปตามๆ กัน

   “ขอติดโลโก้แบรนด์ที่เชลฟ์วางหนังสือด้วยได้มั้ยคะ ขอลงข่าวพีอาร์ด้วยนะคะ ขอสตริปแอดแถมเล่มต่อไปด้วยได้มั้ยคะ โอ๊ย...ดีออก!!” น้องจีแกล้งดัดเสียงเป็นลูกค้าสาวที่ตามจิกเขามาตั้งแต่เล่มที่แล้ว ถือเป็นเวรเป็นกรรมอย่างยิ่งที่ต้องดูแลแอคเคาน์นี้

   “จี!!” พี่เป็ดดุเซลส์ตัวเล็กเสียงเข้ม “พี่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเอาลูกค้ามานินทา เดี๋ยวใครมาได้ยินเข้ามันจะไม่ดีรู้มั้ย”

   คนถูกดุทำหน้ามุ่ยทันที เรื่องนี้พี่เป็ดมักย้ำกับทีมเซลส์เสมอถึงการให้เกียรติลูกค้า แม้น้องจีจะเป็นแฟนก็ยังถูกตำหนิทุกครั้งที่เผลอด่าลูกค้าออกมา

   “ก็เค้าเยอะจริงๆ นี่” เซลส์อันดับสามเถียง “นี่เราเป็นเซลส์นะไม่ได้เป็นทาส ขอนู่นขอนี่ ใช้นั่นใช้นี่อยู่ได้”

   “จี...เรามาด่าเค้าแบบนี้แล้วได้อะไรขึ้นมา?” คนตัวเล็กนั่งก้มหน้า แม้ไม่อยากฟังแฟนตัวเองพูด แต่ก็หนีไปไหนไม่ได้อยู่ดี “บ่นได้ เบื่อได้ แต่ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกแย่กับเค้าเข้าไปใหญ่ สู้มาคิดว่าปัญหามันคืออะไร แล้วแก้ให้ตรงจุดไม่ดีกว่าเหรอ”

   “ครับ” น้องจีรับคำสั้นๆ ซึ่งพี่เป็ดรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังโกรธ แม้ตอนนี้น้องจีจะโตขึ้นมาก แต่นิสัยความเป็นเด็กก็ยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิม

   “ไหน...เค้าขออะไรมั่ง” พี่เป็ดชะโงกหน้าไปอ่านอีเมลที่จีเปิดค้างไว้ ซึ่งพี่ชิก็มาร่วมวงด้วย

   “เรื่องโลโก้ติดเชลฟ์คงไม่ได้นะ” พี่เป็ดเอ่ยอย่างใช้ความคิด

   “อืม...คิดเหมือนกัน เพราะหัวเชลฟ์ปูโลโก้ของเกย์สเกลตรงกลางแล้วก็ค่อนข้างใหญ่ จะติดอันอื่นเพิ่มคงไม่ได้มั้ง” พี่ชิออกความเห็นด้วยอีกคน

   น้องจีมองหน้าเพื่อนร่วมทีมสองคนสลับไปมา แม้อารมณ์ยังครุกรุ่น แต่การได้เห็นว่ามีคนที่พร้อมจะช่วยแก้ปัญหาก็ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกดีมากยิ่งขึ้น “โอเค เดี๋ยวจีคุยกับเค้าเอง แต่คิดว่าลงข่าวพีอาร์กับสตริปแอดน่าจะได้ป่ะ”

   มือเล็กคลิกเมาส์เปิดดูข้อมูลส่วนกลางในโฟลเดอร์ข่าวประชาสัมพันธ์ “ข่าวน้ำหอม DV นี่ข่าวฝากใช่มั้ยอ่ะพี่ชิ”

   “ใช่ๆ เอาลงแทนอันนี้ก็ได้ ไม่ซีเรียส” ชิหมายถึงข่าวการเปิดตัวน้ำหอมยี่ห้อหนึ่งที่ทีมพีอาร์ส่งมาฝากลง ตามปกติหากมีพื้นที่เหลือ นิตยสารก็มักจะลงให้ เพราะถือเป็นการสร้างคอนเน็กชั่นในอีกทางหนึ่ง แต่หากมีข่าวของลูกค้าตัวเอง ก็มักจะให้พื้นที่กับลูกค้ามากกว่า

   “สตริปแอดพี่เช็กกับพี่เอ้ให้แล้วนะ เล่มหน้าลงได้ ไม่มีปัญหา” พี่เป็ดบอกกับข่าวดีกับน้องจี ซึ่งเซลส์น้องเล็กก็ฉีกยิ้มรับพร้อมคำขอบคุณ

   “ถ้าเค้าขออะไรเพิ่มอีก จีก็ตอบไปว่าคงไม่ได้จริงๆ แต่ถ้าซื้อแอดต่อเล่มหน้า เดี๋ยวจีแถมให้พิเศษเลย อะไรก็ว่าไป เข้าใจมั้ย”

“อื้อ” น้องจีรับปาก ขณะกดรีพลายอีเมลลูกค้าเพื่อรายงานข้อสรุปที่ขอมา

“เด็กดี รีบทำงานให้เสร็จนะ เดี๋ยวเลิกงานแล้วพี่พาไปกินชาบูร้านใหม่ นัดแม่ไว้แล้ว” มืออุ่นลูบศีรษะของอีกคนเบาๆ ปันที่นั่งมองอยู่ถึงกับส่ายหน้ากับสายตาที่พี่เป็ดมองพี่จี สองคนนี้ทำตัวเหมือนทุกวันเป็นวันฮันนีมูนจริงๆ

“ไอ้พี่เก็ต!!” เสียงตะโกนจากนักเขียนเรียกสายตาของปันให้ละออกจากคู่รักทีมเซลส์ทันที “บอกแล้วว่าไม่เอาแบ็กกราวน์ดำ หัวข้อนี้มันโคตรจะมุ้งมิ้ง มึงจะถมดำไว้อาลัยแมวที่บ้านเหรอ!!”

สิปป์กำลังด่าคนวางเลย์เอาต์ปาวๆ แน่นอนว่าเรื่องหัวเสียจากความติสต์ของพี่เก็ตยังมีให้ได้เสพอยู่เสมอ

“ก็สีอื่นมันไม่เท่” คำตอบจากเจ้าของผลงานเกือบทำให้นักเขียนกระโจนถีบรัวๆ ยังดีที่ควบคุมตัวเองไว้ได้ “หน้านี้ไม่เอาเท่ เอามุ้งมิ้ง! จบ! มึงแก้ให้กูเลย!”

ปันได้ยินพี่เก็ตบ่นอะไรอยู่ในลำคอ ซึ่งฟังดีๆ เหมือนกำลังสวดสาปแช่งใครสักคน และถ้านี่คือเรื่องจริง คนโดยสาปคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่สิปป์! ...แต่ถึงแม้จะกัดกันเลือดสาด หากสุดท้ายก็ไม่มีใครตาย ปันก็เห็นพี่เก็ตแก้ไขให้ตามรีเควสทุกครั้ง แถมพี่สิปป์ก็ยังชมว่าสวยอย่างงั้นอย่างงี้ตอนเห็นพรูฟตลอด

“ไม่เอามึง ไม่หงุดหงิดน่ะ เดี๋ยวลูกของเราเครียดไปด้วย ไม่ดีนะจ๊ะฮันหนี”เมตตาลุกขึ้นมาปลอบนักเขียนที่กำลังเลือดขึ้นหน้า ด้วยการลูบหน้าท้องของสิปป์เบาๆ จนปันอดขำกับคู่รักคู่เพี้ยนไม่ได้ แต่พอพี่เก็ตกระแอมดังๆ เด็กหนุ่มเลยต้องรีบทิ้งเรื่องของคนอื่น มาสนใจงานที่ยังแก้ไม่เสร็จของตัวเองทันที

 “ฮันหนีพ่อง! แล้วนี่ก็ไม่ใช่ลูกมึง กูอ้วน!” สิปป์ฟาดงวงฟาดงาใส่คนปากดี ที่นับวันจะกวนอารมณ์หนักขึ้นๆ ล่าสุดเมตตาเพิ่งแอบอัพรูปคู่ที่ถ่ายกันเล่นๆ ตอนยืนโกนหนวดหน้ากระจกลงเฟซบุ๊ก คดีนี้ยังไม่ได้เคลียร์ เดี๋ยวกลับไปบ้านจะด่าให้หูชาเลย แม่งไม่เซ็นเซอร์หัวนมกู!

“อุ่ย...เห็นยื่นออกมาเยอะ นึกว่าเรากำลังจะมีลูกแฝด โอ๊ยยยย!!” เมตตาร้องเสียงหลง เมื่อถูกอีกคนบิดหูอย่างแรง “ไม่ล้อแล้วๆๆ โอย...ไปๆ ไปกินเลย์กัน รสนี้ออกใหม่นะ เดี๋ยวกูแกะให้ เร็ว”

สุดท้ายสิปป์ศิลป์ก็ต้องพ่ายแพ้แก่การหลอกล่อของเมตตาเหมือนเดิม เหมือนตอนเริ่มเป็นแฟนกัน จริงๆ ก็แทบจะเหมือนตอนที่รู้จักกันครั้งแรกในฐานะเพื่อนด้วยซ้ำ พูดง่ายๆ ก็คือความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่มีอะไรเปลี่ยน เพียงแต่มันชัดเจนมากขึ้น
 
เขาไม่เคยทะเลาะกันรุนแรง อย่างมากก็แค่เถียงกันว่าเย็นนี้จะกินอะไร หรือทำไมสิปป์ไม่ยอมอาบน้ำ ไม่มีคำพูดหวานๆ ที่ต่างไปจากเดิม ไม่มีคำบอกรัก ไม่มีคำว่าคิดถึง มีแต่การไล่ให้เมตตาไปตัดผม เพราะหน้าตาเหมือนโจรเกินไปแล้ว เขาสองคนไม่ใช่คนละเอียดอ่อน ขนาดวันครบรอบ 1 ปี ยังถูกลืม มานึกได้ก็ตอนที่สิปป์กำลังมุ่งมั่นกับการถอนผมหงอกบนหัวของเมตตา ที่นอนกระติกเท้าดูสรยุทธอย่างสบายอารมณ์ ซึ่งเลยวันครบรอบมาแล้วเกือบอาทิตย์

พวกเขาไม่เคยมีช่วงเวลาโรแมนติก มีแค่ชีวิตเรียลลิสติกที่อยู่ด้วยกันทุกวัน


   “ทะเลาะกันจบเร็วจัง กูกำลังสนุกเลย นึกว่าดูช่องสาม” พี่เป็ดเอ่ยแซวนักเขียนกับตากล้องที่ตอนนี้หันมาปรองดองแบ่งเลย์กันกินเรียบร้อยแล้ว

   “เฮ้อ...ขอโทษด้วยที่หน้าตาเหมือนณเดชน์มากจนพี่เข้าใจผิด” ตากล้องว่าพลางสะบัดผมอารมณ์ว่าหล่อมาก

   “เอาที่สบายใจนะ มึงจะคิดอย่างงั้นกูก็ไม่ขัด แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้หิ้วกะลามาฝาก”

   “กำลังขาดจานใส่ข้าวเลย ถุย!!” พ่อณเดชน์แห่งเกย์สเกลเรียกเสียงหัวเราะจากสมาชิกทั้งทีม ไม่เว้นแม้แต่สองกราฟิกที่นั่งอยู่ในห้องเล็กอีกห้อง

   “ได้ข่าวว่าวันนี้พี่เป็ดจะพาจีไปกินชาบู...” สิปป์เริ่มหัวข้อสนทนาที่ทำเอาเจ้าของชื่อร้อนๆ หนาวๆ “ใจคอพี่ไม่คิดจะชวนน้องคนอื่นเลยเหรอครับ”

   เมตตาเอื้อมแขนมาโอบไหล่คนข้างๆ ก่อนผสมโรงด้วย “ช่ายๆ สุดท้ายก็ทิ้งพวกเราไปมีความสุขกันสองคน...”

   “ผมก็อยากกินอ่ะพี่ ไปกินไหนกัน” ปันพุ่งออกมาจากห้องด้วยความเร็วสูง เมื่อพูดถึงเรื่องบุฟเฟต์ชาบู

   “เอ่อ...” พี่ใหญ่อึกอัก “คือกูนัดกับที่บ้านไง...”

   “เฮ้ยๆๆ นัดกินอะไรกัน พวกแกไม่ชวนฉันเหรอ ฮะ!!” บก.เอ้วิ่งกระหืดกระหอบขึ้นบันไดมาทันทีที่ได้ยินเสียงคุยกันด้านบน รองเท้าอะไรยังวางไม่เข้าที่เลย เพราะตอนนี้หิวมาก!

   “คือ...เอาไว้วันหลังได้...”

   “ไม่!!” พี่เป็ดไม่ทันได้ปฏิเสธ เพราะพี่ๆ น้องๆ ที่เหลือพร้อมใจกันประสานเสียงยืนยันว่าต้องไปวันนี้เท่านั้น

   “ไปพร้อมกันก็สนุกดีนะพี่เป็ด แม่ไม่ว่าหรอก” แน่นอนว่าเมื่อน้องจีให้ข้อสรุปแบบนั้น ยอดเซลส์อันดับหนึ่งอย่างพี่เป็ดคงไม่สามารถกล่าวอะไรได้อีก

   “อีกสิบนาทีจะหกโมงละ รีบๆ ไปเก็บของเลย หกปุ๊บเด้งปั๊บ ใครช้าไม่รอนะ!!”

   และคำสั่งที่แสดงออกถึงความรักงานมากคงมาจากใครไม่ได้ นอกจาก.. บก. เอ้


   ตกลงเจ๊เป็นหุ้นส่วนบริษัทจริงหรือเปล่าเนี่ย!!


………………The End………………


และแล้วเกย์สเกลก็เดินทางมาถึงหน้าสุดท้ายค่ะ :)
ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่ติดตามนิตยสารเล่มนี้มากว่าสองปี
อู้บ้าง ขยันบ้าง แต่ทุกคนก็ยังไม่ทิ้งกันไปไหน

สำหรับ last page นี้ อาจมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ
อาจถามว่า ...นี้คือตอนจบจริงๆ เหรอ? 555555
เอาเป็นว่าใครคิดเห็นยังไง บอกกันได้นะคะ
รวมถึงคำติชมสำหรับเรื่องนี้ทั้งเรื่องด้วย
เพราะทุกความคิดเห็น จะเป็นประโยชน์ในการแก้ไขปรับปรุงเนื้อหา
ก่อนจะรวมเล่มและตีพิมพ์ต่อไปค่ะ

แอร๊ยยยยย นี่คือสัญญาณว่าจะรวมเล่ม
แต่จะมีใครซื้อมั้ยนั่นคือต้องลุ้นอีกที 5555555

ปล.
ถึงจะเป็นหน้าสุดท้าย แต่ยังไม่ใช่ตอนท้ายสุดนะคะ
เรายังมีบทส่งท้ายอีกหนึ่งตอนสั้นๆ มาฝากด้วยค่ะ
คิดว่าไม่เกินสามวันจะมาโพสต์ให้นะคะ ยังไงรออ่านกันน๊า

  :-[ :-[

Edit ขอแปะโพสต์เพิ่มเติมจากเฟซบุ๊กค่ะ :)

วันนี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว คือการทำงานวันสุดท้ายของเรา ก่อนนิตยสารเล่มแรกที่ทำจะปิดตัวลง

เรื่องราวของเกย์สเกลส่วนใหญ่อ้างอิงมาจากประสบการณ์จากที่นี่ ตัวละครแทบทุกตัวคือบุคคลในชีวิตจริง ที่เราพาพวกเค้ามาโลดแล่นอยู่ตรงโน้นตรงนี้ของฟิค ซึ่งทุกครั้งที่ย้อนกลับไปอ่าน เราจะนึกถึงคนจริงๆ ที่เป็นต้นแบบของตัวละครเสมอ

วันนี้ในปีนี้ คือวันที่เกย์สเกลตอนจบได้โพสต์ลงบอร์ด ความรู้สึกใจหายเกิดขึ้นไม่ต่างกับตอนที่เราล็อกกุญแจประตูออฟฟิศเป็นวันสุดท้าย...

ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่ให้โอกาสกับฟิคเรื่องเล็กๆ เรื่องนี้ ขอบคุณทุกการอ่าน ทุกคอมเมนต์ที่เป็นกำลังใจให้เราเสมอ

และขอบคุณที่สุด
สำหรับทุกความทรงจำ จาก...
พี่เอส
พี่เอ้
พี่ปืน
พี่พุด
พี่ชิ
พี่เก็ต
ปัน
พี่เป็ด
น้องจี
เมตตา
และสิปป์ศิลป์

ในชีวิตจริง :)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-02-2015 07:46:53 โดย lykar »

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
รักเรื่องนี้ รักสุดๆ ชอบตัวละครทุกคนในเรื่องนี้เลย ถึงแม้บางตอนจะดราม่าเหลือทนจริงๆ

มาต่อตอนพิเศษเยอะๆๆๆๆนะคะ!

ถ้าจะรวมเล่ม ไอซื้อแน่นอนค่ะ!


 :กอด1:

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
 o13จบได้สนุกค่ะ
ชีวิตต้องเดินต่อไป

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ได้ติดตามอ่านตั้งแต่เปิดเรื่องยันปิดเล่มก็ใช้เวลานานพอดูน่ะ รู้สึกผูกพันธ์อะบอกเลย ปิดเล่มอย่างนี้แล้วเราจะสามารถติดตามอ่านเรื่องราวที่พี่เอ้เม้าท์เรื่องของหนุ่ม ม.กับหนุ่ม ต.จากที่ไหนล่ะเนี่ย

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
เรายิ้มเลยแหละ :o8:
รักทุกคนในกองนะ ถ้าทำงานสายนี้ คงอยากเจอเพื่อนร่วมงานแบบนี้ทุกคน :impress2:
รออ่านตอนพิเศษค้าบบบบ :hao7:

ออฟไลน์ BIRD

  • บี เบิ๊ด นก ^___^
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ตามมาตั้งแต่ลงตอนแรก ๆ ใจหายเหมือนกันครับ
แต่งานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกรา

.
.

รออ่านตอนที่เหลือ และแน่นอนครับซื้อรวมเล่มแน่ ๆ :))

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด