- GAYscale Magazine - กองบ(เ)ก(ย์)สุดป่วง! #แจ้งข่าววววว P.41 30/01/16
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - GAYscale Magazine - กองบ(เ)ก(ย์)สุดป่วง! #แจ้งข่าววววว P.41 30/01/16  (อ่าน 347684 ครั้ง)

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ความพยายามเล็กๆน้อยๆของพี่เป็ดน่ารักมากกกกกกก

(และมุขจีเดียวก็เอิ่มมมมม....นะ 5555)

ออฟไลน์ Shin Heeyoo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
อ่านแล้ว อยาก in relationship บ้าง

แต่ไม่มีใครให้ with น่ะสิ ฮืออออ เศร้านะ

แต่อ่านเรื่องพี่เป็ดน้องจีแล้ว มุ้งมิ้งดี ชอบค่ะชอบ

อย่าเพิ่งเอาลิ้งค์แฟนเพจออกสิคะ บางทีก็มีคนเพิ่งเข้ามาอ่านจะได้รู้ว่ามีแฟนเพจให้ตามไปกดไลค์

โพสไว้เถอะค่ะ ไม่มีใครบ่นหรอก


 :katai5:

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ตอนนี้พี่เป็ดน่ารักมาก ๆ เปิดเผยกันแล้ว น่ารักสุด ๆ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
โอ๊ยๆ น่ารักอ้ะพี่เป็ด เขิลแทนน้องจีเลยแบบนี้

ปล.เวลาอ่านนิยายเก่าๆ เราก็ขำไปกับมุกเก่าๆ พร๊อบกึกๆ นะ
เหมือนย้อนวัยไปอะไรแบบนี้ ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
บางทีกลับไปอ่านนิยายเมื่อแปดปีที่แล้ว ก็ไม่ตกยุคนะ

ทำให้คิดถึงสิ่งที่ตัวเองเคยทำเมื่อก่อนด้วย

พี่เป็ดเปิดเผยก็ดีแล้ว จีจะได้มั่นใจมากขึ้น

ออฟไลน์ away3g

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-1

ออฟไลน์ savada

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
น่ารักอะ   อิอิ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ดีใจกับพี่เป็ดน้องจี หวานรับวาเลนไทน์กันเลยทีเดียว

ถือซะว่าเราเป็นส่วนหนึ่งในการบันทึกประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ ฮ่าฮ่าฮ่า

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
แอร๊ยยย
น่ารักอะพี่เป็ดน้องจี
ขอบคุณคนเขียนมากนะค้าาาา

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ +HaNeul+

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
พี่เป็ดน่ารัก น้องจีก็น่ารักอ่าา

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
ชอบคู่ีพี่เป็ดน้องจี!

><

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
น่ารักมากอ่ะ อ่านแล้วอยากมีแบบนี้บ้างจัง

ออฟไลน์ michiko_love

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-3
ละมุนมากๆๆๆๆ ชอบคะ  :o8:

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
น่ารักกก

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
บอกตรงคะ อ่านตอนนี้ ค่อยๆเลื่อนตาม คลิปที่เปิด รู้สึกดีมากก บอกไม่ถูกเหมือนกัน ลองแทนตัวเองเป็นจี คิดว่าตัวรู้สึกดีและรู้สึกตื้นตันแน่ๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
โอ้ยยยย เขินน
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
บางทีพอกลับไปอ่านซ้ำนิยายเก่าๆที่เคยประทับใจ
เจออุปกรณ์ต่างๆในสมัยนั้นมันก็ฮาดีนะ เราชอบออก
เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตของตัวเองด้วย
อีกอย่างเทคโนโลยีก้าวไปไวจะตาย ยังไงทุกคนและเกือบทุกเรื่องก็ต้องเจอแบบนี้


 :กอด1:

m_pop91

  • บุคคลทั่วไป
ผมขอเป็นคนที่ 121 นะครับ
แล้วจะเข้าไปติดตามบ่อยๆ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เข้ามารอค่ะ   :mew2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lykar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-0
Page 28 : เธอกลับมาเพื่อหมุนเข็มนาฬิกาให้เดินกลับหลัง


   ไม่ทันที่พระอาทิตย์จะได้ส่องแสง เมตตาก็หอบหิ้วสิปป์ศิลป์พร้อมสัมภาระขึ้นมอเตอร์ไซค์สี่สูบคันโต ที่วันนี้ได้ออกโรงแทนเจ้าเต่าเขียวมะกอก เนื่องจากอยู่ๆ น้องเต่าก็เกิดงอแงสตาร์ทไม่ติดขึ้นมา ทำเอาสองหนุ่มต้องเปลี่ยนแผนกะทันหัน

   มันไม่ง่ายเลย...กับการต้องเป็นสก๊อยหนุ่มตอนหกโมงเช้า

   “เ...ชี่... ขั...ช้าๆ หน่....” สิปป์เปิดกระจกหมวกกันน็อก พลางตะโกนแข่งกันเสียงลมอื้ออึงรอบข้าง ทว่าคนที่ตั้งหน้าตั้งตาบิดมอเตอร์ไซค์กลับนิ่งเฉย คนซ้อนเลยได้แต่ซุกตัวกับแผ่นหลังด้านหน้า แล้วค่อยๆ เอื้อมแขนไปโอบรอบตัวของคนขับ และคิดปลอบใจตัวเองว่าท้องถนนในยามเช้ามืดของวันเสาร์ คงไม่มีใครตื่นเช้ามาเห็นผู้ชายกอดกันกลมแบบนี้หรอกน่ะ

   วันนี้สมาชิกเกย์สเกลมีนัดกันตอนเจ็ดโมงตรงที่หน้าประตูออฟฟิศ เพื่อร่วมขบวนฉิ่งฉาบทัวร์เอาท์ติ้งประจำปี หลังเมตตาจอดรถเก็บเรียบร้อย วอลโว่คันงามของพี่เป็ดก็มาถึงพอดี น้องจีวิ่งดุ๊กดิ๊กลงมาจากรถพร้อมพร็อพสุดเวอร์วังอลังการดาวล้านดวง จนสิปป์ต้องออกปากทัก

   “แว่นกันแดดตอนเจ็ดโมง? หมวกสาน? ห่วงยางรูปเป็ด? จี...เยอะไป๊!”

   “แหมมมม...มึงไม่เยอะเลยเนอะไอ้สิปป์” ผู้ปกครองของน้องจีร้องทักบ้าง นักเขียนยักไหล่ทำหน้าโซพราวด์ ภาคภูมิใจในเสื้อเชิ้ตสีแสดสไตล์ฮาวาย และอุปกรณ์เล่นทรายถุงโตที่หอบหิ้วมาจากสำเพ็ง

   “อ่ะ” เมตตายื่นบางสิ่งให้คนรัก เพียงเท่านั้นทั้งพี่เป็ดและน้องจีก็ได้ขำก๊ากรับอรุณกันทันที

   “มึงจะเอาออกมาทำไม!! โห่ยยยย” สิปป์โวยวายลั่น หากก็ยอมยื่นมือไปรับแว่นดำน้ำพร้อมสน็อกเกิ้ลสีสันเข้าชุด

   “ทำไมไม่เอาตีนกบกับถังออกซิเจนมาด้วยเลยล่ะมึง” พี่เป็ดตบเข้าอีกดอก เรียกเสียงหัวเราะดังลั่นรับแสงอาทิตย์ยามเช้าได้เป็นอย่างดี ไม่นานนักสมาชิกเกย์สเกลคนอื่นๆ ก็ทยอยมาถึง รวมถึงบก.ใหญ่ที่วันนี้จัดเต็มด้วยชุดยูนิฟอร์มพร้อมลงทะเลจนใครๆ ก็อดแซวไม่ได้

   “เอ่อ...พี่เอ้ฮะ” สิปป์ร้องทักหัวหน้าใหญ่ที่กำลังกางอุปกรณ์เมคอัพบนโต๊ะม้าหินหน้าออฟฟิศ

   “ว่า?” 

   “ชุดพี่จะเตรียมพร้อมลงทะเลไปหรือเปล่าฮะ” นักเขียนทำเสียงใสซื่อ ไม่บอกก็รู้ว่าแอ๊บแบ๊วถามไปให้โดนด่าเล่นๆ

   “แกมีปัญหาอะไรกับกางเกงเจเจฉันเหรอไอ้สิปป์?!” ไม่เพียงแต่กางเกงขาสั้นยางยืดลายแบบเดียวกับที่สก๊อยเด็กฮิตกันเมื่อเกือบสิบปีก่อน พี่เอ้ยังสวมท่อนบนด้วยเสื้อยืดคอย้วยสีดำซีดตัวโคร่ง จนชักไม่แน่ใจว่าเจ๊แกจะไปเอาท์ติ้งหรือขับรถมาส่งลูกไปทัศนศึกษากับโรงเรียนกันแน่

   ก่อนที่นักเขียนปากกล้าจะถูกฆ่าตายด้วยอายไลเนอร์ ฟอร์จูนเนอร์คันโตก็มาจอดด้านหน้า เรียกทุกสายตาให้จับจ้องโดยพร้อมเพรียงกัน ประตูด้านข้างคนขับเปิดออก พร้อมเด็กหนุ่มร่างสูงที่กระโดดลงมา

   “หวัดดีครับ” ปันทักทายทุกคน ก่อนจะโบกมือส่งสัญญาณให้คนขับถอยรถเข้าที่จอด

   “พ่อมาส่งเหรอปัน” เมตตาเอ่ยทัก ขณะจ้องมองไปยังคนขับที่เดินตรงมาพร้อมกระเป๋าใบใหญ่สองใบ

   “อ๋อ...ไม่ใช่พ่อปันหรอกพี่” เด็กหนุ่มหัวเราะเสียงใส ทั้งหมดยกมือไหว้ผู้มาใหม่ก่อนปันจะแนะนำต่อ “นี่ลุงปืนครับ”

   คนถูกแนะนำยิ้มให้ทุกคน แล้วพาร่างสูงโปร่งของตัวเองมาหยุดตรงหน้าผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม

"เอ้..." เสียงทุ้มเอ่ยเรียกบก.ของเกย์สเกล ทำเอาพนักงานที่เหลือหูตั้งกันเป็นแถว

ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก คนที่เหมือนจะรู้ตัวว่าถูกทักยังคงนั่งก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ สไลด์ขึ้นๆ ลงๆ จนหน้านิวฟีดเฟซบุ๊กไม่รู้จะโหลดอะไรใหม่ ผู้มาเยือนเปลี่ยนจากยืนเป็นทิ้งตัวนั่งแทรกตรงที่ว่างข้างๆ

คนถูกรบกวนกระเด้งตัวลุกขึ้นยืนก่อนชักสีหน้าหงุดหงิด พี่ปืนส่งยิ้มบางๆ ให้ผู้สังเกตการณ์ทุกคน หากไม่ทันที่สงครามจะเริ่มต้น คนห้ามทัพก็มาถึงเสียก่อน พี่เอสกระโดดลงรถแล้วปรี่ตรงมาหาพี่สาวและเพื่อนทั้งๆ ที่คนขับรถยังจอดรถไม่สนิท

"มาถึงนานยัง" พี่เอสเอ่ยทักแขกรับเชิญของทริป พี่ปืนส่ายหัวก่อนจะถูกพี่เอสลากมายืนอยู่ด้านหน้า

“นี่พี่ปืน เป็นเพื่อนพี่กับพี่เอ้ แล้วก็เป็นลุงของปัน” เด็กๆ ยกมือไหว้ให้พี่ปืนที่ถูกแนะนำอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

"นี่สิปป์ นักเขียน เมต ตากล้อง" พี่เอสชี้ไปยังเด็กสองคนที่ยืนพิงประตูรั้วออฟฟิศ "นี่เก็ต กราฟิก พี่เลี้ยงเจ้าปันนั่นแหละ"

พี่เก็ตทำตาโต พยายามแก้คำว่าพี่เลี้ยง แต่ดูเหมือนพี่เอสจะไม่สนใจ "นี่พุด แอดมิน ที่นั่งอยู่ตรงประตูนั่นเป็ด จี ชิ สามคนนี้เป็นเซลส์"

พี่ปืนรับไหว้แล้วยิ้มตอบกลับมาแบบที่น้องจีแอบกระซิบกับพี่เป็ดว่า 'ยิ้มแฉ่งเหมือนพระอาทิตย์เลย'

“อ่ะ รถมาแล้วๆ เดี๋ยวทยอยขนของขึ้นรถกันเลยนะ” รถตู้ขนาด 12 ที่นั่งมาจอดเทียบด้านหน้าออฟฟิศ พี่เป็ดจึงเดินนำทุกคนยกสัมภาระไปเก็บหลังรถ ในขณะที่เจ้านายใหญ่สุดถือเอากระเป๋าให้ย่อมมาส่งให้พี่เอ้

บก.สาวคนเดียวในแก๊งรับของแล้วหายเข้าไปในออฟฟิศ สักครู่หนึ่งพี่เอ้จึงเดินออกมาด้วยเสื้อกล้ามพร้อมกระโปรงผ้าป่านยาวประมาณน่อง ไม่ลืมหมวกสานสีอ่อนและแว่นกันแดดประจำกาย

“โธ่เอ๊ย... นึกว่าพี่เอ้จะแต่งชุดนั้นไปจริงๆ” สิปป์ศิลป์บ่นอุบอิบ ในขณะที่เมตตาลอบมองคุณลุงของปันอย่างเงียบๆ แม้ไม่ใช่คนช่างสังเกต แต่ก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าระหว่างพี่ปืน พี่เอส และพี่เอ้ มีอะไร ‘บางอย่าง’ ที่ผิดปกติ เหมือนในความสนิทสนมมีความห่างเหินอยู่ในนั้น...


เสียงพูดคุยคึกคักตั้งแต่เริ่มออกรถ ทุกคนต่างงัดไอเท็มฮอตมาโชว์กันเสียงดังลั่น โดยเฉพาะพี่เอสที่เอาของกันน้ำเกือบทุกชนิดในโลกมาอวดเด็กๆ ให้เรียกเสียงฮือฮาได้ทุกชิ้น

“นี่ไม่ใช่นาฬิกาธรรมดา” หัวหน้าแก๊งชูนาฬิกาเรือนพลาสติกสีดำขึ้นมา

“มันกันน้ำได้เหรอฮะ” น้องจีถามเสียงใส “อันนี้จีก็มีๆๆ”

“ถ้าแค่กันน้ำได้พี่จะเอามาทำไมฮึ” พี่เอสโบกของในมือไปมา ก่อนจะพูดต่อ “นี่เป็นนาฬิกาที่กันน้ำได้ลึกระดับ 200 เมตร แล้วมันยังมีโปรแกรมที่บอกเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่ชายหาดฮิตทั่วโลกเกือบ 300 หาดเลยนะ!”

“โหๆๆๆ” ทุกเสียงร้องด้วยความตื่นเต้น

“แล้วไอ้หาดที่เราจะไปมันมีข้อมูลมั้ย” พี่ปืนที่นั่งฟังเพื่อนขายของมานานเอ่ยถามบ้าง

“เอ่อ...” เจ้าของนาฬิกาอึกอัก “ไม่มีอ่ะ”

“โห่ๆๆๆ” คราวนี้เด็กๆ ส่งเสียงโห่แทน ทำเอาเจ้าพ่อไอเท็มต้องรีบแก้ตัว

“เฮ้ยๆๆ แต่พี่ยังมีอีกอย่าง รับรองเด็ดสุด!” พูดจบพี่เอสก็เดินมาเบาะแถวหน้า แล้วก้มลงหยิบบางอย่างจากกล่องโฟมข้างพี่เอ้

“เฮ้ยยย!! คิริน คิริน!” พี่เป็ดส่งเสียงตื่นเต้น พลางรับกระป๋องเบียร์สัญญาณญี่ปุ่นจากพี่เอส

“กูกินได้มะ?” สิปป์กระซิบถามคนข้างๆ เสียงเบา ไม่ใช่ว่าจะขออนุญาตหรืออะไร แต่ไม่แน่ใจว่ากินแล้วจะลำบากเพื่อนร่วมทางหรือเปล่า

ไม่ทันที่เมตตาจะตอบ พี่เอสก็ส่งกระป๋องเย็นเฉียบสีขาวมาให้ “อุเมะชู ชิลๆ ไม่เมาชัวร์”

พอเจ้านายว่าอย่างนั้น สิปป์ศิลป์เลยต้องพลอยรับมาด้วย เพียงเปิดกระป๋อง กลิ่นลิ้นจี่ก็โชยออกมายั่วน้ำลายแล้ว หลังจิบไปสองสามอึก นักเขียนก็บอกตัวเองเลยว่า สบายยย... ซดน้ำผลไม้มาลียังเมาง่ายกว่า ฮิฮิ เอิ๊กกกก....

   พอขึ้นมอเตอร์เวย์มาได้สักพัก น้องจีกับพี่เป็ดก็จัดการแจกจ่ายข้าวเหนียวหมูทอดฝีมือแม่ให้กับทุกคน หลังจัดการข้าวเช้ากันหมดกล่อง ทุกคนก็เหมือนถูกพิษร้ายเข้าครอบงำ เห็นได้ชัดจากอาการตาปรือจนสุดท้ายก็หลับคอพับคออ่อนไปตามๆ กัน เหลือทิ้งไว้เพียงความเงียบ และบก.สาวคนเดียวที่นั่งใจลอยไปตลอดทาง

พี่เอ้หันไปมองน้องชายตัวเองกับใครอีกคนที่นั่งหลับอยู่แถวที่สอง เมื่อวานพอรู้ว่าคนที่ถูกฝังในความทรงจำกำลังจะกลับมา พี่เอ้ก็รู้สึกซวนเซจนต้องพาตัวเองไปค้างคอนโดเพื่อน เพราะบ้านหลังเดิมดูเหมือนจะกลาดเกลื่อนไปด้วยเรื่องราวเก่าๆ จนหายใจแทบไม่ออก


พวกเขาสามคนรู้จักกันสมัยเรียนมหา’ลัย ในยุคที่มีเทปของศิลปินอัลเตอร์เนทีฟเป็นดนตรีประกอบชีวิต การเจอกันของพี่ปืนกับพี่เอ้อาจไม่แตกต่างจากนิยายรักทั่วไป ถ้าอยู่ในยุคสมัยนี้ อาจต้องมีแฮชแท็ก #พี่สโมสาววายกับเพื่อน(น้อง)ชายสุดติ๋ม เกิดขึ้นแน่ๆ

สมัยนั้นมหาวิทยาลัยเพิ่งมีการจัดตั้ง ‘สโมสรนักศึกษา’ ขึ้นมาอย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยให้นักศึกษาบริหารงานเต็มรูปแบบ ต่างจากสมัยก่อนที่อำนาจนักศึกษายังไม่มากมายขนาดนี้ พี่เอ้ เด็กปีสองตัวแทนจากคณะการจัดการโรงแรมถูกเสนอให้เป็นหนึ่งในทีมสโมฯ แม้โดยหลักการแล้ว สโมฯ ควรดำเนินงานโดยเด็กปี 3-4 แต่พี่เอ้คือข้อยกเว้น

หลังเข้าเป็นสมาชิกได้ไม่นาน สโมสรนักศึกษารุ่นใหม่ก็ต้องจัดงานใหญ่งานแรก นั่นคือกีฬาสัมพันธ์ภายใน พี่เอ้และทีมอีก 3 คนได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลกีฬาสามชนิด หนึ่งในนั้นคือฟุตบอล และนั่นเองที่เป็นจุดเริ่มต้นของแฮชแท็กในตำนาน...

“สมัครอะไรคะ” พี่เอ้เงยหน้ามองผู้ชายหน้าติ๋มใส่แว่นกรอบใสตรงหน้า “ถ้าสมัครลีดเดอร์ไปอีกห้องนึงนะคะ”

“เอ่อ...ฟะ...ฟุตบอลครับ” ผู้ชายคนนั้นตอบ ในมือถือใบสมัครไว้มั่น “คณะบริหารครับ”

พี่เอ้มองมืออันเรียวสวย สลับกับมือป้อมๆ พร้อมผิวสัมผัสแห้งกร้านของตัวเอง ในขณะที่หนุ่มติ๋มทำหน้าเลิ่กลั่ก ก่อนยืนยันเสียงแข็ง “นี่รายชื่อนักฟุตบอลทั้งหมดของคณะบริหารครับ”

“อ้อ...” พี่เอ้พยักหน้าหงึกๆ “ค่ะ งั้นวางเลยค่ะ”

หนุ่มแว่นยิ้มแฉ่งตาแทบปิด ซึ่งพี่เอ้แอบกลับไปเขียนลงสมุดไดอารี่ไว้ว่า ‘ไม่รู้พ่อเป็นดวงอาทิตย์หรือไง ถึงได้สว่างไสวนัก’

จริงๆ แล้วพี่เอ้ไม่สันทัดกีฬาอะไรสักชนิด โดยเฉพาะฟุตบอลที่ไม่รู้ว่ามันสนุกตรงไหนกับการดูคนวิ่งไล่ลูกไปมา แต่ด้วยหน้าที่ ก็ทำให้ตนเองต้องมานั่งเกาะขอบสนาม ประหนึ่งติ่งเกาหลีที่ตีบัตรแถวหน้าสุดอย่างในขณะนี้

“พี่ปืน! ทางนี้ ส่งมาๆ!” ผู้ชายเบอร์ 5 ที่ถูกเรียกคือผู้ชายสุดติ๋มที่หน้าเหมือนคุณหมอ ซึ่งต่อมาพี่เอ้รู้แล้วว่าชื่อ ‘ปืน’ ส่วนไอ้เบอร์ 3 ตัวดำเป็นถ่านที่ยืนตะโกนว๊ากๆ อยู่นั่นก็คือไอ้เอส

ลูกกลมๆ ถูกส่งผ่านจากปืนไปสู่ไอ้เอส ก่อนศูนย์หน้าของคณะบริหารจะอัดเข้าประตูไปแบบสวยงาม ทั้งทีมกรูกันเข้าไปหาคนทำแต้ม แต่คนส่งลูกวิ่งไปถึงตัวคนยิงก่อนใครเพื่อน ปืนคว้าไอ้เอสมากอดทั้งตัว ตามมาด้วยบรรดานักเตะทั้งฝูงร่วมรุมทึ้งศูนย์หน้าราวกับนี่คือแต้มที่เอาชนะแมนยู

หลังกีฬามหา’ลัยสิ้นสุดลง พร้อมกับฟุตบอลคณะบริหารฯ ได้ถ้วยแชมป์ไปครอง ไอ้ติ๋มที่ชื่อปืนก็เข้ามาพัวพันในชีวิตสองพี่น้องมากขึ้นๆ กับเอสไม่ค่อยน่าแปลกใจ เพราะเรียนคณะเดียวกัน ถึงจะคนละปี แต่ก็มีได้เจอกันบ่อยๆ จนหลังๆ ก็กลายมาเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันไป แต่กับพี่เอ้ ไม่รู้ทำไมถึงได้เกี่ยวข้องกับไอ้คนชื่อปืนบ่อยนัก

“อ้าว มาทำไมเนี่ย” พี่เอ้ที่กึ่งนั่งกึ่งนอนกดรีโมตทีวีอยู่ในบ้านเอ่ยถามไอ้หน้าพระอาทิตย์ที่เดินตามหลังเจ้าเอสต้อยๆ

ปืนชี้ตัวเองแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่า ‘ผมเหรอ’ ซึ่งพี่เอ้ก็ตอบรับอย่างไพเราะว่า “เออ!”

เอสคว้าคอแขกของบ้านมากอด ก่อนจะตอบพี่สาวแทนคนถูกถาม “คืนนี้จะไปพาร์ที่...”

“แหวะ” พี่เอ้ทำหน้าเหม็นเบื่อใส่ไอ้คนที่สำเนียงดีเกินเหตุ

“นั่นแหละ จะไปปาร์ตี้กัน เลยให้ไอ้ปืนมานอนด้วย นี่เอาของมาเก็บก่อน”

พี่เอ้โบกมือปัดๆ คล้ายไม่สนใจ แม้จะอดแปลกใจไม่ได้ ที่สองคนนั้นสนิทสนมกันถึงขั้นเรียก ไอ้ ซึ่งไม่รู้ว่าปืนมันยอมได้ยังไง ให้เด็กอย่างไอ้เอสนับเป็นเพื่อน

“เฮ่ย!!” เจ้าบ้านสะดุ้ง เมื่อกำลังล้มตัวลงนอน แต่กลับวาดขาไปโดนคนในความคิดอย่างจัง

“ไม่เป็นไรๆ” หนุ่มแว่นที่ยังติ๋มเสมอต้นเสมอปลายยิ้มไม่ถือสา “เอ้นอนเถอะ เดี๋ยวเราไปนั่งตรงนั้นก็ได้”

‘ตรงนั้น’ ที่ปืนว่า คือ ‘พื้น’ แล้วเจ้าบ้านอย่างพี่เอ้จะทำอะไรได้ นอกจากเขยิบให้ผู้มาเยือนได้นั่งโซฟาด้วยกัน

“ขอบคุณครับ” น้ำเสียงสุภาพเอ่ยขึ้น ซึ่งไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่า เจ้าของคำขอบคุณคงมีรอยยิ้มแถมมาให้เหมือนเดิม

“ไปปาร์ตี้อะไรกันเหรอ” พี่เอ้ชวนคุย ขณะที่สายตาก็มองสอดส่ายหาน้องชายไปด้วย

“อ่า...ก็ไม่เชิงปาร์ตี้หรอกครับ มีตติ้งโต๊ะธรรมดาๆ เอ้ไปด้วยกันมั้ย” พูดจบก็ยิ้มอีก ปลูกเป็นไร่ขายเป็นโลสินะ รอยยิ้มเนี่ย

“ขอบใจนะ ไปสนุกกันเถอะ กินเผื่อเราด้วย ฮ่าๆ” แม้กำลังทำทีเป็นสนใจละคร แต่จิตใจมันไม่ยอมจดจ่อพร้อมลูกตา เพราะมันเอาแต่เต้นตึกๆ อย่างกับมีใครมารัวกลองใส่ แถมจะทำอะไรก็ดูขัดๆ เขินๆ ได้แต่ภาวนาให้ไอ้เอสมาลากเพื่อนรุ่นพี่ของมันไปซะที

“ขอบคุณนะที่คุยกับเรา” อยู่ๆ แขกของบ้านก็พูดขึ้น พี่เอ้หันไปทำหน้าตื่นตะลึง “เรารู้ว่าเอ้คงไม่ค่อยชอบเราเท่าไร แต่เราก็อยากเป็นเพื่อนกับเอ้นะ”

ในชีวิตนี้พี่เอ้มีเพื่อนหลายคนหลายกลุ่มเพราะชอบทำกิจกรรม แถมยังเป็นคนร่าเริงเวอร์ๆ พูดจาเสียงดังโผงผาง อยู่กับผู้หญิงก็เป็นหัวโจก อยู่กับผู้ชายก็เหมือนเป็นเพื่อนผู้ชายอีกคน และแน่ใจว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเกลียดใครแบบจริงๆ จังๆ

“คือ...” พี่เอ้อึกอัก “ไม่รู้ว่าทำไมปืนเข้าใจไปอย่างนั้น แต่เราไม่ได้ไม่ชอบปืนนะ แบบ...เฮ้ย มีอะไรก็คุยกันได้ เพื่อนกันๆ”

นั่นอาจเป็นคำที่ผิดพลาดที่สุดที่พี่เอ้เคยพูดมา ...การเปิดให้ผู้ชายที่ยิ้มสว่างไสวเหมือนดวงอาทิตย์เข้ามาในชีวิตอย่างจริงจัง


(ต่อด้านล่าง)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-04-2014 00:35:50 โดย lykar »

ออฟไลน์ lykar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-0
รถตู้จอดพักที่ตลาดสะพานปลาเพื่อให้สมาชิกจับจ่ายของทะเลสดๆ ก่อนเข้าที่พัก พี่เอ้รับหน้าที่ปลุกบรรดาแก๊งลิงให้ตื่นจากการหลับไหล หลังลงมติกันว่ารอไปกินข้าวที่ที่พักทีเดียว ทั้งหมดจึงลงมาเดินเลือกซื้อของพร้อมขนมเล็กๆ น้อยๆ เป็นเสบียงรองท้อง

“อยากกินกุ้งโอเชี่ยนอ่ะ” พี่เอสบอกกับเพื่อนที่ยืนเลือกอาหารทะเลอยู่ข้างๆ พี่ปืนหัวเราะเสียงเบา แต่ก็ยอมละมือจากการเลือกปลาหมึกไปเป็นกุ้งลายเสือแทน

“ไหนว่าเลิกกินกุ้งแล้วไงไอ้เอส” พี่เอ้อดแขวะไอ้น้องชายไม่ได้

“ถึงผมไม่กิน พี่ก็กินใช่มั้ยล่ะ” พี่เอสโต้กลับแบบรู้ทัน

“ไอ้เอส!”

“เดี๋ยวผมทำเผื่อทุกคนเลยนะ ไม่ต้องทะเลาะกันนะ” คนกลางพูดประนีประนอมก่อนสงครามระหว่างพี่น้องจะเริ่มต้นขึ้น บางทีพี่ปืนก็เริ่มคิดว่า สองพี่น้องที่อายุ 20 ณ ตอนนั้น ยังคงอายุเท่าเดิมมาจนถึงตอนนี้ ส่วนอายุที่ใกล้ถึงเลข 4 เป็นเพียงตำนานเล่าขานลอยลม

หลังแพ็กของสดของแห้งใส่รถเรียบร้อย คณะเดินทางก็มุ่งหน้าไปยังรีสอร์ทซึ่งอยู่ห่างไปอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมง พี่เอสกับพี่ปืนคุยฟุ้งว่านี่เป็น “The lost paradise in Rayong” ที่เขาสองคนค้นพบโดยบังเอิญ จากการขับรถหลงทางของพี่ปืน เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว

“ป่านนี้รีสอร์ทไม่เก่าจนหยากไย่ขึ้นแล้วเหรอพี่” สิปป์เอ่ยถาม ในมือถือกระทงทอดมันกุ้งไม่ห่าง

“ไม่ใช่เราเข้าไปลั้นลากันสามวัน พอนาทีสุดท้ายที่เช็กเอาท์ ทั้งรีสอร์ทเปลี่ยนเป็นบ้านร้าง ส่วนกุ้งปลาที่เรากินก็กลายเป็นหนอนกับใบไม้ บรึ๋ยยย” น้องจีผู้สร้างเสริมจินตนาการให้ชีวิตเล่าเป็นฉากๆ

“พี่เป็ดเปิดพี่มากพระโขนงให้ดูทุกคืนใช่มั้ยจี” พี่เก็ตผู้นั่งเงียบมาตลอดทางถึงกับต้องเอ่ยปากถาม

“เฮ่ยๆ อย่ามากล่าวหา” คนถูกพาดพิงร้อนตัว “ให้ดูแค่อาทิตย์ละครั้งเท่านั้นแหละ ถ้าฉากไหนชอบมากหน่อย จีมันก็แค่กดเล่นวนซ้ำไปซ้ำมา โอ้ยยย...ตีพี่ทำไมอ่า”

มือเล็กฟาดกับแขนของคนปากโป้งไม่ยั้ง เรื่องอะไรจะต้องมาเผาเขาให้คนอื่นฟัง ก็คนมันชอบอ่ะ กดดูซ้ำๆ ไม่เห็นเป็นไรเลย กดดูแล้วก็พูดตาม นี่พูดตามได้เกือบทุกฉากแล้วนะ เจ๋งจะตาย

“เดี๋ยวรอดูแล้วกัน ถึงแล้วครับ” พี่ปืนพูดเสียงนุ่ม ในขณะที่รถตู้ตีไฟเลี้ยวเข้าสู่ถนนเส้นเล็กๆ ที่มีป้ายวงกลมห้อยขนนกเขียนไว้ว่า “Dream Catcher Camp”

พนักงานต้อนรับในชุดผ้าป่านสีขาว ตกแต่งลวดลายสีแดงเล็กๆ ยืนรออยู่แล้ว ณ จุดจอดรถหน้าอาคารเช็กอิน ทันทีที่สมาชิกก้าวลงมาจากรถ ดรีมแคชเชอร์อันเล็กก็ถูกคล้องลงที่คอของแขกผู้มาเยือนทีละคน ก่อนทั้งหมดจะถูกพาไปยังอาคารรับรอง เพื่อรับกุญแจห้องพัก พี่พุดทำหน้าที่กรอกข้อมูลสมกับเป็นแอดมินบริษัท ในขณะที่คนอื่นๆ กำลังตื่นเต้นกับ Welcome Drink ที่นำมาเสิร์ฟ

“สีแดงเหมือนเลือดเลยอ่ะ” น้องจีทำหน้าแหยๆ ไม่กล้าดื่มน้ำสีแดงคล้ำในมือ

“นี่คือ Bloody Valentine ค่ะ จัดทำพิเศษเฉพาะช่วงนี้” พนักงานสาวอธิบายด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นแขกยังไม่ยอมดื่ม จึงพูดขยายความต่อ “จริงๆ คือน้ำกระเจี๊ยบใส่กลิ่นกุหลาบค่ะ”

พอได้ยินอย่างนั้น ทุกคนเลยถอนหายใจแล้วหยิบแก้วกลมๆ ตรงหน้าขึ้นมาจิบ รสหวานอมเปรี้ยวตามแบบฉบับของน้ำกระเจี๊ยบ เข้ากันได้ดีกับกลิ่นกุหลาบหอมๆ สมกับเป็นเครื่องดื่มต้อนรับที่สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกพบได้ดีจริงๆ

พี่พุดเดินมาหาพร้อมกุญแจหลายดอกในมือ ก่อนจะแจ้งให้ทุกคนทราบ “ที่พักของเราอยู่โซน SEA หันหน้าเข้าทะเลเลยแหละ”

“เย้! เย้!” สมาชิกส่งเสียงดีใจ ก่อนจะทยอยกันเดินตามพนักงานที่พาเดินเลาะสวนเล็กๆ เพื่อไปยังที่พัก ระหว่างทางมีเสียงคลื่นสาดซัดดังคลอกับเสียงกระดิ่งกรุ๊งกริ๊งเคล้าลมทะเล ให้ความรู้สึกผ่อนคลายสมกับการมาพักผ่อนอย่างแท้จริง

โซน SEA ที่พี่พุดหมายถึง จัดเป็นคล้ายๆ หมู่บ้านเล็กๆ มีป้ายต้อนรับพร้อมซุ้มไม้เก๋ๆ ทางเดินจากที่ปูด้วยอิฐตัวหนอนเปลี่ยนเป็นก้อนกรวดอัดทรายลวดลายสวยงาม จัดเป็นทางเดินตัดผ่านบ้านแต่ละหลัง ซึ่งตอนนี้ทุกคนกำลังส่งเสียงอื้ออึงกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า นั่นคือบ้านทรงกรวยที่จำลองแบบมาจากกระโจมของชาวอินเดียนแดงตั้งเรียงสลับกัน โดยมีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นโดยรอบ จนลืมไปเลยว่ากำลังอยู่ในสภาวะเคล้าแสงแดดยามเที่ยงวัน 

แก๊งเกย์สเกลจัดสรรบ้านพักโดยสองหลังเล็กที่นอนได้หลังละสี่คน แบ่งเป็น พี่เป็ด จี พี่ชิ และพี่พุด ส่วนอีกหลังเป็น สิปป์ เมต พี่เกต และปัน สำหรับบ้านหลังใหญ่ที่มีสองห้องนอน ยกให้รุ่นใหญ่อย่างพี่ปืน พี่เอส และพี่เอ้ ซึ่งบ้านหลังนี้จะเป็นทรงคล้ายเต็นท์สี่เหลี่ยม และมีห้องโถงกลาง เหมาะสำหรับรวมพลได้ในยามค่ำคืน และเมื่อพนักงานแจ้งว่าจะนำอาหารมาเสิร์ฟให้ที่ห้องโถงกลางของบ้านใหญ่ในอีกสิบห้านาทีข้างหน้า ทุกคนจึงแยกย้ายกันไปจับจองที่นอน บ้างก็ถ่ายรูปแอ็กท่ากับของตกแต่งน่ารักๆ ทั่วบริเวณ

พี่เอ้หิ้วกระเป๋าตัวเองเข้าห้องที่เล็กกว่า ปล่อยให้สองหนุ่มพักห้องใหญ่ด้วยกันไป เสร็จแล้วก็พาตัวเองออกไปนั่งเล่นที่ชิงช้าไม้ ซึ่งแขวนกับกิ่งต้นไม้ใหญ่ ลมทะเลพัดค่อนข้างแรง หากก็เย็นสบายจนเริ่มรู้สึกง่วงเคลิ้ม

“นั่งด้วยสิ” พี่ปืนเอ่ยขออนุญาต ก่อนเอื้อมมือหยุดชิงช้าที่แกว่งเบาๆ นั้น คนบนชิงช้าไม่ตอบ แต่ยอมขยับไปชิดด้านขวา ให้อีกคนทิ้งตัวลงนั่งได้สบายๆ

“อยากรู้จังว่าเอ้จะพูดกับผมคำแรกว่าอะไร” เสียงนุ่มเอ่ยติดตลก ขณะที่เริ่มออกแรงแกว่งชิงช้า

“กลับมาทำไม” ประโยคแรกที่พี่เอ้พูดกับพี่ปืนโดยตรง และเป็นประโยคที่พี่ปืนคิดไว้อยู่แล้วว่าต้องโดนถาม

“ไม่รู้สิ” อีกฝ่ายตอบแล้วก็เงียบเสียงลงไปสักพัก “ผมว่าเราจากกันไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้คำตอบอะไรเลยนะ เอ้ว่ามั้ย”

“สำหรับเรามันไม่มีประโยชน์อีกแล้ว...” พี่เอ้พูดขึ้นขณะทอดสายตาไปยังผืนทะเลที่มองเห็นไม่ไกล

“ปืนรู้ว่าเอ้ยังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ทุกวัน” สรรพนามถูกเปลี่ยนกลับไปเป็นเหมือนวันวานที่คุ้นเคย หากแต่อีกคนกลับยังคงน้ำเสียงเฉยชา

“เราลืมมันไปหมดแล้ว”

 “ไม่จริงหรอก...” เสียงนุ่มพูดสวนขึ้นมา หากไม่ทันได้อธิบายอะไรต่อ เด็กหนุ่มมาดเซอร์ที่น่าจะเป็นตากล้องก็เข้ามาขอถ่ายรูปพวกเขา ตอนแรกบก.เอ้ทำท่าจะลุกหนี แต่ก็โดนเด็กๆ คนอื่นบอกให้นั่งอยู่กับที่ เป็นนางแบบให้กับอีกหลายกล้องที่ถือโอกาสมาเก็บภาพ และสุดท้ายก็เนียนเชิญพวกเขาให้ลุกออกไป เพื่อให้คนอื่นๆ ได้ถ่ายภาพกับมุมฮอตนี้บ้าง จนกับข้าวเริ่มทยอยมาส่ง สมาชิกจึงต้องหยุดกิจกรรมหน้ากล้องไว้ชั่วคราว

หลังจัดการมื้อเที่ยงกันอย่างอิ่มเอม พี่เอสก็นำทีมพาเด็กๆ ลงไปยังหาดทรายหน้าที่พักทันที แดดยามบ่ายไม่ร้อนเท่าที่คิด ประกอบกับมีลมเย็นๆ พัดผ่านตลอดเวลา ทำให้กิจกรรมชายหาดดำเนินไปอย่างสนุกสนาน ตอนนี้นักบอลเก่าอย่างพี่เอสและพี่ปืน กำลังคืนสนามลงเตะกับเมตตา สิปป์ ปัน และเก็ต ส่วนคนที่เหลือก็ตามบก.เอ้ลงไปลอยคอยโต้คลื่นอยู่กลางทะเล

เสียงเฮบนชายหาดทำให้พี่เอ้ต้องหันไปมอง จึงได้เห็นน้องชายตัวเองวิ่งถอดเสื้อแล้วทิ้งตัวไถลลงกับพื้นทราย ก่อนตามมาด้วยการโถมตัวใส่ของพี่ปืน ตอนนี้ผู้ชายตัวยักษ์สองคนเลยนอนเกลือกกลิ้งส่งเสียงโห่ร้องฉลองความยินดีกันอย่างบ้าคลั่ง

ภาพตรงหน้าทำให้นึกถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาขึ้นมาอีกครั้ง ปืนไม่ได้เข้ามาเป็นแค่เพื่อนของพวกเขาสองคน แต่ยังเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวด้วย เป็นคนที่มานั่งกินข้าวในบ้าน เป็นคนที่ขับรถพาแม่ไปช็อปปิ้ง...เป็นคนที่สัญญาว่าจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป


หลังเรียนจบ เอสกับปืนก็ไปต่อป.โทที่อเมริกาด้วยกัน ส่วนพี่เอ้เริ่มต้นทำงานโดยการดูแลธุรกิจทัวร์ของที่บ้าน เนื่องจากน้าสาวกำลังตั้งท้อง และคงไม่มีเวลามาบริหารอย่างเต็มตัวเหมือนเดิม ส่วนแม่ก็อายุมากขึ้นทุกวัน ช่วงนี้พี่เอ้เลยต้องทุ่มเทเวลาไปกับการเรียนรู้มากมาย ทั้งการสร้างคอนแท็กลูกค้า และการหาที่เที่ยวใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าหลายๆ กลุ่ม จนรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ไอ้เอสกับปืนบอกให้ไปงานรับปริญญา

พี่เอ้พาลูกทัวร์ไปอเมริกาหลายครั้ง แต่น้อยครั้งนักที่จะได้เจอกับน้องชายและเพื่อน การไปครั้งนี้จึงถือเป็นการพบเจอกันอย่างเป็นทางการหลังไม่เจอกันนานถึงสองปี ก่อนงานรับปริญญาสองอาทิตย์ ทันทีที่เท้าพี่เอ้แตะพื้นดินอเมริกา พี่เอสและพี่ปืนก็โฉบตัวพาไปเที่ยวด้วยกันแบบนอนสต็อป ข้ามไปรัฐนั้นรัฐนี้ บางทีก็แวะไปประเทศข้างๆ พี่เอ้บอกไม่ถูกจริงๆ ว่าความคิดถึงกันมันมากมายเพียงใด แม้ไม่มีใครพูด แต่เชื่อว่าพวกเขาทุกคนรับรู้มันได้เช่นเดียวกัน

หลังเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางอันยาวนาน พี่เอ้ก็ได้กลับมาพักผ่อนที่โรงแรมใกล้มหา’ลัยที่น้องชายและเพื่อนเรียนเสียที หากไอ้ตัวดีทั้งสองคนก็ยังไม่วายแอบมาซุกหัวนอนอยู่ด้วย พอเริ่มมืด พี่เอสที่เที่ยวออกรสออกชาติกว่าใครเพื่อนก็ส่อแววป่วย พี่เอ้กับพี่ปืนเลยตกลงกันว่าจะไปมินิมาร์ท เพื่อหาซื้อของกินและยาลดไข้ด้วย

“สนุกเนอะ” พี่ปืนพูดเบาๆ ขณะลงลิฟต์

“มากกกกก เราว่าสิบวันที่ผ่านมาเราได้เที่ยวเยอะกว่าจัดทัวร์ทั้งชีวิตแน่ๆ” พี่เอ้ตอบอย่างอารมณ์ดี ทำเอาคนได้ฟังหัวเราะไปด้วย
ระหว่างก้าวเท้าออกจากลิฟต์ พี่ปืนก็คว้ามือพี่เอ้เพื่อดึงให้หลบคนที่เดินสวนเข้ามา วูบนั้นเองที่พี่เอ้รู้สึกถึงหัวใจที่เต้นผิดจังหวะ เมื่อเจ้าของมืออุ่นยังไม่ยอมปล่อยจากการเกาะกุมจนถึงร้านมินิมาร์ท พี่เอ้ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเกิดอะไรขึ้น ตลอดเส้นทางสั้นๆ นั้นดูเหมือนช่างยาวไกล ไม่มีบทสนทนาสักคำระหว่างพวกเขาสองคน รู้แต่เพียงว่ามือนิ่มของคนข้างๆ นั้นเต็มไปความความสั่นไหวไม่ต่างกัน

พอกลับมาถึงห้องพัก พี่เอ้ก็ปลุกน้องชายขึ้นมากินขนมปัง ก่อนจะให้พี่ปืนรับหน้าที่ป้อนยา ส่วนตัวเองถอยออกมานั่งอยู่ที่โซฟา มองดูเพื่อนสนิทหลอกล่อคนกินยายากต่อไป

“ไอ้ปืน กูบอกแล้วว่าไม่กินยี่ห้อนี้ เม็ดมันใหญ่ไปอ่า” คนป่วยเริ่มออกฤทธิ์ คว้าผ้าห่มมาพันตัว

“เดี๋ยวก็ไปรับปริญญาไม่ได้หรอกมึง กินเร็วๆ เลย” พี่ปืนยื้อตัวคนในผ้าห่มออกมา แล้วจัดการบีบปากที่เม้มแน่นให้อ้าออก พี่เอ้มองดูท่าทางฮาร์ดคอร์ของทั้งคู่แล้วก็อดขำไม่ได้

“จะกินไม่กิน ถ้าไม่กินกูจะปล่อยมึงตายอยู่ในนี้แหละ เอ้..เราไปดริงค์กันเถอะ” ประโยคหลังพี่ปืนหันมาพูดกันพี่เอ้ แล้วทำท่าจะลุกออกไปกันจริงๆ คนป่วยเลยรีบตะครุบแขนเพื่อนสนิท ก่อนจะยอมกินยาแต่โดยดี

พี่ปืนมองหน้าแสนพะอืดพะอมของคนป่วยแล้วก็รู้สึกสงสารนิดๆ พอพี่เอสกินยาจนหมด ริมฝีปากอุ่นจึงประทับเบาๆ บนหน้าผากร้อนของคนบนเตียงเป็นรางวัล

“เก่งมากๆ เห็นมั้ย กินไปก็ไม่เห็นจะตายเลย” พูดพลางเอื้อมมือมาลูบผมสีเข้มเหมือนปลอบใจเด็กน้อย

พี่เอสคว้ามือนั้นมาแนบแก้มแล้วหลับตาลง พึมพำในลำคอว่า “ไม่ให้ไป...ไม่ให้ไป”

ความรู้สึกบางอย่างจู่โจมพี่เอ้จนไม่อาจทนนั่งมองภาพนั้นได้ ทั้งๆ ที่คุ้นเคยกับความใกล้ชิดของน้องชายและเพื่อนสนิทเป็นอย่างดี หลายๆ ครั้งยังทั้งล้อทั้งแช่งให้มันได้กัน แต่ไม่รู้ทำไมครั้งนี้มันถึงต่างออกไป ยิ่งเห็นมืออุ่นคอยแตะตัวน้องชายด้วยความเป็นห่วง ภาพเมื่อตอนที่มือคู่นั้นกุมมือตนเองเมื่อตอนหัวค่ำยิ่งฉายชัด ก่อนคลื่นความเจ็บปวดจะค่อยๆ สาดซัดจนหัวใจรู้สึกชา

นั่นเป็นครั้งแรก ที่พี่เอ้รู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเขาสามคนจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว...



TBC.


คนเขียนกลับมาแล้วววววววว
ตอนนี้หายไปนานเลย เนื่องจากคนเขียนต้องเขียนตอนล่าสุดนี้ใหม่ค่ะ
หลังจากความเบลอ ที่เซฟงานทับไฟล์ตอนใหม่ที่เขียนเกือบเสร็จแล้ว T^T
ทำใจอยู่นานมาก ไปรื้อเมล์ที่เคยส่งหาตัวเองอยู่หลายวัน เอามารวมๆ กันแล้วก็เขียนใหม่จนสำเร็จ (ซะที) ฮืออออ

ตอนนี้ยาวมาก เพราะหาที่ตัดจบไม่ได้ 5555555
ซึ่งพลพรรคชาวแก๊งจะยังอยู่ที่ทะเลกันต่อในตอนหน้า
และความสัมพันธ์ของรุ่นใหญ่จะเป็นยังไง โปรดติดตามกันต่อไปนะคะ

เนื่องจากการหายไปนานมากกกก ประกอบกับตอนล่าสุดนี้เราไปเที่ยวที่ Dream Catcher Camp กัน
คนเขียนเลยมี Dream Catcher อันน้อยมาแจก เป็นการตอบแทนนักอ่านค่ะ



กติกาง่ายๆ

- กดไลค์เพจ https://www.facebook.com/lykarfanpage (สำหรับคนที่ไลค์แล้ว ให้ข้ามไปกติกาข้อสองเลยค่ะ)
- กดไลค์สเตตัสการแจกของรางวัล เพื่อเป็นการบอกเราว่าคุณต้องการร่วมสนุกกับกิจกรรมนี้ค่ะ
  ใครจะเมนต์หรือไม่เมนต์ก็ได้ ไม่ซีเรียสจ้า :)

ระยะเวลาการร่วมสนุก วันนี้ - 19 เมษายน 2557
ประกาศผลวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน 2557 โดยการสุ่มชื่อคนที่กดไลค์ จำนวน 2 รางวัลค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-04-2014 00:35:12 โดย lykar »

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
รักสามเศร้าชัดๆ เห้ออออออ

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
โอย

ปมมมมมมม


สรุปพี่เอสกับพี่ปืนนี่ยังไงงงงง



ปล. อยากได้ดรีมแคชเชอร์!

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
ขอเวลาทำใจกับรุ่นใหญ่แป้บบบบบ

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
ความสัมพันธ์ของรุ่นใหญ่นี่ช่างคลุมเครือเหลือเกินนน
รอ รอตอนต่อไปนะคะ

ขอบคุณคนเขียนที่มาต่อค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ beautifuldead

  • wandered lonely as a cloud..
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
อ้าวเฮ้ย รุ่นใหญ่มาช้าๆ แต่แซ่บและดราม่าล้ำหน้าใครเลย
อะไรยังไง อะไรยังไง.....

ปืนกับเอสนี่ไม่ธรรมดาแน่นอน โฮกกก

กอดพี่เอ้เบาๆ แล้วเฟดออกมาเป็นสาววายด้วยกันนะคะพี่ T__T

ออฟไลน์ ToeyTato

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
มันค่อนข้างบีบหัวใจนะ หน่วงเชียว เอาจริงๆสงสารบก.เอ้มากเลยอ่ะ แบบเข้าใจแล้วก็พอรู้นะ หน่วงง่ะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
หน่วงงงงง
ดราม่า
สงสารพี่เอ้

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
มันอะไรยังไงเนี่ย
เท่าที่เห็นและเดา
ทางหนึ่งคือเอสปืนมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง แล้วบก.เอ้แอบรักปืน
อีกทางคือปืนเองก็มีใจให้เอ้ด้วย แต่ไม่ยอมปล่อยมือจากเอส
ดังนั้นบก.เอ้เลยเป็นฝ่ายฉีกตัวเองออกจากความคลุมเครือนี้เอง
ส่วนนายเอสไม่รู้เลยเหรอว่าพี่สาวของตัวเองคิดอะไรอยู่ หรือรู้แต่ไม่ยอมปล่อยมือ
ก็ใช่ว่าทุกคนจะยอมสละของรักให้กันได้ง่าย ๆ นี่นะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด