รถเต่าคันเดิมจอดนิ่งยังลานจอดรถตามแผนที่ที่ได้รับมา ก่อนสมาชิกบนรถจะก้าวลงมาพร้อมข้าวของเต็มสองมือ สิปป์ศิลป์หิ้วของสดทั้งผักทั้งผลไม้พะรุงพะรัง ในขณะที่เมตตากำลังใช้ไหล่หนีบโทรศัพท์พลางเจรจากับปลายสายไปด้วย
“ตึก A ชั้น 16 ห้อง 1612 นะพี่? เฮ้ยยย แล้วตึกเอนี่คือตึกไหน อะไรๆ ใครมันจะไปรู้ ผมไม่ได้มาทุกวันเหมือนพี่นี่ แหม่ๆ หยั่มมาๆ”
สิปป์ส่ายหัวกับการโวยวายผ่านสายโทรศัพท์ของคนข้างๆ บางทีเมตตาก็ดูเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับพี่เป็ด แต่บางทีก็กัดกันจนแทบจะเอาน้ำสาด อย่างนี้มันน่าจะขังให้อยู่ด้วยกันสักสองวัน เผื่อจะคบกันแบบปกติได้บ้าง
“ตกลงว่าไง” พอเมตตาวางสายปุ๊บ สิปป์ก็เอ่ยถามคำตอบทันที เพราะเริ่มเมื่อยกับข้าวของที่ถืออยู่แล้ว
“มาทางนี้ๆ” เมตตาชี้ไปทางด้านซ้ายมือ พลางคว้าเอาถุงองุ่นโลกว่าๆ จากอีกคนมาถือไว้เอง
ตอนนี้พวกเขาสองคนอยู่ที่คอนโดของน้องจี ซึ่งเจ้าของห้องชวนมากินข้าวด้วยกันเนื่องในวันศุกร์แห่งชาติ เพราะยังไงปกติที่ออฟฟิศก็มักจะไปหาร้านนั่งดื่มชิลล์ๆ กันอยู่แล้ว เย็นนี้แม่น้องจีเลยทำกับข้าวให้สองสามอย่าง ส่วนสมาชิกที่เหลือก็ช่วยกันซื้อของที่อยากกินมากันเอง
ก๊อก ก๊อก “เข้ามาเลยคร๊าบบบบ” คนเปิดประตูคือพี่เป็ดที่ทำตัวประหนึ่งเป็นเจ้าของห้องเสียเอง ด้วยความหมั่นไส้ เมตตาเลยโยนถุงของกินที่ซื้อมาไปให้ผู้ชายที่ยืนมั่นหน้าอยู่ข้างๆ
“ไอ้นี่!! โยนมาได้ เกิดกูตกใจเดาะแตงโมเป็นตะกร้อทำไง” สิปป์ศิลป์หัวเราะก๊ากกับสองหนุ่มที่กัดกันไม่เลิก ก่อนจะพาตัวเองพุ่งไปยังโซฟานิ่มๆ ภายในห้อง จึงได้เห็นว่าน้องจีกำลังขะมักเขม้นกับการขนย้ายเสบียงมาวางบนโต๊ะ แต่นอกเหนือจากกิจกรรมที่ทำอยู่นั้น สิ่งที่สะดุดตาอีกอย่างก็คือ...
“นี่คือพี่เป็ดมันบังคับให้ใส่ใช่ป่ะ” มือขาวกระตุกที่ปมของผ้ากันเปื้อนที่น้องจีใส่อยู่ ดูแว่บแรกนี่ไม่นึกถึงอะไรอื่นเลย นอกจากภาพที่เคยเห็นผ่านไฟล์วิดีโอหลายสิบคลิป!!
“เฮ้ยๆๆ เอามือออกจากสะโพกน้องจีเลยไอ้สิปป์!!” คนในบทสนทนารีบรุดมาที่เกิดเหตุ ก่อนจะผลักมือของนักเขียนออกจากแฟนตัวเองอย่างรวดเร็ว
“เยอะไป๊!” สิปป์อุทานลอยๆ แต่พอพี่เป็ดเผลอก็รีบดึงแขนน้องจีอย่างแรงจนคนถูกดึงล้มลงบนโซฟาด้วยกัน
“ไอ้สิปป์!!” พี่เป็ดฉุดกระชากไอ้ตัวแสบที่กำลังกอดก่ายเจ้าของห้องด้วยใบหน้ายียวนชวนถีบ
“น้องจีตัวนุ๊มนุ่มมมม” แม้จะโดนพี่เป็ดทำร้ายร่างกายอยู่ แต่สิปป์ก็จะไม่หยุดกวนอารมณ์อีกฝ่าย สองแขนคว้าตัวคนกลางเข้ามากอด และยังทำท่าจะหอมแก้มเป็นของแถม ส่วนน้องจีก็เอาแต่หัวเราะชอบใจ และกอดเพื่อนร่วมงานกลับอีกด้วย
“มึงมาจัดการแฟนมึงดิ๊!!” พี่เป็ดกวักมือเรียกเมตตาที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ใกล้ๆ
อีกคนพยักหน้ารับแบบเซ็งๆ ก่อนจะเดินเข้ามาหาไอ้ก้อนกลมๆ บนโซฟา “ไปๆ เลิกเล่นได้แล้ว ทำแบบนี้พี่เป็ดแกลำบากใจนะ”
พูดจบก็คว้าตัว ‘น้องจี’ ลากออกมาจากจุดเกิดเหตุ แถมทำท่าจะพาเดินไปทางห้องนอนอีกด้วย ถ้าไม่ติดว่ามีเสียงเป็ดที่กำลังจะขาดใจโหยหวนเสียก่อน
“โธ่...น้องจี๊! มึงก็ยอมเค้าเนอะ! ฮือๆๆ”
ไม่นานหลังจากนั้นสมาชิกเกย์สเกลก็ทยอยเดินทางมากันจนเกือบครบ ห้องพักของน้องจีเลยดูแคบไปถนัดตา จนสุดท้ายต้องเลื่อนโซฟาไปชิดกำแพง แล้วทั้งหมดก็ลงมานั่งพื้นล้อมวงกินข้าวกันอย่างสนุกสนาน
“พี่เอสกับพี่ปืนไม่มาเหรอพี่” สิปป์เอ่ยถามบก.ที่กำลังปั้นข้าวเหนียวจิ้มกับส้มตำอยู่ข้างๆ
“อืม” คนถูกถามรับคำ “มีประชุมกับบอร์ดทั้งคู่เลย”
“เสียดายๆ” พี่เป็ดบ่นอุบอิบ ขณะตักกุ้งเผาส่งให้แม่น้องจี “แม่อย่าเพิ่งกินหัวกุ้งดีกว่าเนอะ ระดับไขมันยังไม่ปกติเท่าไร”
คนในวงแอบสบตากันไปมา มันคงไม่แปลกอะไรหากประโยคนั้นลูกชายตัวจริงจะเป็นคนพูด แต่กลับกลายเป็นตาลุงที่เนียนเป็นคนในครอบครัวที่เอ่ยออกมาหน้าตาเฉยนี่แหละ เลยทำเอาเพื่อนๆ หมั่นไส้กันเป็นแถว
“เออ แล้วพี่เก็ตจะมามั้ยวันนี้” สิปป์เอ่ยถามเมื่อนึกขึ้นได้ว่ายังขาดสมาชิกอีกคน เมตตาเลยส่งไลน์ไปตามในกลุ่ม สักพักกราฟิกจึงตอบกลับมาว่า ‘otw’
“มันจะพิมพ์ให้ยาวกว่านี้ไม่ได้แล้วใช่มั้ย” ใครสักคนออกความเห็น
“นี่ก็ยาวกว่าเวลาพี่แกพูดปกติแล้วนะ” อีกคนตอบ แล้วทั้งหมดก็หัวเราะกันลั่น ก่อนวีรกรรมของพี่เก็ตจะถูกขุดขึ้นมารีเพลย์ โทษฐานที่ชักช้ากว่าชาวบ้าน
Rrrrrrrrrrr โทรศัพท์ของพี่เป็ดดังขึ้นระหว่างที่พี่พุดกำลังเลียนแบบคำพูดของพี่เก็ตตอนทวงเงินเดือน เจ้าของโทรศัพท์ยกมือเป็นเชิงขอโทษ ก่อนพาร่างตัวเองออกไปนอกห้อง น้องจีแอบมองตามด้วยสายตากังวล ซึ่งคนที่จับความรู้สึกนั้นได้ก็คือนักเขียนที่นั่งอยู่ตรงข้ามนั่นเอง
‘เป็นไรป่าวจี’ ข้อความจากสิปป์ถูกส่งมาทางเฟซบุ๊ก น้องจีเลยหันไปมองหน้าคนส่งซึ่งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ตีเนียนคุยกับคนอื่นไปเรื่อย
‘พี่เป็ดดูแปลกๆ วันนี้ออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกบ่อยมากเลย’
‘จริงดิ่ อย่าเพิ่งคิดมากนะ ไว้รอถามพี่เป็ดให้ชัวร์ดีกว่า’ อีกคนแนะนำ
‘โอเค’
นักเขียนส่งสัญลักษณ์อมยิ้มไปให้ ซึ่งคนรับกลับยิ้มตอบกลับมาแบบตัวเป็นๆ สิปป์เลยหัวเราะแล้วยิ้มตอบกลับไปอีกที ทั้งหมดนี้แม้จะเกิดขึ้นในเวลาเพียงเสี้ยววิ แต่เชื่อเถอะว่าไม่มีทางรอดพ้นสายตาของเมตตาไปได้ เพราะเมื่อรู้ตัวอีกที วงแขนแข็งแรงก็คว้าหมับเข้าที่ไหล่ของคนข้างๆ ก่อนจะดึงร่างในอ้อมแขนเข้ามาใกล้ๆ
“กูหึงนะ” เสียงกระซิบแผ่วเบาข้างหูทำเอาใบหน้าขาวของคนฟังขึ้นสีแดงระเรื่อแบบที่ตัวเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัว และก่อนที่จะตกเป็นเป็นเป้าสายตาของคนรอบวง เมตตาก็คลายวงแขนออก เหลือเพียงฝ่ามือที่วางลงบนไหล่ของสิปป์ศิลป์ ซึ่งมองดูแล้วเหมือนเพื่อนกอดคอกันธรรมดา
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง เจ้าของห้องตัวจริงจึงลุกขึ้นไปเพื่อเปิดประตู ซึ่งคนในวงพึมพำว่า พอนินทาพี่เก็ตปุ๊บ มันก็มาถึงเลย
น้องจียังติดเสียงหัวเราะอยู่ในลำคอขณะหมุนลูกบิด หากเมื่อพบคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเท่านั้น สีหน้าของคนตัวเล็กก็แปรเปลี่ยนเป็นตกตะลึงทันที
“คุณ...คุณป้า ส...สวัสดีครับ” มือเรียวยกมือขึ้นไหว้โดยอัตโนมัติ เมื่อเห็นว่าผู้มาเยือนรายใหม่คือแม่ของพี่เป็ดซึ่งไม่คาดคิดว่าจะเจอในตอนนี้
“ตาเป็ด น้องจีช็อกไปแล้วลูก!!” คุณแม่พี่เป็ดหัวเราะขบขันพลางเอื้อมมือมาลูบหัวของคนที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงหน้า เจ้าของบ้านที่เริ่มตั้งสติได้จึงกุลีกุจอเชิญแขกเวรี่วีไอพีเข้ามาข้างใน
สมาชิกที่ชะเง้อคอมองอยู่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นรีบยกมือไหว้ผู้มาใหม่โดยพร้อมเพรียงกัน ก่อนจะเห็นว่าด้านหลังคุณแม่มีพี่เป็ดและพี่เก็ตเดินหิ้วของตามมาด้วย
“ไหว้พระเถอะลูกๆ” คุณหญิงรับไหว้จากทุกคน ก่อนจะหันไปทักทายผู้อาวุโสที่สุดซึ่งเป็นแม่ของน้องจี ในขณะที่อีกฝ่ายรีบเชื้อเชิญให้นั่งบนโซฟามุมห้อง แม่ของพี่เป็ดจึงแตะแขนแม่เจ้าของบ้านให้นั่งลงข้างกัน
แน่นอนว่าวงข้าวเกิดการชุลมุนเล็กน้อยจากการขยับขยายพร้อมของกินที่เพิ่มเข้ามาอีก พี่เก็ตทิ้งตัวลงข้างพี่เอ้ด้วยใบหน้าราบเรียบ โดยไม่สนใจสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามของคนรอบวง
“พี่ทานอะไรมาหรือยังคะ” แม่น้องจีเอ่ยถามผู้หญิงที่นั่งข้างๆ คุณหญิงโบกไม้โบกมือว่าไม่เป็นไร ก่อนจะหันไปขอบใจน้องจีที่ยกน้ำหวานมาให้
“พี่ทานมาแล้วจ้ะ แต่พี่เอาหมูปิ้งนมสดมาฝาก ยังไงลองชิมกันดูนะ” คุณแม่หมายถึงหมูปิ้งจานใหญ่ที่พี่เป็ดกำลังยกมา ซึ่งส่งกลิ่นหอมชวนน้ำลายไหลตั้งแต่ในครัวจนถึงห้องนั่งเล่น
“แม่ลองชิมนะครับ” พี่เป็ดแบ่งหมูปิ้งใส่จานเล็กมาให้ พร้อมๆ กับถ้วยน้ำจิ้มในมือน้องจี
“คำนับฟ้าดินนนน” สิปป์กระซิบกระซาบกับคนในวง ทำเอาบก.เอ้กลั้นขำจนแทบสำลัก ก็นั่งดูในมุมนี้ มันเหมือนคู่บ่าวสาวยกน้ำชาจริงๆ นั่นแหละ
หลังอาการเคอะเขินผ่านไป แขกผู้มาเยือนก็สนุกสนานกันต่อกับของกินและกิจกรรมบวกเลข ซึ่งแน่นอนว่าพี่เอ้รับหน้าที่เป็นเจ้ามือ ในฐานะที่อายุมากที่สุดในวง ส่วนสองแม่ก็จูงมือกันหายเข้าไปในครัว แว่วๆ ว่าชวนกันทำของหวานมื้อดึกให้เด็กๆ กิน
“ป็อกเก้า”
“ป็อกเก้าสองเด้ง!!”
“โอ้ยยย ไอ้สิปป์ ไอ้เมต แกสองคนแอบแลกไพ่กันป่ะเนี่ย” เจ้ามือถึงกับโวย เมื่อไอ้คู่รักนรกชังชิงป็อกแบบรัวๆ มาสามตาติด จนบก.ต้องมีคำสั่งเด็ดขาด “แกสองคนนั่งแยกกันเดี๋ยวนี้!”
สุดท้ายเมตตาเลยต้องย้ายไปนั่งข้างพี่เก็ตผู้ได้ไพ่บอดตาเว้นตา แค่อยู่ใกล้ก็รู้เลยว่าดวงซวยๆ คงต้องแผ่นกระจายมาถึงตัวเองอย่างแน่นอน
“ขอตัดไพ่” พี่เป็ดยกมือขอสิทธิ์ขณะที่พี่เอ้สับไพ่มือเป็นระวิง เจ้ามือยักคิ้วเป็นเชิงอนุญาต พี่เป็ดจึงดึงมือของน้องจีที่นอนอยู่ข้างๆ มาวางไว้บนกองไพ่ ก่อนจะบอกให้มือเล็กหยิบไพ่จำนวนหนึ่งออกจากกอง
คนที่กำลังเคลิ้มๆ หลับดูงงงวยแต่ก็ทำตามแต่โดยดี และไม่น่าเชื่อว่าการตัดไพ่ของน้องจีจะทำให้...เจ้ามือไพ่บอด!!
เสียงเฮดังลั่นห้อง ก็ขนาดพี่เก็ตที่ได้แค่แต้มเดียวยังได้กินตังค์จากพี่เอ้ ส่วนพี่เป็ดนี่ถึงกับได้ขอบ กินไปชิลล์ๆ สามเด้ง จนเจ้าตัวลุกขึ้นเต้นแล้วคว้าคนนอนอยู่มากอดไว้แล้วหมุนตัวไปมา ...ก็ได้มาตั้ง 3 บาท!!
“อุ๊ย!” เสียงอุทานจากด้านหลังทำเอาคู่รักสามเด้งผละออกจากกันโดยอัตโนมัติ เมื่อแม่ของทั้งสองคนเดินออกมาพร้อมโหลใส่ผลไม้ลอยแก้ว และแน่นอนว่าภาพการกอดกันกลมเมื่อครู่คงหนีไม่พ้นสายตาของผู้ใหญ่ทั้งสอง
“ผมช่วยนะครับ” เมตตาเป็นคนแรกที่ได้สติ รีบลุกไปช่วยคุณป้าถือของมาวางบนพื้น
“น่ากินมากเลยครับบบ” สิปป์ช่วยผ่อนคลายสถานการณ์ด้วยอีกแรง
“เป็ด...” คุณหญิงเรียกลูกชายตัวเองเสียงดุ ทั้งห้องเงียบกริบกลั้นใจฟังประโยคต่อไป รวมถึงเจ้าของชื่อเองด้วย “เล่นกับน้องแรงจัง คราวหลังอย่าจับน้องจีเหวี่ยงอีกนะลูก เดี๋ยวล้ม”
สาบานว่าทุกคนถอนหายใจอย่างโล่งอกในจังหวะเดียวกัน!
ผลไม้ลอยแก้วสูตรแม่พี่เป็ดอร่อยจนเด็กๆ ซัดไปคนละสองสามถ้วย และก่อนที่ทุกคนจะเริ่มกลิ้งเลื้อยและหลับกันไป พี่เป็ดก็กระแอมไอแบบส่งสัญญาณว่าสิ่งที่กำลังจะพูดต่อไปนี้เป็นเรื่องสำคัญ
“เอาล่ะครับ...” เซลส์นับเบอร์วันเอ่ยขึ้นเสียงค่อนข้างจริงจัง ก่อนจะหันไปสบตากับผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่บนโซฟา ถัดไปเป็นคุณแม่ของน้องจี ส่วนโซฟาเดี่ยวด้านริมสุดมีบก.เอ้ผู้เริ่มนั่งทรงตัวบนพื้นไม่ได้สถิตอยู่
“คืนนี้อาจไม่มีอะไรพิเศษ แต่จริงๆ แล้วมันก็ค่อนข้างพิเศษอยู่” พี่เป็ดพูดไปพลางเอามือถูจมูกแก้เขิน “เพราะคนที่ผมรักและเคารพมารวมกันอยู่ที่นี่หมดแล้ว”
สายตาของคนโดยรอบจับจ้องถึงการกระทำต่อไปของผู้พูดด้วยใจจดจ่อ เนิ่นนานกว่าคนที่นั่งอยู่กลางวงจะเอ่ยต่อ
“จี...” พี่เป็ดกวักมือเรียกคนที่นั่งอยู่ด้านหน้าให้ลุกมานั่งอยู่ข้างกัน อีกฝ่ายลุกขึ้นสีหน้างงงวย ด้วยไม่รู้จริงๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป จนกระทั่งมือเย็นเฉียบของคนรักเลื่อนมากุมมือของตนเองไว้แน่น
“พี่...” เอ่ยเรียกได้เพียงแค่นั้นเสียงใสก็เป็นอันต้องหยุดลง เมื่อมองสบกับแววตาจริงจังและหนักแน่นของคนข้างๆ
“จริงๆ เจ้าเป็ดก็บอกว่าไม่อยากให้ทำอะไรใหญ่โต” คราวนี้เป็นคุณหญิงแม่ของพี่เป็ดที่เอ่ยทำลายความเงียบ และเพียงเกริ่นขึ้นมาแค่นั้นน้องจีก็รู้ทันทีว่าเหตุใดทุกคนจึงมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ในวันนี้ ร่างเล็กเริ่มสั่นสะท้านจนพี่เป็ดต้องลูบแขนเบาๆ เป็นการปลอบขวัญ
คุณแม่พี่เป็ดทอดสายตาเอ็นดูเด็กผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างลูกชายตนเองก่อนจะเอ่ยต่อ “แต่แม่คิดว่าเจ้าเป็ดคงมารบกวนครอบครัวของน้องจีบ่อยๆ และถ้าลูกชายแม่ทำอะไรไม่ดีหรือไม่ถูกต้อง แม่ก็ต้องขอโทษด้วยนะจ๊ะ”
ทั้งน้องจีและคุณแม่ส่ายหน้าพร้อมกันเป็นเชิงบอกว่าพี่เป็ดไม่ได้รบกวนอะไรเลย ตรงกันข้ามพี่เป็ดกลับเข้ามาพร้อมความสุขในชีวิตของเราสองคนด้วยซ้ำ แต่น้องจีก็พูดอะไรไม่ออก ได้แต่สบตากับแม่ตัวเองที่นั่งยิ้มทั้งๆ ที่มีน้ำตาคลอหน่วย
“ยังไงแม่ขอฝากเจ้าเป็ดไว้กับบ้านนี้ด้วยนะ ดุว่าได้ตามสมควรเลย คิดเสียว่าเป็นลูกอีกคนไปเลยจ้ะ” มือนิ่มตบเบาๆ กับมืออีกคู่ของคุณแม่น้องจีที่นั่งข้างกัน
“น้องเป็ดเป็นเด็กดีที่สุดที่หนูเคยรู้จักค่ะพี่ ต้องขอบคุณจริงๆ ที่น้องเป็ดและพี่ไม่รังเกียจน้องจี ขอบคุณที่เอ็นดูน้องจีนะคะ”
“น้องจีน่ารัก ใครอยู่ด้วยก็อดที่จะรักไม่ได้จริงๆ” คุณหญิงเอ่ยก่อนจะกวักมือเรียกลูกชายสองคนเข้าไปกอด น้องจีโผเข้าไปหาและน้ำตาแห่งความปีติก็ไหลอย่างไม่อาจกลั้นได้ต่อไป จนพี่เป็ดต้องรีบโอ๋ยกใหญ่
“จริงๆ แม่จะให้ตาเป็ดเอาแหวนมาให้ด้วย แต่รายนั้นบอกว่ามันน้ำเน่าเกินไป” คุณแม่พี่เป็ดพูดพลางหัวเราะ แน่นอนว่าพอลูกชายบอกความจริงเรื่องที่คบกับน้องจีแล้ว คุณแม่ก็แทบจะลมจับอยู่เหมือนกัน แต่หลังจากนั้นก็ทำใจได้ และเริ่มรู้สึกว่าความฝันเรื่องอยากได้ลูกสะใภ้น่ารักๆ ดูๆ ไปแล้วก็ไม่ได้ผิดหวังเท่าไร เมื่อคนๆ นั้นคือน้องจี
“ก็มันน้ำเน่าจริงๆ นี่ ตอนแรกแม่จะให้จัดงานหมั้นด้วยซ้ำ” พอพี่เป็ดเล่าแบบนั้น น้องจีก็ยิ่งเขินเข้าไปอีก ใบหน้าเล็กๆ จึงซุกอยู่กับพุงแม่ไม่กล้าเงยขึ้นมาสบตาใครในนี้เลยสักคน โดยเฉพาะไอ้พี่เป็ดบ้าที่แอบกุมมืออยู่ข้างๆ แล้วพูดเรื่องหมั้นๆ แต่งๆ อะไรก็ไม่รู้!
ท่ามกลางความซาบซึ้งกับพิธีเล็กๆ ที่ช่วยยืนยันว่าความสัมพันธ์ของคนสองคน ได้รับการยอมรับจากคนที่เขารักและเคารพที่สุดในชีวิต ทว่าใครบางคนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกลับนั่งน้ำตาซึมจนต้องแอบปาดทิ้งเงียบๆ เสียหลายที
...คนๆ นั้นคือบ.ก.เอ้!
‘ไม่รู้ว่าพี่เค้าซึ้ง หรือพี่เค้าฟิน’
พี่เก็ตกล่าว........................................Gayscale Magazine........................................
“เอามั่งมั้ย” เมตตาเอ่ยลอยๆ ขณะเอาไหล่เกยคนที่นั่งดูรูปในโทรศัพท์อยู่ปลายเตียง ตอนนี้เกือบตีหนึ่งแล้ว แต่ดูเหมือนคนที่ยังอินกับบรรยากาศชื่นมื่นเมื่อตอนอยู่ที่ห้องพักน้องจีจะยังไม่ง่วงเลยสักนิด
“ว่าไงๆ เดี๋ยวให้พ่อมาขอนะ” พออีกคนยังเงียบ ตากล้องเลยแกล้งหยอกไปอีกนิด ซึ่งได้ผลเป็นอย่างดี เพราะสิปป์ส่ายหัวพรืดแถมหดคอหนี ซึ่งตีความหมายได้ว่า ‘ความคิดมึงสยองมาก’
คนถามหัวเราะชอบใจ ก่อนจะถือวิสาสะแย่งสมาร์ทโฟนในมือเรียวมาเสียบสายชาร์จ แล้วปิดไฟที่หัวเตียงให้ทั้งบ้านมืดโดยฉับพลัน
“โอ้ยยยย ยังดูรูปไม่ครบเลยนะ เพิ่งดูถึง...” ไม่ทันได้โวยวายจบประโยค ร่างโปร่งก็ถูกแขนหนาๆ คว้าเอวแล้วลากลงนอนเคียงข้างกัน ตามด้วยเรียวปากอุ่นที่ประทับแรงๆ ข้างแก้ม เป็นอันคำเตือนว่า จงนอนซะ! ไม่งั้นมีเรื่อง!
“ดีใจแทนพี่เป็ดกับจีเนอะ” สิปป์เอ่ยในความมืด บอกตรงๆ ว่าเห็นคู่นี้แล้วมีความสุขอย่างกับเป็นพี่เป็ดซะเอง
“ตกลงจะให้พ่อมาขอมั้ยเนี่ย แหวนล่ะ? ซุ้มดอกไม้? พรีเซนเทชั่น? รูปพรีเวดดิ้งด้วยมั้ยล่ะมึงงงง” พอเห็นคนในอ้อมแขนยังอินไม่เลิก เลยอดไม่ได้ที่จะแซวอีกสักที ซึ่งได้รับคำตอบมาเป็นหมัดแน่นๆ ที่ทุบซะกลางหลัง
“อย่ามาตลกๆ ดูกันยาวๆ ถ้าความประพฤติดีเดี๋ยวพี่เดินไปหาพ่อน้องเอง เข้าใจ๋?” คำตอบแสนยียวนนั่นทำให้เมตตาอดไม่ได้จนต้องฟัดแก้มไอ้จอมกวนไปอีกหลายที เรื่องปากดีนี่ต้องยกให้จริงๆ!
“เจ็บนะโว้ยยยย!!” มือเรียวยกขึ้นถูกแก้มในตำแหน่งที่ถูกจูบ เมื่อสัมผัสได้ถึงน้ำลายแหยะๆ ที่อีกฝ่ายจงใจทิ้งไว้จึงรีบเอาแก้มไปเช็ดเสื้อของร่างที่กอดอยู่ทันที
“สกปรก!!” ด่าเขาไป แต่ตัวเองกลับซุกลงกับอกของคนขี้แกล้งเสียอย่างนั้น เมตตาเลยได้หัวเราะอีกรอบกับความขี้อ้อนที่สิปป์ศิลป์เองก็ยังไม่รู้ตัว
“ว่าไปแล้วก็อยากรู้อ่ะว่าพี่เป็ดไปพูดยังไงแม่ถึงยอมรับ” นักเขียนพึมพำต่อ
“แม่พี่เป็ดยอมรับไม่น่าแปลกเท่าไอ้พี่เก็ตยอมร่วมมือมั้ง” คำพูดของเมตตาทำเอาสิปป์ถึงกับต้องลุกขึ้นนั่ง
“แสดงว่ามึงรู้แผนนี้ใช่มั้ย?”
“เอ่อ....” เมตตาเกาหัวแกรกๆ ก่อนจะยอมเล่าเรื่องราวฉบับย่อให้อีกคนฟัง
“ก็ตอนแรกอ่ะ พี่เป็ดจะให้กูไปรับแม่พี่เป็ดที่บ้าน แต่กูคิดว่ามันจะน่าสงสัยเกินไป ถ้าอยู่ๆ กูไม่มาพร้อมมึง กูเลยโบ้ยไปให้พี่เก็ตไง แต่ไม่รู้พี่เป็ดไปพูดยังไงให้พี่เก็ตยอมช่วยได้”
“อืม อันนี้ฟังดูน่าเชื่อถือ แล้วตกลงพี่เป็ดไปสารภาพยังไงแม่แกถึงได้มาขอน้องจีถึงบ้าน?”
“ไม่รู๊”
“ทำไมต้องเสียงสูง?”
“เอ้อ...โอ้ยยย กูเล่าก็ได้ๆ” ตากล้องเอ่ยน้ำเสียงยอมแพ้ ก่อนเรื่องราวที่ตัวเองไม่อยากพูดถึงจะถูกถ่ายทอดให้สิปป์ฟัง
ภาพสีซีเปียฉายภาพคฤหาสน์ของพี่เป็ด ก่อนเมตตาจะก้าวลงจากรถพร้อมกับเจ้าของบ้าน
‘จะดีเหรอวะพี่’ ตากล้องเอ่ยถามเป็นครั้งที่สองแสนห้า
‘ดี!’ พี่เป็ดยืนยันน้ำเสียงหนักแน่น
ทั้งสองคนเดินเข้าไปในบ้าน เสียงพี่เป็ดตะโกนเรียกแม่ดังลั่น ก่อนจะพบว่าแม่นั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น
‘พาใครมาด้วยล่ะนั่น’ คุณหญิงเอ่ยถาม เมื่อเห็นผู้ชายข้างกายลูกหน้าตาไม่คุ้นเคย ซึ่งจริงๆ แล้วคุณแม่เคยเจอเมตตาอยู่ 4-5 ครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นข้อยกเว้นจริงๆ
พี่เป็ดจูงมือเมตตาเดินเข้าไปหาผู้เป็นแม่ช้าๆ ซึ่งสายตาของคุณแม่ตอนนี้ บอกตรงๆ ว่าเมตตาพร้อมจะหันหลังแล้ววิ่งมาราธอนกลับบ้านทันที
‘ตาเป็ด...’ คุณแม่ร้องเสียงหลงกับภาพที่เห็น ...ภาพที่ลูกชายเกาะกุมมือของไอ้หนุ่มหน้าขาววอก ปากแดงแจ๋ด้วยท่าทีที่มองยังไงก็มากกว่าเพื่อน
‘แม่ครับ ผมมีเรื่องจะบอก’ พี่เป็ดเกริ่นเสียงเข้ม โดยไม่สนใจว่าแม่ตัวเองทำท่าจะเป็นลมอยู่มะรอมมะร่อ ‘ที่แม่เคยถามผมว่าเมื่อไรจะพาแฟนมาแนะนำให้แม่รู้จัก ผมพา...’
‘นี่คือแฟนแกเหรอตาเป็ด! แม่... โอย... หยิบยาดมบนโต๊ะให้แม่ที’ เมตตารีบคว้ายาดมบนโต๊ะแล้วส่งให้คุณแม่ที่ดูหน้าซีดและจวนเจียนจะช็อกเต็มทน
‘แม่คงผิดหวังที่ผมชอบผู้ชายใช่มั้ย’ พี่เป็ดทำน้ำเสียงสลด ส่วนเมตตาก็เอาแต่นั่งก้มหน้า เพราะใจไม่แข็งพอจะเห็นความผิดหวังในแววตาของผู้หญิงตรงหน้า
คุณหญิงนั่งเงียบไปพักใหญ่ พอตั้งสติได้ก็เพ่งพินิจลูกชายกับคนข้างกายอย่างถี่ถ้วน เสียงถอนหายใจดังครั้งแล้วครั้งเล่า จนสุดท้ายผู้หญิงหนึ่งเดียวในบ้านก็พูดออกมา
‘เอาเถอะๆ จริงๆ แม่ก็เตรียมใจไว้ตั้งแต่ได้ยินไอ้ข่าวซุบซิบของลูกเมื่อสิบปีก่อนแล้วล่ะ... เอ้อ ไม่เป็นไร จะรักใครชอบใครก็แล้วแต่ ...ทำตามที่เรามีความสุขเถอะ’
‘แม่...” พี่เป็ดโถมตัวกอดผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ยอมรับและเข้าใจในสิ่งที่เขาเป็นโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ น้ำตาลูกผู้ชายที่เก็บกลั้นไว้ไหลซึมขอบตาในขณะที่สองมือยกขึ้นไหว้ผู้เป็นมารดาจากหัวใจ “ขอบคุณครับแม่ ขอบคุณที่เข้าใจผม...’
‘เฮ้อ...แล้วแฟนลูกชื่ออะไรล่ะ’ คำถามของคุณแม่ทำเอาเมตตาเหวอไปเลย เพราะดูจะนอกบทไปมาก ฉากดราม่าแบบแม่ไม่เข้าใจตุ้มก็ยังไม่มี แล้วที่นี้เขาต้องตอบว่าอะไรล่ะเนี่ย
‘เอ่อ...คนนี้ชื่อไอ้เมต แต่แฟนผมน่ะ...’ พี่เป็ดกุมมือแม่ของตัวเอง ก่อนจะเอ่ยช้าๆ ‘แฟนผมชื่อ จี ครับ’
คุณหญิงทำตาโต ก่อนจะเอ่ยถามลูกชายเพื่อความแน่ใจ ‘จี? น้องจีที่แม่ฝากขนมไปให้แม่เค้าบ่อยๆ น่ะเหรอ? เด็กผู้ชายน่ารักๆ ที่เคยมาพักบ้านเราใช่มั้ย?’
พี่เป็ดพยักหน้ารับแบบรัวๆ ด้วยความโล่งใจ เมื่อเห็นใบหน้าของแม่ที่ดูสดใสขึ้นทันตา หลังจากได้รู้ว่าแฟนของลูกชายไม่ใช่ไอ้เมตที่จำแลงจนดูน่ากลัวแบบนี้
สุดท้ายพี่เป็ดก็เฉลยกับแม่ตัวเองว่าใช้เมตตาเป็นตัวหลอก ซึ่งถูกคุณหญิงตีไหล่ซะหลายที โทษฐานที่ล้ออะไรเล่นไม่เข้าท่า พอเห็นแม่ลูกเข้าใจกันดีแล้ว เมตตาก็ขอตัวไปล้างหน้าทันที เพราะบอกตรงๆ ว่าไปไหนต่อไหนด้วยสภาพนี้ไม่ได้จริงๆ
‘ไปส่งเพื่อนแล้วกลับมาคุยกันนะตาเป็ด ตกลงเราไปคบกับน้องจีได้ยังไง แล้วไปทำอะไรให้เค้าเสียหายหรือเปล่า แม่ควรต้องไปขอ...’ พี่เป็ดยกมือห้ามก่อนที่คำถามของแม่จะยาวมากกว่านี้ แต่ก็รับปากสัญญาว่าจะกลับมาคุยด้วยแน่นอน
“เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ” เมตตากล่าวด้วยน้ำเสียงเซ็งสุดฤทธิ์ เพราะแค่นึกสภาพตัวเองในวันนั้น กลิ่นน้ำยาอุทัยทิพย์ที่ใช้ทาปากก็คลุ้งขึ้นมาเลยทีเดียว
“กูถามคำเดียวนะ” คนที่เงียบฟังมานานเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “มึงติดใจมั้ยไอ้การแต่งหน้าแบบนั้น?”
#ผมงี้เตรียมรุกเลย #สิปป์คิดในใจTBC.
ฟิครายปีของจริง!! สวัสดีปีใหม่ 2015 ค่ะทุกคนนนน <3
ปีใหม่นี้ขออวยพรให้ให้ฟิคทุกเรื่องที่ตาม ไม่มีดอง อัพรัวๆ อ่านกันฟินไปยาวๆ เลยนะคะ
(แล้วเรื่องนี้ล่ะ? 555555)
ไม่รู้ว่านี่เป็นข่าวดีหรือข่าวร้าย แต่ตอนหน้าจะเป็นตอนสุดท้ายของ Gayscale Magazine แล้วนะคะ
หลังจากดองมั่งอัพมั่งมาสองปีกว่า ในที่สุดก็ถึงตอนจบแล้วค่ะ T^T
ยังไงก็อย่าลืมติดตามกับบทส่งท้ายกันนะคะ
สำหรับตอนนี้พูดเลยว่าพี่เป็ดนี่พระเอกมาเต็ม
ขนาดพี่ปืนแกทำเท่หน้าหม้อชาบูก็ยังสู่พี่เป็ดไม่ได้อ่ะ

วันนี้ไปก่อนนะคะ
แล้วเจอกันตอนหน้าค่าา