[เรื่องสั้น] ฝุ่นและควัน (ช่างกลบ้างไรบ้าง) : จบจ้ะ 20/10/2555
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] ฝุ่นและควัน (ช่างกลบ้างไรบ้าง) : จบจ้ะ 20/10/2555  (อ่าน 14949 ครั้ง)

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
ก่อนอื่น... อยากจะพิมพ์ว่า "ขอโทษค่ะ" "ขอโทษค่ะ" "ขอโทษค่ะ" "ขอโทษค่ะ" สักสิบล้านครั้ง (เวอร์)

ขอโทษเพราะอินเนอร์ที่ทำให้เรามาเขียนเรื่องนี้ (อธิบายยาก เอาว่าขอโทษแล้วกัน กระซิกๆ)

เรื่องนี้อาจจะไม่วายหวือหวานะคะ.. อนึ่ง เราไม่ถนัดเขียนนิยายที่มีเด็กเป็นตัวเอกเลยค่ะ (ไม่ว่าจะเป็นประถม อนุบาล มัธยม มหาลัย) เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่สูตรสำเร็จ ไม่เบ็ดเสร็จตามตลาด เรียกว่าเขียนด้วยอินเนอร์เกรียนๆ ของเราล้วนๆ

"ขอโทษจริงๆ นะคะ :m15:"

--------------------------------------------------------

เรื่องสั้น “ฝุ่น และ ควัน”

            ปัง!

            ภาพที่ผมเห็นคือร่างผอมแห้งในชุดนักเรียนสีขาวคุ้นตา ผงะถอยและค่อยๆ หงายหลังล้มลงเหมือนภาพที่ถูกหน่วงความเร็วเอาไว้ ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของคนที่อยู่บริเวณนั้น ทุกอย่างดูเชื่องช้าไปหมด กระทั่งเสียงของผมเอง

            “เจนภพ!!”

----------------------------------------

            !!

            ผมผวาตื่นขึ้นมาในความมืด รู้สึกถึงความชื้นบนแผ่นหลัง และน้ำอุ่นๆ ที่ไหลทะลักออกมาจากเบ้าตาทั้งสองข้าง

            บ้าเอ๊ย!!

 

            “วศิน นี่แล็กเชอร์ของวันนี้ มึงไม่เข้าเรียนอีกแล้วนะ” ผู้ชายท่าทางผอมแห้งแรงน้อย หน้าตาเฉื่อยๆ ดูหงอๆ ไม่สู้คน เดินเข้ามาหาผมที่กำลังนั่งคุยเฮฮาอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่ท่าต่างจากกับเขาคนนั้นราวฟ้ากับเหว โดยไม่แสดงอาการรังเกียจหรือหวาดกลัวแต่ประการใด ผมหันไปมองเขา แล้วยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “ขอบใจนะ วางไว้ตรงนั้นแหละ”

            ผู้ชายคนนั้นยังคงยืนนิ่ง ไม่ยอมขยับไปไหน ได้แต่สมุดเอาไว้ในมือ “ไม่วาง วันก่อนมึงทำสมุดกูหายไปเล่มหนึ่งแล้ว กว่าจะตามหากันเจอ”

            “เอาน่า ไม่หายหรอก หายก็หาเจอ มีคนช่วยหาเยอะไป” ผมว่า คนที่นั่งอยู่ด้วยกันช่วยเสริมอีกแรง “ช่ายๆ วางไว้ตรงนั้นแหละเจนภพ พวกกูจะได้ลอกด้วย มึงรีบไปเข้าเรียนวิชาต่อไปเถอะ เดี๋ยวสายอดได้เกรียรตินิยมนา ฮ่าๆ”

            เจนภพทำหน้าเหมือนระอาเต็มที จากนั้นก็วางสมุดเอาไว้ ก่อนจะหันตัวออกไป “วศิน ยังไงพรุ่งนี้มึงต้องเข้าเรียนนะ วิชาอ.เก่งมึงจะไม่ผ่านอยู่แล้วนะ”

            ผมส่งเสียงงึมงำในคอไปอย่างไม่อยากจะใส่ใจนัก และแทบไม่เหลียวไปมองร่างที่กำลังเดินออกไปนั่นด้วยซ้ำ

            เรียนไปมันก็เท่านั้นแหละ เสียเวลา ยังไงเสียตอนนี้ผมก็เป็นขาใหญ่ของที่นี่ มีคนคอยห้อมล้อมมากมาย สบายใจกว่าเข้าห้องเรียนเยอะ

            ครับ ผมวศิน เด็กช่างกล แผนกช่างยนต์ปีสาม ทั้งโรงเรียนไม่มีใครไม่รู้จักชื่อผม ที่นั่งอยู่รอบๆ นี่ก็ลูกน้องผมทั้งนั้น มีทั้งเด็กช่างยนต์ด้วยกัน รวมไปถึงแผนกก่อสร้าง แต่ละคนผ่านสังเวียนกันมาไม่ใช่น้อยๆ ไม่ใช่พวกไก่อ่อนที่พกปืนยืนมือสั่น เจออะไรเอะอะก็ยิงเหมือนพวกปีหนึ่งอ่อนๆ หรอก ส่วน... ไอ้คนที่เพิ่งถือสมุดมาเมื่อกี้... ปวกเปียกขนาดนั้น ไม่ใช่ลูกน้องผมหรอกครับ มันชื่อเจนภพ เป็นเพื่อนผมมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะบ้านอยู่ใกล้กัน ฐานะครอบครัวมันก็ไม่ได้ดีไปกว่าผม แต่มันเลือกที่จะเอาดีด้านเรียน มันคงหวังจะได้ถีบตัวเองไปสู่อนาคตที่ดีกว่านี้สักวัน ผมก็ได้แต่เอาใจช่วย ค่าที่มันมีแก่ใจ เอาสมุดแล็กเชอร์มาให้พวกผมลอกกันแทบทุกวัน

          นั่นล่ะครับเจนภพ เจนภพที่ใช้ชีวิตทุกวันมุ่งมั่นให้กับการเรียน เจนภพที่ผมเห็นจนชินตา แต่ไม่เคยเก็บมาใส่ใจเลยสักครั้ง จนกระทั่ง.....

-------------------------------------

            “ไอ้ศิน ไปเร็วมึง ไอ้เด็กโรงเรียนช่างที่มึงไปยิงฝากเอาไว้วันก่อน แม่งยกโขยงมากันแล้ว รับรองคราวนี้กูว่าตำรวจแถวนี้แม่งเอาไม่อยู่ว่ะ กว่าจะไปตามคนมาจากที่อื่น พวกเราล่อกันเละก่อนแน่”

            เสียงตะโกนจากเพื่อนตัวใหญ่คนหนึ่งดังขึ้น ก่อนที่ตัวของมันจะวิ่งเข้ามาหาผม ด้านหลังมีเพื่อนอีกกลุ่มใหญ่ ซึ่งก็ล้วนแต่ร่วมต่อสู้กันมาหลายครั้งแล้ว ผมเงยหน้าขึ้น ไถลตัวเองลงจากม้าหินอ่อน แล้วขยับปืนพก9มม.ที่เหน็บอยู่ตรงขอบกางเกง ก่อนจะล้วงมีดพกขึ้นมา

            “จัดไปให้หนักเลย พวกแม่งจะได้รู้ ว่าต่อให้ยกกันมาทั้งโรงเรียน ก็เป็นได้แค่กองขยะนั่นแหละ!”

           

            พ่อค้าแม่ค้า คนเดินถนน วินขับรถตู้ ทุกคนที่อยู่ในละแวกนั้นต่างพากันหลบเข้าที่ปลอดภัย ขณะที่พวกผมเดินกร่างกลางถนน อย่างไม่กลัวรถราที่วิ่งผ่านไปผ่านมา พวกเรามีจำนวนร่วมครึ่งร้อย ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามก็ดูจะมาเยอกไม่แพ้กัน เอาสิวะ มากันขนาดนี้ก็ดี จะได้ประกาศศักดิ์ดาให้รู้กันไปเลย ว่าที่ไหนแน่กว่ากัน

            เสียงตะโกน เสียงโห่ร้อง กลิ่นเหม็นอับของเหงื่อ เสียงรองเท้าเป็นร้อยคู่กระทบกับพื้น เสียงเสื้อผ้าปลิวกระทบลม กระทั่งกลิ่นคาวของเลือดที่สับสนคละคลุ้งกันอยู่ในบรรยากาศ ปลุกเร้าจิตใจผมให้ทะยานเข้าไปสู่วังวนการต่อสู้แห่งศักดิ์ศรีที่มีชื่อสถาบันเป็นเดิมพัน

            ผมคิดว่านี่คือสิ่งสำคัญ คิดว่ามันคือสาระของชีวิตผมในตอนนี้

            สภาพอลหม่านสับสนกินเวลานานเท่าไหร่ คงไม่มีใครในกลุ่มผมทราบ กระทั่งเสียงหวอลั่นขึ้นมานั่นแหละ พวกเราก็ผละออกจากกันเหมือนโดนไฟดูด ต่างฝ่ายต่างหันหน้า วิ่งหนีเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายกันอย่างไม่คิดชีวิต ที่จริงไม่ใช่ว่าผมกลัวไอ้พวกนี้หรอกนะ เพียงแต่ขี้เกียจเสียเวลาให้พ่อแม่หรือพวกครูไปยื่นประกันตัว แล้วต้องมานั่งฟังคำสวดเสวนาไร้สาระตอนหลังก็เท่านั้นแหละ

            เหตุการณ์วันนั้นได้ขึ้นหัวพาดหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งในวันต่อมา ยิ่งเหมือนจารึกแห่งความสำเร็จของสิ่งที่พวกผมทำลงไป

            ด้วยความลำพองอย่างทุกครั้ง พวกผมเดินกร่าง ด้วยคิดว่าตัวเองเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในย่านนี้ แล้วเสียงปืนนัดแรกก็ดังขึ้น

            ปัง!

            ผมไม่ได้ยินเสียงปืนนัดนั้นด้วยตัวเอง รู้ข่าวในวันต่อมา ว่าเพื่อนผมคนหนึ่งในกลุ่มถูกลอบยิงจนบาดเจ็บสาหัส แว้บแรกที่ผมคิด มันต้องเป็นฝีมือของไอ้โรงเรียนนั้นแน่ๆ ตกเย็นพวกเราเลยยกพวกไปถล่มพวกมันถึงถิ่น แต่คราวนี้ มันไม่ง่ายเหมือนครั้งที่ผ่านมาเสียแล้ว

            “เฮ้ย ถอยๆ!” ผมตะโกนลั่น เพราะได้ยินเสียงปืนดังมานัดแล้วนัดเล่า เห็นเพื่อนล้มฮวบลงไปหลายคน ไอ้เหี้ยเอ๊ย! ยิงมาจากไหนวะ!!

            ผมชักปืนออกมาจากหลังเอว พยายามเล็ง แต่ทุกอย่างดูสับสนอลหม่านไปหมด บ้าเอ๊ย! ไอ้พวกนรก ฝากไว้ก่อนเหอะมึง

            พวกเราล่าถอยกันออกมาด้วยความพ่ายแพ้แบบไม่เป็นท่า วันนั้นเพื่อนเราเจ็บหนักกันไปอีกสี่คน สองคนอยู่ในขั้นโคม่า เป็นตายเท่ากัน พี่ที่จบไปโทรมาบอกว่า ฝ่ายโน้นจ้างมือปืนมาคอยคุ้มกัน และเตือนให้พวกผมหยุดมีเรื่องไว้ก่อน

            โหย พี่บ้าไรวะ เวลาแบบนี้ยังไงให้พวกผมหดหัวอยู่ในกระดองอีกเหรอ

            คืนนั้นผมกลับมาบ้าน นอนไม่หลับ ใจคิดแต่เรื่องแก้แค้นจนปวดหัวคิ้วไปหมด นอนพลิกไปพลิกมาจนดึก ใครบางคนก็มาตะโกนเรียกผมที่หน้าต่าง

            “ศิน ศิน”

            ผมขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะยันตัวลุกขึ้น ชะโงกมองลงไป พอเห็นว่าเป็นเจนภพ ก็เลยส่งเสียงตอบ “มีไรวะ?”

            “เปิดประตูบ้านหน่อย กูมีเรื่องอยากคุยกับมึง”

          ผมมองมันอยู่พัก สุดท้ายก็ยอมเดินลงไปเปิดประตู วันนี้พ่อแม่ผมไม่อยู่ ปกติก็ไม่ค่อยอยู่อยู่แล้ว ส่วนบ้านเจนภพ มันอยู่กับพี่สาว ซึ่งปกติก็ไม่ค่อยกลับบ้านเหมือนกัน ที่จริงปกติบางวันเหงาๆ ผมก็ไปนั่งเล่นบ้านมันบ่อยๆ แต่นานๆ ครั้งมันจะมาเหยียบที่บ้านผม มันมีเรื่องอะไรดึกป่านนี้วะ

            “มีไร” ผมพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยจะรื่นรมย์นัก เพราะกำลังหงุดหงิดอยู่ เจนภพนั่งลงบนเตียง แล้วเงยหน้ามองผม “กูจะมาขอร้องมึง... หยุดไปหาเรื่องต่อยตีกับคนอื่นทีเถอะ”

            ผมหันมองหน้ามัน แล้วเหยียดยิ้มอย่างดูแคลน “มึงเป็นไรวะ เดี๋ยวนี้คิดหัดจะมายุ่มย่ามกับชีวิตกูแล้วเหรอ ถ้ารับกูไม่ได้ แล้วทนคบกูมาทำไมตั้งหลายปี”

            “กูไม่ได้รับมึงไม่ได้” เจนภพตอบ ด้วยสีหน้าลำบากใจ “มึงก็รู้ ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา กูไม่เคยห้ามมึงเรื่องนี้เลย กูรู้มันเป็นนิสัย และมึงก็ดูพอจะเอาตัวรอดได้ แต่...” มันเว้นระยะไปครู่หนึ่ง พลางเม้มปากด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เรื่องคราวนี้มันอันตราย ไม่เหมือนที่มึงเคยเจอมา หยุดเถอะนะศิน กูไม่อยากให้มึงตาย”

            ผมแค่นเสียงในคอ “มึงกลับไปนอนบ้านเหอะไอ้เจน คนอย่างมึงจะไปรู้อะไรวะ มึงอยากเรียนก็เรียนไป สนใจแค่ชีวิตมึงก็พอ ไม่ต้องมายุ่งกับเรื่องของกู”

            “ไอ้ศิน!” เจนภพตะคอกใส่ผมอย่างที่มันไม่เคยทำมาก่อน ดวงตาสีดำของมันแดงเรื่อ เหมือนมีความคับแค้นใจมาก แต่มันหรือจะมาเข้าใจความคับแค้นใจของผม

            ใช่ครับ... ตอนนั้นผมคิดแต่เรื่องคับแค้นใจของตัวเอง ไม่ได้คิดเลยว่าเพื่อนที่ดีที่สุดของผมกำลังคับแค้นเรื่องอะไรกันแน่

            “มึงมันโง่ ไอ้ควายเอ๊ย ทำไมกูต้องมาเป็นเพื่อนกับคนอย่างมึงด้วยวะ” เจนภพตะโกนลั่น จากนั้นมันก็ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ด้วยการเหวี่ยงหมัดใส่ผม โง่แท้

            ด้วยอารมณ์หงุดหงิดเป็นทุนเดิม พอเห็นมันทำท่าแบบนั้น ผมเลยซัดมันจนมันลงไปนอนกองอยู่กับพื้น ส่งเสียงโอดโอยไม่เป็นภาษา

            “พอใจมั้ย ไอ้กระจอก มึงจะขี้ขลาดก็ขี้ขลาดไปคนเดียวเถอะ อย่ามาดึงกูไปยุ่งด้วย!” ผมด่าด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยว ไม่ใส่ใจน้ำตาที่ไหลออกมาอาบแก้มมันด้วยซ้ำว่ามาจากความเจ็บหรืออะไร ผมหิ้วปีกมันออกไปนอกบ้าน แล้วเสือกมันออกไปพ้นประตูทั้งอย่างนั้น

            เหี้ยเอ๊ย!

-------------------------------------------

            หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ผมกับเจนภพไม่ได้คุยกันอีก ตอนไปเรียน มันก็เลือกไปคนละทางกับผม คนละเวลา ทั้งๆ ที่ปกติ ถ้าเป็นตอนเจ็ดโมงเช้า มันจะมาเรียกผมก่อนจะออกไปเรียนแท้ๆ แต่ช่างแม่งเหอะ ผมเองก็ไม่อยากจะยุ่งกับมันแล้วเหมือนกัน

            ผมพยายามรวมกลุ่มเพื่อแก้แค้นอีกครั้ง แต่คราวนี้คนเห็นด้วยน้อยลง เพราะข่าวที่ส่งมาจากรุ่นพี่คนนั้น สัตว์เอ๊ย! ขี้ขลาดกันไปหมด เป็นกันเสียแบบนี้แหละ ชื่อเสียงสถาบันเลยรักษากันเอาไว้ไม่ได้ไง!

            สุดท้ายผมตัดสินใจลุยเดี่ยว เอาไงเอากันสิวะ กูก็ลูกผู้ชาย ไม่ใช่ลูกหมาสักหน่อย ตายก็ตายวะ ขอกูได้แสดงศักดิ์ศรีของกูให้พวกมึงเห็นก่อนแล้วกัน

            หลังเลิกเรียน ผมเปลี่ยนเสื้อผ้า เหน็บปืนที่หมดเงินไปหลายบาทเพื่อให้ได้มากระบอกนั้นเข้ากับเอว แล้วออกเดินไปยังสถาบันคู่อริทันที

            สัตว์! วันนี้กูจะยิงพวกมึงสังเวยค่าที่มึงยิงเพื่อนกูเจ็บไปหลายคน

            ผมก้าวเท้าออกจากสถานบันตัวเองด้วยความแค้นอัดแน่นเต็มอก แต่พอใกล้ถึงสถาบันคู่อริ ทำไมไม่รู้ มือผมถึงสั่น เหงื่อก็ออกจนชุ่มไปหมด ภาพของเพื่อนที่ถูกยิงค่อยๆ ผุดขึ้นมาในหัว แต่แทนที่ผมจะแค้นอย่างที่รู้สึกมาก่อนหน้านี้ ขาผมกลับสั่น

            บ้าเอ๊ย! ไม่จริง ไม่มีทาง! กูไม่ใช่คนขี้ขลาด กูไม่กลัวกับเรื่องแค่นี้หรอก กูมาคนเดียว ก็แล้วไงวะ

            แต่ยิ่งใกล้ถึง หลังของผมเย็นวาบลงเรื่อยๆ ตอนนี้ผมเหลือตัวคนเดียว ไร้เพื่อนฝูงเหมือนทุกครั้ง หรือผมจะกลับดีวะ ผมใส่ชุดนอกมา คงไม่มีใครรู้ แต่ถ้าผมกลับ ก็เสียหมาตัวเอง ตั้งใจไว้แล้วแท้ๆ แต่พอมาถึงก็ป๊อดหนีกลับ ทุเรศเอ๊ย แบบนี้มึงยังจะมีหน้าไปกร่างใส่ใครเค้าอีกวะ

            ความคิดของผมตีกันยุ่งเหยิงสับสน รู้ตัวอีกทีก็ถูกเด็กในสถาบันคู่อริมายืนล้อมเอาไว้แล้ว

            “เฮ้ย มึงน่ะ มาจากไหนวะ เดินวนเวียนมาได้พักหนึ่งแล้ว หน้าตาคุ้นๆ อยู่นะ” หนึ่งในนั้นเอ่ยทัก แล้วหรี่ตาของมันมองผม “ใช่ไอ้วศินชื่อดังคนนั้นเปล่าวะ ที่ข่าวว่าดุๆ น่ะ ถุย นี่แต่งไปรเวทมาสถาบันกูทำไมวะ สืบข่าวเหรอ? มึงจะทำตัวเป็นเอฟบีไอหรือไง”

            ผมเขม่นมองไอ้คนพูด ความแค้นผุดขึ้นในใจอีกครั้ง ไอ้สัตว์เอ๊ย มึงอย่าอยู่เลย

            ผมชักปืนที่เหน็บอยู่ที่เอวออกมา หมายใจจะยิงใส่ไอ้เชี่ยนั่นเพื่อแก้แค้นสักนัด แต่ทั้งๆ ที่ผมตัดสินใจเหนี่ยวไกไปแล้วแท้ๆ ทำไมลูกปืนมันถึงไม่ลั่นออกไปวะ

            “เฮ้ย! แม่งมีปืน” ไอ้พวกนั้นร้องลั่น จากนั้นผมก็ได้ยินใครอีกคนร้องออกมา “อย่าไปกลัวไอ้เหี้ย”

            จากนั้นผมก็หันไปเห็น ปืนลูกโม่สีดำกระบอกหนึ่งในมือของเด็กสถาบันคู่อริที่ยืนล้อมผมอยู่ กำลังเล็งมาทางผม

            ชิบหายเอ๊ย!

            ยังไม่ทันที่ผมจะได้คิดหรือขยับอะไร บางอย่างก็พุ่งเข้ามาขวางหน้าผมเอาไว้

            สีขาว เสื้อสีขาว... มีรอยชุนด้านหลังเล็กๆ รอยหนึ่ง

            เสื้อตัวนี้ผมเคยเห็น!

            ถึงจะไม่ค่อยได้ใส่ใจนัก แต่รอยชุนนี้มันเกะกะลูกตาผมมานาน ผมเคยถามมันว่าทำไมไม่ไปซื้อตัวใหม่ มันก็บอกอยากเก็บเงินไว้ตั้งตัว

 

            ปัง!

            แล้วในที่สุด ผมก็ได้เห็นเจ้าของร่างที่เข้ามาบังผมไว้ชัดตา ตัวมันผอม หน้าตามันก็งั้นๆ ผมเห็นหน้ามันมานานจนเบื่อ จนไม่อยากใส่ใจ ที่สำคัญ เราเมินหน้ากันมาได้ระยะหนึ่งแล้ว

            “เจนภพ!!” ผมได้ยินเสียงตัวเอง จากนั้นทุกอย่างก็เหมือนดังวิ้งๆ ตรงหน้าผมคือร่างของเจนภพที่กระเด็นเข้ามาเพราะแรงกระสุน เชื่องช้าเหมือนไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ผมเอื้อมมือไปข้างหน้า เพื่อจะคว้าร่างของมันเอาไว้ ตอนนั้นที่ผมได้เห็นหน้าของมันชัดๆ

            “มึง... ไม่เป็นไรใช่มั้ย?” ผมเหมือนได้ยินเสียงมันพึมพำออกมา ก่อนที่ร่างของมันจะล้มฮวบลงบนพื้น ก่อนที่มือผมจะทันเอื้อมถึงด้วยซ้ำ

            เสียงกรีดร้องจากคนที่เห็นเหตุการณ์ดังขึ้น จากนั้นเวลาที่เหมือนถูกหน่วงให้ช้า ก็ไหลเร็วอีกครั้ง

            ผมเห็นจุดสีแดงบนท้องมันขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ผมพยายามจะประคองตัวมันขึ้นมาด้วยท่าทางเงอะงะเหมือนคนทำอะไรไม่ถูก

            “เจนภพ เจนภพ ตอบกูสิวะ เจนภพ!” ผมตะโกนเรียกมันเหมือนคนบ้า แต่มันไม่ส่งเสียงอะไรตอบผมอีกแล้ว กระทั่วดวงตาเนือยๆ คู่นั้นของมันก็ปิดสนิท มีเพียงจุดสีแดงที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ บนเสื้อนักเรียนสีขาวของมัน

---------------------------------------------

            กลิ่นควันธูปลอยมากระทบจมูก ผมมองดูกลุ่มควันสีขาวลอยอ้อยอิ่งอยู่บนหิ้งพระ นานจนลืมไปแล้วด้วยซ้ำ ที่ผมไม่ได้นึกว่าที่บ้านมีพระพุทธรูปอยู่องค์หนึ่ง องค์ไม่ใหญ่ ขนาดหน้าตักแค่หกนิ้ว ทองเหลืองที่เป็นวัสดุหล่อองค์พระถูกกาลเวลากัดกร่อนจนจำเค้าเดิมไม่ได้ จำวันที่จุดธูปไหว้พระด้วยความตั้งใจครั้งสุดท้ายไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ

            แต่วันนี้ ผมควานหาธูปและไฟแช็กมาจุดเพื่อไหว้พระประธานองค์นั้นอย่างตั้งใจ และยังถึงขั้นรื้อเอาหนังสือสวดมนต์เก่าๆ บนหิ้งมาอ่านสวด นึกถึงสิ่งดีงามต่างๆ ที่คนคนหนึ่งควรจะทำ

            ชีวิตผมพลาดไปแล้ว พลาดไปมากจริงๆ

            ผมสวดมนต์จนจบเล่ม นั่งรอจนธูปหมดก้าน จากนั้นก็สูดหายใจลึก จัดกระเป๋าเป้อย่างตั้งใจ ก่อนจะเดินออกจากบ้านไป

---------------------------------------------

            ผู้หญิงอายุราวยี่สิบปลายๆ คนนั้นเงยหน้าขึ้นจากขอบเตียง ในตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไป ผมยกมือไหว้เธอ แล้วมองไปยังผ้าห่มสีขาว ที่คลุมร่างผอมๆ ที่นอนอยู่บนเตียง

            “เจนภพเป็นไงบ้างครับ”

            “หมอบอกว่าพ้นขีดอันตรายแล้ว” ฝ่ายนั้นตอบเสียงเครือ ท่ามกลางเสียงเครื่องช่วยหายใจที่ดังครืดๆ และเสียงเครื่องวัดชีพจรหัวใจที่ดังปิ๊บปิ๊บ

            ผมพยักหน้า “พี่จิน ผมขอโทษนะ”

            จินตนา พี่สาวของเจนภพมองหน้าผม น้ำตาไหล แล้วสั่นศีรษะ ผมได้แต่ขบริมฝีปาก “ผมรู้ พี่คงไม่ยกโทษให้ผม”

            พี่จินสั่นศีรษะอีกครั้ง ในที่สุดก็เค้นคำพูดออกมาจนได้ “ศิน... เรารู้จักกันมานาน.. พี่รู้ว่าศินไม่ใช่เด็กเลวร้ายไปทั้งหมด แต่...”

            เสียงของเธอหายไปในลำคออีกครั้ง ผมได้แต่สูดหายใจลึก กลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา

            “แต่ถ้าศินยังเลือกที่จะเดินทางสายนี้.... พี่ว่าเรา.....”

            ผมสูดหายใจลึกอีกครั้ง แล้วค่อยๆ เดินไปหาเธอ “พี่จิน... ผม....”

            ความเงียบเข้าปกคลุมในห้องอีกครั้ง ผมขบฟันกรอด น้ำตาอุ่นๆ ไหลอาบหน้า “ผมเลิกแล้วพี่... ผมสัญญา ผมจะ.. จะไม่ทำอย่างที่เคยทำอีกแล้ว”

            พี่จินมองผมอีกครั้ง จากนั้นก็พยักหน้าพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม “กลับตัวตอนนี้แหละศิน อย่าให้มันสายไปกว่านี้เลย ศินยังเด็ก ยังมีโอกาสดีๆ ในชีวิตมากกว่านี้”

            ผมได้แต่ก้มหน้านิ่ง เพื่อแอบซ่อนน้ำตาที่ไหลทะลักออกมา เวลาผ่านไปอีกพักใหญ่ ในที่สุด ผมก็ข่มความขืนในคอเอาไว้ แล้วพูดเสียงพร่า

            “พี่จินจะกลับไปนอนที่บ้านก่อนมั้ย? ผมเห็นพี่หยุดงานมาสองวันแล้ว... เดี๋ยวผมเฝ้าเจนภพเอง ผมเตรียมของมาค้างแล้ว”

            พี่จินยกมือลูบหัวผม “ขอบใจนะศิน ขอพี่ค้างนี่อีกคืนแล้วกัน เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าพี่ค่อยไปทำงาน”

 

            คืนนั้นผมนอนฟังเสียงเครื่องช่วยหายใจ กับเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ด้วยความรู้สึกที่อัดอั้นยากจะบรรยาย แต่มีอยู่ความรู้สึกหนึ่งที่ผมแน่ใจ

----------------------------------------------

            แสงแดดสีทองส่องลอดผ่านม่านบังแสงเข้ามาในห้อง ปลุกผมให้ตื่นจากภวังค์หลับใหล สิ่งแรกที่ผมหันไปมองคือเตียงที่เพื่อนผมนอนอยู่ ก่อนจะเบนสายตากลับมาที่โซฟาซึ่งพี่จินนอนพักเมื่อคืน และพบว่ามันว่างเปล่า พี่จินคงออกไปแล้ว ผมลุกขึ้น เก็บผ้าปูเตียงที่ขอพยาบาลมาเมื่อคืนขึ้นไปวางไว้บนโซฟา แล้วเดินไปที่เตียง มองหน้าเจนภพที่ซีดไปถนัดซึ่งมีเครื่องช่วยหายใจครอบปาก ก่อนจะยกมือจับไหล่มันเบาๆ

            ผมมีคำพูดมากมาย แต่จนถึงตอนนี้ ผมก็ยังพูดอะไรไม่ออก มันไม่รู้สึกตัว ไม่มีทางที่ผมจะสื่อสารกับมันได้ แต่โชคยังดี โชคยังดีจริงๆ ที่กระสุนไม่ถูกเข้าจุดสำคัญ และมันทนพิษบาดแผลไหว ตอนนี้ผมถึงยังสามารถเห็นมันหายใจอยู่ได้

            ผมจับไหล่มันได้สักพัก ก็ผละออกไปล้างหน้าแปรงฟัน ก่อนจะเดินมาเปิดโทรทัศน์ดูข่าวภาคเช้าขณะนั้นเอง ผมก็รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวบางอย่าง

            “เจนภพ!” ผมอุทาน ก่อนจะถลันเข้าไปที่เตียงผู้ป่วยจนเกือบจะขว้างรีโมตทิ้ง เจนภพกะพริบตาซ้ำๆ สองครั้ง จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้เพราะใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ “กูยังไม่ตายใช่มั้ย?”

            ผมดีใจจนลืมทุกอย่าง รีบพูดกับมันทันที “ยังไม่ตายสิวะ มึงดวงแข็งนะ”

            เหมือนเจนภพหัวเราะแหะๆ “ดีแล้วที่มึงไม่เป็นอะไร”

            ตาผมพร่าไปเสียเฉยๆ จนได้ยินเสียงมันถาม “ศิน...”

            “กูตามหมอมาแล้วกัน” ผมพูดเลี่ยง ก่อนจะเอื้อมมือไปกดปุ่มพยาบาล

---------------------------------------------

            ในที่สุดหมอก็ตัดสินใจถอดเครื่องช่วยหายใจออก ผมกับเจนภพเลยคุยกันได้สะดวกเสียที ตอนนี้ผมลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ เตียง คุยกับมันด้วยความรู้สึกดีใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

            “มึงบ้าชะมัด เอาตัวมาขวางกูทำไมวะ”

            เจนภพหัวเราะเบาๆ คงเพราะกระเทือนแผลที่ท้องของมัน “มึงนั่นแหละบ้า จะไปตายหรือไง”

            ผมเงียบ ได้แต่ก้มหน้าก้มตารับความผิด

            “พี่กูล่ะ?”

            “ไปทำงานแล้ว เขาอยู่เฝ้ามึงหลายวันแล้วนะ”

            “อืม... เขาคงต้องจ่ายค่ารักษากูเยอะเลยล่ะ”

            ผมมองหน้ามัน แล้วพูดตอบไป “ไม่เป็นไร กูจะช่วย”

            “?”

            พอเห็นมันอ้าปาก ทำท่าจะพูดอะไร ผมเลยพูดต่อ “กูเล็งแล้ว ร้านเฮียเส่งแถวบ้านเรา ลูกจ้างแกเพิ่งลาออกไปหมาดๆ แกสนิทกับกูอยู่ คงจะรับกูเข้าทำงานได้”

            “เฮ้ย แล้วมึงไม่เรียนหรือไง”

            ผมยิ้ม “เรื่องเรียนช่างมันเถอะ ยังไงกูกลับไป ก็ต้องถูกหมายหัวอยู่ดี ซวยๆ จะโดนมึงไปด้วย ให้กูทำงานหาเงินมาช่วยรักษามึงดีกว่า”

            “บ้าชะมัด” เพื่อนผมบ่น หลังจากเงียบอยู่เป็นนาน มันคงนึกไม่ถึงล่ะมั้งว่าคนอย่างผมจะกลับลำได้ในเวลาไม่กี่วันแบบนี้

“มึงไปทำงาน แล้วใครจะช่วยกูตอนไปโรงเรียนวะ กว่าแผลกูจะหายอีก ใครจะอยู่เป็นเพื่อนกู”

            ผมมองมัน แล้วหัวเราะ “ถ้ามึงกลัวเหงาขนาดนั้น กูอยู่เป็นเพื่อนมึงจนมึงหายก็ได้ แบกมึงไปส่งโรงเรียนยังได้เลยเอ๊า”

            “โรงเรียนไกลไป” เจนภพตอบ “แบกกูไปร้านเฮียเส่ง แกบ่นๆ อยากได้คนช่วยขยายงานด้านเทคนิคอยู่ รับรองว่าต่อให้ไม่มีวุฒิ แกก็รับกูเข้าทำงานแน่”

            “....” ผมอึ้งไปถนัด ได้ยินเสียงมันพูดอีก “กูกลับไปเรียนก็ยากเหมือนกัน ก็เป็นเพื่อนมึงนี่ ต้องซวยอยู่แล้ว เพราะอย่างนั้นนะ... กูไปทำงานหาเงินจ่ายค่ารักษาตัวกับมึงดีกว่า”

            ผมได้แต่สั่นหัว สั่นอยู่แบบนั้นไม่รู้กี่ครั้ง ก่อนจะพึมพำออกมาได้ “มึงนี่มันบ้า บ้าจริงๆ เลย กูหลงเมินคนบ้าอย่างมึงมาได้ไงตั้งนานวะ”

            ได้ยินเสียงเจนภพถอนหายใจ “ไม่รู้สิ แต่โชคดีนะที่กูยังไม่ตาย ไม่งั้นมึงคงจะไม่รู้ตัวสักที”

            “ใช่ โชคดี โชคดีมากจริงๆ” ผมพูดซ้ำๆ ท่ามกลางแสงแดดยามเช้าที่อบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับรอยยิ้มของคนตรงหน้า

---------------------------------------------------
(จบบริบูรณ์)

"ขอโทษ" อีกที

จริงๆ ตอนแรกตั้งใจจะให้จบเศร้า แต่พอเรื่องเดินมาถึงช่วงท้ายๆ ก็ไม่อยากจะเศร้าซะงั้น (จริงๆ เป็นพวกไม่ชอบจบเศร้าอยู่แล้ว)

อย่าถามว่าคู่นี้รักกันแบบไหน เราก็ไม่อยากตอบ ฮ่าๆ มันเป็นเรื่องสั้นค่ะ เรื่องสั้น ที่เหลือปล่อยให้คนอ่านไปจิ้นเอง (โดนโบกกับส้นรองเท้า)

ขอบคุณที่ติดตามจริงๆ นะคะ สุดท้าย

"ขอโทษ" อีกครั้งค่ะ กระซิกๆ  :m15:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
เค้าชอบล่ะ

ลุ้นว่าเจนภพอย่าเป็นอะไรเลย ขอบคุณที่เจนไม่เป็นอะไร อย่างน้อยก็เป็นโอกาสให้เริ่มต้นใหม่ได้


อ่านแล้วรู้เลยว่าเรื่องสั้นแน่ และดีใจที่ไม่หักมุมนะคะ

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
นึกว่าจะจบมาม่าซ่ะอีก

ตอนแรกเห็นเปิดเรื่องก็ไม่กล้าอ่าน

แต่ในที่สุดก็ชนะความอยากอ่านไม่ได้

สรุปจบไม่มาม่า แถมเล่นเอาซ่ะซึ้ง

ชอบจัง แถมยังจิ้นไปได้อีก

ยังไงก็ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะครับ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
โฮ่...นึกว่าน้องเจนจะไม่รอดซะแล้ว ถ้าแบบนั้นจะบีบคั้นหัวใจมากกว่า
แต่จบแบบนี้ก็ไม่เลวนัก
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ pure_ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
เหลียวซ้าย แลขวา มุตตา กับ มุนินทร์ อยู่ไหนอ่ะ  555 คนละเรื่องกันแล้วเฟร้อย
น่ารักอ่ะ ไม่จำเป็นต้องบอกให้รู้ว่ารัก ใช้ตัวบังกระสุนพิสูจน์รักแท้กันเลยดีกว่า  ได้ใจไปเต็มๆ

น้องเจนภพ สุดยอดค่ะ  นับถือในความรักของน้องเลย เอาใจพี่ไปเลยน้อง ^^

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
อ่านมาถึงตอนควันธูปแล้วใจหายแวบเลย :a5:
โชคดีที่เจนภพไม่เป็นอะไร ต่อไปนี้ก็พากันทำมาหากินสร้างครอบครัวสินะ อันนี้คิดเองเออเอง  :laugh:
ขอบคุณค่ะ เรื่องสั้นมันดีตรงไม่ต้องรออย่างทรมานแบบเรื่องยาวนี่แหละ o13

ออฟไลน์ U_Ton

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
ซึ้งเลย ความรักเเบบเพื่อน(????...เหรอ)ของเจน

เป็นเพื่อนที่ดีมากๆ ไม่ทิ้งเพื่อน เป็นไงล่ะ... สุดท้ายนายจืดชืดของเรานี่เเหละลูกผู้ชายตัวจริง

ยิ่งกว่าเด็กช่างคนอื่นที่ว่าเเน่อีก... ป่ะ ไปทำงานเก็บงานรักษาตัว เก็บเงินไปเรียน กศน.กันดีกว่า

 o13 ชอบๆ

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
ดีแล้วที่เจนภพไม่เป็นอะไร ไม่ชอบเรื่องเศร้าเหมือนกันค่ะ  o13

แต่แม้จะลดอายุตัวเอก ก็ยังคงความสามารถด้านต่อสู้เหมือนเดิม ว่าแล้วก็คิดถึงเพชร  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
สั้นจิงจัง  :laugh:
สุดท้ายนายสองคนก็จะทำงานสร้างครอบครัวกันอ่ะเส่~ (บางทีก็คิดไกลไปนะ  o6)
                  :L2: :L2: :L2: :L2:

- คราส -

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจที่จบไม่เศร้า แอบหน่วงๆเหมือนกัน

สองหนุ่มจะเป็นยังไงต่อหนอ

 :pig4:

ออฟไลน์ Satang_P

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2

ออฟไลน์ puchi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
ดีแล้วที่ไม่จบเศร้า ชอบจ้ะ ^__^

ออฟไลน์ heaven13

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 569
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
ชอบจบแบบนี้จ้า

แอบ สั้น จัง เรื่องนี้ อิอิ

ออฟไลน์ kamikame

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ซึ้งเบยยย ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ นะฮ๊าฟฟฟฟ

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
ให้จิ้นเอง งั้นก็ขอจิ้นว่าตอนจบเขารักกันละกันเนอะ ^0^

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2024
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เรื่องนี้เป็นเรื่งสั้นที่เราอ่านแล้วรู้สึกว่าอินเนอร์มันทะลักมากกกก
ชอบอ้ะ

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
ซึ้งไปกับมิตรภาพ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ทำใจไว้แล้วนะว่าจะต้องจบเศร้าแน่ๆอ่ะ
แต่คนเขียนช่างมีความเมตตาต่อนักอ่านตัวน้อยๆ
ดีแล้วค่ะที่จบแบบนี้ เราก็ไม่ชอบเรื่องเศร้า T_T

ขอบคุณค่ะ  ^^

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ

ออฟไลน์ pipoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
    • https://twitter.com/dokpeepo

ออฟไลน์ nbee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 849
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
ขอบคุณค่ะ
เตือนใจให้กับคนรักศักดิ์ศรีทั้งหลาย
พ่อแม่ยอมทิ้งศักดิ์ศรีเพื่อลูก แต่ทำไมลูกจึงยอมทิ้งพ่อแม่เพื่อ ศักดิ์ศรีจอมปลอมนั้นล่ะ

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
กลับมาอ่านอีกรอบ ^^

ออฟไลน์ มะปรางเปรี้ยว

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายดีๆ  :กอด1: :pig4:

ออฟไลน์ purple

  • Aventador FC
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
แอร๊ยยย เนื้อเรื่องอย่างดราม่า ไหงจบซะเชินเลย 555
เจน-ศิน จากนี้ก็ช่วยกันทำมาหากินสร้างเนื้อสร้างตัวนะ ><
ดีใจที่จบแฮปปี้ค่าา

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 822
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ขอบคุณเจนภพที่คอยอยู่ข้างๆศินมาตลอด แล้วก็ดีใจที่ศินคิดได้แล้วใส่ใจเจนภพบ้าง   :กอด1: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด