ตอนที่12
ยูคิที่กำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องบริหาร นั่งทำหน้างอ บวกอารมณ์เสียสุดๆ โทรไปกี่สายๆ คิโบก็ไม่ยอมรับซักที
กดเป็นเบอร์ที่หกสิบ แล้วแต่ปลายสายก็ยังไม่รับ สุดเเสนจะเซ็ง ทางด้านนอกเลขาสาวที่กำลังจะเอาเอกสารมาให้เซ็น
เมื่อเห็นใบหน้าของยูคิที่ไม่สบอารมณ์นัก ต้องรีบปิดประตูกลับไปทันที
"โว้ย!!! ไม่มีอารมณ์ทำงานเลย ว่ะ คิดถึงจัง" ยูคิว่าแล้วปาปากกาที่เหวี่ยงฉึก หวิดหน้าชินไปปักกับประตู ทำเอาชินใจหายวูบ
"คุณยูคิ โทรศัพท์จากคุณอาริสะครับ ช่วยรับด้วยครับ" แล้วก็รีบ ออกจากห้องให้ไวไม่งั้นจะกลายเป็นที่ระบายอารมณ์ซะเอง
ยูคิมองโทรศัพท์นิ่งอยู่พักหนึ่งจึงตัดสินใจรับสาย
"ไอ้ยูคิ ฉันโทรไปเบอร์แกทำไมไม่รับ" แค่นั้นแหละยูคิวางสายทันที ไร้สาระ ไม่รู้จะโทรมาทำไมนักหนา ทีคนอยากให้โทรหาบ้างกลับไม่โทร ว้อย หงุดหงิดๆ
เสียงโทรศัพท์เข้ายูคิรีบรับทันที
"แกไอ้ยูคิ แกกล้าตัดสาย....." แล้วก็โยนทิ้งมันซะกระเด็นจนเเตกกระจาย
"ไอ้ชิน ออกรถ กูจะไปข้างนอก" แล้วก็ลุกขึ้น เข้าห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
...........................
"คุณยูคิจะไปไหนครับ" ชินถามยูคิ เมื่อออกรถไปนานเเล้ว แต่ยูคิก็ยังไม่บอกจุดหมายปลายทางเสียทีได้เเต่นั่งนิ่ง
สายตามองไปทางนอกกระจกอย่างไร้จุดหมาย ยูคินั่งใช้ความคิดซักพักหนึ่งก่อนจะให้ชินเลี้ยวรถกลับ ยูเทินข้างหน้า
นั่งเเกว่งชิงช้าที่สวนสาธารณะอยู่นานเท่าไรไม่รู้ ที่นี่เป็นที่ๆเขาเจอกับคิโบ แต่ต่างตรงที่.....ใครมันเสือกเอาเครื่องเล่นมาไว้ตรงสนามบาสวะ
มองไปอีกฝั่งของสนามเด็กเล่นซึ่งกำลังปรับปรุบพื้นอยู่สงสัยคงจะไว้ชั่วคราว ถ้าคิโบออกจากบ้านได้เมื่อไรชวนมาเล่นบาสมั่งก็ดี
ยูคิใช้เวลากับเครื่องเล่นชิงช้าเด็กที่ไม่ค่อยจะสมส่วนกับตัวเองเท่าไรไม่รู้ อยู่นานพอที่ท้องฟ้าจากสีแดงค่อยๆ มืดลงอย่างช้าๆ
"คุณยู......."
ชินที่นั่งมองอยู่นาน ไม่กล้าที่จะเรียกยูคิให้ออกจากห้วงซักเท่าไร แต่ตอนนี้ฟ้ามันมืดเเล้ว ยูคิยังนั่งแกว่งอยู่อย่างนั้น
สงสารคนรอบ้างเถอะเจ้านาย ผมหมดเงินไปหลายเยนเเล้วนะกับการซื้อขนมกินรอเจ้านายอ่ะ แต่ห่วงเจ้านายเหมือนกันที่ยังไม่ได้กินอะไรเลย
"เฮ้อ~" ยูคิถอนหายใจ ทำเอาชินเเทบสะดุ้ง
"คุณยูคิครับ นี่มันเย็นมากเเล้ว" ชินตัดสินใจพูดกับยูคิ
ยูคิหันมองก่อนจะลุกพรวดเดินไปซะเฉยๆ ชินเกาหัวเเกรกๆกับท่าทีเจ้านาย สงสัยจะเพ้อหนัก
ยูคิเดินไปตามทางถนนของสวนสาธาราณะ ตาก็เหม่อมองไปยังท้องฟ้า คิดถึงคิโบจัง คิดถึงจังเลย แอบปีนบ้านคิโบดีไหมน้า
ใจอยากจะทำแบบนั้นนะ แต่จิตใต้สำนึกมันยั้งไว้ถ้าทำเรื่องใหญ่เเน่
"บ้าจริงเลยเรา" ยูคิบ่นกับตัวเอง เดินหลุดออกจากสวนสาธารณะได้ก็เจอลานกว้าง มองเลยไปเป็นสระน้ำ ยูคิได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย เเว่วอยู่ไกล
"เสียงอะไรน่ะชิน" ชินทำคิ้วย่น เพื่อฟังเสียง
"เสียงเหมือนคน ตีกันเลยครับ"
"ไปดูกัน" ยูคิ เดินไปอย่างไม่ค่อยร้อนรนนัก เพราะมันไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็อยู่ในเขตของเขา
ถ้าเกิดมีเรื่องจริงๆเขาก็ต้องจัดการ
ชายฉกรรจ์ ประมาณ5คนกำลังลุม ผู้ชาย2คนที่เค้าพอจะรู้จักถึงไม่สนิทดีนัก แต่ก็รู้จักในเเวดวงสังคม ชายอีกคนนั้นเค้าจำได้ดีตอนที่เจอกับคิโบในตลาด
กำลังกันท่าปกป้อง อีกคนอย่างเต็มที่
"สึคุโมะ ถอยไปไอ้พวกบ้านี่มันทำอะไรฉันไม่ได้หรอก" อิจิรุ ว่าแล้วผลักสึคุโมะ เซไป
"แต่ คุณไม่เจอเรื่องแบบนี้มานาน จะเจ็บตัวเอานะ" สึคุโมะแสดงสีหน้าเป็นห่วง ไอ้พวกนั้นมันตั้งท่าจะเล่นให้ได้
"เฮ้ยพวกมึงคุยกันพอยังวะ"ไอ้หน้ากุ้ย ที่หน้าตาบ่งบอกว่าคงเหี้ยตั้งแต่กำเหนิด ว่าเเล้วเดินเข้ามาหมายจะต่อยคนทั้งสอง
เพื่อนๆมันก็กรูเข้ามา ทั้งสองคนตั้งท่าเตรียมตัวเต็มที่เอาหลังชิดกันเพื่อระวังหลังซึ่งกันเเละกัน
ยูคิ ได้ยินชัดกับหูของตัวเอง นั่นมันคุณ โฮโจ อิจิรุนี่ กับผู้ชายอีกคนที่ตอนเเรกเค้าจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าเท่าไร
อิจิรุ อิจิรุ อิจิรุพ่อคิโบ!!! ขาไวกว่าความคิด ยูคิวิ่งปรี่ โดยที่ชินไม่ทันตั้งตัว
"อ้าวคุณยูคิ!!!"ชินร้องทันทีที่จู่ๆลูกพี่ตัวเองก็วิ่งเข้าไป จากนั้นจึงรีบวิ่งตามไปทันที
ยูคิกระโดดเตะชายคนหนึ่งกระเด็น ตอนที่กำลังต่อยกันนัว มีบางคนมีอาวุธเป็นดาบไม้ วาดมาเต็มเเรงแต่ชินเอามือรับไว้ทัน
"มึงคิดจะมีเรื่องกับเจ้านายกู คิดผิดซะเเล้ว" คนที่ถูกว่าทำหน้างงๆ ไอ้สองคนนี้มันมาได้ไง
"แล้วมึงเสือกอะไรนี่มันเรื่องของพวกกู" ชายหน้าเถื่อนอีกคนว่า
"มีเรื่องกับพ่อตากู มึงอย่าคิดว่าจะรอด" ยูคิพูดอย่างโมโหปรี่ตัวเข้าซัดผู้ชายคนหนึ่ง จนล้มลงไป
อิจิรุ กับ สึคุโมะมองหน้ากันอย่าง งงๆเช่นกัน มองดูยูคิกับชินที่มีเรื่องเเทนตัวเอง
ไอ้พวกนี่มันก็เก่งใช่เล่น มันเป็นคนของใครกันนะที่กล้ามีเรื่องกับลูกหลานของตระกูลโฮโจ แถมยังไม่รู้จัก ทั้งชิน ทั้งยูคิ ที่เป็นทั้งลูกพี่
และบอสใหญ่ของถิ่นนี้ แต่ถึงรู้พวกมันก็คงกลายเป็นวิญเเล้วล่ะ ยูคิจัดการต่อยไม่ยั้ง แต่ด้านหลังก็มีชินคอยกันไม่ให้โดนเล่น
แต่ขณะที่ชินเสียท่าซะเอง ล้มไปจ้ำเบ้ากับพื้น แต่ก็รีบยันกายขึ้นมา จังหวะนั้นด้านหลังของยูคิเปิดช่องให้ไอ้พวกนั้น เล่นได้
"ระวัง เฮ้ย!!" อิจิรุ ร้องลั่นเมื่อยูคิจะโดนทำร้ายเเต่ช้าไปซะเเล้ว
ฉึก!! เสียงเหมือนวัตถุปลายแหลมบางอย่างทิ่มเข้าด้านหลังของยูคิเต็มๆ แต่ยังไม่เข้าลึกนัก อิจิรุ จัดการไอ้นั่นได้ทันก่อนที่มันจะเล่นซะมิดด้าม
นี่มันกะเอาตายเลยใช่ไหม!!
ชินตกใจ และโกรธจนถึงขีดสุดมันกล้าทำเจ้านายกูหรอ จิกหัวไอ้คนนั้นแล้วซัดเค้าที่หน้า ผลักมันลงกับพื้นเเล้วกระทืบซ้ำ อิจิรุ และสึคุโมะเข้าไปพยุงยูคิ
ที่ทรุดลงกับพื้น ใบหน้าเหยเก ด้วยความเจ็บ
"เป็นไงบ้าง" สึคุโมะถามสีหน้าเป็นห่วง ยูคิส่ายหัวไปมาแต่พูดไม่ออก
"ไม่เป็นได้ไงล่ะโดนขนาดนี้ ไปเอารถมาเร็ว!!" อิจิรุสั่งสึคุโมะ สึคุโมะเลยรีบเดินไปทางจอดรถเเล้วเอารถมาเทียบ ชินที่กำลังจัดการกับคนนั้นจนมันแน่นิ่งไปแล้ว
คนที่เหลือก็วิ่งหนีหายไปกันหมด ชินเดินไปทางอิจิรุเพื่อช่วยพยุงยูคิเข้าไปในรถ
"ผมฝากด้วยนะครับ ผมขอจัดการเรื่องนี้ก่อนว่าใครเป็นตัวการ"อิจิรุพยักหน้าเข้าใจก่อนที่ชินจะปิดประตูรถให้ สึคุโมะออกรถอย่างรีบเร่งเพื่อให้ถึงโรงพยาบาลโดยไวก่อนที่เลือดจะไหลไปมากกว่านี้
"ทนไว้ จะถึงโรงพยาบาลแล้วอย่าเพิ่งช็อคก่อนล่ะ" อิจิรุสั่งยูคิที่พยักหน้าเข้าใจ แต่สีหน้าที่ซีดเผื่อดนั่นทำให้อิจิรุ กังวล ยิ่งกว่า
*
........................
"แม่ ปอกเเอปเปิ้ลให้กินหน่อยดิ่" ผมขอแม่แบบอ้อนวอนสุดๆ
"ปอกเองสิ โตแล้วยังจะให้ปอกอีก เปลือกอ่ะกินๆเข้าไป มีประโยขน์" แม่ส่ายหัวไปมาเเล้วเดินหนีเฉย เอ๊า แล้วจะปอกไงวะปอกเองทีไรกินเนื้อไปด้วยทุกที
บางทีก็ดำอีก ไปขอทาคุดีกว่า
"ทาคุ๊~ หง่ะ" ทาคุกำลังนั่งพิมพ์ไรไม่รู้แกร่กๆ หน้าเครียดอีก
"ว่าไงคิโบ"ทาคุหันมาทำหน้าดุๆใส่ หง่ะ สงสัยรมณ์ไม่ดีแหงๆ
"คือ ปอกแอป..."
"ทาคุไม่ว่างนะ ไปให้พ่อบ้านปอกให้สิ" ง่า ไปก็ได้(T^T) พอเดินไปหาพ่อบ้าน ที่กำลังวุ่นกับกับข้าวในครัวหน้ามัน กันอย่างเอาเป็นเอาตาย
"พ่อบ้านปอกแอปเปิ้ลให้หน่อยดิ่" พ่อบ้านหันหน้ามันๆมาแต่มือยังคงผัดกับข้าวในกระทะ
"ขอโทษครับนายน้อยตอนนี้พ่อบ้านไม่ว่างมื้อเย็นยังไม่เสร็จเลยครับ"แล้วก็หันไปสารวนกับกับเข้ามื้อเย็นตอน ง่าเอาไงดีวะ ปอกเอกก็ได้ฟระ ชิๆๆๆ
นั่งปอกมันตรงระเบียงนี่หล่ะลมเย็นดี ค่อยๆปอกที่ละนิดเพื่อไม่ให้มันเข้าเนื้อ ฟู้ เสร็จไปหนึ่งชินแทบปาดเหงื่อ ทำไมปอกแอปเปิ้ลมันยากเย็นขนาดนี้วะ
เอาล่ะเริ่มชิ้นที่สอง อืมๆๆๆ
แป๊ะ เฮ้ย!! ฉึก!!!
"ว๊าก!!!!!! แม่ ทาคุ คิโบนิ้วขาดแล้ว!!" ไอ้นกบ้าหล่นมาได้ตรงมือคน ตกใจเฉือนนิ้วตัวเองเลย เเง๊~ วิ่งไปหาแม่เลือดหยดติ๋งๆ
"แม่ นิ้วคิโบขาดแล้วฮือ" ผมเอานิ้วที่มือกดห้ามเลือดไว้ เเม่ทำตาเหลือกตกใจ ทำอะไรไม่ถูก พร้อมๆกับที่ทาคุวิ่งมาพอดี
"เป็นอะไรคิโบ" ผมเอามือ ที่มีเเต่เลือดให้ทาคุดู
ฮือ เจ็บอ่ะ แล้วทาคุก็เดินไปเอาผ้า ที่ผมหวังว่ามันจะสะอาดมาปิดแผลไว้
"ไปโรงพยาบาลกับพี่" แล้วทาคุก็ลากผม แม่ก็ได้เเต่อึ้งอยู่นั่นแหละ พอได้สติก็เดินตามมาทันที
.............................
โรงพยาบาลเอกชน ที่ค่อนข้างดูดี แต่ค่ารักษาเเพงโครตๆหรือเพราะค่าเงินมันเยอะกว่าของไทยเลยดูเเพงก็ไม่รู้ แต่มันก็เเพงล่ะนะ
"ฮือ เจ็บอ่ะ แม่ ทาคุ คิโบเจ็บ" ผมร้องไปบ่นไปขณะที่หมอกำลังเย็บแผลที่โดนมีดบาด
"เงียบเลยโตขนาดนี้เเล้วยังจะร้องเป็นเด็ก"
"แม่ ใจร้าย ไม่รักคิโบเลย ฮือ" ร้องหนักๆเลยนี่เเน่ะ
"เอ๊าเด็กคนนี้นิ่" แม่ส่ายหัวไปมา
พอหมอเย็บเสร็จ ก็บอกให้กลับบ้านได้ทาคุไปจ่ายค่ารักษาพยาบาล แต่แม่ดันไปด้วยปล่อยให้ผมอยู่กับหมอแก่อ้วนๆที่กำลังพันแผลให้
"ต้องดูเเลรักษาแผลนะครับอย่าให้มันเปื่อย ถ้าแผลใกล้หาย มาหาหมออีกทีหมอจะดูว่าดึงไหมได้หรือยัง"
ห๊ะ นี่ยังจะต้องดึงออกอีกหรอ
"หมอ ไหมนี่มันไม่ได้ละลายเองหรอ ไหมไม่ใช้ไหมละลายอ่ะ รู้มะเเค่โดนเย็บผมก็เจ็บแทบแย่ละ นี่ยังจะดึงออกอีกหรอ"
ผมว่าอย่างโมโห หมอดูอึ้งๆเหมือนกันที่ผมว่าอย่าง นั้น พอทำแผลเสร็จผมก็รีบออกมาทันที
แล้ว ทาคุกับแม่ไมไปนานจังง่ะ อยู่ตรงไหนกันละเนี่ย ผมเดินออกมาได้จนเกือบจะออกไปถึงเค้าเตอร์จ่ายยา ทางที่ผมออกมามันเป็นห้องฉุกเฉินพอดี
ทั้งหมอทั้งพยาบาล กำลังเข็นรถคนไข้ฉุกเฉินกันอย่างรีบร้อน ผมเลยหลบไปข้างๆเพื่อให้เค้าพาคนเจ็บผ่านไปได้สะดวก แต่พอรถเข็นผ่าน
ผมมองไปยังผู้ป่วย ที่นอนจมกองเลือด ใบหน้าซีดเผือด หน้าคุ้นๆจังวะ
เฮ้ย!!
นั่นมัน ยะ ยะ ยะ ยะ
ช็อค
ช็อคอย่างเเรงนี่เราจำคนผิด หรือไอ้บ้านั่นมันหน้าเหมือนยูคิกันเเน่ว่ะ ขณะที่ผมกำลังตลึงและทำปากพะงาบๆ ที่กำลังจะเอ่ยชื่อ
แต่พูดไม่ออก จู่ๆก็โดนชนอย่างเเรง
"อั่ก"ผมล้มไถไปกับพื้น ใครแม่งวิ่งชนวะ
"พ่อ!!!"
"คิโบ!!" ตกใจรอบสอง พ่อมานี่ได้ไงอ่ะ
เฮ้ย!!!นั่นเลือด ปากพงาบๆพูดไม่ออกอีกละตู
"คิโบเป็นอะไรมาโรงพยาบาลทำไมน่ะลูก"พ่อจับผมหันซ้ายขวา
"ไม่ เป็น ไม่ใช่ พ่อเมื่อกี้ เมื่อกี้มันยูคิใช่ปล่าว" ผมจับพ่อเขย่าอย่างตั้งใจ
"คิโบ คิโบใจเย็นๆ" พ่อว่าแล้วจับผมเพื่อให้หยุด ตอนนี้ผมรู้สึกว่า ตัวเองมันชาๆยังไงไม่รู้ หัวสมองมันตื้อๆ ไปหมด นี่ผมเป็นอะไรวะ
"คิโบ รู็จักยูคิด้วยหรอ" ผมพยักหน้าหงึก พูดไรไม่ออกเลย
"เกิดอะไรขึ้นน่ะ อ๊ะ อิจิรุ!"
"ฮานะ!"
"เธอมาอยู่นี่ได้ไง นั่นเลือด!"แม่ทำตาโตตกใจเข้าไปใหญ่
"มันเกิดอะไรขึ้นครับ คุณโฮโจ" ทาคุที่เดินตามเเม่เเละเห็นคราบเลือดบนเสื้อก็ถามขึ้นมาด้วยความตกใจเช่นกัน
...........................
ตอนนี้ผมและทุกๆคนกำลังนั่งหน้าเครียดอยู่หน้าห้องไอซียู ต่างคนต่งรอคอยว่าหมอจะออกมาให้คำตอบเมื่อไร
พ่อกลับมาพร้อมตาลุงที่ขอแยกไปล้างคราบเลือด ส่วนแม่ก็นั่งหน้าเครียดไม่แพ้กัน
ได้โปรดเถอะ อย่าให้เค้าเป็นอะไร บุญที่ผมเคยทำมา ขอส่งให้แก่ยูคิด้วยเถอะ อย่างน้อยก็ขอให้ต่อชีวิตเขาก็ยังดี
แกร๊ก หมอเปิดประตูออกมา ผมและพ่อต่างเข้าไปเพื่อฟังหมอ
"หมอ คนของผมเป็นยังไงบ้างครับ" พ่อเป็นคนถาม ทันทีที่หมอโผล่หน้าออกมา
"คนไข้เสียเลือดมากครับ เราต้องการเลือดกรุ๊ปAB แต่ทางโรงพยาบาลเรามีเลือดไม่พอ ไม่ทราบว่ามีญาติคนไหนที่มีกรุ๊ปเดียวกันกับคนไข้บ้างครับ"
"ผมครับ ผมกรุ๊ปAB" ผมรีบบอกทันที โชคดีจริงๆที่ผมมีเลือดกรุ๊ปเดียวกับกับยูคิ
"คิโบ ลูกเลือดกรุ๊ปABหรอ"พ่อทำหน้าเหมือนตกใจ
"ครับ คุณหมอ ผมจะเป็นคนถ่ายเลือดให้คนไข้เองครับ" ผมหันไปบอกพ่อและหันกลับไปคุยกับหมอ เร็วๆเถอะช่วยยูคิก่อนที่มันจะสายเกินไป
"งั้นไปวัดความดันก่อนครับ" ผมเดินตามหมอไปทันที โดยที่ไม่ฟังเสียงทักท้วงของใครทั้งนั้น
..............................
ผมมองเลือดของตัวเอง ไหลผ่านไปตามสายอีกฟากของม่านที่ปิดบัง เสียงหมอ กำลังสั่งพยาบาลหยิบมีดหลายขนาด ดังเข้ามาในโสตประสาทของผมจนใจสั่น
ขอเถอะอย่าให้มันเป็นอะไรเลย ผมพาวนาอยู่อย่างนี้ตลอดเวลา ผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้แต่ตอนนี้ตัวเองรู้สึกเพลียมากๆ ของีบซักแปปก่อนนะเเล้วเดี๋ยวเราคงจะได้เจอกันหวังว่านายคงจะรอด ยูคิ
"คุณหมอคะ ญาติผู้ป่วยความดันลดลงค่ะ!!!!"
.............................