แอบมารัก ... ก็ไม่บอก 20/05/2015
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แอบมารัก ... ก็ไม่บอก 20/05/2015  (อ่าน 412318 ครั้ง)

ออฟไลน์ from_mars

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-0
แมลงปอแย่ละ
เค้าจีบ(ชัด)แล้ว จะปั้นหน้ายังไงน้อ? คึคึ

ขอบคุณและรออ่านต่อจ้า

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

เข้ามาดูแมลงปอ  อิอิ

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
ดิวจะโกรธปอไหมเนี่ย ห้ามโกรธๆๆๆๆๆ


ไม่โกรธหรอกจ้า อิอิ

น้องแมลงปอจะเดินได้ไหมอะ?

ถ้าไม่ได้...

ดิวจ๋า! มาอุ้มน้องแมลงปอหน่อยเร้ว! กรี๊ดดดดดด :m3:

อยากให้เป็นแบบนั้นเหมือนกันค่ะ กรี๊ดๆ

เรื่องนี้อ่านแล้วสบายตาสบายใจมากเลย น่ารักดี เรื่อยๆไม่เร่งรีบ ดีค่ะ ชอบ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ

ขอบคุณมากเลยค่ะที่ชอบ ยังไงช่วบติดตามตอนต่อไปด้วยนะค่ะ

อยากอ่านต่อจะแย่แล้วค่า  :serius2:

ได้ลงวันนี้แล้วล่ะค่ะ ขอบคุณค่า

ลุ้นอ่ะ อยากให้คบกันเร็วๆ

อยากให้เป็นแบบนั้นเหมือนกันค่ะ แต่ว่าเรื่องยังเดินไปไม่ถึงซะที อิอิ กำลังปั่นเลยจ้า

แมลงปอแย่ละ
เค้าจีบ(ชัด)แล้ว จะปั้นหน้ายังไงน้อ? คึคึ

ขอบคุณและรออ่านต่อจ้า

ขอบคุณมากเลยค่ะ ช่วยติดตามต่อไปด้วยนะค่ะ

เข้ามาดูแมลงปอ  อิอิ


ขอบคุณมากเลยค่ะที่แวะมาดู อิอิ

+++++++++++++++++++-++++++++

ตอนหน้า ภายในวันนี้จะมาลงนะคะ

ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากเลยค่ะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-12-2012 16:32:56 โดย marionatte »

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
ตอนที่ 11



“โชคดีที่หัวไม่แตกนะครับ ทีหลังต้องระวังให้มากกว่านี้นะ เวลาเดินขึ้นลงบันไดต้องระมัดระวัง หรือไม่ก็จับราวเอาไว้ก็จะได้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เดี๋ยวออกไปรับยาที่เคาน์เตอร์ด้านนอกนะครับ” คุณหมอพูดพร้อมรอยยิ้ม ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆส่งไปให้ ก่อนจะมีผู้ช่วยหมอมาช่วยพยุงผมออกจากห้องตรวจ

โดยรวมก็ไม่มีอะไรครับ นอกจากหน้าผากที่โดนกระแทกอย่างแรงจนโนออกมาเล็กน้อย ตรงน่องเป็นแผลถลอกจากการเสียดสีระหว่างการตกบันไดลงมา แล้วก็ข้อเท้าแพลง ตอนนี้ข้อเท้าของผมเลยมีผ้ามาพันไว้ครับ เพราะหมอบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่อยากให้เคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด ถึงอย่างนั้นผมก็ยังรบเร้าจนแม่ใจอ่อน ก่อนท่านจะอนุญาตให้ผมไปโรงเรียนได้แบบไม่เต็มใจนัก

“อยากไปทรมานตัวเองก็ตามใจ” แม่พูดขึ้น ก่อนจะสตาร์ทรถ ผมยิ้มขอบคุณที่ท่านยอมอนุญาตตามคำขอของผม โดยมีข้อแม้ให้ระวังตัวดีๆ ผมเลยโทรไปบอกไอ้กี้ถึงข่าวดีที่เพิ่งได้รับ

[จริงเหรอ อืมๆ เสียงดังว่ะ มึงจะมาถึงกี่โมงวะ]

“คงประมาณสิบโมงกว่ามั้ง” ผมลองคำนวณเวลา เพราะว่าแม่ให้กินยาแก้ปวด ฤทธิ์ของยาทำให้ผมนอนหลับยาวไปหน่อย กว่าจะมาหาหมอก็ใกล้จะเก้าโมงแล้วครับ

[เออ ตอนนี้เขาเดินพาเหรดกันเสร็จแล้วมึง กำลังยืนอาบแดดที่สนามฟุตบอลฟังประธานพูดอะไรอยู่เนี่ย กูร้อนแทนเลย]

“อืมๆ เดี๋ยวใกล้ถึงกูโทรหาอีกทีนะ แค่นี้ก่อน”

หลังจากวางสายของไอ้กี้ ผมก็หันไปเปิดวิทยุหาเพลงฟังครับ ตอนนี้ปล่อยให้พูห์อยู่ที่บ้าน ธรรมดาแม่ไม่ค่อยอยากให้มันอยู่ตามลำพังสักเท่าไหร่ เพราะท่านเคยบอกว่าน้องพูห์อาจจะเหงา แม่ของผมท่านค่อนข้างอ่อนไหวกับเรื่องแบบนี้ครับ

หลังจากผ่านการจราจรอันคับคั่ง ทั้งๆที่เลยช่วงเวลาเร่งด่วนมาแล้วก็ตาม แม่ของผมก็ได้มาส่งที่หน้าประตูโรงเรียนตอนสิบโมงเกือบครึ่ง ทันทีที่รถจอดสนิทผมก็เห็นไอ้กี้มันเดินเข้ามา ผมเปิดประตูออก พร้อมกับไอ้หน้าตี๋ที่ไหว้แม่ของผม

“เป็นไงมึง” ไอ้กี้ว่าพร้อมกับรอยยิ้มแจ่มใส

“คงดีมั้ง ไม่เป็นไรๆ กูพอเดินไหวว่ะ” ผมบอกมัน เมื่อเห็นไอ้กี้ทำท่าจะมาพยุงผมไว้

“ฝากดูแลแมลงปอด้วยนะลูก” แม่ของผมร้องบอก ไอ้กิ้ย้มรับ ก่อนจะตอบเสียงใส

“ไม่ต้องห่วงครับแม่ ที่นี่มีคนอยากจะดูแลมันเพียบ” มันพูดขึ้น พร้อมกับแม่ของผมที่ขับรถออกไป ผมกับไอ้กี้เดินเข้าโรงเรียนโดยมีสายตาหลายคู่มองท่าทางการเดินของผมอย่างสนใจ

“แค่นึกภาพมึงกลิ้งลงมา กูยังฮาไม่หาย”

“กูยังนึกภาพตัวเองไม่ออกเลย” ผมบอก มันเป็นเสี้ยววินาทีที่ผมเองยังไม่รู้ว่ามันลงมาอีท่าไหนกันแน่ ช่างมันเถอะครับ! ผมเองก็ไม่อยากจะนึกถึงมันเท่าไหร่นัก

“แต่หน้ามึงบอกยื่ห้อมาเลยว่ะ เป่งเชียว”

“ไอ้สัด! แค่นี้กูก็รู้สึกแย่พออยู่แล้ว มึงไม่ต้องสาธยายให้ชัดเจนหรอก”  ผมเอ่ยเสียงเข้ม พลางยกมือปิดหน้าผากของตัวเอง ไอ้กี้หัวเราะชอบใจ

“แล้วหมอว่ายังไงบ้าง”

“ก็ไม่ได้ว่าอะไร ออกแนวบอกว่ากูซุ่มซ่ามนั่นแหละ ไม่ได้เป็นอะไรมาก” ผมบอก ไอ้กี้ยิ้มจางๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมา

“ไม่เป็นไรก็ดี แค่นี้มันก็ประสาทเสียแล้ว”

“ใครวะ” ผมถามมัน เมื่อไม่เข้าใจว่ามันพูดถึงใคร

“หึ! ก็เพื่อนกูที่ไม่ใช่เพื่อนมึงไง” ไอ้กี้บอก แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมหายสงสัยได้ ก่อนมันจะมองหน้าผมแล้วหัวเราะเบาๆ “มึงไม่ต้องไปสนใจหรอกไอ้ปอ กูแค่บ่นเฉยๆรำคาญแม่ง ไปหาที่นั่งพักเถอะ ดูเหมือนมึงเหนื่อยนะ เดินแค่นี้เนี่ย”

ผมพยักหน้ารับ ตอนนี้ในโรงเรียนกำลังดูครึกครื้นเลยครับ ไอ้กี้บอกว่าเขาน่าจะปล่อยพาเหรดไปแล้ว ก่อนจะเริ่มกิจกรรมอื่นๆต่อ ผมกับไอ้หน้าตี๋เลยตัดสินใจไปที่โรงอาหารเพื่อหาที่นั่งพัก

ไม่เคยรู้สึกว่าโรงเรียนมันกว้างขนาดนี้มาก่อนเลย เฮ้อ...

ผมนั่งพักเอาแรง ก่อนไอ้กี้จะอาสาไปซื้อน้ำมาให้ ผมมองไปรอบๆที่มีนักเรียนนั่งกันประปราย บางคนก็ใส่เสื้อกีฬาสี บางคนก็ใส่ชุดสวยงามกันดูแปลกตาไปจากเดิม ไม่นานไอ้กี้ก็เดินกลับมาพร้อมกับน้ำเปล่าแช่เย็นสองขวด ก่อนจะนั่งลงข้างๆผม

 “เดี๋ยวกูโทรตามไอ้พวกนั้นก่อน” ไอ้กี้พูดพลางหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมา ผมหยิบขวดน้ำที่มันซื้อมาให้ใส่หลอดดูด ก่อนสมองจะนึกไปถึงใครอีกคนที่ไอ้กี้กำลังโทรหา ผมดูดน้ำเย็นลงคอพร้อมกับเริ่มคิดว่าตัวเองควรจะทำอย่างไรต่อ เมื่อจะต้องได้เจอมันอีกครั้ง

จะบังคับตัวเองให้เป็นปกติได้ไหมนะ...

ผมนั่งคุยเล่นกับไอ้กี้รอโต้งกับไอ้ดิวที่บอกว่าจะมาพร้อมกัน ก่อนสายตาของผมจะพลันไปเห็นร่างของโต้งที่วันนี้ใส่เสื้อสตาฟกางเกงยีนส์สะพายกระ้ป๋ากล้องเดินคู่มากับผู้ชายอีกคนที่ผมไม่แน่ใจว่าเป็นใครใส่ชุดสีดำหรูหราแบบพวกเจ้าชายในนิทาน ไม่ทันที่ผมได้เพ่งมองให้ชัด รอยยิ้มคุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นในสายตาของผม

รอยยิ้มที่อ่อนโยนแบบนั้น... ไอ้ดิว?

:|– ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: …

“เป็นยังไงบ้างปอ” โต้งมาถึงโต๊ะก็ถามผมทันที ก่อนจะมองไปยังหน้าผากของผม ทำให้ผมต้องรีบเอามือมาปิด พร้อมกับเสียงหัวเราะของไอ้ดิวที่วันนี้มันดูแปลกไปจากเดิม

“ไม่เป็นอะไรมากหรอก”

“เห็นไอ้กี้มันว่าปอตกบันไดหน้าแหก” โต้งพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะถอนหายใจออกมา “ก็นึกภาพไปไกลแล้ว น่าจะรู้อยู่ว่าเชื่อไม่ค่อยได้”

“อะไรวะ! ก็มันบอกกูตกบันไดหน้าทิ่มลงมา กูคิดว่ามันหน้าแหกน่ะสิ” ไอ้กี้โต้กลับ โต้งก็ส่งสายตาตอบไปว่าไม่สนใจมึงแล้ว ทำให้ผมต้องหัวเราะออกมาเบาๆ

 “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” ไอ้ดิวพูดขึ้นพลางมองหน้าผม พร้อมกับถอนหายใจออกมา “ทีหลังระวังหน่อยสิ” นัยน์ตาคมที่วันนี้ถูกเขียนจนเป็นสีดำจ้องมองผมด้วยสายตาเป็นห่วง ผมหลบตามันราวกับคนที่แอบทำอะไรผิดเอาไว้ พลางพูดเสียงดังกลบอาการแปลกๆที่เริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง

“ใครมันจะอยากเจ็บตัววะ!”  ทว่าก็อดจะลอบมองท่าทีของมันไม่ได้ ไอ้ดิวมันมองผมอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองไอ้กี้ที่ชี้ให้ดูรุ่นพี่ผู้หญิงที่แต่งตัวน่ารักกำลังเดินผ่านมาแทน ก่อนรุ่นพี่กลุ่มนั้นจะหันมามองแล้วเดินมาขอถ่ายรูปกับไอ้ด้วดีที่พยักหน้ารับ ก่อนจะส่งยิ้มให้เป็นการปิดท้าย

ไอ้ดิวเดินไปถ่ายรูปกับรุ่นพี่พร้อมกับไอ้กี้ที่บอกโต้งว่าให้ช่วยถ่ายรูปมันคู่กับรุ่นพี่คนสวยหน่อย ผมนึกขำท่าทีของมัน แต่เมื่อเห็นใครอีกคนที่อยู่ในคลองสายตา ผมก็รู้สึกหมั่นไส้มันขึ้นมาตงิดๆ ในความดูดีของมัน ยิ่งเทียบกับสภาพของผมในตอนนี้แล้ว ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ เหมือนอยู่กันคยละชนชั้น

ทั้งที่กำลังยืนถ่ายรูปอยู่แท้ๆ แต่ไอ้ดัวดีก็ยังมองมาทางผม ลำบากผมที่ลอบมองมันอยู่ต้องมานั่งปั้นสีหน้าเพื่อกลบความรู้สึกของตัวเอง โดยการคว้าขวดน้ำมาดูดเล่นเสียอย่างนั้น พร้อมกับไอ้ดิวที่เลิกคิ้วมอง ก่อนจะหันหน้ากลับไปเมื่อรุ่นพี่คนนั้นเรียกให้มองกล้อง

ผมนี่บ้าชะมัด...

ผมพ่นลมหายใจออกมาช้าๆ พลางมองพวกเพื่อนๆที่กำลังถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน หลังจากกลุ่มรุ่นพี่คนนั้น ก็มีกลุ่มใหม่มาแทน ไม่รู้นานเท่าไหร่ที่นั่งมองอยู่ที่โต๊ะห่างๆแบบนี้ จนเวลาล่วงเลยมาสักพัก พวกนั้นถึงค่อยกลับมาที่โต๊ะ พร้อมกับไอ้กี้ที่ยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี

“กูได้ถ่ายรูปคู่กับพี่แตงด้วย ปลื้มว่ะ” ไอ้กี้มันว่า ผมได้แต่ยิ้มรับ ก่อนไอ้หน้าตี๋จะหันไปหาไอ้ดิว “เพราะมึงแท้ๆเลยไอ้ดิวเอ๋ย”

“เพราะไอ้ดิวมันที่ไหน เพราะกูต่างหากที่ไปถ่ายรูปให้มึงน่ะ” โต้งว่า ก่อนไอ้ดิวจะหัวเราะรับเบาๆ ผมก็ยิ้มออกมาครับ ไม่นึกว่าโต้งจะพูดออกมาแบบนั้น

“โทษทีๆ กูลืมไป กูต้องไหว้มึงเลยใช่ไหมวะ” ไอ้กี้มันว่าต่อ พลางส่งสีหน้ายียวนไปให้ โต้งก็หันไปมองแต่ก็ยิ้มจางๆออกมาเท่านั้น

“ไม่ต้องไหว้กูหรอก แค่อย่าทำตัวน่ารำคาญก็พอ” โต้งพูดเสียงเรียบ ไอ้ดิวหัวเราะเสียงดัง พร้อมกับไอ้กี้ที่ชักสีหน้ายุ่งยากใจออกมา

“มันทำไม่ได้หรอก มึงทำใจซะเถอะ” ไอ้ดิวหันไปบอกโต้ง ส่วนคนฟังก็พยักหน้ารับอย่างคนไม่เรื่องมาก ท่าทีที่เหมือนคนทำใจได้แล้วนั้น ทำให้ผมกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ นานๆทีไอ้กี้มันจะโดนโต้งเล่นงานสักที ผมหันไปมองผู้เสียหาย ก็เห็นไอ้กี้กำลังบ่นอะไรบางอย่างที่ฟังไม่ได้สรรพ ผมเบือนสายตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มออก เมื่อเจอไอ้หน้าตี๋ทำหน้าดุใส่ ก่อนสายตาจะไปสบกับใครอีกคนที่กำลังทอยิ้มไม่ต่างกัน

ราวกับเวลาหยุดชั่วอึดใจ ผมรับรู้ได้แต่สายตาของคนตรงหน้าที่ทอดมองมา ไอ้ดิวคลี่ยิ้มน้อยๆ โดยที่ไม่ได้พูดอะไร ผมรีบหลบสายตาหนีอีกครั้งพร้อมเสียงหัวใจที่เต้นระรัว ก่อนจะหันไปมองโต้งที่นั่งเยื้องออกไปแทน

บ้าชะมัด เมื่อไหร่อาการแบบนี้มันจะหายไปเสียที!

ผมนึกด่าตัวเองในใจ นับตั้งแต่ที่รู้ว่ามันมีอะไรผิดแปลกไป ร่างกายของผมก็เหมือนรวนขึ้นมากะทันหัน ยิ่งเวลาที่ได้ใกล้ชิดหรือสบตากับมัน ผมก็จะรู้สึกปั่นป่วนจนต้องโมโหตัวเองทุกที ทั้งที่ก่อนหน้าไม่เคยมีอาการแบบนี้เลยสักครั้ง

หรือว่าไอ้ดิวมันจะเล่นของใส่หรือเปล่าวะเนี่ย?

ความคิดที่กำลังฟุ้งซ่านของผมหยุดลง พร้อมกับเสียงโต้งที่ดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนสายตาของผมจะเลื่อนไปมองคนที่พูดถึงราวกับแม่เหล็กต่างขั้ว

“วันนี้ปอยังไม่ได้ถ่ายรูปเลยนี่”

   “เออจริงด้วย!” ไอ้กี้พูดขึ้นบ้าง

“ไม่เป็นไร ตอนนี้กูไม่พร้อม” ผมบอก ก็ในเมื่อยังมีตราประทับอยู่ที่กลางหน้าผากแบบนี้ แล้วใครมันจะไปอยากถ่ายกันล่ะครับ

“มึงจะกลัวอะไรวะ เดี๋ยวแต่งรูปเอาก็เรียบร้อย”  ไอ้กี้ว่าต่อก่อนจะหันไปทางไอ้ดิว “มึงมาอยู่ฝั่งนี้ เดี๋ยวให้ไอ้โต้งมันชักภาพสักรูป”
   “โบราณมากมึง” ไอ้ดิวว่า ก่อนจะลุกขึ้นแล้วมายืนด้านหลังของผมที่นั่งคู่กับไอ้กี้ ส่วนโต้งก็นั่งตั้งค่าการทำงานของกล้องในมือของตัวเอง ผมเกร็งตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อรับรู้ได้ถึงฝ่ามือที่ทาบลงที่หัวไหล่ สมองสั่งการให้ผมนั่งตัวตรงขึ้นก่อนจะมองตรงไปข้างหน้า เมื่อโต้งส่งสัญญาณว่าพร้อมแล้ว

   “ปอทำไมทำหน้าอย่างนั้น” โต้งร้องถาม

   “ไอ้ปอ มึงจะเกร็งทำชะมดอะไรครับ ยิ้มสิครับเพื่อน” ไอ้กี้หันมาว่าผม ก่อนจะหันกลับไปส่งยิ้มกว้างให้กล้องอีกครั้ง
   
ผมฝืนยิ้มอีกครั้งอย่างยากลำบาก พร้อมกับโต้งที่กดถ่ายรูป ผมนั่งตัวตรงไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน ก่อนจะแปลงกายเป็นรูปปั้นให้เพื่อนมายืนถ่ายรูปด้วย เพราะสภาพของร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวยในการเคลื่อนไหว

   “ไอ้ดิว มึงไปนั่งคู่กับปอ ส่วนไอ้กี้มึงออกไป กูจะให้ปอถ่ายรูปคู่” โต้งว่า พร้อมกับชี้นิ้วบอกอย่างชัดเจน

   “เหี้ย! อะไรวะมีการไล่กันด้วย” ไอ้กี้บ่นขึ้น แต่ก็ยอมลุกออกไปจากที่นั่งข้างๆ ผม ไอ้กี้มันบ้ากล้องครับ ตั้งแต่ที่เราถ่ายรูปกันเองเนี่ย ไม่มีขาดไอ้หน้าตี๋สักรูปหรอก พอถูกไล่ออกจากซีนคงเซ็งไปตามประสา

   “ทำไมมึงมีปัญหา” โต้งหันมาถามไอ้หน้าตี๋ที่ยืนบ่นอะไรพึมพำอยู่คนเดียว

   “เปล่า ไม่ต้องมายิ้มเลยไอ้ดิว” ไอ้กี้หันไปบอกโต้ง ก่อนจะหันมาทางไอ้ดิวที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่ข้างๆผมแทน “มึงติดสินบนไอ้โต้งมันใช่ไหมวะ”

   “มึงอย่ามาพาลดิ” ไอ้ดิวพูดขึ้นบ้าง ก่อนจะหันมามองผม “เนอะแมลงปอ”

   ไอ้กี้แม่งไม่มีปัญหาหรอก แต่กูเนี่ยแหละที่มีปัญหา แถมยังมีกับมึงด้วย!

   ผมไม่ได้ตอบรับคำพูดของมัน แต่หันกลับมามองโต้งที่ยืนอยู่ด้านหน้าแทน พร้อมกับเห็นไอ้กี้ที่กำลังยืนยิ้มส่งมาให้ผม ไม่วายพูดกำกับขึ้นอีกครั้ง

   “ถ่ายรูปเล่นนะครับ ไม่ใช่ถ่ายรูปนักเรียน หน้ามึงนิ่งไปเปล่าวะไอ้ปอ”

   “กูยิ้มแล้ว”


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-01-2013 21:47:45 โดย marionatte »

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
   “ยิ้มบ้านพ่อ! มึงหันไปดูหน้าไอ้ดิวดิ แม่งยิ้มปากจะฉีก ส่วนมึงหน้านิ่งอย่างกับอยู่ในงานศพ” ไอ้กี้ว่าต่อ “ไหนมึงด่าไอ้โต้งว่าเหี้ยซิ”

   “อะไรของมึง” ผมถามมันอย่างไม่เข้าใจ จู่ๆจะให้ผมด่าโต้งซะอย่างนั้น ส่วนโต้งก็หันมามองไอ้กี้แบบที่ผมอ่านสีหน้าไม่ออก
   
“โอเคๆ ด่ากูก็ได้” ไอ้กี้ยกมือขึ้นเหมือนคนยอมแพ้

   “มึงก็บ้า ทำไมกูต้องไปด่ามึงด้วย” ผมบอกพลางขมวดคิ้ว

   “ไอ้ปอกูจะบอกมึงนานแล้ว แต่ลืมว่ะ ซิบมึงไม่ได้รูด”

   “ห๊ะ!” ผมร้องขึ้นอย่างตกใจ ก่อนจะก้มลงไปดูทันทีด้วยความร้อนรน ทว่าภาพที่เห็นคือสภาพซิบที่รูดขึ้นเรียบร้อยแล้ว ผมรู้สึกหน้าแดงนิดๆ เมื่อได้ยินเสียงคนที่นั่งข้างๆในตอนนี้หัวเราะออกมา ผมหันไปถลึงตาใส่ ก่อนจะมองไปยังไอ้หน้าตี๋ที่กำลังหัวเราะขำอยู่

   “ไอ้เหี้ย!”

   ไอ้กี้ไม่ได้สนใจคำด่าของผม แต่หันไปมองโต้งแทน ผมตวัดตามองตาม ก่อนจะได้ยินคำพูดของมันดังขึ้นอีกครั้ง “ทันไหมวะ”

   “อืม” โต้งรับในลำคอ ก่อนจะหันไปมองไอ้กี้ทิกำลังยิ้มชอบใจอยู่ “ความคิดมึงสร้างสรรค์มากไอ้กี้”

   “ขอบใจว่ะ”

   อะไรกันวะ?

   ผมมองท่าทีของสองคนนั้นอย่างสงสัย แต่ว่าไม่นานโต้งก็เดินกลับมานั่งที่ฝั่งตรงข้ามพร้อมกับไอ้เพื่อนตัวแสบที่อำผมเล่นเมื่อครู่นี้

   “ดูภาพมึงดิไอ้ปอ” ไอ้กี้ว่าพลางเลื่อนกล้องมาให้ผมดู

   ภาพใบหน้าตรงของผมที่กำลังหน้าแดงใกล้กันนั้นมีใบหน้าของไอ้ดิวที่กำลังหันมามองผมพร้อมกับยิ้มออกมา แต่สิ่งที่ทำให้ผมนึกแปลกใจคือริมฝีปากที่ผมเพิ่งพูดคำหยาบคายนั้นฉายรอยยิ้มออกมา

   กูไปยิ้มตอนไหนวะ?

   “น่ารัก”

 เสียงของไอ้ดิวดังขึ้นเบาๆเหมือนพูดกับตัวเอง ผมหันไปมอง พร้อมกับเห็นใบหน้าด้านข้างที่กำลังมองภาพนั้นอยู่ ผมขมวดคิ้วพร้อมกับเม้มริมฝีปากของตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะเลื่อนสายตาลงไปยังหน้าจอของกล้องที่อยู่ในมือ

   แล้วผมจะเขินไปทำไมเนี่ย...

   :|– ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: …

   ตอนนี้เวลาล่วงเลยมาเกือบจะเที่ยงแล้วครับ พร้อมกับจำนวนนักเรียนที่ทยอยเข้ามาในโรงอาหารเพื่อทานอาหารกลางวันกัน ผมยังนั่งอยู่ที่เดิมพร้อมกับฟังไอ้กี้เล่าเรื่องพาเหรดเมื่อเช้าอย่างออกรส

 “มึงไม่ได้เห็น ตอนไอ้ดิวเดินปุ๊บ ผู้หญิงกรี๊ดปั๊บ ตอนแรกดูคิดว่าแม่งเห็นผีตั้งแต่เช้า ที่แท้ความหล่อของเพื่อนกูนี่เอง ฮ่าๆ” ไอ้กี้ว่าพลางหัวเราะ

 “มึงก็พูดไป” ไอ้ดิวพึดขัด ผมลอบมองท่าทีของมันอีกครั้ง โดยไม่นึกแปลกใจกับคำพูดของไอ้กี้เท่าไหร่ ก็ในเมื่อวันนี้มันออกจะดูดีเสียขนาดนั้น ธรรมดาก็เรียกได้ว่าโดดเดนอยู่แล้ว ยิ่งภาพลักษณ์ในวันนี้ที่ออกแนวดาร์คหน่อยๆ ด้วยการแต่งหน้าและชุดสีดำหรูหราของมัน

เอาเป็นว่า ถ้าผู้หญิงคนไหนไม่มองมัน ผมว่าไปบวชเถอะครับ...

“พวกนั้นก็ประสาท” โต้งพูดขึ้นบ้าง ช่างกล้องจำเป็นทำสีหน้าเบื่อหน่าย

ไอ้กี้หันมายิ้มยียวน ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ “มึงอิจฉาไอ้ดิวอ่ะดิ”

คนถูกกล่าวหาที่กำลังนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือเงยหน้ามามอง “ใครจะไปอิจฉามัน หนวกหูจะตายชัก” พูดจบ โต้งก็กลับไปสนใจเกมที่กำลังเล่นค้างอยู่อีกครั้ง

ไอ้กี้ย่นจมุกใส่ ก่อนจะหันมาเล่าให้ผมฟังต่อ ผมยิ้มรับคำพูดของมันเป็นบางครั้ง ก่อนความรู้สึกจะบอกว่ามีสายตาของใครจ้องมองอยู่ ผมปรายตาไปมอง เมื่อเห็นว่าเป็นใคร ผมก็ทำเป็นไม่สนใจ ทั้งที่ในใจกำลังว้าวุ่น

มึงจะจ้องกูทำไมวะ!?

ทว่าความรู้สึกที่เหมือนตกเป็นเป้าสายตานั้น ไม่ใช่สิ่งที่ผมชอบเลยสักนิด ความอึดอัดที่กำลังเกาะกินตามเส้นความรู้สึก ทำให้ผมมีประสิทธิภาพการทำงานของหูแย่ลง เมื่อคำพูดของไอ้กี้กลายเป็นเพียงคลื่นเสียงบางอย่างที่ผมเริ่มจับใจความไม่ได้ ในเมื่อสมาธิทั้งหมดกำลังไปรวมอยู่ที่สายตาของคนที่กำลังนั่งมองผมอยู่เงียบๆ

“มองอะไรวะ” ผมหันไปถามมัน เมื่อความอดทนสิ้นสุดลง ความรู้สึกประหม่าที่ก่อตัวขึ้น ทำให้ผมต้องปั้นหน้าบึ้งเพื่อรอฟังคำตอบ

“มองหน้าผากมึง โคตรเด่น” ไอ้ดิวว่าพร้อมกับอมยิ้มออกมา ผมขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร บางทีถ้าผมหาผ้ามาปิดไว้ก็คงดี

 “กูว่าดูๆไปแม่งก็แนวดีเหมือนกันว่ะ แฟชั่นหน้าผากนูนก็ไม่เลว” ไอ้กี้ว่าต่อ ก่อนมันจะหัวเราะชอบใจกับคำพูดของตัวเอง ผมชักสีหน้าใส่มัน โชคร้ายที่ตอนนี้ไอ้กี้มันดันนั่งตรงข้ามกับผม ไม่งั้นผมคงตบกระโหลกแก้ความคิดเพี้ยนๆของมันสักที มึงก็คิดไปได้

“เดี๋ยวก็หาย” โต้งบอก เอาเป็นว่าถึงสายตาของมันจะจดจ่ออยู่กับเกมในมือ แต่หูก็ยังรับฟังสิ่งรอบตัวอยู่สินะ

“อืม”

“เออ! แล้วมึงมีแข่งตอนกี่โมงวะ” ไอ้กี้เปลี่ยนเรื่องไปถามไอ้ดิวต่อ หลังจากหัวเราะเยาะผมจนพอใจ ไอ้เพื่อนชั่ว!

“ตอนบ่ายโมง”

“ฮ่าๆ กูว่านะแค่มึงไปยืนยิ้มเฉยๆก็ชนะแล้วมั้ง” ไอ้กี้ว่าต่ออย่างอารมณ์ดี ผมยังไม่เข้าใจเลยครับว่ามันพูดเรื่องอะไรกัน กำลังลังเลว่าจะถามดีไหม ไอ้หน้ายิ้มก็พูดขัดเสียก่อน

“มึงจะบ้าหรือไง” ไอ้ดิวตอบกลับพร้อมกับหัวเราะออกมา คงเพราะสีหน้างงๆของผม ทำให้ไอ้หน้ายิ้มมันยิ้มอีกครั้ง พร้อมกับน้ำเสียงทุ้มที่แฝงด้วยความยียวนเล็กๆดังขึ้น “งงล่ะสิมึง”

ผมหันไปมองหน้ามัน ซึ่งตอนนี้กำลังนั่งอยู่ข้างๆผม ก่อนจะพบว่าตอนนี้ตัวเองยังไม่สามารถสู้หน้ามันได้เต็มที่ ผมจำใจเลื่อนสายตามามองไอ้กี้แทน เพื่อหาที่หลบสายตา

“อะไรมึงไม่รู้เหรอ” ไอ้กี้ถามอย่างสงสัย

ผมไม่ได้ตอบมัน แต่กำลังทำหน้านิ่งเพื่อข่มความรู้สึกในตอนนี้ที่ตัวเองยังบรรยายไม่ถูกเอาไว้ แต่ที่แน่ๆแอบเสียหน้าอยู่นิดหน่อย กูไม่รู้แล้วทำไมวะ ก็มันไม่ยอมบอกนี่! ผมได้แต่ตอบอยู่ในใจ ทว่าไม่ต้องรอให้สงสัยนาน ไอ้ดิวที่กำลังยิ้มอยู่ในตอนนี้ก็เฉลยออกมาอย่างรวดเร็ว

 “กูเป็นดรัมเมเยอร์”   

ผมหันไปมองหน้ามันเล็กน้อย พร้อมกับพิจารณากับข้อความที่ได้รับ ก่อนความเข้าใจจุดวาบขึ้นในสมองเมื่อนึกย้อนไปยังเหตุการณ์ตลอดหลายอาทิตย์ก่อนที่มักจะเจอมันกลับเย็นไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ ที่แท้มันคงซ้อมโยนไม้นี่เอง
 
“มึงแน่ใจว่าจะไม่โยนคทาฟาดหัวคนอื่น”  ผมพูดแบบไม่ค่อยเชื่อถือนัก ถ้ามันทำแบบนั้นจริงๆผมคงฮาจนน้ำตาเล็ด นึกแล้วก็อยากจะเห็นตอนที่มันขายหน้าสักครั้ง

“ถ้าจะพลาด กูคงโยนฟาดหัวมึงคนแรกนั่นแหละ” ไอ้ดิวเว้นจังหวะไปเล็กน้อย ก่อนที่มันจะพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับสีหน้าเจ้าเล่ห์ที่เห็นไม่บ่อยนัก “แล้วก็ลากมึงเข้าห้อง” ทันทีที่ไอ้ดิวพูดจบ ไอ้กี้ก็หัวเราะเบาๆ พร้อมกับโต้งที่มองอย่างสนใจ แต่ตอนนี้ผมเริ่มทำหน้าไม่ถูกแล้วครับ

มึงก็พูดมาได้!

ผมสบถในใจ ยิ่งเห็นท่าทางและสีหน้าของมันที่กำลังมองมาก็ยิ่งทำให้ผมต้องหันไปทางอื่น เพื่อหลบสัหน้าของตัวเองในตอนนี้ เพราะคำพูดทีเล่นทีจริงของมันเนี่ยแหละที่ทำให้ผมไม่รู้ว่าควรจะวางตัวยังไง เมื่อไหร่มึงจะหยุดพูดอะไรที่ทำให้กูไขว้เขวซะทีวะ! ผมปั้นหน้าเคร่ง ก่อนจะจ้องหน้ามันกลับ ทั้งที่รู้สึกว่ามันยากเต็มที

“กูคงยอมหรอก” ผมบอกไปด้วยความไม่พอใจ แต่คนฟังกลับหัวเราะรับเสียอย่างนั้น

“เรื่องนั้นกูไม่สนหรอก” ไอ้ดิวว่าต่อ พร้อมกับผมที่รับรู้ได้ถึงนัยน์ตาคมที่แฝงแววหยอกล้อออกมาอีกครั้ง “แต่ว่ากูไม่ทันฟาด หัวมึงก็โนไปแล้ว น่าสงสารว่ะ”

ผมชะงักค้างกลางอากาศ เมื่อนิ้วมือของมันเลื่อนมาลูบที่รอยนูนบนหน้าผากของผมเบาๆ สัมผัสอ่อนโยนนั้นไม่ต่างจาตัวเร่งความร้อนที่มำให้ใบหน้าของผมร้อนผ่าว ก่อนที่ผมจะรู้ตัวแล้วปัดมือของมันออกห่างพร้อมกับหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ

ไอ้บ้าเอ๊ย!

ผมสบถในใจอีกครั้ง ก่อนจะนึกด่าคนตรงหน้าที่ชอบทำอะไรแบบนี้อยู่เรื่อย ยิ่งกว่านั้นที่น่าเจ็บใจที่สุด นั่นก็คือ ตัวผมเองก็ดันบ้าจี้ยอมให้มันมีอิทธิพลต่อตัวเองได้มากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ นี่มันเป็นเรื่องบ้าชะมัด... ผมถลึงตามองไอ้ดิวด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างจากกาต้มน้ำที่เดือด พร้อมกับเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นรอบโต๊ะที่นั่งกันอยู่

“คุยกันน่าสนุกเลยนะ”

:|– ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: …

เสียงทุ้มนุ่มที่ดังแทรกขึ้น ทำให้เสียงหัวเราะที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้หายไปทันตา พร้อมกับทุกสายตาที่หันไปมอง ก่อนจะเห็นพี่น็อตที่ตอนนี้ใส่ชุดไปรเวทกำลังยืนยิ้มอยู่ รุ่นพี่คนดังมองมาที่ผมอีกครั้งแล้วขมวดคิ้วออกมา

“ปอไปโดนอะไรมาครับ”

“พอดีผมตกบันไดที่บ้านมาครับพี่” ผมบอกพลางส่งยิ้มที่บอกว่าไม่เป็นไรไปให้ เมื่อเห็นสีหน้าที่แสดงความเป็นห่วงแบบปิดไม่มิดของอีกฝ่าย

“มิน่า! พี่ก็เดินตามหาปอซะทั่ว แต่ก็ไม่เจอ กี้บอกพี่ว่าปอไม่มาโรงเรียนวันนี้” พี่น็อตพูดพลางมองไปยังคนที่กล่าวอ้าง ไอ้กี้ยกยิ้มราวกับไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆในเรื่องนี้

“ตอนแรกก็เป็นอย่างนั้นแหละครับ พอดีไปหาหมอแล้วไม่ได้เป็นอะไรมากเลยแวะมาโรงเรียน” ผมบอก พี่น็อตไม่ได้ดูติดใจสงสัยอะไร ก่อนจะนั่งลงข้างๆผมอีกด้าน “แล้วพี่ตามหาผมทำไมครับ”

“ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากเจอน่ะ”

ทันทีที่พี่น็อตพูดจบ ผมก็เข้าใจความเงียบของความเงียบนั้นเป็นอย่างไร ถ้าผมหลับตาลงคงคิดว่าที่นี่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอะไรอยู่ แม้แต่คัวของผมเอง ก่อนความรู้สึกกดดันจะค่อยๆคืบคลานเข้ามาทีละน้อย

“ตอนนี้ก็เจอแล้วคงไปได้แล้วมั้ง” ไอ้ดิวพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มอันเป็นเอกลํกษณ์อีกครั้ง ถึงแม้นัยน์ตาของมันจะไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบนั้นก็ตาม

“ทำไมมึงไปพูดอย่างนั้นวะไอ้ดิว แม่งเสียมารยาท” ไอ้กี้พูดขึ้นบ้าง ก่อนใบหน้ายียวนของมันจะแสดงออกถึงความสงสัย “ว่าแต่พี่ไม่มีเพื่อนคบเหรอครับ ถึงต้องมาหาเพื่อนของผมแบบนี้”

ไอ้กี้! กูว่ามึงนั่นแหละที่เสียมารยาทสุดๆ

ผมไม่กล้ามองพี่น็อตในตอนนี้เลย โต้งลุกออกจาโต๊ะไปโดยที่ไม่พูดอะไร พี่น็อตหันไปมองไอ้หน้าตี๋อย่างที่ผมอ่านความรู้สึกไม่ออก ก่อนนัยน์ตาคมเข้มคู่นั้นจะทอดมองมายังใบหน้าของผมราวกับไม่สนใจคำพูดเมื่อครู่นี้

“วันนี้พี่มีแข่งนัดชิง ตั้งใจว่าจะมาขอกำลังใจ ปอไปเชียร์พี่ตอนแข่งด้วยได้ไหม” พี่น็อตถามผมอย่างคาดหวัง ความรู้สึกกดดันเล็กๆที่ก่อตัวขึ้นทำให้ผมเริ่มลำบากใจ ฟุตบอลเป็นกีฬาประเภทเดียวที่แข่งนัดชิงกันในวันจริงครับ พอนึกย้อนว่าตอนที่ผมแข่งบาสพี่น็อตก็มาเชียร์ทุกนัด ถึงจะดูจบบ้างไม่จบบ้างก็ตามที แต่พี่เขาก็เต็มใจมาดูผมแข่งทุกครั้ง

“มึงเจ็บข้อเท้าอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ เดินไปไม่ไหวหรอกใช่ไหม” ไอ้ดิวมันหันมาถามผม ทว่าใบหน้าที่เคยยิ้มอย่างอ่อนโยนนั้น ตอนนี้ดูเหี้ยมกว่าเดิมไม่นับสายตานิ่งๆที่กำลังรอฟังคำตอบอยู่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้รู้สึกเลยสักนิดว่าภาพลักษณ์ของมันจะกลบกลิ่นอายความสดใสของมันไปได้ แต่ตอนนี้ไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว

มึงไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นก็ได้มั้ง...

:|– ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: …

 :z10: Note :::

ในที่สุดก็เข็นตอนนี้ออกมาได้แล้วค่ะ อยากจะถอนหายใจแรงๆ ฮ่าๆ
ตอนนี้คิดว่าจะได้เห็นความรู้สึกของแมลงปอมากขึ้นหรือเปล่า? เอาเป็นว่ามันก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนั่นแหละค่ะ
ส่วนดิวก็แสดงอาการมากขึ้นมั้ง? ฮ่าๆ ไม่แน่ใจเหมือนกัน
แต่่ยังไงก็ช่วยตามเชียร์คู่มึนคู่นี้ต่อไปด้วยนะคะ

ตอนนี้ว่างๆก็แอบไปแก้ตอนเก่าๆ เกี่ยวกับเรื่องพิมพ์ผิดบ้าง
ไม่แน่ใจว่าตอนนี้พิมพ์ผิดเยอะไหม แต่พยายามแล้วค่ะ ถ้าหลุดตาไปอีกก็ขอโทษด้วยนะคะ

ขอบวกตอบแทนคำขอบคุณของทุกๆความคิดเห็นค่ะ
สามารถแสดงความคิดเห็นติชมได้เช่นเคย เพื่อนำไปปรับปรุงค่ะ
ยังไงช่วยติดตามเรื่องนี้ต่อไปด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ

ปล. ตอนหน้าพี่น็อตก็จะเจอกับน้องดิวแล้วจ้า อิอิ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-01-2013 22:09:34 โดย marionatte »

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
อ่านตอนนี้แล้วปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด คือ ตัวบิด บิดตัวเจ้าค่ะ
อ่านไป เขินไป ประหนึ่งตรูนี่แหละที่เจ้าดิวมันกำลังเกี้ยวอยู่  แอร๊ยยยย
ยกเว้นตอนสุดท้าย  พอพี่น็อตมาอ่านไปกลั้นหายใจไปด้วย
กลัวว่าถ้าหายใจแรงพี่น็อต เอ๊ยยย ดิวจะไม่พอใจ   ชอบอ่ะ
รอตอนต่อไปนะ  +1  + เป็ด

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
คือ...จะเสียฤกษ์ไก่ตื่นก้อ ไอ้กี่้แซวนี่ล่ะ
สงสารพี่น๊อต ไม่เป็นที่ ตอนรับเฉย พี่เค้าออกจะมาดี
ดิว ก้อ หยอกได้ใจนะ ตีหงตีหัว ลากเข้าห้อง
มือชั้นนี้ล่ะิไม่ต้องลาก เดินนำเลยปอเอ้ย 555
ปล. อย่าเพิ่งให้ตกลงกันง่ายๆน้าาา
บวกหนึ่งคะ นึกถึงกีฬาสีสมัยเรียนเลย (นานมาก)

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
ดิว!!!!!!!!!!!!!!!!!! นายแบบมันใช่อ่ะ5555555555555555

ถ้าฉันเป้นแมลงปอคงหัวใจวายตั้งแต่ตอนกินหมูกะทะตอนเริ่มจีบตอนบลาบลาบลาละ ดิวน่ารักมากกกก
แมลงปอรีบๆชอบดิวนะ!

ออฟไลน์ Maprang_W

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
ม้วนๆๆๆ เขินเบาๆ >////<
พี่น็อตจะมาทำไมอ่า ดิวอารมณ์เสียเลย
ขนาดมีไม้กันหมาขนาดนี้พี่แกก็ยังกล้ามา :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
ดิวยิ้มเหี้ยมมาก กดดันแมลงปอสุดๆๆๆๆ ปะฉะดะกันใช่มั้ยคะตอนหน้า
แมลงปอเอ๊ย ยังพยายามมาโน๊ะหัวก็โน ก็ใครบางคนเค้าอยากให้มามากนี่เนอะ ดิวหล่อสุด ๆ ไปเลยวันนี้
ตอนถ่ายรูปปอน่ารักอ่ะเขินจนเกร็ง เพื่อนโต้งนี่พ่อสื่อชัด ๆ นะ น่ารักจริง ดิวรุกจีบตลอดนะ
จะลากเข้าห้องแระ (ลากเล้ยยยย เชียร์อยู่ 555)
พี่น็อตเอาจริงเว้ยเฮ้ย เดินตามหากันเลย ชอบนะที่มีพี่เค้ามา กดดันพระเอกเราดี หึงเยอะ ๆ คนอ่านชอบจ้า

ขอบคุณค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ p_a_n

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 177
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
 :o8: ชอบจัง  ชอบตอนถ่ายรูป  ดูน่ารักมากๆ  แต่เอ ทำไมโต้งเดินออกไปเลยล่ะ  แล้วพี่น็อตนี่เป็นยังไงมายังไง  มีความหลังอะไรรึป่าวน้า  ดูเข้ามาไวจนแปลก

nOsTrAdamUsz

  • บุคคลทั่วไป
อายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :o8: :-[ :o8:

ออฟไลน์ ben

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-3
ชอบมากกกกกกก คนแต่งแต่งเก่งจังทัมคนอ่านติดงอมแงมเลย o18

Aryl

  • บุคคลทั่วไป
เขินแทนจริงวุ๊ย55 ตอนที่ถ่ายรูปแล้วดิวชมว่าน่ารัก อร๊ายยยย :m3:
กี้ไม่แรงเท่าไหร่เลยจ๊ะ เบาๆ :laugh:
ชอบมากค่า รออ่านต่อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-12-2012 22:51:57 โดย Aryl »

ออฟไลน์ Meen_Emp

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-2
เหอะๆ ฟาดหัวแล้วลากเข้าห้อง
ดิวหวงออกนอกหน้าเลยนะ
ชอบกี้มากค่ะ น่ารักดี

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
๕๕๕ ชอบจังเวลาที่ดิวหึงอ่ะ

ขอเชื้อไฟอย่างพี่น๊อตออกมาบ่อยๆนะ

ออฟไลน์ maiouar

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
อ่านไปใจเต้นตึ่กตั่ก  น่ารักมากค่ะ :o8:

nightsza

  • บุคคลทั่วไป
ดิวหึงโหดเน้อะ ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ดิวต้องขัดพี่น๊อตใช่ไหมที่มาหาปอ แล้วทำไมพี่น็อตถึงได้มองตามโต้งล่ะ

ออฟไลน์ naneku

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
เสียวสันหลังแทนพี่น็อต 5555

ดิวหึงโหด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

อ่านไปอมยิ้มไป  อิอิ

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
แวะมาทำสารบัญกับเขาบ้าง
 ทำทำไมไม่รู้ รู้แต่ว่าอยากทำ ฮ่าๆ

คาดว่าน่าจะได้ลงตอนหน้าในวันเสาร์ไม่ก็อาทิตย์นะคะ
ขอบคุณมากเลยค่ะ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
หยอดวันละนิดจิตแจ่มใส ><

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
อ่านตอนนี้แล้วปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด คือ ตัวบิด บิดตัวเจ้าค่ะ
อ่านไป เขินไป ประหนึ่งตรูนี่แหละที่เจ้าดิวมันกำลังเกี้ยวอยู่  แอร๊ยยยย
ยกเว้นตอนสุดท้าย  พอพี่น็อตมาอ่านไปกลั้นหายใจไปด้วย
กลัวว่าถ้าหายใจแรงพี่น็อต เอ๊ยยย ดิวจะไม่พอใจ   ชอบอ่ะ
รอตอนต่อไปนะ  +1  + เป็ด

ขอบคุณมากเลยค่ะ คนเขียนก็อยากจะเป็นคนที่น้องดิวมาจีบจริงๆ โฮะๆ


คือ...จะเสียฤกษ์ไก่ตื่นก้อ ไอ้กี่้แซวนี่ล่ะ
สงสารพี่น๊อต ไม่เป็นที่ ตอนรับเฉย พี่เค้าออกจะมาดี
ดิว ก้อ หยอกได้ใจนะ ตีหงตีหัว ลากเข้าห้อง
มือชั้นนี้ล่ะิไม่ต้องลาก เดินนำเลยปอเอ้ย 555
ปล. อย่าเพิ่งให้ตกลงกันง่ายๆน้าาา
บวกหนึ่งคะ นึกถึงกีฬาสีสมัยเรียนเลย (นานมาก)
นั่งแต่งไปก็นึกไปเหมือนกันค่ะ
สงสารพี่น็อต แต่พี่เขาเกิดมาเพื่อความเจ็บปวด ฮ่าๆ
คงไม่ตกลงกันง่ายหรอกค่ะ ปอมันยิ่งมึนอยู่ อิอิ

ดิว!!!!!!!!!!!!!!!!!! นายแบบมันใช่อ่ะ5555555555555555

ถ้าฉันเป้นแมลงปอคงหัวใจวายตั้งแต่ตอนกินหมูกะทะตอนเริ่มจีบตอนบลาบลาบลาละ ดิวน่ารักมากกกก
แมลงปอรีบๆชอบดิวนะ!
ขอบคุณที่ชอบน้องดิวค่า
แมลงปอช่างน่าอิจฉาๆ


ม้วนๆๆๆ เขินเบาๆ >////<
พี่น็อตจะมาทำไมอ่า ดิวอารมณ์เสียเลย
ขนาดมีไม้กันหมาขนาดนี้พี่แกก็ยังกล้ามา :เฮ้อ:
พี่น็อตเขาไม่กลัวใครหรอกค่ะ อิอิ
ต่อไปก็จะเพิ่มความหวานขึ้นเรื่อยๆแล้วจ้า ติกตามต่อไปด้วยนะคะ


ดิวยิ้มเหี้ยมมาก กดดันแมลงปอสุดๆๆๆๆ ปะฉะดะกันใช่มั้ยคะตอนหน้า
แมลงปอเอ๊ย ยังพยายามมาโน๊ะหัวก็โน ก็ใครบางคนเค้าอยากให้มามากนี่เนอะ ดิวหล่อสุด ๆ ไปเลยวันนี้
ตอนถ่ายรูปปอน่ารักอ่ะเขินจนเกร็ง เพื่อนโต้งนี่พ่อสื่อชัด ๆ นะ น่ารักจริง ดิวรุกจีบตลอดนะ
จะลากเข้าห้องแระ (ลากเล้ยยยย เชียร์อยู่ 555)
พี่น็อตเอาจริงเว้ยเฮ้ย เดินตามหากันเลย ชอบนะที่มีพี่เค้ามา กดดันพระเอกเราดี หึงเยอะ ๆ คนอ่านชอบจ้า

ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณมากเลยค่ะ ต่อไปดิวก็จะแสดงออกมากขึ้นค่ะ
พี่น็อตเขาเกอดมาเพื่อกระตุ้น อิอิ

:o8: ชอบจัง  ชอบตอนถ่ายรูป  ดูน่ารักมากๆ  แต่เอ ทำไมโต้งเดินออกไปเลยล่ะ  แล้วพี่น็อตนี่เป็นยังไงมายังไง  มีความหลังอะไรรึป่าวน้า  ดูเข้ามาไวจนแปลก
ชอบคุณค่ะ โต้ง้ป็นพวกรักสงบเน้
สาวน้รื่องพี่น็อตคอยติดตามต่อไปนะคะ อิอิ

อายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :o8: :-[ :o8:
อายจ้าๆ แต่งไปก็เขินไป อิอิ

ชอบมากกกกกกก คนแต่งแต่งเก่งจังทัมคนอ่านติดงอมแงมเลย o18
ขอบคุณที่ชอบค่ะ ช่วยติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ อิอิ

##########################

ตอบเม้นก่อนนอนค่ะ
อยากจะบอกว่าลงตอนหน้าในวันะรุ่งนีเน้ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นมากๆเลยจ้า

snooppy

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องน่ารักจัง!! 

แอบลุ้นตามเด็กๆเลย อิอิ ( แหม...นึกถึงตอนมัธยม )

+++ใกล้จะมีศึกชิงนางนะเนี๊ยะ(กรี๊ด)+++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-12-2012 20:22:30 โดย snooppy »

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
เขินแทนจริงวุ๊ย55 ตอนที่ถ่ายรูปแล้วดิวชมว่าน่ารัก อร๊ายยยย :m3:
กี้ไม่แรงเท่าไหร่เลยจ๊ะ เบาๆ :laugh:
ชอบมากค่า รออ่านต่อ
-ขอบคุณค่ะที่ชอบ
เหอะๆ ฟาดหัวแล้วลากเข้าห้อง
ดิวหวงออกนอกหน้าเลยนะ
ชอบกี้มากค่ะ น่ารักดี
ตั้งใจให้ตัวละครในเรื่องนี้น่ารักทุกตีัวค่ะ  แล้วแต่สไตล์เน้
๕๕๕ ชอบจังเวลาที่ดิวหึงอ่ะ

ขอเชื้อไฟอย่างพี่น๊อตออกมาบ่อยๆนะ
ถ้ามีโอกาสก็จะได้หึงต่อค่ะ ชอบให้ดิวหึงนะ แต่สงสารพี่น็อตด้วยอ่ะ
อ่านไปใจเต้นตึ่กตั่ก  น่ารักมากค่ะ :o8:
ขอบคุณมากเลยค่ะ ยังไงก็ติดตามต่อไปด้วยนะคะ อิอิ
ดิวหึงโหดเน้อะ ฮ่าๆๆ
ไม่โหดหรอกจ้า หืงตามสบายหนุ่มอารมณ์ดี เอิ๊กๆ
ดิวต้องขัดพี่น๊อตใช่ไหมที่มาหาปอ แล้วทำไมพี่น็อตถึงได้มองตามโต้งล่ะ
น่าจะทำนองนั้นแหละค่ะ แต่เรื่องพี่น็อตมองตามโต้งเนี่ย ไม่ใช่หรอกน้า
เสียวสันหลังแทนพี่น็อต 5555

ดิวหึงโหด
นอกจากจะเสียวแทนแล้วยังกลัวแทนด้วยจ้า
อ่านไปอมยิ้มไป  อิอิ
แต่งไปก็เขินไปค่ะ มันเป้นเช่นนี้ได้เยี่ยงไร อิอิ
หยอดวันละนิดจิตแจ่มใส ><
งานนี้ต้องค่อยๆกระตุ้นค่ะ เดี๋ยวแมลงปอจะตกใจจนเกินไป
เรื่องน่ารักจัง!! 

แอบลุ้นตามเด็กๆเลย อิอิ ( แหม...นึกถึงตอนมัธยม )

+++ใกล้จะมีศึกชิงนางนะเนี๊ยะ(กรี๊ด)+++++
ขอบคุณมากเลยค่ะ ช่วยลุ้นกันต่อในตอนต่อไปด้วยเน้ อิอิ

ออฟไลน์ Tinton

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
มารอตอนที่ 12 ครับ อิอิ

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
ตอนที่ 12




ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่สาดส่อง ในโรงอาหารของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง บริเวณโต๊ะอาหารที่มีนักเรียนชายระดับชั้นมอปลายสี่คนในชุดคละแบบกำลังมองหน้ากันเงียบๆนั้นกลับมีอากาศหนาวเย็นขึ้นมาเฉียบพลัน ก่อนจะรับรู้ได้ถึงความกดดันที่ก่อตัวเหมือนพายุในมหาสมุทร

ผมกลั้นหายใจเล็กน้อย ตอนนี้ผมไม่ต่างอะไรกับคนที่แรกเริ่มอยู่ในฤดูร้อนที่อบอุ่นสดใส แม้จะแดดแรงไปบ้างแต่บรรยากาศก็ถือว่าแจ่มใส ทว่าเมื่อกระพริบตาอีกครั้งกลับพบว่าตัวเองกำลังอยู่ในฤดูหนาว พร้อมกับรับรู้ได้ถึงลมเย็นๆที่พัดผ่านจนร่างกายสะท้าน ไม่นับความขุ่นมัวที่โอบล้อมราวกับหมอกที่กำลังสร้างตัวขึ้นมาโดยรอบ หวังว่าลูกเห็บคงไม่ตกโดนผมจนบาดเจ็บหรอกนะครับ

เพราะความรู้สึกโดยรอบที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ทำให้ผมตั้งตัวไม่ติด ถึงอย่างนั้นผมก็พยักหน้ารับคำพูดของไอ้ดิวที่กำลังนั่งนิ่งพร้อมกับดวงตาคมสวยคู่นั้นที่มองผมอย่างไม่ละสายตา

“พอดีผมข้อเท้าพลิกด้วย ไม่แน่ใจว่าจะเดินไปไหวหรือเปล่า” ผมพูดขึ้น พร้อมกับหันไปมองใบหน้าของพี่น็อตที่ก้มลงมองไปยังข้อเท้าของผมซึ่งมีผ้าพันเอาไว้

ความจริงแล้วการเดินทางไปยังสนามฟุตบอลไม่ใช่เรื่องหนักหนวสาหัสนักสำหรับผม แต่สิ่งที่ทำให้ผมหนักใจกว่าคือสายตาที่กำลังกดดันผมอยู่ในคอนนี้ นอกจากสายตาของพี่น็อตที่กำลังรออย่างคาดหวัง ยังมีพลังงานของความไม่พอใจที่กำลังเล่นงานผมอยู่ด้วย ผมนึกปวดหัวกับตัวเองขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนเลือกที่จะปฏิเสธพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆของคนที่ทำหน้านิ่งเมื่อครู่กลับมาอีกครั้ง

“น่าเสียดาย พี่คงไม่มีกำลังใจไปแข่งแน่ๆ” พี่น็อตพูดขึ้น ก่อนจะถอนหายใจออกมา ทั้งๆที่พี่เขาดูจะเข้าใจอะไรโดยง่าย แต่ไม่รู้ทำไมผมกลับรู้สึกว่ารุ่นพี่คนนี้กำลังเร่งเร้าบางอย่างจากผมอยู่

“พูดเป็นเล่นน่าพี่! กองเชียร์สีพี่อยู่กันเต็มอัฒจรรย์ ผมว่ากำลังใจล้นเหลือ” ไอ้กี้พูดขึ้น ก่อนมันจะเลิกคิ้วมองหน้าพี่น็อตแกมประหลาดใจ

“นั่นก็ใช่ แต่กำลังใจจากคนสำคัญมันก็ดีที่สุดไม่ใช่เหรอ” พี่น็อตตอบกลับ พร้อมกับมองหน้าของผม ตอนนี้สมองของผมเหมือนหยุดทำงานไปชั่วขณะ ภาพรอยยิ้มของรุ่นพี่คนดังเหมือนเป็นภาพสุดท้ายที่ผมนึกออก ก่อนคำว่า ‘คนสำคัญ’ จะทำให้ผมถึงกับตะลึงงัน

นี่ผมกำลังฝันไปอยู่ใช่ไหม?! ถ้าหากเป็นความฝัน ผมก็อยากจะตื่นขึ้นเดี๋ยวนี้เลยครับ!

โชคร้ายที่ไม่เป็นเช่นนั้น นอกจากอาการปวดหนึบที่บริเวณข้อเท้าแล้ว ความเจ็บจากฝ่ามือที่กำแน่นในตอนนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าผมกำลังอยู่ในโลกของความจริง และกำลังโดนรุ่นพี่คนหนึ่งจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว มันยิ่งกว่าตลกร้ายในซีรีส์ฝรั่งที่ผมเคยดูมาเสียอีก

 “ผมไม่ได้สำคัญขนาดนั้นหรอกพี่” ผมพูดไปด้วยความกระอักกระอ่วนใจ ความคิดบางอบ่างที่จุดวาบในสมองทำให้ผมมึนงงไปเล็กน้อย ก่อนจะพบว่าปัญหาเก่ายังไม่ได้แก้ ก็กำลังจะมีปัญหาใหม่มาหาผมอีกครั้ง และแน่นอนว่าผมไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความรู้สึกและความคิดที่รับรู้ได้ในตอนนี้

“ถ้าปอยังไม่รู้ พี่ก็ขอบอกไว้ตรงนี้เลยแล้วกันว่าปอเป็นคนสำคัญของพี่นะครับ” พี่น็อตเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง ผมได้แต่กระพริบตาปริบๆอย่างนึกไม่ออกว่าควรจะทำท่าทีอย่างไร นอกจากพี่น็อตจะปล่อยหมัดแย็บเข้ามาล่อหลอกโจมตีผมแล้ว รุ่นพี่คนดังยังปล่อยหมัดเสยที่ปลายคางของผมจนได้แต่อึ้งจนพูดไม่ออก

ผมก็ได้แต่ภาวนาว่า ตัวเองจะแค่หูฝาดหรือเข้าใจผิดไปเท่านั้น...

 “คนสำคัญอะไรกัน พี่สำคัญผิดคนแล้วล่ะมั้ง” ไอ้ดิวพูดขึ้น พร้อมกับแค่นหัวเราะออกมา “คนสำคัญที่ไม่เห็นความสำคัญของพี่น่ะ มันจะเรียกว่าสำคัญได้ยังไง”

“มึงก็พูดไป ทำไมไม่ลองถามไอ้ปอดูล่ะว่าพี่เขาสำคัญหรือเปล่า” ไอ้กี้พูดต่อ ก่อนจะหันมามองหน้าผม

“นั่นสิแมลงปอ มึงว่าพี่เขาสำคัญหรือเปล่า” ไอ้ดิวหันมาถามผมบ้าง พร้อมกับสายตาและรอยยิ้มที่เห็นจนชินตาแต่กลับไม่คุ้นเคยปรากฏตรงหน้าของผม

“เอ่อ...” ผมได้แต่อึ้ง นึกหาเสียงตัวเองไม่ถูก นอกจากพี่น็อตที่เพิ่งปล่อยหมัดเล่นงานผมไปอย่างจังเมื่อครู่นี้แล้ว ไอ้ดิวที่กลัวน้อยหน้าคู่อริถึงได้ส่งหมัดตรงเข้าใส่ผมแทนที่จะช่วยผมให้หลุดจากสถานการณ์อันน่าอึดอัดนี้ ซ้ำร้ายผมที่โดนอัดกระจุยและกำลังตะเกียกตะกายหนีอย่างสุดชีวิตกลับโดนเพื่อนซี้ตัวแสบถีบกลับเข้าไปในวงล้อมที่เต็มไปด้วยความกดดันนั่นอีกครั้งอย่างใจร้ายที่สุด พร้อมกับไอ้หน้ายิ้มที่กำลังยิ้มรับรอฟังคำพูดของผม

จะเอาให้กูน็อคให้ได้เลยใช่ไหมเนี่ย!

 “พวกมึงก็พูดอะไรไม่เห็นจะรู้เรื่อง” ผมพูดออกมาพร้อมกับตีหน้ามึนสุดชีวิต ก่อนจะหันไปมองพี่น็อตที่มีสีหน้าเรียบนิ่ง ทว่าเมื่อเห็นว่าผมกำลังหันมามอง รุ่นพี่คนดังก็รีบปรับสีหน้าของตัวเองก่อนจะระบายยิ้มออกมาที่ริมฝีปาก ผมได้แต่นึกทอดถอนใจกับตัวเอง “พี่อย่าไปสนใจพวกมันเลยนะครับ”

“พี่เองก็ไม่ได้สนใจใครหรอก นอกจากปอคนเดียว” พี่น็อตอบพลางมองหน้าของผม “แล้วปอล่ะสนใจพี่บ้างหรือเปล่า”

ให้ตายเถอะ! ผมอยากจะร้องตะโกนออกมาเป็นภาษาปาปัวนิวกินี!

ผมขมวดคิ้ว ทั้งที่ในใจร้อนผ่าวไปด้วยความหงุดหงิดและความสับสน เรื่องแบบนี้เจอแค่คนเดียวก็ถือว่าแย่มากแล้ว แต่มาเจอสองคนพร้อมกันแบบนี้ มันแย่ยิ่งกว่าแย่ไปหลายเท่าเสียอีก คำถามของพี่น็อต ทำให้ผมเริ่มคิดหนักไม่ต่างจากสุนัขที่เริ่มจะจนตรอก
ถ้าพี่เขายังไม่หยุดไล่บี้ผมแบบนี้ ไม่นานผมคงได้สติแตกขึ้นมาแน่ๆ


:|– ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: …


   ทำไมผู้ชายอายุสิบหกปีอย่างผมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยวะ!

   ผมได้แต่นึกด่าชะตากรรมของตัวเอง พร้อมกับการรับรู้ถึงสายตาของคนสามคนที่กำลังมองมาอย่างมีความหมาย ผมอยากจะกัดสิ้นตายเพื่อหนีสถานการณ์ในตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอด ถ้าผมไม่ใช่พวกขี้ป็อดกลัวตัวเองเจ็บลิ้นเข้าเสียก่อน
   
“พี่น็อตดังจะตาย มีคนสนใจเยอะแยะ” ผมตอบกลับไปอย่างคนที่สิ้นคิดที่สุด ทั้งที่เข้าใจว่าพี่เขาต้องการอะไร ถึงอย่างนั้นผมก็เป็นได้แค่คนขี้ขลาดที่ไม่อยากจะยอมรับความจริง ผมรู้เพียงอย่างเดียวว่าต้องจบการสนทนาบ้าๆแบบนี้โดยเร็วที่สุด แม้ว่าสมองของผมกำลังขาวโพลนเคว้งคว้างราวกับอยู่ในทุ่งหิมะก็ตาม

   “พี่ไม่ได้อยากรู้ว่ามีคนสนใจพี่เยอะไหม แต่พี่อยากรู้ว่าปอสนใจพี่หรือเปล่าเท่านั้น” พี่น็อตกล่าวย้ำอีกครั้ง พร้อมกับมองมายังผมอย่างไม่ละสายตา

   พี่จะไม่ปล่อยผมไปง่ายๆใช่ไหมครับ!

   “ไอ้ดิว กูว่าบรรยากาศไม่ดีแล้วว่ะ” ไอ้กี้พูดขัดขึ้น ผมหันไปมอง ก่อนจะเห็นใบหน้าของหนุ่มน้อยหน้าตี๋มีสีหน้ายุ่งยาก ไม่รู้ว่ามันตั้งใจจะสื่ออะไร แต่ผมก็อยากขอบคุณที่มันช่วยเปลี่ยนเรื่องเพื่อเบนความสนใจ อย่างน้อยตอนนี้พี่น็อตก็ไม่ได้มองหน้าของผม แต่หันกลับไปมองมันแทน

   กูรักมึงเพื่อนกี้!

   “กูก็ว่าอย่างนั้น รำคาญแม่งไม่หยุดเสียที” ไอ้ดิวว่าต่อ ก่อนจะหันมามองผมด้วยสีหน้าสงสัย  “แมลงปอมึงไม่รู้สึกบ้างเหรอ”

   กูรุ้สึกมานานแล้วโว้ย! ผมตะะโกนร้องบอกอยู่ในใจ ผมไม่ได้รู้สึกรำคาญอะไรหรอกครับ นอกจากอีดอัดและลำบากใจเท่านั้น ผมเป็นพวกไม่ฉลาด ถึงได้แต่นั่งบื้ออย่างคนหมดแรงเพราะหาทางออกไม่ได้อยู่แบบนี้ แต่ว่าที่พวกมึนกำลังพูดถึงอยู่นี่คงไม่ใช่....

   ผมหันไปมองหน้ารุ่นพี่ที่โดนเพื่อนของผมรุมอย่างรู้สึกผิด ทว่าพี่น็อตกลับคลี่ยิ้มที่มุมปากก่อนจะเอ่ยขึ้นมาบ้าง  “พี่ก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ปอไม่รำคาญบ้างเหรอ ไอ้พวกหมาหวงก้างน่ะ ถ้าเป็นพี่คงไล่เตะมันออกไปไกลๆแล้ว เกะกะลูกตา”

   เอาเป็นว่า ผมคงคิดไปเองสินะครับที่รู้สึกว่าพี่น็อตกำลังโดนรุม.... เหอะๆ

   ไอ้ดิวหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนนัยน์ตาคมมองมายังผมแล้วเลื่อนไปมองหน้าพี่น็อตที่กำลังมองมันอยู่เช่นกัน ริมฝีปากบางแย้มรอยยิ้มเล็กน้อย “ผมว่าพี่ไม่มีโอกาสได้ทำแบบนั้นหรอก เพราะแมลงปอรักหมานี่เนอะ” แล้วไอ้หน้ายิ้มก็หันมายิ้มให้ผมแทน

   ผมที่ตอนนี้กำลังนั่งนิ่งไม่มีบท ได้แต่มองหน้ามันแบบคนจิตหลุด ก่อนความคิดบางอย่างจะสว่างวาบขึ้นมาอีกครั้งเมื่อสมองประมวลผลถึงความหมายของมันอย่างถี่ถ้วน ครู่เดียวเครื่องทำความร้อนก็เร่งเครื่องทำงานผ่านใบหน้าของผม ไม่รู่ว่ามันใช่อย่างที่ผมคิดหรือเปล่า แต่ตอนนี้ผมก็เริ่มคิดไปไกลแล้วครับ
   
ถ้าพูห์หมาน้อยแสนน่ารักของผมน่ะใช่! แต่ถ้าเป็นหมาตัวโตเพศผู้แบบมึง กูต้องขอเวลาคิดก่อน!....
   
เอาล่ะ! ผมทำใจได้แล้วว่า วันนี้ผมคงไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากปล่อยให้ใครสักคนยอมถอยออกไปเอง เพราะผมเองก็หมดแรงที่จะตั้งรับกับเรื่องอะไรแบบนี้เต็มที
   
“มึงพูดถูกไอ้ดิว ไอ้ปอมึงเลี้ยงหมาอยู่นี่หว่า” ไม่ต้องให้ผมตอบ ไอ้กี้เพื่อนซี้ของผมก็คอบแทนแล้วล่ะครับ
   
“ปอเลี้ยงหมาด้วยเหรอครับ” พี่น็อตหน้านิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะหันมาถามผม ไม่รู้ว่ารุ่นพี่รู้สึกเสียหน้าหรือเปล่า แต่ผมว่าไอ้สองคนนั้นมันตั้งใจให้เป็นแบบนั้น
   
“อ่อครับ” ผมตอบ นี่คงเป็นคำถามแรกที่ผมสามารถตอบได้อย่างสบายใจ ตั้งแต่ที่พี่เขาเริ่มจู่โจมผมไม่หยุด
   
“พี่ว่าก็ดีนะ แต่ปอต้องระวังเวลาเลือกเลี้ยงด้วย บางตัวก็ไว้ใจได้ บางตัวก็ไว้ใจไม่ได้” พี่น็อตบอกผม ก่อนจะปรายตาไปมองไอ้ดิวแล้วพูดต่อ “ที่สำคัญบางพวกมันไม่กัดซึ่งๆหน้าหรอก แต่มันจ้องจะกัดข้างหลัง”

   หลังจากที่พี่น็อตพูดจบก็ดูเหมือนจะมีลมเย็นวูบใหญ่พัดมาอีกครั้ง ผมมองหน้ารุ่นพี่คนดังอย่างนึกไม่ถึงว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้ นอกจากผมแล้วดูเหมือนไอ้กี้ที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับผมก็ขมวดคิ้วยุ่งอย่างที่ไม่ค่อยได้เป็นนัก ผมไม่กล้าหันไปมองอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่คาดเดาว่าคงไม่ต่างจากสีหน้าของไอ้หน้าตี๋สักเท่าไหร่

   “คงไม่มีเรื่องอะไรแบบนั้นหรอก”
   
เสียงจากผู้มาใหม่ ทำให้คนทั้งโต๊ะที่ตกอยู่ในบรรยากาศที่ไม่อาจจะบรรยายได้พร้อมใจกันหันไปมอง ก่อนจะเห็นช่างกล้องจำเป็นที่ลุกหนีไปครู่ใหญ่กลับมา พร้อมกับถุงขนมจีบซาลาเปาในมือที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้ง โต้งนั่งลงข้างไอ้กี้แล้วมองหน้าของผม ก่อนจะหันไปมองหน้าพี่น็อตอีกครั้ง
   
“ปอคงไม่โง่ขนาดนั้นหรอกมั้ง นอกเสียจากจะยอมให้โดนกัดเสียเอง นั่นก็เป็นอีกเรื่อง”

   “อย่างนั้นเหรอ พวกนี้น่ะมันเป็นพวกหมาหมู่ ถ้าไม่ระวังให้ดีก็จะพลาดเอาได้เหมือนกัน” พี่น็อตพูดต่อพลางมองโต้ง ก่อนจะหันมามองผมพร้อมกับรอยยิ้มอ่อน “พี่แค่อยากจะเตือนปอเอาไว้ก็เท่านั้น”

ช่างกล้องจำเป็นยักไหล่อย่างไม่สนใจกับคำพูดเมื่อครู๋นี้นัก ก่อนเสียงทุ้มจะเอ่ยขึ้นราบเรียบไม่ต่างจากน้ำในทะเลสาบ “ถ้าหมาหมู่ที่รู้จักกันดีก็ไม่น่าจะมีปัญหา กลัวแต่จะเป็นหมาแปลกหน้าที่อยู่ดีๆก็เข้ามาวุ่นวายนั่นแหละที่อันตรายมากกว่า”

ผมมองใบหน้าเฉยเมยของโต้งด้วยความตกใจ พร้อมกับได้ยินเสียงหัวเราะของไอ้ดิวที่ดังขึ้นเบาๆ ขนาดเพื่อนโต้งที่ไม่ค่อยจะสนใจใครยังออกตัวขนาดนี้ ผมว่าเรื่องนี้มันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะ! ผมไม่กล้าหันไปมองพี่น็อตในตอนนี้เลยครับ ถึงจะฟังดูแล้วเหมือนกำลังวิเคราะห์กันเรื่องหมาๆ แต่ผมว่าเรื่องหมาๆที่พูดกันอยู่นั้น มันก็คงอยู่แถวๆนี้เนี่ยแหละครับ

   “ไอ้โต้งแล้วมึงว่าหมาแปลกหน้าพวกนั้นมันจะฉีดยามาหรือยังวะ” ไอ้กี้ถามต่อ ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
   
“กูจะไปรู้ได้ยังไง นอกจากมันจะแสดงอาการออกมา” โต้งตอบกลับ ก่อนจะหยิบซาลาเปาที่ตัวเองซื้อมากัดไปคำหนึ่ง ทันทีที่กลืนลงคอจนหมด ใบหน้าดูดีนั้นก็เลิกคิ้วขึ้น “ตอนนั้นมึงถึงจะรู้”

   “นั่นสินะ” พี่น็อตลุกขึ้น พร้อมกับหันมามองผม “พี่ต้องไปเตรียมตัวก่อน ถ้าไม่รบกวนจนเกินไป ปอช่วยส่งกำลังใจไปให้พี่ที่สนามด้วยก็แล้วกัน”
   
“ได้ครับพี่” ผมตอบรับก่อนจะนึกโล่งใจไม่น้อยที่พี่เขาตัดสินใจถอยออกไป ก่อนที่เรื่องมันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้
   
“หายไวๆนะครับ” พี่น็อตกล่าวทิ้งท้าย ก่อนจะลูบหัวของผมเบาๆอย่างถือวิสาสะ พร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนที่ส่งมาให้ ก่อนรุ่นพี่คนดังจะเดินจากไป


:|– ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: …


    บรรยากาศที่เรียกว่ามาคุยังคงเล่นงานบริเวณรอบโต๊ะที่ผมกำลังนั่งอยู่ในตอนนี้ แต่อย่างน้อยหนึ่งในตัวปัญหาที่ผมกาหัวเอาไว้ก็ได้จากไปแล้ว เหลืออีกหนึ่งตัวปัญหาที่ผมกาหัวไว้แถมเน้นไฮไลท์อีกคนที่กำลังนั่งนิ่งพร้อมกับสายตาที่มองไปทางอื่น

   ใบหน้าด้านข้างที่เหมือนมองเหม่อออกไปด้านนอก ทำให้ผมอดจะครุ่นคิดขึ้นมาไม่ได้ว่า ภายใต้ใบหน้าได้รูปที่แสนดูดีนั้นกำลังนึกคิดเรื่องอะไรอยู่ อยากจะรู้ว่าสายตาที่กำลังทอดมองออกไปนั้นกำลังฉายภาพเกี่ยวกับอะไร แต่ที่อยากรู้มากที่สุดคงหนีไม่พ้นความรู้สึกของไอ้คนที่ดีพร้อมแบบมันที่เกิดนึกบ้าอะไร ถึงไต้มาสนใจผมในแง่แบบนั้น
   
นั่นเป็นเพราะมึงสมบูรณ์แบบมากเกินไปหรือเปล่าวะ... มึงถึงต้องมาสนใจคนไม่มีอะไรดีอย่างกูเพื่อลดความสมบูรณ์แบบของมึงน่ะ
   
“มึงหายไปไหนมาวะ”


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-01-2013 23:10:17 โดย marionatte »

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5


   ผมหยุดความคิดของตัวเองลง เมื่อได้ยินเสียงของไอ้กี้ที่หันมาถามโต้ง แน่นอนว่าการเอ่ยคำพูดในครั้งนี้ช่วยขับไล่บรรยากาศที่ไม่อาจจะนิยามได้ให้ผ่อนคลายลง

   “ไปเดินถ่ายรูปเล่นนิดหน่อย แล้วก็แวะหาของกินด้วย” โต้งว่า ก่อนจะหันไปมองไอ้ดิว “มึงรีบกินก่อนเถอะ เดี๋ยวต้องไปเตรียมตัวอีกไม่ใช่เหรอ”
   
ไอ้ดิวหันไปมองคนพูด ก่อนจะยิ้มออกมาเหมือนเช่นทุกครั้ง ไอ้หน้ายิ้มหยิบถุงขนมจีบออกมานั่งจิ้มกิน ผมลอบถอนหายใจกับความคิดที่ดูยุ่งเหยิงของตัวเอง ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าถุงพลาสติกที่บรรจุซาลาเปาลูกใหญ่ล่อน้ำลายของผมแทน

   กูไม่สนใจมึงแล้ว ซาลาเปานี่น่าสนใจกว่ามึงตั้งเยอะ!
   
ไม่ทันที่ผมได้หยิบก้อนแป้งเนื้อนุ่มที่กำลังส่งกลิ่นหอมยั่วใจนั้น ขนมจีบชิ้นหนึ่งก็มาโผล่ตรงหน้าของผมกลางอากาศ ผมหันไปมองยังทิศทางที่มาของมัน พร้อมกับสายตาที่ปรากฏภาพใบหน้าที่ตกแต่งด้วยเครื่องสำอางอย่างลงตัวนั้นกำลังจ้องมองมา
   
“กินกับกูเนี่ยแหละ กูกินไม่หมด” ไอ้ดิวว่าก่อนจะคลี่ยิ้ม
   
“ตลกน่า กินไม่หมดได้ยังไง ธรรมดามึงกินเยอะจะตาย” ผมบอก ก่อนจะเห็นสีหน้าของไอ้ดิวที่หงอยลงไปเล็กน้อย ผมกลั้นหายใจพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วลง "แล้วนั่นมึงจะยื่นออกมาทำไม“
   
ผมได้แต่นึกอยู่ในใจว่า อย่าให้มันได้รู้เลยว่าสีหน้าของมันในตอนนี้เล่นงานผมได้มากขนาดไหน...
   
“กูว่าจะป้อนมึงอ่ะ ลงโทษที่จะให้มึงช่วยกิน” ไอ้ดิวว่าต่อ ก่อนจะเลื่อนขนมจีบชิ้นที่ว่ามาจ่อตรงปากของผม
   
“ไม่ต้องเดี๋ยวกูกินเอง” ผมเอ่ยปฏิเสธ พลางจับมือของมันออก ไอ้ดิวหน้าหงอยลงอีกระดับ
   
“มึงโกรธกู จริงสินะเพราะกูไปว่ารุ่นพี่คนโปรดของมึงอย่างนั้น”

   “คนโปรดอะไรของมึง” ผมขมวดคิ้วแน่นพลางสบกับนัยน์ตาสีดำสนิทของอีกฝ่าย “มึงหยุดพูดอะไรเหลวไหลได้แล้ว กูไม่ได้โกรธใครทั้งนั้น” แต่ถ้ามึงยังไม่หยุดดราม่าใส่กูตอนนี้ กูโกรธมึงแน่!

   “ถ้าอย่างนั้นก็อ้าปากสิ เดี๋ยวเย็นแล้วไม่อร่อย”
   
ผมมองหน้ามันครู๋หนึ่ง ทั้งที่สีหน้าของมันดูหงอยๆ แต่ประกายในดวงตาของมันกลับสดใสจนผมมองเห็นได้ชัดเจน ผมนึกลังเลขึ้นมา ก่อนจะรู้สึกถึงเนื้อแป้งที่สัมผัสเข้ากับริมฝีปากของตัวเอง ผมถอนหายใจ แล้วจำใจอ้าปากเพื่อรับขนมจีบที่มันส่งมาให้ถึงที่ ไอ้หน้ายิ้มก็เริ่มยิ้มขึ้นมา

   “เอาอีกลูกนะ”
   
“ไม่ต้องแล้ว ป้อนกูอยู่ได้ กินเข้าไปเองบ้างดิ” ผมบอก เมื่อรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาอีกครั้ง
   
“ผลัดกันคนละคำแล้วกันเนอะ”

   “ปัญญาอ่อนชิบหาย” ผมพูดขึ้น ก่อนจะเบนสายตาไปทางอื่น ทว่าหางตายังเห็นภาพคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ใบหน้าหล่อเหลานั้นยังมองผมอย่างรอคอย “ตามใจมึงแล้วกัน”
   
ทันทีที่ผมพูดจบ ไอ้ดิวก็คลี่ยิ้มกว้างกว่าเดิม ผมมองรอยยิ้มนั้นราวกับตกอยู่ในภวังค์ ริมฝีปากบางที่แย้มรอยยิ้มจนเห็นฟันสีขาวเรียงสวยนั้นไม่ต่างอะไรกับรอยยิ้มของเด็กเล็กเวลาได้รับคำชมเลยสักนิด ทว่าท่าทีที่ตั้งอกตั้งใจเลือกจิ้มขนมจีบในถุงที่แสนธรรมดาแบบนั้นกลับสร้างความรู้สึกสั่นไหวขึ้นมาในใจของผมอย่างบอกไม่ถูก ทันทีที่ขนมจีบชิ้นต่อมาถูกยื่นมาตรงหน้า ผมก็อ้าปากรับอย่างว่าง่าย โดยทำเมินสายตาอีกสองคู่ที่กำลังทอดมองมาเงียบๆ


:|– ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: …


   หลังจากผ่านช่วงเวลาที่แสนกดดันเมื่อชั่วโมงก่อน ผมก็ได้ย้ายตัวเองมาอยู่ที่ริมสนามฟุตบอลแล้วครับ ตอนนี้ก็กำลังนั่งอยู่ในเต็นท์กับไอ้กี้สองคน ส่วนโต้งไปเดินถ่ายรูปเพื่อเก็บบรรยากาศ แต่ผมไม่ได้มาเขียร์พี่น็อตติดขอบสนามหรอกนะครับ แต่กำลังมาเชียร์ไอ้ดิวที่ตอนนี้กำลังยืนควงไม้โชว์ลีลาอยู่หน้าโต๊ะคณะกรรมการต่างหาก
   
แล้วไอ้บ้าที่ไหนมันบอกว่าผมเดินมาไม่ไหววะ...
   
ผมนึกบ่นขึ้นมาในใจ นอกจากพวกผมที่มานั่งดูมันแล้ว ตอนนี้ก็ยังมีกลุ่มแฟนคลับของมันที่มายืนออรอชมมันอยู่เพียบเลยครับ สมกับเป็นหนุ่มฮอตของโรงเรียนเสียจริงๆ

   ผมได้แต่อธิษฐานอยู่ในใจว่า อย่าได้เจอพี่น็อตแถวนี้เลย ไม่อย่างนั้นมีเรื่องอีกแน่ อย่างที่ผมเคยบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ไม่ใช่ว่าผมเดินมาไม่ไหวหรอกนะครับ ตั้งใจว่าจะมาโรงเรียนก็ไม่ได้คิดว่าจะมานั่งอยู่กับที่สักเท่าไหร่ และที่สำคัญตอนประกาศรางวัลกีฬาสีท้ายงานทุกคนก็ต้องมารวมกันที่นี่อยู่ดี ผมไม่อยากเป็นคนหนึ่งที่พลาดโอกาสได้ลุ้นรางวัลพร้อมกับเพื่อนๆหรอกครับ

   “มึงว่าไอ้ดิวมันจะชนะไหมวะ” ไอ้กี้ถามผม
   
“กูดูไม่ออก มันก็เหมือนกันหมด” ผมตอบ หลังจากที่ดูมาสักพักก็นึกไม่ออกว่าจะให้คะแนนยังไง ผมว่าลีลาท่าทางมันก็เหมือนกันหมดนั่นแหละครับ
   
“กูไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้ แต่กูหมายถึงเรื่องไอ้พี่น็อตกับไอ้ดิวต่างหาก” ไอ้กี้อธิบาย ผมหันไปมองมันด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายใจทันทีที่ได้ยิน ไม่นึกว่ามันจะมาถามอะไรแบบนี้
   
“ทำไมวะ”

   “มึงคิดยังไงกับเรื่องนี้”

   “เรื่องนี้ของมึงคือเรื่องไหน” ผมถามอย่างต้องการคำขยายความมากขึ้นกว่าเดิม ผมไม่อยากปล่อยไก่เล้าใหญ่ให้มันไปหรอกครับ แค่ตอนนี้ก็รู้สึกว่าตัวเองตกต่ำพออยู่แล้ว

   “มึงอย่าทำเป็นไม่รู้เรื่องไอ้ปอ” ไอ้กี้หรี่ตามองผม “อย่าบอกว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว มึงยังกล้าตีมีนไม่รู้เรื่องอีก”
   
“แล้วมันเรื่องอะไรล่ะวะ” ผมถามย้ำอีกรอบ ไม่ได้สนสีหน้าที่ดูเหมือนจะโมโหขึ้นมาของไอ้เพื่อนซี้
   
“ไอ้สัดนี่! มันจะมีเรื่องไหนนอกจากมีตัวผู้สองคนกำลังแย่งมึงอยู่เนี่ย” ไอกี้พูดออกมาด้วยความหงุดหงิดอย่างคนที่ไม่ได้ดั่งใจ

ชัดเจนเลยครับเพื่อนว่าเรื่องเดียวกัน....

“แล้วมึงรู้เรื่องนี้ได้ยังไง” ผมไม่ตอบในทันที แต่อยากรู้ข้อมูลจากมันก่อน

ไอ้กี้ถอนหายใจออกมา ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเซ็งเล็กน้อย “กูสังเกตได้มาสักพักแล้ว มีแต่คนโง่แบบมึงที่มองไม่ออก” ก่อนนัยน์ตาเรียวแฝงแววเยาะเย้ยมองมาทางผม

“ใครมันจะไปคิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเองล่ะวะ” ผมโต้กลับ คุณคงไม่คิดว่าผมโรคจิตพอจะมานั่งคิดว่าเพื่อนเพศเดียวกันกำลังคิดเกินเลยกับตัวเองอยู่หรอกนะครับ ผมชักสีหน้าใส่มัน “แล้วมันก็บอกมึง?”

“ก็ไม่เชิง” ไอ้กี้ตอบอย่างไม่ใส่ใจ “เรื่องนั้นมันไม่สำคัญนักหรอก”

ไม่สำคัญกับมึง แต่สำคัญกับกูโว้ย เพรากูอยากรู้!....

ไอ้กี้ยักไหล่อย่างไม่สนใจท่าทีของผมที่แสดงความไม่ชอบใจในคำตอบที่ได้รับเท่าไหร่  ก่อนจะหันมาไล่ถามผมอีกครั้งแทน “แล้วสรุปว่ามึงจะเลือกคนไหน”

   “กูขอไม่เลือกได้ไหม” ผมตอบพร้อมกับความเซ็งที่วิ่งมาจับเส้นประสาท ทำไมผมถึงต้องมีตัวเลือกแค่สองคนนี้ด้วย ที่สำคัญดันเป็นตัวเลือกประเภทเดียวกันกับผมอีกต่างหาก ผมต้องการตัวเลือกที่ต่างจากพวกครับ!

   “ไม่เลือกไม่ได้ มึงต้องตัดสินใจ”

   “มึงอยากให้กูชอบผู้ชายหรือไงวะ” ผมถามมันกลับด้วยความสงสัย นี่มึงกำลังฝืนใจกูอยู่นะเว้ย!
   
“กูไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น” ไอ้กี้ถอนหายใจออกมา ก่อนจะตอบออกมาอย่างใจเย็น “ใครมันจะอยากให้เพื่อนตัวเองไปเป็นแบบนั้นกันล่ะวะ แต่ไอ้ดิวมันก็เพื่อนกู”

   “กูก็เพื่อนมึง” ผมโต้กลับ เรื่องนี้ยังไงผมก็ไม่ยอมง่ายๆหรอกครับ ไม่ใช่ว่าผมรังเกียจไอ้ดิวมัน ผมแค่ยอมรับกับตัวเองไม่ได้ ถ้าหากว่าจะมีคนพิเศษเป็นผู้ชายก็เท่านั้น

   “จริงอย่างที่มึงว่า แล้วทีนี้มึงจะทำยังไง”

   “กูมีคนที่ชอบอยู่แล้วมึงก็รู้” ผมบอก พร้อมกับใบหน้าหวานของรุ้งที่ฉายชัดขึ้นในความคิด ก่อนมันจะสะดุดลง เมื่อนึกได้ว่าตลอดหลายวันที่ผ่านมานี้ ผมแทบจะลืมเธอไปเลยด้วยซ้ำ เพราะไอ้สมองบ้าๆของผม มัวแต่คิดวนเวียนอยู่กับไอ้ตัวดีที่เอาแต่ทำให้จิตใจและร่างกายของผมสั่นคลอน

   ผมยอมรับว่า ไอ้ดิวมันมีอิทธิพลต่อผมพอสมควร ไม่นับความหน้าตาดีของมัน ท่าทางที่เอาใจใส่ผมจนออกนอกหน้านั้น ทำให้ผมหวั่นไหวไม่น้อย ยิ่งสังเกตพฤติกรรมของตัวเอง ผมก็ยิ่งรับรู้ว่ารูปแบบความสัมพันธ์ในลักษณะนี้ชักจะอันตรายมากไปทุกที

   “เรื่องนั้นกูก็รู้ แต่ก็ไม่อยากให้มึงปิดโอกาส”

   “ถ้าเป็นผู้หญิงก็ว่าไปอย่าง แต่นี่มึงกำลังจะให้กูไปสนใจผู้ชายนะเว้ยไอ้กี้” ผมตอบสวนมันกลับ
   
“ไอ้ปอ แต่ผู้ชายที่กูว่ามันเพอร์เฟคสุดๆแล้วนะมึง” ไอ้กี้พูดหน้าตาย ก่อนจะยิ้มออกมา “แล้วกูก็รู้จักมันดีด้วย นั่นมึงดูสิ! ผู้หญิงมองมันน้ำลายหก แล้วไงวะ? มันสนใจที่ไหน” ไอ้กี้บอกผมพลางพยักเพยิกไปทางที่มันว่า ก่อนที่ผมจะเห็นไอ้ดิวที่ยิ้มส่งให้ผู้หญิงกลุ่มนั้นเล็กน้อย แล้วเดินมาทางผมแทน

   “มึงลองคิดดู มีแต่คนอยากได้มันกันทั้งนั้น มึงโชคดีจะตายห่า”

   ผมไม่ทันได้ตอบ ไอ้หน้ายิ้มก็เดินมาถึง ใบหน้าหล่อเหลาดวงนั้นเปื้อนเหงื่อเล็กน้อย ก่อนน้ำเสียงทุ้มที่แฝงไปด้วยความสดใสจะดังขึ้น “กูเป็นยังไงบ้างวะ”

   “กูให้ร้อยเต็มสิบ” ไอ้กี้บอก ไอ้ดิวหัวเราะรับกับคำพูดเกินจริงนั้น ผมมองมันพูดอะไรบางอย่างกับไอ้กิ้ย่างไม่นิกสนใจ ก่อนจะมองเลยไปยังผู้หญิงกลุ่มใหญ่ที่ยืนมองไอ้หน้ายิ้มอยู่ห่างๆ แต่ไม่กล้าเข้ามาใกล้

   “เดี๋ยวกูไปเปลี่ยนเสื้อก่อน พวกมึงนั่งรออยู่ตรงนี้ก่อนก็ได้” ไอ้ดิวบอกอีกครั้ง มันหันมามองผมเล็กน้อย ผมไม่ได้หลบตา แล้วไอ้ตัวดีก็พาร่างของตัวเองห่างออกไป

   ผมนั่งทบทวนกับความคิดของตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะมีความคิดบางอบ่างวิ่งผ่านเข้ามา  ในเมื่อไอ้เพื่อนซี้มันรู้เรื่องมาขนดนี้แล้ว บางทีไอ้หน้าตี๋นี่อาจจะช่วยเปิดความคิดบางอย่างที่ผมมองไม่เห็นในตอนนี้ให้ชัดเจนมากขึ้นก็ได้
   
“แล้วมึงคิดว่ากูควรจะทำยังไง”
   
“นั่นเป็นเรื่องที่มึงต้องจัดการเอาเอง” ไอ้กี้ตอบอย่างคนไม่รับผิดชอบ ผมหันไปจ้องหน้ามันเล็กน้อย

   “ทำไมวะ ที่เรื่องของรุ้ง มึงยังช่วยกูเลย”

   “แต่นี่มันเป็นเรื่องของเพื่อนสนิทกูทั้งคู่ กูไม่อยากแทรกแซง” ไอ้กี้หันมามองหน้าผมอย่างจริงจัง “แต่ถ้าไม่เลือกไอ้ดิวกูจัดการมึงแน่”
   
“ไอ้ห่า! ทำไมต้องมาเล่นงานกูด้วย” ผมพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ นี่ขนาดมึงไม่อยากยุ่งนะเนี่ย ยังไล่บี้กูมาได้ขนาดนี้
   
“กูเคยบอกมึงแล้วว่ากูเชียร์ทั้งคู่ แล้วกูก็เชียร์เพื่อนกูด้วย ถ้าไอ้ดิวเสียใจ มึงเจ็บหนักไอ้ปอ”

   “นี่มึงขู่กู กูก็เพื่อนมึงนะโว้ย” ผมกล่าวเตือนมันอีกครั้ง ให้ตายเถอะ! นี่มึงจะลำเอียงรักเพื่อนไม่เท่ากันไปถึงไหนวะ
   
ไอ้กี้ยักไหล่อย่างไม่สนใจสายตาไม่พอใจของผม “ไอ้ปอกูก็เชียร์มึงเหมือนกัน อยากให้มึงมองไอ้ดิวบ้าง”

   ผมขมวดคิ้ว ก่อนจะตอบไปเสียงเข้ม “แล้วไอ้บ้าที่ไหนที่มันอยากให้กูเป็นแฟนกับรุ้งวะ”
   
“ก็ตอนนั้นกูยังไม่รู้เรื่องนี้นี่หว่า” ไอ้กี้บอกหน้าตาย “ตอนนี้กูรุ้เรื่องแล้ว ถึงกูไม่ขัดขวาง แต่คงต้องอำลาแฟนคลับปอรุ้งแล้วว่ะ”
   
“มันเองก็ไม่ได้บอกมึงไม่ใช่เหรอ? บางทีมันอาจจะไม่ใช่อย่างที่มึงคิดก็ได้” 
   
“นั่นแล้วแต่มึงจะคิด แต่กูไม่เปลี่ยนความคิดของกูแน่” ท่าทีที่เหมือนไม่สนใจคำพูดของผม ทำให้ผมนึกฉุนขึ้นมาเล็กน้อย
   
“ยังไงมึงก็จะยัดเยียดกูให้มันใช่ไหมวะ” ผมถามอย่างมีน้ำเสียงกึ่งโมโห
   
“เอาน่า! ถ้ามึงคิดว่าตัวเองมั่นคงพอ จะกลัวอะไรวะ” ไอ้กี้บอกอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มออกมา ผมเบือนหน้าหนี ทั้งที่หัวใจและสมองกำลังทำงานหนัก

   ก็เพราะกูเองก็ไม่ไว้ใจตัวเองน่ะสิ...

   ผมได้แต่บอกกับตัวเองอยู่ในใจ ก่อนสายตาจะเห็นร่างของผู้ชายที่ตกเป็นหัวข้อในการสนทนานี้กำลังเดินเข้ามา ตอนนี้ไอ้ดิวเปลี่ยนชุดไปใส่แค่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ ใบหน้าที่เคยตกแต่งด้วยเครื่องสำอางถูกลบออกจนเหลือเพียงแต่ผิวขาวใสที่ผมเห็นจนคุ้นตา ก่อนรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์จะถูกส่งมาก่อนที่เจ้าตัวจะเดินมาถึงด้วยซ้ำ

“ไม่รู้ว่ามึงจะจัดการเรื่องนี้ยังไง แต่รับรองว่ากูไม่บอกเรื่องนี้กับมันแน่นอน” ไอ้กี้กล่าวย้ำกับผมอีกครั้ง


TBC :|– ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: …

 :z3: Note ::::

ตอนนี้เป็นตอนนึงที่รุ้ึสึกว่าเขียนยากมากเลยค่ะ อยากจะปาดเหงื่อออกมาด้วยความโล่งใจ อิอิ
หากน้องดิวเป็นโจรย่องเบา พี่น็อตก็เป็นนักต้มตุ๋นที่มาอย่างเปิดเผยค่ะ  :impress2:
โดยจุดประสงค์ของสองคนนี้คือการมาล่อลวงแมลงปอนี่เองนะ อิอิ
 ในตอนนี้นอกจากการแสดงตัวของพี่น็อตแล้ว พี่กี้ก็แสดงตัวเช่นกันค่ะ
เรียกว่าเป็นการเผชิญหน้าของตัวละครในเรื่อง ในหลายๆด้านอ่าเน้

ยังไงก็ช่วยเชียร์ช่วยลุ้นกันต่อไปด้วยจ้า
ขอบวกแทนคำขอบคุณของทุกคอมเม้นนะคะ คนเขียนน้อมรับคำติชมทุกกรณีค่ะ
หากมีพิมพ์ผิดไปบ้าง ต้องขออภัยไว้ด้วย

ชอบคุณที่ยังติดตามจนมาถึงตอนนี้ ไม่คิดว่าจะมาไกลขนาดนี้เลย อิอิ  :-[
ช่วยติดตามตอนต่อไปเรื่อยๆด้วยนะคะ ขอบคุณมากเลยค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-01-2013 23:28:12 โดย marionatte »

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
เขียนยาก แต่เขียนออกมาได้ดีนะ
ตอนหมาจิกัดกันนี่ ลุ้นเลย
เป็นปอ ก้อลำบากน่าดูนะ สถานการณ์ตอนนั้น
แต่เอียงมาทางดิวอยู่แล้ว พี่น๊อต ไม่ค่อยมีบทเท่าไหร่ ภาษีต่ำมากกกกกกกกก
ชอบน้องโต้ง รุ้ทุกอย่าง แต่เงียบที่สุด มาที ต่อยหนักๆ เลย
น้องกี้นี่...เคยคิดถึงตอน ถ้า สองคนนี้เลิกกัน คำว่าเพื่อน อาจจะไม่เหลือก้อได้นะ
เครียดๆๆๆ
บวกหนึ่งคะ ดีใจที่ได้อ่านวันนี้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด