“เฮ้ย!” ผมร้องตกใจกับตัวเองเบาๆ เมื่อเห็นโต้งเข้าไปถามพี่หนึ่งที่ตอนนี้ยิ้มรับ เอาจริงดิ!
“เชิญเลยค่ะ แต่ว่ามีค่าถ่ายรูปนะคะ” พี่หนึ่งว่า ก่อนจะส่งยิ้มการค้าไปให้โต้งที่หยิบประเป๋าตังมาควักเงินหน้าตาเฉย มึงบ้าไปแล้วโต้ง!
พี่หนึ่งวางโทรโข่งก่อนจะบอกราคารูปละยี่สิบบาท ซึ่งโต้งก็ไม่ได้บ่นอะไร หลังจากลงชื่อไว้บนกระดาษแล้ว มันก็เดินมายืนข้างผมที่ตอนนี้หันไปมองคนข้างตัวแบบงงสุดๆ
“ปอใช่ไหม”
เสียงของโต้งที่ดังขึ้น ทำให้ผมเหมือนโดนฟ้าผ่า ก่อนจะถอนหายใจออกมา แล้วเข้าไปยืนชิดตามที่พี่หนึ่งบอก ก่อนพี่เขาจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายไว้
“เราจะประกาศผลอีกทีตอนวันงานนะคะน้อง” พี่หนึ่งว่า โต้งก็พยักหน้าก่อนจะเดินไปหาพวกไอ้กี้กับไอ้ดิวที่ยืนรออยู่พร้อมกับที่ผมรู้สึกหัวคิ้วกระตุกขึ้นเมื่อเห็นว่าไอ้ดิวกำลังมองมา
“เดี๋ยวกูไปถ่ายมั้ง” จู่ๆไอ้ดิวมันก็พูดขึ้น แน่นอนว่าตอนนี้พี่หนึ่งยิ้มไม่หุบเลยครับ ก็ตัวเรียกลูกค้ามาแล้วนี่หน่า
“อ้าวน้องดิวจะถ่ายรูปกับบุ๊คคุงด้วยเหรอคะ” พี่หนึ่งยิ้มรับ เมื่อเห็นไอ้ดิวเดินเข้ามาหา
“ครับ ถ้าถ่ายมากกว่าหนึ่งรูปนี่ได้ไหมครับ” ไอ้ดิวว่าพลางส่งยิ้มมาให้พี่หนึ่งเธอเขินเล่น ก็อย่างที่บอกกันนั่นแหละครับว่ามันฮอต
“ได้ค่ะๆ แต่ว่าก็ต้องเสียเงินมากขึ้นด้วยนะคะ” ถึงพี่หนึ่งจะปลื้มขนาดไหน แต่เรื่องเงินก็สำคัญกว่าอยู่ดี เหอะๆ
“ครับ งั้นขอสองรูปนะครับ” ไอ้ดิวว่า ก่อนจะหยิบเงินส่งให้พี่หนึ่งแต่โดยดี
ผมยืนเกร็งขึ้น เมื่อเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของมันที่ส่งมาให้ ผมรอดูว่ามันจะพูดอะไรหรือเปล่า แต่ไม่มีครับ ไอ้ดิวมายืนข้างผมก่อนจะดึงแขนผมไปกอดไว้ก่อนจะโพสท่าชูสองนิ้วตามสมัยนิยมพร้อมกับเสียงของเหล่าบรรดานักเรียนหญิงที่ยืนดูมันอยู่ดังขึ้น ผมตกใจจนเกือบจะกระชากแขนออก ถ้าไม่ได้ยินเสียงพี่หนึ่งซะก่อน
ก่อนการถ่ายภาพครั้งที่สองจะทำให้ผมหายใจสะดุดยิ่งกว่าเดิม เมื่อไอ้ดิวมันกอดคอผมเข้ามาใกล้ โชดคีที่หัวของหุ่นที่ผมใส่มันใหญ่เลยยังสร้างระยะห่างระหว่างมันกับผมได้ แล้วไอ้หน้ายิ้มก็ยื่นหน้ามาใกล้หน้าของผมพร้อมกับส่งยิ้มใส่กล้อง ผมหันไปมองมัน ก่อนจะได้ยินเสียงพี่หนึ่งบอกว่าถ่ายรูปเสร็จแล้ว
“แล้วผมจะได้รูปที่ถ่ายไว้ไหมครับ” ไอ้ดิวเข้าไปถามพี่หนึ่งอีกครั้ง ส่วนพี่หนึ่งก็ยิ้มรับ ก่อนจะบอกว่าจะล้างส่งให้ทีหลัง
“ไม่นึกว่าน้องดิวจะมาร่วมสนุกกับทางชมรมด้วย” พี่หนึ่งพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวาน
“ก็มันน่ารักดี ใครมาถ่ายรูปด้วยคงจะน่ารักมากเลยนะครับ” ไอ้ดิวว่ายิ้มๆ ก่อนจะหันไปมองรอบๆที่เหล่าบรรดานักเรียนหญิงที่มองรอยยิ้มนั่นตาเยิ้ม
พวกมันเดินจากไปแล้ว แต่เพราะการประชาสัมพันธ์ของพี่หนึ่งรวมถึงการดึงกลุ่มนักเรียนโดยไม่ได้ตั้งใจของไอ้ดิว ทำให้มีนักเรียนหญิงอีกหลายคนเข้ามาถ่ายรูปด้วย ไม่นับรวมถึงนักเรียนชายที่พี่หนึ่งล่อลวง? มาอีก ผมก็ได้แต่ยืนเกร็งเป็นหุ่นเท่านั้นแหละครับ
“พี่หนึ่งสุดยอดเลยค่ะ!” นิ่งเอ่ยชม ตอนนี้พวกเรากลับมาอยู่ที่ห้องสมุดอีกครั้งแล้วครับ เพราะใกล้จะหมดเวลาพักแล้ว ที่สำคัญคือผมยังไม่ได้กินอะไรเลยแม่แต้น้ำสักหยด
“มีแผนการตลาดแบบนี้ก็ไม่บอกล่วงหน้า” อั๋นพูดบ้าง พลางมองไปยังจำนวนเงินที่พี่หนึ่งนำออกมานับ
“เปล่าย่ะ! ฉันเพิ่งคิดได้สดๆร้อนๆตอนนั้นนั่นแหละ ก็เห็นปอไม่ทำอะไรเลย แต่ว่านะ ... ไม่นึกว่าจะได้ผลด้วยนะเนี่ย” พี่หนึ่งพูดอย่างถูมิใจ ตอนนี้ผมถอดชุดออกหมดแล้วครับ เหงื่อออกเต้มตัวเลย
“โชคดีที่เพื่อนปอม่วยเปิดงาน แถมน้องดิวยังมาช่วยโฆษณาด้วย” พี่หนี่งเอ่ยอย่างมีความสุข สงสัยงานนี้คงหาทุนคืนได้แล้วล่ะครับ เหอะๆ
“แต่ว่าของรางวัลนี่ มันคืออะไรเหรอคะ” นิ้งถามอย่างสงสัย ผมเองก็สงสัยครับ
“ไม่รู้สิ ยังไม่ได้คิดอ่ะ เดี๋ยวต้องลองคุยกับพวกนั้นดูอีกทีนึง” พี่หนึ่งว่าอย่างครุ่นคิด พวกนั้นที่วาก็คงเป็นพี่แหวน พี่ตาลและพี่จอยนั่นแหละครับ แต่เรื่องนั้นผ่านมันไปก่อนเถอะ มาคุยเรื่องของผมดีกว่า
“แล้วพรุ่งนี้ผมต้องแต่งตัวแบบนี้อีกหรือเปล่าพี่” ผมถามพี่หนึ่งเสียงอ่อย แต่ดูเหมือนความอ่อนล้าของผมจะไม่มีผลต่อความตั้งใจของพี่เขาครับ เวรกรรม...
“เหมือนเดิมนั่นแหละปอ” พี่หนึ่งพูดพลางส่งยิ้มสดใส
:|– ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: …
ผมเดินหมดแรงเหสื้อชุ่มขึ้นห้องเรียนครับ ยังดีที่ตอนนี้อาจารย์ยังไม่เข้ามาสอน ผมนั่งลงที่โต๊ะของตัวเองที่ตอนนี้สมาชิกในกลุ่มอยู่กันครบทืม
“เมื่อกลางวันมึงไปช่วยงานชมรมมาใช่เปล่าวะ” ไอ้กี้ถามผม ผมก็พยักหน้ารับ “เมื่อกลางวันไอ้ดิวกับไอ้โต้งไปถ่ายรูปกับมาสคอตของชมรมมึงด้วยวะ โคตรฮา” ไอ้กี้เล่าต่อพลางหัวเราะ
ผมก็หัวเราะนะครับ แต่หัวเราะในคอ ไม่กล้าหยั่งเชิงถามมันครับ ว่ามึงไม่รู้หรือไงว่าไอ้ตัวตลกที่มึงว่าเนี่ยคือกู! เอาเป็นว่าเงียบไว้แล้วกันครับ เหอะๆ
“เฮ้ย! กูเพิ่งนึกได้ว่าวิชาต่อไปมีการบ้านนี่หว่า” ไอ้กี้ร้องขึ้นอย่างตกใจ ก่อนจะหันไปหาโต้งที่กำลังนั่งอ่านการ์ตูนรายสัปดาห์อยู่
“ทำแล้ว” โต้งตอบอย่างไม่ได้สนใจท่าทีแตกตื่นของคนที่นั่งข้างกันเลยสักนิด
“ทำไมมึงไม่เตือนกูเลยวะ” ไอ้กี้บ่นขึ้น พร้อมกับหาสมุดการบ้านที่ว่าทันที ก่อนมันจะหันไปบ่นกับไอ้คนข้างตัวอีกครั้ง "เอามาให้กูลอกเลย"
“กูไม่ให้ลอก” โต้งพูดออกมาตรงๆ และนั่นทำให้ไอ้กี้ที่เบิกบานเมื่อครู่ ตอนนี้อารมณ์บูดสนิท เพราะรู้ว่าโต้งเป็นพวกตื้อไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา ไอ้กี้เลยหันมาทางผมแทน
“ไอ้ปอมึงเอามาให้กูลอกหน่อย ไอ้โต้งแม่งใจดำ”
“อืมๆ” ผมกำลังจะหันไปหยิบสมุดของผม ไอ้ดิวมันก็ยื่นของมันไปก่อน ไอ้กี้รีบคว้าไว้ ก่อนจะหันไปนั่งลอกอย่างรวดเร็วไม่ได้สนใจใครอีก ผมถอนหายใจออกมา เมื่อเห็นโต้งมันหันมามองไอ้ดิวแบบไม่พอใจหน่อยๆ ส่วนไอ้หน้ายิ้มก็ทำหน้าไม่รู้เรื่อง ก่อนโต้งจะหันกลับไปอ่านการ์ตูนเหมือนเดิม
ผมก็พอรู้ว่าโต้งคงต้องการให้เพื่อนทำการบ้านเองมากกว่า แต่เวลาแบบนี้ใครมันจะสนล่ะวะ...
จู่ๆก็มีแซนวิซวางลงบนโต๊ะของผม ไม่ทันที่ผมอ้าปากออกเสียง คนที่ส่งมาให้ก็ดันชิงพูดขึ้นซะก่อน “คิดว่ามึงยังไม่ได้กินอะไรหรอกใช่ไหม”
“ขอบใจ” ผมไม่ได้อยากนึกเท้าความว่ามันรู้ได้ยังไง เอาเป็นว่าตอนนี้ผมหิวมากเกินกว่าจะสนใจเรื่องหยุมหยิมแบบนี้ครับ ผมกำลังจะหยิบแซนวิซตรงหน้าขึ้นไปกิน ทว่ายังไม่ทันหยิบ ไอ้หน้ายิ้มมันก็หยิบหนีมือของผมไป ผมหันไปมองมันอย่างไม่สบอารมณ์เลยครับ เดี๋ยวอาจารย์มาก็ไม่ทันได้กินกันพอดี
“แหมๆ ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นก็ได้นี่ จ่ายเงินมาด้วยไม่ได้ซื้อมาให้ฟรีๆหรอกนะ” ไอ้ดิวว่าพลางแบมือมาตรงหน้าผมแบบขอนิยามว่าท่าทางแบบนั้นมันกวนอารมณ์ของผมเสียจริงๆ ตอนนี้รู้สึกเส้นประสาทแตกราวกับแก้วที่ค่อยเกิดรอยร้าวเลยครับ
“ขี้ตืด” ผมบ่นกับออกมา ก่อนจะหยิบเงินส่งกระแทกใส่ให้มันไป ไอ้ดิวก็รับก่อนจะส่งแซนวิซในมือมันมาให้ผม แล้วใช้แขนหนุนหัวตัวเองพร้อมกับมองมา
ไอ้หน้ายิ้มก็ยังคงทำหน้ายิ้มได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ตอนนี้ใบหน้าที่หลายคนๆนิยามว่าหล่อเหลวชวนให้ใจเต้นนั้น อีกทั้งยังแต้มด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ซึ่งคำนิยามที่ว่านั่นไม่ได้ผิดจากความเป็นจริงเลยสักนิด ตอนนี้ผมกำลังใจเต้น แต่คงไม่ใช่เพราะเขินอายกับสายตาคู่นั้น แต่เป็นเพราะมันกำลังมองดูผมกินแต่ละคำอย่างไม่ละสายตาต่างหาก
“มองคนอื่นกินอยู่ได้ เสียมารยาท” ผมว่า ก่อนจะจ้องมันเขม็ง แน่นอนว่าไม่ได้หยุดกินหรือตอนนี้เรียกว่ายัดเลยละครับ ยิ่งได้ยินเสียงในห้องเริ่มป่าวประกาศเป็นทำนองว่าตอนนี้อาจารย์เดินมาแล้ว
ทันทีที่ยัดคำสุดท้ายหมด ผมก็รีบเคี้ยวเร็วๆแล้วกลืน ก่อนจะชะงักไปเล็กน้อย เมื่อจู่ๆไอ้ดิวก็ยื่นมือของมันออกมาที่หน้าผม ไม่ทันที่สมองได้ทันสั่งการ นิ้วโป้งของมันก็ป้ายบนริมฝีปากของผมอย่างรวดเร็ว ผมตาโตขึ้นพร้อมกับลมหายใจที่รู้สึกว่าหยุดทำงานไปชั่วขณะ
ทันทีที่เห็นคราบมายองเนสเปื้อนที่ปลายนิ้วของคนตรงหน้า พลันหัวใจก็รู้สึกเต้นแรงผิดปกติขึ้นมา ก่อนจะมองไปยังเจ้าของปลายนิ้วที่กำลังทำหน้ายุ่งใส่ พร้อมกับยื่นนิ้วที่เปื้อนมาตรงหน้าของผม
“กินเลอะเทอะเป็นเด็กๆไปได้ ดูสิ!”
“ห๊ะ?”
ผมเพิ่งรู้สึกและเข้าใจอาการที่เรียกว่าช็อคจนพูดอะไรไม่ออกก็ตอนนี้แหละครับ แถมยังรู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าว พร้อมเสียงหัวใจที่เต้นราวกับรัวกลอง ก่อนผมจะกระพริบตาปริบๆ เมื่อเห็นไอ้ดิวมันหัวเราะออกมาเบาๆ ท่าทางหน้าตาของผมตอนนี้คงตลกมาก ผมหน้ามุ่ยลงเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกแกล้งอีกแล้ว
“ไอ้สัด!” ผมสบถอย่างหงุดหงิด กำลังจะไปหากระดาษทิชชูมาเช็ด ปลายสายตาก็เห็นไอ้หน้ายิ้มเลียนิ้วของตัวเองซะอย่างนั้น
ทั้งๆที่มันเลียนิ้วตัวเอง แต่ทำไมผมถึงรู้สึกหัวใจที่เหมือนจะสงบได้เมื่อครู่ก็ดันเต้นแรงจนตัวเองยังตกใจ ใบหน้าที่ยังรู้สึกร้อนไม่จางหายตอนนี้กลับรู้สึกว่าแทบจะระเบิดออกมา
มึงทำอะไรของมึงไอ้ดิว!!!....
“มีอะไรงั้นเหรอ” ไอ้หน้ายิ้มถามพลางทำหน้าสงสัย
“อะ...เอ่อ...มึงเลียนิ้ว” ผมรวบรวมกำลังก่อนจะพูดออกไปเสียงแผ่ว ทั้งที่คิดว่าพูดด้วยน้ำเสียงดังชัดเจนแล้วแท้ๆ ส่วนไอ้คนฟังก็หัวเราะตอบกลับมา
“แล้วไง” ไอ้ดิวว่าพลางอมยิ้มบางๆ แต่ตอนนี้ผมไม่สนใจแล้วครับ สมองของผมตอนนี้กำลังบอกว่า มันไม่ใช่แบบนี้สิ!
“กูกำลังจะหากระดาษทิชชู”
“ก็เรื่องของมึงสิ”
ไอ้บ้าเอ๊ย!
“แล้วทำไมมึงไม่หาทิชชู่มาเช็ด มันสกปรก” ผมจ้องตามันเขม็ง ทั้งที่อารมณ์ยังไม่คงที่ แต่ไอ้ดิวกลับมองเหมือนผมพูดอะไรแปลกๆ
“แล้วมึงจะยุ่งอะไรกับกูล่ะแมลงปอ กูไม่ได้ให้มึงมาเลียสักหน่อย”
ประเด็นมันไม่ใช่ตรงนั้นเว้ย!
“แต่มันเพิ่งเปื้อนจากปากกู” ผมบอกมันเบาๆแต่ยังแฝงด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ มันก็หยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะยิ้มออกมา
“อ่อเข้าใจแล้ว ทีหลังก็บอกกูก่อนสิว่ามึงจะเลียเอง”
“ไม่ใช่โว้ย!”
“มีอะไรอย่างนั้นหรือกนกพล!” เสียงอาจารย์ที่ยืนอยู่หน้าห้องถามผมด้วยความสงสัย ผมก็เลยได้แต่หัวเราะ ก่อนจะบอกว่าไม่มีอะไรพร้อมกับเสียงหัวเราะของไอ้หน้ายิ้มที่ดังขึ้นข้างๆ
ผมถอนหายใจ ก่อนจะมองไปยังใบหน้าตัวการที่ตอนนี้มันกำลังหันไปมองอาจารย์ที่หน้าห้องแล้ว ผมไม่ค่อยเข้าใจว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่ แค่รู้ว่าเหนื่อย ทั้งๆที่ยังไม่ได้ขยับตัวไปไหน ความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วหน้ากำลังทำงานจนผมต้องโบกมือพัดเบาๆ
วันนี้มันคงไม่ใช่วันของผมจริงๆสินะครับ เฮ้อ...
TBC:|– ::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: …
Note :::มาต่อจนครบแล้วนะคะ เย้ๆ
ถ้ามีพิมพ์ผิดไปบ้าง ต้องขออภัยด้วยค่ะ ตาอาจจะเบลอ อิอิ
ขอยืมมุกซอสเปื้อนปากมาใช้นะคะ แหม พอเห็นฉากนี้ที่ไหนก็รู้สึกมันจักจี้ทุกที
เลยต้องยัดให้น้องดิวเข้าบ้างเหมือกัน ฮ่าๆ
สามารถแนะนำติชมได้นะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

ช่วยสนับสนุนและติดตามผลงานต่อไปด้วยค่ะ อิอิ
