● เล่ห์รักฤดูร้อน ● ตอนพิเศษวันสงกรานต์ (หน้า 151) 13/04/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ● เล่ห์รักฤดูร้อน ● ตอนพิเศษวันสงกรานต์ (หน้า 151) 13/04/59  (อ่าน 1139537 ครั้ง)

ออฟไลน์ anchoviiz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
หน่วงงงง
ชอบบบบ

อยากอ่านอะไรเศร้าๆอีก  :monkeysad:

ออฟไลน์ Hope2TheEnd

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ชอบคู่ทูรันนะ ถึงจะหน่วง ๆ ก็เถอะ แต่หวังว่าจะจบแบบสุขสันต์หวานเว่อร์นะคะ ..♥

ออฟไลน์ watcharet

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 663
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-2
สงสารจุงเบยๆ

ออฟไลน์ Mengjie_JJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2

ออฟไลน์ KilGharRah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +169/-0
สงสารคู่รันรัญจริงๆ มันอึนๆไปหมดเลยอ่า
แต่อีกไม่นานต้องรักกันแน่ๆ  :mew1:

Anyann

  • บุคคลทั่วไป
คู่รัน รัญเหมือนจะคืบหน้าบ้างแล้วนะคะ อย่างน้อยก็พอปากตรงกับใจบ้าง อ่านแล้วหน่วงไปด้วยเลย

ตอนคู่หลักมานี่เล่นเอาหมั่นไส้แทนรันเลยค่า 555555

ออฟไลน์ mellowshroom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1


อยากให้รัญ-รันรักกัน ไม่อยากให้รันร้องไห้เพราะเฮียอีก

 :sad4:

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
พี่สรัญกับพี่รัน มาแต่ละที พร้อมบรรยากาศอึมครึมทุกทีเลย
พี่ภพกับน้องครีม ยังไม่เป็นแฟน แต่ใครจะรู้ พี่ภพเล่นพาเปิดตัวซะขนาดนี้ หวานไม่แคร์สื่อจริง ๆ
อ้น รูมเมทปริศนาของน้องครีม เป็นสายรหัสพี่รันซะงั้น โลกกลมจริง ๆ
แหม ตอนแรกแอบคิดว่ารูมเมทที่ทิ้งไว้เป็นปริศนานี่จะมาชอบน้องครีมให้พี่ภพหึงเล่น ๆ รึเปล่า
กลายเป็นมาสนใจพี่รัน แล้วยังอุตส่าห์มาอยู่คอนโดเดียวกับเฮียภพอีก อะไรเนี่ย โลกกลมอีกแล้ว
เฮียภพกับน้องครีม ตอนนี้มารับบทนักแสดงรับเชิญ แต่ปล่อยความหวานซะเขินไปเลย
เฮียภพรักน้องครีมเปิดเผยขนาดนี้ พี่รันจะอิจฉาน้องก็ไม่แปลกหรอก
ทุกทีได้แต่มองอยู่ห่าง ๆ ตอนนี้ได้เจอพี่ภพในระยะประชิดขนาดนี้
แต่ได้แค่สายตาว่างเปล่าที่มองมา มันน่าเจ็บปวดอยู่หรอกนะ
แต่ก็คิดว่า ถ้าพี่รันพยายามทำความรู้จักพี่ภพสักครั้งตั้งแต่เมื่อก่อน
แม้จะถูกปฏิเสธ ก็ยังดีกว่าไม่ได้เริ่มทำแล้วเป็นแค่คนไม่รู้จักกันในสายตาพี่ภพน่ะแหละ
น้องอ้นเจอหมัดพี่รันเข้าไปเต็ม ๆ แต่ดูท่าแล้วน่าจะทำให้ยิ่งติดใจพี่รันนะเนี่ย พี่สรัญคงได้มีคู่แข่งจริง ๆ แล้ว
ตอนนี้เริ่มลุ้นคู่พี่สรัญกับพี่รันได้มากขึ้นซะหน่อย "ผมคิดถึงคุณ"  ดีใจที่พี่สรัญพูดออกมาอย่างนี้
แม้เริ่มต้นจากความสัมพันธ์ทางกาย แต่ถ้ามีใจให้กันแล้วค่อยเริ่มนับหนึ่งใหม่ก็ได้นะพี่สองรัน
ขอให้ทั้งคู่ช่วยเยียวยาหัวใจกันและกันได้เร็ว ๆเถอะนะ  ส่วนนายอ้น ซาร่าห์ยังว่างอยู่นะจ้ะ ฮะๆ  :laugh:
ปล.แอบกังวลว่าอ้นเจอน้องครีมที่นี่ แล้วไปเจอที่หอว่าเป็นรูมเมท จะสร้างปัญหาอะไรให้น้องรึเปล่า(รึเรากังวลไปเอง แหะ ๆ)
ขอบคุณคนเขียนค่ะ  :L2: :กอด1:

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
คู่นู้นก็หวานหยดย้อย คู่นี้ก็รันทดเหลือเกิน

ไอ้เด็กนี่คือเพื่อนร่วมห้องคิมปะเนี้ย

เป็นไปได้ 

MiiCell

  • บุคคลทั่วไป
 :katai5: นั่น เพื่อนร่วมห้องคนที่ 4 จะเป็นอุปสรรคป่ะนั่น
ขนาดกับพี่รหัสตัวเองยังขนาดนั้น แล้วตอนเจอคิมจะขนาดไหนหนิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-07-2013 21:44:56 โดย MiiCell »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
คิดถึงงงงงงงงงงงงงง
นี่พูดเลยยยยยยยยย

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
● เล่ห์รักฤดูร้อน ●

ยกที่ 47 –  ผิดฝาผิดตัว



         เวลาในมหาวิทยาลัยมักผ่านไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะช่วงเป็นเฟรชชีที่ยังสดใสและตีนกาจากความเครียดยังไม่ถามหา พลังงานท่วมท้นล้นเอ่อ รายล้อมไปด้วยเพื่อนฝูงต่างคณะและกิจกรรมสารพัดอย่าง (ไม่ว่าจะด้วยความเต็มใจอยากเข้าร่วมหรือเปล่า) รู้ตัวอีกครั้ง การสอบก็จะมาจ่ออยู่ตรงหน้า พร้อมพุ่งหมัดซัดเข้ากลางจมูกให้หงายหลังลงไปนอนนับดาวได้ง่ายดายหากไม่ตั้งใจแต่เนิ่น รุ่นพี่คนหนึ่งพูดไว้อย่างนั้นเมื่อวันรับน้อง

         ตอนนี้คิมหันต์เข้าใจแล้วว่าเร็วที่ว่า..มันเร็วอย่างไร

         หลังจากแทบโดนน็อคไปหนึ่งครั้งเมื่อตอนสอบกลางภาค เผลอแผล็บเดียวก็มาถึงสอบปลายภาคการศึกษาแรกอีกแล้ว และครั้งนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่เสียท่าอีก

         สามภพเองก็ดูจะเข้าใจเรื่องนี้ดี จึงได้ไม่ชวนกันเที่ยวเถลไถลนักในช่วงสอบ แล้วยังพยายามเสนอตัวติวให้บ่อย ๆ ทั้งที่คอนโดฯ หรือบางครั้งก็มานั่งสอนที่มหาวิทยาลัยเมื่อมีเวลา แต่คิมหันต์กลับพบว่าระยะหลัง ตัวเองไม่ค่อยมีสมาธิเวลาอีกฝ่ายเอาปากกาจิ้มไปทั่วตำราเพื่ออธิบายเนื้อหาตรงนั้นตรงนี้เอาเสียเลย

         ตาคอยจะเผลอมองหน้าคนสอนอยู่เรื่อย

          “ไอ้ตี๋”

          “หืม?”

          “ฟังอยู่หรือเปล่า?”

          “ฟังสิ” เขานั่งหยุกหยิกอย่างร้อนตัว รีบก้มลงมองตารางที่สามภพวงไว้ให้ นึกประหลาดใจว่าอธิบายมาถึงตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน

         สามภพยิ้มมุมปาก เคาะด้ามปากกาบนหน้าผากเขาเบา ๆ อย่างที่ชอบทำตอนเผลอเหม่อ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เกินจำเป็นเพื่อกระซิบข้างหูอย่างจงใจ

         “หน้าพี่ไม่ได้เขียนเฉลยข้อสอบไว้”

         ว่าจบก็ยิ้มมุมปากเป็นเชิงยั่วยุ น่าหมั่นไส้จริง ๆ

          “ผมก็ไม่ได้มองหน้าเฮียเสียหน่อย”

          “ครับ ๆ”

         คิมหันต์ส่งเสียงจิ๊ขัดใจ พออีกฝ่ายไม่เถียงแถมยังหันไปหัวเราะเลยยิ่งงุ่นง่านใหญ่ ล็อคคอชายหนุ่มแล้วเอาหัวโหม่งปลายคางอย่างหาเรื่อง แต่นอกจากคนโตกว่าจะไม่เล่นด้วยแล้วยังก้มหน้าเอาจมูกกดลงกลางกระหม่อมอีก
 
          “ไอ้เด็กดื้อ”

          “เฮียแม่ง!” เขาหดคอหนี  “บ่นแต่ปากก็พอไหม ไม่ต้องเอาจมูกมาแปะ”

          “เขินรึ”

         คิมหันต์หลังจากพ่นลมฟึดฟัดออกมานิดหน่อยก็ไม่ได้เถียงต่อ ชายหนุ่มเห็นแล้วเพียงแต่ส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มเอ็นดู ลูบผมอีกฝ่ายเบา ๆ อย่างรักใคร่ โชคดีที่นั่งอยู่ในมุมอับซึ่งไม่มีใครอื่นมองเห็น ดูคิมหันต์จะกลัวเพื่อนมาเจอเข้าเสียจริง ครู่ใหญ่เมื่อเห็นไอ้ตัวยุ่งไม่ตอบเขาจึงพูดต่อทำลายความเงียบ เคาะด้ามปากกากับหนังสือเป็นเชิงกระตุ้นไปด้วย

         “อย่างอื่นก็ตามที่วง วิชานี้ไม่มีอะไรมาก อ่านเฉพาะที่มาร์กไว้ให้แล้วก็ท่องข้อสอบเก่าเลย”

         “อ่าฮะ”

         “สอบถึงวันศุกร์แล้วก็ปิดเทอมใช่ไหม”

         “อือ”

         “แล้วกลับบ้าน?”

         เด็กหนุ่มเก็บหนังสือเข้ากระเป๋า มองหน้าเขาอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “ก็ว่าจะอย่างนั้น”

          “กรุงเทพหรือราชบุรี”

         อีกฝ่ายยิ้มกริ่ม ทำตาวาววับทั้งแก้มชมพูระเรื่อ “กลัวจะคิดถึงผมหรือ”

         สุ้มเสียงนั้นกวนประสาทใช้ได้ทีเดียว แต่ที่น่าขำคือเล่นเองแต่กลับหน้าแดงเองนี่แหละ

          “อืม” สามภพยักไหล่ ก็จริงอย่างที่เจ้าตัวว่า “เดี๋ยวคิดถึงขึ้นมาไม่รู้จะไปหาที่ไหน”

          “เน่าว่ะ” เด็กหนุ่มหัวเราะ “ผมต้องไปรายงานตัวกับป๊าอะ”

         สามภพนั่งเท้าคาง ปากก็เอ่ยถามรายละเอียดไปเรื่อย “รายงานตัวแค่ลูกชายหรือ?”

          “ลูกสาวก็ด้วย” คิมหันต์ยักไหล่ “เจ้ใหญ่กับเจ้สิก็เหมือนกัน”

          “ลูกเขยล่ะ?”

         เด็กหนุ่มอ้าปากหวอ ค้างเช่นนั้นอึดใจหนึ่งจึงเริ่มบ่นงึมงำไม่ได้ศัพท์ จากนั้นก็ก้มงุด ๆ เกือบตลอดเวลาที่เก็บของเก็บของเสร็จจนเดินกลับถึงหน้าหอพักโดยมีเขาไปส่ง

          “ตั้งใจเข้า อ่านชีทที่บอก” ชายหนุ่มยิ้มน้อย ๆ วางมือลงบนศีรษะคิมหันต์ เสยผมเปิดหน้าผากแล้วผลักเบา ๆ ให้หน้าหงายขึ้นนิดหน่อย อีกฝ่ายเหลือกตามองอย่างน่าหัวเราะ ถ้าไม่มีใครอยู่แถวนี้ก็อยากจะจุ๊บหัวเหม่งสักทีจริง ๆ ให้ตาย  “สอบเสร็จไว้จะพาไปหาอะไรอร่อย ๆ กิน”

         เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง ต่อยเขาเบา ๆ บนฝ่ามือที่เขายกขึ้นกันไว้ งึมงำในลำคอว่า “ผมอยากกินไข่เจียวกับข้าวแฉะ ๆ”

          “อ้อ” เขาเลิกคิ้ว มักน้อยไปไหม แล้วไอ้ข้าวแฉะ ๆ ร้านไหนจะทำให้ถ้าไม่ใช่ข้าวต้ม ท่าทางคงต้องกลับไปทำเองอีกแล้ว

          “ที่เฮียหุง”

         นั่นปะไร

         อีกฝ่ายกระซิบอะไรที่จับใจความไม่ได้อีกนิดหน่อย จากนั้นก็หยุดลงกลางคัน ก้มหน้าก้มตาเข้าวิ่งจี๋เข้าไปในอาคาร เห็นแวบหนึ่งว่าใบหูแดงแจ๋

          “...”

         ไอ้เด็กนี่มันน่าฟัดบัดซบ!



         พวกเขาไม่ได้เจอกันอีกนับจากนั้น กระทั่งวันที่คิมหันต์เดินออกจากห้องสอบวิชาสุดท้ายตัวเบาโหวง สติทิ้งหายอยู่ข้างในห้องไปส่วนหนึ่ง ที่เหลือพอติดตัวอยู่บ้างยังมากพอจะให้อมยิ้มน้อย ๆ เมื่อลองประเมินตัวเอง วิชานี้เขาคิดว่าทำได้ดีและอ่านตรงกับที่ออกสอบมากพอดู คะแนนจากเมื่อตอนกลางภาคก็ค่อนข้างน่าพึงพอใจ หากรวมกันอาจมีลุ้นเอด้วยซ้ำ ทั้งหมดนี้ยกความดีความชอบให้สามภพเลย

         เด็กหนุ่มเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้เพิ่งบ่ายสามโมงเท่านั้นเอง อยากโทรไปอวดแต่ติวเตอร์จำเป็นตอนนี้คงยังไม่ว่างคุยด้วย เขายังมีเวลาเตรียมตัวเก็บของที่หอเตรียมกลับบ้านพรุ่งนี้ ก่อนถึงเวลาที่นัดกันไว้

         คิมหันต์แวะเอนหลังพิงต้นเสาในจุดอับสายตา เพื่อหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพิมพ์หยุกหยิก ส่งข้อความแช็ตหาอีกฝ่ายว่าตัวเองเพิ่งสอบเสร็จ เลิกเรียนเมื่อไหร่ให้ทักมา หิวมากกำลังจะกินหมาบ้าได้ทั้งตัวอยู่แล้ว จากนั้นก็หัวเราะหึ ๆ กับประโยคสุดท้ายของตัวเอง ครู่หนึ่งจึงลบทิ้งเหลือถึงแค่คำว่าหิวมากก่อนกดส่ง ยิ้มน้อย ๆ พร้อมกับยกมือกุมหูสองข้าง รอจนแน่ใจว่ามันไม่แดงผิดปกติแล้วจึงเดินกลับหอพัก ฮัมเพลงไปด้วยตลอดทาง น่าแปลกที่วันนี้ไม่รู้สึกอยากกินมื้อใหญ่อะไร นอกจากไข่เจียวกับข้าวสวยร้อน ๆ สักจาน ประเด็นคือเขาแค่อยากเจออีกฝ่ายเท่านั้นเอง


         ก็ถ้าสามภพจะยอมหุงข้าวแฉะ ๆ ให้ เดี๋ยวเขาจะตามไปทอดไข่เจียวฟู ๆ เอง



         ไข่เจียวกับข้าวแฉะ (ซึ่งสามภพบ่นอยู่เรื่อยแต่ก็ยอมกิน) กลายเป็นหนึ่งในเมนูประจำเกือบทุกครั้งคิมหันต์ไปวนเวียนอยู่ที่คอนโดฯ อีกฝ่ายไปแล้ว กินบ่อยตั้งแต่เขายังทำไข่ไหม้ดำปี๋อยู่เนือง ๆ กระทั่งระยะหลังที่ฟูฟ่องเหลืองอร่าม แม้สามภพจะค่อนแคะว่ากินจนหน้าจะเป็นไข่เจียว แต่ก็เริ่มสรรหาอะไรประหลาดมาผสมจนกินได้บ้างไม่ได้บ้าง ทำนองว่าบ่นไปอย่างนั้นแต่ก็มาช่วยปนยุ่งอยู่ดี

         พวกเขาเถียงกันบ่อย ๆ แต่ไม่ได้จริงจัง ลงท้ายมักจะกลายเป็นเพียงแค่เรื่องล้อเล่นให้มาขบขันกันภายหลังยามนึกถึงมากกว่า อะไรต่อมิอะไรดูเข้าที่เข้าทางจนเขาเผลอคิดว่าให้เป็นอย่างนี้ตลอดไป โดยที่คนทางบ้านไม่ต้องรู้เรื่องอาจจะเป็นทางออกซึ่งเข้าท่าที่สุดก็เป็นได้


         เขาคิดอย่างนั้นแล้วจริง ๆ จนกระทั่งกลับบ้านครั้งล่าสุดช่วงปิดเทอมนั่นเอง


          “คีม มากินข้าวลูก”

          “คร้าบ”

         เด็กหนุ่มกระโจนออกจากห้อง วิ่งตึงตังลงบันได แต่พอสุชัยผู้เป็นบิดาหันมาทำสายตาดุใส่ก็ยิ้มเจื่อนเข้าสู้แล้วค่อย ๆ ย่องลงมาอย่างสุภาพ เจี๋ยมเจี้ยมทว่ายังดูกวนประสาทอยู่ในทีจนผู้สูงวัยโคลงศีรษะ ถอนใจเบา ๆ เฮือกหนึ่งแล้วก้มลงพลิกหน้าหนังสือพิมพ์อ่านต่อ

          “เป็นไง กว่าจะกลับบ้านได้นะเรา” เดือนเพ็ญผู้เป็นมารดาเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม เดินไปโอบรอบไหล่เด็กหนุ่มที่ตัวสูงกว่าเธอแล้วพาเขามาที่โต๊ะอาหาร “วันแรกก็ตื่นสายเลย”

          “ผมนอนดึกช่วงสอบมาหลายคืนอะม้า” เขาว่าพร้อมกับขโมยหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ กระโดดหย็องแหย็งไปที่โต๊ะอาหารแล้วลากเก้าอี้ออกมานั่ง หยดน้ำจากผมเพิ่งสระซึ่งยังไม่แห้งดีหยดแหมะลงบนไหล่ เงยขึ้นจึงเห็นว่านอกจากป๊ากับม้า ยังมีเด็กสาวอีกคนหนึ่งกำลังเดินมานั่งฝั่งตรงข้าม

          “อ้าว..” คิมหันต์เลิกคิ้ว หันมองซ้ายทีขวาที รอให้ใครสักคนช่วยเฉลยว่าผู้หญิงซึ่งนั่งยิ้มเจื่อนอยู่ตรงหน้าคือใครกัน

          “จำหนูแบมไม่ได้หรือ?” เดือนเพ็ญที่เดินตามมานั่งข้าง ๆ ตอบคำถามบนสีหน้าของเขาด้วยรอยยิ้ม “ตอนเด็ก ๆ ยังเคยวิ่งเล่นด้วยกันอยู่เลย”

         เขาขมวดคิ้วน้อย ๆ  แม้ในหัวจะยังคิดอยู่ว่าแบมไหน แต่ปากก็ทักทายไปก่อนแล้วตามมารยาท

         “ไงแบม ไม่เจอกันนาน” ต่อในใจว่าคงนานมากจนลืมไปแล้วว่าเคยเจอ

         อีกฝ่ายส่งรอยยิ้มแห้ง พยักหน้าอย่างขอไปที สายตาคล้ายจะพูดว่า ฉันก็จำนายไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละ อยู่เงียบ ๆ  ขณะที่ผู้เป็นบิดาโพล่งขึ้นมากลางวงโดยยังไม่ได้เงยหน้าจากหนังสือพิมพ์ด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดเฉกเช่นทุกที “ลูกสาวคุณตรีฉัตร”

         คิมหันต์เกาท้ายทอย ยังนึกไม่ออกว่าคุณตรีฉัตรไหน ตัดสินใจทำท่าเหมือนเข้าใจแล้วก้มหน้าก้มตาตักข้าวเข้าปาก หากป๊ากับม้าไม่ได้แนะนำอะไรมากไปกว่านี้ ก็คงไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับเขาที่ต้องมานั่งสน

          “คีมไม่ชวนเพื่อนคุยบ้างล่ะลูก” เดือนเพ็ญกระเซ้าอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย “น้องแบมก็เรียนหมอ ปีหนึ่งเหมือนเราเลย”

          “ม้าสอนผมว่าห้ามคุยเวลากินข้าวอ้ะ” เด็กหนุ่มยิ้มเผล่ เคี้ยวอาหารตุ้ย ๆ เต็มแก้ม สุชัยถึงกับกระแอมหนัก ๆ ออกมาหนึ่งครั้งพร้อมส่งสายตาดุลอดแว่นสายตา มีผลเรียกหน้าสลดของลูกชายขึ้นมาแทนอาการระรื่นเมื่อครู่อย่างฉับพลัน คล้ายเป็นการเตือนให้นึกออกหลังจากห่างบ้านไปนานว่าอย่าเอาแต่เล่นไม่รู้จักเวล่ำเวลา ลืมไปว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่กับวัสสานะจะได้มาทำตัวยียวนเรื่อยเปื่อย

         คิมหันต์ลอบถอนหายใจ เหลือบมองเด็กสาวตรงหน้า เธอเป็นผู้หญิงผิวขาว ใบหน้าเรียว ตาโต คิ้วค่อนข้างเข้มได้รูป ปากนิดจมูกหน่อย ผมตรงสีดำขลับปล่อยยาวถึงกลางหลัง จัดว่าสะสวยชวนมองทีเดียว หากไม่นับเรื่องแววตาไม่สบายใจนักซึ่งปรากฏขึ้นในบางครั้ง และเขาสังเกตเห็นเธอทำสีหน้าเหนื่อยหน่ายเมื่อคิดว่าไม่มีใครมองอยู่

          “ไง แบม เรียนเป็นไงมั่ง” เขาลองชวนคุยตามที่มารดาดูจะลุ้นเหลือเกิน “ปิดเทอมตั้งแต่เมื่อไหร่อะ”

         ป๊าเหลือบตาขึ้นจากหนังสือพิมพ์ ทีท่าสนอกสนใจ คงคิดว่าไม่ได้อยู่ในสายตาเขา แต่เด็กหนุ่มเห็นหมดนั่นละ ต่อให้ตาตี่ขนาดนี้ก็เถอะ

          “ปิดได้อาทิตย์หนึ่งแล้ว”

          “แล้ววันนี้มาทำไรอะ”

          “ป๊าชวนมาเอง” สุชัยพูดแทรก วางหนังสือพิมพ์แล้วยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบอย่างไว้เชิง ท่าทางที่ทำเหมือนไม่สนใจแต่เหลือบมองอยู่บ่อย ๆ นั้นดูอย่างไรก็ไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลย “จะได้สนิทกันไว้ด้วย”

          “อ้อ” ปากว่าอย่างนั้น แต่เขากลับเลิกคิ้วขึ้นน้อย ๆ  ปรายตาไปทางเด็กสาวอย่างขอความเห็น และได้รับสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกกลับมา


         อาการเช้ามื้อนั้นเป็นไปอย่างกระอักกระอ่วนพอดูสำหรับหนุ่มสาวทั้งสอง ซึ่งผู้ใหญ่คอยจะยืนยันเหลือเกินว่าตอนเด็กชอบเล่นด้วยกันมาก เจอกันอีกทีน่าจะกลับไปสนิทกันได้เหมือนแต่ก่อน แต่คิมหันต์นึกอย่างไรก็ไม่เห็นจำได้ว่าเคยไปเป็นเพื่อนกับอีกฝ่ายตอนไหน และหากเขาเข้าใจไม่ผิด พิจารณาจากสีหน้าแล้วเชื่อว่าแบม หรือที่ม้ากระซิบว่าชื่อจริงคือบงกช ก็ไม่ได้เต็มใจอยู่ในสถานะเพื่อนวัยเด็กที่จะกลับมาเฮฮาด้วยกันอีกครั้งแน่นอน ถึงตรงนี้คิมหันต์นึกไปถึงคำพูดที่พี่สาวคนโตเคยบอกเขาเรื่องป๊าอยากให้แต่งงานเร็ว ๆ ขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

         ตอนแรกก็ปลอบตัวเองว่าคงคิดมากไปเอง แต่บุพการีทั้งสองกลับคอยชงเหลือเกิน ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่ตรงจังหวะและดูจงใจอย่างส่อพิรุธ จนกระทั่งประโยคล่าสุดที่หันไปคุยกันเองสองคนกะหนุงกะหนิงว่าอยากให้ลูกชายแต่งงานตอนอายุสักเท่าไรดี  ก็ทำให้เขาต้องคิดใหม่ว่าท่าทางจะไม่ใช่แค่เรื่องล้อกันเล่นเสียแล้ว

          “ผมยังไม่บรรลุนิติภาวะเลย” เขาท้วงก่อนจะพากันเลยเถิด ทำทีเป็นกลมกลืนไปกับบทสนทนา แกล้งโง่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ว่าทั้งสองคนต้องการอะไร “เรียนแค่ปีหนึ่งเอง กว่าจะจบอีก”

          “นั่นสิ กว่าจะจบ” เดือนเพ็ญถอนหายใจเฮือก “เรียกหกปี จบก็อายุสักยี่สิบสามได้”

          “ก็แต่งเลย” สุชัยแทรก

         ทั้งคิมหันต์และบงกชหันไปกลอกตาทางอื่นโดยมิได้นัดหมาย

          “แล้วนี่อิ่มหรือยังน่ะเรา”

          “อิ่มแล้วครับ”

          “อิ่มแล้วก็พาหนูแบมไปเดินเล่นเปิดหูเปิดตาข้างนอกไป”

         คิมหันต์เลิกคิ้ว ม้าเขาพูดราวกับแถวนี้มีอะไรให้เปิดหูเปิดตาเยอะแยะอย่างนั้นละ  “ไปไหน? แล้วแบมไม่กลับบ้านหรือ” เขาหันไปถามเจ้าตัวซึ่งทำเหมือนอยากจะพยักหน้าเห็นด้วยแต่ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

          “คุณฉัตรกับสามีไปต่างประเทศสี่วันน่ะ ระหว่างนี้หนูแบมมาอยู่บ้านเราก่อน ให้อยู่บ้านลำพังก็เป็นห่วง ลูกสาวคนเดียว ไอ้เราก็ประสาคนใกล้ชิดกัน มีอะไรให้ช่วยเหลือก็เต็มใจ” เดือนเพ็ญแจกแจงพร้อมรอยยิ้มอิ่มเอม มือก็เก็บจานชามบนโต๊ะไปด้วย “อีกหน่อยเผื่อจะได้ดองกันไว้”

         บงกชพยายามปั้นสีหน้าเริงรื่น แต่ใจนึกเคืองพ่อแม่ที่หนีไปเที่ยวฮ่องกงกันสองคนขึ้นมาตงิด หากแค่ไปเฉย ๆ จะไม่ว่าสักคำ แต่ช่างเอาลูกสาวตัวเองมาฝากไว้บ้านสุชัยผู้เป็นเพื่อนสนิท เธอก็คิดอยู่ว่ามันดูประหลาดที่เดี๋ยวนี้พ่อแม่คอยถามเรื่องมีแฟนหรือยังบ่อยเหลือเกิน พอบอกยังไม่มีก็ยิ้มร่า แนะนำว่ามีลูกชายเพื่อนที่อยากให้ลองคุย น้ำเสียงตอนพูดนั้นเปี่ยมความหวังเต็มที่ว่าเธอจะยังจำได้ว่าเคยวิ่งเล่นกับเขา ทั้งที่ชื่อคีมพิลึกพิลั่นนั่นไม่ติดอยู่ในซอกมุมใดของสมองเธอด้วยซ้ำไป พวกผู้ใหญ่ช่างทำอะไรกันเอาแต่ใจเหลือเกิน

          “เอาเก๋งคันเก่าป๊าพาแบมไปเดินเล่นที่ห้างก็ได้” สุชัยออกปากในที่สุด แม้รูปประโยคจะดูเหมือนกำลังยื่นข้อเสนอ แต่คิมหันต์รู้ดีว่าน้ำเสียงแบบนั้นเป็นการบังคับอย่างเต็มรูปแบบ

          “ผมยังไม่มีใบขับขี่รถยนต์เลยป๊า”

          “เมื่อเดือนก่อนยังเอาออกไปขับเลยไม่ใช่เรอะ!?”

         เด็กหนุ่มจ๋อยสนิท ตอบ “ครับ” เบา ๆ แล้วก้มหน้าก้มตาเดินไปหยิบกุญแจรถ

          “แล้วจะไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อยหรือเรา”

          “ห้างอยู่แค่นี้เองม้า”

         เดือนเพ็ญถอนหายใจ “ไปเดินกับผู้หญิงก็แต่งตัวให้ดูดีหน่อยสิลูก เดี๋ยวคนเขาจะมองเสียหาย”

         คิมหันต์หัวเราะแห้งเหือดประชดชีวิต ตอบอีกทีว่า “ครับ” แล้วโยนกุญแจรถใส่มือบงกช ท่าทางประหนึ่งกำลังเล่นกับเพื่อนผู้ชาย พึมพำว่า “รอแป๊บ” แล้วเดินเนือย ๆ ไปหาชุดเปลี่ยนตามประกาศิตมารดา





         บงกชถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาทันทีที่พ้นสายตาพ่อแม่ของคิมหันต์ ยกมือเสยผมอย่างพยายามใจเย็น ก่อนจะหันมาพึมพำกับเด็กหนุ่มหลังพวงมาลัย “โทษทีนะ”

          “เรื่อง’ไร” คิมหันต์ยังทำเป็นไม่รู้เรื่อง

          “อย่าแกล้งเซ่อน่า” เธอยักไหล่ “คุณลุงคุณป้าพยายามจะจับคู่ฉันกับนาย แต่เราไม่เคยรู้จักกันด้วยซ้ำ..คือ หมายถึง ถ้าไม่นับเรื่องที่พวกผู้ใหญ่พยายามเป่าหูว่าเราสนิทกันมากเมื่อสมัยเด็กซึ่งฉันไม่เห็นจำได้”

         เด็กหนุ่มแค่นหัวเราะ “ดีใจที่อย่างน้อยเธอก็คิดแบบเดียวกัน เอาจริง ๆ ฉันนึกชื่อแบมไม่ออกเลยสักนิด”

          “ชื่อคีมก็ด้วย”

          “เรียกคิมเถอะขอร้อง”

          “หา?”

          “คิม” เขาย้ำ “จากคิมหันต์น่ะ”

          “อ้อ” บงกชพยักหน้า “ตอนแรกฉันคิดว่านายชื่อครีม ยังนึกอยู่ว่าชื่อหวานมาก แต่คุณป้าแก้ให้ว่าชื่อคีม”

         เด็กหนุ่มถอนใจยาว ชื่อครีมช่างตามหลอกหลอนเสียจริง “คนที่เรียกคีมก็มีแค่ป๊ากับม้านั่นละ”

          “โอเค คิม” เธอสรุป เอนหลังกับเบาะ ครู่หนึ่งก็ชี้ไปที่กล่องเก็บซีดี “อันนี้รื้อได้ไหม?”

          “จะฟังเพลงหรือ”

          “ดูนะ?”

          “เอาดิ”

          "โอ๊ะ" เด็กสาวค้นกุกกักอยู่สักครู่ก็หยิบกล่องใส่ซีีดีอันหนึ่งขึ้นมา “ชายนี่หรือ?”

          “เฮ่ยรู้จักอะ?”

          “ชายนี่เวิลด์จ้ะ” เธอขยิบตา เอ่ยชื่อแฟนคลับนักร้องเกาหลีวงเดียวกับที่เขาชอบ “ความจริงแล้วเป็นโซวอนกับฮอทเทสด้วย” ว่าจบก็หัวเราะรื่นกับชื่อเรียกแฟนคลับของศิลปินที่ตัวเองพ่นออกมา

          “เออดีเลย” คิมหันต์หัวเราะตาม บังคับพวงมาลัยให้หักเลี้ยวเข้าไปในลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า นึกถูกใจกับเพื่อนใหม่ (หรืออาจจะเพื่อนเก่าที่จำไม่ได้) ซึ่งเริ่มต้นคุยกันได้ค่อนข้างถูกคอ

         หาที่จอดได้เรียบร้อยแต่ยังไม่ทันดับเครื่อง โทรศัพท์ก็สั่นแจ้งมีสายเรียกเข้าขึ้นพอดิบพอดี

         เขาพยักพเยิดเป็นเชิงบอกให้ผู้ร่วมทางลงจากรถก่อนได้ ขณะที่ตัวเองหยิบเครื่องมือสื่อสารซึ่งสั่นอยู่ในกระเป๋าขึ้นมาดู (เขาติดนิสัยตั้งโทรศัพท์ให้เป็นแบบสั่นนับตั้งแต่เจอกับสามภพ) รูปและชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอเรียกให้รอยยิ้มกว้างวาดขึ้นบนริมฝีปาก

          “ไง?”

         เขาก้าวขาลงจากรถ ยกโทรศัพท์ไว้แนบหูมือหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างตรวจเช็คความเรียบร้อยก่อนเดินไปยังทางเข้าพร้อมกับเด็กสาวที่มาด้วยกัน เธอไม่ได้แสดงท่าทางใดว่าอยากรู้อยากเห็นในการสนทนาของเขา แล้วยังเดินออกห่างนิดหน่อยคล้ายจะทิ้งระยะให้คุยเป็นการส่วนตัวอีกด้วย


          “อื้อ ผมอยู่บ้านแล้ว” เขาตอบคนในสาย “ฮ่า ๆ ๆ ก็ต้องราชบุรีดิ จะมาหาหรือ”


         ทั้งที่ตั้งใจเดินห่างแล้ว แต่บงกชก็ยังได้ยินเสียงเริงร่าของคิมหันต์อยู่ดี


          “เฮ่ย ๆ ล้อเล่น! ไม่ต้องมาเลยนะ”


         เธอลองทิ้งระยะห่างเพิ่มอีกสักหน่อย ให้ผลไม่ต่างจากเดินใกล้ ๆ นัก สุดท้ายก็ยอมแพ้ ในเมื่อเจ้าตัวไม่ได้มีทีท่าปิดบังหรือเห็นเป็นเรื่องส่วนตัวอะไร เธอก็คงไม่จำเป็นต้องระวังเรื่องจะทำตัวละลาบละล้วงเกินเหตุให้อีกฝ่ายเข้าใจผิด เร่งฝีเท้ากลับมาเดินด้วยความเร็วเท่าเดิม ทิ้งช่วงจากคิมหันต์ประมาณสามสี่ก้าว


          “อือ...เดี๋ยวกลับไป”


          “คิดถึงผมอะดิ”


          “อื้อ”


          “เพี้ยน! จะบ้าเรอะ”


         นอกจากประโยคซึ่งเหมือนคุยกับคนรักของคิมหันต์แล้ว บงกชคิดว่าเธอเห็นใบหูคิมหันต์เปลี่ยนเป็นสีแดงจากด้านหลัง ถึงกับอดไม่ได้จะแอบพ่นเสียงหัวเราะเบา ๆ ออกมา


          “...คิดถึง”


         เด็กหนุ่มกระซิบกระซาบ


          “..จะให้พูดดังไปไหนเล่า!?”


         เด็กสาวเดินทันคนข้างหน้าจนได้เพราะเขาหยุดเดินกะทันหัน ตอนนั้นเองจึงได้เห็นว่าไม่ใช่แค่ใบหู แต่ทั้งหน้าคิมหันต์แดงเป็นลูกมะเชือเทศไปแล้ว


          “อือ ไว้เจอกัน”


         คิมหันต์พูดแค่นั้นแล้วก็วางสาย ที่ไม่คาดคิดคือเงยหน้าขึ้นมาเห็นบงกชกำลังจ้องเขาอยู่พร้อมรอยยิ้มกริ่ม รีบกลับมาตีมาดเข้มแทบไม่ทัน


          “แฟนหรือ?” เด็กสาวยักคิ้ว “ไม่บอกคุณลุงกับคุณป้าไปเล่าเขาจะได้เลิกจับคู่”


         เขาโบกมือไปมา ทำเหมือนลมปากคนตรงหน้าเป็นเรื่องไร้สาระเสียเต็มแก่ “แฟนเฟินอะไรกัน”


          “บอกคุณลุงคุณป้าสิ” บงกชยังยุ “อย่างฉันเอง ถ้าบอกได้ก็อยากจะบอกคุณพ่อคุณแม่อยู่หรอกว่ามีแฟนแล้ว”


          “เธอก็บอกสิ” คิมหันต์ย้อน “ทำไมบอกไม่ได้”


         อีกฝ่ายถอนใจ ยกมือขึ้นเสยผม “รู้แล้วเหยียบไว้นะ”


          “หืม?”


          “แฟนฉันเป็นผู้หญิง”


         คิมหันต์เกือบอ้าปากค้างออกมาแล้ว


          “เลสเบี้ยนน่ะ” เธอยักไหล่ “คุณพ่อคุณแม่รู้คงช็อคตายเลย คือฉันเป็นลูกคนเดียวด้วยไง”


          “อ้อ”


          เด็กหนุ่มพึมพำ นึกย้อนถึงตัวเองแล้วก็พบว่าอยู่ในสถานการณ์ซึ่งไม่ได้แตกต่างกันเท่าไรนัก ฝ่ายนั้นผู้หญิงสองคน ฝ่ายเขาผู้ชายสองคน และพ่อแม่ของทั้งเขาและบงกชก็ดูเหมือนจะพยายามจับคู่โดยไม่ได้รู้เรื่องราวเหล่านั้นเลย


          “ถึงได้บอก ว่าถ้านายมีแฟนแล้วก็รีบบอกคุณลุงคุณป้าเลย ยิ่งถ้าโปรไฟล์ดีก็รีบพามาแนะนำด่วน ๆ”


         เธอเงียบไปครู่หนึ่ง มองหน้าเขาอย่างมีความหวัง แม้เขาปฏิเสธอีกครั้งว่าที่เพิ่งวางสายไปนั้นไม่ใช่แฟน แต่ดูเหมือนบงกชจะปักใจเชื่อไปเรียบร้อยแล้ว


          “ทีนี้เราก็จะได้รอดทั้งคู่” เธอกระซิบ สายตาเหม่อลอยไปชั่วขณะหนึ่ง


         เด็กหนุ่มส่ายหน้า ถอนหายใจยาว และคิดว่าเขาควรทำตัวแฟร์กับเธอบ้างด้วยการบอกความจริงบางส่วน


          “คนที่คุยโทรศัพท์ด้วยเมื่อกี้เป็นผู้ชาย”


         บงกชชะงัก ทำหน้าไม่เข้าใจเพียงชั่ววินาที หลังจากนั้นก็เบิกตากว้างด้วยอาการตกตะลึง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหัวเราะออกมาในที่สุด


          “นี่มันบ้า”


         เขาหัวเราะตาม “ใช่ โคตรบ้า” แม้ความจริงแล้วมันเป็นตลกร้ายที่ไม่ชวนให้ขำเลยแม้แต่น้อย


          “หาร้านนั่งไหม? กินไอติมเป็นไง” เด็กสาวเอ่ยชวน พยักพเยิดไปอีกฝั่งของห้างสรรพสินค้า “ฉันว่าเราน่าจะมีเรื่องให้คุยกันยาว”


         คิมหันต์พยักหน้ารับ 



         เขาเองก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน 



- หมดยกที่ 47 –






-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-



มาเสิร์ฟแล้วค่าาา ^o^ (ดึกมากกก)
ตัวละครออกมาอีกแล้ว สองสามตอนมานี้ใช้เปลืองมาก แฮ่ก ๆ
คู่ 2 รันก็อึมครึม คู่นี้ก็ชมพูม่วง ๆ เนอะคะ 555

ตอนนี้ของดของแถมก่อน ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ยังทำงานแต่เช้า ส่องก่อนได้ที่ fb เช่นเคยค่ะ เดี๋ยวรวบแปะตอนหน้าแฮ่ก ๆ
ขอบคุณคนอ่านผู้น่ารัก พบกันตอนหน้าค่าา ^o^ *กอดฟัดดด*  :L2: :กอด1: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-07-2013 14:00:20 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
โอ้ยยยยยยย 555555555555555
เอาไงหละทีนี้แฟนยัยนู๋แบมก็ผู้หญิง
เอาไงดีใครจะบอกก่อน  กร๊ากกกกกก
ว่าแต่อาป๊าน้องครีมแอบดุอ่ะ!

ออฟไลน์ HolyWings

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ตั้งแต่อ่านมานี่ดิฉันตอบครั้งแรกเลยนะเนี่ย

ไม่ไหวแล้วค่ะ ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวว
มันสนุกจริงจริงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ฮ่าๆๆๆๆๆ

ดิฉันลุ้นเยี่ยวเหนียวเลยค่ะ ว่านังบงกชมันจะมีอะไร
ฮ่าๆๆ ที่แท้ นางเบี้ยนนนนนนนนนนนนนนนนนนน โอเคคคคอ่ะ

อิคิมคงทำหน้าพิลึก ตลกดี
ดิฉันมีความคิดซาดิสว่าไม่อยากให้อิพี่ภพรู้เลยว่านางเป็นเลสเบี้ยน
ปล่อยให้เข้าใจผิดไปว่าเป็น คู่หมั้นอินุ้งคิมไปงั้นแหละ

สะจายยยยยยยยยยยยย 555

ออฟไลน์ ปี้ปี้ปี้~PalmY

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +273/-1
เครียดด

น้องครีมวุ่นแล้ว โดนจับคู่ขนาดนี้

ปี 1 นะครับ TT คุณพ่อทำไปได้นะ

ออฟไลน์ chisarachi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-1
ขำ5555555555
คู่ชายชาย หญิงหญิง
บงกชนี่เธอเปรี้ยวมากกก
ถ้าลองสลับคู่แฟนตัวเองมาให้อีกฝ่ายเพื่อหลอกพ่อแม่
คงฮาไม่น้อยเลย55555555555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-07-2013 10:46:49 โดย chisarachi »

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
เอ้อ แล้วอย่างนี้จะลงเอยยังไงเนี่ย  :hao7:

ออฟไลน์ SiLent_GRean

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 566
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ย้ากกก   มันมากกกกกกกกกก   :m4: :m4: :m4: :m4:

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
ทำไมคนจีนชอบจับคู่ให้ลูกๆ ไม่เข้าใจ
อย่างน้อยหนทางหนูครีมก็ไม่ได้มืดมิดซะทีเดียว มีเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกนึง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
นู๋แบมมีแฟนเป็นผู้หญิง นู๋ครีมมีแฟนเป็นผู้ชาย  :m11: :m11: :m11:

ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
ตี๋คิมโดนป๊าหาคู่ให้ซะแล้วไหมล่ะ..เฮียเพี้ยนรู้เข้าจะเป็นยังไงหนอ

ดีนะที่น้องแบมไม่ได้ชอบผู้ชายไม่งั้นคงจะวุ่นวายมากแน่ๆ

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
5555 บงกช ท่าทางจะเป็นเพื่อนที่ดี ท่าทางจะมัน 555

ยุทธการหลอกป๊าา

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
หนูครีมอย่าลืมเล่าเรื่องหนูแบมให้เฮียฟังด้วยนะ กลัวเฮียเข้าใจผิดง่ะ

แต่ก็โล่งนะ ที่หนูแบมมีแฟนเป็นผู้หญิงอ่ะ  :laugh: 

ออฟไลน์ kasarus

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
รักหลอกๆ อย่าบอกใครสินะ

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
เฮ้ออ โล่งอกไปนิดนึงถึงสาวเจ้าจะเป็นเลสก็เถอะ แต่ป๊าม๊า ไม่ใช่เรื่องง่ายๆแน่ๆ :เฮ้อ:

นี่ถ้าเฮียเพี้ยนรู้จะทำไงนะ เครียดจังเรื่องทางบ้านของคิมหันต์ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะเนี่ย




ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
คิมมีเพื่อนหัวอกเดียวกันแล้วสิ
เวลาอยู่กับเฮีย ทำไมน้องคิมน่ารักอย่างนี้

ออฟไลน์ Dark_Noah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 841
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
กรี๊ด ชอบแบมจุงเบย เพื่อนผู้มีหัวอกเดียวกัน อย่างนี้น้องคิมจะได้มีคนคอยระบายได้ อยู่บ้านจะได้ไม่อึดอัด  :mew1:

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ป๊าม๊า ไม่คิดจะถามความรู้สึกของลูกเลยเรอะ
ไม่คิดว่าลูกมีความคิดหรือรักใครเอง หรือมีสิทธ์ที่จะรักใครเลยหรือไง
กลัวอืดกับความดุของป๊าม๊าจริงๆ :o12:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด