● เล่ห์รักฤดูร้อน ● ตอนพิเศษวันสงกรานต์ (หน้า 151) 13/04/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ● เล่ห์รักฤดูร้อน ● ตอนพิเศษวันสงกรานต์ (หน้า 151) 13/04/59  (อ่าน 1139703 ครั้ง)

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
โอ้ยยย ใจจะวาย กลัวไปหมด ป๊าเงียบ เดาใจไม่ได้ แต่ก็ถือว่ายังปล่อยเพราะโทรศัพท์ก็ไม่ไม่ริบ


อยากให้คี่คลายเร็ว รู้สึกกดดันแทนนน



เชียร์คู่น้องอุ่น กับหมอไอซ์ค่ะ อร๊ายยยย

ออฟไลน์ ReiiHarem

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 887
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-3
“ตอนเจ้สิดุ นายโดนป๊าดุอีกไหม?”

คิมหันต์หยุดคิดนิดหนึ่งแล้วส่ายหน้า

“ตอนเจ้สิตีล่ะ ป๊าตีต่ออีกหรือเปล่า?”

เด็กชายตัวน้อยหยุดคิดอีกอึดใจ จากนั้นก็ส่ายหน้าเป็นครั้งที่สอง

“แล้วเจ้สิตีเจ็บไหม?”

ตอนนี้เองที่เขาคิดว่าถึงทีตัวเองสวนแล้ว “เจ็บสิ!” เขารีบตอบ ส่งสายตาเป็นเชิงฟ้องไปยังพี่สาวคนโต

วัสสานะโคลงศีรษะอ่อนใจกับท่าทีน้องเล็ก “เอาละ..คิดต่อนะ ระหว่างป๊ากับเจ้สิ ใครตีเจ็บกว่ากัน”

“...อ่า...” คราวนี้คิมหันต์ได้แต่อ้อมแอ้ม เอ่ยคำตอบออกมาได้ไม่เต็มปากเต็มคำ “....ป๊า..”

“นั่นไง แล้วคิดว่าทำไมเจ้สิต้องยอมเจ็บมือเพื่อตีนายด้วยล่ะ ถ้าเขาไม่ชอบหน้า สู้รอให้ป๊าเอาไม้เรียวฟาดหนัก ๆ ไม่ดีว่าหรือ?”

“....”

“ตอบครับตี๋เล็ก” เธอทำเสียงดุ

“...เพราะ.......ไม่อยากให้โดนตีเจ็บ ๆ”

“เพราะเป็นห่วง”

อ่านแล้วน้ำตาไหลอ่า น้องคิมมีพี่สาวที่ดีมากๆเลยทั้งสองคน

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
มันจะผ่านไปด้วยดีใช่ไหม? ไม่อยากเสียนำ้ตาให้กับความดราม่าอีกแล้ว สู้ๆนะพี่ภพ-คิม

ออฟไลน์ Fish129

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 747
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-3
คิม นี้ถือว่ามีพี่ๆๆ ที่ดีจังเลยเนอะ


ปิ่นหยก นี้ไม่คิดจะเครียดไปกับเพื่อนหน่อยเลยหรอ  สมน้ำหน้าอย่างเดียวเลยนะ

ออฟไลน์ PoP~Pu

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-5
ลุ้นนะเนี่ยยย ดีจริงๆที่มีเจ๊ๆคอยช่วย
คิดไปคิดมาสงสารเฮียใหญ่นักเข้าไปอีกเรา
อดทนจะคิมนะ ฟัดหมอนไปก่อนอย่างนั้นแหละ ฮ่าๆ

mooz

  • บุคคลทั่วไป
บรรยากาศ ช่างอึมครึมเจงๆๆๆๆๆ :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Calo love

  • "Look Frist At Me"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 836
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-5
    • "พี่ครับ...ผมขอ(เอา)พี่ได้ไหมครับ
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: เตรียมคืบคลานมาอย่างๆ ช้า ขอไปตามล่าแม่ไก่กะลูกเจี๊ยบก่อนนะครับ  มาแปะรอยนิ้วมิอไว้ อิอิ รอติดตามความเคลื่อนไหว//////////////แง่มๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
แอบมาดันเบาๆ
คิดถึง เฮียเพี้ยน กับน้องครีมมมมมมมมมม

ออฟไลน์ narunarutoboyz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
:z3: :z3:
โอยยยยยยยยยยยยยยยยย มันเหมือนจะโล่งแต่ก้ไม่ แต่คิดว่าป๊าน่าจะเข้าใจอะไรบางอย่างลางๆแต่เเค่ยังไม่อยากยอมรับ
แค่ไม่อยากเชื่อว่าจะเกิดอีกมากกว่า

เอาล่ะนะ อดทนเวลาที่ฝนพรำาาาาาาาาาาาาา  :hao5:

เฝ้าติดตามใกล้ชิดยิ่งกว่าอะไรอีกเนี่ยยยยย เรนนี่มาเอาไปเลยเเรงใจไม่มีหมด ฉลาม....สู้ชีวิต//เกี่ยว?
 :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
 :L2:  ขอให้งานเสร็จไวๆ แล้วมาต่อเร็วๆน้าาา  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ tae1234

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
สนุกมากครับ....

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
หายไปไหนอ่าาาาาาาาา
คิดถึงนะหนิ

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
● เล่ห์รักฤดูร้อน ●

ยกที่ 60 – Back home



อีกครั้งที่คิมหันต์กลับมาหย่อนก้นบนโซฟาสีแดงตัวเดิม ตำแหน่งพิเศษของเขาในร้านเค้กทานตะวัน

หลายปีผ่านไปก็นับว่าเรื่องนั้นยังไม่เปลี่ยน (หากมองข้ามเรื่องมันเก่าและเยินขึ้นนิดหน่อยไปได้) หลังเพิ่งได้รับสิทธิ์จากการกึ่ง ๆ จะเรียกว่ากักตัวของที่บ้านตอนอยู่ราชบุรี นับตั้งแต่คืนวิวาห์ของพี่สาวคนโต กระทั่งจะเปิดภาคเรียนพรุ่งนี้อยู่แล้วจึงได้รับอนุญาตให้กลับกรุงเทพฯ พร้อมแบกเอาถ้อยคำกำชับมหาศาลจากผู้ปกครองมาด้วย หากได้รับเค้าลางไม่ดีอีก สุชัยผู้เป็นพ่ออาจได้ถ่อมาดูให้เห็นสภาพความเป็นอยู่กับตาเป็นแน่

แต่สิ่งที่คิมหันต์ยังไม่ได้พูดกับใคร คือเขาคิดว่าสุชัยรู้..หรืออย่างน้อยก็ต้องระแคะระคายบ้าง เรื่องที่เขายังติดต่อกับสามภพอยู่ เพียงแต่อาจไม่ได้พูดออกมา หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง แต่ป๊าเขาไม่ได้เป็นมนุษย์จำพวกหัวทึบอย่างนั้น ลูกทั้งสามที่มีมุมเจ้าเล่ห์อยู่บ้างมากน้อยลดหลั่นกันไป ส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากฝ่ายบิดากันทั้งสิ้น คงจะมีก็แต่พี่ชายคนโตเพียงผู้เดียวซึ่งดูจะหัวอ่อนและซื่อตรงกว่าพี่น้องที่เหลือ คล้ายไปทางนิสัยของผู้เป็นแม่มากกว่าคนอื่น

“แล้วแกเอาไงนี่?”

เสียงนั้นดึงคิมหันต์หลุดจากภวังค์ ปิ่นหยกในชุดพนักงานเยิน ๆ หลังเลิกงานยืนมุ่นคิ้วอยู่ตรงหน้า โยนผ้าเช็ดมือไว้บนโต๊ะแล้วทรุดตัวลงนั่งข้างเขา สายตาดูลังเลอยู่นิดหน่อย ก่อนจะเอื้อมมือมาตบไหล่แปะ ๆ  “เทอมนี้พักหอหรือคอนโดฯพี่ภพ”

“อา..นึกอยู่”

“ป๊าว่าไงล่ะ”

“ป๊าคิดว่าเลิกติดต่อกันแล้ว”

เขาบอกเพียงแค่นั้น ข้ามเรื่องที่สงสัยว่าผู้ใหญ่อาจรู้เห็นอยู่ตลอดไปก่อน

“เกรียนไม่ออกเลยดิ?”

“..งั้นละมั้ง”

ปิ่นหยกหัวเราะ ผลักศีรษะเขาเบา ๆ  “เสียชื่อตี๋เกรียนโคตรเลย หงอยเป็นลูกหมา”

“หุบปากเลยควายปิ่น”

“เลี้ยงข้าวฉันสิ แล้วจะหุบปาก ฮ่า ๆ”

“เชี่ย!” คิมหันต์ส่งเสียงสบถงุบงิบ ขณะที่ปิ่นหยกตบไหล่เขาอีกที

“เฮ่ย..ไม่เป็นไร” อีกฝ่ายพึมพำ หยุดหัวเราะแล้วยิ้มบางเบา แบบที่หาได้ยากเต็มทีจากคนอย่างปิ่นหยกหากไม่ใช่เรื่องเงินหรือของฟรี ก่อนจะเริ่มร่ายยาวเป็นชุดประสามนุษย์ขี้บ่น “..พี่ภพเขาไม่ปล่อยแกหรอก..จริง ๆ นะ แล้วก็ไม่ยอมไปหาเขา ก่อนนี้หลุดปากบอกคิดถึงเยอะแยะ กลับมาแล้วดันมาแหมะอยู่นี่ซะได้”

“...”

“หูโคตรแดงเลยคิม”

“....”

“หมดท่าเลย ฮ่า ๆ ๆ นี่ดูเป็นคนละคนกับเมื่อตอนมัธยมเลยนะ”

“บ้าเอ๊ย”

“เอาเหอะ เดี๋ยวเขาก็มาแล้วมั้ง”

“หือ?”

ปิ่นหยกยิ้มซื่อ “อาทิตย์โทรบอกพี่ภพแล้วว่าแกสิงอยู่นี่”

“...นี่พวกแก...”

คิมหันต์อ้าปากจะโวยต่อ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจเอนหลังพิงพนัก แหงนหน้าแล้วถอนหายใจสุดปอด

เขากลับมาแล้วแต่ยังไม่ได้บอกสามภพ ทั้งที่อยากเจอมาตลอด ทว่ามักทำตัวประหลาดอย่างนี้อยู่เรื่อย ใจหนึ่งบอกว่าอยากกอดออยากฟัด อีกใจเถียงว่าขอเวลาตั้งตัวสักหน่อย แต่ไอ้เพื่อนยากและมนุษย์มึนผู้เป็นคนรักก็ช่างรู้มากเสียจริง

“เป็นห่วงแกไง เลยต้องตามพี่เขามาช่วยดูแล”

ปิ่นหยกยักไหล่ มีอาทิตย์โผล่จากไหนไม่รู้มาเกาะอยู่ด้านหลัง

“ไปหวานกันไกล ๆ เลยพวกแก”

อาทิตย์ส่งยิ้มมึน ๆ ใส่ “คิมอิจฉาจริงด้วยสินะครับ?”

เขาทอดมองเพื่อนสองคนตรงหน้าอย่างละเหี่ยใจ อะไรจะเริงร่ากันได้น่าหมั่นไส้ตลอดเวลาอย่างนี้ อดคิดไม่ได้ว่าความรักแบบที่คนทางบ้านยอมรับนั้นโชคดีเป็นบ้า แล้วเรื่องของเขากับสามภพมันต่างกันตรงไหนหรือ

คิมหันต์จ้องมองอาทิตย์ ฝ่ายนั้นคนที่บ้านยินยอมพร้อมใจ มีพี่สาวคนสวยคอยช่วยไปแกล้งไป คุณพ่อสุดที่รักเป็นเศรษฐีซึ่งบุคลิกออกจะประหลาดไม่ต่างกับลูกชายแต่ก็ยังสนับสนุน หากเทียบกับทางบ้านสามภพอาจนับได้ว่าสถานการณ์ใกล้เคียง

เขาเลื่อนสายตามาหยุดอยู่กับปิ่นหยกเพื่อนรัก มนุษย์ขี้งกผู้เจอเรื่องที่ทำให้ต้องเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่ากว่าชีวิตจะเริ่มลงตัวอย่างทุกวันนี้ ก่อนจะคิดได้ว่าบางทีหมอนั่นอาจไม่ใช่คนที่ควรไปหมั่นไส้เลย เขาเองโชคดีเท่าไรแล้วที่ยังมีป๊า ม้า แล้วยังบรรดาพี่สาวที่คอยให้ความช่วยเหลือ ทางบ้านปิ่นหยกไม่มีปัญหา เพราะไม่เหลือคนในครอบครัวอีกแล้วนอกจากน้องสาวเพียงคนเดียวต่างหาก

แสงไฟสีส้มสาดเข้ามาผ่านหน้าต่างกระจกของร้านในยามวิกาล ทั้งสามคนเหลียวไปมองที่มาของแสงแทบจะโดยพร้อมเพรียง

โดยไม่จำเป็นต้องมีคำพูดจามากไปกว่านั้น พวกเขารู้ดีว่าผู้มาใหม่คือใคร

“ตอนแกไม่อยู่ พี่ภพมาที่นี่บ่อยมาก” ปิ่นหยกเหลือบมาทางเขา ก่อนจะหันไปขมวดคิ้วสู้แสงไฟ จ้องมองรถซึ่งจอดอยู่ด้านนอก “ผู้ชายตัวโต ๆ หน้าโหดนั่งในร้านเค้ก คิดว่าตลกดีไหม”

คิมหันต์พยักหน้า “โคตรตลก”

“ตลกพอกับแกตอนนี้เลย”

เขาย่นจมูกแล้วลุกขึ้นจากโซฟา โบกมือลาเพื่อนทั้งสองแล้วเดินออกไปหน้าร้าน ได้ยินเสียงปิ่นหยกร้องตามไล่หลัง

“สู้ ๆ เว้ย”




ปิดภาคเรียนที่ผ่านกินระยะเวลาไม่นานเท่าไร คิมหันต์นึกสงสัยว่าช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงแค่นั้นจะส่งผลอย่างไรกับตัวเขาเองบ้างเมื่อได้เห็นหน้าสามภพอีกครั้ง อย่างมากอาจแค่ใจเต้นแรงนิดหน่อย จากนั้นก็สนุกสนานดีใจเหมือนกับที่เพิ่งไปเจอไอ้ดุ๊กดิ๊กลูกรักที่บ้านมาเมื่อบ่าย แล้วค่อยจับฟัดสักทีแบบเต็มไม้เต็มมือ ไม่น่ามีอะไรให้เป็นกังวล


แต่สิ่งที่คาดไว้ต่างจากความเป็นจริงเอาการทีเดียว


เท้าเขาพาตัวเองขยับเข้าไปใกล้ สามภพรออยู่ตรงนั้น ยืนพิงอยู่ข้างรถเหมือนรู้ว่าอย่างไรเขาก็ต้องออกมาแน่ คิมหันต์ยังเป็นปกติดีทุกอย่างจนกระทั่งไปหยุดอยู่ตรงระยะห่างประมาณสามเมตร ตำแหน่งที่ราวกับหัวใจจะเพิ่งรู้ตัวว่าอยากเต้นให้หนักหน่วงกว่าเก่า ทั้งเร็วและดังจนได้ยินมันแว่วซ้ำไปซ้ำอยู่ในหู ความคิดอะไรที่วนเวียนอยู่ก่อนหน้านั้นหายเกลี้ยงจนว่างเปล่าขาวโพลน ทั้งที่ตั้งใจจะค่อย ๆ เดินไปหาแบบมีมาด หรืออย่างน้อยอีกฝ่ายอาจตรงเข้ามาหาเขาด้วยแล้วพบกันตรงครึ่งทาง

ทว่าชั่ววินาทีนั้น...ไม่ว่าด้วยเหตุอันใด กลับกลายเป็นเขาเองที่กระโจนใส่คนตรงหน้าเสียเต็มน้ำหนัก ตั้งแต่สามภพยังขยับขาออกมาไม่ทันเป็นก้าวเลยด้วยซ้ำ ทำเอาพากันเซไปพิงรถซึ่งสตาร์ทเครื่องจอดรอไว้ ครั้นจะอ้าปากทักทาย ก็พบว่าสุ้มเสียงหายไปอย่างลึกลับ สุดท้ายจึงได้แต่กอดไว้แน่นจนแขนสั่นโดยไม่รู้ตัว
 
“..ไอ้ลูกหมา..” อีกฝ่ายกระซิบเสียงนุ่ม แต่ยังติดสำเนียงชวนหัวน่าขัดใจ “...ถ้าคิดถึงขนาดนี้แล้วจะทำเล่นตัวเพื่อ?

“....”

“ต้องรอให้เพื่อนช่วยโทรตามเรอะ”

เขาชะงัก งุบงิบแก้ตัวไปเรื่อย “พี่ก็น่าจะรู้นี่ว่าผมกลับวันนี้”

“แล้วไง?”

“พิสูจน์รักแท้ไง”

“ปากดี”

“ปากดีก็ด่า ปากหมาก็บ่น จะเอาไงวะ”

สามภพหัวเราะ จงใจเอาคางกระแทกกลางศีรษะเขา ซึ่งไม่รู้ว่าทำอย่างนั้นแล้วใครเจ็บกว่ากัน “ครับ ๆ แบบไหนก็รัก”

คิมหันต์อ้ำอึ้งไปครู่หนึ่ง เริ่มไม่อยากเงยหน้ามองอีกฝ่ายเอาจริง ๆ เข้าแล้ว ไม่ได้รับมือกับตัวจริงนาน ๆ เจอไปแค่นี้ก็เล่นเอาใจเต้นแรงผิดปกติ และท่าทางว่าสามภพคงชอบใจจึงได้ตามกระเซ้าต่อ

“เถียงไม่ออกเลย?”

“..ดี..” เขาย่นจมูก พ่นลมออกมาอย่างขัดใจ รัดแขนแน่นรอบตัวคนตรงหน้าทีหนึ่งก่อนจะปล่อยมือแล้วรีบวิ่งอ้อมไปยังประตูที่นั่งฝั่งโดยสาร โพล่งขึ้นกับสามภพที่ยืนส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มอ่อนใจ “รักผมเยอะ ๆ  ไม่งั้นผมเล่นเฮียหนักแน่”

คนฟังเลิกคิ้ว รอยยิ้มกว้างวาดขึ้นบนริมฝีปากด้วยความเอ็นดู

“พูดเหมือนที่ผ่านมาทำตัวว่าง่ายตายละ”

คิมหันต์ยักไหล่กวนประสาท จากตอนแรกที่ชั่งใจว่าช่วงที่ยังเปิดเทอมจะอยู่หอหรืออยู่คอนโดฯของสามภพต่อ แต่พอเห็นหน้าตาเนื้อตัวอีกฝ่ายเท่านั้น ความลังเลก็ราวกับจะหายไปหมดเกลี้ยง

“เฮียเพี้ยนก้มหน่อย”

อีกฝ่ายที่ตามขึ้นมานั่งด้านข้างหรี่ตาใส่เขา ส่งเสียงถามในลำคอ “หืม?”

“น่า ๆ” เขาจิ๊ปาก “ป่านนี้จะระแวงอะไรอีก ผมไม่ปล้ำเฮียหรอก”

สามภพพ่นลมออกจมูก แต่กระนั้นก็ก้มลงไปหาแต่โดยดี ยื่นหูเข้าไปใกล้ เข้าใจเอาเองว่าคิมหันต์จะกระซิบอะไร

ทว่าเมื่อเอนตัวไปได้หน่อยเดียว อีกฝ่ายก็คว้าแก้มสองข้างเขาหมับ บังคับ(แต่แน่นอนว่าเขาเต็มใจ)ให้หันหน้าเข้าหาตัว จากนั้นก็จรดริมฝีปากบาง ๆ ลงแนบสนิทกับของเขา พร้อมกับที่ใบหูผู้กระทำเปลี่ยนเป็นสีแดงแจ๋ ก่อนจะรีบกลับไปนั่งสนใจทิวทัศน์นอกหน้าต่าง งึมงำทำนองเพลงที่ฟังไม่รู้เรื่อง

ไออุ่นและความชื้นจากที่สัมผัสเมื่อครู่ยังติดอยู่บางเบา ชายหนุ่มยกมือขึ้นแตะปากตัวเอง พึมพำกับไอ้ตัวแสบที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

“...ไม่ปล้ำพี่ แต่ระวังจะถูกปล้ำเอง”

ว่าแล้วก็หัวเราะอย่างที่น้อยคนนักจะได้เห็น ฮัมเพลงเกาหลีที่เขาฟังจนท่องเนื้อได้โดยไม่รู้ความหมายใส่อีกฝ่าย ซึ่งเอาแต่เสมองไปทางอื่นอีกหลายนาทีกว่าจะกลับมาเจื้อยแจ้วอีกครั้ง



พวกเขาแวะเอาของใช้จำเป็นที่บ้านคิมหันต์ก่อน ฟัดหมารักพร้อมส่งส่วยเป็นขนมปังกรอบในกระเป๋าพอเป็นพิธี มีสิสิรพยักหน้าหน่าย ๆ เมื่อพ่อน้องชายที่รักมาถึงก็บอกเดี๋ยวจะไปสิงคอนโดฯของสามภพระหว่างที่ยังเปิดภาคเรียน เธอบ่นพึมพำอยู่สองสามประโยคเรื่องไหนก่อนหน้านี้ทำเป็นเครียดว่าจะย้ายออกไปอยู่หอดีหรือเปล่า ตอนนี้กลับกระดิกหางตามอีกฝ่ายไปง่าย ๆ เสียอย่างนั้น

จำเลยเพียงแต่ยิ้มแหยพร้อมเถียงอุบอิบแบบขอไปที

“...เอาน่า..ได้ไม่ต้องกวนค่าหอเจ้ไง”

“ให้ดีล่ะ” หญิงสาวโคลงศีรษะ ส่งมะเหงกให้เข้าหนึ่งทีแสดงความรัก “มีอะไรก็โทรมา อย่าไปกวนเจ้ใหญ่มาก”

“คร้าบ”


ตลอดทางหลังจากนั้น พวกเขาคุยกันเรื่อยเปื่อยด้วยเรื่องสัพเพเหระ ซึ่งแน่นอนว่าส่วนใหญ่แล้วคิมหันต์เป็นคนพูด ส่วนสามภพเป็นฝ่ายฟังและคอยขัดเป็นระยะเวลานึกสนุกขึ้นมา

แม้ขยับปากน้อยออกอย่างนั้นหากเทียบกับอีกฝ่าย ก็ยังรู้สึกตัวว่าพูดเยอะกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด จะว่าไปตอนที่คิมหันต์ไม่อยู่ เขาแทบไม่ได้คุยกับใครเลยหากไม่จำเป็น ซึ่งคำว่าจำเป็นของเขา สำหรับคนที่ไม่ได้สนิทสนมกันแล้วก็ค่อนข้างมาตรฐานสูงเสียด้วย

เขาเหลือบมองผู้โดยสารขาประจำเป็นระยะ ครุ่นคิดถึงเรื่องระหว่างพวกเขาไปด้วย ความสัมพันธ์ที่ไม่ได้รับการยอมรับและต้องหลบซ่อนจากตาผู้ใหญ่ อาจไม่นับว่าเป็นเรื่องเลวร้ายนัก อย่างน้อยการที่คิมหันต์มีความรู้สึกดีกับเขาเช่นกัน ก็ช่วยให้ทนอยู่แบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ต่อไปไหว ทว่าคงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าไม่อึดอัด ไหนจะความคิดเรื่องวันดีคืนดีป๊าอีกฝ่ายอาจหาสาวที่ไหนมายัดเยียดอีกหรือเปล่า ใช่ว่าทุกคนจะโชคดีอย่างสาวบงกชคนก่อน

ชายหนุ่มลอบถอนใจเงียบ ๆ  คิดแล้วให้น่าหน่ายใจไม่น้อย ทั้งที่บ้านเขาออกจะยอมรับดี กลับมาเจอด่านผู้ใหญ่ของอีกฝ่ายเสียได้ แม้แต่สรัญ เพื่อนเกย์ร่างล่ำที่หาหนุ่มควงแทบไม่ซ้ำหน้า ระยะหลังมานี้กลับดูชีวิตรักสดใสกว่าเขาเป็นไหน ๆ กับไอ้แว่นอีกคนที่ชื่อ...ชื่ออะไรก็ลืมไปแล้วนั่น

พวกเขาแวะหามื้อเย็นกินข้างนอก กว่าจะกลับถึงที่พำนักก็มืดค่ำ ขณะที่เขาช่วยหิ้วกระเป๋าเอามาโยนไว้ในห้อง กลับเผลอถอนใจออกมาอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว

“เป็น'ไรเฮีย”

เป็นอีกฝ่ายที่สังเกตเห็นสีหน้าแบบนั้น แล้วยังจับอารมณ์ขุ่นมัวบางเบาได้ก่อนเขาเองเสียอีก

“ไม่นี่”

“ทำหน้าเบื่อโลก”

“ยังไง”

“อย่างที่กำลังทำนั่นแหละ” คิมหันต์ทำหน้ามุ่ย “ผมกลับมาแล้ว ไม่ดีใจหรือ”

เขาจ้องหน้าคนพูด ปากคอช่างออดอ้อนไปได้เรื่อยตั้งแต่ตัวกระเปี๊ยกจะจนเรียนจบกันอยู่แล้ว มือคว้าไหล่อีกฝ่ายไว้แล้วดึงเข้ามาใกล้ โอบเอาไว้หลวม ๆ กดจมูกลงแผ่วเบาตรงข้างกกหู

“จะดีใจดีไหมนะ”

“เฮียแม่ง..” คิมหันต์บ่นหงุงหงิง หดคอหนีทำท่าเหมือนจักจี้ “เสียแรงอุตส่าห์คิดถึง”

“อีกทีซิ”

“คิดถึง”

สามภพนึกกระหยิ่มอยู่ในใจ อารมณ์ขุ่นมัวถูกเป่าหายเกลี้ยงตั้งแต่ได้ยินคำว่าคิดถึงรอบแรกแล้ว ขณะที่อีกฝ่ายเริ่มทำหน้ามุ่ย

“ไม่ค่อยได้ยินเลย?”

คิมหันต์กระฟัดกระเฟียด ดูก้ำกึ่งระหว่างอยากผลักเขาออกด้วยความหมั่นไส้กับอยากกอดให้แน่น แต่ดูเหมือนอย่างหลังจะชนะในที่สุด

“...ผมคิดถึงพี่”

“...”

“คิดถึงผมไหม”

“ไอ้ตัวแสบ..” สามภพส่งเสียงหัวเราะในลำคอ พรมจูบไปทั่วใบหน้าอีกฝ่ายอย่างรักใคร่ ดันให้คนในอ้อมกอดถอยหลังไปชิดกำแพง นึกตลกที่จนจนป่านนี้ยังจะถามอยู่ได้ว่าคิดถึงไหม รักไหม ไอ้นั่นไอ้นี่ไหม จะอ้อนไปถึงไหนกันนะให้ตาย “เดาได้ไหมว่าคิดถึงหรือเปล่า”

คิมหันต์ส่งเสียงครางแปลกหูตอนเขางับลงเบา ๆ ตรงซอกคออีกฝ่ายอย่างจงใจแกล้ง

"..ฮื่อ..เฮียเพี้ยน.."

ไม่ถึงอึดใจเสื้อเชิ้ตคนตรงหน้าก็ถูกเขาปลดกระดุมแล้วดึงออกไปค้างอยู่แถวข้อศอก ก่อนจะร่วงลงไปกองขยุกขยุยบนพื้น ตามด้วยเข็มขัดอีกเส้นที่ทิ้งตัวลงไปหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที นับเป็นการจับลอกคราบที่รวดเร็วและราบรื่นจนน่าตกใจ ต่อให้อีกฝ่ายติดจะเคลิ้มอยู่นิดหน่อยเมื่อเขาหันไปแลกริมฝีปาก ส่งปลายลิ้นรุกรานจนไอ้ตัวพูดมากเกรียนไม่ออกไปชั่วขณะ ขยำอกเสื้อเขาไว้แน่นพร้อมกับพยายามแกะกระดุมไปด้วยอย่างเงอะงะ ดูไม่ได้จนต้องช่วยกระชากมันออกให้เอง

กลีบปากที่ปกติดูบางเฉียบของคิมหันต์แดงเจ่อขึ้นน้อย ๆ  ระบายลมหายใจเฮือกเข้าออกได้ไม่เท่าไรก็ถูกเขาดึงเข้าหาเพื่อชิมรสอีกครั้งอย่างหิวกระหาย สามภพไม่เคยรู้สึกพอเลยสักอย่างกับเจ้าเด็ก...หรือตอนนี้อาจต้องเรียกว่าเจ้าหนุ่มตี๋ตรงหน้า ตัดพ้ออยู่ในใจว่าช่วงเวลาเป็นเดือนที่ไม่ได้พบกัน คิมหันต์คิดว่าเขาต้องอดกลั้นมากเท่าไรจึงกล้าถามออกมาได้ว่าคิดถึงหรือเปล่า

ทุกอย่างเป็นไปโดยธรรมชาติ เหมือนกับเวลาพวกเขากวนประสาทใส่กันด้วยคำพูด.. แขน ขา ปลายนิ้ว และทุกสัมผัสคุ้นเคย ทว่าทวีความโหยหาจากระยะเวลาที่ขาดหายไป

ไฟในห้องโถงสว่างโร่ เสื้อผ้ากองกระจัดกระจายบนพื้น เสียงหอบและเสียงผิวเนื้อที่กระแทกเสียดสีกันล่องลอยอยู่ในอากาศ ร่างเปลือยเปล่าของพวกเขาแนบชิดจนแทบหลอมรวมกัน แต่สามภพก็ยังนึกอยากเบียดแทรกร่างกายตัวเองให้ลึกล้ำยิ่งไปกว่านั้นอีก บางทีคิมหันต์อาจชัดเจนกับตัวเองจนเลิกถามสักที ว่าเขาทั้งรักทั้งคิดถึงไอ้ตัวปากมากที่หายไปตั้งนานขนาดไหน

พื้นห้องเปรอะเปื้อน กลิ่นคาวเจือจางลอยปนกลิ่นเนื้อตัวหอมกรุ่น คิมหันต์ทรุดร่างลงบ่นเข่า หายใจถี่กระชั้น ขณะที่เขาขยับกายเร่งเร้า กัดริมฝีปากตัวเองแน่นทั้งยั้งตัวเองไม่ได้กระแทกกระทั้นรุนแรงไปกว่านี้ มันเป็นความรู้สึกประหลาด ที่ทั้งอยากถนอมพร้อมกับอยากกอดรัดแน่น ๆ ให้แหลกไปด้วยจนเขาอดสับสนตัวเองไม่ได้

สามภพขมวดคิ้ว ดันตัวเองเข้าไปอีกครั้งจนสุด ระบายลมหายใจยาวเหยียดสุดปอด

ชายหนุ่มเหลือบมองร่องรอยที่เขาทำไว้ตามเนื้อตัวอีกฝ่าย ลากปลายนิ้วผ่านไปทีละจุดด้วยแววตาหลงใหล นึกอยากให้มันเป็นสีแดงสดอยู่อย่างนั้นไปเนิ่นนานบนผิวขาว ๆ ของคิมหันต์

“....เฮียเพี้ยน..”

“หือ?”

“...อะ...เอานั่น...ออกไป...ได้ยัง..”

เขาจ้องมองใบหน้าแดงซ่านของคิมหันต์ ไรผมชื้นเหงื่อแปะอยู่บนหน้าผาก นัยน์ตาที่มักส่อแววสงสัยใคร่รู้หลุบลงต่ำ ลมหายใจร้อนผ่าวถูกระบายผ่านริมฝีปากสีสด และเขาต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ที่คิดว่าภาพแบบนั้นช่างน่ารักแทบขาดใจ จนอะไรที่เหมือนจะเสร็จแล้วกลับมาตื่นตัวอีกครั้ง

คิมหันต์เบิกตากว้าง ปากสั่นระริก พวงแก้มยิ่งแดงหนักกว่าเก่าอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเบื้องล่าง

“...พี่...ภพ...”

น้ำเสียงตะกุกตะกักลอยมาเข้าหูเขา คนพูดตั้งท่าจะร้องปราม แต่แล้วกลับเปลี่ยนเป็นครางครือในลำคอที่เชิดขึ้นเมื่อเขาขยับกายอีกครั้ง


ค่ำคืนดำเนินไปเช่นนั้นจนดึกดื่น จากบนพื้น มาจบอยู่ที่เตียง..


เขามั่นใจว่าคิมหันต์เป็นประเภทพูดมาก แต่เวลาเช่นนี้กลับไม่ค่อยเจื้อยแจ้วเป็นภาษาเท่าไรนัก เว้นแต่หลังจากนั้นซึ่งมักจะอ้อนกว่าปกติหากเจ้าตัวไม่หลับไปเสียก่อนนั่นแหละ และครั้งนี้ก็ดูเหมือนจะเข้าอีหรอบเดิม

“...กอดผมหน่อย”

เขาก้มลงมองดวงหน้าแดงระเรื่อของคนพูด เอ็นดูแกมหมั่นไส้อีกฝ่ายที่ช่างฉอเลาะไปเรื่อย ในเมื่อตอนนี้ไม่ใช่เขากำลังกอดเจ้าตัวไว้แน่นอยู่แล้วหรืออย่างไร

“กอดอยู่นี่ไง” สามภพช่วยเตือน ลูบหลังคนในอ้อมแขนเบา ๆ ไปด้วยประกอบคำอธิบาย

คิมหันต์ก้มหน้าก้มตา ซุกจมูกเข้าหาอกเขา ใบหูแดงเข้มอย่างไรก็แดงอยู่อย่างนั้นตลอด บ่นงุบงิบจนแทบไม่ได้ยินเสียง “กอดแน่น ๆ ดิ..” ว่าพลางรัดแขนตัวเองเต็มแรงประหนึ่งอยากทำให้ดูเป็นตัวอย่าง

เขาโคลงศีรษะ ถือโอกาสกดจมูกตรงกลางกระหม่อมเจ้าเด็กเรื่องเยอะ ดึงเข้ามาใกล้แล้วรัดวงแขนตัวเองแน่นจนแผ่นอกเปลือยเปล่าของพวกเขาแนบชิดกัน รู้สึกได้กระทั่งเสียงหัวใจคิมหันต์ที่เต้นเร็วราวกับหัวใจกระต่าย

“ขาดความอบอุ่นหรือเรา? เอาให้กระดูกลั่นเลยดีไหม”

“ดี”

ยังมีหน้ามาเห็นดีเห็นงามอีกนั่น!

“บอกหน่อยเร็วว่าเฮียคิดถึงผม” คิมหันต์งึมงำทั้งน้ำเสียงสะลึมละลือ “...ยังไม่ได้ฟังเลย..”

“...”

“....งือ..?”

ชายหนุ่มลอบยิ้ม เจ้าเด็กนี่ชอบให้คนคอยเอาใจเสียจริง

"โอเค..ฟังนะ"

"...เหะ ๆ"

เขาสูดลมหายใจ กระซิบเสียงอ่อนโยนข้างหูอีกฝ่าย

“คิดถึงครับ”

“....”

แต่ดูเหมือนจะไม่ทันแล้ว

“คิม?”

คิมหันต์หลับปุ๋ยไปเรียบร้อย

สามภพอดไม่ได้จะหลุดหัวเราะออกมาแผ่วเบา ทั้งที่ปกติเอาแต่ทำนิ่งต่อหน้าคนอื่น ครุ่นคิดไปเรื่อยเปื่อยว่าจะดีแค่ไหน หากคนในครอบครัวอีกฝ่ายจะยอมรับความสัมพันธ์เช่นนี้ได้ในสักวัน


...อาจจะสักวัน?





กิจวัตรประจำวันของสุชัยยังเป็นดังเช่นที่ผ่านมา นับตั้งแต่ลูกชายคนเล็กปิดภาคเรียนอยู่บ้านตามคำสั่งเขา จนกระทั่งกลับไปเรียนต่อ แต่ละเดือนผ่านไปอย่างสงบ...ราบเรียบ... แต่เป็นเหมือนผิวน้ำนิ่งที่มีคลื่นอยู่ข้างใต้

ตอนอยู่ด้วยกันเขาบ่นบ้างบางครั้ง แต่คิมหันต์ไม่ค่อยเถียงนัก เห็นว่าโตกันแล้วจึงบอกตัวเองว่าไม่จำเป็นต้องพูดปากเปียกปากแฉะมากเหมือนตอนยังเด็ก ทว่านั่นก็ไม่ได้นับว่าเป็นการใช้ชีวิตร่วมกันโดยราบรื่นเท่าไร ระหว่างพวกเขาราวกับมีเส้นบาง ๆ ที่มองไม่เห็นกั้นอยู่ คุยกันได้ไม่สนิทใจเหมือนในอดีต อึดอัดและคล้ายยังติดอยู่ตรงทางตัน ต่างคนต่างรู้ว่ามีเรื่องค้างคาอยู่ในใจอีกฝ่าย แต่กลับไม่สามารถพูดอออกมาได้ชัดเจน

เดือนเพ็ญชงชาจีนมาวางไว้บนโต๊ะเช่นเคย ทรุดร่างลงนั่งบนเก้าอี้ข้างสามีในความเงียบงัน ลอบมองเขาที่ทอดสายตามองไปยังนอกหน้าต่างบ้าน อยู่กับทิวทัศน์เดิม ๆ และความทรงจำในวันเก่าซึ่งแม้เลือนรางแต่ไม่เคยหายไปไหน

“...ป๊า...”

เธอกระซิบ เผลอกลั้นหายใจรอฟังว่าเขาจะตอบอะไรหรือไม่

..แต่แล้วก็เปล่า

“..ลูก ๆ ไม่อยู่แล้วบ้านเงียบจริงนะ”

สุชัยเพียงพยักหน้าน้อย ๆ  ขณะที่เดือนเพ็ญได้แต่นึกสงสัย ว่าพวกเขาจะจมอยู่กับบรรยากาศอันชวนให้หายใจไม่ทั่วท้องเช่นนี้ไปอีกนานเท่าไร ความอึมครึมเรื้อรังเช่นนี้ทำให้เธออึดอัดจนต้องสูดลมหายใจเข้าลึก นั่งหลังเกร็งบนเก้าอี้อีกครู่หนึ่ง ก่อนจะเหลือบมองคนข้างกายอีกครั้ง พึมพำแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน

“...ตี๋เล็กก็เป็นเด็กดีมาตลอด...ป๊าว่าไหม..บางที...ถ้าเกิดว่า...”

“พอเถอะ”

“..ม้าแค่หมายถึง..”

“เรื่องไอ้เด็กชื่อภพนั่นอีกแล้วใช่ไหม”

เธอชะงัก ท่าทางราวกับนึกคำพูดไม่ออก หลังจากนั้นก็นิ่งไป

สุชัยระบายลมหายใจอ่อนแรง ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าคิมหันต์ยังติดต่อกับเจ้าเด็กสามภพที่เขาจงเกลียดจงชังนักหนา ดีแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ยึดเครื่องมือสื่อสารทั้งหมดแล้วจับขังไว้อย่างที่เคยทำกับลูกชายคนโต

ส่วนหนึ่งในใจเขาหวาดกลัวเรื่องนั้นอยู่เสมอมา หวั่นเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้น จึงได้ย้ำครั้งแล้วครั้งเล่ากับลูก ๆ ว่าเขาเกลียดเรื่องแบบนี้ขนาดไหน แล้วโยนความผิดทั้งหมดไปให้ผู้ชายอีกคนที่เคยมาข้องเกี่ยวกับลูกชายคนโตของตัวเอง

ทว่าความจริงยังคอยหลอกหลอนอยู่เสมอแม้กระทั่งในความฝัน ว่าเรื่องพวกนั้นส่วนหนึ่งเกิดจากตัวเขาเอง ภาพวสันต์ร่วงหล่นลงไปจากชั้นดาดฟ้ายังฝังแน่นในความทรงจำไม่ว่าในยามตื่นหรือหลับ เขาไม่เคยลืมว่าเกิดอะไรขึ้นวันนั้น และคอยเฝ้าภาวนาอยู่เสมอไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกครั้ง

ราวกับเป็นตลกร้าย ตี๋เล็กที่เป็นความหวังของเขาซึ่งแก่ตัวลงทุกวันกลับเดินตามรอยพี่ชายไม่มีผิด สุชัยเฝ้าถามตัวเองว่าเป็นเพราะการเลี้ยงดูหรืออย่างไร ลูกชายแต่ละคนจึงได้ทำลายความหวังของเขาด้วยเรื่องแบบนี้อยู่ร่ำไป

“...ทำไมกันนะ”

เสียงเขาสั่นและแหบพร่า ก้มลงซบหน้าลงบนฝ่ามือแล้วนิ่งอยู่เช่นนั้น

เดือนเพ็ญได้แต่มองอย่างเป็นกังวล เอื้อมมือไปลูบหลังเขาแผ่วเบา

“ป๊ารู้ไหม..เจ้าสาบอกม้าว่าคุยกับโรจน์เรื่องจะมีลูก..”

อีกฝ่ายพยักหน้าเงียบ ๆ  ซึ่งเธอถือเอาว่าเป็นเชิงบอกให้พูดต่อ

“ถ้ามีลูกชายคนแรก จะให้ใช้นามสกุลเรา...ป๊าว่าดีไหม?”

สุชัยหันมามองเธอ สีหน้าและแววตาดูประหลาดใจซ่อนไม่มิด ปากขยับแต่ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาคล้ายยังนึกไม่ออกว่าจะพูดอะไรดี เห็นชัดว่าแม้รู้เรื่องคิมหันต์ยังลอบติดต่อกับสามภพอยู่ แต่เขาเพิ่งรู้เรื่องนี้เป็นครั้งแรกแน่นอน

ทิ้งช่วงไปครู่ใหญ่ กว่าเขาจะเลือกคำตอบที่ไม่แสดงอารมณ์ออกไปมากนัก

“ตามใจสิ”

“ครอบครัวทางโรจน์เขาน่ารัก ดูแลลูกสาวเราดี แถมยังจะให้ลูกชายคนแรกใช้นามสกุลบ้านเราอีก เขาใจกว้างดีนะ อีกไม่นานคงได้อุ้มหลาน”

“...”

“...เราตามใจตี๋เล็กกันสักเรื่อง...” เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง จุกขึ้นมาที่คอจนเหมือนจะพูดไม่ออก “...เถอะนะ...”

สุชัยแสดงอาการกระอักกระอ่วน จ้องตากับเธออยู่ครู่หนึ่งก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วตั้งท่าจะเดินหนีไปเสียดื้อ ๆ หากไม่ติดว่าเธอคว้าชายเสื้อเขาเอาไว้ก่อน ละล่ำละลักด้วยเสียงสั่นไหว

“ม้าไม่อยากเสียลูกอีกแล้ว...”

เขาหลับตา ยกมือกุมหน้าผาก ฟังน้ำเสียงอมทุกข์ของภรรยาถามอีกครั้งว่า “...ได้ไหม?” ตระหนักได้ว่าคราวนี้เดือนเพ็ญพูดเยอะผิดปกติ ต่างจากทุกทีซึ่งมักเออออตามเขาไปเรื่อย

ในใจเขากำลังถามคำถามเดียวกันกับตัวเอง ว่า ‘ได้ไหม?’

เขาจะทำใจยอมรับแล้วทนเห็นไอ้เด็กสามภพนั่นมาวุ่นวายกับลูกชายตัวเองต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร ต่อให้มีหลานชายจากวัสสานะจริง แล้วเขาพอใจแค่นั้นไหม หรือว่าต้องการอะไรอย่างอื่นอีก

“...ป๊า...?” เดือนเพ็ญเอ่ยเสียงอ่อน ทว่ากลับเจือสำเนียงดื้อดึงอย่างที่น้อยครั้งจะได้ยิน

เขากำลังจะอ้าปากพูด แต่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะพอดี

เธอสะดุ้งน้อย ๆ  ยกมือขึ้นขยี้ตาแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ยกโทรศัพท์ขึ้นดูเห็นว่าเป็นจากสิสิรก็กดรับแล้วยกขึ้นแนบหู มือคลายลงจากที่กำชายเสื้ออีกฝ่ายไว้โดยไม่รู้ตัว


สุชัยเดินออกจากห้องไปเงียบ ๆ ในตอนนั้น



- หมดยกที่ 60 –











กลับมาต่อแล้วค่ะ แฮ่กกก
เหลือบดูวันที่ยกก่อนแล้วสะพรึงเอง มันนานขนาดนั้นเชียว เว้นช่วงนานสุดของเรื่องนี้เลยมั้งเนี่ย โฮรว *คลานเข่า*
ช่วงนี้ติดปัญหาชีวิตนิดหน่อยค่ะ เรื่องงานเรื่องเรียนต่อไหลมาเทมา ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ หวังว่ายังไม่ลืมเฮียเพี้ยนกับตี๋เกรียนนะคะ

ปล.ไปส่องโหวตเซ็งเป็ดมาแล้ว แม้จะไม่ติดรางวัลอะไร แต่ขอบคุณทุกคะแนนที่ช่วยโหวตให้มาก ๆ ค่ะ รักจังน้อ ขอกอดที //โดนเตะปลิว 555
>3<  :mew1: :กอด1: :pig4:

ของแถมรีพลายถัดไป แต่ถ้ายังไม่โผล่ไม่ต้องแปลกใจ คาดการณ์ได้ว่าเน็ตเน่า เน็ตเราห่วยมากจริง ๆ ค่ะ Orz อัพอะไรแทบไม่ขึ้นเลย

พบกันยกหน้าค่ะ ใกล้จบละ ๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-11-2013 10:35:10 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
ของแถมค่ะ ^^

กอดกัน ๆ  =/////=






"มันเขี้ยวจริง ๆ มาให้ขย้ำซะดี ๆ แฮร่" คิมหันต์กล่าว
//จะขย้ำเขาหรือโดนเขาขย้ำนะลูก (ฮา)



[สเต็ปการขโมยขนมของตี๋เกรียน] - ดึงเสื้อ จก แล้วก็งั่ม~



อันนี้เมื่อป๊อกกี้เดย์ 11/11 ค่ะ

เวอร์ชั่นเฮียเพี้ยน*ตี๋เกรียน




เวอร์ชั่นลูกเจี๊ยบ*แม่ไก่

ลูกเจี๊ยบจับตัวประกันไปล่อแม่ไก่เข้าเล้า  55

ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยือน พบกันยกหน้าค่ะ ^^

ออฟไลน์ ninghyuk

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
สงสารม๊าาาา ป๊าเข้าใจเถอะนะ ทุกคนต้องทุกข์ใจไปหมด ไม่มีใครมีความสุขเลย

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
คิดถึงกันจนแทบขาดใจไปเลยอะดิ พี่ภพน้องครีมมมมมมมมมม. หวังว่าป๊าจะเข้าใจในสักวัน...

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
รักตี๋เกรียนกะเฮียเพี้ยนที่สุดเลย เป็นคู่ทีน่ารักน่าฟัดมากๆ
อยู่ด้วยกันแล้วลงตัวสุดๆ ได้แต่หวังให้ป๊ายอมตามใจตี๋เล็กสักเรือง ได้ไหม?

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1510
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
เสียเลือดพอประมาณ อึมครึมเป็นกระสัย
"เถอะนะ" :impress: คุณพ่อ ช่วยม๊าอ้อนวอนอีกคน
ป๊อกกี้เดย์คู่แม่ไก่ลูกเจี๊ยบนั่นมันอะไรกัน 55  :mew5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-11-2013 00:58:15 โดย 2pmui »

ออฟไลน์ Chifuu

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ไอ้ตี๋มันขี้อ้อนอ้ากกกน่ารักเว่อออ
ป๊าใจอ่อนเร็วๆนะ :hao5:

PoofuGirl

  • บุคคลทั่วไป
เขินมาก เขิน เขิน เขินนนนนนนน.... =////=
ลงไปดีดดิ้นอยู่ใต้โต๊ะคอม  :ling1:
คือแบบนุ้งครีมเริ่มก่อน ออดอ้อน ออเซาะ ว่าคิดถึง
จูบเฮียก่อนฟินเบยยยย...

แต่เป็นคนที่แปลกคิดถึงแต่ไม่ไปหา
ปากดี ปากเสีย เฮียต้องจับจูบแก้นิสัยค่ะ XD
ได้ผล 100% แน่นอน

NC อ่านแล้วมันไม่โป๊นะ แต่ทำไมถึงได้เขินจัดก็ไม่รู้
จิ้นบรรเจิดแล้วภาพดูสวยมากเลย เฮียเพี้ยนกับอาตี๋
รักกันแบบโลกมันดูสีชมพูบลิ๊งงงงงงงงง~~~~
แอบสงสารอาตี๋หน่อย ๆ แบบว่า... เฮียช่างหื่นเงียบ (เหรอ?)


เหมือนปะป๊าสุชัยจะใจอ่อนลงนิดนึงหรือเปล่า?
ตอนมะม๊าขอเอาไว้ TvT รักมะม๊าอยากเห็นตี๋คิมกับเฮียมีความสุข
แบบไม่ต้องปิดบังอ่ะ... ป๊าก็รู้นี่ว่าลูกชายก็ยังคบกับเฮียเพี้ยนอยู่
แต่คงแอบทำใจไม่ได้ที่ว่าลูกไปรักกับผู้ชายคนอื่นอ่ะนะ
ประสบการณ์กับความทรงจำอันเลวร้ายค้ำคออยู่เรื่องของเฮียใหญ่
ไม่งั้นอาตี๋คิมไม่รอดแน่ ๆ


ปะป๊าสุชัยไปหวังออกดอกออกผลกับหลานชายในอนาคตอีกทีแล้วกัน
ปล่อยลูกชายไปก่อน กู่ไม่กลับแล้ว จะให้ไปรักใครอีกก็ไม่ได้แล้ว
แง้ววววววววววว.... ตอนกดอ่านนึกว่าจะหน่วงมากซะอีก
แอบทำใจนิดนึง แต่พออ่านแล้วฟินเบยยยยยยย แง้ ฟินก่อนนอน
  :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ฟังม๊าหน่อยนะป๊า :monkeysad: คนที่ไม่เคยขัดใจหรือขออะไรป๊าเลย
กำลังขอร้องและขอให้เห็นใจลูก :hao5:
ป๊าคิดให้ดีๆหน่อยนะ
เพราะเค้าอยากให้ป๊าค่อยๆมองดู ไม่ใช่ตัดสินจากอะไรที่ป๊าตัดสินไปแล้ว


ตี๋น่ารักอะ :o8: ยังไงความรัก ความคิดถึงมันก็ชนะความกังวลแหละเนอะ
เฮียก็เล่นไม่ยั้งเลย ให้สมกับความคิดถึงเป็นเดือนๆที่ผ่านมา :haun4:

รอต่อไปค๊าาา เค้าก็โหวตให้น่าาาาา ชอบเรื่องนี้ อย่าเพิ่งจบ ขอตอนพิเศาสัก 20 เลย 555 :mew3:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ความสุขของลูกก็คือความสุขของพ่อแม่นี่คะ  :mew4:
ทำอะไรแล้วมีความสุขแถมไม่เดือดร้อนใครก็ปล่อยเขาไปเถอะค่ะป๊า
อันนี้เอาคำพูดพ่อแม่ที่บ้านมานะคะ ลูกเลี้ยงได้แต่ตัว หัวใจบังคับกันไม่ได้ รักคนที่ลูกเลือกจะได้มีความสุขทั้งสองฝ่าย
ตี๋ขี้อ้อนน่ารักมุ้งมิ้งจังเลยน้า :katai3:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ถึงเวลาฟังเสียงคนรอบข้างแล้วค่ะป๊า


ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
 :call: :call: :call: ป๊าใจอ่อนเถอะ สงสารม๊าจัง :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
 :pighaun:  ครึ่งแรกหวานซะจนเลือด...กระฉูด
 :sad4: ครึ่งหลังเศร้าซะจนน้ำตา…กระฉูด

“...เราตามใจตี๋เล็กกันสักเรื่อง.....เถอะนะ...”
“ม้าไม่อยากเสียลูกอีกแล้ว...”เจอม้าพูดประโยคนี้ไป น้ำตาไหลพราก :o12:

เมื่อวานเห็นในทวิตว่าจะอัพ สุดท้ายรอจนหลับไป ตื่นมาเช้า(สายโด่ง)พอดี o22
แต่ในที่สุดก็อัพแล้ว ติดตามข่าวสารเรื่องรักติดดินอยู่น้าาา
มารอตอนต่อไปค่ะ มาต่อเร็วๆน้าาา. +1 :กอด1:

ออฟไลน์ Fish129

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 747
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-3
ยอใๆไปเหอะนะ

ออฟไลน์ isBelle__

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ดูเหมือนป๊าจะผ่อนปรนมากกว่าครั้งเฮียใหญ่ แต่ดีแลัวจะได้ไม่มีใครสูญเสีย
เห็นพี่ภพอยู่กับคิมหันแล้ว ชอบอารมณ์คู่รักแบบนี้ ไม่อยากคิดเลยว่า ถ้าครอบครัวของทั้งสองฝ่ายเข้าใจในความรักนี้จะดีขนาดไหน
ครอบครัวพี่ภพก็ได้และหนึ่ง ตี๋คิมจะได้ไม่ต้องคิดมากตลอดเวลาเรื่องจะเลือกใครยังไง

ออฟไลน์ Fish129

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 747
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-3
ป๊า  ยอมๆไปเหอะนะ

คิดถึงความสุขของลูกเอาไว้

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
อ่านแล้วน้ำตาซึม ... (อ่านที่ทำงานอีกต่างหาก!)
เดี๋ยวกลับมาอ่านอีกรอบละเอียดๆค่ะ   :mew6:

ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
ตี๋คิมนี่มันน่ารักขี้อ้อนขึ้นทุกวันๆอย่างงี้อิเฮียภพจะไม่รักไม่หลงได้ยังไง

แล้วดูท่าทางป๊าคงจะเริ่มใจอ่อนบ้างแล้วมั๊ง..สู้ๆน๊าเฮียภพตี๋คิม

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด