● เล่ห์รักฤดูร้อน ● ตอนพิเศษวันสงกรานต์ (หน้า 151) 13/04/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ● เล่ห์รักฤดูร้อน ● ตอนพิเศษวันสงกรานต์ (หน้า 151) 13/04/59  (อ่าน 1141156 ครั้ง)

ออฟไลน์ YOSHIKUNI RUN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
อ่านไปอ่านมา ก็ดูเขินๆ กับคิมและพี่ภพ :o8:
พอท้ายๆ อ่านถึงป๊า น้ำตาไหลเลย :mew4: :mew4:

mooz

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
11 วันแล้ววววววววว
คิดถึงน้องครีมมากกกกกกกกกกกกกกก
มาต่อได้แล้วน๊าาาาาา
พลีสสสสสสสสสสสส

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
แจ้งความRainydayหาย ที่บ้านให้อภัยแล้วกลับมารายงานตัวเถอะ :hao7:

บุคคลใดพบเห็น กรุณาแจ้งเบาะแสด้วยจ้าา555

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
● เล่ห์รักฤดูร้อน ●


ยกที่ 61 – โกลเด้นรีทรีฟเวอร์





คิมหันต์พรมนิ้วลงบนโต๊ะ สายตามองตามการเคลื่อนไหวของปลายนิ้วตัวเอง ทว่าความคิดจดจ่ออยู่กับเรื่องอื่น แม้แต่เสียงผู้ประกาศข่าวจากโทรทัศน์ก็ไม่ได้เข้าหูนัก สุดท้ายก็ปิดมันเสีย ทิ้งตัวเองอยู่ในห้องกับความเงียบ

ผ่านมาราวเดือนหนึ่ง ที่คอนโดฯ นี้มีเขาอาศัยอยู่แค่คนเดียว..


ปีกว่าแล้วที่ตารางชีวิตโดยสังเขปของเขาเป็นเช่นเดิม เปิดเทอมไปเรียน ปิดเทอมกลับราชบุรี ต่อหน้าสุชัยทำเป็นลืมเรื่องสามภพไปเสีย และต่อหน้าสามภพก็ทำเป็นลืมเรื่องที่บ้านไปก่อน แปลกประหลาดและให้ความรู้สึกเหมือนต้องทำตัวเป็นสองคนในร่างเดียว แต่ด้วยวุฒิภาวะปัจจุบัน สถานะที่ฝ่ายหนึ่งเป็นพ่อแม่ อีกฝ่ายเป็นคนรัก เขายังนึกไม่ออกว่าจะมีวิธีไหนประนีประนอมได้มากไปกว่านี้ได้อีก

หลายอย่างเกิดขึ้นและจบลง เหมือนจะเร็ว แต่ก็ช้า ระหว่างเขาพยายามเต็มที่จะตั้งใจเรียนให้จบ ก็ได้รับข่าวคราวจากวัสสานะ พี่สาวคนโตของเขาว่าเธอตั้งครรภ์ หลังใช้ชีวิตแต่งงานได้หกเดือน

แน่นอนว่าเมื่อทุกคนได้ทราบข่าว ความยินดีหลั่งไหลมาท่วมท้น สุชัยตบไหล่ศิโรจน์ผู้เป็นลูกเขยอย่างพออกพอใจ ขณะว่าที่คุณแม่ยืนหัวเราะร่าด้วยแก้มแดงเปล่งปลั่ง หันมากระซิบกับเขาเป็นนัย ว่าลองทายกันไหมว่าคุณน้าคิมหันต์จะได้หลานสาวหรือหลานชาย

“...ผมจะเป็นน้าแล้ว…”

เขาทำเสียงตื่นเต้นเกินจำเป็น เบิกตากว้างอย่างน่าหมั่นไส้จนพี่สาวเอาศอกถองเบา ๆ ด้วยอดไม่ไหว

“เจ้าเด็กนี่!” วัสสานะหัวเราะ “เพ้อเจ้อไม่เปลี่ยนเลย”

เขาหัวเราะตาม ยกมือเกาท้ายทอยทำทีเหมือนเพิ่งได้รับคำชม

“เจ้ดูดีอะ”

“หือ?”

“แบบ...” คิมหันต์ยักไหล่ เอานิ้วหัวแม่มือถูกจมูกเบา ๆ “ดูมีความสุข”

“...”

“..ผมดีใจด้วย”

เขาคิดว่าคำพูดนั้นของเขาฟังดูออกจะจริงใจสุด ๆ แล้ว แต่สิ่งที่วัสสานะทำกลับกลายเป็นหัวเราะใส่เสียนี่

“ขำอะไรเนี่ย”

เธอยกมือขึ้นป้องปาก ใบหูเป็นสีชมพูจาง ๆ คล้ายเวลาน้องชายเขิน ก่อนจะเอื้อมมือมาลูบผมเขาด้วยความเอ็นดู พึมพำพร้อมรอยยิ้มกว้าง

“เจ้าเด็กแสบโตเป็นผู้ใหญ่กับเขาเสียที”

“...”

“จะได้ไม่ต้องตามห่วงมากเหมือนเมื่อก่อน”

“เจ้เหนื่อยอะดิ” เขาเฉไฉด้วยการแกล้งทำเป็นบ่นงุบงิบ

“ก็ใช่น่ะสิ”

คิมหันต์ถึงกับทำหน้าเหวอไปแวบหนึ่ง “เจ้ใหญ่อ้ะ”

เขาว่าพลางส่งสายตาเว้าวอน เรียกเสียงหัวเราะก๊ากจากพี่สาวคนโตอีกครั้ง

“เราก็มีคนห่วงแล้วนี่”

“...”

เธอยิ้มจนตาหยี เมื่อเห็นเขาก้มหน้าก้มตาโดยไม่เถียงสักคำ พูดต่อลอย ๆ เหมือนเอ่ยกับดินฟ้าอากาศ

“ถ้าเป็นลูกชายก็ดีสิน้า”

คิมหันต์พยักหน้าน้อย ๆ  กอดเอวพี่สาวคนโตแล้ววางศีรษะบนไหล่เธอเหมือนลูกหมาขี้อ้อน คิดไปเรื่อยว่าพี่เขยเขาช่างโชคดีที่ได้เธอเป็นเจ้าสาว แต่มองอีกที เจ้ใหญ่ของเขาก็คงต้องเรียกว่าโชคดีเช่นกันที่มีสามีใจกว้างขนาดจะให้ลูกชายคนแรกใช้นามสกุลฝ่ายแม่ได้ นึกดูแล้วก็เหมาะสมกันดี

“..นั่นสิ”

เขาพึมพำ ด้วยเหตุผลนอกเหนือจากหวังจะให้ป๊าพอใจหากได้หลานชาย เขาอดยิ้มตามเธอไปด้วยไม่ได้ที่กำลังจะมีครอบครัวพ่อแม่ลูกโดยสมบูรณ์


ทว่าความยินดีนั้นคงอยู่เพียงไม่นาน


ที่อายุครรภ์ราวสิบสองสัปดาห์ วัสสานะแท้งลูกคนแรก..


ทั้งที่ตั้งใจดูแลอย่างดี ไม่ได้ทำงานหนักให้กระทบกระเทือนเลยสักนิด ศิโรจน์ผู้เป็นสามีคอยประคบประหงมแทบอุ้ม แต่ผลการตรวจอัลตราซาวนด์ก็ยืนยันว่าการตั้งครรภ์สิ้นสุดลงแล้ว ตั้งแต่ยังไม่ทันได้รู้ว่าสมาชิกใหม่ที่ทุกคนรอคอยจะเป็นหญิงหรือชาย

แพทย์เจ้าของไข้ปลอบพวกเขาว่าเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้แม้จะดูแลเป็นอย่างดี ไม่ได้เป็นความผิดของคู่สามีภรรยา การแท้งในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากความผิดปกติของตัวเด็กเองจนอยู่เจริญเติบโตต่อในครรภ์ไม่ไหว วัสสานะน้ำตาซึมไปเป็นวัน แต่ไม่มีใครเห็นว่าเธอร้องไห้หรือเปล่านอกจากศิโรจน์

และตำแหน่งว่าที่น้าคิมของเขาก็เป็นได้แค่ว่าที่ต่อไป


กว่าสภาพจิตใจทุกคนจะกลับเข้าสู่ภาวะปกตินั้นใช้เวลาร่วมเดือน แม้จะว่ากลับไปปกติเสียทีเดียวก็ไม่เชิง หากบอกว่าทำใจได้อาจเหมาะมากกว่า แต่อย่างน้อย..พวกเขาก็ทำเหมือนมันกลับเป็นอย่างเก่าได้ในที่สุด แน่นอนว่ารวมถึงความน่าอึดอัดซึ่งเกิดขึ้นในบ้านด้วย

สุชัยทำหูทวนลมเวลาได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์เบา ๆ กลางดึกในช่วงปิดภาคเรียนเมื่อเดินผ่านห้องลูกชาย ลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ตอนเห็นคิมหันต์เหลือบมองมือถือซึ่งไม่เคยเปิดเสียงไว้เลยอยู่เสมอ  นาน ๆ ครั้งที่สองพ่อลูกบังเอิญสบตากัน มักเกิดบรรยากาศแปลกประหลาดเหมือนมีอะไรอยากพูดแต่พูดไม่ออก จากนั้นจะมีใครสักคนเบนสายตาไปทางอื่นก่อน คิมหันต์ค้อมศีรษะน้อย ๆ ให้ผู้เป็นพ่อแล้วเดินเลี่ยงไปทางอื่นพร้อมกับเก็บโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋าเงียบเชียบ

ริ้วรอยบนใบหน้าเจ้าบ้านดูจะฝังตัวลงลึกขึ้นที่หน้าผาก หว่างคิ้ว และหางตา บางครั้งสุชัยก็ทำท่าหดหู่จนเดือนเพ็ญเป็นห่วง ความสัมพันธ์ระหว่างลูกชายที่อยู่บ้านบ่อยขึ้นตามคำสั่งทว่ากลับห่างเหินมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดดูไม่ค่อยชื่นมื่นนัก มันเรื้อรังและสูบเอาความสุขในบ้านจากเขาไปช้า ๆ  ทั้งที่นิสัยคิมหันต์เป็นพวกชอบเกาะแกะไปทั่ว แต่กับผู้เป็นพ่อของตัวเองกลับจำไม่ได้แล้วว่ากอดกันครั้งสุดท้ายตั้งแต่เมื่อไร

เรื่องราวย่ำแย่จนคล้ายว่ากลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ที่จะเห็นสุชัยพึมพำคำถามกับความว่างเปล่าอยู่บ่อยครั้งว่าเพราะอะไร? และต้องทำอย่างไรให้มันดีขึัน?

เดือนเพ็ญผู้คอยเฝ้ามองเขาอยู่เสมอคิดว่าตัวเองมีคำตอบอยู่แล้วในใจ


เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะเป็นคำตอบที่สามีเธอต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไรกว่าจะยอมรับความจริงได้สักที



เหตการณ์ดำเนินไปเช่นนั้น จนกระทั่งสามภพเรียนจบก่อน ตอนคิมหันต์เรียนอยู่ชั้นปีที่หก

นั่งปวดหัวกันแทบตายช่วงก่อนจับสลากเลือกสถานที่ใช้ทุน คิมหันต์คิดและทำใจไว้แล้วว่าสามภพจะไปที่ไหนก็ได้ แต่อย่าให้เดินทางไกลมากนักก็ดี เผื่อได้ไปมาหาสู่กันบ่อย ๆ บ้าง แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะตั้งมั่นมากว่าอย่างไรก็จะเอาที่ราชบุรีซึ่งเป็นบ้านเกิดเขาให้ได้

“ผมว่าคู่แข่งน่าจะเยอะอยู่นะ”

คิมหันต์เหลือบตามองชายหนุ่มที่นอนแผ่อยู่ข้าง ๆ คว้ามืออีกฝ่ายขึ้นมางับเบา ๆ ก่อนจะโดนเจ้าของมือดึงหนีแล้วเอานิ้วดีดกลางหน้าผากเหม่ง

“โอ๊ะ!” เขาอุทาน เอาขาก่ายสามภพอย่างจงใจหาเรื่อง “เฮียอ่า มือสวย ยอมหน่อยผมไม่ได้เลย”

“เหมือนหมาจริง ๆ” คนฟังส่ายหน้า

“น่า” คิมหันต์ว่าพลางหัวเราะแหะ ถัดจากขาก็ตามด้วยแขนยกขึ้นไปวางพาดไว้กลางอกอีกฝ่าย “เอาใจผมเยอะ ๆ เดี๋ยวไว้ไปใช้ทุนแล้วจะมาบ่นคิดถึง”

สามภพมองทั้งแขนทั้งขาที่พาดอยู่บนร่างกายตัวเองแล้วก็ยิ้มขำ เห็นท่าทางกวนประสาทแล้วอดไม่ได้จะดึงเข้ามากอดรัดให้แน่นสักที พอมีกอดก็ตามด้วยมันเขี้ยวจนต้องเอาจมูกปากกดจูบตรงนั้นตรงนี้ของไอ้ตัวพูดมาก คิมหันต์แทนที่จะหนีเลยยิ่งฮึดสู้ด้วยการฟัดกลับใหญ่ แถมพอเริ่มเป็นอย่างนั้นเข้าแล้วมักหยุดไม่ค่อยได้เสียด้วย ทั้งตัวเขาเองและคนที่ปีนขึ้นมาคร่อมพร้อมสีหน้ากรุ้มกริ่มอยู่นี่แหละ

ชายหนุ่มคลี่ยิ้มพึงใจ ปล่อยมือปลาหมึกของคิมหันต์ลวนลามร่างกายตัวเองพอเป็นพิธี ตั้งใจจะตามใจอาตี๋สักหน่อยค่อยไปถอนทุนทีหลัง



ไม่กี่วันหลังจากนั้น ผลการจัดสลากถูกประกาศท่ามกลางความใจหายใจคว่ำของคนลุ้น

อาจเป็นด้วยโชคชะตา ด้วยพรหมลิขิต ด้วยพลังบนบานศาลกล่าวสารพัดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกของวัสสานะ เมื่อเธอได้ยินข่าวว่าสามภพเลือกจะจับสลากขอมาลงปฏิบัติงานที่จังหวัดราชบุรี (แน่นอน เธอถือหางพวกเขาอยู่เสมอแม้จะยังขี้บ่นอยู่ทุกครั้งที่เจอ) สุดท้ายแล้วก็สมหวังจนได้

“ดีเลย! ทางนี้ก็มีเรื่องจะบอกเหมือนกัน” วัสสานะตบมือเสียงดังหนึ่งครั้งทำนองว่าสะใจเต็มที่ “ส่วนภพก็เข้าใกล้ป๊าเราอีกนิด”

“หืม?” คิมหันต์เลิกคิ้ว

“เจ้บอกว่าเข้าใกล้ป๊าอีกนิด”

“ทำไมต้องใกล้ด้วยล่ะ”

คุณพี่สาวกระแอมเบา ๆ ให้คอโล่ง เหลือบมองสามภพที่นั่งทำหน้านิ่งไม่เข้ากับบรรยากาศร้านเค้กทานตะวันที่พวกเขามารวมตัวบ่อย ๆ แม้อาทิตย์และปิ่นหยกจะไม่ได้ทำงานประจำที่นี่แล้ว

“ป๊ารู้ตั้งนานแล้วว่าพวกนายยังติดต่อกันอยู่..สังเกตได้เหมือนกันใช่ไหม”

“อา” คิมหันต์ขยับตัวหยุกหยิกอย่างไม่สบายใจนักขณะฟังเธอพูดต่อ

“แต่ไม่ได้ขัดขวางอะไร...หมายถึงไม่ได้ออกอาการรุนแรงมากนัก แสดงว่าป๊าก็เริ่มทำใจบ้างแล้ว ส่วนจะรับได้หรือเปล่าก็อีกเรื่อง”

“...เหมือนจะอ่อนลง แต่ก็ยังไม่ใช่เสียทีเดียว” เขาพยักหน้าพร้อมกับออกความเห็น ถือวิสาสะแย่งแก้วกาแฟของสามภพมาจิบ ดันแก้วโกโก้เย็นที่ตอนนี้เหลือแต่น้ำแข็งเปล่าของตัวเองไปไว้ตรงหน้าอีกฝ่ายแทนอย่างหาเรื่องแกล้ง “ป๊าไม่โวยวาย แต่มันมีบรรยากาศแบบชวนให้กระอักกระอ่วนใจตลอดเลย”

หญิงสาวถอนใจ มองน้องชายกับสามภพซึ่งนั่งเอาหลอดเขี่ยน้ำแข็งในแก้วที่เพิ่งเป็นของคิมหันต์อยู่เมื่อครู่ไปด้วย “...คิดในมุมของป๊า...ก็ใช่ว่าจะรับได้ง่าย ๆ หรอก แค่นี้ถือว่าดีเท่าไรแล้ว อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ไปหาสาวอื่นมาบังคับแต่งงานเหมือนครั้งเจ้าแบมนะ”

“ผมก็หวังให้เป็นนั้นไปเรื่อย ๆ”

“แล้วเจ้ก็ยังมีอีกอย่าง..”

สามภพมองสองพี่น้องที่ปรึกษากันงึมงำ เห็นว่าเนื้อความดูจะไม่ไปไหนเสียทีจึงลองเสนอขึ้นบ้าง

“ถ้าไง..ไว้ผมลองไปเจอป๊าคิมที่บ้านดูอีกสักครั้—”

“หยุดเลย” คิมหันต์รีบท้วงตั้งแต่ยังพูดไม่ทันจบประโยค “เฮียเพี้ยนจะไปทำไมเล่า”

ทว่าชายหนุ่มกลับยักไหล่ “ไม่อย่างนั้นเราก็ไม่ก้าวไปข้างหน้ากันเสียที คบกันแอบ ๆ ในบรรยากาศคลุมเครือไปเรื่อย ไม่รู้ว่าวันไหนเขาจะบังคับเราแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นอีก”

“แล้วเกิดเฮียเพี้ยนโดนเอาเลือดหัวออกมาล้างพื้นงี้อะ”

“นั่นปากเรอะ!”

“นี่พูดเพราะห่วงนะเว้ย”

“คิดว่าจะยอมโดนหรือ?” สามภพหัวเราะ เอามือขยี้ผมอีกฝ่ายแล้วจับโยกศีรษะไปมาเบา ๆ “สู้รบตบมือกับเล่ห์กลเพ้อเจ้ออะไรของลูกชายเขามาตั้งกี่ครั้ง เห็นเป็นพวกจะเสียท่าใครง่าย ๆ หรือไง”

คิมหันต์ทำปากมุบมิบใส่เขา แต่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจไม่เสี่ยง “ไม่เอาอะ...พี่เป็นอะไรไปแล้วใครจะคอยตามใจผม”

“พี่มีค่าแค่นี้เองเรอะ”

คำตอบมาพร้อมรอยยิ้มเผล่ “แค่นี้แหละ”

“ไอ้เด็กเวรนี่”

“พอเลยพวกนาย” วัสสานะโบกมือขัดจังหวะพลางส่ายหน้าไปด้วย “พาออกนอกเรื่องกันอยู่นั่น จะบอกข่าวดีอีกอย่างเสียหน่อยเลยโดนขัดจนลืมอีกละ”

สองหนุ่มที่เถียงกันอยู่หันมาเลิกคิ้ว มองรอยยิ้มกริ่มบนริมฝีปากคุณพี่สาว ฟังเธอกระแอมอย่างไว้เชิงอีกครั้ง ก่อนจะอ้าปากบอกเรื่องที่ตั้งใจจะพูดแต่ไม่ได้จังหวะเหมาะ ๆ สักที

“คือว่านะ...”











“ง่า...”

คิมหันต์ครางออกมาในความเงียบ ล้มตัวลงบนเตียงที่เคยนอนขลุกอยู่กับสามภพ หยิบตำราเรียนขึ้นปิดหน้าหนีแสงไฟ กลับสู่สถานะปัจจุบันหลังจากมัวหมกมุ่นกับความทรงจำเมื่อเร็ว ๆ นี้ นึกงุ่นง่านไปด้วยว่าห้องนอนพออยู่คนเดียวแล้วมันช่างกว้างอย่างไม่น่าเชื่อ

ทั้งที่เพิ่งวางสายจากเจ้าของห้องตัวจริงไป ก่อนจะนั่งเอานิ้วเคาะโต๊ะเล่นพลางทบทวนเหตุการณ์อยู่ครู่หนึ่งนี่เอง แต่แวบเดียวเมื่อนึกขึ้นได้ว่าอยู่เพียงลำพังก็เริ่มจะเหงาขึ้นมาอีกแล้ว หากไม่ติดว่าช่วงนี้ยุ่งทั้งกับเรื่องเรียนและคนไข้ถึงขีดสุด เขาเชื่อว่าตัวเองคงต้องสู้รบกับความเหงามือเหงาไม้จนเฉาตายเป็นแน่

“โอย..อยากฟัด”

เขาบ่นหงุงหงิง ฟุ้งซ่านไปไกลว่าอีกฝ่ายย้ายไปประจำอยู่โรงพยาบาลอื่น ตอนนี้จะโดนสาวที่โน่นจีบอยู่หรือเปล่า ยิ่งไกลหูไกลตาตามไปสกัดดาวรุ่งไม่ได้อยู่ด้วย หมายมั่นปั้นมือไว้ว่าหากมีใครมาติดพันจะตามไปคิดบัญชีย้อนหลังให้หมดเลย

“..ป่านนี้ทำอะไรอยู่เนี่ยเฮียเพี้ยน”

แต่อะไรที่คิมหันต์คิดว่าสามภพทำอยู่...ไม่ใช่สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นแน่นอน



สามภพจอดรถไว้เยื้องกับประตูรั้วเล็กน้อย เงยขึ้นมองตัวบ้านคุ้นตา แม้หากนับกันตามจริงแล้ว เขามีโอกาสได้มาที่นี่เพียงแค่ไม่กี่ครั้ง

เขาก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้เกือบห้าโมง แต่แดดยังเปรี้ยง ฟ้ายังสว่าง เขาเองเพิ่งเลิกงานก็รีบขับรถตรงมาที่นี่เลย และหวังว่าคงไม่เรียกว่าเป็นการรบกวนเจ้าบ้านผิดเวลาเท่าไรนัก

ชายหนุ่มให้เวลาตัวเองรีรออยู่เพียงไม่นานก็กดออดตรงรั้ว จากนั้นยืนรอจนกระทั่งประตูมุ้งลวดหน้าบ้านถูกดึงเปิดออก ใบหน้าคนคนหนึ่งปรากฏให้เห็นต่อสายตา

เดือนเพ็ญขมวดคิ้ว เพ่งสายตาไปยังรูปร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มที่ยืนรออยู่หน้ารั้วบ้าน นานแล้วที่ไม่ได้เห็นเขา แต่เธอมั่นใจว่าตัวเองจำไม่ผิด

เธอเหลือบมองกลับเข้าไปในบ้าน สุชัยนั่งกดเครื่องคิดเลขอยู่กับสมุดบัญชีที่โต๊ะไม้มุมหนึ่งของห้องโถง ท่าทางไม่ใคร่สนใจอยากรู้นักว่าแขกผู้มาเยือนเป็นใคร บางทีเขาอาจคิดว่าเป็นเพื่อนบ้านขาประจำสักคนในละแวกนี้ เดือนเพ็ญถึงกับลอบถอนใจ โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง ก่อนจะรีบรุดมายังประตูรั้วที่แขกซึ่งอยู่นอกเหนือความคาดหมายกำลังรออยู่

“...ภพ?” เธอเอ่ยทักก่อนเบา ๆ เหมือนกลัวเสียงจะดังเข้าไปถึงในบ้าน “มีอะไรหรือ”

เขาไม่ตอบ แต่ยกมือขึ้นสวัสดี ทักทายกลับมาเหมือนไม่ได้ยินคำถามของเธอ

“ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”

เดือนเพ็ญอ้ำอึ้ง รับไหว้เขาเก้ ๆ กัง ๆ  เบนสายตากลับเข้าไปในบ้านด้วยสีหน้าหวั่นวิตกพลางถามหาเหตุผลจากเขาอีกครั้ง “อย่าหาว่าไล่เลยนะ แต่ภพมีธุระอะไรหรือเปล่า”

“ผม..” เขาพยายามนึกหาคำพูดที่ฟังดูเข้าท่า แต่อะไรที่เตรียมการมากลับดูเหมือนไม่เหมาะจะเอามาใช้ทั้งนั้น “..ผมมาเยี่ยม”

“คีมไม่ได้อยู่ที่นี่” เธอขัด “ภพก็รู้ไม่ใช่หรือ?”

“ผมไม่ได้มาหาคิม”

“แล้ว..?”

“ทำอะไรกันน่ะ!?”

เสียงที่ดังแทรกขึ้นมาจากด้านหลังทำให้เดือนเพ็ญสะดุ้ง ใจเต้นโครมครามจนต้องยกมือขึ้นกุมอกเอาไว้ขณะหันหลังกลับไปมองช้า ๆ  นึกเสียใจที่เธอไม่รีบไล่สามภพไปให้เด็ดขาดกว่านี้จนกระทั่งสุชัยเดินตามออกมาดูจนได้

“...ป๊า”

“ไอ้เด็กนั่น..โผล่หัวมาทำไม”

แน่นอนว่าประโยคนั้นของสุชัยไม่ได้กำลังพูดกับสามภพ ชายผู้เป็นเจ้าบ้านให้การต้อนรับประหนึ่งเขาเป็นวนิพกที่ร่อนเร่มาเกาะอยู่หน้ารั้วบ้าน ทำเพียงแต่ปรายตามองมาแวบหนึ่งแล้วก็เลิกสนใจ 

“ผมมาเยี่ยม..” เขาแทรกขึ้นด้วยประโยคเดิม ยกมือขึ้นไหว้เหมือนที่ทำก่อนหน้านี้ “..และคิดว่าอาจได้คุยกันบางอย่าง”

แม้สุชัยจะมองตรงมายังเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตรนัก แต่เท่าที่สังเกตก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะใช้ความรุนแรงอะไรอย่างคิมหันต์เคยเตือน

“กลับไป”

ไร้บทสนทนาใดหลังจากนั้น สุชัยหันหลังเดินกลับเข้าบ้าน ดึงภรรยาให้กลับเข้าไปด้วย ปิดประตูแน่นหนา แทนคำประกาศชัดเจนว่าไม่ยินดีต้อนรับเขาเป็นแขก

จากนั้นบ้านทั้งหลังก็กลับสู่ความเงียบยิ่งกว่าตอนเขาเพิ่งมาโผล่อยู่หน้ารั้วเมื่อครู่เสียอีก


สามภพกลอกตา ถอนหายใจออกมาสุดปอด


มาเยี่ยม (หรืออะไรทำนองนั้น) ครั้งแรก ...ล้มเหลวไม่เป็นท่า แต่เขาจะถือว่าดีแล้วสำหรับสถานการณ์เลวร้ายสุดซึ่งอาจเป็นไปได้ อย่างน้อยก็ไม่มีกิริยาขับไล่รุนแรงให้ใจเสีย ต่อให้เป็นเช่นนี้ใช่ว่าจะดีกว่ากันเท่าไรนักก็เถอะ


ชายหนุ่มเดินกลับขึ้นรถ สตาร์ทเครื่อง นั่งรีรออยู่ครู่หนึ่งก็ย้อนกลับไปทางเก่า วางแผนไว้ว่ารอถึงวันมะรืนที่เขาไม่ได้อยู่เวร


ตั้งใจว่าคราวหน้าจะลองหาของฝากติดไม้ติดมือมาด้วย



สองวันถัดจากนั้น สามภพขับรถกลับมาจอดที่เดิมอีกครั้ง หน้าบ้านคิมหันต์ ระหว่างที่ลูกชายคนเล็กของบ้านกำลังตั้งหน้าตั้งตากับการเรียนในชั้นปีสุดท้าย พิจารณาจากบทสนทนาทางโทรศัพท์แล้ว เดาว่าคงไม่รู้เรื่องเขามาโผล่ที่นี่โดยไม่ได้บอกกล่าวใครอื่นอีกแล้ว

เช่นเคย เขาเริ่มจากกดออดหน้าบ้าน เดือนเพ็ญออกมารับหน้าก่อนเหมือนครั้งล่าสุด แต่คราวนี้ยังทักทายไม่จบประโยค สุชัยก็เดินตามออกมาคุมด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ

“สวัสดีครับ” เขาทักทาย ยกมือไหว้คนทั้งสอง พร้อมถุงของฝากที่เป็นขนมซึ่งให้พยาบาลสูงวัยจากที่ทำงานช่วยเลือกคล้องอยู่ที่แขน แต่ยังไม่ทันได้อ้าปากพูดอะไรอย่างอื่น เดือนเพ็ญซึ่งเดินออกมาก่อนก็ถูกสามีดึงกลับเข้าบ้าน พร้อมถ้อยคำไล่หลังลอยมาถึงหูเขา


“กลับไปซะ!”


ก่อนประตูจะปิดปังอีกครั้ง


“...”


เขายืนอยู่กับความว่างเปล่า ยกมือขึ้นเสยผม สีหน้าคร่ำเครียดอยู่นิดหน่อย ก้มลงมองถุงขนมในมือ ตัดสินใจแขวนมันไว้ที่ประตูรั้ว ถอยหลังกลับมานั่งสงบสติอารมณ์ในรถ ฝนลงเริ่มเม็ดปรอย ๆ มาพอดี น่าห่วงว่าถุงขนมกระดาษซึ่งแขวนไว้จะเปื่อยยุ่ยไปหมดหรือเปล่าหากฝนตกแรงกว่านี้

เขาหยิบสมุดบันทึกออกมาเปิดดูว่ามีวันไหนว่างอีกบ้าง นั่งแช่อยู่ในรถจนเม็ดฝนใหญ่ขึ้นและกระหน่ำลงหนักกว่าเก่า ถุงกระดาษแขวนอยู่กลางแจ้งเดี๋ยวก็เปื่อยขาด หากทิ้งไว้อย่างนี้ไม่นานคงกลายเป็นขยะอย่างไม่ต้องสงสัย

ชายหนุ่มเอาปากกาวงบางวันไว้ในตัวเลือก เปิดที่ปัดน้ำฝนแล้วออกรถ ยังไม่วายเหลือบมองไปยังถุงกระดาษชุ่มน้ำบนรั้วหน้าบ้านอีกครั้ง ความหวังริบหรี่ว่าจะมีใครสักคนออกมาหยิบมันกลับเข้าไปถูกละลายหายไปกับน้ำฝนที่ไหลลงท่อระบายน้ำ

สามภพถอนใจ หมายมั่นกับตัวเองกลางเสียงเม็ดฝนกระทบหลังคารถ


คราวหน้าคงต้องเป็นถุงพลาสติก




มีต่อรีพลายถัดไปค่ะ
v
v
v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-11-2013 09:42:17 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
ยกที่ 61 (ต่อ)




ครั้งถัดไปที่มาปรากฏตัวหน้าบ้านของคิมหันต์โดยไร้การแจ้งข่าวแก่พี่น้องบ้านนี้สักคน คืออีกหนึ่งสัปดาห์ให้หลัง

สามภพรู้สึกว่าเว้นช่วงนานไปหน่อย ด้วยติดภาระงานตามหน้าที่ แล้วเสาร์อาทิตย์ไหนว่างก็ยังต้องแจ้นกลับไปหาไอ้ตัวแสบซึ่งยังเรียนอยู่ ทำตัวแนบเนียนเสมือนหนึ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้น หากคิมหันต์รู้เข้าคงห้ามสุดตัวเหมือนอย่างที่ผ่านมาเป็นแน่

เขาไม่รู้รายละเอียดของเรื่องราวในอดีตแน่ชัด แต่เท่าที่เห็นอาการของสุชัยซึ่งปฏิบัติต่อเขา นับว่าไม่ถึงกับเลวร้ายอย่างคิมหันต์วิตกเสียหน่อย ก็แค่ดู...ไม่ต้อนรับ...อย่างเห็นได้ชัด...เท่านั้นเอง?

เขากดออดหน้าประตูรั้วบ้านเหมือนเช่นเคย ครู่หนึ่งก็เห็นใบหน้าของเดือนเพ็ญโผล่ออกมาก่อนจะผลุบหายกลับเข้าไป ตอนแรกนึกว่าจะเข้าไปตามสุชัยออกมาจัดการไป ๆ มา ๆ ดูจะนานผิดปกติ

“....”

ชายหนุ่มยืนรออย่างใจเย็น เย็นผิดวิสัยของเขากระทั่งเกือบห้านาทีซึ่งมีแต่ความเงียบสงบพ้นผ่าน จนต้องตัดสินใจลองกดออดดูอีกครั้ง

...ยังคงเงียบ..

สามภพสูดลมหายใจเข้าลึก ตั้งใจไว้ว่าเป็นไงเป็นกัน ยกมือขึ้นช้า ๆ  คิ้วขมวดมุ่นไม่รู้ตัว เตรียมจรดปลายนิ้วลงบนออดอีกครั้ง...

สุชัยเดินออกมาก่อนที่เขาจะได้ออกแรงกดลงไป เอ่ยปากถามเสียงเคร่งขรึมใส่ตั้งแต่ยังยกมือไหว้ไม่ทันเสร็จ

“มีอะไร”

ชายหนุ่มยืดหลังขึ้นอย่างระมัดระวัง สบตาคู่สนทนาแสดงความจริงใจ (หากนี่จะเรียกได้ว่าเป็นการสนทนาอีกรูปแบบหนึ่ง) อันที่จริงสามภพยอมรับว่าก็ไม่ได้แน่ใจนักหรอกว่ามาทำอะไรที่นี่ เพียงแต่หวังว่าหากได้พูดคุยกันบ้างสักครั้ง..ไม่นับประโยคขับไล่ซึ่งเคยได้รับก่อนหน้านี้ บางทีอาจเป็นจุดเริ่มของการเปิดใจมากขึ้นก็เป็นได้ แล้วช่วงไหนจะเหมาะไปกว่าตอนที่คิมหันต์ยังอยู่ที่กรุงเทพฯ จะได้ไม่ต้องทำให้เป็นห่วงเกินจำเป็น

“มาทำอะไร!?”

น้ำเสียงของเจ้าบ้านแข็งกร้าวขึ้นจนนึกเสียดายโอกาสที่ไม่ชิงพูดก่อนเมื่อครู่ ตอนเนื้อความยังไม่ได้เจืออารมณ์กราดเกรี้ยวมากนัก

“ผมอยากคุยกับ.." เขานิ่งไป ด้วยไม่แน่ใจว่าควรเรียกแทนตัวอีกฝ่ายอย่างไรดีในสถานการณ์เช่นนี้ "..คุณ"

“เรื่องอะไร?”

“...”

“ว่ามาตรงนี้”

เขาหายใจเข้าลึก ๆ  บอกตัวเองว่าดีแค่ไหนแล้วที่บทสนทนาพามาถึงตรงนี้จนได้หลังจากโดนไล่กลับซ้ำแล้วซ้ำเล่า ต่อให้เขาคาดหวังว่าจะได้รับเชิญเข้าไปในบ้านสักครั้งก็เถอะ

“เรื่องคิมหันต์ครับ” สามภพตอบเสียงมั่นคง

สีหน้าผู้ฟังบูดบึ้งขึ้นทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น กอดอกพร้อมกับจ้องมองเขาราวกับจะประเมินค่า ซึ่งท่าทางว่าคุณค่าเขาในสายตาอีกฝ่ายก็คงไม่ได้สูงนักเสียด้วย

“มีอะไรก็พูดตรงนี้ อย่าให้เสียเวลา”

สามภพพยักหน้า ถุงของฝากยังอยู่ในมือ ไม่นึกว่าจีบลูกติดแล้วยังต้องมาจีบพ่อแม่ต่ออีก

“ผมไม่แน่ใจนักว่าควรเริ่มจากตรงไหน แต่ก็อยากบอกว่าผมรักเขาจริง ๆ”

“นั่นเป็นเรื่องของแก”

“แล้วเรื่องที่เขาก็รักผมล่ะครับ?”

“....”

“จะบอกว่านั่นเป็นเรื่องของคิมหันต์ด้วยหรือเปล่า เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ก็หมายความว่าเขามีสิทธิ์ตัดสินใจเองทุกอย่าง โดยที่—”

“หุบปากซะ!”

สุชัยชิงตัดบท จ้องมองใบหน้าเขาด้วยแววตาที่บอกชัดว่าเรื่องที่ฟังนั้นเกินกว่าจะรับได้ จากนั้นจึงหันหลังแล้วเดินกลับเข้าบ้านโดยไม่เอ่ยคำร่ำลา

“...ผมเอาของมาฝากด้วย” เขาร้องบอก แต่อีกฝ่ายไม่แม้แต่จะชะงักสักนิด

“แขวนไว้ที่ประตูรั้วนะครับ”

“เอากลับไปซะ”

“ผมจะแขวนไว้ที่นี่” เขายังดื้อดึง “แล้วก็เลิกหนีเถอะครับ ต่อให้ทำเหมือนไม่รู้ไม่เห็น ความจริงก็ไม่เปลี่ยนอยู่ดี เรื่องนั้นคุณรู้อยู่แล้ว”

“....”

“แล้วผมจะมาใหม่”

เขาแขวนถุงของฝากทิ้งไว้ตามทีบอก ยืนมองจนกระทั่งแผ่นหลังของสุชัยพ้นสายตาเข้าไปในบ้าน ก่อนจะเดินตรงกลับไปที่รถ เอานิ้วเคาะพวงมาลัยขณะมองไปข้างหน้าด้วยสายตาครุ่นคิด

อีกสักครั้ง...สองครั้ง...หรือมากกว่านั้นก็ได้ บางทีอาจไม่ได้เรียกว่าหมดหวังเสียทีเดียวหรอก ยิ่งถ้าหากว่าหาตัวช่วยสักหน่อย..


เขาเลือกจะเลียบเคียงถามจากวัสสานะมากกว่าคิมหันต์ ว่าสุชัยและเดือนเพ็ญชอบหรือไม่ชอบอะไรเป็นพิเศษ รู้ดีว่าหากไปพูดเรื่องเหล่านี้กับไอ้ตัวแสบของเขา ผ่านไปไม่เท่าไรต้องโดนจับได้แน่นอนว่าคิดจะทำอะไรอยู่ คุยกับวัสสานะอาจง่ายกว่า ทว่าก็ใช้เวลาไม่นานเลยจนคุณพี่สาวจับได้ว่าเขาไปพบพ่อแม่ของตัวเองหลายครั้งแล้ว (แม้หากเป็นคิมหันต์อาจจับได้เร็วกว่านี้) สมกับเป็นพี่น้อง เธอถึงกับถอนหายใจโล่งอกเมื่อรู้ว่าสุชัยไม่ได้ทำอะไรเขา และแน่นอน เขาก็ไม่ได้แสดงอาการโอหังอะไรใส่สุชัย แม้จะต้องยอมรับว่ามีหงุดหงิดใจอยู่ไม่น้อยกับความหัวดื้อของเจ้าตัว

“ป๊าอ่อนลงเยอะเชียว” วัสสานะถึงกับออกปากด้วยน้ำเสียงไม่อยากเชื่อ “ถ้าเป็นเมื่อก่อน เชื่อพี่เถอะว่าภพโดนเอาเลือดมาล้างพื้นอย่างที่ครีมบอกแน่”

“ขนาดนั้นเชียวหรือ?”

“ขนาดนั้นแหละ!” เธอย้ำหนักแน่น “เพราะงั้นนี่เรียกว่าเป็นเรื่องดีมากเลยเชียวนะ”

เขาอดไม่ได้จะคลี่รอยยิ้มบางเบากับโทรศัพท์มือถือ “แล้วพี่เป็นไงบ้าง..”

“ดีจ้ะ” เขาได้ยินเสียงหัวเราะร่า “ดิ้นเก่งเลย เตะต่อยกันใหญ่”

“สองเท่าเลยสินะครับ”

“ประมาณนั้นละ” รอยยิ้มของวัสสานะแทบจะลอยออกมาผ่านสัญญาณโทรศัพท์ “พี่โรจน์ก็เห่อน่าดู”

“ดูแลสุขภาพด้วย”

“อ่าฮะ..”

“พี่สาอย่าเพิ่งบอกคิมเรื่องผมไปเจอพ่อแม่เขาที่บ้านนะครับ ถือว่าผมขอร้อง”

“...ได้..” เธอตอบ พ่นลมผ่านจมูกเบา ๆ อย่างนึกขันขึ้นมา เพราะพ่อแม่เขาที่ว่าก็พ่อแม่เธอด้วยเหมือนกัน “แต่ถึงยังไงก็ปิดได้ไม่นานหรอก อีกฝ่ายเป็นเจ้าเด็กตัวแสบเลยเชียวนะ แถมยังเป็นห่วงเรื่องนี้น่าดู เขามีความทรงจำที่ไม่ค่อยสวยเท่าไร”

“ผมรู้ เลยยังไม่อยากให้เอาเรื่องนี้ไปรบกวนเขา รอให้เรียนจบก่อนก็ยังดี ตอนนี้กำลังยุ่งเลย”

“ทางนั้นก็ระวังตัวด้วยรู้ไหม มีอะไรก็โทรบอกพี่หรือยัยสิก็ได้”

“ขอบคุณครับ”


หลังวางสาย เขาเก็บของเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ ตามที่ตกลงกันไว้กับคิมหันต์ เจ้าตัวบ่นหงุงหงิงมาหลายวันแล้วถึงความอับเฉาจากการต้องอยู่คนเดียวในห้อง ไม่มีคนหรือหมาให้ฟัดสักตัว (มันน่าเตะก็ตรงยกหมามาเทียบกับเขาด้วยนี่แหละ) ไหนจะเรียนวุ่นวาย นัดคนไข้ไม่มาอีก สารพัดอย่างจะขุดมาคร่ำครวญ ตามด้วยปิดท้ายทุกทีว่าอยากฟัดเขาจะแย่แล้ว

พอนึกถึงหน้าตามู่ทู่ของเจ้าเด็กที่ชอบมาทำตาหยีใส่แล้วก็อดขำไม่ได้ พ้นเขตโรงพยาบาลที่ทำงานอยู่มาแค่ไม่ถึงสองกิโลเมตร ใจก็ลอยไปแทบจะถึงคอนโดฯ

สามภพมองซ้ายขวา เห็นถนนโล่งจึงเหยียบคันเร่งขึ้นอีกหน่อย ตั้งใจว่าหากถึงเร็วกว่าปกติสักนิดก็คงดี แต่มาตรวัดความเร็วยังไม่ทันขยับขึ้นได้เท่าไรก็มีอันต้องเบรกกะทันหัน

“!?”

เขาขมวดคิ้ว เพ่งมองก้อนขนสีทองขนาดใหญ่ซึ่งเพิ่งวิ่งตัดหน้ารถ สายจูงระไปตามพื้นขณะเจ้าสุนัขโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวโตรีบแจ้นกลับไปหาคนที่ดูคล้ายจะเป็นเจ้าของ ท่าทางสายจูงอาจหลุดจากมือเมื่อครู่นี้ ชายหนุ่มวัยกลางคนรีบค้อมศีรษะให้เขาเป็นเชิงขอโทษขอโพย พลางลูบหัวลูบหางเจ้าหมาขนทองไปด้วย

สามภพมองผ่านกระจกรถออกไปด้วยความรู้สึกประหลาด หากเป็นเขาในยามปกติคงรีบเหยียบคันเร่งบึ่งออกจากตรงนั้นไปแล้ว อาจแถมด้วยสบถออกมาอีกคำสองคำด้วยซ้ำ แต่เจ้าโกลเด้นรีทรีฟเวอร์สีทองทำให้เขานึกถึงคิมหันต์ และเกือบจะยิ้มออกมาแล้วตอนที่เปิดกระจกรถโดยไม่รู้ตัว


“ดุ๊กดิ๊ก! ตาไม่ค่อยดีแล้วยังจะซ่าอีกนะเรา”


เสียงทุ้มต่ำของชายผู้เป็นเจ้าของสุนัขลอยมาเข้าหู ก่อนเจ้าตัวจะเงยขึ้นมาทำสีหน้าประหลาดใจใส่เขาซึ่งถึงกับลดกระจกรถลงเพื่อมองให้ชัด จากนั้นจึงเอ่ยต่อเสียงสุภาพกับเขาทั้งที่ตัวเองดูอายุมากกว่า

“ขอโทษด้วยนะครับ”

เขาพยักหน้ารับ “ไม่เป็นไร ผมแค่ตกใจที่มันโผล่พรวดออกมา”

“ตาเจ้านี่ไม่ค่อยดี มองอะไรไม่ค่อยชัด แต่ขี้ตื่น เมื่อกี้ผมเหม่อไปหน่อยเลยหลุดมือ”

สามภพออกปากถามโดยไม่ทันได้ไตร่ตรอง “หมาของคุณหรือครับ?”

อีกฝ่ายเลิกคิ้วขึ้นน้อย ๆ  “ครับ”

“ชื่อดุ๊กดิ๊กหรือครับ?”

คราวนี้คล้ายว่ามุมปากชายตรงหน้าจะขยับขึ้นนิดหน่อย ทว่ากลับเป็นรอยยิ้มที่ดูแฝงความเศร้าอย่างน่าประหลาด

“ใช่ครับ..นั่นชื่อมัน แฟนผมเคยอยากเลี้ยงหมาโกลเด้นแล้วให้ชื่อนี้”

“...อ้อ...”

สามภพพยักหน้าช้า ๆ  สังเกตรูปลักษณ์ของเจ้าขนทองและเจ้าของหมาไปด้วย ดุ๊กดิ๊กที่ยืนแลบลิ้นอ้อนเจ้านายอยู่ตรงนี้ดูแก่กว่าเจ้าหมาดุ๊กดิ๊กของคิมหันต์เอาการ ส่วนชายหนุ่มรูปร่างสูงที่กระชับสายจูงไว้แน่นในมือก็อายุน่าจะราว ๆ สามสิบกว่าปีได้ ใบหน้าคมเข้ม ผิวค่อนข้างคล้ำ ไม่เหมือนคนมีเชื้อจีน ดูแล้วไม่น่าเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับตระกูลของคิมหันต์ แต่แฟนที่ว่าอยากให้หมาชื่อดุ๊กดิ๊ก..ก็น่าคิดว่าจะมีสักกี่คนกันที่ตั้งชื่อจำพวกนี้ขึ้นมาได้

ชื่อหมาเหมือนกัน พันธุ์เดียวกัน แฟนอยากให้ตั้งชื่อนี้เหมือนกัน เขาอดคิดไม่ได้ว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือมีเหตุผลอื่นซ่อนเร้นอยู่ในความตลกของโชคชะตา เมื่อใคร่ครวญประโยคเมื่อครู่ของฝ่ายตรงข้ามยิ่งให้สะดุดใจอย่างอธิบายลำบาก

“...แฟนเคยอยากเลี้ยงหรือครับ?”

“ใช่ครับ..” 

เอาอีกแล้ว...รอยยิ้มเศร้าอย่างนั้นทำให้เขาประหลาดใจ แม้แต่ตอนพูดอะไรซึ่งน่าจะเป็นเรื่องดีอย่างที่กำลังออกจากปากแท้ ๆ

“...เขาเคยอยากเลี้ยง”

สามภพตั้งท่าจะถามต่อ “แล้วตอนนี้...” แต่ถูกตัดบทด้วยการถามกลับเสียก่อน

“มีอะไรหรือเปล่าครับ?”

เขากะพริบตาเรียกสติ สอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านดูไม่ใช่นิสัยของตัวเองเลย

“...ไม่..”

“ผมเห็นคุณขับเร็วอยู่ น่าจะรีบ”

“ไม่ครับ” สามภพโคลงศีรษะน้อย ๆ “นัดกับแฟนไว้ตอนมืด ๆ ขอโทษด้วยที่ละลาบละล้วง”

“ครับ”

“พอดีเพิ่งมาอยู่ไม่นาน” เขาพึมพำข้ออ้างที่คิดว่าฟังดูเข้าท่า “..คิดว่าควรทำความรู้จักคนแถวนี้ไว้บ้าง”

คนฟังพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรต่อ จบบทสนทนาซึ่งไม่น่าเกิดขึ้นได้ไว้เพียงเท่านั้น

กระจกรถของเขาเลื่อนปิดจนสนิท ขณะที่สายตายังคงลอบมองชายหนุ่มและสุนัขของเขาผ่านฟิล์มกรองแสง คาดว่าคงเป็นคนแถวนี้ อีกหน่อยอาจได้เจอกันอีก น่าแปลกที่เขารู้สึกถึงความคาดหวังว่าจะเจอกันอีก

ชายคนเดิมหันหลังไปในทิศตรงกันข้าม พร้อมกับที่รถเขาเคลื่อนตัวออกห่าง สามภพยังคอยมองภาพจากกระจกส่องหลังจนร่างหนึ่งคนหนึ่งหมาหายไปจากเงาสะท้อน


ทิ้งความรู้สึกค้างคาที่สลัดไม่หลุดไว้กับเขาอย่างเงียบเชียบ




- หมดยกที่ 61 -







กลับมารายงานตัวแล้วค่ะ แฮร่กกกก
เค้ายังมีชีวิตอยู่นะ 555 หลังจากนี้จะพยายามรีบต่อให้เร็วขึ้นค่ะ ฮึบ!

ปล. ฝากเรื่องเวิ่นเว้อ(?)เซ็ตใหม่ เรื่องสั้นจบในตอน ตอนอื่นว่าจะอัพเรื่อย ๆ เอาเพลินเมื่อมีไอเดียค่ะ ไม่กดดันทั้งคนเขียนและคนอ่านเพราะจบเป็นตอน ๆ ไปไม่ต้องรอตอนต่อ แต่ถ้าอ่านต่อก็จะมีส่วนเกี่ยวเนื่องกันนิดหน่อย (นิดเดียวจริง ๆ)
อ่านแก้เครียด(หรือจะยิ่งเครียด)ระหว่างรอตอนหน้าก่อนได้นะคะ :D
>> 〓|เรื่องสั้นลูกโซ่|〓

*กอดฟัดคนอ่าน* ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมเยือนและทวงค่า เราชอบให้คนทวง มาโซคิสม์เล็ก ๆ 555

ปล.2 ของแถมรีพลายถัดไปค่ะ

*Edit*

นิดนึงจ้า

จับฉลาก >> สลาก น้อ  เหมือนๆ สลากกินแบ่งรัฐบาล จำง่ายๆ ส่วน ฉลาก ก็ใช้เช่น อ่านฉลากยา จ้า
:กอด1:

แก้ไขเรียบร้อยค่ะ ขอบคุณมากค่า >3<
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-12-2013 19:09:00 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
โซนของแถมค่ะ :D


ท่อนบนเฮียเพี้ยน =,.=




อาตี๋




ปล.อันนี้แถม คู่อาทิตย์-ปิ่นหยก จากรักติดดิน ซีรีส์เดียวกัน


กับครอปภาพปกมาให้ดูนิดนึง อะแหะ =///= ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด (ซึ่งคงไม่มีหรอกน่า) เรื่องลูกเจี๊ยบแม่ไก่น่าจะเปิดจองต้นปีหน้านะคะ แจ้งไว้ก่อน ฮา


พบกันยกหน้าค่า ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-11-2013 23:39:31 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ corn_rain

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
เกือบลืมไปแล้ว ว่าชั้นเคยอ่านเธอมาก่อน :mew5: ฮาาาา
แอบมีบทนะคุณแฟนของพี่แฟน(งง) นึกถึงทีไรน้ำตาไหลทุกที

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 :sad4:  แฟนเฮียใหญ่ สินะ เศร้าจัง

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
เจ็บหน่วงๆตอนท้ายจังเลยอ่า :sad11:
น้องดุ๊กดิ๊กกับแฟนเฮียใหญ่แน่ๆเลย :m15:
ขอให้สู้ๆกันทุกคนเลยน๊าาาาาา
พ่อน้องครีมใจอ่อนได้แล้วววววววววว :z3: :call:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
เฮียภพพยายามเข้านะ สักวันป๊าต้องใจอ่อน

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ถึงป๊าน้องคิมจะหัวแข็งแต่พี่ภพก็ตื๊อไม่ถอยเหมือนกัน
คิมหันต์อยู่คนเดียวไม่ลงแดงหรืออดนัวเนียสุดที่รัก
ชายคนนั้นแฟนเฮียใหญ่ใช่ไหม ลืมชื่อ

ออฟไลน์ TempGGtop

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
แอบยิ้มปนเศร้าตอนท้ายๆอ่ะ  :hao4:
แต่ก็ดีใจนะคะที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย และก็น้องครีมน่ารักเหมือนเดิมค่า  :impress3:
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ รอตอนต่อไปคร้าบ  :bye2:

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
พี่เอกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย พูดแล้วก็เศร้าอ่ะ พี่เอกยังคงอยู่กับความทรงจำเก่าๆใช่มั้ย
ถึงได้ยิ้มเศร้าๆแบบนั้น ฮรือออออออออออ

เมื่อไหร่ป๊าน้องครีมจะเข้าใจอ่ะะะ

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
 o13 พี่ภพทำถูกต้องแล้วววว สู้ๆๆน้าาา

แอบสงสาร. ป๊าเหมือนคนจีนทั่วไปที่ทิฐิสูงแต่ก็สงสารลูก มันน่าเศร้ายังไงไม่รู้

พอเข้าเรื่องของเฮียใหญ่ทีไร น้ำตามันหยดเองอ่ะ เศร้าา :mew4:

มาต่อเร็วๆน้าาา +1 :mew1:
รอซื้อหนังสือน้าาา ขอโดฯจำนวนมหาศาลเป็นของแถมนะคะ55

ออฟไลน์ chisarachi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1019
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-1
ปกแม่ไก่น่ารักเชียวววววววววววววววว

เวลาผ่านไปไวนะคะในระหว่างที่คนเขียนไม่ได้ัพ
พี่ภพเรียนจบซะและ
เป็นกำลังใจให้พี่ภพและน้องคิม  และป๊าด้วย
คนที่พี่ภพเจอนี่ใช่แฟนเฮียไหมมมมมมม
โอ๊ยยยย อ่านตอนนั้นตื่นเต้นนะ แบบลุ้นว่าถ้าใช่ และเขาได้คุยกัน
มันคงจะวิเศษ

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
เฮียน่ารักมากเลยอะ แอบไปหาที่บ้านครีมบ่อยๆ แบบนี้
สู้น่าดูเลย อยากให้พ่อเปิดใจ ยังไม่ต้องยอมรับก็ได้ แค่ให้อยู่ในสายตา

เฮียเพี้ยนได้เจอพี่เอกแล้วว หวังว่าการเจอกันจะทำให้มีเรื่องดีๆเกิดขึ้น :m5:

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
แฟนคุณพี่น้องคิมแน่ๆ น่าสงสาร ป่านนี้แล้วยังไม่มีใครมาดามใจ

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
มีพี่เอกมาแจมด้วย พร้อมความรู้สึกหดหู่เศร้าใจเหมือนเดิม น่าสงสาร
ขอให้ได้แฝดชาย

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
มีมาม่าของเฮียใหญ่แหง  :hao5: :hao5: :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ NINEWNN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-4
เฮียเรียนจบแล้วเหรอเนี่ย
รักจริงหวังแต่งจริงๆนะ :o8:
แต่พอเจอแฟนเฮียใหญ่ปุ๊บ รู้สึกว่าต้องมีทิชชู่

ออฟไลน์ ninghyuk

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
พี่เอกออกมาตอนท้ายแต่แย่งซีนสุดดดด

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
ซูฮก ให้กับความพยายามของเฮียภพ

หวังว่าพี่เอกจะเป็นคนเปลี่ยนความคิดป๊าได้ ให้เห็นถึงความรักที่มั่นคงของพี่เอก
แล้วได้คิดว่าถ้าพี่ชายตี๋ยังอยู่จะมีความสุขขนาดไหน ~ เอาใจช่วยนะ เฮียสู้ๆ



ออฟไลน์ narunarutoboyz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
กำลังจะดีตอนต้นเรื่องเเท้ๆ มาตอนจบทิ้งความหดหู่ไว้เลยอ่ะเรนนี่
จนป่านนี้พี่เอกก็ยังไม่มีใคร เป็นรักที่สวยงามที่แฝงไปด้วยความเศร้ามากเลยอ่ะ
ก็เข้าใจว่าเห็นคนที่ตัวเองรักตายไปต่อหน้าต่อตาขนาดนั้น ภาพติดตา ติดอยู่ในความรู้สึก
ที่แม้หลับตาก็ยังเห็น อยากให้พี่เอกมีความสุขจังเลย
ถึงเเม้ว่าพี่ภพกับน้องคิมจะมีความสุขแทนในส่วนที่พวกเค้าสองคนไม่เคยมี
แต่เชื่อว่ามันคงไม่มีวันทดเเทนกันได้ เห็นพี่เอกเป็นแบบนี้นึกถึงเพลง "คนไม่มีเวลา" ของที่ว่านเลยอ่ะ




เจ็บปวดรู้ไหม ไม่อยากเคลื่อนไหว
ไม่อยากทำร้ายใคร
มันยังไม่พร้อมมีใครใช่ไหม
จะขอรอเธออย่างเดิม

เธออยากกลับมาไหม
อยู่ตัวคนเดียวไม่เหลือใคร
เหงาเกินไปบ้างไหมเธอ
รออยู่ไม่ไปไหน ปล่อยให้เวลาผ่านฉันไป
เพราะลืมเธอไม่ไหวไม่ได้อยู่ดี


 :o12: o18
โอยยย ไม่ไหว มันดราม่าเกินไป
รอตอนหน้านะคะ หวังว่าอะไรๆจะดีขึ้นโดยเร็วนะคะ
เป็นกำลังใจให้คนเเต่งและทุกๆคนเลยค่ะ

 :กอด1: :L2:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-11-2013 11:29:30 โดย narunarutoboyz »

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
พี่ภพ พยามดีมากก

อยากให้สมหวังเรื่องพ่อคิม สักที ไม่อยากให้ฝ่ายไหนทุกข์ใจเลยย



พี่เอกกับดุ๊กดิ๊งสินะ อ่านแล้วคิดถึงง

ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 951
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
เอาใจช่วยในความพยายามของเฮียภพนะ..ท่าทางป๊าคงจะอ่อนลงบ้างตาม

ที่เจ๊ใหญ่พูดอดทนอีกหน่อยก้จะได้เจ้าตี๋คิมมาให้ฟัดสมใจอยาก

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
พี่เอกๆๆๆๆๆๆๆๆ โฮๆๆๆๆๆๆๆ T^T
เศร้าทุกครั้งที่นึกถึง

ถ้าคนเขียนเปลี่ยนไปเขียนแนวดราม่า
รับรองเราหมดน้ำตาหลายลิตร

ขอบคุณนะคะ +1^^

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
กรี๊ดดดดดด มาต่อแล้วววว

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
เฮีย!!! นั่นเฮียใช่มั้ย??

สู้ๆนะเฮียภพ ซักวันป๊าจะต้องเข้าใจและยอมรับได้ในซักวัน

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
สงสารเจ้ใหญ่ที่แท้งลูกคนแรก  :monkeysad: แถมยังเป็นความหวังของทุกคนด้วย
แต่ก็ค่อยยังชั่ว ที่ท้องต่อมาได้ลูกแฝด ตอนนี้ก็ต้องภาวนาให้หนึ่งในนั้น หรือทั้งคู่ เป็นผู้ชายล่ะนะ
แต่เหมือนยิ่งเวลาผ่านไป ความอึมครึม ไม่มีความสุขในครอบครัวของน้องคิม ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
ถึงป๊าจะยอมอ่อนลงให้เยอะแล้ว ทำเป็นไม่รับรู้ ที่คิมยังติดต่อกับพี่ภพ คงเพราะกลัวซ้ำรอยเฮียใหญ่
แต่ถึงไม่ขัดขวาง แต่ก็ไม่ยอมรับ ทั้งป๊าทั้งคิม ถึงเหมือนมีเส้นบาง ๆ ที่มองไม่เห็นกั้นเอาไว้ตลอดเวลา
ความสุขในครอบครัวที่ป๊าต้องการ ต้องทำยังไง คำตอบทั้งหมดมันก็อยู่ที่ตัวป๊าเอง และป๊าก็คงรู้อยู่แล้ว
เห็นด้วยกับความคิดพี่ภพ ที่ต้องทำอะไรซักอย่าง เพื่อก้าวไปข้างหน้า ดีกว่าคบกันแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ
มันจะมีความสุข มันก็สุขได้ไม่สุดอยู่ดีนั่นแหละ ตอนนี้นับถือในความอดทน และพยายามของพี่ภพมาก ๆ

พี่ภพ เจอพี่เอกด้วยความบังเอิญอย่างนี้ พี่เอกจะมีส่วนช่วยให้เรื่องของพี่ภพกับน้องคิมสมหวังบ้างมั้ย
ถ้าป๊าได้รู้ว่า คนที่ป๊าเคยกีดกันออกจากลูกชาย ยังคงมีรักที่ภักดีให้กับลูกชายป๊าเพียงคนเดียวอยู่จนทุกวันนี้
ป๊าจะเข้าใจได้มากขึ้นมั้ย ว่าไม่ว่าเพศไหน ก็สามารถมีความรักที่แท้จริงและมั่นคงได้เหมือนกัน
อ่านแล้วก็อึดอัดไปกับความรู้สึกของทุกคนจัง เมื่อไหร่จะมีความสุขกันได้เต็มที่ซะทีน้า
เอาใจช่วยพี่ภพกับตี๋คิมต่อไป ที่สำคัญ ขอให้เจ้ใหญ่ได้ลูกแฝดชายทีเท้อ รอตอนต่อไปค่ะ
ขอบคุณค่ะ  :L1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด