● เล่ห์รักฤดูร้อน ● ตอนพิเศษวันสงกรานต์ (หน้า 151) 13/04/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ● เล่ห์รักฤดูร้อน ● ตอนพิเศษวันสงกรานต์ (หน้า 151) 13/04/59  (อ่าน 1139500 ครั้ง)

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
แฮ่กกกกกกกกๆๆๆ   :katai1:

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
แว๊บนึงก็คิดว่าพี่เอกมาละไง เอาไปหาป๊าเกิดป๊าสติแตกขึ้นมา  :ling3:
จะรอเอาใจช่วยละกันนะคะเฮียเพี้ยน

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
คนอ่านก็พยายามจับต้นชนปลายเหมือนกันค่ะ ^^
ของแถมก็น่ารักมาก และรอจองแม่ไก่อยู่ทุกวันนี้ค่า  :katai3:

ออฟไลน์ KilGharRah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +169/-0
แอร๊ยยยยยย จะได้เจอพี่เอกแล้ว  :katai2-1:
ขอให้พี่เอกช่วยให้คุณพ่อเปลี่ยนใจด้วยเถอะนะ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก
สงสารทั้งครอบครัวเลย  :z3:

ออฟไลน์ ReiiHarem

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 887
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-3
ตอนนี้อ่านแล้วแบบ หน่วง อ่า
บอกไม่ถูก สงสารพี่เอก  :m15:

ออฟไลน์ NumPing

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
เรื่องวสันต์กับเอก กล่าวถึงทีไรก็สามารถสร้างความสะเทือนใจให้เราได้ทุกครั้งจริง ๆ นะ

คิมกับภพไม่มีวันซ้ำรอยเดิมแน่นอน


ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
จองไว้ก่อน
+คะแนนที่ 777 สวยงามมาก  บันทึกไว้ก่อน

--ตอนคิมพูดว่า “...หรือไม่ก็เลี้ยงไม่ได้แล้ว...”  รู้สึกจุกที่อกนิดๆ น้ำตาคลอเบาๆ ยิ่งตอนพยาบาลพูดถึงพี่เอก ยิ่งไปกันใหญ่
 ความรักของเฮียใหญ่กะพี่เอกสวยงามมากๆ

-รูปแม่แมวกะลูกแมวน่ารักอ่ะ  ท่าทางเจ้าตัวเล็กจะฝันร้าย แม่แมวเลยรวบมากอดปลอบ อร๊ายยยยยยยยยยยยยยน่ารักสุดๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-12-2013 10:54:49 โดย sukie_moo »

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
พี่เอก~ ฮรึก T^T

นึกถึงพี่เอกก็เศร้าทุกที
ขอให้เฮียพี่ภพหาทางออกให้ป๊ายอมรับได้นะคะ^^

ขอบคุณค่ะ +1

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8

MiiCell

  • บุคคลทั่วไป
 :z13: จิ้มๆ
อ๊ากกก...ก   ไม่ได้เข้านานต้องตามอ่านตั้งแต่ตอนที่ 53 หุหุ
 :katai1: โอย เนื้อเรื่องไปถึงไหนๆแล้ว ตกเทรนเลย

ปล.จุ๊บๆคิดถึงคนเขียนนะ ได้ข่าวจะรวมเล่มแม่ไก่ลูกเจี๊ยบ อิอิ ดีใจอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
น้ำตาตกกับเรื่องเฮียใหญ่กับพี่เอก :sad11:

ออฟไลน์ yong

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ประทับใจเรื่องพี่เอกมาก อ่านแล้วคิดถึงคนที่เคยคบ แต่จากเป็นไปแกล้ว ทิ้งไว้แต่ความรู้สึกดีๆๆ  อยากเป็นกำลังใจให้นะครับ

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
มาต่อได้แล้วน๊าาาาาาาาาา
พลีสสสสสสสสสสสส
คิดถึงใจจะขาดดดดดดดด

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
รอคอยยยย เธอมาแสนนานนนน ทรมานวิญญาณนักหนาาาาาาา~~~♪

วันอาทิตย์แล้วน้าา รีบปั่นนิยายมาให้อ่านหน่อยเร้วว55 +1 :กอด1:

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
● เล่ห์รักฤดูร้อน ●

ยกที่ 63 – จดจำ




มีวิธีทักทายตั้งมากมายในโลก สำหรับคนที่เพิ่งเคยพบกันแค่ครั้งเดียว(โดยบังเอิญเสียด้วย) และระดับความสนิทสนมอยู่ในขั้นคนไม่รู้จัก


“รู้จักคิมหันต์ไหมครับ?”


แต่สามภพเลือกจู่โจมแบบนั้น แล้วยังต่อด้วยร่ายชื่อสี่พี่น้องเป็นชุด เผื่ออีกฝ่ายจะข้องใจว่าเขาพูดถึงคิมหันต์คนไหน

“..วสันต์ วัสสานะ สิสิร คิมหันต์ พวกเขาสี่คน คุ้นชื่อหรือเปล่าครับ”

ชายหนุ่มตรงหน้าเบิกตากว้าง รอยยิ้มเลือนหายไปจากริมฝีปาก และสามภพมั่นใจว่าเขาถูกจ้องด้วยสายตาราวกับเห็นเป็นตัวประหลาดจากโลกอื่นอยู่เสี้ยววินาที ก่อนเจ้าบ้านจะกลับมาเป็นปกติเหมือนตอนแรกอีกครั้งอย่างแนบเนียน ทักทายด้วยหนึ่งในประโยคมาตรฐานประหนึ่งว่าไม่ได้ยินคำพูดเขาเมื่อครู่

“สวัสดีครับ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”

“ผม..”

“..?”

สามภพพยายามสงบจิตสงบใจ บอกตัวเองว่าอย่ารีบร้อน กลับมาทักทายด้วยมารยาทอย่างคนทั่วไปพึงทำ

“สวัสดีครับ”

“อา..สวัสดีครับ”

ก่อนกระบวนการทักทายจะวนเวียนไม่รู้จบ เขาสูดลมหายใจเข้าช้า ๆ  เอ่ยกับอีกฝ่ายชัดถ้อยชัดคำ

“คุณเอกภพใช่ไหมครับ ผมชื่อสามภพ เป็นทันตแพทย์ที่เพิ่งมาอยู่ปีนี้”

“อ้อ..ครับ”

“และเป็นคนรักของคิมหันต์”

“...”

“รู้จักเขาใช่ไหมครับ จำเขาได้หรือเปล่า ตอนนั้นเขายังเด็กมาก แต่คิดว่าคุณไม่น่าจะลืมเด็กที่เป็นน้องชายคนรักของตัวเอง..”

สายลมหวีดหวิวอยู่ข้างหูเขา เสียงครางต่ำของเครื่องจักรซึ่งแว่วมาจากไหนสักแห่งนั้นได้ยินชัดเจนเมื่อพวกเขาเพียงแต่มองหน้ากันในความเงียบ เจ้าของบ้านสีขาวหลังงามในเนื้อที่ราวสองไร่เบิกตากว้าง รอยยิ้มซึ่งใคร ๆ ต่างบอกว่าประดับอยู่บนใบหน้าสงบนิ่งอยู่เสมอ กลายเป็นเพียงการยกมุมปากอย่างฝืดฝืนกระทั่งเลือนหายไปในที่สุด

สามภพระบายลมหายใจยาว ก้มลงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เปิดอัลบั้มรูปที่มีภาพคิมหันต์ซึ่งเขาเคยถ่ายไว้ แล้วยื่นให้คนตรงหน้าดู

“...จำได้ไหมครับ คิม...เอ้อ หมายถึงคีม..ที่เป็นชื่อเล่นตามพ่อแม่เขาตั้ง” จากนั้นจึงเลื่อนไปยังรูปซึ่งเขาลอบเก็บภาพมาจากรูปถ่ายอีกที ภาพจริงนั้นอยู่ในอัลบั้มเก่า ๆ ในห้องคิมหันต์ 

สี่พี่น้องเมื่อสมัยยังเด็กยืนเรียงกัน ส่งยิ้มให้กล้องด้วยแววตาสดใสในความซีดจางของภาพ วัยเด็กอันเต็มไปด้วยความไร้เดียงสาของทั้งสี่ถูกเก็บบันทึกไว้ในนั้น แม้สีสันเลือนราง แต่ความทรงจำในวันเก่ายังคงชัดเจนราวกับมันเพิ่งถูกถ่ายไว้แค่เมื่อวันสองวันก่อน

ชายหนุ่มตรงหน้าจ้องมองพิกเซลเหล่านั้นบนจอโทรศัพท์ตาไม่กะพริบ ริมฝีปากเคลื่อนขยับเป็นพยางค์ไร้เสียง...แต่สามภพรู้ดีว่าอีกฝ่ายพูดอะไร


“...วสันต์’


เขามองตามสายตาเอกภพ เชื่อมั่นว่ามันคงไปหยุดอยู่กับรอยยิ้มของคนที่กอดคอคิมหันต์อยู่ในภาพ..รอยยิ้มของพี่ชายคนโตซึ่งจากไปแล้วตลอดกาล


“...คุณหมอชื่อสามภพหรือครับ?”

เป็นคำถามแรกที่เขาได้รับจากอีกฝ่าย หลังจากบทสนทนาชะงักไปครู่ใหญ่ และเขาแน่ใจว่าตัวเองจับได้ถึงความสับสนในน้ำเสียงแหบพร่านั้น

“ใช่ครับ”

“...คบกับคีมอยู่หรือ?”

“ใช่ครับ”

 “...แล้วมาที่นี่..?”

“ผมอยากให้คุณช่วย”

“เรื่องอะไรครับ”

สามภพสบตาคู่สนทนาตรง ๆ  เอ่ยออกมาเพียงสั้น ๆ  ในความหมายที่อีกฝ่ายน่าจะเข้าใจไม่ยาก
 
“..ปัญหาเดียวกับที่เคยเกิด”

เอกภพเม้มปาก มองเขาอย่างชั่งใจ และราวกับจะโยนหน้ากากชายหนุ่มหัวอ่อนยิ้มง่ายไปเสียตรงนั้น เสียเวลาลังเลอีกเพียงครู่เดียว ก็หันไปเลื่อนประตูรั้วให้เปิดกว้างขึ้นพลางหันมาบอกเขา

“ถนนข้างหน้าแคบไปหน่อย เอารถเข้ามาจอดในบ้านก่อนสิครับ”





ทางเข้าจากรั้วไปยังตัวบ้านค่อนข้างกว้างขวาง มีสวนหย่อมและสนามหญ้าสีเขียวสดอยู่ด้านข้าง ขาตั้งวาดรูปวางอยู่ตรงมุมเงียบสงบมุมหนึ่ง ล้อมรอบด้วยต้นไม้ร่มรื่นและไม้ประดับซึ่งแตกกิ่งก้านสวยงาม บอกให้รู้ว่าได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี

อีกฝั่งหนึ่ง เจ้าหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ที่เคยกระโจนออกมาจากริมถนนจนเขาเกือบขับรถชน กำลังเดินส่ายก้นอาด ๆ ตรงเข้ามาทางนี้ เอาศีรษะดันขาเจ้านายแล้วหันมามองเขา โบกหางเป็นพวงไปมาพลางย้ายร่างเข้ามาใกล้ แลบลิ้นทักทายอย่างเป็นมิตร

“ดุ๊กดิ๊ก” เอกภพปรามเบา ๆ  พอมีสิ่งมีชีวิตขนทองอ้วนฟูเข้ามาก็คล้ายจะทำให้บรรยากาศมีชีวิตชีวาขึ้นบ้าง

“ของคิมหันต์ก็ชื่อดุ๊กดิ๊กครับ” สามภพอดจะยิ้มน้อย ๆ ไม่ได้เมื่อนึกถึงไอ้ตัวแสบของเขา “พอรู้ว่าที่นี่มีโกลเด้นชื่อดุ๊กดิ๊กเหมือนกัน เขาก็บอกเจ้านี่คงเป็นดุ๊กดิ๊กที่หนึ่ง ส่วนของตัวเองเป็นดุ๊กดิ๊กที่สอง”

“คีมก็เลี้ยงหรือครับ”

“ลูกรักเขาละ ชื่อดุ๊กดิ๊กเหมือนกัน เริ่มแก่ตามกันไปแล้วครับ”

“แล้วเขาเป็นยังไงบ้าง”

“ดีครับ” ชายหนุ่มผงกศีรษะ ขณะที่สังเกตภายในตัวบ้านไปด้วย ข้างนอกว่าสวยแล้ว ตกแต่งภายในก็ถือว่าเยี่ยมทีเดียว เรียบง่าย แต่ดูอบอุ่น “กวนประสาทดี”

อีกฝ่ายผายมือเชิญให้เขานั่งที่โซฟารับแขก บอกให้รอสักครู่แล้วเดินหายไปด้านหลัง ครู่หนึ่งก็กลับมาพร้อมน้ำเย็นและคุ้กกี้ในจานใบเล็ก

“หมอทานนี่ได้ไหมครับ พอดีไม่ค่อยได้ซื้อขนมติดบ้าน”

สามภพโคลงศีรษะเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร บรรยากาศเป็นทางการเกินไปเช่นนี้ดูเหมือนจะไม่ทำให้อะไรคืบหน้าสักเท่าไรนัก

“เรียกผมว่าภพเฉย ๆ ก็ได้ เรียกแบบเดียวกับที่เรียกคนเป็นรุ่นน้องทั่วไป”

“อ้อ”

“และถ้าไม่ว่าอะไร ผมขออนุญาตเรียกคุณว่า ‘พี่เอก’ เหมือนที่คิมเรียก เราจะได้คุยกันสบายใจขึ้น”

คนฟังนิ่งไปแวบหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ  พลางทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้าม

“ได้..ภพ นายดูท่าทางจะรู้เรื่องอะไรมากอยู่?”

“พอสมควรครับ”

เอกภพแค่นหัวเราะให้กับความบังเอิญบนโลกนี้ พอคุยกันเหมือนคนทั่วไปก็คล้ายว่าจะแสดงความเป็นผู้ใหญ่กว่าออกมามากขึ้น “ก่อนจะขอความช่วยเหลืออะไร ไหนลองเล่าเรื่องตอนนี้ให้ฟังหน่อยได้ไหม”

“เรื่องใครหรือ?”

“ทั้งหมดนั่นแหละ คีมที่นายบอกว่าคบกับเขาอยู่ เจ้าสา เจ้าสิ เป็นยังไงบ้าง...แล้วที่บ้านเขาล่ะ”

เขาพยักหน้า นึกถึงคิมหันต์ที่คงกำลังยุ่งเรื่องเรียนน่าดู ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงพบกันใหม่ ๆ จนกระทั่งถึงตอนนี้ วันที่เจอกันครั้งแรก สารพัดวีรกรรมแสบทรวงยากจะลืม (ใครลืมลงก็บ้าแล้ว) ความยียวนกวนประสาท พูดมาก มือไว เอาแต่ใจ แต่ก็ขี้อ้อน หลายครั้งที่หัวเราะออกมาเมื่อกล่าวถึง และหลายครั้งก็เผลอยิ้มบางเบาโดยไม่รู้ตัว

“เชื่อแล้วว่ารักกันจริง” อีกฝ่ายขัดอย่างติดตลก

สามภพกระแอมครั้งหนึ่ง จากนั้นเปลี่ยนไปเรื่องพี่สาวทั้งสองของคิมหันต์แทน “ส่วนพี่สา ตอนนี้แต่งงานแล้ว กำลังตั้งท้องลูกคนแรก..อืม..หรือต้องบอกว่าคู่แรก”

“แฝดหรือ?”

“ใช่ครับ ก่อนหน้านั้นเคยแท้งมาครั้งหนึ่ง แต่ปลอดภัยดี กำลังใจก็ดีด้วย”

“สาเป็นอย่างนั้นตลอดละนะ” เอกภพพยักหน้า คลี่ยิ้มน้อย ๆ ครั้งนี้ดูมีความสุขจริงโดยไม่ได้เสแสร้ง “แล้วสิล่ะ เดี๋ยวนี้คุยเก่งมากขึ้นหรือยัง”

เขานึกไปถึงหน้านิ่ง ๆ ของพี่สาวคนรอง คิดเอาเองว่ารายนี้ก็คงไม่ได้เปลี่ยนจากสมัยเด็กมากนัก “ไม่ค่อยพูดเท่าไรนะครับ เว้นตอนจิกกัดกับคิม”

“ฮะ ๆ เด็กพวกนี้นี่นะ”

“แต่พวกเขาก็รักกันดีมาก”

อีกฝ่ายพยักหน้าเห็นด้วย

“แล้วพี่เอกล่ะครับ อยู่อย่างนี้ ไม่เคยคิดจะมีใครใหม่หรือ”

ใบหน้ายิ้มแย้มของอีกฝ่ายลดระดับกลับมาเป็นเรียบนิ่งทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“บ้านกว้างอยู่นะครับ ผมแค่แปลกใจว่าพี่อยู่คนเดียวโดยที่ไม่เคย—”

“..เคยสิ...” เอกภพถอนหายใจยาว “..เคยคิดว่าถ้าไม่ก้าวข้ามมันไปให้ได้ ก็จะต้องจมอยู่กับอดีตอย่างนี้ตลอดไป ถ้าหากมีใครสักคนที่จะรักได้อีกครั้ง...”

“ถ้าอย่างนั้นแล้ว..?”

ชายหนุ่มมองหน้าเขา ด้วยสายตาเหมือนกับผู้ใหญ่ที่กำลังมองเด็ก

“รู้ไหม พี่เคยเกือบจะแต่งงานด้วยซ้ำ คิดว่าอยากมีชีวิตใหม่ ผู้หญิงคนนั้นน่ารัก นิสัยดี ถ้าแต่งด้วยคงมีความสุข ...แต่เอาเข้าจริงแล้ว พี่ก็เห็นเธอเป็นแค่ตัวแทน สุดท้ายเราก็ทนกับความรู้สึกแบบนั้นไม่ได้กันทั้งคู่”

“แค่คนเดียวหรือครับ”

“..ไม่หรอก” ชายหนุ่มยิ้มบาง แต่ราวกับไม่ได้ยิ้มให้เขา “..หลังเลิกกับผู้หญิงคนนั้น ทีนี้ก็ใช้ชีวิตเละเทะเลย”

เขาเลิกคิ้วให้กับคำว่า ‘เละเทะ’

“เหมือนคนหลงทางน่ะ เที่ยวจัด ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ลองคบคนนั้นคนนี้ไปทั่ว ทั้งผู้หญิงผู้ชาย ทุกคนบอกว่าพี่คงเสียใจที่เลิกกับแฟน แต่ความจริงไม่ใช่ พี่เสียใจที่วสันต์ไม่อยู่ตรงนี้ สับสนที่ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากพยายามหาคนใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วก็ค่อยมารู้ตัวในที่สุดว่าไม่มีใครแทนเขา.. จะทนกับความรู้สึกผิดต่อคนที่คบอยู่ก็ไม่ได้ ในเมื่อทำอย่างไรก็ไม่สามารถรักคนอื่นได้หมดใจอย่างนั้นอีกครั้ง...”


“สุดท้ายก็คิดว่าไม่เห็นเป็นไรเลยถ้าจะอยู่อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ...ก็เลยย้ายมาที่นี่ สร้างบ้านสีขาวอย่างที่เคยสัญญากับเขา มีขาตั้งวาดรูปในสวนหย่อม หมาโกลเด้นที่เราบอกจะเลี้ยงแล้วตั้งชื่อตามใจเขา อย่างที่เขาก็ตามใจคีมมาอีกที เวลาผ่านไปก็วาดรูปเขาไว้มากมายไปหมด แขวนไว้เต็มผนังห้อง เก็บไว้เต็มลิ้นชัก ...ไม่รู้นะ มันอาจจะดูเหมือนคนบ้า จมปลักกับอดีต พี่ผ่านช่วงฟูมฟายมาแล้ว ถึงมันจะเศร้า..แต่ก็ไม่ได้คร่ำครวญอีก พี่มีความสุขกับการแค่ได้คิดถึง...มันก็เท่านั้น....”

“...อายุเพิ่งสามสิบกว่าเองนี่ครับ” สามภพลองหยั่งเชิง “สำหรับผู้ชายแล้ว.. นี่ก็แค่เริ่มต้น”

“นั่นสินะ” คนฟังหัวเราะ เลี่ยงไปถามเขาอย่างอื่นแทน “แล้วปัญหาที่ว่า เรื่องป๊าเขาไม่ยอมรับหรือ?”

เขาพยักหน้าช้า ๆ

“อย่าทำอะไรบุ่มบ่าม”

“พี่สาก็บอกอย่างนั้น แต่ป๊าเขาก็รู้เรื่องแล้วนั่นละ กีดกันเต็มที่เสียด้วย”

“ไม่ได้มีกระทบกระทั่งถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันใช่ไหม?”

“ไม่มีครับ”

“งั้นก็ดีแล้ว” เอกภพพยักหน้า “แอบคบกันต่อไปก็ได้นี่”

“ป๊าเขาเคยจะหาผู้หญิงมาให้แต่งงานกับคิมด้วย”

“เล่นอย่างนั้นเลยหรือ”

เขาถอนหายใจ เกือบจะพร้อมกับเอกภพ

“ก็ครอบครัวคนจีนละนะ”

“แต่ทุกคนบอกเขาอ่อนลงเยอะ มีแต่คำว่า ถ้าเป็นเมื่อก่อน ๆ กรอกหูผม”

“จริงอย่างนั้นนั่นละ พี่เองก็อาจจะต้องบอกแบบเดียวกัน...” อีกฝ่ายพูดต่อขณะที่มองไกลออกไปนอกหน้าต่างกระจก “...ถ้าเป็นเมื่อก่อน นายอาจจะไม่รอดมานั่งคุยอยู่ตรงนี้ก็ได้”

“และผมก็คิดว่าเขาดูเจ็บปวด”

เอกภพเงียบไปครู่ใหญ่ กว่าจะพึมพำออกมาเสียงเบาหวิว

“...แน่ละ...หัวอกคนเป็นพ่อ...เขาเจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าใครหรอก”

“พูดแบบตรงไปตรงมานะครับ ผมอยากให้พี่ช่วย”

อีกฝ่ายหันกลับมามองเขาตรง ๆ “ช่วยยังไงหรือ”

“อาจฟังดูเป็นวิธีตื้น ๆ  แต่ถ้าเขารู้ว่าพี่ยังรักลูกชายของเขาอยู่..บางที...เขาอาจจะยอมรับได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร...”

เอกภพโคลงศีรษะน้อย ๆ “นายเองยังพูดด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจเลย”

“แต่ถ้าเราไม่ลอง—”

“จะคิดดูแล้วกัน”

“....”

“นายกลับไปเถอะ เย็นมากแล้ว”

สามภพขมวดคิ้วน้อย ๆ  ต่อให้พูดออกมาเสียงนุ่มหรือด้วยหน้าตายิ้มแย้มอย่างไร ฟังดูก็ออกจะเป็นการไล่อยู่ชัด ๆ 

เขาลุกจากโซฟา อดไม่ได้จะเคืองอยู่นิดหน่อย

“ครับ งั้นขอตัวกลับก่อน” 

เดินออกไปกำลังจะพ้นประตูบ้าน ก็ได้ยินเสียงคนข้างหลังดังขึ้น

“เอาไว้พาคีมมาเที่ยวสิ”

“...?”

“มาทักทายไอ้ดุ๊กดิ๊กที่หนึ่ง” อีกฝ่ายหัวเราะในลำคอ “ความจริงแล้วมันควรต้องเป็นหมาของเขา”

เขาจ้องหน้าเจ้าของบ้าน รอยยิ้มจริงใจปรากฏอยู่บนนั้น จนอดไม่ได้จะยิ้มตอบพร้อมกับค้อมศีรษะน้อย ๆ  ความขุ่นเคืองละลายหายไปตรงหน้าประตูนั่นเอง

“ครับ”






วันเสาร์ของสัปดาห์ถัดมา เขามาหยุดอยู่หน้ารั้วบ้านหลังเดิม แต่คราวนี้พร้อมกับคิมหันต์ เร็วกว่าที่คาดไว้ เพราะพอเจ้าตัวรู้เรื่องเข้าก็ใช้เวลาเพียงแค่คืนเดียวตัดสินใจขอ (แกมบังคับข่มขู่อย่างน่าเตะตามประสา) ว่าให้พามาด้วย อย่างไรก็อยากเจออีกสักครั้ง เสาร์อาทิตย์นี้ว่าง หรือจะให้ไปหาเองถึงโรงพยาบาลก็ได้ แต่หลังจากนั้นช่วยพาไปด้วยคน

“ที่นี่น่ะหรือ?”

“อา”

“ไม่อยากเชื่อเลย เฮียเพี้ยนมาหาพี่เขาก่อนผม”

“แล้วทำไมกันล่ะ”

“เฮ้ ๆ ดุ๊กดิ๊ก!” คิมหันต์เลิกฟังเขาเรียบร้อย หันไปทำตาลุกวาวใส่เจ้าหมาแก่ที่ส่ายก้นออกมาต้อนรับอีกฝั่งรั้ว ขณะที่เจ้าของดูเหมือนจะไม่อยู่บ้าน “นี่ใช่ไหมดุ๊กดิ๊กที่ว่า”

“ใช่”

สามภพชะเง้อมองเข้าไปในโรงจอดรถข้างตัวบ้าน วันนี้รถที่เคยเห็นตอนมาครั้งก่อนไม่อยู่ เขาพลาดเองที่ไม่รู้จักขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อหรือถามก่อนว่าอีกฝ่ายจะว่างวันไหน นึกอยากมาก็มา สะเพร่าอะไรอย่างนี้

“พี่เอกไม่อยู่แหงเลยอะ”

“อืม”

“เฮียเพี้ยนโทรหาดิ๊”

“ไม่มีเบอร์”

คิมหันต์หรี่ตา ทำหน้ากวนประสาทใส่ “เข้าไปนั่งคุยกับพี่เขาในบ้านโดยไม่ได้ขอเบอร์เนี่ยนะ”

“เออน่า”

“เสียเที่ยวชะมัดเลย”

“งั้นเรากลับกันก่อน”

“ปีนไหม?” ว่าพลางทำหน้าเจ้าเล่ห์ คิมหันต์สมัยเกรียนจัดคล้ายจะกลับมาอีกครั้ง

“...”

“ปีนแบบที่เฮียเพี้ยนปีนรั้วบ้านผมบ่อย ๆ ไง”

“จะบ้าเรอะ”

“ด่ามาได้ ตอนนั้นผมก็อยากพูดกับพี่อย่างนี้เหมือนกันนั่นแหละ”

สามภพกุมขมับ “กลับก่อน เดี๋ยวพามาใหม่ ไปหาอะไรกินกันก่อนก็ได้”

“น่า ๆ” อีกฝ่ายเห็นเขาปฏิเสธเลยยิ่งแกล้งก่อกวน “ตอนนี้ไม่มีคน แถมพี่เอกก็ใจดีออก เฮียเพี้ยนดูต้นทางให้หน่อย”

“ถ้าบอกว่าใจดีแล้วทำไมต้องให้ดูต้นทางด้วยเล่า”

คิมหันต์ยิ้มเผล่ เดินหาตำแหน่งเหมาะ ๆ ตรงส่วนที่เป็นเสาปูนขนาดใหญ่แล้วเตรียมโหนตัวขึ้นไป

“เผื่อคนอื่นเห็นแล้วนึกว่าผมเป็นขโมยขึ้นมาทำไง ถ้าโดนสอยร่วงแล้วใครจะดูแลเฮียเพี้ยน”

เขาอยากจะหัวเราะให้ลั่น ไม่รู้ทุกวันนี้ใครดูแลใครอยู่ รีบเดินไปคว้าแขนอีกฝ่ายให้หยุดทำเป็นเล่นเรื่อยเปื่อยเสียที พร้อมกับที่เสียงคุ้น ๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง

“ทำอะไรกันน่ะพวกนาย?”

เจ้าบ้านกำลังมองตรงมาด้วยสีหน้าเหวอ ๆ จากในรถซึ่งเข้ามาจอดเทียบ กระจกเปิดลงจนสุด มีเขากับคิมหันต์ยืนชิดรั้วด้วยท่าทางไม่ให้ดูเป็นที่น่าสงสัย แม้รู้ตัวว่าไม่ทันแน่แล้ว กว่าจะเปิดกระจกรถลงมาถามอย่างนี้คงเห็นพวกเขามาแต่ไกล

“....พี่...เอก?” คิมหันต์พึมพำอยู่ข้าง ๆ เขา ดึงสายตาเจ้าของชื่อให้มาตรึงอยู่กับตัวเองโดยอัตโนมัติ “...เป็นพี่จริง ๆ ด้วย”

เอกภพเปิดประตูลงจากรถ เดินตรงมาทางพวกเขา แต่ดูเหมือนจุดสนใจอยู่ที่คิมหันต์มากกว่าโดยไม่ต้องเดา

“...ผมเอง...จำได้ไหม” คิมหันต์ชี้ตัวเอง “...คีม..ที่เป็นน้อง—”

“โตขนาดนี้แล้ว...” ชายหนุ่มกระซิบ สีหน้าเหมือนทั้งอยากหัวเราะและร้องไห้ออกมาพร้อมกัน “...เหมือนพี่นายไม่มีผิด...”

สามภพมองทั้งสองคนตรงหน้า เหตุการณ์ประมาณนี้เขาคาดไว้อยู่แล้วว่าอาจเกิดขึ้นได้ เป็นการพบกันที่หากมองให้ซึ้งก็คงจะซึ้งดี...

แต่ไอ้ที่คาดไม่ถึงก็คือตอนเอกภพดึงคิมหันต์เข้าไปกอดไว้แน่นนั่นละ

“อ้าวเฮ่ย!?”

เขากำลังจะไปคว้าเจ้าเด็กในสังกัดตัวเองออกมาเป็นการด่วน ต่อให้เมื่อก่อนเคยสนิทกันอย่างไร แต่ทำอย่างนี้ก็ดูออกจะข้ามหน้าข้ามตาเกินไปหน่อย ทว่ายังไม่ทันได้จับแยกกลับมีอันต้องชะงักลงกลางคัน


“!?”


คิมหันต์รู้สึกได้ถึงหยดน้ำอุ่น ๆ ที่ขยายตัวเป็นวงบนไหล่ของตัวเอง


“....พี่....เอ..ก...?”


เอกภพกำลังร้องไห้...หลังจากที่ไม่เคยเสียน้ำตาสักหยดมาเป็นเวลาหลายปี







 

มีต่อรีพลายถัดไปค่ะ
v
v
v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-12-2013 22:43:27 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
ยกที่ 63 (ต่อ)



“เฮียเพี้ยนมากอดหน่อยเร้ว” คิมหันต์ตบตักตัวเองแปะ ๆ  ชะเง้อมองชายหนุ่มที่นั่งหันหลังให้ จ้องแล็ปท็อปจนแทบจะมุดเข้าไปในหน้าจอได้แล้ว  “เฮียเพี้ยนค้าบบบ”

มีเพียงเสียงนิ้วกระทบคีย์บอร์ดตอบกลับมา ส่วนเป้าหมายตัวใหญ่ยังหันแผ่นหลังใส่อย่างแน่วแน่

“พี่ภพ”

“...”

“พี่ภพ!?”

คิมหันต์นิ่วหน้า มนุษย์หมาบ้าของเขาอาการหนักแล้วจริง ๆ  เห็นอย่างนี้ไม่นึกเลยว่าจะขี้งอนอยู่ไม่น้อย ตั้งแต่เขาถูกเอกภพกอดประสาพี่น้องที่หน้าบ้าน เจ้าตัวก็ทำหน้าตึงมาตลอด ตอนอยู่บ้านคนอื่นยังทำตัวเออออคุยไปตามเรื่องตามราวได้บ้าง แม้จะพูดน้อยกว่าปกติ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะไม่ค่อยรู้เรื่องเมื่อก่อนที่เขาคุยกับอีกฝ่ายเสียยาววันนี้ แต่พอกลับมาเท่านั้นละ อาการออกเลยเชียว ตั้งแต่อยู่บนรถจนถึงบ้านพักคุยกันแทบนับคำได้ ซึ่งไอ้ที่นับนั่นก็เป็นเขาพูดคนเดียวเสียมากด้วยสิ

“โอย...ร้อนเนอะ” เขาเปรยไม่เข้ากับสภาพอากาศ “อย่างนี้มันน่าแก้ผ้านอนแผ่” ว่าพลางปลดกระดุมเสื้อตัวเองแล้วเหลือบมองแผ่นหลังนิ่งเป็นหินของอีกฝ่ายไปด้วย

“....”

ทำไมนิ่งจังวะ ปกติต้องมีกระโจนใส่หรือไม่ก็จับกอดแรง ๆ บ้างแล้วไม่ใช่หรือ

คิมหันต์ส่งเสียง “จิ๊” อย่างขัดใจ ก้มลงแกะกระดุมเสื้อต่อจนหมด พร้อมกับที่ปากก็เจื้อยแจ้วไปเรื่อย “เนี่ยนะ ช่วงนี้ซิทอัพทุกวันเลย กล้ามท้องมาละ เฟิร์มน่าลูบสุด ๆ  เฮียเพี้ยนดูดิ สวยเปล่า”

เขาโยนเสื้อทิ้ง พร้อมกับที่พัดลมส่ายมาทางนี้ โชยเอาลมเย็น ๆ หนึ่งวูบต้องผิวเนื้อแบบไม่ทันตั้งตัว ถึงกับต้องหันไปแอบสบถงุบงิบ

“เชี่ย หนาว”

ชายหนุ่มลูบแขนตัวเองป้อย ๆ ถลาไปปิดพัดลมพลางลอบมองเจ้าของบ้านพักที่เขาอุตส่าห์หอบผ้าผ่อนมานอนด้วยทั้งที่ใกล้สอบ แล้วดูทำเข้าสิ นิ่งเป็นสากกะเบือ งอนเป็นสาวน้อยแรกแย้มกับอีแค่เห็นพี่น้องกอดกัน (ไม่ร่วมสายเลือดแต่ก็ใกล้เคียงนั่นละ) ทีเขาเคยฟัดกับไอ้เพื่อนรักปิ่นหยกตั้งมากมายเมื่อก่อนยังไม่เห็นมาทำตัวเยอะขนาดนี้ใส่

เย็นไว้คิมหันต์ เขาบอกตัวเอง ลุงแกแก่แล้ว ขี้งอนบ้างมันเรื่องธรรมดา

“กางเกงตัวนี้ก็เริ่มคับด้วยแหละ สงสัยฟิตกล้าม..” เขาด่าตัวเองในใจ เหตุผลทุเรศอะไรกันนี่ แต่ยังเดินหน้าลุยต่อ “ท่าทางจะใส่ไม่ได้แล้ว ถอดทิ้งเลยดีไหม”

ขาพาตัวเองเดินเข้าไปใกล้เก้าอี้ที่สามภพนั่งจากข้างหลัง มือเกาะอยู่ที่กระดุมกางเกงยีนส์ตัวเองด้วยความลังเล ปลดออกแล้วก็กลัดเข้าไปใหม่ คิ้วขมวดอยู่กลางหน้าผากขณะต่อรองกับตัวเอง ถอดเลยนี่จะลงทุนไปไหม เอาแค่พูดว่าจะถอดแต่ไม่ถอดแล้วกัน แต่ท่อนบนก็ถือว่าเซอร์วิสน่าดูแล้ว

“....”

ดึงขอบกางเกงลงให้ต่ำหน่อยก็ได้เอ้า!

“พี่ภพ?”

แล้วนี่นิ่งไปไหนกัน นิ่งเอาโล่หรือ?

“มีกางเกงในให้ยืมปะ ผมลืมเอามาจากคอนโดฯ”

จะงอนก็ให้มีขอบเขตหน่อยสิเว้ย

“ไม่อยากกอดผมแล้วหรือ?”

“อุ!”

“??”

“หึ ๆ”

“เฮีย?”

แล้วสามภพก็หัวเราะออกมาลั่นห้องอย่างสุดจะกลั้น

“เฮ่ย!?”

ตอนนั้นเองที่คิมหันต์คล้ายจะเพิ่งรู้ตัวว่าโดนอำเข้าแล้ว

“น่ารักไปไหมเด็กน้อย?” สามภพหันหลังกลับมามอง มือหนึ่งคว้าแขนเขาไว้ไม่ให้เดินหนี “เดี๋ยวนี้เลิกเกรียน เปลี่ยนเป็นขี้อ้อนแทนแล้วหรือ”

“นิสัยว่ะ! ไม่ได้งอนก็บอกกันดี ๆ สิเว้ย เสียเวลาจริงเลย” คิมหันต์บ่นอุบอิบ “นี่แม่งถามอะไรก็ไม่ตอบ..”

“เมื่อกี้ทำงานอยู่” ชายหนุ่มอ้างไปเรื่อย กลั้นขำตัวสั่น กระตุกแขนเขาให้ขยับเข้าไปใกล้  “ตอนนี้เสร็จแล้ว...งั้นตอบนะ เอาทีละอย่าง”

“หือ?” คิมหันต์เลิกคิ้ว งงนิดหน่อยว่าจะตอบอะไรในเมื่อคราวนี้ยังไม่ได้ถาม

“อย่างแรก ห้องนี้ไม่ร้อนหรอก แต่ถ้าอยากแก้ผ้านอนแผ่ก็ไม่ว่าอะไร”

“หา?”

“ถัดมาก็...” อีกฝ่ายกระตุกมุมปาก ฟันเขี้ยวที่โผล่แวม ๆ ยิ่งทำให้รอยยิ้มดูเจ้าเล่ห์ มืออีกข้างที่ว่างยกขึ้นวางทาบบนหน้าท้องเขา เย็นวาบตามอากาศจนเผลอสะดุ้ง “...ไหนกล้ามท้องที่ว่าซิทอัพทุกวัน? ไม่เห็นต่างจากเดิมเลย..”

“....ก็....แบบ..”

“ส่วนที่ว่าน่าลูบไหมน่ะหรือ..? อืม...” สามภพขมวดคิ้ว ปั้นสีหน้าคล้ายกำลังพิจารณาอย่างหนัก ค่อย ๆ ลากปลายนิ้วลงต่ำอย่างอ้อยอิ่ง “...ก็พอไหวอยู่ แต่อย่างนี้อาจดีกว่า”

พูดจบก็แนบริมฝีปากลงไปตรงกลางท้อง ลากปลายลิ้นร้อนผ่าวผิดกับฝ่ามือเย็น ๆ เมื่อครู่บนผิวเนื้อเขาจนขนลุก หลุดอุทานด้วยเสียงประหลาดออกไป

“อะ...อื้อ!”

“ต่อไปก็อะไรนะ...กางเกงคับเพราะฟิตกล้ามหรือ?”

คิมหันต์หน้าเหวอ ร้อนวูบวาบไปทั้งตัวขึ้นมาทันที รู้แล้วว่าสามภพจะตอบเรื่องอะไร เล่นเรียงมาตั้งแต่แรก แถมยังมีแนวโน้มจะหนักข้อขึ้นเรื่อยตามที่เขาเพ้อเจ้อไปเมื่อครู่เสียด้วย

“..อะ..โอเค ๆ ...ไม่ต้องตอบแล้วก็ได้” เขาทำโบกมือโบกไม้เหมือนไม่ใส่ใจ “ไม่ได้งอนก็ดีแล้ว ผมไปอาบน้ำละ”

“เดี๋ยวสิ” อีกฝ่ายหัวเราะ “ยังตอบไม่หมดเลย กางเกงนี่พี่ว่าไม่คับเท่าไหร่ แต่ถอดออกก็ดี”

“เฮ่ย!” ถึงกับร้องเสียงหลง “เดี๋ยวก่อนดิ!”

แล้วก็ได้แค่นั้น ก่อนมันจะโดนดึงไปกองอยู่ที่เข่าจนก้าวขาไม่ถนัด พอจะวิ่งหนีเลยพาให้สะดุดลงไปกองกับพื้น ดิ้นสู้กับสามภพที่หัวเราะชอบใจกับความได้เปรียบทางกายภาพของตัวเอง อันทำให้ดึงกางเกงที่คาอยู่หลุดออกจากขาเขาได้ไม่ยากเย็น

“ส่วนกางเกงใน พี่มีให้ยืม แต่คงไม่คิดจะใส่ซ้อนกันสองชั้นหรอกใช่ไหม”

“...หะ...หา!?”

“เพราะงั้นก็ถอดตัวที่ใส่อยู่ออกมาก่อน”

“โอ๊ย! เฮียเพี้ยนโรคจิตโคตร!”

“ไอ้คนที่ถามแต่แรกมันก็ต้องโรคจิตกว่าอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง”

“ผมไม่เล่นแล้ว ปล่อยเว้ย!”

“เสียงดังเดี๋ยวบ้านข้าง ๆ ก็ได้ยินหรอก หลังนั้นเป็นของแพทย์ประจำนะ”

คิมหันต์ชะงัก เวรแล้วไง ลืมไปเสียสนิทว่าที่นี่บ้านพักในโรงพยาบาล

“เป็นเด็กดีหน่อย จะตอบคำถามสุดท้ายแล้ว”

เขาถึงกับสบถในใจว่ายังไม่หมดอีกหรือ(วะ!?) นั่งห่อตัวงอขารักษาอาภรณ์ชิ้นสุดท้าย ก้มหน้าชิดเข่าแบบไม่รู้จะอายได้มากกว่านี้อย่างไรอีก

“...เออ...ตอบมา...ว่าแต่ถามอะไรไปวะเมื่อกี้”

สามภพไม่ได้พูดอะไร และเขาก็มัวแต่ก้มหน้าเลยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเพียงแต่ขยับปากโดยไม่มีเสียงหรือเปล่า หลังจากนั้นเป็นความร้อนในอ้อมกอดอีกฝ่ายที่คุกเข่าตรงหน้าแล้วโอบแขนไว้รอบตัวเขา

“ก็ต้องอยากแหงอยู่แล้ว”

คำตอบมาแบบนั้น...แผ่วเบาอยู่ข้างหูพร้อมกับลมหายใจอุ่น ๆ  ว่าแต่ต่อจากเรื่องกางเกงในบัดซบนั่น เขาก่อกวนสามภพด้วยคำถามเพ้อเจ้อว่าอะไรไปนะ?

“..เฮีย?”

อ้อ..ใช่..

“เห็นพี่เอกกอดเราแล้วพี่หึงชะมัดเลย”

เขาเพิ่งถามไปว่าไม่อยากกอดแล้วหรือ?

“ให้ตายเถอะ ถ้าตอนนั้นเขาไม่ได้ร้องไห้อยู่อาจเผลอต่อยไปแล้วก็ได้” สามภพบ่นพึมพำ “อย่าคุยสนิทสนมกับเขานักได้ไหม”

คิมหันต์คิดว่าเขาควรสลด แต่ริมฝีปากกลับวาดเป็นรอยยิ้มทั้งที่ยังซ่อนใบหน้าไว้กับหัวเข่า

“...ไม่ได้หรอก”

“...”

“ลืมแล้วหรือ ผมชอบให้เฮียหึง”

เขาเหลือบตาขึ้นมอง สบเข้ากับสายตาอีกฝ่ายที่จ้องลงมาพอดี และเขาต้องยอมรับชอบแววตาแบบนี้มากขึ้นทุกวัน

“หึงผมเยอะ ๆ...รักผมคนเดียว ต้องให้บอกกี่ครั้งกัน”

“....”

เขานึกถึงคนรักของพี่ชายที่เพิ่งได้เจอวันนี้ ผู้ชายคนนั้นยังรักพี่ชายของเขาแม้เวลาจะผ่านไปเป็นสิบปี ในบ้านเต็มไปด้วยรูปวาดที่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกรัก โศกเศร้า โหยหา แต่ก็ยังคงเหลือประกายแห่งความสุขไหลวนอยู่ที่นั่น

ตอนแรกที่ได้ฟังจากสามภพ เขานึกหวั่นว่าเอกภพจะอยู่อย่างไรหากยังจมกับความรู้สึกในวันคืนเก่า ๆ  แต่หลังจากได้เจอกันวันนี้ เขาบอกได้ว่าอีกฝ่ายยังมีความสุขดีกับสิ่งที่พี่ชายเขาเหลือทิ้งไว้ แม้เวลาอาจไม่ได้ทำให้หายเจ็บปวด แต่อย่างน้อยก็ทำให้ผู้คนคุ้นชินกับมันมากขึ้น ถึงจะร้องไห้เมื่อเจอกันครั้งแรกกับเขาที่หน้าตาคล้ายพี่ชาย แต่สุดท้ายแล้ว..พวกเขาก็สามารถคุยกันถึงเรื่องดี ๆ เกี่ยวกับวสันต์โดยที่ยังมีรอยยิ้มซึ่งปราศจากการเสแสร้งบนใบหน้า

“ไอ้เด็กเรื่องเยอะ”

คิมหันต์หัวเราะชอบใจ แต่ยังรู้สึกหน้าร้อนเกินกว่าจะเงยขึ้นจ้องตาตรง ๆ

“ผมรักพี่นะ”

เขาไม่คิดเสียใจเลย ต่อให้ลงเอยแบบไหนก็ไม่เสียใจทั้งนั้น สิ่งที่ได้เห็นวันนี้บอกให้รู้ว่าความรักเป็นเรื่องสวยงามไม่ใช่หรือ.. แม้จะสุขหรือเศร้า หัวเราะหรือร้องไห้ แต่สุดท้ายมันก็สวยงามอยู่ดี เหมือนกับภาพทั้งหมดที่เอกภพวาด แขวนเอาไว้จนเต็มผนัง การที่จะรักใครสักคนได้ขนาดนั้นไม่ใช่เรื่องผิดสักนิด ต่อให้ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว แต่พี่ชายเขายังจะมีชีวิตอยู่ในใจผู้ชายคนนั้นเสมอ..อยู่ในใจของทุกคนที่ยังคิดถึงเขา...แค่เพียงเราไม่ลืมเท่านั้นเอง

“ผมรักพี่มาก ๆ”

“นั่นไม่ใช่คำถามนี่”

“บ้าฉิบ” แย่หน่อยตรงเสียงเขาสั่นเครือกว่าที่คิด เสียฟอร์มเป็นบ้า “..งั้นถามอะไรดีล่ะทีนี้”

“ไม่ร้องครับ..” สามภพกระซิบเสียงอ่อนโยน ลูบหลังเขาแผ่วเบาด้วยมือเย็น ๆ นั่นอีกแล้ว “ไม่ถามก็ตอบได้”

“....”

“หึงคนเดียว รักคนเดียว โอเคไหม?”

“แล้วก็จะไม่ลืมผม”

มะเหงกถูกส่งลงกลางศีรษะพอดีเป๊ะ “ใครจะไปลืมไอ้ตัวปากเสียที่ปล่อยยางรถคนอื่นตั้งแต่เจอกันวันแรกลง”

“นั่นแหละจุดประสงค์” เขาหลุดหัวเราะปนสะอื้น “..ผมจะเป็นที่จดจำของเฮียเพี้ยน”

อีกฝ่ายเงียบไปพักใหญ่ กว่าจะยอมเอ่ยปากอีกครั้ง

“...ปากหมาจริง ๆ อย่าพูดอะไรเหมือนเป็นลางงั้นสิ เดี๋ยวจับถอนฟันทิ้งหมดปากเลย”

คิมหันต์หัวเราะ


รู้ดีว่าเขาก็ไม่มีทางลืมคนบ้าที่เคยประมูลตัวเขาในงานโรงเรียนด้วยราคาหนึ่งหมื่นบาทได้แน่ ๆ



- หมดยกที่ 63 –







มาต่อแล้วค่ะ แฮร่กกกกก >w<


ขอบพระคุณคนอ่านที่ยังรอ (แม้จะช้ามาก)นะคะ ฮืออออ ใกล้แล้ว ๆ ตอนเริ่มเรื่องก็ไม่ได้ตั้งใจจะเขียนยาวขนาดนี้เลยจริง  ๆ นะ ฮาา

วันนี้ของดโซนของแถมก่อนเพราะไม่ค่อยได้วาดเล่น แต่มีมาแปะอันนี้ ใกล้คริสต์มาส >///<


สุขสันต์วันคริสต์มาสล่วงหน้านะคะ พบกันยกหน้าค่ะ! >w<
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-12-2013 13:58:56 โดย RAINYDAY »

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
แง้ แอบน้ำตาซึมตอนท้าย

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ไหงน้ำตาซึมกับตอนหลังๆของตอนนี้ตามน้องครีมก็ไม่รู้
พี่เอกได้แค่กอดไม่ต้องหวงไปหรอกนะพี่ภพ

น้องครีมอย่าเพิ่งคิดไปไกลมาก
ไม่แน่ว่าแม่อาจจะคุยกับพ่อให้แล้วก็ได้
เหตุการณ์ข้างหน้าไม่มีใครทำนายได้หรอก :monkeysad:
แค่ทำวันนี้ให้ดี รักกันให้มากที่สุด มีความสุขเวลาที่อยู่ด้วยกันให้มากๆ
เก็บเี่ยวทุกนาทีไว้
นั้นก็ทำให้ทุกๆวันดีที่สุดเหมือนที่พี่เอกเป็นได้ แม้ไม่มีวสันต์อยู่ข้างๆ :hao5:

อยากบอกว่ามาช้า แต่เค้าก็รอน่า เค้ารักเรื่องนี้ :กอด1:
มีทั้งสนุกและซึ้งให้อ่าน ชอบ o13

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
 :m15:  เศร้ากับพี่เอก แม้ตอนที่เอามาลงนี้จะทำให้เศร้าน้อยกว่าตอนที่ผ่าน ๆ มา  แต่ก็ยังเศร้าอยู่ดี

 :mc2:  :mc1:  :mc3:

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1510
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
เศร้ากับความรักของพี่เอกจัง ยังอยากให้แกมีคนมาดามหัวใจอยู่ดี
น้องคิม ก็ยังน่ารักน่าฟัดเหมือนเดิม แต่ปากไม่ดี พี่ภพต้องลงโทษ ตบปากด้วยปาก แทนถอนฟันดีกว่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
คนที่อยู่ต่อให้เจ็บปวดแค่ไหน... ก็ต้องอยู่ให้ได้
ไม่แปลกใจเลยถ้าพี่เอกจะเริ่มต้นใหม่กับใครไม่ได้อีก .... อย่างน้อยทุกเวลาที่เหลือในชีวิตต่อจากนี้ ก็จะมีภาพเฮียหล่อเลี้ยงในหัวใจพี่เอก
จนกว่าจะได้พบกันใหม่อีกครั้ง ...

ออฟไลน์ ปี้ปี้ปี้~PalmY

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +273/-1
ไอ้ประมูลหนึ่งหมื่นบาท ทำไมกลายเป็นโรแมนติกไปได้ ~

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
 :m15: :m15: :m15: น้ำตาซึม สงสารพี่เอกอ่ะ

ออฟไลน์ misso

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
ฮาคำถามแรกของสามภพ เหวย จะรุกพี่เอกเร็วไปไหม ฮ่าๆ

แต่ก็นั่นแหละ ถ้าเป็นเราก็คงไม่รู้หรอกว่าจะเริ่มพูดยังไงก่อนดี

เรื่องนี้คงไม่จบเศร้าหรอกชิมิเคอะคนเขียน o18

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
ฮือ อ่านไปน้ำตาไหลซึมๆๆ

พี่เอกน่าสงสารมากๆๆ :hao5:

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
 :sad4:  พี่เอกก็ยังคงน่าสงสารอยู่ดี
ชอบประโยคนี้จัง"....พี่มีความสุขกับการแค่ได้คิดถึง...มันก็เท่านั้น....”
 มันทำให้คิดถึงเพลงอยู่อย่างเหงาๆของสิงโต นำโชค เลยแหะ

น้องครีมอย่างงี้เรียกง้อ หรือ อ่อยพี่ภพกันแน่เนี่ย555
น่ารักซะจริงๆ :-[

รอตอนต่อไปค่ะ +1  :กอด1:

ออฟไลน์ bobby_bear

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-5
แอบเศร้านะตอนนี้ เศร้าแบบยิ้มได้
คงเป็นอารมณ์แบบพี่เอกสินะ

ออฟไลน์ took-ta_naka

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 604
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-10
 :m15: :m15:  ซึ้งและประทับใจที่สุด


+1   จ้า  รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
 :monkeysad: อ่านไปน้ำตาหยดแมะๆ ต้องกลั้นไว้ แอบอ่านเวลางาน 5555555

ใจนึงก็คิดถึงพี่เอก อยากอ่านอยากรู้ความเป็นไปของพี่เค้าเป็นยังไงบ้าง อยู่ได้ยังไง มีความสุขดีไหม

อีกใจนึงก็อยากให้ผ่านคืนวันอันโหดร้ายดาม่าปนน้ำตา

เฮ้ออออ

 :mew2:

+1 +เป็ด



ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
มันต้องผ่านไปได้ซิคิม

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด