ลิขิตรักอสุรกาย : จบบริบูรณ์ + ตอนพิเศษ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ลิขิตรักอสุรกาย : จบบริบูรณ์ + ตอนพิเศษ  (อ่าน 405802 ครั้ง)

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
เอ๊ยยย กวางน้อยของเรานั้น ดูสงบสุขและมีความสุขเล็ก ๆ เกิดขึ้นเสมอ

แต่พ่อหมาป่านั้น อ๊ากกก ฉากแรกก็โดนไล่ฆ่า  ซะแล้ววว

ชอบอะ มาต่อตอนต่อไปไวไวน้า

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
แจ่มค้าบ.... ภาษาสวย... มาก!

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4


/2




     วิรัลไปแวะเลือกซื้อขนมและน้ำผลไม้ที่ร้านสะดวกซื้อบริเวณหน้าหมู่บ้าน เด็กหนุ่มทอดถอนหายใจเบา ๆ เมื่อเห็นสีหน้าตกตะลึงของคนขายยามได้เห็นเขา และทำท่าจะไม่คิดเงิน จนเขาต้องอ้างชื่อพิชญ์มาขู่ว่าเป็นคำสั่งของอีกฝ่าย นั่นล่ะเจ้าตัวจึงยอมคิดเงินเขา แต่ก็ยังคงแถมขนมมาให้เขาอีกสองสามถุงอยู่ดี

    “จะว่าไปแถวนี้ก็บรรยากาศดีใช้ได้ล่ะนะ”

    วิรัลขี่จักรยานมานั่งพักที่สวนสาธารณะหน้าหมู่บ้าน  เจ้าตัวเหม่อมองถนนใหญ่ด้านนอก  ที่นาน ๆ จะมีรถยนต์วิ่งผ่านไปมาให้เห็น  เด็กหนุ่มเหลือบมองยามรักษาการณ์ประจำหมู่บ้านที่ทำเป็นเหมือนอยู่เวรยามตามปกติ แต่เอาจริง ๆ ก็เฝ้ามองมาที่เขาอย่างเป็นห่วง  แม้ว่าที่นั่งซึ่งเขานั่งเล่นอยู่ จะห่างจากถนนใหญ่ไปเกือบห้าสิบเมตรก็ตาม

     “เฮ้อ! สงสัยคงต้องกลับสักที...”

     เด็กหนุ่มเปรยเบา ๆ อย่างเหนื่อยใจ เมื่อเห็นว่าเริ่มมีผู้คนแถวนั้น ทำเป็นเดินเล่นบ้าง ออกมาซื้อของบ้าง กวาดถนนหน้าบ้านบ้าง แต่จริง ๆ แล้ววิรัลมั่นใจว่า พวกนั้นทำลงไปเพราะต้องการคุ้มครองดูแลให้เขาอยู่ในสายตาตลอดเวลานั่นเอง

    ทว่าเมื่อวิรัลลุกขึ้นยืนเตรียมจะเดินไปขี่จักรยานกลับที่พัก เขาก็ต้องชะงักเช่นเดียวกับคนที่นั่งอยู่ด้านในรถยนต์ที่แล่นผ่านมา  แม้จะเป็นเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาที แต่วิรัลก็ได้สบตากับคนที่มีแววตาคมกริบ น่าเกรงขามผู้นั้น เด็กหนุ่มรู้สึกราวกับมีกระแสไฟช็อตไหลผ่านทั่วร่าง เขายืนนิ่งอยู่สักพัก จนมารู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อถนนเส้นนั้นว่างเปล่าไร้เงารถคันใดให้เห็น

     “ใครกันนะ...หือ...แล้วเราจะไปนึกถึงเขาทำไมกันเนี่ย!”

    คนที่ตั้งสติได้รีบโพล่งใส่ตัวเอง แล้วจึงรีบตรงไปที่จักรยาน จัดการขี่กลับที่พักทันที ทว่าระหว่างการเดินทาง เจ้าตัวกลับหวนคิดถึงนัยน์ตาสีนิลคมกริบของคนบนรถยนต์ไปตลอดทางอย่างน่าประหลาด 

   

    อีกด้านหนึ่งคนที่กำลังนั่งอยู่บนรถ ก็กำลังตกอยู่ในภวังค์คิดของตนเช่นเดียวกัน นัยน์ตาเรียวยาวโศกซึ้งคู่นั้น ที่เขาได้สบโดยบังเอิญ บัดนี้มันกำลังเข้ามารบกวนความคิดของเขา จนธามเองนึกสงสัยว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

     “มีอะไรหรือครับท่านธาม”

    ชาครเอ่ยถามผู้เป็นนายอย่างแปลกใจ เมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจของคนที่นั่งด้านหลังดังขึ้น

    “อืม...ไม่มีอะไร”

    ธามพึมพำตอบเลี่ยงไป แต่ก็ยังคงหวนคิดถึงเจ้าของดวงตาคู่สวยเช่นเดิม เขาไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมเวลาแค่เสี้ยววินาทีนั่น ภาพของอีกฝ่ายจึงประทับอยู่ในความทรงจำได้ตราตรึงถึงเพียงนี้

   

    เมื่อวิรัลกลับมาถึงคฤหาสน์ เขาก็ขอตัวไปพักผ่อนในห้องส่วนตัว โดยอ้างว่ารู้สึกเพลีย พิชญ์เห็นท่าทางแปลก ๆ ของอีกฝ่าย ก็สอบถามไปทางยามรักษาการณ์ที่เฝ้าหน้าหมู่บ้าน แต่พอได้รับรายงานว่าไม่มีเรื่องใดผิดปกติ พี่เลี้ยงคนสนิทจึงเข้าใจว่า วิรัลนั้นอาจจะเพลียจริง ๆ ก็ได้

    “...ทำไมถึงรู้สึกแปลก ๆ ไปนะ ...บ้าชะมัด นี่ฉันเป็นอะไรกันแน่”

    เด็กหนุ่มที่ทิ้งกายลงนอนบนเตียงใหญ่ บ่นพึมพำกับตัวเองอย่างหงุดหงิด ยิ่งหวนคิดถึงแววตาคมกริบนั่น ก็ทำให้เขารู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วร่างอย่างที่ตัววิรัลเองก็ไม่อาจตอบได้ว่าเป็นเพราะอะไร

    “...ท่านวิรัลครับ ผมพิชญ์เองครับ ขออนุญาตเข้าไปนะครับ”

    เสียงเคาะประตู และเสียงขออนุญาตเข้าห้องของพี่เลี้ยงคนสนิท ทำให้วิรัลสะดุ้งเฮือก แล้วลุกขึ้นนั่งเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายที่เข้ามาพอดี

    “ท่านวิรัล...ไม่สบายหรือเปล่าครับ”

    พิชญ์ถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นใบหน้าแดงระเรื่อของอีกฝ่าย เขาใช้มืออังที่หน้าผากของเด็กหนุ่ม แต่ก็ไม่พบว่าเจ้าตัวจะมีไข้แต่อย่างใด

    “อืม...เรียกหมอมาตรวจสักหน่อยดีไหมครับ”

    ชายหนุ่มเสนอขึ้น เพราะถึงจะไม่มีไข้ แต่อาการของวิรัลก็ไม่ค่อยปกติอย่างที่เคยเป็นสักเท่าใดนัก จนเขารู้สึกห่วง

    “มะ...ไม่ต้อง... สงสัยเพราะนาน ๆ ตากแดดตากลมที ก็เลยเป็นแบบนี้  ฉันนอนพักสักหน่อยก็น่าจะหายแล้วล่ะ...แต่ถ้าไม่หายจริง ๆ จะเรียกหมอมาตรวจก็ตามใจนาย”

    ท้ายประโยคเจ้าตัวเสียงอ่อนลง เพราะรู้ดีว่าพิชญ์นั้นห่วงใยเขาจากใจจริง ซึ่งนั่นก็ทำให้ชายหนุ่มยิ้มน้อย ๆ อย่างอ่อนโยน แล้วจึงเอ่ยกับวิรัล

    “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเย็นนี้ผมจะให้พ่อครัวทำข้าวต้มมาให้ท่านนะครับ”

    “อืม...เอางั้นก็ได้ ...แล้วนายเองก็หัดกินข้าวเย็นเสียบ้างนะ อย่ามัวแต่ทำงานเพลินนักล่ะ”

    วิรัลเอ่ยตามมาทำให้คนฟังชะงักพลางอมยิ้มน้อย ๆ แล้วโค้งให้ก่อนออกจากห้องไปโดยไม่ได้ตอบรับอะไร ทำให้คนพูดถอนหายใจเบา ๆ เพราะรู้ดีว่าพิชญ์นั้นเป็นมันสมองของตระกูล และคอยรับผิดชอบธุรกิจทั้งหมดของครอบครัวเขา  ซึ่งอาจเปรียบชายหนุ่มเสมือนเป็นประมุขเงาคนปัจจุบันของเผ่าเลยก็ได้

    “ถ้าหมอนั่นเป็น มฤคมาศ แทนเราก็ดีสินะ”

    วิรัลพึมพำกับตัวเอง เด็กหนุ่มเชื่อว่าคนอื่น ๆ ต่างก็คิดว่าพิชญ์นั้นเหมาะสมกับตำแหน่งประมุขของเผ่ามากกว่าเขานัก เพียงแต่พิชญ์ไม่ใช่มฤคมาศ และกฎของเผ่าก็บัญญัติไว้ว่า มีเพียงมฤคมาศเท่านั้น จึงจะคู่ควรต่อตำแหน่งประมุขของเผ่า  มโคตนอื่นแม้จะมีความสามารถขนาดไหน ก็มีสิทธิ์เป็นแค่เพียงที่ปรึกษา หรือประมุขชั่วคราว จนกว่าจะมีมฤคมาศถือกำเนิดขึ้นมาเท่านั้น

      “ฮึ...มฤคมาศ อย่างนั้นหรือ... มันก็แค่ ‘เหยื่อ’ ชั้นดี ของเจ้าพวกเผ่ากระหายเลือดนั่น ก็แค่นั้นล่ะ”

    เด็กหนุ่มเปรยขึ้นด้วยน้ำเสียงขมขื่น เมื่อหวนนึกถึงบิดาที่หายสาบสูญไปเมื่อสามปีก่อน ในสงครามระหว่างมโคและวกะ ในตอนนั้นเผ่าของเขากำจัดศัตรูไปได้มากก็จริง แต่ก็ต้องเสียประมุขคนปัจจุบันไปโดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้ชะตากรรมเช่นกัน

    “...ผู้ชายคนนั้น ถ้ารู้ว่าเราไม่ใช่มนุษย์ เขาจะแสดงออกอย่างไรบ้างนะ”

    วิรัลหวนคิดถึงคนที่เขาได้สบตาอีกครั้ง ก่อนจะถอนหายใจยาว และตัดสินใจลงไปด้านล่าง นั่งดูพิชญ์ทำงานแทน เพื่อจะได้ไม่ต้องฟุ้งซ่าน เอาแต่คิดถึงคนที่ตนไม่เคยรู้จักมาก่อนเช่นนี้



    ตกดึกคืนนั้น วิรัลเคลิ้มหลับลงในที่สุดหลังจากเอาแต่เฝ้าคิดถึงเจ้าของนัยน์ตาคมกริบนั่นมาตลอด

     เสียงกรอกแกรกด้านนอกระเบียงห้อง ทำให้คนที่หลับไปแล้วต้องงัวเงียขึ้นมาขยี้ตามองอย่างแปลกใจ แต่พอเพ่งจ้องไปท่ามกลางความมืดสลัว เขาก็ต้องตาเบิกกว้าง เมื่อเห็นเงาร่างสูงใหญ่ของใครบางคนอยู่ด้านนอกหลังผ้าม่านนั่น

    “...ใครกัน”

    วิรัลกระซิบถามเสียงแผ่วจนแทบไม่ได้ยินเสียง เขาประหลาดใจตัวเอง ที่เอาแต่จ้องมองอีกฝ่ายนิ่งจนกระทั่งร่างสูงใหญ่นั้นแหวกผ้าม่านและเลื่อนประตูกระจกเข้ามาหาเขา  วิรัลหน้าแดงวาบ เมื่อร่างหนากำยำได้สัดส่วนของอีกฝ่ายนั้นเปลือยเปล่า ไร้เสื้อผ้าติดกายเลยสักชิ้น

    “คุณเป็นใคร...”

    วิรัลเอ่ยถามขณะที่สายตาก็เฝ้าจับจ้องมองร่างสูงที่เคลื่อนกายมาหาเขาอย่างเชื่องช้า เด็กหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อคนตรงหน้าขยับขึ้นมาบนเตียงที่เขานอน นัยน์ตาคมกริบคู่เดิมสะกดให้วิรัลหยุดนิ่งอยู่กับที่ ไร้การเคลื่อนไหวดิ้นรนหนี แม้กระทั่งยามที่เสื้อผ้าของเขาถูกปลดเปลื้องออกมาจากร่าง

    “อะ...ยะ...อย่าทำแบบนั้น”

    วิรัลห้ามด้วยน้ำเสียงเบาหวิว เมื่ออีกฝ่ายขึ้นคร่อมเขาพร้อมกับใช้เรียวลิ้นอุ่นชื้นไล้เลียชิมรสเขาไปทั่วทั้งร่าง ก่อนจะหยุดอ้อยอิ่งที่ยอดอกทั้งสองแล้วดูดเม้มแรง ๆ จนวิรัลต้องบิดกายไปมาอย่างเสียวซ่าน แต่ถึงกระนั้นเด็กหนุ่มก็ไม่คิดจะต่อต้าน จนเจ้าตัวเองยังนึกประหลาดใจ

    “ฉันต้องการเธอ...”

    น้ำเสียงทุ้มของร่างหนากระซิบแผ่วเบา พร้อมกับยกช้อนสะโพกของร่างโปร่งให้ลอยขึ้นจากเตียง แก่นกายแข็งขึงใหญ่โตจ่อรอคอยเข้าไปสำรวจช่องทางคับแคบ จนวิรัลต้องตาเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว

    “ไม่นะ...อย่า...อย่าเอาเข้ามา...อ๊า!”

    วิรัลสะดุ้งเฮือกสุดตัว เมื่อร่างสูงใหญ่ดันกายพรวดเข้ามาในร่างเขา เด็กหนุ่มหลับตากรีดร้องลั่นด้วยความเจ็บแทบขาดใจ ทว่าเพียงไม่นานนั้นความเจ็บปวดก็เริ่มคลายลง  วิรัลจึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ ก่อนจะมองไปรอบด้านอย่างมึนงง ชายแปลกหน้าที่กำลังล่วงเกินเขาหายไปแล้ว เหลือแต่เพียงห้องมืดว่างเปล่า ไร้เงาสิ่งมีชีวิตอื่นใดนอกจากเขาเท่านั้น

    “ฝันหรือ...ฝันบ้าอะไรกัน”

    วิรัลพึมพำกับตัวเองอย่างหงุดหงิดระคนประหลาดใจ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่ห้องน้ำ ถอดเสื้อผ้าออก และตรงไปที่ฝักบัวอาบน้ำเปิดมันให้ไหลรินชำระล้างร่างกายที่บัดนี้ชุ่มไปด้วยเหงื่อ  เด็กหนุ่มค่อย ๆ ใช้มือลูบไล้ไปตามผิวที่ถูกคนในฝันไล้เลีย เสียงครางเบา ๆ อย่างมีอารมณ์เริ่มดังขึ้น พร้อมกับแก่นกายสมวัยที่ค่อย ๆ ถูกปลุกเร้าให้ตื่นขึ้นทีละน้อย

    “อา...บ้าชะมัด”

    วิรัลสบถเมื่อเห็นร่างกายเริ่มมีปฏิกิริยาต่อความฝันที่ผ่านมา ทว่าเด็กหนุ่มก็ยังคงใช้มือช่วยเหลือตัวเองให้ผ่านพ้นความต้องการเฉพาะหน้าให้เสร็จเรียบร้อย ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเข้านอนและหลับลงในเวลาถัดมา

   

    ในเวลาไล่เลี่ยกัน ณ คอนโดหรูกลางเมืองแห่งหนึ่ง เจ้าของห้องเองนั้นเพิ่งจะตื่นจากนิทรา และกำลังนั่งเหม่อมองไปยังภาพทิวทัศน์ยามค่ำจากกระจกใสบานใหญ่ ซึ่งอยู่บริเวณปลายเตียงของตน

    “เด็กคนนั้นเป็นใครกันแน่นะ...ทำไมเราถึงได้...”

    ธามยอมรับว่าเขาทั้งรู้สึกดี ทั้งหงุดหงิดไปในคราวเดียวกัน สำหรับฝันประหลาดที่เขาได้เล้าโลมอีกฝ่ายและกำลังจะร่วมรักด้วย แต่เพราะดันสะดุ้งตื่นขึ้นมาก่อน จึงทำให้รู้ว่าเหตุการณ์สมจริงนั่น เป็นเพียงแค่ความฝัน หาใช่ความจริงไม่  ชายหนุ่มจึงรู้สึกทั้งเสียดาย และอารมณ์ค้างไปในตัวเลยทีเดียว

    “อยากเจออีกสักครั้ง...จะมีโอกาสได้เจออีกไหมนะ”

    ธามพึมพำเบา ๆ จากนั้นนัยน์ตาสีนิลคมกริบจึงมีประกายวาววับ แสดงถึงความมุ่งมั่นบางอย่าง เจ้าตัวนั่งอยู่เงียบ ๆ ในภวังค์ของตนไปเรื่อย ๆ โดยไม่คิดจะหลับต่อ และเมื่อแสงแห่งอรุณรุ่งในวันใหม่ ฉายสาดไปทั่วท้องฟ้า ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นเดินไปห้องน้ำ และอาบน้ำชำระล้างร่างกายดังเช่นตามปกติ

   

    เช้าวันต่อมาวิรัลก็ขอพิชญ์ไปขี่รถจักรยานเล่นอีกรอบ แม้พิชญ์จะรู้สึกแปลกใจกับพฤติกรรมของอีกฝ่าย แต่เขาก็ยังคงอนุญาตเด็กหนุ่มตามเคย

    “แล้วกลับมาก่อนแดดจะแรงนะครับ”

    พิชญ์กำชับอย่างเป็นห่วง ทำให้วิรัลหันมายิ้มน้อย ๆ แล้วพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะขี่จักรยานออกไปด้วยความชำนาญกว่าเดิม

    “ไปเจออะไรดี ๆ เข้าให้หรือเปล่านะ”

    ชายหนุ่มลองเดาดู แล้วก็หันมาให้ความสนใจกับอีกทาง เมื่อลูกน้องคนสนิทนำรายงานของบริษัทมาให้เขาเซ็นรับทราบ

   

    วิรัลจัดแจงจอดจักรยานไว้แถวริมทางเท้า และเดินมานั่งที่ม้านั่งในสวนสาธารณะหน้าหมู่บ้าน เขาเหม่อมองถนนใหญ่เบื้องหน้า โดยเฝ้าหวังว่าเจ้าของสายตาคมกริบคนนั้นจะนั่งรถผ่านมาให้เห็นอีกสักครั้ง

    และแล้วสิ่งที่วิรัลรอคอยก็เป็นจริง รถยนต์สีดำคันหรูเลี้ยวเข้ามาจอดอยู่บริเวณหน้าหมู่บ้านติดกับสวนสาธารณะ  ร่างสูงเปิดประตูหลังรถเดินลงมาและบอกให้คนขับคอยเขาอยู่บนรถ ส่วนตัวเขาก็เดินตรงมายังที่วิรัลนั่งอยู่

    “สวัสดี...เจอกันอีกครั้งแล้วสินะ”

    ชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มหล่อเหลาเอ่ยทักทาย วิรัลหน้าแดงวาบเมื่อหวนนึกถึงความฝันเมื่อคืนขึ้นมา

     “คุณ...ทำไมถึง...”

    วิรัลถามตะกุกตะกัก เพราะไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้พบเจอและสนทนากับคนที่เขาเฝ้าคิดถึงเร็ววันเช่นนี้

    “ฉันอยากเจอเธอ...เธอเองก็เหมือนกันใช่ไหม”

    ธามเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม เขามีความรู้สึกว่า คนตรงหน้าเองก็คงเหมือนเขา ที่เอาแต่คิดถึงอีกฝ่ายจนเก็บมาฝันเช่นเดียวกัน

    “ผม...ไม่รู้...”

    วิรัลบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เขารู้สึกร้อนวูบวาบไปหมดทั่วทั้งใบหน้า ปฏิกิริยาที่วิรัลมีทำให้ธามต้องกลืนน้ำลายลงคอ และหวนคิดถึงใบหน้าแดงระเรื่อของอีกฝ่าย ยามส่งเสียงครางเย้ายวน อยู่ในฝันของเขาเมื่อคืนนี้

    ทว่ายังไม่ทันที่พวกเขาจะพูดคุยอะไรกันต่อ ยามจำนวนสองคนก็รีบเดินมาขวางระหว่างทั้งคู่ทันที

    “ขอโทษนะครับ หมู่บ้านของเราไม่อนุญาตให้คนนอกเข้ามา”

    ยามคนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพ แต่ท่าทางขัดขวางและป้องกันเด็กหนุ่มเต็มที่นั่นทำให้คนมองรู้สึกสะดุดตาและนึกสงสัยยิ่งนัก

    “นี่...อย่าเสียมารยาทสิ เขาก็อาจจะแค่เข้ามาถามทางก็ได้”

    วิรัลเอ่ยขัดขึ้นเบา ๆ ทำให้ยามทั้งสองสะดุ้งโหยง แล้วหันมามองคนพูดด้วยสีหน้าลังเล

    “แต่...เอ่อ...”

    “ขอโทษนะครับ คือ...ที่นี่ค่อนข้างเข้มงวดเรื่องกฎระเบียบนิดหน่อยน่ะครับ”

    วิรัลแก้ตัวกับคนตรงหน้า ซึ่งเจ้าตัวก็ยกยิ้มนิด ๆ ที่มุมปากอย่างไม่ถือสา

    “ไม่เป็นไร...ว่าแต่เราสองคนจะทำความรู้จักกันและกันให้มากขึ้นกว่านี้ได้ไหม”

    วิรัลสะดุ้ง เด็กหนุ่มมีสีหน้าขัดเขิน แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยตอบอะไร เสียงคำรามก็ดังขึ้นจากคนที่เปิดประตูรถลงมา

    “ท่านธาม! พวกนี้เป็นพวกมโคครับ!”

    ธามชะงักเช่นเดียวกับยามทั้งสองและวิรัล และหนึ่งในนั้นก็กัดฟันกรอด พลางส่งเสียงร้องแหลมสูงคล้ายคลื่นสัญญาณบางอย่าง จนธามและชาครต้องรีบอุดหู สักพักคนในหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ก็รีบมาสมทบและล้อมรอบชายทั้งสองเอาไว้

    “มโคหรอกหรือ...จมูกนายนี่มันดีเกินไปแล้วนะชาคร”

    ธามเปรยเบา ๆ และเพิ่งจะเริ่มได้กลิ่นชัดเจนขึ้นตอนที่เผ่ามโคมารวมตัวกันมากมายเช่นตอนนี้

    “ผมได้กลิ่นหอมโชยมา ทีแรกคิดว่าเป็นกลิ่นดอกไม้แถวนี้ แต่พอลองดมดูมันไม่น่าจะใช่...ยิ่งพอยามสองคนนั่นมาสมทบ แม้จะไม่หอมเท่ากลิ่นของเด็กคนนั้น แต่ก็ใช่กลิ่นของพวกมโคแน่นอนครับ”

    ชาครเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด แม้ว่ามโคจะไม่ใช่เผ่าที่ชำนาญการต่อสู้ แต่ด้วยจำนวนมากมายเช่นนี้ ดูท่าทางเขาและธามคงจะลำบากเสียแล้ว

    “กลิ่นหอมหรือ...อืม จริงสินะ หอมเหมือนในความฝันจริง ๆ จนฉันก็ลืมสังเกตไป”

    ธามพึมพำเบา ๆ มาตอนนี้เขาก็ได้กลิ่นของวิรัล เหมือนที่ชาครได้กลิ่นบ้างแล้ว กลิ่นหอมหวานเหมือนดอกไม้นานาพรรณที่กำลังบานสะพรั่ง กลิ่นที่ส่งออกมาจากร่างโปร่งที่กำลังยืนหน้าตาตื่นตกใจอยู่ตรงนั้น

    “วกะหรอกรึ! ทำไมไม่ได้กลิ่นแต่แรกนะ!”

    ยามรักษาการณ์ที่ยืนบังวิรัลอยู่กัดฟันกรอด เพราะตอนสนทนากับธาม พวกเขายังไม่ได้กลิ่นอันตรายจากต่างเผ่าให้ได้สัมผัส ทว่ากลิ่นสาปสัตว์ร้ายของชาครนั้น แม้แต่พวกเขาที่มีสัมผัสรับกลิ่นได้ไม่ชัดเจนเท่ากับพวกชั้นสูงของเผ่า ยังสามารถรับรู้ได้ว่า อีกฝ่ายนั้นเป็นวกะที่ร้ายกาจเพียงใด

    ด้านธามนั้นหันมายกยิ้มเพราะได้ยินคำพูดนั่นด้วย  ทว่าเขาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นแววตาหวาดหวั่นและผิดหวังของคนด้านหลัง

    “คุณเป็นวกะหรอกหรือ...”

    “ใช่...ฉันเป็นพวกนั้น แต่ฉันไม่รู้มาก่อนว่าเธอเองก็ไม่ใช่คนเหมือนกับฉัน”

    ธามเปรยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เขาจับจ้องมองวิรัลนิ่ง เช่นเดียวกับอีกฝ่าย ทั้งคู่ไม่ได้สนใจต่อสถานการณ์รอบด้านยามนี้สักนิด จนกระทั่งพิชญ์มาถึง

    “มารนหาที่ตายถึงที่เลยนะ เจ้าพวกหมาป่าชั่ว!”

    พิชญ์ปรากฏขึ้นมารั้งร่างของวิรัลไปไว้ในอ้อมกอด แล้วยืนประสานสายตากับธาม

    “...ฉันจำนายได้  หัวหน้าเงาของพวกมโคสินะ งั้นเด็กนี่ก็...”

    ธามพึมพำแล้วหันมามองวิรัลอีกครั้งอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

    “...มฤคมาศหรอกหรือ”

    ขาดคำของชายหนุ่ม พิชญ์ก็กัดฟันกรอด แล้วผลักวิรัลส่งให้พิชานลูกน้องคนสนิทที่มาด้วยกัน จากนั้นชายหนุ่มจึงกลับกลายร่างเป็นกวางยักษ์สีดำ มีเขาโง้งแหลมยาวสวยงาม ตัวใหญ่เท่ากับเสือรุ่นฉกรรจ์ เพียงแค่กระทืบเบา ๆ ที่ขาหลัง กีบเท้าที่แกร่งดังเหล็กนั่น ก็ทำให้พื้นดินยุบเป็นวงกว้างได้แล้ว

    “พิชญ์!”

    วิรัลตะโกนด้วยความเป็นห่วง เมื่อชาครเองก็เริ่มแปลงร่างเป็นมนุษย์หมาป่าเช่นเดียวกัน และมโคตนอื่น ๆ ก็กลับคืนร่างสู่ร่างแท้จริง กลายเป็นกวางยักษ์สีเทา ที่พร้อมจะสู้ถวายชีวิตเพื่อปกป้องว่าที่ประมุขของพวกตน

    “เฮ้อ...ไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นอย่างนี้แท้ ๆ ก็แค่อยากจะเจอเธออีกครั้งก็เท่านั้น”

    ธามเปรยเบา ๆ แล้วจ้องมองวิรัลนิ่ง โดยไม่ใส่ใจสถานการณ์อันตรายเสี่ยงต่อชีวิตของเขายามนี้เลยสักนิด  ทว่าคำพูดของธามกลับทำให้วิรัลหัวใจกระตุกวูบ และก่อนที่การสู้รบจะเกิด เด็กหนุ่มก็ตะโกนขัดขึ้นมาเสียก่อน

    “ทุกคนหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”

    ทั้งหมดชะงักกึก หยุดการกระทำโดยพลัน ไม่เว้นแม้แต่ชาครเองก็ต้องหยุดชะงักลงด้วยคำสั่งนั้นอย่างน่าอัศจรรย์

    “ท่านวิรัล...”

    พิชญ์ในร่างกวางสีดำ หันไปมองนายน้อยของเขาอย่างประหลาดใจ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นแววตาของอีกฝ่ายที่มองไปยังอีกคนตรงหน้า

    “คุณไปเสียเถอะ...แต่ถ้ายังกลับมาที่นี่อีกครั้ง ผมจะถือว่าเราเป็นศัตรูกัน และจะไม่มีการยกเว้นอย่างวันนี้อีก”

    ธามเงียบกริบ เขาจ้องเด็กหนุ่มนิ่งอยู่สักพัก แล้วจึงถอนหายใจแผ่วเบา

    “ก็ได้...เพื่อเป็นการขอบคุณเรื่องที่เธอปล่อยฉันไป  ฉันจะไม่บอกวกะพวกอื่นเรื่องของหมู่บ้านนี้แน่”

    พิชญ์กัดฟันกรอดด้วยความหงุดหงิด เขาทำท่าจะก้าวเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่าย แต่วิรัลก็ตะโกนขัดขึ้นอีกครั้ง

    “พิชญ์! นายจะไม่ฟังคำสั่งของฉันหรือไง!”

    กวางดำหยุดชะงัก เจ้าตัวเหลียวมาสบตากับนายน้อยของเขาด้วยแววตาที่แสดงความผิดหวังและตัดพ้อ จนวิรัลรู้สึกผิด แต่ก็ต้องเอ่ยต่อ

    “ปล่อยพวกเขาไป ...และถ้าพวกเขายังรั้นจะกลับมาอีก นายกับทุกคนจะทำยังไง ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของพวกนาย ฉันจะไม่เกี่ยวข้องด้วยอีกแล้ว”

    พอฟังแล้วพิชญ์ก็ต้องยอมรับและหยุดนิ่งอยู่กับที่ แต่ก็ยังคงตวัดสายตาเคียดแค้นมายังร่างของศัตรูที่ยืนอยู่  ทางด้านธามเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจเบา ๆ เขาหันมาพยักหน้ากับชาคร ซึ่งอีกฝ่ายก็นิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะพยักหน้ารับรู้และกลับคืนสู่ร่างมนุษย์ตามเดิม

    “ฉันเองอยากเจอมฤคมาศมาโดยตลอด... แต่ตอนนี้ฉันกลับอยากให้มฤคมาศนั่นเป็นใครก็ได้ ที่ไม่ใช่เธอเสียแล้ว”

     ธามพึมพำทิ้งท้าย แล้วกลับขึ้นรถไปพร้อมชาคร รถยนต์สีดำขับจากไปช้า ๆ พร้อมกับสายตาอาลัยอาวรณ์ของวิรัลที่มองไปจนลับตา

    “ขอโทษนะพิชญ์...ฉันรู้ดีว่าเรื่องที่ฉันทำวันนี้ มันจะนำอันตรายมาสู่ตัวฉันเองและพวกเราทุกคน ...แต่ว่าฉัน...”

    วิรัลเอ่ยแค่นั้นแล้วก็เงียบไป พิชญ์พ่นลมหายใจแรง ๆ แล้วค่อยกลับคืนสู่ร่างมนุษย์ของตนแทน ชายหนุ่มจับบ่าอีกฝ่ายบีบเบา พลางเอ่ยปลอบ

    “เรื่องที่แล้วไปแล้วก็ปล่อยให้มันแล้วไปเถิดครับ...ผมเชื่อว่าชายคนนั้นคงจะไม่บอกวกะกลุ่มอื่น ๆ และรวมตัวกันมาโจมตีพวกเราที่นี่แน่  เพราะพวกวกะมักจะไม่ลงรอยและร่วมมือกันสักเท่าไหร่  ถ้าแค่วกะเพียงกลุ่มเดียว ผมว่าพวกเราคงพอรับมือกันไหวอยู่หรอกครับ”

    “อืม...ฉันก็หวังให้เป็นอย่างนั้น”

    วิรัลพึมพำด้วยใบหน้าเศร้าหมอง เขาไม่คิดเลยว่าคนที่เขารอคอยจะพบเจอ จะกลายเป็นเผ่าศัตรูที่คิดจะชิงหัวใจเขาไปเช่นนี้

    “พิชญ์...ฉันไม่เข้าใจตัวเองเลย...ทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้...ทำไมฉันถึงรู้สึกเจ็บที่ใจขนาดนี้นะ”

    เด็กหนุ่มพึมพำแผ่วเบา ทำให้พี่เลี้ยงคนสนิทเม้มปากน้อย ๆ ก่อนจะโอบบ่าอีกฝ่ายให้กลับไปคฤหาสน์ด้วยกัน ส่วน มโคตนอื่น ๆ ก็ต่างแยกย้ายกันไปประจำการดูแลปกป้องหมู่บ้านแห่งนี้กันต่อไปตามปกติ

   

   
...TBC ...


มาต่อตอนที่ 2 แล้วนะคะ สำหรับเรื่องนี้ จะเน้นฉับไวกว่าเรื่องก่อนหน้านั้นค่ะ เนื่องจากเขียนคนละสไตล์ (เรื่องคาเฟ่จะเน้นแนวชีวิตประจำวันมากกว่า)

หวังว่าตอนนี้คงจะถูกใจผู้อ่านบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ สำหรับเผ่ามโค ปัดก็คิดแล้วคิดอีกว่าจะให้กลายร่างยังไง จะให้กลายร่างแบบหัวเป็นกวางตัวเป็นคนก็ค่อนข้างจะดูประหลาดตา --" ดังนั้นก็เลยได้กลายมาเป็นแบบในตอนนี้แล

ป.ล. ยังมีหลายอย่างที่ไม่ได้เฉลย แต่จะค่อย ๆ คลายปมให้รับรู้ในตอนต่อ ๆ ไปเองค่ะ (แต่บางคนก็อาจจะเดาได้แต่แรกแล้วล่ะนะคะ หุ ๆ)

สุดท้ายก็ขอขอบพระคุณผู้อ่านนะคะ จะพยายามเขียนให้ต่อเนื่องให้เร็วที่สุดโดยไม่ดองค่ะ
 :pig4:

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
สนุกอ่ะ

น่าสงสารจัง แง๊ .....  :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

alekung103

  • บุคคลทั่วไป
อ๊าาาา

ปิ๊งกัน แต่อยู่คนล่ะเผ่า เฮ้อออ

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
รักต่างเผ่าพันธ์ ทรามานน่าดู

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
ไม่อยากให้กลืนกินหัวใจ อยากให้ได้ความรักแทน ได้ไหม
สงสารพิชย์(ใช่ชื่อนี้ไหม)นะ  ประมุขเงากวาง รักคุดแหง๋ม

ออฟไลน์ kururu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-3
ไม่ชอบเรื่องนี้
.
.
.
.



แต่รักมากเลย

 มาต่อเร็วๆนะ ลุ้นตัวโก่งแล้ว ว่าแต่จบสวยหรือ เค้าไม่ชอบดราม่า

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
แวบเข้ามาบอกว่าใครที่ห่วงดราม่า ไม่ต้องห่วงนะคะ

...เคยเห็นปัดเขียนดราม่าหรือจ๊ะ อิ ๆ เขาชอบแฮปปี้เอ็นดิ้ง จ้า ^^


ยังไงก็ติดตามอ่านกันได้นะคะ จะพยายามไม่เกเร ดองนิยาย ค่ะ

ป.ล.เรื่องที่แล้วเขียนใสปิ๊ง เรื่องนี้เลยเหมือนเก็บกดมาจากก่อนหน้านั้น พระนายอาจจะหวาน+นัวเนียกันไปหน่อย ก็ขออภัยด้วยนะคะ--"

ออฟไลน์ ryokijung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ชอบอยากให้นัวเนียกันเยอะๆ
อร๊าคคคคคคค....
ช๊อบชอบ :z1: :z1: :z1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
คุณปัดไม่ต้องขอโทษเลยค่ะ เค้าอยากได้นัวเนียแบบจัดเต็ม :laugh:
รักข้ามเผ่าพันธุ์แบบนี้เชียร์สนุกเลย เรื่องเดินเร็วอีกต่างหาก รออ่านตอนต่อไปนะคะ :impress2:

chae

  • บุคคลทั่วไป
อ่าว................ยังไม่ทันจะได้รักกันเลย
มาถึงก็จะดราม่าเป็นรักต้องห้ามซะแล้ว

ออฟไลน์ พี่วันเสาร์

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +282/-3
นัวเนียกันได้หน่อยเดียวเองน่าสงสารกวางน้อยมาก
เพิ่งจะมีความรักก็ต้องเศร้าใจเป็นความรักต่างเผ่าพันธ์ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
ลุ้นๆ อะ รักข้ามเผ่าพันธุ์

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
รักข้ามเผ่าพันธุ์ หุ น่าสงสารอ่า วิรัลคงจะเจ็บ

แล้วธามจะเจ็บไหมอะ คงเจ็บเหมือนกันเนอะ

งืมมม จะเป็นยังไงต่อไปอ่า ติดตามต่อจ้า

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
นายคงเจ็บปวดที่ศัตรูคือคนที่ชอบสินะๆ   o7
รอตอนต่อไปฮะ  :')

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
พิช ชาคร เอ๊ยไม่เกี่ยว เผ่น

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
จะรักกันได้ยังไงนะ ลุ้นมากๆ

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
โถ.... โรมีโอ แอนด์ จูเลียต

ออฟไลน์ Satang_P

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
อะไรกัน ผิดหวังซะแล้ว  :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
แงๆๆ  :m15: :m15:


แวว ดราม่าโชยมา รักต่างเผ่าพันธุ์


แต่ชอบ เฝ้ารอดูทั้งคู่ ว่าจะก้าวผ่านเรื่องนี้ไปไก้ยังไง  :กอด1:

ออฟไลน์ ตัวเลข

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
สนุกจังค่ะ อ่านแล้วทำใ้ห้อยาหอ่านต่ออีกเร็วๆ

ออฟไลน์ papa

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 818
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-3
กรี๊ดด สนุกมากกก น้องกวางน่ารักอ่ะ  :impress2:


ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
ธามจะยอมไม่มาเจอวิรัลง่าย ๆ อย่างนั้นจริง ๆ หรือ วิรัลตกหลุมรักธามเข้าเต็มเปาแล้วมั้งนั่น ธามก็ท่าจะไม่ต่างกัน วิรัลคงเจ็บปวดน่าดูเพราะพ่อวิรัลหายไประหว่างสู้กับเผ่าของธามนี่

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Windyne

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-1
    • Windyne Page on Facebook
โอ๊วววววววววว นี่มันโรมิโอกับจูเลียตเวอร์ชั่นต่างเผ่าพันธุ์ชัด ๆ

รอติดตามค่ะ ^^

ออฟไลน์ AiiSoul

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
สนุกมากเลยค่ะ
บรรยายได้เห็นภาพดี มาต่อไวๆน้า

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
จะเป็นยังไงต่อไปนะ  :เฮ้อ:

มาไวๆนะคะ  :L2:

ออฟไลน์ srikoon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 530
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-6
มี กวาง มี หมา เดี๋ยวคงจะมี สรรพสัตว์

แปลกดีครับ

สนุกดี

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
/3


                พิชญ์ซึ่งคลับคล้ายคลับคลาใบหน้าของธาม ได้ลองสืบเสาะค้นหาข้อมูลก็ทำให้เขารับรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นบุตรชายคนเล็กของประมุขเผ่าวกะ และยังมีมารดาเป็นมนุษย์อีกด้วยจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมลูกน้องของเขาจึงไม่รับรู้ถึงกลิ่นสาบของอมนุษย์ในตัวของอีกฝ่ายได้  ทั้งนี้เพราะชายหนุ่มนั้นมีกลิ่นอายความเป็นมนุษย์แรงกว่าหมาป่านั่นเอง

                แต่ถึงแม้ว่าพิชญ์จะไม่ไว้ใจและหวาดระแวงในตัวของธามสักเท่าใดทว่าแววตาและความอาลัยอาวรณ์ที่เขาสัมผัสได้จากหมาป่าหนุ่มเฉกเช่นเดียวกับที่สัมผัสได้จากนายน้อยของเขามันก็ทำให้เขาต้องกลัดกลุ้มและคิดหนักในเรื่องนี้

                “เอายังไงดีครับ คุณพิชญ์ จะรายงานนายหญิงดีไหมครับ”

                พิชานลูกน้องคนสนิทที่เห็นสีหน้าของเจ้านายเอ่ยทักพิชญ์ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะหันมาตอบคำถามอีกฝ่าย

                “อย่าเพิ่งแจ้งจะดีกว่าเดี๋ยวทางนั้นจะเป็นกังวลเสียเปล่า ๆ อีกอย่างถึงทางนี้จะมีอันตรายแต่ทางนั้นก็ใช่ว่าจะปลอดภัยนัก เจ้าพวกครุโฬเองก็ชักเริ่มประกาศความเป็นศัตรูออกนอกหน้าขึ้นทุกที”

                 “เจ้าพวกนกปีศาจนั่น!”

                พิชานกัดฟันกรอดเมื่อได้ยินชื่อของอมนุษย์เผ่านั้น แม้ว่าวกะจะโหดเหี้ยมสักเพียงใดแต่เผ่าครุโฬเองก็ใช่ว่าจะยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แถมพวกนี้ยังเจ้าเล่ห์ เพทุบายและไร้ความเป็นมิตรแก่ทุกเผ่า พวกมันไม่เพียงแค่ต้องการหัวใจของมฤคมาศ แต่ยังต้องการกวาดล้างเผ่าพันธุ์อื่นนอกจากพวกตนให้หมดสิ้นไปอีกด้วย

                “วกะกับมโคอย่างนั้นหรือ...ชะตากรรมช่างเล่นตลกเสียจริงๆ”

                พิชญ์พึมพำเมื่อหวนกลับมาคิดถึงปัญหาเฉพาะหน้าอีกครั้ง  เขาพอจะรับรู้จากความรู้สึกได้อยู่หรอกว่าทั้งธามและวิรัลคงกำลังตกหลุมรักซึ่งกันและกัน แต่เขาก็ไม่อาจตามใจนายน้อยของเขาได้ในเรื่องนี้เพราะถึงแม้ธามจะไม่ลงมือกับวิรัลทว่าวกะตนอื่นก็ล้วนแต่จ้องจะกินหัวใจของมฤคมาศอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น การอยู่ใกล้ธามก็ยิ่งเท่ากับส่งวิรัลให้เข้าใกล้ความตายมากขึ้นนั่นเอง

                “พิชานเดี๋ยวจัดเวรยามให้เข้มงวดขึ้นมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัวด้วย และถ้าฉันไม่อยู่ห้ามให้ท่านวิรัลออกจากคฤหาสน์นี่เด็ดขาด เข้าใจนะ”

                พิชญ์ออกคำสั่งอย่างเด็ดขาดซึ่งพิชานก็โค้งรับและรีบนำคำนั้นไปบอกกับลูกน้องคนอื่น ๆ อีกทอดหนึ่งทันที

                “ขอโทษนะครับ ท่านวิรัล ...ถึงเขาอาจจะเป็น ‘คู่แท้’ ของท่านก็ตามแต่ผมไม่อยากให้ท่านต้องเสี่ยงอันตรายไปมากกว่านี้อีกแล้ว”

                พิชญ์พึมพำกับตัวเองเมื่อทั้งห้องเหลือเพียงแต่เขาลำพัง จากนั้นสักพักจึงมีโทรศัพท์สำคัญจากใครบางคนโทรเข้ามาทำให้ชายหนุ่มจำต้องออกไปพบใครผู้นั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทว่าก็ยังคงกำชับให้ลูกน้องดูแลวิรัลให้ดีและอย่าปล่อยให้มีคนแปลกหน้าเข้ามาในหมู่บ้านแห่งนี้โดยเด็ดขาด

               

                อีกด้านหนึ่งนั้นธามเองก็กำลังนั่งเหม่ออยู่ในห้องทำงานที่คลับของเขา โดยมีชาครทำหน้าที่เป็นเลขาตามปกติ

                “นี่ชาคร...”

                เสียงทุ้มเปรยทักขึ้นเนือย ๆทำให้คนที่กำลังนั่งสังเกตอาการของผู้เป็นนายสะดุ้งโหยง และรีบรับคำทันที

                “ครับ ท่านธาม มีอะไรหรือครับ!”

                ธามมองลูกน้องคนสนิทของเขา แล้วจึงแย้มยิ้มน้อย ๆก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ

                “ชาคร...ถ้าฉันเกิดคิดเลิกที่จะกินหัวใจมฤคมาศขึ้นมาแล้วล่ะ...นายจะว่ายังไงจะเลิกรับใช้ฉัน แล้วไปหานายใหม่แทนหรือเปล่า”

                ชาครชะงักกับสิ่งที่ได้ยินเขาเองก็พอมองออกว่านายของตนกับเด็กหนุ่มมฤคมาศคนนั้นมีความรู้สึกพิเศษต่อกันอยู่แต่เขาไม่คิดว่ามันจะมากมายเสียจนทำให้ธามนั้นยอมละทิ้งพลังอำนาจที่เคยปรารถนามาตลอดเช่นนี้

                “...ผมรับใช้ท่านเพราะท่านธามและท่านแม่ของท่านมีบุญคุณเคยช่วยชีวิตผมเอาไว้สมัยเด็ก ...นายของผมมีเพียงท่านธามเท่านั้นไม่ว่าท่านจะตัดสินใจอย่างไร ผมก็ยินดีพร้อมอยู่เคียงข้างท่านเสมอครับ”

                ชาครบอกด้วยถ้อยคำที่กลั่นออกจากใจของเขาทำให้คนฟังแย้มยิ้มอ่อนโยนตอบรับ

                “ขอบใจ... แต่ว่านะชาครถึงฉันจะเลิกคิดกินหัวใจของมฤคมาศแล้ว แต่ฉันก็ไม่คิดวางมือจากความฝันของฉันง่าย ๆนักหรอก ...แม้ว่าจะไร้พลัง แต่ฉันก็ไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบแน่...และเพื่อการนั้น ฉันก็ต้องคว้าตำแหน่งสูงสุดของเผ่าวกะมาครองให้จงได้อยู่ดี!”

                ชาครมองนายเหนือหัวของตนอย่างชื่นชมแล้วจึงโค้งให้ด้วยความเคารพจากหัวใจ

                “ผมพร้อมจะเป็นพลังให้ท่าน เพื่อการนั้นเสมอครับ”

                ธามพยักหน้าตอบรับลูกน้องคนสนิทก่อนจะกลับคืนสู่ภวังค์ของตนต่อ ภาพใบหน้างดงามสะกดสายตาของวิรัล ยังคงติดตราตรึงในความทรงจำของเขาอยู่ตลอดเวลาและแม้จะรู้ดีว่าการที่ย้อนกลับไปเพื่อพบอีกฝ่ายจะหมายถึงการต้องเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตก็ตามแต่เขาก็ไม่อาจจะตัดใจจากเด็กหนุ่มไปง่าย ๆ ได้เช่นกัน

               

                พิชญ์เดินทางไปพบกับชายวัยกลางคนท่าทางสง่างามผู้หนึ่งบนห้องรับแขก ณ คอนโดหรูส่วนตัวของอีกฝ่ายคนตรงหน้าแย้มยิ้มเป็นกันเองยามเมื่อได้เห็นหน้าชายหนุ่ม

                “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะพิชญ์ เธอสบายดีสินะ”

                “ขอบคุณครับท่านตรัณ ผมสบายดีครับ”

                “หึ ๆ ไม่ต้องพูดสุภาพกับฉันนักก็ได้  เก็บไว้พูดกับพวกตระกูลวงศ์หริโณแทนดีกว่านะ”

                คนพูดแม้จะเอ่ยคล้ายประชดแต่ก็มีใบหน้ายิ้มแย้มและอารมณ์ดีดังเดิม ทำให้พิชญ์ต้องถอนหายใจเบา ๆ

                “ถึงยังไงก็สมควรแล้วล่ะครับท่านเองก็เป็นถึงเชื้อสายของประมุขรุ่นก่อน ๆ นะครับ”

                “แต่ฉันก็ไม่ใช่มฤคมาศอยู่ดีล่ะนะ ...อืม พูดถึงมฤคมาศเด็กคนนั้นสบายดีหรือเปล่าล่ะ”

                พิชญ์ชะงัก ก่อนจะปรับเปลี่ยนอาการเป็นปกติทว่าก็ยังคงไม่พ้นสายตาคมกริบของผู้มีประสบการณ์ชีวิตมายาวนานตรงหน้า

                “มีอะไรติดขัดหรือพิชญ์”

                “คือ...” พิชญ์มีทีท่าลังเลไม่กล้าพูด จนชายวัยกลางคนต้องถอนหายใจเบา ๆ

                “ถึงพวกเราจะอยู่คนละตระกูล แต่ก็ล้วนเป็นมโคเหมือนกันหากมีอะไรเกิดขึ้นกับว่าที่ประมุขของพวกเรา ฉันก็คิดว่าตัวเองน่าจะมีสิทธิ์สมควรได้รับรู้บ้างไม่ใช่หรือ”

                คำพูดนั้นทำให้พิชญ์ต้องยอมสารภาพความจริงให้อีกฝ่ายฟังและนั่นทำให้ตรัณถึงกับชะงัก และนิ่งเงียบไปอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะเปรยขึ้นเบา ๆ

                “เฮ้อ...ช่วยไม่ได้นี่นะ เรื่องความรักความชอบมันเป็นเรื่องของหัวใจ ...แต่ว่าเรื่องภาระหน้าที่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี”

                “ผมเกรงว่าจะเป็นการอยุติธรรมกับฝั่งของท่านน่ะสิครับ...ผมเองดูแลท่านวิรัลมาตั้งแต่เล็ก รู้นิสัยใจคอของท่านเป็นอย่างดีหากท่านปักใจต่อสิ่งใดแล้ว ยากนักที่จะทำให้ท่านหักใจได้  แล้วอย่างนี้...”

                ยังไม่ทันที่พิชญ์จะเอ่ยจบ อีกฝ่ายก็ยกมือปรามแล้วจึงเอ่ยขัดขึ้น

                “เธอไม่ต้องห่วงเรื่องทางฉันหรอกนะ...เรื่องของม่านฟ้าเองก็ด้วย ลูกสาวของฉันรู้หน้าที่ของตัวเองดี และถูกปลูกฝังให้สำนึกในหน้าที่ของตนตั้งแต่ตอนที่เธอเกิดมาแล้ว”

                พิชญ์นิ่งเงียบเมื่อได้รับฟังก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ

                “ผมจะพยายามเกลี้ยกล่อมท่านวิรัลให้ได้ครับ”

                ตรัณอมยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงเอ่ยบางอย่างที่ทำให้พิชญ์สะดุ้ง

                “ฉันอยากให้เธอเป็นมฤคมาศแทนจริง ๆ เลยนะพิชญ์...แต่ถึงไม่เป็นอย่างนั้น ถ้าเธอสนใจล่ะก็ ฉันจะยกม่านฟ้าให้เธอแทนก็ได้นะ ...ก็แค่ทนยอมโดนทางนายหญิงของเธอบ่นเอาหน่อยก็เท่านั้น”

                “อย่าพูดเล่นแบบนั้นสิครับ ใครได้ยินเข้าจะไม่เหมาะ”

                พิชญ์รีบแย้ง แต่คนฟังหัวเราะเบา ๆ ในลำคออย่างถูกใจ

                “ฉันพูดจริงต่างหาก สำหรับคนเป็นพ่อแล้วก็อยากให้ลูกสาวได้คู่กับผู้ชายดี ๆ และมีอนาคตมั่นคงทั้งนั้นล่ะ ...แน่นอนตำแหน่งนายหญิงของประมุขตัวจริงก็น่าสนแต่ให้เป็นเจ้าสาวของประมุขเงามันก็ไม่เลวนักล่ะนะ”

                เสียงทอดถอนหายใจของพิชญ์ทำให้ตรัณหัวเราะได้อีกครั้งจากนั้นพวกเขาก็พูดคุยนัดแนะ เรื่องที่จะให้วิรัลและม่านฟ้าได้พบเจอกันสักครั้งก่อนที่งานหมั้นของทั้งคู่จะเกิดขึ้น



                พิชญ์ถอดเสื้อสูทของตนออกโดยที่พิชานผู้เป็นลูกน้องก็รีบไปรับมาแขวนเก็บอย่างรู้งานจากนั้นจึงรอให้เจ้านายของตนนั่งพัก และนำน้ำเย็นไปเสิร์ฟอีกฝ่ายถึงที่นั่ง

                “ขอบใจ...แล้วท่านวิรัลล่ะ”

                “ทานอาหารเย็นเสร็จก็ขึ้นห้องนอนแล้วครับ”

                พิชานรายงานตามตรง ทำให้พิชญ์ถอนหายใจเบา ๆแล้วพยักหน้ารับรู้ค่อย ๆ

                “เอ่อ...แล้วทางนั้นล่ะครับ”

                พิชานถามอ้อมแอ้ม ด้วยเกรงจะถูกตำหนิว่าเขายุ่งจุ้นจ้านเรื่องส่วนตัวของผู้เป็นเจ้านายมากเกินไปทว่าพิชญ์นั้นกลับไม่ได้ว่าอะไรแล้วบอกไปตามตรง

                “ก็ตกลงกันเหมือนเดิมนั่นล่ะ ...ขนาดฉันเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังทั้งหมดท่านตรัณเองก็ยังไม่ว่าอะไรสักคำ แถมยังยืนยันจะให้ทางท่านม่านฟ้า กับท่านวิรัลหมั้นกันตามกำหนดการเดิมด้วย”

                พิชานยิ้มเจื่อน ๆ ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจกับวิรัลดีเพราะเขาเองก็รับรู้ถึงความรู้สึกของเด็กหนุ่มได้พอ ๆ กับพิชญ์เช่นเดียวกันทว่าเรื่องหมั้นก็สำคัญและยกเลิกลำบาก เนื่องจากม่านฟ้านั้นเป็น มฤคเศวตกวางเผือกที่หายากพอ ๆ กับมฤคมาศเลยทีเดียว

                และไม่ใช่เพียงมฤคเศวตจะเป็นมโคที่หายากอย่างเดียวมฤคเศวตเพศเมียเอง ก็ยังมีคุณสมบัติพิเศษอันน่าทึ่งอีกด้วย กล่าวคือ หากมฤคเศวตเพศเมียตั้งครรภ์บุตรนั้นเมื่อคลอดออกมาแล้ว ก็จะได้บุตรหรือธิดา ไม่เป็นมฤคเศวต ก็จะเป็น มฤคมาศ นั่นเอง

                “ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ถึงจะสงสารขนาดไหน หน้าที่ก็คือหน้าที่ ...ท่านวิรัลหากได้รับรู้เรื่องนี้เมื่อไหร่ ฉันว่าท่านก็คงจะยอมรับมันได้นั่นล่ะ”

                พิชญ์สรุป จากนั้นเขาจึงหลับตาลงช้า ๆ เพื่อพักสายตาเห็นดังนั้นพิชานจึงโค้งนิด ๆ ให้ และออกไปจากห้อง  ปล่อยให้ชายหนุ่มได้พักผ่อนเงียบ ๆ ไปตามลำพัง



                ตกดึกคืนนั้นเอง วิรัลที่ยังคงนอนเหม่อลอยไม่ได้หลับ ก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงกรอกแกรกผิดปกติที่หน้าระเบียงห้องนอนของเขา

                “...ใครน่ะ”

                เด็กหนุ่มที่หันไปมองพึมพำเสียงแผ่วแทบไม่พ้นลำคอเมื่อเห็นเงาของหมาป่าตัวใหญ่อยู่ด้านนอก ใจของเขาเต้นระทึกอย่างคาดหวังมากเสียยิ่งกว่าความหวาดกลัวที่ควรเกิดขึ้น

                เงาของร่างหมาป่า ค่อย ๆกลับคืนสู่ร่างมนุษย์อย่างน่าอัศจรรย์  จากเงาเปล่าเปลือยนั้น เผยให้เห็นเรือนร่างกำยำได้สัดส่วนเหมือนอย่างในฝันของวิรัลไม่มีผิดเพี้ยน

                วิรัลจำไม่ได้ว่าตัวเองเผลอลุกเดินขึ้นไปเปิดบานประตูกระจกให้อีกฝ่ายเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ทว่าเมื่อร่างทั้งสองใกล้ชิดกัน ต่างฝ่ายก็ต่างโผเข้าหาและกอดรัดร่างของฝั่งตรงข้ามอย่างโหยหา

                “เป็นคุณจริง ๆ สินะ...ไม่ใช่ความฝันของผมอีกใช่ไหม”

                วิรัลพึมพำถามเสียงครางกระเส่าเมื่อมือไม้ของร่างสูงใหญ่ลูบไล้ไปทั่วร่างโปร่งของตน

                “อา...เธอเองก็ฝันถึงฉันเหมือนกันอย่างนั้นหรือ...แต่ฉันคนนี้ไม่ใช่ความฝันหรอกนะ”

                “ตะ...แต่ว่า ถ้าไม่ใช่ความฝัน แล้วคุณมาที่ห้องผมได้ยังไงกัน”

                วิรัลเอ่ยแย้งแล้วก็ต้องชะงักเมื่อธามใช้มือข้างหนึ่งจับมือของเด็กหนุ่มให้มาสัมผัสที่บริเวณอกข้างซ้ายของเขา

                “ได้ยินเสียงหัวใจของฉันเต้นไหมล่ะ...ยังคิดว่าเป็นความฝันอีกหรือเปล่า”

                วิรัลฟังเสียงหัวใจของอีกฝ่ายที่เต้นแรงไม่แพ้ของเขาเจ้าตัวเงยหน้าขึ้นช้อนตามองอย่างยินดี ภาพนั้นทำให้ธามอดใจไม่ไหวแล้วจึงโน้มใบหน้าลงไปจุมพิตริมฝีปากเรียวบางนั่นแผ่วเบาในทีแรก ก่อนจะค่อย ๆกระชับริมฝีปากระหว่างกันให้ดูดดื่มมากยิ่งขึ้น

                “เธอหวานเหลือเกิน...หวานเสียยิ่งกว่าในความฝันของฉันเสียอีก”

                ธามกระซิบพึมพำข้างใบหูของอีกฝ่ายหลังจากถอนริมฝีปากออกมาวิรัลหน้าแดงวาบ แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอันใดปล่อยให้ชายหนุ่มหากำไรทั่วใบหน้าและลำคอของเขาจนหนำใจ จากนั้นสักพักธามจึงประคองเขาไปนั่งที่โซฟาริมหน้าต่างห้องแถวนั้นแทน

                “คุณมาหาผมถึงที่นี่ได้ยังไงครับ...แล้วไม่ถูกใครพบเลยอย่างนั้นหรือ”

                วิรัลที่ถูกอีกฝ่ายจับอุ้มขึ้นนั่งตักแล้วกอดเอาไว้หลวมๆ เอ่ยถามอย่างแปลกใจ ซึ่งธามพอได้ยินก็ยกยิ้มน้อย ๆ อย่างอ่อนโยน แล้วเอ่ยตอบ

                “คงเพราะว่าฉันเป็นลูกครึ่งมนุษย์กับวกะล่ะมั้ง ถึงได้รอดพ้นมาได้...ถึงแม้ว่าฉันจะไม่มีพลังเท่าวกะสายเลือดแท้ แต่เรื่องความว่องไวและกลิ่นของมนุษย์ที่มากกว่าหมาป่า มันก็มีส่วนช่วยทำให้ฉันเล็ดลอดสายตาและจมูกของพวกมโคมากมายจนตามมาเจอเธอได้...และอีกอย่างก็ต้องชมสังหรณ์ของฉันด้วยนะที่พามันมาหาเธอได้ถึงที่นี่ถูก”

                วิรัลพอได้ฟังก็ต้องตกตะลึงตาเบิกกว้างอย่างประหลาดใจ ตั้งแต่ที่ได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นลูกครึ่งมนุษย์แล้ว 

                “อ้าว...ไม่รู้หรอกหรือพี่เลี้ยงเธอไม่ได้บอกเรื่องของฉันให้เธอรู้เลยสินะ ฉันว่าระดับเขาก็น่าจะหาข้อมูลของฉันได้ง่ายดายอยู่หรอก”

                ธามบอกอย่างนึกขำ เมื่อเห็นสีหน้าตกตะลึงของคนบนตักเขา

                “มิน่า ...ผมถึงเห็นคุณแปลงเป็นร่างหมาป่าไม่ใช่มนุษย์หมาป่าอย่างที่วกะทั่วไปเป็น”

                วิรัลพึมพำ แล้วจึงชะงักเมื่อหวนคิดถึงอะไรบางอย่างก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนที่เขานั่งตักอย่างลังเลและแฝงความหวาดหวั่นให้สัมผัสได้

                “เพราะอย่างนั้นคุณถึงต้องการหัวใจของผมสินะ...”

                ธามนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ ก่อนจะยิ้มน้อย ๆแล้วพยักหน้ายอมรับตามมา

                “ใช่...ฉันเคยคิดแบบนั้น ....แม้แต่ตอนนี้ก็ตาม”

                วิรัลสะดุ้ง แล้วมองอีกฝ่ายด้วยสายตาตัดพ้อและผิดหวังเสียยิ่งกว่าความหวาดหวั่นที่น่าจะเป็นเสียอีก

                “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ...ฉันต้องการหัวใจของเธอก็จริงแต่ไม่ได้หมายความว่าหัวใจจริง ๆ เหมือนก่อนหน้านั้นสักหน่อย”

                ธามเอ่ยขึ้นพร้อมกับโน้มใบหน้าลงไปจุมพิตที่ขมับของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน

                “ที่ฉันต้องการมากที่สุดในตอนนี้ก็คือหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรักของเธอต่างหาก...จะมอบมันให้ฉันได้ไหม  ถ้าเธอมอบให้ได้ฉันเองก็จะมอบหัวใจรักของฉันให้กับเธอเช่นเดียวกัน”

                วิรัลนิ่งอึ้งไปอีกรอบ ทว่าเมื่อแววตาคมกริบพร้อมใบหน้าหล่อเหลาขยับเข้ามาใกล้ชิดใบหน้าของเขาขึ้นเรื่อยๆ เด็กหนุ่มก็ต้องหน้าร้อนวูบวาบ แล้วพึมพำเสียงแผ่วตอบรับไปอย่างลืมตัว

                “ครับ...ผมจะมอบมันให้คุณ”

                ธามแย้มยิ้มอ่อนโยนแล้วจึงกระชับจุมพิตอันดูดดื่มกับร่างโปร่งขึ้นอีกครั้งเวลาผ่านไปสักพักใหญ่ เสียงกรอกแกรกจากด้านนอกประตูห้องนอนของวิรัลก็ดังขึ้นธามซึ่งหูไวพอ ๆ กับวิรัล รีบหันขวับไปมองที่ประตู ก่อนที่เด็กหนุ่มจะรีบกระซิบบอกอีกฝ่าย

                “คุณรีบไปเถอะครับ ...เดี๋ยวใครจะมาพบเข้า”

                “แล้วฉันจะมาหาเธอแบบคืนนี้ อีกได้ไหม”

                ธามยังคงต่อรองวิรัลมองไปที่ประตูซึ่งมีเสียงฝีเท้าใกล้มาทุกขณะอย่างกังวลแล้วจึงตัดสินใจหันมาบอกอีกฝ่าย

                “ได้ครับ ...คุณรีบหนีไปเถอะครับ”

                “...ขอบใจ แล้วฉันจะมาหาเธออีกนะ”

                ธามชะโงกหน้ามาหอมแก้มเนียนของเด็กหนุ่ม ก่อนจะลุกขึ้นกระโดดถอยหลังออกไปหน้าระเบียงแล้วกลับกลายร่างเป็นหมาป่าสีเงินแสนสง่างามจากนั้นจึงกระโจนโดดจากระเบียงไปอย่างรวดเร็วอันเป็นเวลาเดียวกับที่ประตูถูกเคาะพอดี

                “ท่านวิรัล ...หลับหรือยังครับ”

                พิชญ์นั่นเอง ชายหนุ่มนั้นกำลังนั่งทำงานอยู่ห้องทำงานชั้นล่างแต่แล้วระหว่างที่คลายสมาธิละสายตาจากงาน  เขาก็เกิดคลับคล้ายคลับคลาเหมือนได้ยินเสียงกรอกแกรกแว่วๆ ดังมาจากชั้นสอง ทั้งที่เวลานี้วิรัลน่าจะนอนหลับแล้ว ชายหนุ่มจึงตัดสินใจขึ้นมาสำรวจดูห้องพักของนายน้อยของเขาสักหน่อย

                “อือ...พิชญ์เหรอ ...ฉันยังไม่หลับหรอก ไม่ง่วง...แต่สักพักจะนอนแล้วล่ะ มีอะไรหรือเปล่า”

                วิรัลที่ยืนอยู่แสร้งบอกออกไปแบบนั้นเพราะถ้าทำเป็นหลับ บางทีพิชญ์อาจจะยิ่งสงสัยมากยิ่งขึ้นก็เป็นได้

                “ผมขอเข้าไปในห้องได้ไหมครับ”

                วิรัลสะดุ้งเฮือกรีบสำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าตนเองทันทีโชคดีที่ธามนั้นแค่เพียงเล้าโลมภายนอกของเขา ไม่ได้จับเขาถอดเสื้อผ้าออกไม่อย่างนั้นคงแต่งตัวกันแทบไม่ทันเลยทีเดียว

                “ได้...เข้ามาสิ”

                วิรัลทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาระหว่างที่พิชญ์เปิดประตูเข้ามาชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจที่เห็นผ้าม่านและประตูบานกระจกเปิดออกและนายน้อยของเขาก็ไปนั่งเล่นอยู่โซฟาใกล้บริเวณนั้น

                “นอนไม่หลับหรือครับ...”

                พิชญ์ถามพร้อมกับเพ่งสังเกตพิจารณาใบหน้าของอีกฝ่ายโชคดีที่ไฟในห้องนอนมีเพียงแสงสลัวแถวหัวเตียงจึงทำให้ชายหนุ่มสังเกตใบหน้าของวิรัลไม่ชัดนัก

                “ก็...มัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย”

                วิรัลบอกแล้วเมินไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย แต่นั่นทำให้พิชญ์ตีความว่าเด็กหนุ่มอาจจะกำลังคิดถึงธามอยู่ก็ได้

                “อย่าเอาแต่คิดมากอยู่เลยครับ...กับเรื่องไม่เป็นเรื่องพวกนั้น”

                วิรัลสะดุ้งโหยง มั่นใจว่าพิชญ์ต้องพูดถึงธามแน่และเริ่มกังวลว่า หากพิชญ์เข้ามาใกล้เขามากไปกว่านี้ อาจจะทำให้ชายหนุ่มได้กลิ่นมนุษย์และสาบสัตว์เบาบางที่ติดกายเขาอยู่ตอนนี้ก็ได้

                ทว่าอาการตัวสั่นคล้ายหวาดหวั่นบางอย่างของวิรัลกลับทำให้พิชญ์เข้าใจผิดไปว่า เด็กหนุ่มคงกำลังเสียใจเรื่องธามจึงทำให้พิชญ์ไม่คิดจะรบกวนอีกฝ่ายต่อ และทำได้เพียงแค่ปลอบโยนเบา ๆ ก่อนจาก

                “ผมเชื่อว่าท่านจะผ่านความรู้สึกเหล่านี้ไปได้สักวันแน่นอน...ยังไงก็พักผ่อนเสียเถอะครับ พรุ่งนี้จะได้ไม่รู้สึกเพลีย”

                พิชญ์บอกแล้วก็เตรียมจะเดินออกไปทำให้วิรัลรู้สึกผิดที่ปิดบังอีกฝ่าย จนทำให้เด็กหนุ่มต้องเรียกรั้งพี่เลี้ยงคนสนิทเอาไว้อย่างลืมตัว

                “พิชญ์!”

                “...มีอะไรหรือครับ ท่านวิรัล”

                พิชญ์หันมาถามอย่างแปลกใจวิรัลนิ่งอึ้งและรีบหาเรื่องแก้ตัวตามมาทันที

                “เอ่อ...คือฉันอยากจะบอกว่าขอบคุณนะที่เป็นห่วง...ยังไงฉันก็จะพยายามผ่านมันให้ได้อย่างแน่นอน”

                วิรัลอ้อมแอ้มบอกแล้วก้มหน้าหลบตา แต่นั่นกลับทำให้พิชญ์แย้มยิ้มน้อยๆ แล้วโค้งให้

                “ครับ ...ผมจะเอาใจช่วยนะครับ”

                จากนั้นพี่เลี้ยงหนุ่มจึงออกจากห้องไปทิ้งให้คนที่อยู่ในห้องทอดถอนหายใจอย่างรู้สึกผิด

                “ขอโทษนะพิชญ์... แต่บอกเรื่องนี้กับนายไม่ได้จริง ๆ...บอกใครในหมู่พวกเรามโคไม่ได้ทั้งนั้น...”

                วิรัลพึมพำกับตัวเอง แล้วจึงจัดแจงปิดประตูกระจกและผ้าม่านก่อนจะเดินกลับมาที่เตียงใหญ่ กลิ่นกายมนุษย์และสาบสัตว์บางเบาของธามยังติดตรึงบางเบาที่ผิวกายของเขามันไม่ใช่กลิ่นที่น่าสะอิดสะเอียนและน่ากลัว แต่เป็นกลิ่นที่ชวนให้วาบหวิวและรู้สึกดีผิดคาด

                และภายในคืนนั้นวิรัลก็อาศัยกลิ่นกายของธาม ที่ติดเสื้อผ้าของตนช่วยบำบัดอารมณ์ใคร่ที่เกิดขึ้นไม่แตกต่างจากเจ้าของกลิ่นที่ยามนี้ก็กำลังอาศัยภาพใบหน้าหวาน ๆ ในความทรงจำ ช่วยระบายความเก็บกดที่เกิดขึ้นกับร่างกายให้คลายสิ้นไปเสียภายในคืนนี้ด้วยเช่นกัน 



...TBC...



          เห็นหลายคนบ่นกลัวดราม่า เรื่องนี้ไม่ดราม่านะจ๊ะ อาจจะมีฉากบีบคั้นอารมณ์บ้างแต่ก็นั่นล่ะ ไม่ดราม่าหรอกค่ะ ตอนปัดคิดพล็อตปัดยังคิดเลยว่า แฮปปี้แบบนี้มันจะดูง่ายไปไหมฉัน -*- แต่เอาเถอะ เพราะคนเขียนอยู่สายแฮปปี้เอ็นดิ้งค่ะ เน้นหวานเป็นหลัก ขมไปห่าง ๆ (หุ ๆ) ชอบทรมานกลั่นแกล้งตัวละครเป็นพัก ๆ (แอบโรคจิต)  แต่ยังไงก็รักตัวละครทุกตัว ยกเว้นตัวโกง (อิ ๆ ก็รักบ้าง แต่ชอบกลั่นแกล้งมากกว่า) 

    * ส่วนคำศัพท์ สำหรับบทนี้  มฤคเศวต  (มันไม่มีศัพท์นี้จริง ๆ หรอกค่ะ ปัดผสมเอาเอง - -”)
     มฤค-กวาง  เศวต-ขาว  รวมกันเป็น กวางขาว หรือ กวางเผือกนั่นเอง แหะ ๆ คำอื่นที่แปลว่าขาวมันก็เยอะ แต่มันมารวมกันแล้วรูปคำไม่เพราะอะค่ะ ปัดเลยเลือกคำนี้แทน  ติดขัดตายังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ

ด้านล่างนี่แอบสปอยส์ ถึงตัวละครใหม่นิด ๆ ใครไม่กลัวเสียอรรถรสในการอ่าน ก็ลากแถบดำอ่านเอาเองนะคะ ^^”
     สำหรับตัวละครใหม่ที่กำลังจะปรากฏ ซึ่งก็คือคุณหนูม่านฟ้า คู่หมั้นของวิรัล จะเป็นคนแบบไหน ยังไง เชิญติดตามรออ่านกันได้ค่ะ  แต่ถ้าใครที่ตามอ่านนิยายของปัดมาแต่ละเรื่องแล้วล่ะก็  คงจะจำได้นะคะ ว่าสาว ๆ แต่ละคนนี่น่ารักน่าหยิกกันขนาดไหน ไอ้เรื่องจะมากรี๊ด ๆ แย่งผู้ชายนี่ แทบจะไม่ปรากฏในตัวละครหญิงตัวหลักของปัดอยู่แล้วจ้ะ เพราะงั้น แอบสบายใจได้นิดนึงเนาะ  ^^

    มีอะไรท้วงติง ติชม เชิญตามสบายค่ะ  ส่วนปมต่าง ๆ จะค่อย ๆ ทยอยแทรกไประหว่างการดำเนินเรื่องในแต่ละบทจ้ะ  ^^ ในเรื่องนี้ ตั้งใจว่า จะให้มีตัวประหลาดโผล่มาให้เห็นอีกสองสามเผ่าล่ะนะคะ ^^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด