ลิขิตรักอสุรกาย : จบบริบูรณ์ + ตอนพิเศษ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ลิขิตรักอสุรกาย : จบบริบูรณ์ + ตอนพิเศษ  (อ่าน 406678 ครั้ง)

ออฟไลน์ mro

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
ธามหวั่นไหวแล้ว...ธามจะทิ้งน้องเร้อะ !  :z3:

ออฟไลน์ KhunToOk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-4
สงสารทั้งสองคนเลย   :sad4:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
โหย น่าสงสารอ่ะ ถ้ากวางน้อยรู้เสียใจแน่

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
เฮ้อ อุปสรรคมาแล้ว จะทำงัยต่อล่ะ

ออฟไลน์ FFS_Yaoi

  • นู๋ยังว่างมาจีบนู๋บ้างก็ได้
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
 :z13: :z13:

 :monkeysad: :monkeysad:
มันลำบากแท้ๆๆ  :a6:

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
เฮ้อ เหนื่อยใจแทน
ปล.ถ้าคนเขียนมาลงทุกวันจะดีใจมาก

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
เฮ้อ ทุกอย่างต้องมีอุปสักอยู่เสมอกว่าที่จะได้สิ่งนั้นมา ผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นคู่หมั่นนายเอกแน่ๆ

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ชอบครับ ขอค้างไว้ก่อน จบบทที่หนึ่งแล้ว
ขอบใจจ้า

YAYANORITZ

  • บุคคลทั่วไป
เอะใจกับชื่อเรื่อง เลยคลิกเข้าาอ่าน สนุกอะ กรี๊ดดดดดดดดดด 
รีบมาอัพเร็วๆนะ  :impress3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ReiiHarem

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-3
ผู้หญิงคนนั้นเป็นวกะกลุ่มอื่น ไม่ก็เป็นคนเผ่าอื่นๆ อืมๆๆ

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4


มาเยอะจุใจชดเชยตอนที่แล้วจ้า ...ตัวละครใหม่ ๆ ทยอยออกมาแนะนำตัวกันแล้วค่ะ ^^

--------------------


/7




     พิชญ์กลับมาถึงที่คฤหาสน์มฤคมาศ ก็เห็นว่าวิรัลยังคงนั่งเรียนคอมพิวเตอร์อย่างสนอกสนใจ จนน่าประหลาด

    “อ้าว กลับมาแล้วหรือพิชญ์ ดูนี่สิ พิชานเขาสอนฉันให้เล่นเน็ตด้วยล่ะ สนุกดีนะ”

    วิรัลอวดให้อีกฝ่ายเห็นหน้าจอที่เขาเข้าอยู่ พิชญ์ยิ้มน้อย ๆ อย่างเอ็นดู ดีใจที่เห็นวิรัลสนใจเรื่องอื่นนอกจากเรื่องของธามบ้าง

    “ส่งเมล์ก็เป็นแล้ว ...จะได้เอาไว้ติดต่อกับเขาได้...”

    วิรัลพึมพำแล้วอมยิ้ม ทว่าคนที่หูดีซึ่งยืนอยู่ใกล้ ๆ นั้นชะงักกึก ก่อนจะจ้องอีกฝ่ายนิ่งจนวิรัลรู้สึกตัวและหันมา

    “อย่าบอกนะครับ ว่าหัดเล่นคอมเพราะต้องการคุยกับเขาคนนั้นน่ะ”

    วิรัลสะดุ้ง หน้าซีดเผือดจนน่าสงสาร ทำให้พิชญ์โกรธไม่ลง

    “ทีหลังก็บอกกันตรง ๆ สิครับ... แบบนั้นก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องให้บุกมาถึงนี่อีก”

    วิรัลชะงักแล้วมองคนพูดอย่างแปลกใจ

    “นายไม่โกรธหรือ! แล้วอนุญาตให้เราติดต่อกันแล้วหรือ!”

    “ถ้าอยู่ในสายตาของผมก็โอเคครับ... แต่กรุณาช่วยอย่าลืมนะครับ ว่าท่านมีว่าที่คู่หมั้นเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว”

    วิรัลกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ แต่ก็รู้สึกยินดีที่พิชญ์ยอมอ่อนข้อให้เขาถึงขนาดนี้

    “ขอบคุณนะพิชญ์...รับรองว่าฉันจะไม่ทำให้นายต้องผิดหวัง”

    วิรัลพึมพำบอก ซึ่งพิชญ์ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วพยักหน้ารับรู้

    “ครับ...ผมก็หวังอย่างนั้น ...อ้อ...แล้วไม่อนุญาตให้ทำสิ่งไม่เหมาะสมระหว่างการติดต่อผ่านเน็ตด้วยนะครับ”

    วิรัลขมวดคิ้วอย่างสงสัย ส่วนพิชานรีบเบือนหน้าหนีไปอีกทางทันที ที่วิรัลหันมาทางเขาอย่างหมายจะถามว่ามันคืออะไร

    “สิ่งไม่เหมาะสมก็พวก...เอิ่ม...เอาเป็นว่า ระยะแรกก็ให้อยู่ในสายตาผมสักหน่อยแล้วกันครับ ถ้าวางใจแล้วจะปล่อยให้คุยกันเองได้”

    พิชญ์เอ่ยตัดบทเพราะนึกกระดากปากจนเกินจะพูดออกไปได้เช่นกัน

    “เอางั้นก็ได้ ...ขอบคุณนะพิชญ์ ...อ้อ! แต่เรื่องที่คิดจะช่วยงานของบริษัท นั่นก็ไม่ได้อ้างลอย ๆ นะ ...ฉันพร้อมจะช่วยจริง ๆ ฉันคิดมานานแล้วล่ะว่าปล่อยให้นายรับผิดชอบแทนตัวเองมากไปแล้ว”

    พิชญ์มองนายน้อยของเขาอย่างรักและเคารพ ก่อนจะเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้ม

    “ผมยินดีทำเพื่อท่านเสมอครับ”

    วิรัลยิ้มตอบ ดีใจที่พิชญ์ไม่โกรธเขา และให้โอกาสเขาได้พบกับธามบ้าง สำหรับเขาแล้วพิชญ์นั้นถือได้ว่าเป็นคนสำคัญของเขา แม้จะไม่ใช่อย่างคนรัก แต่ก็เป็นเหมือนคนในครอบครัวคนหนึ่งทีเดียว

     

    คืนนั้นพิชญ์สอนวิธีใช้โปรแกรมติดต่อพูดคุยกันผ่านเน็ต โดยสามารถเห็นหน้าตาของคู่สนทนาได้ วิรัลตื่นเต้นมากที่ได้คุยกับธามแบบนี้ ทว่าอีกฝั่งนั้นเหลือบมองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเด็กหนุ่มอย่างนึกรำคาญและขัดใจ เพราะมันทำให้เขาไม่สามารถดำเนินการ ‘คุย’ กับวิรัล ได้อย่างที่เคยวางแผนไว้

    “ผมให้ลิมิตแค่ห้าทุ่มนะครับ ...ท่านวิรัลจะได้ไม่นอนดึกนัก เดี๋ยวจะเสียสุขภาพพอดี”

    ธามถอนหายใจ แล้วจึงทำเป็นไม่สนใจคนยืนอยู่ ก่อนจะพูดหวานใส่คนน่ารักของเขาแทน

    “คิดถึงมากเลยรู้ไหม ...เมื่อคืนนี้ยังฝันถึงเลย ฝันเหมือนคืนแรกที่ฝันถึงน่ะ”

    วิรัลหน้าแดงก่ำเมื่อได้ยินเช่นนั้น ทำเอาพี่เลี้ยงคนสนิทคิ้วขมวด แต่ก็ยังคงยืนฟังเฉย ๆ จนธามชักอยากจะแกล้งดูว่าอีกฝ่ายจะยืนทนฟังได้แค่ไหน

    “ไม่รู้ว่าเมื่อคืนนี้เราจะฝันแบบเดียวกันอีกหรือเปล่านะ...ว่าไงล่ะ ของฉันน่ะฝันถึงเธอที่แปลงร่างเป็นกวางทองแสนสวย เดินมาหาฉัน แต่พอเข้ามาใกล้เธอก็กลายร่างเป็นมนุษย์... แล้วก็เข้ามากอดฉันทั้งร่างเปลือยเปล่าแบบนั้น...จากนั้นก็จับฉันถอดเสื้อผ้าทีละชิ้น...แล้วก็ลงมือเล้าโลมในแบบที่ฉันเคยทำให้เธอครั้งก่อน...”

    วิรัลหน้าแดงหนักยิ่งกว่าเดิม และยังไม่ทันที่พิชญ์จะต่อว่าให้ธามหยุดพูดลามกกับนายน้อยของเขาสักที เด็กหนุ่มก็รีบปิดหน้าจอโน้ตบุคลงเสียก่อน

    “เป็นผู้ชายที่หน้าด้านไร้ยางอายสิ้นดีเลยนะครับ!”

    พิชญ์เปรยบ่นอย่างหงุดหงิด แต่วิรัลนั้นหันมามองพี่เลี้ยงของเขา แล้วบอกเสียงค่อยอย่างเอียงอาย

    “จริง ๆ เมื่อคืนนี้ ฉันก็ฝันคล้าย ๆ แบบนั้นเหมือนกัน...อ๊ะ! แต่ฉันตื่นก่อนที่จะทำอะไรกับเขานะ!”

    วิรัลรีบบอก แล้วก็หน้าแดงอีก ส่วนพิชญ์นั้นยืนนิ่งอึ้ง ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ตามมา

    “เอาเป็นว่า ถ้าอยากจะคุยต่อก็เชิญตามสบายนะครับ ...แต่ช่วยปราม ๆ ให้ทางนั้นเลิกพูดจาลามกสักที ไม่อย่างนั้นคราวหน้า ผมจะให้ส่งเมล์คุยกัน แทนที่จะได้เห็นภาพนะครับ”

    พิชญ์บอกแล้วก็เดินออกจากห้องไป วิรัลยังคงหน้าแดงด้วยความอาย จากนั้นสักพักจึงค่อย ๆ เปิดโน้ตบุคของเขาขึ้นมา

    “...ใจร้ายชะมัด จู่ ๆ ก็หนีกันไปเสียได้”

    ธามแสร้งเปรยขึ้นคล้ายว่ากำลังงอน จนวิรัลใจเสีย

    “ขอโทษครับ...ผมแค่อายเท่านั้น...ขอโทษจริง ๆ นะครับ”

    พอเห็นอีกฝ่ายรู้สึกผิดจริง ๆ ธามจึงเลิกคิดแกล้ง แล้วยิ้มน้อย ๆ ตามมา

    “ไม่ต้องขอโทษขนาดนั้น ฉันไม่ได้โกรธเธอมากมายอะไรหรอก...อ้าว แล้วพี่เลี้ยงคนเก่งเธอไปไหนเสียแล้วล่ะ”

    วิรัลชะงักแล้วจึงยิ้มเจื่อน ๆ ก่อนจะตอบกลับไป

    “ออกไปนอกห้องแล้วล่ะครับ...แต่เขาฝากมาบอกว่า ให้พูด...เอ่อ...เรื่องพวกนั้นให้น้อยลงหน่อย...ไม่อย่างนั้นเขาจะให้ส่งเมล์คุยกันแทนครับ”

    ธามหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แต่ก็รู้สึกดีที่อีกฝ่ายก็ยังยอมอ่อนข้อและเปิดโอกาสให้เขากับวิรัลได้คุยกันลำพังเช่นนี้

    “ฉันอยากสัมผัสเธอจัง...วิรัล  เวลาอยู่กับเธอแล้วฉันรู้สึกจิตใจมันสงบ ทำให้ลืมเรื่องรกสมองทั้งหลายแหล่ ...เธอทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่กำลังมีความสุขกับรัก อย่างที่ฉันไม่เคยเป็นมาก่อน”

    “คุณธาม...”

    วิรัลพึมพำเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยความซาบซึ้งใจ พวกเขาคุยอะไรกันหลายอย่างทั้งเรื่องชีวิตประจำวัน และเรื่องส่วนตัวของแต่ละฝ่าย จนกระทั่งพิชญ์นั้นมาเคาะประตูเตือนให้วิรัลเลิกติดต่อกับธามได้แล้ว ทั้งคู่จึงจำต้องเลิกติดต่อกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    “แล้วเจอกันใหม่คืนพรุ่งนี้นะครับ ...ราตรีสวัสดิ์ครับ”

    “เช่นกัน...ขอให้ฝันของเธอคืนนี้มีฉันเหมือนเคยนะ”

    ธามทิ้งท้าย ซึ่งวิรัลก็หน้าแดงวาบ ก่อนจะตัดการเชื่อมต่อระหว่างกัน จากนั้นเด็กหนุ่มก็ปิดคอมและตรงเข้านอน ไม่นานนักเจ้าตัวก็หลับลงอย่างมีความสุขไปตลอดเช่นนั้นทั้งคืน

    หลังปิดโน้ตบุคของตนแล้ว ธามก็ต้องถอนหายใจเบา ๆ อย่างสับสน ยิ่งได้พูดคุย ได้เห็นหน้าวิรัลเช่นนี้ แม้จะไม่ได้สัมผัสโดยตรง แต่เขาก็รู้สึกเป็นสุขใจขึ้นมาไม่น้อย ความคิดที่อยากจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเด็กหนุ่ม โดยทิ้งเผ่าวกะไว้เบื้องหลัง แวบผ่านเข้ามาในสมอง ก่อนที่เจ้าตัวจะพยายามสลัดมันทิ้งไป แล้วตัดสินใจเข้านอนทันที แม้จะใช้เวลาเป็นนาน กว่าจะหลับลงได้ก็ตาม



      เช้าวันรุ่งขึ้นวิรัลนั้นรู้สึกตื่นเต้นยินดียิ่งนัก เมื่อพี่เลี้ยงคนสนิทบอกกับเขาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์นิด ๆ ว่า ธามนั้นอยากขอพบเจอหน้าวิรัล และเขาก็ได้นัดเวลา และสถานที่ให้ทั้งคู่นัดพบกันให้เรียบร้อยแล้ว

    “คนอะไรไม่รู้ได้คืบจะเอาศอก เมื่อคืนก็เพิ่งคุยเห็นหน้ากันไปแท้ ๆ ยังไม่ทันจะเช้าดีก็โทรมานัดเสียแล้ว”

    พิชญ์บ่นอุบตามมา ทำให้วิรัลต้องยิ้มเจื่อน ๆ แล้วรีบปลอบให้อีกฝ่ายคลายอารมณ์เสียลง

    “อย่าโมโหสิพิชญ์...แล้วฉันก็ต้องขอบคุณนายมากเลยนะ ที่ช่วยเหลือฉันขนาดนี้ ...ฉันมีความสุขมากเลยล่ะ”

    วิรัลบอกพร้อมใบหน้ายิ้มแย้มจนพิชญ์ต้องหันมามอง เขานิ่วหน้าคล้ายจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็หยุดเอาไว้ เห็นเช่นนั้นวิรัลจึงยิ้มเศร้า ๆ แล้วเอ่ยขึ้นแทน

    “ฉันรู้...ไม่ต้องห่วงนะพิชญ์ ฉันไม่ผิดสัญญาที่ให้ไว้หรอก ...ฉันก็แค่อยากจะเก็บเกี่ยวความสุขที่มีกับเขา มาประทับในความทรงจำของฉันก็เท่านั้น...”

    “ทำไมท่านถึงยึดติดกับเขาเพียงนั้นล่ะครับ...ท่านเพิ่งได้พบเขาแค่ไม่กี่วันเองนะครับ”

    พิชญ์เอ่ยกับอีกฝ่ายอย่างยั้งเอาไว้ไม่ไหว เพราะรู้สึกสงสารนายน้อยของเขาเสียเหลือเกิน

    “บอกไม่ถูกหรอกพิชญ์...แต่แค่เพียงสบตากัน มันก็ทำให้ฉันรับรู้ว่า ต้องเป็นแค่เขาเท่านั้น เป็นแค่เขาคนเดียว ไม่ว่าใครก็ไม่อาจมาแทนที่เขาได้ทั้งนั้น...”

    วิรัลเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเป็นสุขยามเมื่อพูดถึงธาม ทำให้พิชญ์ต้องหันไปลอบถอนหายใจ แล้วจึงฝืนยิ้มตอบ

    “ไปเตรียมตัวเถิดครับ ผมตั้งใจว่าเราจะไปปิกนิก เที่ยวเล่นกันที่นั่นเลยด้วย”

    “แต่เรานัดคุณธามตอนสายนี่”

    วิรัลถามอย่างงุนงง แต่พี่เลี้ยงของเขาก็ยิ้มน้อย ๆ แล้วเอ่ยขึ้น

    “ก็นั่นล่ะครับ ถึงจะต้องไปแต่เช้า...ไม่ได้เที่ยวเล่นมานานแล้ว ไม่อยากไปหรือครับ ที่นั่นมีเรือถีบ กับจักรยานให้ขี่เล่นด้วยนะครับ”

    คำพูดของพิชญ์สร้างความสนใจให้กับวิรัลเป็นอย่างยิ่ง เด็กหนุ่มรีบลุกพรวดขึ้นห้องพักไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว จนพิชญ์ต้องอมยิ้ม



    เมื่อมาถึงเป้าหมาย วิรัลก็ต้องเบิกตากว้างอย่างยินดี เมื่อเบื้องหน้าเขาคือสวนหย่อมกว้างของรีสอร์ทแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯมากนัก มีทะเลสาบที่มีเรือถีบและพายให้ใช้บริการ มีทางสำหรับขี่จักรยานชมวิว และที่สำคัญทั้งรีสอร์ท ถูกเหมาจองเอาไว้สำหรับพวกเขาเท่านั้น

    “วิเศษเลย...น่าจะมาพักที่นี่แทนถาวรเลยนะ”

    “อยากย้ายก็ได้นะครับ ...แต่ต้องย้ายมาอยู่เงียบ ๆ ห้ามติดต่อกับคนทางกรุงเทพฯ อีก ...ถ้าท่านตกลง ผมสามารถหาสถานที่ซึ่งวิเศษกว่านี้ให้ท่านได้เสมอเลยล่ะครับ”

    พิชญ์บอกแล้วยกยิ้มน้อย ๆ เจ้าเล่ห์ แต่คนฟังสะดุ้งโหยง แล้วรีบสั่นศีรษะไปมา จนพิชญ์สงสาร

    “ผมล้อเล่นน่ะครับ อีกอย่างที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ของพวกเราด้วย แต่ก็คนคุ้นเคยกันทั้งนั้นล่ะครับ ...อ้าว มาพอดี”

    ชายหนุ่มหน้าตาดีรูปร่างสูงโปร่งท่าทางสุภาพในชุดสูทดำ เดินออกมาจากบริเวณล็อบบี้ของรีสอร์ตตรงมาหาพวกพิชญ์ที่ยืนอยู่ เมื่อมาถึงเขาก็โค้งให้วิรัลอย่างนอบน้อม

    “ยินดีที่ได้พบครับท่านวิรัล ผมชื่ออำมฤต เป็นผู้ดูแลของท่านม่านฟ้าครับ”

    วิรัลชะงักเมื่อได้ยินชื่อว่าที่คู่หมั้นของเขา ก่อนจะยิ้มเจื่อน ๆ ให้อีกฝ่าย ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้ใส่ใจรอยยิ้มเช่นนั้น กลับยิ้มตอบอย่างสุภาพ แล้วจึงนำพิชญ์และวิรัลเข้าไปในรีสอร์ตด้วยกัน

    “คุณพิชญ์บอกว่าท่านวิรัลยังไม่ได้ทานมื้อเช้ามา ผมจึงได้จัดเตรียมไว้ให้แล้วล่ะครับ...”

    “แล้วท่านม่านฟ้าล่ะครับ”

    พิชญ์ถามถึงว่าที่คู่หมั้นของวิรัล ที่เขาตั้งใจนัดเตรียมให้ทั้งคู่ได้พบกันในวันนี้

    “เอิ่ม...ท่านม่านฟ้ายังอยู่ในห้องส่วนตัวอยู่เลยน่ะครับ ...พอดีเมื่อคืนนี้ท่านมีธุระต้องสะสางนิดหน่อย แล้วต้องออกเดินทางจากกรุงเทพฯ แต่เช้าตรู่ ท่านเลยยัง...”

    อำมฤตรู้สึกลำบากใจที่จะบอกว่าเจ้านายของเขายังนอนหลับไม่ตื่นอยู่เลย แต่ดูเหมือนพิชญ์พอจะเข้าใจความลำบากที่ว่า และเอ่ยปากขอโทษอำมฤตที่ฝ่ายเขานัดกะทันหัน  จากนั้นพวกเขาจึงขอตัวไปรับประทานมื้อเช้าก่อน ท่ามกลางความโล่งอกของอีกฝ่าย

    “เฮ้อ...โล่งอกไป ...ท่านม่านฟ้านะท่านม่านฟ้า ถ้าท่านตรัณรู้เข้า คงได้ทะเลาะกันอีกแน่”

    จากนั้นอำมฤตก็ให้คนของเขาคอยดูแลความเรียบร้อยของทางห้องอาหาร ส่วนตัวเขาก็เข้าไปยังห้องส่วนตัวของนายสาว จัดแจงเคาะประตูสักพัก ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับ ชายหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ แล้วจึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป


ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4


  เด็กสาวบนเตียงนอนหลับตาพริ้มเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อย ๆ ดูน่ารักและน่าเอ็นดู อำมฤตคงไม่นึกอยากบ่นหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะเวลานี้ เป็นเวลาที่เด็กสาวควรจะต้องตื่นแล้วไปต้อนรับว่าที่คู่หมั้นของเจ้าหล่อนตามกำหนดการระหว่างฝั่งเขาและฝั่งพิชญ์ที่เตรียมเอาไว้

    “ท่านม่านฟ้าครับ...ตื่นได้แล้วครับ วันนี้ท่านจะต้องรับรองท่านวิรัลตั้งแต่เช้านะครับ”

    คนที่ถูกปลุกปรือตามามองอย่างงัวเงีย พอเห็นว่าใครมาปลุกเธอก็ดึงผ้าห่มมาคลุมหน้าหลบ แล้วพึมพำบอกเบา ๆ

    “...คุณอำมฤตก็ไปโทษท่านพ่อแทนสิคะ ถ้าไม่ใช่เพราะถูกท่านพ่อตำหนิยาวตั้งนานสองนานเช่นนั้น  ดิฉันก็คงไม่มาถึงที่นี่ดึก ๆ ดื่น ๆ จนทำให้ต้องนอนตื่นสายเช่นนี้หรอกค่ะ”

    อำมฤตมองนายสาวที่เขาดูแลมาตั้งแต่เล็กอย่างเอือมระอา ถ้าไม่เพราะม่านฟ้าไปขับรถเฉี่ยวชน จนยับเยินกลับมาทั้งคัน  ตรัณก็คงไม่เรียกบุตรสาวมาอบรมจนยืดยาวแบบนั้นหรอก

    “เดี๋ยวดิฉันจะรีบชำระล้างร่างกายและแต่งตัวลงไปพบท่านวิรัลเอง คุณอำมฤตก็ออกไปรอข้างนอกเถอะค่ะ”

    อำมฤตเลิกคิ้วแต่ก็ยังรับคำและโค้งให้อีกฝ่าย และขอตัวออกไป เมื่อพี่เลี้ยงคนสนิทออกไปแล้ว ม่านฟ้าจึงดึงผ้าห่มที่คลุมหน้าลง ก่อนจะรีบลุกไปดูใบหน้าตนเองที่กระจกตรงโต๊ะเครื่องแป้ง เมื่อไม่เห็นว่ามีอะไรผิดปกติ เธอจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะยิ้มเศร้า ๆ กับตัวเอง

    “คุณอำมฤตอย่างนั้นหรือ...กี่ปีแล้วนะ ที่พวกเราไม่ได้เป็นน้องฟ้า กับพี่น้ำ เหมือนเมื่อก่อนนี้น่ะ”

    จากนั้นเด็กสาวก็สูดลมหายใจเข้าปอด แล้วมองบนกระจกตรงหน้าด้วยสายตาแน่วแน่จริงจัง พร้อมกับพูดสะกดตัวเองเบา ๆ

    “เราคือม่านฟ้า ว่าที่คู่หมั้นและภรรยาของมฤคมาศ ...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  เราก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด!”

   

      หลังมื้อเช้าเสร็จสิ้นลง ม่านฟ้าก็ออกมาต้อนรับวิรัล ทำให้คนที่เพิ่งได้เจอ หน้าว่าที่คู่หมั้นถึงกับตกตะลึงเพราะความสวยของเด็กสาว

    “ยินดีที่ได้รู้จักนะคะท่านวิรัล ดิฉันม่านฟ้าค่ะ”

    “เอ่อ...ยินดีที่รู้จักเช่นกันครับ”

    วิรัลบอกอึกอักอย่างขัดเขิน เพราะเขาไม่เคยมีเพื่อนฝูงรุ่นราวคราวเดียวกันมาก่อน และยิ่งอีกฝ่ายเป็นถึงว่าที่คู่หมั้น แถมยังเป็นเด็กสาวแสนสวยขนาดนี้ ก็ทำให้เขาอดที่จะตื่นเต้นเอาไม่ได้

    “ท่านม่านฟ้าทานมื้อเช้าหรือยังครับ...”

    “ดิฉันทานมาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ในห้องค่ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะคุณพิชญ์”

     ม่านฟ้าบอกแล้วยิ้มหวาน จากนั้นพิชญ์จึงเสนอให้ม่านฟ้าและวิรัลไปเดินเล่นที่สวนหย่อมของรีสอร์ต เพื่อทำความรู้จักกัน ซึ่งวิรัลเองก็มองพี่เลี้ยงของเขาแล้วขมวดคิ้วยุ่ง แต่ก็ต้องฝืนยิ้มเมื่อหันไปเห็นม่านฟ้ายิ้มหวานให้เขา

    “ถ้าอย่างนั้นก็เชิญครับ”

    ม่านฟ้ายิ้มรับ แล้วเดินตามเด็กหนุ่มไปเงียบ ๆ ส่วนพิชญ์กับอำมฤต ก็มองตามนายน้อยของพวกเขาไปอย่างชื่นชมระคนเอ็นดู

    “เหมาะสมกันมากเลยนะครับ”

    อำมฤตเปรยเบา ๆ พร้อมกับยิ้มแย้มอย่างชื่นชม ส่วนพิชญ์นั้นพึมพำตอบรับก่อนจะเผลอถอนหายใจออกมาให้อีกฝ่ายได้ยิน

    “มีอะไรหรือครับคุณพิชญ์”

    “คือ...คุณคงได้ทราบ ‘เรื่องนั้น’ ของท่านวิรัลมาบ้างแล้วสินะครับ”

    อำมฤตชะงัก ก่อนจะพยักหน้ารับรู้พร้อมยิ้มเจื่อน ๆ ตอบ

    “ครับ...ท่านตรัณเรียกผมและท่านม่านฟ้าให้มารับรู้ ปัญหาทางฝั่งคุณแล้ว แต่ว่าทั้งผมและท่านม่านฟ้าเองก็ยังคงยืนยันเช่นเดียวกับท่านตรัณ ...ท่านม่านฟ้ามีชะตากรรมให้เป็นภรรยาของประมุข ตั้งแต่ที่ท่านเกิดมาเป็นมฤคเศวตแล้วล่ะครับ”

     พิชญ์ถอนหายใจอีกครั้งแล้วจึงพึมพำอย่างรู้สึกผิด

    “ผมจะพยายามให้ท่านวิรัลตัดใจ และหันมาให้ความสำคัญกับท่านม่านฟ้าแทนให้ได้ ...เพราะฉะนั้นผมอยากให้ทางคุณช่วยเหลือเรื่องนี้ด้วยอีกทาง ผมอยากให้ทั้งคู่ได้มีอนาคตที่ดีร่วมกัน ...เพราะสำหรับท่านวิรัลและคนนั้นแล้ว ผมมองไม่เห็นอนาคตอันสดใส รอคอยทั้งคู่อยู่เลยสักนิด”

    อำมฤตมองคนตรงหน้าอย่างชื่นชม เพราะพิชญ์นั้นทำทุกอย่างเพื่อเจ้านายที่ตนรับใช้ และยังคอยกังวลและดูแลกระทั่งเรื่องของความรู้สึกให้วิรัลอย่างเต็มที่ หากนายสาวของเขาแต่งงานกับวิรัล ก็เท่ากับเขาจะมีบุคคลที่น่าไว้วางใจมาคอยดูแลม่านฟ้าเพิ่มเช่นเดียวกัน

    “ขอบคุณนะครับ ที่คิดถึงความรู้สึกของทางฝั่งพวกผมด้วย... สำหรับผม หากเพื่ออนาคตของท่านม่านฟ้าแล้ว ผมก็ยินดีสละทุกอย่าง เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะต้องการความช่วยเหลืออะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ขอให้บอกมาได้ทุกเมื่อนะครับ”

    พิชญ์ยิ้มรับและยื่นมือออกไปให้อีกฝ่ายสัมผัส เช่นเดียวกับอำมฤตที่ยื่นมือมาสัมผัสกับชายหนุ่มอย่างยินดีเช่นกัน

   

    ระหว่างที่เดินเที่ยวชมบริเวณรอบรีสอร์ท โดยมีม่านฟ้าคอยอธิบายถึงประวัติการสร้างรีสอร์ทที่นี่ให้เด็กหนุ่มรับรู้ วิรัลก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินคำถามหนึ่งจากอีกฝ่าย

    “ท่านวิรัลมีคนที่รักมากอยู่ในหัวใจแล้วใช่ไหมคะ”

    “เอ่อ...เรื่องนั้น”

    ม่านฟ้าแย้มยิ้มหวานให้ แล้วจึงเอ่ยต่อ

    “ดิฉันได้ทราบเรื่องของท่านและคนที่ท่านรักผู้นั้น จากปากของท่านพ่อแล้วล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นในฐานะที่ดิฉันจะกลายมาเป็นคู่หมั้นของท่าน ดิฉันจึงอยากจะทราบจากปากของท่านเองด้วย เพื่อที่ดิฉันจะได้สามารถวางตัวได้เหมาะสม ไม่ก้าวก่ายให้ท่านวิรัลต้องขุ่นข้องหมองใจในภายหลัง”

    วิรัลนิ่งอึ้งเมื่อได้ยินที่เด็กสาวบอก เขาย้อนถามไปอย่างไม่เข้าใจ ว่าทำไมเธอถึงทนได้แบบนี้

    “ทั้ง ๆ ที่รู้แบบนั้น ทำไมคุณถึงไม่เป็นฝ่ายปฏิเสธ หรือขุ่นเคืองบ้างล่ะครับ...ผมไม่เข้าใจเลย หน้าที่มันสำคัญมากกว่าความรู้สึกของคุณอย่างนั้นหรือครับ”

    ม่านฟ้ายิ้มน้อย ๆ แล้วจึงก้าวเท้าเดินนำไปเรื่อย ๆ โดยมีวิรัลเดินตามมาไม่ห่าง

    “ดิฉันเข้าใจความรู้สึกของท่านดีค่ะ ...ดิฉันเองก็มีคนที่ดิฉันรักมากอยู่เช่นกัน ...แต่ว่าความสุขของคนที่ดิฉันรัก ก็คือการที่เขาได้เห็นดิฉันมีอนาคตมั่นคง และยืนอยู่เหนือมโคตนอื่น ๆ ในฐานะภรรยาของมฤคมาศ ...เพราะฉะนั้นดิฉันก็จะทำตามนั้น ...นี่คือการแสดงความรักในแบบของดิฉันค่ะ”

    วิรัลเงียบกริบพูดไม่ออก เขาหวนคิดถึงตัวเองและธามขึ้นมาบ้าง... เขารู้แต่เพียงว่าเขานั้นมีความรู้สึกดี ๆ ต่อธามในยามนี้ แต่เขาไม่เคยถามอีกฝ่ายเลยว่า อนาคตระหว่างเขาและชายหนุ่มจะเป็นอย่างไร  ธามจะเลือกเขาหรือเผ่า และหากธามเลือกเผ่าแทน แล้วเขาจะทำยังไงต่อไป

    ม่านฟ้าที่เห็นอีกฝ่ายมีสีหน้าสับสน รู้สึกสงสารและเห็นใจ คนที่ประสบชะตากรรมคล้าย ๆ กับตน เธอจึงจับมือของอีกฝ่ายขึ้นมาบีบเบา ๆ เป็นกำลังใจให้ ทว่าภาพนั้นก็ทำให้คนที่เพิ่งเดินเข้ามาในเขตรีสอร์ตถึงกับชะงัก แล้วจึงแสร้งกระแอมดัง ๆ ตามมา

     “สวัสดีวิรัล มาเช้าผิดคาดเลยนะ ...แล้วนี่ฉันมาไวเกินไปไหมเนี่ย ถ้ามาขัดจังหวะสวีทกันก็ต้องขออภัยด้วยนะ”

    วิรัลที่หันไปตามเสียงกระแอมมองอีกฝ่ายอย่างตกใจ ส่วนม่านฟ้านั้นปล่อยมือลงและมองคนที่ปรากฏกายขึ้น ก่อนจะครุ่นคิดถึงเรื่องบางอย่าง แล้วเอ่ยเบา ๆ ตามมา

    “คุณคนที่นั่งอยู่ในรถเมื่อวานนี้สินะคะ”

    “หือ...อ้าว เธอคนที่ปาดแซงรถฉันเมื่อวานนี่”

    ธามบอกอย่างนึกได้เช่นกัน แล้วจึงขมวดคิ้วน้อย ๆ ตามมา

    “หรือว่าเธอจะเป็นคู่หมั้นของวิรัล”

    วิรัลสะดุ้งโหยง เพราะเขาไม่เคยบอกเรื่องคู่หมั้นกับธามมาก่อน ส่วนทางด้านม่านฟ้านั้น พอได้ยินคำถามเธอจึงพยักหน้าน้อย ๆ แล้วเอ่ยตอบอย่างสุภาพ

    “ใช่ค่ะ ดิฉันเป็นว่าที่คู่หมั้นของท่านวิรัลค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ...คุณธาม”

    ธามหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างจ้องจับผิด แล้วจึงเอ่ยตอบกลับไปบ้าง

    “รู้จักชื่อฉันด้วยหรือ... นี่เธอบอกข้อมูลของชู้รักให้คู่หมั้นรู้ด้วยหรือวิรัล ไม่กลัวคู่หมั้นเธอจะรับไม่ได้หรอกหรือไง”

    วิรัลหน้าแดงวาบ ไม่คิดว่าธามจะกล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าม่านฟ้า และที่สำคัญเด็กหนุ่มรู้สึกว่า อีกฝ่ายดูท่าทางหงุดหงิดผิดเคยด้วยซ้ำ

    “ท่านวิรัลไม่ได้บอกดิฉันหรอกค่ะ แต่ดิฉันจำต้องทราบเรื่องราวรอบด้านของท่านวิรัลเอาไว้ เพื่อจะได้ปฏิบัติหน้าที่คู่หมั้น และภรรยาให้สมบูรณ์แบบน่ะค่ะ”

    ม่านฟ้าบอกแล้วยิ้มหวาน จากนั้นเธอจึงหันไปยิ้มให้กับชาครที่เดินตามมา แล้วเบิกตามองเธออย่างตกใจ

    “เป็นมโคเองหรอกหรือนี่ ...มิน่า คราวก่อนถึงว่าได้กลิ่นหอม ๆ จากไหนสักแห่ง”

    ชาครพึมพำอย่างลืมตัว ซึ่งม่านฟ้าก็ยิ้มน้อย ๆ ให้แล้วจึงเอ่ยตอบไป

    “ดิฉันก็ไม่คิดว่าคุณจะเป็นพวกวกะเช่นเดียวกัน แต่ก็นั่นล่ะค่ะ อากาศกลางเมืองหลวงโดยเฉพาะเวลาถนนยามรถติดมันแย่จริง ๆ  จนแทบจะสัมผัสกลิ่นอะไรไม่ได้เลย”

    “พวกคุณเคยเจอกันแล้วหรือครับ...”

    วิรัลแทรกขัดขึ้นบ้างอย่างสงสัย แม้จะรู้สึกหวั่น ๆ เรื่องที่ธามนั้นดูหงุดหงิดที่เขากับม่านฟ้านัดพบกัน ในวันที่เขากับเจ้าตัวนัดกันด้วยอยู่ก็ตาม

    “ค่ะ...มีอุบัติเหตุทางรถยนต์นิดหน่อย แต่คุณสุภาพบุรุษทั้งสองมีน้ำใจ เลยไม่เอาเรื่องดิฉันค่ะ ...แต่หลังจากนั้นดิฉันก็ไม่วายขับไปชนกับคันอื่นเข้าให้อีกอยู่ดี จนดิฉันถูกท่านพ่อตำหนิแล้วยึดใบขับขี่ไปแล้ว น่าเสียดายจริง ๆ ค่ะ เพิ่งได้มาใช้ไม่กี่วันแท้ ๆ”

    ม่านฟ้าบ่นพึมพำ แต่ชาครที่เห็นฝีมือขับรถของเด็กสาวแล้วนั้น นึกเห็นดีด้วยที่บิดาของอีกฝ่ายยึดใบขับขี่ของเจ้าตัวไปเสียก่อน

    “คุณม่านฟ้าทำใบขับขี่แล้ว งั้นก็อายุมากกว่าผมสิครับ”

    วิรัลหันไปถามม่านฟ้าอย่างตกใจ เพราะเขาคิดว่าเด็กสาวอายุน้อยกว่าเขาสักปีสองปีเสียอีก ทว่าทางด้านธามพอเห็นเด็กหนุ่มให้ความสนใจว่าที่คู่หมั้นมากกว่าเขา ชายหนุ่มก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก

    “ดิฉันเกิดปีเดียวกับท่านนั่นล่ะค่ะ แต่แก่เดือนมากกว่า ดิฉันเกิดต้นปีน่ะค่ะ”

     วิรัลร้องอ๋ออย่างเข้าใจ เพราะเขาเองนั้นเกิดปลายปี จึงยังไม่ครบ 18 นั่นเอง

    “ฉันว่าฉันขอตัวกลับก่อนดีกว่า พวกเธอทั้งคู่จะได้มีเวลาพูดคุยกันได้มากกว่านี้ยังไงล่ะ”

    ธามบอกแล้วหันหลังเดินกลับไปอย่างหงุดหงิด จนชาครต้องมองซ้ายขวาอย่างลังเล ทว่าก่อนที่ชายหนุ่มจะตามผู้เป็นนายกลับไป วิรัลก็รีบวิ่งไปเกาะแขนของธามเอาไว้เสียก่อน

    “คุณธามครับ!”

    ธามชะงักและหันมา ก่อนจะนิ่งเงียบไป เมื่อเห็นแววตาคล้ายจะร้องไห้ของอีกฝ่าย

    “ดิฉันขอตัวก่อนดีกว่าค่ะ ท่านวิรัล คุณธาม... ยังไงก็ขอเชิญทั้งคู่ เดินเที่ยวชมดูธรรมชาติของรีสอร์ทที่นี่กันก่อนนะคะ...เผื่อธรรมชาติจะช่วยทำให้จิตใจที่ร้อนรุ่มได้เย็นลง และช่วยให้บทสนทนาเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นบ้าง”

    ม่านฟ้าบอกแล้วยิ้มหวานให้ จากนั้นจึงขอตัวจากมาแล้วปล่อยให้วิรัลกับธามอยู่คุยกันสองต่อสอง เช่นเดียวกับชาครที่เลี่ยงตามออกมาด้วยกัน เขามองม่านฟ้าอย่างนึกแปลกใจที่เห็นเธอสนับสนุนเรื่องวิรัลกับธาม ทั้งที่เธอควรจะขัดขวางเรื่องของทั้งคู่แท้ ๆ ...ทว่าจู่ ๆ ม่านฟ้าที่เดินนำอยู่ก็เปรยขึ้นเบา ๆ คล้ายดังจะพูดกับตัวเอง

    “ดิฉันเองก็ต้องเลือกระหว่างความรักและหน้าที่เช่นเดียวกัน... แต่สำหรับดิฉันกับท่านวิรัลนั้นต่างกันตรงที่ว่า ...คนที่ดิฉันรักนั้นหาได้รับรู้ความในใจของดิฉันเลยไม่ แต่ดิฉันก็พอใจที่มันเป็นเช่นนั้น... ส่วนท่านวิรัลกับคุณธาม ทั้งคู่นั้นใจตรงกัน ...ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ยอมเสียสละเพื่อความรักแล้วล่ะก็ ดิฉันคิดว่าพวกเขาคงจะสามารถเคียงคู่กันได้อย่างมีความสุขแน่นอน”

    จากนั้นม่านฟ้าก็หันมาทางชาครแล้วยิ้มน้อย ๆ ให้ ก่อนจะเอ่ยในสิ่งที่ทำให้หมาป่าหนุ่มชะงักงัน

    “หากเจ้านายของคุณยอมละทิ้งศักดิ์ศรีจอมปลอมที่แบกรับไว้อยู่ได้เมื่อไหร่ ปลายทางที่รอคอยเขา ก็คงไม่พ้นความสุขจากรักอย่างที่เขาต้องการ ...แต่ถ้าเขาคิดว่าศักดิ์ศรีและอำนาจนั่นคือความสุขที่แท้จริงสำหรับเขา ...เขาก็ต้องสูญเสียท่านวิรัลไปตลอดกาลเช่นเดียวกัน”

    พอเอ่ยจบม่านฟ้าก็โค้งศีรษะนิด ๆ เป็นการอำลา แล้วเดินตรงกลับไปที่รีสอร์ทของเธอ ทิ้งให้ชาครมองตามหลังอีกฝ่ายไปเงียบ ๆ พลางเหลียวหันมายังทิศที่ธามและวิรัลยืนคุยอยู่ด้วยกัน ก่อนจะถอนหายใจขึ้นมาเฮือกใหญ่ แล้วพึมพำกับตัวเองแผ่วเบา

    “ให้เลือกเอาระหว่างความสุขจากความรัก หรือความสุขจากการที่มีอำนาจเหนือคนอื่น อย่างนั้นหรือ... ทำไมทั้งสองอย่างนี้ มันถึงเดินร่วมไปในเส้นทางเดียวกันไม่ได้นะ...ทำไมกัน”



   
... TBC ...


หลายคนคงคาดเดาถูก ถึงเรื่องหนูม่านฟ้านะคะ   ส่วนพี่ธามกับน้องวิรัลนาน ๆ จะได้เจอกันก็มีเรื่องทะเลาะกัน(เพราะความหึงบังตา) อีกแล้ว หุ ๆ แต่ก็หมายถึงทิศทางที่ดีก็คือ ยิ่งหึงยิ่งหวง ก็จะยิ่งรักมากขึ้นล่ะนะคะ ^^

เรื่องนี้ยังมีปมให้ทั้งดราม่า(นิดเดียว) กับทั้งหวานสลับกันไปอีกยาว ยังไงใครที่หลงติดตามมาแล้ว ก็มาตามต่อกันให้จบเถอะนะคะ แหะ ๆ  :o8: รับรองว่าความหวานจะรอคอยคุณอยู่แน่นอนค่าาาาา  :L1:

ป.ล. ไม่ได้เขียนแนวมีอุปสรรคยิบย่อยนานแล้วค่ะ เลยติดขัดนิดหน่อย ปกติงานของปัดจะแนวสบาย ๆ ไร้อุปสรรคซะส่วนใหญ่ล่ะนะคะ ถ้าบกพร่อง อ่านสะดุดยังไง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

ออฟไลน์ FFS_Yaoi

  • นู๋ยังว่างมาจีบนู๋บ้างก็ได้
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
 :z13: ก่อน

ยิ่งอ่านยิ่งพาเครียดอะ

มาม่าใส่ไข่เส้นอืด

ชามโตเลนนะีนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-11-2012 15:14:52 โดย FFS_Yaoi »

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
 กำลังสนุกเลย อยากให้ธามกับวิรัลมีความสุขค่ะ  :impress2:

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
ม่านฟ้าน่าสงสารที่สุดอ่ะ คนที่น้องรักก็ไม่รับรู้ถึงความรู้สึก ถึงบอกว่าเข้าใจ เเต่มันก็ต้องเจ็บอยู่ดี เหมือนทุกวันนี้เธอต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา 


 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ mro

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
เฮ้อ ผมชอบแนวไม่มีอุปสรรคมาก เพราะมันสบายใจดี เพราะชีวิตจริงมีอุปสรรคมากพอแล้ว

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
นานๆๆเจอกันที ก็อย่าทะเลาะกันน้าาา

ออฟไลน์ KhunToOk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-4
 :เฮ้อ:  หวั่นๆกับดราม่า


รอตอนต่อไปจ้า   

ออฟไลน์ ตัวเลข

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อ้างถึง
“ให้เลือกเอาระหว่างความสุขจากความรัก หรือความสุขจากการที่มีอำนาจเหนือคนอื่น อย่างนั้นหรือ... ทำไมทั้งสองอย่างนี้ มันถึงเดินร่วมไปในเส้นทางเดียวกันไม่ได้นะ...ทำไมกัน”

อาจเป็นเพราะว่าพระเจ้ากำหนดเส้นให้เลือกเดินเพียงแค่หนึ่งละมั้ง

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
ธามหงุดหงิดที่มาเจอวิรัลกะม่านฟ้าอะดิ หึงช่ายป่ะ

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
ม่านฟ้าชอบอำมฤตใช่ไหมนะนั่น อำมฤตก็ไม่ได้รู้อะไรเลย พิชญ์ก็ดูวุ่นวายน่าดู แต่ก็ยังดีที่ยอมให้ธามวิรัลเจอกัน แต่พิชญ์วางแผนอะไรไว้หรือเปล่าถึงให้ธามมาพบวิรัลแล้วต้องมาเจอวิรัลอยู่กับม่า่นฟ้าด้วยเนี่ย ธามก็กวนประสาทพิชญ์น่าดูเลยนะเนี่ย

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
ธามใจร้ายอะเฮ้ยยย วิรัลจะร้องไห้แล้วนะนั้น

โฮฮฮฮอ อย่างอนกันสิ ง้อลำบากนะเนี้ยยย

ม่านฟ้า เธอดูฮาดีนะ

alekung103

  • บุคคลทั่วไป
หึงมากเกินไปหรือเปล่าธาม ไม่ดูเหตุดูผลเลย

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
/8



     วิรัลยืนมองคนที่เบือนหน้าหนีไปทางอื่นอย่างรู้สึกเสียใจ ก่อนจะเอ่ยพึมพำเสียงสั่นเครือ

    “ขอโทษครับ...คุณธาม ...อย่าโกรธผมเลยนะครับ”

    ธามถอนหายใจแรง ๆ แล้วจึงหันมามองคนตรงหน้า ก่อนจะรวบร่างของวิรัลมากอดแน่นอย่างรักใคร่และหวงแหน

    “ฉันรักเธอ...ยิ่งเห็นว่าเธอมีคนอื่นที่เพียบพร้อมอยู่เคียงข้าง ฉันก็ยิ่งหวงและหึง...ทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่า ยังไงเธอก็ต้องเลือกคนนั้นมากกว่าฉันอยู่แล้วแท้ ๆ”

    “คุณธาม...”

    วิรัลกอดรัดร่างสูงใหญ่ตอบแน่นเช่นกัน แล้วจึงเอ่ยบอกกับอีกฝ่ายตามมา

    “แต่ถึงยังไง คนที่ผมรักที่สุด และจะรักตลอดไป ก็มีเพียงแค่คุณนะครับ...แค่คุณคนเดียวเท่านั้น”

    ธามเม้มปากน้อย ๆ แล้วจึงดันร่างของอีกฝ่ายออกห่าง ท่ามกลางความงุนงงของอีกฝ่าย

    “ไปอยู่กับฉันไหมวิรัล ...ฉันสัญญาว่าจะปกป้องเธอไม่ให้วกะตนอื่นเข้าใกล้ได้”

    วิรัลชะงัก แวบแรกเขาเตรียมจะตอบตกลงไปแล้ว ทว่าเมื่อหวนคิดถึงเรื่องของม่านฟ้า และพิชญ์ รวมถึงมโคตนอื่น ๆ ในเผ่า เขาก็ต้องเงียบงันอยู่นาน แล้วบอกกับอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

    “ไม่ได้หรอกครับ ...ผมทิ้งเผ่าไม่ได้ ก็คงเหมือนกับคุณธาม ที่ทิ้งเผ่าตัวเองมาไม่ได้เช่นเดียวกัน ...พวกเราไม่ควรพบกันแต่แรกแล้ว ...ไม่น่าพบกันเลยแท้ ๆ”

    พอบอกออกไปน้ำใส ๆ ที่พยายามบังคับอยู่ ก็ไหลลงมาอาบทั้งสองแก้ม ธามหลับตาสักพัก แล้วจึงถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นแล้วเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาของเด็กหนุ่ม

    “ใช่...เราไม่ควรมาพบกัน ...แต่เมื่อพบกันแล้ว ฉันก็ตัดใจจากเธอไม่ได้อยู่ดี ...ขอแค่ช่วงเวลานี้ ที่เรายังเจอกันได้ ...ฉันจะขอมาหาเธอแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงวันที่เราจากกัน...ได้ไหม”

    วิรัลสะอื้นแล้วโผเข้ากอดร่างสูงแน่น ทำให้พิชญ์ที่เตรียมมาตามนายน้อยของเขา และเห็นเหตุการณ์เหล่านั้นเข้า ต้องหลบซ่อนอยู่เงียบ ๆ หลังต้นไม้ เขาบอกไม่ถูกว่าดีใจหรือเสียใจ ที่ธามเลือกแบบนั้น... แต่หากธามยอมทิ้งเผ่า แล้วมาหาวิรัล เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะพร้อมยอมรับให้ธามเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิรัล และเลือกปฏิเสธม่านฟ้าแทนได้ไหม

    จากนั้นสักครู่ใหญ่ทั้งสองคนก็แยกจากกัน ธามช่วยเช็ดน้ำตาให้วิรัล แล้วหอมแก้มปลอบโยน จนวิรัลยิ้มออก และแล้วทั้งคู่จึงเดินจูงมือชมนกชมไม้ พูดคุยยิ้มแย้มกันไปเรื่อย ๆ คล้ายดังจะกอบโกยช่วงเวลาแห่งความสุขที่มีอยู่ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้



    “นายไม่คิดจะไปขัดขวางพวกเขาหรอกหรือ...”

    เสียงทักที่ดังขึ้นทำให้พิชญ์ชะงัก แล้วหันขวับไปมองคนที่เอ่ยทักด้วยแววตาวาววับ เพราะเขายืนอยู่เหนือลม จึงทำให้ไม่ทันได้กลิ่นของชาครที่ยืนอยู่ห่างออกไป

    “...ท่านธามมีความจำเป็นที่ต้องขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของเผ่าให้ได้ ไม่ใช่เพราะกระหายอำนาจ แต่เพราะท่านเคยสัญญากับศพแม่ของท่านเอาไว้... ท่านแม่ของท่านธามเป็นมนุษย์ในหมู่วกะ และเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนและใจดีมากที่สุดยิ่งกว่าใครที่ฉันเคยได้รู้จักมา”

    พิชญ์นิ่งเงียบรับฟัง โดยไม่คิดขัดออกไป เพราะเขาเชื่อว่าที่ชาครยอมเล่าเรื่องในอดีตของธาม ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นจะต้องเล่า ก็คงเพราะอยากให้เขารู้เรื่องอะไรบางอย่างแน่นอน

    “แม่ของท่านธามถูกสังหาร...โดยหาฆาตกรไม่พบ แต่พวกฉันมั่นใจว่า มันต้องเป็นวกะตนใดตนหนึ่งแน่ เพราะสภาพศพที่เห็น มันไม่น่าจะเป็นอย่างอื่น...แต่เพราะว่าท่านธามเป็นเพียงแค่ลูกครึ่งมนุษย์วกะ และไม่มีขั้วอำนาจใดหนุนหลัง นอกจากความเอ็นดูของท่านประมุขในฐานะบิดา จึงทำให้คดีถูกปิดลงโดยไม่คิดตามหาตัวฆาตกร ...ทั้งที่มันก็หาได้ไม่ยากเลยสักนิด แต่ทุกคนในเผ่า แม้แต่ท่านประมุขเองก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยว เพราะตัวฆาตกรนั้นอาจจะเป็นหนึ่งในสายเลือดของท่านประมุขอีกคนก็เป็นได้... ตั้งแต่นั้นมา ท่านธามก็เลิกเชื่อใจใครในเผ่านอกจากฉัน และพยายามทำทุกอย่างให้ก้าวขึ้นมาโดดเด่นเหนือวกะตนใด ...จนตัวท่านธามเองก็มีสิทธิ์และได้รับการยอมรับว่าเหมาะสม ที่จะเข้าร่วมชิงตำแหน่งประมุขคนใหม่ของวกะ เช่นเดียวกับทายาทคนอื่นด้วยเช่นกัน”

    ชาครเล่าจบก็นิ่งเงียบไปสักพัก แล้วจึงหันไปสบตากับพิชญ์นิ่ง แล้วเอ่ยขึ้นตามมา

    “ถ้าไม่มีเรื่องของนายหญิง...ท่านธามก็คงยอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อมฤคมาศได้ ...ท่านธามรักเขาจริง ๆ ...รักจนยอมเลิกล้มที่จะคิดกินหัวใจของมฤคมาศ เพื่อพลังและอำนาจที่เคยปรารถนามาตลอด ...รักจนอยากจะทิ้งทุกอย่างไปเสียเดี๋ยวนี้ ...แต่ท่านก็ไม่อาจจะลืมความแค้นในอดีตได้...”

    “นายมาบอกเรื่องนี้กับฉันเพื่ออะไรกัน”

    พิชญ์เอ่ยถามหลังจากที่เห็นชาครเงียบไปอีกครั้ง

    “หึ...ฉันก็แค่อยากให้นายรู้ว่า ที่ท่านธามเลือกเผ่าแทน ไม่ใช่เพราะเขาไม่ได้รักมฤคมาศ แต่เขาทิ้งหน้าที่ที่จะต้องทำไม่ได้ ...ก็เหมือนกับที่เจ้านายของนายทิ้งเผ่ามโคมาไม่ได้เหมือนกันนั่นล่ะ”

    จากนั้นชาครก็เบือนหน้าหันไปมองคนสองคนที่เดินเคียงคู่กัน ด้วยสายตาสงสารเวทนา

    “ความรัก กับ ความแค้น ... มันคงต้องเดินสวนทางกันไปเช่นนี้ ...แต่บางที ถ้าหากท่านธามบรรลุเป้าหมายของเขาแล้ว ตอนนั้นเขาอาจจะทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างมาหามฤคมาศก็เป็นได้...”

    ชาครเบือนหน้ากลับมาผสานสายตากับพิชญ์ นัยน์ตาคมกริบอ่อนแสงลง แล้วเอ่ยร้องขออย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

    “...ช่วยรอหน่อยได้ไหม อย่าเพิ่งให้พวกเขาแยกจากกันเร็วนักเลย...ตำแหน่งประมุขคนใหม่ของวกะ จะเปิดให้เลือกผู้เหมาะสม ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว ถ้าท่านธามล้างแค้นสำเร็จเมื่อไหร่...”

    “แล้วถ้าเขาทำไม่สำเร็จล่ะ ...ถ้าเขาไม่ได้รับตำแหน่งประมุข ...เขาก็จะสู้ต่อ โดยทิ้งให้ท่านวิรัลรออยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ อย่างไร้ความหวังอย่างนั้นรึ!”

    พิชญ์แย้งกลับไป เขายอมรับว่าหากเป็นอย่างที่ชาครบอก ก็เท่ากับวิรัลนั้นก็จะได้มีความสุขกับรักแท้ของตน แต่ถ้าไม่...วิรัลก็ต้องทุกข์ทนกับการรอคอยธามอยู่แบบนั้นไปเรื่อย ๆ และยิ่งเจ็บมากขึ้น หากทั้งสองครองคู่กันไม่ได้จริง ๆ ขึ้นมา

    ชาครเองก็ชะงักไปกับคำถามนั้น ...เขาถอนหายใจเบา ๆ แล้วจึงเอ่ยตอบด้วยแววตาจริงจัง

    “ถ้าถึงตอนนั้น ฉันจะถามท่านธามอีกที ...แล้วถ้าหากคำตอบที่ได้ คือการที่ทำให้ฝ่ายนายต้องรอต่อไปอย่างไร้จุดหมาย ...ฉันจะมาขอขมาพวกนายด้วยตัวเอง อยากได้อะไรจากฉันก็เอาไป จะตา แขน ขา ก็แล้วแต่… ขอแค่ชีวิตที่ต้องคงไว้ เพราะฉันจะใช้มันเป็นโล่ให้กับเจ้านายของฉัน หากวันหนึ่งที่เขาต้องพบกับอันตรายมาถึง”

    พิชญ์เม้มปากน้อย ๆ ก่อนจะสบถเบา ๆ กับตัวเอง แล้วจึงสะบัดหน้าหนี ทำเหมือนจะเดินจากไป จนชาครต้องเอ่ยทัก

    “คำตอบล่ะ!”

    “นายมันเป็นวกะที่แหกคอกจากเผ่าจริง ๆ ...ให้ตายเถอะ ฉันเจอพวกที่เจรจากันด้วยกำลังยังจะสบายใจเสียกว่า!”

    พิชญ์หันมาโพล่งใส่อย่างหงุดหงิด ก่อนจะนิ่งไปชั่วครู่ แล้วเปรยบอกโดยเบือนหน้าหนีไปมองอีกทาง

    “จะรอแค่ไม่เกินหกเดือนเท่านั้น  จะให้งานหมั้นคอยเลื่อนฤกษ์หนีไปเรื่อย ๆ มันทำไม่ได้นานนักหรอกนะ...มันไม่ดีกับทางฝ่ายหญิงเขาด้วย”

    ชาครถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะเอ่ยตามมา

    “ฉันเข้าใจ...บางทีถ้าเรื่องจบลงด้วยดี ก็อาจจะดีกับฝ่ายเธอคนนั้นด้วยก็ได้นะ”

    พิชญ์หันมามองคนพูดอย่างแปลกใจ เขาขมวดคิ้วยุ่ง จนชาครนึกอยากจะแกล้งแหย่อีกฝ่ายขึ้นมาบ้าง

    “ลองคุยกันดูเองสิ ...คนที่ฝืนใจหมั้น อาจจะไม่ใช่ทางฝั่งเจ้านายของนายคนเดียวก็ได้”

    จากนั้นชาครจึงเดินตรงไปอีกทาง ซึ่งไม่ห่างจากที่พวกวิรัลกับธามอยู่มากนัก ทิ้งให้พิชญ์เม้มปากน้อย ๆ อย่างนึกหมั่นไส้  ทั้งที่ก่อนหน้านั้นยังคิดชมในความซื่อสัตย์ภักดีของอีกฝ่ายอยู่เลยแท้ ๆ



    พิชญ์อยู่ในอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อย ที่ธามกับชาครนั้นถูกเชิญจากม่านฟ้าให้มาร่วมมื้อกลางวันด้วยกัน ส่วนอำมฤตนั่งนิ่ง ๆ คล้ายกระอักกระอ่วน ทว่าวิรัลกลับดูสดชื่น แม้จะค่อนข้างเกรงใจม่านฟ้าอยู่บ้าง แต่พอเห็นเด็กสาวยังคงดูร่าเริงแจ่มใส เด็กหนุ่มก็เริ่มคลายความกังวล และสนทนากับทุกคนอย่างเป็นกันเองมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

    ‘ตั้งใจจะให้หมอนั่นรู้ซึ้งว่า ท่านวิรัลมีท่านม่านฟ้าที่เพียบพร้อมอยู่เคียงข้างแท้ ๆ ไหงมันกลับตาลปัตรเป็นแบบนี้ไปได้นะ’

    พิชญ์คิดในใจอย่างหงุดหงิด สาเหตุหลักก็ต้องโทษตัวเขาที่เผลอใจอ่อนรับคำตกลงกับชาครไปแบบนั้น  ทั้งที่เอาจริง ๆ แล้ว ถ้าดำเนินแผนการเดิมต่อไปเรื่อย ๆ  ธามก็คงหมดความอดทน และเกิดหึงหวง ทะเลาะกับวิรัล จนนำไปสู่การเลิกรากันเร็ววันนี้ก็เป็นได้แท้ ๆ

     ภาพคนที่ลอบถอนหายใจตรงหน้า ทำให้ชาครที่มองอยู่ลอบยิ้ม ทั้งที่เคยคิดว่าอีกฝ่ายเป็นพวกจริงจังกับเผ่าและยึดหน้าที่เหนืออื่นใด แต่จริง ๆ แล้วพิชญ์เป็นคนจิตใจดีและอ่อนโยนอยู่ไม่น้อย  แม้ปากจะต่อว่า แต่ก็ยังยอมให้ความร่วมมือที่เขาขอร้อง ทั้งที่เจ้าตัวนั้นแสดงออกให้เห็นชัด ๆ ว่า รังเกียจเผ่าวกะของเขาเพียงใดแท้ ๆ

    “ถ้าทานเสร็จแล้ว ดิฉันแนะนำให้ไปพายเรือเล่น ย่อยอาหารกันดีกว่านะคะ เพราะวันนี้อากาศดีมากทีเดียว ไม่มีแดดแรง แถมยังมีลมพัดเย็นสบายตลอดอีกด้วย”

    วิรัลรับฟังอย่างสนใจ ก่อนจะนิ่วหน้านิด ๆ คล้ายนึกบางอย่างขึ้นได้

    “แต่ผมพายเรือไม่เป็น...ไม่สิ ผมว่ายน้ำไม่เป็นด้วยซ้ำ”

    ม่านฟ้าหันมายิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเอ็นดู ยังไม่ทันได้พูดอะไรธามก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน

    “ฉันสอนให้เองก็ได้ ฉันเคยพายเรือเล่นกับแม่ตอนเด็ก ๆ ตอนนี้ก็ยังพอจำได้อยู่”

    วิรัลหันมายิ้มให้กับชายหนุ่ม ส่วนม่านฟ้าก็ยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงหันไปทางอำมฤต

    “ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ...ดิฉันว่า พวกเรามาจับคู่กันพายเรือแข่งกันดีกว่านะคะ คงจะสนุกกว่าพายเฉย ๆ”

    ขาดคำของม่านฟ้า คนอื่น ๆ ก็พากันชะงัก แล้วคอยดูว่าเด็กสาวนั้นจะจับแบ่งทีมกันยังไงต่อไป

    “สำหรับท่านวิรัล คุณธามอาสาสอนวิธีพายเรือแล้ว ดิฉันเองก็คิดว่ายุติธรรมดี เพราะทั้งสองคน คนหนึ่งพายเป็นอีกคนพายไม่เป็น ...ส่วนที่เหลือ...”

    ม่านฟ้าเหลือบมองอำมฤตแวบหนึ่ง ก่อนจะตวัดสายตามาที่ชาครแทน

    “พวกเราจับคู่กันดีไหมคะ”

    ชาครสะดุ้งโหยง เช่นเดียวกับคนอื่นที่เหลือ อำมฤตขมวดคิ้วยุ่งอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ที่นายสาวของเขาคิดจะไปสานสัมพันธ์กับชายต่างเผ่าเช่นนี้

    “คงไม่เหมาะกระมังครับ”

    อำมฤตกระแอมเบา ๆ ทำให้ม่านฟ้าซ่อนยิ้มแล้วเอียงคอมองอีกฝ่าย

    “งั้นคุณอำมฤตจะมาคู่กับดิฉันแทนไหมล่ะคะ ...ที่เหลือก็ให้คุณพิชญ์กับคุณชาครคู่กันไป หรือว่าไงคะทั้งสองคน”

    ชาครฟังจากที่อีกฝ่ายบอก ก็พอจะนึกออกว่าคนที่ม่านฟ้าแอบหลงรักคือใคร เขาหัวเราะเบา ๆ แล้วจึงพยักหน้ารับรู้ตามมา

    “เอางั้นก็ได้ครับ ...แต่ถ้าคุณอำมฤตไม่ยินดี ผมจับคู่กับคุณม่านฟ้าเหมือนเดิมก็ได้”

    ธามเหลือบมองลูกน้องของเขาอย่างแปลกใจ เพราะไม่เคยเห็นชาครแสดงความสนใจผู้หญิงมาก่อน และเท่าที่สังเกตก็ไม่เห็นเหมือนลูกน้องเขาจะรักชอบม่านฟ้าแบบชู้สาว แต่ดูเหมือนชายหนุ่มกำลังมีแผนการอะไรบางอย่างแฝงมากับคำพูดนั้นด้วย 

    “ผมคู่กับท่านม่านฟ้าเองดีกว่าครับ...เอ่อ คุณพิชญ์ครับ...”

    พิชญ์มองอำมฤตอย่างพอจะรู้ในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการขอร้อง เขาฝืนยิ้มรับคำ พร้อมกับพยักหน้า

    “ผมคู่กับเขาก็ได้ครับ ไม่มีปัญหา”

    “อุ๊ย! ดีจังเลยนะคะ ในเมื่อได้คู่ครบแล้ว พวกเราไปเตรียมตัวกันดีกว่าค่ะ ...ระหว่างนี้ดิฉันจะคิดรางวัลสำหรับผู้ชนะไปพลาง ๆ ว่าจะให้อะไรดี ...คนอื่น ๆ ก็ช่วยกันคิดด้วยนะคะ”

    ม่านฟ้ายิ้มหวานสรุป ทำเอาแต่ละคนมองหน้าเด็กสาวตาปริบ ๆ และมีบางคนพอจะรับรู้นิสัยแท้จริงของอีกฝ่ายได้บ้างว่า แม้จะเป็นกุลสตรีที่เพียบพร้อมเพียงใด แต่ม่านฟ้าก็ยังมีส่วนที่ซุกซนเหมือนเด็ก ๆ ทั่วไปซุกซ่อนไว้ใต้บุคลิกสง่างามนั้นอยู่ดี

   

    ทะเลสาบของรีสอร์ตสวยงามมาก แม้จะเป็นทะเลสาบที่ถูกขุดขึ้นก็ตาม พวกเขาบางคนมองเรือพายที่นั่งกันได้สองคนต่อลำตาปริบ ๆ เพราะลำมันไม่ใหญ่มาก ชนิดถ้าหากใครนั่งไม่ดี หรือขยับกายไม่เข้าที่เข้าทางก็อาจจะทำให้มันพลิกคว่ำได้เลยทีเดียว

    “เอาคนละสีนะคะ ...พวกเราเอาลำสีฟ้านั่นดีกว่านะคะ”

    ม่านฟ้ารีบจองเรือก่อนใคร ซึ่งแต่ละคนก็ไม่ถือสา ชาครเลือกเรือลำสีเขียวสดใส ส่วนวิรัลก็เลือกลำสีขาวแทน

    “ถ้าอย่างนั้นก่อนจะแข่งดิฉันจะตั้งกติกาก่อนนะคะ ใครที่สามารถพายไปถึงท่าน้ำฝั่งโน้น และขึ้นฝั่งพร้อมกันทั้งคู่ได้สำเร็จก่อน ก็ถือให้เป็นผู้ชนะ ...และผู้ชนะมีสิทธิ์สั่งผู้แพ้ที่เข้าเส้นชัยเป็นคู่สุดท้าย ให้ทำอะไรให้ตนก็ได้ 1 อย่าง ในขอบเขตที่ผู้แพ้สามารถทำได้ ตกลงไหมคะ”

    กติกาของม่านฟ้า ทำให้ธาม กับ พิชญ์ชะงักแทบพร้อมกัน ทั้งสองหันมาสบตากันด้วยสายตาหวาดระแวงต่ออีกฝ่าย ก่อนจะหันมาทางม่านฟ้า แล้วพยักหน้ารับรู้ พลางมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ชนะให้ได้ทั้งสองฝ่าย จนม่านฟ้านึกขำ

    “งั้นก็แยกย้ายนะคะ เดี๋ยวดิฉันจะเป็นคนให้สัญญาณเอง รับรองไม่มีการโกงแน่นอนค่ะ”

    จากนั้นแต่ละคู่ก็แยกย้ายกันลงเรือ โดยคู่ของธามนั้น ธามรับอาสาเป็นคนพาย ส่วนคู่ของม่านฟ้า เด็กสาวบังคับอำมฤตให้เป็นแค่ผู้ช่วย แล้วเธอจะเป็นคนลงมือพายเอง ทว่าคู่ที่มีปัญหาตอนนี้กลับเป็นคู่ของพิชญ์กับชาครที่ยังคงตกลงกันไม่ได้

    “ไม่ได้! ฉันจะพายเอง ขืนให้นายพาย  มีหวังโกงเข้าข้างเจ้านายของนายพอดี!”

    ชาครหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้วจึงเปรยตอบขำ ๆ

    “ฉันไม่โกงกับแค่เรื่องแข่งพายเรือแบบนี้หรอกน่า ...แต่ถ้านายไม่ไว้ใจก็เป่ายิงฉุบตัดสินสิ ...รู้จักสินะเป่ายิงฉุบน่ะ”

    “เหอะ! คิดว่าฉันไม่รู้จักการละเล่นบ้าน ๆ ของพวกมนุษย์อย่างนั้นหรอกหรือ ... อีกอย่างคิดจะเป่ายิงฉุบกับฉัน เตรียมตัวแพ้เอาไว้ได้เลย”

    คนที่มั่นใจในพลังสายตาของตนท้าทาย ทว่าพอเริ่มต้นตัดสินกันจริง ๆ พิชญ์ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับอีกฝ่าย แม้จะลองขอแก้มืออีกรอบ แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ซ้ำ จนชายหนุ่มกัดฟันกรอดแล้วก็กระแทกเสียงใส่อย่างหงุดหงิด

    “เออ! งั้นนายก็พายไป แต่ถ้ารู้ว่าโกงช่วยหมอนั่นเมื่อไหร่ ฉันจะจับนายทุ่มลงน้ำแทนแน่!”

    “หึ ๆ ได้สิ...งั้นก็ไปกันได้แล้ว เดี๋ยวคนอื่นเขาจะรอนาน”

    ชาครบอกยิ้ม ๆ เรียกความหมั่นไส้ให้กับพิชญ์ยิ่งนัก และเมื่อทุกคนพร้อมแล้ว ม่านฟ้าก็ให้สัญญาณ การแข่งขันพายเรือจึงเริ่มขึ้นเดี๋ยวนั้นนั่นเอง...

   

... TBC ...


-----------------------------------------------------

มาแล้วค่า ตอนใหม่  หวังว่าตอนนี้คงถูกใจนักอ่านนะคะ เริ่มเห็นความหวังอันสดใสกันแล้วเนอะ ^^

-----------------------------------------------------
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-11-2012 21:57:06 โดย Xenon »

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
คึคึิื น่ารักทุกคู่เลย  :impress2: :impress2:


ดีใจอย่างน้อย ม่านฟ้าก็ยังสดใส อยู่บ้าง


ส่วนอีกคู่ ชาคร พิชญ์ ยังไง แต่แอบคิดนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด