ลิขิตรักอสุรกาย : จบบริบูรณ์ + ตอนพิเศษ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ลิขิตรักอสุรกาย : จบบริบูรณ์ + ตอนพิเศษ  (อ่าน 406661 ครั้ง)

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
 :3123:


/ 10


    “ลูกโกรธพ่อหรือธาม...ที่พ่อเสนอไปแบบนั้น”

    ปุริมเอ่ยถามบุตรชายคนเล็ก ซึ่งอีกฝ่ายก็แค่นยิ้มให้ ตอนนี้ทั้งห้องประชุมเหลือแต่พวกเขาสองคน ส่วนคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องไม่แยกย้ายกันกลับ ก็ไปรออยู่ด้านนอกกันหมด และเนื่องจากห้องนี้ทำด้วยวัสดุเก็บเสียงชั้นดี อีกทั้งผู้ที่อยู่ด้านนอกก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ยืนรออยู่ใกล้ ๆ พวกเขาจึงไม่มีโอกาสได้ยินเสียงสนทนาจากด้านในที่เกิดขึ้น 

    “ที่พ่อตัดสินใจเลือกทำเช่นนี้ ก็เพราะไม่อยากจะให้พี่น้องแก่งแย่งชิงดีจนลืมตัวลืมตน เข่นฆ่ากันเอง ...ถึงจะไม่ถูกกันยังไงแต่พวกเจ้าพี่น้องก็มีสายเลือดของพ่อไหลเวียนอยู่ในร่างเช่นเดียวกันนะลูก”   

     ธามแค่นยิ้มกับตัวเอง แล้วจึงย้อนถามอีกฝ่ายกลับไป

    “พี่น้องสายเลือดเดียวกัน จึงควรจะปรองดองไม่เข่นฆ่ากันสินะครับ... แต่ถ้าต่างสายเลือด ไม่เกี่ยวข้องกันเลย จะฆ่าก็ฆ่าได้ เหมือนอย่างที่แม่ผมโดนฆ่าใช่ไหม!”

    ธามเริ่มเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความโกรธจนลืมตัว  ทำเอาปุริมชะงัก แต่พอจะแก้ตัว ชายหนุ่มก็เอ่ยสวนกลับไปอีกด้วยแรงอารมณ์

       “นึกว่าผมไม่รู้รึ ว่าที่พ่อเลือกใช้วิธีนี้เพราะอะไร... เพราะพ่อกลัวใช่ไหม กลัวที่ผมจะฆ่าลูกชายของพ่อแก้แค้น ...ลูกชายคนที่อาจจะเป็นฆาตกรฆ่าแม่ของผมคนนั้นน่ะ!”

    ปุริมเงียบกริบ พูดอะไรไม่ออก ...เขาเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าผู้ที่ฆ่ามารดาของธาม อาจจะเป็นลูกชายคนรองของเขาเองก็ได้ แต่ในตอนนั้นด้วยความรู้สึกผิดที่ทำให้ภรรยาอีกคน ผู้เป็นมารดาของมาลุตต้องตรอมใจตาย และในฐานะบิดา ก็ทำให้ไม่อาจจะสืบสวนเรื่องราวลงโทษเลือดในไส้ของตัวเองได้  ด้วยรู้ดีว่าเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้  สาเหตุหลักก็คือตัวของเขาเอง หากเขาไม่รับภรรยาเข้ามาใหม่ ก็อาจจะไม่เกิดเหตุการณ์น่าเศร้านี้ขึ้นก็เป็นได้

    “...กบฏของเผ่าอย่างนั้นหรือ...เข้าใจเลือกโทษทัณฑ์ดีนี่... แต่บอกไว้อย่างนะครับพ่อ ...ต่อให้ต้องกลายเป็นศัตรูกับวกะทั้งเผ่า ผมก็จะต้องลากคนที่ฆ่าแม่ออกมารับโทษทัณฑ์ของมันอย่างสาสมให้จงได้ คอยดูเถอะ!”

    ธามทิ้งท้าย ก่อนจะเดินกระแทกเท้าออกจากห้องไป ทิ้งให้ปุริมนั่งนิ่งเงียบ พลางทอดถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้ม ...เขาไม่อาจจะช่วยบรรเทาความแค้นของธามให้คลายลงได้ เนื่องจากเขาได้ทรยศต่อความเชื่อใจของบุตรชายคนเล็กไปแล้วครั้งหนึ่งนั่นเอง

     ประมุขแห่งเผ่าวกะได้แต่หวังว่าธามจะไม่เอาตัวไปเสี่ยงกับมาลุต เพราะแม้ธามจะมีทักษะการสู้รบที่ยอดเยี่ยม และมีผู้ช่วยที่แข็งแกร่งอย่างชาคร แต่มาลุตนั้นเป็นวกะสายเลือดแท้ระดับสูง ที่มีพลังมหาศาล ทั้งยังมีลูกน้องมีฝีมือมากมายหลายคน ถ้าสู้กันจริง ๆ ธามก็คงเห็นทางรอดได้ยากเสียยิ่งกว่า... และการที่เขาตรากฎเช่นนี้ขึ้น ก็เพื่อยับยั้งมาลุตไม่ให้ลงมือทำร้ายน้องชายคนเล็กอีกทางหนึ่งด้วย

      “มธุรา...พรรณราย... พี่ยอมรับว่าทำผิดต่อพวกเจ้าทั้งสอง ...แต่ได้โปรดเถอะ ถ้าวิญญาณพวกเจ้ายังอยู่ โปรดช่วยคุ้มครองลูกของพวกเรา อย่าให้พวกเขาต้องเข่นฆ่ากันเองเลยนะ”

    ปุริมพึมพำถึงภรรยาผู้ล่วงลับไปแล้วทั้งสอง แล้วจึงนั่งเงียบ ๆ อยู่ในห้องนั้นอีกพักใหญ่ จึงได้กลับขึ้นไปพักผ่อนยังห้องส่วนตัวของเขาหลังจากนั้นต่อไป

   

    อีกด้านหนึ่ง ระหว่างที่ธามกับปุริมกำลังสนทนากันอยู่ มาลุตและพิภพก็เดินออกมาจากคฤหาสน์ เพื่อตรงไปที่รถยนต์ของแต่ละฝ่ายซึ่งจอดรออยู่

    “นี่พี่...ดูเหมือนพี่จะเฉย ๆ กับเรื่องที่พ่อห้ามไม่ให้พวกเราลอบทำร้ายกันเองนะ ...หรือพี่คิดจะวางมือจากตำแหน่งประมุขแล้ว”

    มาลุตเอ่ยถามพิภพด้วยความสงสัย แม้เขาและอีกฝ่ายจะมีมารดาคนละคนกัน แต่มารดาของพิภพและมารดาของเขาก็เป็นพี่น้องกันแท้ ๆ  โดยที่มารดาของพิภพนั้นเสียไปตั้งแต่ก่อนเขาเกิด ทว่ามารดาของเขาก็รักพิภพและสั่งสอนให้เขาเคารพอีกฝ่ายเหมือนพี่แท้ ๆ เช่นกัน

    “หึ...ไม่ดีหรือ ฉันวางมือ นายจะได้ไม่เหนื่อยไงล่ะ”

    พิภพบอกพร้อมกับยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก มาลุตยักไหล่แบะปาก แล้วจึงเอ่ยตอบกลับไป

    “กับพี่ผมไม่แคร์หรอก ถ้าทดสอบชนะพี่ได้ ก็ถือว่าที่เพียรฝึกมาตลอดไม่เสียเปล่า แต่ถ้าแพ้ก็ไม่หนักหนาอะไร ...แต่กับไอ้หมอนั่น ผมยอมแพ้มันไม่ได้เด็ดขาด ...แค่มันมีสิทธิ์เผยอมาชิงตำแหน่งประมุข ผมก็แทบจะรับไม่ได้แล้ว นี่ถ้าเพราะไม่ใช่พวกผู้คุ้มกฎทั้งสามรับรองมันด้วยตัวเองล่ะก็  ผมก็คงจะคัดค้านให้ถึงที่สุด!”

    พิภพนิ่งเงียบมองน้องชายคนรองเอ่ยถึงธามอย่างเคียดแค้น จากนั้นสักพักใบหน้าหล่อเหลาคมคายจึงมีรอยยิ้มน้อย ๆ ประดับ

    “จะว่าไปเขาก็เก่งนะ...ใช้เวลาไม่กี่ปีก็สามารถฝึกฝนร่างกายและความสามารถจนผู้คุ้มกฎทั้งสามยอมรับได้ ...นายก็ระวังอย่าประมาทนักล่ะ หมอนั่นเองก็คงจะคอยจ้องเล่นงานนายอยู่... ด้วยเหตุผลอะไรนายก็น่าจะรู้ดีไม่ใช่หรือ”

    มาลุตเม้มปากน้อย ๆ ก่อนจะสบถเบา ๆ แล้วกัดฟันเปรยตอบ

    “ผมไม่เสียทีมันง่าย ๆ หรอกพี่...แต่ก็เจ็บใจที่พ่อสร้างกฎใหม่นั่นขึ้นมา ใครฟังก็รู้แล้วว่า พ่อสร้างมาเพื่อจงใจจะปกป้องไอ้ธามมันชัด ๆ”

    “ไม่เห็นเป็นไร...ก็แค่นายชนะการทดสอบ ได้เป็นประมุขเมื่อไหร่ แค่กฎข้อสองข้อ อยากจะยกเลิกหรือตั้งใหม่ ก็เป็นสิทธิ์ของนายแล้วล่ะ”

    มาลุตเหลือบมามองคนพูดอย่างสงสัยระคนลังเลนิด ๆ

    “นี่พี่...พี่พูดเหมือนกับว่าจะสละสิทธิ์ไม่เข้าทดสอบชิงตำแหน่งประมุขของเผ่าเลยนะ”

    “หึ ๆ ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกน่า...”

    พิภพตอบพร้อมกับยิ้มน้อย ๆ

    “ฉันพูดถึงกรณีที่นายชนะการทดสอบต่างหาก... ส่วนเรื่องการแข่งขัน ฉันก็จะทำอย่างเต็มที่เท่าที่ความสามารถตัวเองอำนวยล่ะนะ”

    มาลุตฟังแล้วก็ยิ้มให้ จากนั้นจึงเอ่ยต่อ

    “ดี! ผมเองก็ไม่ชอบให้ใครมาอ่อนข้อ ผมต้องการชัยชนะที่เด็ดขาด สวยงาม และจะทำให้คนในเผ่ายอมรับและตระหนักว่า ผมเหมาะกับตำแหน่งประมุขของวกะมากขนาดไหน!”

    จากนั้นชายหนุ่มจึงเดินแยกย้ายไปอีกทางเพื่อขึ้นรถยนต์ส่วนตัวกลับที่พัก  ส่วนพิภพนั้นยังคงยืนยิ้มเงียบ ๆ มองไล่หลังมาลุตไป ก่อนจะหันมามองที่คฤหาสน์ทิศเดียวกับที่ธามและปุริมอยู่

    “ประมุขของวกะอย่างนั้นหรือ...หึ”

    พิภพหัวเราะเบา ๆ คล้ายดังกำลังเย้ยหยันบางสิ่ง จากนั้นเจ้าตัวจึงตรงไปที่รถซึ่งมีคนสนิทเปิดประตูต้อนรับ และเมื่อพิภพขึ้นไปนั่งเรียบร้อย รถยนต์สีดำคันหรูก็ขับออกไปจากคฤหาสน์แห่งนั้นในเวลาต่อมา



    ชาครรีบเร่งฝีเท้าเดินไปหาผู้เป็นนายเมื่อเห็นธามเดินออกมาจากห้องนั้น เขาเหลือบมองว่าปุริมจะออกมาด้วยไหม แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงของธามดังขึ้น

    “กลับกันได้แล้วชาคร ...วันนี้ฉันเหนื่อย คงไม่เข้าร้านแล้ว เดี๋ยวนายโทรบอกให้เจนภพช่วยดูแลร้านให้แทนทีแล้วกัน”

ชาครโค้งรับคำสั่งและเดินตามอีกฝ่ายไปที่รถซึ่งพอธามขึ้นนั่งบนรถ ชาครก็เห็นอีกฝ่ายขมวดคิ้วยุ่งแล้วหลับตาลง  ปฏิกิริยาที่แสดงออกนั้นทำให้ชาครไม่กล้ารบกวน เขาเปิดเพลงสากลจังหวะช้า ๆ สบาย ๆ อย่างที่ธามชอบคลอไประหว่างขับรถกลับ ทำให้คิ้วที่ขมวดยุ่งของคนที่นั่งเบาะหลังเริ่มคลายลงช้า ๆ เจ้าตัวถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะนั่งหลับตาไปเรื่อย ๆ ต่อจนกระทั่งถึงที่พักส่วนตัวของตน

   

    ใกล้เที่ยงคืนแล้ว แต่ธามยังคงนอนไม่หลับ เขาหวนคิดถึงวิรัลและอยากไปอยู่ใกล้ชิดเด็กหนุ่มในตอนนี้เสียเหลือเกิน เพื่อที่จะได้ลืมปัญหามากมายที่เป็นอยู่  ชายหนุ่มนั่งนิ่งสักพัก ก่อนจะถอนหายใจ และเตรียมจะข่มตาเข้านอน ทว่าเสียงมือถือที่ดังขึ้นก็ทำให้เขาชะงัก และหยิบมันมาดูพร้อมกับนิ่วหน้า เพราะเป็นเบอร์ที่เขาไม่รู้จัก

    “สวัสดีครับ...เบอร์คุณธามหรือเปล่าครับ”

    ธามที่กดรับแล้วเงียบฟังว่าใครโทรมา เมื่อได้ยินเสียงปลายสายเขาก็ตกตะลึง แล้วจึงตามมาด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ อย่างยินดี

    “ใช่...ฉันเอง โทรมาได้ยังไงน่ะ มีมือถือใช้แล้วหรือ”

    “เอ่อ...ครับ พอดีคุยกับคุณม่านฟ้า แล้วถูกถามถึงเบอร์มือถือไว้ติดต่อ พอบอกว่าไม่มี เธอก็เลยให้คนไปหาให้เดี๋ยวนั้นเลยล่ะครับ”

    ชื่อของม่านฟ้าและคำพูดที่แสดงถึงความสนิทสนมกับเด็กสาว ทำให้ธามนึกหึงหวงขึ้นมาอีกครั้ง แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่า ตัวเด็กสาวเองก็มีคนที่แอบรักอยู่แล้วเช่นเดียวกัน

    “อ้อ...แล้วแลกเบอร์กับเรียบร้อยแล้วสินะ กับว่าที่คู่หมั้นของเธอน่ะ”

    น้ำเสียงที่ถามเผลอติดห้วนไปอย่างลืมตัว ทำให้ปลายสายเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยเสียงค่อยตามมา

    “คือ...เราแลกเบอร์กันก็จริง  แต่เบอร์แรกที่ผมโทรหา ก็คือเบอร์คุณธามนะครับ”

    ธามชะงัก ก่อนจะถอนหายใจหนัก ๆ เขาหึงหวงจนเผลอใส่อารมณ์เกินไป ทั้งที่วิรัลโทรมาเพราะอยากพูดคุยกับเขาแท้ ๆ

    “ขอโทษ...ฉันหึงเธอเข้าให้อีกแล้ว อย่าเพิ่งเบื่อกันเลยนะ”

    ปลายสายเงียบไป ก่อนที่น้ำเสียงสั่นฟังดูเคอะเขินจะเอ่ยตอบ

    “ไม่หรอกครับ...ผมรักคุณมากนะครับ...ไม่มีวันเบื่อคุณง่าย ๆ หรอกครับ”

    ธามถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง ถ้าวิรัลอยู่ตรงหน้า เขาคงจับเด็กหนุ่มกอดและจูบให้หนำใจไปแล้ว 

    “คุณธามครับ...เอ่อ แล้วคุณธามจะหาเวลามาค้างคืนกับผม ...เอ่อ...กับพวกเรา ตามเกมลงโทษที่คุณม่านฟ้าให้ไว้ ได้เมื่อไหร่ล่ะครับ”

    คำถามถัดมา ทำให้ธามยิ้มออก และรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นจนลืมเรื่องเครียด ๆ เมื่อตอนหัวค่ำไปเกือบหมดสิ้น

    “ทางฉันน่ะพร้อมเสมอ ... เธอต่างหากล่ะ คุณพี่เลี้ยงแสนจะใจดีของเธอ เขาจะอนุญาตให้เธอว่างหรือเปล่า”

    วิรัลหัวเราะเบา ๆ เมื่อได้ยินที่ธามตั้งสรรพนามให้กับพิชญ์ ก่อนจะตอบกลับไป

    “พิชญ์น่ะไม่มีปัญหาหรอกครับ เพราะได้คุณม่านฟ้าช่วยกล่อมกึ่งบังคับทางอ้อม ...อ้อ คุณม่านฟ้าบอกว่า ถ้าคุณธามว่างเมื่อไหร่ให้ติดต่อผ่านผมกลับมา แล้วผมจะติดต่อบอกคุณม่านฟ้าอีกที ... เห็นว่ารีสอร์ทที่เตรียมไว้ อยู่ติดน้ำตกและเป็นส่วนตัวมากด้วย เป็นรีสอร์ทที่เธอบอกว่าเป็นเหมือนกระท่อมน้อยกลางป่าใหญ่  ไอ้ผมเองก็เดาไม่ค่อยจะออก แต่คิดว่ามันคงต้องน่าเที่ยวมากแน่”

    วิรัลบอกตามมาด้วยน้ำเสียงร่าเริงและคาดหวัง จนคนฟังต้องอมยิ้มตาม เพราะจากที่เคยได้พูดคุยกันมา ก็ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นถูกเลี้ยงดูราวกับไข่ในหินมาตลอด และไม่เคยมีเพื่อนฝูงรุ่นราวคราวเดียวกันมาก่อน

    “งั้นหยุดสุดสัปดาห์นี้เราไปกันเลยไหมล่ะ ...”

    “จริงหรือครับ! เอาสิครับ! เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะบอกคุณม่านฟ้าเลยนะครับ! ห้ามเปลี่ยนใจทีหลังนะครับ!”

    วิรัลรีบโพล่งสวนกลับมา จนธามอดหัวเราะเบา ๆ ไม่ได้

    “หึ ๆ แน่นอน ไม่เปลี่ยนใจแน่ ตอนนี้ฉันอยากไปให้ไกล ๆ เผ่าตัวเอง ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ล่ะนะ”

    ธามเปรยบอก ทำให้คนฟังชะงักแล้วย้อนถามกลับอย่างเป็นห่วง

    “มีปัญหากับเผ่าหรือครับ...”

    ธามนิ่งอึ้ง เพราะเผลอตัว จึงหลุดความในใจออกไป เขาจึงแสร้งหัวเราะเบา ๆ แล้วแก้ตัวตามมา

    “หึ ๆ ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่เรื่องกระทบกระทั่งกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในเผ่าตามเดิมนั่นล่ะ”

    วิรัลเงียบไปสักพัก ก่อนที่น้ำเสียงอ่อนโยนจะเอ่ยขึ้น ด้วยถ้อยคำที่ทำให้คนฟังถึงกับอึ้งไปชั่วครู่

    “คุณธามครับ... ผมช่วยรับฟังปัญหาของคุณได้นะครับ ...และแม้ผมจะช่วยแก้ไขปัญหาของคุณไม่ได้ก็ตาม ... แต่อย่างน้อย ผมก็อยากมีส่วนช่วยแบ่งเบาความทุกข์นั่นมาบ้าง ...ไม่ได้หรือครับ”

    ธามเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงยิ้มอ่อนโยนให้โทรศัพท์ ก่อนจะเอ่ยตอบ

    “ได้สิ...ไว้ฉันจะไปเล่าให้ฟังนะ ...ขอบใจมากวิรัล”

    “ครับ...อ๊ะ ...เอ่อ พิชญ์มาเคาะประตูให้นอนแล้วครับ งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ แล้วพรุ่งนี้ผมจะบอกคุณม่านฟ้าให้ แล้วผมจะโทรไปนัดแนะคุณอีกทีนะครับ...ไม่สิ ถ้าพรุ่งนี้คุณว่าง ผมจะคุยกับคุณผ่านคอมที่บ้านนะครับ...”

    ธามยิ้มแล้วตอบตกลง จากนั้นวิรัลก็วางสายไป และเพราะโทรศัพท์จากวิรัลในคืนนี้ จึงทำให้ธามนอนหลับสนิทอย่างสบายใจแทน จากที่เคยคิดว่าจะหลับ ๆ ตื่น ๆ เพราะความหงุดหงิดไปตลอดทั้งคืนแท้ ๆ

   

    หลังกลับจากประชุมของเผ่า มาลุตก็เดินอารมณ์เสียกลับห้องพักของตัวเอง  ชายหนุ่มอาละวาดเขวี้ยงปาของในห้องเพื่อระบายอารมณ์ จนไม่มีใครกล้าสู้หน้า ทว่ามาลุตก็ต้องหยุดการกระทำลงเมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก

    “ใคร!”

    ชายหนุ่มตวาดเสียงห้วน ทำเอาคนเคาะชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบกลับไป

    “ผมวินัยเองครับท่านมาลุต ...ผมมีเรื่องสำคัญที่ต้องบอกท่านด่วนเลยครับ เกี่ยวกับ ...เอ่อ...เรื่องที่ท่านให้ผมคอยติดตามอยู่น่ะครับ”

    ท้ายประโยคเจ้าตัวแผ่วเสียงลง คล้ายกลัวมีใครแอบฟัง มาลุตขมวดคิ้วยุ่ง ก่อนจะอนุญาตให้อีกฝ่ายเข้ามา ซึ่งวินัยก็มองซ้ายขวาด้านนอก แล้วปิดประตูห้อง จากนั้นจึงหันมาโค้งให้กับเจ้านายของตน

    “มีอะไรก็ว่ามา!”

    ชายหนุ่มยังคงอารมณ์เสียอยู่มากเรื่องธาม ทำให้วินัยนึกขยาด แต่ก็ยังคงรายงานเรื่องที่เขาติดตามมาได้ให้อีกฝ่ายรับรู้อยู่ดี

    “คือผมเจอภาพถ่ายนี้โดยบังเอิญในเน็ต ...คนถ่ายรูปเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะถ่ายทั้งคู่ แต่เจ้าตัวมาติดในภาพ ถึงจะเห็นไกล ๆ แต่ผมมั่นใจว่าเป็นท่านธ...เอ่อ เป็นหมอนั่น กับชาครลูกน้องของมัน  แต่อีกคนหนึ่ง ผมคลับคล้ายคลับคลา แต่ไม่กล้าฟันธงลงไป เลยนำมาให้ท่านดูด้วยตาตัวเองน่ะครับ”

    มาลุตรับกระดาษที่ปริ้นท์ภาพจากคอมพิวเตอร์มาพิจารณา ภาพนั้นถูกขยายรูปคนให้เด่นชัดขึ้น แม้จะมองไม่ค่อยถนัดนัก แต่ภาพชายหนุ่มสวมสูทที่ยืนคล้ายจะสนทนาอยู่กับธาม ก็ทำให้มาลุตเบิกตากว้าง

    “ไอ้พิชญ์ เผ่ามโคนี่!”

    วินัยลอบถอนหายใจเบา ๆ เพราะเขาก็คิดว่าน่าจะใช้พิชญ์ที่เคยปะมือกันมาเมื่อสามปีก่อน แต่เขาก็ไม่กล้าฟันธงลงไป เพราะอีกฝ่ายไม่น่าจะมาพบกับธามซึ่งเป็นวกะเช่นที่เห็นนี้ได้

    “ทำไมมันมาอยู่กับไอ้ธามได้ ...หรือว่า ไอ้ธามมันคิดจะร่วมมือกับพวกมโคเล่นงานพวกเรากันแน่!”

    มาลุตพึมพำอย่างสงสัยระคนแปลกใจ วินัยได้ยินเช่นนั้นจึงเสนอขึ้นบ้าง

    “ถ้าเราเอาภาพนี้ไปให้ท่านประมุขดู เราก็อาจจะเขี่ยมันพ้นทางของท่านไปก็ได้นะครับ”

    มาลุตหันมามองลูกน้อง เขานิ่งคิด ก่อนจะสั่นศีรษะ

    “ไม่ได้ ...หลักฐานแค่นี้มันยังน้อยไป มันอาจจะอ้างได้ว่าเป็นใครก็ได้ที่หน้าเหมือนมันหรือเหมือนไอ้มโคนั่น ...อีกอย่าง ถ้าไอ้ธามมันสนิทสนมกันดีกับพวกมโค ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีของพวกเรา”

    วินัยมีสีหน้าแปลกใจ จนมาลุตที่มองมาต้องยิ้มหยัน จากนั้นจึงเอ่ยให้อีกฝ่ายรับฟังในความเห็นของเขา

    “ถ้าไอ้พิชญ์ที่เป็นเสมือนประมุขเงาของมโคอยู่ในกรุงเทพฯ แบบนี้ แสดงว่ามฤคมาศก็คงอยู่ไม่ไกลนัก ...ถ้าไอ้ธามมันร่วมมือกับพวกมโคจริง แล้วพวกเราสะกดรอยตามมันไปอีกที  พวกเราก็อาจจะเข้าใกล้ร่องรอยของมฤคมาศยิ่งกว่านี้ก็ได้  ...ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว กำจัดไอ้ธาม แล้วก็กินหัวใจของมฤคมาศ หึ ๆ โอกาสดี ๆ แบบนี้หาไม่ได้อีกแล้ว!”

    วินัยอุทานเบา ๆ ตามมาเมื่อได้ฟังความเห็นของผู้เป็นนาย จากนั้นมาลุตจึงมอบหมายงานให้ลูกน้องคนสนิททำต่อ

    “สะกดรอยตามความเคลื่อนไหวของไอ้ธามมันห่าง ๆ แล้วอย่ากะโตกกะตากให้มันรู้ตัวล่ะ ...ถ้ามันมีวี่แววจะออกไปพบกับพวกมโคนั่นเมื่อไหร่ ให้รีบรายงานมาให้ฉันรับรู้ทันที ... และจากนั้นพวกเราจะเริ่มสงครามไล่ล่ามโคกันอีกครั้ง ...คราวนี้ล่ะ! ฉันจะล้างอายเหตุการณ์เมื่อสามปีก่อน แล้วเอาเลือดของไอ้พวกมโคชั่วนั่น มาล้างเท้าฉันชดใช้ให้ได้!”

   

     
... TBC ...



เรื่องราวเริ่มเข้าสู่ฉากบู๊(มั้ง) แล้วนะคะ  มาลุ้นกันดีกว่าว่าคนเขียนจะไปรอดไหม  เอ๊ย!  ฝ่ายพระเอกกับน้องเคะ จะปลอดภัยไหม ... ติดตามกันได้ตอนหน้า ๆ ค่ะ (ถ้าไม่ยืดและดอง ^^)

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
 :z13: ไว้ก่อน
จริงๆแล้วมาลุตอาจจะร้ายแบบเกรียนๆ
แต่พิภพนี่สิ แปลกๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-12-2012 03:23:46 โดย saotome »

ออฟไลน์ everlastingly

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :pig4: วิรัลโดนเล็งไว้แล้ว...บู๊ ระห่ำเต็มจอแน่เลย ธามต้องปกป้องวิรัลให้ดีดีนะ
 :o8: ธามกับวิรัลคุยโทรศัพท์กันน่ารักดี วิรัลก็ใสซื่อ ธามก็หึงตลอด

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
มาลุตร้ายเห็น ๆ แต่พิภพท่าทางจะร้ายซ่อนนะเนี่ย แล้วจะมีอะไรวุ่นวายตามมาไหมเนี่ย พิชญ์จะเข้่าใจว่าธามเป็นคนบอกคนอื่นหรือเปล่า ถ้าพวกมาลุตตามจนเจอวิรัลเนี่ย

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
แอร๊ยยยยย พี่ธามกับน้องรัล แย่แล้ววว

มารุตเลวมาก แต่แลดูอิตาพิภพจะเลวกว่า เหมือนพวกอยู่เบื้องหลัง ยืมมือคนอื่น

ออฟไลน์ Satang_P

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
โอ้ววววว เรื่องวุ่นๆมาอีกแล้ว  :serius2:

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
มาลุต นิสัยแย่ แต่ดูพิภพจะล้ำลึกกว่า

ธามเจอศึกหนักแล้วล่ะ

ดูแลวิรัลดีๆน้าา

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
ตามกลับมาอ่านที่เล้าใหม่ หลังจากไปอ่านตอนต้นที่บอร์ดคุณปัด :o8: สงสัยกวางน้อยจะโดนเล่นงานโดยศัตรูพระเอกแน่ ๆ เลยน่ะ ยังไงเป็นกำลังใจให้กับความรักของทุก ๆ คู่น่ะจ้ะ มีแววน่ะเนี่ยว่าพิชญ์กับชาครจะมีซัมทิงซะแล้วสิ :z1:ม่านฟ้าเป็นกามเทพให้หลาย ๆ คู่เลยน่ะเนี่ย :impress3:

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
สนุกมากค่ะ เพิ่งเห็น ขออภัยที่มาช้านะคะ

เรื่องนี้เนื้อเรื่องเป็นแฟนตาซี ตอนแรกๆมีงงศัพท์บ้าง แต่ตอนนี้ก็เข้าใจบ้างแล้ว

ชอบที่ผู้หญิงในเรื่องนี้ไม่ตัวอิจฉาแบบสิ้นคิดเกินไปอ่ะค่ะ และตัวร้ายก็ดูมีเหตุผลมีที่มาที่ไป แต่นายเอกเราอ่อนต่อโลกเกิ๊น

แต่ก็ดีค่ะ น่ารักดี

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
อุปสรรคครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก ธามกับวิรัดสู้ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
พี่ใหญ่น่ากลัวแฮะ อย่างน้อยมาลุตก็แสดงออกโดยไม่ปิดบังว่าร้าย
ธามดูเด๋กไปเลย พอมาอยู่ในเผ่า มาดมาเฟียใหญ่ตอนต้นๆเรื่องแทบจะไม่เหลือ
เป็นห่วงเรื่องมาลุตสักดรอยตามจริงๆ

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
ระวังมาลุตไว้นะ ธาม ... ~ :serius2: :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ ตัวเลข

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เฮือ..กะว่าจะได้ไปเที่ยวกันแบบสบาย ดันมีมารมาขัดขวางซะอีกหวังว่าธามจะรู้ตัวนะ

ออฟไลน์ entirom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-2
แย่แล้วววววววววววววว

พิภพน่าจะเป็นคนฆ่าแม่ธามมัง?

ธามรู้ตัวเร็วๆๆ ล่ะ หากมาลุตตามไปเจอกระท่อมล่ะซวยแน่ๆ

ออฟไลน์ srikoon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 530
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-6
หมามี เขี้ยว

กวางมี เขา

ใครจะชนะ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
พิภพเป็นคนลักพาตัวพ่อวิรัลไปรึเปล่าหนอ ขอให้พ้นจากมารุตนะ

memoapp

  • บุคคลทั่วไป
ความคิดแจ่มมากๆ คุณ aoihimeko เราก็แอบคิดพอดี
แถมรอลุ้นคู่พิชญ์กะชาครด้วย คู่กัดน่ารักดี

ออฟไลน์ ammamooty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1056
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
พึ่งเข้ามาอ่าน.สนุกดีคะ

ไปเที่ยว(รึเปล่)ครั้งนี้มีอุปสรรค์ใหญ่ละอะดิเนี่ย

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ขอให้ธามได้เป็นประมุขทีเถอะ แล้วลากตัวคนร้ายมาเปิดโปงซะ

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
คนเขียนหายอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ธามมมมม

ออฟไลน์ everlastingly

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :m5: คนแต่งอยู่ไหนนนเอ๋ย รีบๆมาต่อหน่อยนะ คนอ่านรออยู่ :m18:

ออฟไลน์ ReiiHarem

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-3
ม่านฟ้ามีแผนเด็ดชัวร์ อิอิ
 o13

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
หายไปน๊านนาน มาต่อแล้วค่ะ  :o8:

................................................

/ 11



    หลังจากนัดวันค้างคืนกันได้เรียบร้อย วิรัลก็ตั้งหน้าตั้งตารอให้วันที่จะได้เจอธามมาถึง และอารมณ์ดียิ่งกว่าปกติ จนพิชญ์พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ชายหนุ่มได้แต่บอกกับตัวเองว่า หากเป็นโชคชะตาฟ้าลิขิตให้ทั้งคู่มาคู่กันแล้ว ต่อให้ฝืนแค่ไหน ก็คงไม่อาจจะพรากคู่แท้ออกจากกันได้อยู่ดี

    และเมื่อเช้าวันออกเดินทางมาถึง วิรัลและพิชญ์นั้นล่วงหน้าไปรอพวกธามก่อนที่รีสอร์ทอีกแห่งของม่านฟ้า โดยพิชญ์นั้นส่งเมล์แผนที่เดินทางคร่าว ๆ ให้ฝั่งธามตามพวกเขาไป  โดยไม่มีผู้ใดได้นึกสังหรณ์ใจสักนิดเลยว่า การเดินทางของพวกเขาในครั้งนี้นั้น กำลังถูกใครบางคนจับตามองอยู่ห่าง ๆ อย่างประสงค์ร้าย

    “พวกนั้นมันออกเดินทางกันแล้วครับ ท่านมาลุต”

    วินัยที่แอบซุ่มดูอยู่ละแวกที่พักอาศัยของธาม โทรศัพท์แจ้งเจ้านายของเขา เมื่อเห็นว่าธามนั้นออกเดินทางไปเส้นทางอื่น แทนที่จะไปทำงานตามปกติ แถมเขายังได้ข่าวจากลูกน้องที่ให้ไปเฝ้าคลับของอีกฝ่าย ว่าที่นั่นมีป้ายประกาศหยุดยาวในช่วงสามวันนี้อีกด้วย

    “ดี ...ตามมันไปห่าง ๆ อย่างให้มันรู้ตัว ระบุเป้าหมายสถานที่ได้เมื่อไหร่ให้แจ้งฉันมา ฉันจะพาพรรคพวกของเราไปสมทบในภายหลัง!”

    มาลุตออกคำสั่งปลายสาย พร้อมกับยกยิ้มที่มุมปากอย่างพึงพอใจ ที่สถานการณ์ได้เปรียบกำลังจะตกเป็นของฝ่ายเขา

    “ครับท่าน”

    วินัยรับคำสั่งและจากนั้นมาลุตก็ตัดสายไป ชายหนุ่มจึงหันมาให้ความสนใจกับรถของฝั่งตรงข้ามต่อ  เขาสั่งให้ลูกน้องที่ประจำหน้าที่ขับรถให้ทิ้งระยะห่างจากอีกฝ่ายมากขึ้น เมื่อพวกเขาเริ่มออกนอกเขตกรุงเทพฯ และมีรถยนต์เดินทางบนท้องถนนน้อยลง  และในที่สุดวินัยก็สั่งให้ลูกน้องเขาชะลอรถจอด เมื่อเห็นธามเลี้ยวเข้าไปในถนนเส้นเล็ก ๆ ที่แยกจากถนนใหญ่  ชายหนุ่มเหยียดยิ้มที่ริมฝีปากเล็กน้อย เพราะว่าถนนเส้นนั้น มีรีสอร์ทส่วนตัวใหญ่ ๆ เพียงไม่กี่แห่ง ซึ่งเขาสามารถลักลอบเข้าไปตรวจสอบภายหลังได้ว่า พวกธามจะไปพักที่แห่งใด ดีกว่าจะขับรถเสี่ยงตามไปให้อีกฝ่ายรู้ตัวเสียก่อน

    “ช่วยไม่ได้นะครับท่านธาม ...ผมไม่ได้มีความแค้นกับคุณก็จริง แต่นายของผมไม่อยากอยู่ร่วมโลกกับคุณ มันก็จึงต้องลงเอยแบบนี้ล่ะนะครับ”

    วินัยพึมพำ เขาจำทางเข้าถนน และชื่อรีสอร์ทละแวกนั้น ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องลงจากรถและแยกย้ายกันสะกดรอยว่ารถยนต์ของธามนั้นเลี้ยวเข้าไปจอดที่รีสอร์ทใดกันแน่  และหากได้ข้อมูลเมื่อใด ก็ให้กลับมาสมทบกันที่รถยนต์อีกครั้ง เพื่อที่เขาจะได้โทรแจ้งกับมาลุตในลำดับต่อไป

   

    วิรัลผุดนั่งผุดลุกแถมยังชะเง้อมองรอใครบางคนให้ปรากฏกาย จนม่านฟ้านึกขำ และพิชญ์ต้องกลืนน้ำลายลงคอ ด้วยความเกรงใจทั้งเด็กสาวและอำมฤต

    “คุณธามคงไม่เบี้ยวหรอกกระมังคะ ท่านวิรัล”

    ม่านฟ้าหยอกอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู ที่เห็นเด็กหนุ่มมีท่าทางตื่นเต้นกระวนกระวายขนาดนั้น ทว่าคำพูดของเด็กสาวก็ทำเอาพี่เลี้ยงคนสนิทสะดุ้ง แล้วกระแอมค่อย ๆ เป็นการเตือนไม่ให้นายสาวของเขาเสียมารยาทกับอีกฝ่าย

    “ง่า...ผมไม่ได้...แบบว่า”

    วิรัลทำท่าจะแก้ตัวแต่ก็เขินจนพูดไม่ออก ส่วนม่านฟ้านั้นไม่ได้สนใจที่ถูกอำมฤตกระแอมเตือน เจ้าหล่อนยังคงนั่งยิ้มมองวิรัล จนพี่เลี้ยงคนสนิทถึงกับต้องลอบถอนหายใจอย่างเอือมระอา

    “ถ้าออกเดินทางจากกรุงเทพฯแต่เช้า ป่านนี้ก็น่าจะมาถึงได้แล้วล่ะค่ะ...อ้อ อายุยืนจัง พูดถึงก็มาพอดี”

    ม่านฟ้าเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นรถยนต์สีดำเลี้ยวเข้ามาจอดในเขตรีสอร์ท และเมื่อธามลงจากรถ เขาก็ต้องชะงัก และเงยหน้ามองไปยังคนที่อยู่บนเรือนพัก ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ เมื่อเห็นวิรัลตะโกนทักและโบกมือให้กับเขา

    “ท่านวิรัลครับ...สำรวมกิริยาหน่อยครับ”

    พิชญ์เอ่ยเตือน เพราะรู้สึกเกรงใจม่านฟ้าและอำมฤต และนั่นก็ทำให้วิรัลสะดุ้ง พลางรู้สึกตัวว่ากำลังทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมอยู่

    “ง่า...ขอโทษนะครับ คุณม่านฟ้า”

    “ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันไม่ถือ ...คนรักกันนาน ๆ เจอกันที จะดีใจก็ไม่แปลกหรอกค่ะ”

    ม่านฟ้าบอกพร้อมรอยยิ้มหวานอย่างบริสุทธิ์ใจ โดยไม่มีความขุ่นเคืองอันใดให้สัมผัส จนพิชญ์ต้องกลืนน้ำลายลงคอ และอำมฤตพูดอะไรไม่ออก

    “ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปต้อนรับพวกคุณธามกับคุณชาครกันดีกว่าค่ะ...”

    ม่านฟ้าบอกแล้วก็ปรายสายตามาทางอำมฤตที่มีสีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก แต่ก็ยังคงเงียบเฉย ไม่พูดอะไรออกไปเช่นเคย

     “ไปเถอะค่ะท่านวิรัล”

    ม่านฟ้าบอกแล้วคล้องแขนวิรัลกึ่งเดินกึ่งลากเด็กหนุ่มให้ตามตนไป ส่วนพิชญ์และอำมฤตที่ยังคงยืนอยู่บนเรือนพัก ถึงกับทอดถอนหายใจเบา ๆ พร้อมกัน เมื่อทั้งคู่ลงไปด้านล่างเรียบร้อย

    “วางแผนอะไรอยู่ก็ไม่รู้ เด็กคนนี้ ...เฮ้อ!”

    อำมฤตเผลอหลุดปากออกมา ทำให้พิชญ์ลองเลียบเคียงถามอีกฝ่ายดู

    “เอ่อ ขอโทษที่เสียมารยาทนะครับคุณอำมฤต...คือว่า ทางท่านม่านฟ้าเอง...เอ่อ แบบว่า ท่านเองก็มีคนที่พึงใจอยู่แล้วหรือไม่ครับ”

    อำมฤตชะงักแล้วหันมามองพิชญ์อย่างสงสัยระคนประหลาดใจและไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย

    “ทำไมถามแบบนั้นล่ะครับ... ท่านม่านฟ้าเองถูกเลี้ยงดูและอบรมมาให้เป็นเจ้าสาวของมฤคมาศตั้งแต่เด็ก อีกอย่างท่านม่านฟ้าเองก็อยู่ในสายตาของผมและของมโคในตระกูลเราเกือบตลอดเวลา  ไม่มีทางที่จะเกิดเรื่องไม่งามขึ้นอย่างแน่นอนครับ”

    พิชญ์กลืนน้ำลายลงคอ เมื่อจับถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงนั้น ก่อนจะรีบแก้ตัวตามมา

    “อย่าเพิ่งเข้าใจผิดสิครับ ผมก็แค่...แปลกใจที่ท่านม่านฟ้าสนับสนุนเรื่องความรักของท่านวิรัล ...เอิ่ม เป็นอย่างมากก็เท่านั้น ...”

    พิชญ์ไม่กล้าบอกว่าได้ยินเรื่องนี้มาจากชาครอีกที เพราะคาดว่าอำมฤตคงไม่เชื่อแน่ว่า ม่านฟ้าจะเอาเรื่องความรักไปบอกกับผู้ชายต่างเผ่าที่เพิ่งจะเจอกัน

    “...แบบนั้นหรอกหรือครับ...ถ้าเป็นเรื่องนั้นผมก็แปลกใจไม่แพ้กัน แต่เรื่องที่ท่านม่านฟ้าแอบชอบพอใครมาก่อน ผมเองก็ยังไม่เห็นว่าจะมีเค้าลางนะครับ ท่านม่านฟ้าเองก็ไม่ได้สนิทกับใครรุ่นราวคราวเดียวกับท่าน หรือจะว่าไป ก็แทบไม่มีมโครุ่นเดียวกันที่คบหาใกล้ชิดด้วยเท่าใดเลยน่ะครับ”

    อำมฤตยังคงยืนยันตามมา ทำให้พิชญ์พยักหน้ารับรู้แล้วกล่าวขอโทษที่สงสัยในเรื่องเสียมารยาทออกไป ซึ่งอำมฤตเองก็ไม่ได้ติดใจเอาความอันใดมากนัก และสักพัก ธามกับชาคร ก็ขึ้นมาที่เรือนใหญ่ พร้อมกับพวกวิรัลและม่านฟ้า

    “แขกสำคัญก็มากันครบแล้วนะคะ พวกเราก็มาเริ่มเกมทำโทษ ได้แล้วค่ะ”

    คนอื่นหันขวับไปทางม่านฟ้าแทบจะพร้อมกัน และมีบางคนส่งสายตาตั้งคำถามกับเด็กสาว

    “ก็แหม! ตอนเราแข่ง เราแข่งเป็นคู่กันใช่ไหมคะ เวลาทำโทษก็ต้องจับคู่ทำโทษกันสิคะ ...เพราะฉะนั้นตลอดสามวันสองคืนในรีสอร์ทแห่งนี้ คู่ที่แพ้ทั้งสองคู่ จะต้องจับคู่ใกล้ชิดกันตลอดเวลา รวมถึงกระทั่งตอนนอนด้วยนะคะ”

    “ไม่มีทาง!”

    พิชญ์รีบแย้งขัดอย่างลืมตัว ก่อนจะชะงัก แล้วก้มหัวขอโทษอีกฝ่าย พลางอ้อมแอ้มบอก

    “เวลาอื่นยังพอว่า ...แต่ขอแค่เวลานอนไว้เถอะครับท่านม่านฟ้า ...คือมันจะดูไม่เหมาะสมนะครับ ...ถ้าคนอื่นรู้เข้า”

    พิชญ์พยายามชี้แจงเรื่องที่ม่านฟ้าจะจับคู่ให้ธามกับวิรัล และชาครกับเขา พักอยู่ด้วยกัน ซึ่งอำมฤตเองก็เห็นด้วยในเรื่องนี้

    “ถูกของคุณพิชญ์เขานะครับท่านม่านฟ้า ...จะเล่นอะไรก็ควรให้พอประมาณ อย่าเกินเลยไปนักดีกว่าครับ”

    ชายหนุ่มปรามปนตำหนิ ทำเอาม่านฟ้ามุ่ยหน้าเล็กน้อย อย่างไม่สบอารมณ์ที่ถูกขัดใจ ก่อนที่สักพักจะเปลี่ยนเป็นยิ้มหวานตามมา แล้วพยักหน้ารับคำ

    “งั้นก็ได้ค่ะ”

    คนอื่นยกเว้นธามกับวิรัลพากันโล่งอก ธามนั้นรู้สึกเสียดาย แต่ก็เข้าใจในสิ่งที่พิชญ์กับอำมฤตคัดค้าน อีกอย่างที่นี่ก็เป็นถิ่นของมโคตระกูลของม่านฟ้า ถ้าว่าที่คู่หมั้นของเจ้านาย ดันไปค้างอ้างแรมกับหนุ่มต่างเผ่า แถมยังสนิทชิดเชื้อเกินเลยเพื่อน ทั้งที่ม่านฟ้าก็อยู่ด้วย มันก็คงไม่เหมาะนัก

    “งั้นเราก็งดบทลงโทษยามค่ำคืน เหลือแค่เพียงบทลงโทษเดิมในช่วงกลางวันแทนแล้วกันนะคะ”

    เด็กสาวเอ่ยตามมา ทำให้แต่ละคนพากันจ้องมองเธอตาปริบ ๆ และลุ้นว่าบทลงโทษที่ว่าจะเป็นเช่นไร

    “ในช่วงเวลา 8 โมงเช้า จนถึง หกโมงเย็น ของแต่ละวัน  คู่ที่ถูกทำโทษจะต้องถูกคล้องกุญแจมือคู่กัน และใช้ชีวิตในรีสอร์ทแห่งนี้ด้วยกัน ถ้ามีเหตุจำเป็นดิฉันจึงจะยอมให้ถอดกุญแจมือออกจากกันได้ ...ตกลงไหมคะ”

    พิชญ์ทำท่าจะค้าน แต่วิรัลก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน

    “ก็น่าสนุกดีนะครับ ...แต่ว่าจะทำโน่นนี่ถนัดหรือครับ ถ้าต้องคล้องกุญแจมือติดกันแบบนั้นตลอด”

     ม่านฟ้าหันไปทางเด็กหนุ่ม แล้วตอบคำถามนั้นโดยไม่สนใจท่าทางเตรียมห้ามปรามของพี่เลี้ยงคนสนิทสักนิด

    “ไม่ต้องห่วงค่ะ กุญแจมือของดิฉันเป็นแบบสั่งทำเพื่อการนี้โดยเฉพาะ มีผ้านุ่มไว้บุกันข้อมือเป็นรอย โซ่ที่ใช้ก็มีน้ำหนักเบา แต่ก็ทนทานระดับหนึ่ง...”

    ม่านฟ้าชะงักคำพูดเอาไว้เมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจของพิชญ์ และของอำมฤต จากนั้นเธอจึงเงียบไปสักพัก แล้วเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงค่อนข้างสั่นเครือ

     “...จริง ๆ มันก็แค่เกมน่ะค่ะ ถ้าพวกคุณไม่พอใจก็ยกเลิกได้ตลอด...ดิฉันก็แค่อยากให้ทุกคนได้สนุกร่วมกันก็แค่นั้นเองค่ะ ...แต่ถ้าจะเป็นการบังคับจิตใจกัน ...ดิฉันเองก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ”

    ม่านฟ้าบอกแล้วก้มหน้าสลดพร้อมกับกรีดนิ้วซับน้ำตาของตน สะอื้นเล็กน้อย จนพิชญ์นั้นใจอ่อน

    “เอ่อ...ผมไม่มีปัญหาหรอกครับท่านม่านฟ้า อย่าคิดมากเลยครับ”

    “ใช่ครับ! พวกเราชอบบทลงโทษนี้มากเลยครับ อย่าร้องไห้เลยนะครับคุณม่านฟ้า!”

    วิรัลรีบเสริมพี่เลี้ยงของเขา ด้านธามยักไหล่นิด ๆ เขาไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ซ้ำยังยินดีเสียด้วยที่ได้อยู่ใกล้กับวิรัลตลอดเวลาแบบนั้น ส่วนชาครแอบมองพิชญ์แล้วอมยิ้มนิด ๆ ก่อนจะพยักหน้าค่อย ๆ เป็นการตอบรับ เมื่อม่านฟ้าเงยหน้ามามองพวกเขา

    “อย่างนั้นหรือคะ...ดีใจจัง งั้นแต่ละคนก็ไปเลือกที่พักกันได้เลยนะคะ หรือใครอยากจะพักที่เรือนใหญ่นี่ก็ได้”

    ม่านฟ้าที่หน้าสลดน้ำตาซึมอยู่เมื่อครู่ เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มฉับพลัน ทำเอาอำมฤตที่พอจะรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายแกล้งเล่นละคร ต้องลอบถอนหายใจ ส่วนหนุ่ม ๆ นิ่งอึ้งกันชั่วครู่ โดยเฉพาะพิชญ์เขาลอบสบถกับตัวเองเบา ๆ เพราะดันรับปากไปแล้ว ก็เท่ากับว่า เขาต้องตัวติดกันกับพวกวกะที่เขาแสนจะรังเกียจตลอดหลังจากนี้ไปนั่นเอง

   

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4


    วิรัลนั้นเลือกที่พัก เป็นบ้านพักที่มีระเบียงห้องนอนยื่นลงไปในลำธารกว้างที่ไหลมาจากน้ำตก สามารถลงไปเล่นน้ำจากระเบียงได้เลย และยังนอนพักผ่อนชมวิวฟังเสียงน้ำไหลได้อีกด้วย

    “น่าเสียดายนะ ถ้าได้พักด้วยกันกับเธอทั้งคืน มันคงจะโรแมนติกมากเลยทีเดียว”

    ธามที่แวะมาหาถึงห้องนอนของเด็กหนุ่มเอ่ยขึ้น ตัวธามเองนั้นเลือกบ้านอีกหลังที่ปลูกอยู่ถัดไป เขาและวิรัลลงความเห็นว่า ระหว่างถูกทำโทษให้ธามหรือไม่ก็ตัวเขาไปพักที่บ้านของอีกฝ่ายในตอนกลางวัน ส่วนตกเย็นหมดเวลาทำโทษ ก็ค่อยกลับมานอนบ้านพักของใครของมันในภายหลัง  แม้พิชญ์ที่รับทราบข้อตกลงนี้จะไม่ค่อยพอใจนัก แต่เขาก็คิดว่าวิรัลคงไม่ยอมปล่อยกายปล่อยใจให้ธามทำอะไรเกินเลยกับตัวเองในตอนกลางวันแสก ๆ แบบนี้ แถมยังเป็นสถานที่ ที่มีมโคพวกของม่านฟ้า ซึ่งเป็นว่าที่คู่หมั้นของเด็กหนุ่ม อยู่เต็มไปหมดอีกด้วย

    “พิชญ์ล่ะครับ...”

    วิรัลชะโงกหน้ามองหาพี่เลี้ยงคนสนิท ที่พักอยู่บ้านหลังเดียวกัน เขาไม่คิดว่าเจ้าตัวจะปล่อยธามเข้ามาหาเขาถึงห้องนอน โดยไม่ตามมาด้วยแบบนี้

    “โดนชาครลากไปคุยด้วยแถวหน้าบ้านแล้วน่ะ ...หึ ๆ ฉันเพิ่งเคยเห็นลูกน้องฉันกระตือรือร้นแบบนี้เป็นครั้งแรกนะ สงสัยจะถูกใจพี่เลี้ยงของเธอแหงเลย”

    วิรัลขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไร เขาก็ต้องชะงัก เมื่อธามเดินเข้ามาใกล้เขา และเบียดให้เขาถอยหลังจนไปชิดเตียงใหญ่มุมห้อง

    “เอ่อ...คุณธามครับ”

    “ทำไมหรือ...”

    ธามแกล้งถาม ทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นกังวลอะไร เนื่องจากสีหน้าของวิรัลนั้นตอนนี้กำลังแดงระเรื่อจนเห็นได้ชัด

    “เดี๋ยวพิชญ์เข้ามาเห็น...แล้วจะโดนดุนะครับ...”

    “ก็แค่ยืนใกล้กัน ยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย หมอนั่นจะดุอะไรเราได้”

    ธามแสร้งเย้า พลางเบียดแนบชิดอีกฝ่ายมากขึ้น จนวิรัลต้องเสียหลักลงไปนั่งบนเตียงและพยายามกระเถิบถอยหนีชายหนุ่มด้วยความเขินอาย

    “หึ ๆ อะไรกัน อยากขึ้นเตียงกับฉันขนาดนั้นเลยหรือ วิรัล”

    “มะ...ไม่ใช่นะครับ...คุณธามล่ะก็...”

    วิรัลทั้งเขินทั้งอายจนทำอะไรไม่ถูก ทว่าก่อนที่ธามจะทำอะไรต่อไป ประตูห้องก็เปิดผลัวะเข้ามาเสียก่อน โดยคนที่เปิดนั้นจ้องมองคนในห้องด้วยใบหน้าเคร่งขรึมกึ่งหงุดหงิดเต็มที่

    “ท่านวิรัล...ไปนั่งทำอะไรบนเตียงนั่นล่ะครับ”

    พิชญ์ถามอย่างไม่ไว้ใจ ยังดีที่ธามนั้นยืนมองอยู่ข้างเตียง ถ้าเจ้าตัวอยู่บนเตียงด้วย เขาคงตีความได้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังรังแกนายน้อยของเขาอยู่แน่นอน

    “กะ...ก็ นั่งคุยกันน่ะสิ”

    พิชญ์ขมวดคิ้วยุ่ง แล้วสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อมีใครบางคนพูดขึ้นมาด้านหลังเขา แถมยังใกล้เสียจนเกินความจำเป็นอีกด้วย

    “ฉันบอกแล้วไง ทั้งคู่ก็คุยกันปกติ...นายก็ระแวงเกินเหตุ ระวังจะหน้าแก่ก่อนวัยหรอก”

    “หุบปากนายไปเลยเจ้าหมาบ้า ...นี่ถ้าไม่ใช่เพราะคำสั่งท่านม่านฟ้า ให้ตายฉันก็ไม่มีวันอยู่ใกล้กับพวกวกะตลอดแบบนี่แน่!”

    วิรัลมองพิชญ์ที่หงุดหงิดอย่างกังวล ถึงเขาอยากจะอยู่ใกล้ธามตลอดเวลาก็จริง แต่เขาก็ไม่อยากเห็นพิชญ์โมโหแบบนี้เหมือนกัน

    “พิชญ์...จะให้ฉันไปช่วยพูดกับคุณม่านฟ้าให้ดีไหม”

    พิชญ์ชะงัก พลางหันไปมองนายน้อยของเขา เมื่อเห็นสีหน้ากังวลและรู้สึกผิดของวิรัล ก็ทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ แล้วยิ้มออกมาได้ในที่สุด

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ...ผมก็แค่หงุดหงิด เพราะวกะปากเสียสมเผ่าบางตัวเท่านั้น ...ท่านวิรัลอย่างกังวลไปเลยครับ ใช้เวลาในวันหยุดให้สนุกอย่างที่ท่านรอคอยเถอะครับ”

    วิรัลยิ้มรับ และนั่นจึงทำให้พิชญ์รู้สึกพึงพอใจขึ้น จากนั้นเขาจึงหันไปมองธาม แล้วเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมจริงจังกว่าเดิม

    “ฝากดูแลท่านวิรัลด้วยแล้วกันครับ”

    ธามชะงักเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าและตอบไปด้วยใบหน้าจริงจังไร้การหยอกเย้าจากตามปกติ

    “ได้...ไม่ต้องห่วง ฉันจะดูแลเขาในช่วงกลางวันนี้เอง”

    พิชญ์พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหันไปโค้งให้วิรัล แล้วเดินออกมาพร้อมชาคร   จากนั้นสักพักม่านฟ้าก็เป็นคนนำกุญแจมือมามอบให้ทั้งสองคู่ ซึ่งกุญแจมือและโซ่นั้นก็มีน้ำหนักเบา ผิดจากรูปร่างที่เห็น แถมระยะห่าง ก็ยาวพอที่แต่ละคนจะขยับกายได้สะดวก แต่ก็ไม่ยาวจนเกะกะการเดินแต่อย่างใด

     นอกจากนั้นม่านฟ้ายังใจดีให้กุญแจสำรองแต่ละคู่ไว้ไขตอนจำเป็นอีกด้วย แต่เธอเลือกให้คนเก็บกุญแจของแต่ละคู่ เป็นธามและชาคร สำหรับวิรัลนั้นเขาไม่มีปัญหาอะไร แต่กับพิชญ์ ชายหนุ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกรุมแกล้ง โดยมีเจ้าของรีสอร์ทรู้เห็นเป็นใจยังไงยังงั้น

   

    “อยากลงไปเล่นน้ำจังเลยครับ ...คุณธามเล่นน้ำด้วยกันไหมครับ”

    หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันไปหมดแล้ว วิรัลที่นั่งเล่นตรงระเบียงกับธาม ก็หันไปถามชายหนุ่มพร้อมส่งสายตาอ้อน ๆ ให้ จนธามนึกขำ

    “ก็ได้... แต่คงได้แต่แช่น้ำเฉย ๆ นะ ถ้าจะว่ายน้ำมือติดกันแบบนี้คงว่ายลำบาก”

    วิรัลยิ้ม แล้วตอบอีกฝ่ายกลับอย่างร่าเริง

    “ต่อให้อยากว่ายก็ว่ายไม่เป็นหรอกครับ อีกอย่างน้ำใส ๆ แบบนี้ แค่ได้เดินเล่นในน้ำก็น่าสนุกแล้วล่ะครับ”

    ธามอมยิ้มน้อย ๆ แล้วลูบศีรษะเด็กหนุ่มอย่างเอ็นดู วิรัลนั้นไร้เดียงสาและร่าเริงเหมือนเด็กน้อยในบางครั้ง แต่บางคราก็ดูยั่วยวน เป็นผู้ใหญ่จนเขาแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่  แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบใด ธามก็รู้สึกมีความสุขยามได้อยู่ใกล้ชิดเด็กหนุ่มอยู่ดี

    “งั้นเราลงไปแบบนี้ดีกว่า”

    ธามอุ้มช้อนร่างของอีกฝ่ายเดินลงบันได เพราะเกรงว่าวิรัลจะรีบจนลื่น และดึงเอาเขาเสียหลักล้มไปด้วยกัน ส่วนทางด้านวิรัล ก็รู้สึกขัดเขินที่ถูกอุ้มท่านี้ จนเมื่อถึงลำธาร ธามก็ค่อย ๆ ประคองให้เด็กหนุ่มยืนในนั้น

    “โอ๊ะ...เย็นชะมัด”

    “ใช่ น้ำตกก็เย็นแบบนี้ล่ะ ...เพราะฉะนั้นก็อย่าแช่นานนัก จะเป็นหวัดเอา”

    วิรัลหันมามองคนเตือนแล้วอมยิ้มน้อย ๆ จนธามแปลกใจ

    “มีอะไร ยิ้มทำไมกัน?”

    “ก็คุณธามพูดเหมือนพิชญ์เลย สงสัยติดโรคขี้ห่วงพิชญ์มาเสียแล้วสิครับ”

    ธามชะงักก่อนจะหัวเราะเบา ๆ  จากนั้นพวกเขาก็เลือกแอ่งน้ำใหญ่นั่งแช่   โดยวิรัลนั้นนั่งคุยไป มองปลาในน้ำไปอย่างสนุกสนาน ส่วนธามก็มีความสุขที่ได้เห็นใบหน้าของคนข้างกายยิ้มแย้มตลอดเช่นนั้น



    ทว่าระหว่างที่คู่แรกนั้นกำลังมีความสุขกันดี อีกคู่ซึ่งถูกลงโทษให้ตัวติดกันตลอดเวลา อีกคนก็กำลังยืนถอนหายใจอย่างเอือมระอา ส่วนอีกคนก็แอบดูคู่แรกนั่งแช่น้ำพูดคุย อยู่ห่างออกไป

    “นี่...เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเป็นสโตกเกอร์ชาวบ้านเขาสักที ฉันเริ่มเมื่อยแล้วนะ”

    ชาครบ่นอุบ เพราะถูกลากมาให้ยืนเป็นเพื่อนแบบนี้เฉย ๆ นานเกือบสามสิบนาทีแล้ว

    “ก็ไขกุญแจแล้วทิ้งฉันไว้แถวนี้สิ แล้วนายจะไสหัวไปไหนก็เชิญตามสบาย”

    พิชญ์บอกกับอีกฝ่ายอย่างเย็นชา ซึ่งชาครก็ยักไหล่ แล้วจัดแจงใช้แรงที่มากกว่าลากคนรูปร่างโปร่งข้าง ๆ มาอีกทาง โดยที่พิชญ์พยายามขัดขืน แต่ก็สู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้ เพราะชาครนั้นเล่นจับมือเขาแล้วลากมาด้วยกันแทน

    “ปล่อยนะ ไอ้หมาป่าบ้า จะพาฉันไปไหนน่ะ!”

    พิชญ์โวยเบา ๆ เพราะไม่อยากให้ธามและวิรัลรู้ตัวว่าเขาแอบมองทั้งคู่อยู่ ชาครเหลือบมามองคนโวยแวบหนึ่ง แล้วจึงยกยิ้มน้อย ๆ

    “ไปให้พ้นคู่รักเขาสวีทกันน่ะสิ  ฉันไม่ใช่โรคจิตอย่างนาย จะได้ชอบดูคนอื่นเขาจู๋จี๋กันน่ะ อีกอย่างถ้าเจ้านายของนายรู้เข้า จะรู้สึกยังไง ที่โดนจับตามองตลอดแม้แต่เวลาส่วนตัวแบบนี้น่ะ”

    พิชญ์ชะงัก ก่อนจะสบถตามมา เมื่อหาคำโต้เถียงอีกฝ่ายไม่ได้ เขาเองก็ใช่ว่าจะไม่ไว้ใจธาม และก็พยายามยอมรับว่าทั้งสองคนนั่นรักกัน แต่เขาก็อดห่วงวิรัลไม่ได้อยู่ดีนั่นเอง

    “เจ้านายของนายน่ะอายุมากพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้วนะ...นายจะให้เขาเป็นหัวหน้าเผ่าไม่ใช่หรือ  ถ้ายังเลี้ยงดูกันราวกับไข่ในหินแบบนี้เรื่อย ๆ เมื่อไหร่เด็กนั่นจะโตเป็นผู้ใหญ่กับเขาได้ล่ะ ...แถมฉันยังได้ยินมาว่า ขนาดเรื่องบริหารธุรกิจของเผ่า นายก็ยังรับมาทำเองทั้งหมดด้วยสินะ ใช่ไหม”

    คำพูดของชาครถัดมาทำให้พิชญ์เงียบกริบ และขืนตัวจนคนจูงรู้สึกได้ ชาครจึงตัดสินใจปล่อยมือจากอีกฝ่าย เพราะที่พวกเขาเดินมาก็ห่างจากพวกธามไกลพอสมควรแล้ว

    “ฉันรู้ว่า ฉันดูแลท่านวิรัลมากเกินไป... แต่ฉันก็ไม่อยากให้ดวงใจที่บริสุทธิ์ดวงนั้น ต้องแปดเปื้อนกับธุรกิจกลโกงในโลกของผู้ใหญ่ ...ฉันอยากให้ท่านวิรัลมีรอยยิ้มเช่นนี้ตลอดไป ...ส่วนเรื่องเลวร้ายต่าง ๆ ฉันจะขอแบกรับมันเอาไว้ และให้ท่านรู้จักแต่ด้านดีของโลกใบนี้เพียงแค่นั้น”

    พิชญ์พึมพำตอบ ทำให้คนฟังต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่

    “แล้วถ้าวันหนึ่งเกิดนายเป็นอะไรไปล่ะ ...มฤคมาศจะทำยังไง จะเคว้งคว้างขนาดไหน เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างก็ได้แต่นายช่วยเหลือมาตลอด... ฉันว่าแทนที่จะช่วย นี่นายกำลังจะทำร้ายเจ้านายของนายทางอ้อมต่างหาก”

    “หุบปาก! ฉันก็รู้ตัวอยู่แล้วน่า!”

    พิชญ์ตวาดกลับด้วยความหงุดหงิดที่ถูกพูดแทงใจดำ เขายอมรับว่าเขาดูแลวิรัลมากไป จนหลายคนในเผ่ายังเคยเอ่ยทัก แต่เขาก็ยอมไม่ได้ ถ้าจะให้เด็กน้อยผู้ไร้เดียงสา ที่เขาดูแลมาแต่เล็ก ต้องแปดเปื้อนกับความชั่วร้ายต่าง ๆ ในโลกใบนี้

    “ไม่มีใครที่จะเป็นผ้าขาวได้ตลอดชีวิตหรอกนะ ทุกคนจะต้องถูกแต่งเติมแต้มสีสันลงไปจากปัจจัยหลาย ๆ สิ่ง ...และฉันเชื่อนะว่า ต่อให้รู้จักกับความเน่าเฟะ ชั่วร้ายของโลกใบนี้สักเพียงใด แต่หัวใจที่บริสุทธิ์ ยังไงมันก็ไม่ถูกย้อมให้เป็นสีดำ ได้ง่ายดายขนาดนั้นหรอก”

     ชาครเปรยขึ้น ทำให้พิชญ์เงียบงันไปสักพัก ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ จากนั้นจึงพึมพำขึ้นแผ่วเบา

    “ฉันจะพยายาม...ค่อย ๆ ปรับตัวไปพร้อมกับท่านวิรัลแล้วกัน”

    ชาครมองคนที่ยืนเงียบ ๆ แล้วจึงมีรอยยิ้มน้อย ๆ ประดับบนใบหน้าของเขา โดยที่เขาก็ไม่ทันรู้ตัว

    “...ยิ้มทำไม”

    พิชญ์ที่เงยหน้ามาทันเห็นเอ่ยทักเสียงห้วน รู้สึกหงุดหงิดที่เห็นอีกฝ่ายยิ้มแบบนั้น เมื่อมองเขา

    “หือ...ฉันยิ้มหรือ อืม…อาจจะเพราะเห็นกวางดื้อ ๆ สงบเงียบลงได้ ก็เลยนึกขำมั้ง”

    พิชญ์ขมวดคิ้วยุ่งกับคำตอบที่ได้รับ เขาสะบัดหน้าและเตรียมเดินหนี แต่ก็ถูกแรงดึงของโซ่ที่ล่ามรั้งไว้ ทำให้ชายหนุ่มยิ่งรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเป็นเท่าตัวทีเดียว

    “เอากุญแจมา!”

    “อะไร ...จะยอมแพ้แล้วหรือ เฮ้อ! ความอดทนสั้นจังนะ ทีฉันยังไม่รู้สึกอะไรเลย ...แต่ก็นะ มโคเป็นพวกสัตว์กินพืชอ่อนแอนี่ เจอแค่นี้แล้วไม่ไหว ไอ้ฉันก็พอจะเข้าใจอยู่”

    ชาครแสร้งทำเป็นพูดดูถูกอีกฝ่าย แล้วรอคอยปฏิกิริยาโต้ตอบ ซึ่งก็เป็นดังคาด พิชญ์นั้นทำท่าฮึดฮัด ค้อนให้เขา แต่ก็เลิกพูดเรื่องให้ไขกุญแจอีก

    “โอ้...ใจเด็ดกว่าที่คิดแฮะ ...ถ้าอย่างนั้น ฉันว่าเราไปที่บ้านพักกันดีกว่า นั่งพักบนโซฟา ดูหนัง ฟังเพลง ดื่มกาแฟ ดื่มชา หรืออะไรก็ได้ ยังไงก็น่าจะดีกว่าให้มายืนขาแข็งกันแถวนี้ จริงไหม”

    ชาครเอ่ยชักชวนอีกฝ่ายกลับบ้านพัก พิชญ์ขมวดคิ้วยุ่ง แม้จะเริ่มเห็นด้วย แต่ถึงกระนั้น เจ้าตัวก็ยังยื่นข้อเสนอ

    “ไปบ้านพักฉัน...จะได้เห็นท่านวิรัลอยู่ในสายตาบ้าง”

    ชาครถอนหายใจกับคำพูดนั้น การจะเปลี่ยนพิชญ์ให้เลิกห่วงวิรัลทันที นั้นคงยาก แต่เขาก็เชื่อว่า อีกฝ่ายคงพอจะเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ และเริ่มปรับตัวทีละนิดเองก็ได้ และถ้าพิชญ์ยอมปรับเปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่ เรื่องความรักของเจ้านายของเขาและเด็กหนุ่มมฤคมาศ ก็คงจะราบรื่นขึ้นกว่านี้ในอนาคตอย่างแน่นอน

   
... TBC ...


ก่อนอื่นก็ต้องขอกราบขออภัยงาม ๆ กับนักอ่านที่เฝ้ารออ่านเรื่องนี้ทุกท่านนะคะ
ห่างหายศีรษะไปนาน ไม่ได้มาต่อ เนื่องจากเหตุผลหลัก ๆ ดังนี้

1. เร่งปั่นเรื่องสั้นนอกรอบ ให้เสร็จก่อนปีใหม่ (สถานะ ปั่นเสร็จไปแล้ว 30 หน้าเอสี่)
2. มีเคลียร์เรื่องหนังสือรีปริ้นท์ และมิราเคิลคาเฟ่ ในล็อตสอง (อันนี้ไม่เสียเวลา อะไร แต่ก็ทำให้ขี้เกียจแต่งนิยายในบางวันได้)
3. ติดเกม  (ปัญหาใหญ่ ...คือปัดเป็นพวกเล่นเกมแล้วไม่จบ มันจะค้างคา ต้องเล่นให้จบ หรือเบื่อกันไปข้าง ถึงจะโอเค ซึ่งตอนนี้ มันกำลังเข้าสู่ไคลแมกซ์แล้ว  ทำให้ถ้ามีเวลาว่างเมื่อไหร่ ต้องจิ้มเข้าไปเล่น แล้วปัดยังชอบเกมแบบเรื่อยเปื่อย ผลาญเวลาอีกด้วย ดังนั้น เกมที่กำลังติดเกมนี้ จึงเข้าทางยิ่งนัก)

รวมกันแล้ว ปัญหาใหญ่ ๆ เลย คือ ติดเกม แล้วแอบอู้งาน --.... แต่ ๆๆๆ ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็เอี่ยวกับเรื่องสั้น 30 หน้าเอสี่นั้นด้วย คือถ้าไม่แต่งอย่างใดอย่างหนึ่งให้จบ สมาธิปัดจะแตกซ่าน จนกลายเป็นอู้มันทั้งสองเรื่องเลยทีเดียว  (แถเรียกความสงสารเข้าไป!)

ฟังข้อแก้ตัว ครบสามข้อแล้ว หวังว่าคงจะไม่หมั่นไส้และหนีกันไปก่อนนะคะ TT ^ TT  ไหน ๆ ก็อุตส่าห์ ยอมสารภาพผิดอย่างจริงใจที่สุดแล้วนะคะเนี่ย ยังไงต่อจากนี้จะพยายามกลับมาขยันปั่นเหมือนเดิมนะคะ

ป.ล. เรื่องหลัง ๆ นี่เป็นช่วงเข้าไคลแมกซ์ คาดว่าคงจะปั่นวันเวันวันลำบาก แต่ยังไงจะพยายามไม่ให้ห่างเกินอาทิตย์ต่อตอนนะคะ

ขออภัยที่แอบอู้งานเขียนอีกครั้งค่ะ -/\-

---------------------------

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
ธามปกป้องวิรัลให้ดี ๆ นะ แล้วถ้ามาลุตกับพวกมาพิชญ์จะเข้าใจผิดธามหรือเปล่าเนี่ย แล้วธามจะทำยังไงกับมาลุตกันนะ

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
คู่พี่เลี้ยงนี้ก้นะ หุหุ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
คู่ชาคร  คงได้ฟัดกันยกนึงแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ  ทะเลาะกันบ่อย  แต่เค้าว่า ลูกดกนะ  หึหึ

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
รู้สึกว่าคนร้ายจริงๆน่าจะเป็นพี่คนโตมากกว่านะ

พวกยุยง รอโอกาสไปเรื่อยๆน่ะ  o18

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
เห็นด้วยกะชาคร

นายเอกต้องแกร่งบ้างสิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด