หวาน ๆ (?) รับปีใหม่ .... สุขสันต์วันปีใหม่ย้อนหลัง นะคะ นักอ่านทุกท่าน ขอให้สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง จ้า สุดท้ายก็ขอบคุณที่ยังคงติดตามกันมาตลอดนะคะ 
.........................
/ 16
ด้วยคำสั่งของหมอที่ต้องการกักตัวคนไข้เจ็บหนักเอาไว้รักษาที่โรงพยาบาล พิชญ์จึงไม่ถูกปล่อยให้กลับบ้านพักคืนนี้ ส่วนวิรัล ธาม และชาคร นั้น ออกเดินทางจากรีสอร์ท ตรงกลับสู่คฤหาสน์มฤคมาศของวิรัล เพื่อป้องกันการรวมพลย้อนกลับมาเล่นงานของพวกวกะนั่นเอง
“แล้วพวกคุณม่านฟ้า กับ คุณอำมฤตล่ะ เป็นอะไรมากไหม”
วิรัลคุยสอบถามพี่เลี้ยงคนสนิทผ่านมือถือ ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบมาตามตรง
“คุณอำมฤตค่อนข้างอาการหนัก แต่ไม่สาหัสถึงชีวิตหรอกครับ แพทย์ก็กำลังให้การรักษาอย่างเต็มที่ ส่วนท่านม่านฟ้าไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก แค่ช้ำในเล็กน้อย ตอนนี้ก็ฟื้นตัวแล้ว แต่ท่านก็ยังไม่ขอกลับ เพราะอยากเฝ้าอาการของคุณอำมฤตให้แน่ใจว่าปลอดภัยแล้วจริง ๆ”
ท้ายประโยคพิชญ์หวนคิดถึงสีหน้าท่าทางของเด็กสาว ที่มันฉายชัดออกมาให้เห็น แม้คนที่ไม่คุ้นเคยกับทั้งคู่มากเช่นเขา ก็ยังสามารถรับรู้ได้เลยว่า ม่านฟ้านั้นคิดเช่นไรกับอำมฤตกันแน่
“ท่านวิรัลครับ ...บางทีเรื่องหมั้น....”
พิชญ์เอ่ยเสียงแผ่วแทบไม่พ้นลำคอ ทำให้วิรัลเลิกคิ้วนิด ๆ อย่างประหลาดใจ
“มีอะไรหรือพิชญ์ พึมพำอะไร ฉันได้ยินไม่ค่อยชัด”
“เอ่อ...ไม่มีอะไรครับ เอาเป็นว่ายังไงพรุ่งนี้ผมจะกลับไปที่โน่นแล้วกันครับ ส่วนท่านก็พักผ่อนให้มากนะครับ จะได้ไม่ล้มป่วยไป”
พิชญ์ตัดบท และคิดว่าบางทีเขาอาจจะไปพูดเรื่องนี้กับตรัณอีกที ไหน ๆ วิรัลก็รักมั่นกับธามขนาดนั้น แถมตอนนี้ธามก็มาอยู่ด้วยกันที่เผ่าแล้ว อีกทั้งม่านฟ้าก็แอบชอบอำมฤตอยู่ด้วย ถ้าตรัณตกลงยอมยกเลิกเรื่องหมั้น ทุกฝ่ายก็คงมีความสุขตามมา
วิรัลวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ เขาถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะชะงัก เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น
“วิรัล ...ฉันเอง เข้าไปหาได้ไหม”
วิรัลสะดุ้ง เพราะจำได้ดีว่าเสียงใคร เด็กหนุ่มรีบเร่งฝีเท้าไปที่ประตู พลางเปิดมันออก แล้วเรียกชื่อคนตรงหน้า
“คุณธาม...เอ่อ เชิญครับ”
สีหน้าของอีกฝ่ายดูเงียบขรึมผิดเคย ทำให้วิรัลรู้สึกแปลกใจยิ่งนัก ทว่า พอชายหนุ่มก้าวเข้ามาในห้อง พร้อมกับดันประตูปิดล็อกเรียบร้อย เขาก็กอดร่างโปร่งตรงหน้าอย่างรักใคร่และหวงแหน จนวิรัลตกใจ
“คุณธาม! มีอะไรหรือครับ”
ธามไม่ได้ตอบ เขากอดแน่นขึ้น แล้วช้อนร่างของเด็กหนุ่มอุ้มขึ้นลอย เดินไปที่เตียง ก่อนจะวางร่างของอีกฝ่ายลงอย่างทะนุถนอม แล้วตัวเองจึงขึ้นไปคร่อมทับร่างนั้นอีกที
“คุณธาม...”
“ฉันเผลอหลับไปเมื่อตอนหัวค่ำ...แล้วฝันถึงเธอ ...ฝันว่าฉันช่วยเธอไม่ทัน แล้วเธอถูกพวกนั้นรุมกินหัวใจ... ให้ตายเถอะ ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ ฉันคงมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้แน่...วิรัล”
ธามพึมพำพลางซุกหน้าลงบนแผ่นอกของเด็กหนุ่ม เสียงหัวใจเต้นรัวของอีกฝ่าย ทำให้เขาเริ่มสงบลงทีละน้อย โดยเฉพาะเมื่อเรียวแขนโปร่งบางกอดตอบแล้วลูบหลังและศีรษะอีกฝ่ายอย่างรักใคร่
“ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ...เพราะมีคุณอยู่ ผมถึงปลอดภัยยังไงล่ะ...”
วิรัลกระซิบ ซึ่งธามก็ดันกายขึ้นแล้วชะโงกใบหน้าเข้าไปใกล้ ก่อนจะแลกจุมพิตกันอย่างดูดดื่มอยู่ครู่ใหญ่ ธามจึงผละออกจากร่างของเด็กหนุ่ม เขายันกายลุกนั่งคร่อมร่างของวิรัลอยู่ตามเดิม แต่ถอดเสื้อผ้าที่อยู่ติดกายของตนออกจนหมด
ทางด้านวิรัลพอเห็นเช่นนั้นก็ใบหน้าแดงระเรื่อ รู้ทันทีว่าธามต้องการทำอะไรกับตน แต่แม้จะเคยถูกห้ามปรามจากพิชญ์มาก่อน ทว่าหลังจากที่ผ่านช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายมา ก็ทำให้วิรัลเริ่มได้คิดว่า ชีวิตของเขาและธามดูเหมือนมันจะไม่แน่นอนสักเท่าใด อาจจะมีเรื่องไม่คาดฝันเข้ามาแทรกแยกพวกเขาออกห่างจากกันเมื่อใดก็ได้ ...ดังนั้น วิรัลจึงไม่คิดขัดขืน ยามที่ธามเริ่มเล้าโลมและปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเขาออกเช่นเดียวกัน
“วิรัล... ให้ฉันได้ไหม... ให้ฉัน ได้เป็นหนึ่งเดียวกับเธอได้ไหม”
ธามกระซิบขอร้อง ขณะที่ไล่จูบไปทั่วร่างเปลือยเปล่าบนเตียงอย่างโหยหา
“คะ...คุณธาม...ผม...ผมเองก็...”
วิรัลหน้าแดงก่ำ แล้วชะโงกหน้าไปกระซิบข้างหูอีกฝ่ายพร้อมกับโอบกอดรอบคอร่างแกร่งนั้นแน่น ทว่าคำพูดที่ได้ยินนั้นก็ทำให้ธามยิ้มออกมาอย่างยินดี เขาดึงร่างเปลือยเปล่ามานั่งเผชิญหน้า แล้วแลกจุมพิตกันอย่างดูดดื่มอีกครั้ง
“วิรัล...กวางน้อยแสนสวยของฉัน...ฉันรักเธอที่สุด”
ธามพร่ำบอกรักขณะที่เล้าโลมให้ร่างโปร่งบางบิดเร่าไปด้วยความปรารถนารุนแรง ก่อนที่ร่างนั้นจะสะดุ้งเฮือก เมื่อธามช้อนบั้นท้ายขาวเนียนที่ถูกนวดเฟ้นและเตรียมพร้อมอย่างดี ดันลงบนตักพร้อมกับสอดใส่ความเป็นชายของตนสวนกลับไปจนมิด
“อ๊า!”
เสียงกรีดร้องแหลมสูงด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น จนพิชานและบอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่ด้านล่างตกใจและเตรียมจะขึ้นไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นบนห้อง ทว่าชาครนั้นปรากฏกายขึ้นมาขัดขวางเอาไว้เสียก่อน
“พวกนายคงไม่คิดจะไปรบกวนเวลาที่ ‘คู่รัก’ เขาอยู่ด้วยกันหรอกนะ...ถ้าเข้าไปตอนนี้ ฝั่งท่านวิรัล จะลำบากใจเอาเสียมากกว่า”
ชาครบอกยิ้ม ๆ เขาเปลี่ยนสรรพนามมาเรียกวิรัลว่าท่านตามแบบมโคตนอื่น เนื่องจากยอมรับอีกฝ่ายมาเป็นเจ้านายเต็มตัว เพราะธามกับวิรัลนั้นกำลังผูกพันเป็นหนึ่งเดียวกันแล้วในขณะนี้
พิชานชะงักก่อนจะหน้าแดงระเรื่อ เช่นเดียวกับมโคตนอื่น ๆ เมื่อพอจะคาดเดาว่าภายในห้องนั้นเกิดอะไรขึ้น
“แต่เรื่องแบบนี้...คุณพิชญ์...”
“หึ ๆ ถ้าหมอนั่นเขาคิดจะขัดขวาง คงไม่ปล่อยให้ฉันกับท่านธามมานอนค้างที่นี่หรอก ...หรือว่าไง เขาสั่งมาหรือเปล่าล่ะ ว่าห้ามท่านธามเข้าใกล้ตัวท่านวิรัลโดยเด็ดขาดน่ะ”
ชาครบอกออกไปอย่างพอจะคาดเดาใจของอีกฝ่ายได้ พิชานชะงัก แล้วก็ต้องยอมรับว่าพิชญ์ไม่ได้สั่งเรื่องนี้ แม้เขาจะถามกลับไปตอนอีกฝ่ายโทรศัพท์ติดต่อมาฝากฝังงานที่คฤหาสน์ก็ตาม ว่าจะให้ทำยังไงกับพวกธามดี ชายหนุ่มก็เลือกตอบแต่เพียงว่า ปล่อยให้ทั้งคู่เป็นอิสระ เหมือนกับมโคตนอื่น ๆ เท่านั้น
“ทั้งสองคนนั่นผูกพันกันทางใจแค่ไหน พวกนายก็คงน่าจะรู้ ....แล้วมาถึงตอนนี้ ตอนที่ทั้งสองคนนั้นผ่านอะไรมามากมาย ...ฉันว่าก็น่าจะปล่อยทั้งคู่ตกลงกันเองมากกว่า ...หรืออยากจะเข้าไปห้ามก็ตามใจ เพราะฉันก็ไม่คิดจะขัดขวางอยู่แล้ว”
ชาครบอกแล้วขยับทางหลีกให้ทุกคนแถวนั้น คนอื่น ๆ มองหน้ากันตาปริบ ๆ ต่างรู้ดีว่าวิรัลนั้นชอบธามมากเหลือเกิน และก็รู้ดีว่าธามนั้นเพื่อวิรัลก็ถึงกับยอมทิ้งเผ่า และยอมแบกรับชื่อคนทรยศของเผ่าเอาไว้กับตัวเอง
“เอางั้นก็ได้...”
พิชานพึมพำ แล้วเตรียมหันหลังกลับ ทว่าก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินอีกคนทักขึ้น
“ถ้าหมอนั่นกลับมาแล้วบ่นพวกนาย ก็บอกว่าฉันขวางเอาไว้ก็ได้ เขาจะได้พุ่งความโมโหมาให้ฉันคนเดียวแทน”
ชาครบอกตามไล่หลังเหล่ามโคไป พิชานหันกลับมามองอีกฝ่ายตาปริบ ๆ แล้วถอนหายใจพร้อมสั่นศีรษะด้วยความระอา ก่อนจะเดินกลับไปประจำที่พร้อมพรรคพวกของตน ส่วนชาครมองตามไล่หลังแต่ละคนไปพร้อมกับแย้มยิ้มน้อย ๆ เมื่อหวนนึกถึงใครบางคนที่อยู่โรงพยาบาล
“ฉันรู้...ต่อให้นายอยู่ที่นี่ด้วย ถึงที่สุดแล้ว นายก็คงไม่คิดขัดขวางทั้งคู่อยู่ดี ...แต่แน่นอนว่าคงจะบ่นตามมาให้หูชากันไปเป็นแถวแน่ ๆ”
ชาครหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ เขามองไปที่ประตูห้องของวิรัล แล้วยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะปล่อยให้ผู้เป็นนายและคนรักของเจ้านาย ใช้เวลาประสาคนรักร่วมกันไปอย่างเร่าร้อนระคนอ่อนหวานตลอดทั้งค่ำคืนนั้น
วิรัลลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างมึนงง ภาพแรกที่เห็นคือแผ่นอกมีมัดกล้ามเปลือยเปล่าได้รูป ที่ทำให้เขาถึงกับชะงัก ก่อนจะหน้าแดงวาบ เมื่อหวนคิดขึ้นมาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับคนที่นอนเคียงข้าง เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา
“อือ...จะรีบตื่นไปไหนล่ะ นอนต่ออีกสักนิดเถอะน่า”
ธามกอดรั้งร่างบางที่เตรียมจะยันกายลุกขึ้นนั่งหมับ ทำเอาวิรัลหน้าแดงหนักขึ้น แล้วพยายามหาเรื่องคุยกลบความอายแทน
“คุณธามตื่นนานแล้วหรือครับ...”
“ก็ตื่นตอนเธอขยับตัวนั่นล่ะ”
ธามตอบโดยไม่ยอมลืมตา ทว่ากลับจูบหน้าผากอีกฝ่ายเบา ๆ แล้วกอดรัดร่างโปร่งเปลือยในอ้อมกอดไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“แต่นี่น่าจะใกล้เวลาอาหารเช้าแล้วนะครับ...แดดส่องเข้ามาในห้องแล้วด้วย”
วิรัลที่สังเกตเห็นแสงแดดยามเช้ารีบบอก เพราะเกรงว่าคนของเขาจะขึ้นมาตาม แล้วเจอสภาพเขากับธามแบบนี้เข้า
“เธอหิวแล้วหรือ...ฉันยังไม่หิวเลย อีกอย่างถ้าหิว ก็ให้ข้างล่างเขายกขึ้นมาให้ก็ได้ ...เธอเดินลงไปเองไหวหรือ”
ธามบอกคล้ายงัวเงีย แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก ทำให้วิรัลหน้าแดงอีกครั้ง
“คุณธามล่ะก็...”
“หึ ๆ แต่จะว่าไปพอคุยกันแบบนี้ แล้วชักจะหิวขึ้นมาแล้วสิ...จะกินอีกสักรอบดีไหมน้า”
อีกฝ่ายแกล้งพึมพำเสียงดังให้ได้ยิน จนวิรัลหน้าร้อนวูบวาบ แล้วพยายามจะลุกหนี แต่ก็ไม่สำเร็จ แถมยังถูกกอดแน่นกว่าเดิมอีก
“ขอกินอีกรอบได้ไหม ...เมื่อคืนนี้ยังไม่ทันอิ่มดีเลย”
ธามอ้อน แต่อีกคนรีบสั่นหน้า
“ไม่เอานะครับ...เช้าแล้ว ...เดี๋ยวใครเห็นเข้า”
“ไม่เปิดห้องเสียอย่างใครจะเข้ามาเห็นได้”
ธามแย้ง แต่วิรัลก็ยังคงหน้าแดงก่ำ
“ยังไงก็ยังได้ยินเสียงอยู่ดีนั่นล่ะครับ”
“หึ ๆ เมื่อคืนเธอร้องเสียงดังขนาดนั้น ยังไม่มีใครขึ้นมาขัดจังหวะพวกเราเลยไม่ใช่หรือ...เพราะฉะนั้นอย่าห่วงเลยน่า”
คนที่เพิ่งได้รับรู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนหน้าแดงหนักยิ่งขึ้น เจ้าตัวอายจนแทบจะมุดหน้าหนีไปกับผ้าห่ม เมื่อนึกขึ้นได้ว่า เมื่อคืนตนเผลอหลุดปากร้องครางอะไรไปบ้าง
“คุณธาม! ไม่เอาแล้ว! ไม่ให้ทำอีกแล้ว!”
วิรัลโพล่งบอกด้วยความงอนและอาย จนธามนึกเอ็นดูระคนสงสาร
“โอ๋ ๆ อย่างอนน่า ...ฉันล้อเล่น ไม่มีใครได้ยินหรอกน่า หรือถึงจะได้ยินก็ไม่มีใครเขาว่าอะไรหรอก เขาก็รู้ว่าเธอกับฉันรักกันจริงไหม”
ธามบอกปลอบพร้อมลูบหัวลูบหลัง คนที่นั่งเผชิญกับตน จนวิรัลเริ่มคลายความอายพร้อมกับพยักหน้ารับรู้นิด ๆ
“ถ้าอย่างนั้นก็นอนกอดกันต่ออีกสักหน่อยดีกว่า เกิดเดี๋ยวพี่เลี้ยงของเธอกลับมา เราคงโดนกีดกันให้ออกห่างกันแน่...”
ยังไม่ทันจะพูดจบ เสียงทุบประตูจากข้างนอกก็ดังขึ้น จนคนในห้องสะดุ้ง
“ท่านวิรัล! ตื่นแล้วหรือยังครับ ...โธ่โว้ย ล็อกงั้นหรือ...ท่านวิรัล รบกวนช่วยบอกให้อีกคนในห้อง มาเปิดประตูให้ผมด้วย ไม่อย่างนั้นผมจะพังเข้าไปเดี๋ยวนี้นะครับ!”
เสียงของพิชญ์ทำให้วิรัลสะดุ้ง ทั้งอายทั้งกังวล เมื่อเห็นสภาพของตนกับธามในตอนนี้
“จะพังให้เสียของทำไม กุญแจสำรองก็มี ไปเอามาใช้แทนไม่ดีกว่าหรือ”
เสียงของชาครดังขึ้นใกล้ ๆ แสดงว่าทั้งคู่นั้นอยู่ด้วยกันด้านนอกนั่นเอง
“หุบปากไปเลย! เพราะเจ้านายของนายนั่นล่ะ...โธ่โว้ย! ระแวงอะไรก็ดันได้อย่างนั้น รู้งี้ไม่อยู่ค้างโรงพยาบาลเมื่อคืนก็ดี....พิชาน! ยังไม่ได้กุญแจสำรองอีกรึไง!”
ธามมองไปที่ประตูพลางอมยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะบอกกับคนที่เป็นกังวลในอ้อมกอด
“ไม่ต้องห่วงนะ ...อยากรู้เหมือนกันว่าพี่เลี้ยงของเธอจะพูดว่ายังไง”
“ตะ...แต่ว่า”
“เอาเถอะน่า...รอดูไปก่อน”
ธามบอกกับคนรัก แล้วรอจนกระทั่งประตูห้องเปิดออก พิชญ์ผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพบนเตียง ส่วนพิชานหน้าแดง แล้วเมินไปอีกทาง ตรงข้ามกับชาครที่อมยิ้มน้อย ๆ เมื่อเห็นผู้เป็นเจ้านายอยู่กับวิรัล
“สวัสดี ซี่โครงเชื่อมกันไวจังนะ ถึงได้ออกจากโรงพยาบาลเร็วเชียว”
ธามเอ่ยทักทาย ทำให้คนถูกทักกัดฟันกรอด
“คุณนี่มัน... ไว้ใจไม่ได้เลยให้ตายเถอะ! เรื่องท่านม่านฟ้ากับท่านวิรัลยังไม่ทันเคลียร์ให้เรียบร้อย คุณกลับ...โธ่โว้ย!”
พิชญ์โพล่งใส่อย่างหงุดหงิด แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าโวยวายจนวิรัลเริ่มใจชื้น
“พิชญ์...ขอโทษนะ ...แต่ว่าฉัน...”
พิชญ์มองเจ้านายของเขา แล้วถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะแย้มยิ้มอ่อนโยนให้
“ช่วยไม่ได้นี่ครับ มีคนปากว่ามือถึงอยู่ใกล้แบบนี้ ท่านก็คงต้านทานได้ลำบาก... แล้วก็คุณน่ะ...”
พิชญ์หันขวับไปทางธามแล้วจ้องอีกฝ่ายอย่างเคร่งขรึมครู่ใหญ่ ก่อนจะเอ่ยปากขึ้นในที่สุด
“สาบานต่อหน้าผมกับท่านวิรัลได้ไหม ว่าหลังจากนี้ไป คุณจะดูแลและปกป้องท่านวิรัลด้วยชีวิต และทำให้ท่านวิรัลมีความสุขตลอดไป”
ธามชะงัก เช่นเดียวกับวิรัล และคนอื่น ๆ ที่อยู่แถวนั้น ทว่าสักครู่ธามก็ยิ้มแย้มน้อย ๆ พร้อมกับพยักหน้า
“ได้สิ...ฉันสาบาน ว่าฉันจะปกป้องดูแลวิรัลตลอดไป”
“ดี! ถ้าคุณผิดคำสาบานเมื่อใด ผมและทุกคนในเผ่ามโค จะตามไล่ล่าคุณไปทุกที่ และจะจับคุณแล่เนื้อเป็นชิ้น ๆ จะทรมานให้คุณจะอยู่ก็ไม่ได้ จะตายก็ไม่ได้ เลยทีเดียวล่ะ!”
พิชญ์บอกด้วยสีหน้าจริงจังเช่นเดียวกับคำพูดจนวิรัลนึกกลัวแทน ทว่าธามกลับยิ้มน้อย ๆ แล้วบอกกับอีกฝ่าย
“จะไม่มีวันนั้นมาถึงแน่ ...เพราะฉันจะไม่มีวันผิดคำสาบานกับเขา นอกเสียจากว่า จะมีความตายมาพรากพวกเราออกจากกัน...”
คำพูดที่แปลความหมายได้ว่า อีกฝ่ายนั้นจะรักษาสัญญาจนวันตาย ทำให้วิรัลรู้สึกซาบซึ้งยิ่งนัก เขาซบหน้ากับอกกว้างของอีกฝ่าย ซึ่งธามก็กอดตอบหลวม ๆ เห็นดังนั้น พิชญ์จึงถอนหายใจเบา ๆ แล้วขอตัวออกจากห้องไปก่อน แต่ก็ยังไม่วายเตือนให้ธามและวิรัลอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย อีกสามสิบนาที เขาจะนำอาหารเช้ามาเสิร์ฟทั้งคู่ที่ห้อง และมีเรื่องสำคัญบางอย่างที่จะต้องพูดคุยกับทั้งสองคนอีกด้วย
วิรัลรู้สึกโล่งอก เรื่องที่พิชญ์ยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับธาม เด็กหนุ่มมองคนที่ยังคงกอดเขาอย่างเขินอาย แล้วจึงบอกเสียงแผ่ว
“คุณธาม...ปล่อยได้แล้วครับ เดี๋ยวผมจะต้องอาบน้ำ แล้วคุณก็ต้องอาบด้วยเหมือนกัน เดี๋ยวพิชญ์จะบ่นเอานะครับ”
ธามยิ้มน้อย ๆ เขาคลายอ้อมกอดให้หลวมขึ้น แล้วจึงบอกตอบเด็กหนุ่ม
“ถ้าอย่างนั้นเราก็อาบพร้อมกันสิ ...จะได้ไม่เสียเวลาไง ดีไหม”
วิรัลหน้าแดง เขารู้สึกเขินนิด ๆ ทว่าก็ยังคงพยักหน้าตอบรับไปแต่โดยดี
“หึ ๆ เด็กดี...เธอนี่น่ารักที่สุดเลยวิรัล...มามะ งั้นเรารีบไปอาบน้ำกันเถอะ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเธอจะขึ้นมาขัดจังหวะอีก”
ธามกระซิบแฝงเลศนัย จนวิรัลต้องหน้าแดงวาบ แต่ความปรารถนาที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับคนรักตลอดเวลานั้นมีมากกว่า ทำให้เด็กหนุ่มยอมทำตามธามบอกอย่างว่าง่าย ไม่ว่าธามจะเสนอให้เขาทำอะไร เขาก็สนองชายหนุ่มกลับไปในทุกเรื่อง ...จนกระทั่งการอาบน้ำที่แสนจะวาบหวามและเร่าร้อนของทั้งคู่ผ่านพ้นไปในที่สุด
พิชญ์ซึ่งนำอาหารเช้ามาเสิร์ฟทั้งคู่ที่ห้อง มองเจ้านายของตนที่ถูกธามจับอุ้มนั่งตักบนโซฟาอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
“...ผมว่าคุณให้ท่านวิรัลนั่งบนโซฟาแทนก็ได้ นั่งแบบนั้นจะทานสะดวกหรือ”
“ไม่เป็นไร...วิรัลยังไม่พร้อมนั่งที่อื่น นอกจากตักฉันน่ะ ...จริงไหม เธอยังเจ็บอยู่มากนี่นะ”
ธามบอกกับพิชญ์แล้วก้มลงถามคนบนตัก ทำเอาวิรัลหน้าแดงก่ำไม่กล้าพูดอะไรเพราะความอายหนัก
“เหอะ...งั้นก็เชิญทานให้อิ่มกันก่อนแล้วกัน ทานเสร็จแล้วผมมีเรื่องจะพูดด้วย ...เกี่ยวกับเรื่องหมั้นของท่านวิรัลและท่านม่านฟ้า”
วิรัลชะงัก สีหน้ามีความกังวล วิตก และรู้สึกผิดปะปนกันไป จนพิชญ์นึกสงสาร ส่วนธามนั้นเขาขรึมลงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
“ทานกันก่อนเถอะครับ... มันไม่ใช่เรื่องที่ได้ยินแล้วถึงขนาดทานข้าวเช้าไม่ลงหรอก”
พิชญ์เอ่ยตามมาเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศอึมครึมที่เกิดขึ้น ก่อนจะขอตัวไปรอข้างนอกสักพัก และเมื่อลับร่างของพี่เลี้ยงหนุ่มไปแล้ว ธามก็ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะยิ้มให้กับคนรักของตน
“ฉันภาวนาให้มันเป็นข่าวดีนะ ...เธอเองก็คิดเหมือนกันใช่ไหม”
วิรัลยิ้มน้อย ๆ ตอบ แล้วจึงชักชวนให้ธามทานข้าวเช้ากันแทน เด็กหนุ่มตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาเองก็ตั้งใจจะเผชิญหน้ากับปัญหาทั้งหมดด้วยตัวเอง โดยไม่คิดหลีกหนี และจะพยายามเลือกทางออกที่ยุติธรรมกับทุกฝ่ายให้จงได้
... TBC … 