ลิขิตรักอสุรกาย : จบบริบูรณ์ + ตอนพิเศษ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ลิขิตรักอสุรกาย : จบบริบูรณ์ + ตอนพิเศษ  (อ่าน 406670 ครั้ง)

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
หวาาา มาแบบซอฟต์ๆ
เหมือนธามจะทะนุถนอมวิรัลแบบเบาๆ ><
ถ้าคุยกันเรื่องคู่หมั้นอะไรแบบนี้จะมีปัญหารึเปลา
แล้วยังมีพวกวกะเข้ามายู่ด้วยอีก มโคกลุ่มอื่นจะว่ายังไง

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
 :o8: :o8: :o8:


หวานเว่อร์ แอร๊ยยย  ยังไงก็ขอให้คู่ที่เหลือ ทั้ง คู่ของคุณม่านฟ้า อำมฤต กับ พิญช์ ชาคร สุขสมหวังเหมือนกัน

ออฟไลน์ ReiiHarem

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-3
เอาเป็ดมาหวัดีปีใหม่ด้วยจ้า
พิชญ์น่าจะโดนชาครซักดอกนะ อิอิ จะได้เลิกบ่น หรือบ่นเยอะขึ้น กร๊ากกกก

ออฟไลน์ anuruk97

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-4
หมาป่าสีเงินผู้พิทักกวางทอง.....ขอให้มีความสุขนะค่ะ.....อย่าได้มีอุปสรรค์อีกเลยนะค่ะ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
จะเป็นไงต่อน้า ทางด้านวกะไม่รู้จะล้างแค้นรึเปล่า

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
โคตรแบ๊วจริง  กวางน้อยของเรา

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
มาแล้วๆ หายไปนานเพราะติดสอบ แอนด์ เทศกาล

กวางน้อยน่ารักขึ้นเรื่อยๆนะเนี้ย  :-[

แหม แอบเชียร์คู่ฮาร์ดคอชาครกับพิชญ์ ท่าทางจะเร้าใจน่าดูนะเนี้ย  :z1:

กอดคนเขียน  :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ CheetahYG

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
 น่าร้ากกกก   :o8:                                                                                                                                                         เเต่.......ทำไมคนเเต่งหายไปงี้อ่าาาาา  :m31:                                                                                                              เรารอมาหลายวันเเล้วนะ รีบๆมาต่อไห้เราเถอะ  :sad4:                                                                                                                                              จะลงเเดงละ :z3:

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
คล้ายดังมีคนจุดธูปเรียก จึงลอยมาตามกลิ่นธูป.... มาครั้งนี้ ไม่มีข้อแก้ตัว ผู้แต่งยอมรับว่าดองงาน และจะพยายามเคาะนิสัยขี้เกียจนี้ทิ้ง และกลับมาปั่นแบบพยายามไม่ทิ้งระยะห่างจนเกินไปอีกค่ะ
 



/17




    “ผมคิดว่าท่านม่านฟ้า รักคุณอำมฤต”

    คำพูดแรกของพิชญ์นั้นสร้างความประหลาดใจเล็กน้อยให้กับวิรัลและธาม เพราะทั้งคู่นั้นรู้ดีว่าม่านฟ้ามีคนที่แอบชอบอยู่แล้ว

    “หือ...หรือว่าพวกคุณรู้อยู่แล้ว”

    พิชญ์มองทั้งคู่อย่างประหลาดใจ กับธามเขาไม่ค่อยแปลกใจ เพราะชาครนั้นพูดเป็นนัย ๆ เรื่องนี้ให้เขารับรู้ ถ้าลูกน้องรู้เจ้านายจะรู้ด้วยก็ไม่น่าประหลาดเท่าใด แต่กับวิรัลนี่สิ เด็กหนุ่มไม่น่าจะสังเกตได้เองขนาดนี้

    “ง่า...คุณม่านฟ้าบอกกับฉันวันแรกที่เจอกัน ว่าเธอมีคนที่รักอยู่ แต่เธอจำต้องเลือกหน้าที่ เพราะคนที่เธอรักอยากให้เธออยู่เหนือมโคตนอื่น ๆ น่ะ”

    วิรัลบอกกับพี่เลี้ยงของเขา เพราะถูกสายตาคมกริบนั้นคาดคั้น พอได้รู้พิชญ์ก็ถอนหายใจเบา ๆ แล้วจึงพยักหน้าน้อย ๆ ตามมา

    “ก็อย่างที่ว่านั่นล่ะครับ ...คนที่ท่านม่านฟ้าหลงรักก็คงเป็นคุณอำมฤตนั่นเอง แต่ทางตัวคุณอำมฤต ผมว่าอาจจะไม่ได้คิดอะไรกับท่านม่านฟ้า ...ที่ไม่คิดคงเพราะไม่เคยคิด และไม่กล้าคิด เนื่องจากด้วยฐานะ และหน้าที่ ...แต่ถ้าท่านวิรัลอยากให้เรื่องของตัวท่านเองราบรื่น และเรื่องของท่านม่านฟ้าสมหวังเช่นเดียวกัน ท่านคงต้องออกหน้าเจรจากับท่านตรัณด้วยตนเองแล้วล่ะครับ ...พอจะไหวไหมครับ”

    วิรัลกลืนน้ำลายลงคอ เพราะตรัณนั้น ก็มีอำนาจมากในหมู่มโค เปรียบเสมือนดังท่านย่าของเขา ที่อยู่ในฐานะผู้นำตระกูลของเขาอย่างแท้จริง แม้จะมีเขาเป็นว่าที่ประมุข และพิชญ์เป็นประมุขเงาก็ตาม

    “...ฉันจะลองดู  ฉันมีความสุขแล้ว ฉันก็อยากให้คุณม่านฟ้าพบกับความสุขเช่นเดียวกัน เธอเป็นผู้หญิงที่ดี และยังมีบุญคุณกับฉันในหลาย ๆ อย่าง ...ฉันไม่อยากให้คนดีอย่างเธอต้องมีชีวิตที่ขมขื่น เป็นเพียงแค่เครื่องมือของคำว่าอำนาจในเผ่าเท่านั้น”

    คำพูดจริงจังหนักแน่นของวิรัล ทำให้พิชญ์แย้มยิ้มออกมาอย่างชื่นชม ส่วนธามนั้นอมยิ้มน้อย ๆ แต่ก็รู้สึกพึงพอใจในการตัดสินใจของคนรักเช่นเดียวกัน

    “ตอนนี้ท่านม่านฟ้ายังพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล เช่นเดียวกับคุณอำมฤต ดังนั้น ที่บ้านพักจึงมีแต่ท่านตรัณเท่านั้น ...ความจริงผมก็อยากจัดการเรื่องนี้โดยเร็วไว จะได้ไม่มีอะไรค้างคา ...แต่ว่าท่านวิรัล เอ่อ จะเดินทางไหวหรือเปล่าครับ”

    ท้ายประโยคพิชญ์อ้อมแอ้มถาม ส่วนวิรัลนั้นหน้าแดงวาบ ก้มหน้างุด ๆ หลบสายตาพี่เลี้ยงคนสนิทยกใหญ่ ทว่าคนนั่งใกล้ ๆ กลับหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ชวนให้อีกสองคนที่เหลือเกิดความหมั่นไส้ขึ้นมา

    “ฉันขอนอนพักสักหน่อย เย็นนี้ถึงจะออกเดินทาง  อยากเจรจาให้เสร็จสิ้นยิ่งเร็วยิ่งดี จะได้เป็นของขวัญให้คุณม่านฟ้า ตอนคุณอำมฤตฟื้น”

    ธามมองคนใจดีของเขาอย่างรักใคร่ เช่นเดียวกับพิชญ์ที่ปลื้มนายน้อยของเขา ที่เติบโตมาอย่างที่เขาคาดหวังแทบทุกอย่าง ...ยกเว้นเรื่องความรักนี่ล่ะ ที่เขาไม่ค่อยจะพอใจนัก แต่มาถึงวันนี้แล้ว เขาก็ต้องยอมรับว่า ธามกับวิรัลนั้นเป็นคู่บุพเพกันจริง ๆ และมั่นใจว่า แม้จะเกิดปัญหาอะไรขึ้น ทั้งคู่ก็น่าจะฝ่าฟันไปด้วยกันได้ไม่ยากนัก

    “ถ้าอย่างนั้นผมไม่รบกวนแล้วล่ะครับ ...คุณก็เหมือนกัน ไม่จำเป็นอย่าไปรบกวนท่านวิรัลนักล่ะ”

    ธามยกมือยอมแพ้ ชายหนุ่มเริ่มทำใจไว้ล่วงหน้าแล้วว่า นับจากนี้ คงจะต้องมีพิชญ์มาคอยจู้จี้จุกจิกให้เขาปวดหัวอยู่เรื่อยไป  แต่ถ้านั่นหมายความว่าเขาจะได้อยู่กับวิรัลตลอดไปแล้ว  ธามก็คิดว่ามันค่อนข้างคุ้มค่าอยู่มาก

    พิชญ์กระตุกยิ้มด้วยความหมั่นไส้ แล้วจึงขอตัวออกไปจัดการเรื่องงานที่ค้างไว้ต่อ จนวิรัลนึกห่วงเรื่องที่อีกฝ่ายยังไม่หายดีนัก

    “งั้นเดี๋ยวส่งชาครไปเป็นผู้ช่วยดีกว่า เห็นอย่างนั้นหมอนั่นเก่งด้านบริหารมากเลยนะ ปกติก็ทำแทนฉันตลอดอยู่แล้ว”

    ธามบอกกับวิรัล แล้วจึงเรียกชาครมาสั่งให้ไปช่วยงานพิชญ์ โดยย้ำกับชาครว่า นี่เป็นคำสั่งของวิรัล ถ้าพิชญ์ไม่ยอม ก็ให้ยกงานให้พิชาน และตัวพิชญ์นั้น ก็กลับไปนอนโรงพยาบาลต่อสักอีกคืนสองคืน ค่อยมาทำงาน

    และเพราะคำสั่งแกมบังคับจากผู้เป็นเจ้านาย ซึ่งพิชญ์มั่นใจว่าวิรัลไม่ได้คิดเองแน่นั่น ทำให้ชายหนุ่มต้องรับลูกมือคนใหม่ให้มาช่วยงานอย่างเสียไม่ได้ ทว่าชาครก็เก่งจริงอย่างที่ธามคุยไว้ ชายหนุ่มช่วยพิชญ์เคลียร์งานต่าง ๆ ได้โดยที่พิชญ์แทบจะไม่ต้องเสียเวลาอธิบายสอนงานเลยด้วยซ้ำ

   
    “อืม...พอแค่นี้ก่อน พักได้แล้ว”

    พิชญ์ชะงัก เงยหน้าจากกองเอกสาร เมื่อผู้ช่วยคนใหม่วางงานในมือลง แล้วจ้องมองเขาเงียบ ๆ ทำเอาพิชานที่กำลังยุ่งวุ่นวายกับงานเอกสารเช่นกัน ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ

    “ถ้านายขี้เกียจทำต่อ ก็พักไปสิ ส่วนฉันจะทำต่ออีกสักหน่อย”

    พิชญ์บอกอย่างไม่ใส่ใจ แต่ก็ต้องอุทานเบา ๆ อย่างตกใจ เมื่ออีกฝ่ายมาดึงเอกสารตรงหน้าเขาไป

    “นาย!”

    “ที่ให้พักนั่นหมายถึงตัวนายต่างหาก มียาที่ต้องกินกลางวันด้วยใช่ไหม กินก่อนหรือหลังอาหาร เอามาดูซิ”

    พิชญ์ขมวดคิ้วยุ่ง แล้วทำเป็นไม่สนใจ ชาครจึงหันไปทางพิชานแทน

    “ถุงยาหมอนี่อยู่ไหน ไปหยิบมาหน่อย ...ส่วนนายถ้าไม่กินยาให้ตรงเวลา ฉันจะไปปลุกท่านวิรัลที่กำลังหลับพักผ่อนอยู่มาบังคับให้นายกินยาแทน ดีไหม”

    คำขู่ที่เหมือนจะเอาจริงของชาครทำให้พิชญ์กัดฟันกรอด เขารับถุงยาจากพิชานที่ไปหยิบมาให้ เพราะกลัวสายตาชาคร และเป็นห่วงพิชญ์เช่นเดียวกัน

    “ไหน... มียาก่อนอาหารด้วยนี่ไง ...กินซะ หรือต้องป้อนให้ด้วย”

    ชาครดึงถุงยาไปดูเอง ทำให้พิชญ์ยิ่งหมั่นไส้เข้าไปใหญ่ เขาหยิบถุงยาคืนมา แล้วรับน้ำที่พิชานรินมาให้ ก่อนจะจัดการยาก่อนอาหารของตนให้เรียบร้อย

    “สักสิบห้านาที ค่อยไปทานข้าว ...โหมงานให้เสร็จ แล้วล้มป่วยต่อมันไม่คุ้มหรอก โดยเฉพาะเวลาที่เผ่ากำลังอยู่ในสภาวะไม่มั่นคงอย่างนี้...ถึงนายจะไม่ยอมรับ แต่ทุกคนและตัวนายก็น่าจะรู้ดีว่า เสาหลักที่แท้จริงของเผ่าตอนนี้คือใคร ใช่ไหม”

    พิชญ์เงยหน้าสบตากับอีกฝ่าย แล้วสบถเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยตามมา

    “แต่อีกไม่นาน ท่านวิรัลก็จะปกครองเผ่าอย่างสง่าผ่าเผย ...ฉันมั่นใจ”

    “ถ้าได้ท่านธามช่วยฝึกในส่วนความเข้มแข็งก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ฉันคิดว่าระยะเวลาก็คงอีกหลายปี... ที่สำคัญ เพราะการตัดสินใจของนายในเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น ...มันอาจจะนำมาสู่การเปลี่ยนอำนาจในมือของท่านวิรัลไม่ใช่หรือ”

    ท้ายประโยคชาครเสียงแผ่วลง ใบหน้าก็ขรึมขึ้น 

    “...ต่อให้มีการเปลี่ยนฝ่ายตระกูลผู้ครองตำแหน่งประมุข ...แต่ตระกูลวงศ์หริโณ ของพวกเรา ก็จะต้องครองตำแหน่งผู้นำทางเศรษฐกิจของเผ่าให้จงได้...  เพื่อการนั้น ฉันเองต้องทำงานให้หนักขึ้นเป็นเท่าตัว เพื่อที่จะคานอำนาจของตระกูลของเรากับตระกูลใหญ่ตระกูลอื่นในเผ่า ไม่ให้มันเปลี่ยนแปลงหรือสั่นคลอนลง”

    ชาครมองคนพูดนิ่ง ก่อนจะแย้มยิ้มอ่อนโยนแปลกตาส่งให้อีกฝ่าย

    “ฉันเคยแอบคิดนะว่านายทำทุกอย่างเพื่อเผ่า...มาตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่นายทำนั้นเพื่อท่านวิรัลเพียงคนเดียว ...โชคดีนะ ที่นายไม่ได้พิศวาสเขาแบบคนรัก ไม่อย่างนั้นเจ้านายของฉันคงแพ้และอกหักไม่เป็นท่าแน่”

    พิชญ์ชะงัก ก่อนจะเมินไม่ใส่ใจคำพูดของอีกฝ่าย ตอนนี้พิชานขอตัวไปเตรียมมื้อกลางวันให้ทั้งสองคน ในห้องจึงเหลือเพียงแต่ชาครและพิชญ์เท่านั้น

    “สำหรับฉัน ทั้งมโค และท่านวิรัล รวมถึงตระกูลวงศ์หริโณนั้น ก็สำคัญเท่า ๆ กันนั่นล่ะ!”

    พิชญ์แก้ตัว แต่ก็ได้ยินเสียงหัวเราะจากคนที่อยู่ด้วย

    “แน่ใจหรือ ...นายเหมือนพวกพี่เลี้ยงที่ติดเจ้านายเอามาก ๆ  ถ้าให้เดา นายเป็นลูกคนเดียวใช่ไหม แล้วรับตำแหน่งพี่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กนั่น...ท่านวิรัลเกิดเลยล่ะสิ”

    ชาครเปรยขึ้นยิ้ม ๆ ซึ่งคนที่ถูกอ่านออกก็ชะงัก แล้วแสร้งทำเป็นเมินไปอีกทางจนคนมองนึกขำ

    “จริงสิ...นายจะไปหาพ่อของคุณม่านฟ้า กับท่านวิรัลในเย็นนี้สินะ”

    “แล้วมีอะไร อย่าบอกนะว่าจะตามไปด้วยน่ะ ไม่มีทาง”

    พิชญ์ตอบกลับอย่างเย็นชา ทว่าคนฟังกลับไม่ได้นึกโกรธเลยแม้แต่น้อย

    “หึ ๆ รู้หรอกน่า ถึงจะยอมให้ไป ก็ไม่ไปหรอก เดี๋ยวจะโดนสั่งเก็บเสียก่อน ไปทำให้พรรคพวกของเขาต้องตายตั้งมากมาย ถึงแม้จะไม่ได้ฆ่าโดยตรง แต่ก็เป็นสาเหตุอยู่ดี ญาติพี่น้องทางนั้นก็คงไม่สบอารมณ์นักหรอก”

    พิชญ์ชะงัก แล้วนึกเป็นห่วงเรื่องของวิรัลขึ้นมา นี่ถ้าคนของม่านฟ้าที่รอดชีวิต ไปเล่าให้ญาติพี่น้องของผู้ตายรู้ว่า ศัตรูเป็นพวกวกะที่ตามล่าธามมาอีกที และธามนั้นยังเป็นชู้รักของวิรัล  เขาเกรงว่าผู้เป็นนายของเขา คงจะถูกนินทาและเรื่องราวอาจจะล่วงรู้ไปถึงนายหญิงย่าของวิรัลก็เป็นได้

    “...ถ้าตกลงกันได้ ก็ให้ทางนั้นเขาปิดปากให้เงียบ ๆ เสียล่ะ เรื่องขัดใจกันก็คงมี แต่อย่าลืมบอกพวกนั้นย้ำ ๆ ถึงภัยนอกเผ่าด้วย ...ตอนนี้ไม่ได้มีแค่วกะเท่านั้น  ศัตรูเผ่าอื่น ๆ ที่เล็งมฤคมาศ ก็มีอีกมากมาย ...รวมไปถึงพวกที่คิดจ้องแต่จะทำลายเผ่าอื่นโดยไม่สนอะไรนั่นอีกด้วย”

    พิชญ์นิ่งเงียบรับฟัง แม้จะไม่ค่อยสบอารมณ์ที่ถูกสั่งสอน แต่ความคิดของชาครนั้นก็ถือว่าเข้าท่าอยู่   ยิ่งถ้าม่านฟ้าถอนหมั้นกับวิรัลแล้ว ประกอบกับเรื่องเหตุการณ์ที่รีสอร์ท ก็อาจจะก่อให้เกิดมโคที่กระด้างกระเดื่องและไม่พอใจในตัววิรัลก็เป็นได้

    “ฉันจะพูดกับทางนั้นเอง...  มีอะไร มองแบบนั้นทำไม!”

    ท้ายประโยคพิชญ์ถามเสียงห้วน นึกไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นแววตายิ้ม ๆ นั้นมองมายังที่ตนนิ่ง

    “หือ...ไม่มีอะไรหรอก”

    ชาครตัดบท แล้วจึงเหลือบมองดูเวลาที่นาฬิกาตั้งโต๊ะของอีกฝ่าย

    “ใกล้เวลาแล้ว ไปกินข้าวกัน หรือจะให้ยกมาให้ที่นี่ล่ะ เดี๋ยวฉันจะได้ยกมาให้”

    พิชญ์ชะงัก ก่อนจะสะบัดหน้านิด ๆ ให้อย่างหมั่นไส้

    “ฉันเดินเองได้ เป็นแค่นี้ไม่ถึงตายสักหน่อย”

    “หึ ๆ ร่างกายฟื้นตัวไวสินะ...แต่ฉันว่าความดื้อมันชนะอาการบาดเจ็บของร่างกายมากกว่า”

    พิชญ์กัดฟันกรอด อย่างหงุดหงิด แต่ก็ทำเป็นตีหน้าเมินเฉย เพราะไม่ว่าจะเถียงอะไรออกไป ก็ดูเหมือนจะถูกชาครตอกกลับมาเสียอยู่ตลอด

    ทางด้านชาครนั้นอมยิ้มน้อย ๆ ชายหนุ่มเดินนำไปก่อนที่ห้องอาหาร สักพักพิชญ์จึงเดินตามไล่หลังมา พวกเขาทานอาหารกันอยู่ครู่ใหญ่ พิชญ์ก็ถูกเซ้าซี้ถามถึงยาหลังอาหารต่อทันที

     และหลังจากนั้นทั้งวัน ชาครก็มีหน้าที่ควบคุมดูแลการทานยาของมโคหนุ่ม โดยพิชานที่เป็นลูกน้องคนสนิทของพิชญ์แม้จะไม่ค่อยเข้าใจนัก ว่าเหตุใดชาครจึงต้องมาคอยดูแลเจ้านายของเขาเป็นพิเศษ แต่ชายหนุ่มก็ค่อนข้างโล่งใจ เพราะบทจะบ้างานขึ้นมา เขาก็แย้งหรือห้ามอะไรพิชญ์แทบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

   

    อีกด้านหนึ่ง ทางตรัณได้รับการแจ้งล่วงหน้า เรื่องที่ว่าที่ประมุขของเผ่ามโคอย่างวิรัลจะมาเยือนตนถึงที่พัก  แม้พอจะคาดเดาได้บ้างว่า วิรัลนั้นมาหาเขาเพราะเรื่องการโจมตีจากพวกวกะที่ผ่านมา แต่เมื่อได้รับฟังจากปากของอีกฝ่ายถึงเรื่องขอถอนหมั้นกับม่านฟ้า เขาก็ต้องนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ ก่อนจะย้อนถามกลับเสียงเรียบ

    “ลูกสาวฉันทำอะไรให้เธอขุ่นเคืองใจงั้นรึ... ถ้าใช่ ฉันจะให้เขามาขอขมากับเธอเดี๋ยวนี้”

    “ไม่ใช่นะครับ! คุณม่านฟ้าดีต่อผมมาก แถมยังเสี่ยงชีวิตตัวเองป้องกันผมอีกด้วย!”

    วิรัลรีบแย้ง ก่อนจะชะงักเมื่อแววตาคมกริบของผู้สูงวัยจ้องมายังเขา พิชญ์ที่อยู่ข้าง ๆ อยากจะแย้งขึ้นแทน แต่ก็จำต้องเงียบไป เพราะหากเขาเป็นฝ่ายพูด เขาคิดว่าตรัณคงจะไม่ยอมรับเท่าวิรัลเป็นฝ่ายออกปากเป็นแน่

    “คือ...คุณม่านฟ้าเป็นผู้หญิงที่ดี ...ดีมากจนผมทนเห็นแก่ตัว ดึงเธอมาเกี่ยวข้องไม่ได้...”

    วิรัลพึมพำเสียงแผ่ว ก่อนจะเม้มปากน้อย ๆ แล้วหันหน้ากลับมาสบสายตากับคนตรงหน้าอีกครั้ง

    “ผมมีคนรักแล้วครับ ...รักมาก และไม่คิดจะรักคนอื่นอีก...รักจนต่อให้ต้องทิ้งตำแหน่งประมุข ทิ้งเผ่า ผมก็ยอม... ขอแค่ได้อยู่เคียงข้างเขาก็พอ”

    พิชญ์ชะงัก เขาเหลือบมองนายน้อยของตน แล้วก็ต้องรู้ว่าวิรัลไม่ได้พูดเสแสร้งให้ตรัณใจอ่อนแต่อย่างใด ชายหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ แต่เขาก็ไม่ได้ค้านอะไรไป ในเมื่อเขาเลือกแล้วที่จะทำให้วิรัลมีความสุข แม้ว่าความสุขของวิรัล จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนอำนาจในมือของเด็กหนุ่มก็ตาม

    “เรื่องนี้ฉันเองก็รู้ดี ม่านฟ้าก็รู้ดี ...และฉันเชื่อว่าลูกสาวของฉันจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องความรักส่วนตัวของเธอ  ม่านฟ้าจะเป็นเพียงแค่ภรรยาของประมุข และมีหน้าที่ให้กำเนิดบุตรที่จะมาเป็นมฤคมาศสืบต่อไปก็เท่านั้น”

    ตรัณเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง จนวิรัลชะงัก ทว่าสักพักเด็กหนุ่มก็ต้องโต้แย้งกลับไปอย่างโมโห

    “คุณจะเห็นแก่ตัว จนไม่สนใจความรู้สึกของลูกสาวตัวเองเลยหรือครับ หรือว่าสำหรับคุณ ลูกก็เป็นแค่เครื่องมือก้าวสู่ความเป็นใหญ่และอำนาจเท่านั้น!”

    พิชญ์สะดุ้งเฮือกเมื่อวิรัลต่อว่าตรัณอย่างรุนแรง ชายหนุ่มดึงแขนเสื้อของเด็กหนุ่มให้ยับยั้งสติอารมณ์ลง ทว่าตรัณนั้นกลับหัวเราะเบา ๆ และเปรยตอบเสียก่อน

    “หึ ๆ น่าดีใจแทนม่านฟ้านะ ที่เธอโมโหเพื่อเขาขนาดนี้ ...แต่เธอน่าจะเข้าใจนะวิรัล ในฐานะผู้นำตระกูล ก็ต้องทิ้งอารมณ์ส่วนตัวเพื่อคนส่วนรวม ...ถ้ามีแค่ฉันกับม่านฟ้า ฉันก็คงเลือกความสุขของลูกสาวเป็นหลัก...แต่นี่มันเกี่ยวพันกับคนเป็นร้อยชีวิตในปกครองของฉัน ...เธอคิดว่าด้วยฐานะอย่างฉัน ฉันจะเห็นแก่ความสุขส่วนตัว แล้วปล่อยให้ตระกูลเราตกต่ำลงอย่างนั้นหรือ ...ในโลกของผู้ใหญ่มันมีอะไรหลายอย่างที่เด็กอย่างเธอคาดไม่ถึงเชียวล่ะ และนั่นก็ทำให้มีบางคนต้องยอมถูกคนอื่นตราหน้าว่าเห็นแก่ตัว โดยไม่คิดโต้แย้งล่ะนะ”

    วิรัลนิ่งอึ้ง เมื่อได้ฟังคำพูดของอีกฝ่าย เขาเงียบไปสักพัก ก่อนจะพึมพำคำขอโทษออกมา เพราะเข้าใจในจุดที่ตรัณต้องการจะอธิบายดี เนื่องจากเขาเองก็ถูกผู้เป็นย่าปลูกฝังว่าให้ทำเพื่อตระกูลและคนในตระกูลตลอดมาเช่นเดียวกัน แต่ว่าเขาเองก็ตัดสินใจแล้ว ว่าจะทำให้เรื่องนี้จบลงด้วยดีให้จงได้

    “ถ้าอำนาจ ความมั่นคง เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับตระกูลของคุณ...ถ้าอย่างนั้นก็ให้คุณม่านฟ้าแต่งงานกับคนที่ตนรักสิครับ...และวันใดหากคุณม่านฟ้าให้กำเนิดมฤคมาศขึ้นมา  ผมยินดีจะถอนตัวจากตำแหน่งประมุข และมอบตำแหน่งให้ทายาทของพงศ์พิสุทธิ์สืบทอดแทนทันที!”

    ตรัณชะงักเช่นเดียวกับพิชญ์ ทว่าพิชญ์นั้นพอจะคาดเดาได้อยู่แล้วถึงการตัดสินใจของนายน้อยที่เขาดูแลมาเป็นอย่างดี ชายหนุ่มนิ่งเงียบและจ้องมองตรัณอย่างรอคอยคำตอบ  ซึ่งทางมโคสูงวัยก็นิ่งเงียบไปพักใหญ่ก่อนจะถอนหายใจยาวออกมา

    “เธอกำลังทำให้ฉันลังเลนะวิรัล ... แต่ถ้าฉันตกลง แล้วตระกูลของเธอล่ะ พวกเขาที่อยู่ภายใต้อาณัติของเธอจะยอมรับได้หรือ”

    วิรัลชะงัก ทว่าก็ต้องอุ่นใจเมื่อพิชญ์กุมมือของเขา แล้วส่งยิ้มให้ ก่อนที่ชายหนุ่มจะเป็นฝ่ายตอบคำถามนั้นแทน

    “เรื่องตระกูลของเรา ทางเราจะจัดการกันเอง ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ...”

    ตรัณหันไปมองทางพิชญ์ และเมื่อเห็นแววตาเด็ดเดี่ยวของอีกฝ่าย เขาก็จำต้องถอนหายใจยาวออกมาอีกครั้ง

    “เฮ้อ...พวกเธอทำให้ฉันลำบากใจเหลือเกินรู้ไหม ...จริงอยู่เรื่องเปลี่ยนขั้วอำนาจของตระกูล มันทำให้ฉันและเชื่อว่าอีกหลายคนในตระกูลพงศ์พิสุทธิ์พอใจ แต่ก็นั่นล่ะ ฉันเสียดาย ทั้งตัวเธอ และความสามารถของลูกน้องเธอเหลือเกิน...”

    พิชญ์ยิ้มน้อย ๆ เมื่อเห็นตรัณมองมาที่เขา

    “แสดงว่าท่านยอมรับข้อตกลงเรื่องนี้สินะครับ!”

    วิรัลแทรกขัดขึ้นด้วยใบหน้ายินดี ซึ่งตรัณก็หันมาทางเด็กหนุ่มแล้วยิ้มน้อย ๆ

    “หึ ๆ ฉันจะต่อต้านอะไรได้ เธอเองก็เป็นถึงว่าที่ประมุขของเผ่า เอาจริง ๆ หลังจากเธอรับตำแหน่ง เธอจะออกคำสั่งเด็ดขาดให้ยกเลิกการหมั้น ก็ทำได้ และอาจจะไม่ต้องเสียผลประโยชน์มากขนาดนี้ด้วยก็ได้...จริงสิ แบบหลังนี่คงจะดีกว่าไม่ใช่หรือ”   

    ตรัณเอ่ยในสิ่งที่ทำให้คนฟังชะงัก ก่อนที่ใบหน้าอ่อนเยาว์นั้นจะแย้มยิ้มตามมา

    “ไม่หรอกครับ ...ถึงจะเป็นผลดีต่อตระกูลของผม แต่ผมก็ไม่มีทางเลือกใช้วิธีขี้ขลาดแบบนั้นแน่นอน ...คุณม่านฟ้าเอง เพื่อตระกูล เธอยอมสละแม้ความสุขส่วนตัว  ผมทำร้ายผู้หญิงดี ๆ แบบนั้นไม่ได้หรอกครับ ...และเรื่องยกเลิกการหมั้นครั้งนี้ ผมอยากให้ทางท่านบอกทุกคนว่า เพราะผมเป็นฝ่ายผิดสัญญา ท่านและคุณม่านฟ้าจึงถอนหมั้น และผมยินดีชดเชยด้วยทรัพย์สมบัติส่วนหนึ่ง รวมไปถึงหนังสือสัญญาเรื่องมอบอำนาจประมุขให้ทายาทที่เป็นมฤคมาศของตระกูลพงศ์พิสุทธิ์ด้วย”

    วิรัลตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้ม เช่นเดียวกับพิชญ์ที่ยิ้มน้อย ๆ อย่างพึงพอใจในคำตอบของเจ้านายเขา  ส่วนตรัณมองเด็กหนุ่มตรงหน้า แล้วจึงสั่นศีรษะไปมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ

    “เธอยิ่งทำให้ฉันเสียดายตัวเธอมากขึ้นนะ....ไม่ใช่เพราะความเป็นมฤคมาศ แต่ในฐานะพ่อของลูกสาวคนหนึ่ง ที่ฉันมั่นใจว่า หากเธอได้ม่านฟ้าไปแล้ว คงจะดูแลและมอบความรักให้ลูกสาวของฉันเป็นอย่างดีเป็นแน่”

    วิรัลยิ้มตอบอีกฝ่าย พร้อมกับเอ่ยออกไป

    “ถ้าหัวใจผมยังว่างอยู่ ก็คงจะเป็นเช่นนั้นได้โดยไม่ยากหรอกครับ ...แต่ผมเชื่อมั่นนะครับ ว่าคนที่คุณม่านฟ้าเลือก เขาก็พร้อมจะรัก และดูแลปกป้องคุณม่านฟ้าด้วยชีวิตเช่นเดียวกัน ...และเขาก็แสดงออกเช่นนั้นให้ผมและคุณม่านฟ้าได้เห็นมากับตาแล้วด้วย”

    ตรัณนิ่งอึ้ง แล้วจึงย้อนกลับไปอย่างลังเลนิด ๆ

    “เธอจะบอกฉันว่าม่านฟ้ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว และนั่นก็คือ อำมฤต อย่างนั้นหรือ”

    วิรัลพยักหน้าตอบรับ และนั่นก็ทำให้ตรัณถอนหายใจออกมาอีกครั้ง

    “ให้ตายเถอะ...คนใกล้ตัวขนาดนี้เชียวหรือ  เฮ้อ! ลำพังอำมฤตคงไม่ได้คิดอะไร แต่ลูกสาวฉันนี่สิ... เด็กคนนั้นเก็บงำความรู้สึกตัวเอง ได้เก่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ”

    ตรัณพึมพำอย่างนึกสงสารบุตรี  ถ้าม่านฟ้าไม่มีคนที่รักมาก ๆ เขาก็เชื่อมั่นว่าเธอจะรักวิรัลได้ไม่ยาก แต่ในเมื่อเหตุการณ์มันเป็นเช่นนี้ เขาก็คงต้องเลือกยอมรับเงื่อนไขที่วิรัลเสนออย่างช่วยไม่ได้เสียแล้ว

    “ก็ได้ ฉันตกลง ...ซึ่งฉันก็หวังว่า หลังประกาศออกไปเป็นทางการแล้ว ท่านย่าของเธอคงไม่รีบแล่นมาเล่นงานฉันหรอกนะ”

    วิรัลชะงักเช่นเดียวกับพิชญ์ พวกเขาคิดจะแก้ปัญหาทางด้านตรัณก่อน จนลืมคิดไปว่า ยังมีปัญหาใหญ่อีกปัญหารอคอยอยู่เบื้องหลัง

    “...สำหรับท่านย่า ผมจะเป็นฝ่ายเจรจากับท่านเองครับ”

    วิรัลบอกด้วยสีหน้าหนักแน่น และแววตาจริงจัง จนตรัณต้องอมยิ้มนิด ๆ แล้วพยักหน้ารับรู้ จากนั้นพิชญ์ก็พูดคุยถึงปัญหาเรื่องธามและชาครกับตรัณต่อ ซึ่งผู้นำตระกูลพงศ์พิสุทธิ์ก็เข้าใจเรื่องนี้ดี และให้คำมั่นว่าจะกำชับคนในตระกูลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ให้เผยแพร่เรื่องนี้ออกไปให้ตระกูลอื่นได้รับรู้เป็นแน่



    เมื่ออำลาตรัณและตรงกลับมายังคฤหาสน์มฤคมาศของตน วิรัลก็ต้องใจหายเมื่อพบว่าธามกับชาครนั้นไม่อยู่ที่นั่นเสียแล้ว

    “พวกเขาไปไหน...เขาบอกไว้ไหม”

    วิรัลถามน้ำเสียงเบาหวิว ตัวสั่น หน้าซีด จนพิชญ์สงสารและดึงร่างโปร่งมากอดปลอบแน่น พลางรอคำตอบจากพิชาน

    “ง่า...ทั้งคู่บอกว่าขอตัวไปจัดการธุระสำคัญ และให้สัญญาว่าจะกลับมาหากเสร็จธุระเรียบร้อยแล้วครับ ...นี่ครับท่านวิรัล จดหมายที่คุณธามฝากเอาไว้มอบให้เมื่อท่านกลับมา”

    วิรัลรับมาเปิดอ่านทันที ก่อนจะใจชื้นขึ้นเมื่อเห็นข้อความในนั้น

    ‘ขอโทษนะวิรัลที่รัก ที่ไม่ได้อยู่บอกเธอก่อน แต่ฉันคิดว่า ฉันคงต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยด้วยตัวเอง ...ฉันสัญญานะ ว่าฉันจะกลับมาหาเธอแน่ รอฉันก่อนนะ ...จาก ธาม’

    “เขาว่ายังไงครับท่านวิรัล”

    พิชญ์ถามอย่างเป็นห่วง แต่ก็รู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นนายน้อยของเขามีรอยยิ้มอีกครั้ง

    “เขาบอกว่ามีธุระสำคัญที่ต้องจัดการ และจะกลับมาแน่นอน”

    พิชญ์ขมวดคิ้วยุ่ง และขออนุญาตอ่านจดหมายฉบับนั้นบ้าง ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ

    “ธุระหรือจุดหมายปลายทางคืออะไรก็ไม่รู้จักบอกกล่าว  ทำให้ชาวบ้านเป็นห่วงแบบนี้ เห็นทีพอกลับมาคงต้องบ่นกันสักหน่อยแล้ว!”

    วิรัลหัวเราะเบา ๆ เมื่อได้ยินคำพูดของพี่เลี้ยงหนุ่ม  สำหรับเขาแล้ว หลังจากได้อ่านจดหมายฉบับนี้ แม้จะเป็นห่วงอยู่บ้าง แต่เขาก็ยังคงเชื่อมั่นกับคำสัญญาของคนรัก และจะตั้งใจรอคอยให้ธามกลับมา เหมือนอย่างที่อีกฝ่ายบอกกับเขาเอาไว้ในจดหมายอย่างแน่นอน


... TBC ...




ออฟไลน์ mro

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
ขอให้ทุกอย่างราบรื่นเถอะะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
ธามไปทำอะไรกันนะนั่น แล้ววิรัลกับพิชญ์จะคุยกับย่าวิรัลได้เรื่องไหมเนี่ย

ออฟไลน์ CheetahYG

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
อาหัวหมูมาเซ่นคนเเต่ง :oni1: :oni1:  ขอไห้ธามกลับมาเจอวิรัลอย่างปลอดภัยด้วยเถอะ สาตุ๊  :z3: :z3:                                          ปล.อยากอ่านคู่พิญช์กับชาคร อ๊าาาา  (คนแต่ง : ห๊ะ!!!!!  o22 o22 o22)

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
โล่งใจที่เคลียร์กับตระกูลของม่านฟ้าได้ ลดปัญหาหญ่ไปได้อีกหนึ่งแล้ว
เหลือคุยกับย่าสินะ ขอห้คุยกันรู้เรื่องทีเถอะ

คุณปัทเอาชนะให้ได้นะคะ อยากเจอพิชญ์บ่อยๆ (ไม่ค่อยเลย==)

ออฟไลน์ everlastingly

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
:pig4: ดีนะที่ท่านตรัณพ่อของม่านฟ้าเข้าใจเรื่องความรักและเรื่องอื่นๆ ได้ง่ายๆ ไม่งั้นคงลำบากแน่
คนอ่านคาดว่าธามกับชาครเดินทางกลับไปเผ่าแน่นอน แต่ขอให้กลับมาอย่างปลอดภัยก็แล้วกัน :กอด1:

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
ปัญหารุมเร้า ขอให้แก้ไขมันได้ราบรื่นท ตลอดไปด้วยเถอะ อย่ามีอุปสรรคอะไรมาเพิ่มเลยเพราะแค่นี้ก็มากพออยู่แล้ว

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
แต่ปัญหาก็ยังมีอยู่อีกเยอะละนะวิรัลธาม

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
มาแปะแล้วจ้า (พยายามปั่นหูตูบแก้ตัวจากที่ดองนานไปนิด แหะ ๆ)  จากตอนที่แล้ว ที่พวกธามหายไป  ตอนนี้จะเฉลยว่าพี่ท่านหายไปไหน ....มีใครเดาถูกบ้างเอ่ย

สุขสันต์วันปีใหม่และวันเด็กย้อนหลังค่ะ
:L2:


/ 18



    วิรัลยืนเหม่อลอยนอกระเบียงพลางกอดอกค่อย ๆ เมื่อสายลมเย็นพัดผ่านผิวกายภายใต้ผ้าบางของชุดนอน เด็กหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อผ้าคลุมไหล่ผืนใหญ่ถูกนำมาคลุมให้เขาจากด้านหลัง

   “พิชญ์หรอกหรือ...มาเมื่อไหร่น่ะ ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าเลย”

   “เพราะท่านเอาแต่คิดถึงคนที่ไม่อยู่ที่นี่ จึงไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของผมน่ะสิครับ...ดึกแล้วนะครับ เขาคงยังไม่กลับมาในคืนนี้หรอก”

   พิชญ์เอ่ยกับอีกฝ่าย ซึ่งวิรัลก็ยิ้มน้อย ๆ ให้ แล้วจึงเหม่อมองไปยังความมืดเบื้องหน้าอีกครั้ง

   “มันนอนไม่หลับน่ะพิชญ์ ...น่าแปลกนะ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นอยู่คนเดียวมาตลอด ฉันก็อยู่ได้แท้ ๆ ...แต่ตอนนี้แค่เขาห่างกายไปไม่กี่ชั่วโมง ฉันกลับรู้สึกว่ามันนานนับเดือน นับปีด้วยซ้ำ ...อ่อนแอจริง ๆ เลยฉัน ถ้าคุณธามรู้ จะต้องเบื่อฉันแน่ ๆ”

   พิชญ์ถอนหายใจเบา ๆ เขาประคองกอดนายน้อยของตนอย่างเอ็นดูและทะนุถนอม ก่อนจะตอบกลับไป

   “ผมว่าคนนั้นหากรู้ว่าคุณคิดยังไงกับเขา จะได้ใจยิ่งขึ้นมากกว่าต่างหากล่ะครับ ...อย่าเผลอไปพูดต่อหน้าเขาเข้าล่ะครับ เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่เตือน”

   พิชญ์ยิ้มติดเจ้าเล่ห์นิด ๆ ทำให้คนที่หันมามองหน้าแดงด้วยความเขิน จากนั้นเจ้าตัวจึงถอนหายใจเบา ๆ และตัดสินใจเข้าไปพักผ่อนตามที่พี่เลี้ยงคนสนิทขอร้องเอาไว้

   “ดีแล้วล่ะครับ ...ถ้าพรุ่งนี้เขายังไม่กลับมาอีก เดี๋ยวผมจะตามเรื่องให้เอง เพราะฉะนั้น คืนนี้ก็หลับให้สบาย ไม่ต้องกังวลอะไรนะครับ”

   พิชญ์บอกกับคนที่เอนกายลงบนเตียงนอน วิรัลพึมพำขอบคุณพิชญ์เบา ๆ และเมื่อเห็นว่าวิรัลเข้านอนดีแล้ว ชายหนุ่มจึงเดินออกจากห้อง ลงไปห้องทำงานของตน แล้วตัดสินใจหยิบมือถือโทรออกมาหาใครคนหนึ่ง

   “ไง... โทรมาดึก ๆ ดื่น ๆ แบบนี้ คิดถึงกันมากหรือไง”

   ปลายสายถามอย่างอารมณ์ดี แต่ทำให้คนฟังขมวดคิ้วยุ่งอย่างหงุดหงิด

   “อยากโดนต่อยปากหรือไง! นายกับเจ้านายของนายน่ะ มีเรื่องต้องชี้แจงฉันกับท่านวิรัล มากกว่าจะพูดเรื่องงี่เง่าพวกนี้ไม่ใช่หรือ!”

   เสียงหัวเราะดังขึ้นจากปลายสายเบา ๆ จากนั้นชาครจึงเอ่ยตามมา

   “ถ้าอย่างนั้นคงต้องไปถามเหตุผลจากท่านธามเอาเอง แต่ตอนนี้ท่านไม่ว่าง มีธุระสำคัญต้องจัดการอยู่”

   พิชญ์ทำเสียงจิ๊จ๊ะอย่างหงุดหงิดปนหมั่นไส้มากขึ้น แต่เพราะอยากรู้เหตุผลและสถานที่ซึ่งชาครและธามอยู่ ชายหนุ่มจึงพยายามสงบสติอารมณ์ แล้วถามกลับไปอีกครั้ง

   “แล้วตอนนี้พวกนายอยู่ที่ไหน และจะกลับเมื่อไหร่”

   “....อืม ก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกรุงเทพฯ เท่าไหร่  ส่วนจะกลับตอนไหนก็คงให้ท่านธามเสร็จธุระที่นี่ก่อนนั่นล่ะ ...แต่เท่าที่ดูอาจจะได้อยู่ยาวสักนิด เพราะคนคนนั้น ค่อนข้างใจแข็งอยู่พอสมควรล่ะนะ...เผลอ ๆ จะโดนตลบหลัง จับพวกเราขังที่นี่ ไม่ก็ถูกฆ่าปิดปากก่อนจะได้กลับกรุงเทพฯ ก็ได้ ...อืม มีส่วนทีเดียว”

   ชาครพึมพำด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนไม่ทุกข์ร้อน ทว่าคำพูดที่ได้ยินกลับทำให้พิชญ์ตาเบิกกว้าง

   “พวกนายอยู่ทีไหนกันแน่! อุ๊บ...”

   คนที่ตกใจจนลืมตัวลุกพรวดพราดถาม และต้องทรุดลงไปนั่งบนเก้าอี้ด้วยความเจ็บปวดจากอาการบาดเจ็บเดิม ทำให้ปลายสายชะงักแล้วเอ่ยกลับเสียงขรึม

   “ระวังตัวหน่อยสิ ...นายบาดเจ็บอยู่นะ แล้วนี่กินยาหลังอาหารมื้อเย็นหรือยัง  ไหนจะยาก่อนนอนอีกล่ะ”

   “เลิกบ่นเป็นพ่อฉันสักทีเหอะ! บอกมาเดี๋ยวนี้เลย ว่าพวกนายอยู่ไหน แล้วกำลังลำบากอยู่ใช่ไหม!”

   ชาครอมยิ้ม เขาเหลือบมองประตูห้องเบื้องหน้า คาดว่าคนข้างในนั่น คงได้ยินที่เขาสนทนากับพิชญ์บ้างไม่มากก็น้อย เพราะที่นี่ค่อนข้างเงียบสงบพอสมควร

   “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ต่อให้ต้องตาย ฉันก็ต้องปกป้องท่านธามให้กลับไปหาท่านวิรัลของนายให้ได้นั่นล่ะ”

   พิชญ์ชะงัก แล้วเงียบไปด้วยความเป็นห่วงมากยิ่งขึ้น

   “...อย่าทำเป็นพูดล้อเล่นเรื่องความเป็นความตายแบบนั้น พวกนายตัดสินใจอยู่ร่วมกับพวกเราเผ่ามโคแล้ว ...ฉันก็จะถือว่าพวกนายเป็นสมาชิกของเผ่าเหมือนกัน  ถ้าเกิดเรื่องอันตรายขึ้น ฉันก็ต้องไปช่วยให้ได้”

   คำพูดของพิชญ์ทำให้ชาครนิ่งอึ้ง ก่อนจะแย้มยิ้มอ่อนโยนออกมาน้อย ๆ

   “ขอบคุณ...ฉันแค่พูดเล่นน่ะ  ฉันคิดว่าคนที่นี่มีเกียรติและศักดิ์ศรีพอที่จะไม่ทำเรื่องลอบกัดแบบนั้นหรอก ...เพราะฉะนั้น ฉันกับท่านธาม จึงได้มาที่นี่กันเพียงลำพังสองคนยังไงล่ะ”

   ชาครพูดเสียงดังกว่าเดิมเล็กน้อย อย่างจงใจให้คนอื่นแถวนั้นได้ยินด้วย คำพูดที่ทำให้ธามซึ่งอยู่ในห้องอมยิ้ม และคนตรงหน้าเขาชะงักให้เห็น

   “นายไม่ต้องเป็นห่วงไป ฝากบอกท่านวิรัลด้วย ว่าท่านธามจะกลับไปหาแน่นอน ...แค่นี้ล่ะ แล้วอย่าลืมกินยาก่อนนอนด้วยนะ”

   ชาครตัดบทแล้วปิดมือถือของตน ทำให้พิชญ์ที่พยายามติดต่อเป็นห่วง เพราะลองโทรเข้ามือถือธามก็เป็นเช่นเดียวกัน

   “เจ้าหมาป่าบ้า...ไปอยู่ไหนกันแน่นะ”

   พิชญ์พึมพำกับตัวเองด้วยความกังวลแกมหงุดหงิด เขาไม่คิดว่าทั้งคู่จะกลับไปยังเผ่าวกะในสถานการณ์เช่นนี้  แต่นอกจากเผ่าวกะแล้ว สถานที่อันตรายสำหรับทั้งคู่ก็ไม่น่าจะมีอีก ยกเว้นเผ่าที่เป็นศัตรูกันเท่านั้น

   “อ๊ะ! หรือว่าพวกนั้นจะ...”

   คิดมาได้ถึงตอนนี้พิชญ์ก็หน้าซีดเผือด กับความเป็นไปได้ที่น่าเป็นห่วง เขาเม้มปากน้อย ๆ แล้วตัดสินใจเดินกลับขึ้นไปบนชั้นสอง และปลุกวิรัลขึ้นมา

   

   “มีอะไรหรือพิชญ์”

   วิรัลถามอย่างแปลกใจ เด็กหนุ่มนั้นยังไม่หลับ และกำลังนอนคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่เช่นกัน

   “ผมสงสัย ว่าทั้งสองคนนั้นจะไปที่...”

   ท้ายประโยคเจ้าตัวเสียงแผ่วลง แต่คนฟังก็ยังคงได้ยิน วิรัลตาเบิกกว้าง ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงสั่น

   “พิชญ์...สองคนนั่นจะปลอดภัยไหม...คนที่นั่นคงจะไม่ทำอะไรพวกเขาใช่ไหม...”

   “ผมเองก็ไม่มั่นใจครับ...ผมถึงได้มาบอกท่าน และจะชวนท่านไปที่นั่นด้วยกัน ...ถ้าผมแค่สังหรณ์ใจไปเองก็คงดี ...แต่ถ้าไม่ใช่ เราอาจจะออกหน้าช่วยพวกนั้นได้บ้าง...ผมหวังว่าอย่างนั้นนะครับ”

   พิชญ์ตอบอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก และไม่ต้องคิดนาน วิรัลก็ลุกพรวดขึ้น ก่อนจะตรงไปตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อผ้าออกมาเปลี่ยนทันที

   “ไปกันเถอะพิชญ์ ถ้าไม่มีอะไรจริง ๆ ก็ดีไป  แต่ถ้าเป็นอย่างที่นายสงสัย ขืนชักช้า อาจจะไม่ทันการก็ได้”

   วิรัลบอกด้วยแววตาเด็ดเดี่ยวหนักแน่น  พิชญ์พยักหน้ารับ แล้วขอตัวไปสั่งความพิชานให้ดูแลที่นี่ และหากธามกับชาครไม่ได้อยู่ในสถานที่ซึ่งเขาคิด และกลับมาก่อน ก็ให้ทั้งคู่รอคอยอยู่ที่คฤหาสน์อย่าไปไหนเด็ดขาด



   อีกด้านหนึ่ง คนที่กำลังถูกเป็นห่วง ยังคงนั่งคุกเข่านิ่งต่อหน้าหญิงชราในชุดเสื้อผ้าไหมทอราคาแพง เจ้าหล่อนนั่งพับเพียบเอนพิงหมอนอิง ข้างกายมีหญิงสาวในชุดไทยพื้นบ้านคอยปรนนิบัติอยู่ และทางเข้าออกประตูห้อง มีชายฉกรรจ์ในชุดไทยพื้นบ้านคอยดูแลเฝ้าอยู่เช่นเดียวกัน

   “ถึงขนาดดึงพิชญ์เป็นพรรคพวกได้...เธอและลูกน้องของเธอนี่ก็ร้ายกาจไม่ใช่ย่อยนะ”

   น้ำเสียงเรียบเฉยเปรยขึ้นอย่างยากจะจับความรู้สึก ธามโค้งศีรษะให้อีกฝ่ายนิด ๆ แล้วจึงเอ่ยตอบ

   “คงไม่ถึงกับเรียกว่าพรรคพวกได้เต็มปากหรอกครับ เพราะเขาก็เขม่นผมกับลูกน้องอยู่ออกบ่อย  แต่ผมคาดว่าเขาคงจะรับรู้ถึงความจริงใจที่ผมมีต่อวิรัล และเป็นห่วงในความรู้สึกของวิรัล จึงไม่คิดขัดขวางความรักของพวกเราทั้งคู่ที่มีต่อกัน”

   เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นมาจากร่างของหญิงชรา ใบหน้าสูงวัยที่ยังคงมีเค้าความงามในยามสาวแย้มยิ้มมุมปากนิด ๆ แล้วเอ่ยโต้กลับไป

   “งั้นถ้าฉันไม่เห็นด้วยกับความรักของพวกเธอ ก็ถือว่าฉันไม่ห่วงความรู้สึกของหลานตัวเองสินะ”

   ธามยิ้มที่มุมปาก แล้วจึงตอบกลับไปด้วยท่าทางไม่หวั่นไหว

   “ไม่ใช่เช่นนั้นหรอกครับ ผมเข้าใจดี ว่าการแสดงความรักของญาติผู้ใหญ่ บางทีมันก็มาพร้อมกับความเข้มงวด เพราะด้วยประสบการณ์ในการใช้ชีวิต ก็มักจะทำให้พวกเขามองการณ์ไกลกว่าที่เด็ก ๆ อย่างพวกเราเป็น”

   ปาลินี ย่าของวิรัลชะงักเล็กน้อย ก่อนจะแค่นยิ้มออกมา

   “รู้จักพูดนะ...แต่ถ้าคิดจะใช้คำยกยอปอปั้นไม่กี่คำ ทำให้ฉันเปลี่ยนใจแล้วล่ะก็  คงต้องบอกว่าเสียใจด้วย”

   ธามยิ้มน้อย ๆ ตอบ เขาเองก็พอจะรู้ว่า ย่าของวิรัลคงยอมรับเรื่องของเขาได้ยาก แต่เขาก็ยังคงไม่ยอมแพ้อยู่ดี

   “ผมก็คิดว่าแค่เพียงคำพูด คงจะไม่ทำให้ท่านยอมรับเรื่องของผมกับวิรัลง่าย ๆ แน่ ...เพราะฉะนั้นผมจึงมาพิสูจน์ตนเองให้ท่านเห็นว่า ผมนั้นจริงใจกับหลานชายของท่านเพียงใด”

   ปาลินีหรี่ตามองชายอ่อนวัยกว่าหล่อนหลายเท่าตรงหน้า ก่อนจะเปรยขึ้นอย่างช้า ๆ

   “ดี ...ในเมื่อเธอต้องการจะพิสูจน์ ฉันก็จะให้บททดสอบกับเธอ”

   หญิงชราเอ่ยขึ้นพร้อมกับปรายสายตาไปยังคนเฝ้าประตู ทั้งสองเมื่อเห็นเช่นนั้นก็โค้งรับ แล้วจึงเปิดประตูออก ทำให้ชาครที่รออยู่ด้านนอกแปลกใจ

   “เธอกับลูกน้องของเธอ ตามฉันออกไปรอที่ลานกว้างหน้าเรือนแห่งนี้ ...ถ้าพวกเธอสามารถรับมือคนของฉันได้เกินหนึ่งชั่วโมง โดยไม่โต้ตอบและทำร้ายคนของฉันให้บาดเจ็บ ...ฉันถึงจะยอมรับพวกเธอเข้าเผ่ามโค และยอมรับในความจริงใจที่เธอมีต่อหลานชายของฉัน”

   ชาครที่ได้ยินคำพูดนั้นกัดฟันกรอด การต้องรับมือนักสู้เผ่ามโค โดยที่โต้ตอบไม่ได้ ก็ไม่แตกต่างอะไรกับการเป็นเป้านิ่งยอมให้อีกฝ่ายรุมซ้อมเอานั่นเอง

   “แค่นั้นสินะครับ...แต่ถ้าคนของท่านเกิดพลาดพลั้งทำร้ายกันเองจนบาดเจ็บล่ะครับ จะถือว่าผิดกติกาไหม”

   ธามที่ยังคงยิ้มเย็นย้อนถามกลับไป ซึ่งนั่นก็ทำให้หญิงชราอึ้งไปชั่วครู่ ก่อนจะเหยียดยิ้มตามมานิด ๆ

   “ถ้าเธอสามารถทำได้เช่นนั้น ฉันก็จะถือว่าไม่ผิดกติกา ...แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่า ฉันไม่มีทางออมมือในการทดสอบแน่”

   ปาลินีเอ่ยตอบ พร้อมกับยันกายลุกขึ้นช้า ๆ อย่างสง่างาม เธอเดินผ่านธามไปที่ประตูแล้วจึงหันมาบอกชายหนุ่ม

   “ตามมาสิ...ทดสอบเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ ฉันจะได้พักผ่อนเสียที”

   ธามพยักหน้ารับรู้ แล้วยันกายลุกขึ้นเดินตามอีกฝ่าย ทางด้านชาครนั้นรอเจ้านายของตนมาสมทบ แล้วจึงเดินตามชายหนุ่มไปใกล้ ๆ

   “ท่านธามแน่ใจนะครับ...ผมคิดว่าทางนั้นคงคัดมาแต่พวกเขี้ยวลากดินเท่านั้นเป็นแน่”

   “ช่วยไม่ได้ มาถึงที่นี่แล้ว ฉันไม่ยอมกลับไปมือเปล่าหรอก”

   ธามบอกเรียบ ๆ ทำให้ชาครถอนหายใจเบา ๆ

   “ถ้าเช่นนั้น ผมจะเป็นโล่ให้ท่านเองครับ”

   ธามมองลูกน้องคนสนิทของเขา แล้วจึงยิ้มน้อย ๆ อย่างอ่อนโยนส่งให้

   “ขอบใจ...แต่อย่าลืมล่ะว่า เจ้านายคนนี้ของนายเชี่ยวชาญเรื่องอะไรเป็นพิเศษ...อีกอย่างขืนนายบาดเจ็บกลับไป ระวังจะโดนคนที่รออยู่บ้านโน้นแก้เผ็ดเอาคืนเข้าให้นะ”

   ชาครชะงัก ก่อนจะยิ้มตอบ พลางแสร้งทำเป็นสั่นศีรษะน้อย ๆ คล้ายระอา จากนั้นชายหนุ่มจึงเอ่ยตามมา

   “ถ้าแบบนั้นก็คงแย่ล่ะครับ...เอาเถอะครับ ผมจะดูแลตัวเองและดูแลท่านไม่ให้บาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่ ...ถึงแม้มันจะค่อนข้างยากเย็นไปสักนิดก็เถอะครับ”

   ธามยิ้มตอบ แล้วตบบ่าคนสนิทเบา ๆ

   “นั่นล่ะที่ฉันอยากให้เป็น...”

   นายบ่าวทั้งสองต่างยิ้มให้กัน แล้วจึงเดินตามนายหญิงแห่งตระกูลวงศ์หริโณไปเงียบ ๆ ทว่าถ้อยคำสนทนาของทั้งคู่ ก็ล้วนเข้าหูหญิงชราจนหมดสิ้น

   

   ลานหญ้ากว้างเบื้องหน้า บัดนี้มีชายฉกรรจ์สิบนายยืนเรียงหน้าอยู่ แต่ละคนมองปราดเดียวก็รู้ว่าแข็งแรง และค่อนข้างมีฝีมืออยู่มาก

   “จะเริ่มกันหรือยัง ...หรือถ้าอยากจะถอนตัวจากการทดสอบ ก็บอกกันได้ทุกเมื่อ”

   ปาลินีหันไปถามธาม ซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มน้อย ๆ พร้อมกับดัดมือไปมา

   “ได้ทุกเมื่อครับ ...คนของท่านพร้อมเมื่อไหร่ ทางพวกผมก็พร้อมเมื่อนั้น”

   หญิงชรามองท่าทางเชื่อมั่นนั่นชั่วครู่ แล้วจึงเอ่ยตอบ

   “ดี! ถ้าเช่นนั้น ก็เริ่มการทดสอบได้ ...พวกเจ้าจงแสดงฝีมือของนักรบมโคให้เต็มที่ อย่าให้ขายหน้าได้เชียวนะ!”

   ปาลินีบอกกับคนของเธอ แล้วให้ข้ารับใช้ข้างกายเริ่มจับเวลา ทางด้านธามและชาคร ค่อย ๆ เดินไปเผชิญหน้ากับผู้คนกลุ่มนั้น ต่างฝ่ายต่างจ้องหน้ากันอยู่ชั่วครู่ และเมื่อมโคตนหนึ่งขยับกาย การเปลี่ยนร่างเพื่อพร้อมต่อสู้จึงเริ่มต้นขึ้นทันที!



    พิชญ์ขับรถพาวิรัลมาถึงที่ตั้งถิ่นฐานเดิมของตระกูลวงศ์หริโณในเวลาอันไม่นาน ชายหนุ่มขับรถเร็วเสียจนเกือบจะหวุดหวิดชนกับรถคันอื่นเสียหลายครั้ง โชคดีที่เป็นตอนดึกแล้ว จึงทำให้มีรถน้อยกว่าตอนกลางวันเป็นเท่าตัวนัก

   และเมื่อมาถึง ทั้งคู่ก็ตรงไปหาปาลินีทันที แต่ถูกคนเฝ้าประตูเรือนขวางไว้ และรายงานว่าอีกฝ่ายหลับไปแล้ว

   “ท่านย่าหลับ?  แล้วก่อนหน้านั้นมีใครต่างเผ่าแวะมาหาท่านย่าหรือเปล่า”

   คนฟังชะงักเล็กน้อย เบือนหน้าหลบสายตา แล้วจึงอ้อมแอ้มตอบ

   “ไม่มีใครนี่คะ ...”

   “...อย่างนั้นหรือ แต่เธอคงรู้ใช่ไหม ว่ามโคที่กล้าโกหกต่อหัวหน้าเผ่าของตน หากถูกจับได้ บทลงโทษที่ได้รับนั้นจะคืออะไร!”

   พิชญ์เอ่ยขู่ เพราะอีกฝ่ายมีพิรุธให้เขาสังเกต หญิงสาวผู้นั้นสะดุ้งเฮือก ตัวสั่นเทา แล้วเอ่ยตะกุกตะกักตอบอย่างน่าสงสาร

   “ดิฉัน...คือ ....ดิฉัน...ไม่...”

   “ไม่อะไร! ไม่รู้อีกอย่างนั้นหรือ แน่ใจนะ ว่าจะพูดแบบนั้นอีก!”

   พิชญ์ข่มขู่ แล้วหันไปขยิบตาให้วิรัลปั้นหน้าขึงขังเอาไว้ ทำให้หญิงสาวผู้นั้นกลัวลนลาน ทว่ายังไม่ทันสารภาพความจริง เสียงกระแอมจากใครบางคนบนเรือนก็ดังขึ้นเสียก่อน

   “เท่าที่จำได้ ฉันว่าฉันยังไม่มอบตำแหน่งผู้นำเผ่าให้วิรัลสืบทอดต่อ จนสามารถนำไปใช้ข่มขู่ลงโทษคนในเผ่าได้เลยนะ ...ใช่ไหม พิชญ์”

   พิชญ์กับวิรัลสะดุ้ง แล้วหันขวับไปทางต้นเสียง วิรัลเม้มปากแน่น แล้วรีบตรงขึ้นเรือนไปหาผู้เป็นย่าทันที

   “ท่านย่าครับ! เขาอยู่ไหน! ท่านย่าทำอะไรเขาหรือเปล่า!”

   ปาลินีมองท่าทางร้อนรนของหลานชาย แล้วก็เงียบเฉย ก่อนจะหันไปทางพิชญ์ที่เดินขึ้นเรือนมาช้า ๆ และมาหยุดอยู่ข้าง ๆ วิรัล พร้อมกับโค้งทำความเคารพต่อหล่อน

   “มาไวจริงนะ... รู้ได้อย่างไรล่ะว่าเป็นที่นี่ สองคนนั่นส่งข่าวไปบอกอย่างนั้นหรือ”

   พิชญ์ชะงัก ทว่ายังไม่ทันตอบ วิรัลก็แทรกขัดขึ้นมาก่อนอย่างตกใจ

   “สองคนนั้นอยู่ที่นี่จริง ๆ หรือครับ!”

   ปาลินีเบือนหน้ากลับมามองผู้เป็นหลานชาย แล้วจึงเอ่ยขึ้นช้า ๆ

   “ถ้าย่าบอกว่าพวกนั้นอยู่ที่นี่จริง  แล้วหลานจะทำอย่างไรต่อไปล่ะ”

   วิรัลชะงักกึก แล้วจึงเอ่ยถามออกไปอย่างไม่มั่นใจนัก

   “ท่านย่าทำอะไรกับพวกเขาหรือเปล่าครับ”

หญิงชรายกยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงย้อนถามกลับไป

“แล้วถ้าย่าทำล่ะ หลานจะทำอะไรกับย่าอย่างนั้นหรือ”

วิรัลชะงักกึก เขาหลบสายตาผู้เป็นย่าชั่วครู่ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ

“ผมไม่มีวันคิดร้ายหรือทำร้ายท่านย่าได้หรอกครับ  เพียงแต่...”

เด็กหนุ่มเว้นวรรคเล็กน้อย แววตาที่จ้องมองหญิงชราก็กลับพลันเป็นเข้มแข็งจริงจัง อย่างยากที่ผู้เป็นย่าจะเคยได้เห็น

    “ถ้าไม่มีคุณธามอยู่บนโลกนี้อีกแล้ว... ก็จะไม่มีผมอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน” 

    “ท่านวิรัล!” พิชญ์โพล่งขัดขึ้นอย่างตกใจ แม้แต่ปาลินีเองก็ชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เน้นหนักขึ้น

    “หลานขู่ย่าหรือ”

    วิรัลจ้องตอบ แม้ว่าแต่แรกเขาจะรู้สึกกลัวในการเผชิญหน้า ต่อผู้เป็นย่าที่แสนเข้มงวดมากเพียงใด แต่ความเป็นห่วงในตัวธามมันมากกว่าหลายเท่านัก และกลบความกลัวของเขาก่อนหน้านั้นจนแทบหมดสิ้น

     “ผมไม่เคยคิดขู่ท่านย่าครับ แต่สิ่งที่ผมพูดมานั้น ผมจะทำจริง ๆ” 

   หญิงชราเงียบไปสักพัก แววตาของหลานชายของเธอยังคงไม่สั่นคลอนหรือหวั่นไหวใด ๆ ให้เห็น  เสียงลมหายใจผ่อนยาวแผ่วเบา จากนั้นน้ำเสียงราบเรียบจึงเอ่ยย้อนถามกลับไปอีกครั้ง

    “แล้วถ้าย่าบอกว่าจะตัดความสัมพันธ์ย่าหลานกัน  หากหลานยังคงเลือกเขาล่ะ”

   วิรัลชะงักเช่นเดียวกับพิชญ์ เพราะดูเหมือนว่าเรื่องมันจะลุกลามใหญ่โต เกินกว่าที่พวกเขาเคยคาดคิดไว้เสียแล้ว ทว่าสำหรับวิรัลยามนี้ คำตอบเฉพาะหน้าของเขา ก็ยังคงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

    “...หากท่านย่าต้องการเช่นนั้นจริง ผมก็คงไม่มีทางเลือก...สำหรับผมนั้น ไม่ว่าท่านย่าจะตัดสินใจเช่นไร ท่านย่าก็คือคนที่ผมจะให้ความเคารพนับถือไปตลอดชีวิต”

    ปาลินีจ้องมองหลานชายนิ่ง เพราะคำพูดแฝงความนัยนั้น มันแสดงถึงทางที่วิรัลเลือกเป็นอย่างดี

   “หลานเลือกเขามากกว่าสินะ” 

   วิรัลฝืนยิ้ม แล้วจึงเอ่ยความในใจอันแท้จริงของเขาให้ผู้เป็นย่าได้รับรู้

    “ผมอยากเลือกทั้งสองฝ่าย ...แต่ถ้าท่านย่าไม่อาจจะยอมรับความรักของพวกเราได้ ...ผมก็จำต้องเลือกเพียงหนึ่งเท่านั้น” 

    วิรัลหยุดจ้องหน้าหญิงชราสักครู่ แล้วจึงเอ่ยต่อตามมา

   “ท่านย่าแม้จะขาดผม แต่ก็ยังมีญาติพี่น้องและบริวารอีกมากมาย ...แต่คุณธามไม่มีใครอีกแล้ว เขาต้องกลายเป็นกบฏของเผ่าวกะ ก็เพราะเขารักผม และเลือกผม ...เพราะฉะนั้นผมจะตอบแทนความรักของเขา โดยการอยู่เคียงข้างเขาไปตลอดชีวิตที่เหลือนี้ครับ”   

    ปาลินียังคงจับจ้องมองตาหลานชาย ตลอดเวลาที่อีกฝ่ายสนทนากับเธอ และเมื่อวิรัลพูดจบ หญิงชราก็เบือนหน้าหนี แล้วหันหลังให้

    “ถ้าหลานเลือกเช่นนี้ ย่าก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก” 

   วิรัลใจหายวูบ ก่อนจะพยายามตั้งสติให้เข้มแข็ง แล้วถามอีกฝ่ายกลับไป

    “แล้วคุณธาม...”

       ปาลินีไม่ตอบ แต่กลับเรียกคนรับใช้ให้พาวิรัลไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง แต่พอพิชญ์จะตามไปด้วย หญิงชราก็รั้งเขาเอาไว้เสียก่อน

     “ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ...พิชญ์”   

   พิชญ์ชะงัก ชายหนุ่มเหลือบมองวิรัลอย่างเป็นห่วง แต่พอเห็นวิรัลยิ้มน้อย ๆ แล้วพยักหน้ายืนยันว่าเขาดูแลตัวเองได้ พิชญ์จึงหันมาทางหญิงชรา พร้อมกับพยักหน้าตอบรับคำ

    “ได้ครับท่าน...”   



… TBC …


อ่านมาได้ 18 ตอนแล้ว มีใครคิดว่าน่าจะเปลี่ยนชื่อให้เข้ากับเนื้อเรื่องมากกว่านี้มั่งเอ่ย ลองช่วยแนะนำชื่อมาให้หน่อยก็ดีนะคะ พอดีตอนที่คิดเขียนแต่แรก ตั้งใจจะเขียนเป็น แนวจำเลยรัก  แต่ไป ๆ มา ๆ มันเปลี่ยนแนวได้เองเสียอย่างนั้น ชื่อเรื่องกับแนวมันก็เลยไม่ค่อยตรงกันเท่าไหน่นั่นเอง --...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-01-2013 16:40:20 โดย Xenon »

ออฟไลน์ anuruk97

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-4
เอาใจสู้นะค่ะ.....ทั้งวิรัสและทาม..เชื่อว่าความรักของทั้ง 2 จะผ่านไปได้

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
บททดสอบของท่านย่าก็โหดเอาการเหมือนกัน ตั้งหนึ่งชั่วโมงเลย
แต่ถ้าแพ้ก็ไม่ใช่ท่านธามที่ได้หัวใจของท่านวิรัลไปใช่มั้ย ><
คงจะไม่เป็นอะไรมากทั้งเจ้านายทั้งผู้ติดตามนะ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
สู้ๆนะธาม ต้องผ่านบททดสอบนี้ให้ได้นะ ท่านย่าน่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ CheetahYG

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
ธามกับวิรัลสู้ๆนะ เค้าคอยเป็นกำลังใจให้  :a2:

คนเเต่งค๊า ขอบคุณมั่กๆค่าที่มาต่อไห้ รักมว๊ากๆ จุ๊บุ จุ๊บุ :impress2: :impress2:

gngane

  • บุคคลทั่วไป
ชื่อเรื่องมันขัดกับเเนวเรื่องจริงๆเเหละคะเเต่ก็ชอบบะ เถื่อนดี :-[

ท่านธามสู้ๆนะคะ เราว่าท่านย่าจะเปิดทางให้เเหละ 

ออฟไลน์ ReiiHarem

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-3
เอาเป็ดมาฝากค่ะ ^^

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
เอาใจช่วยธาม ให้ผ่านการทดสอบ

แหมมันก็ต้องมีอุปสรรคกันบ้างนะ

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
เชื่อว่าท่านย่าไม่ใจร้ายขนาดนั้น


แต่คำพูดของน้องรัล ซึ้งมากเลย

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
ธามสู้ๆๆๆ

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
ปฏิญาณรักสองเผ่าพันธ์ ไม่รู้จะเกี่ยวกันรึเปล่า แต่เนื้อเรื่องมันเหมือนการฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อจะได้ความรักครั้งนี้มาอยู่กับตน มันน่าจะเป็นอะไรที่นิรันด์ดีนะผมว่า แต่ไม่รู้ชื่อไหนถึงจะเหมาะกับเรื่อง

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
จริงๆถ้าเป็นแนวจำเลยรักก็คงสนุกไปอีกแบบ  :z1:
ปล.น่าวิรัลแอบเข้มอ่ะ

ออฟไลน์ KhunToOk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-4
 :-[ :-[  ขอบคุณมากค่ะคนเขียน อ่านหลายตอนรวดเลย อิอิ

ขอให้ผ่านด่านคุณย่าไปได้ด้วยดี

รออ่านตอนหวานๆอีกนะคะ

เป็นกำลังใจให้คนเขียนเช่นเดิมจ้า

ออฟไลน์ sosi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ขอบคุณคนเขียนที่เขียนเรื่องใหม่ ๆ และสนุกให้อ่าน  :L2: :L2: :L2: :L1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด